ททท.เปิดรหัสลุย ดึงทัวร์เศรษฐี“เอเชียตะวันออก”เที่ยวไทยอัดฉีดชุดใหญ่BoosterShot ปี’66ชู5 NEW“เซกเมนท์-พื้นที่-พันธมิตร-คมนาคม-เส้นทาง”
ททท.เปิดรหัสลุยโกยตลาดเอเชีย&แปซิฟิกใต้”เกาหลี-อินเดีย”โตไม่ยั้ง
ดึงทัวร์เศรษฐี“เอเชียตะวันออก”เที่ยวไทยอัดฉีดชุดใหญ่BoosterShot
ปี’66ใส่เกียร์รุก 5 NEW“เซกเมนท์-พื้นที่-พันธมิตร-คมนาคม-เส้นทาง”
คิงเพาเวอร์พาเหรดสินค้าอโรมาลดใหญ่
35%+5%แถมอีก6สิทธิพิเศษ
นักช้อปมือใหม่คิงเพาเวอร์เลือกซื้อจุใจโปรโมชั่นและสินค้าคุ้มค่า6อย่าง
คิงเพาเวอร์พาเหรดแบรนด์ดังรับซัมเมอร์รับความสดใส
5 เทรนด์มาแรง
ททท.งัดพลังซอฟท์เพาเวอร์8ศิลปินแปลงโฉมท่องเที่ยว5ย่านเก่ากทม.
“TCEB”ชูIMEXแฟรงเฟิร์ต2022เปิดแคมเปญโฆษณา+เทรดโกย1.8พันล้าน
ปั๊มบางจากSelf Serve"สะดวกประหยัด ปลอดภัยลด30สตางค์/ลิตร
ตลุยเที่ยวซอฟท์เพาเวอร์เมืองย่าโม“KORAT DAZZLING NIGHTS”
บินไทยถกเอเย่นต์ตั๋วโกยรายได้3ชาติ“อินเดีย-ปากีสถาน-บังคลาเทศ”
บางกอกแอร์อัดโปรตั๋วเที่ยวมัลดีฟส์3เดือนฮ็อตสุดๆ1.6หมื่นบาท/คน
วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์”
เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT
#บางจาก #TCEB
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...
ช่วงที่
1 ใส่เกียร์ลุยกับ
“นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ดิ่งตรงตลุยขายท่องเที่ยวไทยใน
“เอเชียตะวันออก” ปักหมุด “เกาหลี” หลังเลิก Test & Go กับ Thailand Pass ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์บินรัว ๆ กระแสตอบรับบวกสุด ๆ คนรวยแดนกิมจิเฮเที่ยวไทย
นักกอล์ฟ คนทำงาน/วัยรุ่น ผู้หญิง คู่แต่งงาน ก.ย.65
บุกอินเดียลุ้นยอดปีนี้แตะ 1 ล้านคน เพิ่มกลยุทธ์
Booster Shot
ปั๊มทุกตลาด และปี’66
จัดทัพขายท่องเที่ยว 5 New “Segment-Area-Partners-Infrastructure-way”
ดึงทั่วโลกมาไทย 80% ตั้งเป้าปี’67 ฟื้นสู่ปกติ
100 %
ได้ถึงปีละ 40 ล้านคน
นายธเนศวร์
เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หลังรัฐบาลไทยประกาศเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว
ททท.เร่งเดินทางไปทำตลาดเชิงรุกพุ่งเป้าไปยัง “เอเชียตะวันออก”
โดยเฉพาะ “เกาหลีใต้”
ซึ่งเป็นโอกาสเหมาะมากเพราะขณะนี้รัฐบาลของเกาหลีผ่อนปรนอนุญาตให้ประชาชนเดินทางไปต่างประเทศได้โดยไม่ต้องกลับเข้าประเทศแล้วกักตัวอีกต่อไป
แค่ให้ต้องตรวจ RT-PCR
Test ฟรีในสำนักงานเขตสาธารณสุขที่บ้านของตน
ซึ่งทุกคนก็ปฏิบัติเป็นอย่างดี จึงไม่ได้เป็นภาระของนักท่องเที่ยว
ทำให้
ททท.ต้องนำเอกชนไทย 30 รายเดินทางไปในฐานะผู้ขายด้วยการทำโร้ดโชว์และเทรดโชว์ทันทีกับผู้บริษัทท่องเที่ยวชั้นนำของเกาหลีซึ่งเป็นกลุ่มผู้ซื้อ
20 ราย
เมื่อวันที่ 15-17
มิถุนายน 2565
เห็นได้ชัดว่าเอเย่นต์ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมงานตื่นเต้นยินดีอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้พบหน้ากันจริง
ๆ ต่างจากเมื่อ 2 ปีเศษเจอกันแต่ทางออนไลน์
กิจกรรมส่งเสริมตลาดการขายครั้งนี้ จึงทำให้ ททท.มั่นใจมากตลอดปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยวเกาหลีเข้าไทยตามเป้าหมายใหม่ที่เพิ่งปรับสด ๆ ร้อน ๆ เป็น 500,000 คน จากเดิมตั้งไว้เพียง 350,000 คน เท่ากับเพิ่มได้อีกถึง 150,000 คน ส่วนปี 2562 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เกาหลีเดินทางเที่ยวเมืองไทยประมาณ 1.88 ล้านคน
ในจังหวะรัฐบาลไทยประกาศยกเลิก
Test & Go เรื่องการตรวจหาเชื้อจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก
รวมทั้งเตรียมเลิก Thailand
Pass ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป
จะเป็นแรงส่งทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวเกาหลีเดินทางเพิ่มมากขึ้นอย่างสอดคล้องกับจำนวนที่นั่งเที่ยวบินบริการสายการบินต่าง ๆ ยังไม่ 100 % โดยเริ่มทยอยเปิดทั้งการบินไทย
เจจูแอร์ เอเชียน่าแอร์ไลน์ รวม ๆ
แล้วจำนวนที่นั่งเที่ยวบินในภาพรวมน่าจะกลับมาได้ประมาณ 40 %
ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มจะกลับมาได้แล้ว 30 % จากสถานการณ์ปกติปี
2562
อีกทั้งนักท่องเที่ยวเกาหลีที่เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยเป็น
“กลุ่มคุณภาพ” พำนักยาวเฉลี่ย 7.2 วัน/คน/ทริป
ใช้จ่ายเงินในไทยเฉลี่ยเกือบ 50,000 บาท/คน/ทริป
โดยให้ความสนใจสินค้าท่องเที่ยวหลัก
ๆ ของไทย ได้แก่ 1.การท่องเที่ยวเชิงกีฬา
นิยมมาเล่นกอล์ฟ 2.การท่องเที่ยวเชิงอาหาร
ของกลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่ 3.ท่องเที่ยวหรูหราของกลุ่มคู่รัก ฮันนีมูน 4.นักท่องเที่ยวธรรมชาติและผจญภัย
ของกลุ่มผู้หญิงหรือ Lady
รวมทั้งททท.ประเมินผลจากเดินทางไปทำตลาดในเกาหลีครั้งนี้
ซึ่งมี “ไทย แอร์ เอเชียเอ็กซ์” ร่วมเป็นเจ้าภาพสนับสนุนตลอดงาน
ทางผู้บริหารสายการบินยังได้แถลงกับสื่อมวลชนเกาหลีถึงสถานการณ์ปัจจุบัน เปิดบิน
