เจาะลึก!!ททท.ภาคใต้พลิกโฉมเที่ยวครึ่งหลังปี65หรอยแรง 14 จังหวัด บูมขายเทรนด์NFT“ธรรมชาติ-อาหาร-ไทยเนส” ปั้น3คลัสเตอร์เศรษฐกิจโตยั่งยืน

เจาะลึก!!ททท.ภาคใต้พลิกโฉมเที่ยวครึ่งหลังปี65หรอยแรง 14 จังหวัด

บูมขายเทรนด์NFT“ธรรมชาติ-อาหาร-ไทยเนส”เจาะตลาดไทย-ต่างชาติ

ปั้น3คลัสเตอร์ “เมืองหลัก-รอง-5เมืองชายแดนใต้”เร่งเศรษฐกิจโตยั่งยืน

คิงเพาเวอร์ช้อปสเต็ปสุดคุ้มคูปองลด+กะรัต8เท่า+ซื้อแคชการ์ดฟรี7พัน

Estée Lauderเลือกคิงเพาเวอร์ที่แรกในไทยเปิดน้ำหอมเทรนด์ใหม่8กลิ่น

สมัครบัตรคิงเพาเวอร์ SCARLET& ONYXคุ้มกว่าลด20%+คูปองลด30%

ททท.นำเอกชนลุยเทรดโชว์เกาหลีโกยเช่าเหมาลำก.ค.-ก.ย.นี้40ไฟลต์

“TCEB”แนะประชุมกลางป่าธรรมชาติไมซ์ซิตี้กลางเขาใหญ่นคราชสีมา

“บางจาก”จัดเต็มCSRอบรมครูประถมทั่วไทยปั้นเด็กจิ๋ว เป็นเด็กแจ๋ว

อะเมซิ่ง!!ปักหมุดเที่ยว5ตลาดน้ำภาคกลางเที่ยวใกล้ง่ายยิ่งได้ความสุข

ศศก.แนะคนไทยใช้กัญชาด้วยสติตามกฎหมาย THCห้ามเข้มเกิน 0.2%

ท่องเที่ยวเฮ!!ศบค.สั่งเลิกThailandPass+หน้ากากดึงทัวร์นอก10ล้านคน

ครม.แจกงบ338 ล้านบาทลุยยกเครื่องบริการท่องเที่ยวอันดามัน6จังหวัด

 

 วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #ทททภาคใต้  #เลิกใช้ThailandPass #TCEB

 

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้… https://fb.watch/dJ3vlg7nv2/

 

ช่วงที่ 1 ถอดรหัสเศรษฐกิจท่องเที่ยวใต้ 14 จังหวัด กับ “นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชูกลยุทธ์เด็ด “หรอยแรงแหล่งใต้” สินค้า NFT-ธรรมชาติ+อาหาร+ไทยเนส สินค้ายอดฮิตปลุกตลาดไทยและทั่วโลกเฮโลเที่ยว กิน ฟิน ช้อป วิถีใหม่ ปั้น 3 คลัสเตอร์โกยรายได้ “เมืองหลัก” เน้นขายเที่ยวเทศกาลปัง ๆ “เมืองรอง” บูมเส้นทางเที่ยวรักษ์สิ่งแวดล้อม SDGs “5เมืองชายแดนใต้” บูมอีเวนต์มาร์เก็ตติ้ง ควบกระตุ้นเชิงรุกตลุยโรดโชว์เทรดโชว์ทั้งในและต่างประเทศ ส.ค.นี้นำเอกชนบุกอินเดียตลาดมาแรงสุด ๆ ก.ย.65 เจาะลูกค้ารายใหญ่เกาหลี ส่วนในไทยจ่อนำทัพเข้าอีสาน

 

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า แผนกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวภาคใต้ช่วงครึ่งปีหลังตั้งแต่ มิถุนายน-ธันวาคม นี้ 14 จังหวัด ซึ่งเป็นภูมิภาคทางยุทธศาสตร์สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวของประเทศจัดทำภายใต้ธีม “หรอยแรง แหล่งใต้” โดยภาพจำของคนไทยจะมองว่ามีแต่ทะเลกับอาหารเผ็ด ดังนั้นจึงสื่อด้วยการคำว่าหรอยเป็นภาษาใต้ซึ่งมีความหลากหลายแบบ“พหุวัฒนธรรม” ทั้งไทย จีน พุทธ มุสลิม สามารถนำเข้าสู่ “ประสบการณ์” เข้าถึง “แหล่งท่องเที่ยว” ได้

 

ที่ผ่านมาได้จัดทำประชาสัมพันธ์ “หรอยแรง แหล่งใต้” ผ่านทางเฟซบุ๊คแฟนเพจ “เที่ยวใต้เที่ยวง่าย” ตอนนี้มีผู้ติดตามเกือบ  1 แสนคนแล้ว แล้วยังมีเพจเฟซบุ๊คภาคใต้แยกตามพื้นที่ดูแล14 จังหวัด รวมทั้งหมดอีก 11 สำนักงาน

 

โดยได้นำ “สินค้า-หรอยแรง แหล่งใต้” นำเสนอผ่าน NFT ประกอบด้วย

 1.N คือ Nature แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติภาคใต้มีชื่อเสียงระดับโลกอยู่แล้ว พอหลังสถานการณ์โควิด-19 สถานที่ฟื้นตัวยิ่งมีความสวยงามมากขึ้น ททท.จึงหาวิธีรักษาให้คงความสวยงามไว้แม้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปมากขนาดไหนก็ตาม

 

แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตขณะนี้ก็มี เกาะหลีเป๊ะ เกาะเต่า กะตะ/กะรน กิจกรรมดำน้ำ ตอนนี้มีเพิ่มกำลังฮ็อตมากคือ Free Dive ดำดิ่งลงไปโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ ที่นอกเหนือจากการดำผิวหน้า (Snoking) หรือดำน้ำลึก (Scuba) ตามมาด้วย Unseen New Series เช่น เกาะผ้า จ.พังงา คลองหรูด จ.กระบี่ เกาะหมาก จ.พัทลุง

 

แล้วในช่วงโควิด-19 ยังสามารถเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสในกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทย ท่องเที่ยวภาคใต้ทำให้การขายกิจกรรมท่องเที่ยวธรรมชาติได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น

 

