ททท.ภาคเหนือปลุกซอฟท์เพาเวอร์โกยรายได้สงกรานต์7จังหวัด
ครึ่งหลังปี66รุกขายRoadTripขับรถเที่ยวไขว้ตลาดข้ามภาคสุดคึก
ฮือฮา!!เทรนด์เที่ยวมุมใหม่“วิจิตร5ภาค”จัดกระหึ่มทั่วไทยพ.ค.66
“คิงเพาเวอร์”รณรงค์“ให้โลหิต
ให้ชีวิต”สภากาชาดไทยตลอดปี’66
สมัครใหม่คิงเพาเวอร์SCARLETรับฟรียาดม-ช้อปรับส่วนลด2พัน
ททท.เปิดมิชลินไกด์ปี’67ภาคใต้เพิ่ม“สมุย-สุราษฎร์”รุกตลาดโลก
แวะปั๊มบางจากตลอด“สงกรานต์ปี’66”รับสิทธิพิเศษเพียบทั่วไทย
TCEBโร้ดโชว์“หัวหิน”ปลุกประชุมเมืองไทยเร่งสร้างเศรษฐกิจปี66
เที่ยวสงกรานต์หนึ่งเดียวตำนานแผ่ผ้าเกวียนพระบาทขลุงจันทบุรี
ด่วน!!นอนหลับให้ครบ7-9ชั่วโมงป้องกันอัลไซเมอร์/อ้วน/โรคอื่นๆ
ททท.ผนึกGoProดึงครีเอเตอร์ทั่วโลกบูมขายสงกรานต์ล้านนาปี66
เวียตเจ็ทเปิดรายแรกบินตรง“ฮานอย-ภูเก็ต”19พ.ค.ขายตั๋วโปร50%
ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
วันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #TCEB #บางจาก #ทททภูมิภาคภาคเหนือ #สงกรานต์แห่เกวียนผ้าพระบาทวัดตะปอนใหญ่
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/jN-GX_g9jM/ช่วงที่
1 เปิดเทศกาลทำเงินกับ
“นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
นำภาคเหนือจัดกระหึ่มประเพณีสงกรานต์สร้างรายได้ 7 จังหวัด
เชียงใหม่ เชียงราย สุโขทัย ลำปาง ลำพูน แพร่ แม่ฮ่องสอน วางกลยุทธ์ขายภาคเหนือเที่ยวได้ทั้งปี
ชิมราง เม.ย.-มิ.ย. งัด 3 แผน 1.บูม RoadTrip
ขับรถเที่ยว
เหนือเที่ยวเหนือ เที่ยวข้ามภาค 2.จัดมหกรรมเที่ยวระหว่างภาค ปั้นกลยุทธ์
“คู่ซื้อ-คู่เหมือน-คู่ร่วม” ปะกบคู่ “ล้านนา-ล้านช้าง” 3.โหมงานวิจิตร 5 ภาค ตลอด พ.ค.นี้
นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมความพร้อมพื้นที่ท่องเที่ยวภาคเหนือต้อนรับฤดูร้อนและเทศกาลสงกรานต์ปีแรกหลังโควิด-19 ที่จะได้ฉลองกันอย่างเต็มที่ โดยมีไฮไลต์ 7 จังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย สุโขทัย ลำปาง ลำพูน แพร่ แม่ฮ่องสอน
พื้นที่แรก “เชียงใหม่” ฟื้นฟูประเพณีโบราณสรงน้ำทิพย์ โดยได้นำน้ำมาจากสถานที่ศักดิสิทธิ์ 9 แห่ง แล้วจะมีพิธีหุงพร้อมกับสวดบริกรรม ในวันที่ 10 เมษายน 2566 ที่จัดพระธาตุดอยสุเทพ แล้วจากนั้นจะนำน้ำทิพย์ดังกล่าวแจกจ่ายให้นักท่องเที่ยวและประชาชนที่เข้าร่วมสงกรานต์เพื่อนำไปผสมน้ำสรงน้ำพระทั่วเมืองเชียงใหม่เพื่อความเป็นสิริมงคล
รวมถึงจะมีเทศกาล “ประเพณีปี๋ใหม่เมือง” วันที่ 12-16 เม.ย. ต่อด้วย สืบสานฮีตทอยย้อนรอยปีใหม่ ที่วัดโลกโมฬี วัดโบราณสวยงาม วันที่ 13 เม.ย.จัดขบวนแห่สรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ งานยอสวยไหว้สาพญาเม็งรายปฐมกษัตริย์แห่งเชียงใหม่ จัดประเพณีแห่ไม้ค้ำสะหรี (ไม้ค้ำโพธิ์) และอีกหลากหลายงาน ทางจังหวัดและเทศบาลเมืองเชียงใหม่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกันก็มีเอกชนร่วมจัดด้วย เช่น เซ็นทรัล เชียงใหม่ ศูนย์การค้าเมญ่าจัด Splash Party หรือที่วอเตอร์วอร์ม และประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์จอมทอง
พื้นที่ 2 ลำปาง จะเริ่มวันที่ 12 เม.ย.นี้ ทำพิธีแห่สลุงหลวงหรือขันน้ำทำจากเงินแล้วใส่ขมิ้นส้มป่อยที่จะใช้สรงน้ำพระลงไป
พื้นที่ 3 ลำพูน จัดสงกรานต์ป่าซาง ปีนี้ได้รื้อฟื้นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
พื้นที่ 4 เชียงราย จัดสงกรานต์เด่น ๆ มี 3 อำเภอคือ เชียงของ แม่สาย และในอำเภอเมือง
พื้นที่ 5 จังหวัดแพร่ จะจัดปิดท้าย สงกรานต์วันไหล ในวันที่ 17 เม.ย.หรือสงกรานต์ม่อฮ่อม ปิดถนนเจริญเมือง สวมเสื้อม่อฮ่อมมาเล่นน้ำกันเต็มพื้นที่ ส่วนวันที่ 12-16 เม.ย.แต่ละพื้นที่จะจัดสงกรานต์ตามประเพณีด้วยเช่นกัน
พื้นที่ 6 จังหวัดสุโขทัย มีสงกรานต์เมืองเก่า แห่ช้างบวชนาคไทยพรวน บ้านหาดเสี้ยว เริ่มตั้งแต่ 7 เม.ย.นี้ จากนั้นพื้นที่มรดกโลกก็จัดด้วยอย่าง อำเภอศรีสัชนาลัย มีสรงน้ำโอยทาน สงกรานต์และเทศกาลอาหารสวรรคโลก และเทศกาลเสื้อลายดอกถนนข้าวตอก ระหว่าง 12-15 เม.ย.นี้
พื้นที่ 7 จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในอำเภอปายได้รื้อฟื้นมีพิธีขบวนแห่พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ วันที่ 13 เม.ย.หลังจากนั้นจะจัดคล้าย “สงกรานต์วันไหลปาย” เป็นพื้นที่เล่นน้ำปายเชิงสะพานแม่ฮี้ กิจกรรมล่องห่วงยางจะนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่แห่งนี้ด้วย
โดยสรุปแล้วหลายพื้นที่ในภาคเหนือได้รื้อฟื้นประเพณีสงกรานต์แบบดั้งเดิมขึ้นมาเชิญชวนไปท่องเที่ยวตามธีมปี
2566
ย้อนเสน่ห์วันวาน เมืองเหนือ ให้โดดเด่นตลอดสงกรานต์เมษายนนี้
ผอ.ภัทรอนงค์กล่าวว่า
การวางแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวภาคเหนือช่วงครึ่งหลังปีงบประมาณ 2566 เริ่มตั้งแต่เมษายน-มิถุนายน
ของแต่ละปีจะเป็นช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวหรือ Low Season ซึ่งปีนี้จะพลิกจุดขายเน้นส่งเสริม
“ท่องเที่ยวหน้าฝนด้วยแคมเปญ Road Trip” ขับรถเที่ยวเหนือเที่ยวเหนือทั้งตอนบน
เชียงใหม่-ลำพูน-ลำปาง เชียงราย-แพร่-น่าน และตอนล่าง อุทัยธานี-นครสวรรค์-พิจิตร
จัดทำ 3 เส้นทางหลัก
1.Romantic Route 2.ย้อนวันวานเมืองเหนือ
3. เจาะ 3 กลุ่ม
วัยรุ่น วัยทำงาน สูงวัย เพื่อเพิ่มการท่องเที่ยว “กรีนซีซัน”
ทำให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวภาคเหนือได้ตลอดทั้งปี All Year Round
ขณะนี้ภาคเหนือมี
“นักท่องเที่ยวต่างชาติ” เข้าพื้นที่แล้ว
ต้นเดือนเมษายนนี้มีคาราวานนักท่องเที่ยวจากเมืองคุนหมิง สาธาณรัฐประชาชนจีน
มาร่วมสนุกเทศกาลสงกรานต์รวมกว่า 1,000 คน
แล้วก็จะเร่งเพิ่มนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่เพื่อให้มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยตามเป้าเกินกว่า
70 % ส่วน
“ตารางบินฤดูร้อน” เริ่มตั้งแต่ปลายมีนาคม-ตุลาคม 2566 โดดเด่นคือ
“เชียงใหม่”
มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลผ่านเข้ามาทางสนามบินนานาชาติเชียงใหม่เดือนละกว่า 300,000 คน
และเทศกาลสงกรานต์อาจจะเพิ่มเป็น 350,000 คน
และอาจจะมีนักท่องเที่ยวผ่านเข้ามาทางด่าน เช่น ห้วยก๋วน
และด่านรอยต่อของภาคเหนือด้วย
ผอ.ภัทรอนงค์
กล่าวว่า กิจกรรมไฮไลต์โครงการหลักของ ททท.ตลาดในประเทศ คือ “วิจิตร 5 ภาค”
กระจายจัดทั้งโดยใช้นวัตกรรมแสง สี สวยงามตระการตา 5 ภาค เริ่มจุดแรก “กรุงเทพฯ”
เริ่มต้นเดือนพฤษภาคม จุดที่ 2 ภาคตะวันออก “วิจิตรบูรพา จ.ระยอง” 6-14
พ.ค.จะนำเสนอการเดินท่องเที่ยวในสวนพฤกษศาสตร์ จุดที่ 3 ภาคอีสาน
จ.นครพนม จุดที่ 4 ภาคใต้
จ.นครศรีธรรมราช จัดพร้อมกัน 13-21 พ.ค.
จุดที่ 5 ภาคเหนือ
จ.เชียงราย 28
พ.ค.จะใช้ความโดดเด่นของสถาปัตยกรรม หอนาฬิกา โบสต์คริสต์จักร วัดในตัวเมือง
และอื่น ๆ อยู่ในเส้นทางทั้งหมด มองเป็น“แสงแห่งเมืองเจียงราย” จึงจะใช้ธีม Way of Life ตกแต่งแสงสีเสียง
ให้นักท่องเที่ยวเดินเป็นวอล์คเวย์ อาจจะใช้พานหะท้องถิ่นมาตกแต่งประดับไฟ
นำเที่ยวพร้อมเล่าเรื่องราว
นอกจากนี้
ททท.ยังจะเพิ่มจุดขายวิจิตรแต่ละเรื่องเพื่อสร้างการรับรู้
และขานรับกระแสการท่องเที่ยว เช่น เส้นทางท่องเที่ยวเชิงอาหาร
หรือแต่งไทยไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ
เช่นเดียวกับปัจจุบันกระแสนักท่องเที่ยวจีนแต่งไทยไปตามเดินตามแหล่งท่องเที่ยววัดวาอารามต่าง
ๆ ในเมืองไทย
โครงการ
“มหกรรมเที่ยวข้ามภาค” คอนเซ็ปต์นำหมู่บ้าน 5 ภาค รวบรวมโรงแรม ร้านอาหาร
บริษัทนำเที่ยว บริษัทจัดการแสดง ต่าง ๆ
นำเสนอไฮไลต์แต่ละภาคแล้วเปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาเลือกช้อปปิ้ง ขณะนี้มี
“กรุงเทพฯ” กำหนดจัดงานนี้ ช่วงเดียวกับการจัดงาน TTM :Thailand Travel Mart 2023 ปีนี้เชิญตัวแทนผู้ซื้อจากทั่วโลกเข้ามาจับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ขายกลุ่มประกอบการคนไทย
จะจัดระหว่าง 31 พฤษภาคม-3 มิถุนายน
2566 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ทางกรุงเทพฯ จะจัดมหกรรมเที่ยวข้ามต่อเนื่องในวันที่ 2-4 มิถุนายน
จัดที่เดียวกันกับ TTM
2023
รวมทั้งจะจัด
“เที่ยวระหว่างภาค” ได้แก่ “ภาคเหนือกับภาคอีสาน” นำผู้ประกอบการ “ล้านนา” พบ
“ล้านช้าง” เดินทางไปเจรจาธุรกิจแบบ B2B กัน ระหว่างวันที่ 9-11
มิถุนายน นี้ ที่จังหวัดขอนแก่น สกลนคร อุดรธานี
อีกทั้งในภาคเหนือยังมีการจับคู่ท่องเที่ยวข้ามภาคกับอีกหลายจังหวัดในภาคต่าง
ๆ ประกอบด้วย
คู่ที่ 1 เชียงใหม่-กระบี่
โดยมีเที่ยวบินข้ามภาค ซึ่งได้รับความสนใจค่อนข้างมาก เพราะคนเหนือก็อยากเที่ยวใต้
และคนใต้ก็อยากมาชมวัฒนธรรมทางเหนือ คู่ที่ 2 อยุธยา-สุโขทัย จับคู่เมืองมรดกโลก
เพื่อนำไปขายตลาดโลก คู่ที่ 3 “ตราด-น่าน” เมืองคู่แฝดโลว์คาร์บอน
ซึ่งอาจจะมีหลายรูปแบบมา “คู่ร่วม” ร่วมกันขายการท่องเที่ยว หรือ “คู่ซื้อ”
ที่แลกเปลี่ยนการท่องเที่ยวกันในแต่ละภาค หรือ “คู่เหมือน”
ในจังหวัดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
ปี 2566 ททท.เน้นจุดขายการท่องเที่ยวเพิ่มคุณค่า
Meaningful travel โดยเพิ่มความแตกต่างด้วยประสบการณ์ใหม่
ๆ โดยใช้หัวใจสร้างสรรค์สินค้า และการเชื่อมโยงรูปแบบต่าง ๆ
นำเสนอเพื่อกระตุ้นคนไทยเดินทางท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ๆ ให้ได้มากที่สุด
“ภาคเหนือ”
เที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะจุดขายใหม่ “เที่ยวเหนือหน้าฝน”
มีความเขียวขจีมีสายหมอกขาวสวยงาม หรือเส้นทางศิลปะหัตถกรรม Art & Craft ได้ตั้งแต่ปลายพฤษภาคม-กันยายน
ของทุกปี
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่
1 คิงเพาเวอร์รณรงค์“ให้โลหิต
ให้ชีวิต”สภากาชาดไทยตลอดปี’66
นายอัยยวัฒน์
ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง
เพาเวอร์ และกรรมการ มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา เปิดเผยว่า ได้นำกลุ่มบริษัท คิง
เพาเวอร์ และมูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา สานต่อปณิธานของ “คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา” ผู้ที่มีหัวใจแห่งการให้ไม่มีที่สิ้นสุด นำไปสู่เจตนารมณ์อันแน่วแน่ที่พร้อมจะส่งต่อ “การให้” อย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดกิจกรรม “ให้โลหิต
ให้ชีวิต” ตลอดปี 2566 มุ่งเชิญชวนพนักงานของกลุ่มบริษัทมาร่วมบริจาคโลหิตให้ทางศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ
สภากาชาดไทย
ด้วยปณิธานอันแน่วแน่เรื่องการ
“ให้” ครอบคลุมทั้งเรื่อง การให้โอกาสและให้ชีวิต ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ
ต่อเนื่องมาตลอด เมื่อเร็ว ๆ นี้ ริเริ่มจัด “ให้โลหิต ให้ชีวิต” เป็นกิจกรรมแรกจัดขึ้นที่
คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยการเชิญชวนผู้บริหาร
และพนักงานบริษัททุกคนร่วมกันบริจาคโลหิต ให้กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ
สภากาชาดไทย
ตลอดปี
2566 วางแผนจะจัดกิจกรรม
“ให้โลหิต ให้ชีวิต” เบื้องต้น 3 สาขา ได้แก่ ที่ คิง
เพาเวอร์ รางน้ำ และคิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวม 3 ครั้ง
คือ วันที่ 3 เมษายน
วันที่ 3 กรกฎาคม และ วันที่ 9 ตุลาคม 2566 และที่ คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต อีก 3 ครั้ง วันที่ 7 เมษายน
วันที่ 11 กรกฎาคม วันที่ 12 ตุลาคม 2566 รวมทั้งจะขยายไปจัดกิจกรรมดังกล่าว
ที่ คิง เพาเวอร์ สาขาอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ถือเป็นการส่งต่อการ “ให้โลหิต ให้ชีวิต” สร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่ช่วยต่อชีวิตให้กับเพื่อนมนุษย์
ร่วมกันทำความดี ทำให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตลอดไป
เนื่องจากการบริจาคโลหิตถือเป็นการ
“ให้” ที่ยิ่งใหญ่ เป็นการต่อชีวิตและลมหายใจให้กับเพื่อนมนุษย์
ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ต่อเนื่องเป็นประจำทุกไตรมาส
เป็นการช่วยส่งเสริมและสร้างจิตสำนึกในการทำความดีให้กับทุกคน
และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้พนักงานได้ทำความดีอย่างต่อเนื่อง จึงได้ร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติฯ
จัดรถรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่มาบริการตลอดปีนี้
ข่าวที่
2 สมัครใหม่คิงเพาเวอร์SCARLETรับฟรียาดม-ช้อปลด2,000บาท
คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ต้อนรับซัมเมอร์นี้ชวนฉลองสงกรานต์แบบสุดซิ่ง! อวดแฟชั่นแบบไทยไทยในสไตล์ของคุณ ร่วมสนุกใส่ชุดไทยสุดซิ่ง เพียงสมัครสมาชิกใหม่ “SCARLET” แล้วเติมเงิน
20,000 บาท
เพื่อสนุกกับกิจกรรม “แชะ แชร์ เช็กอิน” รับฟร*!
ยาดม Pastel
ทำง่าย ๆ ถ่ายรูปชุดไทย + เช็กอิน และโพสต์ลง Social Media เปิด
Public ติด#KINGPOWERSONKRAN2023
แล้วจากนั้นก็พาไปซิ่ง ช้อปปิ้ง สไตล์คน HOT! 1ก่อนช้อปไอเทมร้อนแรง ท้าหน้าร้อนมาลุ้นรับคูปอง
ส่วนลดสูงสุด 2,000 บาท เริ่มตั้งแต่วันนี้-17 เมษายน 2566 เพียงลงทะเบียนก่อนช้อป
ลุ้นรับคูปองส่วนลดที่ Redemption Counter คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และ ที่ Member Service คิง เพาเวอร์
ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต
1.ส่วนลด 500 บาท สำหรับช้อป 10,000 บาทขึ้นไป
(สุทธิ)/ใบเสร็จ
2.ส่วนลด 1,000 บาท สำหรับช้อป 10,000 บาทขึ้นไป
(สุทธิ)/ใบเสร็จ
3.ส่วนลด 2,000 บาท สำหรับช้อป 10,000 บาทขึ้นไป
(สุทธิ)/ใบเสร็จ
ข่าวที่ 3 ททท.เปิดมิชลินไกด์ปี’67ภาคใต้เพิ่ม“สมุย-สุราษฎร์”รุกตลาดโลก
มิชลิน
ไกด์ ประเทศไทย รายงานว่า
เตรียมจัดพิมพ์คู่มือฉบับประจำปี 2567 ช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2566 โดยจะขยายขอบเขตการคัดเลือกร้านอาหารไปยัง
“สมุย” ซึ่งเป็นเกาะแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
มีขนาดใหญ่อันดับสองรองจากเกาะภูเก็ต จึงมุ่งคัดสรรและจัดอันดับร้านอาหารเจาะลึกเอกลักษณ์และวัฒนธรรมเพิ่มเติมเรื่องอาหารภาคใต้ใน‘มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย’ เพิ่มจากปี 2562 มีอยู่แล้ว 2 จังหวัด คือ ภูเก็ต กับพังงา รวมทั้งจะตอกย้ำความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายของอาหารไทยให้นักชิมทั่วโลกได้รับรู้อย่างเต็มที่
มร.เกว็นดัล ปูลเล็นเนค
ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน
ไกด์’ ทั่วโลก เปิดเผยว่า ทางผู้ตรวจสอบของมิชลิน ไกด์ พบจุดเด่นของเกาะสมุยและสุราษฎร์ธานีมีมนต์เสน่ห์และสิ่งที่น่าสนใจรอให้ค้นพบมากมาย
ปัจจัยทั้งหมดเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ผู้ตรวจสอบของมิชลิน ไกด์ รู้สึกประทับใจอย่างยิ่ง
ทั้งธรรมชาติอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรม
อาหารโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวรสชาติเข้มข้น โดยมีอาหารถิ่นหลายชนิดไม่สามารถหาได้ในภาคอื่นของไทย
อีกทั้งมีวัตถุดิบท้องถิ่นสดใหม่ โดยเฉพาะอาหารทะเลในพื้นที่มีองค์ประกอบสำคัญความอร่อยด้วย
แถมคนท้องถิ่นยังมีอัธยาศัยเป็นมิตรอบอุ่น
จุดขายของ “สุราษฎร์ธานี” ตั้งอยู่ติดชายฝั่งทะเลอ่าวไทยใกล้กับปากแม่น้ำตาปี
ขึ้นชื่อว่าเป็น “เมืองร้อยเกาะ” เพราะมีพื้นที่ครอบคลุมหมู่เกาะจำนวนมากรวมถึงเกาะสมุย
เกาะพะงัน เกาะเต่า และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ด้วยทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์
จึงเป็นแหล่งผลิตอาหารหลักของภูมิภาคและทั้งประเทศ
โดยมีสินค้าขึ้นชื่อ ได้แก่ หอยนางรม กุ้งแม่น้ำ
ไข่เค็มทำจากไข่เป็ด ขณะเดียวกัน “เกาะสมุย” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับนักท่องเที่ยวครบครัน
รวมถึงมีร้านอาหารไทยและร้านอาหารนานาชาติให้เลือกมากมาย มีโรงแรมที่พักหลายรูปแบบ
ตั้งแต่โรงแรมระดับ 5 ดาว รีสอร์ทหรูระดับโลก
โรงแรมสไตล์บูติกในท้องถิ่น และที่พักราคาย่อมเยาเข้าถึงได้
ดร.ยุทธศักดิ์
สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน
ไกด์’ ประเทศไทย มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของไทยให้เติบโต
เพิ่มประสบการณ์ท่องเที่ยวด้านอาหารท้องถิ่นช่วยสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกกระตุ้นนักท่องเที่ยวตัดสินใจและเพิ่มคุณค่าให้เดินทางมาไทย
ดังนั้น “อาหาร” เป็น “ซอฟต์พาวเวอร์” สร้างอิทธิพลทางวัฒนธรรมระดับโลกดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย
หลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ทางธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารในเกาะสมุยและสุราษฎร์ธานีเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวที่ดี
รวมถึงเศรษฐกิจท้องถิ่นเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง เมื่อปี 2565 จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปรียบเทียบกับปี 2564 มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากเป็นอันดับ
1 ของประเทศ สามารถทำรายได้จากการท่องเที่ยวมากกว่า 900 % จากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 600 %
ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์
กล่าวว่า การทำคู่มือ “มิชลิน ไกด์” ประจำปี 2567 ด้วยวิธีขยายขอบเขตเข้าไปจัดอันดับร้านอาหารบนเกาะสมุยและในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
จะช่วยสร้างประโยชน์ 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 สร้างโอกาสให้ธุรกิจร้านอาหารในท้องถิ่นได้ต้อนรับนักชิมจากทั่วโลกให้มาสัมผัสรสชาติและวัฒนธรรมอาหารเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว
เรื่องที่ 2 คู่มือมิชลินจะเป็นสื่อกลางนำเสนอการท่องเที่ยวเชิงอาหารทั่วประเทศไทยแต่ละปีอย่างเจาะลึกมากขึ้น
เป็นพลังกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสกับความหลากหลายและความอุดมสมบูรณ์ของอาหารไทย
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปดูคู่มือ “มิชลิน ไกด์” ได้ที่: guide.michelin.com/th/th และติดตามมิชลิน ไกด์ ประเทศไทย
ฉบับประจำปี 2567 ได้ทาง facebook.com/MichelinGuideThailand
ทั้งนี้
ททท.ได้ทยอยเปิดคู่มือ “มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย” ไปแล้ว ประกอบด้วย กรุงเทพฯ
ปี 2561 “ภาคใต้” ภูเก็ตและพังงา ปี 2562 และเตรียมเปิดเพิ่ม เกาะสมุย กับจังหวัดสุราษฎร์ธานี ป2567 “ภาคเหนือ” เชียงใหม่ ปี 2563 “ภาคกลาง” พระนครศรีอยุธยา
ปี 2565 “ภาคอีสาน” ต้นปี 2566
ข่าวที่ 4 แวะปั๊มบางจากตลอด“สงกรานต์ปี’66”รับสิทธิพิเศษเพียบทั่วไทย
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า
บางจากสนับสนุนการใช้รถยนต์เดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์
มอบสิทธิพิเศษให้ผู้ใช้บริการบางจาก 3 กิจกรรม ประกอบด้วย
กิจกรรมที่ 1 ร่วมกับ ศูนย์บริการคาร์แคร์
FURiO
Care และ Wash Pro ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก
ให้ใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้– 30 มิถุนายน 2566
รับส่วนลดผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น
FURiO สูงสุด 30% พร้อมฟรีค่าแรงเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และได้ร่วมกับกรมการขนส่งทางบกให้บริการตรวจเช็ครถฟรี 11
รายการ เตรียมรถให้พร้อมและเพิ่มความมั่นใจตลอดเดินทาง
ตรวจสอบสาขาที่ www.bcpcarcare.com
ตรวจรถฟรี
ขับขี่ปลอดภัย ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันนี้- 30 มิถุนายน 2566 ฟรีค่าแรงเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
เมื่อซื้อน้ำมันเครื่องที่ศูนย์บริการ ตรวจเช็คฟรี 11 รายการ ส่วนลดน้ำมันเครื่องสูงสุด 30%
กิจกรรมที่ 2 รณรงค์ใช้บริการ EV Quick
Charging Station ที่ปั๊มน้ำมันบางจาก 184 สาขา
ครอบคลุมทั่วไทยตั้งอยู่บนถนนสายหลักทุกระยะ 100 กิโลเมตร รองรับรถ EV หลายรุ่น หลายยี่ห้อ เพื่อให้ผู้ใช้รถได้แวะชาร์จแบตรถ พักดื่มกาแฟอินทนิลเพื่อผ่อนคลาย ดูสถานีที่มี EV
Charging Station ได้ที่ Bangchak Mobile Application
กิจกรรมที่ 3 สถานีเติมอิ่ม อร่อยกับอาหารหลากหลายเมนูเด็ดร้านดังที่ปั๊มน้ำมันบางจากบนเส้นทางสายหลัก อาทิ
ร้านหอมเคย ร้านหนำ ร้าน Cuppa Cottage ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ด.ช.โก๋น
ร้านมิดไนท์ไก่ตอนประตูน้ำ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือทัพพ์ทอง ร้านไก่ทอดเดชา
ร้านห่อเกี๊ยว ร้านสยามสะเต็กเอ็กซ์ตร้า ร้านนับแคล ร้านกาโตว์ เฮ้าส์ เพื่อให้นักเดินทางได้แวะเติมน้ำมันและเติมพลังด้วยความสะดวก
รวดเร็ว สะอาด
ทั้งนี้ ปั๊มน้ำมันบางจากทุกแห่งยังมีความสะดวกสบายอีก 3 บริการ
ไว้รองรับนักเดินทางตลอดสงกรานต์นี คือ
1.ห้องน้ำสะอาด ปลอดภัยและเพียงพอ รองรับลูกค้าและนักเดินทาง
เพิ่มความถี่ดูแลทำความสะอาดฆ่าเชื้อบริเวณประตู สุขภัณฑ์ จุดสัมผัสต่าง ๆ
ด้วยแอลกอฮอล์ อย่างสม่ำเสมอ 2.ได้สำรองน้ำมันและเพิ่มจำนวนรถขนส่ง ทั้งที่สถานีบริการและคลังน้ำมันทุกภาค
รวมทั้งเพิ่มจำนวนรถขนส่งให้เพียงพอกับความต้องการ และ 3.เตรียมพร้อมให้บริการ
โดยเพิ่มกำลังคนดูแลการจราจรและอำนวยความสะดวกภายในปั๊มน้ำมันทุกแห่ง พร้อมทั้งมีร้านสะดวกซื้อท็อปส์
เดลี่ แฟมิลี่ มาร์ท ร้านใบจาก มินิบิ๊กซี เพียบพร้อมด้วยเครื่องดื่ม อาหาร
สินค้าอุปโภคบริโภค ของใช้จำเป็น และบริการตู้เอทีเอ็ม
แวะปั๊มบางจากจบครบทุกบริการ
ข่าวที่
5 TCEBลุยโร้ดโชว์“หัวหิน”ปลุกประชุมเมืองไทยเร่งสร้างเศรษฐกิจปี66
นายสุวัชชัย นิมมานเทวินทร์
ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคกลาง (องค์การมหาชน) “TCEB” ทีเส็บได้สนับสนุนหน่วยงาน
หรือองค์กรที่ดำเนินการจัดประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในประเทศปี 2566
ด้วยโครงการ
“ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย”
เพื่อเร่งกระตุ้นนักเดินทางไมซ์และสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศ
โดยใช้กลไกการสนับสนุนเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการจัดงานไมซ์ทั่วประเทศเพิ่มขึ้น
ทั้งยังเป็นการกระจายรายได้ไปสู่ทุกภูมิภาคอีกด้วย
ล่าสุดทีเส็บนำผู้ประกอบการไปทำโรดโชว์ในภาคตะวันตกที่
“หัวหิน” เพื่อสร้างความมั่นใจช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย กระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศ ขึ้นที่โรงแรมฮอลิเดย์
อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
เพื่อร่วมขับเคลื่อน “หัวหิน”
เมืองตากอากาศชายทะเลขึ้นชื่อไทย เป็นพื้นที่มีศักยภาพและความพร้อมครอบคลุมทุกด้านเพื่อเป็นทางเลือกผู้ประกอบการพิจารณาเป็นสถานที่จัดงานไมซ์ได้อย่างดีเยี่ยม
ทั้งทะเลสวยงาม สิ่งอำนวยความสะดวกครบ เดินทางจากกรุงเทพฯ ง่ายไม่ไกล มีศูนย์ประชุมและสถานที่จัดงานรองรับการจัดประชุมสัมมนาโดยมีมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย
TMVS
ตลอดโร้ดโชว์ทีเส็บได้เชิญผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้านขึ้นเวทีสร้างความรู้ความเข้าใจ
จัดบรรยายเรื่อง “จับตาชีพจรไมซ์ปี 2566” โดยนายภูมินทร์
มีถาวรกุล ผู้ปฏิบัติการอาวุโส ฝ่าย MICE Intelligence และนวัตกรรม
พร้อมกับมี Thai MICE Connect: Exclusive Clinic เปิดคลินิกให้คำปรึกษาแนะนำการใช้งาน
Thai MICE Connect แบบตัวต่อตัวกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงาน
สำหรับ “ประชุมเมืองไทย
เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” เป็นโครงการสนับสนุนงบประมาณการจัดงานไมซ์ให้แก่ผู้ประกอบการและนิติบุคคลตามกฎหมายที่มีแผนการจัดการประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในประเทศ
โดยต้องมีการจัดกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งใน 7 ประเภท ได้แก่
กิจกรรมที่ 1 การประชุม (Meetings) กิจกรรมที่ 2 การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentives) กิจกรรมที่ 3 สัมมนา (Seminars) กิจกรรมที่ 4 การอบรม (Training) กิจกรรมที่ 5 เพื่อสังคม (CSR) กิจกรรมที่ 6 พนักงานสัมพันธ์ (Outing) และกิจกรรมที่ 7 ศึกษาดูงาน (Field trip)
โดยมีกติกาให้สนับสนุน 2 รูปแบบ คือ 1.งบสนับสนุนไม่เกิน 15,000 บาท ให้การสนับสนุนจำนวน 650 กลุ่ม
สำหรับการจัดกิจกรรมเป็นระยะเวลา 1 วัน และ 2. งบสนับสนุนไม่เกิน 30,000 บาท ให้การสนับสนุนจำนวน 350
กลุ่ม สำหรับการจัดกิจกรรมอย่างน้อย 2 วัน 1
คืน โดยขอรับการสนับสนุนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน
– 22 สิงหาคม 2566 ดูรายละเอียดทั้งหมดใน
www.thaimiceconnect.com
ทีเส็บตั้งเป้าหมายให้องค์กรสมัครเข้าร่วมขอรับการสนับสนุน
1,000 กลุ่ม มีนักเดินทางไมซ์กว่า 30,000
คน สร้างรายได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 100 ล้านบาท
สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ 180 ล้านบาท
สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (GDP Contribution) 101 ล้านบาท
รัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษี 6 ล้านบาท
และก่อให้เกิดการจ้างงาน 120 อัตรา
ช่วงที่ 2 ได้เวลาไปสาดความสนุกเพิ่มประสบการณ์ใหม่อัตลักษณ์สงกรานต์หนึ่งเดียวในเมืองไทย
“สงกรานต์แห่ผ้าเกวียนพระบาท” วัดตะปอนน้อย ตะปอนใหญ่ 12-17
เม.ย.นี้ ที่ อ.ขลุง จ.จันทบุรี แล้วฟังให้ชัด “นอนให้ครบ 7-9 ชั่วโมงป้องกันอัลไซเมอร์/อ้วน” และข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “GoPro” ผนึก ททท.นำครีเอเตอร์ทั่วโลกบูมขายสงกรานต์ล้านนาปี’66 ข่าวที่สอง “ไทยเวียตเจ็ทรายแรกบินตรง ฮานอย-ภูเก็ต” จัดตั๋วโปรลด 50
% เริ่มบิน 19 พ.ค.2566
เป็นต้นไป
ท่องเที่ยว – สงกรานต์หนึ่งเดียวตำนานแผ่ผ้าเกวียนพระบาทขลุงจันทบุรี
ทริปดับร้อนเดือนเมษายน
2566 ชวนเที่ยวอัตลักษณ์พิเศษงาน
"มหาสงกรานต์ตะปอน เพิ่มคุณค่าการเดินทางกับ “ตำนานแห่เกวียนผ้าพระบาท
จันทบุรี" สืบสานประเพณีสงกรานต์
แห่งเดียวในเมืองไทย ระหว่างว13-17 เมษายน 2566 ที่วัดตะปอนน้อย วัดตะปอนใหญ่
วัดเกวียนหัก อ.ขลุง จ.จันทบุรี
“ย้อนตำนานความยิ่งใหญ่” ที่วัดตะปอนน้อย วันแรก 12 เมษายน ตื่นตากับพิธีโบราณ
“งานประเพณีกวนข้าวทิพย์” ตอน 9 โมงเช้า ที่วัดใหม่ อ.เมือง ช่วงค่ำสนุกกับ “สงกรานต์ปลอดเหล้า
ถนนข้าวทิพย์” ตั้งแต่ 19.30 น. เป็นต้นไป บริเวณลานกีฬาคนรักจันท์
วันที่สอง 13 เมษายน ที่วัดใหม่
จะนำนักท่องเที่ยวเข้าสู่โหมด “สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัว” ผู้สูงอายุ ตอน9 โมงเช้า
ไฮไลต์วันที่สาม 14 เมษายน ชวนร่วมแต่งกายชุดไทย
ผ้าไทย แล้วไปสาดความสนุกในงาน "มหาสงกรานต์ ตำนานแห่เกวียนผ้าพระบาท" ประจำปี
2566 ตอน 08.30 น. เป็นต้นไป วัดตะปอนน้อย
จากนั้นก็ร่วมกิจกรรมภายพื้นบ้านที่จัดสืบต่อกันมายาวนาน ได้แก่ ไหว้บูชารอยพระพุทธบาทผ้า
ร่วมพิธีแห่เกวียนผ้าพระบาทแห่งเดียวในประเทศไทย
รับประทานอาหารร้อยรสพันอย่าง สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ
ประกวดการก่อเจดีย์ทราย แข่งขันชักเย่อเกวียนพระบาท มหรสพชมฟรีตลอดงาน
แล้ววางแผนเล่นสงกรานต์ต่อเนื่อง ระหว่าง 15-17 เมษายน นี้
ทางเทศบาลเมืองขลุง จัดยิ่งใหญ่เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวร่วมสืบสานวัฒนธรรมประเพณี
วันสงกรานต์ 2566 สรงน้ำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 2 ศาสนา 3 วัฒนธรรม การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน สะบ้าล้อ
มวยตับจาก และก่อพระเจดีย์ทราย
ที่อำเภอท่าใหม่ ในวันที่ 15 เมษายน เล่นน้ำสงกรานต์ ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมแห่นางสงกรานต์อันงดงามจากชุมชนและหน่วยงานต่าง
ๆ ร่วมรดน้ำขอพรผู้สูงอายุและร่วมทำบุญ ที่วัดวันยาวบน
วันที่ 16
เมษายน ที่ต.ตกพรม ชวนเล่นน้ำสงกรานต์
วันไหล อ.ขลุง และตามอำเภอต่าง ๆ ยังคงจัดเล่นน้ำสงกรานต์อย่างสนุกสนาน
วันที่ 14-17 เมษายน ร่วมงาน
"มหาสงกรานต์ตะปอน ตำนานแห่เกวียนผ้าพระบาท จันทบุรี" มาร่วมสืบสานงานประเพณีสงกรานต์
และตำนานแห่ผ้าเกวียนพระบาท แห่งเดียวในประเทศไทย ส่วนกิจกรรมสงกรานต์วัดตะปอนใหญ่
ไฮไลต์วันที่
14 เมษายน นี้
ร่วมย้อนตำนานยิ่งใหญ่แห่ผ้าเกวียนพระบาทรอบหมู่บ้าน เดินชมตลาดโบราณ
อาหารร้อยรสพันอย่าง และชิมฟรีอาหารพื้นถิ่นรสเด็ดกว่า10
ร้านค้า และ คอนเสิร์ต วงคาราบาว ได้ตั้งแต่ 09.00 - 21.00 น.
ร่วม 6 กิจกรรม พิธีสงน้ำพระ ชมตลาดโบราณ 270 ปี ของดีบ้านตะปอนใหญ่ ชมการแสดงหงฟาง
รำฟ้อนซ่อนกุ้ง การแสดงเท่งตุ๊ก การสาธิตและแข่งขันชักเย่อเกวียนพระบาท ร่วมรำวงย้อนยุค
และประกวดก่อพระเจดีย์ทราย 275 ปี ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า
15,000 บาท
สุดพิเศษกับ "สำรับตะปอน" เมนูเด็ด ชิมแกงส้มใบสันดาน
โดยเชฟชุมชน ปะทะ Exclusive
Chef
สงกรานต์ปี
2566 เลือกเดินทางสู่จุดหมายปลายทางที่ชอบและที่ใช่
แล้วอย่าลืมไปร่วมสงกรานต์อัตลักษณ์จันทบุรี “แห่เกวียนผ้าพระบาท” วัดตะปอนน้อย
ตะปอนใหญ่ สาดความสนุกเที่ยวเมืองไทย
สุขภาพ
–ด่วน!!นอนหลับให้ครบ7-9ชั่วโมงป้องกันอัลไซเมอร์/อ้วน/โรคอื่นๆ
อาการนอนไม่หลับ..ปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม
หนึ่งในปัญหาที่บั่นทอนสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคนไทย เมื่อปี 2565 มีสถิติเรื่อง
“การนอนไม่หลับ” เป็นหนึ่งในปัญหาที่บั่นทอนสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคนไทยถึง 19
ล้านคน และทั่วโลกมีกว่า 2,000 ล้านคน ดังนั้น “การนอนที่มีคุณภาพ” ควรมีระยะเวลาการนอนที่เพียงพอ
รู้สึกสดชื่นในวันรุ่งขึ้น ซึ่งระยะเวลาการนอนที่เหมาะสมจะแตกต่างกันตามช่วงอายุ
“วัยผู้ใหญ่” ทุกคืนควรนอนให้ได้ 7-9
ชั่วโมง โดยไม่ตื่นระหว่างการนอนหลับรวมกันมากกว่า 20 นาที
อีกทั้งมีประสิทธิภาพการนอนโดยรวมที่ดี เพื่อเข้าสู่กระบวนการหลับลึกได้ดีขึ้น
โดยช่วงการนอนหลับ ความถี่ของคลื่นสมองจะลดลงอยู่ในช่วงคลื่นเดลตา
เป็นคลื่นสมองที่ช้าที่สุด ความถี่ประมาณ 0.5-4 รอบต่อวินาที
เป็นช่วงที่ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน หรือฮอร์โมนชะลอความแก่
ที่ช่วยฟื้นฟูและเสริมสร้างการทำงานของร่างกายด้วย
นพ.พลวัฒน์ ปรีชาบริสุทธิ์กุล
ผู้ช่วยผู้อำนวยการคลินิกสุขภาพเชิงป้องกันและฟื้นฟู บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS
Wellness Clinic) แนะนำว่า การนอนหลับเป็นรากฐานของการมีสุขภาพดี
มีความสำคัญต่อการกำจัดของเสียออกจากสมอง เนื่องจากสมองไม่มีระบบน้ำเหลือง (Lymphatic
system) ดังนั้นสมองจึงกำจัดของเสียด้วยกระบวนการชำระล้างสมอง
(Glymphatic system)
กระบวนการดังกล่าวต้องทำในช่วงที่นอนหลับและจะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดในช่วงของการนอนหลับลึก
(deep non-REM sleep) เพราะในช่วงดังกล่าวเซลล์ในสมองจะหดตัวลงไป 60%
ทำให้เกิดช่องว่างให้ชำระล้างของเสียสำคัญที่ถูกกำจัดจากสมองคือ ss-amyloid
เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของ amyloid
plaque สาเหตุสำคัญของการเกิดโรคอัลไซเมอร์
อีกทั้ง “การนอนหลับลึก” ยังมีความสำคัญต่อกระบวนการเรียนรู้
(cognitive function) ได้แก่ 1.ความจำ (memory) 2.ภาษา
(language) 3.การแสดงออกของพฤติกรรม
(behavior) 4.อารมณ์
(mood)
“การนอนหลับลึก”
จะช่วยจัดเรียงความทรงจำในสมองให้ดีขึ้น เชื่อมโยงความทรง จำเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน หากอดนอน
ความสามารถในการเรียนรู้จะลดลงมากถึง 40%
รูปแบบของการนอนจะมีความเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ เมื่ออายุมากกว่า 60 ปี จะสูญเสียการหลับลึกไปมากกว่า
70% เมื่อเทียบกับคนอายุ 18-25 ปี นี่คือสาเหตุว่า
ทำไมผู้สูงอายุจึงมีปัญหาในเรื่องความจำ
“ระหว่างการนอนหลับ”
ร่างกายจะหลั่งโปรตีนที่มีความเกี่ยวข้องกับ “ระบบภูมิคุ้มกันแบบจำเพา”ะ (Adaptive
immunity) เพื่อต่อสู้กับเชื้อก่อโรคต่างๆ เช่นเดียวกับการบันทึกความทรงจำในสมอง
การนอนหลับช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันจดจำและจำแนกสิ่งแปลกปลอมได้
และหากนอนหลับน้อยกว่า 4 ชั่วโมง การทำงานของเซลล์เพชฌฆาต หรือ Natural
Killer Cells (NK Cells) จะลดลงมากถึง 72% รวมไปถึงการสร้างแอนติบอดี้ (antibody)
ซึ่งมีคุณสมบัติต่อต้านสิ่งแปลกปลอม ก็ลดลงด้วยเช่นกัน
“นอนหลับน้อยกว่า 7 ชั่วโมง”
เพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร 2.22 เท่า โรคมะเร็งตับอ่อน 2.18 เท่า
โรคมะเร็งหลอดอาหาร 1.63 เท่า เนื่องจากการทำงานของ NK-cell ลดลง
ซึ่งที่มีหน้าที่สำคัญในการต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง
“นอนน้อยกว่า 5 ชั่วโมง”
จะมีความเสี่ยงเป็นโรคอ้วนมากขึ้น 1.55 เท่า เพราะฮอร์โมนเลปติน
หรือฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกอิ่มลดลง ในทางตรงกันข้าม 1.ฮอร์โมนเกรลิน
หรือฮอร์โมนกระตุ้นความหิว และ
2.ฮอร์โมนคอร์ติซอล หรือฮอร์โมนความเครียด) จะเพิ่มสูงขึ้น
กระตุ้นให้ผู้ที่นอนน้อยเกิดความอยากอาหารมากขึ้น มีแนวโน้มจะกินเพิ่มขึ้นประมาณวันละ
300 กิโลแคลอรี
“นอนน้อยกว่า 4 ชั่วโมง”
จะเกิดการเพิ่มขึ้นของสารอักเสบต่างๆ ในร่างกาย เช่น TNF-alpha, IL-6 และอื่น
ๆ ซึ่งเป็นต้นเหตุการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-communicable
diseases หรือ NCDs) ต่าง
ๆ ผู้ที่นอนหลับน้อยกว่า 5 ชั่วโมง มีความเสี่ยงเป็น 1 โรคเบาหวานเพิ่มขึ้น
1.48 เท่า 2.ความดันโลหิตสูง
1.32 เท่า 3.โรคหัวใจ
1.37 เท่า
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
-ททท.ผนึกGoProดึงครีเอเตอร์ทั่วโลกบูมสงกรานต์ล้านนาปี’66
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ปี 2566 ททท. ร่วมกับทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนส่งเสริมการท่องเที่ยวงานประเพณีสงกรานต์ที่กลับมาจัดอีกครั้งอย่างคึกคัก
ล่าสุดสนับสนุนทาง GoPro การเฉลิมฉลองปีใหม่ไทยเดือนเมษายน :Thai New Year Celebration in
April นำเสนอคอนเทนต์สร้างสรรค์ผ่านมุมมองเฉพาะตัวของครีเอเตอร์หลายประเทศทั้ง
13 คน
ได้แก่ บราซิล สเปน เกาหลีใต้ อินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไต้หวันและกิจกกรรม 5
คืน 6 วัน เพื่อสื่อถึงกันเป็นวงกว้างในสังคมออนไลน์
สร้างการรับรู้ของแบรนด์ รวมถึงกระตุ้นให้เกิด call-to-action
กระตุ้นผู้ใช้งานออนไลน์ทำคอนเทนท์
หรือ user-generated content: UGC ด้วยการติดแฮชแท็ก #amazingthailand
#amazingnewchapters #GoProXTAT จะทำให้เกิดความสนใจบนโลกออนไลน์ (online
buzz) ไปพร้อมกันได้ด้วย จากการผลิตคอนเทนต์แคมเปญสงกรานต์ปี
2566 แล้วโพสต์ลงสื่อออนไลน์ต่าง
ๆ ของ GoPro ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กับสื่อออนไลน์ของ ททท.
ทาง GoPro รายงานว่าในฐานะผู้นำกล้องแอ็กชันยอดนิยม
ได้ร่วมกับ ททท.จัดแคมเปญ "Visit Thailand Year 2023: Amazing New
Chapters"
ชูขายงานประเพณีสงกรานต์ส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งเป็นเล่นน้ำยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก
โดยเตรียมมอบประสบการณ์ความสนุกพื้นที่หลักจังหวัดเชียงใหม่ระหว่างวันที่ 13
- 15 เมษายน 2566 นำเสนอไอเท็มคู่ใจอย่างกล้องกันน้ำที่พกพาง่าย
ฟังชันการใช้งานเข้ากันได้ดีกับทุกแอ็กชั่น พร้อมจะบันทึกทุกเรื่องราวความทรงจำเทศกาลแห่งปี
แล้วแชร์ความความทรงจำอันน่าประทับใจให้ผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมประสบการณ์ความสนุกไปด้วยกัน
Rick Loughery รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการสื่อสารของ
GoPro กล่าวว่า แคมเปญสงกรานต์ปี 2566 ตื่นเต้นจะได้พาครีเอเตอร์ของ
GoPro กลับมาเฉลิมฉลองสงกรานต์ในเมืองไทยอีกครั้ง เพื่อจะได้เล่นน้ำท่ามกลางบรรยากาศสงกรานต์ล้านนา
รอชมครีเอเตอร์จะเก็บโมเมนต์สายลุยแบบไทยผ่าน GoPro เพื่อจุดประกายผู้คนทั่วโลกให้อยากกลับมาสัมผัส
Amazing Thailand' อีกครั้ง
ในโอกาสเทศกาลสงกรานต์วันปีใหม่ไทย ทาง
GoPro ขอมอบดีลสุดพิเศษเฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น! พบกับเซ็ต
สงกรานต์ ลิมิเต็ด อิดิชั่น กับกล้อง GoPro HERO 11 Black + กระเป๋า
GoPro Duo Daypack รุ่น limited edition (มูลค่า 2,190) ในราคา
18,500 บาท เพื่อให้แฟนคลับหาซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ตามร้านผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ
GoPro ในไทย ส่วนคนที่ยังไม่มีกล้อง GoPro แต่อยากร่วมสนุกในชาเลนจ์นี้สั่งซื้อ
bundle นี้เพื่อเข้าร่วมชาเลนจ์ได้ทันที โดยอย่าลืมแท็กแอ็กเคานต์
@GoProThailand เพื่อร่วมเล่นชาเลนจ์ใหม่ที่จะประกาศในเร็ว ๆ
นี้
ทั้งนี้ GoPro เคยร่วมกับ
ททท. เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา
นำครีเอเตอร์จากหลายประเทศทั่วโลกเข้ามาร่วมสนุกเทศกาลสงกรานต์ถนนข้าวสาร
แลนด์มาร์กเล่นน้ำยอดนิยมในกรุงเทพฯ และในเมืองมรดกโลกจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปี 2566 GoPro พร้อมจะนำเสนอสงกรานต์จุดประกายเหล่าครีเอเตอร์เที่ยวเชียงใหม่ด้วยไฮไลท์
GoPro HERO11 Black ให้กลายเป็นตัวเอกของทริป
นำคุณสมบัติของกล้องมาสร้างสรรค์เรื่องราวความสนุกอย่างไร้ขีดจำกัดในแบบฉบับไทยให้เต็มประสิทธิภาพเพื่อส่งออกความมันส์สู่สายตาคนโลกต่อไป
ข่าวที่สอง
-เวียตเจ็ทเปิดรายแรกบินตรง“ฮานอย-ภูเก็ต”19พ.ค.ขายตั๋วโปร50%
สายการบินเวียตเจ็ท (เวียดนาม) รายงานว่า
พร้อมเปิดบริการเส้นทางบินระหว่างประเทศเวียดนามกับไทย เป็นรายแรกในเส้นทางบินตรง
ฮานอย – ภูเก็ต เริ่มตั้งแต่ 19 พฤษภาคม
2566 เป็นต้นไป โดยจะใช้เวลาบินประมาณ 3
ชั่วโมง โดยได้จัดโปรโมชั่นฉลองเส้นทางบินใหม่ด้วยการมอบเสนอส่วนลดตั๋วโดยสารเครื่องบินเส้นทางนี้
50 % (ไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียม)
เมื่อผู้โดยสารซื้อตั๋วโดยสาร ได้ทั้ง 2 ประเภท คือ
ประเภทที่ 1 ที่นั่งชั้นประหยัดสกายบอส
(SkyBoss) ใส่โค้ดส่วนลด “ALL50SB” ประเภทที่
2 ชั้นธุรกิจสกายบอส
(SkyBoss Business) ใส่โค้ดส่วนลด “ALL50SBB” ใช้โค้ดลดค่าตั๋วโดยสารบินเดินทาง เวียดนาม
และไทย ได้ตั้งแต่วันนี้- 5
พฤษภาคม 2566 แล้วนำตั๋วไปใช้เดินทางได้ตั้งแต่วันนี้-12
ธันวาคม 2566 ที่ www.vietjetair.com หรือ
แอปพลิเคชัน บนมือถือ“Vietjet Air”
สำหรับเที่ยวบิน ไป-กลับ ฮานอย-ภูเก็ต
ขามาเริ่มต้นทางออกจากเมืองฮานอย เวลา 11:35 น.
มาถึงภูเก็ต 14:40 น.
ส่วนขากลับจากภูเก็ต เวลา 15:45 น. และถึง ฮานอย เวลา 18:35 น.
ขณะเดียวกันสายการบินเวียตเจ็ท ยังมีบริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ “โฮจิมินห์ซิตี้-ภูเก็ต”
อีกวันละ 2 เที่ยว รวมทั้งเที่ยวบินจากเมืองหลักในเวียดนาม
สู่ กรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) และโฮจิมินห์ซิตี้ – เชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้มีความต้องการเดินทางและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่
หลังสถานการณ์ท่องเที่ยวเติบโตดีขึ้นตามลำดับ
ทางเวียตเจ็ทพร้อมมอบประสบการณ์พิเศษให้ผู้โดยสาร ได้สมัครสมาชิกสกายจอย (SkyJoy) เป็นโปรแกรมสมาชิกของสายการบินเวียตเจ็ท (เวียดนาม) เพื่อให้ผู้โดยสารสะสมคะแนนเพื่อแลกรับสิทธิพิเศษจากพันธมิตรร้านค้า ร้านอาหาร และการท่องเที่ยวในเวียดนามซึ่งมีให้เลือกมากกว่า 250 ราย ดูข้อมูลเพิ่มผ่านแอปพลิเคชัน “SkyJoy” หรือเว็บไซต์skyjoy.vietjetair.com
ส่วนผู้โดยสารจากไทยสามารถที่ต้องการเดินทางจาก ภูเก็ต สู่ ฮานอย เมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อทางตอนเหนือของเวียดนาม ก็มีเมืองยอดนิยมเช่น ฮาลองเบย์ ซาปา ฮาซาง และอีกหลากหลายเมือง
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น