“TCEB”งัดนวัตกรรมโลกพลิกโฉมไมซ์ไทยโกยรายได้ปี65ชู“ไฮบริด-ดิจิทัลไซเนส-โรบ็อต-เมตาเวิร์ส”แจกอีโวเชอร์สูงสุด1ล้านบาท

“TCEB”ระดมเทรนด์นวัตกรรมโลกพลิกโฉมไมซ์ไทยโกยตลาดปี65

ปลุกธุรกิจทั่วไทยใช้“ไฮบริด-ดิจิทัลไซเนส-โรบ็อต-เมตาเวิร์ส”จัดไมซ์

เทคเฟร์มจับคู่บริษัทไฮเทคจัดไมซ์ปุ๊บรับปั๊บอีโวเชอร์สูงสุด1ล้านบาท

คิงเพาเวอร์แจกสมาชิกที่SOLNE Clinicลดแรง50%+@Lineช้อปสนุก

รร.พูลแมนคิงเพาเวอร์เปิดเท็นชิโนะเสิร์ฟอาหาร+AR3มิติทัวร์ญี่ปุ่น

ด่วน!!ททท.อบรมฟรีPDPA30มิ.ย.นี้-ยกระดับองค์กรสู่TAT SMART

TCEB แนะกลยุทธ์ปังๆ ดึงคอนเวนชั่นมาจัดในไทยได้ด้วย8 ขั้นตอน

บางจากฯโชว์ศักภาพพลังงานยั่งยืนในเวทีUN Global Summit 2022

เที่ยว!!อุบลสุดคูลทัวร์บุญชุมชนแห่เทียนพรรษา-บ้านคำปูน-ช่องเม็ก

อาหาร4ชนิดหน้าร้อนต้องระวังต้องรีบป้องกันท้องร่วงอาหารเป็นพิษ

เลเจนด์สยามพัทยาปลุกสายเขียวเที่ยวงานเสรีกัญชา 25-26มิ.ย.65

โนโวเทลทั่วโลก50โรงแรมผนึกดิสนีย์ใช้หนังใหม่โกยตลาดครอบครัว

“ศุภวรรณ ตีระรัตน์" รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB”

 วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #Miceconnect #แห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี

 ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...  https://fb.watch/dKokrAAGHa/

ช่วงที่ 1 เปิดแนวรุกไมซ์กับ “ศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” รุกใช้เทรนด์โลกพลิกโฉมงานไมซ์ไทยเทียบชั้นอินเตอร์ 4 เรื่อง “ไฮบริด-ดิจิทัลแพลตฟอร์ม-ดิจิทัลไซเนส” ผนวก 4 นวัตกรรม “โรบ็อต+Live Streaming+อินโนเวชั่นแคตาล็อก+Bitconnect” ปูพรมสู่ไมซ์ลดโลกร้อน หนุน Smart Venueเต็มเหนี่ยวยกระดับสถานที่จัดงานทั่วไทยสู่สากล แจกอีโวเชอร์ 100,000-1,000,000 บาท เชียร์เทคเฟิร์มจับคู่ธุรกิจไฮเทคโหมจัดไมซ์สร้างรายได้อนาคตโต เตรียมจับมือ TGO องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ปูพรมไมซ์ SDG

นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” วางแผนเดินหน้านวัตกรรมกับการพัฒนาแนวใหม่ ๆ มาเสนอให้ผู้ประกอบการในอุตสหกรรมไมซ์ของประเทศไทย ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคใหม่ เรื่องที่ 1  ปัจจุบันเกือบทุกงานไมซ์นำระบบไฮบริดเข้ามาใช้ทั้งหมด จัดงานประชุม อีเวนต์ แสดงสินค้า ผสมผสานทั้งจัดจริงควบคู่ออนไลน์

เรื่องที่ 2 วิธีลงทะเบียนเข้าร่วมงานต่าง ๆ หันมาใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มทั้งหมด โดยให้ลงออนไลน์ หรือบางงานให้ใช้สแกนใบหน้า Face scaning หรือโชว์มือถือที่มีระบบลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วเข้างานได้ทันที

เรื่องที่ 3 นำ Digital signess เข้ามาใช้แทนโปสเตอร์แสดงแผนผังการจัดแต่ละแทน ทำได้ง่ายสะดวก ต้นทุนไม่สูง  สามารถเปลี่ยนภาพได้หลากหลาย ประการสำคัญช่วยลดการใช้กระดาษลดภาวะโลกร้อนและลดใช้คาร์บอน รวมถึงลดการสัมผัสกันได้มากด้วย

 

ขณะนี้ทีเส็บพร้อมสนับสนุนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจัดงาน FTI EXPO  2022 : SHAPING FUTURE INDUSTRIES ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2565 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็น 1 ใน 10 เมืองไมซ์ของทีเส็บ เพื่อขานรับการประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ทั้งระบบ โดยจะมีสมาชิกและกลุ่มสภาอุตสาหกรรมแต่ละจังหวัดทั่วประเทศจะมารวมตัวกัน

ภายในงานจะมีทั้งการแสดงสินค้า ผลิตภัณฑ์ สัมมนา ซึ่งงานนี้ได้คุยกันนำร่องทำโครงการ “CARBON NEUTRAL” ทำให้เกิดขยะเป็นศูนย์หรือ ZERO WASTE ด้วย ใช้วิธีชดเชย (opset) การปล่อยคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมกันนี้ทีเส็บยังได้สนับสนุนการนำ “ 4 นวัตกรรม” เข้ามาใช้จัดงานไมซ์ประเภทต่าง ๆ ได้แก่ 

1.การใช้หุ่นยนต์ Robot ซึ่งสามารถให้ข้อมูล แผนผังงาน บอกถึงการเว้นระยะห่าง ตลอดจนถึงผู้เข้าร่วมงานสามารถสอบถามเส้นทางท่องเที่ยวพื้นที่ใกล้เคียงได้ด้วย

2.นำ Live Streaming เข้ามาใช้กระจายรูปแบบการจัดงานให้คนในเชียงใหม่ ภาคเหนือ และทั่วประเทศ เข้าถึงงานได้ด้วยในระบบออนไลน์ไลฟ์สดอีกช่องทาง