2.F คือ Food เอกลักษณ์อาหารใต้ รสจัดจ้าน มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมอันโดดเด่น มีทั้งแบบอาหารท้องถิ่นใต้แท้ ๆ อาหารทะเล อาหารใต้แบบจีน หรืออาหารใต้แบบมุสลิม รวมทั้งภาคใต้ยังมีร้านอาหารที่ได้มิชลิน อย่าง บิ๊บคุมองต์ หลายแห่งด้วยกัน แล้วยังมี “กาแฟ” เช่น กาแฟโรบาสต้า จ.ชุมพร เป็นแหล่งผลิตกาแฟมีชื่อเสียงโด่งดังรสชาติเข้มข้นไม่เหมือนกัน

 

โดยรวมแล้วอาหารภาคใต้มีครบทุกสไตล์ อาหารถิ่น อาหารในตำนาน อาหารขึ้นเหลา โดยมีเชฟต่าง ๆ ที่รังสรรค์ โดยใช้วัตถุดิบปลา หอย และอื่น ๆ ในพื้นที่ด้วย

 

3.T นำเสนอเรื่อง THAINESS มีสินค้าหลัก ๆ เรื่องที่ 1 การแสดงศิลปวัฒนธรรม ตัวอย่าง โนราห์ได้ขึ้นทะเบียนกับยูเนสโก้เป็นมรดกโลกไปแล้ว ความจริงแล้วโนราห์เป็นการแสดงชั้นสูงก็จริง แต่เบื้องหลังมีเรื่องราวความน่าสนใจนำไปสู่การเข้าไปเรียน รวมถึงการร้อยลูกปัดทำเป็นของที่ระลึก

 

เรื่องที่ 2 ศาสนา สายมูต้องมา ไม่ว่าจะเป็น ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช พรานบุญวัดยางใหญ่ ท้าวเวสสุวรรณ และอีกมากมาย

 

เรื่องที่ 3 เที่ยวงานประเพณี ททท.ยังคงสนับสนุน สักการะเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว นราธิวาส กำลังจะมีเทศกาลกินเจ ประเพณีชักพระ ความเป็นไทยในการท่องเที่ยวชุมชน เช่น ชุมชนทะเลน้อย จ.พัทลุง ชุมชนตันหยีเพ็ง จ.สตูล พรหมโลก จ.นครศรีธรรมราช

 

เรื่องที่ 4 สินค้าท้องถิ่น เช่น กระจูด เตยปาหนัน ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ที่ทำจากน้ำมันมะพร้าว

 

ผอ.ภัทรอนงค์ กล่าวว่า กลยุทธ์การขายท่องเที่ยวภาคใต้ มุ่งเน้นจะไปช่วยเหลือผู้ประกอบการในท้องถิ่น ททท.อาจจะจัดโปรโมชั่นพิเศษกับพันธมิตร เช่น งานคอนซูเมอร์ แฟร์ จัดร่วมกับภูเก็ต ทำโครงการ 1.ภูเก็ต เด็ดทั้งเกาะ ตะเวนจัดในภาคใต้ด้วยกันทั้งที่หาดใหญ่ สงขลา หรือข้ามภาคไปจัดในอีสานมาแล้ว มีแผนจัดเพิ่มตามที่ต่าง ๆ 2.งานไทยเที่ยวไทย ต่อเนื่องถึงกิจกรรมต่าง ๆ 3.งาน Dive Expo เพิ่งจัดเสร็จสิ้นไปทำยอดขายค่อนข้างประสบความสำเร็จมาก 4.การจัดงานอีเวนต์มาร์เก็ตติ้ง มีมากมายทั้งทางบก ทางน้ำ การจัดงาน Aqual Luminar การจัดเทรล การเล่นหรือแข่งขันกีฬา Surf ทั้งหมดล้วนเป็นกิจกรรมที่สามารถกระตุ้นนักท่องเที่ยวเข้าไปยังพื้นที่มากที่สุด

 

กลยุทธ์การขายสินค้าท่องเที่ยวตามคอนเซ็ปต์ NFT ททท.จะพุ่งเป้าบางอย่างขายตลาดในประเทศ บางอย่างขายตลาดต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น เที่ยวเรือยอร์ชชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกในทะเล เดิมมองว่าเป็นสินค้าราคาแพง แต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา กิจกรรมดินเนอร์ล่องเรือยอร์ชคนไทยให้ความสนใจใช้บริการจำนวนมาก

 

ททท.ภูมิภาคภาคใต้ ได้แบ่งการท่องเที่ยวใน 14 จังหวัด เป็น 3 คลัสเตอร์ ประกอบด้วย

 

คลัสเตอร์ที่ 1 เมืองหลัก  4 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย(สุราษฎร์ธานี) ส่วนใหญ่จะชูการขายสินค้าหลัก ๆ เป็นการจัดงานเฟสติวัล ดนตรี กีฬาทางบก ทางน้ำ มีโปรโมชั่น ที่จะกระตุ้นช่วงนอกฤดูเดินทาง (low season) เพราะตอนนี้เริ่มแล้วใน ภูเก็ต พังงา กระบี่ ส่วนสมุยตอนนี้ยังคงเป็นฤดูท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก

 

ขณะนี้ ททท.ภาคใต้จัดงานเทศกาลใหญ่ กิจกรรมแรก Rock on the Beach Music Festival เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวท้องถิ่น (Local Experience) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน Soft Power เป็นการนำเสนอการท่องเที่ยวเทศกาลดนตรี จัด 2 พื้นที่ ภูเก็ต ระหว่าง 17-19 มิถุนายน นี้ และกระบี่ 24-26 มิถุนายน 2565 ภายในงานนอกจากดนตรีแล้วยังนำเสนอขายอาหารและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ผู้ประกอบการในพื้นที่นำสินค้าโดย ททท.แจกคูปองส่วนลดให้นำไปใช้ในงาน

 

กิจกรรมที่สอง Phuket Great Time รวบรวมดีลโปรโมชั่นสินค้าบริการท่องเที่ยวภายในภูเก็ตมาขายให้นักท่องเที่ยวคนไทย แต่ทาง “เกาะสมุย” ได้จัด Bangkok Airways Butique Series จัดการแข่งขันวิ่งของบางกอกแอร์เวย์สร่วมกับ ททท.สนามแรกจัดเรียบร้อยแล้วที่สมุย สนามต่อไปจะจัดที่พังงา เดือนกันยายนนี้ ช่วงจัดแต่ละงานจะผนวกความร่วมมือกับท้องถิ่น เช่น โรงแรม ร้านอาหาร จัดโปรโมชั่นให้นักวิ่งราคาพิเศษ