ไป-กลับ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)-กรุงโซล (อินชอน) เกาหลีใต้ 3
เที่ยว/สัปดาห์ เดือนสิงหาคมจะเพิ่มเป็น 4 เที่ยว/สัปดาห์
เดือนตุลาคมนี้พอเข้าสู่ฤดูเดินทางท่องเที่ยว (winter program) เพิ่มเป็น
ทุกวัน ๆ ละ 1 เที่ยว
หรือ 7
เที่ยว/สัปดาห์ ตอกย้ำถึงความต้องการของนักเดินทางมีมากขึ้น
สายการบินต่าง ๆ จึงปรับเพิ่มจำนวนที่นั่งและเที่ยวบินบริการเพิ่มตามไปด้วย
นายธเนศวร์
กล่าวว่า การไปส่งเสริมการขายในเกาหลีครั้งนี้ เป็นความหภูมิใจที่ได้รับโอกาสที่ดีมากจากซีอีโอบริษัทผู้นำการท่องเที่ยวเกาหลี
2 แห่ง
คือ Mrs. Song Mi Sun CEO of Hana Tour กับ Mr. Yu
In Tae CEO of Mode Tour จึงได้เสนอให้ช่วยกระตุ้นการขายตลาดหลักเข้ามาเที่ยวเมืองไทย
4 กลุ่ม คือ 1.นักเล่นกอล์ฟ 2.นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความหรูหรา 3.นักท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลเดินทางฟรี
(Incentive) และ 4.นักท่องเที่ยวกลุ่มเช่าเครื่องบินเหมาลำ (Charter Flight) จะเข้ามาได้ในฤดูเดินทางปลายปี 2565 เป็นต้นไป
กระจายสู่เมืองท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย หัวหิน แล้วขยายพื้นที่มีศักยภาพเมืองรองอื่น
ๆ
ซีอีโอของทั้งสองบริษัทสะท้อนมุมมองว่า
ททท.เป็นตัวแทนไทยประเทศแรกที่เดินทางไปทำการตลาดในเกาหลีภายหลังเปิดประเทศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่
1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา
จึงเห็นแนวโน้มของตลาด
เรื่องที่ 1 นักท่องเที่ยวเกาหลีจะกลับมาเดินทางอีกครั้ง ช่วง 6 เดือนหลังปีนี้ประมาณ
50 % จากนั้นปี 2566 จะเพิ่มเป็น 80
% แล้วปี 2567 ธุรกิจการท่องเที่ยวเกาหลีจะกลับสู่ปกติ
100 % เทียบเท่ากับปี 2562
เรื่องที่ 2 หลังสถานการณ์โควิด-19 พร้อมจะปรับกลยุทธ์มุ่งสู่ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง ทำให้โครงสร้างธุรกิจเล็กลงแต่มีความคล่องตัวมากขึ้น ปรับลุคของบริษัทให้ทันสมัยแนวคนรุ่นใหม่ เปลี่ยนโฉมจากแนวเดิมสไตล์อนุรักษ์นิยม ด้วยการปรับสีสันของธุรกิจในเครือทั้งหมดควบคู่กันไป เนื่องจากกลุ่ม HANA TOUR ได้รับผลกระทบจากมากจากสถานการณ์โควิด-19 กว่า 2 ปีเศษ เพราะเดิมมีโครงสร้างใหญ่เต็มไปด้วยเครือข่ายบริษัทลูกอีกหลาอย่าง ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะบริการนำเที่ยว แต่ยังมีสายการบิน รถรับส่งนักท่องเที่ยว และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เรื่องที่ 3 บริษัทนำเที่ยวแถวหน้าของเกาหลีอย่าง HANA TOUR ยืนยันจะเปลี่ยนเซ็กเมนท์การตลาดใหม่ที่จะกระตุ้นคนเกาหลีเที่ยวเมืองไทยซึ่งตรงกับ ททท. นั่นคือ กลุ่มนักกอล์ฟ กลุ่มครอบครัว กลุ่มคู่รัก/แต่งงาน กลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ กลุ่มทำงานได้ท่องเที่ยวด้วยหรือ Workation
ส่วนความท้าทายของบริษัทผู้นำตลาดท่องเที่ยวเกาหลีได้สะท้อนถึงอุปสรรคที่อาจจะเหมือนกันกับทั่วโลก
นั่นคือ ช่วงการระบาดของโควิด-19 พนักงานออกไปจากระบบกลับสู่ท้องถิ่น
เมื่อถึงเวลาฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจึงต้องดึงคนกลับเข้ามา
แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้เต็มที่ เช่น
การเปิดสายการบินทั้งกัปตันและลูกเรือย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว
จึงเป็นปัญหาสำคัญที่กลับมาเปิดตลาดนำนักท่องเที่ยวกระจายไปยังทั่วโลกได้
จึงต้องเลือก “ประเทศไทย” เป็นจุดหมายปลายทางแรก ๆ
เนื่องจากระยะทางรัศมีการบินไม่ไกลใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมงเศษ
นายธเนศวร์กล่าวว่า แผนส่งเสริมการตลาดต่อไปคือ “ญี่ปุ่น”
ประมาณเดือนกันยายน 2565 ซึ่งเป็นช่วงไตรมาส
3 ต่อไตรมาส
4 จะนำภาคธุรกิจไทยไปร่วมงาน
Travel Expo 2022 หรืองาน
JATA แล้วก็ทำโร้ดโชว์เพิ่มไปยังเมืองหลัก
โตเกียว โอซาก้า ฟูกูโอกะ ตอนนี้มีข่าวดีทางสายการบิน “ไทยเวียตเจ็ท”
เตรียมเปิดบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ฟูกูโอกะ ตั้งแต่กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป
สำหรับตอนนี้ญี่ปุ่นยังคงเปิดให้คนเดินทางต่างประเทศได้แบบมีเงื่อนไข
โดยจะต้องเดินทางกับบริษัทนำเที่ยวตามโปรแกรมที่กำหนดเท่านั้น เมื่อกลับเข้าญี่ปุ่นจะต้องกักตัว
ททท.จึงไม่ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวต้องรออีก 2-3 เดือนข้างหน้านั่นเอง
ขณะเดียวกันทาง
ดร.ยุทธศักดิ์ ผู้ว่าการ ททท.มีนโยบายล่าสุดให้เพิ่มกลยุทธ์การทำ Booster shot รองบประมาณเข้ามาเสริมเพื่อกระตุ้นตลาดเร่งด่วนซึ่งในภาพรวมของฝ่ายตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้
ไม่ได้ห่วงอาเซียนกับทางแปซิฟิกใต้มากนัก โดยมีสถิติปัจจุบันที่น่าสนใจดังนี้
อันดับ 1 “อินเดีย”
