ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.นำท่องเที่ยวในประเทศครึ่งแรกปี'66โกยแล้ว 3แสนล้าน ครึ่งปีหลังลุยขายวิจิตร5ภาค TTM Plus2023

ททท.ผ่าตลาดในประเทศสงกรานต์ดันรายได้เป๋าตุง3แสนล้าน

ครึ่งปีหลังพ.ค.-ก.ย.นำ5ภาคลุยต่อ6โปรเจกต์ทำเงิน9แสนล้าน

ขายวิจิตร3ภาค-100เดียว-25UnseenNewChapters-TTMPlus

คิง เพาเวอร์รุกโปรโมต4ช่องทางหนุนไทยเจ้าภาพEXPO 2028

ปลุกช้อคิงเพาเวอร์ออนไลน์แจกรหัสSUM15ลดรัวๆแรง15%

Firsterคิงเพาเวอร์มหานครชู2โซนใหม่แว่นแบรนด์/ขนมอร่อย

ททท.ทุ่มจัดวิจิตร5ภาคเที่ยวเทรนด์แสงสีเสียงเพิ่มรายได้ทั่วไทย

บางจากชวนคนไทยหันใช้โซลาร์เซลไฟฟ้าทางเลือกสุดประหยัด

TCEBกระตุ้นเอกชนไมซ์ทำด่วน2เรื่องกรีนไมซ์+ชดเชยคาร์บอน

ระยองเปิด6พิกัดเที่ยวสนุกสวนผลไม้โดนใจสายฟรุตเลิฟเวอร์

6วิธีรับมือหน้าร้อนเมื่อต้องอยู่กับอุณหภูมิเฉลี่ยเกือบ40องศา

AWC”รวมพลังไทยต่างชาติผุดAECฟู้ดโฮลเซลโกยเงินเพิ่ม30%

รร.ทีเคพาเลซจัดมหกรรมWeddingลดสนั่นกว่า20%6-7พ.ค.66


 

วันเสาร์ที่ 22 เมษายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #วิจิตร5ภาค  #100เดียวเที่ยวได้งาน #เทศกาลเที่ยวสวนผลไม้ระยอง

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/k37Z7FPo-9/


            ช่วงที่ 1 เซอร์ไพรส์เที่ยวไทยกับ “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มั่นใจควันหลงสงกรานต์นำเที่ยวไทยทำเกินเป้า 50,000 ล้านบาท ทำครึ่งปีแรกโกยรายได้ทะยาน 3 แสนล้าน ลุยต่อทันควันครึ่งปีหลังไตรมาส 3-4 ติดเทอร์โบ 5 ภูมิภาค ทุ่มลงทุน 6 โครงการ “วิจิตร 5 ภาค” อลังการปลาย เม.ย.-ต้น มิ.ย. “Workation 100 เดียวเที่ยวได้งาน” เทหมดหน้าตัก 5 เดือน ประเดิม 5 เดือน 5 Soft Power” เปิดกระหึ่มปีท่องเที่ยวเชิงอาหาร พ.ค.66 “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย” สร้างความฮือฮาเต็มรูปแบบ ส.ค.นี้ ผนวกขายใน TTM Plus 2023 ระดมสินค้า 5 ภาค พร้อมเปิดตัว Unseen New Chapters ใหม่ล่าสุด 25 แห่ง




นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ประเมินสถานการณ์ตลาดท่องเที่ยวในประเทศเมื่อเสร็จสิ้นเทศกาลสงกรานต์เห็นภาพความสุขและผู้ประกอบการทั่วประเทศ 5 ภูมิภาคทั้ง 77 จังหวัด มีความเป็นไปได้จะทำเงินได้กว่า 50,000 ล้านบาท โดยมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศบินมาช่วงสงกรานต์จัดดนตรีระดับอินเตอร์ Rolling Lound มีกว่า 80% รวมทั้ง สยามสงกรานต์ S2O หรือ Water Bom สามารถดึงดูดให้พักอยู่ในไทยต่อเนื่องยาว แล้วยังมีจังหวัดต่าง ๆ อย่าง ถนนข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น มีมากกว่าแสนคน หรือ มิดไนท์ สงกรานต์ หาดใหญ่ จ.สงขลา เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมาเลเซีย สิงคโปร์ เล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน และ สงกรานต์นานาชาติที่สยามสแควร์ กรุงเทพฯ ได้รับความร่วมมือจากสถานฑูตนานาประเทศ พร้อมนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าร่วมอย่างคึกคัก

ส่วนธุรกิจห้องพักโรงแรมช่วงสงกรานต์สามารถทำอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (OR :Occupacy Rate) กระจายแต่ละจังหวัด ระดับ 4-5 ดาวในเมืองท่องเที่ยวหลักอย่าง หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีสูงถึงกว่า 90% และโรงแรม 3 ดาวค่าเฉลี่ยเข้าพักทั่วประเทศประมาณ 70-80 % ส่วนใหญ่ยังเป็นรายได้มาจากตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศ

แผนการตลาดหลังสงกรานต์ ไตรมาสที่ 3 เมษายน-มิถุนายน และไตรมาส 4 กรกฎาคม-กันยายน 2566 เตรียมใช้โครงการ “365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” ประกอบด้วย 6 กิจกรรมหลัก ได้แก่



กิจกรรมที่ 1 งานวิจิตร 5 ภาค จัดยิ่งใหญ่แสงสีเสียง ใน กรุงเทพฯ นครพนม นครศรีธรรมราช ระยอง และเชียงราย กิจกรรมที่ 2  Workation Thailand 100 เดียว เที่ยวได้งาน ไฮไลต์วันที่ 5 เดือน 5 กิจกรรมที่ 3 Soft Power เตรียมเปิดตัวปีแห่งการท่องเที่ยวอาหารหรือ Year of Gastronomy และแคมเปญแต่งไทยไปเที่ยว กิจกรรมที่ 4  The Link เชื่อมโยงการท่องเที่ยวท้องถิ่นสู่นานาชาติหรือ Local to Global กิจกรรมที่ 5 มหกรรมเที่ยวข้ามภาค กิจกรรมที่ 6  เทศกาลเที่ยวเมืองไทย

กิจกรรมแรก “วิจิตร 5 ภาค” ทั้ง 5 จังหวัด จะมีไฮไลต์แตกต่างกันไป โดยจะเน้นวิจิตรความตระการตา น่าชื่นชมและติดตาม เดินทางไปซ้ำ ๆ เมื่อนักท่องเที่ยวเลือกไปเที่ยวไปแต่ละพื้นที่จะต้องตอบโจทย์ 1.เพิ่มวันพักค้างคืน เพิ่มขึ้นเป็นกว่า  3 วัน/คน/ทริป จากปกติเฉลี่ย 2.3 วัน/คน/ทริป 2.เพิ่มอัตราเข้าพักเฉลี่ยตามโรงแรมได้เกินกว่า 70 % 3.เพิ่มการใช้จ่ายเงินเฉพาะช่วงงานได้ถึง 4,200 บาท/คน/ทริป จากปกติ 2,800-3,200 บาท/คน/ทริป ซึ่งเกิดจากการพักค้างคืนตลอดงาน 9 วัน รวมทั้งมีการช้อปปิ้งสินค้าภายในงาน รวมทั้งเกิดการท่องเที่ยวข้ามภาค

นำร่อง “ภาคกลาง” จัดในกรุงเทพฯ 29 เมษายน-7 พฤษภาคม นี้ 3 พื้นที่ ไอคอนสยาม ไปรษณีย์กลางบางรัก และสวนรถไฟ “ภาคเหนือ” ระหว่าง 20-28 พฤษภาคม จัดที่เชียงราย “ภาคใต้” ระหว่าง ระหว่าง 20-28 พฤษภาคม ที่นครศรีธรรมราช ตั้งแต่ถนนราชดำเนิน อำเภอเมือง ไปตามถนนความยาวหลายกิโลเมตร เน้นศิลปะสร้างสรรค์ และย้อมไฟสวยงามบริเวณกำแพงเมืองเก่า “ภาคตะวันออก” ระหว่าง 27 พฤษภาคม-4มิถุนายน บริเวณเจดีย์กลางน้ำ ป่าชายเลน ระยอง ชูการผจญภัยกลางน้ำ “ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” ระหว่าง 27 พฤษภาคม – 5 มิถุนายน ที่นครพนม เป็น Lighting Mapping ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพื่อนบ้านจาก สปป.ลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้ามาเที่ยวด้วย

นอกเหนือจากไฮไลต์ Lighting Mapping แสง สี เสียง แล้วยังจะมี Telling Story และจัดกิจกรรมการแสดงทางวัฒนธรรม ดนตรี และเปิดพื้นที่ให้ชุมชนได้ประโยชน์จากการจัดงาน ดีไซน์ถนนคนเดิน ส่งเสริมการขาย พร้อมคูปองมอบเป็นส่วนลดพิเศษให้นักท่องเที่ยว 

กิจกรรมที่ 2  “Workation 100 เดียวเที่ยวได้งาน” กระหน่ำแจกต่อเนื่อง 5 เดือน เริ่มด้วยโปรใหญ่เปิด 5 เดือน 5 , 6 เดือน 6, 7 เดือน 7 ,8 เดือน 8 และ 9 เดือน 9 (กันยายน 2566) เพื่อสนับสนุนให้คนวัยทำงานในหน่วยงานภาครัฐ เอกชน มีความสุขกับการเดินทางไปตามสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทยแล้วยังสามารถทำงานควบคู่กันได้ด้วย โดย ททท.จะนำเสนอสถานประกอบการ ที่พักใหม่ ในราคาพิเศษ

กิจกรรมที่ 3 Soft Power เตรียมเปิดตัวปีแห่งการท่องเที่ยวอาหารหรือ Year of Gastronomy และแคมเปญแต่งไทยไปเที่ยว จะได้เห็นสีสันบรรยากาศแตกต่างกันพร้อมรับโปรโมชั่นมากมาย



กิจกรรมที่ 4  เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปีนี้จะจัดในเดือนสิงหาคม 2566 ในรูปแบบ ลิมิตเต็ด เอดิชั่น มีงานนี้งานเดียวหาที่อื่นไม่ได้อีกแล้ว ขณะนี้แต่ละภูมิภาคกำลังไปคัดเลือกเส้นทาง

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า ททท.ในประเทศยังเตรียมเสริมทัพขายท่องเที่ยวในมหกรรมงาน Thailand Travel Mart Plus 2023 :TTM + จะจัดระหว่าง 31 พฤษภาคม -2 มิถุนายน 2566 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยจะมีบริษัทตัวแทนซื้อการท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาร่วมงานไม่ต่ำกว่า 300-500 คน ตลาดในประเทศ จึงได้วางแผนผนวกนำงาน “มหกรรมท่องเที่ยวข้ามภาค” จัดขึ้นในกรุงเทพฯ  ไปพร้อมกัน โดยเชิญชวนผู้ประกอบการในไทยมาร่วมออกบูธ เพื่อเปิดให้ต่างชาติได้เห็นสินค้าท่องเที่ยวของไทยทั้งประเทศอย่างชัดเจน รวมทั้งเป็นช่วงโปรโมตขาย Workation 100 เดียวเที่ยวได้งานด้วย ชูจุดขาย Workation Paradise throughout Thailand ปูพรมให้นานาประเทศเห็นศักยภาพเมืองไทยเป็นสวรรค์ของคนทั่วโลกที่อยากเข้ามาเลือกใช้เป็นสถานที่ทำงาน

ขณะเดียวกันก็ได้เปิดพื้นที่ให้หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว อย่าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หน่วยงานดาราศาสตร์ (NARIS) มีแหล่งท่องเที่ยวท้องฟ้ามืด และอื่น ๆ มาร่วมออกบูธเพื่อประชาสัมพันธ์แล้วทำให้คู่ค้าท่องเที่ยวที่มางาน TTM Plus ได้เห็นศักยภาพสินค้าท่องเที่ยวของไทยสามารถเป็นตัวแทนขายให้ตลาดต่างประเทศได้ด้วย

นอกจากนี้ยังจะเปิดตัวโครงการ Unseen New Chapters ใหม่ทั่วประเทศอีก 25 แห่ง ขณะนี้ได้รับรายชื่อจากผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 77 แห่ง เสนอชื่อแหล่งท่องเที่ยว Unseen ประจำปี 2566 มายัง ททท.เรียบร้อยแล้ว เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการคัดเลือกให้เหลือ 25 แห่ง ซึ่งจะนำมาเสนอในงาน TTM Plus 2023 เพื่อให้ทั้งไทยและทั่วโลกได้รู้จักเพิ่มไปด้วยกัน

คอนเซปต์ของแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับคัดเลือกประกาศเป็น Unseen New Chapters จะต้องมีคุณสมบัติสามารถบริหารจัดการเรื่องบริหารจัดการโดยชุมชนแล้วดูดูแลทรัพยากรสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่ง ททท.ได้เพิ่มความเข้มข้นเพื่อให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์รายได้ครึ่งปีแรก ตามประมาณการณ์รายได้ในประเทศตลอดทั้งปี 2566 ตั้งไว้ 8.8 แสนล้านบาท ตามปีงบประมาณระหว่างตุลาคม 2565-มีนาคม 2566  น่าจะทำได้เกินกว่า 3 แสนล้านบาทแล้ว ส่วนครึ่งปีหลังอีก 6 เดือน เมษายน-กันยายน 2566 ไม่น่าเป็นห่วง เพราะสถิติปี 2565 เคยทำได้รวมเกิน 9 แสนล้านบาท ส่วนปีนี้ตั้งเป้าไว้ต่ำกว่าปีก่อน เพราะทั่วโลกเปิดประเทศแล้ว จึงทำให้คนไทยบางส่วนมีโอกาสเลือกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศแทนในประเทศบ้าง อันเป็นที่มาในการตั้งเป้ารายได้ให้สอดคล้องกับความเป็นจริง

