“เจอร์นี่แลนด์"ปลุกคนไทยเที่ยวเกาหลีปี’65“F.I.T.+ดูงาน+อินเซนทีฟ”แห่ซื้อทัวร์ขานรับKorean Begin Againเข้มใช้ระบบK-ETAเข้าเกาหลี
“เจอร์นี่แลนด์”เปิดแผนปลุกแฟนคลับคนไทยเที่ยวเกาหลีเปิดปี’65
เทรนด์3ตลาด“F.I.T.+ดูงาน+อินเซนทีฟ”แห่ซื้อแพกเกจทัวร์คึกคัก
ขานรับแคมเปญKorean Begin Againเข้มใช้ระบบK-ETAเข้าเกาหลี
X 8เครือคิงเพาเวอร์ดึงแบมแบมยาดมPASTELเจาะตลาดวัยรุ่น
คิงเพาเวอร์ให้สมาชิกบัตร5แบบซื้อทัวร์สิงคโปร์ลดทันที500บาท
ททท.จัดใหญ่ซอฟท์เพาเวอร์ร็อคออนบีชภูเก็ต/กระบี่เริ่ม17มิ.ย.นี้
TCEBแจก3องค์กรครั้งละหมื่นบาทปลุกจัดไมซ์ทั่วไทย7ประเภท
บางจากร่วมทุนแบงก์ออมสิน&ทิพยกรุ๊ปตั้งบ.มีที่มีเงินช่วยSMEไทย
ลงใต้ไปกระบี่ชมมหัศจรรย์พื้นที่ชุ่มน้ำสวยสุด ๆ 5 วันเดอร์แลนด์
5วิธีสุขภาพดีสร้างได้ด้วยการปรับพฤติกรรมง่ายในชีวิตประจำวัน
บพท.ถอดรหัสความสำเร็จงานวิจัยเชื่อมโยง6เรื่องแก้จนคนไทย
การบินไทยผนึกมหาดไทยจัดบินฮัจน์3จังหวัดสู่ซาอุ2เมือง2,508คน
ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เจอร์นี่แลนด์ จำกัด
วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน
2565 ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0
MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT
#Journeyland #เที่ยวเกาหลี #ยาดมPASTEL #เที่ยวกระบี่5WonderWetland
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้.... https://fb.watch/dB8GW4e0UK/
ช่วงที่
1 สำรวจตลาดทัวร์ไทยไปเกาหลีกับ
“นางสาวลักษณีย์ เรืองสุวิทย์กุล” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เจอร์นี่แลนด์ จำกัด
โฮลเซลท่องเที่ยวรายใหญ่กลับมาเปิดธุรกิจใหม่อีกครั้ง ปลุกตลาดฟื้นอย่างรวดเร็วปี’65
ตั้งเป้าไว้ 5,000
คน ขานรับแคมเปญ Korea Begin Again กระตุ้นกระแสคนไทยมีตังค์
3 ตลาดมาแรง
F.I.T.นักเดินทางอิสระท่องเที่ยวด้วยตนเอง+กรุ๊ปข้าราชการดูงาน+อินเซนทีฟบริษัทขนาดใหญ่
พร้อมเที่ยวแล้วสู้ราคาแพกเกจแพงขั้นต่ำเฉียด 20,000 บาท สูงสุด
80,000 บาท/คน/ทริป
แนะเที่ยววิถีใหม่ต้องลงทะเบียนในระบบ K-ETA
ล่วงหน้าพร้อมรอใบรับรองเข้าเกาหลีได้
ไม่เช่นนั้นจะเจอแอร์ไลน์ห้ามขึ้นเครื่องตั้งแต่สนามบินต้นทาง
นางสาวลักษณีย์
เรืองสุวิทย์กุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เจอร์นี่แลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า
ขณะนี้ธุรกิจเริ่มกลับมาเปิดให้บริการนำนักท่องเที่ยวหลังจากทางประเทศเกาหลีผ่อนคลายมาตรการให้คนไทยเดินทางเข้าไปได้แล้ว
ตั้งเป้าตลอดปี 2565จะทำตลาดคนไทยไปเที่ยวเกาหลีประมาณ
5,000 คน
ซึ่งทางเกาหลีเองก็ตั้งเป้าโดยรวมปีนี้จะมีต่างชาติกลับไปท่องเที่ยวทั้งหมดราว 2-3 ล้านคน
จากปกติก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19
มีต่างชาติทั่วโลกเที่ยวเกาหลีปีละถึง 20 ล้านคน
ซึ่งทางเจอร์นี่แลนด์ มีข้อตกลงความร่วมมือเป็น MOU ทางเกาหลีพร้อมสนับสนุนทุกด้าน ผนวกกับทางการท่องเที่ยวเกาหลีเองก็เพิ่งจะเปิดให้พนักงานกลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ เพราะช่วงสถานการณ์กว่า 2 ปีช่วงวิกฤตโควิดหลายอย่างต้องหยุดลงชั่วคราว เมื่อกลับมาเปิดบริการใหม่อีกครั้งก็มีหลายอย่างเปลี่ยนไปค่อนข้างมากเช่นกัน
ขณะนี้มีนักเดินทางคนไทยทยอยเที่ยวเกาหลีบ้างแล้วแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรก นักเดินทางอิสระท่องเที่ยวด้วยตนเอง F.I.T.ไปกับครอบครัว ออกเดินทางช่วงเมษายน 2565 เป็นต้นไป กลุ่มที่ 2 อินเซ็นทีฟ ได้รับรางวัลการเดินทางท่องเที่ยว เริ่มเดินทางช่วงเดือนมิถุนายน 2565 เป็นต้นไป จะเป็นกลุ่มขนาดครั้งละ 10 คนขึ้นไป ขนาดใหญ่ที่สุดครั้งละรวม 500 คน ส่วนใหญ่จะไปดูงาน จัดกิจกรรม และท่องเที่ยวผสมผสานกัน
สำหรับกรุ๊ปอินเซ็นทีฟจะแบ่งเป็นช่วง 1.หน่วยงานราชการที่จำเป็นจริง ๆ จะต้องไปดูงานช่วงกันยายนนี้ 2.ผู้ที่ตกค้างจากก่อนโควิด-19 วางแผนจะเดินทางแล้วยังไม่ได้ไป 3.กลุ่มพนักงานบริษัทขนาดใหญ่ คอร์ปอเรต จะเริ่มเดินทางตอนฤดูใบไม้ผลิเดือนตุลาคมนี้ มีทุกกลุ่มอาชีพ เช่น ขายตรง กลุ่มสินค้าเกษตร และอื่น ๆ
หลังสถานการณ์โควิดนักท่องเที่ยวคนไทยที่ชื่นชอบเดินทางไปเกาหลีจะมีบางกลุ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทาง
คือ “กลุ่มเดินทางเที่ยวเองหรือ F.I.T.”