 

คลัสเตอร์ที่ 2 เมืองรอง 5 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง พื้นที่เหล่านี้ ครึ่งปีหลังจะนำเสนอแพกเกจเส้นทางต่าง ๆ โดยสอดแซกกิมมิกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน SDG-Sustainable Development Goals เช่น ลดการใช้พลาสติก แยกขยะ ส่วนใหญ่จะทำเป็นทริปร่วมกันพันธมิตรหลัก จส.100 ตามเส้นทางการเรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรม อาหารถิ่น และเส้นทางสายมู ที่พัทลุง กับนครศรีธรรมราช

 

คลัสที่ 3  เมือง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา สงขลา สตูล จะเน้นขายกิจกรรมครึ่งปีหลังเป็นอีเวนต์ มาร์เก็ตติ้ง ต้อนรับการเปิดเมืองหลังจากสงขลาเงียบไประยะหนึ่ง ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางเข้ามาแล้ว  ผนวกกับการส่งเสริมท่องเที่ยวเชื่อมโยงสู่ชายแดน เช่น หรอยแรงแหล่งใต้@เบตง ร่วมกับนกแอร์ พยายามทำให้สงขลาเป็นศูนย์กลางหรือฮับ ด้วยวิธี บินจากสงขลาลงไปเที่ยวสตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส

 

รวมทั้งอีเวนต์ มาร์เก็ตติ้ง ปกตินักท่องเที่ยวจะมองสงขลาในมุมเดิมเป็นเมืองช้อปปิ้ง แหล่งอาหาร ซึ่งก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียเข้ามามากมาย แต่ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา มีคนสงขลากลับไปอยู่บ้านแล้วพัฒนาธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ร้านคาเฟ่ มีถนนหลายสายเป็น HIP ของกลุ่มคนรุ่นใหม่กำลังเจรจากันอยู่จะชวนนักท่องเที่ยวไปทำแนว ART & CRAFT หรือทำ HADYAI SITE WALK ออกร้านอาหารท้องถิ่นของคนในพื้นที่สไตล์ Trendy ขายผลิตภัณฑ์ออกแนวร่วมสมัย comtemporary เพื่อดึงดูดตลาดต่างประเทศได้ด้วย

 

ขณะนี้มีไฮไลต์การท่องเที่ยวทำกิจกรรม “แคมปิ้ง” เริ่มได้รับนิยมมากขึ้นจากากรพลิกวิกฤตโควิดเป็นโอกาสทำให้คนหันมาออกแคมปิ้งมากขึ้น สินค้าเอาท์ดอร์ขายดีมาก ททท.พยายามร่วมกับพันธมิตรทำโครงการ “Zero Waste Camping” แทนที่จะไปแคมปิ้งธรรมดาก็เลือกนักท่องเที่ยวที่มีหัวใจสีเขียวร่วมเดินทางไปด้วยกัน จะนำร่องใช้โอกาสของธรรมชาติฟื้นตัวหลังโควิดปลูกฝังแนวคิดอย่างนี้ให้กับผู้ประกอบการผลิตสินค้าท่องเที่ยวออกวางขายดึงคนเข้าพื้นที่ภาคใต้ โดยพำนักอยู่นาน ๆ

 

ผอ.ภัทรอนงค์ กล่าวว่า การวางเป้าหมายตลาดต่างประเทศได้ใช้กลยุทธ์โครงการ “Internal Tourism” เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยแล้วสามารถกระจายจากภูเก็ตไปยังพื้นที่ และจังหวัดอื่น ๆ ที่ยังไม่เคยไปเพิ่มขึ้น เช่น การจัดงาน Thailand Travel Mart Plus 2022 จัดที่ภูเก็ต เมื่อ 8-10 มิถุนายน 2565 ได้พาผู้ประกอบการและสื่อต่างชาติไปชมวิถี “ชุมชนแหลมตุ๊กตา” ถิ่นอาศัยของชาวอุลักลาโว้ย ซึ่งเดิมชาวต่างชาติอาจจะคิดว่าภูเก็ตมีแต่ทะเล ความจริงแล้วมีทุ่งนาด้วย เรียกได้ว่าเป็นผืนนาที่เหลืออยู่ไม่กี่ผืนแล้ว

 

การจัดกิจกรรมเพื่อขยายพื้นที่ท่องเที่ยวเชื่อมโยงให้ตลาดต่างประเทศไปยังพื้นที่อื่น ๆ นั้นเป็นหน้าที่ของ ททท.ทำร่วมกับ Startup รุ่นใหม่ เช่น Travelloka สมาคมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA) นำเสนอขายเจาะกลุ่มชาวต่างชาติที่พำนักในเมืองไทย (expat) ให้เดินทางไปเที่ยวพื้นที่ภาคใต้เพิ่มขึ้น

 

อนาคตจะเดินหน้าต่อโดย ททท.กำลังคุยอยู่กับแบรนด์เสื้อผ้ากลุ่มรักษ์โลก โรงเรียนสอนดำน้ำที่มีแนวคิดในทิศทางเดียวกันที่ว่า จะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเมืองไทยแล้วได้เที่ยวในเชิงรักษ์โลกแนวอนุรักษ์ หรือเชิงกรีน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวเพื่อคืนสีเขียวให้ธรรมชาติ

 

ผอ.ภัทรอนงค์ กล่าวเพิ่มถึงการนำผู้ประกอบการธุรกิจภาคใต้เดินทางไปทำโร้ดโชว์ เทรดโชว์ตลาดต่างประเทศ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ไปออสเตรเลีย มีประมาณ 24 ราย ผลตอบรับค่อนข้างดี สามารถไปอัพเดทสินค้าหลังจากไม่ได้เจอกันมานาน นำเสนอภูเก็ตมีสินค้าใหม่ ๆ ได้พบปะเจอหน้ากัน ทำให้ได้ลูกค้ากลุ่มท่องเที่ยวสปาและสุขภาพองค์รวมหรือ Wellness & Spa กลับมาด้วย ชื่นชอบที่จะมาทำศัลยกรรม มียอดจองทยอยเข้ามาเรื่อย ๆ แต่อาจจะไม่ได้เร่งรีบมากนัก เพราะต้องรอจำนวนที่นั่งเที่ยวบินจากออสเตรเลียเข้าภูเก็ตด้วย

 

