3บิ๊ก“ททท.รับโยบายรมว.พิพัฒน์ชงศบค.เคาะสูตรปั๊มเพิ่มทัวร์ต่างชาติ7+7 โชว์ผล18วันเปิด2เกาะ“ภูเก็ตแซน์บ็อกซ์-สมุยพลัส”ท่องเที่ยวเริ่มเห็นแสง
3บิ๊ก“ททท.รับโยบายรมว.พิพัฒน์ชงศบค.เคาะสูตรปั๊มเพิ่มทัวร์ต่างชาติ7+7
โชว์ผล18วันเปิด2เกาะ“ภูเก็ตแซน์บ็อกซ์-สมุยพลัส”ท่องเที่ยวเริ่มเห็นแสง
เรื่องและภาพโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT
#PhuketSandbox #SamuiPlusModel #เปิดประเทศ120วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วย นายศิริปกรณ์
เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ผู้รับผิดชอบโครงการ
“ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” พื้นที่นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวโดยไม่กักตัว 14 วัน ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2564 นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา
รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิก ผู้รับผิดชอบโครงการ “สมุย พลัส โมเดล” พื้นที่ที่ 2
เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่วันที่
15 กรกฎาคม 2564
และทีมประชาสัมพันธ์ ททท. พบปะสื่อมวลชนผ่านระบบออนไลน์
Zoom เมื่อวันจันทร์ที่
19 กรกฎาคม 2564
เวลา 13.00 -14.30 น. โดยได้นำเสนอข้อมูลความคืบหน้าของทั้ง 2
โครงการ คือ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” กับ
“สมุย พลัส โมเดล” ตามรายละเอียดดังนี้
“ททท.”ชง ศบค.เคาะสูตร7+7ปั๊มทัวร์ต่างชาติเข้า“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์-สมุยพลัส”
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวในฐานะผู้รับผิดชอบการเปิดโครงการ “สมุย พลัส โมเดล” ตั้งเป้าหมาย 1 เดือนแรก ระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม -15 สิงหาคม 2564 จะนำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติมายังสมุยให้ได้ 1,000 คน ขณะนี้มีผู้เดินทางเฉลี่ยวันละ 15 คน จะต้องรอดูปลายเดือนกรกฎาคมต่อถึงสิงหาคมนี้ เมื่อความต้องการของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นได้ บวกกับที่จะขอให้ทางคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 พิจารณาให้ใช้สูตรการกระจายนักท่องเที่ยวแบบ 7+7 คือ พักภูเก็ต 7 วัน แล้วเดินทางไปเที่ยวสมุยได้อีก 7 วัน ก็มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ถึงเป้าหมาย
และถึงแม้ล่าสุดทาง
“สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย” จะออกประกาศให้สายการบินต่าง ๆ หยุดบินภายในประเทศชั่วคราว
เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ สู่ พื้นที่จังหวัดสีแดงเข้มเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวม 13
จังหวัด รวมทั้งตามประกาศในราชกิจจานุเบกษาเกี่ยวกับการล็อกดาวน์พื้นที่ดังกล่าวด้วย
เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2564
โดยยังคงมีรายละเอียดตามเงื่อนไขยกเว้น