รวมทั้งขอฝากถึงคนทั่วประเทศถึงแม้โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่กลับมาอีกครั้ง ก็ขอให้ทำความเข้าใจว่าเป็นโรคประจำถิ่น แล้วจากนั้นก็จะได้เดินทางด้วยความไม่ประมาท ออกไปท่องเที่ยวเก็บเกี่ยวประสบการณ์ความสุขในโมเมนท์ที่ใช่ แล้วจะรู้ว่าความสุขของชีวิตมีคุณค่าสร้างได้ไม่ต้องรอ เหมือนกับแคมเปญที่มี “พี่เบิร์ด-ธงชัย แม็คอินไตย” ศิลปินดังเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ โมเมนท์ที่ใช่ สร้างได้ไม่ต้องรอ เพียงแค่ออกไปท่องเที่ยว แล้วคุณจะได้เก็บเกี่ยวโมเมนท์ที่ใช่นั้นได้จริง ๆ

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิง เพาเวอร์โปรโมต4ช่องทางหนุนไทยเจ้าภาพEXPO 2028

 

นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ในฐานะผู้ประกอบการคนไทยที่มีเครือข่ายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ พร้อมนำธุรกิจในเครือทั้งหมดให้ความร่วมมือและสนับสนุนไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน EXPO 2028 PHUKET THAILAND  ภายใต้ศักยภาพของกลุ่มบริษัทซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกให้บริการด้านการท่องเที่ยวแบบครบวงจร ได้แก่ ธุรกิจดิวตี้ฟรี ธุรกิจโรงแรม แหล่งท่องเที่ยวชั้นนำ อันจะเป็นพื้นฐานสำคัญของประเทศไทยในการจัด Specialised Expo ระดับนานาชาติที่ทั่วโลกให้ความสนใจจะเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมงาน

 

ขณะนี้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมสนับสนุนให้ประเทศไทยให้ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงาน EXPO 2028 PHUKET THAILAND ด้วยวิธีใช้สื่อในเครือข่ายเดินหน้าเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 เป็นต้นไป ผ่าน 4 ช่องทางหลัก ประกอบด้วย

 

ช่องทางที่ 1 instore media ทุกสาขา ได้แก่ ดิวตี้ฟรีในเมือง 4 สาขา คือ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา  ร้านค้าเชิงพาณิชย์ 3 สนามบินหลัก คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ แหล่งท่องเที่ยวไลฟ์สไตล์ใจกลางกรุงที่ คิง เพาเวอร์ มหานคร และโรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ

 

ช่องทางที่ 2 สื่อ Out of Home ทั้งที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี  พัทยา และภูเก็ต

 

ช่องทางที่ 3 สื่อโซเชียลมีเดีย ในเครือของ คิง เพาเวอร์ ทั้งหมด

 

ช่องทางที่ 4 ประชาสัมพันธ์ผ่านจอ LED รอบสนาม คิง เพาเวอร์      สเตเดียม ของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ประเทศอังกฤษ ทุกแมทช์การแข่งขันของเลสเตอร์ ซิตี้ จนจบฤดูกาลรวมทั้งสิ้น 6 แมทช์

 

โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์ที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดียม จะทำให้การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพของประเทศไทยในงาน EXPO 2028 PHUKET THAILAND ครั้งนี้ได้ปรากฏสู่สายตาคนทั่วโลกจำนวนมากด้วย

 

ขณะเดียวกันกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยังพร้อมสนับสนุนให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand โดยมียุทธศาสตร์ส่งมอบประสบการณ์ในธุรกิจท่องเที่ยวอย่างมืออาชีพตั้งแต่ต้นทางครบด้วยบริการ “แฟล็กชิพสโตร์” แบรนด์เนมระดับโลกภายใต้แนวคิด Duty Free World Class Shopping Destination เพื่อให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค และส่งต่อประสบการณ์ช้อปสินค้าดิวตี้ ฟรี แบบไร้ขีดจำกัด ไปยังสาขาในเมือง (Downtown Duty Free)

 

รวมถึงพัฒนาต่อยอดการซื้อสินค้า Duty Free ในระบบออนไลน์มีบริการสั่งซื้อสินค้าผ่าน www.kingpower.com , www.firster.com และบริการ King Power Click & Collect นักช้อปสามารถวางแผนช้อปปิ้ง แล้วรับสินค้าได้ง่ายขึ้นที่สนามบินทั้งขาเข้า – ขาออก

 

ตลอดจนการสื่อสารและขายสินค้าผ่านช่องทาง www.weibo.com , www.wechat.com ,www.taihaitao.com ไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน รวมถึงล่าสุดคือการพัฒนาโครงการ “คิง เพาเวอร์ มหานคร” ให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่ครบวงจร มีมาตรฐานระดับโลกด้วย

 

นายอภิเชษฐ์ กล่าวว่าการสนับสนุนไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ Expo 2028 Phuket Thailand ครั้งนี้ mk’กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้นำเสนอธุรกิจในเครือข่ายที่มีบริการอย่างเต็มที่ นอกเหนือจากที่ไทยมีความพร้อมแข็งแกร่งครบทุกองค์ประกอบหลักอยู่แล้ว ทั้งทาทางกายภาพและสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามทั้ง 77 จังหวัด โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม คุณภาพสถานที่จัดการประชุมในระดับนานาชาติที่ดีเยี่ยม อันจะส่งผลเชิงบวกต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในภูมิภาค

 

เนื่องจากจะมีคนเดินทางเข้ามาประชุมกลุ่ม MICE ซึ่งเป็นตลาดคุณภาพและศักยภาพสูง รวมทั้งไทยมีข้อได้เปรียบและความพร้อมอีกหลายด้านอีก หากสามารถดึงการประชุม อบรม สัมมนาเข้ามายังจัดงานในประเทศเพิ่มมากขึ้นก็จะสามารถช่วยเร่งการฟื้นเศรษฐกิจภาพรวม ควบคู่กับช่วยฟื้นธุรกิจซึ่งเคยต้องหยุดชะงักช่วงสถานการณ์โควิด-19 ให้กลับมาเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพได้ต่อไปด้วย

 

ทั้งนี้ทุกคนสามารถร่วมสนับสนุนประเทศไทยที่การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ Expo 2028 Phuket Thailand ครั้งนี้ได้ทาง https://support.expo2028thailand.com/th หรือสแกน QR Code ซึ่งหากประเทศไทยได้รับการคัดเลือกเป็นเจ้าภาพ จะจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 20 มีนาคม – 17 มิถุนายน 2571 บนพื้นที่ 141 ไร่  ในตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

 

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์กระตุ้นช้อปออนไลน์แจกรหัสSUM15ลดแรง15%

 

คิง เพาเวอร์ ชวนใช้บริการ Click & Collect กับแคมเปญ summer Exploration Exploring New Possibilities :ร้อนนี้ ตะลอน ช้อปปิ้ง ชวนซิ่ง ที่ kingpower.com เลือกช้อปผ่านช่องทางออนไลน์ กับโปรโมชั่น ตั้งแต่วันนี้ -30 เมษายน 2566 รับรหัสส่วนลด SUM15 ลดแรง 15 % รวมถึงลดเพิ่ม 500 บาท ลดสูงสุดถึง 1,500 บาท ทุกการช้อป 2,000 บาท

               

รับสิทธิ์จากพันธมิตร รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 7,000 บาท เมื่อจ่ายค่าสินค้าผ่าน “บัตรเครดิต” 11 สถาบันการเงิน ไทยพาณิชย์ กรุงเทพ กสิกรไทย กรุงศรีอยุธยา ออมสิน ซิตี้แบงก์ ยูโอบี ทีทีบี เจซีบี การ์ดเอ็กซ์

