TCEBจัดทัพหลังโควิดโกยไมซ์อินเตอร์เข้าไทยเพิ่มหมื่นล้าน34งาน-ปลุกหน่วยงานรัฐจัดไมซ์ทั่วไทยก.ค.-ส.ค.นี้

 “TCEB”เคลื่อนทัพหลังโควิดดึงตลาดไมซ์โลกโกยเพิ่มหมื่นล้าน

ดึงงานใหม่ทั่วโลกเข้าคิวจัดในไทยเอ็กซิบิชั่น+อินเซ็นทีฟ34งาน

จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา

ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB”

“TCEB” ถอดรหัสตลาดโลกทะลักเข้าไทยทันทีที่เปิดประเทศ “งานเอ็กซิบิชั่น” คาดตลอดปี65 โกยได้กว่า 10,000 ล้านบาท ทั้งงานใหม่และงานที่มีอยู่จัดตลอดปีรวมกว่า 34 งาน เฉพาะ 2 แรก“Intermach & Sub Con Thailand 2022” รายได้ฉลุยหลายพันล้านบาท ทางด้าน “MI-ประชุมและอินเซนทีฟ” ออสเตรเลียนำทัพกระจายใช้เงินทันควันกว่า 30 ล้าน “คอร์ปอเรตอินเดีย” คึกคัก มีงานไมซ์จ่อคิวเพียบ ต่างชาติเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่เน้น 2 เรื่อง 1.เน้นใช้ไมซ์เลนสะดวกสบายคล่องตัว 2.โปรแกรมทำกิจกรรมลดโลกร้อน แทนขอเงินสนับสนุนค่าจัดเลี้ยง ส่วน “ไมซ์ไทย” มี 2 แคมเปญกระตุ้นแรงตลาดราชการเดินสายจัดประชุมทั่วไทย ก.ค.-ธ.ค.นี้

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า เมื่อรัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศเต็มรูปแบบตั้งแต่มิถุนายน 2565 เป็นต้นไปเพื่อให้ทั่วโลกเดินทางเข้าไทยได้แบบผ่อนคลายสะดวกมากขึ้นมากกว่าช่วง 2 ปีก่อนทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศต้องใช้วิธีจัดงานแบบเสมือนจริง ต่างจากขณะนี้มีงานหลั่งไหลเข้ามาทันที ตลาดแรก  “งานจัดแสดงสินค้า-Exhibition” ไฮไลต์เด่น ๆ ได้แก่

 

งานแรก Intermach& SubCon Thailand 2022 เป็นงานเกี่ยวกับสมาร์ทเทคโนโลยี อุปกรณ์ดิจิทัล เครื่องกลสมัยใหม่ ช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 มีผู้เข้าร่วมงานทั้งไทยและต่างชาติรวมกันกว่า 30,000 คน จาก 36 ประเทศ โดยมีผู้จัดแสดงสินค้า (exhibitors) กว่า 20 ประเทศ  500 ราย นำรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจทางตรงกว่า 1,300 ล้านบาท ยังไม่นับรวมการเจรจาซื้อขายสินค้าต่อเนื่องในอนาคต

 

งานที่สอง PROPAX ASIA 2022 ระหว่างวันที่ 15-18 มิถุนายน 2565 ที่ไบเทคบางนา เป็นงานแสดงสินค้าทางเทคโนโลยีการผลิตระดับโลก เครื่องจักรผลิตเครื่องสำอาง บรรจุภัณฑ์ อุตสาหกรรมการเกษตร อาหารแปรรูป และอื่น ๆ

 

ผลจากสาธารณรัฐประชาชนจีนกับฮ่องกงยังไม่สามารถเปิดประเทศเต็มรูปแบบได้ ส่งผลให้บริษัทรับจัดงานเอ็กซิบิชั่นนานาชาติหันเข้ามาอยู่ในไทย จึงเป็นแรงดึงดูดให้นำงานเอ็กซิบิชั่นมาจัดในไทยได้เพิ่มขึ้นทั้งปัจจุบันและอนาคต 

ทีเส็บได้จัดทำข้อมูลสรุปปี 2565 จะมีงานเอ็กซิบิชั่นเข้ามาจัดในไทยไม่ต่ำกว่า 14 งาน ส่วนใหญ่งานเกี่ยวกับ ไบโอฟิลเลอร์ ดิจิทัล ไบโอติก หรืออุตสาหกรรมการบิน โลจิสติกส์ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ไทยจะได้อุตสาหกรรมใหม่เข้ามามากขึ้น

 

สามารถแบ่งงานเอ็กซิบิชั่นระดับนานาชาติ หรือ International Exhibtion ได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก งานแสดงสินค้าใหม่ ๆ หรือ New Show กับงานแสดงสินค้าที่จัดต่อเนื่องหรือมีอยู่แล้วหรือ Existing Exhibition จำนวนงานรวมทั้งหมดกว่า 24 งาน ส่วนใหญ่จะเป็นงานทางด้านอาหาร ไบโอเทค และมีพลังงานอนาคต รถยนต์ไฟฟ้า ไทยยังคงเป็นศูนย์กลางจัดงานที่ได้ขยายพื้นที่และจำนวนคน ปี 2565 จะมีผู้จัดแสดงสินค้า (Exhibitors) ต่างประเทศเข้ามามากขึ้น

โดยมีผลตอบรับจากงานแสดงสินค้านานาชาตินำรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของไทยปีนี้ได้กว่า 10,000 ล้านบาท เฉลี่ยงานละ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป แบ่งเป็นรายได้ที่มาจากงานแสดงสินค้าใหม่ ๆ กว่า 6,000 ล้านบาท กับงานแสดงสินค้าต่อเนื่องที่มีอยู่แล้วอีกกว่า 4,000 ล้านบาท