เพื่อให้สายการบินบริการนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาโครงการ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์
และ สมุย พลัส โมเดล สามารถบินได้ตามปกติ
โครงการ
“สมุย พลัส โมเดล” จึงยังคงมีสายการบินตรงเข้าสมุย คือ “บางกอกแอร์เวย์ส” วันละ 3 เที่ยว แบ่งบริการออกเป็น 2 แบบ คือ
แบบที่ 1 นักท่องเที่ยวต่างชาติบินมาลงต่อเครื่องสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งบางกอกแอร์เวย์สทำการขายร่วมกับสายการบินนานาชาติ
เช่น ANA ลุฟท์ฮันซ่า
และแอร์ไลน์สอื่น ๆ เมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงสุวรรณภูมิ จะมีอาคารผู้โดยสารเฉพาะภูมิรองรับนการต่อเที่ยวบินเข้าสมุยโดยตรง
พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องตรวจเอกสารเข้าเมือง COE :Cirtification of Entry และการแนะนำนักท่องเที่ยวลงทะเบียนแอพลิเคชั่นให้เรียบร้อย
เพื่อบินเข้าสมุยต่อไป
แบบที่ 2 บางกอกแอร์เวย์ส มีเที่ยวบิน ไป-กลับ ภูเก็ต-สมุย เริ่มบินตั้งแต่ 16 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นมา ปริมาณผู้โดยสารดีกว่าสมุยพลัสโดยตรง
มีวันละ 50-60 คน สะท้อนถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ท่องเที่ยวนานและการเข้าพัก
“โรงแรม” ต่าง ๆ ตามเงื่อนไขด้วย
การเข้าพัก
ช่วงวันที่ 1-7 จะต้องพักในโรงแรมทางเลือก
ALQ :Alternative Quarantine ที่มีระบบเชื่อมกับโรงพยาบาลในพื้นที่ ซึ่งกำหนดลักษณะทางกายภาพ
เกี่ยวกับการจัดการด้านโรงพยาบาล ประชากร ซึ่งมีจำนวนน้อยกว่าภูเก็ต
หากเกิดการระบาดอาจแพร่ได้เร็ว เพราะประชากรกระจุกตัวหนาแน่น
ชาวสมุยจึงต้องป้องกันไว้
จากนั้นวันที่ 8-14 นักท่องเที่ยวแต่ละคนสามารถเลือกไปพักโรงแรมที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA PLUS Hotels หรือจะพักที่โรงแรม ALQ เดิมก็ได้
ขณะนี้มีโรงแรมในสมุยสนใจเข้าร่วมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ALQ จาก 8 เป็น 17 แห่ง
และธุรกิจต่าง ๆ ก็ทยอยลงทะเบียนเข้ามาตรฐาน SHA PLUS ด้วย มีทั้งโรงแรม ขนส่ง ร้านอาหาร สถิติรวมขณะนี้มีประมาณ
160 แห่ง มากสุดคือโรงแรมที่พัก
98 แห่ง
ททท.เตรียมแผนเดินหน้าต่อเพิ่มทำการตลาดอย่างเข้มข้น
นำนักท่องเที่ยวชาติเข้าสมุย พลัส โดยจะพิจารณาบนปัจจัยความแตกต่างกับภูเก็ต
แซนด์บ็อกซ์ คือ
เรื่องที่ 1 โมเดล “สมุย พลัส โมเดล” ตั้งแต่เรื่องการเข้าพัก 7 คืนแรก ก็จะต่างจากภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์ ได้เปิดก่อน
15 วัน
เรื่องที่
2 เที่ยวบินตรง
มีสายการบินสนใจบินตรง กำลังคุยเจ้าของสนามบินคือบางกอกแอร์เวย์ส
ไม่มีข้อห้ามพร้อมต้อนรับสายการบินอื่น ๆ
เรื่องที่
3 การพิจารณาขยายการรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2564
ททท.ได้พูดคุยกับทางสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย
เสนอขอให้ ททท.ผลักดันสูตร 7+7
คือ ให้นักท่องเที่ยวอยู่ภูเก็ตครบ 7 คืน แล้วทำ PCR Test ให้ครบ จากนั้นก็บินเข้าสมุยพักค้างอีก 7 คืน แล้วสามารถบินต่อไปยังพื้นที่อื่น ๆ ได้
สำหรับสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสมุย
พลัส 3 วันแรก ระหว่าง
15-18 กรกฎาคม 2564 มีจำนวน 57 คน โดยมียอดจองล่วงหน้าเข้ามาตลอด
หากสามารถย่นระยะเวลาให้พักภูเก็ต 7 คืน
แล้วมาต่อสมุยอีก 7 คืน เพื่อเปิดทางเลือกให้นักท่องเที่ยวเกิดความนิยมจองเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น
จะสร้างโอกาสโดยเน้นการชูจุดขายความเฉพาะเรื่องสร้างคุณภาพที่ดีถึงแม้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวน้อยเพื่อทำให้คนอยากมาท่องเที่ยว
นายฉัททันต์กล่าวว่า
“เป้าหมายการขยายฐานตลาดอนาคต” เข้าสู่โครงการ สมุย พลัส โมเดล มีเกณฑ์หลัก ๆ คือ
1.ต้องเน้นตลาดที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบตามมาตรฐานแล้ว
มีความคุ้นเคยและมีความต้องการชัดเจนที่ต้องการมาเที่ยวสมุย
2.มีนโยบายให้
สำนักงาน ททท.ต่างประเทศ ที่อยู่ในความดูแลของ ททท.เอเชีย และแปซิฟิกใต้ เริ่มขายโปรแกรมท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูเก็ตกับสมุยปูพรมไปได้แล้ว
ขณะเดียวกันทางสมุยเองก็ประกาศจะเป็น “Wellness Capital of Asia :เมืองท่องเที่ยวที่มีจุดเด่นด้านการกินดีอยู่ดี” เนื่องจากมีสปาดีหลายแห่ง มีธรรมชาติบริสุทธิ์
คนท้องถิ่นเน้นบริการด้านสุขภาพมายาวนาน
ททท.จึงต้องการสนับสนุนเพราะสอดคล้องกับแผนตามนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-
เศรษฐกิจสีเขียว-หรือ : BCG -Bioeconomy Circular Greeneconmy ควบคู่กันไป ไม่เฉพาะสมุยเท่านั้น ยังสามารถจะกระจายไปถึง
เกาะเต่า เกาะพะงัน ด้วย
ผู้ว่าฯยุทธศักดิ์ย้ำ “รมว.พิพัฒน์”เร่งเสนอสูตร 7+7 ศบค.พุธ 21ก.ค.64
“ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ยืนยันว่า แผนผลักดันใช้สูตร สูตร 7+7 เพื่อเพิ่มรายได้จากการใช้ศักยภาพของภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ กับ สมุย พลัส โมเดล เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน นั้น เป็นไปตามนโยบายนายพิพัฒน์ รัชกิจการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ ททท.เร่งผลักดันเรื่องวันพักค้างคืนของนักท่องเที่ยวในสมุยต่ออีก 7 วัน โดยเตรียมนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ศบค.วันพุธที่ 21 กรกฎาคม นี้ เวลา 9.30 น. ตามที่รัฐมนตรีพิพัฒน์ให้นโยบาย ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาเพราะเป็นภูเก็ตกับสมุยต่างก็จับคู่เป็น Bubble ได้ ซึ่งจะปูทางขยายการเดินทางให้นักท่องเที่ยวต่อไปยัง กระบี่ พังงา รวมทั้ง สมุยมายังภูเก็ตก็สามารถทำได้เช่นกัน
นายฉัททันต์กล่าวเสริมว่า การขับเคลื่อนสูตร สูตร 7+7 ททท.ได้ศึกษามาพอสมควร พร้อมจะเสนอที่ประชุม ศบค.หลังจากได้คุยกับทุกฝ่ายทั้งผู้ประกอบการในสมุย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ต่างส่งเสียงเชียร์ให้นำสูตรนี้มาใช้โดยเร็ว เพียงแต่ตอนนี้ จะต้องรอดูจำนวนนักท่องเที่ยวภาพรวมมีมากเพียงพอขนาดไหน ถ้าเป็นไปได้ก็อาจจะเริ่มใช้สูตร 7+7 ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป
สำหรับความคืบหน้าของนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้า สมุย สรุป ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 มีดังนี้
1.ยอดจองของนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสมุยล่วงหน้าเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป
ระหว่าง 19 -31 กรกฎาคม นี้
มียอดจองขาเข้าประเทศ ต่อเที่ยวบินจากกรุงเทพฯไปยังสมุยรวม 101 ที่นั่ง เดือนสิงหาคม มี 92 ที่นั่ง เดือนกันยายน 32 ที่นั่ง เดือนตุลาคม 22 ที่นั่ง ส่วนยอดจองห้องพักทั้งหมดยังไม่ได้รวบรวมเพราะแยกสถานที่พักโรงแรมออกเป็น
2 ส่วน คือ SHA
PLUS กับ ALQ
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ททท. กล่าวว่า หลังจากทางสหภาพยุโรปประกาศเรื่องการปรับลดระดับประเทศไทยเพราะมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดสูงขึ้นนั้น ล่าสุดทางสหราชอาณาจักร (UK) ยืนยันไทยยังอยู่ในระดับสีเหลือง หรือ Amber list เมื่อนักท่องเที่ยวมาไทยแล้วกลับเข้าประเทศจะยังไม่ต้องกักตัว แต่ต้องตรวจหาเชื้อตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่นเดียวกับฝรั่งเศสก็ยังให้ไทยเป็นสีส้ม เบื้องต้นตอนนี้จึงยังไม่มีประเทศใดในยุโรปให้ไทยเป็นประเทศที่จัดอยู่ในระดับสีแดง นั่นหมายถึงนักท่องเที่ยวสามารถกลับเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว
ยกเว้นอนาคตหากมีการเปลี่ยนแปลง
นักท่องเที่ยวเหล่านี้อาจจะเลือกอยู่ภูเก็ต สมุย ให้คุ้ม โดยเพิ่มวันพักเป็นคนละ 1
เดือน แล้วจึงตัดสินใจกลับไปกักตัวในประเทศตนเอง
10 วัน
ก็เป็นไปได้
นายศิริปกรณ์ ได้ยกตัวอย่างเสียงสะท้อนของพันธมิตร VOS : The Voice of Stakholder ที่มีต่อโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” มีเพจที่แชร์เป็นสาธารณะคือเพจ “Baan Ar-Jor : บ้านอาจ้อ” ได้นำเสนอข้อมูลความเห็นของผู้ประกอบการท่องเที่ยวเรื่องความมั่นใจในโครงการ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ โดยเฉพาะโรงแรมต่าง ๆ และกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ยืนยันได้รับผลเชิงบวกในทางที่ดี
อีกทั้ง
ททท.จะเริ่มนำเสนอการขายพ่วง กำหนดจะเริ่ม ส่วน วันที่ 1 สิงหาคม 2564 ตามสูตร ภูเก็ตกับสมุย 7+7
และพ่วงต่อเนื่องไปยัง สุราษฎร์ธานี ทั้งสมุยบวกเกาะพะงัน เกาะเต่า หรืออนาคตต่อด้วย
กระบี่ ที่ 3 เกาะ พีพี
เกาะไหง โดยเฉพาะไร่เลเรียกตัวเองว่า “เกาะแห่งวัคซีน” ได้รับการฉีดวัคซีนครบร้อยเปอร์เซนต์
ตอนนี้เหลืออย่างเดียวคือรักษาระดับภูมิคุ้มกันคนใหม่ที่เข้าไปในพื้นที่
ซึ่งสามารถท่องเที่ยวได้ เพื่อที่จะทำเป็นการ Hopping Island ได้ รวมถึง “พังงา” เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ และเขาหลัก
(เดิมเสนอปันหยี) จะเป็นแผ่นดินแห่งแรกที่รับนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่แบบควบคุมหรือ