3.นวัตกรรมแคตาล็อกสินค้า หรือ Innovation catalog ปัจจุบันในธุรกิจไมซ์ ผู้ให้บริการอาจจะไม่มากเท่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ จากประสบการณ์ของทีเส็บต่อเนื่องมากว่า 2 ปี ที่ได้นำนวัตกรรมเข้ามารวมศูนย์ในรูปแบบ Tec Firm มีรายชื่อถึง 90 บริษัท ผ่านการคัดเลือกคุณสมบัติแล้วนำมาบรรจุไว้ในแคตาล็อก เพื่อให้ผู้จัดงานเลือกใช้บริการได้ สามารถหาข้อมูลบริษัทเทคเฟิร์มได้ที่เว็บไซต์ www.thaimiceconnect.com   และ www.businesseventthailand.com  

4.ให้นวัตกรรมแพลตฟอร์ม Bitconnect เพื่อการจัดงานประชุม อีเวนต์ งานวิ่ง การแสดงสินค้าของภาครัฐและเอกชนนำไปใช้โดยมีทีเส็บเป็นผู้ลงทุนจ้างผู้เชี่ยวชาญทำแพลตฟอร์มสำเร็จรูปให้แต่ละภาคส่วนที่จัดงานไมซ์ได้ใช้ประโยชน์ฟรี เพื่อการลงทะเบียนการเข้างาน ข้อมูลวิทยากร หรือหัวข้อใด มีคนสนใจมากที่สุด เรื่อยไปจนถึงการพิมพ์ข้อมูลผู้เข้าร่วมงานได้ด้วย เป็นชาย-หญิง อายุ สนใจสินค้าประเภทใด เลือกเดินโซนสินค้าอะไรมากที่สดุ

นางศุภวรรณ กล่าวว่า ขณะนี้เทรนด์โลกหันมาให้ความสำคัญกับ “สถานที่จัดงาน หรือ Venue” ซึ่งแต่เดิมทีเส็บจะสนับสนุนออร์กาไนเซอร์หรือผู้รับจัดงานจัดการงานประชุม แสดงสินค้า อีเวนต์ เมื่อเทรนด์โลกเปลี่ยนไปเน้นเรื่องสถานที่จัดงาน คนรุ่นใหม่ไม่อยากอยู่ในห้องประชุม จึงมีรูปแบบอาคารพิเศษ ทีเส็บจึงได้เพิ่มการสนับสนุน Smart Venue มากขึ้น โดยให้ประยุกต์นวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ด้วยการปรับให้ผู้จัดการนำมาผสมผสานกัน แล้วยกระดับสมาร์ตเวนูรองรับไมซ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สำหรับ Smart Venue ทีเส็บได้เน้นให้ผู้เจ้าของสถานที่หรือผู้จัดงานนำ digital signess เข้ามาใช้ เพื่อให้ข้อมูลภายในงาน พร้อมกับแหล่งท่องเที่ยวแต่ละเมืองที่จัดงานเพื่อเพิ่มรายได้มากขึ้น เพราะบางงานได้ตลาดต่างประเทศเข้ามาร่วมงานในเมืองนั้น ๆ อาจจะยังมีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะไปเที่ยวเพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น สร้างเศรษฐกิจในพื้นที่

ส่วน Smart Venue จะมีองค์ประกอบหลัก ๆ ที่นำมาใช้เป็นเกณฑ์พิจารณาอยู่ 2 เรื่อง คือ

1.การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้อำนวยความสะดวกแบบครบวงจร

2.ทำการจัดงานเพื่อสร้างความยั่งยืน ซึ่งสถานที่จัดงานที่มีนโยบายในการลดสิ่งที่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ไม่ใช้ขวดพลาสติก ไม่ใช้ผ้าปูโต๊ะซึ่งต่างจังหวัดชอบทำ ไม่ต้องมีดอกไม้ หรือบางแห่งมีรถรับส่งด้วยระบบใช้ร่วมกันหรือ Car Pool มายังสถานที่จัดงาน มีอาหารท้องถิ่นแทนเค้ก เบเกอรี่ เสิร์ฟช่วงเบรกการประชุมหรือช่วงอาหารกลางวัน

ทีเส็บต้องการรณรงค์ให้การจัดไมซ์ทุกงานใช้ระบบ Digital signess เพื่อลดละเลิกใช้กระดาษ โปสเตอร์ บนสกรีนหน้าจอ หรือบริเวณหน้าห้องประชุม ซึ่งพอจบงานก็จะกลายเป็นขยะ 

ขณะนี้ยังได้นำ “METAVERSE” เข้ามาใช้ในการจัดงานอีเวนต์ค่อนข้างมาก นอกจากออนไลน์แล้ว ยังมีจะมีเสมือนจริงหรือ Virtual ผนวกรวมอยู่ด้วย ตัวอย่างทีเส็บจัดงานที่โรงแรมสวิสโฮเต็ลกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 15-16 มิถุนายน 2565 เป็นงาน “พัฒนาศักยภาพไมซ์ - MICE DEVELOPMENT” ภายในได้จัดพร้อมกัน ได้แก่

 

1.งานซีรีย์ COACH The COACHES ให้กูรูกับวิทยากรสอนคณาจารย์แล้วนำไปถ่ายทอดสอนนักศึกษาและคนในพื้นที่ ตลอดงาน 2 วัน มีผู้เข้าร่วมรวมทั้งหมด 600 คน แบ่งเป็น ในพื้นที่จัดงานจริง (onsite) 100 คน และออนไลน์ทั่วประเทศอีก 500 คน

2.MICE Career Day เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้มาฝึกงานในงานพัฒนาคุณภาพไมซ์ โดยมีวิทยากรชื่อดังหลายคน มี Agoda บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) พร้อมทั้งได้เชิญผู้ประกอบการโรงแรม ศูนย์ประชุม ผู้จัดอีเวนต์ เข้ามารวมกว่า 50 ราย ซึ่งสถานที่จัดงานมีพื้นที่ไม่เพียงพอ จึงได้นำเมตาเวิร์สเสมือนจริง มีบูธ อวตาลตัวแทนนักศึกษาเลือกเพื่อนั่งโต๊ะขอคำปรึกษาจากกูรูแต่ละบูธได้

 

นางศุภวรรณ กล่าวว่า นอกจากทีเส็บจะให้การสนับสนุนด้านนวัตกรรม ด้วยการรวบรวมรายชื่อบริษัท TEC FIRM เข้ามาไว้ในแคตาล็อกดิจิทัลแล้ว ก็เปิดช่องทางให้กลุ่มผู้ประกอบการทางเทคโนโลยีเลือกจับคู่กับเทคเฟิร์ม เมื่อคู่ไหนจับคู่ทำงานร่วมกันจัดงานไมซ์ได้ ก็จะมานำเสนอทีเส็บเพื่อคัดกรองอีกครั้งจากนั้นจะให้อีโวเชอร์แทนเงินสนับสนุนตรงไปยังบริษัทเทคเฟิร์มผู้รับผิดบอการจัดงาน วงเงินตั้งแต่ 100,000 -1,000,000 บาท/งาน ซึ่งทางผู้ที่ได้รับอีโวเชอร์แทนเงินไปจะต้องทำสรุปผลลัพธ์ถึงความสำเร็จเป็นมูลค่ามากเท่าไร ซึ่งมีผู้เลือกใช้โครงการนี้เป็นจำนวนมากทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

ส่วนการต่อยอดงานพัฒนาไมซ์ อีกโครงการคือการลงนาม MOU กับสถาบันการศึกษาเพื่อสร้าง MICE Business Center เพื่อกระจายให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service ได้ครอบคลุมทั่วประเทศ ตอนนี้ทีเส็บมี MICE CITY 10 เมือง ประกอบด้วย 1.ภาคเหนือ ที่เชียงใหม่ พิษณุโลก 2.ภาคกลาง คือ กรุงเทพฯ 3.ภาคตะวันออก ที่พัทยา(ชลบุรี) 4.อีสาน ที่นครราชสีมา อุดรธานี ขอนแก่น 5.ภาคใต้ ที่สงขลา สมุย+สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต

ก่อนหน้านี้ทีเส็บเคยลงนามสัญญาไว้นานแล้วตั้งแต่ปี 2559 มีเพียง 5 เมืองไมซ์ ซิตี้ เท่านั้น รวมทั้งไม่ได้มีสำนักงานทีเส็บภาคครบทุกจังหวัด ตอนนี้มี ทีเส็บภาคเหนืออยู่เชียงใหม่ อีสานอยู่นครราชสีมา ภาคใต้อยู่ภูเก็ต ภาคตะวันออกอยู่พัทยา ภาคกลางอยู่สำนักงานในกรุงเทพฯ ดังนั้นการจะช่วยให้คำปรึกษา อำนวยความสะดวก แนะนำ ทำการตลาด หลาย ๆ เรื่องให้แต่ละเมืองจึงจำเป็นที่จะต้อง MICE One Stop Service

 

จึงได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยหลัก ๆ อยู่ตามเมืองต่าง ๆ ทางทีเส็บใช้วิธีเข้าไปพัฒนาให้เป็น “ศูนย์บริการเครือข่ายนวัตกรรมไมซ์” เพิ่มจาก 5 เป็น 11 ศูนย์ เพิ่มใหม่อีก 6 แห่ง โดยมีผู้ใช้บริการเป็นทางจังหวัดและภาคเอกชนที่เข้ามาใช้บริการดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันมหาวิทยาลัยได้ขยายบทบาทพัฒนาอบรมผู้ประกอบการ มาตรฐานสถานที่จัดงาน และศูนย์ข้อมูลไมซ์ จึงทำงานร่วมกันตอนนี้ครอบคลุมทุกภาคทั่วประเทศ เช่น นครราขสีมามีศูนย์ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรนารี พิษณุโลกมีศูนย์ที่มหาวิทยาลัยนเรศวร ภาคตะวันตก/เพชรบุรีมีศูนย์ราชมงคลรัตนโกสินทร์

ส่วนวิธีค้นหาข้อมูลเพื่อค้นหารายชื่อมหาวิทยาลัยที่ทีเส็บแต่งตั้งให้เป็น MICE business Center ให้บริการแบบ One Stop Service มี 2 ช่องทาง 1.www.thaimiceconnect.com  ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของอุตสาหกรรมไมซ์หรือ Ecosystem มีข้อมูลอยู่มากกว่า 10,000 เดต้า แต่ละเดต้าก็จะแยกเป็นแคตาล็อก เช่น สถานที่จัดงาน โรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว ชุมชนจัดงานได้ วิทยากรไมซ์ เป็น Speaker Bureau มหาวิทยาลัยศูนย์เครือข่ายแต่ละจังหวัด 2.www.micecapabilities.com ตอนนี้ทีเส็บได้ทำ E-Learning ด้วย เปิดอบรมออนไลน์ที่ใบรับรองไปแล้วเกินกว่า 4,000 คน

ตอนนี้ถือเป็นยุคของอุตสาหกรรมไมซ์ นอกจากการนำดิจิทัลและเทคโนโลยีเข้ามาใช้แล้ว ต้องมีรูปแบบการจัดงานแบบยั่งยืน เพราะนายกรัฐมนตรีบอกย้ำถึงการร่วมยกมือเข้าสู่ SDG :Sustainable Development Goals ประเทศไทยควรก้าวสู่ คาร์บอนเป็นศูนย์ ทางทีเส็บได้คิดร่วมกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO จะทำสูตรคำนวณแบบง่าย ๆ เพียงคำ 1.จำนวนคนเข้างาน มาคูณในสูตรนี้ ก็จะเห็นการใช้คาร์บอนเท่าไร ทำลายสิ่งแวดล้อมไปกี่ตัน การทำคาร์บอนให้เป็นศูนย์ก็นำไปชดเชยด้วยวิธีปลูกป่าช่วยเหลือเศรษฐกิจชุมชน 

เร็ว ๆ นี้จะเกิดความร่วมมือ 3 ฝ่าย ระหว่าง ทีเส็บ+TGO+สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดตั้ง”สถาบันคาร์บอน”  เพื่อทำหน้าที่หาโครงการมาชดเชยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรม และการจัดงานไฮบริดไมซ์ออนไซต์+ออนไลน์ ยังคงอยู่ต่อไป จึงสามารถเข้าไปใช้เครื่องมือที่ทีเส็บทั้งหมดจัดทำไว้ให้เรียบร้อยแล้ว สามารถเข้าไปเลือกใช้ได้ในเว็บไซต์ www.miceconnect.com

 ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์แจกสมาชิกที่SOLNE Clinicลด50%+@Lineช้อปสนุก

คิง เพาเวอร์ แจกสมาชิกด้วยสิทธิประโยชน์พิเศษเมื่อใช้บริการที่ SOLNE Clinic บัตรประเภท VEGA & CROWN รับส่วนลด 50%*  เมื่อเลือกใช้โปรแกรมซิกเนเจอร์ทรีทเม้นท์ 1 ครั้ง บัตรสมาชิก คิง เพาเวอร์ สถานะอื่น ๆ รับรับส่วนลด 30%*  โปรแกรมกำจัดไขมันเมโสเทอราปี 1 ครั้ง 10 สิทธิ์/วัน ตามรายละเอียดดังนี้ 

