ททท.กระหน่ำขายเที่ยวตะวันออกปี’66ปั๊มเศรษฐกิจ1.1แสนล้าน
งัด4โปรเจกต์จับคู่อินเตอร์4ชาติ-ในประเทศ8จว.-บูมวิจิตรบูรพา
ปั้นโมเดล“ท่องเที่ยวยั่งยืนภาคตะวันออก”เกาะต้นแบบโลว์คาร์บอน
คิงเพาเวอร์รับหน้าร้อนปลุกซื้อCashCardรับGiftCardสูงสุด6พัน
เปิดแล้ว!!ทุกวันคิงเพาเวอร์ศรีวารี-สมาชิกบัตรใช้บันยันทรีลด30%
ททท.ดึงแอร์ไลน์9Airนำกรุ๊ปจีนคุณภาพ8พันหยวนทัวร์ภูเก็ต/พังงา
บางจากนำมูลนิธิใบไม้ปันสุขแจกรางวัลต้นแบบเด็กจิ๋วสู่เด็กแจ๋ว
TCEBปลื้มปี66Affiliates World Asiaจัดในไทยย้ำเมืองดิจิทัลไมซ์
ทัวร์บุรีรัมย์5พิกัด“ขึ้นเขาพนมรุ้ง/ตีผึ้ง/ภูเขาไฟ/เสาหิน/นกกะเรียน
Superfood ! 7กลุ่มอาหารบำรุงหัวใจ/หลอดเลือด/ลดไขมันเลว
รมว.พิพัฒน์ผุดแผน“ลันตา-ลังกาวี”เปิดใหม่ด่านศาลาด่าน-เฟอรี่
“UTA-ทร.”เปิดสมาร์ตซิตี้เฟส1ทุ่ม400ล้านดันเมืองการบินอู่ตะเภา
วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #TCEB #บางจาก #ทททตะวันออก #เที่ยวบุรีรัมย์5พิกัด #พนมรุ้งพระอาทิตย์ขึ้น15ช่อง
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/jmiXs-eOg6/
ช่วงที่
1 ผ่าแผนท่องเที่ยวกับ
“อัครวิชย์ เทพาสิต” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระตุ้น 9 จังหวัด 6 สำนักงานปั๊มรายได้ 1.1
แสนล้าน
ชูธงปี’66 รุกปั้นภาคตะวันออกเป็น
“จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืน” พร้อมขานรับตลาดในประเทศ 4 โปรเจกต์ ไฮไลต์ Local
to Global จับคู่ไทยกับตลาดอินเตอร์
“ชลบุรี-ซาอุ/ระยอง-เกาะเจจู เกาหลีใต้ /ตราด-ญี่ปุ่น2จังหวัดโลว์คาร์บอน ส่วน D
to D ในประเทศผนึก
4 คู่ 8 จังหวัด เน้นภาคกลาง กับอีสาน
ฮือฮาโปรเจกต์
“วิจิตรบูรพา” พ.ค.นี้ เนรมิตหาดระยองเปิดยิ่งใหญ่เที่ยว
แสงสีเสียงเมืองชายทะเล Amazing Twilight in Thailand @ The East
นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ปี 2566 ภาคตะวันออกได้รับเป้าหมายให้นำนักท่องเที่ยวเข้าไปยังพื้นที่ 9 จังหวัด ด้วยการทุ่มเทของ ททท.6 สำนักงาน ร่วมมือกันทำยอดผู้เยี่ยมเยือนให้ได้ 16 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 11 % สร้างรายได้ 1.1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 10 % จะต้องเพิ่มวันพำนักเฉลี่ยให้มากว่า 2 วัน/คน/ทริป จะเน้นเจาะจำนวนและรายได้จากตลาดเป้าหมาย กลุ่มแรก “ครอบครัว” ทางผู้ประกอบการโรงแรมปรับตัวเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกห้องพักมีห้องบริการสำหรับเด็ก ๆ สวนน้ำ
กลุ่มสอง คอร์ปอเรต/บริษัท องค์กรขนาดใหญ่ ที่จะช่วยขยายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน STGs :Sustainable Tourism Goals ตามนโยบายหลักของผู้ว่าการ ซึ่งเมื่อเดือนธันวาคม 2565 ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกได้ประกาศเดินหน้าเป็นผู้นำ Eastern Thailand The Destination for Sustainable Tourism จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ขณะนี้วางกลยุทธ์กระตุ้นการท่องเที่ยวเข้าสู่ภาคตะวันออกต้อนรับซัมเมอร์ซึ่งเป็นฤดูทองในการทำรายได้ของผู้ประกอบการทั้งภาคด้วยจุดขาย
1.“สบ๊าย
สบาย สายชีล” ท่องเที่ยวทางทะเล 2.สบ๊าย...สบาย สายกิน”
เป็นเมืองสวนผลไม้และอาหารทะเลพร้อมเสิร์ฟ ตอบโจทย์ปิดเทอมตลาดหลัก ๆ
ในประเทศทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ครอบครัว โดยมี ททท.ในภาคตะวันออก 9 จังหวัด
6 สำนักงาน
จะมีแคมเปญทยอยออกมาเป็นระยะ ๆ ไม่ว่าจะเป็น ชวนกิน ชวนพัก แล้วรับของที่ระลึก
คูปองส่วนลดท็อปอัพ สร้างมูลค่าเพิ่มเชิญชวนนักท่องเที่ยวไปทำกิจกรรมตัวอย่าง