จะนิยมมาซื้อรายการนำเที่ยวหน้าร้านจากบริษัทนำเที่ยวที่ไว้วางใจแล้วซื้อในลักษณะทัวร์หน้าร้านหรือ
Collective โดยจะเลือกบริษัททัวร์ในไทยที่ยังสามารถรักษาธุรกิจไว้ได้ในช่วงวิกฤตโควิดตลอด
2 ปีที่ผ่านมา
พร้อมกับสแกนความน่าเชื่อถือสถานะของบริษัททัวร์ที่จะใช้บริการมากขึ้น
โดยไปค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ตรวจสอบรายชื่อเจ้าของ
เนื่องจากเกรงจะเกิดปัญหาเก็บเงินค่าทัวร์ไปแล้วไม่จัดโปรแกรมและไม่คืนเงินลูกค้า
ขณะนี้สถานการณ์การแข่งขัน บริษัท เจอร์นี่แลนด์ จำกัด ไม่ต้องแข่งขันกับใคร เนื่องจากได้รับแต่งตั้งจากทางเกาหลีให้เป็นตัวแทนขายส่งการท่องเที่ยว (Tourism Wholesale) เป็นลักษณะเฉพาะพิเศษ จึงไม่ต้องแข่งกับบริษัทรายอื่น ๆ ลูกค้าในเมืองไทยรู้จักเป็นอย่างดี หากจะไปเกาหลีก็จะวิ่งเข้ามาหาโดยตรง แตกต่างจากบริษัทท่องเที่ยวแบบค้าปลีกรายย่อยการแข่งขันอาจจะสูงอยู่บ้าง
พฤติกรรมของกลุ่มคนไทยที่ออกเดินทางเที่ยวเกาหลีหลังสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป ส่วนใหญ่จะต้องเป็น “กลุ่มมีกำลังซื้อสูงจริง” เพราะตอนนี้ “ราคาตั๋วเครื่องบิน” ไป-กลับ ไทย-เกาหลี ค่อนข้างแพงมาก ตัวแปรคือราคาภาษีน้ำมันเครื่องบินหรือ Fuel tax ที่นักท่องเที่ยวจะต้องจ่ายตามสถานการณ์จริง เป็นค่าใช้จ่ายที่สายการบินต่าง ๆ คิดราคาแยกออกจากค่าตั๋วโดยสาร ดังนั้น นักท่องเที่ยวตลาดที่เดินทางเป็นหมู่คณะ อินเซ็นทีฟต่าง ๆ หากมีเงินต่ำกว่า 15,000 บาท ก็จะไม่สามารถเดินทางได้
ตอนนี้ บริษัท เจอร์นี่แลนด์ จำกัด เริ่มบุกตลาดด้วยการดีไซน์โปรแกรมท่องเที่ยวเกาหลีให้คนไทยได้เลือก โดยแบ่งตามฤดูกาล บวกกับเจาะรายเดือนว่ามีเทศกาลท่องเที่ยวอะไรบ้าง ก็จะสอดแซกเที่ยวงานเทศกาลเข้าไปด้วย จึงดีไซน์ให้มีทั้ง
1.โปรแกรมคลาสสิกที่นักท่องเที่ยวไทยเคยไป เพื่อเจาะขายกลุ่มตลาดคนไทยที่เพิ่งเริ่มเดินทางไปเกาหลีเป็นครั้งแรก (beginner) ส่วนใหญ่จะมีสินค้ารายการท่องเที่ยวที่วางขายอยู่หน้าร้านแล้วตลาดที่เดินทางเป็นหมู่คณะมาเห็นเข้าก็จะดึงโปรแกรมคลาสสิกเหล่านี้เพื่อนำลูกค้าของบริษัทที่ยังไม่เคยเดินทางได้ไปเที่ยวด้วย
เส้นทางยอดนิยมในโปรแกรมคลาสสิกของเกาหลี ที่นักท่องเที่ยวพากันมาค้นหารายการนำเที่ยวคือ อยากกลับไปเยือนแรง ๆ มี 2 แห่ง คือ เอเวอร์แลนด์ กับเกาะนามิ ถึงแม้เคยไปมาแล้วก็ยังอยากจะกลับไปอีกสักครั้ง
2.โปรแกรมแนะนำสถานที่ตามความต้องการของลูกค้ากลุ่มอินเซนทีฟ จะขอให้ทำโปรแกรมขึ้นมาใหม่ ไม่เอาเส้นทางท่องเที่ยวเดิมเลย ไม่ว่าจะไปเมืองไหนก็ตาม จะขอเส้นทางใหม่ทั้งหมด
ขณะนี้ทางเกาหลีได้จัดทำแคมเปญท่องเที่ยวระดับนานาชาติในชื่อ “Korea Begin Again :เกาหลีเริ่มต้นเดินทางครั้งใหม่” สู่จุดหมายปลายทางยอดนิยมเมืองท่องเที่ยวหลัก กรุงโซล ซูวอน ยงอิน เจินจู แดกู พูซาน เกาะเจจู เพราะทุกแห่งข้างต้นมีสนามบินและสายการบินบริการทุกเมือง
นางสาวลักษณีย์
กล่าวว่า ขณะนี้โปรแกรมท่องเที่ยวเกาหลีที่นำเสนอขายตลาดอินเซ็นทีฟ
ตอนนี้เริ่มต้นที่ 19,900 บาท/คน
แพกเกจท่องเที่ยว 5 วัน 3 คืน และ แพกเกจ 70,000-80,000 บาท/คน ประมาณ 6-7 วัน
โดยมีความพิเศษทั้งเรื่องห้องพักเดอลักซ์ อาหารพรีเมี่ยม รถไฟความเร็วสูง JKS คล้ายชินคันเซนของญี่ปุ่น รวมค่าเที่ยวบินในประเทศ
เป็นการท่องเที่ยวแบบ Explorer Korea
ปัจจุบันการขายท่องเที่ยวในตลาดเมืองไทยไปเกาหลี จะมีความยากอยู่บ้าง เมื่อเกาหลีนำระบบ “K-ETA : Korea Electronic Travel Authorization” หรือจะเรียกง่าย ๆ ว่า การลงทะเบียน “มินิวีซ่า” ก็ได้ เป็นด่านแรก ที่คนไทยจะต้องลงทะเบียนแจ้งความจำนงการเดินทางเข้าเกาหลี เนื่องจากไทยเป็นประเทศเกาหลียกเว้นไม่ต้องวีซ่าตามสนธิสัญญาการเป็นประเทศพันธมิตรเมื่อครั้งอดีตเคยร่วมช่วยรบตอนสงครามเกาหลี แต่หลังสถานการณ์โควิด-19 หากจะเดินทางก็ต้องเข้าระบบ K-ETA ลงทะเบียนเพียงครั้งเดียว จะใช้ได้ตลอด 2 ปี โดยสามารถเดินทางเข้าออกเกาหลีกี่ครั้งก็ได้ โดยมีค่าธรรมเนียมประมาณ 10,000 วอน คิดเป็นเงินไทยราว 310 บาท/คน/ครั้ง
ตามกฎระบุไว้ว่า
ก่อนคนไทยจะเดินทางออกจากสนามบินต้นทางในเมืองไทย จะต้องลงทะเบียนในระบบ K-ETA ก่อนเดินทาง 24
ชั่วโมง
แต่แนะนำว่าจำเป็นจะต้องลงทะเบียนทันทีเมื่อวางแผนจะเดินทางไปเกาหลี
เพราะระบบดังกล่าวไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะได้รับการอนุมัติตอนไหน
เนื่องจากทางเกาหลีนำ IA
เข้ามาใช้คัดกรอง
เพื่อความสบายใจควรลงทะเบียนไว้เพื่อจะได้มีใบอนุญาตอยู่ในมือเตรียมไว้ก่อนแล้วจะเดินทางตอนไหนก็จะได้สบายใจ
หากนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ลงทะเบียนในระบบ
K-ETA ไว้ก่อนและยังไม่มีใบรับรองอนุญาตไปแสดงตอนเช็คอินตั๋วโดยสารเคาน์เตอร์สนามบินสุวรรณภูมิ
ก็จะโดนปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องตั้งแต่ต้นทาง
ดังนั้นจึงขอย้ำให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียนไว้ให้ครบตามขั้นตอน
เมื่อได้ใบรับรองแล้วก็จะทำให้การเดินทางสะดวกรวดเร็ว ลดขั้นตอนลดปริมาณกระดาษซึ่งสมัยก่อนต้องใช้วิธีกรอกรายละเอียดลงไปเป็น
ARRIVAL CARD
ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปเป็นเอกสารไร้กระดาษหรือใช้ paperless ทั้งหมด
นางสาวลักษณีย์กล่าวว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวคนไทยที่จะเดินทางเข้าเกาหลีเมื่อถึงสนามบินผ่านเคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.เกาหลี) ก็ยังคงตรวจเข้มตามระเบียบปกติ โดยจะดูบุคลิก หน้าตา ท่าที การแต่งกาย พร้อมมีคำถามทั่วไป สถานที่ทำงาน เบอร์ติดต่อที่ชัดเจน บัตรเครดิต และการพำนักอยู่ในเกาหลีกี่วัน ตามโปรแกรมจะไปเที่ยวไหนบ้าง หนังสือเดินทางเล่มเก่าก็ควรจะพกไปด้วย ข้อมูลเหล่านี้แต่ละคนจะต้องตอบเจ้าหน้าที่ให้ได้
เนื่องจากนักท่องเที่ยวบางคนไม่รู้โปรแกรมการท่องเที่ยวเลยเพราะตามเพื่อน
ตามแฟน หรือตามพนักงานของบริษัทไปด้วย จึงไม่รู้รายละเอียดจึงทำให้ ตม.เกาหลี
เกิดความสงสัย พร้อมทั้งขอแนะนำ อย่าไปทำสิ่งที่ “ผิดกฎหมายเกาหลี” โดยเด็ดขาด
เพราะบทลงโทษรุนแรงมาก หากจะไปเที่ยวจริงก็ไม่มีอะไรน่ากลัว
เพียงแค่เตรียมเอกสารให้พร้อม และศึกษาข้อมูลโปรแกรมเดินทางให้ชัดเจนเพื่อตอบคำถาม
ตม.อย่างถูกต้อง
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 X8เครือคิงเพาเวอร์ดึงแบมแบมยาดมPASTELเจาะตลาดวัยรุ่น
นายรวิ อิทธิระวิวงศ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มัลติพลาย บาย เอท จำกัด หรือ X8
บริษัทในเครือคิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ล่าสุดได้เปิดตัวสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ “ยาดม Pastel-พาสเทล” ในชุด “Pastel Brand Pocket Inhaler Colour Pop Limited
Edition นำเสนอดีไซน์ใหม่แบบฝาไม่หาย!ชนิดพกพา คัลเลอร์ ป๊อป
หอม เย็น สดชื่น พร้อมกับมีพรีเซ็นเตอร์ “แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล” ศิลปินไอดอลเกาหลีเชื้อสายไทยที่ได้รับความนิยมและมีแฟนคลับอยู่ทั่วโลกมาช่วยสร้างสีสัน
โดยได้เล็งเห็นถึงคาแรกเตอร์อันโดดเด่นของ “BamBam” ทั้งด้านดนตรีและการเต้น มีเสน่ห์และมีพลังดึงดูดความสนใจแฟนคลับ เป็นศิลปินไอดอลเกาหลีเชื้อสายไทยที่ได้รับความนิยมและมีแฟนคลับอยู่ทั่วโลก ซึ่งมาบรรจบกับความเป็นครีเอทีฟไลฟ์สไตล์ของแบรนด์พาสเทลได้อย่างลงตัว
สำหรับ “ยาดม Pastel-พาสเทล” เทรนด์ใหม่ในวงการตลาดมีแผนวางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ถึง 31 สิงหาคม 2565 พร้อมกับจัดกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟเอาใจสาวกแบมแบม ทุก ๆ การสั่งซื้อ Pastel Brand Pocket Inhaler Colour Pop รับสิทธิ์ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม VDO CALL FANSIGN EVENT จำนวน 20 รางวัล เริ่มสะสมพอยต์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 5 กันยายน 65 สามารถร่วมกิจกรรมและรับสิทธิ์ได้เมื่อสั่งซื้อสินค้าได้ 2 รูปแบบ
แบบแรก สั่งซื้อชนิด “กล่องบ็อกซ์เซ็ต” จะมี ยาดม Pastel Brand Pocket Inhaler Colour Pop 10 แผง (60 ชิ้น) พร้อมโฟโต้การ์ด 4 ใบ และสุ่มการ์ดพิเศษ 1 ใบ (การ์ดพิเศษมีทั้งหมด 2 แบบ) ราคากล่องละ 1,680 บาท สามารถสั่งล่วงหน้าหรือพรี ออเดอร์ได้ตั้งแต่วันนี้ – 14 มิถุนายน 2565ทาง Facebook / Instagram : Pastel Creative, Line Official Account : @pastelcreative, Official Website : www.pastelcreative-x8.com โดยจะเริ่มวางจำหน่ายจริงวันที่ 15 มิถุนายน 2565 ทางเว็บไซต์ www.kingpower.com/brand/pastel-creative, ร้านคิงเพาเวอร์สนามบินและร้านในเมือง รวมทั้งที่ร้าน F1RSTER สาขา คิงเพาเวอร์ มหานคร กับสาขา สยามสแควร์ ซอย 7
แบบที่ 2 แบบแผง จะยาดม Pastel Brand Pocket Inhaler 6 ชิ้น และ Photo Card 1 ใบแบบสุ่ม (มีการ์ดปกติ 4 ใบ และการ์ดพิเศษ 1 ใบ) ราคาแผงละ 168 บาท เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันนี้– 31 สิงหาคม 2565 ผ่านทาง 7-Eleven ,7-Eleven Application หรือจองและรับสินค้าที่ 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ และ ช้อป All Online ทางออนไลน์ https://www.allonline.7eleven.co.th/ เท่านั้น