ส่วนโร้ดโชว์ที่ผู้ประกอบการจากภูเก็ตไปตะวันออกกลาง เมืองเจดาห์ ริยาด 2 เมืองในซาอุดิอาระเบีย อาบูดาบี ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 2565 มีเอกชนไทยไปร่วมประมาณ 20 ราย ได้รับความสนใจมากพอสมควร มีนักท่องเที่ยวเพิ่มจากซาอุดิอาระเบียเริ่มเข้ามาภูเก็ตเพิ่มขึ้นด้วย

 

ช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2565 ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภูเก็ตเตรียมไปโร้ดโชว์ตลาดอินเดีย ขณะนี้อยู่ระหว่างรับสมัคร เตรียมแผน ต่อเนื่องในเดือนกันยายน นี้ จะไปเกาหลีด้วย

 

สำหรับ “ตลาดในประเทศ” ภูเก็ตก็ทำโร้ดโชว์ด้วยเหมือนกัน ช่วงกรกฎาคม นี้ ไปจังหวัดอุบลราชธานี เปิดพื้นที่จับคู่เจรจาธุรกิจ B2B :Business to Business และ B2C ขายตรงนำนักท่องเที่ยวเข้ามาได้เลย

ผอ.ภัทรอนงค์กล่าวทิ้งท้ายว่า ต้องการเชิญชวนเที่ยวไทย ตามปกติจะเป็นคนใต้เที่ยวใต้เป็นหลัก เนื่องจากภาพจำของคนภาคอื่นอาจจะมองเที่ยวใต้แพง เดินทางไกล จึงขอเชิญมาเที่ยวกันเพราะ 1.การคมนาคมเข้าถึงเรื่องการเดินทางตอนนี้สะดวกมากแล้ว เพราะผู้ประกอบการเปิดบริการ 70-80 % ทั้งเที่ยวบิน และโรงแรม/ห้องพัก 2.ธรรมชาติแหล่งท่องเที่ยวสวยงามมากกว่าปกติ 3.เอกลักษณ์การเป็นพหุวัฒนธรรมอาหารถิ่นให้เลือกรับประทาน อยากสนุก อยากหรอยแรง ในภาคใต้ อยากให้เที่ยวแบบคนท้องถิ่นจะได้สัมผัสวัฒนธรรมจริง ๆ เรื่อยไปจนถึง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความเก๋ น่ารัก แปลกแตกต่าง มีหลายอย่างซ่อนไว้ให้ไปช่วยกันค้นหา

 

ททท.ได้ทำแคมเปญ “ยะลา นรา ตานี หรอยมั้ย”หรือดีมั้ย หรือน่าสนใจมั้ย จึงอยากจะให้นักท่องเที่ยวภาคอื่น ๆ มาเที่ยวชมด้วยตัวเอง

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ช้อปสเต็ปสุดคุ้มคูปองลด+กะรัต8เท่า+ซื้อแคชการ์ดรับฟรี7พัน

 

คิง เพาเวอร์ ชวนช้อปสุดคุ้มโดนใจนักช้อปตัวจริง ได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2565 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา ภูเก็ต และทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ ที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี ง่าย ๆ 4 สเต็ป 

 

STEP 1 : รับคูปองส่วนลด 1,000 บาท* สำหรับช้อป 5,000 บาท ขึ้นไป/ใบเสร็จ เพียงลงทะเบียนก่อนช้อป 1 คน/สิทธิ์/วัน โดยนับสิทธิ์รวมกันทุกสาขาและช่องทาง CALL TO SHOP & CHAT TO SHOP

 

STEP 2 : ช้อปครบ 8,000 บาท (สุทธิ) รับกะรัตรีวอร์ด X10* (รวมเป็น 800 กะรัต) เมื่อสะสมยอดช้อปครบ 8,000 บาท(สุทธิ) (รับ CARAT REWARDS รวมเป็น 800 กะรัต และจำกัด 1 สิทธิ์/ท่าน/วัน)

 

STEP 3 : รับคืนสูงสุด 15% จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ หรือ เลือกผ่อน 0% X สูงสุด 10 เดือน  

 

STEP 4  : พิเศษ !! รับพวงกุญแจ DISNEY 1 ชิ้น เมื่อช้อปครบ 2,000 บาท ขึ้นไป (สุทธิ)  รับ 1 /สิทธิ์/คน/วัน  ตลอดรายการรับได้ทั้งหมด 20,000 สิทธิ์

 

            แนะนำให้ช้อปคุ้มค่าด้วยการซื้อ CASH CARD 10,000 บาท รับเงินช้อปฟรี! เป็น GIFT CARD 3,000 บาท หรือซื้อ CASH CARD 23,000 บาท รับเงินช้อปเพิ่มฟรี! GIFT CARD 7,000 บาท

 

ข่าวที่ 2 Estée Lauderเลือกคิงเพาเวอร์ที่แรกในไทยเปิดน้ำหอมเทรนด์ใหม่8กลิ่น

 

คิง เพาเวอร์ ได้พันธมิตรแบรนด์โลก Estée Lauder นำสินค้ามาเปิดตัวที่แรกในประเทศไทย !  ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2565 โดยเพิ่มความพิเศษให้นักช้อปได้รับสินค้าสุดพรีเมียมพร้อมบริการห่อของขวัญ เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ใดก็ได้ในคอลเลคชั่น Luxury Fragrance สัมผัสความหอมกับ Pop-Up Store The Luxury Fragrance Collection จาก Estée Lauder  

 

สำหรับคอลเลคชั่น The Luxury Fragrance Collection เป็นน้ำหอมใหม่ล่าสุดจาก Estée Lauder ประกอบด้วยน้ำหอม Eau de Parfums ถึง 8 กลิ่น สามารถตอบโจทย์ความหอมที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละความชอบ ไม่ว่าจะเป็น TENDER LIGHT, SENSUOUS STARS, DREAM DUSK, RADIANT MIRAGE, DESERT EDEN, BLUSHING SANDS, PARADISE MOON และ INFINITE SKY

 

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่จุดขาย King Power Contact Centre 1631

 

ข่าวที่ 3 สมัครบัตรคิงเพาเวอร์ SCARLET& ONYXคุ้มกว่าลด20%+คูปองลด30%

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดมหกรรมคุ้มกว่า! โปรที่นักเดินทางสายช้อปห้ามพลาด!เมื่อสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์​ สมัครเลย! วันนี้ – 30 มิถุนายน 2565 รับคูปองส่วนลด 30% ง่าย ๆ ดังนี้

 

