ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ภาคตะวันออกลุยครึ่งหลังปี66เข้าเป้า3แสนล้าน อัดฉีดเงิน#เที่ยวสวนผลไม้ #FreshUpChonburi #LetsSeaRayong #UnseenNewChapters2023

ททท.ตะวันออกเร่งเครื่องทำรายได้ครึ่งปีหลังเข้าเป้า3แสนล้าน

อัดฉีดเงินเที่ยว“สวนผลไม้5จว.-FreshUpชลบุรี/Let’sSeaระยอง

ปั้นสินค้าใหม่Unseen New Chaptersวางตลาด9จังหวัด9อันซีน

คิงเพาเวอร์บุกอีคอมเมอร์ซ“KingPower-Firster”เพิ่มรายได้30%

พูลแมนคิงเพาเวอร์ขายพิเศษ6HandsOmakaseDinnerถึง6พ.ค.

คิงเพาเวอร์มหานครจัดเต็มเวิร์คช้อปปังNeon Art Nightชั้น74

ททท.ทำแล้วทำต่อวิจิตรกรุงเทพฯ-365วันมหัศจรรย์เมืองไทย

CEOบางจากชูโมเดลองค์กรความสำเร็จงานGIFFARINEPOWER

TCEBจัดไมซ์เดย์ชูมิติใหม่นวัตกรรมยั่งยืนครึ่งปีโกย5หมื่นล้าน

สุรินทร์ชวนสายมูเที่ยว“บวชนาคช้าง”วิถีบุญใหญ่ขึ้น15เดือน 6

“กินอาหารเวลาหิวจริง”ช่วยเผาผลาญดีสุดแนะวิธีกินทั้ง 3 มื้อ

รร.ดิเมอร์รัลงัด Flash Sale 890บาท“บุฟเฟต์ดินเนอร์”5เดือน5

สมาคมท่องเที่ยวภูเก็ตโร้ดโชว์จีน3มณฑลตีปีกโกย3หมื่นล้าน

 


วันเสาร์ที่ 29 เมษายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #เทศกาลอาหารและผลไม้ตะวันออก  #บวชนาคช้างสุรินทร์

 

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...

 

                ช่วงที่ 1 เศรษฐกิจปังกับ “อัครวิชย์ เทพาสิต” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำธุรกิจท่องเที่ยว 9 จังหวัด กวาดรายได้ยกแรก 6 เดือน 1.15 แสนล้านบาท ยก 2 ครึ่งปีหลังทำให้ถึงเป้า 3 แสนล้าน เร่งเดินหน้าขายชุดใหญ่ต่อเนื่อง 4 โครงการ “เทศกาลท่องเที่ยวสวนผลไม้” 5 จังหวัด แจกเงินอุดหนุนไม่ยั้งปลุกกระแสกินของอร่อยแถมได้ส่วนลดอื้อ “อัดฉีดกิจกรรมเด่น” ทุกจังหวัดยอดนิยม “ต่อยอดครึ่งปีหลัง” Fresh Up Chonburi , Let’s Sea Rayong “เปิด Unseen New Chapters” เต็มคาราเบล 9 พิกัดใหม่

 

นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.วางกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภาคตะวันออกปลายเมษายน-กันยายน 2566 โดย 6 สำนักงาน ดูแล 9 จังหวัด เดินหน้าทำ 4 โครงการ  เริ่มจาก โครงการแรก “เทศกาลท่องเที่ยวอาหารและสวนผลไม้ภาคตะวันออก” ได้จัดทำแคมเปญสนับสนุนค่าใช้จ่ายเริ่มมาตั้งแต่กลางเดือนเมษายน 2566 ไฮไลต์ 5 จังหวัด นำร่อง จังหวัดแรก “ระยอง” มีสวนผลไม้เด่น ๆ ที่เข้าร่วมกว่า 20 แห่ง ตรวจสอบรายชื่อสวนได้ทางเพจเฟซบุ๊ค เมื่อนักท่องเที่ยวรับประทานหรือซื้อผลไม้ 500 บาทขึ้นไป จะได้ส่วนลดทันที 100 บาท/คน/สิทธิ์

 

ต่อด้วย “จันทบุรี” มีสวนผลไม้ที่มีตัวแทนตลาดจีนสั่งจองเหมาะซื้อจากสวนโดยตรง ปีนี้เข้าร่วมโครงการกับ ททท.เหลือเพียง16 แห่ง ให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปรับประทานในแต่ละสวน จะได้รับส่วนลดทันที 100 บาท/คน/สิทธิ์ มีจำนวน 2,000 สิทธิ์ เริ่มจาก 100 คนแรก ลดทันที 100 บาท รวมทั้งเปิดให้กลุ่มที่เดินทางพร้อมกันเป็นหมู่คณะติดต่อ ททท.สำนักงานจันทบุรี เพื่อมอบคูปองส่วนลดได้

 

ตามมาด้วย “ตราด” เริ่มตั้งแต่ต้นเมษายน-มิถุนายน 2566 เปิดให้ช้อปออนไลน์หรือจากสวนผลไม้ หากจะไปรับประทานบุฟเฟต์ผลไม้กับซื้อผลไม้ก็จะได้รับส่วนลดเช่นเดียวกัน โดยมีเงินสนับสนุนการเดินทางคนละ 100 บาท

 

รวมถึง “ฉะเชิงเทรา” เป็นแหล่งพื้นที่ปลูกสวนมะม่วงขึ้นชื่อ กับสวนมะพร้าวน้ำหอม เมื่อนักท่องเที่ยวซื้อครบ 300 บาท รับฟรีเครื่องดื่มน้ำผลไม้มูลค่า 50 บาท หรือริมคลองเขื่อนซื้อผลไม้ส่งถึงบ้านจะเพิ่มส่วนลดทันทีเช่นกัน

 

ปิดท้ายที่ “ปราจีนบุรี” จะมีสวนทุเรียนที่ปลูกแล้วมีผลผลิตปริมาณจำกัด จึงแนะนำให้ไปเลือกซื้อได้ในแต่ละสวนจะดีกว่า

 