นอกจากการดึงงานเอ็กซิบิชั่นมาจัดในไทยจะสร้างรายได้ ยังสามารถส่งเสริมผู้ประกอบการในประเทศ ซึ่งตอนนี้มีต่างชาติเข้ามาร่วมงานจริงแทนการจัดแบบเสมือนจริง จึงทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้

 

ตลาดกลุ่มที่ 2 MI :Meeting & Incentive การประชุม และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล กระตือรือร้นจัดงานกันอย่างรวดเร็วเป็นจำนวนมาก ที่เพิ่งจะผ่านมาเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2565 หลังไทยประกาศยกเลิกใช้ Test & Go หรือยกเลิกการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตอนเข้าประเทศ มีกลุ่มอินเซนทีฟจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ใช้เงินจำนวนมากเลือกมาไทย พร้อมกับจองโรงแรมไฮแอทรีเจนซี่ กรุงเทพฯ แบบจองห้องพักทั้งหมดแบบปิดโรงแรมให้อินเซนทีฟกลุ่มดังกล่าวใช้บริการตลอดทริป

จากการวิจัยโดยทีเส็บร่วมกับสมาคมส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ (ไทย) หรือ TICA และผู้เชี่ยวชาญการตลาดในแต่ละทวีปของทีเส็บ ได้รับการยืนยันกรณีผู้จัดงานจากออสเตรเลียยืนยันความจริงแล้วตอนนี้ยังไม่น่าจะมีออสเตรเลียเดินทางออกต่างประเทศ แต่กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะทางกลุ่มอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่มีฐานหลักในออสเตรเลียและเครือข่ายในนิวซีแลนด์รวมกว่า 500 สาขา ได้นำลูกค้าอินเซนทีฟเดินทางมาไทยเรียบร้อยแล้ว จำนวน 500 คน ใช้เงินในไทยทางตรงประมาณ 30 ล้านบาท ยังไม่นับรวมบางคนที่อยู่พักผ่อนต่อในไทยในจังหวัดท่องเที่ยวอื่น ๆ

โดยลงทุนใช้เงินกับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การจัดงาน “กาลา ไนท์” สามารถจ้างศิลปินดังบินตรงมาจากออสเตรเลียพร้อมกับจ้างศิลปินไทยด้วย ส่วนทีเส็บทำหน้าที่ไปร่วมในฐานะเจ้าบ้านพร้อมให้การสนับสนุน ด้วยการประสานงานเอกสารเข้าเมือง และระบบการตรวจตามขั้นตอนสาธารณสุข

 

อินเซนทีฟกลุ่มนี้มีไฮไลต์จัดกิจกรรม “Amazing Race” สามารถกระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการไทยหลากหลายกลุ่ม เช่น เช่ารถตุ๊กตุ๊กกว่า 200 คน ลักษณะคล้ายการแข่งขันแรลลี่ ให้นักเดินทางใช้ตุ๊กตุ๊กไปค้นหาอาร์ซีตามเส้นทางท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ

ดังนั้นตลาดอินเซนทีฟออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ กลุ่มนี้ กระจายรายได้เห็นผลชัดเจนทั้งการจ้างงาน สร้างอาชีพ ค่าที่พักโรงแรม การทำกิจกรรมคืนประโยชน์สู่สังคม การสนับสนุนเงินให้มูลนิธิต่าง  ๆ ทุ่มเงินทำอย่างเต็มที่ ตอกย้ำให้เห็นถึง 1.ออกแบบจัดงานฟังก์ชั่นกระจายเม็ดเงินได้ทั่วถึงผู้ประกอบการไทยหลายกลุ่ม 2.เลือกจัดกิจกรรมที่เป็นมิตรกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

 

ขณะนี้ยังมีอินเซนทีฟของบริษัทขนาดใหญ่หรือคอร์ปอเรตจาก “อินเดีย” เข้ามาทุกเดือน กรุ๊ปละประมาณ 200-300 คน ส่วนใหญ่เป็นบริษัทจำหน่ายยาฟาร์มาซี บริษัทผลิตอาหาร ผลิตรถยนต์ ซึ่งอั้นมาหลายปี ตอนนี้พอได้รับโอกาสก็รีบใช้เงินเดินทางมาไทยทันทีกระจายอยู่ในกรุงเทพฯ และเมืองชายหาดภูเก็ต ผนวกกับต่างชาติที่เป็นนักท่องเที่ยวเองก็มีจำนวนมากด้วย

 

นายจิรุตถ์กล่าวว่า “นักเดินทางไมซ์ตลาดต่างประเทศ” ที่เข้ามาเมืองไทยหลังโควิด-19 ได้เปลี่ยนความต้องการไปจากเดิมอาจจะเน้นเรื่องของบประมาณสนับสนุนจัดงานเลี้ยงอาหารให้แต่ละกลุ่มที่นำงานมาจัดในไทย  ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป ได้หันมาให้ความสำคัญกับ

1.ความสะดวกสบายด้วยบริการผ่านช่องทาง MICE LANE ผ่านสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ภูเก็ต อย่างคล่องตัว และปลอดภัย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยดอำนวยความสะดวกดูแลข้อมูลผ่านการตรวจแต่ละจุดได้อย่างรวดเร็ว ทั้งศุลกากร ตรวจสุขภาพ ได้รับความพึงพอใจจากลูกค้าสูงมาก