สมัครบัตรประเภท SCARLET 6,000 บาท หรือ ONYX 60,000 บาท รับส่วนลดจากร้านค้าที่ร่วมรายการสูงสุด 20% และ สิทธิประโยชน์เพื่อสมาชิก ที่เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ที่จุดบริการสมาชิก คิง เพาเวอร์ 3 สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ตเท่านั้น รายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3NtJgNB

 

พิเศษ !! ได้สิทธิ์รับคูปองส่วนลด 30% นำไปเลือกซื้อสินค้าได้ 1 ชิ้น/คน/สิทธิ์ ได้ที่ คิง เพาเวอร์ 3 สนามบิน สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต สามารถใช้กับสินค้าดิวตี้ ฟรี และสินค้าป้ายฟ้าเฉพาะแบรนด์ที่ร่วมรายการ

 

คูปองหมดอายุภายในวันที่สมัครสมาชิก เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ โปรดตรวจสอบสินค้าร่วมรายการเพิ่มเติมได้ตรงจุดขาย

 

                ห้ามพลาด! วันนี้-30 มิถุนายน 2565 สมัครสมาชิก ONYX ก่อนช้อป แล้วไปช้อปแบบจัดเต็มได้ทันทีที่ คิง เพาเวอร์ สมัครสมาชิก ONYX 60,000 บาท รับวงเงินช้อปเพิ่ม 18,000 บาท*ไม่ว่าจะเลือกช้อปไอเทมไหนๆ เช่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว สินค้าแฟชั่น น้ำหอม หรือ เครื่องใช้ในบ้าน ไอเทมไหนก็คุ้ม  ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา ภูเก็ต และทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี

 

ข่าวที่ 4 ททท.นำเอกชนลุยเทรดโชว์เกาหลีโกยเช่าเหมาลำก.ค.-ก.ย.นี้40ไฟลต์

 

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังเสร็จสิ้นการจัดงาน  TTM+ :Thailand Travel Mart Plus 2022  ได้เดินหน้าบุกตลาดต่อเนื่องทันที โดยนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย 16 ราย ไปสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ระหว่าง 16-18 มิถุนายน 2565 เพื่อจับคู่เจรจาธุรกิจรวมบุกเจาะตลาดในเมืองรองอย่าง ปูซาน และเมืองอื่น ๆ สอดคล้องกับทางสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ประกาศกลับมาบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)-กรุงโซล เกาหลี เริ่มแล้วเมื่อ 17 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป

 

อีกทั้งระหว่างกรกฎาคม-กันยายน 2565 ผู้ประกอบการในเกาหลีจัดเที่ยวบินเช่าเหมาลำประมาณ 40 เที่ยว นำนักท่องเที่ยวจากกรุงโซลมาไทย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักกอล์ฟ ซึ่งมีโปรแกรมกระจายการเดินทางท่องเที่ยวสู่ 3 เมืองหลัก คือกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต

 

ขณะที่ “ตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีน” ททท.หลังเสร็จสิ้นการจัดงาน TTM+ 2022 ซึ่งเปิดการจับคู่ธุรกิจผ่านระบบไฮบริดและออนไลน์โดยมีผู้ประกอบการจีนเข้าร่วมด้วยประมาณ 20 ราย ได้สะท้อนถึงความต้องการของนักท่องเที่ยวจีนหากเปิดประเทศจะเลือกมาไทยเป็นจุดหมายปลายทางแรกในเอเชีย 

 

 โดย ททท.มีสำนักงานดูแลการตลาดตามเมืองหลัก 5 แห่ง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ คุนหมิง กวางโจว เฉิงตูได้หารือกับผู้ประกอบการตลอดถึงการทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำ และเกาะติดประกาศจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (CAAC) เริ่มผ่อนคลายการบินมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงมีความหวังช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2566 ซึ่งอยู่ในช่วงวันที่ 22 มกราคม 2566 จะมีข่าวดีจากตลาดจีนเที่ยวเมืองไทย

 

รวมทั้งได้ประเมินตลาดภาพรวมถึงสถานการณ์เดินทางเข้าไทยของนักท่องเที่ยวเอเชียช่วงครึ่งปีหลัง 2565  พบมาแรงสุดเรียงตามลำดับ 4 ประเทศ คือ 1.อินเดีย 2.มาเลเซีย 3.สิงคโปร์ 4.ออสเตรเลีย จึงได้เร่งร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตร กลุ่มแรก-สายการบินของไทยและนานาประเทศ เร่งเพิ่มความถี่เที่ยวบินจากตลาดหลักเข้าไทยให้มากที่สุดภายในปีนี้ กลุ่มที่ 2-สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ผนึกกันรุกเจาะกลุ่มคุณภาพซึ่งมีการใช้จ่ายเงินสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 3 เท่า คือ ตลาดลูกค้าองค์กร (corporate) และกลุ่มเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (incentive)

 

ข่าวที่ 4 “TCEB”แนะประชุมกลางป่าธรรมชาติไมซ์ซิตี้กลางเขาใหญ่โคราช

 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดทางเลือกจัดประชุม สัมมนา ในประเทศ ในเส้นทาง 1 ใน 10 ไมซ์ ซิตี้ แดนอีสานจังหวัดนครราชสีมา ในธีม “เขาใหญ่ : ประชุมกลางป่า สัมมนาสัมผัสโอโซน” ให้ธรรมชาติได้บำบัดท่ามกลางภูเขาและผืนป่ากว้างใหญ่แล้วเลือกสรรกิจกรรมไมซ์ได้เองตามความต้องการ

 

เป็นเส้นทางแนะนำ 2 วัน  1 คืน สำหรับองค์กรที่มีผู้ร่วมเดินทางน้อยกว่า 20 คน ราคา 9,900 บาท/คนแต่พิเศษสำหรับองค์กรที่มาพร้อมกัน 20-30 คน ลดเหลือเพียงละ 8,900 บาท/คน ราคาแพ็กเกจนี้ครอบคลุมที่พัก อาหาร กิจกรรม และยานพาหนะ เรียบร้อยแล้ว

 

เริ่มออกสตาร์ต จากกรุงเทพฯ มุ่งสู่นครราชสีมา แวะศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญา “ชุมชนบ้านท่ามะปรางค์” แนะนำร้านอาหารกลางวันที่ “น่านน้ำ” ส่วนกิจกรรม CSR มีให้เลือกจะทำ 1.ทำก้อนเห็ด นำไปมอบให้กับโรงเรียนไปเพาะเลี้ยง เพื่อใช้ประกอบอาหาร หรือ 2.เปลี่ยนถุงดำให้ต้นกล้าได้มีพื้นที่เติบโต เตรียมนำไปปลูกต่อตามสถานที่ต่าง ๆ ต่อไป

 

สำหรับการทำ “Workshop” ได้ที่ “โรงแรมคีรีมายา กอล์ฟ รีสอร์ต แอนด์  สปา” มีบริการห้องพักแบบ Horizon View พร้อมเสิร์ฟอาหารเย็น โดยเลือกดื่มด่ำกับอาหารรสเลิศ ชื่นชมบรรยากาศธรรมชาติยามค่ำคืน ด้วยรถสองแถวมุ่งสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พาส่องวิถีชีวิตกลางคืนของสัตว์ป่าในคอนเซปต์ “Khao Yai Night Safari”

 

วันที่  2 เดินทางสำรวจทุ่งทานตะวันไร่มณีศร เขาใหญ่ บนเนื้อที่กว่า 500 ไร่ ชมดอกไม้นานาพันธุ์ที่   สวนดอกไม้ที่ใหญ่สุดเนื้อที่ 100 กว่าไร่

 

ปิดท้ายให้เลือกทำได้อีก 2 กิจกรรม คือ 1.เที่ยวชมไร่องุ่นพีบี วัลเลย์  สวรรค์ของคนรักไวน์ มีตั้งแต่นั่งรถชมไร่องุ่นท่ามกลางยามเช้า ชมโรงผลิตไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทดลองจิบไวน์อร่อย ๆ แล้วกินมื้อกลางวันโอบล้อมด้วยวิวไร่องุ่น 2.ไปฟาร์มโชคชัย รับประทานมื้อกลางวัน เสร็จแล้วทำเวิร์คช้อปไอศกรีม แต่ละองค์กรและหน่วยงานสามารถเลือกกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ให้สมาชิกได้ตามสะดวกและความเหมาะสม ก่อนกลับอย่าลืมกระจายรายได้ซื้อของฝากกลับบ้าน

 

ส่วนกรุ๊ปอิสระที่เดินทางกันเอง ระหว่างวันที่ 25 – 26 มิ.ย. 2565 เวลา 11.00 – 19.00 น. เที่ยวฟรีได้งาน “มาเก๋ มาร์เก็ต” LOCAL FOOD & CRAFT ที่ศูนย์การเรียนรู้การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ หรือ TAT Eco Park  นครราชสีมา มีทั้งงานคราฟท์เก๋ ๆ ช้อป อิ่มสบาย ๆ กับอาหารถิ่นและฟู้ดทรัค ชิลกับดนตรีสนุก ๆ

 

ข่าวที่ 5 “บางจาก”จัดเต็มCSRอบรมครูประถมทั่วไทยปั้นเด็กจิ๋ว เป็นเด็กแจ๋ว

        

นางกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อความยั่งยืน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และกรรมการมูลนิธิใบไม้ปันสุข เป็นประธานเปิดการอบรมโครงการ “อ่านเขียน เรียนสนุก ปั้นเด็กจิ๋ว เป็นเด็กแจ๋ว” รุ่นที่ 3 ประจำปีการศึกษา 2565 จัดโดยมูลนิธิใบไม้ปันสุข ในระหว่างวันที่ 11-12 มิถุนายน 2565 ผ่านระบบ Zoom Meeting โดยมี คุณครูก้อย - ในดวงตา ปทุมสูติ จากศูนย์เรียนรู้ทุ่งสักอาศรม เป็นวิทยากรผู้ดำเนินการอบรมแก่คณะครูในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จาก 51 โรงเรียนทุกภาคทั่วประเทศ กว่า 150 คน เพื่อพัฒนาครูให้มีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการสอน พร้อมแนวทางการจัดห้องเรียน การวัดพื้นฐานทักษะภาษาไทยของนักเรียน  เพื่อให้การบริหารจัดการการเรียนการสอนประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์

 

มูลนิธิใบไม้ปันสุขก่อตั้งขึ้นโดยบริษัท บางจากฯ มีภารกิจหลักคือการพัฒนาเยาวชนในด้านการศึกษาและสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในการพาประเทศไปสู่ข้างหน้า โดยโครงการ “อ่านเขียน เรียนสนุกฯ” เป็นไปตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ หรือ UNSDG ในด้าน Quality Education ด้วยการสร้างการศึกษาที่มีคุณภาพให้กับเยาวชนของชาติ และในปีนี้ มูลนิธิฯ ได้รับสมัครพนักงานบางจากฯ ร่วมเป็นพี่เลี้ยงอาสาประจำโครงการ ทำหน้าที่พี่เลี้ยง ให้คำปรึกษาและติดตามผลงานของครูที่เข้าร่วมโครงการด้วยวิธีออนไลน์ เมื่อครูนำกระบวนการสอนที่ได้เรียนรู้จากการอบรมไปใช้ในการเรียนการสอน อีกด้วย

 

                ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยยิ่งให้ ยิ่งได้ประโยชน์กับท้องถิ่น ทริปนี้เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย “5ตลาดน้ำในภาคกลาง” “อัมพวา” สมุทรสงคราม “ดำเนินสะดวก” ราชบุรี “อโยธยา” พระนครศรีอยุธยา “บางพลีโบราณ” สมุทปราการ และ “ขวัญเรียม” คลองแสนแสบ กรุงเทพฯ ทางด้าน “ศศก.แนะคนไทยตื่นรู้ใช้กัญญาหลังเปิดเสรี” ปิดท้ายด้วยข่าวฮ็อตฮิต ข่าวแรก “ศบค.ปลดล็อกเกลี้ยง” เลิก ThailandPass สวมหน้ากากอนามัย เขียวทั้งแผ่นดิน หนุนนำเข้าทัวร์โลก 10 ล้านคน ข่าวสอง “ครม.แจก 338 ล้านยกเครื่องอันดามัน 6 จังหวัด” ดูดรายได้เข้าพื้นที่

 

ท่องเที่ยว -อะเมซิ่ง!!ปักหมุดเที่ยว5ตลาดน้ำภาคกลางเที่ยวใกล้ง่ายยิ่งได้ความสุข

 

            ความสุขที่สัมผัสได้ในทุก ๆ การเดินทางที่ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) โปรโมตต่อเนื่อง ยิ่งเที่ยว ยิ่งให้ ยิ่งได้ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์” กับทริปเที่ยว “ตลาดน้ำ” ในพื้นที่ภาคกลางในจังหวัดท่องเที่ยวที่โดดเด่นด้านวิถีชีวิตที่ชุมชนริมน้ำ ที่จะดึงดูดนักเดินทางเข้าไปเยี่ยมชม แถมมีอาหารถิ่นของอร่อย ๆ ให้เลือกรับประทานด้วย เป็นเอกลักษณ์ไทยที่แม้แต่ชาวต่างชาติก็อยากมาเที่ยวเหมือนกัน

 

เช็คอินที่แรก - ตลาดน้ำอัมพวา จ.สมุทรสงคราม อายุกว่าร้อยปี เปิดให้นักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติเยี่ยมชมวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ในคลองอัมพวาจะมีชาวบ้านพายเรือขายอาหารและเครื่องดื่ม แล้วก็มีบริการล่องเรือชมวิว สองฝั่งคลองจะได้เห็นวิถีร้านขายของย้อนยุคเรือนไม้เรียงรายอยู่ริมน้ำสวยงาม

รอบพื้นที่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวแนะนำ อุทยานฯ ร.2 วัดบางกุ้ง มีสัญลักษณ์อันซีนไทยแลนด์คือโบสถ์ปรกโพธิ์ กับอาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก คริสตศิลป์ที่มีความงดงามไม่แพ้กัน

 

เช็คอินจุดที่ 2 –ตลาดน้ำดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดของไทย ศูนย์ณวมพ่อค้าแม่ค้าพายเรือหรือวางบนบกนำผลผลิตต่าง ๆ มาขาย ละลานตาทั้งอาหาร ขนม ของฝาก ของที่ระลึก ผลไม้ไปถึงแล้วต้องลองชิมเครื่องดื่มขึ้นชื่อ “มะพร้าวน้ำหอมดำเนินสะดวก” กับชมโชว์ “ทำน้ำตาลมะพร้าว”

 

เช็คอินจุดที่ 3 -ตลาดน้ำอโยธยา จ.พระนครศรีอยุธยา  เมืองแห่งประวัติศาสตร์มรดกโลก มีบริการร้านค้าอยู่รอบตลาดน้ำให้เลือกซื้อกว่า 249 ร้าน รายล้อมด้วยวิถีชีวิตไทยสมัยกรุงศรี สะท้อนผ่านการแต่งกาย การแสดงพื้นบ้าน การละเล่น ทัศนียภาพสบายตา  

 

เช็คอินจุดที่ 4 - ตลาดบางพลีโบราณ จ”สมุทรปราการ  ที่พักพิงของชุมชนขนาใหญ่อยู่ริมคลองสำโรงอดีตเคยเป็นตลาดขนส่งสินค้าและผู้โดยสารจากภาคตะวันออกชายฝั่งทะเลเข้ากรุงเทพฯ ชาวบ้านจะนำอาหารและของฝากมาขาย เส้นทางนี้ยังมีจุดแวะสักการะขอพร “หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน” พร้อมทั้งไปปิดทองหัวใจพระที่วัดบางพลีใหญ่กลางด้วยกัน

 

เช็คอิน 5 -ตลาดน้ำขวัญเรียม กรุงเทพมหานคร บรรยากาศร่มรื่นตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบ นำชื่อพระเอกนางเอกในนิยายอมตะเรื่องแผลเก่ามาใช้ ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ สัญลักษณ์เด่นของตลาดเป็น “สะพานรูปโครงเรือ” เชื่อมระหว่างวัดบำเพ็ญเหนือและวัดบางเพ็งใต้ คนจะพาครอบครัวมานั่งพักผ่อน เลือกรับประทานที่มีให้เลือกมากมาย   หรือใช้บริการเรือล่องชมลำคลอง จะมีเยาวชนผัดเปลี่ยนกันมาแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยภาคต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมอย่างเพลิดเพลิน

เที่ยว “ตลาดน้ำ” สัมผัสวิถีชีวิตริมน้ำ เพิ่มประสบการณ์แปลกใหม่ดี ๆ ยิ่งเที่ยว ยิ่งให้ ยิ่งได้ เมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม

 

สุขภาพ –ศศก.แนะคนไทยใช้กัญชาด้วยสติตามกฎหมาย THCห้ามเกิน 0.2%

 

ศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด ชี้ปลดล็อกกัญชา-กัญชง ประชาชนต้องศึกษาวิธีใช้ให้ถูกต้อง ป้องกันปัญหาสุขภาพ เผยโควิด-19 ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบการใช้กัญชามากขึ้น 2 เท่า เตือนเฝ้าระวังเด็ก-เยาวชนใช้ในทางผิด ป้องกันเข้าวงจรสารเสพติด

 

รศ.พญ.รัศมน กัลยาศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด (ศศก.) แนะนำการนำกัญชามาใช้ หลังการปลดล็อกกัญชง-กัญชา ออกจากบัญชียาเสพติดประเภทที่ 5 เชื่อว่าได้ผ่านการกลั่นกรองจากทุกฝ่ายครบถ้วนแล้ว แต่การที่ยังไม่มีพระราชบัญญัติกัญชา-กัญชง ควบคุมเรื่องนี้โดยเฉพาะ จึงเป็นห่วงความปลอดภัยว่า จะถูกใช้ในเชิงสันทนาการ หรือนำไปซื้อ-ขายแบบทั่วไปในทางที่ผิดและอันตราย เพราะประชาชนสามารถจดแจ้งปลูกกัญชา-กัญชง ผ่านแอปพลิเคชัน “ปลูกกัญ” หรือเว็บไซต์ http://plookganja.fda.moph.go.th ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อย่างเสรี

 

ระหว่างนี้จึงแนะนำว่า หากจะทำอะไรต้อง “ยึดตามระเบียบและกฎหมาย” เช่น หากจะใช้ส่วนต่างๆ ของกัญชามาทำอาหาร ก็ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติอาหาร หรือหากนำมาใช้ในทางการแพทย์ ก็ต้องปฏิบัติตามหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อให้เกิดความปลอดภัย

 

  เพราะในทางการแพทย์ไม่อยากให้สารจากกัญชาเข้าไปสู่ร่างกายโดยไม่จำเป็น แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้แนะนำให้ใช้จำนวนน้อยที่สุด ขณะที่อาหารมีกฎหมายควบคุม เพียงแต่ขอให้ปฏิบัติตาม เช่น กำหนดให้ใส่ใบกัญชา 1-2 ใบ ก็ใส่แค่นั้น อย่าใส่เกิน เพราะอาจได้รับสารมึนเมาเกินขนาด และต้องระวังการใช้ความร้อนในการปรุงด้วย เพราะมีผลต่อการสกัดให้สาร THC เข้มข้นเกิน 0.2% ซึ่งผิดกฎหมาย

 

โดยขอย้ำว่าประชาชนอย่าใช้ “ช่อดอกมาทำอาหาร” เพราะผิดกฎหมาย ซึ่งคาดการณ์คนสนใจนำสารเหล่านี้ไปใส่ในอาหารเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพราะเป็นของผิดกฎหมายปิดมานาน และเมื่อมีการปลดล็อกกัญชาแล้วมองว่า ไม่ว่ากัญชาจะมีสถานะไหน ถูกหรือผิดกฎหมาย

 

กัญชาก็เป็นพืชชนิดหนึ่ง ที่มีสารที่ต้องระวังอย่างยิ่งคือ สาร THC มีฤทธิ์ทำให้มึนเมา คนที่อยากรู้อยากลองต้องระมัดระวัง เช่น การรับประทานอาหารอย่าบริโภคมากเกินไป  ส่วนการสูบไม่แนะนำเพราะจะเกิดผลกระทบกับชีวิต หากได้รับสาร THC มากไป  ดังนั้นการปลดล็อกหรือไม่ปลดล็อกในการใช้กัญชาต้องระวังเหมือนเดิม

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก ท่องเที่ยวเฮศบค.สั่งเลิกThailandPass+ใส่หน้ากากดึงทัวร์นอก10ล้านคน

 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) มีมติเห็นชอบเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วยสาระสำคัญ 3 เรื่อง ประกอบด้วย

 

เรื่องที่ 1 ทั่วราชอาณาจักรในประเทศไทยเป็นพื้นที่สีเขียว

 

เรื่องที่  2 ยกเลิกคนที่เดินทางจากต่างประเทศเดินทางเข้าไทยไม่ต้องลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand pass อีกต่อไป มีผลเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป วิธีปฏิบัติตามแนวทาใหม่เมื่อยกเลิก Thailand Pass แล้ว นักเดินทางไม่ต้องกรอกเอกสาร ตม.6 การเดินทางทางอากาศอีกต่อไป

 

เรื่องที่ 3 การถอดหน้ากากอนามัย จะให้เป็นไปตามความสมัครใจถอดหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่โล่งกลางแจ้ง แต่จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่รวมกันในสถานที่ปิดและมีผู้คนแออัด โดยเฉพาะพนักงานบริการจะต้องสวมใส่เพื่อความปลอดภัยของทุกคน รวมทั้งการจัดงานจะต้องขออนุญาตหากมีผู้เข้าร่วมเกินกว่า 2,000 คน เช่น จัดงานคอนเสิร์ตและแออัดควรจะต้องใส่หน้ากากอนามัย

 

นอกจากนี้ ศบค. ได้อนุญาต “ผู้ประกอบการสถานบันเทิง” เปิดบริการได้ตามปกติถึงเวลา 02.00 น. พร้อมทั้งให้จำหน่ายสุราในโรงแรมให้กับนักท่องเที่ยวได้ตามช่วงเวลา 14.00 น. ถึง 17.00 น.

 

รมว.พิพัฒน์ ย้ำว่า ยังคงตั้งเป้าหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) องค์กรพัฒนาการตลาดท่องเที่ยวเดินหน้านำเข้านักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าไทยให้ได้รวมตลอดปี 2565 ให้ถึง 10 ล้านคน จากเดิมกำหนดเป็นกรอบไว้ 7-10 ล้านคน เนื่องจากมั่นใจเมื่อ ศบค.ปลดล็อกแนวทางปฏิบัติการใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะเดินทางเข้าไทยได้เฉลี่ยววันละ 25,000-30,000 คนต่อวัน จากนั้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 เป็นต้นไป จะเข้าฤดูการเดินทางท่องเที่ยวอย่างหนาแน่น ททท.น่าจะนำเข้านักท่องเที่ยวได้เฉลี่ยวันละ 50,000 คน หรือเดือนละประมาณ 1.5 ล้านคน

 

ข่าวที่สอง –ครม.แจกงบ338 ล้านบาทลุยยกเครื่องปรับบริการเที่ยวอันดามัน6จังหวัด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2565 อนุมัติวงเงิน 338.80 ล้านบาท พัฒนาฟื้นฟูการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ประกอบด้วย สตูล ตรัง ภูเก็ต พังงา และกระบี่ 6 โครงการ ประกอบด้วย

 

โครงการที่ 1 พัฒนาระบบบริการสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมเกาะหลีเป๊ะรองรับการท่องเที่ยวนานาชาติ จังหวัดสตูล วงเงิน 80.75 ล้านบาท 

 

โครงการที่ 2 พัฒนาศูนย์เรียนรู้อนุรักษ์ฟื้นฟูพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก จังหวัดตรัง วงเงิน 68.80 ล้านบาท

 

โครงการที่ 3โครงการ Phuket Health Sandbox จังหวัดภูเก็ต วงเงิน 25.25 ล้านบาท นำไปใช้จัดทำแพลตฟอร์มออนไลน์ให้บริการด้านสุขภาพ ให้คำปรึกษา จัดตั้ง Digital Health Post บริการจุดตรวจสุขภาพเบื้องต้นและพบหมอทางออนไลน์

 

โครงการที่ 4 ศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา จังหวัดพังงา วงเงิน 80.00 ล้านบาท ใช้ก่อสร้างอาคาร ทำเป็นสถานที่จัดกิจกรรมและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ

 

โครงการที่ 5 ปรับปรุงท่าเทียบเรือโดยสาร – ท่องเที่ยวปากคลองจิหลาด จังหวัดกระบี่ วงเงิน 35.00 ล้านบาท

ใช้เงินสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจรให้เพียงพอกับผู้ใช้บริการทุกประเภท

 

โครงการที่ 6 พัฒนาแหล่งสปาวารีบำบัดน้ำพุร้อนคลองท่อมเมืองสปา จังหวัดกระบี่ วงเงิน 49.00 ล้านบาท

ปรับสภาพภูมิทัศน์ให้สะอาด สวยงาม สร้างรายได้จากการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการมากขึ้น

 

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.