ดำน้ำ เล่นกอล์ฟ ทำสปา
สำหรับท่องเที่ยวสวนผลไม้ เมษายน-มิถุนายน 2566 นักท่องเที่ยวกลุ่มทุเรียนเลิฟเวอร์ ไปทางจันทบุรี ระยอง ตราด กับ นครนายก ปราจีนบุรี ได้กระจายทั่วตะวันออกที่นักท่องเที่ยวหลากหลายกลุ่มโดยเฉพาะ Active Senior วางแผนจองโปรแกรมท่องเที่ยวไว้แล้ว รวมทั้งคาราวานบิ๊กไบค์ อีวีหรือรถยนต์ระบบไฟฟ้า ก็จะมากันอย่างคับคั่ง
นายอัครวิชย์ กล่าวว่า ได้วางกลยุทธ์ขายรองรับนโยบายตลาดในประเทศ โครงการที่ 1 Soft Power Tourism Booster Shot ช่วงซัมเมอร์นี้จะนำโครงการหลักเรื่อง F1 -Foodหรืออาหารจะทำต่อเนื่องไปถึงปี 2567 ทั้งอาหารทะเล อาหารถิ่น ตามด้วยอาหารเมนูพระรอง ผลไม้ ซึ่งจะได้อรรถรสแปลกแตกต่างจากเดิม และรสชาติถูกปากมากขึ้น F2-Film จะร่วมกับสหมงคลฟิล์มผลิตภาพยนตร์เกี่ยวกับการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวนำเสนอเพื่อเจาะกลุ่มซีรีย์วาย และฟินอย่างแน่นอน
โครงการที่ 2 The Link Local to Global จะแบ่งเป็น
2 ส่วน
คือ
ส่วนแรก Local to Global เชื่อมโยงเครือข่ายกับต่างประเทศ ขณะนี้มีตลาดกลุ่มเป้าหมายกับต่างประเทศ เริ่มจับคู่เป็นพันธมิตรดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ 3 คู่ ได้แก่ 1.ชลบุรี-ซาอุดิอาระเบีย 2.ระยอง-หอการค้าเกาะเซจู เกาหลีใต้ เริ่มด้วยนำนักกอล์ฟชาวเกาหลีเดินทางเข้ามาในพื้นที่ซึ่งมีนิคมอุตสาหกรรมรวมอยู่ด้วย 3.เกาะหมาก จ.ตราด -จังหวัดโอสึ และจังหวัดฮากาเนะ ญี่ปุ่น ซึ่งพันธมิตรทั้งคู่ได้รับรางวัล The First Destination Low Carbon แหล่งท่องเที่ยวที่มีระบบการจัดการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ
ส่วนที่สอง D to D หรือ Domestic to Domestic เชื่อมโยงเครือข่ายกันเองในประเทศ
มีหลากหลายจังหวัดทั่วประเทศเดินทางเข้ามาโดยเฉพาะเป็นพื้นที่ยอดนิยมของภาคอีสาน
จึงได้นำร่องระหว่างกัน 4
คู่ 8 จังหวัด
ได้แก่ 1.ชลบุรี-อุดรธานี 2.ตราด-น่าน
ทำเรื่องจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวโลว์คาร์บอน และกรีนเดสติเนชั่น 3.จันทบุรี-อุบลราชธานีและนครราชสีมา
4.ระยอง-พระนครศรีอยุธยา
5.นครนายก-สมุทรสงคราม
โครงการที่ 3 Workation 100 เดียวเที่ยวได้ ทาง ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกเป็นโปรเจกต์เมเนเจอร์โครงการนี้ได้รุกส่งเสริมการขายร่วมกับเอกชนทำแคมเปญกระตุ้น
“เที่ยววันธรรมดา” ปี 2566
วางแผน จะเจาะคอร์ปอเรต ทั้ง องค์การปกครองท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ เน้นภาคกลาง
กับภาคอีสาน จะส่งเมนูการศึกษาเรียนรู้ดูงาน
เพื่อเลือกมาทำงานพร้อมกับพักผ่อนไปได้ด้วย
โครงการ 4 วิจิตร
5 ภาค
ภาคตะวันออกเลือก “จังหวัดระยอง” เพราะสามารถตอบโจทย์ในชื่อ “วิจิตรบูรพา”
จะจัดทั้งหมด 9 วัน
ช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 นำเสนอการโชว์แสง
สี เสียง ริมชายหาดระยอง เนรมิตโลกใต้ทะเลมาไว้ริมหาด
เลือกทำเลแห่งนี้เพราะประชากรที่อาศัยอยู่มีศักยภาพสูง มีคนต่างถิ่นไปทำงานในนิคมอุตสาหกรรมค่อนข้างสูงมาก
นอกจากจะเที่ยววันหยุดเสาร์-อาทิตย์แล้ว ยังเพิ่มเที่ยววันธรรมดา จันทร์-ศุกร์
และกลางวันทัวร์สวนผลไม้ เยี่ยมชมใช้เงิน
ต่อด้วยกลางคืนชมแสงสีเสียงวิจิตรบูรพาได้อย่างคุ้มค่า
สำหรับ
“วิจิตรบูรพา” ททท.ภาคตะวันออก กำลังเสนอทำโปรเจกต์ Amazing Twilight in Thailand @ The
East เป็นเรื่องของกิจกรรมทั้งหมดที่จะขึ้นทุกจังหวัดในตะวันออกภาคยามเย็นจึงจะใช้ชื่อไทยว่า
“สนธยา มาหาสนุก” อยู่ในขั้นตอนการขออนุมัติการสนับสนุนจากผู้บริหาร ททท.
นายอัครวิชย์กล่าวว่า
มีม็อตโต้จะชวนคนส่วนใหญ่ในประเทศ คิดอะไรไม่ออก
ขอให้คิดถึงการมาท่องเที่ยวภาคตะวันออก ซึ่งมีทั้งความสะดวก ความสนุก ความปลอดภัย
ทุกการเดินทางได้ 365 มหัศจรรย์เมืองไทย
เที่ยวได้ทุกวัน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์จัดทัพรับหน้าร้อนซื้อCashCardรับGiftCardสูงสุด6พัน
คิง เพาเวอร์
จัดทัพสินค้ารับ “หน้าร้อนนี้” มีทริปในฝันแล้วต้องห้ามพลาดช้อปดิวตี้ ฟรี
ก่อนออกเดินทางกับโปรโมชั่น “หยุดทุกความร้อน” วันนี้- 31 มีนาคม 2566 ที่ร้านค้าดิวตี้ฟรีในเมือง คิง
เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา ภูเก็ต และ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี ช้อปโปรฮ็อต !! ซื้อ CASH CARD รับ GIFT CARD สูงสุด 6,000 บาท
1.ซื้อ CASH CARD 10,000 บาท รับฟรี! GIFT CARD
1,500 บาท
2.ซื้อ CASH CARD 30,000 บาท รับฟรี! GIFT CARD
6,000 บาท
เมื่อรับGift
Card แล้ว จะใช้ได้วันที่ 31 มีนาคม 2566
นำไปใช้ซื้อสินค้า Duty Free เท่านั้น ไม่สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดสมาชิก
คิง เพาเวอร์ กรณี Gift Card สูญหาย บริษัทฯ
ขอสงวนสิทธิ์ไม่ออก Gift Card ใหม่ทุกกร บริษัทฯ
ขอสงวนสิทธิ์ในการนำ Gift Card ไปจำหน่ายต่อเพื่อการพาณิชย์
ข่าวที่
2 เปิดแล้ว!!ทุกวันคิงเพาเวอร์ศรีวารี-สมาชิกบัตรใช้บันยันทรีลด30%
นักช้อปรับได้เลย เมื่อ “คิง เพาเวอร์ ศรีวารี”
ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ
กลับมาเปิดบริการเต็มรูปแบบทุกวันแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เวลา 10.30 – 20.30 น.พบกับหลากหลายแบรนด์แฟชั่น
เครื่องสำอาง นาฬิกาลักซ์ชัวรี ละลานตาไปกับสินค้าแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากมาย
ส่วนสมาชิกบัตร คิง เพาเวอร์ ทุกประเภท
รับส่วนลดสูงสุด 30 % ทั้งค่าอาหารและแพ็กเกจสปาทรีตเมนต์ที่ บันยันทรี กรุงเทพฯ สมาชิก VEGA CROWN ONYX SCARLET และ NAVY รับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้– 30 ธันวาคม 2566
โดยกดรับ Promo Code ผ่านทาง LINE Official Account หรือ kingpower.com แล้วก่อนใช้บริการต้องแสดงสถานะสมาชิกกับทางเจ้าหน้าที่บันยันทรีด้วย
ซึ่งสามารถสำรองสิทธิ์รับบริการได้
ดังนี้
1.จองรับประทานอาหารจำนวนสูงสุดโต๊ะละ 10 คน/
การจอง) เพื่อใช้บริการSAFFRON CRUISE และ VERTIGO TOO 2.บันยันทรี
สปา สาขากรุงเทพฯ ทำทรีตเมนต์สุขภาพได้ทุกแพกเกจ ยกเว้นนวดหน้า
การจองสิทธิ์เพื่อสำรองหรือยกเลิกต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน
ส่วนลดทั้งหมดใช้ร่วมกับโปรโมชั่นอื่น ๆ
ของทางร้านไม่ได้ กรณีที่กดรหัสแล้วไม่ได้นำมาใช้สิทธิ์เท่ากับสละสิทธิ์
และงดจองสิทธิ์ช่วงวันหยุดตามประเพณี
หรือ เทศกาลสำคัญ เช่น วันลอยกระทง คริสต์มาสปีใหม่
แนะนำให้โทรสอบถามการใช้สิทธิ์ก่อนเข้ารับบริการทุกครั้งได้ที่โทร.
02-679-1200
ข่าวที่ 3 ททท.ดึงแอร์ไลน์9Airนำกรุ๊ปจีนคุณภาพทัวร์ภูเก็ต/พังงา
นายเลิศชาย หวังตระกูลดี ผู้อำนวยการ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับจังหวัดภูเก็ตและผู้ประกอบการท่องเที่ยวพันธมิตรต้อนรับสายการบินไนน์แอร์
9Airเที่ยวบินปฐมฤกษ์ AQ1201 เริ่มให้บริการบินตรงจากเมืองกุ้ยหยาง
สาธารณรัฐประชาชนจีน มายังสนามบินนานาชาติภูเก็ต ทางผู้บริหาร ผู้แทน ททท.