2.โปรแกรมจัดกิจกรรมเน้นเรื่องประสบการณ์ทำสิ่งที่มีคุณค่า เช่น ร่วมทำกิจกรรมปลูกต้นไม้นำไปเป็นส่วนลดคาร์บอนของแต่ละบริษัท หรือลดโลกร้อน ปัจจุบันบริษัทต่าง ๆ ให้น้ำหนักเรื่องเหล่านี้มากเป็นอันดับต้น ๆ เป็นการปรับพฤติกรรมสู่ก้าวใหม่ รวมถึงต้องการประสบการณ์แปลกใหม่ได้พบปะกับคนในชุมชนแล้วช่วยอุดหนุนซื้อสินค้าหรือทำกิจกรรมกับท้องถิ่น เก็บขยะกับชาวประมงในพื้นที่แถบชายทะเล จึงเป็นรูปแบบใหม่เน้นบริการสุขภาพ เช่น โปรแกรมตอนเช้าต้องมีโยคะด้วย เป็นความต้องการประสบการณ์กับคุณค่า นอกเหนือจากความมสุขเพียงอย่างเดียว

 

นายจิรุตถ์กล่าวว่า ส่วนการทำแผนเชิงรุกตลาดไมซ์ในประเทศหลังโควิด-19 ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 ช่วงกรกฎาคม-สิงหาคม 2565 พุ่งเป้ากระตุ้นกลุ่มตลาดราชการจัดสัมมนา ประชุม กระจายทั่วประเทศ โดยจัดกรุ๊ปเดินทางลงพื้นที่ซึ่งสามารถจัดได้แล้ว ทางทีเส็บจะทำแคมเปญรณรงค์พร้อมงบประมาณสนับสนุนให้ออกมาเดินทางทั่วประเทศ ทำกิจกรรมช่วยเหลือท้องถิ่น ส่วนที่  2 หลังกันยายน-ธันวาคม 2565 ทีเส็บจะทำแคมเปญสื่อสาร จัดงานแฟร์สนับสนุนให้เกิดการเดินทางประชุม สัมมนา ดูงาน ตามพื้นที่ต่าง ๆ

จากนี้เป็นต้นไปเมื่อสถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายไปได้มากแล้ว ทีเส็บจะทำหน้าที่ 1.สนับสนุนกระตุ้นสร้างแรงจูงใจให้เกิดการเดินทางไมซ์มากขึ้น 2.ทำแพกเกจร่วมกับไมซ์ ซิตี้ 10 เมือง ให้เกิดกระจายตัวเดินทางออกนอกพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วย เพราะการประชุมตอนนี้อย่ามองเป็นเรื่องการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว ยังมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ รวมอยู่ด้วยได้แก่ การหากลยุทธ์ให้องค์กรก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง แต่ละองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนคิดจัดทำการประชุมสัมมนาเพียงหัวข้อเดียวแล้วออกเดินทางก็จะช่วยฟื้นเศรษฐกิจประเทศด้วยการจัดไมซ์ได้อย่างมหาศาลเป็นอย่างดี

 ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์รู้ก่อนช้อปกับ4โปรโมชั่นสุดคุ้มรับฟรี4อย่าง+แคชการ์ด

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ให้นักช้อปรู้ก่อนที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา ตลอดเดือนตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2565 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี (เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น) พัทยา และภูเก็ต กับ 4 โปรโมชั่น คือ

 

โปรที่ 1 รับฟรี! คูปองส่วนลด 1,000 บาท* สำหรับช้อป 5,000 บาท/ใบเสร็จ เพียงลงทะเบียนก่อนช้อป รับคูปองส่วนลดได้ง่ายผ่าน LINE: https://lin.ee/QxLtQ1b

 

โปรที่ 2  รับฟรี! กะรัต x10* เมื่อสะสมยอดช้อปครบ 8,000 บาท (สุทธิ)

โปรที่ 3  ซื้อ CASH CARD รับ GIFT CARD ฟรีสูงสุด 7,000 บาท 1.ซื้อ CASH CARD 10,000 บาท รับฟรี GIFT CARD 3,000 บาท 2.ซื้อ CASH CARD 23,000 บาท รับฟรี GIFT CARD 7,000 บาท

 

โปรที่ 4  รับฟรี! พวงกุญแจ DISNEY 1 ชิ้น เมื่อมียอดช้อปครบ 2,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ

 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3st61cy

 

ข่าวที่ 2 ช้อปเลย!!คิงเพาเวอร์จัดทัพสินค้าแฟชั่นลดตลอดมิ.ย.50+35%

 

คิง เพาเวอร์ จัดทัพสินค้าแฟชั่นและเครื่องประดับสุดชิค ลดแล้วลดอีก ลดสูงสุด 50%* ลดเพิ่มสูงสุด 35% เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ระหว่าง 1-7 มิถุนายน นี้ เอาคนรักแฟชั่นที่ชื่นชอบช้อปออนไลน์ และบริการส่งให้ถึงบ้าน คลิกรับรหัสส่วนลด FASHACC แล้วช้อปได้เลยที่ - https://bit.ly/3aorBc1

รับสิทธิ์ 1.ส่งฟรี! ทั่วประเทศ เมื่อช้อปครบ 699 บาทสุทธิ 2.แบ่งชำระ 0%* นานสูงสุดถึง 10 เดือน

3.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000 บาท > http://bit.ly/2OzUV1k 4. ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง > http://bit.ly/31yjocR ของแถมมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า 5.รับเลย! ส่วนลด 200 บาท เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ > http://bit.ly/2S4uJyi 6. รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาทสุทธิ > https://bit.ly/3lyQbrs

สมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ รับวงเงินช้อปเพิ่ม สมัครเลย https://bit.ly/3wocd6J  ระหว่างวันนี้ -30 มิถุนายน 2565 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา ภูเก็ต  และทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี

1.สมัครสมาชิก SCARLET  6,000 บาท รับวงเงินเพิ่มในบัญชีสมาชิกฯ 1,500 บาทสามารถช้อปได้จริง 7,500 บาท

2.สมัครสมาชิก ONYX  60,000 บาท รับวงเงินเพิ่มในบัญชีสมาชิกฯ 18,000 บาท สามารถช้อปได้จริง 78,000 บาท

 

ข่าวที่ 3 คิงเพาเวอร์มหานครชวนชมแสงสี3วัฒนธรรม3เชื้อชาติเมืองกรุง

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เชิญชวนมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่ “คิง เพาเวอร์ มหานคร” ความสนุกเชิงสร้างแนวใหม่ในโครงการ “AMAZ ซิ่ง BKK” ตื่นตาตื่นใจกับแสงสีสไตล์ “Lighting Installation 3 ธีม กับ 3 วัฒนธรรม 3 เชื้อชาติ” เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2565 ชั้น 74 คิง เพาเวอร์ มหานคร ได้ทุกวันหลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าตั้งแต่เวลา19.00 – 22.00 น.