การเข้าร่วมกิจกรรม VDO CALL FANSIGN EVENT จะคัดเลือกจาก Top Score ลำดับที่ 1-10 ที่สะสมพอยต์จาก QR
Code บนผลิตภัณฑ์ (1 QR เท่ากับ 1 พอยต์) ซึ่งจะได้รับสิทธิ์ VDO
Call กับ BAMBAM เป็นเวลา 1
นาที พร้อม Signed Poster ขนาด A2 เข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันนี้ – 31
สิงหาคม 2565 ประกาศผลวันที่ 8 กันยายน 2565 เวลาประมาณ
18.00 น.ทาง Line Official Account @pastelcreative และ www.facebook.com/pastelcreativex8
ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์ให้สมาชิกบัตร5แบบซื้อทัวร์สิงคโปร์ลดทันที500บาท
คิง เพาเวอร์ ให้สิทธิพิเศษสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวประเทศสิงคโปร์ รับส่วนลด 500 บาท เมื่อซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวประเทศสิงคโปร์ Singapore Tasty 3 วัน 2 คืน สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก คิง เพาเวอร์ทั้ง 5 ประเภท VEGA, CROWN, ONYX, SCARLET และ NAVY
1.รับส่วนลด 500 บาท* เมื่อซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยว Singapore Tasty 3 วัน 2 คืน ราคาเริ่มต้น 14,999 บาท*รับสิทธิ์และออกเดินทางได้ตั้งแต่ 1 มิถุนายน – 30 กรกฎาคม 2565
2.รับส่วนลด 500 บาท* เมื่อซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยว Refreshing Singapore 3 วัน 2 คืน ราคาเริ่มต้น 11,999 บาท รับสิทธิ์และออกเดินทางได้ตั้งแต่ 1 มิถุนายน – 30 ตุลาคม 2565
รายละเอียดเพิ่มเติม แพ็กเกจ Singapore Tasty : https://bit.ly/38GME9s และแพ็กเกจ Refreshing Singapore : https://bit.ly/3sWr8nR ส่วนสมาชิก คิง เพาเวอร์ รับสิทธิ์ได้ที่: https://lin.ee/QxLtQ1b
สมาชิก 1 บัญชีสามารถใช้สิทธิ์ส่วนได้ไม่จำกัดสิทธิ์ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เดินทาง โดยให้จองผ่าน
บริษัท พีแอล อินเตอร์ ทัวร์ จำกัด สามารถเพิ่มเพื่อนทางไลน์ได้ที่ Line ID
:@pintertour เพื่อตรวจสอบราคาและจองแพกเกจที่ต้องการได้
ข่าวที่ 3 ททท.จัดใหญ่ซอฟท์เพาเวอร์ร็อคออนบีชภูเก็ต/กระบี่เริ่ม17มิ.ย.นี้
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้จัดเทศกาลส่งเสริมซอฟท์เพาเวอร์ไทยแลนด์ด้วยการจัดมหกรรมดนตรีชายหาด ROCK ON THE BEACH MUSIC FESTIVAL มหกรรมดนตรีแนวสนุกสนานริมหาดทรายชายทะเล นำเสนอภายใต้แนวคิด “The Festival of Ultimate Happiness in the Andaman” หรือเทศกาลส่งคลื่นความสุขต่อเนื่องให้คุณเที่ยวใต้ นำร่องจัด 2 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต ระหว่าง 17 – 19 มิถุนายน 2565 และกระบี่ 24 – 26 มิถุนายน 2565
ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพพร้อมใช้จ่ายเงินสูงทั้งคนไทยและต่างชาติเข้าสู่ภูเก็ตและกระบี่
รวมกว่า 15,000 คน สามารถกระจายรายได้ถึงมือผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยจะสร้างแรงดึงดูดด้วยการแสดงเหล่าศิลปินที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม
การคัดสรรค์ 20 ร้านเด่น มาร่วมจำหน่ายอาหารถิ่น
ผลิตภัณฑ์ชุมชน การแสดงอัตลักษณ์ท้องถิ่น แล้ว ททท.ยังได้ร่วมกับผู้ประกอบการในภูเก็ตและกระบี่
กลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร บริษัทนำเที่ยว แจกคูปองส่วนลดพิเศษมูลค่า 200 บาท
จำนวน 3,000 คูปอง เพื่อนำไปใช้ซื้ออาหารและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น
นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่าการจัดอีเวนต์เทศกาลท่องเที่ยวครั้งนี้มุ่งส่งเสริมโครงการ Thailand Festival Experience และปีท่องเที่ยวไทย 2565 - 2566 หรือ “Visit Thailand Year 2022 - 2023 : Amazing New Chapters”ภายใต้แนวคิด 6 F + 4 M ประกอบด้วย 6 F ได้แก่ 1.อาหาร/Food/อาหาร 2.Film/แหล่งถ่ายทำภาพยนตร์ 3.Fashion/แฟชั่น 4.Festival/เทศกาล 5.Fight/การท่องเที่ยวเชิงกีฬาการต่อสู้ 6.Friendship/มิตรไมตรีความเป็นไทย ผนวกเข้ากับ 4 M ได้แก่ 1.Music/ดนตรี 2.Museum/พิพิธภัณฑ์ 3.Master/ต้นแบบความสนุก และ 4.Meta/การเปลี่ยนโลกท่องเที่ยวด้วยเทคโนโลยี