จากเอเชียใต้ตอนนี้ทำสถิติเดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทยนำโด่งวันละ 4,000-5,000 คน
ทำให้ภาพรวมนักท่องเที่ยวเมืองไทยเดลี มุมไบ และอีกหลายเมือง
นักท่องเที่ยวสะสมมกราคม-มิถุนายน 2565 เกินกว่า 200,000 คน
ปลายปีนี้ยอดรวมน่าจะทำได้ถึง 1 ล้านคน
อันดับ 2 มาเลเซีย
หลังจากเปิดด่านชายแดนไทยพร้อมกับมีเที่ยวบินของสายการบินกลับมาได้เกินกว่า 50 % ส่งผลดีกับการเพิ่มนักท่องเที่ยวเข้าไทย
อันดับ
3 สิงคโปร์
ภายหลัง ททท.ปลดล็อกการใช้ประโยชน์จาก VTL :Vaccine Travel Lane เรียบร้อยแล้ว
ก็ทำให้มีจำนวนที่นั่งเที่ยวบินเชื่อมโยงสิงคโปร์เข้าไทยทำได้เกินกว่า 50 %
อันดับ
4 ออสเตรเลีย
สำคัญเพราะเป็นประเทศแรกที่ประกาศเปิดให้คนเดินทางมาไทยได้
โดยมีการบินไทยเปิดเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-ซิดนีย์
ด้วยเหตุและปัจจัยข้างต้น
จึงทำให้การขับเคลื่อนตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ยิ่งถ้าในไตรมาส
4 ปีนี้ได้งบประมาณเข้ามาเพิ่มพิเศษก็จะนำไปอัดฉีดกิจกรรมส่งเสริมตลาดการขายกับบริษัทนำเที่ยวกลุ่มผู้นำขนาดใหญ่
นายธเนศวร์ย้ำว่า
ททท.พยายามจะวางกลยุทธ์ฟื้นฟูตลาดใน “เอเชียตะวันออก”
ทั้งหมดกลับมาเที่ยวเมืองไทยให้เร็วและมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น เกาหลี ญี่ปุ่น
สาธารณรัฐประชาชนจีนปี 2565
ยังไม่ยังเข้ามาไทยอย่างแน่นอน คงจะทำได้บางเซกเมนท์เท่านั้นนั่นคือมีนักธุรกิจ
นักศึกษา นักเรียน ที่ได้รับอนุญาตเดินทางได้ตามความจำเป็น แล้วยังมีอีก 2 ประเทศ
คือ ฮ่องกง คงจะต้องเป็นไปตามนโยบายจีน และไต้หวันมีสัญญาณดีขึ้นตามลำดับ
ได้ผ่อนคลายการกักตัวรวมทั้งเอกชนท่องเที่ยวกดดันภาครัฐปลดล็อกต่าง ๆ
ให้ธุรกิจขยับได้ในเร็ววันนี้
ปี
2566
ทางฝ่ายแผน ททท.กำหนดสัดส่วนการทำส่วนแบ่งตลาดโดยให้เอเชียและแปซิฟิกใต้
ต้องนำเข้านักท่องเที่ยวจากแต่ละประเทศมาไทยให้ได้ถึง 62 %
กับทาง ททท.ดูแลตลาดระยะไกล ยุโรป อเมริกา ทำให้ได้ 38 %
เมื่อเร็ว ๆ
นี้ ททท.ได้นำแผนแม่บทการตลาดปี 2566 นำเสนอความเห็นกับเอกชนไทยเพื่อแลกเปลี่ยนซึ่งเห็นตรงกันแล้ว
ซึ่งพร้อมจะเดินทางไปร่วมโร้ดโชว์ เทรดโชว์ ทุกประเทศด้วยกัน
ดังนั้นแผนการตลาดปี
2566 ททท.ตลาดเอเชียและแปซิฟิก
จะต้องนำนักท่องเที่ยวทั้งภูมิภาคกลับมาให้ได้ 80 % ของทั้งหมดในปี
2562 จึงต้องตั้งเป้ากลยุทธ์ใหม่
5 New ประกอบด้วย
1.New Segment เจาะกลุ่มตลาดใหม่
เช่น การท่องเที่ยวเชิงกีฬา การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพองค์รวม หรือ Health & Wellness การท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ
การท่องเที่ยวของกลุ่มดิจิทัล Nomad ดำน้ำ/ปีนเขา การศึกษา คู่รักชาย คอร์ปอเรต
เอ็กเซ็กคูทีฟ
2.New Area พื้นที่ใหม่
ททท.วางกลยุทธ์จะบุกเข้าไปเจาะตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศทั้งในตลาดเก่าพื้นที่ใหม่
เช่น มาเลเซีย จะไปให้ถึงเมืองยะโฮห์ รัฐสลังงอ รอบ ๆ เมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์
หรือตลาดใหม่อย่าง มองโกเลีย อยู่ใกล้ ๆ กับสาธารณรัฐประชาชนจีน ช่วงโควิด-19
มีเดินทางเข้าไทยหลายหมื่นคน
3.New Partner หรือพันธมิตรใหม่
ก็จะมีสายการบินกลุ่มใหม่ ๆ จะเข้ามาทำงานร่วมกับ ททท.เพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
หรือคอมมูนิตี้ อินเซ็นทีฟ คอร์ปอเรต
4.New Infrastructure โครงสร้างพื้นฐานใหม่
ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย พร้อมจะนำเสนอให้นักท่องเที่ยวใช้บริการได้ เช่น
เมื่อจีนเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเดินทางต่างประเทศได้
ก็จะแนะนำให้ใช้รถไฟความเร็วสูงจากจีนตอนใต้ ผ่าน สปป.ลาว สู่อีสานมาไทย
5.New Way
การท่องเที่ยวบนทางเลือกใหม่ เป้าหมายคือ การท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ RT -Responsible Tourism ที่สอดคล้องกับกลุ่มตลาดท่องเที่ยวอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
สร้างเศรษฐกิจชีวภาพหมุนเวียนสีเขียว BCG -Bio Circular Green ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากนักเดินทางกลุ่มมิเลนเนียล
คนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตลาดเป้าหมายก็มี อินเดีย ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง
ไต้หวัน
ข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์พาเหรดสินค้าอโรมาลดใหญ่
35%+5%แถมอีก6สิทธิพิเศษ
คิง
เพาเวอร์ ชวนช้อปผลิตภัณฑ์ผ่อนคลายร่างกาย AROMATHERAPY ลดสูงสุด
35% ลดเพิ่ม 5% ช้อปวันนี้- 30 มิถุนายน
2565
เท่านั้น!ผ่อนคลายให้บ้านขอทุกคนสดชื่นด้วยกลิ่นหอมสุดผ่อนคลายอันเป็นเอกลักษณ์พิเศษ
เมื่อช้อปครบ 4,000 บาท
ลดสูงสุด 35% พิเศษ! ลดเพิ่ม 5%
เมื่อช้อปครบ 6,000 บาท รหัสส่วนลด
FPJUN ช้อปเลยที่ - https://bit.ly/3y9K5GF
รับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ร่วมด้วย คือ 1.ส่งฟรี!
ทั่วประเทศ เมื่อช้อปครบ 699 บาทสุทธิ
2.แบ่งชำระ 0%* นานสูงสุดถึง 10
เดือน 3.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000 บาท 4. ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง (ของแถมมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า)
5. รับเลย! ส่วนลด 200 บาท เมื่อสมัครสมาชิกอออนไลน์
6.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์
เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาทสุทธิ
ข่าวที่ 2 นักช้อปมือใหม่คิงเพาเวอร์เลือกซื้อจุใจโปรโมชั่นและสินค้าคุ้มค่า6อย่าง
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชี้เป้านักช้อปมือใหม่
ช้อปคุ้มจุใจกับโปรโมชั่นและสินค้ามากมาย วันนี้–
30 มิถุนายน 2565
ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา
ภูเก็ตและทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ ที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารีรับสูงสุด 6
ความคุ้มค่า
คุ้มที่
1 รับฟรี! คูปองส่วนลด 1,000
บาท* สำหรับช้อป 5,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ เมื่อลงทะเบียนก่อนช้อป
คุ้มที่
2 รับกะรัตรีวอร์ด
X10* เมื่อช้อปครบ 8,000
บาท (รวมเป็น 800 กะรัต)
คุ้มที่
3 รับเพิ่มพวงกุญแจ
DISNEY 1 ชิ้น* เมื่อมียอดช้อป 2,000
ขึ้นไป (สุทธิ)
คุ้มที่ 4 ซื้อสินค้าด้วย
CASH CARD จุใจ รับ GIFT CARD สูงสุด
7,000 บาท เมื่อซื้อ
CASH CARD 10,000 บาท รับ GIFT CARD 3,000
บาท และซื้อ
CASH CARD 23,000 บาท รับ GIFT CARD 7,000
บาท*
คุ้มที่ 5 นักช้อปมือใหม่ยังไม่เป็นสมาชิก
สมัครสมาชิก รับวงเงินช้อปเพิ่มสูงสุด 18,000
บาท เมื่อสมัครสมาชิก
SCARLET 6,000 บาท รับวงเงินช้อปเพิ่ม 1,500
บาท สมัครสมาชิก
ONYX 60,000 บาท รับวงเงินช้อปเพิ่ม 18,000
บาท
(ยอดเงินจากการสมัครสมาชิกสามารถนำไปซื้อสินค้าได้เต็มจำนวน)
คุ้มที่ 6 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% หรือเลือกผ่อนสบาย 0%
นานสูงสุด 10 เดือน เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด
ข่าวที่ 3 คิงเพาเวอร์พาเหรดแบรนด์ดังรับซัมเมอร์รับความสดใส5เทรนด์มาแรง
คิง
เพาเวอร์ นำสินค้ามาเสนอต้อนรับฤดูร้อน “Summer Trend” เพื่อให้เหล่าแฟชั่นนิสตาได้เตรียมตัวกันไว้รับรองไม่มีตกเทรนด์
1.BRIGHT YELLOW - สีเหลืองสดใสที่กำลังอินเทรนด์สุดๆ การันตีด้วยออร่าพุ่งแรงของ ลิซ่า
แบล็กพิงก์
ที่เฉิดฉายในงานเปิดตัวคอลเลคชั่นเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงและนาฬิกาไฮเอนด์คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์
Bvlgari จนกลายเป็นไวรัลไปทั้งโซเชียลแทบจะในทันที เหล่าแฟชั่นนิสตาตัวจริงต้องห้ามพลาด
อาจเริ่มด้วยชุดเดรสรัดรูป ชุดออกงานในลุคโมโนโครม
หรือจับสีเหลืองแมตช์กับโทนสีอ่อนๆ เช่น เทาเอิร์ธโทน หรือสีพาสเทลอย่างไลแลค
จะให้ลุคที่ดูสดใสได้อย่างมีลูกเล่น
2.SUMMER
SUITING สูทขาวเรียบหรูอาจทำให้ฤดูร้อนนี้ดูเบาสบายมากขึ้น
ด้วยลุคขาวทั้งชุด หรือจับแมตช์กับไอเทมชิ้นอื่นในสไตล์ของคุณ เช่น
เบลเซอร์สีขาวกับกางเกงยีนส์ หรือกางเกงขายาวสีครีมกับเสื้อยืดโปร่งสบาย
ล้วนให้ลุคชิคๆ สมกับฤดูร้อนไม่เบาเลยทีเดียว
3.DOTTY FUN ความสนุกของลายจุดกลับมาเบ่งบานอีกครั้งซัมเมอร์นี้ จะจัดเป็นเดรสทั้งตัว
หรือจับแมตช์กับเบลเซอร์เท่ ๆ ปล่อยให้ลายจุดโผล่แบบวับๆ แวม ๆ ยิ่งดูเก๋มากขึ้น
4.GLAM STRIPES เมื่อมีลายจุดแล้ว ก็ขาดลายทางไม่ได้ เพราะคือลวดลายบ่งบอกถึงความมั่นใจในตัวเอง
ยิ่งหากจับแมตช์กับเดรสคัตเอาต์เก๋ ๆ ที่หยุดไม่อยู่อีกต่อไป
5.MIGHTY MICRO ไมโครสเกิร์ตเอวต่ำ ไอเทมของบรรดาสาวมั่นจัดว่ามาแรงสุด ๆ
ในซัมเมอร์นี้ ดูได้จากคอลเลคชั่นสุดร้อนแรงของแบรนด์ดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Miuccia, Prada, Miu Miu, Dolce & Gabbana, Versace, Bottega
Veneta, Chanel หรือแม้แต่ Emporio Armani ฮอตขนาดนี้คงไม่มีใครกล้าตำหนิความยาวแค่คืบนี้อีกแล้ว
ข่าวที่ 4 ททท.งัดพลังซอฟท์เพาเวอร์8ศิลปินแปลงโฉมท่องเที่ยว5ย่านเก่ากทม.