ค่าเข้าชมเพียงคนละ 250 บาทเท่านั้น ซื้อตั๋วได้ที่ https://bit.ly/Book-SkyWalk-Ticket หรือ https://kingpowermahanakhon.co.th 

คิง เพาเวอร์ เล็งเห็นถึงศักยภาพแห่งเมืองมหานครอย่าง “กรุงเทพฯ” ซึ่งเป็นเมืองแห่งสีสันที่นักเดินทางทั่วโลกเลือกจะมาท่องเที่ยวเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก จึงได้จัดโครงการชวนมาสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ที่มีกลิ่นอายความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเชื้อชาติผสมผสานอย่างลงตัวแห่งวิถีชีวิตใจกลางกรุง 3 ย่านดัง 3 วัฒนธรรม 3 เชื้อชาติ  มาชวนให้ไปเติมเต็มความสุขผ่านแสงสีเทรนด์ “Lighting Installation  ประกอบด้วย

ย่านที่ 1 CHINESE NEON ย่านเยาวราชตัวแทนแห่งวัฒนธรรมจีนเต็มไปด้วยเรื่องของของชุมชนชาวจีนเก่าแก่แห่งหนึ่งในประเทศไทย โด่งดังมากว่าเป็น “ถนนสายของกินและแหล่งรวมความอร่อย” ในพื้นที่แห่งซึ่งมีตำนานร้านเก่าแก่กับร้านค้าต่าง ๆ มากมาย เปิดให้บริการตลอดค่ำคืน มีเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมอาคาร รายล้อมด้วย วัดสำคัญ ๆ  ดึงดูดผู้คนแวะเวียนมาจับจ่ายให้บรรยากาศคล้ายกับอยู่ในเมืองจีนเลยทีเดียว

 

ย่านที่ 2 INDIAN PATTERN ย่านพาหุรัดได้ชื่อว่าเป็น “ลิตเติ้ล อินเดีย” เมืองไทย วิถีชีวิตย่านนี้มีชาวอินเดียย้ายเข้ามาอยู่อาศัยประกอบอาชีพที่ถนัดจากอดีตสู่ปัจจุบัน กระทั่งถึงทุกวันนี้เป็นแหล่งขายสินค้าสิ่งทอคุณภาพดี ไม่ว่าจะเป็น ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าขนสัตว์ เรียงรายเป็นแนวยาวจากพาหุรัด ไปถึงถนนตรีเพชร และถนนจักเพชร รวมทั้งมีรูปปั้น รูปภาพเทพเจ้าอินเดีย แฟชั่นแต่งกายในแบบอินเดีย เช่น กำไล เครื่องประดับ รองเท้าแตะ และอื่น ๆ

 

ย่านที่ 3 FARANG FREE FORM ย่านถนนข้าวสาร ศูนย์รวมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหรือชาวฝรั่งนิยมมาพักอย่างอิสระมีเสรีภาพ ในชุมชนเก่าแก่แห่งนี้กระทั่งกลายเป็นแหล่งทองเที่ยวโด่งดังไปทั่วโลก บริเวณรอบ ๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวแบบครบวงจร ทั้งวัดสำคัญในกรุงเทพฯ แหล่งช้อปปิ้ง สถานที่แฮงเอาต์ยามราตรี สตรีตฟู้ด ดนตรีสด และอื่น ๆ

 

ทันทีที่รัฐบาลประกาศเปิดประเทศอย่างสมบูรณ์แบบตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ผนวกกับการผ่อนคลายให้เปิดแหล่งบันเทิงได้ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวฝรั่งหรือต่างชาติทยอยกันกลับเข้ามาสร้างสีสันให้ธุรกิจย่านถนนข้าวกลับมามีชีวิต ทำให้กลายเป็นศูนย์รวมความบันเทิงยามค่ำคืนที่ไม่หลับไหล สร้างรายได้สู่ระบบเศรษฐกิจให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอีกครั้ง ภายใต้การดูแลความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเป็นอย่างดี

 

“คิง เพาเวอร์ มหานคร” ได้รวบรวมเรื่องราวเทศกาลแห่งแสงสี“HAPPENINGAMAZ ซิ่ง BKK” มาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดกับเอกลักษณ์วิถี “3 วัฒนธรรม 3 เชื้อชาติ” จุดชมวิวชั้น 74 ที่สูงที่สุดในประเทศไทย มาพบกันได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 กรกฎาคม 2565

 

ข่าวที่ 4 ททท.นำเอกชนรุกเร็วเจาะมาเลย์เที่ยวทั่วไทยฟื้นรายได้4ล้านคน

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า ได้นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยนำร่องเจาะกลุ่มคุณภาพตลาดต่างประเทศระยะใกล้ (Short-Haul) ในพื้นที่หลักจากมาเลเซียร่วมทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย ระหว่างวันที่ 27-30 พฤษภาคม 2565  โดยมีบริษัทนำเที่ยวซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มผู้ซื้อการท่องเที่ยวไทย 90 ราย จากเมือง ยะโฮร์บาห์รู   มะละกา กัวลาลัมเปอร์ สลังงอร์ อิโปห์ และปีนัง เดินทางมายังประเทศไทย ระหว่างวันที่  27-30 พฤษภาคม 2565

 

ททท.ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายด้วยโครงการ “Malaysia Southern Thailand Business Networking” เปิดให้เอกชนทั้ง 2 ประเทศจับคู่เจรจาธุรกิจกันในลักษณะ B2B -Business to Business ระหว่างตัวแทนการขายท่องเที่ยวของไทย (sallers) กับตัวแทนบริษัทผู้ซื้อมาเลเซีย (buyers) เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 ที่โรงแรม นิวซีซันส์ สแควร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีผู้ประกอบการของไทยกว่า 75 ราย ทั่วภาคใต้ในเมืองยอดนิยมทั้งในสงขลา นครศรีธรรมราช กระบี่ พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี พัทลุง และจังหวัดอื่น ๆ เข้าร่วมนำเสนอขายแพ็กเกจวางกลยุทธ์เจาะตลาดนักท่องเที่ยวมาเลเซียกระจายเดินทางไปตามพื้นที่ต่าง ๆ อย่างทั่วถึงตั้งแต่พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป

 

นายธเนศวร์ย้ำว่า ผู้ประกอบการมาเลเซียที่เข้าร่วมการขายครั้งนี้ ใช้วิธีเดินทางโดยรถบัส ทดลองการเข้าเมืองไทยผ่านด่านทางบก บริเวณด่านสะเดา จ.สงขลา เพื่อปลุกกระแสการขับรถผ่านด่านทางบกท่องเที่ยวเมืองไทย ควบคู่กับได้สร้างการรับรู้ถึงรูปแบบการเดินทางอย่างสะดวกสบาย มีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุข มาตรฐาน SHA การบริหารจัดการในพื้นที่ รวมถึงชวนสัมผัสเสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรม อาหารไทย -อาหารฮาลาล แหล่งช้อปปิง

 

โดยเฉพาะการขายเชิงรุกเจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มความสนใจพิเศษ ได้แก่ 1.กลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพองค์รวม (Health & Wellness) 2.คู่แต่งงานและฮันนีมูน  (Wedding-Honeymoon) 3.นักท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism)  และ 4.นักท่องเที่ยวหรูหรา (Luxury)

 

ททท.ตั้งเป้าหมายสูงสุดมุ่งเน้นส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวมาเลเซียเกิดการเดินทางซ้ำตลอดทั้งปี (All Year Around) จะช่วยเพิ่มทั้งรายได้ การสร้างงานให้คนท้องถิ่น และส่งเสริมระบบเศรษฐกิจทั่วสงขลา และจังหวัดต่าง ๆ ในภาคใต้ของไทย

 

 

ภายหลังกิจกรรมส่งเสริมการขาย ททท. ได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับคณะพันธมิตรผู้ประกอบการท่องเที่ยว ทั้งหมดรวมทั้งนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่ซื้อจากบริษัทนำเที่ยวท้องถิ่น ได้แก่ MCTA Penang, Bumi Kenyalang Travel, AR Travel, Confidence Travel, Golden Century เดินทางเข้ามาพักผ่อนในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ระหว่าง 27-30 พฤษภาคม 2565

ข่าวที่ 5 เติมน้ำมันบางจากรับฟรีสับปะรดและมังคุดช่วยอุดหนุนเกษตรกร

สมาชิกบางจากเติมน้ำมันชนิดใดก็ได้ตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป รับฟรี! สับปะรดปัตตาเวีย 1 ลูก ระหว่าง 4 - 6 มิ.ย. 65 หรือจนกว่าของจะหมด โดยบางจากฯ ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดในภาคเหนือเพื่อรองรับผลผลิตที่กำลังออกสู่ตลาดในปริมาณมากพร้อมกัน
โดยรับซื้อสับปะรดปัตตาเวียนำมาสมนาคุณให้กับลูกค้าสมาชิกบางจากที่เติมน้ำมันชนิดใดก็ได้ ตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป

รับฟรี! สับปะรดปัตตาเวีย 1 ลูก  (น้ำหนักประมาณ 1 - 2 กิโลกรัม) มูลค่า กก. ละ 15 บาท
ตั้งแต่วันที่ 4 - 6 มิถุนายน 2565

 

สมาชิกบางจากเติมน้ำมันชนิดใดก็ได้ตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป รับฟรี มังคุด 1 กก. มูลค่า 30 บาท

2 - 4 มิ.ย. 65 หรือจนกว่าของจะหมด บางจากฯ ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ช่วยเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดภาคตะวันออก เพื่อรองรับผลผลิตที่กำลังออกสู่ตลาดในปริมาณมากพร้อมกัน โดยรับซื้อมังคุดมาสมนาคุณให้ลูกค้าสมาชิกบางจากเติมน้ำมันชนิดใดก็ได้ 100 บาทขึ้นไป รับฟรี มังคุด 1 กิโลกรัม มูลค่า 30 บาท ในปั๊มบางจากเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑลที่เข้าร่วมรายการ

ที่ผ่านมาทางบางจาก ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ช่วยเหลือเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง เมื่อผลผลิตการเกษตรออกสู่ตลาดจำนวนมาก ก็จะเข้าไปรับซื้อแล้วนำมาสมนาคุณลูกค้าผู้ใช้น้ำมัน อาทิเช่น มะนาว สับปะรด ลำไย ไข่ไก่ หอม กระเทียม  เป็นต้น 