สำหรับการจัดงานวันที่ 17 – 19 มิถุนายน 2565 ที่ชายหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต จะเริ่มตั้งแต่ 15.00 – 22.00 น. ณ ลานโลมา ชมคอนเสิร์ตริมชายหาดของเหล่าศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย ได้แก่ วี วิโอเลต, อิ้งค์ วรันธร และ วง THE PARKINSON และไฮไลท์สุดพิเศษ FLY BOARD การโชว์ว่าวหลากหลายชนิด
และการจัดงานวันที่
24 – 26 มิถุนายน 2565 ที่บริเวณ ตะโกลา ยอร์ช มารีน่า จ.กระบี่ เริ่มตั้งแต่
15.00 – 22.00 น. ชมคอนเสิร์ตริมชายหาดวง ETC. TWOPEE และ เบน
ชลาทิศ ตื่นตาตื่นใจกับโชว์การบินโดรนแปรอักษรเป็นรูปต่าง ๆ อย่างสวยงาม
ขณะเดียวกันทั้ง 2 พื้นที่เตรียมการแสดงท้องถิ่นไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เพิ่มประสบการณ์ชม
ระบำบาบ๋า ระบำตารีกีปัส กรแสดงหุ่นเชิดร่วมสมัย การแสดงรำมโนราห์ร่วมสมัย เรื่อยไปจนถึงมีกิจกรรมสุดพิเศษให้ลองสัมผัสวิธีทำเพ้นท์ผ้าบาติกของชุมชน
ข่าวที่ 4 TCEBแจก3องค์กรครั้งละหมื่นบาทปลุกจัดไมซ์ทั่วไทย7ประเภท
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) หรือ “TCEB” ประกาศมอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกทั่วประเทศ
3 องค์กรใหญ่ ได้แก่ สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA),
สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT)
ลงทะเบียนรับส่วนลดการจัดงานไมซ์มูลค่า 10,000 บาท เริ่มตั้งแต่วันนี้ - 15 สิงหาคม 2565
เพียงเข้ามาใช้แพลตฟอร์ม Thai MICE Connect ช่วยจัดงานไมซ์
7 ประเภท ได้แก่ กิจกรรมการประชุม, สัมมนา, การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล, การอบรม, กิจกรรมเพื่อสังคม, กิจกรรมพนักงานสัมพันธ์
และกิจกรรมร่วมกับชุมชน รับคูปองส่วนลดค่าจัดงานไปได้เลย 10,000 บาท
ผู้ที่สนใจจะขอรับสิทธิ์จากทีเส็บจัดไมซ์โดยใช้ส่วนลด 10,000
บาท จะต้องลงทะเบียนก่อนมีสิทธิ์ก่อน เพราะโครงการ “Thai MICE
Co-Connect” จำกัดจำนวนเพียงสมาคมละ 10 สิทธิ์เท่านั้น
วิธีลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการตามสมาคมเป็นสมาชิก
ได้ดังนี้
1.สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) : https://bit.ly/3MLDsiI
2.สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย : https://bit.ly/3G9WxIZ
3.หอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) : https://bit.ly/39T3H8w
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง
โทร : 02-430-6722 LINE : @thaimiceconnect
ข่าวที่
5
บางจากร่วมทุนแบงก์ออมสิน&ทิพยกรุ๊ปตั้งบ.มีที่มีเงินช่วยSMEไทย
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มบางจากลงนามข้อบันทึกข้อตกลงการทำธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝาก
ร่วมทุนจัดตั้งบริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด กับ ธนาคารออมสิน และบริษัท บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) พร้อมทั้งตั้งเป้าใช้บริษัทดังกล่าวช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs และประชาชนทั่วไป
ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนต้นทุนถูกลง มีเงื่อนไขการกู้อย่างเป็นธรรม
ซึ่งกลุ่มบางจากให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคม
เพื่อสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
โดยเฉพาะการดูแลและมอบช่วยเหลือในช่วงฟื้นฟูจากผลกระทบของโควิด-19 แก่ผู้มีส่วนได้เสียทางธุรกิจในทุกภาคส่วน รวมถึงภาคการเกษตร
ที่บางจากได้ร่วมทำธุรกิจผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ เครือข่ายปั๊มชุมชน
และโครงการด้านพลังงานสะอาด และอื่น ๆ
ที่เป็นประโยชน์
จึงมองว่าการร่วมทุนในนวัตกรรมทางการเงินอย่างธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝาก ผ่านบริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด ครั้งนี้ จะมอบโอกาสใหม่ให้กับสมาชิกสหกรณ์การเกษตรและลูกค้าบางจาก ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและต้นทุนสินเชื่อที่เป็นธรรม สำหรับเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินที่จำเป็นต่อการบริโภคหรือการดำเนินธุรกิจ บรรเทาปัญหาภาระหนี้สินและช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและประชาชนรายย่อยได้อีกทางหนึ่ง สอดคล้องตามความมุ่งมั่นของกลุ่มบางจาก ที่มุ่งพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างยั่งยืนไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคมมาโดยตลอด.
