ททท.ติดอาวุธใหม่ท่องเที่ยวช่วยธุรกิจรอเปิดประเทศปลายปี5โปรเจ็กต์ โหม“SHA AWARD-แฮปปี้พาราไดซ์-Staycation-ไทยแลนด์ซูเปอร์ดีล”

 ททท.ติดอาวุธใหม่ท่องเที่ยวช่วยธุรกิจรอเปิดประเทศปลายปี5โปรเจ็กต์

โหม“SHA AWARD-แฮปปี้พาราไดซ์-Staycation-ไทยแลนด์ซูเปอร์ดีล”

คิงเพาเวอร์”มอบเงินThailandSmilesให้นายกฯ25ล้านช่วยแก้โควิด-19

คิงเพาเวอร์โหม “Call to Shop” ง่ายคุ้มไวบริการโทรหาผู้ช่วยเลือกช้อป

คิงเพาเวอร์ขยายโปรโมชั่น7.7 Makes My Deal ลดสูงสุด45%

นายกฯประยุทธ์ปลื้มภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์-สั่งหนุนททท.ใช้7+7เพิ่มรายได้

ททท.แจกThe Best of SHAชวนทั่วไทยลุ้นรับล้านโหวตบริการ10ธุรกิจ

“TCEB”จับตาไมซ์เอเชีย-พิษณุโลกลุ้นเจ้าภาพ L’Etape/ใต้ชู2งานใหญ่

“กระบี่”เปิดเมืองชวนไปอะเมซิ่งท่องเที่ยวทะเลวิถีใหม่“เกาะพีพี-ไหง-ไร่เลย์”

4การกิน!!ต้องร่วมช่วยกันทำด่วนเพื่อช่วยกันลดโลกร้อนยุคโลกกำลังวิกฤต

“ไทยแอร์เอเชีย”ขยายสิทธิ์ให้ผู้โดยสารใช้ตั๋วบินรัวๆทั่วไทยไปจนถึงมี.ค.65

“นกแอร์”หันใช้สนามบินอู่ตะเภาเลี่ยงพื้นที่สีแดงบินปกติในประเทศ6เส้นทาง

 

ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #TAT  #PhuketSandbox #SamuiPlus #TheBestofShaAward2021 #ThailandSuperDeal  

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1679364572257594&id=100005522016696

 

ช่วงที่ 1 “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท. )ประกาศเตรียมใช้อาวุธชุดใหญ่อัดฉีดโค้งสุดท้ายปลายปี’64 พยุงท่องเที่ยวทั้งประเทศรอดไปด้วยกันกับ 5 โปรเจ็กต์ “SHA PLUS” โหมจัด “คัลเลอร์ ฟูล” พื้นที่แซนด์บ็อกซ์ 4 เกาะ ภูเก็ต สมุย กระบี่ พังงา ปลุก “Workation Staycation” เลือกใช้พื้นที่ปลอดภัยเที่ยวพร้อมทำงาน ชูโปรเจ็กต์ “Happy Paradise Thailand” รมว.พิพัฒน์พรีเซนเตอร์ลุยทดลองทำกิจกรรมความสุข 26 ก.ค.-8 ส.ค.64 เตรียมเผยแพร่คลิปทั่วโลก และ ทุ่มงบจัด “Thailand Super Deal” ระดมสินค้าท่องเที่ยวทุกหมวดกระหน่ำขายอี-โวเชอร์ ด้วยสิทธิประโยชน์สุดล้ำซื้อก่อนใช้ทีหลังได้ยาวต่อเนื่องถึง 2 ปี ระหว่างปลายปี64-สิ้นปี’65

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เดินหน้าโครงการหลัก ๆ ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตั้งแต่กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จะเร่งทำเพิ่มอีก 5 โครงการใหม่ เพื่อทำทุกช่องทางช่วยให้ผู้ประกอบการทั่วประเทศเดินหน้าต่อไปได้

โครงการที่ 1 “SHA : Amazing Thailand Safety and Health Administration” ที่จะเป็นอาวุธลับสำคัญของการท่องเที่ยววิถีใหม่ต้อนรับ “การเปิดประเทศใน 120 วันข้างหน้า” เพื่อจะทำให้ทุกคนยังไปต่อได้ระหว่างและหลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ภายใต้ตราสัญลักษณ์การสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทุกคนที่จะเลือกใช้ สถานประกอบการ แหล่งท่องเที่ยว และบริการอื่น ๆ อย่างปลอดภัยด้านสุขอนามัย ทำให้นักท่องเที่ยวได้ชินไปกับ SHA ของประเทศไทย

 

เนื่องจากธุรกิจที่ผ่านมาตรฐานจนสามารถได้รับตราสัญลักษณ์ SHA เรียบร้อยแล้ว สามารถปฏิบัติตามกติกาทุกข้ออย่างเคร่งครัด ขณะนี้ ททท.จึงเร่งต่อยอดไปสู่ SHA PLUS โดยนำร่องใช้กับ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ :Phuket Sandbox” นอกจากธุรกิจที่เข้าร่วมจะปฏิบัติตามเซ็ตที่กำหนดอย่างเคร่งครัดแล้ว “ผู้ให้บริการ” ทุกคนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนไม่ต่ำกว่า 70 % เป็นการสร้างเกราะป้องกันให้ทุกฝ่ายถึง 2 ชั้นด้วยกัน

ตอนนี้ SHA PLUS ประสบความสำเร็จในภูเก็ตอย่างรวดเร็ว โดนใจผู้ประกอบการท่องเที่ยวทุกธุรกิจมากขึ้น จึงพากันหันมาเข้ามาตรฐาน SHA PLUS โดยภาพรวมภายใน 1 ปีมีธุรกิจเข้าร่วมจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 100 % หรือประมาณ 13,000 แห่ง เพราะทุกจังหวัดต่างก็ให้ความสำคัญ เช่นเดียวกับจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมแล้วกว่า 890 แห่ง

ตามมาด้วยพื้นที่เตรียมเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่กักตัว 14 วัน ต่อจากภูเก็ตและสมุยพลัส คือ กระบี่ เข้าร่วม SHA PLUS แล้ว 131 แห่ง พังงา 78 แห่ง สมุย/สุราษฎร์ธานี 160 แห่ง

อีกทั้งยังได้ต่อยอดทำกิจกรรมใหม่ล่าสุดจัดประกวด The Best of SHA Awards 2021 เปิดให้พันธมิตรหลัก คือ “กลุ่มธุรกิจ 10ประเภท”  ที่มีตราสัญลักษณ์ SHA แล้วปฏิบัติตัวให้บริการเป็นอย่างดีจึงสมควรได้รับรางวัลตอบแทน จากการที่นักท่องเที่ยวหรือผู้ใช้บริการเป็นผู้ให้คะแนนสถานประกอบการแต่ละแห่ง แยกการให้คะแนนในลักษณะคล้ายมิชลิน มีตั้งแต่ 1-2-3 ดาว แต่ละประเภทกิจการ สามารถเข้าไปโหวตได้จนถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2564

ระหว่างสถานการณ์ประเทศยังมีล็อกดาวน์พื้นที่สีแดงเข้มหลายจังหวัด หรือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังรุนแรงจนไม่สามารถเปิดสถานประกอบการได้ ก็จะให้สิทธิ์เผยแพร่ข้อมูลรูปแบบบริการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยผ่านออนไลน์ โซเชียลมีเดีย แล้วให้ผู้ที่เคยใช้บริการเข้าไปโหวตในช่องทางเดียวกันได้ด้วย ตอนนี้สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ทางเว็บไซต์ www.thailandsha.com

เป้าหมายต่อยอดโครงการ The Best of SHA Award 2021 เพื่อ 1.สร้างความเชื่อมั่นดผ่านการรับรู้สู่สาธารณะ 2.ททท.จะนำธุรกิจที่ได้ SHA และ The Best of SHA ไปช่วยทำการตลาดอย่างเต็มที่ในเวทีโลกผ่านทาง ททท.ทั่วโลก 29 แห่ง และภายในประเทศอีก 44 แห่ง 3.จะให้สิทธิลำดับต้น ๆ ก่อนกับธุรกิจที่ได้มาตรฐาน SHA เพื่อนำเสนอขายกับนักท่องเที่ยวทั่วโลก

 

โครงการที่ 2 “การจัดทัพสินค้าเพื่อเพิ่มรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ” ที่เดินทางเข้าสู่การเปิดประเทศในแซนด์บ็อกซ์  โดยทำงานร่วมกับ ททท.สำนักงานต่างประเทศ นำนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการแต่ละพื้นที่ จับมือกับ ททท.ในประเทศ เตรียมสินค้าพร้อมขาย หลัก ๆ ใน “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เบื้องต้นคัดเลือกสินค้าคุณภาพไว้ 4 หมวด ประกอบด้วย

 

หมวดที่ 1 การท่องเที่ยววัฒนธรรม หมวดที่ 2 การท่องเที่ยวเส้นทางวิถีอาหาร  (Gastronomy) และภูมิปัญญา (Thai Wisdom)  หมวดที่ 3 การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ไฮไลต์ หมวดที่ 4  การท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเที่ยวทะเลภาคใต้ จึงได้จัดให้มีทุกกิจกรรม โดยได้หารือร่วมกันเรียบร้อยแล้ว ระหว่าง ผู้ว่าการ และฝ่ายบริหาร ททท. กับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต สุราษฎร์ธานี พร้อมเดินหน้าตามนโยบาย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ย้ำเน้นมาตลอด ให้นำเสนอขาย “สินค้าท่องเที่ยวคุณภาพ” ตอบโจทย์ความยั่งยืน ตอบโจทย์การท่องเที่ยวสีขาว

 

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า  ททท.จึงลงพื้นที่ร่วมพัฒนาและประชาสัมพันธ์สถานที่และกิจกรรมการท่องเที่ยว เน้นตอบโจทย์หลัก BCG ประกอบด้วย เศรษฐกิจชีวภาพ : Bio -Circular Green Economy เศรษฐกิจมุ่งสู่ความยั่งยืน ในส่วนของกิจกรรมเปิดเรียบร้อยแล้วคือ “Colorfull Phuket” ตั้งแต่ 3-31 กรกฎาคม 2564 มีทั้งตกแต่งแสงสี ประดับไฟ การบอกเล่าเรื่องราว โดยใช้วัสดุชุมชน อาหารถิ่น วิถีชีวิต มาเป็นจุดขาย ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีมาก

 

ขณะนี้เตรียมต่อยอดจัดงาน Colorfull อีก 3 พื้นที่ เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2564 ประกอบด้วย พื้นที่แรก “Colorfull Samui” เน้นจัดใน 3 เกาะ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ซึ่งประชากรในพื้นที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเกิน 70 % พื้นที่ที่ 2 “Colorfull Krabi” เน้นจัดใน 3 เกาะ คือ เกาะพีพี เกาะไหง เกาะไร่เล พื้นที่ที่ 3 “Colorfull พังงา” เน้นจัดใน 3 แห่ง คือ เขาหลัก เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่

 

เหตุผลการเริ่มต่อยอดจัด Colorfull พื้นที่ต่อเนื่องช่วงตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมนี้ เพราะกำลังจะมีมหกรรมใหญ่ของโลกการจัดแข่งขันโอลิมปิก ที่กรุงโตเกียว ททท.จึงคิดสร้างสรรค์จัดกิจกรรมสันทนาการโดยใช้พื้นที่บริเวณชายหาดตั้งจอขนาดใหญ่ให้นักท่องเที่ยวได้ชมถ่ายทอดการแข่งขันกีฬายอดนิยม ตอบสนองความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงกีฬา หรือ Sport Tourism ควบคู่ไปด้วย

 

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า กิจกรรม Colorfull แต่ละแห่ง เปิดต้อนรับทั้งนักท่องเที่ยวต่างประเทศ และคนไทย หรือยินดีต้อนรับทุกคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว 2 เข็ม ก็เดินทางเข้าพื้นที่ท่องเที่ยวดังกล่าวได้ ภายใต้ข้อกำหนดของแต่ละจังหวัด เช่น นักท่องเที่ยวในประเทศเดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มมีพบการติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก ก็อาจจะต้องลงทะเบียนกรอกเอกสารเข้าพื้นที่ตามระเบียบ

 

โครงการที่ 3 Workation & Staycation เป็นสินค้าเทรนด์ใหม่มาแรง ที่จะนำมากระตุ้นให้คนที่สามารถอยู่ที่ไหนก็ทำงานไปด้วยได้ เป็นโครงการที่ต้องการเน้นสร้างสมดุลระหว่าง “ความสุขกับการทำงาน” เพื่อช่วยผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่กำลังเดือดร้อน แต่จะต้องดูตามสถานการณ์จริง เช่น ตอนนี้เกิดกรณีไม่สามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ ก็จะแนะนำให้คนในพื้นที่ใกล้เคียงมาใช้บริการ หรือคนอยู่ในพื้นที่เสี่ยงแล้วสนใจจะมาพักยาว ๆ ก็ทำได้

 

เพราะเมื่อคนมีความสุขกับการทำงาน ขณะเดียวกันก็ยังได้ช่วยผู้ประกอบการได้ด้วย ก็เหมือนกับเมื่อช่วงต้นปี ททท.ทำโครงการ Work from anywhere ภายในเวลาเพียง 2 เดือน สามารถช่วยผู้ประกอบการมีรายได้กว่า 100 ล้านบาท ขณะนั้นได้ใช้กลยุทธ์ “ขายห้องพักยกล็อต” ให้กับกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ ภาครัฐ ภาคเอกชน หรือคอร์ปอเรต จึงประยุกต์ใช้กลยุทธ์ทำต่อเนื่องเป็น Workation Staycation

 

สำหรับการสร้างรายได้เข้าไปช่วยผู้ประกอบการ ททท.ก็จะทำงานใกล้ชิดกับสถานประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร วางกลยุทธ์การขาย อาจจะเป็น 7 วัน 14 วัน หรือขายยกล็อต เหมือนที่เคยทำแล้วประสบความสำเร็จ เพื่อให้เกิดการซื้อขายเหมาล็อตขนาดใหญ่

โครงการที่ 4 Happy Paradise Thailand เตรียมเปลี่ยน ภูเก็ต สมุย/สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา ซึ่งเป็นโซนแรกๆ ของการเปิดประเทศไทย โดยจะนำร่องทำที่ภูเก็ตเป็นพื้นที่แรก โดยประเมินจากความสำเร็จของการทำ Happy Qurantine 14 วัน ช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเข้ามากักตัวทั้ง ALQ และ SAQ มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ดู และมีของจากชุมชนมาทำ D.I.Y.

โดยมี “นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะลงพื้นที่ทำกิจกรรม กิจกรรม Happy Paradise Thailand เป็นคนแรกด้วยตนเอง หลังจากเดินทางกลับมาจากการเข้าร่วมเปิดกีฬาโอลิมปิก ตั้งแต่วันที่ 26-27-28 กรกฎาคม - 8 สิงหาคม 2564 ททท.จัดทีมตามเก็บรายละเอียดกิจกรรมของรัฐมนตรีพิพัฒน์ว่าทำอะไรบ้างในภูเก็ต จากนั้นก็จะนำไปเสนอให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้ชมคลิป VDO ถึงมุมมองใหม่ ๆ การทำกิจกรรมท่องเที่ยวภูเก็ต ซึ่งจะมีมากกว่าการลงไปเล่นน้ำทะเลบริเวณชายหาด

 โครงการที่ 5 กำลังพิจารณาทำ Thailand Super Deal ไฮไลต์สำคัญคือ ซื้อก่อนแล้วใช้บริการทีหลัง มีอายุการใช้งานยาวถึง 2 ปี ระหว่างปี 2564-2565 ททท.จะระดมสินค้าท่องเที่ยวเพื่อทำโปรโมชั่นแรง ๆ ผ่านช่องทางตลาดนัดออนไลน์ หรือ E-Marketplace ขายในรูปแบบบัตรกำนัลออนไลน์ หรือ E-Voucher ห้องพัก แพกเกจท่องเที่ยว และกิจกรรมอื่น ๆ ให้โดนใจนักท่องเที่ยว 

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า ตั้งเป้าหมายการนำงบประมาณปลายปี 2564 มูลค่าไม่ได้สูงมาก แต่จะเน้นระดมผู้ประกอบการนำสินค้าที่มีมาทำโปรโมชั่นการขายดีลราคาพิเศษมาก ๆ โดยขยายเวลาการใช้งานให้แตกต่างจากปกติ เดิมอาจจะทำภายใน 3-5 เดือน แต่ครั้งนี้ต้องทำเป็นกรณีพิเศษขยายเวลาให้สิทธินักท่องเที่ยวถือเก็บไว้ใช้ได้นานถึง 2 ปี

ในอดีต ททท.เคยทำ Thailand Super Deal ช่วงเหตุการณ์สึนามิภาคใต้ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ครั้งนี้จะนำประสบการณ์ที่ผ่านมาทำอีกครั้งเพื่อสร้างตอบโจทย์ บวกกับสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวได้ใช้สิทธิประโยชน์ต่อเนื่องยาว ๆ 2 ปี เพราะปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาติมีความต้องการมาเที่ยวเมืองไทย แต่ยังขาดความมั่นใจเรื่องมาตรฐานข้อกำหนด กฎ กติกา ต่าง ๆ อาจเป็นอุปสรรคในการเดินทางเข้ามาพักผ่อน

ทางออกที่ดีในการสร้างความเชื่อมั่นกับนักท่องเที่ยวนำเงินมาซื้อ Thailand Super Deal ก็คือ “ระยะเวลาการใช้สิทธิประโยชน์” จากสินค้าที่ซื้อเก็บไว้ได้นานวัน สามารถสร้างยอดขายได้จริง

 

“สิทธิประโยชน์” หลัก ๆ ของ Thailand Super Deal 1.ราคาต้องดี 2.คุณภาพสินค้าจะต้องได้มาตรฐานสากล 3.สิทธิพิเศษหรือ Privillage ต่างๆ ต้องได้ครบ 4.การยืดหยุ่นใช้อีโวเชอร์ต้องเปิดเงื่อนไขกว้างมากที่สุด

“ช่องทางการซื้อขาย” ททท.จะใช้แพลตฟอร์ม E Marketplace ที่มีอยู่ปัจจุบันจัดทำเว็บท่า เชื่อมต่อเข้ากับเว็บไซต์ของ ททท.สำนักงานต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งมีฐานลูกค้าแสดงความต้องการใช้บริการอยู่แล้ว เนื่องจากมีความสัมพันธ์กับเว็บมาสเตอร์ตัวแทนขายรายใหญ่อยู่หลายแบรนด์ กำลังเริ่มหารือกันว่าจะเริ่มจากเว็บใดก่อน

“ลูกค้าเป้าหมาย” จะเน้นกระจายการขาย E voucher ทั้งตลาดในประเทศและนานาชาติ แต่จะต้องคัดแยกสินค้าให้สอดคล้องตามความสนใจของลูกค้า ตัวอย่าง ตลาดต่างประเทศ อาจจะต้องมีเงื่อนไขแบบหนึ่ง ส่วนในประเทศก็ทำมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่รัฐบาลสนับสนุน

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า ในสถานการณ์โควิด-19 ยังคงระบาดต่อเนื่อง การส่งกำลังใจเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยเหลือกันได้หากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อก็ขอให้ร่วมด้วยช่วยกันซื้อ บัตรห้องพัก บัตรอาหาร ไว้ก่อน แล้วเมื่อเหตุการณ์กลับสู่ปกติก็นำไปใช้บริการ

ส่วนภาครัฐอย่าง ททท.ก็สนับสนุนเพิ่มด้านหลัก เช่น 1.การเสริมทักษะความรู้ทั้งการช่วยพนักงานตามสถานประกอบการท่องเที่ยวทำ Re-Up Skill อบรมการปรับปรุงพัฒนาทักษะต่าง ๆ ตลอด 2.การอบรมเตรียมความพร้อมเข้าสู่มาตรฐาน SHA เพื่อให้เข้าถึง เพราะมีหลายธุรกิจยังขาดคุณสมบัติ ก็สามารถให้ ททท.ทั่วประเทศ 44 แห่ง เข้าไปช่วยแนะนำ บูรณาการทำงานร่วมกับสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด (กทจ.) ก็ได้เข้าไปช่วยสถานประกอบการทำมาตรฐาน SHA เสริมทัพอีกทางด้วย

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์”มอบเงินThailandSmilesให้นายกฯ25ล้านช่วยแก้โควิด-19

นางสาวอรุณรุ่ง ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำคณะผู้บริหาร เข้าพบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) เพื่อมอบสิ่งของและเงินบริจาคจำนวน 25 ล้านบาท เพื่อนำไปสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมี นายอุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ร่วมอยู่ด้วยด้วย

โดยนายกรัฐมนตรีรับมอบเงินจากคณะผู้บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ซึ่งเป็นรายได้โดยไม่หักค่าใช้จ่ายจากการจำหน่ายเสื้อสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ ภายใต้โครงการ “THAILAND SMILES WITH YOU” 25,000,000 บาท โดยแบ่งเงินสนับสนุนตามวัตถุประสงค์ 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาล 20 ล้านบาท และ 2.โครงการพัฒนาวัคซีนของมูลนิธิรามาธิบดีฯ  5 ล้านบาท

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในนามของรัฐบาล คณะรัฐมนตรี ศบค. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอบคุณคณะผู้บริหารคิง เพาเวอร์ และขอยืนยันจะนำเงินที่ได้รับมอบดังกล่าวไปให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด รวมถึงนำไปใช้ประโยชน์กับบุคคลการทางการแพทย์ อุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ และ อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการแก้ไขปัญหาแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไปด้วย

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์โหมCall to Shopง่ายคุ้มไวบริการโทรหาผู้ช่วยเลือกช้อป

กลุ่มคิง เพาเวอร์ จึงได้จัดทัพให้บริการช้อปปิ้งวิถีใหม่เสริมบริการใหม่ล่าสุด ‘King Power Call to Shop ช้อปง่าย ช้อปคุ้ม ส่งไว’ โหมโปรโมชั่นช้อปออนไลน์ตลอดเดือนกรกฎาคม 2564 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการสินค้าภายในร้านค้าปลอดอากรของ คิง เพาเวอร์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘กริ๊งเดียวครบ จบทุกการช้อป’ลูกค้านั่งอยู่บ้านรอรับสินค้าได้ภายใน 7 วัน เพียงโทรศัพท์สอบถามรายละเอียดสินค้าจาก “ผู้ช่วยช้อป” ได้ที่ 0 2 338 7870 พร้อมบริการทุกวันตั้งแต่ 09.00 – 21.00 น. หรืออินบอกซ์ มาที่ Facebook King Power

พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ หมวดสินค้า น้ำหอมและเครื่องสำอาง ลดสูงสุด 10 % หรือเมื่อลงทะเบียนก่อนช้อป รับทันทีคูปองส่วนลด 2 ใบ จำกัด 1 สิทธิ์ / คน / วัน  ดังนี้

1.คูปองส่วนลด 2,000 บาท เมื่อซื้อสินค้าตั้งแต่ 8,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ

2.คูปองส่วนลด 4,500 บาท เมื่อซื้อสินค้าตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ

ยังให้ความคุ้มค่ามากขึ้นเมื่อซื้อ Cash Card มูลค่า 20,000 บาท รับ Gift Card มูลค่า 2,500 บาท และ หากซื้อ 50,000 บาท รับ Gift Card มูลค่า 8,000 บาท

           

ข่าวที่ 3 คิงเพาเวอร์ขยายโปรE7.7 King Power Makes My Deal ลดสูงสุด 45%

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ขยายแคมเปญโปรโมชั่น ยิ่งช้อป ยิ่งคุ้ม! 7.7. KING POWER MAKES MY DEAL ลดกระหน่ำสูงสุด 45% ระหว่างวันนี้  – 31 ก.ค. 64 เพียงช้อปสินค้าแบรนด์ดังครบ 3,000 บาททั้ง สกินแคร์ เครื่องสำอาง น้ำหอม แฟชั่น แว่นตา นาฬิกา อิเล็กทรอนิกส์ และอีกมากมาย

#ช้อปที่บ้านส่งฟรีทุกออเดอร์ ไม่มีขั้นต่ำ ในราคาสุดคุ้ม ตลอดเดือน ก.ค. นี้ ใส่รหัสส่วนลด 77MMD

ช้อปเลยที่ - https://bit.ly/2UQF8kL รับบริการส่งฟรี! ทั่วประเทศ ไม่มียอดช้อขั้นต่ำ

รวมทั้ง 1.แบ่งชำระ 0%* นานสูงสุดถึง 10 เดือน 2.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 2,000.-* > http://bit.ly/2OzUV1k 3.ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง > http://bit.ly/31yjocR (ของแถมมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า) 4.รับเลย! ส่วนลด 200.- เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ > http://bit.ly/2S4uJyi  5.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000.- (สุทธิ) > https://bit.ly/3lyQbrs

สอบถามรายละเอียดทั้งหมดเพิ่มได้ที่ คอล เซนเตอร์ 1631

 

ข่าวที่ 4 นายกฯประยุทธ์ปลื้มภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์-สั่งหนุนททท.ใช้7+7เพิ่มรายได้ต่างชาติ

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ที่มี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 มีไฮไลต์ 2 เรื่องสำคัญ คือ

เรื่องที่ 1 แสดงความเห็นชื่นชมโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ Phuket Sandbox  ” ที่มีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นแกนหลักดำเนินงานร่วมกับทุกภาคส่วนทำให้เกิดความสำเร็จสามารถสร้างรายได้เข้าพื้นที่แล้วไม่ต่ำกว่า 534.31 ล้านบาท

เรื่องที่ 2 ททท.นำแผนการตลาดสูตร 7+7 นั่นคือให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าภูเก็ตพักอยู่ 7 วัน แล้วสามารถเดินทางไปพื้นที่เชื่อมโยงต่อได้อีกอย่างน้อย 7 วัน เริ่มตั้งแต่1 สิงหาคม 2564 เป็นต้นป พื้นที่เชื่อมโยงจากภูเก็ตไปยังเส้นทางกำหนด ได้แก่ 1.สุราษฎร์ธานี 3 แห่ง คือ เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า 2.กระบี่ 3 เกาะ คือ เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล และ 3.พังงา 3 แห่ง คือ เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่   

 เนื่องจากมีสัญญาณที่ดีมากเมื่อนักท่องเที่ยวจากภูเก็ตอยู่ครบ 14 วัน เดินทางไปยังสมุยทุกวันจำนวนมากกว่าเที่ยวบินตรงจาก กรุงเทพฯ เข้าสมุย มาตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม จนถึงปัจจุบัน

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีได้สั่งการเพื่อให้การขับเคลื่อนสูตรการท่องเที่ยวตามข้อเสนอของ ททท.สัมฤทธิ์ผลด้วยการมอบหมายให้ปฏิบัติดังนี้

1.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานภาคเอกชนและภาคประชาชนเพื่อสร้างความเข้าใจให้คนในพื้นที่ร่วมกัน  รวมทั้งพิจารณาจัดเตรียมแผนการดำเนินการบนระเบียบหลักเกณฑ์และมาตรฐาน (Standard of Procedure :SOP) เดียวกับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เพื่อมุ่งเน้นความปลอดภัยและการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

2.มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดทำรายละเอียดแผนการเชื่อมโยงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเดินทางระหว่างภูเก็ตและพื้นที่นำร่องอื่น เพื่อเสนอให้ที่ประชุม ศบค. พิจารณาต่อไป และให้พิจารณาจัดทำแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ เพื่อนำเสนอให้ที่ประชุม ศบศ. และ ศบค. พิจารณาต่อไปด้วยเช่นกัน

 

สำหรับสถิตินักท่องเที่ยวเดินทางในโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”

1.จำนวนักท่องเที่ยวต่างชาติยอดรวมสะสมระหว่าง 1-22  กรกฎาคม รวมทั้งหมด 9,530 คน

ยอดการเดินทางเฉพาะวันที่ 22 กรกฎาคม 172 คน

2.ยอดจองห้องพัก ระหว่าง กรกฎาคม -กันยายน รวม 254,709 คืน อัตราเข้าพักเฉลี่ย11.28 วัน/คน/ทริป และระหว่างวันที่ 1-19 กรกฎาคม  รวม 27,000 คืน อัตราเข้าพักเฉลี่ย10.24 วัน/คน/ทริป

3.สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ  534.31 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติใช้จ่ายเฉลี่ย 5,500 บาท/คน/วัน

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 22กรกฎาคม 2564  จังหวัดภูเก็ต ประกาศยกระดับมาตรการเดินทางเข้าออกจังหวัดภูเก็ต เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีผล 25กรกฎาคม-2สิงหาคม 2564 ทุกคนต้องแสดงปลตรวจโควิด-19

ขณะที่ สถิติของ “สมุย พลัส โมเดล”

1.จำนวนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยอดรวมสะสมระหว่าง 15-22  กรกฎาคม รวมทั้งหมด 25 คน ยอดการเดินทาง วันที่ 22 กรกฎาคม 5 คน

2.นักท่องเที่ยวเดินทางจากภูเก็ตไปยังพื้นที่อื่น ๆ ระหว่าง 15-22กรกฎาคม เที่ยวเกาะสมุยมียอดสะสมรวมทั้งหมด 86 คน เฉพาะวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 เข้าเกาะสมุย 25 คน เข้าเกาะพะงัน 2 คน เข้าเกาะเต่า  1 คน

 

ข่าวที่ 5 ททท.แจกThe Best of SHAชวนทั่วไทยลุ้นรับล้านโหวตบริการ10ธุรกิจ

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับ 3 กรมหลัก ของกระทรวงสาธารณสุข คือ กรมอนามัย กรมควบคุมโรค กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จัดทำโครงการมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ SHA :Amazing Thailand Safety and Health Adminitration โดยนำมาตรการด้านสาธารณสุขผนวกกับมาตรฐานสถานประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเป็นการยกระดับสินค้าควบคู่การบริการของไทย ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมีความมั่นใจ เชื่อมั่นทั้งทางด้านสินค้าและบริการความปลอดภัยในยุคการท่องเที่ยววิถีใหม่ ที่นักท่องเที่ยวจะให้ความสำคัญกับสุขภาพของตนเองและความปลอดภัยมากขึ้น

 

ล่าสุดได้จัดทำโครงการ “THE BEST OF SHA AWARD 2021” เพื่อต่อยอดโครงการ SHA โดยให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการเพื่อแบบอย่างและเชิดชู โดยประกาศเกียรติคุณและมอบรางวัลให้ผู้ประกอบการที่สามารถรักษามาตรฐาน SHA ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม ด้วยวิธีเปิดให้ “ผู้ใช้บริการหรือนักท่องเที่ยวโหวต” แสดงความคิดเห็น ให้คะแนนธุรกิจ 10 ประเภท ที่ได้ตราสัญลักษณ์ SHA เริ่มตั้งแต่วันนี้ – 20 ตุลาคม 2564 ทางเว็บไซต์www.thailandsha.com/thebestofsha   ททท.มีรางวัลให้นักท่องเที่ยวที่ร่วมโหวตลุ้นรับอีกกว่า 50 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท

เข้าไปโหวตบริการของธุรกิจ 10 ประเภท ได้แก่ 1.โรงแรม/ที่พัก/โฮมสเตย์ 2.ร้านอาหาร 3.นันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว 4.ยานพาหนะ 5.บริษัทนำเที่ยว 6.สุขภาพความงาม/สปา 7.ห้างสรรพสินค้า/ศูนย์การค้า 8.กิจกรรมกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว 9.กิจกรรมอีเวนต์/โรงละคร/มหรสพ 10.ร้านค้าของที่ระลึก/ร้านค้าอื่น ๆ

 

สำหรับโครงการ The Best of SHA AWARD 2021 ททท.ทำขึ้นโดยมี 4 วัตถุประสงค์หลัก คือ 1.เสริมสร้างความเชื่อมั่นผ่านมาตรฐาน คุณภาพสินค้า บริการ SHA  2.เพื่อสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว รักษามาตรฐานด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด และสม่ำเสมอ พร้อมกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวใช้บริการสถานประกอบการที่ได้มาตรฐาน SHA 

 

3.เพื่อดำเนินงานร่วมกับพันธมิตรในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ฟื้นคืนกลับมาอย่างเข้มแข็งบนพื้นฐานของความปลอดภัย และความยั่งยืนทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม 4.เป็นกลไกช่วยขับเคลื่อนกระตุ้นให้ผู้ประกอบการทั่วประเทศ ร่วมมือกันรักษามาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย พัฒนาคุณภาพ ฟื้นฟูการท่องเที่ยวให้กลับมาอย่างยั่งยืนต่อไป

ทางด้าน “นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย” อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สร้างมาตรฐาน SHA ความปลอดภัยด้านสุขอนามัยยุควิถีใหม่ ช่วงโควิดระบาดยิ่งมีความสำคัญมากโดยคำนึงถึงปัจจัยด้านสาธารณสุข เนื่องจากยังไม่ได้สามารถดำเนินการทางธุรกิจได้ ทางกรมอนามัยเดินหน้าเชิงคุณภาพตามหลักสุขาภิบาล เพิ่มมาตรการป้องกันโรคไวรัสโควิด-19 โรงแรม ร้านอาหาร ร้านอาหารริมทาง และสิ่งแวดล้อม

 

ช่วงสถานการณ์โควิด กรมอนามัย สธ.และศูนย์อนามัย สาธารณสุขจังหวัด 76 จังหวัด 1.ให้คำแนะนำเชิงวิชาการ ดำเนินการสอดคล้องกฎหมายหลักด้านสาธารณสุข เช่น กิจการโรงแรมที่พัก ให้จัดการสิ่งแวดล้อมในโรงแรม แนวทางปฏิบัติกับผู้ใช้บริการ จุดสำคัญความล่อแหลมเมื่อต้องถอดหน้ากากเมื่อเข้าร้านอาหาร ได้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

 

ภายใต้ 5 มาตรการหลัก เป็นพื้นฐานสำคัญ ได้แก่  1.สวมหน้ากาก ผ้าหรือหน้ากากอนามัย ตลอดเวลา

2.การล้างมือบ่อย ๆ สบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ 3.เว้นระยะห่าง เพราะการใช้บริการมีโอกาสสัมผัส หรือไปรวมกลุ่มหนาแน่น จึงขอให้เว้นระยะห่างกัน 1 เมตร 4.ผู้ประกอบการต้องจำกัดจำนวนให้เหมาะ ไม่หนาแน่นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง 5.จัดให้มีการทำความสะอาดสม่ำเสมอ ในจุดสัมผัสร่วมต่าง ๆ

 

ข่าวที่ 6 “TCEB”จับตาไมซ์คู่แข่งเอเชีย-พิษณุโลกลุ้นเจ้าภาพL’Etape/ใต้ชู2งานใหญ่

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีเส็บได้รวบรวมสถานการณ์ความเคลื่อนไหว “ตลาดต่างประเทศ” ระหว่างเมษายน-มิถุนายน 2564 ของประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนและเอเชีย ทั้ง เวียดนาม สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน ออสเตรเลีย ซึ่งแต่ละประเทศล้วนตื่นตัวปรับกลยุทธ์ เช่นเดียวกับทีเส็บก็ต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ด้านการฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทยด้วยเช่นกัน

ขณะนี้ผู้อำนวยการทีเส็บตามภาคต่าง ๆ ในประเทศมุ่งมั่น ทุ่มเท ทำงานเชิงบูรณาการอย่างใกล้ชิดกับทางจังหวัด หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อน 10 เมืองไมซ์ MICE CITY เดินหน้าอย่างเข้มแข็ง ล่าสุดคือทีเส็บภาคใต้ทุ่มเททำงานอย่างใกล้ชิดในโครงการ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ และสมุย พลัส โมเดล ส่วนภาคเหนือก็กำลังหารือกันถึงการเตรียมหาเมืองที่มีความพร้อมทุกด้านในการรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานนานาชาติ L’Etape Thailand by Tour De France ปี 2565-2567 (2022-2024 ) ณ จังหวัดพิษณุโลก

นางจุฑา ธาราไชย ผู้อำนวยการฝ่ายสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคเหนือ หรือ ทีเส็บภาคเหนือ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 ได้นำทีมร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom ระดมความคิดเห็นการจัดทำเส้นทางปั่นจักรยาน L’Etape Thailand by Tour De France ปี 2022-2024 ร่วมกันกับทางผู้แทนสมาคมการค้าผู้จัดงานกีฬามวลชนไทย นายกสมาคมเครือข่ายไมซ์ ภาคเหนือตอนล่าง และผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ โดยได้รับข้อเสนอแนะจากนายบุญเพิ่ม อินทนปสาธน์ ผู้บริหารบริษัท มูฟ เอเชีย จำกัด (Move Asia) ผู้แทนสมาคมการค้าผู้จัดงานกีฬามวลชนไทย เป็นอย่างดี

 

ขณะนี้ทางจังหวัดพิษณุโลกแสดงความสนใจจะเข้าร่วมประมูลสิทธิ์ขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานนานาชาติ L’Etape Thailand by Tour De France ที่จะมีขึ้นใน 3 ปีหน้า ระหว่างปี 2565-2567 เบื้องต้นได้แต่งตั้งคณะทำงานระดับจังหวัดเพื่อขับเคลื่อนและรวบรวมพร้อมจัดทำข้อมูลเตรียมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ

 

อีกทั้งทีมพิษณุโลกยังได้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมการดึงงานสำคัญเข้าสู่จังหวัด เพื่อพัฒนาและยกระดับงานไมซ์เติบโตไปข้างหน้าตอกย้ำถึงศักยภาพความเป็น ไมซ์ ซิตี้ ภาคเหนือตอนล่าง อย่างมีประสิทธิภาพ

 

นายพัฒนชัย สิงหะวาระ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) ภาคใต้ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ในฐานะตัวแทนทีเส็บส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ภาคใต้ โดยทำงานกับภูมิภาคมาต่อเนื่องรวมทั้งภาคใต้ก็มีการทำ Midterm Business Plan ระหว่างปี 2564-2566 ปรับกลยุทธ์ใหม่ให้สอดคล้องกับพื้นที่ รวม 6 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย ของเดิม 3 กลยุทธ์ คือ 1.ประมูลมาจัด (pitch) 2.การโปรโมตเส้นทาง 3.การพัฒนาคนและองค์กร ขณะนี้เริ่มทำเพิ่มขานรับไมซ์วิถีใหม่อีก 3 กลยุทธ์ใหม่ คือ 4.SMART MICE นำนวัตกรรมมาแนะนำแก่ผู้ประกอบการต่าง ๆ 5.PREFER DESTINATION ยกระดับภาคใต้ให้เป็นเมืองไมซ์ระดับนานาชาติ ดึงดูดผู้คนเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น 6.FACILITATION การสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็น ทำไมซ์เลนในสนามบินนานาชาติภูเก็ต การพูดคุยนำคน สิ่งของ สัตว์ เข้ามาจัดงานไมซ์ในภาคใต้

 

ขณะนี้ร่วมกับจังหวัดภูเก็ตเป็นหนึ่งในคณะทำงานเข้าร่วมโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” จัดทำขั้นตอนปฏิบัติมาตรฐาน :SOP -Standard Operation Procedures ไม่ว่าจะเป็นการต้อนรับนักท่องเที่ยว ต่อเนื่องถึงการต้องเลือกใช้สถานที่ต่าง ๆ ที่มีมาตรฐานตราสัญลักษณ์สาธารณสุขด้านสุขอนามัยหรือ SHA PLUS : Safety and Health Administration + ซึ่งหนึ่งในสถานประกอบการนี้จะมี “ศูนย์ประชุม” รวมอยู่ด้วย เรื่อยไปจนถึงรถรับส่ง ทางทีเส็บภาคใต้ทำงานร่วมกับกรมอนามัยพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Hygiene โดยต้องนำความรู้เหล่านี้ไปพูดคุยกับผู้ประกอบการในภูเก็ตเพื่อปฏิบัติให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน SHA PLUS  รวมทั้งยังทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจประเมิน SHA PLUS ด้วย

สำหรับ “ตลาดไมซ์ต่างประเทศ” ทีเส็บภาคใต้เดินหน้าเต็มที่ ได้แก่ การเตรียมงานที่ 1 จัด TBEX :TRAVEL BLOG EXCHANGE 2021 ศูนย์กลางอยู่อเมริกา ยืนยันเลือกจัดงานที่ภูเก็ต กว่า 500 คน ช่วง 19-27 เมษายน 2565 ของกลุ่มบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวทั่วโลกจะเดินทางมาประชุม สัมมนา วางกลยุทธ์ใหม่นำเสนอให้กลุ่มบล็อกเกอร์ทั่วโลกที่เข้าร่วมงาน TBEX มีโอกาสรีวิว 3 เส้นทางคือ 1.Andanman Hidden Gems สมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน 2.ชุมชนหรือ Community ในพื้นที่ นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง 3.Southern Skyline ในสงขลา และสตูล

 

งานที่ 2 ASEN LUXURY TRAVEL MART 2022 รวมผู้ซื้อ ผู้ขาย กลุ่มตลาดเฉพาะซึ่งนำสินค้าระดับซูเปอร์พรีเมี่ยม มาจำหน่าย ระหว่างวันที่ 4-8 พฤษภาคม 2564 แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก เจรจาธุรกิจระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย กลุ่มุธุรกิจโรงแรมหรูหรา เครื่องบินส่วนตัว Private Jet ยอร์ช และที่สำคัญ ส่วนที่ 2 มีกลุ่มนักขับขี่จักรยานยนต์หรู Group Bike มาประชุมสัมมนาร่วมกัน

 

                ช่วงที่  2 หลายพื้นที่ในอันดามัน เตรียมรอนักท่องเที่ยวไปสัมผัสประสบการณ์ดี ๆ อีกครั้ง เมื่อสถานการณ์พร้อม “กระบี่”เมืองทะเลสวย อยากจะอวดโฉมแล้ว “หมู่เกาะพีพี-เกาะไหง-หาดไร่เลย์” จ่อคิวชวนเที่ยวต่อจากภูเก็ต และมาช่วยกันทำด่วน “4การกินช่วยลดโลกร้อนชะลอวิกฤต” เติมความรู้ด้วยข่าวฮ็อต “ไทย แอร์ เอเชีย” ขยายสิทธิ์ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋ว “บินรัว ๆ ทั่วไทย” ยืดอายุใช้บินได้จนถึงมี.ค.2565 ทางด้าน “นกแอร์” หนีพื้นที่สีแดงเข้ม ขอใช้ “อู่ตะเภา” บินบริการในประเทศปกติ 6 เส้นทาง สู่ ใต้ เหนือ อีสาน

“กระบี่” เปิดเมืองชวนไปอะเมซิ่งเที่ยวทะเลวิถีใหม่ “พีพี-ไหง-ไร่เลย์”

 

          เมื่อภูเก็ตเริ่มเปิดเกาะให้ต่างชาติ และคนไทยเที่ยวได้มากขึ้น จุดประกายให้เส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงฝั่งทะเลอันดามันทยอยเปิดแบบค่อยเป็นค่อยไปได้ด้วยเช่นกัน

          ปักหมุดเช็คอินพื้นที่ต่อไปใน จังหวัด “กระบี่” 3 แห่ง มีข้อมูลมาแนะนำ

 

จุดแรก "หมู่เกาะพีพี" เจ้าของตำแหน่งหมู่เกาะสวยงามโด่งดังติด 1 ใน 10  ของโลก มีมุมยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกนิยมเลือกพักผ่อนบริเวณ 2 เกาะใหญ่ คือ เกาะพีพีดอน กับเกาะพีพีเล    อีกทั้งยังมีเวิ้งอ่าวสวยงาม อย่าง อ่าวปิเละ อ่าวมาหยา อ่าวโละซามะ

สามารถ “เดินทาง” จากภูเก็ต ด้วยเรือเฟอรี่ ราว 2 ชั่วโมง ท่าเรือหาดนพรัตน์ธาราทุกวัน หรือนักท่องเที่ยวสามารถซื้อแพ็คเกจท่องเที่ยวได้ที่บริษัทนำเที่ยว

 

จุดที่สอง "เกาะไหง"  น้ำทะเลบริเวณเกาะขนาดเล็กแห่งนี้ ใสชนิดมองเห็นพื้นทรายหรือปะการังใต้ผิวน้ำได้เลย แถมมีชายหาดส่วนตัว สงบเงียบ นักท่องเที่ยวสามารถดำผิวน้ำหรือสน็อกเกิล อย่างเพลิดเพลินสนุกกับการส่องหาดูปะการังน้ำตื้นตระการตา หรือจะซื้อแพกเกจจากรีสอร์ตแถบนั้นซึ่งเปิดสอน ดำน้ำลึก(scuba)  ไปนั่งตกปลา พายเรือคายัค แคนู เลือกตามที่ชอบและที่ใช่ได้ด้วย แล้วก็มีโปรแกรมพาทัวร์เกาะใกล้เคียงอย่าง เกาะกระดาน เกาะเชือก  เกาะมุก

 

"หาดไร่เลย์ " มีชื่อเสียงโด่งดังมากเรื่องจุดปืนผาของเหล่านักเดินทางที่ชื่นชอบการผจญภัย ไร่เลย์จัดได้ว่าเป็นชายหาดส่วนตัว เงียบสงบ แบ่งมุมพักผ่อนได้ 3 โซน คือ ตะวันตก-ตะวันออก-ถ้ำพระนาง เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการพักผ่อนกลางอ้อมกอดธรรมชาติทางทะเล ที่มีสิ่งแปลกใหม่  ให้เรียนรู้ สัมผัสประสบการณ์ บันทึกรอยท้าบนผืนทรายไว้ในความทรงจำทุกครั้งที่ได้มีโอกาสหลบความวุ่นวายมาอยู่ซบความสงบจากหาดไร่เลย์

 

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในกระบี่ ที่ได้รับความนิยมมีอีกหลายแห่ง อย่าง “ทะเลแหวก” แถวบริเวณ เกาะไก่ เกาะทับ เกาะหม้อ หรือศิลปะธรรมชาติตรง “เกาะห้อง” ในเขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เรื่อยไปจนถึงแหล่งท่องเที่ยวบนฝั่งที่ "ชุมชนบ้านแหลมสัก”  ตำบลแหลมสัก ดินแดน 3 วัฒนธรรม “ไทยพุทธ-ไทยจีน-ไทยมุสลิม” ชาวบ้านยังคงรักษาเอกลักษณ์การแต่งกายด้วยชุดบ่าบ๋ายาหยา ทำอาชีพเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ความงามส่งออกขายต่างประเทศ และมีบริการล่องเรือหัวโทงไปชมหุบเขากาโรสภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตากลางทะเล

 

“กระบี่” มีทั้งทะเล วิถีชีวิต ดี ๆ เฉพาะตัว สามารถดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติเลือกพักผ่อน ได้ ทุกเวลา

4 การกิน!!ต้องทำด่วนเพื่อช่วยกันลดโลกร้อนยุคโลกกำลังวิกฤต

ทุกวันนี้คนทั่วโลกพากันเพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทั้งจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงต่างๆ    การขนส่ง การผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม การตัดไม้ทำลายป่า รวมทั้งเพิ่มก๊าซมีเทนจากมูลสัตว์จำนวนมาก ซึ่งก๊าซทั้ง 2 ชนิด เป็นก๊าซเรือนกระจก ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศโลกทำให้รังสีความร้อนของดวงอาทิตย์ ที่ควรสะท้อนออกไปกลับถูกก๊าซเรือนกระจกกักเก็บไว้มีผลให้อุณหภูมิของโลกค่อย ๆ สูงขึ้น

ทำให้หลายองค์กรต้องหันมาให้ความสำคัญต่อการลดภาวะโลกร้อนกันมากขึ้น โดยเฉพาะ “เราทุกคน” ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยได้ด้วยวิธีการกินแบบลดโลกร้อนง่าย ๆ 4 การกิน ดังนี้

            1.ลดกินเนื้อสัตว์ หันมากินอาหารจากพืช เพราะมูลสัตว์เป็นแหล่งเกิดก๊าซมีเทนที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนได้มากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 21 เท่า ซึ่งถ้าแต่ละคนงดกินเนื้อสัตว์  1  ปี  จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้คนละ 1.5 ตัน/ปี หันมากินอาหารจากพืชประเภทถั่วเมล็ดแห้งและผลิตภัณฑ์ทดแทนเนื้อสัตว์ เช่น  ถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วขาว ถั่วเหลือง และเต้าหู้

2.กินอาหารสดมากกว่าอาหารที่ผ่านกระบวนการซึ่งมีขั้นตอนการผลิตที่ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานทั้งการผลิตอาหารและการผลิตภาชนะบรรจุ เช่น  กระป๋อง กล่อง

3. กินอาหารตามฤดูกาล พืชผัก ผลไม้ต่างๆที่ให้ผลผลิตตามฤดูกาล ทำให้ไม่ต้องใช้ฮอร์โมนหรือสารเคมี  จึงเป็นการลดพลังงานในการผลิตฮอร์โมนและสารเคมีได้อีกทาง

4.กินอาหารประจำถิ่น เป็นการลดขั้นตอนในการขนส่ง การเก็บรักษาและการคัดทิ้ง ซึ่งการใช้พลังงานและการก่อก๊าซเรือนกระจกจะน้อยกว่าเมื่อเทียบกับอาหารแบบอุตสาหกรรมทั่วทำกันอยู่ทุกวันนี้

วิธีการกินดังกล่าว  นอกจากจะช่วยลดภาวะโลกร้อนแล้วยังทำให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย  แต่ถ้าจะให้ผลดีควรเป็นอาหารใหม่ สด และมีคุณค่าทางโภชนาการ

ข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “ไทยแอร์เอเชียขยายสิทธิ์ให้ผู้โดยสารใช้ตั๋วบินรัวๆไปถึง มี.ค.65

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทย แอร์ เอเชีย กล่าวว่า ได้ขยายเวลาใช้บริการใหม่ให้ผู้โดยสารที่ซื้อโปรโมชั่น “ตั๋วบินรัว ๆ ทั่วไทย”ไปเรียบร้อยแล้ว โดยเปิดให้ผู้ใช้บริการรับสิทธิ์ “แพ็กโหลดกระเป๋าบินรัว ๆ ทั่วไทย” ได้จนถึงปี 2565  ภายใต้เงื่อนไขเดิมผ่านช่องทาง www.airasia.com/deals หรือแอปพลิเคชั่นแอร์เอเชีย ด้วยการเข้าไปเเลกใช้สิทธิ์ได้ถึง 12 มีนาคม 65 ส่วนการใช้ตั๋วโดยสารเดินทางก็ใช้ได้ตั้งแต่ 2 สิงหาคม 2564 -26 มีนาคม 2565

 

เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าให้ลูกค้าทุกคน หลังจากช่วงเดือนมีนาคม 2564 ไทย แอร์ เอเชีย เปิดขาย “ตั๋วบินรัว ๆ ทั่วไทย” ผู้โดยสารตอบรับที่ดีมาก แต่ตอนนี้มีสถานการณ์การเเพร่ระบาดของโควิด-19 รุนแรงถึงขั้นล็อกดาวน์บางพื้นที่อีกครั้ง รวมทั้งมีประกาศมาตรการด้านสาธารณสุขและข้อกำหนดการเดินทางข้ามจังหวัดที่เข้มข้นขึ้น เพื่อความสะดวกจึงขอขยายเวลาการใช้สิทธิ์จากแคมเปญดังกล่าวออกไปจนถึงปี 2565

ข่าวที่สอง “นกแอร์”หันใช้อู่ตะเภาเลี่ยงพื้นที่สีแดงบินปกติในประเทศ6เส้นทาง

 

นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด(มหาชน )เปิดเผยว่า นกแอร์จึงได้ขออนุญาต สำนักงานการบินเรือนแห่งประเทสไทย (กพท.) ใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นฐานการบินในประเทศ 6 เส้นทาง โดยพร้อมจะเริ่มบิน ไป-กลับ ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป ได้แก่ สนามบิน อู่ตะเภา ไป-กลับ 1.เชียงใหม่ 2.ภูเก็ต 3.อุดรธานี 4.อุบลราชธานี 5.สกลนคร 6.นครศรีธรรมราช

 

เป็นการปรับแผนบริการบินในประเทศ หลัง กพท.ประกาศยกระดับการควบคุมโควิด-19 ห้ามสายการบินทำการบินเข้า-ออก ในพื้นที่สีแดงเข้ม ทางนกแอร์จึงไม่สามารถเปิดฐานบินที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ แต่นกแอร์ยังมีผู้โดยสารที่จำเป็นต้องเดินทาง รวมทั้งต้องให้บริการขนส่งอวัยวะ อุปกรณ์และบุคลากรทางการแพทย์ที่จำเป็นและเร่งด่วน จึงเลือกใช้สนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง ซึ่งไมจัดอยู่ในกลุ่มพื้นที่สีแดงเข้ม สามารถบินเชื่อมเส้นทาง เหนือ อีสาน ใต้ ได้ตามปกติต่อไป

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.