ทั้งนี้ด้วยแนวคิด Greenovative Destination ของสถานีบริการน้ำมันบางจาก ไม่เพียงมีเป้าหมายให้ผู้บริโภคได้รับนวัตกรรมพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและตอบสนองความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันเท่านั้นแต่ยังมุ่งหวังให้สถานีบริการน้ำมันบางจากเป็นจุดหมายของการแบ่งปันและสร้างสรรค์สังคมไทยที่น่าอยู่อย่างยั่งยืนไปพร้อมกันด้วย
 

ข่าวที่ 6 TCEBงัดกิจกรรมดึงธุรกิจร่วม“ลองไมซ์”แจกคูปองลดรัวๆMiceConnect

 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) รายงานว่า ขณะนี้ได้เปิดหลากหลายช่องทางออนไลน์ทั้ง เพจเฟซบุ๊ค ไลน์แอด และอีเมล เชิญชวนผู้ที่สนใจจัดงานไมซ์ลองขอใบเสนอผ่าน www.thaimiceconnect.com  ระหว่างวันนี้ -24 มิถุนายน 2565 ลองก่อนรับก่อนคูปองส่วนลดค่าจัดงานไมซ์ 5,000 บาท* จำนวน 10 ใบ สามารถขอใบเสนอราคาซัพพลายเออร์ที่สนใจได้ทันทีบนแพลตฟอร์มทีเส็บ

 

สำหรับส่งหลักฐานขอใบเสนอราคามาได้ที่ inbox เพจ Thai MICE Connect หรือ Line : @thaimiceconnect หรืออีเมล supporttmc@tceb.or.th ประกอบด้วย

 

1.หลักฐานการขอใบเสนอราคาจาก Thai MICE Connect (จากอีเมลหรือแคปหน้าจอการขอใบเสนอราคาที่สมบูรณ์)

 

2.ใบเสนอราคาจากสถานที่ที่จัดงาน โดยระบุชื่อแคมเปญ “ลองไมซ์ ขอใบเสนอราคา" อย่างชัดเจน ซึ่งถูกเซ็นอนุมัติเรียบร้อยแล้ว

 

3. หนังสือรับรองนิติบุคคล และ/หรือ ใบอนุญาตประกอบกิจการที่ถูกต้องตามกฎหมาย และยังไม่หมดอายุ และ/หรือ ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ภพ.20

 

4.ใบเสร็จรับเงินจากสถานที่ที่จัดงาน โดยมีรายละเอียดตรงกับใบเสนอราคา

 

5. ภาพถ่ายการจัดกิจกรรมอย่างน้อย 4 ภาพ

 

ส่วนคูปอที่ได้รับ สามารถใช้เป็นส่วนลดกับการใช้บริการธุรกิจใน Thai MICE Connect เท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ ซึ่งจะใช้ได้ก็เมื่อส่งหลักฐานครบถ้วน รวมทั้งปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่น ๆ อย่างครบถ้วนตามที่ทีเส็บกำหนด

ติดตามข้อมูลข่าวสารอัปเดตล่าสุดก่อนใครได้ที่ https://bit.ly/3JW5DcM หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ทาง inbox และ Line: @thaimiceconnect

          ช่วงที่ 2 ได้เวลาแพกกระเป๋าล่องใต้สู่ “พังงา” ค้นหาความสุขวิถีใหม่ในเทศกาล “Aqualumina แสงเรืองรองแห่งท้องทะเลอันดามัน” ริมหาดเมมมอรี่ แล้วตลุยคลื่นไปเที่ยว “เกาะผ้า” หนึ่งในอันซีน นิวซีรีย์ ไทยแลนด์ สำหรับการดูแลสุขภาพ “ป้องกันให้ห่างโรคหน้าฝนหวัด/ทางเดินหายใจ/ปอดบวม” และข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “แอร์เอเชียเปิดAirasia ride” บริการใหม่แท็กซี่รับทัวร์ต่างชาติ และ “วอร์เนอร์บราเธอร์” ค่ายหนังอเมริกาผนึกการบินไทยดันไทยฮับถ่ายหนังโลก

 

ท่องเที่ยว - ตลุยทัวร์“พังงา”ตื่นตากับอควอลูมิน่าและเกาะผ้าอันซีนไทยแลนด์

หรอยแรง แหล่งใต้ ลัดฟ้าไปเที่ยว “พังงา” เพิ่มประสบการณ์ท่องเที่ยวดี ๆ  เริ่มจาก การเที่ยวเทศกาลงาน “ AquaLumina มหัศจรรย์แสงเรืองรอง แห่งท้อง ทะเลอันดามัน " วันนี้จนถึง 12 มิถุนายน 256 ตื่นตากับแสงสีในเทศกาลประดับไฟสุดยิ่งใหญ่ ที่หาดเมมโมรี่บีช เขาหลัก สนุกกับคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังมากมาย

 

แล้วตะลอนทัวร์ “พังงา” เมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติทะเลอันดามันขึ้นชื่อ เพิ่มประสบการณ์ใหม่ ๆ ทดลอง “ล่องเรือเที่ยวอ่าวพังงา” จะนั่งเรือสปีดโบ๊ท เรือหางยาว เรือประเภทอื่น ๆ เลือกได้ตามสะดวก

 

ช่วงนี้นักท่องเที่ยวนิยมใช้เรือหางยาวนั่งไปดื่มด่ำอ่าวพังงา ใช้บริการท่าเรือต่าง ๆ ใน อำเภอตะกั่วทุ่ง และ อำเภอเมือง เช่น “ท่าเรือท่าด่าน” อยู่ใกล้ตัวเมืองพังงา “ท่าเรือบ่านท่าหินร่ม” อยู่ในโซนเสม็ดนางชี หรือท่าเรือสุระกุล และท่าเรือบ้านสามช่องเหนือ

 