สำหรับ บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด จัดตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท เป็นการร่วมทุนของธนาคารออมสิน 49%
กับ บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) 31% และ กลุ่มบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 20%
โดยธนาคารออมสินทำหน้าที่ปล่อยสินเชื่อ
ประสานพลังความร่วมมือพร้อมให้บริการผ่านจุดบริการของทั้ง 3 ฝ่าย
มีวัตถุประสงค์เพื่อลดภาระของผู้ประกอบการ SMEs และประชาชนรายย่อย
ช่วยลดปัญหาหนี้นอกระบบ และสร้างการแข่งขันที่สมบูรณ์ในตลาดสินเชื่อที่ดินและขายฝาก
คาดจะสามารถจัดตั้งบริษัทฯ แล้วเสร็จ
พร้อมเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 3 ปี
2565 จากนั้นจะเปิดตัวด้วยสินเชื่อที่ดินระยะแรกอัตราดอกเบี้ย 7-9% แล้วขยายผลไปทำธุรกิจขายฝากภายในสิ้นปี 2565 ก่อนจะยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ Non-Bank ปี 2566
เพื่อทำธุรกิจสินเชื่อบุคคลต่อไป
ตั้งเป้าปีแรกสามารถปล่อยสินเชื่อได้ 10,000 ล้านบาท
ด้วยจุดแข็งด้านฐานลูกค้าของธนาคารออมสินจำนวนมาก
และมีจุดบริการครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั้งสาขาของธนาคารออมสิน และทิพย กรุ๊ป
รวมถึงจุดให้บริการน้ำมันบางจากทั่วประเทศกว่า 2,300 แห่ง
ช่วงที่
2 ททท.ชวนออกเดินทางปักหมุดเที่ยว “พื้นที่ชุ่มน้ำกระบี่” มหัศจรรย์ 5 Wonder Wet Land จากปากแม่น้ำกระบี่เลียบทะเลเกาะแก่ ชมธรรมชาติป่าชายเลน
หาดทรายสวย พระอาทิตย์ตกดิน ดูศิลปะถ้ำกลางทะเล กินอาหารสด ๆ ที่ประมงพื้นบ้านจับแบบสด
ๆให้ร้านอาหารเสิร์ฟ แล้วดูแลสุขภาพ “5วิธีปรับพฤติกรรมเล็ก ๆในชีวิต”
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก -“บพท.” ถอดความสำเร็จโมเดลแก้จน” เชื่อมโยง 6 เรื่อง ข่าวที่สอง “การบินไทยผนึกมหาดไทย” จัดเที่ยวบินฮัจน์ นำคนไทย 2,508 คน ไปซาอุดิอาระเบีย 2 เมือง ก.ค.-ส.ค.นี้
ท่องเที่ยว –ลงใต้ไปกระบี่ชมมหัศจรรย์พื้นที่ชุ่มน้ำสวยๆ5วันเดอร์เว็ตแลนด์
ตอนนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บูมท่องเที่ยวภาคใต้ด้วยหลากหลายโครงการ เพื่อฟื้นฟูความทรงจำให้คนลุกขึ้นมาเที่ยวไทยอีกครั้ง ทริปนี้ ททท.สำนักงานกระบี่ มีสถานที่แนะนำ การท่องเที่ยวมหัศจรรย์จรรย์ “Wonder Wet Land” หรือการท่องเที่ยวเส้นทางพื้นที่ชุ่มน้ำ สายน้ำจากลำคลองหลายสายไหลสู่ปากแม่น้ำลงสู่ทะเล สร้างความอุดมสมบูรณ์เขียวขจี กระทั่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลก จากความหลากหลายของป่าชายเลน หาดเลน ถิ่นพักอาศัยของสัตว์นานาชนิด หญ้าทะเล แหล่งวัตถุดิบอาหรของสัตว์ทะเล เรื่อยไปจนถึงนกอพยพและนกประจำถิ่นได้ใช้ร่มเงาของป่าเป็นที่พักพิงด้วย
Wonder 1 : ล่องเรือป่าโกงกาง เขาขนาบน้ำ -ล่องเรือหัวโทนมุ่งหน้าสู่ “เขาขนาบน้ำ”
ชมความมหัศจรรย์ปากแม่น้ำกระบี่ นำไปสู่เส้นทางเที่ยวธรรมชาติป่าชายเลน
ช่วงน้ำขึ้นจะได้ลอดอุโมงค์ลับป่าโกงกางอันเป็นลักษณะการโน้มของยอดต้นไม้ในป่าเข้าหากันยาวสุดสายตา
รวมทั้งมีจุดแวะชมอีกแห่ง “ถ้ำมนุษย์โบราณ” ภายในถ้ำตื่นตากับผลงานศิลปะทางประวัติศาสตร์เมืองกระบี่ได้
Wonder 2 : สัมผัสวิถีชาวบ้านเกาะกลาง เที่ยวแบบเสริมสร้างประสบการณ์ท้องถิ่น หรือ Local Experience ชวนกันไปดื่มด่ำความสุขสงบวิถีชีวิตดั้งเดิมชาวชุมชนพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีอัตลักษณ์เฉพาะที่ ททท.ส่งเสริมเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวเสน่ห์ท้องถิ่น ที่ใช้ภูมิชีวิตอิงแอบกับธรรมชาติ โดยนำภูมิปัญญาพื้นถิ่น ทำอาชีพประมง และผ้ามัดย้อมพื้นบ้า
Wonder 3 : ลิ้มลองรสชาติ วัตถุดิบ “อาหารทะเล” ของชาวประมงชุ่มน้ำ พื้นที่ซึ่งมีแหล่งสัตว์น้ำไฮไลต์คือ ปูดำ กุ้ง หอย ปลา ที่ชาวประมงพื้นบ้านช่วยกันจับมาจากน้ำขึ้นฝั่งไปขายให้ร้านอาหารมีวัตถุดิบตามฤดูกาลแบบสด ๆ ที่ใช้ปรุงเมนูมากมายเสิร์ฟให้นักท่องเที่ยวได้รับประทานตลอดทั้งปี
Wonder 4 : ส่องนกกับสิ่งมีชีวิตที่ปากแม่น้ำกระบี่ บริเวณปากแม่น้ำเป็นบ้านหลังใหญ่ของ
นกอพยพ และนกนานาพันธุ์ซึ่งหาดูได้ยาก ซึ่งมีจุดส่งนกยอดนิยมในกระบี่อยู่ที่ เกาะนกกับหาดแหลมสน
ในช่วงน้ำลงนักท่องเที่ยวสามารถไปเฝ้ารอนกบินลงมากินสัตว์น้ำได้ เช่น นกกระเต็นน้อย
นกแต้วแร้ว อารมณ์ดีชอบส่งเสียงร้องอย่างไพเราะ อีกทั้งยังจะมีปูก้ามดาบ ปลาตีน