โครงการที่ 2 การท่องเที่ยวครึ่งปีแรกในภาคตะวันออกปี 2566 สามารถฟื้น “รายได้” ได้แล้ว 1.15 แสนล้านบาท ต่ำกว่าปี 2562 เพียง 1.8 % เท่านั้น ยังมีเวลาอีกครั้งปีซึ่งเมื่อรวมยอดตลอดปีงบประมาณนี้แนวโน้มน่าจะทำได้เกินปี 2562 อย่างแน่นอน ตามเป้าหมายตลอดปี 2566 ตั้งไว้ 3 แสนล้านบาท ส่วนนักท่องเที่ยวคนไทยมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือน 15.1 ล้านคน-ครั้ง ยังคงต่ำกว่าปี 2562 ประมาณ 19 %

 

ครึ่งปีแรก 2566 พื้นที่ท่องเที่ยวครองความนิยมนักเดินทาง 4 จังหวัดแรก แบ่งเป็น “ตลาดคนไทย” อันดับ 1 ชลบุรี อันดับ 2 ระยอง อันดับ 3 จันทบุรี อันดับ 4 ฉะเชิงเทรา พื้นที่ยอดนิยมของ “ต่างชาติ” อันดับ 1 ชลบุรี อันดับ 2 สมุทรปราการ มีต่างชาติเป็นหลัก เป็นผลมาจากคนเดินทางมาถึงสุวรรณภูมิแล้วเดินทางไปพักผ่อนรับประทานอาหารใกล้สนามบินจึงทำให้ตัวเลขเติบโตค่อนข้างดี อันดับ 3 ตราด อันดับ 4 จันทบุรี

 

โครงการที่ 3 การต่อยอดส่งเสริมตลาดการขายท่องเที่ยวภาคตะวันออกครึ่งปีหลัง พฤษภาคม-กันยายน 2566 ทำอย่างต่อเนื่องด้วยจุดแข็งเดินทางใกล้ สะดวก ง่าย การจราจรคล่องตัว การเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวรวดเร็ว มีงานเทศกาลทุกสัปดาห์ จึงตั้งเป้า 1.เพิ่มความถี่การเดินทางจากนักท่องเที่ยว 2.เพิ่มวันพักเฉลี่ย (OR :Occupacy Rate) 3.เพิ่มรายได้ต่อคนต่อทริป 

 

ขณะนี้ ททท.สำนักงานพัทยา ปลุกท่องเที่ยว “จังหวัดชลบุรี” ส่งเสริมการขายผ่าน 2 แคมเปญ ได้แก่ แคมเปญที่ 1  Fresh Up Chonburi เที่ยวหรูอยู่สบาย” ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ไปจนถึงพฤษภาคม 2566 สร้างกระแสเพิ่มความถี่การเดินทาง ททท.รณรงค์ธุรกิจกลุ่มที่พักโรงแรม สุขภาพ ร่วมขายแพกเกจราคาพิเศษ เพื่อจูงใจให้ได้เที่ยวอย่างมีความสุข ดูรายละเอียดได้ทางเพจ Facebook ททท.พัทยา และแคมเปญที่  2 “วันธรรมดา น่าตีกอล์ฟ” เริ่มพฤษภาคมนี้ โดยมีสนามกอล์ฟชั้นนำกว่า 20 แห่ง ดูได้ที่เพจของ Golfdict กับ ททท.พัทยา

 

“ททท.ระยอง” มีแคมเปญ Let Sea Rayong เริ่มตั้งแต่วันนี้-31 พฤษภาคม 2566 โดยจะมอบส่วนลดกิจกรรมซื้อสินค้า ดำน้ำ พายคายัค พาย Sub Broad ผู้ประกอบการทั่วระยองเข้าร่วม 11 แห่ง มีคูปองส่วนลดมอบให้นักท่องเที่ยว หากเป็นการท่องเที่ยววันธรรมดาจะได้รับเบิ้ลถึง 2 เท่า

 

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมกระตุ้นเพิ่มวันพักเฉลี่ย “วิจิตร @ระยอง” การแสดงแสง สี เสียง ชมฟรีด้วยระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่ 3D บริเวณป่าอนุรักษ์กลางเมืองระยอง เริ่ม 27 พฤษภาคม -4 มิถุนายน 2566 เนรมิตสัตว์ใต้ทะเลให้ยิ่งใหญ่อลังการด้วยแสงสีเสียง ผนวกกับความวิจิตรตระการตา และเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ พร้อมทั้งมีอาหารถิ่น อาหารชุมชน และสมาคม สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทำโปรโมชั่นเสนอขายตลอด 9 วัน

 

“ททท.นครนายก” ทำแคมเปญ “โปรปัง ซัมเมอร์” ร่วมกับ เดอะ เวโรน่า แอด ทับลาน จ.ปราจีนบุรี มอบคูปองส่วนลดพิเศษแต่ละกิจกรรม โดยได้ชวนนักท่องเที่ยวทำกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงผจญภัย ขับรถเอทีวีชมธรรมชาติ ปีนหน้าผา หรือถ้าเล่นครบทุกกิจกรรมจะได้ท็อปอัพส่วนลดเพิ่มเข้าไปอีก

 

โครงการที่ 4 เปิดตัว Unseen New Chapters แหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่มาแรงของตลาดในประเทศทั่วภาคตะวันออกจัดเต็มที่ทั้ง 9 จังหวัด 9 เทรนด์ใหม่ ได้แก่

 

แห่งที่ 1 พัทยา โปรโมต “เกาะสีชัง-เกาะแห่งรัก(ษ์)” เน้นการรักษาดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 

 

แห่งที่ 2 ระยอง นำเสนอ “วัดถ้ำเขาประทุน” ได้รับความนิยมจากสายมูเตลู ให้ความสนใจเส้นทางดึกดำบรรพ์ดำน้ำลอดถ้ำไปโผล่ทะลุกลางหุบเขา

 

แห่งที่ 3 จันทบุรี นำเสนอ “จุดชมวิววัดเขาพลอยแหวน” เป็นขวัญใจแฟนคลับ TikTok มีความสวยงามอลังการ ความมหัศจรรย์ ตัววัดสร้างจากไม้ประดับด้วยอัญมณี

 

แห่งที่ 4 ตราด นำเสนอ “วัดบุปผาราม” วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในตัวเมืองมีทั้งอันซีนและอะเมซิ่ง มีหลายจุดภายในบริเวณวัดมีเรื่องเล่า และของโบราณล้ำค่า ตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากสินมหาราช

 