ไฮไลต์ที่กำลังมาแรงคือ “เกาะผ้า”  เกาะสุดมินิมอล เป็นหนึ่งใน 25 Unseen New Series ของเกาะที่มีลักษณะคล้ายทะเลแหวก ช่วงน้ำทะเลลดจะโผล่ขึ้นมาเหนือผืนน้ำทะเลเป็นสันดอนทราย หากน้ำลดน้อยจะเห็นเกาะผ้าขนาดเล็ก ๆ ด้วยผืนทรายเนียนขาวละเอียดสวยงาม ยิ่งน้ำลดมากก็จะเห็นเกาะขนาดย่อมมากถึง 3 เกาะ ในช่วงน้ำลดต่ำสุดเกาะทั้งหมดจะรวมเป็นผืนเดียวกันมีพื้นที่เกือบ 1 ตารางกิโลเมตร

 

ดังนั้น การท่องเที่ยว “เกาะผ้า” ที่สามารถสัมผัสด้วยตากับปรากฏการณ์ทะเลแหวกแบบนี้ได้เฉพาะช่วงเวลาน้ำขึ้น-น้ำลง  เป็นหลักเท่านั้น

 

ในอดีต “เกาะผ้า” เป็นเกาะเล็กๆ เนื้อที่ 4-5 ไร่ อยู่บนเกาะมีต้นสนเต็มไปด้วยทิวต้นมะพร้าวมากมาย กระทั่งปี 2547 เกิดแผ่นดินไหวคลื่นยักษ์สึนามิถล่มฝั่งอันดามัน “พังงา” เป็นพื้นที่ประสบภัยอย่างหนักท้องทะเลบริเวณเกาะผ้าก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

จากนั้นเกาะทั้งเกาะก็จมหายไป ไม่ปรากฏบนแผนที่โลกอีกต่อไป หลงเหลือเพียงสันดอนทรายโผล่ขึ้นมาเฉพาะช่วงน้ำลงเท่านั้น นี่คือร่องรอย“เกาะผ้า” ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่สุดอันซีนในพังงา ที่มีทรายเนื้อละเอียดมาก สีขาวนวลทั่วทั้งเกาะเหมือนผืนผ้า น้ำทะเลก็ใสราวกระจกมองทะลุเห็นสัตว์ทะเลแหวกว่ายอยู่บริเวณน้ำตื้นมองเห็นชัดเจน

รอบ ๆ เกาะผ้ามี “แหล่งดำน้ำลึก” ยังมีความอุดมสมบูรณ์ทั้ง ปะการังและสัตว์น้ำ อย่างปลาการ์ตูน เทียบได้กับปลานีโม่นั่นเอง

ตอนนี้ “เกาะผ้า” เป็นหนึ่งใน 25 Unseen New Series ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

การเดินทางไปเกาะผ้า แนะนำให้ขึ้นเรือตรง “ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม” มีเรือประมงพื้นบ้านคอยให้บริการ ราคาเหมาลำเริ่มต้น 2,500 บาท โดยสารได้สูงสุด 8 คน หรือจะใช้บริการบริษัทนำเที่ยวก็จะได้ข้อมูลพิเศษแต่ละแห่งเป็นพิเศษเพิ่มมากขึ้น

            เที่ยว “พังงา” เดือนมิถุนายน นี้ มีดีทั้งงานเทศกาลความเรืองรองแห่งท้องทะเล กับลองมาเยือน “เกาะผ้า” หนึ่งในสุดยอดอันซีน นิว ซีรีย์ ไทยแลนด์

 

พาทัวร์ - ป้องกันให้ห่างไกลโรคหน้าฝนทั้งหวัด-ทางเดินหายใจ-ปอดบวม

การดูแลสุขภาพและรับมือโรคต่าง ๆ ที่มากับฝน ไม่ได้มีเพียงแต่ไข้หวัดตามที่เข้าใจกัน แต่ยังมีโรคอื่นอีกมาก และบางโรครุนแรงกว่าโรคหวัดเสียอีก  “โรคหวัด” พบมากและบ่อยที่สุด “โรคระบบทางเดินหายใจ” เช่นหลอดลมอักเสบ และโรคปอดบวม

โรคหวัดเป็นโรคที่เป็นได้ง่ายที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีอยู่ในอากาศ ดังนั้นเราจึงมีโอกาสได้รับเชื้อได้ตลอดเวลาและจะแสดงอาการถ้าเรารับเข้าไปในขณะที่ร่างกายเราอ่อนแอ เมื่อรู้สึกว่าเป็นหวัด ต้องรีบรักษาทันทีก่อนลุกลามกลายเป็นโรคระบบทางเดินหายใจและปวดบวม

 

วิธีการรักษาและดูแลตัวเองเมื่อเป็นหวัด “อาการของโรค” โดยทั่วไปจะมีไข้สูง คัดจมูก มีน้ำมูก ปวดศรีษะ ไอหรือจามมาก เจ็บคอ มีเสมหะมาก โดยทั่วๆจะมีอาการอยู่ราวๆ 3-5 วัน

 

“โรคหวัด” ยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ จะมีแต่ยารักษาตามอาการเท่านั้น โดยทั่วไปเมื่อเป็นหวัด ร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาเพื่อกำจัดเชื้อหวัดเอง แต่เราคงรอให้หายเองไม่ไหว มันทรมาน  จึงนิยมใช้การรักษาตามอาการเพื่อบรรเทาอาการที่เกิดขึ้น เช่นการทานยาลดไข้บรรเทาปวด ยาแก้ไอ ยาลดน้ำมูก ยาแก้อักเสบ

 