โผล่ขึ้นมาทักทายเป็นระยะ ๆ
Wonder 5 : Amazing Shot จุดถ่ายรูปสุด Chic 2 จุด คือ จุดแรก “หาดแหลมขาม” ชายหาดล้อมด้วยน้ำทะเลล้อมเกาะมีหาดทอดยาวให้ชมทิวทัศน์สวยงามด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว
แถมยังมองเห็น “เกาะไก่” ได้ชัดเจนมาก จุดที่ 2 “หาดเลน” ช่วงดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าลงสู่ทะเลที่มีชายหาดทั้งกว้างและยาว
จึงทำให้รูปที่ทุกช็อตที่โพสต์ถ่ายออกมาในทุกมุมสวยจนเลือไม่ถูกเลยทีเดียว
ออกเดินทางปักหมุดเที่ยวมหัศจรรย์ “พื้นที่ชุ่มน้ำเมืองกระบี่”
ทั้ง 5 แห่ง กันสักครั้ง เพื่อเติมพลังให้ความชีวิตชีวา เพราะว่า
เมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม
สุขภาพ
- 5วิธีสุขภาพดีสร้างได้ด้วยการปรับพฤติกรรมง่ายในชีวิตประจำวัน
การมีสุขภาพที่ดีอาจไม่จำเป็นต้องสร้างด้วยพฤติกรรมธรรมดาเล็กๆ
น้อยๆ ที่ขอแนะนำให้ทำจนติดเป็นนิสัยเพื่อสร้างสุขภาพที่ดีได้ เช่น
การดื่มน้ำหลังตื่นนอน หรือ การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน
เพราะสุขภาพที่ดีนั้นเราสามารถสร้างให้เกิดเป็นนิสัยได้ พร้อมกับปรับการใช้ชีวิตประจำวัน 5 วิธี ดังนี้
1.อย่าปล่อยให้ศีรษะรับความเย็น -เมื่อต้องออกนอกบ้านในยามเช้าตรู่ หรือวันที่อากาศเย็น
ให้รักษาความอบอุ่นบนศีรษะ ด้วยการสวมหมวก
หากไม่ให้ความอบอุ่นแก่บริเวณศีรษะในตอนเช้าจะทำให้เกิดโรคจากความเย็นที่มากระทบได้
2.หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่เย็นนานๆ -การอยู่ในห้องที่มีความเย็นและชื้นในระยะเวลานาน
อย่างเช่น ห้องทึบที่เปิดเครื่องปรับอากาศนานๆ
หรือการนั่งในพื้นที่เปียกชื้นเป็นเวลานาน จะทำให้ได้รับความเย็นชื้นมากเกินไป
จึงควรเปิดหน้าต่างให้มีแสงแดดอ่อนๆ สาดส่องเข้ามาในห้องบ้าง
3. เปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีที่ชุ่มเหงื่อ -เมื่อรู้สึกว่าร่างกายชุ่มเหงื่อจนทำให้เสื้อผ้าเปียกชื้น
ให้รีบเปลี่ยนชุดทันที เพราะในสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำ
จะส่งผลให้รูขุมขนเปิดกว้าง ซึ่งเปิดรับโรคจากภายนอกได้ง่ายยิ่งขึ้น
ไม่เพียงแต่ความชุ่มชื้นจากเหงื่อเท่านั้น แต่การเปียกชื้นจากละอองน้ำ เช่น
เสื้อผ้าที่เปียกฝน แม้จะเป็นการเปียกชื้นเพียงเล็กน้อยก็ควรเปลี่ยน
4. อย่าสวมเสื้อผ้าที่ตากแดดหมาดๆ -ความเย็นเกินไปทำให้ร่างกายเสี่ยงโรค
ความร้อนก็เช่นกัน ไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่ตากไว้กลางแดดทันที
ควรรอให้ผ้าคลายความร้อนก่อนแล้วค่อยสวมใส่
เพราะเสื้อผ้าที่ผ่านความร้อนจากแสงแดดจัดๆ จะมีพิษร้อนสะสมอยู่ในเนื้อผ้า
5. หลีกเลี่ยงการเปิดไฟหรือจุดตะเกียงเวลานอน - การเปิดไฟ ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟจากธรรมชาติ
หรือแสงไฟจากหลอดไฟ รวมถึงแสงจากจอต่างๆ ที่ไม่ได้ปิดให้เรียบร้อย
จะรบกวนสภาวะที่ร่างกายเปิดรับพลังงาน ทำให้มีผลต่อจิตใจขณะนอนหลับ
และส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ
การใช้ชีวิตประจำวันทั้ง
5 นิสัยเล็กๆ เหล่านี้
ล้วนเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวันของเราทั้งนั้น ทั้งอุณหภูมิ อากาศ
และแสงสว่าง ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนภายในที่อยู่อาศัยได้ไม่ยากเลย
แถมยังส่งผลต่อสุขภาพของเราอย่างมหาศาล ทั้งร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ที่เหมาะสม
นั่นเอง
ข่าวแรก -บพท.ถอดรหัสความสำเร็จงานวิจัยเชื่อมโยง6เรื่องแก้จนคนไทย
นายกิตติ
สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุน ด้านการพัฒนาระดับพื้นที่
(บพท.) กล่าวแสดงปาฐกถาในงานเสวนา”บทบาทสื่อมวลชน กับการสืบสาน รักษา และต่อยอด
งานพัฒนาด้วยความรู้จากงานวิจัยระดับพื้นที่”
ซึ่งสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ร่วมกับชมรมสื่อมวลชนเพื่อการพัฒนาชนบท
และมูลนิธิปัญญาวุฒิจัดขึ้น ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 9
มิถุนายน 2565
โดยได้เน้นย้ำถึงคุณค่าและความสำคัญของการสะสมองค์ความรู้จากงานวิจัยตามบริบทของพื้นที่ ในการขับเคลื่อนงานพัฒนาในแต่ละพื้นที่
“ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นต้นแบบของการใช้ความรู้จากงานวิจัย เป็นปัจจัยสำคัญของการดำเนินโครงการพัฒนา โดยพระองค์จะทรงศึกษาค้นคว้าวิจัยและทดลองด้วยพระองค์เองจนแน่ใจในผลลัพธ์ ก่อนที่จะพระราขทานให้หน่วยราขการ หรือประชาชนนำไปใช้ประโยชน์”
ผอ.กิตติ กล่าวด้วยว่า กระบวนการความรู้จากงานวิจัยระดับพื้นที่จะทำให้เกิดพลังของการเปลี่ยนแปลงไปสู่ดุลยภาพ ใหม่ที่ดีขึ้นในพื้นที่ และก้าวข้ามการพัฒนาบนฐานทรัพยากร ซึ่งสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไปสู่การพัฒนาบนฐานความรู้ ด้วยการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ โดยต้องเชื่อมโยงกับองค์ประกอบสำคัญอีก 6 ประการได้แก่
1.โครงสร้างระบบงบประมาณ 2.โครงการกำลังคน 3.เครือข่ายชุมชน 4.โครงสร้างระบบบริหารภาครัฐ 5.การสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ หรือแกนนำชาวบ้าน และ 6.การสื่อสารชุดความรู้จากงานนวัตกรรมให้รับรู้กันอย่างทั่วถึง
ผอ.กิตติยืนยันว่า ขอบเขตงานภายใต้ความรับผิดชอบของ บพท.จะประกอบด้วยยุทธศาสตร์ขจัดความยากจนแบบเบ็ดเสร็จ และแม่นยำ ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการพัฒนาคน และกลไกจากฐานทุนทรัพยากรพื้นถิ่น และทุนวัฒนธรรม รวมทั้งยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองน่าอยู่ และการกระจายศูนย์กลางความเจริญ
โดยเฉพาะประเด็นขจัดความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ นั้น บพท.มุ่งตอบโจทย์สำคัญ 3 ประการคือคนจนอยู่ไหน-อะไรคือเหตุแห่งความจน-ทำอย่างไรจึงจะหลุดพ้นจากความจน โดยออกแบบกลไกกระบวนการขจัดความยากจนให้เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการพัฒนาคน และกลไกจากฐานทุนทรัพยากรพื้นถิ่น และทุนวัฒนธรรม รวมทั้งยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองน่าอยู่ และการกระจายศูนย์กลางความเจริญ
ทั้งนี้เพื่อทำให้คนจนมีที่ยืนในโครงสร้างห่วงโซ่อุปทาน
หรือห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งจะส่งผลให้คนจนหลุดพ้นจากความยากจนอย่างยั่งยืน
ข่าวที่สอง –การบินไทยผนึกมหาดไทยจัดบินฮัจน์3จังหวัดสู่ซาอุ2เมือง2,508คน
นายกรกฎ ชาตะสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประธานกรรมการกิจการพิเศษฮัจย์ บริษัท การบินไทย
จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ลงนามข้อตกลงกับ นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์
รองอธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เพื่อให้การบินไทยจัดเที่ยวบินพิเศษขนส่งผู้แสวงบุญชาวไทยมุสลิม
เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ที่ซาอุดีอาระเบีย ประจำปี 2565
ตามที่การบินไทยมุ่งเน้นอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้แสวงบุญอย่างมีมาตรฐานความปลอดภัยในทุกเที่ยวบิน
พร้อมทั้งให้บริการอาหารและเครื่องดื่มที่ผลิตโดยครัวฮาลาลของการบินไทย โดยมีขั้นตอนการประกอบอาหารเป็นไปตามหลักของศาสนาอิสลามและได้รับการรับรองมาตรฐานฮาลาล
HAL - Q
ปี
2565 นี้ การบินไทยให้บริการขนส่งผู้แสวงบุญ 2,508 คน เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์พิเศษไป-กลับ
รวม 9 เที่ยว ออกจากประเทศไทย 3 จุด ได้แก่ นราธิวาส หาดใหญ่ และกรุงเทพฯ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
สู่ซาอุดิอาระเบีย 2 เมืองได้แก่ มะดีนะห์ และเจดดาห์ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.เที่ยวบินขาไป 10 - 13 มิถุนายน 2565 และ29
มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2565
1.1 นราธิวาส
– มะดีนะห์ 2 เที่ยว
ระหว่าง 10 – 11 มิถุนายน 2565
1.2 เส้นทางหาดใหญ่
– มะดีนะห์ 2 เที่ยว ระหว่าง
12 – 13 มิถุนายน 2565
1.3 เส้นทางหาดใหญ่
– เจดดาห์ 3 เที่ยว ระหว่าง
29 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2565
1.4 เส้นทางกรุงเทพฯ
– เจดดาห์ 2 เที่ยว ระหว่าง
2 – 3 กรกฎาคม 2565
2.เที่ยวบินขากลับ 18 -21 กรกฎาคม 2565 และ 8 –
12 สิงหาคม 2565
2.1 เส้นทางเจดดาห์ – นราธิวาส 2
เที่ยว ระหว่าง 18 - 19 กรกฎาคม 2565
2.2
เส้นทางเจดดาห์ – หาดใหญ่ 2 เที่ยว ระหว่าง 20
- 21 กรกฎาคม 2565
2.3 เส้นทางมะดีนะห์
– หาดใหญ่ 3
เที่ยว ระหว่าง 8 – 10 สิงหาคม 2565
2.4 เส้นทางมะดีนะห์ – กรุงเทพฯ 2 เที่ยว ระหว่าง 11 – 12 สิงหาคม 2565
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น