แห่งที่ 5 นครนายก นำเสนอ “วัดมณีวงศ์” ความมหัศจรรย์ อันซีนตกแต่งเป็นพญานาค มีรูปเคารพของสมเด็จพระนเรศวร รัชกาลที่ 5 และพระพุทธรูป เทวรูป อยู่บริเวณด้านนอกอีกมากมาย

 

แห่งที่ 6 ปราจีนบุรี นำเสนอ “หลวงพ่อพุทธทวารวดี ศรีปราจีน สิรินธรโลกนารถ” ตั้งอยู่ในวนพุทธอุทยานน้ำตกเขาอีโต้ เป็นพระนาคปรกใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ถอดแบบจากองค์พระพุทธรูปสมัยทวารวดี

 

แห่งที่ 7 สระแก้ว นำเสนอ “ถ้ำน้ำเขาศิวะ” เป็นเรื่องราวความมหัศจรรย์การผจญภัยของถ้ำที่จะต้องลอดน้ำความลึกเข้าไปภายใน 500 เมตร เพื่อเข้าไปชมความสวยงามของแท่งพระศิวะ

 

แห่งที่ 8 ฉะเชิงเทรา นำเสนอ “วัดหงษ์ทอง” อำเภอบางปะกง ตั้งอยู่กลางน้ำริมป่าชายเลนฝั่งอ่าวไทย โดดเด่นด้วยเจดีย์สีทอง 3 ชั้น ชั้นบนสุดบรรจุพระธาตุพระอรหันต์ ชั้นล่างในเจดีย์ประดิษฐานหลวงพ่อโสธร ชั้นสองมีหุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่สด หรือพระมงคลเทพมุนี และชั้นบนสุดยังเป็นจุดชมวิวมองเห็นทะเล

 

แห่งที่ 9 สมุทรปราการ นำเสนอ “อุทยานการเรียนรู้และหอชมมเมืองสมุทรปราการ” ร้อยเรื่องเมืองปากน้ำ รายล้อมด้วยวิวพาโนรามา 360 องศา ภายในพื้นที่แบ่งเป็น 4 โซน ได้แก่ พิพิธภัณฑ์เด็ก พิพิธภัณฑ์สมุทรปราการ ห้องสมุด และหอชมเมือง ตอนกลางคืนจะประดับไฟหลากสีสวยงามตระการตา

 

ททท.จึงขอเชิญชวนออกไปเที่ยวเมืองไทยในภาคตะวันออก เที่ยวได้ทั้งวันธรรมดา และวันหยุด หนึ่งในทางเลือกที่จะทำให้ทุกครอบครัวสามารถพักผ่อนอย่างมีความสุขด้วยกันในทุกการเดินทาง

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์บุกอีคอมเมอร์ซ“KingPower-Firster”เพิ่มรายได้30%

 

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ปี 2566 ได้ปรับโฉมธุรกิจเข้าสู่อีคอมเมอร์ซแบบครบวงจรโดยได้ลงทุนพัฒนา kingpower.com เป็นช่องทางบริการสื่อสารตลาดการขายสินค้าทั้งหมดของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ โดยใช้เทคโนโลยีและกลยุทธ์ดิจิทัลก้าวสู่ระบบ single Gateway เต็มรูปแบบ ภายใต้คอนเซ็ปต์ SHOP ALL POSSIBILTIES IN ONE CLICK ช้อปครบทุกความเป็นไปได้ พร้อมกับเปิดตัว THE POSSIBILITIES MARKERS นำศิลปินรุ่นใหม่ เจเจ ต้าหนิง 4EVE และเจฟ ซาเตอร์” เป็นตัวแทนแคมเปญการตลาดใหม่ “เป็นไปได้” ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้ารุ่นใหม่ Gen Y และ Z พร้อมทำรายได้ให้กลุ่มบริษัทเติบโต 20-30 % และตั้งเป้าอนาคตปี 2568 จะขยายฐานมากขึ้นเป็น 2 เท่า ส่วนสถานการณ์รายได้ปี 2566 หลังรัฐบาลไทยเปิดประเทศมีต่างชาติเข้ามาเพิ่มมากขึ้นได้ตั้งเป้าหมายท้าทายฟื้นรายได้กลับมาให้ได้ถึง 80 % ของปี 2562

 

แพลตฟอร์ม Kingpower.com เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่จะเติมเต็มประสบการณ์ช้อปออนไลน์ได้แบบครบวงจรอย่างสะดวกสบาย สามารถเพิ่มฐานลูกค้าและเพิ่มรายได้สินค้าดิวตี้ฟรีจากนักช้อปเทรนด์ใหม่เริ่มตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป ทั้งตลาดคนไทยซึ่งตอนนี้กลับมาเดินทางต่างประเทศใกล้เคียงปกติปี 2562 และตลาดต่างชาติทั่วโลกเดินทางเข้าออกผ่านสนามบินนานาชาติของไทยโดยเฉพาะสุวรรณภูมิปี 2566 มีไม่ต่ำกว่า 64 ล้านคน 

 

โครงสร้างบริการใหม่ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จะเปิดให้นักช้อปเข้าถึงสินค้าดิวตี้ฟรีซึ่งมีมากกว่า 100 แบรนด์ มีสินค้าให้เลือกมากถึง 250,000 ไอเท็ม กลุ่มที่มีไฟลต์บินต่างประเทศสามารถเลือกคลิกช้อปออนไลน์ทาง kingpower.com ส่วนกลุ่มในประเทศที่ต้องการใช้สินค้าทันทีก็มีบริการส่งถึงบ้าน ถึงที่พักโรงแรมคลิกช้อปบนแพลตฟอร์มออนไลน์ Firster.com มีมากกว่าเกือบ 100,000 รายการ ซึ่งขณะนี้มีแฟล็กชิปสโตร์อยู่ด้วย 2 แห่ง ที่สยามสแควร์ ซอย 7 พื้นที่ 2,800 ตารางเมตร และในคิง เพาเวอร์ มหานคร สามารถเดินเลือกซื้อสินค้าได้ตั้งแต่ชั้น 1 จนถึงชั้น 4 เลยทีเดียว

 

รวมทั้งได้จัดฉลองการเปิด Kingpower.com ทำเอ็กซ์คลูซีฟแคมเปญ Click and Collect ระหว่างวันที่ 25-30 เมษายน 2566 เพียงช้อปออนไลน์แค่ 6,000 บาท รับส่วนลดทันที 15 % พิเศษลดเพิ่มอีก 500 บาท (สูงสุด 1,500 บาท) ทุกการช้อป 2,000 บาท ส่วน Firster.com ร่วมฉลองเดือนเกิดพิเศษแห่งปีทั้ง 2 สาขา ที่สยามสแควร์ ซอย 7 และ คิง เพาเวอร์มหานคร เริ่ม 29 เมษายน -7 พฤษภาคม มอบส่วนลดสูงสุด 30 %

 

นายอัยยวัฒน์กล่าวว่า ปี 2566 วางแผนเดินหน้าใช้เงินลงทุนอีกกว่า 4,000 ล้านบาท เบื้องต้น 2 โครงการ ได้แก่ โครงการที่ 1 คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ในพื้นที่อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรือ Sattelite Building สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ลงทุนใหม่อีกประมาณ 2,000 ล้านบาท ตามที่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” ซึ่งเป็นคู่สัญญาประกาศะเปิดให้บริการเริ่มกันยายน 2566 เป็นต้นไป ขนาดรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 15 ล้านคน ขณะนี้ คิง เพาเวอร์ เข้าไปตกแต่งพื้นที่โดดเด่นสวยงามดึงดูดนักเดินทางสนใจเลือกช้อปสินค้า พร้อมรองรับได้เฉลี่ยวันละ 151,000 คน โดย ทอท.ระบุแต่ละปีจะนำผู้โดยสารมาใช้สนามบินบินสุวรรณภูมิให้ได้ไม่ต่ำกว่า 66 ล้านคน จึงจะจัดเก็บค่าตอบแทนจากคู่ค้าแบบมินิมัมการันตีได้  และ โครงการที่ 2 คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ในเมืองแห่งใหม่ ใจกลางกรุงเทพฯ จะใช้ใกล้เคียงกันอีกกว่า 2,000 ล้านบาท

 

นายอัยยวัฒน์กล่าวว่าล่าสุดปีนี้ได้จัดทัพโครงสร้างการลงทุนอย่างชัดเจนแบ่งเป็น ธุรกิจสินค้าดิวตี้ฟรีที่ได้บุกเบิกมาจนถึงปัจจุบันก้าวสู่ปีที่ 34 และกำลังขยายไปสู่ธุรกิจที่ไม่ใช่ดิวตี้ฟรี (Non Dutyfree) ภายใต้โครง 8 กลุ่มแกนธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ธุรกิจสินค้าปลอดอากร (Travel Retail) กลุ่มที่ 2 ธุรกิจค้าปลีก (Retail) กลุ่มที่ 3 ธุรกิจอาหาร (Dining) กลุ่มที่ 4 ธุรกิจโรงแรม (Hospitality) กลุ่มที่ 5 ธุรกิจสินค้าอุปโภคและบริโภค (Consumer Products) กลุ่มที่  6 ธุรกิจสร้างสรรค์ประสบการณ์ (Travel Experiences) กลุ่มที่ 7 ธุรกิจกีฬา (Sports) และกลุ่มที่  8 กิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) โดยใช้กลยุทธ์ 4Es -Enable, Encourage, Explore และ Empower นำเสนอสินค้าสินค้า พร้อมบริการเป็นเลิศ เน้นสร้างมูลค่าเพิ่มให้ลูกค้า และสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่แบบไร้รอยต่อในการเดินทางของคนทั่วโลกอย่างแท้จริง

 

ข่าวที่ 2 รร.พูลแมนคิงเพาเวอร์ขายพิเศษ6HandsOmakaseDinnerถึง-6พ.ค.

 

  โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ จัดครั้งแรก ที่ห้องอาหาร Tenko Omakase Bangkok เชิญชวนผู้ที่ชื่นชอบอาหารมาเปิดประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ 6-Hands Omakase Dinner โดยเชฟญี่ปุ่นจากห้องอาหารชื่อดังเมืองเกียวโต ได้บินมารังสรรค์สุดยอดเมนูเนื้อโกเบ ตั้งแต่ 29 เมษายน – 6 พฤษภาคม 2566 เปิด 2 รอบ เวลา 17.00 น. และ 20.30 น.ราคาคนละ 15,000++ บาท สำหรับ 11 คอร์ส (ไม่รวมเครื่องดื่ม)

 

Omakase dinner เปิดให้สัมผัสประสบการณ์ประเพณีแบบญี่ปุ่นแท้ที่ห้องอาหาร เท็นโกะ โอมากาเสะ กรุงเทพฯ ในสวนพฤกษศาสตร์  ล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวขจีและบ่อปลาคราฟที่ชั้นล็อบบี้ของโรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ บริการทุกวันพุธ – วันอาทิตย์ 2 รอบต่อวัน เวลา 17.30 น. และ 20.00 น.

 

ทุกเมนูได้รับการออกแบบและคัดเลือกโดยเชฟมากฝีมือของเรา ปลาและอาหารทะเลสดทั้งหมดบินหลายครั้งต่อสัปดาห์จากตลาดปลาโตโยสึที่โด่งดังไปทั่วโลก อาหารสไตล์โอมากาเสะคือพื้นที่ที่เชฟจะมีอิสระในการเลือกคัดสรรเตรียมวัตถุดิบแต่ละชิ้นพร้อมเล่าความเป็นมาของวัตถุดิบนั้น และสนทนากับคุณ เพลิดเพลินกับอาหารที่อร่อย สดอีกมากมาย ทุกเมนูได้รับการคัดเลือกและเตรียมการอย่างรอบคอบไม่ว่าจะเป็นซูชิ หรือเทมปุระ เทอริยากิ หรือเซ็ตอาหารมังสวิรัติ

 

โอมากาเสะ คือการเตรียมและปรุงแต่งอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบที่สูงที่สุดของการทำอาหาร ซึ่งเป็นการใช้ส่วนผสมที่พิถีพิถันและการนำเสนอที่สมบูรณ์แบบ ประสบการณ์ โอมากาเสะ กรุงเทพฯ ที่ยอดเยี่ยมคือการที่ให้โอกาสผู้เข้าร่วมทานอาหารได้พูดคุยโต้ตอบกับเชฟอย่างใกล้ชิด และแจ้งทางเชฟให้ทราบไม่ว่าจะเป็นอาหารที่คุณชอบหรือไม่ชอบ ล่วงหน้าเพื่อให้ประสบการณ์การทานอาหารของคุณดีเยี่ยมอย่างสมบูรณ์แบบ กับอาหารรสเลิศแสนอร่อย แปลกใจไปกับวัตถุดิบสดใหม่ของส่วนผสมพร้อมชมทักษะที่การทำอาหารชั้นสูงที่สมบูรณ์ของเชฟกับตาห่างเพียงแค่เอื้อมมือ