สิ่งที่ควรปฏิบัติเมื่อมีอาการไข้หวัด 1.นอนให้มากขึ้น นอนหลับให้เพียงพอ 2.ถ้ามีอาการมาก ให้ทานยาลดไข้บรรเทาปวด 3.สวมเสื้อผ้าที่อบอุ่น 4.ดื่มน้ำสะอาดมากๆ 5.เช็ดตัวบ่อย ๆ  6.สวมผ้าปิดจมูกป้องกันการแพร่ของเชื้อหวัดโดยการไอและจาม 7.ทานอาหารอ่อนและน้ำผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูง 8.อยู่ในที่อากาศถ่ายเทได้ดี 9.อย่าใกล้ชิดกับผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่นผู้ป่วยอื่น เด็กและผู้สูงอายุ 10.ควรหยุดงานหรือหยุดเรียน เพื่อไม่ให้ไปแพร่เชื้อโรคให้กับผู้อื่น

การป้องตัวเองจากไข้หวัด มีวิธีวิธีปฏิบัติตนให้มีโอกาสเป็นหวัดน้อยลงได้ ดังนี้

1.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 20-30 นาที เมื่อร่างกายแข็งแรง หวัดจะแสดงจะแผลงฤทธิ์ได้ยากขึ้น  2.ทานอาหารที่มีประโยชน์ มีวิตามินซีสูง 3.พยายามหลีกเลี่ยงที่ชุมนุมชนให้มากที่สุด 4. ไม่เข้าใกล้คนกำลังเป็นไข้หวัดมากเกินไป 5.ล้างมือให้สะอาด ล้างบ่อยๆ 6.หลีกเลี่ยงการโดนฝน

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก –แอร์เอเชียรุกธุรกิจใหม่ในไทยAirasia rideบริการแท็กซี่ทัวร์ต่างชาติ

 

นางอแมนดา วู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Airasia Super App เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้เปิดตัวบริการใหม่ airasia ride ครั้งแรกในกรุงเทพฯ ด้วยรถแท็กซี่รับ-ส่ง ซึ่งมีกลุ่มรถแท็กซี่สนใจลงทะเบียนในราคาแบบประหยัดแล้ว 3,000 คน ตั้งเป้าเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวกรุงเทพฯ  อนาคตก็จะขยายบริการรถรับ-ส่ง อย่างรถตู้ด้วยก็ได้

ขณะนี้แอพลิเคชั่น airasia Super App สามารถเพิ่มบริการให้ลูกค้าครบวงจรทั้ง เที่ยวบิน โรงแรม รถรับ-ส่ง สถิติตั้งแต่เปิดแอพในไทยเมื่อกุมภาพันธ์ 2565 มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 53% พร้อมทั้งใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ แทรเวล เอเย่นต์ (OTA )

เชื่อมโยงไปถึงบริการใหม่รถแท็กซี่เติบโตไปด้วยได้

 

                นางสาวนิรดา ตรรกวรุฒม์ หัวหน้าแผนกบริการ airasia ride ประจำประเทศไทย ย้ำว่า ได้เริ่มนำกลุ่มแท็กซี่มาให้รถรับ-ส่ง นักท่องเที่ยวต่งชาติตั้งเป้าตลอดปี 2565 จะทำให้ได้ 70% เนื่องจากรัฐบาลประกาศเปิดประเทศสมบูรณ์แบบแล้ว ส่งผลให้มีต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวกรุงเทพฯ เป็นจำนวนมาก บวกกับ กลุ่มคนขับรถสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ จึงสามารถตอบสนองความต้องการสร้างความพึงพอใจต่างชาติที่เป็นอย่างดี รวมถึงคนขับแท็กซี่เองก็จะมีรายได้ 100 % พร้อมกับมีโปรโมชั่นให้ลูกค้าเลือกอยู่ตลอด เพื่อเป็นทางเลือกที่จะดึงคนเข้ามาใช้บริการ

 

ข่าวที่สอง วอร์เนอร์บราเธอร์สผนึกบินไทยปั้นแหล่งเที่ยวไทยฮับถ่ายหนังโลก

 นายกรกฏ ชาตะสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ร่วมในข้อตกลง กับ มิสเตอร์ อี เบนเนตต์ วอลช์ ผู้อำนวยการผลิต บริษัท วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอรี่ (WBD) เลือกการบินไทย เป็นสายการบินที่ให้บริการเดินทางเข้ามาเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ในเมืองไทย สถิติแต่ละปีที่ผ่านมามีบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศจำนวนมาก เลือกไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ สารคดี รายการโทรทัศน์ โฆษณา หรือมิวสิกวิดีโอ

ดังนั้นความร่วมมือกับ บริษัท วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอรี่ ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะส่งเสริมให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางหลักของอุตสาหกรรมการผลิตภาพยนตร์จากทั่วโลก และสร้างความเข้มแข็งผลักดันไทยเป็นประเทศศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นอีกช่องทางสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทย

ส่วนการบินไทยยินดีให้บริการเที่ยวบินตรงจากทั่วโลกทั้งการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าทางอากาศ พร้อมอำนวยความสะดวกทีมงานผู้ผลิตภาพยนตร์ตลอดการเดินทางทุกเที่ยวบิน โดยเฉพาะการขนส่งอุปกรณ์ที่ต้องการความเอาใจใส่เป็นพิเศษ เช่น กล้องวิดีโอ เลนส์ อุปกรณ์ไฟ และอุปกรณ์ที่ใช้ผลิตภาพยนตร์อื่น ๆ

สำหรับ บริษัท วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอรี่ เป็นบริษัทผู้ผลิตสื่อสาระบันเทิงชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ได้ให้ความไว้วางใจการบินไทยกับไทยสมายล์ทั้งการเดินทางและขนส่งเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อมาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “The Meg 2 : the Trench” ในเมืองไทยซึ่งมีสถานที่สวยงามมากมายตอบโจทย์บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ได้เป็นอย่างดี

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.