นายกฯหญิงTEATAนำทั่วไทยปรับธุรกิจรับเทรนด์ทัวร์ไร้คาร์บอน
ผนึก7องค์กรเร่งทำ5ส่วน“ความรู้-เงินทุน-ตลาด-ดีไซน์-เส้นทาง”
นำร่องขาย4ตลาด“คนไทยวัยทำงาน+สูงวัย+ไมซ์”-เลเชอร์ยุโรป
พูลแมนคิงเวอร์ลดบุฟเฟต์10%-ช้อป5สนามบินรับฟรี300บาท
ช้อปFIRSTER
คิงเพาเวอร์มหานคร10แบรนด์อ่านยากยอดขายปัง
ททท.ชู“AmazingPawsThailand”ทัวร์4ขาพาลุยกว่า7.5ล้านตัว
บางจากเปิดปั๊มทั่วไทยขายน้ำมันFURiOแจก3โปรเด็ดถึง31ก.ค.
TCEBแนะ5ข้อเลือกบริษัทจัดอีเวนต์มือโปรประทับใจไม่โดนเท
เที่ยว4พิกัด4เกาะดำน้ำเย็นฉ่ำ“เกาะห้า-ลังกาจิว-สิมิลัน-โลซิน”
7น้ำดื่มสมุนไพรไทยช่วยคลายร้อนดับกระหายดีต่อสุขภาพ
กรมท่องเที่ยวนำแก้เอกชนขาดแรงงานชงครม.3เฟส17เรื่อง
เครือIHGชู5รีสอร์ตเอาใจแฟนคลับ'The White Lotus'ซีซัน3
วันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #TCEB #บางจาก #TEATA #สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย #เที่ยวดับร้อน4เกาะ
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/k4r4WfDcGB/
ช่วงที่ 1
เริ่มแล้ว!! ทัวร์ไร้คาร์บอนกับ “วสุมน เนตรกิจเจริญ นายกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย “TEATA” เปิดแผนปฏิบัติการนายกสมัย 2 รุกต่อยอด “เที่ยวไทยไร้คาร์บอน” เต็มคาราเบล รุกตลาด 4 กลุ่มแรก “ในประเทศ” คนวัยทำงาน+ผู้สูงวัย+ไมซ์ ส่วน “ต่างประเทศ” บุกเปิดตัวใน ITB 2023 ชิงลูกค้ายุโรปกลุ่มเลเชอร์/พักผ่อนเที่ยวไทยมาแรงสุด
ๆ ลุยผนึก 7 องค์กร ขับเคลื่อน 5 ส่วน
“ความรู้-เงินทุน-ตลาด-ดีไซน์โปรแกรมทัวร์ลดคาร์บอน-ดึงนักท่องเที่ยวร่วมบริหารทริปทัวร์ง่าย
ๆ 3 ขั้นตอน คุม 4 แหล่งปล่อย”
เครือข่ายบริษัทนำเที่ยวดีไซน์โปรแกรมทัวร์พร้อมขายปี’66 ได้แล้วเกือบ
100 เส้นทาง
นางสาววสุมน เนตรกิจเจริญ
นายกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย “TEATA” เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับเลือกให้กลับมาเป็นนายกสมัยที่ 2 โดยตั้งเป้าเดินหน้ากลยุทธ์ต่อยอดโครงการ “การท่องเที่ยวแบบคาร์บอนอย่างสมดุล”
หรือ Carbon balance ซึ่งทางสมาคมได้ลงนาม MOU กับ 7 องค์กร จับคู่ในลักษณะทวิภาคีพันธมิตรขับเคลื่อนการสร้างความรู้
ความเข้าใจ และทำการตลาดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2564และปี 2566
พร้อมจะสานต่อกับองค์กรอย่างเข้มข้นทุกมิติการทำงาน
เพื่อกระตุ้นรองรับ 3 กลุ่มตลาด แบ่งเป็น “ในประเทศ” 2
กลุ่มแรก คือ กลุ่มคนวัยทำงานกับกลุ่มผู้สูงวัยซึ่งเข้าใจได้เร็วกว่าทั่วไป
และ “ต่างประเทศ”นำร่องจากสหภาพยุโรปในกลุ่มนักท่องเที่ยวเพื่อการเดินทางพักผ่อน (leisure) ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจมนานแล้ว
โดยเครือข่ายสมาชิกสมาคมได้ทำโปรแกรมทั่วไทยพร้อมวางขายได้แล้วเกือบ 100 เส้นทาง ควบคู่กับการเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรขับเคลื่อน 5 ส่วนหลัก
ส่วนที่ 1 หน่วยความรู้ ร่วมกับองค์การบริหารเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรืออบก./TGO เน้นการสร้างความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้นกระบวนการ “วัด-ลด-ชดเชย” ก้าวเข้าสู่ตลาดยุโรปโดยเชื่อมความร่วมมือทำโครงการ TOUR LINK ได้รับงบประมาณสหภาพยุโรป (EU) เพื่อขยายผลด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่ได้เข้ามาสนับสนุนประเทศไทยด้วย
ส่วนที่
2 หน่วยทุน ได้รับเงินสนับสนุนจาก
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์และวิจัยนวัตกรรม (สวสก.) และ
หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.)
ทำภารกิจอย่างเข้มข้นทางด้านการท่องเที่ยวไทยไร้คาร์บอน หรือ CNT : Carbon
Neutral Tourism อันจะเป็นโยบายหลักของสมาคมเดินหน้าทำต่อเนื่องอีก 2
ปีข้างหน้า
ขณะนี้
TEATA ได้นำองค์ความรู้ถ่ายทอดไปยังสมาชิกผู้ประกอบการเอกชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย
กับได้คัดเลือกเส้นทางท่องเที่ยวไร้คาร์บอนทั่วประเทศได้แล้วไม่ต่ำกว่า 60 เส้นทาง ล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2566 ยังได้นำไปเสนอในเวทีสากลมหกรรมงานซื้อขายท่องเที่ยวรายการใหญ่สุดของโลกงาน
ITB Berlin 2023 นำเสนอโครงการ Thailand Carbon
Neutral Tourism ประกาศให้คู่ค้านานาชาติได้รับรู้ยุทธศาสตร์ของประเทศไทยกำลังเร่งเดินหน้ายุทธศาสตร์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือลดคาร์บอนเป็นศูนย์ทั้งการวัด-ลด-ชดเชย
ลงมือทำอย่างเป็นรูปธรรม
ส่วนที่ 3 ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อวางแผนทางด้าน “ตลาดต่างประเทศ” ปูพรมขายการท่องเที่ยวไร้คาร์บอนต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป หลังเสร็จสิ้นจากเวทีงาน ITB 2023 ทางสมาคมได้หารือสรุปกับนายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา แอฟริกา และตะวันออกกลางเบื้องต้นเมื่อวันที่ 21-30 เมษายน 2566 มีโอกาสนำร่องต้อนรับคู่ค้าตัวแทนบริษัทนำเที่ยวและบริษัทจัดการท่องเที่ยว (DMC) จากยุโรปเดินทางเข้ามาสำรวจพื้นที่จริง และด้าน “ตลาดในประเทศ” กำลังร่วมมือกับ 2-3 ฝ่าย ทำกลยุทธ์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวในประเทศได้รับรู้ถึงการมีส่วนร่วมเดินทางท่องเที่ยวแบบรักษ์โลกพร้อมช่วยลดโลกร้อนไปด้วยกันได้
ส่วนที่
4 ผนึกความร่วมมือด้านตลาดไมซ์
กับทางสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ทางสมาคมให้ความสำคัญกับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น
โดยจัดโปรแกรมท่องเที่ยวก่อนและหลังการจัดไมซ์ (Pre-Post MICE Tour) ของแต่ละองค์กร
นำร่องในตลาดไมซ์ภาคอีสานเป็นพื้นที่แรกเพื่อสร้างการเดินทางไมซ์อย่างยั่งยืน
ส่วนที่
5 ภาคเอกชนมีองค์กรใหญ่ระดับประเทศ ได้แก่ หอการค้าไทย
และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ขณะนี้มีโครงการ “ฮักเอิร์ธ”
ต้องขับเคลื่อนต่อโดยเชิญชวนให้เอกชนเข้ามาร่วมกอดโลกด้วยกันจะทำตลอดปี 2566
ปี 2566 สมาคม TEATA วางกลยุทธ์ให้สมาชิกบริษัทนำเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัยได้ขายอย่างเป็นรูปธรรม
ด้วย 3 กลยุทธ์ ดังนี้
กลยุทธ์ที่
1
คัดเลือกเส้นทางพร้อมกับทำโปรแกรมท่องเที่ยวไร้คาร์บอนแล้วเกือบ 100 เส้นทาง นำไปวางบนแพลตฟอร์มออนไลน์
เพื่อให้เครือข่ายสมาชิกทั่วประเทศเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก กลยุทธ์ที่ 2 ขอความร่วมมือจากสมาคมท่องเที่ยวอื่น ๆ
ร่วมกันขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไร้คาร์บอนเต็มรูปแบบ
กลยุทธ์ที่
3 พื้นที่นำร่องภาคอีสาน
หลังจากได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก สกสว.ตามแผนปี 2566 จะขยายเรื่องการสร้างเครือข่ายการตลาดมากขึ้น
นำร่องปูพรมขายท่องเที่ยว 5 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 4
จังหวัด คือ จ.ขอนแก่น จ.นครพนม จ.อุดรธานี จ.เลย และภาคเหนือ 1
จังหวัด คือ จ.แพร่
สำหรับ
“รูปแบบการท่องเที่ยวรักษ์โลกร่วมลดชดเชยโลกร้อน”
ยังคงความสนุกมีความสุขเหมือนเดิม แต่จะเน้นออกแบบโปรแกรมเดินทางเพิ่มอีก 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย
ขั้นตอนที่
1 กระบวนการเกิดคาร์บอนออกไซด์น้อยที่สุดหรือ Low
Carbon เช่น เลือกใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า
ลดการเกิดขยะหรือของเสียให้มีขยะน้อยที่สุด
ขั้นตอนที่
2 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
โดยใช้เครื่องมือวัดที่มีแพลตฟอร์มสำเร็จรูป สามารถทำได้ง่าย ๆ จาก
อบก.ได้คิดค้นสูตรมาให้เอกชนและนักท่องเที่ยวสามารถใช้งานได้ทันทีและแต่ละทริป
ขั้นตอนที่
3 บริหารจัดการแหล่งจุดปล่อยให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์
ในแต่ละทริปการเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทย จะมี 4 จุดปล่อยหลัก
ได้แก่
จุดปล่อยที่
1 “ยานพาหนะ” ที่ใช้เดินทางเป็นต้นตอสำคัญ
ดังนั้นก่อนออกเดินทาง แนะนำให้วางแผนเลือกเส้นทางลดระยะทางขับรถวนไปมาใช้เวลามากเกินความจำเป็น
หรือเลือกใช้เครื่องยนต์ลดมลพิษ ต่อเนื่องถึงการใช้รถยนต์ระบบไฟฟ้า (EV)
จุดปล่อยที่
2 “ที่พัก”
พยายามเลือกโรงแรมที่ให้ความสำคัญกับมีใจรักษาสิ่งแวดล้อม กลุ่มที่ได้รับเลือกเป็น
Grenn Hotel หรือ Green Leaf
จุดปล่อยที่
3 “อาหาร” ควรจะเลือกเมนูซึ่งใช้วัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นหรือเป็นออร์แกนิกที่เดินทางเข้าไปท่องเที่ยว
เพื่อลดการขนส่งโลจิสติกส์ลงให้ได้มากที่สุด
จุดปล่อยที่
4 “ของเสีย/ขยะ” จะต้องหาวิธีทำให้เกิดน้อยที่สุดตลอดทุกทริปการเดินทาง
สอดคล้องกับ ททท.รณรงค์การท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ (RT
:Responsible Tourism และ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (STG :
Sustainable Tourism Goal)
นางสาววสุมน
กล่าวว่า นับจากนี้เป็นต้นไปจะพลิกโฉมออกแบบการท่องเที่ยวเมืองไทยให้มีประสิทธิภาพเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามามีส่วนร่วมได้ในทุกขั้นตอน
รวมทั้งการ “ชดเชย” ด้วยวิธีจ่ายเงินซื้อคาร์บอน เครดิต (carbon offset)
จะเป็นค่าใช้จ่ายที่ทางบริษัทนำเที่ยวของไทยจะคิดรวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์เป็นจำนวนเงินไม่กี่บาท
เพราะเมื่อนำเข้าสู่กระบวนการ 3 ขั้นตอน + ร่วมมือกันบริหารเพื่อลดคาร์บอนจาก 4แหล่ง
เรียบร้อยแล้ว ก็จะได้ผลลัพธ์ซึ่งเป็นตัวแปร (Emission Factor)
มาใช้คำนวณปริมาณการเกิดก๊าซเรือนกระจกหรือคาร์บอนที่จะต้องซื้อมาชดเชยส่วนเกินที่เกิดการแพร่กระจายขึ้นจากการเดินทางแต่ละทริป
ช่วงริเริ่มโครงการทางสมาคม
TEATA ใช้วิธีนำเงินที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานวิจัยมาจ่ายค่าชดเชยการซื้อคาร์บอนให้นักท่องเที่ยวที่เลือกใช้บริการไปก่อน
เพื่อเป็นโมเดลต้นแบบสร้างความเข้าใจอย่างถูกต้องเรียนรู้และสนุกไปด้วยกัน
โดยเฉพาะปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้าเรื่อง
“ค่าไฟฟ้าราคาสูงขึ้น” การนำตัวเองให้หันมาใส่ใจปัญหาอุณหภูมิโลกร้อนขึ้น
ส่งผลไปถึงการพลังงานสูงขึ้น
หากร่วมมือกันทำให้ทุกเวลาในทุกการเดินทางลดแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนไดออกไซด์ก็จะทำช่วยโลกกลับมายั่งยืนได้นั่นเอง
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 พูลแมนคิงเวอร์ลดบุฟเฟต์10%-ช้อป5สนามบินรับฟรี300บาท
โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ เปิดซื้อคูปองบุฟเฟต์ซีฟู้ดออนไลน์ล่วงหน้า
ที่ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก
ตั้งแต่วันนี้ – 5 พฤษภาคม 2566 สมาชิกคิง เพาเวอร์ ลดเพิ่ม 10% ซื้อแล้วคูปองใช้ได้
29 เมษายน - 7 พฤษภาคม นี้
ตามรายละเอียดดังนี้
1.บุฟเฟต์นานาชาติมื้อกลาง วันวันจันทร์ - วันเสาร์ ราคา 900 บาทสุทธิ ไม่รวมเครื่องดื่ม
(ปกติ 1,150 บาทสุทธิ)
2.บุฟเฟต์ซีฟู้ดบาร์บีคิวมื้อค่ำ วันจันทร์ - วันพุธ ราคา 1,200 บาทสุทธิ รวมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้ง (ปกติ 1,750 บาทสุทธิ)
3.บุฟเฟต์ซีฟู้ดบาร์บีคิวมื้อค่ำเพิ่มปูอลาสก้า วันพฤหัสบดี -
วันอาทิตย์ ราคา 1,500
บาทสุทธิ รวมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้ง (ปกติ 2,250 บาทสุทธิ)
4.บุฟเฟต์ซีฟู้ดซันเดย์บรันซ์ราคา 1,600 บาทสุทธิ
รวมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้ง ฟรีเด็กต่ำกว่า 12 ปี 1 คน (ปกติ 2,590 บาทสุทธิ)
สามารถสอบถามแพกเกจบุฟเฟต์ห้องควิซีน อันปลั๊ก พูลแมน คิง เพาเวอร์
เพิ่มโทร. 02
680 9999
ต่อด้วย “คิง เพาเวอร์” เปิดให้ฉลองเดือนเกิดส่งท้ายหน้าร้อน
“เฉพาะคนไทย” วันนี้ – 31
พฤษภาคม 2566 ที่ คิง เพาเวอร์สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง
เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต และอู่ตะเภา
รับฟรี! คูปองส่วนลด 300
บาท*สำหรับช้อป 1,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
พิเศษ!
ยังไม่ได้เป็นสมาชิกรับสถานะสมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY* เมื่อช้อป
1,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
ข่าวที่ 2 ช้อปFIRSTER คิงเพาเวอร์มหานคร10แบรนด์อ่านยากยอดขายปัง
นักช้อปที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์บิวตี้
และไลฟ์สไตล์ใหม่ ในเครือ “คิง เพาเวอร์” วันนี้ที่ร้าน “เฟิร์สเตอร์ คิง เพาเวอร์
มหานคร : FIRSTER
KING POWER MAHANAKHON” กับสินค้ายอดนิยมอ่านชื่อยากทว่าได้รับความนิยมทำยอดขายดีเป็นอันดับต้น
ๆ 10 แบรนด์
1.ABIB อ่านว่า
เอ – บิบ ABIB สกินแคร์วิถีมินิมอลลิสต์ ฮิตติดลมบนเบอร์ต้นๆ
ของเกาหลี โดยคำว่า ‘เอบิบ’ นั้น แปลว่า ‘เดือนแรก’ ในภาษาฮีบรู
ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของแบรนด์ที่่อยากเป็นสกินแคร์ที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุดตั้งแต่ขั้นตอนแรกของวัฏจักรความงาม
2. BEIGIC อ่านว่า
เบย์ – จิค อีกหนึ่งสกินแคร์ดังจากเกาหลี โดดเด่นสุดๆ ด้วยความเป็นวีแกน
ทุกไอเทมมีสารสกัดจากเมล็ดกาแฟเขียว ซึ่งชื่อ ‘BEIGIC‘ แผลงมาจากคำว่า Beige ที่หมายถึง สีเบจโทนเป็นอินสปายในการสร้างแบรนด์
สื่อถึงความสุขเล็ก ๆ เหมือนแสงลอดหน้าและกาแฟอุ่น ๆ ยามเช้า
เหมือนสกินแคร์จากเมล็ดกาแฟของ BEIGIC
ที่สงต่อความสุขให้ผิวคุณแบบน้อยแต่มากในแต่ละวัน
3. EVIDENS
DE BEAUTE อ่านว่า เอวิด็องส์ – เดอ -โบเต้ ชื่อแบรนด์ฝรั่งเศสจ๋าขนาดนี้
แบรนด์สกินแคร์ชะลอวัยสุดหรูหรานี้เขาเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศส – ญี่ปุ่นนะรู้ยัง
บอกเลยว่าแบรนด์ที่เป็นที่สุดแห่ง Anti-aging
จริงๆ เพราะเขามีสาร QAI Complex และ
Triple Collagen ระดับสิทธิบัตรเฉพาะของแบรนด์ที่ช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัย
แบรนด์เดียวในโลกเท่านั้น
4. DAENG
GI MEO RI อ่านว่า แทง – กิ – โม – ริ แบรนด์แฮร์แคร์ที่ใครก็บอกว่าอ่านชื่อยากมากกกก
แต่จริงๆ แล้วเว้นวรรคหน่อย อ่านตรงตัวได้เลย!
คุณเขาเป็นแฮร์แคร์สมุนไพรพรีเมี่ยมจากเกาหลีที่อัดแน่นสมุนไพรมาแน่นๆ ถึง 33% ทางแบรนด์เค้าทดลองคิดค้นมามากกว่า
12 ปี
โดยพัฒนามาจากตำราสมุนไพรโบราณของแพทย์หลวงสมัยโชซอนอย่าง ทงอึยโบกัม (Donguibogam) ( 동의보감 ) เรียกได้ว่า
ใช้แฮร์แคร์ของ DAENG GI
MEO RI ก็เหมือนได้ย้อนไปสัมผัสการดูแลผมแบบทราดิชั่นนอลอยู่เบาๆ
5. FEMMUE อ่านว่า
ฟาม – มิว FEMMUE นิชสกินแคร์พรีเมี่ยมจากเกาหลี
ที่ถือว่าเป็นตัวแม่วงการคลีนบิวตี้ โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ ‘Flower-therapy’ ใช้สารสกัดจากดอกไม้อย่างดอกคามิเลียและดอกไม้นานาพันธ์
มาสกัดเป็นสกินแคร์ ทาสรักดอกไม้ต้องเข้าแล้ว
6. YAHN อ่านว่า
ญาห์ณ เครื่องหอมแบรนด์ไทยที่เน้นการบำบัดแบบแพทย์แผนไทย แม้จะเป็นคำที่ดูไทยๆ
แต่อาจจะดูแปลกตาไปนิด เพราะ ‘ญาห์ณ’ มาจากคำว่า ญาณ แต่เจ้าแบรนด์เขาได้เติม ห์
เป็นความกิมมิกเข้าไป เป็นคำง่ายๆ พยางค์เดียวใครคนไทยก็อ่านได่
คนต่างชาติก็อ่านออก แถมยังความหมายที่สื่อถึงไอเทมของแบรนด์ที่หอมมมมม
ลึกเข้าไปถึงจิตวิญญาณเลย
7. JYUNKA อ่านว่า
จุง – ก้า แบรนด์สิงค์โปร์ กำเนิดขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ ในเมืองลียง
ประเทศฝรั่งเศส โดยแบรนด์เขามีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านนี้มามากถึง 40 ปี
สกินแคร์ปังๆ ของเขาที่เห็นกันครีเอทภายใต้แนวคิดสุดเก๋ที่เชื่อว่า #BareSkinwithConfidence ผิวธรรมชาติยังไงก็สวยกว่า
ใครที่ไม่ชอบฟาดเมคอัพ ลองเปิดใจให้แบรนด์นี้ดูสักแมตช์!
8. BSAB อ่านว่า
บี – ซา – บี ถึงจะเป็นอโรม่าแบรนด์ไทย แต่ชื่ออินสปายมาจากญี่ปุ่น BSAB ได้แรงบันดาลใจมาจากปรัชญาญี่ปุ่น
‘Wabi-Sabi ‘ ที่เชื่อในเรื่องการเคารพธรรมชาติรอบตัว
และความสวยงามที่ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ
เครื่องหอมของบีซาบีเขาเลยเป็นเครื่องหอมที่รบกวนธรรมชาติน้อยที่สุด
และให้คุณได้ชื่นชมกับสุนทรียภาพของธรรมชาติแบบเรียลๆ
9. OLIO E
OSSO อ่านว่า โอลิโอ – อี – ออสโซ แบรนด์สกินแคร์เจ้าของลิปบาล์มออร์แกนิกที่เซเลบ
ดาราใช้กันทั่วโลก บอกเลยว่าเขาทำมือทุกชิ้นในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน อเมริกา
เน้นความน้อยแต่มาก ปลอดภัย ใช้ง่ายได้ตั้งแต่เด็ก
รวมถึงมีไอเทมยูนิเซ็กส์อีกมากมาย ต้องมาลองแล้วจะรู้ว่าตอบโจทย์ได้จริง
10. AMOLN อ่านว่า
อะ – โมล์น เทียนหอมแก้วสีฟ้าจากสวีเดน
ที่ใครเห็นก็ต้องสตั๊นต์ไปสักพักหนึ่งว่าจะอ่านออกเสียงยังไงดีนะ? จริงๆ
แล้วคำว่า AMOLN (อะโมลน์)
ในชื่อแบรนด์นั้นเป็นภาษาสวีดิช แปลว่า ‘ก้อนเมฆ’
ซึ่งถือว่าเป็นการเลือกใช้คำที่สื่อถึง DNA ของแบรนด์ได้หมดเปลือกจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นโทนสีฟ้าสุดพิเศษของแก้วเทียนและเนื้อเทียน
รวมไปถึงการหยิบเอาเรื่องราวบนท้องฟ้ามาเป็นอินสปายในการสร้างกลิ่นที่แปลกใหม่
ไม่ซ้ำใคร
ข่าวที่ 3 ททท.ชู“AmazingPawsThailand”ทัวร์4ขาพาลุยกว่า7.5ล้านตัว
นายขจรฤทธิ์ ขวัญมงคล
ผู้อำนวยการกลุ่มงานด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ททท. เปิดโครงการ Amazing Happy Paws Thailand จัดทำขึ้นภายใต้แนวคิด
Happy Paws, Happy Pals สี่ขาพาตะลุย เดินหน้าส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวกลุ่มผู้รักสัตว์เลี้ยง
ซึ่งปัจจุบันในไทยตลาดนี้ขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่องมีมูลค่าสูงมหาศาล จึงร่วมกับผู้พัฒนาเว็บไซต์
Pet Friendly Thailand หรือ https://www.petfriendlythailand.com/ นำเสนอศูนย์กลางข้อมูลโปรโมทการท่องเที่ยวรองรับที่ชอบเดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ
ซึ่งปัจจุบันตลาดกลุ่มดังกล่าวมีความพร้อมใช้จ่ายเงินแต่ละทริปเพิ่มขึ้น 20%
โครงการนี้ได้รวบรวมข้อมูลทั่วเมืองไทยทั้งรายชื่อโรงแรม
คาเฟ่ และสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งยินดีให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยง ด้วยกลยุทธ์การจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตรต่อสัตว์เลี้ยง
พร้อมกับคำแนะนำเจ้าของที่เดินทางโดยมีสัตว์เลี้ยงร่วมทางไปด้วย
พร้อมเปิดตัวตราสัญลักษณ์ Amazing Happy Paws Thailand เชิญชวนผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว
ที่ต้องการร่วมสร้าง Pet-Friendly Community สมัครเข้าร่วมแล้วรับตราสัญลักษณ์
Amazing Happy Paws Thailand เพื่อยืนยันความพร้อมใจให้บริการอย่างเป็นมิตรกับทุกครอบครัวที่เดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยงตลอดทุกวัน
จากข้อมูลพบว่าปัจจุบันเมืองไทยมีสัตว์เลี้ยงที่มีเจ้าของอยู่ประมาณ
12 ล้านตัว ซึ่งเจ้าของมีแนวโน้มจะพาไปเที่ยวด้วยกันประมาณ
7.5 ล้านตัว หรือกว่า 62 % จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการท่องเที่ยวอย่างมาก จึงมั่นใจโครงการ Amazing
Happy Paws Thailand จะสามารถเติมเต็มความสุขทางการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวพร้อมทั้งช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยให้กลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง
นายขจรฤทธิ์ กล่าวว่า
ปัจจุบันกระแสตลาดในไทยคนนิยมมีสัตว์เลี้ยงไว้ในบ้านและครอบครัว ทำให้ตลาดอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงในประเทศเติบโตเพิ่มขึ้นมหาศาล
กลุ่มคนเหล่านี้ให้ความรักและเอ็นดูประหนึ่งสมาชิกสำคัญในครอบครัวสร้างปรากฏการณ์ Pet-Humanization ให้ความรักและดูแลสัตว์เลี้ยงเหมือนลูกหลาน
ยินดีใช้จ่ายกับสัตว์เลี้ยง และใช้ชีวิตประจำวันร่วมกัน ส่งผลให้สถานที่ต่าง ๆ
เริ่มพากันปรับตัวเป็นมิตรต่อสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ส่งต่อมาถึงไลฟ์สไตล์การเดินทางท่องเที่ยวพลอยคึกคักตามไปด้วยเช่นกัน
หลังเปิดตัวโครงการ Amazing
Happy Paws Thailand : Happy
Paws, Happy Pals สี่ขาพาตะลุย ททท.และพันธมิตรได้จัดทำแนวทางปฏิบัติและข้อกำหนดเบื้องต้นขึ้น
รวมถึงจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวนำร่องในพื้นที่ศักยภาพ และสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ
เพื่อสร้างการรับรู้สินค้าและบริการท่องเที่ยว
กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย
นางสาว อังศุมาลิน เทพหัสดิน ผู้บริหารเว็บไซต์ Pet Friendly Thailand (PFT) กล่าวว่า “Pet Friendly Thailand – PFT เป็นเว็บไซต์ใหญ่สุดในเมืองไทยที่ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโรงแรม
และคาเฟ่ ซึ่งอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปพักได้ โดยมุ่งมั่นเป็นสื่อกลางสร้างความสุขระหว่างเจ้าของสัตว์เลี้ยงและผู้ประกอบการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์
อำนวยความสะดวกให้การวางแผนท่องเที่ยวกับสัตว์เลี้ยงแสนรักเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่
คลิก-ค้น-จอง
ในการจับมือกับ ททท. ทำโครงการ Amazing Happy Paws Thailand จึงเป็นการตอกย้ำความตั้งใจของการพัฒนาเว็บไซต์ พร้อมจะสร้างโอกาสทางการท่องเที่ยวเพื่อให้บริการกลุ่มนักเดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยงมีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมาะสม
และสะดวกสบายในการดูแลลูกหลานสี่ขา แล้วยังมีส่วนร่วมสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว
Amazing Happy Paws Thailand เปิดแพลตฟอร์มhttps://petfriendly.tourismthailand.org/ เป็นศูนย์รวมข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยง
เหมาะสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวเจ้าของสัตว์เลี้ยง และผู้ประกอบการการท่องเที่ยว และเส้นทางท่องเที่ยวทั่วไทยแบบ
Pet-Friendly เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวเดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยง
แนวทางการปฏิบัติตัวสำหรับการเดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยง
แนวทางการปรับตัวและการให้บริการแบบเป็นมิตรต่อสัตว์เลี้ยงที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการที่พัก
ร้านอาหาร และสถานที่ต้องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยง
เปิดให้ผู้ประกอบการสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการรับตราสัญลักษณ์ดังกล่าวไปใช้เพื่อประชาสัมพันธ์โดยพร้อมและยินดีจะมอบบริการที่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยง
โครงการและดาวน์โหลดตราสัญลักษณ์ได้ทางเว็บไซต์หรือ Line Official Account
@amazinghappypaws
ข่าวที่ 4 บางจากเปิดปั๊มทั่วไทยขายน้ำมันFURiOแจก3โปรเด็ดถึง31 ก.ค.66
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด
(มหาชน) นำเสนอโปรฮอต ทั้งแรงทั้งคุ้ม! เมื่อซื้อน้ำมันหล่อลื่น FURiO รับไปเลย!
บัตรเติมน้ำมันบางจาก ตั้งแต่วันนี้– 31 กรกฎาคม 2566 หรือจนกว่าของจะหมด ที่ปั๊มบางจากที่จำหน่าย FURiO กับ 3 โปรโมชั่น
ดังนี้
โปรที่ 1 เมื่อซื้อน้ำมันหล่อลื่นคุณภาพสูง FURiO รับไปเลย! บัตรเติมน้ำมันบางจากมูลค่า
500 บาท และมูลค่า 200 บาท
โปรที่
2 เมื่อซื้อน้ำมันหล่อลื่น
FURiO สังเคราะห์แท้ 100% FURiO FULLY SYN* รับฟรี
บัตรเติมน้ำมันบางจาก มูลค่า 500 บาท โดยมีน้ำมันหล่อลื่นตามรายการให้เลือก คือ
2.1FURiO FULLY SYN PREMIUM น้ำมันเครื่องยนต์เบนซินสังเคราะห์แท้เกรดพรีเมียม
0W-40 ขนาด 4 ลิตร
2.2 FURiO FULLY SYN น้ำมันเครื่องยนต์เบนซินสังเคราะห์แท้เกรดพรีเมียม
5W-30 ขนาด 4 ลิตร
2.3 FURiO FULLY SYN น้ำมันเครื่องยนต์เบนซินสังเคราะห์แท้เกรดพรีเมียม
5W-40 ขนาด 4 ลิตร
2.4 FURiO FULLY SYN DIESEL น้ำมันเครื่องยนต์ดีเซลสังเคราะห์แท้เกรดพรีเมียม
5W-30 ขนาด 6+1 ลิตร
โปรที่
3 เมื่อซื้อน้ำมันหล่อลื่นกึ่งสังเคราะห์
FURiO SYNTECH*รับฟรี บัตรเติมน้ำมันบางจาก มูลค่า 200 บาท
3.1 FURiO SYN TECH น้ำมันเครื่องยนต์เบนซินกึ่งสังเคราะห์เกรดพรีเมียม
5W-30 ขนาด 4 ลิตร
3.2 FURiO SYN TECH น้ำมันเครื่องยนต์เบนซินกึ่งสังเคราะห์เกรดพรีเมียม
10W-40 ขนาด 4 ลิตร
3.3 FURiO SYN TECH DIESELน้ำมันเครื่องยนต์ดีเซลกึ่งสังเคราะห์เกรดพรีเมียม
10W-30 ขนาด 6+1 ลิตร
3.4 FURiO SYN TECH DIESEL น้ำมันเครื่องยนต์ดีเซลกึ่งสังเคราะห์เกรดพรีเมียม
15W-40 ขนาด 6+1 ลิตร
ข่าวที่ 5 TCEBแนะ5ข้อเลือกบริษัทจัดอีเวนต์มือโปรประทับใจไม่โดนเท
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB”
มีข้อแนะนำเอกชนที่กำลังเตรียมจัดอีเวนต์ ด้วย “5
ข้อต้องรู้ เลือกบริษัทจัดงาน Event” ให้น่าประทับใจ ไม่โดนเท
ทั้งการจัดสัมมนา นิทรรศการ อบรม หรือ Event
ใด ๆ ก็ตาม
หลายคนมักเลือกใช้บริการกับมืออาชีพที่มีความชำนาญแบบเฉพาะทางเพื่อคาดหวังถึงผลลัพธ์ให้ออกมาน่าประทับใจมากที่สุด
แต่ก็อย่างที่รู้ว่ายุคนี้มีบริษัทจัดงาน Event เกิดขึ้นเยอะพอสมควร
คำถามคือแล้วจะเลือกบริษัทไหนดีให้มั่นใจว่าตอบโจทย์ตามเป้าหมาย งานเพอร์เฟกต์
และที่สำคัญไม่โดนเท นี่คือ 5 ข้อที่ต้องรู้
1. รีวิวและผลงานที่เคยผ่านมาเป็นเรื่องสำคัญมาก -ยุคนี้การหาข้อมูลเพื่อซื้อสินค้า /
บริการใด ๆ ก็ตาม สามารถเช็กดูรีวิว ความพึงพอใจจากลูกค้าที่เคยใช้บริการจริงได้
รวมถึงยังอาจขอผลงานเก่า ๆ ของบริษัทจัดงาน Event ที่เคยทำมาก่อนหน้าเพื่อประเมินคุณภาพ
ถือเป็นเทคนิคชั้นยอดที่จะตัดสินใจจ้างง่ายขึ้น
2. มีไอเดียหรือแนวคิดน่าสนใจเมื่อได้พูดคุย -เป็นเรื่องปกติสำหรับใครที่จะจัดประชุม
อบรมใด ๆ ต้องมีการปรึกษาพูดคุยกับทีมงานบริษัท Event ซึ่งคุณสามารถประเมินได้ว่าทีมงานเหล่านั้นมีไอเดียหรือแนวคิดอะไรน่าสนใจจากโจทย์ที่ได้ให้ไว้เบื้องต้นบ้าง
เสมือนเป็นการเช็กความคิดสร้างสรรค์ก่อนตัดสินใจจ้าง
3. ราคามีความเหมาะสม -ยังไงก็มองข้ามไม่ได้เด็ดขาดสำหรับเรื่องราคา
แต่คำว่าเหมาะสมไม่ใช่หมายถึงถูกที่สุด
แต่ต้องเป็นราคาที่คุณประเมินว่าจ่ายแล้วผลงานออกมาน่าประทับใจ คุ้มค่า
แม้ราคาอาจแพงกว่าเจ้าอื่นเล็กน้อยแต่ยินดีจ่ายด้วยความเต็มใจ
4. มีความครบวงจรในหลายด้าน -จริง ๆ แล้วการเลือกบริษัทจัดงาน Event
ไม่ใช่แค่คนออกแบบธีม การตกแต่งภายในงาน แต่ถ้าหากพวกเขามี Connection
ที่ดี หรือครบวงจรในหลาย ๆ ด้าน เช่น มีสถานที่จัดอบรมแนะนำให้
มีบริการอาหารและเครื่องดื่มจากร้านที่มีคุณภาพ บริการช่างกล้อง ฯลฯ
จะช่วยประหยัดเวลาของคุณรวมถึงบริหารจัดการง่ายขึ้นด้วย
5. Option เสริมเพิ่มเติมอื่น
ๆ -นอกจากการเลือกจาก 4
ข้อที่ได้แนะนำมาแล้ว หากบริษัทนั้น ๆ มี Option เสริมอื่นเพิ่มเติมน่าสนใจ
ก็เป็นอีกข้อที่ควรนำไปพิจารณาด้วยเช่นกัน อาทิ โปรโมชั่นพิเศษ การโปรโมทฟรี
มีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้งาน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้งานของคุณออกมาน่าประทับใจ
และมีความสุขได้อย่างดีเยี่ยม
ทั้ง 5 ข้อที่ควรรู้
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาบริษัทจัดงาน Event เพื่อให้งานออกมาดีน่าประทับใจมากที่สุด
ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่แค่การจัดสัมมนา อบรม แต่ยังหมายถึง งานแต่งงาน
งานเลี้ยงบริษัท การจัด Event Marketing และอื่น ๆ ก็สามารถใช้วิธีดังกล่าวได้เหมือนกัน
ช่วงที่ 2 ออกเที่ยวดับร้อนทะเลไทย
สวยสนุก เย็นชุ่มฉ่ำ ใน 4 พิกัด 4 เกาะ
“เกาะห้า” กระบี่ “เกาะลังกาจิว” ชุมพร “เกาะสิมิลัน” พังงา “เกาะโลซิน” ปัตตานี
แล้วฟังให้ชัด ๆ “ดื่ม 7น้ำสมุนไพรช่วยคลายร้อน”
และข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “กรมการท่องเที่ยว”
นำทีมเอกชนแก้ปัญหาใหญ่ขาดแรงงานท่องเที่ยวชง ครม.ช่วย 3 เฟส
17 เรื่อง ข่าวที่สอง “เครือ IHG ชู5รีสอร์ตทั่วไทย” เอาใจแฟนคลับซีรีย์ The White Lotus ซีซัน3
ท่องเที่ยว – เที่ยว4พิกัด4เกาะดำน้ำเย็นฉ่ำ“เกาะห้า-ลังกาจิว-สิมิลัน-โลซิน”
ทริปดับร้อนช่วงซัมเมอร์นี้
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แนะนำให้ออกเดินทางไปสำรวจโลกใต้ทะเลรับความเย็นแบบฉ่ำ
ๆ กับกิจกรรมดำน้ำกันดีกว่า! ในมืองไทยมีทะเลสวยงามติดอันดับโลกเป็นแหล่งดำน้ำยอดนิยมหลายแห่งมาก
ๆ คัดเด็ด ๆ มาให้ลองไป Dive
กัน 4 เกาะ 4 พิกัด สนุก สวย และได้ความเย็นชุ่มฉ่ำ
พิกัดที่
1 เกาะห้า
จ.กระบี่ ตั้งอยู่ห่างจากเกาะลันตาไปทางทิศตะวันตก ราว 20
กิโลเมตร ระดับความลึก มีหลายระดับ จุดที่ลึกที่สุด มีระดับความลึกมากกว่า 50 เมตร
กระแสน้ำในบริเวณนี้ค่อนข้างนิ่ง และใสมาก โดยมีเกาะเล็กเกาะน้อยรวมทั้งหมด 5
เกาะเกาะหนึ่ง เกาะสอง เกาะสาม เกาะสี่ และเกาะห้าใหญ่ซึ่งมีรูปร่างคล้ายใบเรือ
เป็นจุดดำดูปะการังน้ำตื้นที่มีชื่อเสียงอย่างมาก
ส่วนจุดดำน้ำรอบเกาะก็มีความหลากหลายของปะการังหลากชนิดขนาดเล็ก หลากฝูงปลาเล็ก
และขนาดใหญ่ อย่าง ปลากระเบนราหู และ ฉลามวาฬ
บริเวณใต้น้ำทะเลมีปะการังและฝูงปลาหลากหลายชนิด
และระดับน้ำจะมีความลึกหลายระดับด้วยกัน ต้องดำน้ำด้วยความระมัดระวังมาก ๆ และเพื่อความปลอดภัย
ควรสวมอุปกรณ์ดำน้ำและสวมชูชีพทุกครั้งด้วย
พิกัดที่
2 เกาะลังกาจิว"
จ.ชุมพร ตั้งอยู่กลางทะเลอ่าวไทย
ห่างจากชายฝั่งบริเวณอ่าวทุ่งมะขามน้อย อำเภอเมืองชุมพร ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
ประมาณ 8 กิโลเมตร
เป็นเกาะสัมปทานรังนกอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร อำเภอเมือง
มีชายหาดสวยงาม พร้อมแนวปะการังแบบชายฝั่งบริเวณด้านตะวันตกของเกาะมีสภาพสมบูรณ์ดีมาก รวมเป็นพื้นที่แนวปะการัง
ทั้งสิ้น 0.025 ตารางกิโลเมตร ส่วนด้านอื่น ๆ เป็นโขดหินสามารถพบปะการังได้บ้างเล็กน้อย
ติดต่อเช่าเรือชมรอบเกาะลังกาจิวรวมทั้งเกาะใกล้เคียง
ได้ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร โทร. 0 7755 8144
พิกัดที่
3
เกาะสิมิลัน จ.พังงา ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันจะปิดชั่วคราวตั้งแต่วันที่
16 พฤษภาคม 2566 แล้วจะเปิดอีกครั้งตั้งแต่ 15 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป สิมิลัน”
เป็นภาษายาวีหรือมลายู แปลว่า “เก้า” เดิมประกอบไปด้วยเกาะใหญ่น้อย 9
เกาะ เรียงตัวตามแนวทิศเหนือไปทิศใต้ ได้แก่ เกาะบอน เกาะบางู เกาะสิมิลัน
เกาะปายู เกาะห้า เกาะเมียง เกาะปาหยัน เกาะปายัง เกาะหูยง ต่อมาได้รวมเกาะตาชัยเข้าไปเป็นเกาะที่
10
มีความงามทั้งบนบกและใต้น้ำ
สามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก ช่วงที่เหมาะสมแก่การท่องเที่ยวมากที่สุด คือ
เดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน ของทุกปี
เกาะสิมิลัน เป็นเกาะยอดที่เหล่านักท่องเที่ยวนิยมไปพักผ่อน
พร้อมดำน้ำลึกและน้ำตื้นได้ มีขนาดเกาะที่ใหญ่ที่สุดในบรรดา 9 เกาะ โดยมีจุดชมวิวหินเรือใบและหินรองเท้าบูทเป็นเอกลักษณ์ที่ผู้ที่หลงรักอันดามันจำได้ติดตา
ส่วน “เกาะเมียง หรือ เกาะสี่”
จะมีชายหาดสวยงาม ทรายขาวละเอียด และเป็นที่ตั้งของพิทักษ์อุทยานฯ บนเกาะมีสัตว์หายาก
เช่น ปูไก่ นกชาปีไหน เรือต่าง ๆ จะแวะเกาะนี้ เพื่อให้ได้ดำน้ำตื้นชมความสวยงามของท้องทะเล
การเดินทางได้ด้วยเรือสปีดโบ๊ต ด้วยระยะทางหมู่เกาะอยู่ห่างฝั่งต้องใช้เวลาประมาณ
1.30
ชั่วโมง ท่าเรือหลักได้ที่ ทับละมุ หรือซื้อแพคเก็จท่องเที่ยวไปเช้าเย็นกลับได้ ทางอุทยานฯ
ไม่อนุญาตให้พักค้างแรมบนเกาะทุกเกาะ แต่มีร้านอาหาร ร้านค้าสวัสดิการ และห้องน้ำ อยู่ตรงเกาะสี่และเกาะแปด
โทร. 0 7645 3272-73, 0
7645 3275 หรือ www.dnp.go.th
พิกัดที่
4 เกาะโลซิน
อำเภอสายบุรี จ.ปัตตานี
ลักษณะคล้ายภูเขาหินปูนใต้น้ำโผล่พ้นน้ำขึ้นมา อยู่ทางด้านใต้สุดของอ่าวไทย ขึ้นชื่อเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำที่สมบูรณ์มากศูนย์รวมแหล่งส่องดูปลาหายากใต้ทะเลลึก
เมื่อปี 2564
แนวประการังทอดยาวเป็นกิโลเมตรนั้น ถูกปกคลุมไปด้วยตาข่ายอวนลากขนาดใหญ่ เหล่านักดำน้ำจากหลายแห่งทั่วประเทศได้มารวมตัวกันเพื่อช่วยกันทยอยตัด
และเก็บตาข่ายอวนออกจากบริเวณเกาะโลซิน ทำให้พื้นที่ปะการังบนเกาะโลซินกลับมาสวยงามอีกครั้งมาจนถึงทุกวันนี้
ห้ามพลาด!! เที่ยวดับร้อนอย่างชุ่มฉ่ำ
ช่วงเมษายน-พฤศจิกายน นี้ ที่ 4 เกาะ 4 พิกัด สนุกกับความสวยงามโลกใต้ทะเลเมืองไทย
สุขภาพ –7น้ำดื่มสมุนไพรไทยช่วยคลายร้อนดับกระหายดีต่อสุขภาพ
หลายคนบอกว่า
ฤดูร้อนปีนี้อากาศร้อนมากๆ จะไปไหนก็เจอแต่ไอแดดและไอร้อน แม้จะนั่งอยู่เฉยๆ
ในบ้านก็ยังได้รับไอร้อน หลายๆ
คนบอกว่าอากาศร้อนอย่างนี้ทำให้ไม่อยากรับประทานอะไรเลย นึกถึงแต่น้ำและน้ำแข็ง
ที่จะมาช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายลงได้บ้าง
หลายคนจะนึกถึงเครื่องดื่มนานาชนิดที่ทำให้ “ชื่นใจ”
น้ำดื่มสมุนไพรก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยดับกระหายคลายร้อน
แถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย
1.น้ำกระเจี๊ยบ นอกจากจะช่วยแก้กระหายน้ำและทำให้สดชื่นแล้ว
น้ำกระเจี๊ยบยังช่วยขับปัสสาวะ แก้นิ่ว ช่วยย่อยอาหาร และเป็นยาระบายอ่อนๆ
แถมยังช่วยลดไข้และแก้ไอได้อีกด้วย
2.น้ำเก็กฮวย แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ช่วยให้สดชื่น
ลดอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเพราะอากาศร้อน
3.น้ำว่านหางจระเข้ ช่วยบำรุงร่างกาย ทำให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
แถมยังช่วยให้ระบบขับถ่ายดีและท้องไม่ผูก
น้ำดื่มสมุนไพรชนิดนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนนอนดึกและอ่อนเพลีย
4.น้ำรากบัว เครื่องดื่มสมุนไพรชนิดนี้ ได้มาจากรากบัวต้มกับน้ำ
ใช้ดื่มเพื่อดับกระหาย นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณแก้ท้องร่วง แก้ร้อนใน ขับเสมหะ
และบำรุงกำลัง
5.น้ำว่านกาบหอย ทำมาจากใบว่านกาบหอย ใช้ดื่มเพื่อแก้ร้อนใน กระหายน้ำ
และยังแก้ฟกช้ำภายในได้ด้วย
6.น้ำบัวบก เครื่องดื่มสมุนไพรชนิดนี้เป็นที่รู้จักกันดี
ช่วงที่อากาศร้อนแบบนี้ เกือบทุกคนจะนึกถึงน้ำใบบัวบก
น้ำสมุนไพรนี้ได้มาจากใบบัวบกสด มีสรรพคุณแก้เจ็บคอ กระหายน้ำ แก้ช้ำใน
ทำให้สดชื่น และยังช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ด้วย
7.น้ำใบเตย เพิ่มความสดชื่น ช่วยในการบำรุงหัวใจ ลดอาการกระหายน้ำ
ที่สำคัญคือ
อากาศแบบนี้ อย่าปล่อยให้จิตใจเราร้อนตามอากาศรอบกายก็แล้วกัน
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก –กรมท่องเที่ยวนำแก้เอกชนขาดแรงงานชงครม.3เฟส17เรื่อง
นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช
อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้จัดการประชุมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ
ภาคเอกชน และภาคการศึกษาที่เกี่ยวข้อง เมื่อเร็ว ๆ นี้ เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย
หลังสถานการณ์โควิด-19 ต้องเร่งจัดหางาน
พัฒนาทักษะ เพิ่มตำแหน่งงาน ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ได้ให้ความสำคัญและสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งรัฐและเอกชนจับมือกันบูรณาการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องบุคลากรบริการทั้งระยะสั้น
ระยะกลาง และระยะยาว
เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ปัญหาขาดแคลนบุคลากรภาคการท่องเที่ยวและบริการ
ซึ่งทางกรมการท่องเที่ยวได้ขอความร่วมมือในระหว่างการประชุมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งเป็นทั้งหน่วยงานรับผิดชอบการแก้ไขปัญหาแต่ละเรื่อง และดูแลกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
พร้อมจะดำเนินการร่วมกันให้ปัญหาลุล่วงได้หรือไม่ ด้วยการเร่งสรุปแนวทางดำเนินงานที่สามารถทำได้
เพื่อจะได้นำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
(ครม.) มีมติมอบหมายให้ดำเนินการได้ทันทีต่อไป
ล่าสุดวันที่ 20 เมษายน
2566 กรมการท่องเที่ยวได้ข้อสรุปมติที่ประชุม
กำหนดเป็นแนวทางออกการแก้ปัญหา 3
ระยะ รวม 17 เรื่อง
ได้แก่ “แนวทางการแก้ปัญหาระยะสั้นแบบเร่งด่วน” เบื้องต้นเปิดช่องทางเพิ่มการจัดหางานโดยให้แต่ละฝ่ายเข้าใช้งานแพลตฟอร์ม
“ไทยมีงานทำ” มุ่งส่งเสริมการจ้างงานเข้าสู่ระบบด้วย 7
เรื่อง ประกอบด้วย 1.จัดอบรมระยะสั้นเน้นพัฒนาทักษะการทำงาน
2.เพิ่มการศึกษา
3.การจ้างแรงงานต่างชาติแบบชั่วคราว
4.พิจารณาเพิ่มตำแหน่งงานหรือสัญชาติใน
MOU แรงงานต่างด้าว 5.การจ้างงานระยะสั้นแก่ผู้ว่างงานหรือผู้ที่ต้องการหารายได้เสริมและผู้สูงอายุ
6.รับนักศึกษาเข้าฝึกงานและให้ค่าตอบแทนการทำงาน
7.ขยายฐานการจ้างงานให้สามารถจ้างแรงงานที่เป็นยุวชนได้
ตามมาด้วย “แนวทางการแก้ไขปัญหาระยะกลาง”
วางแผนจะขยายผลทำเพิ่มอีก 5
เรื่อง ได้แก่ 1.ปรับปรุงหลักสูตรเน้นการฝึกภาคปฏิบัติ
2.นำมาตรฐานที่เกี่ยวข้องมาปรับเป็นรายวิชาที่จำเป็นในหลักสูตรเพื่อผลิตแรงงานภาคบริการท่องเที่ยว
3.พัฒนาแพลตฟร์อม
“ไทยมีงานทำ” ให้สมบูรณ์มากขึ้น 4.จัดทำ
Credit Bank 5.พิจารณากำหนดอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำของแรงงานต่างชาติในการขอรับการตรวจลงตราประเภท
Non-Immigrant B
ปิดท้ายด้วย
“แนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาว” จะทำเพิ่มให้ครบอีก
5 เรื่อง
ได้แก่ 1.ปรับรูปแบบธุรกิจ
2.ปรับรูปแบบการจ้างงานบางตำแหน่งงานเป็นการจ้างงานรายชั่วโมง
3.ปรับปรุงหลักสูตรการสอนด้านท่องเที่ยวให้มีความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับความต้องการแรงงานของผู้ประกอบการ
4.จัดทำดัชนีชี้นำธุรกิจท่องเที่ยว
สร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้ประกอบการและแรงงานเพื่อการจ้างงานภาคการท่องเที่ยว 5.จัดตั้งกองทุนเพื่อส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจทั่วประเทศ
ข่าวที่สอง –เครือIHGชู5รีสอร์ตเอาใจแฟนคลับ'The White Lotus'ซีซัน3
โรงแรมรีสอร์ตยอดนิยมในเครือ IHG ประเทศไทยชวนร่วมผจญภัยไปกับ White Lotus ขานรับกระแส HBO!! ภาพยนต์ซีรีส์แนวสืบสวนชื่อดัง
'The White Lotus' ซีซัน 3 ซึ่งมีแผนเตรียมถ่ายทำในเมืองไทย
ต่อจากซีซันแรกในฮาวาย ซีซันสองในซิซิลี อิตาลี
ซีซัน 3 มาปักหมุดในไทย ต้อนรับคนที่ชื่นชอบซีรีส์
White Lotus! ซึ่งทางโรงแรมและรีสอร์ต IHG ได้รวบลิสต์สถานที่โดดเด่นเหมาะถ่ายทำซีนตัวละครหน้าใหม่เข้าก๊วน
มีทั้งรีสอร์ตริมทะเลสุดจึ้ง และสถานที่ปลายทางสุดหรู ที่ล้วนเหมาะกับการเปิดฉากเรื่องราววุ่น
ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในซีซันนี้
เตรียมพบกับการเดินทางครั้งใหม่ที่จะพาทุกคนไปสัมผัสประสบการณ์
"วันเดอร์ลัสต์" พร้อมลุ้นไปด้วยกันว่า 'The White Lotus' จะมาพร้อมกับความตื่นเต้น
ใน 5 ทำเล 5 Option ดังนี้
Option 1: อินเตอร์คอนติเนนตัล เขาใหญ่ รีสอร์ต เป็นผลงานของสถาปนิกชื่อดัง บิล
เบนส์ลีย์ (Bill Bensley) ซึ่งมีแนวคิดทางด้านการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
โดยตั้งอยู่บนพื้นที่ 100 เอเคอร์
ล้อมด้วยต้นไม้หลายหลากสายพันธุ์มากกว่า 50,000 ต้นและทิวทัศน์ทะเลสาบถึง
7 แห่ง ที่จะทำให้ทุกคนตื่นตาตื่นใจตลอดการเข้าพัก
ภายในโรงแรมมีห้องพักและห้องสวีทสุดหรูถึง
45 ห้อง ที่ออกแบบตามรถรางในยุคก่อน ๆ นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง
ๆ ที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสปา ฟิตเนสเซ็นเตอร์ และร้านอาหารและบาร์ถึง 5 แห่ง ได้แก่ Poirot French Brasserie, Papillion Jazz Bar, Somying
Kitchen และ Railcar Teahouse รวมถึงพื้นที่จัดกิจกรรมกลางแจ้งที่การันตีประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
Option 2: คิมป์ตัน คีตาเล สมุย สถานที่ผ่อนคลายยอดฮิตตลอดกาลอย่าง คิมป์ตัน คีตาเล
สมุย คงไม่ต้องเล่าอะไรมาก
เพราะความสวยงามและเสน่ห์ของรีสอร์ตบนเกาะเขตร้อนนี้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการพักผ่อนอันเหนือระดับ
ด้วยห้องพักหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ห้องสวีท และวิลล่า ทั้งหมด 138 ห้อง ที่เชื่อมให้เข้ากับธรรมชาติและภูมิปัญญาไทยอย่างลงตัว
ซึ่งทุกคนจะได้สัมผัสความสดชื่นและอิ่มเอมกับร้านอาหารและบาร์แหวกแนวทั้ง 5
แห่ง อีกทั้งยังมีสปาไทยแบบดั้งเดิมที่มีการดัดแปลงให้โมเดิร์นเข้ากับยุคสมัย
นอกจากนี้ยังมีซิกเนเจอร์ของรีสอร์ตอย่างสระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิกที่รายล้อมไปด้วยต้นปาล์ม
ด้วยที่รีสอร์ตนั้นตั้งอยู่ริมชายหาด
จึงมีจุดชมวิวหาดทรายขาวทั่วทุกแห่งภายในโรงแรม และทุกคนยังสามารถเล่นน้ำในสระได้แบบสะดวกสบาย
ด้วยเหตุนี้ คิมป์ตัน คีตาเล สมุย
จึงเป็นที่พักบนเกาะสมุยที่มีครบทุกอย่างสำหรับทุกคน
ไม่ว่าจะเป็นการชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน ตั้งแคมป์ ปิ้งมาร์ชเมลโลว์ เล่านิทาน
หรือแม้กระทั่งคนที่แค่ต้องการพักผ่อน บอกเลยว่าที่พักแห่งนี้มาพร้อมความบันเทิง
สะดวกสบายหลับสบายได้แน่นอน
Option 3: อินเตอร์คอนติเนนตัล เกาะสมุย ตั้งอยู่ในอ่าวตลิ่งงามที่เรียกได้ว่าเป็น
"สวรรค์เขตร้อน" ซึ่งที่นี่มีห้องสวีทและวิลล่าเพียง 79 ห้องเท่านั้น
ทำให้เป็นสถานที่พักผ่อนสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับใครที่มองหาความเป็นส่วนตัว
โดยมีจุดชมวิวเด็ด ๆ มากมายให้ทุกคนได้ชมทิวทัศน์สวยงามของอ่าวไทย เกาะห้า
และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ตลอดจนหาดทรายขาว
และบรรยากาศเขียวชอุ่มขนาดใหญ่กว่า 22 เอเคอร์ โดยมีประสบการณ์สปาสุดหรูที่
บ้านไทยสปา ที่พร้อมให้บริการด้วยบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ ให้ทุกคนได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่
Option 4: อินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ต เป็นสถานที่พักผ่อนริมชายหาดระดับ 5
ดาวที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ตั้งอยู่บนพื้นทรายละเอียดหาดกมลา
และมาพร้อมกับความทันสมัยบนพื้นที่กว้างทอดยาวจากริมชายหาดไปจนถึงไหล่เขา
โอบล้อมด้วยเนินเขาที่ปกคลุมด้วยป่าในฝั่งหนึ่ง
โดยอีกฝั่งจะเป็นวิวที่สวยงามของทะเลอันดามัน
รีสอร์ตแห่งนี้มาพร้อมความหรูหราทันสมัยในทุก ๆ ห้องสวีทและวิลล่าทั้ง 221 ห้อง และพร้อมให้ทุกคนได้ลิ้มลองอาหารจากทั่วทุกมุมโลกด้วยร้านอาหารทั้ง 6
แห่ง รองรับคนที่ต้องการพักผ่อนแบบส่วนตัวก็สามารถนอนเอนบนเตียงอาบแดดและฟังเสียงคลื่นและบรรยากาศของทะเลที่ไปพร้อม
ๆ กัน
หากต้องการความหรูหราเป็นพิเศษ
ทาง อินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ต มีสระว่ายน้ำอลังการถึง 5 สระ และสปาชื่อเก๋อย่าง
"สติ" ที่พร้อมมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่เหนือชั้น
Option 5: อินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งเมืองประวัติศาสตร์อันโดดเด่นของเทศบาลเมืองหัวหิน
เป็นรีสอร์ตเปล่งประกายเสน่ห์จากความเงียบสงบ
นับได้ว่าเป็นที่พักยอดนิยมของบรรดาเชื้อพระวงศ์ บุคคลสำคัญ
และนักเดินทางผู้ทรงเกียรติ รีสอร์ตแห่งนี้ถูกออกแบบอย่างลงตัวด้วยลวดลายโครงข่ายดีไซน์โคโลเนียลภูมิปัญญาท้องถิ่น
และยังได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระราชวังในบริเวณใกล้เคียง
สร้างขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รีสอร์ตแห่งนี้มาพร้อมความหรูหราและบรรยากาศริมทะเล
ด้วยห้องสวีท และวิลล่ารวม 159 ห้อง และพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง
พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น