 

ข่าวที่ 3 คิงเพาเวอร์มหานครจัดเต็มเวิร์คช้อป Neon Art Nightที่ชั้น74

 

คิง เพาเวอร์ จัดเต็มซัมเมอร์นี้ชวนมา DIY เพ้นต์กระเป๋าผ้าด้วยสีอริลิคสะท้อนแสงสุดชิคกับ mediums ซึ่งมีเพียงชิ้นเดียวในโลกกับเวิร์คช็อป Neon Art Night ในวันเสาร์ที่ 29 เมษายนเวลา 19.00 – 21.30 น. ราคาคนละ 999 บาท  เปิดที่ชั้น 74 คิง เพาเวอร์ มหานคร ไว้รอรับแล้วพิเศษ !! รับถุงของขวัญโดนใจจาก FIRSTER BY KING POWER

 

            สำหรับ คิง เพาเวอร์ มหานคร เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 - 00:00 น. พร้อมบริการที่จอดรถให้บริการอย่างสะดวกสบาย หรือจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าถึงทางเข้าอาคาร ลงตรงสถานีช่องนนทรี ทางออก 3

โทรสอบถามได้ที่ 02-677-8721

 

ข่าวที่ 4 ททท.ทำแล้วทำต่อวิจิตรกรุงเทพฯ-365วันมหัศจรรย์เมืองไทย

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ตลาดในประเทศเตรียมกระตุ้นการท่องเที่ยวเริ่มปลายเดือนเมษายน 2566 เป็นต้นไป 2 โครงการ ได้แก่ โครงการแรก "วิจิตร 5 ภาค @กรุงเทพมหานคร : VIJITR @ Bangkok”  กระตุ้นรายได้จากตลาด 3 สายมาแรง คือสายมู สายคอนเทนท์ และสาย instagramer เริ่มวันเสาร์ที่ 29 เมษายน 2566 ตื่นตาการแสดงแสงสีเสียงตระการตาธีม "มู Light Experiences : วิจิตรการมู (เตลู)” ในกรุงเทพมหานคร 3 พื้นที่  ประกอบด้วย

 

 1.ไอคอนสยาม จัดยิ่งใหญ่การแสดง Multimedia Water Features คอนเซปต์ "สายน้ำ ศรัทธา ตำนวนนาคราช"  

 

2.อาคารไปรษณีย์กลางบางรัก9 ชมอย่างจุใจการแสดง Projection Mapping ในคอนเซปต์รัตติกาลแห่งดวงดารา

 

3.สวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟตื่นตากับการแสดง Lighting Installation ในคอนเซปต์สวน 12 นักษัตร

 

จากนั้น นักท่องเที่ยวทุกกลุ่มทุกวัยสามารถชมได้จนถึง  7 พฤษภาคม 2566 ทุกวันเริ่มตั้งแต่ 18.00 น. เป็นต้นไป ห้ามพลาดไฮไลต์แต่ละพื้นที่ มีดังนี้ไอคอนสยาม” แช๊ะแชร์กับจุดถ่ายรูปไฮไลท์ต่างๆ รับ ยันต์นาคราชไปรษณีย์กลาง” ดูดวงกับหมอดูประเภทต่าง ๆ ได้ทุกวัน พร้อมรับฟรี wallpapers มงคลสวนรถไฟ” มาครบทั้ง 12 นักษัตร แจกเหรียญมงคลประจำนักษัตรของตัวเอง

 

โครงการที่ 2 ททท. เปิดตัว โครงการ “365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” เริ่มเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2566 กระตุกต่อมชวนคนไทยออกเดินทางตามปฏิทินการท่องเที่ยวไทย โดยได้รวบรวมทุกแหล่งท่องเที่ยวและเทศกาลต่าง ๆ ทั่วประเทศมารวมไว้ที่เดียว พร้อมมีระบบทันสมัยแนะนำแหล่งท่องเที่ยว เพื่อช่วยค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวพร้อมดีลดีโปรโมชั่นว้าว ๆ คัดสรรมาโดยเฉพาะ ตรงใจทุกไลฟ์สไตล์ ทำให้การท่องเที่ยวของคุณพิเศษขึ้นไปอีกขั้น

 

ข่าวที่ 5 CEOบางจากชูโมเดลองค์กรความสำเร็จงาน“GIFFARINE POWER

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ร่วมเสวนาในงาน GIFFARINE POWER UP YOUR STRENGTH ภายใต้หัวข้อ “Transform Your Vision to Suit Your Success: พลิกมุมมอง สร้างวิสัยทัศน์ เพื่อความสำเร็จของคุณ” ในฐานะผู้นำองค์กรที่ประสบความสำเร็จ นำพาองค์กรปรับเปลี่ยน ขยายธุรกิจ และเติบโตอย่างแข็งแกร่ง มีผลการดำเนินงานสูงสุดในรอบ 4 ทศวรรษ จากการวางแผนอย่างรัดกุม การขยายธุรกิจอย่างครอบคลุม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและทำให้พนักงานมีความสุข

 

โดยบางจากได้แบ่งปันประสบการณ์ทั้งในด้านการปรับตัวและการบริหารธุรกิจ เพื่อรับมือกับวิกฤติโควิด-19 หลักการบริหารคนต่างรุ่นต่าง Generation การสร้างความท้าทายในการทำงาน  การเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดและการจัดการกับความเครียด ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมฟังหลายพันคนที่มาร่วมงานนี้ จัดโดย บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

 

ข่าวที่ 6 TCEBชูไมซ์มิติใหม่นวัตกรรมยั่งยืนครึ่งปี’66โกย5หมื่นล้าน

 

            ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บได้จัดงาน MICE DAY ซึ่งตรงกับวันที่ 26 เมษายนของทุกปี เป็นวันจัดประชุมและนิทรรศการแห่งชาติ หรือ National MICE Day   โดยได้เปิดเวทีกระตุ้นความสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยพร้อมเป็นกลไกพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างรายได้ และกระจายความเจริญไปยังทุกภูมิภาค

           

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ทีเส็บได้จัดงาน MICE DAY 2023 เป็นปีที่ 3  ภายใต้แนวคิด “ไมซ์มิติใหม่ ขับเคลื่อนไทยด้วยนวัตกรรมยั่งยืน” ตอบโจทย์แคมเปญ “ปีแห่งการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ Thailand MICE to Meet You Year 2023 โดยร่วมกับผู้ประกอบการและพันธมิตรไมซ์ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับแนวคิดและการปฏิบัติเรื่องความยั่งยืนและนวัตกรรมมุ่งเน้นการพัฒนาที่ครบทุกองค์ประกอบทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม การประยุกต์ใช้นวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและความสามารถทางการแข่งขัน ซึ่งเป็นแนวทางหลักตามแผนปฏิบัติการของทีเส็บระยะ 5 ปี พ.ศ.2566-2570

 

ตามแผนดังกล่าวกำหนดประเด็นความยั่งยืนและนวัตกรรม ไว้ในแผนปฏิบัติอยู่ใน 5 พันธกิจหลักได้แก่

 

พันธกิจแรก คือ การขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น Global MICE Leader ด้วยการสร้างเครือข่ายพันธมิตร และสร้างโอกาสทางธุรกิจผ่านการดึงงานไมซ์นานาชาติเข้าสู่ประเทศ พันธกิจที่ 2 การใช้เอกลักษณ์ชุมชนท้องถิ่นที่หลากหลายสร้างขีดความสามารถการแข่งขันให้กับเมืองจุดหมายการจัดงาน หรือ Destination Competitiveness Through Diverse Local Identities

 

พันธกิจที่ 3 การใช้นวัตกรรมยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของไมซ์ไทยบนเวทีโลก ผ่าน Innovative MICE Solution พันธกิจที่ 4 พัฒนาทีเส็บให้เป็นองค์กรสมรรถนะสูงคล่องตัว หรือ Agile and High Performance Organization พันธกิจที่ 5 พัฒนากระบวนการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมไมซ์ และพัฒนาศักยภาพบุคลากรไมซ์เพื่อการดำเนินการตามแนวทางที่ยั่งยืน หรือ Go for MICE Sustainability

 

ดร.อรรชกา กล่าวว่าจากรายงานผลการดำเนินงานอุตสาหกรรมไมซ์ครึ่งปีแรกปีงบประมาณ 2566 ระหว่างตุลาคม 2565 - มีนาคม 2566 ทีเส็บสามารถนำไมซ์ไทยมีนักเดินทางเข้าประเทศรวมทั้งสิ้น 11,348,371 คน สร้างรายได้รวม 49,572 ล้านบาท แบ่งเป็น “ตลาดต่างประเทศ” 374,021 คน สร้างรายได้ 24,556 ล้านบาท และ “ตลาดในประเทศ” 10,974,350 คน สร้างรายได้ 25,016 ล้านบาท

 

รวมทั้งสามารถสร้างประโยชน์เกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน อีก 4 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 มูลค่าทางเศรษฐกิจ จากค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมไมซ์กว่า 108,131 ล้านบาท ส่วนที่ 2 ก่อให้เกิดรายได้ประชาชาติรวม 104,686 ล้านบาท ส่วนที่ 3 ภาครัฐสามารถจัดเก็บภาษีจากการจัดกิจกรรมไมซ์ได้ 7,800 ล้านบาท ส่วนที่ 4 เกิดการจ้างแรงงานไมซ์เพื่อการจัดงานทั่วประเทศได้ถึง 145,000 อัตรา

 

ดร.อรรชกา ย้ำว่าเห็นได้ชัดหลังเปิดประเทศเมืองไทยได้รับความนิยมอย่างมาก จึงเป็นโอกาสที่อุตสาหกรรมไมซ์ทั้งระบบจะช่วยกันต่อยอดเน้นสร้างคุณภาพความยั่งยืน กระจายโอกาสให้กว้างขวาง อีกทั้งงาน MICE DAY 2023 ยังเป็นเป็นเวทีประกาศความพร้อมทางการแข่งขันในเวทีโลกด้วยแคมเปญ Thailand MICE to Meet You Year 2023 ได้ด้วย

 

ขณะที่ภายในงาน MICE DAY 2023 มีกิจกรรมไฮไลท์ ประกอบด้วย การบรรยายพิเศษจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศด้านเทคโนโลยีและความยั่งยืนในช่วง “Sustainnovation” พิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดประชุมนานาชาติ (Convention Ambassador) การจัดนิทรรศการเดินหน้ามิติใหม่ THAILAND MICE IT...HAPPEN” ซึ่งจะแสดงผลงานสินค้าบริการไมซ์จากชุมชน เครื่องมือและมาตรฐานรองรับด้านความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์อย่างยั่งยืน

 

            ช่วงที่ 2 ชวนไปเที่ยวมหกรรมเติมบุญใหญ่ “บวชนาคช้าง” จังหวัดสุรินทร์ อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม แห่งปี 2-4 พฤษภาคม 2566 ที่วัดแจ้งสว่าง ตำบลตากลาง อำเภอเมือง ร่วมประเพณีขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ชมวิถีธรรมของชาวกวย และเขมร จากนั้นมาฟัง “กินอาหารตอนหิวเผาผลาญดีสุดและวิธีกิน 3 มื้อ” ท้ายชั่วโมงฟัง ข่าวแรก “โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ งัดโปร Flash Sale ขาย 890 บาท บุฟเฟต์ดินเนอร์ 5 เดือน 5 ข่าวสอง “สมาคมท่องเที่ยวภูเก็ตโร้ดโชว์3มณฑลจีน” ยิ้มร่าฤดูฝนปีนี้รับทรัพย์แน่ 30,000 ล้านบาท

 

ท่องเที่ยว –สุรินทร์ชวนสายมูเที่ยว“บวชนาคช้าง”วิถีบุญขึ้น15เดือน6

 

