“TCEB”เร่งแผนพัฒนาปั้นคนอาชีพไมซ์รับปี’70รายได้4.2แสนล้าน ผนึกเครือข่ายการศึกษา136แห่ง+ตั้งไมซ์บิสิเนสเซนเตอร์11แห่ง
“TCEB”เร่งแผนพัฒนาปั้นคนอาชีพไมซ์รับปี’70รายได้4.2แสนล้าน
ผนึกเครือข่ายการศึกษา136แห่ง+ตั้งไมซ์บิสิเนสเซนเตอร์11แห่ง
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97
#TCEB www.facebook.com/penroongyaisamsaen
“TCEB”ปลุกเศรษฐกิจไมซ์ปี’65-66
คึกคัก ผนึกสถาบันอุดมศึกษาและอาชีวะทั่วไทย 136 แห่ง
ลุยแผนพัฒนาปั้นคนไมซ์ปีละ50,000 คน ลุยทำ 3 ส่วน “ขยายเครือข่าย+เร่งเปิดหลักสูตร+ตั้งศูนย์ไมซ์บิสิเนสเซนเตอร์” 5 ภาค 11 แห่ง รองรับการเติบโตอนาคตปี’66
สร้างงานนักศึกษาจบใหม่ 5,000 คน ปี’70
ดันรายได้ไมซ์ไทยทะยาน 4.2 แสนล้าน/ปี มอ.สงขลา กับ
บมจ.ซีเอ็มโอ ขานรับการตั้งศูนย์เปิดเกมการตลาดเชิงรุกตลาดอินเตอร์
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาและนวัตกรรม
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ปี 2565 ทีเส็บเดินหน้ายกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์โดยใช้เครือข่ายสถาบันการศึกษาทั่วประเทศเป็นศูนย์กลางธุรกิจครอบคลุมทุกภาค
ควบคู่การเปิดหลักสูตรไมซ์สามารถผลิตบุคลากรได้เฉลี่ยปีละ 50,000 คน ขณะนี้สถานศึกษาเข้ารวมแล้วกว่า 136 แห่ง
แบ่งเป็น ระดับอุดมศึกษา 87 แห่ง อาชีวศึกษา 49 แห่ง
ล่าสุดเปิดเพิ่มสาขาวิชาไมซ์หรืออีเวนต์ (MICE Major)
อีก 33 แห่ง
วางแผนร่วมมือกันเตรียมรองรับการเปิดประเทศตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป
ทีเส็บตั้งเป้าพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ด้านการศึกษาสนับสนุนการจัดตั้งหน่วยฝึกอบรมและหน่วยทดสอบคุณวิชาชีพไมซ์ในศูนย์เครือข่ายการศึกษาไมซ์ภูมิภาคทั่วประเทศ10
แห่ง พร้อมสร้างงานให้บุคลากรและบัณฑิตจบใหม่เพิ่มอีก 5,000 คน
ซึ่งจะได้ลงปฎิบัติงานตามเมืองที่ดึงงานเข้ามาจัดในพื้นที่แล้ว พัฒนา MICE
Career Platform จับคู่สร้างงานอีกกว่า 1,000
ตำแหน่ง ปี 2566 คาดจะสร้างและพัฒนาเครือข่ายเยาวชนไมซ์เป็นผู้ประกอบการไมซ์รุ่นใหม่
5,000 คน รวมทั้งมีข้อมูลยืนยันปี 2570 รายได้ไมซ์ของประเทศไทยจะแตะปีละ 420,000 ล้านบาท
ปัจจุบันทีเส็บได้ดำเนินโครงการดังกล่าวมาเป็นปีที่
6 พร้อมทั้งต่อยอดยกระดับและขยายกรอบการทำงานสู่การจัดตั้งเป็นศูนย์ธุรกิจไมซ์
หรือ MICE Business Center เพื่อร่วมมือกันเร่งขับเคลื่อนและพัฒนาธุรกิจไมซ์ทุกภูมิภาค
มีเป้าหมายผลักดันให้ธุรกิจไมซ์ไทยขยายการเติบโตอย่างมีรากฐานมั่นคงและยั่งยืนสร้างมาตรฐานการแข่งขันได้ในระดับโลก
ทำให้เป็นศูนย์ธุรกิจไมซ์ป็นศูนย์บริการครบวงจรแบบหรือ One Stop Service รวม 11 ศูนย์ ครอบคลุมทั่วประเทศใน ภาคกลาง ภาคตะวันตก
ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน/ตอนล่าง ภาคเหนือตอนบน/ตอนล่าง
และภาคใต้
สำหรับการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ของทีเส็บปี
2565 ต้องการยกระดับ 2 ส่วน คือ 1.ตอบโจทย์ตลาดไมซ์นานาชาติ 2.ยุทธศาสตร์ชาติในการมุ่งเสริมการผลิตกำลังคนสมรรถะสูง
ตามความต้องการของสถานประกอบการจึงมุ่งเน้นพัฒนา 3 ด้านหลัก
ได้แก่ ด้านที่ 1 พัฒนาองค์ความรู้ (Content
Development) ด้านที่ 2 พัฒนาเครือข่าย