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ทางผู้บริหารจากองค์กรหลัก
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรุงเทพมหานคร
นำชมงานนิทรรศการแสดงผลงานทางศิลปะ “Amazing
Blooming Bangkok” เบ่งบานกลางกรุง จุดขายทางด้าน Soft Power
ของประเทศไทย นำร่องจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 -26 มิถุนายน 2565 บริเวณย่านเมืองเก่า 8 จุดหลัก ด้วยการนำเสนอสตรีทอาร์ตกรุงเทพมหานคร เพื่อส่งเสริม 3 เรื่องสำคัญ คือ 1.การท่องเที่ยวในประเทศนโยบายรัฐบาลขานรับปีท่องเที่ยวไทย
2.ฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยว 3.กระตุ้นเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนและเติบโตภายใต้สถานการณ์โควิด-19
การจัดนิทรรศการครั้งนี้เป็นการนำร่องทำกิจกรรมทางการตลาดรูปแบบใหม่
โดยกลุ่มงานอำนวยการด้านตลาดในประเทศ ททท.ให้ความสำคัญกับการนำสินค้าทางการท่องเที่ยวเข้ามาสร้างประสบการณ์ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่แผนที่เสมือนจริง
หรือ Visual Mapping สร้างความประทับใจชวนให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพที่ชื่นชอบแล้วเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ผ่านช่องทางต่าง
ๆ
ส่วนจุดเด่นการจัดงาน
“Amazing Blooming Bangkok” เบ่งบานกลางกรุง ณ
ย่านเมืองเก่า กรุงเทพมหานคร ครั้งนี้มุ่งเน้นการนำเสนอผ่าน 8 ชิ้นงาน ของ 5 ศิลปิน ประกอบด้วย
ชิ้นงานแรก
-การสร้างสีสันด้วยภาพ Visual Mapping 1 ชิ้นงาน ชื่อผลงาน Season of Bloom โดยศิลปิน squaredots นักท่องเที่ยวไปชมได้ที่บริเวณป้อมพระสุเมรุ
และมิวเซียมสยาม
ชิ้นงานที่
2 -การสร้างจุดถ่ายรูปจากดอกไม้ประดิษฐ์ ให้สอดคล้องกับทัศนียภาพ 2 ชิ้นงาน ชื่อผลงาน Butterfly effect และ The
happiness circle โดยศิลปิน Rakdok ชมได้ในบริเวณโรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ
และหอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา
ชิ้นงานที่
3 - การสร้างจุดถ่ายรูปด้วยชิ้นงาน Installation
Art บนรถโดยสารประจำทางที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร 1 ชิ้นงาน ชื่อผลงาน The blooming bus บริเวณพิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์
ชิ้นงานที่
4 - จัดสร้างบรรยากาศการนำเสนอระหว่างความเป็นศิลปะแนวใหม่
2 ชิ้นงาน ชื่อผลงาน SEAT A SOUL โดยศิลปินTEAYIIARTWORKS
X RHYTHMTHINKER และผลงาน Flower X-Ray โดยศิลปิน
Rakdok อยู่ในบริเวณมิวเซียมสยาม
ชิ้นงานที่
5 - จัดสร้างบรรยากาศจากการ Printing Art กำแพงและธงแห่งศิลปะ 2 ชิ้นงาน ชื่อผลงาน BOO
In Blooming และ Blossoms the town โดยศิลปิน Akkarapon Munlod (OREOJIMNOM) ชมได้ที่บริเวณสวนสันติปราการชัย
ตลอดงานได้จัดให้มีกิจกรรมไฮไลต์ เช่น ดนตรีในสวนจากวงดนตรีที่มีชื่อเสียงต่าง
ๆ เวิร์คช้อปงานศิลปะ
ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ตอกย้ำถึงกรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งความสร้างสรรค์ สามารถกระตุ้นให้เกิดรายได้หมุนเวียนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอนาคตต่อไป
ข่าวที่
5 “TCEB”ใช้IMEXแฟรงเฟิร์ต2022เปิดแคมเปญโฆษณา+เทรดโกย1.8พันล้าน
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บได้ใช้เวทีงานระดับโลก IMEX Frankfurt 2022 ณ
เมืองแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี เปิดตัวเป็นครั้งแรก Thailand MICE: Meet the Magic แบรนด์ใหม่อุตสาหกรรมไมซ์ประเทศไทยเพื่อใช้สื่อสารกับตลาดต่างประเทศ รวมทั้งได้นำผู้ประกอบการไมซ์ไทย 14 ราย เป็นผู้ประกอบการ
3 หลัก ๆ
เข้าร่วมเจรจาธุรกิจกับคู่ค้านานาชาติ ได้แก่ 1.บริษัทผู้ให้บริการด้านบริหารจัดการการเดินทาง (Destination Management Company - DMC) 5 ราย 2.สถานที่จัดงาน 1 แห่ง และ 3.โรงแรม 8 แห่ง
ทีเส็บได้ลงทุนจัดทำ ไทยแลนด์ พาวิลเลี่ยน ที่ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด
Thailand MICE: Meet the Magic ที่นำเสนอความพร้อมของประเทศไทยด้านต่าง ๆ เช่น
มาตรการด้านสาธารณสุขของไทย แนวปฏิบัติด้านสุขอนามัยสำหรับอุตสาหกรรมไมซ์ (COVID Free Setting) มาตรฐานสถานที่จัดงานในประเทศไทย
(MICE Venue Standard) การจัดงานอย่างยั่งยืน
ศักยภาพเมืองไมซ์ และแพ็กเกจสนับสนุนการจัดงาน
รวมทั้งกานำเอกชนไทยร่วมเจรจาธุรกิจได้ผลตอบรับจากกลุ่มผู้ซื้อ (Buyer) เป็นที่น่าพอใจ คาดการณ์จะเกิดการจัดงานจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย (lead) ได้ถึง 84 งาน
ดึงนักเดินทางไมซ์ต่างชาติเดินทางเข้าประเทศกว่า 28,388 ราย คิดเป็นรายได้ประมาณ 1,873.6 ล้านบาท
อีกทั้งภายในงานมีกิมมิกทำกิจกรรมมอบของที่ระลึก “พวงมาลัยผ้า”
จากชาวบ้านเมืองฮอด จ. เชียงใหม่ นำเสนอถึงประการณ์ตรงกับวิถีท้องถิ่นหรือ Local Experience ผ่านผ้าไทย