Seal Route
@โชว์ปฏิบัติการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์18วันเกิดผลลัพธ์7ปรากฎการณ์
นายศิริปกรณ์กล่าวว่า
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้หารือกับผู้บริหารการบินไทย และสายการบินไทยสมายล์ ถึงเรื่องบริการต่อเที่ยวบินต่างประเทศที่สนามบินสุวรรณภูมิเข้าภูเก็ต
และสมุย ซึ่งทางการบินไทยจะเริ่มหลังวันที่ 4 สิงหาคม 2564 แต่ ททท.ตั้งเป้าจะดีเดย์วันที่ 1 สิงหาคม แต่ก็จะต้องดูสถานการณ์กันอีกครั้งถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น
ตอนนี้สถิตินักท่องเที่ยวเข้า “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” สรุป ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 ประกอบด้วย
1.จำนวนนักท่องเที่ยวสะสม ระหว่าง 1-18 กรกฎาคม นี้ รวม 8,377 คน จองใช้ห้องพัก 229,716 คืน (ตอนนี้ให้เรียกว่า pax night ไม่ใช่ roomnight ซึ่งเป็นกาจองพักที่นักท่องเที่ยวใช้ยื่นขอใบเข้าเมือง COE)
2.วันพักเฉลี่ย
11.32 คืน/คน จากจำนวนรวม
55,100 คน เข้าพักแล้วในช่วงเดือนกรกฎาคมรวม
18 วัน
3.ยอดจองที่พัก
แบ่งเป็น เดือนกรกฎาคม 185,508 คืน เดือนสิงหาคม
41,108 คืน และ เดือนกันยายน
3,100 คืน ตัวอย่างวันที่
18 กรกฎาคม ผลการตรวจหาเชื้อจากนักท่องเที่ยวต่างชาติครั้งที่สอง
137 คน ไม่พบเชื้อ
ครั้งที่สาม 103 คน
ไม่พบผู้ติดเชื้อ
4.วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 ตลอดทั้งวันมีนักท่องเที่ยวรวม 915 คน จาก 6 เที่ยวบิน มากับ 5 สายการบิน ตรวจพบผู้ติดเชื้อเป็นคนในประเทศ 1 คน ส่วนต่างประเทศไม่มีหรือเป็นศูนย์นั่นเอง
5.ภูเก็ตมีเที่ยวบินเข้าภูเก็ตวันละ
79 เที่ยว จาก 7 สายการบิน ปลายเดือนกรกฎาคม นี้ จะมีเพิ่ม 2
สายการบิน คือ เตอร์กีชแอร์ไลน์ กับสายการบินตะวันออกกลาง
ส่งผลให้ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ภูเก็ตจะมีเที่ยวบินขยับเป็น 128 เที่ยว
6.การออกเอกสาร COE ของกระทรวงการต่างประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ตอนนี้ออกเรียบร้อยแล้วแล้ว 18,900 ราย เป็นประเทศใน 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.อิสราเอล 2.อเมริกา 3.เยอรมัน 4.อังกฤษ 5.ฝรั่งเศส
7.การจัดทำ
“แผนเผชิญเหตุ” เพื่อรายงานการบพผู้ติดเชื้อโควิด ใช้เกณฑ์ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของ 7 วัน ขณะนี้จะยังไม่เห็นช่วงใดที่แตะ 90 คน ในความหมายที่ถูกต้องเพื่อให้เข้าใจตรงกันกันไม่ได้หมายถึงพอพบนักท่องเที่ยวติดเชื้อสะสมครบ
90 คน แล้วจะใช้เกณฑ์นี้ต้องปิดเมือง
แต่จะต้องประมวลผลทั้งการจำนวนผู้ติดเชื้อ
ซึ่งตอนนี้มีบางกรณีเป็นคลัสเตอร์มากันเป็นครอบครัว บวกกับข้อมูลการติดเชื้อแบบคลัสเตอร์
เป็นเกณฑ์การพิจารณาความรุนแรงในภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์
นายศิริปกรณ์กล่าวว่า
นอกจากนักท่องเที่ยวยังได้เริ่มเดินทางท่องเที่ยวผ่านทาง “ท่าเรือ” ด้วย ได้แก่ ท่าเรือฉลอง
499 คน ไปเกาะเฮ ไม้ท่อน