(Connection Development) ด้านที่ 3 พัฒนาสายงานอาชีพของแรงงานคุณภาพเข้าสู่ตลาดแรงงานไมซ์ (Career Development) โดยทีเส็บได้พัฒนาการผลิตกำลังคนอาชีวะ
เข้าสู่ตลาดแรงงานไมซ์คุณภาพ ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ส่งเสริมการจ้างงาน
เพิ่มการกระจายรายได้จากกิจกรรมไมซ์และการสร้างงานสู่ภูมิภาคทั่วประเทศ
แล้วทีเส็บยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการยกระดับความรู้
สร้างงานสร้างอาชีพ และทักษะใหม่ให้บุคลากรไมซ์ เมื่อวันที่ 15-16 มิถุนายน 2565 ประกอบด้วย 5
งานสำคัญ ได้แก่
1.งาน 13th Coach the Coaches
Program for MICE Industry ยกระดับองค์ความรู้ไมซ์เบื้องต้นให้กับคณาจารย์
ผู้ประกอบการ และผู้ที่สนใจ
เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการศึกษาในอาเซียน
2.งาน 6th MICE Career Day 2022: มหกรรมสายอาชีพไมซ์ สนับสนุนการสร้างอาชีพ
โดยพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์จับคู่หางานสายไมซ์ MICE Career Platform ให้เกิดการสร้างคนสร้างงาน ระหว่างสถานประกอบการและเยาวชนนักศึกษา
3.งาน Young MICE Ideators 2022: Metaverse for
MICE Industry 101 ปูพื้นความรู้ที่จำเป็นและสำคัญด้าน Metaverse
ในอุตสาหกรรมไมซ์ให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่
รวมถึงทักษะใหม่ที่เป็นหัวใจสำคัญในยุค Technology Disruption และ Skill Force หลังยุคปฏิวัติโลก
4.งาน Thailand MICE Youth Challenge 2022:
การแข่งขันแผนธุรกิจไมซ์ระดับชาติ
คัดเลือกทีมตัวแทนประเทศไทยแข่งขันแผนธุรกิจในเวทีระดับนานาชาติ
5.งาน 6th MICE Academy Day 2022: มหกรรมการศึกษาไมซ์ระดับชาติ ร่วมกับพันธมิตรเครือข่ายการศึกษาทั่วประเทศ
เพื่อพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์อย่างยั่งยืนให้กับบุคลากรต้นน้ำ
ผ่านมาตรฐานการศึกษาในสาขาไมซ์
ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565
ทีเส็บได้ “ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU” กับเครือข่ายสถาบันการศึกษาเรียบร้อยแล้ว เพื่อร่วมมือพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์
รองรับการขยายตัวของภาคธุรกิจไมซ์ให้ตรงกับความต้องการของพื้นที่
และบูรณาการระหว่างภูมิภาคทั่วประเทศ 3 ด้าน ประกอบด้วย
ด้านที่ 1 ความร่วมมือบูรณาการศูนย์เครือข่ายไมซ์ในภูมิภาคระหว่างทีเส็บ
กับศูนย์เครือข่ายไมซ์ในภูมิภาค 11 ศูนย์
ด้านที่ 2
ความร่วมมือโครงการตั้งศูนย์เทียบโอนหลักสูตรประกาศนียบัตรด้านไมซ์ (Non – Degree) สู่ระบบธนาคารสะสมผลการเรียนรู้ (Credit
Transfer/Credit Bank) ระหว่างทีเส็บ กับสถาบันการศึกษาไมซ์
5 แห่ง
ด้านที่ 3 ความร่วมมือหลักสูตรไมซ์มาตรฐานสากลระหว่างทีเส็บ กับสถาบันการศึกษา
และสถาบันอาชีวศึกษา 13 แห่ง
นางศุภวรรณยืนยันว่าแผนของทีเส็บเรื่องการพัฒนาบุคลากรเพิ่มในอุตสาหกรรมไมซ์นั้น สอดคล้องกับผลสำรวจของ MPI (Meetings Professional International) Meetings Outlook: 2022 Spring Edition พบว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ส่งผลให้ผู้คนเห็นความสำคัญของการกลับมาจัดงานในรูปแบบปกติ โดยมีถึง 64 % ให้ความเห็นว่าธุรกิจจะกลับมาเติบโตอีกครั้งหลังปี 2566 เป็นต้นไป มีผลถึงการใช้งบประมาณจัดงานกับการจ้างพนักงานจะเพิ่มขึ้นตามกันไป โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามกว่าครึ่งหนึ่งระบุว่าต้องประสบปัญหาเรื่องการจัดหาพนักงานที่เหมาะสม ดังนั้นแนวโน้มอัตราการจ้างงานในอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเพิ่มสูงในอนาคตอันใกล้นี้จะสูงตามไปด้วย