 

รับเพิ่ม!! ตั้งแต่วันนี้-30 เมษายน นี้ เมื่อช้อปครบ 6,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง รับฟรี ส่วนคูปองส่วนลดท้ายใบเสร็จได้อีก 800 บาท เพื่อนำไปใช้ช้อปได้จนถึงวันที่ 7 พฤษภาคม 2566

 

ข่าวที่ 3 Firsterคิงเพาเวอร์มหานครเปิดใหม่2โซนแว่นแบรนด์/ขนมอร่อย

 

ช้อปสนุกที่ “เฟิร์สเตอร์ คิง เพาเวอร์ มหานคร” (FIRSTER KING POWER MAHANAKHON) ตื่นตากับสินค้า NEW ZONE!! เอาใจสายชอบช้อปมากกว่าเดิม ไฮไลต์ โซนแว่นกันแดดแบรนด์เนมและแบรนด์ดัง กับโซนเทรนด์ขนมไทยอร่อยล้ำ

 

 

โซนแรก แว่นกันแดด หรือ SUNGLASSES สายแฟต้องชอบแว่นกันแดด ซึ่งเป็นเหมือนหนึ่งในเครื่องประดับอีกอย่าง ที่จะเติมเต็มลุคการแต่งตัวของแต่ลคะให้ดูมีดีเทลเท่เก๋ชิคจริง ๆ ตอนนี้ Firster ได้ยกแว่นกันแดดแบรนด์เด็ดแบรนด์ดังมาให้เลือกช้อปได้เต็มที่ทั้ง PRADA, GUCCI, RAY BAN และแบรนด์อื่น ๆ มากมาย แวะมาลองสวมใส่ถ้าใช่เป็นเจ้าของได้ทันที

 

โซนที่ 2 เพิ่มเปิดใหม่สด ๆ ร้อน ๆ เป็นโซนขนมและของฝาก หากได้เดินผ่านต้องมีสะดุดตาแน่นอน มีให้เลือกทั้งผลไม้อบแห้งต่างๆ ขนมไทย เป็นของฝากยอดฮิต ช็อคโกแลต เครื่องดื่มเหมาะในงานปาร์ตี้ สังสรรค์ กับเพื่อนๆ

 

กำลังมองหาแหล่งช้อปแห่งใหม่ ๆ ลองมาเดินได้ที่ FIRSTER คิงเพาเวอร์ มหานคร เดินเพลิน ช้อปมันให้ครบทั้ง 4 ชั้น โดยมีสินค้า BEAUTY & LIFESTYLE พร้อมโซนใหม่และโปรโมชั่นหน้าร้านมากมาย มาช้อปที่นี่คุ้มยิ่งกว่าคุ้มอย่างแน่นอน

 

ข่าวที่ 4 ททท.ทุ่มจัดวิจิตร5ภาคเที่ยวเทรนด์แสงสีเพิ่มรายได้ทั่วไทย

 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เป็นประธานเปิดตัวโครงการ “วิจิตร 5 ภาค” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยสร้างประสบการณ์อันทรงคุณค่าและมุ่งสู่ความยั่งยืน ด้วยกิจกรรมอีเวนต์การตลาด (Event Marketing) เพิ่มวันพักและความถี่การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 ด้วยการนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 5 ภูมิภาค ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ และภาคตะวันออก นำเสนอผ่านการเล่าเรื่องโดยใช้เทคนิคแสง สี เสียง ครอบคลุมทุกพื้นที่ท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยกระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับในช่วงโลว์ซีซัน

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ตามแผนงานจัดอีเวนต์การท่องเที่ยวทั่วไทย “วิจิตร 5 ภาค” ครั้งนี้ ททท.ได้คัดเลือกสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์ใน 5 ภูมิภาค ที่มีจุดขายโดดเด่นแตกต่างกันไป เพื่อให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในภาคเดียวกัน และการเดินทางข้ามภาค ดังนี้

 

“ททท. ภาคกลาง” นำร่องจัดก่อนเริ่มวันที่ 29 เมษายน – 7 พฤษภาคม 2566 ชวนท่องเที่ยวและร่วมกิจกรรมชมการแสดง แสง สี เสียง ภายใต้แนวคิด “มู Light Experiences วิจิตรการมู (เตลู)”  สะท้อน 3 ความเชื่อของคนไทยผ่านแสงจันทร์ และการอาบแสงจันทร์ ส่งมอบพลังบวกและความเป็นสิริมงคล จะจัดขึ้น 3 พื้นที่ ได้แก่

 

พื้นที่แรก ICONSIAM ชมการแสดง Contemporary Dance หน้าม่านน้ำ ด้วยเทคนิค Multimedia Water Features + Lighting ต่อเนื่อง 5 วัน ระหว่าง 29-30 เมษายน และ 4,6,7 พฤษภาคม นี้ ต่อด้วย กิจกรรมแชะ & แชร์ ลุ้นรับ E-voucher มูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท พร้อมลุ้นรับสิทธิ์ลุ้นรับสติกเกอร์ยันต์มหามงคล

 

พื้นที่ 2 อาคารไปรษณีย์กลางบางรัก ชมการแสดง Mapping ไพ่ยิปซี 12 ราศีสุดยิ่งใหญ่บนอาคารไปรษณีย์กลาง ด้วยเทคนิค Mapping & Lighting สนุกกับกิจกรรมสแกนเล่นเกม และดูดวงจากนักพยากรณ์หลากหลายศาสตร์ พิเศษวันที่ 30 เมษายน 2566 ได้เชิญอาจารย์แห้วทำพิธีลงนะหน้าทอง เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถร่วมพิธีได้ตั้งแต่ 17.00 น. เป็นต้นไป พร้อมลุ้นรับสติกเกอร์ยันต์มหามงคลกลับบ้านได้ด้วย

 

พื้นที่ 3 วชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ ชมการถ่ายทอดเรื่องราวของดวงดาว 12 นักษัตรผ่าน โคมไฟบอลลูนรอบสวนสาธารณะ และการตกแต่งแสงสีบนต้นไม้และพื้นหญ้า ด้วยเทคนิค Lighting Installation 3D พร้อมร่วมสนุกในงานกับ Walk Rally 12 นักษัตร จะให้นักท่องเที่ยวได้ลุ้นรับรางวัลเหรียญมงคล 12 นักษัตร และFan Meeting ห้ามพลาดพบกับสองหนุ่ม ‘ฟอส-บุ๊ค’ วันที่ 6 พฤษภาคม นี้  18:00 – 19:00 น.       

