ททท.เร่งแผนใหม่“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์-สมุยพลัส”ดันธุรกิจท่องเที่ยวฟื้น ต่างชาติใช้300โรงแรมเกิน2แสนห้อง-เทงบปิดท้าย64เปิดอีมาร์เก็ตเพลส
ผู้นำททท.เร่งแผนใหม่“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์-สมุยพลัส”ดันธุรกิจท่องเที่ยวฟื้น
ต่างชาติใช้300โรงแรมเกิน2แสนห้อง-เทงบปิดท้าย64เปิดอีมาร์เก็ตเพลส
คิงเพาเวอร์จัดทัพขายใหม่”ไทยเทสต์ฮับ-โทรช้อปออนไลน์
Shop to Call
ไทยเทสต์ฮับมหานครคิวบ์เสิร์ฟเมนูมิชลินราคาเดียว99บาทถึง27ก.ย.64
คิงเพาเวอร์จัดโปรกิฟเซตลิปแบรนด์หรูDear Dahliaช้อปได้ถึง31ก.ค.นี้
ก.ท่องเที่ยวนำททท.-เอกชนเปิดสมุยพลัสตั้งเป้าเดือนแรกโกยเงิน180ล้าน
ททท.ผนึกหมื่นร้านค้าโหมอะเมซิ่งแกรนด์เซลแจกใหญ่2ล้านก.ค.-15กย.
ผู้นำTCEBเร่งภาคเหนือทำข้อมูลรอชง“ศบค.”เปิดเชียงใหม่แซนด์บ็อกซ์
“วัดป่วยห้วยลาด”ภูเรือเส้นทางแห่งพลังศรัทธาชมสถาปัตยกรรมงดงาม
แนะวิธีกำจัดความเครียดเรื้อรังรับมือโควิดฝึกระบบหายใจ/กล้ามเนื้อ
“การบินไทย”แจงตลาดหลักทรัพย์ขยับแผนบินใน/ต่างประเทศแก้โควิด
“ดุสิตดีทูหัวหิน”เปิดใหม่จัดโปรแนะนำดึงคนเข้าพักเหลือ2,499บาท/คืน
ผู้ว่าการ การท่องเที่ยงแห่งประเทศไทย (ททท.)
ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT
#PhuketSandbox #SmuiPlusModel
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1674138162780235&id=100005522016696
ช่วงที่ 1 เปิดแผนรีบูธท่องเที่ยวกับ “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร”
ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เขย่า“ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”
พึงพอใจก้าวข้ามความท้าทาย 14 วัน
นักท่องเที่ยวจองที่พัก 3 เดือน
300 โรงแรม
ทะลุเกิน2แสนคืน สั่ง
ททท.29 แห่งทั่วโลก
พลิกแผน “สมุย พลัส โมเดล” รุกขายแพกคู่ “นักท่องเที่ยวบวกนักธุรกิจ”
เร่งทำโพลล์สำรวจความเห็นและความพึงพอใจจ่อปรับใหม่ SOP ขานรับไฮซีซันปลายปี ห่วงสถานการณ์
“ตลาดในประเทศ” เจอโควิดซ้ำหลายระลอกตอนนี้อัตราพักรูดเหลือ 7 % ข้ามเส้นวิกฤตไปไกลมาก พร้อมรับนโยบาย
“รมว.พิพัฒน์ รัชกิจประการ” ปูพรมช่วยภาคธุรกิจเสริมสภาพคล่องการเงินคู่ขนานปรับตัวสู่วิถีใหม่
ททท.จ่อเทงบปี’64
ที่เหลืออัดฉีดตลาด E-marketplace
กระหน่ำช่วยซื้อขายห้องพัก
อาหาร เริ่มต้นเดือนส.ค.นี้ และ 1 ต.ค.จัพทัพ
4
รองผู้ว่าตลาดในประเทศ เอเชีย ยุโรป เสริมแกร่งแนวใหม่
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า หลังเปิดนำร่องโครงการ
“ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” รับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาพักในภูเก็ตช่วง 14 วันแรก
ค่อนข้างท้าทายเพราะต้องตรวจหาเชื้อโควิดต่อเนื่องถึง 3 ครั้ง นับจากวันเดินทางเข้ามาถึงตั้งแต่วันที่ 1,
6-7, 12-13
เป็นช่วงสำคัญมาก สถิติวันที่ 1-15
กรกฎาคม 2564 1.มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ
5,710 คน
โดยระบบสาธารณสุขคัดกรองด้วยวิธีสวอปหาเชื้อพบผลเป็นบวก 11 คน คิดเป็น 0.002 %
จึงขอให้มั่นใจระบบแซนด์บ็อกซ์สามารถคัดกรองคนที่มีความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี 2.ยอดจองห้องพัก กรกฎาคม-กันยายน 2564 ณ วันที่ 15 กรกฎาคม รวม 205,883 คืนพัก (roomnight) กระจายพักในทั้งหมดกว่า 300 โรงแรม โดยเฉพาะกรกฎาคมเพียงเดือนเดียวมีมากถึง 174,443 คืน
ส่วนเดือนสิงหาคมยอดจองเริ่มไหลเข้ามาเพิ่มกว่าแล้ว ,29,197 ห้อง
ยอดจองพักโรงแรมที่น่าสนใจมากกว่าคือตั้งแต่เดือนตุลาคม
2564-กุมภาพันธ์ 2565
บ้างแล้ว ประมาณกว่า 1,000 ห้อง
ประมวลแล้วทั้ง 3 ส่วน คือทั้ง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยอดคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด และยอดจองห้องพักค้างคืน ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งนั่นเอง ซึ่งจะส่งผลดีกับภาคธุรกิจหลักคือ “โรงแรม” เพราะก่อนเปิดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ประเมินธุรกิจห้องพักในภูเก็ตจะเปิดได้ราว 20 % แต่ผลคือเปิดได้ถึง 30 % พร้อมทั้งกระจายพักอย่างหลากหลายกว่า 300 แห่ง ส่วนที่ 2 ร้านอาหารเริ่มทยอยกลับมาเปิดบริการด้วยเช่นกัน
แต่ก็คงจะไม่สามารถกลับมาเปิดได้เท่ากับช่วงสถานการณ์ปกติก่อนเกิดโควิด
ขณะนี้ถือเป็นการเริ่มต้นเท่านั้น
เพราะไทยเจอสถานการณ์การระบาดของโควิดมายาวนานกว่า 15 เดือน
จึงต้องดำเนินการบนพื้นฐานอย่างระมัดระวังก่อนเรื่องหลักคือความสำคัญด้านปลอดภัยของทุกคนมากที่สุด
ขณะที่ “สถานที่ท่องเที่ยว” ก็เริ่มทยอยเปิดบริการเช่นกัน ตัวอย่างแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเองก็เปิดพื้นที่ใหม่อีก 2-3 แห่ง ขานรับสัญญาณที่ดีนอกเหนือจากสินค้าท่องเที่ยวประเภทมนุษย์สร้างขึ้นหรือ Man Made แล้วสินค้าทางธรรมชาติ วัฒนธรรม มีแนวโน้มจะทยอยเปิดมากขึ้นต่อไป
ดร.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า
ก่อนเปิดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ตั้งเป้า 3 เดือนแรก
กรกฎาคม-กันยายน 2564 จะนำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติได้ราว
100,000 คน
สร้างรายได้ให้ประเทศไม่น้อยกว่า 8,900 ล้านบาท
แต่เมื่อเปิดจริงก็มีปัจจัยหลาย ๆ อย่าง โดย ททท.พยายามทำในลักษณะ island
approach แยกทำภูเก็ตให้เห็นเป็นตัวอย่าง
ขณะเดียวกันแต่ละประเทศก็มีเงื่อนไขหากนักท่องเที่ยวของตนเองเดินทางออกมาแล้วกลับเข้าไปอาจมีกติกาต้องกักตัวด้วย
จึงเป็นเหตุผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวตัดสินใจมาภูเก็ตได้ไม่มากตามเป้าหมาย ส่วนผู้ประกอบการเองก็อยากเปิดบริการธุรกิจมากขึ้น
โดยรวมขณะนี้ ททท.พอใจผลลัพธ์การทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในระดับหนึ่ง
ททท.จะพยายามทำต่อไป
ตอนนี้
“สมุย พลัส” เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วเช่นกัน ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นมา (ต่อจากภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์) ซึ่งทั้ง 2 โครงการ
เป็นการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีความพร้อมก่อนตามนโยบายรัฐบาลประกาศเปิดประเทศใน
120 วัน แต่สมุย
พลัส จะมีแนวทางการเดินทางเข้าพื้นที่ต่างจากภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ คือ 1.เมื่อมาถึงสมุย 3 คืนแรก
นักท่องเที่ยวจะต้องอยู่ในโรงแรมที่พักเท่านั้น 2.คืนที่ 4-7 สามารถออกไปเที่ยวในสมุยตามเส้นทางที่กำหนดไว้
อุทยานแห่งชาติ ดำน้ำ 3.คืนที่ 8-14
สามารถเดินทางไปเที่ยวเกาะพะงัน
เกาะเต่า ได้ เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่รักความสงบ ตะเวนเที่ยวระหว่างเกาะ
และกลุ่มคนชอบดำน้ำ
โดยได้ให้นโยบาย ททท.ทั่วโลกทั้ง 29 แห่ง ช่วยกันประชาสัมพันธ์การเดินทางมาเที่ยวโครงการ “สมุย พลัส” ซึ่งเป็นพื้นที่มีชื่อเสียง สามารถเลือกตลาดตรงตามต้องการของนักท่องเที่ยวได้ จึงเน้นทั้ง 2 กลุ่ม 1.นักท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหรือ Leisure กับให้เพิ่มฐานลูกค้า 2.นักเดินทางเชิงธุรกิจ Business traveller ด้วย ซึ่งเป็นจังหวะที่แหล่งท่องเที่ยวสวยงาม
ตามที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ย้ำนโยบายนำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว ยังให้มีมิติเรื่องเศรษฐกิจด้วยจึงให้เพิ่มกลุ่มตลาดนักธุรกิจเข้ามาเสริมในโครงการ สมุย พลัส ด้วย
ส่วนการทำตลาด สมุย พลัส อาจจะมีอุปสรรคอยู่บ้าง เช่นเรื่องข้อการจำกัดให้ 3 คืนแรกต้องอยู่ในห้องพัก เพราะกลุ่มเป้าหมายอาจต่างจากภูเก็ต จึงได้ปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับสิ่งสำคัญสุดคือความต้องการหลักของชาวสมุยและทุกหน่วยงานเน้นมาตรการความปลอดภัยขั้นสูงสุด
สำหรับ “การขอความร่วมมือกับเอกชนและหน่วยงานต่าง ๆ” เรื่องสำคัญที่สุดคือทุกฝ่ายทั้งภูเก็ตและสมุย ควรปฏิบัติตามข้อกำหนดของทาง “คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด” เพราะทั้งสองพื้นที่อัตราการติดเชื้อโควิดค่อนข้างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับทั้งประเทศ ฉนั้นจึงต้องช่วยกันรักษาพื้นที่ที่มีคนติดเชื้อจำนวนไม่มากให้สอดคล้องกับขีดความสามารถด้านสาธารณสุขในพื้นที่ดังกล่าวไว้ให้ได้
ดังนั้นขอให้ทำความเข้าใจเรื่องการใช้ความเข้มงวดกับการเดินทางเข้าพื้นที่
ตัวอย่างเช่น “ภูเก็ต”
กติกาของคนที่จะเข้ามาไม่เฉพาะฉีดวัคซีนป้องกันโควิดตามเงื่อนไขเพียงอย่างเดียว
อาจจะต้องมีผลตรวจ RT-PCR หรือ Antigent
Test ไม่เกิน 7 วัน
ก่อนเข้าพื้นที่ต่อไป ซึ่งไม่ใช่ความยากลำบากหรือการกีดกัน แต่เป็นการป้องกันความปลอดภัย
เพื่อรักษาป้อมปราการทั้งภูเก็ต และสมุย
ยืนยันความมั่นใจว่าเป็นพื้นที่มีการติดเชื้อโควิดไม่สูงมาก มีความปลอดภัยระยะยาว
สำหรับ
“ขั้นตอนปฏิบัติมาตรฐาน” ตามแผนนำเข้านักท่องเที่ยว : SOP – Standard
Operation Procedures ตอนนี้ยังสามารถใช้ได้ปกติ
เพราะอยู่ในช่วงการทดลองของภูเก็ตกับสมุย อาจจะต่างกัน
ต่อเมื่อทดลองใช้ไปสักระยะหนึ่งแล้ว ทางสมุยอาจปรับเป็นแบบภูเก็ตก็ได้
หรือภูเก็ตเมื่อศึกษาบทเรียนก่อนหน้านี้แล้วพบช่องว่างก็อาจจะเพิ่มส่วนอื่นอีกก็ได้
คงจะต้องคุยร่วมกันทั้ง ศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ชุดเล็ก ชุดใหญ่ กับหน่วยงานเกี่ยวข้อง
ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้ดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ขณะนี้ ททท.ได้จัดทำ “สำรวจความเห็นและความพึงพอใจ” จากนักท่องเที่ยว และคู่ค้าที่เกี่ยวข้อง ถึงมาตรฐาน SOP ที่ใช้ปัจจุบันอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนในสถานการณ์แบบนี้ เพราะหลายประเทศก็เปิดรับนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน ดังนั้น ททท.จึงต้องดูการแข่งขันระหว่างประเทศควบคู่กันไปด้วย
ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวต่อถึงเรื่องภาพใหญ่การเดินหน้าตลาดในประเทศท่ามกลางสถานการณ์โควิดระบาดหลายระลอก จึงส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวโดยตรง ตัวเลขตอนนี้มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยทั่วประเทศเหลือเพียง 7 % เท่านั้น ปกติจุดวิกฤตที่จะทำให้ธุรกิจอยู่ได้จะต้องอยู่ระดับไม่ต่ำกว่า 28 % แสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นใจเรื่องสถานการณ์แพร่ระบาด ฉนั้นหากทำควบคู่กันไปทั้งเรื่องการฉีดและกระจายวัคซีนที่ดี ในเวลาอันใกล้นี้นักท่องเที่ยวก็จะกลับมาเดินทางเหมือนเดิม เพราะความจริงแล้วการท่องเที่ยวในประเทศ เป็นเรื่องสำคัญ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มองว่าอาจจะไม่ต้องรอให้ทั้งประเทศควบคุมได้ทั้งหมด หากพื้นที่ใดปลอดภัยก็ให้กลับมาเดินทางได้ นโยบายดังกล่าว ททท.จะนำพัฒนาเพื่อจัดแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวต่อไป ส่วนสิ่งสำคัญที่สุดคือ “คงต้องช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวด้วย” ทั้งการส่งเสริมสภาพคล่อง +ทำให้ผู้ประกอบการปรับตัวรับการท่องเที่ยววิถีใหม่” ซึ่ง ททท.เตรียมงบประมาณส่วนที่เหลือปี 2564 ไว้และปูพรมเตรียมเริ่มต้นปีงบประมาณ 2565 ต่อไป
ททท.จะทำเรื่อง “การเสริมสภาพคล่องให้ภาคธุรกิจ” โดยเปิดโครงการ “E-marketplace” จะเริ่มได้ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมหรือต้นเดือนสิงหาคม นี้ เรื่องนำห้องพักของโรงแรมต่าง ๆมาขายล่วงหน้าบนออนไลน์ ได้เงินทันที นำทุนนี้ไปช่วยตอนเปิดประเทศอีก 120 วันหน้า
ดร.ยุทธศักดิ์
กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม
2564 ช่วงเริ่มปีงบประมาณใหม่
2565 ททท.ได้สลับหมุนเวียนตำแหน่งการบริหารตลาดในประเทศและต่างประเทศ
“รองผู้ว่าการ” 3 คน
โดยมีนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ มาเป็นรองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ มีประสบการณ์ด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว
สามารถมาต่อยอดการขายตลาดในประเทศแก่นักท่องเที่ยวใหม่ ๆ ส่วนตลาดต่างประเทศมี “นายฉัตรทันต์ กุญชร ณ
อยุธยา” มาเป็นรองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ มาเป็นรองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ นั้นเพื่อบูรณาการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
โดยไม่สะดุดอย่างแน่นอน
โจทย์หลักหลังการสลับเปลี่ยนรองผู้ว่าการแล้ว ในจังหวะที่การฉีดวัคซีนคนในประเทศ สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย แต่ละคนจะช่วยกันหาทางทำให้การท่องเที่ยวหรือรีบู๊ตเครื่องยนต์กลับมาอีกครั้ง ในรูปแบบใหม่ จึงมีหลายอย่างต้องดำเนินการ เช่น การท่องเที่ยววิถีใหม่ New Normal ช่วยผู้ประกอบการปรับตัวหลังโควิด อาจไม่สำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว คงจะต้องใช้เวลารีบู๊ต 2 ปีหน้า เพื่อความยั่งยืนของการท่องเที่ยวต่อไป
ททท.คาดหวังจะอยากจะกลับไปเหมือนก่อน
แต่ขอให้นำบทเรียนจากโควิดมาปรับเปลี่ยน ปรับปรุง ปรับตัว ทุกมิติตลอดห่วงโซ่อุปทานให้มีความยั่งยืน
เข้มแข็ง ในอนาคตวันข้างหน้านั่นเอง
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์จัดทัพขายใหม่”ไทยเทสต์ฮับ-โทรออนไลน์Shop to Call
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ประกาศปรับรูปแบบใหม่ 2 บริการ เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป ประกอบด้วย บริการแรก “ช้อปปิ้งวิถีใหม่กับ King Power Call to Shop : กริ๊งเดียวครบ จบทุกการช้อป” โดยเน้นเพิ่มความสะดวก ช้อปง่าย ช้อปคุ้ม ส่งไว บริการที่ 2 เปิดศูนย์อาหารสตรีทฟู้ดดัง “ไทย เทสต์ ฮับ :Thai Taste Hub” ซึ่งมีกว่า 200 เมนู ให้ลูกค้าทุกคนสั่งกลับบ้าน (Takeaway) และส่งถึงบ้าน (delivery) เดินหน้าปรับบริการใหม่ภายใต้มาตรการความปลอดภัยของผู้บริโภคขั้นสูงสุดในการ ‘คัดกรอง’ เพื่อป้องกันดูแลสุขอนามัยขั้นสูงสุดให้อาหารถึงมือลูกค้าได้อย่างอุ่นใจ
สำหรับบริการใหม่ “ไทย เทสต์ ฮับ : Thai Taste Hub” สตรีทฟู้ดของศูนย์อาหาร คิง เพาเวอร์ใน 2 สาขาหลัก ที่ รางน้ำ และมหานคร คิวบ์ ลูกค้าสามารถเลือกสั่งกลับบ้าน (takeaway) หรือส่งถึงบ้าน (Delivery) ได้ทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 น. – 19.00 น. ขณะนี้ทุกร้านพร้อมจัดเต็มเมนูอาหาร ที่ได้ชื่อว่าเป็นร้านอร่อยระดับเชฟมิชลินสตาร์ และร้านตำนานแถวหน้าของเมืองไทย
ส่วนบริการช้อปปิ้งวิถีใหม่ “King Power Call to Shop” เปิดให้เลือกช้อปร้านค้าจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ภายใต้คอนเซ็ปต์ “กริ๊งเดียวครบ จบทุกการช้อป” ที่ คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ ทั้ง 3 สาขา ได้แก่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ คิง เพาเวอร์ มหานคร และ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี ซึ่งจะต้อง “ปิดบริการชั่วคราว” หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงให้กลับมาเปิดตามปกติ ตามนโยบายรัฐบาลเรื่องการขอความร่วมมือควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 4 ซึ่งปัจจุบันกำลังส่งผลวิกฤตอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล หลายจังหวัด
ดังนั้นกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จึงเชิญชวนลูกค้าหันมาใช้บริการผ่านช่องทางใหม่ล่าสุด King Power Call to Shop : กริ๊งเดียวครบ จบทุกการช้อป ที่จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการสินค้าภายในร้านค้าปลอดอากรคิง เพาเวอร์ ทุกสาขา ยังคงสามารถเลือกซื้อสินค้าที่ชอบและที่ใช่ได้ทุกโอกาสทุกสถานการณ์อย่างปลอดภัย
ตลอดเดือนกรกฎาคม 2564 นักช้อปอยู่กับบ้านแค่เพียง
“โทรศัพท์” สอบถามรายละเอียดสินค้าจากผู้ช่วยช้อปได้ทุกวันที่โทร. 02-3387870
ตั้งแต่ 09.00 น. -18.00 น. ซึ่งมีโปรโมชั่นพิเศษคุ้มค่าจากหมวดสินค้ายอดนิยม
โดยเฉพาะ “น้ำหอมและเครื่องสำอาง” ลดสูงสุด 10 % หรือเมื่อลงทะเบียนร่วมช้อป รับทันทีคูปองส่วนลดสินค้าที่เข้าร่วมรายได้ได้ถึง 2 ใบ คนละ 1 สิทธิ์/วัน มูลค่ารวมมากถึง 6,500 บาท
1.รับคูปองส่วนลด 2,000 บาท เมื่อซื้อสินค้าตั้งแต่ 8,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
2.รับคูปองส่วนลด 4,500 บาท เมื่อซื้อสินค้าตั้งแต่ 15,000
บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
รวมถึงสามารถเลือกความคุ้มค่าเพิ่มมากขึ้นด้วยวิธีซื้อบัตรเงินสด
หรือ Cash Card เลือกซื้อได้
2 แบบ คือ
1.ซื้อบัตร 20,000 บาท รับบัตรของขวัญหรือ Gift
Card มูลค่า 2,500 บาท
2.ซื้อ 50,000 บาท รับ Gift Card มูลค่า 8,000 บาท
ข่าวที่ 2 ไทยเทสต์ฮับมหานครคิวบ์เสิร์ฟเมนูมิชลินราคาเดียว99บาทถึง27ก.ย.
คิง เพาเวอร์ มหานคร เชิญชวนเลือกรับบริการเมนูอาหารอร่อย ที่ “ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ Thai Taste Hub Mahanakhon CUBE “ ทุกวันจันทร์เสิร์ฟทุกเมนูราคาเดียวหรือ One Price Monday! ระหว่างวันนี้ - 27 กันยายน 2564 สุดคุ้มเต็มอิ่มทุกวันจันทร์ ในราคา 99 บาท จากร้านอร่อยระดับตำนานและมิชลินแนะนำกว่า 12 ร้าน ติดสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี ทางออก 3 ชั้น 1 มหานคร คิวบ์ คิง เพาเวอร์ มหานคร
ขณะนี้มีบริการมารับด้วยตัวเองหรือ self pick-up service และบริการซื้อกลับบ้าน (Take Away) Thai Taste Hub Mahanakhon CUBE เปิดให้บริการทุกวันระหว่างเวลา 10.00-19.00 น. สำหรับบริการ self pick-up service และบริการซื้อกลับบ้าน (Take Away)
ข่าวที่ 3 คิงเพาเวอร์จัดโปรกิฟเซตลิปแบรนด์หรูDear Dahliaช้อปได้ถึง31ก.ค.
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ แนะนำสินค้าลิปกิฟท์เซตแบรนด์หรู Dear Dahlia เพื่อมอบของขวัญสุดพิเศษเมื่อซื้อสินค้าตามยอดที่กำหนด ผ่านช่องทาง #KingPowerOnlineShopping โปรโมชั่นระหว่างวันนี้ – 31 กรกฎาคม 2564 ข้อปได้แล้วที่ www.kingpower.com/brand/deardahlia
1.ซื้อสินค้าครบ 3,000 บาทขึ้นไป รับชุดของขวัญ Mini Trio Lip Velour 1ml. x 3 + Straw Blooming 3 มูลค่า 790 บาท
2.ซื้อสินค้าครบ 5,000 บาทขึ้นไป รับชุดของขวัญ Mini Trio Lip Velour 1ml. x 3 + Straw Blooming 3 + Garden Light Pouch มูลค่า 1,390 บาท
ข่าวที่ 4 ก.ท่องเที่ยวนำททท.-เอกชนเปิดสมุยพลัสตั้เงป้าเดือนแรกโกย180ล้าน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้นำทีมผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครับและเอกชน ร่วมเปิดโครงการ “สมุย พลัส โมเดล :SAMUI PLUS MODEL ” เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 เรียบร้อยแล้ว โดยให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสมุยตามนโยบายพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เปิดสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับกระทรวงหลัก ๆ ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ หน่วยความมั่นคง ทำให้มีความปลอดภัย รองรับการเปิดประเทศอีกครั้งในอีก 120 วัน ร่วมหารือทำความตกลงเลือกภูเก็ตก่อน เป็นพื้นที่เกาะดูแลป้องกันง่าย
หลังจากนั้นนำเรื่องเสนอนายกรัฐมนตรีประกาศเปิดแซนด์บ็อกซ์แล้วเชื่อมมาถึงฝั่งอ่าวไทย
เลือกพื้นที่ซึ่งได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีตในจังหวัดสุราษฎร์ธานี คือ เกาะสมุย
เกาะพะงัน เกาะเต่า ชาวยุโรปนิยมเข้ามาพักผ่อน
ตามที่ทุกฝ่ายเห็นตรงกันเรื่องการเปิดสมุย พลัส ตั้งแต่ 15 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป
โดยมีเหตุผลในการเลือกเปิด ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ สมุย พลัส (สุราษฎร์ธานี) กระบี่ พังงา เพราะเมื่อปี 2562 มีนักท่องเที่ยวรวมกันทำรายได้ 800,000 ล้านบาท คิดเป็นเกือบ 80 % ของรายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่ทำไว้ราว 2 ล้านล้านบาท
สำหรับ
“คนไทย” ที่จะเที่ยวเกาะสมุย
หากมาจากต้นทางจังหวัดควบคุมเข้มสูงสุดต้องกรอกข้อมูลก่อน
สะท้อนถึงมาตรการควบคุมดูแลอย่างมั่นใจ
นักท่องเที่ยวเองก็มั่นใจการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน
พื้นที่สมุยยังมีเกาะพยาม หมู่เกาะอ่างทอง ซึ่งมีปลาโลมาสีชมพู เรื่อยไปจนถึง เกาะสี่ เกาะห้า รวมอยู่ด้วย แต่ละฤดูจะเดินทางได้แตกต่างกัน จะต้องประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ให้ได้มากที่สุด
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท. เดินหน้าทำสมุย พลัส จะสามารถทำให้โครงการสมุยพลัสประสบผลสำเร็จทั้งเชิงรายได้ ความมั่นใจด้านสาธารณสุข และการจัดการสิ่งแวดล้อม โดยคาดการณ์ว่าเมื่อผ่านไป 1 เดือนแรก ระหว่าง 15 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2564 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 1,000 คน สร้างรายได้ราว 180 ล้านบาท
ขณะนี้ ททท.เดินหน้าประชาสัมพันธ์เชิญสื่อมวลชน เซเลบริตี้ และอินฟลูเอ็นเซอร์ จากทั่วโลกมาสัมผัสประสบการณ์ประทับใจ สำรวจสินค้าทางการท่องเที่ยว แล้วถ่ายทอดไปยังผู้ชม ผู้ติดตาม แฟนเพจ และเชิญนักธุรกิจจากบริษัทชั้นนำเข้ามาเจรจาธุรกิจหรือลงทุนในเกาะสมุย
สำหรับสถานการณ์เปิดสมุยพลัสวันแรก 15 กรกฎาคม 2564 มีผู้โดยสารต่างชาติเดินทางมา 9 คน เป็นสื่อมวลชนที่ ททท. เชิญมาโดยบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบินปฐมฤกษ์ PG 5125 กรุงเทพฯ – สมุย 11.10 น. รวม 5 คน จากสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี เที่ยวบิน 2 PG 5171 ถึงสมุย 18.15 น. มี 4 คนจากสิงคโปร์และฮ่องกง
ข่าวที่ 5 ททท.ผนึกหมื่นร้านค้าโหมอะเมซิ่งแกรนด์เซลแจกใหญ่2ล้านก.ค.-15กย.
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า โครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2021 : AMAZING ต่อเนื่อง 2 เดือน ระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม - 15 กันยายน 2564 เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว รวมถึงส่งเสริมและตอกย้ำภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายการช้อปปิ้ง (Shopping Destination) โดยร่วมกับพันธมิตรทั่วประเทศนำเสนอสินค้าและบริการขายผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมมอบสิทธิพิเศษให้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ
โดยมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการกว่า 10,000 ร้านค้า กระตุ้นผู้เข้าร่วมช้อปกว่า 500,000 คน ตั้งเป้าสร้างรายได้รวมให้พันธมิตรกว่า 1,000 ล้านบาท และ ททท. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2021 จะเป็นกลไกหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจและทำให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีกำลังใจในการดำเนินธุรกิจภายใต้การสนับสนุนทั้งในด้านการประชาสัมพันธ์และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดจากหน่วยงานภาครัฐ
โดยปีนี้จะเพิ่มการจัด 6 กิจกรรมไฮไลต์โครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2021 Amazing ยิ่งกว่าเดิม ดังนี้
1.สินค้าที่มีความหลากหลายหรือ Amazing Variety จากแบรนด์ดัง โรงแรม ร้านอาหาร สายการบิน
2. เสริมทำกิจกรรมแจกของรางวัล Amazing Lucky Draw มูลค่ารวมกว่า 2,000,000 บาท เพียงซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าที่ร่วมโครงการครบทุก ๆ 2,000 บาท สามารถสะสมยอดได้ตลอดระยะเวลาโครงการ รอลุ้นการจับรางวัลวันที่ 20 กันยายน 2564 และมอบรางวัล 27 กันยายน 2564 ณ อาคาร ททท. กิจกรรม Expat Amazing Week ร่วมกับแพลตฟอร์มชอปปิงออนไลน์ และศูนย์การค้า
3.จัดโปรโมชั่นพิเศษสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มต่างชาติพักอยู่ในไทย (Expat) ทำกิจกรรมพิเศษ Amazing Flash Sale ร่วมกับพันธมิตร หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ คัดสรรดีลสุดพิเศษสำหรับลูกค้าของโครงการ
4.กิจกรรม CEO Live พิเศษสุดพบกับผู้บริหาร ททท. และผู้มีอิทธิพลต่อวงการท่องเที่ยว (Influencers) จะมาไลฟ์สดขายสินค้าและบริการที่สุดแสนจะ Amazing
5.กิจกรรม Amazing Gift แจกกระเป๋า 2,021 ชิ้น ในวันที่ 12 สิงหาคม 2564
6.กิจกรรมร่วมสนุกลุ้นรับของรางวัล ผ่านช่องทาง Facebook Page ของโครงการทุกสัปดาห์ ซึ่งทุกกิจกรรมที่กล่าวมาจะดำเนินภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ข่าวที่ 6 ผู้นำTCEBเร่งภาคเหนือทำข้อมูลรอชง“ศบค.”เปิดเชียงใหม่แซนด์บ็อกซ์
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้จัดประชุมสัมมนาออนไลน์ร่วมกับทางทีเส็บภาคเหนือ และผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเปิดเมืองเชียงใหม่ หรือ “Chiangmai Sandbox” เพื่อทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้อง รับรู้ถึงความร่วมมือที่จะใช้แนวทางการดำเนินงาน และแผนปฏิบัติการรับมือกับปัญหาอุปสรรคที่จะต้องเฝ้าระวัง
โดยมีประเด็นไฮไลต์สำคัญต่าง ๆ ที่ทีเส็บจะต้องให้ผู้ประกอบการและหน่วยงานเกี่ยวข้องนำเสนอออกมาอย่างเต็มที่
เพื่อนำไปใช้เตรียมข้อมูลเป็นตัวแทนยื่นความประสงค์ขออนุมัติเปิด เชียงใหม่
แซนด์บ็อกซ์ ในที่ประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) รับพิจารณาภายในเดือนกันยายน
2564
สำหรับการประชุมออนไลน์เดินหน้าเตรียมงานเปิด เชียงใหม่ แซนด์บ็อกซ์ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 มีนางจุฑา ธาราไชย ผู้อำนวยการฝ่ายสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคเหนือ หรือทีเส็บภาคเหนือ พร้อมผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิอื่น ๆ เข้าร่วมประชุมและนำเสนอข้อมูลสำคัญ ๆ อย่างเต็มที่ โดยมีทั้ง รองอธิบดีกรมอนามัย นายกสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) หรือ TICA ด้วย
ช่วงที่ 2 ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ร้อนแรง หลายพื้นที่ต้องชะลอการเดินทางท่องเที่ยว แต่ก็ยังมีบางโซนใกล้บ้านของชาวอีสาน เดินทางภายในพื้นที่กันเองได้ ในเส้นทาง “พลังศรัทธา” ที่ “วัดป่าห้วยลาด” อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กับสถาปัตยกรรมงดงามให้ชม แต่จะต้องตรวจสอบก่อนเข้าไปสักการะ ทางด้าน “สุขภาพ” เภสัชกรศิริราชพยาบาลแนะ “วิธีกำจัดความเครียดเรื้อรัง” ฝึกหายใจและกล้ามเนื้อรับมือสถานการณ์โควิด-19 ตามด้วยข่าว “การบินไทย” แจ้งตลาดหลักทรัพย์ขอปรับใหม่ แผนบินช่วงโควิด วันนี้-30 ก.ย.64 ทั้งเที่ยวบินในและต่างประเทศทั่วอาเซียนกับเอเชีย 20 เมือง ขณะที่ “ดุสิตดีทู หัวหิน” เปิดโรงแรมใหม่โดยจัดโปรพัก 2,499 บาท/ห้อง/คืน
“วัดป่วยห้วยลาด”ภูเรือเส้นทางแห่งพลังศรัทธาชมสถาปัตยกรรมงดงาม
ในขณะที่จังหวัดต่าง
ๆ มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ทว่าคนก็ยังคงต้องการชารต์พลัง เพื่อต่อสู้กับความเครียด
การได้ไปเสริมสร้างเติมบุญกราบพระศักดิ์สิทธิ์ ในพื้นที่ใกล้บ้านแถบอีสาน
เส้นทางศรัทธา ที่ "วัดป่าห้วยลาด" บ้านห้วยลาด ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเสริมพลังแห่งศรัทธา เมื่อครั้งอดีตเคยเป็นสำนักสงฆ์ห้วยลาด ก่อตั้งขึ้นโดย หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ท่านได้มาจาริกธุดงค์ยังภูครั่ง โดยได้ทำเลที่ตั้ง สร้างสถานธรรม
กระทั่งปัจจุบันจดทะเบียนเป็น "วัดป่าห้วยลาด" ในสถานการณ์ปกติจะเปิดให้แวะสักการะ หรือชมสถาปัตยกรรมภายอันงดงามภายในวัด เปิดต้อนรับทุกวันตั้งแต่ 07:00-18:00 น. แต่ตอนนี้อยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ก่อนเข้าไปเยี่ยมชมวัดป่าห้วยลาด ควรจะสอบถามก่อนเข้าไปได้ที่ โทร. : 093 2429 897
ภายในวัดป่าห้วยลาดมีสถานที่ดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวเชิงศาสนาคือ “ศาลาเฉลิมพระเกียรติ” เป็นพระอุโบสถ ภายในประดิษฐานพระสัพพัญญูรู้แจ้งฯ หรือหลวงพ่อขาว ความสูงถึง 19 เมตร อีกทั้งได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตอัญเชิญ พระปรมาภิไธย “ภ.ป.ร.” และอักษรพระนามาภิไธย “ส.ก.” มาติตตั้ง ด้านหน้าพระอุโบสถบริเวณทางขึ้นมีสัญลักษณ์พลังหยิน-หยาง แทนความสมดุลของพลังในจักรวาลอยู่ด้วย
นักท่องเที่ยวยังสามารถมาถ่ายรูปกับจิตรกรรมและประติมากรรรมอันวิจิตรงดงาม
โดยทางวัดได้ถ่ายทอดเรื่องราวของดินแดนแห่งป่าหิมพานต์ และบรรดาเทพต่างๆ อาทิเช่น พระตรีมูรติ พระอินทร์ เจ้าแม่กวนอิม
พญานาค จระข้ และองค์เทพอื่น ๆ
ขอให้ทุกคนดูแลรักษา สุขภาพ ทำบุญ เติมพลังศรัทธา
เพื่อก้าวพ้นวิกฤตโควิด ครั้งนี้ไปด้วยกัน
แนะวิธีกำจัดความเครียดเรื้อรังรับมือโควิดหัดฝึกการหายใจ-กล้ามเนื้อ
อาจารย์ ดร. กภ.ยิ่งรัก
บุญดำภาควิชาสรีรวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
มีข้อแนะนำการรับมือ
“กำจัดความเครียดเรื้อรังในสถานการณ์ต้องรับมือกับโควิด-19” ที่คงอยู่มายาวนานร่วมปีกว่า เราต่างได้รับข่าวสารมากมายทั้งข่าวดีและข่าวร้าย
ข่าวจริงและข่าวลวง
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าข้อมูลเหล่านี้ได้กลายเป็นภัยคุกคามทางจิตใจและก่อตัวเกิดเป็นความเครียดภายในร่างกาย
วิธีการจัดการความเครียดให้ได้ผล
ความเครียดเป็นภาวะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การเรียนรู้ที่จะจัดการความเครียดให้ได้เร็วที่สุดจึงเป็นผลดีที่สุดต่อร่างกาย การเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจจะช่วยให้เราสามารถเผชิญหน้ากับความเครียดได้ง่ายขึ้น ทำให้จิตใจสงบ และอาจนำไปสู่การมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น วิธีการจัดการความเครียดมีด้วยกันหลากหลายวิธี อาทิ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายเป็นประจำ การนอนหลับให้เพียงพอ การฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การฝึกการหายใจ การทำกิจกรรมนันทนาการ การพูดคุยปรึกษากับบุคคลอื่น และหากมีปัญหาที่ไม่สามารถจัดการได้ การพบนักจิตวิทยาก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการจัดการความเครียดที่ดี
1.การฝึกการหายใจ
ตามปกติผู้ที่มีภาวะเครียดมักจะมีลักษณะการหายใจที่ตื้นและถี่
การหายใจลึกและช้าเป็นการช่วยผ่อนคลายความเครียดวิธีหนึ่ง
เนื่องจากสัญญาณจากการหายใจลึกจะถูกส่งขึ้นไปยังสมองทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสงบลง
การฝึกการหายใจจะเริ่มจากการหายใจเข้า 4
วินาที (นับ 1-4) และหายใจออก 8 วินาที (นับ 1-8) โดยการหายใจเข้าลึกจะเริ่มจากการหายใจเข้าผ่านทางจมูก
ค่อย ๆ นับ 1-4 ให้อากาศเคลื่อนที่ผ่านจมูกเข้าไปถึงปอดส่วนล่าง
อากาศที่เข้าไปจะดันกระบังลมลงต่ำและดันท้องให้พองออก จากนั้นค่อย ๆ หายใจออก นับ 1-8
ไล่อากาศออกจากปอดจนหมดและหน้าท้องแฟบลง ฝึกหายใจเข้า-ออก
แบบนี้ติดต่อกัน 4-5 ครั้ง
2.การฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เมื่อมีความเครียดหรืออาการเชิงลบเกิดขึ้น
สัญญาณจากสมองจะทำให้กล้ามเนื้อเกิดความตึงตัวอย่างอัตโนมัติ
ในทางกลับกันการคลายตัวของกล้ามเนื้อจะส่งผลให้จิตใจผ่อนคลายและช่วยกำจัดความเครียดได้เช่นเดียวกัน
สำหรับ “ผลเสีย” จากความเครียดเรื้อรัง มีดังนี้
1.ระบบไหลเวียนโลหิต ความเครียดเรื้อรังส่งผลต่อระดับของฮอร์โมนคอร์ติซอลและอะดรีนาลีนในเลือด ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น รเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดภาวะหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมองตามไปด้วย
2.ระบบประสาท ผลของความเครียดเรื้อรังต่อการเปลี่ยนแปลงของสมอง พบว่าระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลที่สูงในเลือดจะลดการทำงานของสารสื่อประสาทเซโรโทนินในสมองทำให้ร่างกายทนต่อภาวะความเครียดได้น้อยลง นำไปสู่การเกิดโรควิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าได้ การมีระดับคอร์ติซอลสูงเป็นระยะเวลานาน ทำให้เซลล์ประสาทที่ตายมีจำนวนมากขึ้น สภาพแวดล้อมในสมองถูกรบกวน จึงเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคความเสื่อมทางระบบประสาท อาทิ โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน และโรคความจำเสื่อมอื่น ๆ ได้
3.ระบบทางเดินอาหาร - ฮอร์โมนคอร์ติซอลสามารถกระตุ้นการหลั่งกรดภายในกระเพาะอาหาร ดังนั้นความเครียดเรื้อรังจึงเพิ่มการหลั่งกรด ส่งผลให้เยื่อบุผิวภายในทางเดินอาหารถูกทำลายและนำไปสู่การเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ และโรคอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย
4.ระบบสืบพันธุ์ ผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์เพศหญิงพบว่าฮอร์โมนคอร์ติซอลที่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากความเครียดจะไปลดการหลั่งของฮอร์โมน FSH และ LH ทำให้การตกไข่ผิดปกติไปและส่งผลกระทบต่อการฝังตัวของตัวอ่อน ส่วนเพศชายพบว่าฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มสูงขึ้นจะไปรบกวนกลไกการสร้างอสุจิ อสุจิมีจำนวนลดลง รูปร่างผิดปกติ ส่งผลต่อกระบวนการสืบพันธุ์
5.ระบบกระดูกและข้อ ผลเสียต่อระบบกระดูกและกล้ามเนื้อนั้น พบว่ากล้ามเนื้อบริเวณคอ ไหล่ และศีรษะมีแนวโน้มที่จะมีอาการตึงและเกร็งเพิ่มขึ้น และสามารถก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะและอาจนำไปสู่โรคไมเกรนได้
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “การบินไทย”แจงตลาดหลักทรัพย์ขยับบินใน/ต่างประเทศแก้วิกฤตโควิด
นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้รับมอบอำนาจจากผู้บริหารแผน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ทำหนังสือถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งการปรับเส้นทางบินในและต่างประเทศช่วงเดือนกรกฎาคม – 30 กันยายน 2564 ทั้งเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสาร และขนส่งสินค้าทางอากาศ (cargo) ในช่วงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ตามรายละเอียดดังนี้
1.ขอหยุดบินชั่วคราวเฉพาะเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารในประเทศ ระหว่างวันนี้-30 กันยายน 2564 รวม 3 เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ ปลายทาง เชียงใหม่ ภูเก็ต และกระบี่
2.ขอกลับมาบินใหม่ชั่วคราวเส้นทางระหว่างประเทศ เพื่อขนส่งผู้โดยสาร ระหว่างวันนี้-30 กันายน 2564 รวม 20 เส้นทาง ได้แก่ ไป-กลับ กรุงเทพฯ ปลายทาง เมืองปลายทางในประเทศแถบอาเซียนและเอเชีย ได้แก่ พนมเปญ เวียงจันทร์ ฮานอย โฮจิมินท์ ย่างกุ้ง สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ จาการ์ตา เดนปาร์ซา ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว เฉินตู คุณหมิง เซียะเหมิน ไทเป โซล ปูซาน ฟูกูโอกะ เชนได
3.บริษัท ไทยสมายล์ แอร์เวย์ จำกัด ที่การบินไทยถือหุ้น 100 % ขอปรับเที่ยวบินในประเทศ ช่วง 12-31 กรกฎาคมนี้ รวม 7 เส้นทาง คือ อุบลราชธานี อุดรธานี เชียงราย สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ และนราธิวาส โดยจะบินเฉพาะวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ เพียง 1 วันเท่านั้น ปัจจุบันจึงยังคงบินตามปกติ 4 เส้นทางหลัก คือ เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต และหาดใหญ่
4.ไทยสมายล์ ขอปรับเวลาบินในประเทศ 2 เส้นทาง ได้แก่ ภูเก็ต และขอนแก่น ที่จะกลับมาถึงกรุงเทพฯ ให้ทัน 19.00 น. สอดคล้องกับการปฏิบัติตามศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ออกประกาศกรกฎาคมนี้ ห้ามบุคคลออกนอกเคหะสถานตั้งแต่ 21.00-04.00 น.
ข่าวที่สอง “ดุสิตดีทูหัวหิน”เปิดใหม่จัดโปรแนะนำดึงคนเข้าพักเหลือ2,499บาท/คืน
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มดุสิตธานี เดินหน้าเปิดโรงแรมใหม่ “ดุสิตดีทู หัวหิน” ตั้งแต่ 16 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป เป็แห่งที่ 3 ในหัวหิน ห้องพักและห้องสวีทรวม 152 ห้อง ขนาดตั้งแต่ 30 ถึง 92 ตารางเมตร ชูจุดเด่น วิถีใหม่ เน้นคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง เพื่อแนะนำบริการของโรงแรมใหม่จึงจัดทำแพคเกจ “The Journey has Begun” ราคาห้องพักเริ่มต้น 2,499 บาทสุทธิ/ห้อง/คืน รวมอาหารเช้า 2 คน และเตียงเสริมของลูกค้าอายุต่ำกว่า 18 ปี ส่วนลดอาหารและเครื่องดื่ม 20% โดยลูกค้าเข้าพักต่อเนื่อง 2 คืน จะได้รับเพิ่มเป็นเซ็ทอาหารใต้สูตรต้นตำรับมื้อเย็น 2 คน
ดูรายละเอียดเพิ่มหรือสำรองห้องพักได้ที่ https://www.dusit.com/dusitd2-huahin/th/specialoffers/the-journey-has-begun/
สำหรับห้องพัก
“ดุสิตดีทู หัวหิน” ออกแบบและตกแต่งแบบร่วมสมัย
ประกอบด้วย
1.ห้องพักและห้องสวีทรวม 152 ห้อง ขนาดตั้งแต่ 30
ถึง 92 ตารางเมตร
ห้องพักทุกห้องมีกระจกเปิดรับแสงธรรมชาติที่มีความสูงตั้งแต่เพดานจรดพื้น
ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย โรงแรมนำเสนอสิ่งอำนวยครบครัน เช่น
อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง สมาร์ททีวี 4K UHD ขนาด
55 นิ้วที่ให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อความบันเทิงได้ง่าย
2.ห้องอาหาร “คาเฟ่ซอย” ที่จะเปิดให้บริการตลอดทั้งวัน นำเสนออาหารใต้แบบดั้งเดิม เช่น อาหารจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ภูเก็ต สงขลา และกระบี่
3.สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้บนชั้นดาดฟ้าและสระเด็ก
4..สวนขนาดใหญ่
5 .ห้องออกกำลังกาย
และห้องประชุม “ดอกจอก” รองรับได้มากถึง 76 คน
6.บริการเสริมจากโปรแกรม ‘ดุสิตแคร์’
ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยทุกครั้งที่เข้าพัก ซึ่งประกอบไปด้วยมาตรฐานใหม่ในการบริการ
เช่น เช็คอินตามเวลาที่ลูกค้าสะดวก เลือกรับประทานอาหารเช้าได้ทุกเวลา
และชำระเงินผ่านมือถือ
7.โซนรองรับกลุ่มครอบครัว คือ “เดอะแบรี่ คลับ” เป็นโซนสำหรับเด็ก นำเสนอกิจกรรมให้ครอบครัวได้ร่วมสนุกตลอดการเข้าพัก อาทิ กระบะทราย บ้านต้นไม้ การเพ้นท์กระเป๋า ปลูกต้นไม้ เรียนทำอาหาร และเกมส์ล่าขุมทรัพย์ที่มีสัญลักษณ์ ‘แบร์รี่’ มาสคอตลูกครึ่งหมีและเนื้อทรายคอยสร้างความเพลินเพลิน และให้ความรู้เด็ก ๆ เกี่ยวกับสัตว์ที่กำลังจะสูญพันธุ์ โดยลูกค้ารุ่นเยาว์จะได้รับแผนที่หมีน้อยเพื่อทำกิจกรรมสะสมแสตมป์และลุ้นรับไอศกรีมได้ด้วย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง
สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น