1.สมาชิก VEGA & CROWN รับส่วนลด 50% สามารถรับสิทธิ์และเข้ารับบริการได้ยาวถึง 6 เดือน ตั้งแต่วันนี้– 31 ธันวาคม 2565 โดยมีทรีทเมนท์ให้เลือก 3 โปรแกรม ได้แก่ 1.SOLNE SOLSTICE OF YOUTH ราคาปกติ 3,800 บาท 2.SOLNE TIMELESS TOUCH ราคาปกติ 4,200 บาท 3.SOLNE SKIN SERENITY ราคาปกติ 3,600 บาท

2.สมาชิก คิง เพาเวอร์ ประเภท ONYX, SCARLET และ NAVY รับส่วนลด 30% ทำโปรแกรมกำจัดไขมันเมโสเทอราปี 1 ครั้ง จากมูลค่า 800 บาท ลดเหลือ 560 บาท

ขณะเดียวกันก็ยังสามารถช้อปคุ้มกว่ากับ คิง เพาเวอร์ ง่าย ๆ แค่ มี LINE Official Account ซึ่งสามารถสมัครฟรีพร้อมลงทะเบียนทดลองเป็นสมาชิกได้เลยทาง LINE : @kingpower วันนี้รับส่วนลดฟรี วันนี้ -30 มิถุนายน 2565 คลิก https://lin.ee/QxLtQ1b รับรัว ๆ เพียงกดแค่ 2 สเต็ปเท่านั้น

Step 1 -แอด LINE @kingpower (มีเครื่องหมาย @) และพิมพ์ ‘สมัครสมาชิก’

Step 2 -เลือก ‘ทดลองเป็นสมาชิก’ รับเลย! ส่วนลด 5%* สำหรับช้อปสินค้า Duty Free หรือสินค้าป้ายฟ้า

 

ข่าวที่ 2 รร.พูลแมนคิงเพาเวอร์เปิดเท็นชิโนะเสิร์ฟอาหาร+AR3มิติทัวร์ญี่ปุ่น2,350บ.

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนมารับประทานอาหาร ที่ “โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์” ที่ห้องอาหารชื่อดัง “เท็นชิโนะ” เปิดบริการทุกวันพุธ – วันเสาร์ เวลา 18.00 – 23.00 น. นำเสนอความพิเศษชุดอาหารญี่ปุ่น 4 คอร์ส ราคา 2,350 บาทสุทธิ ลด 15% เมื่อจองออนไลน์ คลิก https://bit.ly/3H8aho4

 เปิดประสบการณ์พิเศษกับดีไซน์ศิลปะดอกซากุระบานผ่านเทคโนโลยีอาหาร 3 มิติ ผ่านเทคโนโลยี AR-Augmented Reality ที่ได้ถ่ายทอดออกมาจากภาพวาดด้วยมือโดยศิลปิน พิชญา โอ เมื่อสแกน QR บนจานอาหารก็จะได้เห็นแลนด์มาร์กเด่น ๆ ที่จะนำเราไปยังสถานที่ท่องเที่ยวเสมือนได้เดินไปจริงในญี่ปุ่น เช่น โตเกียวทาวเวอร์ สวนนาราปราสาทโอซาก้า ภูเขาไฟฟูจิ ศาลเจ้าอิสึกุชิมะในฮิโรชิม่า พระใหญ่ในคามากุระ และเกาะอาโอชิมะ  

ห้องเท็นชิโนะได้รังสรรค์เมนูอาหารชุดซากุระ 4 คอร์ส เริ่มด้วย 1.ข้าวซาบะมากิซากุระ รสชาติหอมกลมกล่อม  2.ปลาคินเมดไดเซวิเช่กับเยลลี่พีชซากุระ 3.ปลาหิมะย่างซอสซากุระเข้มข้น หรือเนื้อวากิวย่างกับเห็ดออรินจิ 4.ขนมหวานกับเค้กหยดน้ำซากุระ  อัดแน่นด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์อย่างลงตัว 

สำหรับผลงานศิลปะดอกซากุระ 3 มิติ ที่ห้องอาหารเท็นชิโนะ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ออกแบบโดยศิลปินชาวไทย พิชญา โอสถเจริญผล หรือที่รู้จักในชื่อ พิชยา โอ นั่นเอง

 สำรองที่นั่งมื้อพิเศษได้ที่โทร. 02 680 9999 หรือ H6323-FB5@ACCOR.COM

 

ข่าวที่ 3 ด่วน!!ททท.อบรมฟรีPDPA30มิ.ย.นี้-ยกระดับองค์กรสู่TAT SMART

นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านบริหาร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  เชิญชวนผู้ประกอบการโรงแรม โฮสเทล โฮมสเตย์ บริษัททัวร์ รถเช่า ลงทะเบียนเข้าร่วมรับฟังการอบรมฟรี เรื่องความรู้เกี่ยวกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  PDPA ในหัวข้อ "Personal Data Protection หรือ PDPA กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว" ผ่านระบบ online (ZOOM) ในวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เวลา 08.30-12.00 น.

โดยมี ดร. อัญธิกา ณ พิบูลย์  วิทยากรและที่ปรึกษากฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ ททท. พร้อมด้วย ดร. สิทธินัย จันทรานนท์ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มาพูดคุยร่วมแชร์ประสบการณ์และสร้างความพร้อมให้กับผู้ประกอบการทุกคนที่สนใจเข้าร่วมิบรมครั้งนี้

ลงทะเบีบนด่วน !! ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย  สมัครได้เลยตั้งแต่วันนี้ - 24 มิถุนายน 2565  คลิก google form  สมัครอบมรมได้ที่ลิงค์นี้ https://forms.gle/t4PBmBke2bdH8Uo6A หรือสอบถามเพิ่มได้ที่ 02 250 5500 ต่อ 2560-4

ทางด้าน “นายนิธี สีแพร” รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัยและพัฒนา ททท. กล่าวว่า เมื่อเร็วนี้ ได้จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการสื่อสารการตลาดกับผู้บริหารและพนักงาน ททท. เพื่อยกระดับองค์กรสู่ TAT SMART ตามตามยุทธศาสตร์ 5 ปีหน้า โดยใช้นวัตกรรมและการใช้ข้อมูลเข้ามาขับเคลื่อนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันและเป็นผู้นำอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สอดคล้องตามวัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์สำคัญ (Strategic Objective) หัวข้อ SO3 Thrive for Excellence : ยกระดับองค์กรสู่องค์กรสมรรถนะสูง ภายใต้แผนวิสาหกิจองค์กร พ.ศ. 2566-2570 

สำหรับ SO3 Thrive for Excellence การยกระดับองค์กรสู่องค์กรสมรรถนะสูง ด้วยการให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร ททท. ทางด้าน “การตลาดและดิจิทัล : Digital LiteracyW เพื่อให้มีทักษะและ มีความคิดแบบ Outward Mindset และ Result-oriented นำไปสู่ความรู้และความสามารถในการประยุกต์ใช้เครื่องมือทางการตลาดที่ครบวงจรdy[นักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่ม (Integrated Marketing Communication) ในระยะยาว 

การจัดอบรมแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ 1. ระดับบริหาร (หัวหน้าทีม) ผู้มีหน้าที่บริหารสื่อโซเชียลมีเดียภาพรวม 2. ระดับผู้ดูแลสื่อโซเชียลมีเดียขององค์กร (แอดมิน) และ 3. ระดับปฎิบัติการ (Content Writer) มุ่งเน้นการสื่อสารทางสื่อออนไลน์เป็นสำคัญด้วยแนวทาง Content Marketing และนำเสนอในรูปแบบ Storytelling เพื่อย่อยข้อมูลให้นักท่องเที่ยวสามารถจดจำและเข้าใจเนื้อหาผ่านการ เล่าเรื่อง และความสำคัญกับการสื่อสาร Key Message ที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย เข้าถึงนักท่องเที่ยวอย่างถูกที่ ถูกเวลา

ตลอดจนเพิ่มทักษะ Blogger การอัปเดตข้อมูลข่าวสารอย่างทันต่อเหตุการณ์ และจัดทำ vlog เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้งานท่องเที่ยวเข้าถึงผู้รับสื่ออย่างถูกต้องต่อไป

 

ข่าวที่ 4 TCEB แนะกลยุทธ์ปังๆ ดึงคอนเวนชั่นมาจัดในไทยได้ด้วย8 ขั้นตอน 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” แนะนำผู้ประกอบการและผู้ที่ต้องการดึงงานประชุมนานาชาติ (Conventions) โดยการประมูลสิทธิ์ (Convention Bidding) เป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะดึงมาจัดในไทย ซึ่งเป็นประเทศที่ครองตำแหน่งผู้นำในตลาดการประชุมนานาชาติมากที่สุดในอาเซียนต่อเนื่อง 3 ปี ระหว่าง 2560 – 2562)สะท้อนศักยภาพด้านอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศ

ดังนั้นทีเส็บจึงได้นำกลยุทธ์ที่จะดึงงานคอนเวนชั่นมาจัดในประเทศไทย ทำให้สำเร็จได้ด้วย 8 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1 ค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูล ประเมินโอกาสและสร้างทีมประมูลสิทธิ์ 

ขั้นตอนที่ 2 วางแผนกลยุทธ์ และเตรียมการประมูลสิทธิ์

ขั้นตอนที่ 3 ยื่นประมูลสิทธิ์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น หนังสือแสดงเจตจำนงในการประมูลสิทธิ์ และข้อเสนอต่าง ๆ

ขั้นตอนที่ 4 นำเสนอรายละเอียดการประมูลสิทธิ์ หรือ Bid Presentation

ขั้นตอนที่ 5 เชิญผู้มีอำนาจการตัดสินใจเดินทางมาสำรวจความพร้อม หรือ Site Inspection

ขั้นตอนที่ 6 นำเสนอเมือง/ประเทศ ที่ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมนานาชาติ

ขั้นตอนที่ 7 วาวแผนการจัดประชุมนานาชาติอย่างละเอียด

ขั้นตอนที่ 8 ทำให้งานที่จัดขึ้นในไทยเพื่อสร้างผลลัพธ์เชิงบวกในระยะยาวต่อเศรษฐกิจและสังคม

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดประชุมนานาชาติในประเทศไทย ติดต่อ c@tceb.or.th

 

ข่าวที่ 5 บางจากฯโชว์ศักภาพพลังงานยั่งยืนในเวทีUN Global Summit 2022

นางกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อความยั่งยืน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีโอกาสได้ร่วมแสดงทรรศนะในเวทีประชุมสุดยอดผู้นำระดับโลก ด้านความยั่งยืน UN Global Compact Leaders Summit 2022 ภายใต้แนวคิด “The World We Want” จัดโดยหน่วยงานสำคัญระดับโลก เพื่อรวมพลังผู้นำภาคธุรกิจชั้นนำในหลายประเทศทั่วโลกกว่า 10,000 คน ร่วมมือกันขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจสู่เป้าหมายความยั่งยืน (SDGs) มุ่งแก้ปัญหาในระดับท้องถิ่นและระดับภูมิภาค อาเซียน ก่อนขยายผลไปยังเอเชียแปซิฟิก เดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero ครอบคลุม 3 วาระสำคัญของโลก คือ ภาวะฉุกเฉินด้านสภาพอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และการพัฒนาทางสังคม

โดยมีองค์กรรับผิดชอบการจัดงานครั้งนี้คือ สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (GCNT) ร่วมกับ คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (UN ESCAP) และทีมงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UN Country Team Thailand)

นางกลอยตา กล่าวว่า ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “SDG Ambition: Mobilizing Ambitious Corporate Actions Towards the Global Goals” ร่วมกับผู้นำทางธุรกิจด้านความยั่งยืนจากประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย โดยมี ผู้บริหารจาก UN Global Compact สำนักงานนิวยอร์คเป็นผู้ดำเนินการ  ซึ่งทางบางจากฯ นำเสนอถึงแนวทางยึดหลักการ “พัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างยั่งยืนไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคม” และมุ่งมั่นตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก โดยได้คัดเลือก 9 เป้าหมาย (SDGs) ซึ่งมีความสำคัญกับธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2559

ปี 2564 ได้ทบทวนความสำคัญแบ่ง 9 เป้าหมายเป็น 2 ระดับ คือ in process หรือเป้าหมายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำธุรกิจ และ after process คือเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำกิจการต่าง ๆ เพื่อสังคม โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับเป้าหมาย SDG 13 Climate Action

ปี 2565 บางจากฯ รณรงค์ผ่านโครงการ “Bangchak 100x Climate Action: ทุกคนช่วยได้” เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและเชิญชวนให้ทุกคนมีส่วนช่วยบรรเทาภาวะโลกร้อน และผู้บริหารกลุ่มบางจากฯ ยังได้ชดเชยการปล่อยคาร์บอนของตนเองในปีนี้ เป็น “คณะผู้บริหารไร้คาร์บอน (Carbon Free Management Team)” องค์กรแรกในไทยด้วย

อีกทั้งยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรรวม 11 องค์กรก่อตั้ง Carbon Markets Club ครั้งแรกในประเทศไทย ส่งเสริมการซื้อขายคาร์บอน ช่วยลดก๊าซเรือนกระจก อย่างไรก็ดี บางจากฯ ก็ไม่ได้ละทิ้งเป้าหมายอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจาก SDG 13 และอีก 8 เป้าหมายหลัก ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของทั้ง 17 เป้าหมายที่มีต่อการสร้างความยั่งยืนของโลก

ปี 2563 โควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อผลประกอบการธุรกิจแต่ก็บทเรียนที่สอนให้รู้จักปรับตัว โดยบางจากฯ ใช้หลัก “AGILITY” คือ การพร้อมรับทุกสถานการณ์อย่างคล่องตัวและปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อความอยู่รอด ซึ่งผลจากความมุ่งมั่นปรับตัวและปรับแผนการบริหารจัดการทางธุรกิจ บวกกับการจัดการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการทำงาน กระจายความเสี่ยงสร้างธุรกิจให้มีความหลากหลายต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว ทำให้ปี 2564 กลุ่มบางจากฯ สามารถ พลิกกลับมามีผลประกอบการดีที่สุดอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้บางจากฯ ประกอบธุรกิจโดยยึดหลัก SDGs จึงช่วยให้เกิดผลดีตามมาในแง่มุมต่าง ๆ เช่น ได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำด้านความยั่งยืน ผ่านการรับรองและรางวัล S&P Global Sustainability Award 2022 ระดับ Silver Class จากการประกาศผลคะแนนการประเมินด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการและเศรษฐกิจ หรือ ESG (Environmental, Social, Governance & Economic) โดย S&P Global องค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเกี่ยวกับความยั่งยืน

ซึ่งเป็นผู้จัดทำการประเมินความยั่งยืนดัชนี Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI การสร้างสถานที่ทำงานที่ทำให้พนักงานรู้สึกภูมิใจและมีความสุข การันตีด้วยรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง UN Women 2021 Thailand WEPs Awards สาขาสถานที่ทำงานที่มีความเท่าเทียมทางเพศ หรือปี 2565 ติดอันดับ 20 บริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานมากที่สุด จากผลสำรวจของเว็บไซต์ค้นหางาน WorkVenture

 

                ช่วงที่ 2 สายบุญทั้งหลายเตรียมไปคูลอีสานด้วยกันท่องเที่ยวชุมชนรอบวัด “แห่เทียนพรรษา อุบลราชธานี ปี 2565” ระหว่าง 11-17 ก.ค.นี้ ตอนนี้ 3 ชุมชนเด่น ๆ เปิดให้นักท่องเที่ยวไปชมได้แล้วที่ วัดแจ้ง วัดใต้ท่า วัดพระธาตุหนองบัว  ส่วน “บ้านคำปุน” เตรียมเปิดบ้านร่วมกิจกรรมสำคัญ 13-15 ก.ค.65 เรื่องสุขภาพมี “แนะ4อาหารหน้าร้อน” กินและป้องกันโรคท้องร่วงอาหารเป็นพิษ ส่งท้ายด้วยกับ ข่าวแรก “เลเจนด์สยามพัทยา” ชวนนักท่องเที่ยวสายเขียวร่วมฉลองเปิดเสรีกัญชา 25-26 มิ.ย.นี้ ข่าวที่สอง “โนโวเทลทั่วโลก50โรงแรม” ผนึกดิสนีย์นำหนังใหม่โกยตลาดครอบครัวเข้าพัก

 

ท่องเที่ยว-อุบลสุดคูลทัวร์บุญชุมชนแห่เทียนพรรษา-บ้านคำปูน-ช่องเม็ก

สายบุญ สายมูทั่วไทย เตรียมตัวให้พร้อม ไปสัมผัสประสบการณ์งานประเพณียิ่งใหญ่แห่งปี “แห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี” ปีนี้จัดระหว่างวันที่ 11-17 กรกฎาคม 2565  แต่ละชุมชนท้องถิ่นกำลังขะมักเขม้นแกะติดพิมพ์ต้นเทียน ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะไปชมขบวนแห่เทียน ประกวดต้นเทียน แห่เทียนภาคกลางคืน และกิจกรรมมากมาย

แนะนำไปสำรวจชุมชนคนทำเทียนอุบลราชธานีกันก่อนล่วงหน้า ขณะนี้กำลังเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวร่วมบุญทำกิจกรรมกับแต่ละชุมชนเด่น ๆ  3 ชุมชน

ชุมชนแรก “วัดแจ้ง” จัดทำต้นเทียนประเภทแกะสลัก ขนาดกลาง ชวนนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมได้แล้ว ตื่นตากับต้นเทียนประเภทแกะสลัก  แล้วภายในวัดเปิดให้เดินชม " สิมเก่า" สถาปัตยกรรมท้องถิ่นอีสานเป็นสิมที่มีลักษณะของ “คันทวยนาคและหางหงส์” ทำเป็นรูปหัวนาคมีหงอนสะบัดปลายเป็นกนกเปลว อ่อนช้อยและงดงาม

ชุมชนที่สอง “วัดใต้ท่า” จัดทำต้นเทียนประเภทติดพิมพิ์ ขนาดกลาง โดยช่างหลัก ๆ คือ ธีรพงษ์ เก็บเงิน เกียรติศักดิ์ ทองไฮ้  ก้าวไกล สายงาม เมื่อเข้าไปถึงวัดจะได้ตื่นตาตื่นใจกับเทียนแกะสลักแบบติดพิมพ์พร้อมทั้งมีกิจกรรมชวนร่วมติดพิมพ์เทียน เป็นหนึ่งในการอนุรักษ์ประเพณีแห่เทียนพรรษาปี 2565 ทำบุญด้วยกัน

 

ชุมชนที่สาม “วัดพระธาตุหนองบัว” เตรียมจัดส่งต้นเทียนประเภทแกะสลักขนาดใหญ่เข้าร่วมงานประเพณีแห่เทียนพรรษาปี 2565 สามารถเยี่ยมชมวิธีแกะสลักต้นเทียนทุกขั้นตอนทำด้วยความประณีต ภายในภายในบริเวณวัดนักท่องเที่ยวจะได้กราบสักการะ พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ และรูปปั้นองค์พญานาคฉัพยาปุตตะ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

ส่วนที่ “บ้านคำปุน” ศูนย์เรียนรู้หรือพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมถิ่นอีสาน เปิดงานต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปร่วมบุญ “แห่เทียนเข้าพรรษาอุบลราชธานี” ระหว่างวันที่ 13-14-15 กรกฎาคม 2565 แต่ละวันจะเริ่มเวลา 15.00 น.