 

“ททท.ภาคใต้” จัดการแสดง แสง สี เสียง ภายใต้แนวคิด “วิจิตร 5 ภาค @นครศรีธรรมราช ศิลป์ศรัทธา มหานครฯ ระหว่าง 20 – 28 พฤษภาคม พ.ศ.2566 สร้างสีสันบรรยากาศให้นครศรีธรรมราชเป็นสถานที่ท่องเที่ยวต้องห้ามพลาด เชิญชวนร่วมชมเทคนิค Mapping 3D, Light up, Light Installation, City Tour และ Story Telling พร้อมกิจกรรมมากมายภายในงาน   

 

“ททท.ภาคเหนือ”  จัดมหกรรม วิจิตร@เชียงราย หลงแสงเวียง ที่เจียงฮาย Chiang Rai : Wiang of Light” ตั้งแต่วันที่ 20 – 28 พฤษภาคม 2566 เนรมิตสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองเชียงราย ซึ่งเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งอารยธรรมเมืองล้านนา ตกแต่งอย่างยิ่งใหญ่ งดงามตระการตา

 

“ททท.ภาคตะวันออก”  ทุ่มทุนสร้าง “วิจิตร@ระยอง เมื่อสุริยาลับขอบฟ้า การผจญภัยตามหา ขุมทรัพย์แห่งความอุดมสมบูรณ์ ของภาคตะวันออก จึงเริ่มขึ้น..” ระหว่างวันที่ 27 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2566 จัดขึ้นที่บริเวณเจดีย์กลางน้ำป่าชายเลน จังหวัดระยอง บนพื้นที่กว่า 2 ตารางกิโลเมตร เสมือนได้อยู่ท่ามกลางดินแดนเหนือจินตนาการ โดยได้ประดับตกแต่งไฟ ด้วยเทคนิคตระการตา ตื่นตาตื่นใจกับความยิ่งใหญ่ของเมืองท่องเที่ยวแห่งทะเลตะวันออกแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุง 4 ไฮไลต์ ได้แก่ 1.Projection Mapping เกาะกลางน้ำ 2.โลกแสงสีสันใต้น้ำของแมงกะพรุน  3.การแสดงโชว์ Lighting บริเวณสะพานแห่งวิถีวิจิตร 4.กิจกรรมแสดงพลุ ดอกไม้ไฟ   

 

ตลอดงานนักท่องเที่ยวจะได้ชมการแสดงดนตรีจากศิลปินชั้นนำ และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการร้านค้าในชุมชนท้องถิ่นนำสินค้ามาวางขายเพื่อสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าส่งถึงนักท่องเที่ยวทุกคน

 

“ททท.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”  สามารถเที่ยวชมงานได้ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2566 ดื่มด่ำกับงาน “วิจิตรนครพนม นครแห่งความสุขริมฝั่งโขง” สื่อถึงการท่องเที่ยวนครพนมและริมฝั่งโขงสัมผัสความยิ่งใหญ่อลังการงานแสดงแสงสี ผ่านเทคนิค Mapping และ Light up พร้อมกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย  

 

ข่าวที่ 5 บางจากชวนคนไทยหันใช้โซลาร์เซลไฟฟ้าทางเลือกสุดประหยัด

 

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชวนคนไทยหันมาใส่ใจร่วมรักษ์โลกหันใช้พลังงานทางเลือก เปลี่ยน #แสงแดด จากดวงอาทิตย์ ให้กลายเป็น #ไฟฟ้า เพื่อช่วยประหยัดค่าไฟในบ้าน ด้วยการติดตั้ง #แผงโซลาร์เซลล์ ให้มากขึ้น เพราะจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกประหยัดเงินและพลังงานที่น่าสนใจ

 

สำหรับ “แผงโซลาร์เซลล์ สามารถช่วยประหยัดพลังงานในครัวเรือนแต่ละบ้านได้ทั้งปัจจุบันและอนาคต เพราะ

 

“คุณสมบัติ” ของแผงโซลาร์เซลล์ หรือแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ประกอบด้วย #โซลาร์เซลล์ หลาย ๆ ชิ้นเชื่อมต่อกันเป็นแถวยาว ทำหน้าที่เปลี่ยนแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ให้กลายเป็น #พลังงานไฟฟ้า ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังมีต้นทุนในการผลิตต่ำกว่าพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตโดยวิธีอื่น เหมาะใช้ในที่พักอาศัย และพื้นที่เพาะปลูกทำเกษตรกรรมด้วย

“วิธีการติดตั้ง” แผงโซลาร์ สามารถทำได้ 3 รูปแบบ

รูปแบบที่ 1 แผงโซลาร์บนหลังคาอาคาร ไม่เพียงผลิตพลังงานไฟฟ้า แต่ยังช่วยลดความร้อนของห้องหรือพื้นที่ใต้ชั้นดาดฟ้า ทำให้สามารถประหยัดพลังงานของเครื่องปรับอากาศได้ด้วย

 

รูปแบบที่ 2 แผงโซลาร์บนพื้นดิน เป็นที่นิยมสำหรับพื้นที่ทำเกษตรกรรม และเหมาะสำหรับนำไปติดตั้งในพื้นที่ห่างไกลที่ไฟฟ้าไม่สามารถเข้าถึง เช่น เกาะ หรือ หมู่บ้านในหุบเขา เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนได้อีกทาง

 

รูปแบบที่ 3 โซลาร์ลอยน้ำ เหมาะสำหรับผู้ที่มีบ่อน้ำหรือแอ่งน้ำ ช่วยให้การใช้พื้นที่ส่วนที่เป็นน้ำเกิดประโยชน์สูงสุดและยังต่อยอดช่วยดูแลรักษาแหล่งน้ำได้  เช่น การเชื่อมต่อไฟฟ้าจากแผงโซลาร์ลอยน้ำไปยังเครื่องปั๊มลม เพื่อปล่อยลม เพิ่มอากาศในน้ำ ส่งผลดีต่อคุณภาพน้ำและการเลี้ยงสัตว์น้ำ

 

สนใจข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยแผงโซลาร์เซลล์ สามารถอ่านต่อได้ในคู่มือ “Brighten Your Life แสงสว่างที่คุณสร้างได้เอง” จัดทำโดย บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจพลังงานไฟฟ้าใน #กลุ่มบริษัทบางจาก

 

ข่าวที่ 6 TCEBกระตุ้นเอกชนไมซ์ทำด่วน2เรื่องกรีนไมซ์+ชดเชยคาร์บอน

 

นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการด้านพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บร่วมกันปลุกจิตสำนึกทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมไมซ์ทั่วประเทศ หันมาใส่ใจเรื่อง “ความยั่งยืน” เพราะขณะนี้ทุกอุตสาหกรรมต้องหันมารับผิดชอบร่วมกันอย่างจริงจัง เพื่อช่วยกันกำจัดปัญหาสิ่งแวดล้อมส่งผลกระทบต่อสังคม โดยเฉพาะผู้ประกอบการไมซ์ควรจะต้องหันมาทำด่วน 2 เรื่อง คือ

 

เรื่องที่ 1 จัดงานไมซ์รูปแบบใหม่ “Green Meeting” เพื่อผลักดันสังคมสู่วิถีแห่งความยั่งยืนคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

 

เนื่องจาก “การจัดประชุมสีเขียว” (Green Meeting) เป็นการจัดงานโดยใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น เลือกใช้สถานที่ที่เดินทางง่าย ลดการเกิด Carbon Footprint เน้นสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ตอบโจทย์ต่อการใช้งาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