ขณะที่ “ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ”
อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) กล่าวว่า
ทางมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์
ด้วยการส่งเสริมการเรียนการสอนมุ่งเน้นผลลัพธ์โดยเฉพาะการสอนให้เกิดการเรียนรู้อย่างตื่นตัว
(Active Learning ) กับการเรียนรู้จากสถานการณ์จริง
อันเป็นแรงผลักดันให้เกิดการจัดตั้งศูนย์เครือข่ายการศึกษาไมซ์ภาคใต้ (SMAC
-Southern MICE Academic Cluster และการจัดตั้งศูนย์เครือข่ายธุรกิจไมซ์ในภูมิภาค
ภายใต้ชื่อ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการจังหวัดสงขลา SCEB
-Songkhla Convention and Exhibition Bureau
นับเป็นการพัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้แนวใหม่ (New Learning Platform) สร้างการเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต
เป็นกิจกรรมกระตุ้นนักศึกษาได้เข้ามีส่วนร่วม
สามารถฝึกฝนให้เกิดประสบการณ์จริงจากภาคอุตสาหกรรม แล้วสามารถใช้เป็นโจทย์ในการศึกษาวิจัยต่อยอดสู่องค์ความรู้ใหม่
สอดคล้องกับการพัฒนาทักษะที่จำเป็นของบุคลากรไมซ์ยุคนิวนอร์มัล
ทางด้าน “นายอริยะ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท
ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน)” กล่าวว่า ขณะนี้ทุกประเทศกำลังปลดล็อกเปิดประเทศ
รวมถึงอุตสาหกรรมไมซ์ประเทศไทยมีศักยภาพและมีโอกาสเติบโตเช่นเดียวกับอีกหลายประเทศอย่าง
ดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมริเรตส์) สิงคโปร์ แต่ที่ผ่านมาไทยยังไม่ได้มีงานระดับภูมิภาคเข้ามาจัดไทยมากนัก
ทั้งที่นักธุรกิจ
และนักท่องเที่ยวกลุ่มอีเวนต์ธุรกิจมีความต้องการมาไทยเป็นอันดับต้นๆ อยู่แล้ว
ดังนั้นตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไปจะเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่สุดให้ทุกฝ่ายในประเทศไทยนำอุตสาหกรรมไมซ์ช่วยกันฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น
ทั้งโรงแรม ที่พัก การเดินทาง ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า
เนื่องจากมูลค่าตลาดไมซ์ในประเทศไทยคาดการณ์อนาคตปี 2570 จะทำได้สูงถึง 4.2 แสนล้านบาท จากปี 2562 ทำไว้
2.3 แสนล้านบาท ประเมินการเติบโตเฉลี่ยระหว่างปี 2564-2570 เพิ่มขึ้นปีละ
11.63% รวมถึงทางบริษัทซีเอ็มโอได้ทำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอีเวนต์เชิงธุรกิจหรือ Homegrown
Event ภายใต้แบรนด์ของซีเอ็มโอ อย่างงานคอนเฟอเรนซ์
สามารถดึงวิทยากร (Speaker) ระดับโลกเข้ามาหลายร้อยคนแล้ว
ยังดึงผู้เข้าร่วมงานจากนานาประเทศเข้าด้วย งานที่บริษัทฯกำลังจะจัดขึ้นต่อไปแม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านเองก็อยากจะบินมาไทยเพื่อเข้าร่วมงาน
ซึ่งได้ความรู้แล้ว ยังนำอุตสาหกรรมไมซ์ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจประเทศได้ด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น