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของไทย
และทำให้ได้ใจต่างชาติในงานเป็นจำนวนมาก
ส่วน “IMEX Frankfurt 2022” ระหว่าง 31 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2565 เป็นงานเทรดโชว์พบปะเจรจาธุรกิจทางด้านไมซ์ที่สำคัญในยุโรป
มีผู้ซื้อ (Buyer) ศักยภาพสูงจากทั่วโลกปี 2565 มากกว่า 9,000 คน เป็นผู้ซื้อ (Buyer) นานาชาติ 2,876 ราย จากทั่วโลกกว่า 70 ประเทศ ที่ต้องการมองหาสถานที่จัดประชุม
สัมมนา และวางแผนการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล และมีผู้ขาย (Exhibitor) เข้าร่วมงานจาก 150 ประเทศ
ปี 2565 ทางเจ้าภาพได้ออกแบบการจัดงานแบบปกติ
(Physical
Event) ครั้งแรก นับตั้งแต่ปี
2563 ที่เกิดการระบาดของโควิด
19 ขึ้นทั่วโลก ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของประเทศไทยจะได้สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย
สร้างการรับรู้ว่าตลอด 2 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมไมซ์ไทยได้พัฒนาและยกระดับตัวเองอยู่ตลอด
เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการจัดงานไมซ์ทุกรูปแบบทันทีที่เปิดประเทศ
นายจิรุตถ์กล่าวว่า
การเปิดตัวแบรนด์ใหม่ Thailand MICE:
Meet the Magic เพื่อใช้เป็นแคมเปญโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่นำความโดดเด่นของไทยคือ
ศักยภาพทางวัฒนธรรม อาทิ การบริการ น้ำใจไมตรี ความยืดหยุ่นในการทำงาน
การผสานความร่วมมือ เทศกาลประเพณีไทย อาหาร และศักยภาพความเจริญด้านเศรษฐกิจ อาทิ
ความครบครันของระบบสาธารณูปโภค ระบบโลจิสติกส์ การคมนาคมขนส่ง ที่พัก มาตรฐานระดับสากล มาตรการด้านสุขอนามัยที่ดี
เทคโนโลยีที่ทันสมัย
ซึ่งทีเส็บได้นำมาผนวกหลอมรวมเข้าด้วยกันแล้วนำเสนอให้เห็นเสน่ห์รอบด้านของเมืองไทยที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักเดินทางไมซ์ได้อย่างลงตัว
เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ขับเคลื่อนประเทศไทยในฐานะจุดหมายของการจัดงานไมซ์ให้โดดเด่นในสายตานานาชาติที่จะเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น
ๆ ที่จะนำงานไมซ์เข้ามาจัดในโอกาสต่อไป
ภายในไทยแลนด์ พาเวิลเลี่ยน งาน “IMEX Frankfurt 2022” ยังมีไฮไลต์การลงนามข้อตกลงความร่วมมือจัดงานอย่างยั่งยืน
หรือ IMEX People & Planet Pledge ที่ใช้การออกแบบตามหลักการ 3 R คือ Reduce, Reuse, Recycle ในทุกองค์ประกอบ
และได้การยอมรับในฐานะ Green Booth ด้วย โดยทีเส็บได้นำผ้าจากการตกแต่งงานอีเวนต์อื่น ๆ กลับมาใช้ใหม่
เช่น ผ้าคลุมเก้าอี้ เข็มกลัดติดสูทของผู้ประกอบการไทย
และเลือกใช้โครงสร้างบูธจากวัสดุที่นำกลับมาใช้ซ้ำได้ เช่น
โครงสร้างเหล็กและผ้า
รวมถึงการใช้วัสดุและผู้รับเหมาจากท้องถิ่น เพื่อลดมลพิษและการปล่อยคาร์บอนจากการขนส่ง
ทำให้ไทยแลนด์ พาวิลเลี่ยน สามารถเลี่ยงการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 2.610 ตันคาร์บอน
เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 158 ต้น
ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นของทีเส็บ
ในการผลักดันอุตสาหกรมไมซ์ไทยให้จัดงานอย่างยั่งยืน (Sustainable Event) และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางของการจัดงานไมซ์อย่างยั่งยืนในระดับโลก
ข่าวที่ 6 ปั๊มบางจากSelf Serve"สะดวกประหยัด ปลอดภัยลด30สตางค์/ลิตร
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นำเสนอทางเลือกที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมันด้วยบริการ
แวะปั๊มแบบ Self Serve หรือ
ปั๊มแบบเติมเอง มีให้บริการในหลายๆ พื้นที่แล้ว ใครที่ยังไม่ได้ไปใช้บริการ
ก็ลองเข้าไปใช้ได้เลยนะ เพราะการมาเติมน้ำมันในปั๊มแบบ Self Serve เพื่อนๆ จะได้ส่วนลดทันที 30 สตางค์/ลิตร
สามารถค้นหาปั๊มบางจาก Self Serve ง่าย ๆ ด้วย
แอปพลิเคชั่นบางจาก ตามขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่
1 เข้าไปดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นไว้บนมือถือได้ที่ ทั้งแบบIOS และ Android
=> https://app-store-redirect.firebaseapp.com/bangchak.html และหัวเหว่ย Huawei =>
https://appgallery.huawei.com/#/app/C101684359
ขั้นตอนที่
2 เข้าแอพลิเคชั่น เปิดตำแหน่งปั๊มที่เปิดให้บริการหรือ
location service ซึ่งอยู่ตรงเมนูด้านล่างเลือก ระบุไว้ว่า
"สถานีบริการ"
ขั้นตอนที่
3 ตรงหน้าสถานีบริการ กดปุ่ม 3 ขีด ด้านบนขวา
เพื่อเลือกค้นหา
ขั้นตอนที่
4 กดเข้าไปแล้วจะเห็นหัวข้อต่างๆ เช่น เลือกจังหวัด เลือกอำเภอ เลือกชนิดน้ำมัน เลือกร้านค้าและบริการประเภทของสถานีบริการน้ำมัน
ขั้นตอนที่
5 กดเลือก "ประเภทของสถานีบริการน้ำมัน"
แล้วกดเลือก "สถานีบริการ Self Service"
ขั้นตอนที่
6 ปิดท้ายด้วย การกดปุ่ม "ค้นหา"
เพื่อที่จะได้เลือกแวะปั๊มบางจากได้ตามต้องการ
ช่วงที่ 2 ออกเที่ยวไทยกันเถอะ!! ทริปดี ๆ ตลุยเติมเมนูประสบการณ์ใหม่กับพลังซอฟท์เพาเวอร์
อาหาร ศิลปะ แดนอีสานในงาน “KORAT DAZZING NIGHTS” วันนี้-29 มิ.ย.นี้ ชม ชิม ช้อป ชีล แชร์ ได้ทุกวัน แล้วดูแลตัวเองด่วน “5พฤติกรรมปรับเพื่อทำให้สุขภาพดี” ตามด้วยข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “การบินไทย”
จับเข่าคุยเอเย่นต์ตั๋วเอเชียใต้หวังโกยรายได้ 3 ชาติ
อินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ ข่าวที่สอง “บางกอกแอร์” อัดโปรัตั๋วบินเที่ยวหรูเกาะมัลดีฟส์ยาว
3 เดือน ไป-กลับ เหลือแค่ 16,350 บาท
ท่องเที่ยว
–ตลุยเที่ยวซอฟท์เพาเวอร์เมืองย่าโม“KORAT DAZZLING NIGHTS”
ออกมาเที่ยวเมืองไทยไปชีลได้ในงาน
“KORAT DAZZLING NIGHTS” วันนี้ -29 มิถุนายน 2565 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
สำนักงานนครราชสีมา ชวนกันเปิดประตู...สู่ภาคอีสาน นำนักท่องเที่ยวเดินทางไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของศิลปะจากแสงไฟยามค่ำคืนในเมืองนครราชสีมา
ซึ่งมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นของภาคอีสานด้วยไฮไลต์จากสีและลวดลายของธุง อันหมายถึงการนำไหมพรมมาพันแกนไม้ไผ่แล้วผูกพันกันสามชั้นจนเกิดเป็นรูปหกเหลี่ยม
แล้วเดินลอดอุโมงค์ไฟผ่านแสงไฟระยิบระยับตระการตา ชมการแสดงแสงสี ยามค่ำคืนกลางทุ่งธรรมชาติ อากาศเย็นสบาย ๆ
มางานนี้นักท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์เมนูความสุข ที่จะได้สัมผัสการแสดงเอกลักษณ์อีสานผ่านการใช้สีและลวดลายของธุงใยแมงมุม ชมอุโมงค์แมวสีสวาดประดับไฟ แบบจำลองรังไหมต้นกำเนิดผ้าไหมมัดหมี่โคราช และสามล้อถีบเมืองโคราช พลาดไม่ได้เลยคือการแสดง Mapping ให้เห็นภาพสามมิติสุดอลังการผ่าน Mapping เช่น ภาพความสวยงามของปราสาทหินพิมาย ภาพเครื่องปั้นดินเผาบ้านด่านเกวียณ แมวสีสวาดประตูเมืองจำลอง ณ ART GALLERY & EXHIBITION อำเภอเมือง
วันเสาร์ที่
25 มิถุนายน 2565 สนุกกับ 3 กิจกรรมความสนุกที่มีความหลากหลายทั้งอาหาการกิน
ดนตรี ช้อปปิ้ง ชีลกับการถ่ายรูปมุมเก๋ ๆ เลือกได้สบาย
ๆ
กิจกรรมที่
1 ฟังดนตรีสุดชิลจากศิลปินยอดนิยมแถวหน้าของเมืองไทย
เช่น SEASON FIVE,
NAP A LEAN, No One Else, ว่าน ธนกฤต
กิจกรรมที่
2 สนุกกับกิจกรรมสาธิต
และร่วมประสบการณ์ท่องเที่ยวชุมชนลงมือทำ DIY เครื่องปั้นดินเผากับชุมชนบ้านด่านเกวียณ
เรื่อยไปจนถึงการเพนต์ร่างกายและใบหน้าด้วยสีแปลกตาที่เรียกว่าBody &
Face Painting Glow in the dark
กิจกรรมที่
3 อิ่มอร่อยกับอาหารชื่อดังเมืองโคราชยกขบวนความอร่อยมาให้บริการในโซนขายอาหารและเครื่องดื่มเพื่อป้องกันความปลอดภัยด้านสุขอนามัย
ลองไปชิมของอร่อยจากร้านดังขึ้นชื่ออย่าง
ไก่ย่างนายเมือง เนื้อย่างโคขุนจากขุนโค ป้าติ๋มยำแหนม แปะแป๋งขนมหวาน 30
กันยา ร้านหมี่กระโทกป้าเปลื้อง ไอศครีมกะทิสดสวายเรียง ตุกคุ๋ยขนมครก
ห้ามพลาด
!!
เที่ยวเมืองย่าโมโคราช เติมเมนูความสุขในงาน “KORAT DAZZLING NIGHTS”
แล้วจะหลงรักพลังซอฟท์เพาเวอร์เมืองไทย
สุขภาพ
–ด่วน !!5
นิสัยที่ต้องปรับพฤติกรรมสร้างสุขภาพทำชีวิตดี๊ดี
การมีสุขภาพที่ดีอาจไม่จำเป็นต้องสร้างด้วยพฤติกรรมที่ยิ่งใหญ่
แค่ใช้ชีวิตธรรมดาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราทำจนติดเป็นนิสัยบางอย่างก็สามารถสร้างสุขภาพที่ดีได้
เช่น การดื่มน้ำหลังตื่นนอน หรือการเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน
เพราะสุขภาพที่ดีนั้นเราสามารถสร้างให้เกิดเป็นนิสัยได้
1.
อย่าปล่อยให้ศีรษะรับความเย็น -เมื่อต้องออกนอกบ้านในยามเช้าตรู่ หรือวันที่อากาศเย็น
ให้รักษาความอบอุ่นบนศีรษะ ด้วยการสวมหมวก
หากไม่ให้ความอบอุ่นแก่บริเวณศีรษะในตอนเช้าจะทำให้เกิดโรคจากความเย็นที่มากระทบได้
2.หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่เย็นนานๆ -
การอยู่ในห้องที่มีความเย็นและชื้นในระยะเวลานาน อย่างเช่น
ห้องทึบที่เปิดเครื่องปรับอากาศนานๆ หรือการนั่งในพื้นที่เปียกชื้นเป็นเวลานาน
จะทำให้ได้รับความเย็นชื้นมากเกินไป จึงควรเปิดหน้าต่างให้มีแสงแดดอ่อนๆ
สาดส่องเข้ามาในห้องบ้าง
3.
เปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีที่ชุ่มเหงื่อ
-เมื่อรู้สึกว่าร่างกายชุ่มเหงื่อจนทำให้เสื้อผ้าเปียกชื้น ให้รีบเปลี่ยนชุดทันที
เพราะในสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำ จะส่งผลให้รูขุมขนเปิดกว้าง
ซึ่งเปิดรับโรคจากภายนอกได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่ความชุ่มชื้นจากเหงื่อเท่านั้น
แต่การเปียกชื้นจากละอองน้ำ เช่น เสื้อผ้าที่เปียกฝน
แม้จะเป็นการเปียกชื้นเพียงเล็กน้อยก็ควรเปลี่ยน
4. อย่าสวมเสื้อผ้าที่ตากแดดหมาดๆ -ความเย็นเกินไปทำให้ร่างกายเสี่ยงโรค
ความร้อนก็เช่นกัน ไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่ตากไว้กลางแดดทันที
ควรรอให้ผ้าคลายความร้อนก่อนแล้วค่อยสวมใส่
เพราะเสื้อผ้าที่ผ่านความร้อนจากแสงแดดจัดๆ จะมีพิษร้อนสะสมอยู่ในเนื้อผ้า
5.
หลีกเลี่ยงการเปิดไฟหรือจุดตะเกียงเวลานอน -การเปิดไฟ
ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟจากธรรมชาติ หรือแสงไฟจากหลอดไฟ รวมถึงแสงจากจอต่างๆ
ที่ไม่ได้ปิดให้เรียบร้อย จะรบกวนสภาวะที่ร่างกายเปิดรับพลังงาน
ทำให้มีผลต่อจิตใจขณะนอนหลับ และส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ
ข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–บินไทยถกเอเย่นต์ตั๋วโกยรายได้3ชาติ“อินเดีย-ปากีสถาน-บังคลาเทศ”
นายนนท์ กลินทะ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทำหน้าที่ประธานจัดการประชุมหัวข้อ “THAI Networking : Discover Brand New
Sky” กับตัวแทนขายตั๋วโดยสารตลาดหลักในกลุ่มประเทศเอเชียใต้
3 ประเทศ
ได้แก่ อินเดีย ปากีสถาน และบังคลาเทศ เตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวกำลังกลับมาเดินทางใหม่อีกครั้งและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจกับการท่องเที่ยวของไทย
โดยได้นำเสนอรายละเอียดต่าง ๆ ครอบคลุม 5
เรื่อง ประกอบด้วย
เรื่องที่ 1 Feasible Products and Improved
Services แผนปรับแบบฝูงบินกับเส้นทางบินอย่างเหมาะสมด้านการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าทางอากาศ
(cargo) เพื่อสร้างรายได้และทำกำไรอย่างยั่งยืน โดยมีไทยสมายล์
และสายการบินพันธมิตร Star
Alliance นำข่ายเส้นทางบินมาให้บริการ่วมด้วยทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สถิติเมื่อเดือนเมษายน 2565
มีจำนวนที่นั่งที่เดินทางสูงกว่ามีนาคมกว่า 55%
เรื่องที่ 2 Revenue & inventory management พัฒนาช่องทางการขาย
ผ่านตัวแทนจำหน่ายและออนไลน์ (Online Travel Agent) โดยกำหนดราคาตั๋วอย่างคุ้มค่าและแข่งขันได้ มีเงื่อนไขการขายตั๋วง่ายและหลากหลายมากขึ้น
เรื่องที่ 3 Cargo Revenue Lead เพิ่มส่วนแบ่งในธุรกิจคาร์โก้ ร่วมมือกับพันธมิตร
รายได้เติบโตอต่อเนื่องเมื่อมีนาคม 2565 มีรายได้สูงกว่าช่วงเดียวกับปีก่อน
เรื่องที่ 4 Cost Efficiency Distribution
Channels เพิ่มประสิทธิภาพการขายและการหารายได้
เน้นเส้นทางบินที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างผลกำไรสูงสุด
และวางกลยุทธ์ในการขาย นอกเหนือจากเส้นทางบินตรงสู่กรุงเทพฯ
ยังเน้นการขายกลุ่มผู้โดยสารเดินทางข้ามภูมิภาค
โดยใช้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางต่อเครื่อง เชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค อาทิ
จากออสเตรเลีย เอเชียตอนเหนือและตอนใต้ รวมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยไทยสมายล์
บินสู่ทวีปยุโรปและเอเชียตะวันตก
ตามตารางการบินฤดูร้อนปี 2565 การบินไทยบิน 34 เส้นทาง ล่าสุดเพิ่มอีก 2 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ - เดนปาซาร์
เมื่อ 1 พฤษภาคม 2565 เส้นทางใหม่ กรุงเทพฯ - เจดดาห์ ซาอุดิอาระเบีย
เริ่ม 19 สิงหาคม 2565
เรื่องที่ 5 Customer & Marketing กลยุทธ์ลูกค้าและการตลาด
3 ส่วน ได้แก่ 1.ปรับปรุงการให้บริการ
โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ
2.มุ่งเน้นการตลาดดิจิทัล
เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของลูกค้าเข้าถึงบริการการบินไทยผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันได้สะดวกขึ้น
ล่าสุดการบินไทยเพิ่มทางเลือกใหม่ให้ลูกค้าด้วยบริการ TG Chatbot ผ่านชื่อ “MAI” (M-Management A-Assistant
I-Information) เป็นระบบตอบข้อความอัตโนมัติบนเว็บไซต์และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
3.การบินไทยรับมอบฝูงบินโบอิ้ง 777-300ER ใหม่ 3 ลำ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถฝูงบินและตลาดที่กำลังจะฟื้นตัวต่อเนื่อง
พร้อมยกระดับบริการชั้นหนึ่ง หรือ Royal First Class เครื่องบินลำตัวกว้าง มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ประหยัดเชื้อเพลิง เป็นมิตรต่อ
ข่าวที่สอง -“บางกอกแอร์”อัดโปรตั๋วเที่ยวมัลดีฟส์3เดือนฮ็อตสุด ๆ 1.6หมื่นบาท/คน
บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
เจ้าของ บางกอกแอร์เวย์ส รารงานว่า จัดโปรโมชันตั๋วโดยสารเครื่องบินราคาพิเศษ
ไป-กลับ กรุงเทพฯ – มัลดีฟส์ ราคาเริ่มต้นเพียงคนละ 16,350
บาท โดยได้รวมภาษีเรียบร้อยแล้ว โดยเพิ่มสิทธิประโยชน์ เช่น ฟรีน้ำหนักสัมภาระกระเป๋า
20 กิโลกรัม
บริการอาหารว่างและเครื่องดื่มก่อนขึ้นเครื่องที่บูทีคเลาจน์
ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ และบริการอาหารบนเที่ยวบิน
ซื้อตั๋วบินมัลดีฟส์ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2565 แล้วนำไปใช้เดินทางได้ตั้งแต่ 13
กรกฎาคม - 31
ตุลาคม 2565
ขณะนี้บางกอกแอร์เวย์ส
มีบริการเที่ยวบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ – มัลดีฟส์
4 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์
อาทิตย์) โดยฝูงบินแอร์บัส เอ 319
ประกอบด้วยเที่ยวบิน PG711 ออกจากสุวรรณภูมิ 09.20 น.
ถึงสนามบินนานาชาติมาเล่ เกาะมัลดีฟส์ 11.45 น.
และเที่ยวบิน PG712 ออกจากมาเล่ มัลดีฟส์ 12.45 น.
ถึงสุวรรณภูมิ 19.30 น.
สำรองที่นั่ง
และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร
1771 หรือ โทร 02-270-6699 เวลา 08.00 น.
- 20.00 น. PG Live Chat: https://bit.ly/3hXocjG
และสำนักงานบางกอกแอร์เวย์ส https://www.bangkokair.com/our-offices
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น