ตัวอย่างการจัดงานที่น่าสนใจคือ ‘Convening EMEA 2021’ ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านอีเวนต์ และครีเอทีฟโฆษณาทั่วโลกกว่า 29 ประเทศ ใช้แนวคิดด้านความยั่งยืนจัดงาน ผ่านตัวช่วยการใช้เทคโนโลยี เช่น เอกสารประกอบการบรรยายดูได้ผ่านแอปพลิเคชัน Swapcard ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานใช้งานถึง 91% หรือป้ายบอกทาง Handmade ภายในงานเลือกทำจากไม้รีไซเคิล และจัดการขยะอาหารโดยบริจาคให้ชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง ส่งเสริมให้ผู้ชมตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม และสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกต่องานอีเวนต์

 

เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้ร่วมงานกับนักเดินทางไมซ์ โดยใช้เทคโนโลยี สร้างความแปลกใหม่ เพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจได้ ซึ่งรูปแบบที่ได้รับความนิยมคือ ‘Virtual Experience’ หรือ ประสบการณ์เสมือนจริง ตัวช่วยเชื่อมโยงผู้ชมไมซ์ สู่งานอีเวนต์ให้มากขึ้น

 

เรื่องที่ 2 ทำกิจกรรมชดเชยคาร์บอน’ ที่ผู้ประกอบการไมซ์จะต้องเรียนรู้โดยด่วนเพื่อร่วมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมจากผู้จัดงาน ช่วยกันลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งยังได้ยกระดับอีเวนต์ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล สามารถหา ‘คาร์บอนเครดิต’ เพื่อนำมาชดเชยคาร์บอนจากโครงการ หรือองค์กรต่าง ๆ ในตลาดคาร์บอนเครดิตได้ โดยมีหลักแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

 

ประเภทที่ 1 Carbon Offset คือ ทำกิจกรรมชดเชยคาร์บอน เพื่อลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิลง ด้วยการจัดหาคาร์บอนเครดิตจากโครงการลดก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทยมาชดเชยในรูปแบบต่าง ๆ

 

ประเภทที่ 2 Carbon Neutral คือ ทำให้ก๊าซเรือนกระจกสุทธิลดลงเท่ากับศูนย์ ด้วยการจัดหาคาร์บอนเครดิตจากโครงการลดก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทยมาชดเชย

 

ขานรับสถานการณ์ปัจจุบันกระแสความนิยมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ทำให้รูปแบบการจัดงานอีเวนต์ปลอดคาร์บอนได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ร่วมงาน ซึ่งการทำกิจกรรมชดเชยคาร์บอน นอกจากจะเป็นการแก้ปัญหาทางสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยส่งเสิรมศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ในเวทีการแข่งขันเติบโตทางภาคธุรกิจ และต่อยอดแนวคิดการจัดงานอีเวนต์ ตอบสนองความต้องการของผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงานไมซ์ทั่วโลก นับเป็นหมุดหมายสำคัญที่จะสร้างสังคมแห่งความยั่งยืนในอนาคต รวมทั้งการทำกิจกรรมชดเชยคาร์บอนเป็นเพียง 1 ในวิธีจัดงานอีเวนต์อย่างยั่งยืนด้วยเช่นกัน

 

ช่วงที่ 2 ความสนุกกลับมาแล้วงาน “เทศกาลเที่ยวสวนผลไม้ระยอง” เปิด 6 พิกัด ฟินกินให้ตัวแตกได้ตลอด เม.ย.-พ.ค.2566 แล้วมาดู “6วิธีรับมืออากาศร้อนใกล้40องศา” ส่งท้ายด้วยข่าวฮ็อต ข่าวแรก “AWC” รวมพลังไทย&ต่างชาติผุด AEC Food Wholesale มูลค่าหมื่นล้าน ข่าวที่สอง “โรงแรมทีเค คอนเว็นชั่น แจ้งวัฒนะ” จัดใหญ่ Wedding Showcase แจกไม่ยั้งส่วนลด 20% คู่รักคู่แต่งงานแวะมาได้ 6-7 พ.ค.นี้

 

ท่องเที่ยว -ระยองเปิด6พิกัดเที่ยวสนุกสวนผลไม้โดนใจสายฟรุตเลิฟเวอร์

 

ออกเดินทางเที่ยว ตามคำชวนของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง เปิดเทศกาลท่องเที่ยวเอาใจสายรักผลไม้ Fruit Lover ได้ตะลอนชิมความอร่อย ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2566 ชาวสวนพร้อมกลับมาจัดอลังการอีกครั้ง งานเทศกาลผลไม้ เที่ยวสวนได้ใน 6 พิกัด ดังนี้

 

พิกัดที่ 1 เที่ยววันที่ 19 เมษายน 2566 - 25 เมษายน 2566 บริเวณลานข้าง อบต.เขาชะเมา อ.เขาชะเมา จ.ระยอง ตื่นตากับขบวนแห่รถผลไม้ การจัดซุ้มผลไม้ การแข่งขันกินผลไม้ ประกวดธิดาชาวสวน ส้มตำลีลา การออกร้านอาหาร จำหน่ายสินค้าราคาถูก และศิลปินชื่อดังมากมาย

 

พิกัดที่ 2 งานวันสับปะรดหวาน ครั้งที่ 17 จัดยาว ๆ  เริ่มวันเสาร์ที่ 22 เมษายน 2566 - 1 พฤษภาคม 2566 เคลียร์พื้นที่ถนนที่ว่าการอำเภอปลวกแดง จ.ระยอง พาเหรดกิจกรรมมากมายรอต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้าไป อาทิ การประกวดธิดาสับปะรด การแข่งขันปอกสับปะรด การประกวดอาหารต่างๆ จากสับปะรด การออกร้านอาหาร OTOP และร้านขายสินค้าท้องถิ่นมากมาย ไฮไลท์พิเศษในงานพบกับ ศิลปินชื่อดัง อาทิ ไผ่ พงศธร มนต์ แคน แก่นคูณ มาเยือนถึงที่

 

พิกัดที่ 3 งานเทศกาลผลไม้และของดีอำเภอแกลง ปีที่ 41  เริ่ม 28 เมษายน 2566 - 2 พฤษภาคม 2566 มาเที่ยวได้ตรงบริเวณปั๊มบางจาก ไต๋ปิโตรเลียม ต.ทางเกวียน อ.แกลง แวะชิมผลไม้จากชาวสวน และ การออกร้านจำหน่ายสินค้า พร้อมทั้งตื่นตาดูการประกวด Miss Klaeng 2023 ฟังศิลปินดังมาสร้างความสนุกสาน มีทั้ง ปู่จ๋าน ลองไมค์ ตั๊กแตน ชลดา

 

พิกัดที่ 4 เทศกาลถนนผลไม้อำเภอวังจันทร์ ครั้งที่ 66  เริ่ม 27 เมษายน 2566 - 3 พฤษภาคม 2566 ที่ตลาดผลไม้พลงตาเอี่ยม อ. วังจันทร์ ละลานตากับผลไม้ การประกวดธิดาชาวสวน รำวงย้อนยุค และวงดนตรีวงวาเลนไทน์

 

พิกัดที่ 5 เทศกาลผลไม้และของดีจังหวัดระยอง ประจำปี 2566 ระหว่าง 3 - 7 พฤษภาคม 2566 ตรงสนามกีฬากลางจังหวัดระยอง ฮือฮากับขบวนพาเหรดผลไม้ การประกวดธิดาชาวสวน ประกวดสุดยอดผลไม้ ระยอง การออกร้านอาหารร้านค้าของดีเมืองระยอง ห้ามพลาดร่วมความบันเทิงในกับศิลปินดัง ปู่จ๋าน ลองไมค์