สำนักงานภูเก็ต องค์การบริหารส่วนจังหวัด ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต
และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ให้การต้อนรับและมอบของที่ระลึกให้คณะนักท่องเที่ยวเดินทางมาเมื่อ
14 มีนาคม 2566 เกือบเต็มลำ 172
คน
ทางไนน์แอร์/9Air ลงทุนเปิดเที่ยวบินแบบประจำ ไป-กลับ
กุ้ยหยาง-ภูเก็ต สัปดาห์ละ 3 เที่ยว บินทุกวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันเสาร์
ด้วยเครื่องบินขนาดลำละ 180 ที่นั่ง ส่วนเที่ยวปฐมฤกษ์ AQ1201 ทางททท.สำนักงานคุนหมิง นำทีมจัดกิจกรรมกระตุ้นและส่งเสริมการตลาดร่วมกับบริษัทนำเที่ยวพันธมิตร
5 ราย ผลิตแพ็กเกจทัวร์เสนอขายราคาประมาณคนละ 4,000 - 8,000 หยวน สามารถดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวจีนแห่ซื้อเดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ตและพังงาเกือบเต็มลำ
172 คน เป็นท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ (GIT)
168 คน และนักท่องเที่ยวอิสระเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) 4
คน โดยมีวันพักเฉลี่ยประมาณ 5-6 วัน
สถิตินักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวไทยตั้งแต่วันที่
1 มกราคม - กุมภาพันธ์ 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 246,551 คน ททท.คาดช่วงไตรมาสแรก ระหว่ามกราคม-มีนาคม 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาไทย
มากกว่า 300,000 คน นักท่องเที่ยวจะเติบโตแบบอค่อยเป็นค่อยไปสะท้อนสัญญาณที่ดีจะมีจีนมาท่องเที่ยวต่อเนื่องตลอดปี
เป็นแรงผลักดันทำให้ทำได้ตามเป้าหมายปีนี้จะจีนเข้ามาไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน
นายเลิศชาย กล่าว่า ททท.
สำนักงานคุนหมิง และ สายการบิน 9 Air ร่วมมือกันผลักดันเที่ยวบินบินตรงจากเมืองกุ้ยหยางเดินทางมาภูเก็ตภายหลังวิกฤตโควิด-19
ที่ผ่านมา
และหลังจากกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนออกประกาศให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ตั้งแต่
9 มกราคม 2566 เป็นต้นมา พร้อมกับอนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวจัดกรุ๊ปทัวร์นำนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเที่ยวต่างประเทศได้
นำร่อง 20 ประเทศ โดยมีไทยรวมอยู่ด้วย
สำหรับการกลับมาของสายการบินจากสาธารณรัฐประชาชนจีน
(Flight Resumption) ตลาดท่องเที่ยวระยะใกล้ ถือเป็นสัญญาณบวกมีนัยยะสำคัญกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง
ซึ่งมีจีนเป็นนักท่องเที่ยวหลักทั้ง นักเรียน นักธุรกิจ
และนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ที่นิยมเดินทางด้วยตนเองใช้จ่ายเงินสูง ด้วยจุดขายของภูเก็ตมีเอกลักษณ์โดดเด่นของแหล่งท่องเที่ยว
สินค้าบริการ กิจกรรมทางการท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก ชายทะเล อาหารขึ้นชื่อ จึงสามารถดึงดูดและสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวจีนเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ต้นปี
2566
ข่าวที่
4 บางจากนำมูลนิธิใบไม้ปันสุขแจกรางวัลต้นแบบเด็กจิ๋วสู่เด็กแจ๋ว
นางกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่
สายงานสื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อความยั่งยืน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด
(มหาชน) และกรรมการมูลนิธิใบไม้ปันสุข เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มอบ “รางวัลต้นแบบในโครงการอ่านเขียนเรียนสนุก
ปั้นเด็กจิ๋วเป็นเด็กแจ๋ว ประจำปี 2565”
เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับโรงเรียนและคุณครูที่ร่วมโครงการอ่านเขียนเรียนสนุก
ปั้นเด็กจิ๋วเป็นเด็กแจ๋ว ในปี 2566 รางวัลประกอบด้วย
1.รางวัล “โรงเรียนต้นแบบ” จำนวน 1 รางวัล มอบให้แก่โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัด
บ้านจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีว่าที่ รต.หญิงณัฐจิตกานต์
จันทร์โอพาส เป็นผู้รับมอบรางวัล
2.รางวัล “คุณครู ป. 1 ต้นแบบ” จำนวน 2 รางวัลมอบให้แก่ คุณครูพิมพ์นิภา
คำจิ่ง โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัด บ้านจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
และ คุณครูอรพินท์ บุตรงาม โรงเรียนวัดโตนดเตี้ย อำเภออุทัย
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยมีอาจารย์ในดวงตา ปทุมสูติ
วิทยากรประจำโครงการ เป็นผู้แทนมูลนิธิฯ มอบรางวัลโรงเรียนต้นแบบและคุณครูต้นแบบ
ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
มูลนิธิฯ ได้พิจารณามอบรางวัลต้นแบบในโครงการอ่านเขียนเรียนสนุก
ปั้นเด็กจิ๋วเป็นเด็กแจ๋ว
เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับโรงเรียนและครูที่ร่วมโครงการกว่า 200 โรงเรียนทั่วประเทศ
โดยพิจารณาจากความมุ่งมั่นทุ่มเทในการดำเนินการสอนเพื่อให้นักเรียนมีความสุขกับการเรียนหนังสือ
ภายใต้แนวทางบันไดทักษะ 4
ขั้นของทุ่งสักอาศรมโดย ผศ. ศิวกานท์
ปทุมสูติ และอาจารย์ในดวงตา ปทุมสูติ เพื่อแก้ปัญหาการอ่านไม่ออก
เขียนไม่ได้ตั้งแต่ปฐมวัย เพราะการอ่านหนังสือได้เป็นกระดุมเม็ดแรกแห่งการเรียนรู้
อันเป็นหัวใจสำคัญต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ข่าวที่
5 TCEBปลื้มปี66Affiliates World Asiaจัดในไทยย้ำเมืองดิจิทัลไมซ์
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า
ไทยได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดงาน AWA : Affiliates World Asia ระหว่างวันที่ 7-8 ธันวาคม 2566 ซึ่งจะช่วยตอกย้ำประเทศไทยคือจุดหมายการจัดงานประชุมนานาชาติ
ปี 2566 ได้จัดต่อเนื่องจากปี 2565 ระหว่าง 30 พฤศจิกายน-1
ธันวาคม 2565 มีผู้เข้าร่วมงานทั่วโลกมากถึง 5,104 ราย บริษัท 2,275 รายจาก 116
ประเทศ
สำหรับ
AWA - Affiliates World Asia เป็นงานประชุมชั้นนำระดับโลกของนักการตลาดและนักธุรกิจสายอีคอมเมอร์ซ
จัดครั้งแรกเมื่อปี 2558 เป็นการประชุม การตลาดแบบช่วยขายในสื่อออนไลน์ หรือ affiliate
marketing โดยมีผู้เข้าร่วมงานมากที่สุด
เนื่องจากเป็นเวทีเปิดให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับฟังข้อมูลเชิงลึก กลยุทธ์ทางการตลาด affiliate
และกรณีศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญแถวหน้าของโลก
ภายในงานแต่ละปีจะจัดให้มี
2 กิจกรรมหลัก ได้แก่ กิจกรรมที่ 1 จัดช่วงเวลาเจรจาธุรกิจ กิจกรรมที่ 2 พบปะและสร้างเครือข่ายกับบริษัท
affiliate และร่วมพูดคุยกับนักการตลาดอีคอมเมิร์ซชั้นนำระดับโลก
ปี 2566ผู้จัดงาน AWA ได้เลือกไทยเป็นสถานที่จัดงานมาแล้วหลายครั้ง
สะท้อนถึงความสำเร็จของไทยในการเป็นเป้าหมายการจัดงานประชุมนานาชาติ และกรุงเทพฯ
มีศักยภาพความพร้อมเรื่องเมืองเจ้าภาพจัดงานประชุมด้านการตลาดและดิจิทัลของไมซ์ทั่วโลก
ช่วงที่ 2 เที่ยวอีสานรับซัมเมอร์ที่ “บุรีรัมย์”
ตื่นตากับงานประเพณีแห่งปี ขึ้นเขาพนมรุ้งดูพระอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่องประตู ชมงานตีผึ้งร้อยรัง เทศกาลภูเขาไฟสงกรานต์ ประติมากรรมเสาหินบะซอลท์
และศูนย์เรียนรู้นกกะเรียนพันธุ์ไทย แล้วฟัง “Superfood 7กลุ่มอาหาร”
ป้องกันโรคหัวใจ ข่าวท้ายชั่วโมงต้องเกาะติด ข่าวแรก “พิพัฒน์ รัชกิจประการ”
รมว.ท่องเที่ยวผุดแผนเที่ยว2เกาะ
“ลันตา/ไทย-ลังกาวี/มาเลเซีย” เปิดใหม่ด่านศาลาด่านและท่าเรือเฟอรี่ ข่าวที่สอง “UTAผนึกทร.” เปิดแล้วสมาร์ตซิตี้เฟส1ทุ่ม 400 ล้านดันเมืองการบินอู่ตะเภา
ท่องเที่ยว-ทัวร์บุรีรัมย์5พิกัด“ขึ้นเขาพนมรุ้ง/ตีผึ้ง/ภูเขาไฟ/เสาหิน/นกกะเรียน
ร้อนนี้
อีสาน รอต้อนรับสายมู สายธรรม ด้วยไฮไลต์งานประเพณีแห่งปี เช็คอินได้ที่
“บุรีรัมย์” 5 พิกัด งานขึ้นเขา “อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง”
ชมมหัศจรรย์แสงอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่อง “งานตีผึ้งร้อยรัง” 15 ค่ำ เดือน 5 “เทศกาลภูเขาไฟ” ช่วงสงกรานต์ “มหัศจรรย์ประติมากรรม
“เสาหินบะซอลล์” และ “ศูนย์เรียนรู้นกกระเรียนพันธุ์ไทย”
ตลุยเที่ยวได้ตลอดเมษายนี้
พิกัดที่
1 อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
งานขึ้นเขาพนมรุ้ง ประจำปี 2566 วันที่ 31 มีนาคม - 2 เมษายน 2566
อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมพิธีบวงสรวงพระศิวะมหาเทพ ชิม ชอป สินค้าวิถีถิ่น
"ตลาดอารยธรรมวนัมรุง” ร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์เปิดงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง ซึ่งจะจัดขบวนแห่เทพผู้พิทักษ์ประจำทิศทั้ง
10 ขบวนเสด็จพระนางภูปตินทรลักษมีเทวี ตื่นตากับการแสดงแสงแห่งศรัทธาปราสาทพนมรุ้ง
และขบวนแห่สักการะ “น้อมจิตบังคมพนมรุ้งนาฏการ”
นักท่องเที่ยวสามารถรับชมปรากฏการณ์พระอาทิตย์ขึ้นตรง
15 ช่องประตู บริเวณลานหน้าปราสาททิศตะวันออก อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งครั้งที่ 2 วันที่ 3-5 เมษายน เวลาประมาณ 06.03 น. จากนั้นจะต้องครั้งที่ 3
พระอาทิตย์ขึ้น วันที่ 8-10 กันยายน เวลาประมาณ 05.57 น. และครั้งที่ 4
พระอาทิตย์ตก วันที่ 5-7 ตุลาคม เวลาประมาณ 17.55 น.
พิกัดที่
2 เที่ยวงานประเพณีตีผึ้งร้อยรัง ขึ้น 15 ค่ำเดือน 5 วันที่ 3-5 เมษายน 2566 บ้านสายตรีพัฒนา 3 (ผึ้งร้อยรัง)
ตำบลบึงเจริญ อำเภอบ้านกรวด สัมผัสวิถีสืบสานตำนานประเพณีตีผึ้งร้อยรัง ชมนิทรรศการ พร้อมการแสดงขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์รางวัลชนะเลิศเหรียญทองระดับประเทศจากโรงเรียนนิคมสร้างตนเอง
สินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน การประกวดธิดาผึ้งร้อยรังจำแลง การแสดงดนตรี ศิลปิน เท่ห์
มรกต แชมป์สงครามไมค์นครพนม พิธีบวงสรวงศาลพ่อปู่บุญมา ชมชุดรำบวงสรวง ชุดรำตีผึ้ง
การขึ้นตีผึ้งร้อยรัง/จำหน่ายน้ำผึ้ง การแสดงดนตรี ศิลปิน "จิ๋ว The
Voice All Star 2022" โทร. 08 7874 2208 GPS
:https://maps.app.goo.gl/G2te9nxr3oVXphEp7
พิกัดที่
3 งานเทศกาลภูเขาไฟบุรีรัมย์
ครั้งที่ 4 ยิ่งใหญ่แห่งปี ปฐมบทกำเนิดภูเขาไฟ พร้อมปะทุอีกครั้งให้นักท่องเที่ยวได้ชมการแสดง
แสง สี เสียง ตำนานรักเขากระโดง 12-13 เมษายน นี้
บริเวณลานกิจกรรมบริเวณปากปล่องภูเขาไฟกระโดง พลังความเชื่อและความศรัทธา พร้อมกิจกรรมมากมาย
พิกัดที่
4 เสาหินบะซอลต์ภูเขาไฟบุรีรัมย์ ชุมชนบ้านโคกมะค่าโหรน
หมู่ 12 ตำบลสะเดา
อำเภอนางรอง ตื่นตากับความสมบูรณ์ของเสาหินภูเขาไฟสวยงามตั้งตระหง่านในพื้นที่กว่า
7 ไร่ ลึกกว่า 20 เมตร ประติมากรรมธรรมชาติเสาหินขนาดใหญ่รูปทรงเรขาคณิตในบริเวณแหล่งกักเก็บน้ำหลุมหินชุมชนบ้านโคกมะค่าโหรน
เส้นทางนี้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปต่อได้ยังเขื่อนลำนางรอง วัดเขาอังคาร
ปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ ชุมชนเจริญสุข (ผ้าภูอัคนี) ภูลาวา คาเฟ่ & ฟาร์ม และชุมชนโคกเมือง (ผ้าบารายพันปี)
พิกัดที่
5 ชมนกกระเรียนพันธุ์ไทย 104 หมู่ 14 ตำบลสะแกโพรง อ.เมืองบุรีรัมย์ เปิดทุกวัน
09.00-17.00 น. และชมธรรมชาติได้ตั้งแต่
06.00-18.00 น. ท่องเที่ยวศูนย์เรียนรู้พื้นที่ชุ่มน้ำ
และนกกระเรียนพันธุ์ไทย มีบริการ “ล่องเรือ” ส่องนก ชมธรรมชาติ
ดูพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ยลโฉมฝูงนกกะเรียนบินโฉบผิวน้ำ ที่ศูนย์เรียนพื้นที่ชุ่มน้ำ
พร้อมดูสัตว์น้ำ และพืชพันธุ์น้ำต่าง ๆ หรือจะปีนขึ้นหอคอยสูง 4 ชั้น ส่องนกกระเรียนพันธุ์ไทย และนกนานาชนิด ด้วยกล้องส่องทางไกลบนหอคอย
ค่าบริการเรือพร้อมไกด์ให้ความรู้อย่างเต็มที่
เหมาลำละ 300 บาท นั่งได้ 2 คน มีเรือให้นักท่องเที่ยวหมุนเวียนใช้ได้
18 ลำ โทร. 09 0286 8327 / กลุ่มพายเรือ
: 08 1760 5339 FB : ศูนย์เรียนรู้พื้นที่ชุ่มน้ำและนกกระเรียนพันธุ์ไทย
ทุกการเดินทางท่องเที่ยวบุรีรัมย์
สอบถาม ททท. โทร. 0 4463 4722 หรือ 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย
สุขภาพ -Superfood ! 7กลุ่มอาหารบำรุงหัวใจ/หลอดเลือด/ลดไขมันเลว
หนึ่งโรคที่เกี่ยวข้องกับการกินโดยตรงคือ
“โรคหัวใจ” ถือเป็นภัยเงียบในสังคมไทยมากขึ้นทุกปี เพราะไลฟ์สไตล์การกินอาหารง่าย
สะดวก รวดเร็ว ไขมันสูง โซเดียมกระฉูด นำโรคเรื้อรังต่าง ๆ มาเพียบ ดังนั้ควรเลือกกินให้ดี
ก็จะห่างไกลโรคหัวใจได้เช่นกัน
โรคหัวใจเป็นอีกโรคหนึ่งที่เกี่ยวกับการกินอาหารเป็นส่วนสำคัญมาก
เพราะหัวใจเป็นแกนกลางของร่างกาย
ทำหน้าที่สูบฉีดโลหิตเพื่อนำพาออกซิเจนและธาตุอาหารไปยังทุกส่วนของร่างกาย
แน่นอนว่า การกินไม่ถูกหลัก ไม่มีประโยชน์กับร่างกายไขมันสูง โซเดียมสูง
ย่อมเป็นจุดเริ่มต้นต่างๆของโรคหัวใจ
มาทำความคุ้นเคยแล้วของเลือกรับประทานอาหารบำรุงหัวใจ 7 กลุ่ม
ได้ดังนี้
1.ปลาทะเล อาทิ
ปลาแซลมอน ปลาทู ปลาซาร์ดีน อย่างน้อย 2
ครั้ง/สัปดาห์ช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือดแดงซึ่งเป็นอาการเริ่มต้นสู่การเป็นโรคหัวใจ
เพราะเป็นปลาที่มีไขมันโอเมก้า 3 นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัว เช่น
น้ำมันปาล์ม น้ำมันจากสัตว์ หรือน้ำมันจากการทอดอาหารซ้ำ
2.น้ำมันจากถั่วเปลือกแข็งและเมล็ดพืช
ที่มีกรดแอลฟา-ลิโนเลนิกสูง เช่น น้ำมันคาโนลา วอลนัต น้ำมันถั่วเหลือง ช่วยลดความเสี่ยงของความดันโลหิตสูงได้
แต่ก็ไม่ควรกินมากจนเกินไปเพราะน้ำมันเหล่านี้ให้พลังงานสูงอาจทำให้อ้วนได้เหมือนกัน
3.อัลมอนด์
มีส่วนประกอบสำคัญอย่างกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย
ทั้งกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน ซึ่งจะช่วยเพิ่มระดับ HDL หรือไขมันดี และลดระดับ LDL ไขมันเหลวในร่างกายลง
ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และจำเป็นต่อกระบวนการทำงานของร่างกาย
4.อะโวคาโด
ผลไม้ที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียมซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพหัวใจ
ซึ่งอะโวคาโด 1 ลูก ประกอบไปด้วยโพแทสเซียม 975 มิลลิกรัม หรือประมาณ 28%
ของปริมาณโพแทสเซียมที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน
หากเราได้รับโพแทสเซียมในปริมาณที่เพียงพอก็จะช่วยลดความดันโลหิตซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจได้
5.ผักใบเขียว
การกินผักใบเขียวจะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เพราะผักใบเขียวอุดมไปด้วยวิตามิน
แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ รวมไปถึงวิตามินเค
ที่มีส่วนช่วยปกป้องหลอดเลือดแดงได้นั่นเอง
6.ผลไม้ตระกูลเบอรี่
อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ทั้ง วิตามินซี กรดโฟลิก โพแทสเซียม ใยอาหาร
และแอนโทไซยานิน ที่มีส่วนช่วยป้องกันความเครียด
ลดการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นระหว่างอนุมูลอิสระกับไขมัน (LDL) ช่วยป้องกันการสะสมของไขมันบริเวณผนังหลอดเลือดซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบของผนังหลอดเลือด
และยับยั้งการแข็งตัวของเลือดได้อีกด้วย
7.ไฟเบอร์
จากธัญพืชที่ไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวสาลี ธัญพืชต่างๆ
จะช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยให้หัวใจแข็งแรง
และป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดในอนาคตได้
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
-รมว.พิพัฒน์ผุดแผน“ลันตา-ลังกาวี”เปิดใหม่ด่านศาลาด่าน-เฟอรี่
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เป็นประธานการประชุมหารือเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงเกาะลันตา
จังหวัดกระบี่ กับ ลังกาวี มาเลเซีย เพื่อสร้างจุดขายใหม่การท่องเที่ยวร่วมกันภายใต้โครงการ
“1 Destination 2 islands – 1 สถานที่ท่องเที่ยว
2 เกาะ
2 ประเทศ”
ซึ่งเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาได้นำผู้บริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ร่วมหารือกับทางผู้บริหารพื้นที่พิเศษเกาะลังกาวีไว้ในเบื้องต้นแล้ว
จากนี้จะให้ทางจังหวัดกระบี่ระดมความคิดถึงการเตรียมความพร้อมเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวเกาะลันตา
– ลังกาวี
โดยจะต้องเตรียมความพร้อม
เรื่องแรกคือการตั้งด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่ศาลาด่าน เกาะลันตา จ.กระบี่ โดยได้ลงไปดูพื้นที่เพื่อใช้ตั้งด่านแล้ว
รวมทั้งการหารือถึงรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการเดินทาง เนื่องจากทางลังกาวีมีข้อจำกัดไม่อนุญาตให้นำเรือสปีดโบ้ทเข้าไปในเขตดังกล่าว
ดังนั้นจึงน่าจะมีทางออกใหม่หันมาใช้เรือเฟอรี่ ซึ่งจะต้องทำคู่ขนานไปพร้อมกันทั้งการตั้งด่านตรวจคนเข้าเมืองและการนำเรือเฟอรี่เข้ามาบริการนักท่องเที่ยวทำให้เกิดผลสำเร็จในโครงการเชื่อมโยงท่องเที่ยว
2 เกาะ
ขณะที่
นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่
กล่าวว่า ทางกระบี่มีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวเป็นเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
ประเมินได้จากหลังสถานการณ์โควิด-19
คลี่คลาย มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาพักผ่อนระหว่างตุลาคม 2565 –
กุมภาพันธ์ 2566 หลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่สูงมากเกือบ
800,000 คน
เมื่อรัฐมนตรีพิพัฒน์ รัชกิจประการ
ให้โอกาสโดยเปิดเวทีหารือถึงการร่วมมือกันเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวเพื่อเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยว
ระหว่าง เกาะลันตา ไปยังเกาะลังกาวี ซึ่งจะสามารถสร้างทั้งการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยว
และจะเกิดเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวในกระบี่ โดยเฉพาะหากการก่อสร้างสะพานข้ามเกาะลันตาแล้วเสร็จก็จะสามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างสะดวกสบาย
ดังนั้นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องมีหน้าที่ขับเคลื่อนโครงการนี้ด้วยกัน
ทั้งจังหวัดกระบี่ ททท. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวเข้ามาสร้างศักยภาพสู่ความยั่งยืนในอนาคต
ส่วนการประชุมเพื่อระดมสมองเดินหน้าโครงการ
โครงการ “1 Destination 2 islands – 1 สถานที่ท่องเที่ยว
2 เกาะ
2 ประเทศ”
จัดขึ้นที่ห้องประชุมพนมเบญจา ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดกระบี่ โดยมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย
นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมผู้บริหาร ททท. นำโดยนางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ นางศุภิดา อ่อนบรรจง
ผู้อำนวยการกลุ่มงานด้านตลาดในประเทศ นายสมชาย ชมพูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ และผู้อำนวยการ
(ผอ.) ททท.ในพื้นที่ 2 จังหวัด
คือ นายอะหมาน หมัดอะดัม ผอ.ททท.กระบี่ นายไพรัช สุขงาม ผอ.ททท.สตูล นายสุรัตน์
จรณโยธิน สำนักงานท่องเที่ยวกีฬา กระบี่ น.ส.ศศิธร กิตติธรกุล
นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.กระบี่ ภาคเอกชนกับผู้ประกอบการ
รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ข่าวที่สอง
-“UTA-ทร.”เปิดสมาร์ตซิตี้ดันเมืองการบินอู่ตะเภาเฟสแรก400ล้าน
พลเรือเอก เชิงชาย ผู้บัญชาการทาหารเรือ
(ทร.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางกองทัพเรือ และผู้บริหาร บริษัท อู่ตะเภา
อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จํากัด (UTA) ร่วมวางศิลาฤกษ์โครงการสร้าง
“สมาร์ต ซิตี้” เฟสที่ 1 อำเภอสัตหีบ
จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการตามข้อเสนอและสิทธิประโยชน์ที่จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพโครงการพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก
วงเงินลงทุน 400 ล้านบาท
จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี พร้อมจะเป็นต้นแบบ
“หมู่บ้านกองทัพเรือ” ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างอาคารพักอาศัยพื้นที่กิจกรรมการสันทนาการ
และออกกำลังกาย
การก่อสร้างเฟสที่ 1 บนทำเลดีในพื้นที่ขนาด
22 ไร่ มีอาคารที่พัก 4 หลัง ห้องพัก 204 ห้อง ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และพื้นที่ใช้สอยในโครงการ
ได้แก่ สนามเด็กเล่น ลานอเนกประสงค์ ลานจอดรถ มีการจัดภูมิทัศน์ด้วยการปลูกต้นไม้ที่ร่มรื่น
และจัดภูมิสถาปัตยกรรมริมน้ำ รองรับการอยู่อาศัยหลายหน่วยงานพื้นที่สัตหีบ
อนาคตจะขยายต่อไปได้ด้วย
นายคีรี กาญจนพาสน์
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จํากัด (UTA)
กล่าวว่า UTA ยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ในกับกองทัพเรือเดินหน้าโครงการก่อสร้างอาคารพักอาศัย
เฟสที่ 1 ถือเป็นปฐมฤกษ์ของโครงการพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกเริ่มต้นอย่างเป็นรูปธรรม
รวมทั้งการร่วมงานกับผู้บัญชาการทหารเรือ
กองทัพเรือ สร้างความมั่นใจที่จะทุ่มเททำอย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเชื่อมั่นก่อสร้างอาคารพักอาศัยแห่งนี้จะยกระดับคุณภาพชีวิต
และสวัสดิการของบุคลากรกองทัพเรือและครอบครัว ตามแนวนโยบาย ของผู้บัญชาการทหารเรือ
เป็นสัญลักษณ์ความร่วมมือ และมิตรภาพที่ยั่งยืนระหว่างกัน
หลังเสร็จสิ้นพิธีวางศิลาฤกษ์
ผู้นำและผู้บริหารกองทัพเรือ และบริษัท UTA ได้เยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล
และทำกิจกรรมปล่อยเต่าคืนสู่ทะเล พร้อมมอบเงินสนับสนุนการอนุรักษ์และขยายเผ่าพันธุ์เต่าทะเลไม่ให้สูญพันธุ์
สร้างสมดุลทางธรรมชาติและดูแลทะเลไทยอย่างยั่งยืนควบคู่กันไปด้วย
ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์สมาร์ต
ซิตี้ ในโครงการสนามบินนานชาติอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ได้แก่ พลเรือเอก
เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พลเรือเอก
อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พลเรือเอก วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง
หัวหน้าคณะฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา
ในฐานะประธานกรรมการบริหารเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกของกองทัพเรือ นายคีรี
กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น
จํากัด (UTA) คณะผู้บริหารจากบริษัท UTA ได้แก่
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ นายภาคภูมิ
ศรีชำนิ พลเรือเอก
นวพล ดำรงพงศ์ นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา และนายเศรณี ชาญวีรกูล
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น