วันที่ 13  กรกฎาคม 2565 ร่วมสรงน้ำพระบรมรีริกธาตุ ถวายผ้าอาบน้ำฝน และเทียนพรรษา แด่พระสงฆ์ สวดธรรมจักร

วันที่ 14 กรกฎาคม 2565 ชมการแสดงชุดพิเศษ จากความอนุเคราะห์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏ เลี้ยงน้ำชา แบบเว้นระยะห่าง ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย

วันที่ 15 กรกฎาคม 2565 ชม นิทรรศการ และ แสดงการทอผ้าเทคนิคต่างๆ ผลงาน คุณแม่คำปุน และ บุตรชาย

ปิดท้าย สามารถขับรถไปสำรวจด่านชายแดนไทยในอุบลราชธานี เขตเชื่อมต่อ สปป.ลาว เปิดด่านทางบกให้ท่องเที่ยวได้แล้วถึง 2 แห่ง คือ “ด่านช่องเม็ก” ไปเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก และ “ด่านปากแซง” อำเภอนาตาล ทั้งบุคคลและสิ่งของได้รับอนุญาตให้เดินผ่านเข้าออก ได้ตามปกติมาตั้งแต่ 23 พฤษภาคม 2565 หลังจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีลงนามประกาศปิดมานานกว่า 2 ปี ตั้งแต่เมื่อ 20 มีนาคม 2563 จึงเชิญชวนเดินทางไปชมเพื่อช่วยสนับสนุนการค้าขายชายแดน ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-สปป.ลาว ปลุกเศรษฐกิจกลับมาคึกคักเติบโตอย่างปลอดภัยใหม่อีกครั้ง 

วางแผนเดินทางเที่ยวทางบุญ “แห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี” จะได้รู้ว่า “คูลอีสาน-COOL ISAN” จับต้องได้จริง

 

สุขภาพ -อาหาร4ชนิดหน้าร้อนต้องระวังต้องรีบป้องกันท้องร่วงอาหารเป็นพิษ

อากาศร้อนของเมืองไทย มาพร้อมกับการต้องระวังเรื่อง ท้องร่วง-อาหารเป็นพิษ มาด้วย เรียกได้ว่า เป็นโรคประจำฤดูร้อนเลยก็ว่าได้ จึงได้นำข้อมูลดี ๆ จาก “แผนกโภชนาการ ประจำโรงพยาบาลศิริราชปิยราชย์มหาการุณ” รวมถึงวิธีป้องกัน ที่จะนำเสนอให้ทุกคนรู้เท่าทันโรคร้าย นั่นคือ “4เมนูต้องระวัง หน้าร้อนต้องไม่ร่วง”

1. อาหารที่มีกะทิ เพราะเป็นวัตถุดิบที่มีจุลินทรีย์อยู่มากเมื่อสัมผัสกับอากาศร้อนจะทำให้บูดเสียได้ง่าย

2. อาหารทะเล เพราะหน้าร้อน หลายๆ คนอาจเลือกไปพักผ่อนชายทะเล แล้วก็กินซีฟู้ด ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา กับน้ำจิ้มสุดแซ่บริมหาด แต่อากาศร้อนจะทำให้เชื้อจุลินทรีย์ที่อยู่ในอาหารทะเลเติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นสาเหตุให้เกิดอาการท้องร่วงหรืออาหารเป็นพิษได้

3. อาหารจำพวกส้มตำ ยำ ของเปรี้ยวหมักดอง เป็นกลุ่มอาหารที่ไม่ได้ผ่านความร้อนอย่างทั่วถึง จึงทำให้ปนเปื้อนจุลินทรีย์ได้ง่าย โดยเฉพาะร้านตามรถเข็น และอาหารกลุ่มนี้ยังมีรสชาติเผ็ดจัด เปรี้ยวจัดและเค็มจัด ซึ่งจะเข้าไปรบกวนการย่อยอาหารทำให้ลำไส้และกระเพาะอาหารไม่ดูดซึมอาหารที่รับประทานเข้าไป อาหารทั้งหมดจึงวิ่งตรงออกจากลำไส้กลายเป็นอาการท้องร่วงฉับพลัน

4. น้ำแข็งไส ความอันตรายไม่ได้อยู่ที่วัตถุดิบ ทว่าเป็นความหวานหากกินมากเกินไป ก็จะส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้ แต่ของหวานจำพวก น้ำแข็งไส หวานเย็น หรือไอศกรีม น้ำผลไม้ปั่น มีข้อควรระวังอยู่ที่น้ำแข็ง เพราะอาจเจอกับน้ำแข็งที่ไม่สะอาด ปนเปื้อนกับเชื้อจุลินทรีย์อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษและท้องเสียได้ ซึ่งเชื้อเหล่านี้จะปนเปื้อนมากับบรรจุภัณฑ์ที่ไม่สะอาด

สำหรับ “วิธีป้องกันอาการท้องร่วง-อาหารเป็นพิษ” ในหน้าร้อน มีดังนี้

1. รับประทานอาหารที่ปรุงสุกเสมอ ถูกสุขลักษณะ เพราะเชื้อโรคจะถูกทําลายด้วยความร้อนในอุณหภูมิที่สูงกว่า 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป หลังปรุงสุกควรรับประทานทันทีภายใน 2-4 ชั่วโมง

2. รักษาสุขอนามัยล้างมือก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง รวมถึงสังเกตความสะอาดของอาหารก่อนรับประทานทั้งบรรจุภัณฑ์ หน้าตาสีสันมีสิ่งใดแปลกปลอม หรือผิดปกติหรือไม่

3. เลือกรับประทานอาหารหมวดออกฤทธิ์เย็น กลุ่มอาหารที่ย่อยง่าย รสชาติไม่จัดจ้าน ให้พลังงานแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ทำให้ร่างกายทำงานหนักคือผักผลไม้ที่ออกฤทธิ์เย็น เช่น ตำลึง ผักบุ้ง มะเขือเทศ บวบ แตงชนิดต่างๆ แก้วมังกร มะละกอ กล้วยน้ำว้าหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด

ยิ่งโลกผันผวน อุณหภูมิสูงขึ้นทุกวัน ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังให้ตัวเองและคนรอบข้าง สิ่งสำคัญรจะต้องดูแลจิตใจด้วย เพราะอากาศร้อนคนก็ร้อนตาม อาจชวนให้อารมณ์เสียหงุดหงิดง่ายนั่นเอง

 ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก -เลเจนด์สยามพัทยาปลุกสายเขียวเที่ยวงานเสรีกัญชา 25-26มิ.ย.65

บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์เจ้าของโครงการ “เลเจนด์ สยาม พัทยา” รายงานว่า จัดฉลองยิ่งใหญ่ต้อนรับการเปิดเสรีกัญชา โดยชวนชาวกัญฯและประชาชนทั่วไปสู่เมืองท่องเที่ยวสุดมหัศจรรย์  “SIAM CANNABIS LAND” ระหว่างวันที่ 25-26 มิถุนายน 2565 พร้อมชมการเปิดตัวเป็น  “เมือง กัญฯ และกัญฯ” ดินแดนแห่งพืชมหัศจรรย์เต็มรูปแบบ  เพื่อสร้างตำนานใหม่ให้เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่สายเขียวที่ปังที่สุดในภาคตะวันออกที่นักท่องเที่ยวทุกคนห้ามพลาด

          มาร่วมปลดล็อกกัญชากับ Nusa CSR The House of Celebration @Siam Cannabis Land Pattaya  กับกิจกรรมพิเศษเต็มรูปแบบแบบครบเครื่องเรื่องกัญชาตลอด 2 วัน 25-26 มิถุนายน 2565 เตรียมพบกับความสนุกปัง ๆ ได้เลย คือ

1.ชมคอนเสิร์ตจากศิลปินสุดปัง The Musketeer, Scrubb และ Mirr

2.พบกับร้านค้าที่นำผลิตภัณฑ์จากกัญชง กัญชา มากมายมาให้ชอปปิ้ง พร้อมพาเหรดรถอาหาร Food Tuck และเชิญลิ้มลองอาหารหลากหลายในบรรยากาศตลาดน้ำ

3.ชมไร่กัญชง กัญชาแบบ indoor-outdoor พร้อมชอปปิ้งต้นกล้ากัญชง กัญชา

4.สมาชิกต้นไม้มหัศจรรย์เข้างานฟรี! และสามารถซื้อแพคเกจเพิ่ม เพื่อเพิ่มความสนุกแบบจัดเต็มได้ในราคา พิเศษ!

 

ข่าวที่สอง -โนโวเทลทั่วโลก50โรงแรมผนึกดิสนีย์ใช้หนังใหม่โกยตลาดครอบครัว

นาเดจ เคอรี่ฮิล รองประธานฝ่ายแบรนด์ระดับกลาง แอคคอร์ เปิดเผยว่า เครือแอคคอร์ร่วมกับ ดิสนีย์ (Disney) และพิกซาร์ (Pixar) เปิดตัวแคมเปญเฉลิมฉลองการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง Disney and Pixar’s Lightyear บัซ ไลท์เยียร์ แอนิเมชันแนวแอ็คชั่นผจญภัยสำหรับครอบครัว ว่าด้วยเรื่องราวจุดเริ่มต้นของ บัซ ไลท์เยียร์ (Buzz Lightyear) นักบินอวกาศผู้ยิ่งใหญ่ ทางโรงแรมโนโวเทล จึงพร้อมมอบความสุขแก่แขกผู้เข้าพัก เหล่าแฟนคลับ และแฟนเพจ ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ เซอร์ไพรส์ และกิจกรรมสนุกๆ ที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ ณ โรงแรมต่าง ๆ ทั่วโลกกว่า 50 ประเทศ เพราะก่อนหน้านี้การร่วมมือระหว่าง โนโวเทล กับ ดิสนีย์และพิกซาร์ ได้ประสบความสำเร็จไปพร้อมกับการเปิดตัวภาพยนตร์สามเรื่อง ได้แก่ ONWARD, SOUL และ LUCA

ทางโรงแรมโนโวเทลที่เข้าร่วมแคมเปญพร้อมจะจัดกิจกรรมสนุก ๆ เพื่อพาครอบครัวไปสู่ ‘ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น’ เมื่อมาถึงโรงแรมเด็ก ๆ จะได้รับเซ็ทไลท์เยียร์อันน่าตื่นเต้น ประกอบไปด้วย

1.การ์ดสำหรับระบายสี เกมต่าง ๆ และสติ๊กเกอร์

2.ภาพดวงดาวจะถูกฉายผ่านโปรเจคเตอร์เพื่อเปลี่ยนห้องพักให้กลายเป็นอวกาศที่น่าทึ่งได้ตามต้องการ

3.แจกบอร์ดดิ้งพาสให้กับสมาชิกในครอบครัวเพื่อเชิญเข้าร่วมกันมาเข้าร่วมภารกิจ แล้วยังสามารถแต่งตัวเป็นบัซหรือถ่ายภาพร่วมกับบัซผ่านฉากถ่ายภาพเสมือนจริงได้ด้วย 

ส่วนแคมเปญใน “โซเชียลมีเดียของโนโวเทล” ผู้ติดตามสามารถร่วมเล่นเกมส์เพื่อชิงรางวัลห้องพักโนโวเทลในลอนดอนรวมตั๋วเครื่องบินและกิจกรรมเกี่ยวกับอวกาศที่น่าเหลือเชื่อ เช่น การพูดคุยกับนักบินอวกาศตัวจริง กิจกรรมดิ่งพสุธาในร่ม และการสร้างจรวด

ขณะที่ สมาชิก ALL – Accor Live Limitless โปรแรมรอยัลตี้ไลฟ์สไตล์จากแอคคอร์ สามารถแลกคะแนนรางวัล “การเข้าพักพร้อมกิจกรรม” ที่มาในธีมอวกาศ หรือในโรงแรมโนโวเทลบางแห่งผู้เข้าพักยังสามารถรับชมฉายภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวแบบส่วนตัวกับครอบครัวซึ่งจะเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจอย่างแน่นอน

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.