 

พิกัดที่ 6 งานมังคุดหวาน วันที่ 24-28 พฤษภาคม 2566 ที่ศูนย์การท่องเที่ยวเชิงเกษตรหนองตะพาน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง มาสนุก อิ่ม ชม ชิม ช้อป กับสินค้า เกาะติดการประกวดราชินีมังคุด รำวงย้อนยุด และ ศิลปินแพรทอง

 

ทริปเที่ยวเทศกาลผลไม้และของดีเมืองชายฝั่งอ่าวไทยในระยอง สอบถามเพิ่มได้ที่ ททท.สำนักงานระยอง โทร. 038-655420-1

 

เที่ยวเมืองไทย ในโมเมนต์ที่ใช่ สร้างได้ไม่ต้องรอ เมษายน-พฤษภาคม นี้ เหล่าสาวกฟรุตเลิฟเวอร์มาเยี่ยมชาวสวนได้ทุกวัน

 

สุขภาพ -6วิธีรับมือหน้าร้อนเมื่อต้องอยู่กับอุณหภูมิเกือบ40องศา

      อากาศร้อนทำให้หลายคนแทบไม่อยากก้าวเท้าออกนอกห้องแอร์ แต่คนเราก็ต้องเดินทางไปไหนมาไหน หรืออาจจะต้องทำงานกลางแจ้งหลายชั่วโมง แม้กระทั่งนั่งอยู่เฉย ๆ ในบ้านยังร้อนจนเหงื่อซึมหลังได้ เราจะอยู่อย่างไรให้รอดจากอากาศร้อน ๆ 6 วิธี ดังนี้

 

วิธีที่ 1 พกน้ำดื่มติดตัว : ร่างกายที่สูญเสียเหงื่อไปมากมักขาดน้ำได้ง่าย ทั้งความเหนื่อย ความร้อน ความกระหายน้ำ ทำให้คนป่วย เป็นลม หมดสติและยังเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำอีกด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องอยู่กลางแจ้งนาน ๆ ดังนั้นเหลือพื้นที่ในกระเป๋าไว้ให้น้ำดื่มขนาดพกพาสักขวดด้วย 

 

วิธีที่ 2 พกผ้าเย็น/พัดลมมือถือ : การมีผ้าเย็นหรือทิชชู่เปียกสักผืน เช็ดให้ทั่วใบหน้า และลำคอ ก่อนจะเปิดพัดลมมือถือใส่หน้า เท่านี้ก็ได้ความเย็นสบายไปอีกหลายนาที

 

วิธีที่ 3 สเปรย์หรือมิสต์ฉีดหน้า : นอกจากจะเพิ่มความสดชื่นให้ได้แล้ว ยังมีสเปรย์ที่ช่วยควบคุมความมัน และให้เครื่องสำอางติดทนให้เลือกใช้ด้วย 

 

วิธีที่ 4 เลือกสวมเสื้อผ้าโปร่ง ๆ เนื้อผ้าระบายความร้อนได้ดี : ควรเลือกเสื้อผ้าที่ทำมาจากผ้าลินิน ผ้าฝ้าย ผ้าฝ้ายลายคลื่น ผ้าแชมเบรย์ หรือเดนิม และเลือกสีอ่อนมากกว่าสีเข้ม โดยเฉพาะควรหลีกเลี่ยงสีดำเพราะจะยิ่งดูดความร้อน ทำให้เรารู้สึกร้อนมากยิ่งขึ้น

 

วิธีที่ 5 น้ำแข็งประคบตรงชีพจร : หากรู้สึกร้อนมาก ๆ ลองเอาของเย็น ๆ เช่น น้ำแข็ง หรือแก้ว มาวางตรงจุดที่สามารถวัดชีพจรจะทำให้ร่างกายรู้สึกเย็นขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์

 

วิธีที่ 6 สวมหมวก กางร่มกันยูวี กันแดดทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน : นอกจากจะช่วยลดอุณหภูมิความร้อนจากแสงแดดถึงผิวของเราแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังของเราได้รับอันตรายจากแสงยูวี ตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวแห้งเสีย หมองคล้ำ มีริ้วรอยก่อนวัย และที่สำคัญยังช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งผิวหนังอีกด้วย

     

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก AWC”รวมพลังไทยต่างชาติผุดAECฟู้ดโฮลเซลโกยเงินเพิ่ม30%

 

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) “AWC เปิดเผยว่า นำทีมพันธมิตรภาครัฐและเอกชนรวมพลังร่วมขับเคลื่อนประเทศไทย โดยวางแผนใช้เงินลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท เดินหน้าลงทุนเปิดโครงการ “AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM ยกระดับไทยเป็นศูนย์กลางค้าส่งอาหารของภูมิภาค เชื่อมเครือข่ายค้าส่ง (WHOLESALE ECO-SYSTEM)  ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มค้าส่งเชื่อมโยงออนไลน์-ออฟไลน์ (ONLINE-OFFLINE INTEGRATION)  เสริมโอกาสธุรกิจแบบไร้ขีดจำกัด เตรียมเปิดบริการตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 เป็นต้นไป

 

ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้ผู้ซื้อจากอาเซียนและทั่วโลก กับผู้ขายซึ่งมีทั้งผู้ประกอบการชั้นนำของไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนในเครือข่าย “อี้อู : Yiwu ” ให้สามารถทำธุรกรรมระหว่างกันได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นตลอดกระบวนการตั้งแต่ การสรรหาสินค้า การจัดส่ง และการชำระค่าสินค้า เพื่อตอบโจทย์อนาคตครบวงจรมุ่งสู่ศูนย์การค้าส่งอาหารที่ยั่งยืน

 

พร้อมทั้งได้ตั้งเป้าความสำเร็จภายใน 5 ปีข้างหน้า โครงการ AEC FOOD WHOLESALE จะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมอาหารของไทยทำส่วนแบ่งรายได้เพิ่มขึ้นถึง 30 % จากปัจจุบันทั้งอาเซียนมีมูลค่าตลาดรวม 25 ล้านล้านบาท ไทยมีส่วนแบ่งประมาณ 2 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 10 % เมื่อมีศูนย์ค้าส่งอาหารเกิดขึ้นจะขยับเพิ่มขึ้นได้ถึง 3 เท่า หรือสามารถสร้างมูลค่าตลาดได้ดีกว่าปัจจุบันทำได้รวม 700,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตเฉลี่ย 6.9 % ต่อไปจะขยับขึ้นเป็น 900,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

ขณะเดียวกันยังสามารถเชื่อมโยงศูนย์ค้าส่งอาหารไทยเข้ากับ “อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว” ของไทยเติบโตสูงขึ้นทุกปี โดยมีต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมเข้ากับนักท่องเที่ยวคนไทยแล้วแต่ละปีมีเกินกว่า 100 ล้านคน ขณะที่ขนาดตลาดตามจำนวนประชากรในอาเซียนตอนนี้รวมกันเกือบ 700 ล้านคน โดยเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศรอยต่อกับไทย 5 ประเทศ อย่าง มาเลเซีย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม ประชากรรวมกันก็มีเกือบ 300 ล้านคน

 

ดังนั้นเมื่อ AWC และพันธมิตรภาครัฐและเอกชนเปิดโครงการ “AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM” จะกลายเป็นประตูเชื่อมของอุตสาหกรรมการค้าส่งสำคัญในตลาด AEC : ASEAN Economic Community หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่มีสมาชิก 10 ประเทศได้ เนื่องจากไทยมีขีดความสามารถที่แข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์อันแข็งแกร่งพร้อมจะเชื่อมต่อการค้าส่งไปยังประเทศต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก และเป็นศูนย์กลางค้าส่งอาหารของภูมิภาคอย่างแท้จริง

 

นางวัลลภา กล่าวว่า รายละเอียดเงินลงทุน ศูนย์ค้าส่งอาหารแห่งภูมิภาค โครงการ AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM ช่วงแรก 6,500 ล้านบาท ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและปรับปรุงอาคารมาตั้งแต่ปี 2562  โดยเลือกทำเลเชิงยุทธศาสตร์ ใจกลางกรุงเทพฯ ในพื้นที่กว่า 10 ไร่ รวมพื้นที่อาคาร (Gross Floor Area) กว่า 67,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 พื้นที่อำนวยความสะดวกแบบครบวงจร ส่วนที่ 2 พื้นที่เช่าให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารทั้งไทยและจีนชั้นนำกลุ่มคุณภาพ 600 ราย เพื่อให้ผู้ซื้อจากทั่ว AEC เข้าถึงสินค้าโดยตรง ในราคาต้นทางและผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทที่มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือตรงกับความต้องการได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

รวมทั้งยังมีแผนพัฒนาโครงการช่วงต่อไปจะใช้เงินลงทุนอีกกว่า 4,000 ล้านบาท ขยายโครงการ AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM แห่งที่สอง ในทำเลอื่นบริเวณประตูน้ำพระอินทร์ รังสิต ปทุมธานี

ส่วนผลิตภัณฑ์หลักระยะแรกที่จะนำมาให้บริการเป็นอาหารรวม 8 กลุ่ม เช่น  อาหารแช่แข็ง อาหารแช่เย็นและผลิตภัณฑ์จากนม เครื่องปรุงและวัตถุดิบ ข้าว เครื่องดื่ม กาแฟและชา ขนมขบเคี้ยวและขนมหวาน และของใช้ในครัวเรือน

 

รวมทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถพบปะเจรจาธุรกิจกันผ่านออฟไลน์แพลตฟอร์มได้ตลอด 365 วัน และออนไลน์แพลตฟอร์มได้ตลอด 24 ชั่วโมง เชื่อมต่อผู้ซื้อผู้ขายข้ามทวีปได้ด้วยเช่นกัน

 

ล่าสุด AWC ได้รวมพลังพันธมิตรเข้าร่วมสนับสนุนโครงการ AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM เดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทยเป็นศูนย์ค้าส่งอาหารแห่งภูมิภาคอย่างเต็มรูปแบบ ประกอบด้วย 3 กลุ่ม ได้แก่

 

กลุ่มที่ 1 ภาครัฐ เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และอี้อู (Yiwu) ผู้พัฒนาและบริหารตลาดค้าส่งสินค้าเบ็ดเตล็ดที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากเมืองอี้อู สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ลงนามความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ AWC ไปเรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนมีนาคม 2566

 

กลุ่มที่ 2 หอการค้าจากประเทศต่างๆ เช่น สภาหอการค้าอังกฤษแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย-จีน หอการค้าออสเตรเลีย-ไทย หอการค้าไทย-แคนาดา หอการค้าไทย-นิวซีแลนด์ หอการค้าสวิส-ไทย สมาคมหอการค้าไทย-สเปน

 

กลุ่มที่ 3 ภาคเอกชนผู้นำธุรกิจอาหารชั้นนำของไทย เช่น บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพีเอฟ โกล บอล ฟู้ด โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท เบทาโกร จํากัด (มหาชน) บริษัท พี อาร์ จี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

ข่าวที่สอง -รร.ทีเคพาเลซจัดมหกรรมWeddingสนั่นลด20%6-7พ.ค.66

 

โรงแรมทีเค พาเลซฯ แจ้งวัฒนะ จัดมหกรรมส่งเสริมการขายงาน Wedding Showcase” ตลอด 2 วันเต็ม 6-7 พ.ค.นี้ นำทีมเวดดิ้ง แพลนเนอร์ ออกแบบงานครบวงจร หมั้น พิธีสงฆ์ แต่ง ฉลองสมรส รุกเจาะกำลังซื้อตลาดคู่รัก คู่แต่งงาน แจกส่วนลด 20 % พร้อมของแถมมากมาย

โรงแรม ทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น รายงานว่า พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดการขายงาน “Wedding Showcaseอีกครั้ง ระหว่างวันเสาร์ที่ 6 -วันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม 2566 ตั้งแต่ 10.00 -18.00 น. ที่ห้องลาเวนเดอร์ โรงแรม ทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น แจ้งวัฒนะ 15 ตั้งเป้าเจาะกลุ่มคู่รัก มองหาสถานที่จัดงานแต่งงาน เข้ามาร่วมชมงาน ชิมอาหารอร่อย และรับส่วนลดพิเศษสูงสูดถึง 20 % พร้อมของแถมอีกมากมายตลอดงาน 

โดยจะนำเสนอภายใต้ธีม “แต่งงานกับเรา” ด้วยการเนรมิตรูปแบบงานแต่งงานทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่พิธีสงฆ์ พิธีสู่ขอ พิธีหมั้น พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ รูปแบบการจัดการฉลองมงคลสมรส ไอเดียการจัดซุ้มงานแต่ง การตกแต่งโต๊ะอาหารในรูปแบบ โต๊ะจีน บุฟเฟ่ต์ ค็อกเทล ซึ่งทางโรงแรม รังสรรค์เมนูอาหารที่ได้รับความนิยมในงานแต่ง มาให้ผู้เข้าร่วมงานลิ้มรส ในรูปแบบซุ้ม และ คอกเทล ควบคู่กันไปด้วย

คู่รัก หรือคู่แต่งงานที่เข้าร่วม Wedding Showcase ครั้งนี้ จะได้พบกับบริการรับคำปรึกษาการจัดงานแต่งกับ Wedding Planner ซึ่งสามารถดีไซน์การจัดงานได้ทุกรูปแบบ ตามงบประมาณ พร้อมข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ ไฮไลต์สำคัญเมื่อจองจัดงานแต่งกับทางโรงแรมในงาน รับส่วนลดสูงสุดถึง 20 % และของแถมอื่น ๆ มากมาย

สำหรับโรงแรม ทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น มีพื้นที่จัดงานหลายห้อง แต่ละห้องมีสไตล์แตกต่างกันออกไป ทั้งห้องจัดงานหมั้น ห้องฉลองมงคลสมรส รองรับผู้ร่วมงานแต่ละครั้งตั้งแต่ 100-800 คน สอบถามข้อมูลเพิ่มโทร. 02 -5741588 ต่อ 6027 , 063-218 6152 และ e-mail : catering@tkpalace.com https://www.facebook.com/TKPALACEHOTEL/

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง