“TCEB”เร่งเครืองวันไมซ์แห่งชาติ26เม.ย.คลิกออฟSustainovation
ใช้ICCAประกาศให้“สงขลา-เชียงใหม่”ผงาดไมซ์ซิตี้Global Index
แท็กทีมโค้งสุดท้ายโกยเสียงโหวตเจ้าภาพExpo2028กระหึ่มโลก
คิงเพาเวอร์จัดช้อปสุดมันส์สงกรานต์สาดความสุข3โปรถึง17เม.ย.
ด่วน!!คิงเพาเวอร์สาดบิ๊กโปรสมัครสมาชิกที่4สาขารับสุดคุ้ม3ต่อ
คิงเพาเวอร์เปิดทุกช่องทางลุยหนุนไทยเป็นเจ้าภาพ Expo 2028
ททท.ดึง5ชาติร่วมจัดมหาสงกรานต์อินเตอร์5เทศกาลกระหึ่มกทม.
บางจากระดมมิชลิน7ร้านดังเสิร์ฟในปั๊มทั่วกรุงและต่างจังหวัด
กทม.ชวนนั่งเรือไฟฟ้าเที่ยวลดโลกร้อนล่องเจ้าพระยา
7 พิกัด
ระวัง!!หน้าร้อนจะเกิดโรคอาหารเป็นพิษตื่นตัวป้องกันได้
3 วิธี
ชี้เป้าธุรกิจที่พักรายเล็ก4เรื่องดีมี5แนวตุนรายได้สงกรานต์ปี’66
ดุสิตกระบี่จัดเต็มโปรThai Residentห้องพัก7สไตล์เริ่ม3,800บ.
วันเสาร์ที่ 8 เมษายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #TCEB #บางจาก #ล่องเรือไฟฟ้าเที่ยวเจ้าพระยา
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/jMJMHET3ma/
ช่วงที่ 1 ลุยไมซ์ยั่งยืนกับ “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา”
ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” แพกคู่“Sustainovation” ความยั่งยืน+นวัตกรรม แกนกลาง 5 ยุทธศาสตร์แผน 5 ปีหน้า 2566-2570 “เปิดตลาดไมซ์ไร้พรมแดน-สร้างสรรค์เส้นทาง-อีเวนต์เข้าถึงง่าย-พลิกการทำงานองค์กรยุคใหม่-นำไทยผงาดจุดหมายไมซ์ยั่งยืนโลก”
ใช้เวที ICCA ดัน 2 เมืองไมซ์ สงขลา เชียงใหม่ ขึ้นชั้น Global index ส่วน Expo 2028 เดินหน้าเต็มที่โค้งสุดท้ายก่อน 21 มิ.ย.66
เสียงสนับสนุนกระหึ่มไทยและทั่วโลก
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า วางแผนจัด
MICE Day
วันไมซ์แห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อปี 2564 ซึ่งมีจุดเริ่มต้นสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 5 ทรงจัดงานเอ็กซิบิชั่นขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
เมื่อ 26 เมษายน 2425 ดังนั้นทีเส็บเตรียมจัดต่อเนื่องปีที่ 3 วันที่ 26
เมษายน
2566 11.00-14.00 น. ที่สามย่าน
มิตรทาวน์ โดยจะเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมกว่า 400 คน
พร้อมเปิดเวทีเสวนาให้ผู้เชี่ยวชาญมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมไมซ์
เน้นธีม Sustainovation ผสมผสานระหว่าง
Sustainable+Innovation ความยั่งยืนบวกเข้ากับนวัตกรรมซึ่งจะเป็นแนวทางการพัฒนาเดินเคียงข้างไปด้วยกัน
สำหรับ Sustainable+Innovation
เป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์พัฒนาไมซ์ของทีเส็บ 5 ปีหน้า
ระหว่าง 2566-2570 ซึ่งจะล้อไปด้วยกันกับงาน
MICE Day ปี 2566 โดยมีกุญแจสู่ความสำเร็จ ซึ่งทั้ง 2 ส่วน เป็นแกนกลางของหมุดหมายทั้งหมด 5 ยุทธศาสตร์ไมซ์ ประกอบด้วย
ยุทธศาสตร์ที่ 1 Thailand as a Global Leader MICE ประเทศไทยต้องเป็นผู้นำไมซ์ในตลาดไร้พรมแดน
ทั้งการประมูลและดึงงานระดับนานาชาติเข้ามาจัดในไทย การสร้างงาน
ยุทธศาสตร์ที่ 2 Create Destination สร้างสรรค์เส้นทางไมซ์ซึ่งเป็นที่รู้จัก
และพยายามดึงจุดเด่นทางด้านอัตลักษณ์ วัฒนธรรม ชุมชน
เพื่อนำโปรดักซ์มาพัฒนาสู่ตลาดโลก
ยุทธศาสตร์ที่ 3 Innovative Solution ผลักดันให้การจัดงานไมซ์มีความสะดวกและง่ายต่อโลกมากขึ้น
ขยายผลและลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด
ยุทธศาสตร์ที่ 4 Build Agile การทำงานด้วยแนวคิดขององค์กรยุคใหม่ ทางทีเส็บเริ่มทำแล้วในลักษณะการใช้โครงงานพื้นฐานหรือ
Project Based เช่น
การประมูลนำงานพืชสวนโลกมาจัดในจังหวัดที่มีความพร้อมของประเทศ
แต่ละทีมจะประกอบด้วยแต่ละส่วนงาน โดยไม่ได้ทำงานลำพังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น
แต่มุ่งบูรณาการทำงานเป็นหนึ่งเดียวกัน นำร่องเพิ่ม 2 เมืองไมซ์ สงขลา
ยุทธศาสตร์ที่ 5 Goal for
SDGs
โดยมีแผน 5
ปีที่สอดคล้องการพัฒนาประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการจัดประชุมและนิทรรศการอย่างยั่งยืน
เช่น พัฒนาแพลตฟอร์มการซื้อขายคาร์บอนเพื่อชดเชยกิจกรรม (carbon bagain)
ทีเส็บเริ่มทำแล้วกับกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
จะทำต่อเนื่อง 5 ปี
เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่เป็นประโยชน์ไว้ใช้ร่วมกัน
เพราะปัจจุบันอุตสาหกรรมไมซ์สร้างคาร์บอนมากพอสมควร
เนื่องจากห่วงโซ่การจัดงานนิทรรศการแสดงสินค้า/Exhibition จะมีทั้งการเดินทาง การสร้างบูธ
ทางภาคเอกชนจึงมีเป้าหมายภายในปี ค.ศ.2050 จะทำให้เป็นกลางทางคาร์บอนหรือ
Carbon Neutrality
และจะต้องลดคาร์บอนลงให้มากที่สุดภายในปี ค.ศ.2030
ทีเส็บวางแผนเพิ่มขีดความสามารถการจัดงานไมซ์
“ในประเทศ” ประกอบด้วย 2 โครงการ ได้ก่ 1.Carbon Neutral Events เชื่อมโยงกับนานาประเทศ
2.ให้การรับรองมาตรฐานใบประกาศนียบัตรบุคลากรวุฒิการศึกษาในวิชาชีพไมซ์
เพื่อสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพราะเป็นช่วงเตรียมความพร้อมลดคาร์บอนในปี 2030
“ไมซ์ตลาดต่างประเทศ”
พยายามผลักดันการทำเมืองไมซ์ MICE CITY ขณะนี้
“กรุงเทพมหานคร” ผ่าน Global Index MICE
Sustainabity ตามมาตรฐานของสมาคมประชุมนานาชาติ
(ICCA :International Congress and
Convention Association) เรียบร้อยแล้ว
พร้อมทั้งได้รับรางวัลไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ปีนี้จะเดินหน้าผลักดันอีก
9 ไมซ์ ซิตี้
ยกระดับสู่มาตรฐานความยั่งยืนและการดูแลรักษาอุณหภูมิโลกร้อนให้ได้
สำหรับเมืองไมซ์
ซิตี้ ที่จะยกระดับเป็นสู่ความยั่งยืนที่ได้มาตรฐานโลก คิวต่อจากกรุงเทพมหานคร คือ
สงขลา เชียงใหม่ แต่ละเมืองจะมีคณะกรรมการไมซ์ จึงจะเร่งผลักดันเป็นหลักตามแผนเร่งด่วนให้ผ่าน
Global Index ซึ่งอยู่ในมาตรฐานของ
ICCA แล้วไทยเองได้งานประชุม
The 62nd International
Congress and Convention Association Congress 2023 มาจัดในไทยเดือนพฤศจิกายน
2566 จะมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมกว่า
1,000 องค์กร จาก 91 ประเทศและในเขตเศรษฐกิจทั่วโลก
ประกาศเมืองแห่งความยั่งยืนใหม่เพิ่มอีก 2 จังหวัด
นายจิรุตถ์
กล่าวว่า การยกระดับ ไมซ์ ซิตี้ เข้าสู่มาตรฐานความยั่งยืนในระดับสากลโลก
เป็นโครงการที่ทุกภาคส่วนในไทยจะต้องร่วมกันทำ
เพราะจะเป็นเครื่องมือทางการตลาดในเวทีโลกที่จะนำมาเป็นเกณฑ์พิจารณาเลือกมาจัดงานในอนาคตด้วย
โดยมีสิทธิประโยชน์ที่พึงได้จากการพัฒนาสู่ Global
Index จากประสบการณ์ที่ไปรับรางวัลให้กรุงเทพมหานคร
ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่พัฒนาปรับปรุงเมืองได้เร็วที่สุดนั้น
ผ่านเกณฑ์จนได้รับรางวัลดังกล่าว เพราะทางคณะกรรมการตัดสินจากการเป็น
“เมืองจัดประชุม” เป็นหลัก
ดังนั้นสถานที่จัดงานแต่ละครั้งจะถูกจับตาเรื่องการทำให้เกิดคาร์บอนสู่ภายนอกมากน้อยเพียงใด
แล้วสามารถชดเชยด้วยการปลูกต้นไม้ได้จำนวนเท่าไร ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดชัดเจนที่สุด
เมื่อ ไมซ์
ซิตี้ มีชื่อติดใน Global Index แล้ว จะเป็นตัวช่วยทำให้ประเทศได้รับการจับตาจากตัวแทนที่จะตัดสินใจเลือกนำงานมาจัดในไทย
ซึ่งเป็นอีกอาวุธสำคัญทางการตลาดของไมซ์ที่ดีมาก
เพราะทุกสมาคมนานาชาติต่างก็หันมาใช้เกณฑ์ดังกล่าวมาพิจารณาก่อนเป็นอันดับต้น ๆ
นายจิรุตถ์กล่าวว่าการเดินหน้าพัฒนา
Sustainabilty และ Innovation ทั้ง 2 ยุทธศาสตร์เป็นหัวใจสำคัญทางการตลาดทั้งปัจจุบันและอนาคตทีเส็บจึงสนับสนุนโครงการต่าง
ๆ เร่งเข้าร่วมมาตรฐานสากลด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนอุตสาหกรรมไมซ์
ล่าสุดเพิ่งจัดงาน MICE Tecno Mart 2023 โดยอาศัยเครือข่ายสนับสนุนอย่าง
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
(องค์การมหาชน) หรือ สนช./NIA :National
Innovation Agency สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA :Digital Economy Promtion Agency) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
(สวทช.) และศูนย์ฟิวเจอร์แลบ รวมถึงมีกลุ่ม Start up เข้ามาร่วมไม่ต่ำกว่า 70 องค์กร
โดยได้คัดเลือกแอปพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับไมซ์เข้ามาบนแพลตฟอร์ม
ทั้งการจองจัดประชุม การดูแลนวัตกรรมต่าง ๆ วิธีใช้เครื่องมือจัดประชุมเสมือนจริง
(Virtual
Reality) อย่างเข้มข้น
ซึ่งเป็นภาพชัดเจนมากขึ้น
ตามเป้าประสงค์หลักต้องการให้ ผู้ประกอบการ โรงแรม กลุ่มจัดงานไมซ์ สถานที่จัดงาน
ได้ใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาพัฒนาทำให้เข้าถึงเครื่องมือ สามารถลดต้นทุนได้ดีขึ้น
ขยายผลให้ลูกค้าได้มากขึ้นทั้งทางการตลาดและองค์ความรู้
โดยทีเส็บทำต่อเนื่องมาประมาณ 6 ปี
นายจิรุตถ์
กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีภารกิจโค้งสุดท้ายการหาเสียงโหวตเพื่อสนับสนุนไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน
Expo 2028 Phuket Thailand ล่าสุดพลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เดินทางลงไปดูสถานที่จัดงาน ในจังหวะที่ทางเอกอัครฑูต กงศุลไทยทั่วโลก
ฑูตพาณิชย์ประจำฝรั่งเศส ทุกฝ่ายร่วมด้วยช่วยกันหาเสียง ประกอบด้วย
ส่วนที่ 1 การหาเสียงของแนวร่วมภาคเอกชนนำโดยนายสนั่น
อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กกร.) 3 สถาบัน
พร้อมกับเอกชนไทยแถวหน้าของประเทศซึ่งมีเครือข่ายการลงทุนกระจายอยู่ทั่วโลกให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
ส่วนที่ 2 การประชาสัมพันธ์ เป็นอีกส่วนตามเกณฑ์ BIE เช่น ไทยเบฟสื่อสารผ่านช่องทางธุรกิจ ทั้งหมด
และทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้นำสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ในอังกฤษ
ใช้ป้ายในสนามแข่งขันฟุตบอลประชาสัมพันธ์เต็มที่ ไมเนอร์กรุ๊ป และ SCG ได้ใช้นักกีฬาโปรกอล์ฟไทยระดับโลกโปรโมตไปเรียบร้อยแล้ว
สายการบิน การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ส และอีกหลากหลายหน่วยงาน
เพื่อแสดงพลังความร่วมมือ
และภาพลักษณ์ที่ดีถึงความมุ่งมั่นของคนไทยทั้งประเทศเอาจริงกับการเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงาน
Expo 2028 Phuket Thailand
รอฟังข่าวดีการประกาศดีจาก
BIE ในวันที่ 21 มิถุนายน 2566
ที่จะตัดสินให้ประเทศใดเป็นเจ้าภาพจัด
Expo 2028 ในอีก 5 ปีหน้านั่นเอง
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์จัดช้อปสุดมันส์สงกรานต์สาดความสุข3โปรถึง17เม.ย.
คิง เพาเวอร์ กระตุ้น “สงกรานต์” 2566 นี้ พร้อมช้อปปิ้งสุดมันส์!
ตั้งแต่ วันนี้ - 17 เมษายน 2566 กับโปรโมชั่นแรง
3 สาดความสุข
สาดที่ 1
โปรฯ สุดซิ่ง คิง เพาเวอร์ ลงทะเบียนก่อนช้อป และสนุกได้เลยที่ตู้ Redemption
counterเพื่อลุ้นรับคูปองส่วนลดสูงสุด 2,000 บาท
1 สิทธิ์
พิเศษ!!
สมาชิกใหม่ คิง เพาเวอร์ ลุ้นรับคูปองเพิ่มได้อีก
1 สิทธิ์ ในช่วงเวลา 12.00-13.00 น./ 15.00-16.00
น./ 18.00-19.00 น. ดังนี้ 1.ช้อปครบ 15,000 บาท รับฟรี! Summer Shopping Bag และสาดความฮอตในชั่วโมงฮอตแลก
300 กะรัต เท่ากับ Gift Voucher 3,000 บาท
สาดที่ 2
โปรฯ สุดซิ่ง พลัสคุ้มคูณสอง! เพียงสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ รับคูปองส่วนลดสูงสุด 15%
ดังนี้ 1.สมัครสมาชิก คิง
เพาเวอร์ SCARLET รับทันทีคูปองส่วนลด 15% 2.สมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY
รับทันทีคูปองส่วนลด 10%
และสมาชิกรับส่วนลดทุกการช้อป และสิทธิประโยชน์เพียบ
สาดที่ 3
ความสนุก 5 เกมสุดมัน พร้อมของรางวัลสุดเปิ๊ดสะก๊าดรับสิทธิ์
เล่นเกมฟรี! ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ดังนี้ 1.เล่นฟรี! 3
เกม เมื่อช้อปครบ 5,000
บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ 2.เล่นฟรี! 5 เกม เมื่อช้อปครบ 8,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ 3.พิเศษ! สมัครสมาชิกใหม่ คิง เพาเวอร์ SCARLET รับเพิ่ม
สิทธิ์เล่นเกม 3 เกม
ช้อปดับร้อนได้เลย
ข่าวที่
2 ด่วน!!คิงเพาเวอร์สาดบิ๊กโปรสมัครสมาชิกที่4สาขารับสุดคุ้ม3ต่อ
คิง เพาเวอร์ สาดความคุ้มกับโปรสุดซิ่งลุ้นรับความคุ้มถึง
3 ต่อ! เพียงสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ วันนี้
– 17 เม.ย. 2566
ที่ คิง เพาเวอร์ 4
สาขา ได้แก่ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต
ต่อที่ 1 ส่วนลด ให้คุณคุ้มทุกการช้อป
เพียงสมัครสมาชิก 1.Navy รับส่วนลด
5% 2.Scarlet รับส่วนลด
10%
ต่อที่ 2 รับคูปองส่วนลดพิเศษ ทันทีที่สมัคร
1.รับคูปองส่วนลด 15% เมื่อสมัครสมาชิก Scarlet แล้วเติมเงิน
20,000 บาท 2.รับคูปองส่วนลด 10% เมื่อสมัครสมาชิก
Navy แล้วเติมเงิน 1,000
บาท
ต่อที่ 3 ลุ้นรับคูปอง
พลัสความคุ้ม สูงสุด 2,000 บาท x2
สิทธิ์ พร้อมรับสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกแบบจัดเต็ม
เพียงผูกบัญชีผ่าน LINE Official
Account : @KINGPOWER
ข่าวที่ 3 คิงเพาเวอร์เปิดทุกช่องทางหนุนไทยเป็นเจ้าภาพExpo 2028
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ ขอร่วมสนับสนุนให้ประเทศไทยได้รับการเลือกเป็นเจ้าภาพ Expo
2028 Phuket Thailand ร่วมกันแสดงพลังสนับสนุนคลิกโหวต
ได้ที่ https://support.expo2028thailand.com/th
หรือสแกน QR
Code
เมื่อประเทศไทยได้รับการคัดเลือกงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่
20 มีนาคม – 17 มิถุนายน 2571บนพื้นที่ 141 ไร่ ณ ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง
จังหวัดภูเก็ต ภายใต้แนวคิด Future of Life: living in
harmony,sharing prosperity หรือ ชีวิตแห่งอนาคต
แบ่งปันความรุ่งเรือง อยู่ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว
ขณะนี้
คิง เพาเวอร์ ได้ใช้ทุกช่องทางทั้งป้ายโฆษณาโรงแรมในเมืองไทย ร้านค้าดิวตี้ฟรี คิง
เพาเวอร์ สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรณรงค์ให้ทุกเสียงโหวตให้
จังหวัดภูเก็ต ของประเทศไทย ได้รับการเลือกเป็นเจ้าภาพงานเอ็กซโป ที่จะเป็นพลังสร้างเศรษฐกิจของประเทศในอีก 5 ปีข้างหน้า
ข่าวที่
4 ททท.ดึง5ชาติจัดมหาสงกรานต์อินเตอร์5เทศกาลกระหึ่มกทม.
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. นำ
ร่วมสืบสานประเพณีไทยจัด “สงกรานต์” ปีนี้ได้ยกระดับสู่สากลจัดเทศกาลสาดความสุข สนุกแบบอินเตอร์ “INTERNATIONAL AMAZING SPLASH 2023” ด้วยขบวนแห่คาราวานสงกรานต์นานาชาติสุดอลังการครั้งแรกจาก 5 ประเทศ
โดยได้จำลองวัฒนธรรมนานาชาติอย่าง เทศกาลโคลน-เกาหลี เทศกาลโฮลี-อินเดีย เทศกาลเซ็ตซึบุน-ญี่ปุ่น
สงกรานต์สิบสองปันนา-จีน โดยมีศิลปินไทยและชาวต่างชาติร่วมสร้างความสนุกแบบ NON-STOP ตั้งแต่ 13 – 15 เมษายน 2566 บริเวณซอยจุฬาลงกรณ์ 5 (ถนนอุทยาน 100 ปี) กรุงเทพฯ
ททท.ได้ยกระดับสงกรานต์ของไทยซึ่งเป็น Soft Power of Thailand คือ 1 ใน 5F คือ Festival/เทศกาล
และท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เมื่อปี 2564 เป็นประเพณีติดอันดับ1 ใน 3 เทศกาลสำคัญของเอเชียจาก International
Festival and Events Association (IFEA) ปีนี้จึงต่อยอดจัด
“เทศกาลเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” ประจำปี 2566 ตลอดงานจัดยิ่งใหญ่ 4 กิจกรรม ได้แก่
กิจกรรมที่ 1 ขบวนแห่สงกรานต์นานาชาติ สุดอลังการ INTERNATIONAL
CARAVAN ในวันที่ 13 เมษายน 2566 จาก 5 ประเทศ ประกอบด้วย
“ประเทศไทย”
พบกับขบวนแห่พระแก้วมรกตประดิษฐานบนรถบุษบก ขบวนรถนางสงกรานต์ “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” แสดงเป็น กิมิทาเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกจงกลนี
อาภรณ์แก้วบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำ
พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงพิณ เสด็จนั่งมาเหนือหลังมหิงสา (ควาย)
เป็นพาหนะ
“สาธารณรัฐประชาชนจีน” ตื่นตากับขบวนสีสันความสุขของชาวสิบสองปันนา
มณฑลยูนนาน
จีน
ในชุดแต่งกายวัฒนธรรมพื้นเมือง
“อินเดีย” สนุกสนานกับสีสันขบวนแห่เทศกาลโฮลี่
หรือการสาดสี พร้อมโชว์ในสไตล์ Bollywood
“ญี่ปุ่น” จัดรถขบวนเซ็ตซึบุน
นำทีมด้วยจังหวะกลองสร้างความตื่นตัว พร้อมปีศาจ การโยนถั่ว
และตกแต่งด้วยเสาโทริอิกับดอกซากุระ
“เกาหลี” นำเสนอความสดใสของท้องทะเลด้วยขบวนแห่บอนยองเกาหลี
งานเฟสติวัลริมทะเล
กิจกรรมที่ 2 AMAZING SPLASH OF THE WORLD จำลองประเพณีวัฒนธรรมต่างประเทศให้ใกล้เคียงกับสงกรานต์ของไทย
เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นำโดย “ไทย” เปิดมหกรรม “เทศกาลเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์” โชว์เอกลักษณ์สงกรานต์ทั่วไทย 5 ภูมิภาค ด้วยการสาธิตผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่นเชื่อมโยงถึงประเพณี
เปิดให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมทำ DIY ด้วยตนเอง
ประกอบด้วย
“ภาคเหนือ” นำเสนอการทำตุง
น้ำศักดิ์สิทธิ์/น้ำส้มป่อย ซึ่งใช้ในพิธีรดน้ำดำหัววิถีล้านนา
“ภาคกลาง” ชูเรื่องอาหารคาวหวานช่วงสงกรานต์
เช่น ข้าวแช่ “ภาคอีสาน” นำเสนอ ประเพณีผูกเสี่ยว
เสียเคราะห์ หรือสะเดาะเคราะห์ “ภาคตะวันออก” ชวนก่อเจดีย์ทรายข้าวเปลือกของชาวไผ่ดำ
อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา หรือพิธีก่อเจดีย์ทราย จ.ชลบุรี “ภาคใต้” จัดประเพณีแห่นางดาน
จ.นครศรีธรรมราช ที่มีเพียงแห่งเดียวในไทย กิจกรรมสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่นและ DIY
รวมทั้งสรงน้ำพระและก่อเจดีย์ทราย การแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทย
ส่วน “เกาหลีใต้” โชว์ “เทศกาลโคลนจากเมืองโพเรียง”
พบกับสระโคลนนำเข้ามาจากเมืองโพเรียง
พร้อมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ลงแช่โคลน ทาโคลนทั่วตัว แข่งเกมชิงรางวัลกลาง สระโคลน นำดีเจเกาหลีมาสร้างสีสันความด้วยเร้าใจ
ตามด้วย “อินเดีย”
ต้องยกให้การจัด “เทศกาลโฮลี” สนุกสนานตามประเพณีใช้ผงสีแสดงถึงมิตรภาพ
และการแสดงดนตรี การเต้นของสาวอินเดียในสไตล์ Bollywood และเปิดให้ผู้ร่วมงานได้เข้าสักการะพระพิฆเนศอีกด้วย
“จีน” คึกคักกับ “สงกรานต์สิบสองปันนา”
เน้นเครื่องแต่งกายตามประเพณีไทลื้อ
มณฑลยูนนานและการแสดงวัฒนธรรมฟ้อนรำเพื่อทำพิธีขอน้ำ ขอฝน จากเทวดา ฟ้าดิน
“ญี่ปุ่น”
นำ “เทศกาลเซ็ตซึบุน”
เป็นการเป่าสิ่งชั่วร้าย
เสริมสิริมงคล ด้วยการโปรยถั่วใส่ยักษ์ขอให้สุขภาพแข็งแรงปราศจากโรคภัย
กิจกรรมที่ 3 MAIN
STAGE สนุกแบบ NON-STOP กับกิจกรรม SPLASH
บนเวทีมีเหล่าศิลปินนักร้องดีเจชาวไทยและต่างชาติ
เช่น ศิลปิน
โจอี้บอย, อ๊อฟ ปองศักดิ์, วง LAZ1, วง No One Else, ซานิ, วง Yes
Indeed, ดีเจเกาหลี อินเดีย ญี่ปุ่น และจีน พร้อมการแสดงวัฒนธรรมนานาชาติมากมาย
และ WATERBOMB
อุโมงค์น้ำ ตลอด 3 วัน
กิจกรรมที่ 4 AMAZING FOOD ยกกองทัพบูธอาหาร กับฟู้ดทรัคมาเติมความอร่อยแบบนานาชาติ ทั้งเกาหลี ญี่ปุ่น จีน อินเดีย และไทย เข้าร่วมกว่า
30 ร้านค้า
นอกจากนี้
ททท.ยังได้ส่งเสริมการจัดเทศกาลสงกรานต์งาน “Water Festival 2023 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย
2566” ระหว่าง 13 - 16 เมษายน นี้กระจายจัดตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ คือ “กรุงเทพมหานคร”
จัดที่วัดสำคัญหลัก ๆ คือ วัดพระเชตุพลวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร วัดประยุรวงศาวาสวรมหาวิหาร
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร และท่ามหาราช ท่ายอดพิมาน
เดอะล้ง 1919 สุขสยาม แอท ไอคอนสยาม เอเชียทีค เดอะ
ริเวอร์ฟร้อนท์ และท่าศาลเจ้ากวนอู GCIRCUIT SONG KRAN THE BIG BANG 2023 วันที่ 13 - 16 เมษายน ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด
และ กทม. S2O
Songkran Music Festival วันที่ 13 -15 เมษายน ที่ไลฟ์พาร์ค พระราม 9 กทม. สงกรานต์สยาม
ผ้าขาวม้าปล่อยจอย” วันที่ 13 - 15 เมษายน สยามสแควร์ กทม.งานประเพณีสงกรานต์พระประแดง 21 - 23 เมษายน
2566 จ.สมุทรปราการ
ข่าวที่
5 บางจากระดมมิชลิน7ร้านดังเสิร์ฟในปั๊มทั่วกรุงและต่างจังหวัด
นายสมชัย
เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากฯ
จับมือกับพันธมิตรร้านอาหารทยอยเข้ามาเปิดตามสถานีบริการน้ำมันบางจาก
โดยเป็นร้านที่ได้มาตรฐานระดับมิชลิน (Michelin) กับอาหารรสเลิศ
คุณภาพสดสะอาดนำร่อง 7 แบรนด์ดัง โดยมีร้านเปิดบริการเรียบร้อยแล้ว 3 ร้าน ได้แก่ ร้านส้มตำเจ๊แดงสามย่าน ร้านคั่วกลิ้งผักสด ร้านเย็นตาโฟนายอ้วนบะเต็ง
และกำลังทยอยเข้ามาเปิดต่อเนื่องอีก 4 ร้าน ได้แก่ ร้านผัดไทยไฟทะลุ
ร้านกล้วยแขกพระราม 5 ร้านชมคาแฟ่ & เรสเตอรอง และร้านสว่างบะหมี่เกี๊ยวปู
โครงการนี้ทางสถานีบริการน้ำมันบางจาก
ตั้งเป้าหมายยกระดับประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าและนักเดินทาง
และเพิ่มทางเลือกให้อิ่มอร่อยอย่างมีคุณภาพด้วยการนำเสนออาหารรสเลิศที่ผ่านการการันตีความอร่อยระดับมิชลิน
นายสมชัยกล่าวว่า
พร้อมจะเพิ่มทางเลือกให้หลากหลายเตรียมทยอยดึงร้านดังระดับตำนาน
ขึ้นชื่อในรสชาติความอร่อยมาเปิดให้บริการที่สถานีบริการน้ำมันบางจากบนเส้นทางสายหลักทั้งในกรุงเทพฯ
และต่างจังหวัด ได้แก่ ร้านเอลวิสสุกี้ & ซีฟู้ด ร้านหอมเคย
ร้านหนำ ร้าน Cuppa Cottage ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ด.ช.โก๋น
ร้านมิดไนท์ไก่ตอนประตูน้ำ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือทัพพ์ทอง ร้านไก่ทอดเดชา
ร้านห่อเกี๊ยว ร้านสยามสะเต็กเอ็กซ์ตร้า ร้านนับแคล และร้านกาโตว์ เฮ้าส์
เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าผู้มาใช้บริการสถานีบริการน้ำมันบางจากแวะเติมพลังงานคุณภาพได้เติมพลังความอิ่มอร่อยได้ครบจบที่เดียว
กับอาหารรสเลิศที่ได้คัดสรรแบรนด์มาให้ลิ้มลอง ทั้งสะดวก รวดเร็ว สะอาด
คุณภาพได้มาตรฐาน
นายสมชัยกล่าวเพิ่มว่า
บางจากฯ มีแผนขยายร้านอาหารระดับมิชลินและร้านอาหารรสเด็ดในสถานีบริการน้ำมันเพิ่มต่อเนื่อง
เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพที่ดีที่สุด ควบคู่การพัฒนาและยกระดับสินค้า
บริการ สร้างประสบการณ์สุดประทับใจให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม
ตามแนวคิดการเป็นจุดหมายปลายทางตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าทุกวัยด้วยคอนเซ็ปต์ Greenovative
Destination for Intergeneration อย่างยั่งยืน
ข่าวที่ 6 TCEBปลุกกระแสไทยหันจัดอีเวนต์ไมซ์ยึดกฎยั่งยืนUN5แนวทาง
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB”เปิดเผยว่า
ช่วงการก้าวสู่สังคมแห่งความยั่งยืน
ได้รณรงค์ให้ผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องทั้งอุตสากรรม หันมาสนใจจัดไมซ์อีเวนต์โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
เพิ่มคุณค่า และพัฒนาไมซ์ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์การสหประชาชาติ (UN) เน้นจัดอีเวนต์ตามหลักความยั่งยืน 5 แนวทาง ดังนี้
แนวทางที่ 1 ประชาสัมพันธ์การจัดงานผ่านระบบออนไลน์
โดยเปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้า และแจ้งแนวทางปฏิบัติตามหลักความยั่งยืนภายในงาน เช่น
ประชาสัมพันธ์ถึงหลักการจัดการขยะ การเตรียมถุงผ้าสำหรับใส่สินค้า เพื่อเตรียมความพร้อม
และสร้างความเข้าใจแก่ผู้ร่วมงานทุกคน
แนวทางที่ 2
เลือกสถานที่จัดงานที่ได้มาตรฐาน
ผ่านการรับรองด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการจัดการพลังงาน
และมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง หรือเลือกสถานที่จัดงานซึ่งเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเพื่อลดการใช้พลังงานและก๊าซเรือนกระจก
แนวทางที่ 3
ตกแต่งสถานที่ และจัดเตรียมอุปกรณ์อย่างเหมาะสม
ลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น ด้วยการเลือกใช้วัสดุรีไซเคิล
งดการใช้วัสดุที่ย่อยสลายยาก เพื่อลดขยะและผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม
แนวทางที่ 4 จัดการอาหารและเครื่องดื่มให้พอเหมาะกับจำนวนผู้ร่วมงาน เพื่อลดการสร้างขยะเหลือทิ้ง
(Food
Waste) หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น มุ่งลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
และสร้างจุดเด่นให้กับอีเวนต์ได้ด้วย
แนวทางที่ 5 การจัดเตรียมอื่นๆ ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ
โดยการเลือกใช้ของที่ระลึกจากชุมชมเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น
เปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดงาน
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และวางแผนการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ
ช่วงที่ 2 ออกมาเที่ยวฟรีกันได้แล้ว “กรุงเทพฯ”
บริการเรือไฟฟ้าเปิดกรีนทริป ชวนล่องเจ้าพระยา จากหัวลำโพง ตลาด วัด เช็คอิน 7 พิกัด แบบรัว ๆ หน้าร้อนดูแลสุขภาพ “ระวังโรคอาหารเป็นพิษ”
ต้นตอจากไวรัสและแบคทีเรีย ส่วนข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก
“ชี้เป้าธุรกิจที่พักรายเล็กรับ4สัญญาณดีใช้5แนว” ตุนรายได้สงกรานต์ ข่าวที่สอง “ดุสิตกระบี่จัดเต็มโปร Thai
Resident” ที่พัก 7 สไตล์ ลดยาวถึง 31 ธ.ค.นี้
ท่องเที่ยว – กทม.ชวนนั่งเรือไฟฟ้าเที่ยวกรีนทริปล่องเจ้าพระยา7พิกัด
กรุงเทพมหานคร ต้อนรับการกลับมาเปิดเรือล่องคลองผดุงกรุงเกษม
ชวนให้มาท่องเที่ยวฟรีโดยพาย้อนอดีต “หัวลำโพง-11 ท่าเรือเจ้าพระยา” แวะสักการะสิ่งศักดิ์วัดดัง
ชมตลาดเก่านางเลิ้ง มุมใหม่ เมืองไทยเที่ยวได้ในโมเมนท์ที่ใช่ไม่ต้องรอ
เช็คอิน “เส้นทางท่องเที่ยวกรีนทริป” ลดมลพิษล่องคลองผดุงกรุงเกษม ล่องเรือไฟฟ้าฟรีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น.
ยกเว้นวันจันทร์ วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 06.00-09.00 น. และ เวลา 16.00-19.00 น. ความถี่ทุก 20 นาทีวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00-19.00 น.
กระตุ้นการท่องเที่ยว “เมืองบางกอกด้วยรถไฟฟ้าและเรือไฟฟ้า”
นักท่องเที่ยวสามารถแวะกราบพระขอพรวัดเทวราชฯ ชิมของอร่อย ตลาดนางเลิ้ง
แวะแฮงเอาท์ในคาเฟ่เก๋ไก๋ แล้วร่วมย้อนอดีตในพิพิธภัณฑ์รถไฟไทยได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เริ่มที่ “ท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง” ไปสิ้นสุดตรง
“ท่าเรือตลาดเทวราช” เพื่อสัมผัสบริการและแหล่งท่องเที่ยวได้ถึง 7 พิกัด
พิกัดที่ 1 เริ่มเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า MRT หัวลำโพง (ทางออก 2) แล้วเดินไปยังท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง 100 เมตร
พิกัดที่
2 ล่องเรือไฟฟ้า ขึ้นได้จากท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพงไปถึงท่าตลาดเทวราช ขึ้นเรือแล้วเดินต่อไปยังวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร
ผ่านตลาดสดเทวราช ระยะทางราว 500 เมตร เรือจะให้บริการฟรีตลอดสาย ทั้งไปและกลับ สามารถขึ้น-ลงท่าใดก็ได้
พิกัดที่ 3 คลองผดุงกรุงเกษม
ขุดขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ.2394 เพื่อเป็นเส้นทางคมนาคมและขยายเขตพระนครออกเชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยาจาก “สี่พระยา”
มายังบริเวณ “วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร”
พิกัดที่ 4 วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร
เดิมชื่อ "วัดสมอแครง"
ผ่านการบูรณะปฏิสังขรณ์มาหลายครั้งกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 4
ทรงรับเป็นพระอารามหลวงและพระราชทานนามนี้ นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเข้าไปชมสิ่งที่น่าสนใจภายในวัดแห่งนี้ได้
4 ไฮไลต์ คือ
“พระอุโบสถ” แวะกราบสักการะ
“พระพุทธเทวราชปฏิมากร” พระประธานงดงาม ปางมารวิชัย ของฝีมือช่างสมัยทวารวดี ภายในพระอุโบสถมีวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังลายพื้นสีคราม
สลับกับภาพจิตรกรรมฝาผนัง แปลกแตกต่างจากวัดอื่น ๆ คือ ภาพพระภิกษุปลงอสุภกรรมฐานกับซากศพในสภาพต่าง ๆ
เหนือช่องหน้าต่างเขียนภาพเหตุการณ์ตอนเหล่าเทพยดามาชุมนุมกัน เล่ากันว่าผู้คนนิยมบูชาโดยการถวาย
"ผ้าไตร" แทนดอกไม้ธูปเทียน ตามความเชื่อจะสร้างความศักดิ์สิทธิ์ ให้
ผลสัมฤทธิ์ตามที่ปรารถนา
“พระมณฑปจัตุรมุข” สร้างครอบพระอุโบสถเก่า ภายในประดิษฐาน “หลวงพ่อดำ”
พระพุทธรูปปางมารวิชัยมีความเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
ภายในจัดแสดงพุทธศิลป์ เช่น พระพุทธรูปเก่าโบราณ
รอยพระพุทธบาทไม้ประดับมุกเก่าศักดิ์สิทธิ์สมัยกรุงศรีอยุธยา
“ชมพิพิธภัณฑ์สักทอง” เสาไม้สักขนาด 2 คนโอบ อายุเกือบ 500 ปี ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุอันเชิญจากศรีลังกา พร้อมจัดแสดงให้ชม
“หุ่นเหมือนสมเด็จพระสังฆราช” แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ขนาดเท่าองค์จริง 19 พระองค์
“สักการะองค์เทวราชเนรมิต” หรือเทพทันใจ
เชื่อกันว่าประติมากรรมองค์เทวราชเนรมิต ปกเกล้าคุ้มภัย
อธิษฐานสำเร็จสมปรารถนา ความสูง 1.50 เมตร
เป็นองค์เทพประจำวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร มีผู้มาขอพรด้วยการม้วนธนบัตร 2 ใบสอดไว้ในอุ้งพระหัตถ์แล้วอธิษฐานด้วยการให้หน้าผากจรดนิ้วชี้ของท่าน
จากนั้นนำธนบัตรหนึ่งใบใส่ทำบุญ อีกใบประทับยันต์ เก็บกลับไว้เป็นที่ระลึก ช่วงวันหยุดจะมีคนรอคิวยาว
ส่วนวันธรรมดาเที่ยวได้รวดเร็วกว่า สามารถใช้เวลาอยู่ที่วัดอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้นก็ได้
พิกัดที่ 5
ล่องเรือจากท่าตลาดเทวราช
ขึ้นเรือที่ท่านครสวรรค์ เดินข้ามถนนเข้าสู่ “ตลาดนางเลิ้ง” ตลาดบกแห่งแรกของไทยอายุกว่า 120 ปี เป็นแหล่งรวมอาหารคาวหวาน และขนมโบราณที่มีชื่อเสียง เช่น ขนมหวานตำรับชาววัง ร้านนันทาขนมไทย
รสมือจากต้นเครื่องวังหลัง ร้านขนมไทยป้าหงส์ หรือแม้แต่ของคาวที่ลือชื่อมากมาย
เช่น ร้านรุ่งเรืองบะหมี่ บะหมี่สูตรโบราณแท้สืบทอดสูตรจีนฮกเกี้ยน มีดีที่เส้น
ซุปเด่น ขึ้นชื่อด้วยบะหมี่ปูและบะหมี่ซี่โครงหมู และ ร้านบุญเลิศ บะหมี่เกี๊ยว
หมูย่าง นอกจากนั้นยังมีเนื้อตุ๋น เย็นตาโฟ ของหากินยากอย่างไส้กรอกปลาแนม
และอื่นๆ อีกมากมาย
ภายในตลาดมี “ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์”
คู่กับศาลเทพเจ้าจีนที่ผู้คนนิยมมากสักการะ เป็นศาลสร้างขึ้นใหม่สวยงาม ในตลาดยังมี
“ศาลาเฉลิมธานี” หรือ โรงหนังนางเลิ้ง ปิดอยู่มองเห็นได้จากภายนอก และ “วัดสุนทรธรรมทาน/วัดแคนางเลิ้ง”
สถานที่บรรจุอัฐิของนักแสดงชื่อดัง “มิตร ชัยบัญชา” สามารถใช้เวลาเดินตลาดราว 2 ชั่วโมง เพื่อรับระทานทานอาหารและเที่ยวชม
พิกัดที่ 6 ชมตึกเก่า ตลาดนางเลิ้ง เดินเล่น
ถ่ายภาพคู่กับอาคารเก่ารอบตลาดฉาบทาด้วยสีพาสเทลหวาน
เรียกความสดชื่นด้วยการหาคาเฟ่เก๋ ๆ ใกล้กันมีคาเฟ่ชื่อ Buddha and Pals ตั้งอยู่ในตึกเก่าทำเป็นโฮสเทลชื่อ Kanvela House ตกแต่งภายในแนววินเทจ
ถ่ายภาพสวย มีเครื่องดื่มเย็น ๆ หลายชนิด ยามค่ำคืนคาเฟ่แห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นบาร์แจ๊สอีกสไตล์
พิกัดที่ 7 ย้อนอดีตที่หัวลำโพง
ลงเรือตรง “ท่าเรือนครสวรรค์” กลับมาถึงต้นทาง “ท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง”
แล้วแวะถ่ายภาพสถาปัตยกรรมอันงดงามของ “สถานีรถไฟกรุงเทพ/หัวลำโพง” สไตล์ RenaissanceReviva
l หรือยุคฟื้นฟูเรอแนซ็องส์ แล้วเดินชม “พิพิธภัณฑ์รถไฟไทย” ได้เก็บรวบรวมภาพและสิ่งของการรถไฟไว้เป็นอย่างดี
ทั้ง โปสเตอร์เตือนระวังภัยในการเดินรถไฟ พร้อมมีมุมจำลองบรรยากาศเหมือนอยู่บนรถไฟ
ให้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
“ชั้นล่าง”
จัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ในกิจการเดินรถไฟและกิจการโรงแรมรถไฟ ซึ่งเป็นของเก่า
ทั้งที่ยังใช้งานและเลิกใช้แล้วบางส่วน เช่น จานและโถกระเบื้องในสมัยรัชการลที่ 5 เครื่องตราทางสะดวก ลูกตราและห่วงตราทางสะดวก ตั๋วรถไฟแข็ง อุปกรณ์ประทับวันที่ลงบนตั๋ว โคมตะเกียงให้สัญญาน
เครื่องส่งโทรเลข เครื่องพิมพ์ดีด นาฬิกาไขลาน โทรศัพท์แบบหมุน ตลอดจนม้านั่งที่ทำจากไม้หมอนปลดระวาง
ภายในพิพิธภัณฑ์มีของที่ระลึกจำหน่าย
เหมาะกับนักสะสมหรือมอบเป็นของขวัญของฝากในวาระต่าง ๆ เช่น กรอบรูป ตั๋วรถไฟ
เสื้อยืด หมวก กระเป๋า แม่เหล็กติดตู้เย็น กล่องใส่นามบัตร พวงกุญแจ ที่ทับกระดาษ
และอื่น ๆ
เที่ยวเมืองไทย ในโมเมนท์ที่ใช่
ไม่ต้องรอ เพิ่มประสบการณ์เดินทางด้วยคุณค่าความหลากลายได้ถึง 7 พิกัดทั่วกรุง ช่วยกันลดโลกร้อน ลดมลพิษ
ขานรับเทรนด์โลกยุคใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน
สุขภาพ
–ระวัง!!หน้าร้อนเกิดโรคอาหารเป็นพิษตื่นตัวป้องกันได้
3 วิธี
ช่วงนี้อากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้อาหารต่างๆ บูดเร็ว อาจมีสารพิษและแบคทีเรียปนเปื้อนอยู่หากรับประทานเข้าไป
อาจจะก่อให้เกิด “อาหารเป็นพิษ” มีอาการปวดท้อง ท้องเสีย
คลื่นไส้อาเจียน ถ้าหากอาการรุนแรงขึ้น มีเชื้อโรคปนเปื้อนเข้าไปในกระแสเลือด
ก็อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
โรค อาหารเป็นพิษ
ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย
ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ ดังนั้นเรามาทำความรู้จักและเตรียมพร้อมรับมือ แนะนำให้การป้องกันอาหารเป็นษ
3 วิธี
1.ล้างมือให้สะอาด
ทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหารให้เป็นนิสัย
2.ทำความสะอาดครัว
รวมไปถึงจัดเก็บอาหารอย่างถูกสุขอนามัย เช่น
การแยกเก็บของสดจากอาหารชนิดอื่นเพื่อป้องกันเชื้อโรคจากของสด
การล้างผักผลไม้ให้สะอาดก่อนรับประทานหรือก่อนนำไปปรุงอาหาร และการเก็บรักษาอาหารในสถานที่และอุณหภูมิที่เหมาะสม
3.เลือกบริโภคอาหารที่ปรุงสุก สดใหม่
ถ้าหากรับประทานอาหารนอกบ้าน ควรเลือกร้านที่สะอาด
ส่วน“สาเหตุ”อาหารเป็นพิษ
เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่มีการปนเปื้อนของเชื้อโรค ดังนี้
1.ชิเกลล่า (Shigella) และไวรัสก่อโรคผ่านทางเดินอาหาร
(Enteric Viruses) เป็นเชื้อที่มักปนเปื้อนอยู่ในผลิตภัณฑ์อาหารสดและน้ำดื่มที่ไม่สะอาด
2.ซาลโมเนลลา (Salmonella) พบในเนื้อสัตว์ดิบ
ไข่ดิบ นม และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม
3.คลอสติเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) เป็นเชื้อที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาวะแวดล้อมที่มีออกซิเจนน้อย
มักพบในบรรจุภัณฑ์อาหารแบบปิดสนิท เช่น อาหารกระป๋อง
“อาการของโรค” ผู้ที่ได้รับเชื้อโรคส่วนใหญ่จะแสดงอาการภายใน
1 – 2 วัน
หรืออาจจะแสดงอาการภายไม่กี่ชั่วโมงหลังทานอาหาร
ขึ้นอยู่กับประเภทและปริมาณของเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย โดยอาการของโรคอาหารเป็นพิษ
มีดังนี้ ท้องเสีย ถ่ายเป็นมูกเลือด ปวดท้องแบบบิดเกร็งเป็นพัก ๆ คลื่นไส้ อาเจียน
อ่อนเพลีย และมีไข้สูง ถ้าหากอาการรุนแรงมากขึ้น ถ่ายบ่อย อาเจียนบ่อย
หรือมีไข้สูงมากเกินไป อาจจะทำให้เกิดภาวะช็อกและเป็นอันตรายได้
ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–ชี้เป้าธุรกิจที่พักรายเล็กใช้5แนวตุนรายได้สงกรานต์ปี’66
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์การเดินทางท่องเที่ยว “สงกรานต์ ปี 2566”
มีข้อมูลระบุจะมีทั้งคนไทยและต่างชาติ เดินทางท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
ขานรับการกลับมาเล่นสงกรานต์เป็นปีแรกสงกรานต์อย่างเต็มรูปแบบ นับตั้งแต่ปี 2562 เกิดวิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้ต้องงดจัดงานประเพณีดังกล่าวไปถึง
3 ปี ล่าสุดมีข้อมูลเกี่ยวกับการจองที่พักในประเทศไทยสะท้อนถึงการท่องเที่ยวเทศกาลนี้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญจาก
4 สัญญาณ
สัญญาณที่ 1 “ยอดจองที่พัก” ปี
2566 ทั่วประเทศมีสูงกว่าสถานการณ์ปกติปี 2562 แล้วถึง 7%
สัญญาณที่ 2 “กำลังซื้อของนักท่องเที่ยวต่างชาติ”
ปี 2566 จองที่พักเกินกว่า 75% เปรียบเทียบกับปี
2565 มียอดจองเพียง 50% โดยเฉพาะเพิ่มช่วงสงกรานต์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สัญญาณที่ 3 “พฤติกรรมการจองห้องพัก”
นักท่องเที่ยวจะตัดสินใจแบบกระชั้นชิดมากขึ้น สัดส่วนเกินกว่า 55 % ของผู้ใช้บริการ โดยจะจองล่วงหน้าก่อนเข้าพักเพียง 11-2 สัปดาห์ แตกต่างจากอดีตจะระยะเวลาการจองและเช็คอินจะค่อนข้างช้ากว่าปัจจุบันมาก
สัญญาณที่ 4 “ราคาห้องพัก” ช่วงเทศกาลปี
2566 มีอัตราเฉลี่ยสูงกว่าปี 2562 โดยเฉพาะที่พักขนาดเล็กสามารถปรับได้สูงขึ้นถึง
35 %
สุภกฤษฎิ์ แผนสมบูรณ์ ผู้จัดการ Little Hotelier ประเทศไทย เปิดเผยว่า
แนะนำโรงแรมขนาดเล็กเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว
ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่สามารถนำทั้งแนวคิด ผนวกกับเข้าเทคโนโลยี
และการวางแผนด้วยการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ด้วย 5 แนวทาง ประกอบด้วย
แนวทางที่ 1
แต่ละโรงแรมควรมองหาระบบที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยประหยัดเวลาทำงาน
ลดงานที่ทำซ้ำด้วยมือ เช่น งานการบันทึกข้อมูลด้วยกระดาษหรือ Excel แล้วนำเวลาที่เหลือไปบริหารจัดการภายในที่พักส่วนบริการอีกหลายส่วน เช่น ร้านอาหาร
และอื่น ๆ
แนวทางที่ 2
ผู้ให้บริการที่พักควรวางระบบให้สามารถทำงานได้จากทุกที่ จัดการทุกเรื่องเกี่ยวกับที่พักได้จากแอปบนมือถือ
แล้วนำเวลาช่วงวันหยุดใช้ชีวิตอยู่กับคนที่รัก และครอบครัวได้มากขึ้น
แนวทางที่ 3 หาผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น
ด้วยวิธีเลือกผู้ให้บริการที่มีความแข็งแกร่งในประเทศ พร้อมให้การสนับสนุนธุรกิจโรงแรมช่วงเทศกาลได้
อำนวยความสะดวกให้ผู้บริหารสามารถติดต่อกับทีมงานคนไทยผ่านทางโทรศัพท์ อีเมล์
หรือแชทได้อย่างรวดเร็ว
แนวทางที่ 4
ลองปรับใช้ไอเดียใหม่ ๆ ซึ่งทางผู้ให้บริการที่พักขนาดเล็กสามารถร่วมมือกับธุรกิจอื่นในไทย
ด้วยการออกแบบแพ็คเกจกิจกรรมราคาพิเศษ ไว้นำเสนอผู้เข้าพักช่วงวันหยุดยาว อย่างสงกรานต์ปีนี้
โดยใช้วิธีเริ่มต้นสานสัมพันธ์กับผู้เข้าพัก ก่อน ระหว่าง และหลังเข้าพัก
ซึ่งการติดต่อสื่อสารหลังเข้าพักเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดต้นทุนสร้างความภักดีลูกค้า
และเพิ่มยอดจองโดยตรงด้วย
แนวทางที่ 5
เลือกเชื่อมต่อช่องทางการตลาด เพื่อต้อนรับตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติกำลังเข้ามาเที่ยวเมืองไทยเป็นจำนวนมาก
ซึ่งจะสามารถดึงดูดผู้เข้าพักจองใช้ช่วงเทศกาลได้อย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะการเลือกใช้พันธมิตรทางออนไลน์ต้องมั่นใจจะสามารถช่วยลดการเกิดการจองห้องพักล้นเกินจริงหรือ
Overbookings ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาตามมานั่นเอง
ข่าวที่สอง -ดุสิตกระบี่รีสอร์ทเทโปรThai
Residentห้องพัก7สไตล์เริ่ม3,800บ.
โรงแรมดุสิตธานี
กระบี่ บีช รีสอร์ท รายงานว่า
พร้อมต้อนรับคนไทยและต่างชาติที่พำนักในไทยด้วโปรโมชั่น Thai Resident แบบยาว ๆ เปิดให้จองผ่านเว็บไซต์www.dusit.com
และใส่รหัสโปรโมชั่น THAI ได้ตั้งแต่วันนี้ -31
ธันวาคม 2566 แล้วรับสิทธิพิเศษมากมายตลอดการพักผ่อนภายในโรงแรมได้
เริ่มต้นด้วย
“ห้องพัก” รวมอาหารเช้า และรับเครดิตวันละ 300 บาท มีห้องพักให้เลือก 7 สไตล์ ได้แก่ 1. Deluxe ราคาเริ่มต้นเพียง
3,800 บาทสุทธิ/คืน 2.ห้อง
Deluxe Sea Facing เริ่มต้น 4,500 บาทสุทธิ/คืน 3.ห้อง Club Deluxe เริ่มต้น 5,500 บาทสุทธิ/คืน 4.ห้อง Club Premium Sea Facing เริ่มต้น 5,700 บาทสุทธิ/คืน 5.ห้อง Club
Sea Facing Suite เริ่มต้น 8,500 บาทสุทธิ/คืน 6.ห้อง Club
Premium Suite เริ่มต้น 9,500 บาทสุทธิ/คืน และ 7.ห้อง Club Suite with Plunge Pool เริ่มต้น 10,500 บาทสุทธิ/คืน
สำหรับราคาเริ่มต้นอาจเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลาเข้าพัก ก่อนเดินทางเข้าพักตรวจสอบข้อมูลกับทางโรงแรมอีกครั้ง
ส่วน “สิทธิประโยชน์พิเศษ” รับได้เลย ส่วนลดค่าอาหารและเครื่องดื่ม 20% ฟรี! กิจกรรมกีฬาทางน้ำและกิจกรรมกลุ่ม ซื้อ 1 แถม 1 สำหรับทรีทเมนท์สปา ส่วนลดค่าซักรีด 20 %
ดุสิตธานี
กระบี่ บีช รีสอร์ต ตั้งอยู่บนหาดคลองม่วง จังหวัดกระบี่ มีที่พักระดับหรูด้วยห้องพักและห้องสวีต
240 ห้อง พร้อม 2 สระหน้าหาดลงเล่นได้อย่างปลอดภัย รวมห้องอาหาร และสปาเงียบสงบในสวนเขตร้อน
พร้อมชายหาดส่วนตัว ท่ามกลางธรรมชาติพืชเขตร้อน สามารถเดินทางไปตามสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงได้หลากหลายแบบ
เนื่องจากอยู่ใกล้ผาสวยงาม ป่าเขียวขจี น้ำตก และ ถ้ำต่าง ๆ
พร้อมจะต้อนรับทุกวัยได้เลือกเป็นจุดหมายปลายทางการพักผ่อนในอีกหนึ่งจังหวัดท่องเที่ยวขึ้นชื่อของฝั่งทะเลอันดามัน
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น