พลเอกประยุทธ์ประธาน“ศบศ.ปลื้มภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์21วันปั๊มรายได้534ล้าน ททท.ได้ไฟเขียวใช้สูตร7+7 กระตุ้นต่างชาติเที่ยวภูเก็ตเชื่อมอันดามัน3จังหวัด

นายกฯประยุทธ์นั่งหัวโต๊ะ“ศบศ.ปลื้มภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์21วันปั๊มรายได้534ล้าน

ททท.ได้ไฟเขียวใช้สูตร7+7 กระตุ้นต่างชาติเที่ยวภูเก็ตเชื่อมอันดามัน3จังหวัด

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #PhuketSandbox #TAT

 

       นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชสา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมการประชุมคณะกรรมการ ศบศ. ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 ผ่าน VDO Conference โดยเน้นย้ำและชื่นชมทุกภาคส่วนถึงความสำเร็จในการร่วมมือกันทำโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ : Phuket Sandbox  ซึ่งสามารถทำสถิติตามรายละเอียดดังนี้

 

1.นำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 21 วัน ระหว่าง 1 – 21 กรกฎาคม 2564 รวม 9,358 คน 

2.มียอดการจองห้องพักตามมาตรฐาน SHA+ สะสมระหว่างกรกฎาคม- กันยายน 244,703 คืน คิดเป็นอัตราการเข้าพัก 10.12 %

3.ประเมินการสร้างรายรับจากการท่องเที่ยว 534.31 ล้านบาท

      

นายธนกร กล่าวว่านายกรัฐมนตรีฯ ยังได้เห็นชอบมาตรการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าร่วมภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างภูเก็ตกับพื้นที่นำร่องอื่นตามสูตรที่ ททท.เสนอไป คือ 7+7  นั่นคือ พักอยู่ภูเก็ต 7 วัน และเดินทางไปเที่ยวพื้นที่อื่น ๆ ได้อีกอย่างน้อย 7 วัน เริ่มตั้งแต่1 สิงหาคม 2564 เป็นต้นป

 

พื้นที่เชื่อมโยงจากภูเก็ตไปยังเส้นทางกำหนด ได้แก่ 1.สุราษฎร์ธานี 3 แห่ง คือ เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า 2.กระบี่ 3 เกาะ คือ เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล และ 3.พังงา 3 แห่ง คือ เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่   

 

โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการดังนี้

1.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานภาคเอกชนและภาคประชาชนเพื่อสร้างความเข้าใจให้คนในพื้นที่ร่วมกัน  รวมทั้งพิจารณาจัดเตรียมแผนการดำเนินการบนระเบียบหลักเกณฑ์และมาตรฐาน (Standard of Procedure :SOP) เดียวกับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เพื่อมุ่งเน้นความปลอดภัยและการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ และ

2.มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดทำรายละเอียดแผนการเชื่อมโยงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเดินทางระหว่างภูเก็ตและพื้นที่นำร่องอื่น เพื่อเสนอให้ที่ประชุม ศบค. พิจารณาต่อไป และให้พิจารณาจัดทำแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ เพื่อนำเสนอให้ที่ประชุม ศบศ. และ ศบค. พิจารณาต่อไปด้วยเช่นกัน

     นายธนกร กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายปรับข้อจำกัดต่าง ๆ และอำนวยความสะดวก เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศในระยะยาว พุ่งเป้า 4 กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่

 

1.กลุ่มประชากรโลกที่มีความมั่งคั่งสูง หรือ Wealthy global citizen

2. กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ หรือ Wealthy pensioner

3.กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย หรือ Work-from-Thailand professional

4.กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ (High-skilled professional)

โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาข้อเสนอในรายละเอียดต่อไป เพื่อร่วมมือกันปฏิบัติตามนโยบายขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย ตามข้อเสนอของทีมปฏิบัติการเชิงรุกทาบทามทั้งบริษัทเอกชนไทยและต่างประเทศ ฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลับมาโดยเร็ว 

“สมุย พลัส โมเดล”7วันนักท่องเที่ยวขยับแค่20คน

                ส่วนความเคลื่อนไหวของ “สมุย พลัส โมเดล” ณ วันที่ 21 กรกฎาคม 2564 ททท.และศูนย์ปกฎิบัติการ Command Center Samui Plus Model อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีรายงานสรุปดังนี้

 

1.นักท่องเที่ยวสะสมรวม 7 วัน ระหว่างวันที่ 15-21 กรกฎาคม 2564 รวมทั้งหมด 20 คน เฉพาะวันที่ 21 กรกฎาคม มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มอีก 2  คน

                2.มีนักท่องเที่ยวเดินทางข้ามจากภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เข้ามายังสมุย ยอดสะสม 15-21 กรกฎาคม รวม 86 คน เฉพาะวันที่ 21 กรกฎาคม มี 16 คน

                3.นักท่องเที่ยวยังมี 9 ชาติ ได้แก่ อังกฤษ 4 คน เยอรมัน 4 คน ฝรั่งเศส 2 คน สวิตเซอร์แลนด์ 1 คน โปแลนด์ 1 คน ฮ่องกง 3 คน ไต้หวัน 3 คน สิงคโปร์ 1 คน

4.การตรวจนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสมุยยังไม่พบยอดผู้ติดเชื้อโควิด โดยตรวจครั้งที่ 1 ไปแล้ว 19 คน ตรวจครั้งที่ 2 ทำแล้ว 8 คน