ท่าเรืออ่าวปอ ไปเกาะนาคา 39 คน
โดยมีการทำข้อมูลสรุปรายวัน ของแต่ละหน่วยงานไปทำของตนเองแล้วแชร์แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
เช่น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สถิติภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เป็นนักท่องเที่ยวอยู่ครบ 14 วัน แล้วเดินทาง ทางรถและทางเรือไปต่อยังจังหวัดอื่น
ๆ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 63 คน พังงา 25 คน กระบี่ 19 คน ประจวบคีรีขันธ์ 10 คน ชลบุรี 7 คน
@ผู้ว่าฯยุทธศักดิ์ยืนยันเดินหน้าแผนขยายพื้นที่เปิดรับต่างชาติตามนโยบายรัฐบาล
ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ททท.พยายามประชาสัมพันธ์และเดินหน้าทำการตลาดต่อไป บูรณาการผ่านทางสถานฑูตต่างประเทศในไทย เพื่อให้แยกไทยออกเป็นพื้นที่ ระหว่างประเทศไทยกับภูเก็ต เช่นเดียวกับเมืองแฟโรของเดนมาร์กก็อยู่ในพื้นที่แตกต่างกัน นั่นคือในประเทศเดียวจะมีพื้นที่โซนสีเขียวกับสีอื่น ๆ จึงขอให้พิจารณาแยกส่วนออกจากกันอย่างชัดเจน สร้างการรับรู้และความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยวแต่ละตลาดในต่างประเทศ
โดยยืนยันเดินหน้าขับเคลื่อน “แผนปฏิบัติการ Re-Open THAILAND :การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวโดยไม่กักตัวในระยะแรก” เริ่มจากการเปิดเมือง (พื้นที่นำร่อง) ให้แล้วเสร็จในไตรามาส 3 :Island Approach Sealed Approach
ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งที่ทุกฝ่ายกำลังร่วมกันต้องเฝ้าระวังหลังจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่องก็มี 1.จะส่งผลกระทบความต้องการของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะตัดสินใจเดินทางมาภูเก็ต สมุย หรือไม่ อย่างไร 2.ประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (สบพ.) ที่ห้ามบินในประเทศ เริ่ม 21 กรกฎาคม นี้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายล็อกดาวน์พื้นที่สีแดง แต่อาจจะกระทบกับการจังหวัดอื่น ๆ ดังนั้น ททท.จะต้องหารือกับทางสายการบินต่อไป
ปัจจุบันนักเดินทางที่เข้าภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ จะมี 2 กลุ่ม คือ 1.คนไทยกลับเข้าประเทศ 2.ชาวต่างชาติต้องการเที่ยวพื้นที่อื่น ๆ เช่น พังงา กระบี่ แต่อาจต้องประเมินจะมีกี่เปอร์เซนต์ต้องการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม และจะกระทบกระเทือนนโยบายนายกรัฐมนตรีประกาศเปิดประเทศ 120 วันอย่างไร
ตามแผนเปิดประเทศ
นั้น ททท.ได้คุยกับแต่ละพื้นที่ต่อเนื่องมาตลอดไม่ว่าจะเป็น เชียงใหม่ บุรีรัมย์ พัทยา/ชลบุรี
เพชรบุรี หัวหิน/ประจวบคีรีขันธ์ เพราะต้องขึ้นอยู่กับการทำคู่มือขั้นตอนปฏิบัติ SOP : Standard of Procedure ของแต่ละพื้นที่จะต้องไปทำแผนพื้นที่ของตนเอง
ส่วน ททท.ต้องยึดแนวทางการเปิดประเทศโดยไม่กักตัวตามนโยบายของรัฐบาล โดยจะต้องดูสถานการณ์การแพร่ระบาดกับความพร้อมของแต่ละพื้นที่ควบคู่กันไป
ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้สิ่งที่ต้องการทำคือ “ระบบ” ให้เกิดความมั่นใจ ซึ่งทุกฝ่ายต้องลุ้นเหตุการณ์เฉพาะหน้าอยู่ตลอด ระบบที่นำมาใช้คัดกรองก็สามารถใช้งานได้ เพราะน่าจะเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะอยู่กับไวรัสโควิด-19 เป้าหลักจะเริ่มไตรมาส 4 ที่จะทำให้ท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวมีพื้นที่เดินทางเพิ่มขึ้นได้อีกครั้ง โดยรวมแล้วจะต้องดูปัจจัยอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย
คำถาม-คำตอบ ช่วงท้ายของ ผู้ว่าฯ รองผู้ว่า ททท. พบปะสื่อมวลชน
คำถามที่
1 – ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อตามพื้นที่ขยายต่อเนื่องเพื่อเปิดประเทศตามนโยบายรัฐบาล
ทั้ง พัทยา/ชลบุรี เชียงใหม่ บุรีรัมย์ ล้วนแต่เป็นพื้นที่สีแดงมียอดผู้ติดเชื้อค่อนข้างสูง
จะทำอย่างไร
คำตอบ
- ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ต้องยึดแนวทางปฏิบัติตามขั้นตอนคือ 1.รัฐบาลได้กำหนดพื้นที่เปิดประเทศไว้แล้วตามลำดับ 2.ดูการกระจายวัคซีน
ซึ่งทั่วประเทศอาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่วางไว้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทางพัทยาขอให้
ททท.ทำหนังสือขอไปยัง ศบค.เพื่อกระจายวัคซีนเข้าพื้นที่ 3.หากผ่านทั้ง 2 เงื่อนไข โอกาสที่แต่ละพื้นที่ขยายต่อเนื่องเพื่อเปิดเมือง
ก็จะมีความเป็นไปได้ แต่ก็ยังมีปัจจัยการทำงานที่จะต้องนำมาประกอบการตัดสินใจด้วยรวมอยู่อีก
3 ด้าน ได้แก่ 1.การพัฒนาเมือง 2.การทำตลาด 3.การจัดทำแผนเผชิญเหตุ
สำหรับการออกเอกสาร
COE ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ
อาจจะไม่ใช่ปัจจัยหรือเงื่อนไขโดยตรงที่จะได้รับผลกระทบจากการเลื่อนหรือไม่เลื่อนการเปิดเมืองในบางพื้นที่
เพราะกระทรวงการต่างประเทศของไทยในแต่ละประเทศยังคงสามารถออกเอกสารได้ แต่อาจจะมีผลกระทบกับนักท่องเที่ยวที่อยากเดินทางจะไม่ได้รับความสะดวกและอาจจะเลิกหรือเปลี่ยนใจไม่เดินทาง
ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาไทยลดน้อยลง
คำถามที่
2 – ตอนนี้ ททท.ยอมรับหรือไม่ว่า เป้าหมายรายได้จะต้องได้รับกระทบในไตรมาส
4 ปีนี้
คำตอบ-
ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวว่าการเปิดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ กับ สมุย พลัส แล้วตั้งเป้านำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติ
100,000 คน คงจะไม่เพียงพอ
ดังนั้น ททท.จึงจะไม่ได้ทิ้งการทำแผนเชิงรุก “ตลาดในประเทศ” ซึ่งนักท่องเที่ยวในประเทศที่มีความมั่นใจกับแผนปฏิบัติการแซนบ็อกซ์
ก็จะเข้ามาเที่ยวเพิ่มขึ้นได้
ส่วนการขยายพื้นที่เปิดเมืองท่องเที่ยวต่อไปยัง
พัทยา/ชลบุรี เพชรบุรี หัวหิน/ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ บุรีรัมย์ อย่างไรก็ยังคงยึดแนวทางปกติตามที่ได้รับอนุมัติจาก
ศบค.ทั้งนี้เป้าหมายอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งถูกระบุไว้ในแผนที่เสนอของแต่ละพื้นที่ไปแล้ว
กรณีหาก
“บุรีรัมย์” ประกาศเลื่อนการจัดแข่งขัน “โมโตจีพี 2021” แล้วจะทำให้การพิจารณาเปิดเมืองท่องเที่ยวปลายปีนี้ต้องเลื่อนไปหรือไม่ก็ต้องแล้วแต่สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
และขึ้นอยู่ปัจจัยความพร้อมทั้ง 5 ด้านของเมืองนั้น
ๆ ด้วย
สำหรับ
5 ปัจจัย ตามนโยบายเปิดประเทศใน
120 วันหน้า หลัก
ๆ คือ
1.การช่วยเหลือผู้ประกอบการ
ยกระดับมาตรฐาน SHA หาวัคซีน
ททท.ทำหน้าที่อยู่เคียงข้าง
2.เตรียมการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ
มี 2 โครงการที่รัฐบาลอนุมัติ
เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3
ทัวร์เที่ยวไทย และโครงการอื่น ๆ ของ ททท.ปี /2565
3.ทยอยเปิดประเทศ
เริ่มแล้ว ภูเก็ต สมุย บนพื้นฐานความปลอดภัย
4.สร้างความเชื่อมั่น
ภายใต้ อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม
5.วางรากฐานการขับเคลื่อนท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน
ให้ท่องเที่ยวสมดุลมากขึ้น BCG
ดังนั้น
“การเปิดประเทศ” เป็นเพียง 1 ใน 5
โครงการเท่านั้น
@ททท.ยืนยันเป้าท่องเที่ยวปี’64 “ในประเทศ”100ล้านคน-ต่างชาติ3ล้านคน
ผู้ว่าฯ
ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ ททท.ยืนยันเป้าหมายปี 2564 จะรอตัวเลขที่เหลืออีก 5 เดือน ระหว่างกรกฎาคม-ธันวาคม นี้ ประกอบด้วย “นักท่องเที่ยวในประเทศ” ยังคงไว้ที่
90.5 ล้านคน-ครั้ง
หรือ 100 ล้านคน-ครั้ง ตัวเลขล่าสุดสามารถทำได้แล้วกว่า 60
ล้านคน-ครั้ง ปีที่ผ่านมาตลาดในประเทศสร้างรายด้
8.14 แสนล้านบาท ที่ยังยืนยันเช่นนี้เพราะเมื่อประเมินตัวเลขย้อนหลังแล้ว
พบว่าสามารถทำได้เฉลี่ยเกิน 10
ล้านคน/เดือน ผนวกกับการเสนอทำโครงการกระตุ้นการเดินทาง ตัวอย่าง เราเที่ยวด้วยกัน
กับ ทัวร์เที่ยวไทย อาจจะขอรัฐบาลขยายไปถึงปี 2565 ส่วน “นักท่องเที่ยวต่างประเทศ”
ให้ยืนตัวเลข 3 ล้านคน รายได้ 3
แสนล้านบาท
แนวคิดของ
ททท.จะต้องทำเชิงบวกเพื่อให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเดินหน้าต่อไปได้ ทุกฝ่ายจึงต้องพยายามอย่างเต็มที่
เพราะสถิติอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (OR) ของโรงแรมทั่วประเทศช่วงเดือนมิถุนายน
2564 เหลือแค่ 7 % ต่ำที่สุดในรอบ 15 เดือน ที่ต้องอยู่กับสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19
ขณะนี้เครื่องยนต์เศรษฐกิจของไทย
สามารถทำได้แล้วคือ “รายได้ภาคส่งออก” แต่ท่องเที่ยวต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ได้รับวัคซีนตามเป้าหมาย แล้วทำให้ตลาดกลับมาโดยเร็ว เพื่อร่วมกันผลักดันให้ทั้งอุตสาหกรรมทำเป้ารายได้ใกล้เคียงกับที่ตั้งไว้
ททท.มีบทบาทหน้าที่ต้องเปิดการท่องเที่ยวของประเทศบนพื้นฐานการคิดบวก
ซึ่งทีมบริหารทุกฝ่ายต่างมุ่งมั่นทำให้บรรเป้าหมาย โดยจะต้องช่วยกันแก้ไขให้ได้
เพื่อให้ทุกคนรอดวิกฤตครั้งนี้โดยเร็วที่สุดไปด้วยกัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น