ร่วมตื่นตาตื่นใจไปกับงานประเพณีสุดยิ่งใหญ่!!  "ประเพณีบวชนาคช้าง ประจำปี 2566" ซึ่งเป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวกูย ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตที่มีความผูกพันกับช้างมาอย่างยาวนาน

 

บวชนาคช้าง” เป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวสุรินทร์ทั้ง เขมร ลาว แลถชาวกวย ที่นับถือพุทธศาสนาถือปฏิบัติสืบทอดกันมา เมื่อลูกชายอายุ ครบ 20 ปีบริบูรณ์ ก่อนมีเรือน พ่อแม่ต้องจัดการบวชให้ลูกชายเพื่อศึกษาธรรมวินัยเสียก่อน การบวชของหนุ่มชาวกวย ถือเป็นงานยิ่งใหญ่ของครอบครัวและชุมชน เพราะเมื่อถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี เพราะมีความเชื่อว่าวันเพ็ญเดือนหก เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน

 

ทุกปีชายชาวกวยอายุครบบวช จะนัดกันไปบวชที่ “วัดแจ้งสว่าง” บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม ก่อนวันบวชหนึ่งวันนาคจากแต่ละหมู่บ้านจะจัดพิธีแห่โดยใช้ช้างร่วมขบวนเป็นจำนวนมาก

 

ซึ่งเชื่อว่าการบวชนี้ถ้าจะให้ “ได้ชื่อเสียงหรือได้บุญมาก” จะต้องนั่งช้างแล้วแห่ระยะทางไกล ๆ โดยมีผู้คนร่วมขบวนแห่นาคด้วยจำนวนมาก มาจนถึงบริเวณวังทะลุ ริมแม่น้ำมูล เพื่อทำพิธีเซ่นศาลปู่ตาและขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือ พร้อมประกอบพิธีอุปสมบทบริเวณ “ดอนบวช”

 

ปีนี้เชิญชวนนักท่องเที่ยวสายบุญ สายมู วางแผนร่วมทริป “บวชนาคช้าง” จังหวัดสุรินทร์ ได้ ระหว่างที่ 2-4 พฤษภาคม 2566  ที่ศูนย์คชศึกษา บ้านตากลาง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์

 

วันแรก 2 พฤษภาคม 2566 ช่วงเช้าวันขึ้น 13 ค่ำเดือน 6 ร่วมพิธีโกนผมนาค ที่วัดแจ้งสว่าง  และชมการทำขวัญนาคหมู่  ไปด้วยกัน

 

วันที่สอง 3 พฤษภาคม 2566 บ่ายวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 6 ร่วมขบวนแห่นาคด้วยช้างนับร้อยเชือกอันยิ่งใหญ่ตระการตา จากวัดแจ้งสว่างไปยังดอนบวช (วังทะลุ)  เพื่อทำพิธีเซ่นไหว้ขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บริเวณศาลปู่ตาวังทะลุ  พร้อมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน

 

วันที่สาม 4 พฤษภาคม 2566 เช้าวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ร่วมบุญในพิธีอุปสมบทหมู่ ที่วัดแจ้งสว่าง  

 

ทำครบจบทั้ง 3 วัน เป็นอันเสร็จพิธีบุญใหญ่ ในการเดินทางท่องเที่ยวแห่งปี สัมผัสประสบการณ์อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม “บวชนาคช้าง” จังหวัดสุรินทร์

 

สุขภาพ –“กินอาหารเวลาหิวจริง”ช่วยเผาผลาญได้ดีสุดแนะวิธีกินทั้ง3มื้อ

 

คำถามที่ว่า กินอาหารมื้อไหนสำคัญที่สุด? ถ้าอยากสุขภาพดี ขอชวนสายสุขภาพมาหาคำตอบกัน! ในยุคสมัยที่การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากการออกกำลังกายแล้ว มื้ออาหารที่ดีก็เป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้เราดูแลร่างกายได้ดีมากยิ่งขึ้น แล้วควรกินหรือไม่กินอาหารให้ครบ 3 มื้อ เช้า กลางวัน และเย็น ติดตามได้จากผลวิจัยดังนี้

 

เริ่มจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพส่วนใหญ่จะเห็นพ้องต้องกันว่า “ช่วงเวลาที่ดีที่สุด” ที่จะรับประทานอาหาร คือ “ช่วงเวลาที่คุณหิวอย่างแท้จริง” ซึ่งร่างกายพร้อมรับการาเผาผลาญมากที่สุดนั่นเอง รวมถึงบทความของ Harvard Mental Health article จะแนะนำให้กินอาหารทุกมื้ออย่างช้า ๆ เพื่อป้องกันอาการท้องอืด กรดไหลย้อน อาหารไม่ย่อย เมื่อกินช้าจะลงจะรู้สึกอิ่มเร็วและกินน้อยลงอีกด้วย

 

ซึ่งที่ผ่านมามีบางความเชื่อกันว่า “มื้อเช้า” สำคัญสุด งานวิจัยมากมายยุคแรก ๆ ต่างยกข้อดีของมื้อเช้าไว้เพียบ เช่น มีผลดีต่อการลดน้ำหนัก ช่วยเติมเต็มพลังงานหลังจากที่อดมาตลอดคืน แต่ “ระยะหลัง” มานี้มีงานวิจัยจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าการงดอาหารเช้าอาจ “ไม่ได้แย่” อย่างที่คิด แล้วงานวิจัยที่ชี้ว่าช่วยทำให้ร่างกายพักผ่อน จากการงดเผาผลาญอาหารเป็น 14-16 ชม. จะส่งผลดีต่อสุขภาพ ทั้งด้านฮอร์โมน ระบบหมุนเวียนเลือด และระบบขับถ่าย ด้วย

 

ส่วนผู้ที่กังวลเรื่องน้ำหนัก-รูปร่าง ยังมีงานวิจัยหลายๆ ชิ้นที่แนะนำว่าการงดอาหารเช้าจะช่วยลดน้ำหนักด้วยซ้ำ! เพราะยังมีปัจจัยรวมทั้งขึ้นอยู่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนจึงทำให้เกิดความต่างระหว่างกลุ่มกินอาหารเช้าและงดอาหารเช้าที่มีผลต่อน้ำหนักและสุขภาพ

 

เหตุนี้เอง “การงดมื้อเช้า” ก็อาจจะไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิด และคนบางคนยังส่งผลต่อร่างกายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เองการทานมื้อเช้าหรือไม่ทานมื้อเช้า จึงอาจจะขึ้นอยู่กับระบบร่างกายของเรามากกว่า

 

“มื้อกลางวัน” ก็มีงานวิจัยสนับสนุนว่าจำเป็น ทั้งช่วยให้น้ำตาลในเลือดสูงระหว่างวัน ส่งผลให้กระปรี้กระเปร่าตลอดวัน และช่วยให้มีสมาธิกับช่วงเวลาที่เหลือตลอดวันได้ดี แต่มื้อกลางวันไม่จำเป็นจะต้องเป็นมื้อใหญ่ เป็นเพียงแค่มื้อเล็ก ๆ ช่วยเติมพลังและช่วยให้สดชื่นได้มากยิ่งขึ้นแล้ว เพราะถ้าอดมื้อกลางวันไปเลย จะทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำ หงุดหงิดง่าย และอาจจะนำไปสู่มื้อเย็นที่หนักกว่าปกติ ซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด

 

          “มื้อค่ำ” หลายคนกินต่างกันไป บ้างก็เป็นมื้อจัดหนักทดแทนการเหน็ดเหนื่อยมาตลอดวัน บ้างก็ทานแบบเบา ๆ หรืองดไปเลยก็มี ส่วนนักโภชนาการแนะนำว่ามื้อเย็นให้กินแบบเบา ๆ ดีกว่างดกินไปเลย เพราะจะส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่า และปรับเวลาให้เข้ากับเวลานอนของเราเอง โดยแนะนำให้ทานมื้อเย็นให้เสร็จเรียบร้อยก่อนนอน 2-3 ชั่วโมง นั่นเอง

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –รร.ดิเมอร์รัลงัด Flash Sale 890บาทบุฟเฟต์ดินเนอร์”5เดือน5

 

โรงแรม ดิ เอมเมอรัล กรุงเทพฯ เปิดมหกรรม Flash Sale บุฟเฟต์ดินเนอร์ ต้อนรับการตลาดเทรนด์ยอดนิยม 5 เดือน 5 หรือวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 ห้องดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ เปิดให้ช้อปคูปองอาหารในราคาลดเหลือเพียงคนละ 890 บาทเท่านั้น จากโปรโมชั่นเดิมคนละ 1,299 บาท ส่วนราคาปกติจะต้องจ่ายคนละ 1,700 บาท ซื้อคูปองอาหารตามโปรโมชั่นแฟลชเซลในวันดังกล่าว แล้วสามารถนำมาใช้ได้จนถึงวันที่ 4 มิถุนายน 2566

 

ทางห้องอาหาร ดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ โรงแรม ดิ เอมเมอรัล กรุงเทพฯ ได้คัดสรรซีฟู้ดและซูชิเกรด พรีเมียม พร้อมอาหารนานาชาติให้คุณทุกคนได้รับประทานมื้อเย็นแบบไม่อั้น ให้อิ่มแบบเต็มที่กับบุฟเฟต์มื้อค่ำเปิดบริการตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.00 น.

 

ห้ามพลาด!! เมนูเด็ด คือ ขาปูอลาสก้า หอยปีกนก ข้าวหน้าเป๋าฮื้อซอสมันปูญี่ปุ่น ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิว แซลมอนและกุ้งดองซีอิ๊วเกาหลี และ เทปปันยากิกุ้งแม่น้ำ โทร.0-2276-4567 ต่อ 8429-30 หรือไลน์ @theemeraldhotel 

 

ข่าวที่สอง -สมาคมท่องเที่ยวภูเก็ตโร้ดโชว์จีน3มณฑลตีปีกโกย3หมื่นล้าน

 

นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ต เปิดเผยว่า นำผู้ประกอบการในภูเก็ต ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปทำโรดโชว์โครงการ Amazing Phuket Roadshow to China 2023 ในพื้นที่ตลาดหลัก 3 มณฑลใหญ่ได้แก่ ฉงชิ่ง ปักกิ่ง และหนานจิง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีผู้ประกอบการไทยรวม 54 ราย ได้เข้าร่วมเจรจาธุรกิจกับบริษัทท่องเที่ยวชั้นนำของจีน 250 ราย พื้นที่หลักและใกล้เคียง   

 

ซึ่งทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ตั้งเป้าหมายหลังเสร็จสิ้นโร้ดโชว์ครั้งนี้ จะนำนักท่องเที่ยวจีนเดินทางกลับเข้ามาท่องเที่ยวภูเก็ตตลอดปีนี้ได้ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคน จะสร้างเงินรายได้หมุนเวียนเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท สอดคล้องกับแผนการตลาดของททท.ประมาณการณ์ปี 2566 จะกระตุ้นจำนวนท่องเที่ยวจีน 3 มลฑลดังกล่าวนี้เข้ามาไทยไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน

 

ส่วนกิจกรรมภาพรวมในการเจรจาระหว่างผู้ขายไทยกับผู้ซื้อในจีน ผู้ประกอบการธุรกิจไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ทางคู่ค้าท่องเที่ยวในมณฑลใหญ่ปักกิ่ง ต่างให้ความสนใจ สินค้าและบริการเข้ามาเจรจากับเอกชนภูเก็ตในงานเป็นจำนวนมาก จึงคาดในช่วงฤดูฝนหรือ Green Season ปีนี้ภูเก็ตจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน

 

สำหรับการเดินทางไปโร้ดโชว์ในจีน 3 มณฑล ครั้งนี้ ในช่วงเดือนเมษายน 2566 โดยมี นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท.นางนงลักษณ์ อยู่เย็นดี ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานเซี่ยงไฮ้ นำทีมผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย พร้อมด้วยสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ต กับองค์การบริการส่วนจังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย นายไกรวุฒิ คุ้มบ้าน นายปรีชาพัฒน์ ขรรค์วิไลกุล นายวชิรวิชญ์ พึ่งแรง นายวีระวงศ์ จรสกุล นายศุภชาติ กิจดำเนิน สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต  นายยงยุทธ ลักษณาวิบูลย์กุล หัวหน้าตรวจสอบภายในองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมส่งเสริมการขายท่องเที่ยวเพื่อนำรายได้จากตลาดจีนกระจายเข้าสู่ภูเก็ตให้ได้ตามเป้าดังกล่าว

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai