มาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย #THAเปิดความจริงปี66 ครึ่งปีหลังอัตราพัก70% #โรงแรมต้นทุนค่าไฟค่าจ้างอ่วม45%

เปิดใจ“มาริสา สุโกศล”นายกส.โรงแรมไทยผ่าความจริงธุรกิจปี’66

ครึ่งปีหลังทั่วไทยลุ้นเป้าอัตราพัก70%ฝ่า2ปัจจัยPM2.5+ค่าไฟพุ่ง

โรงแรมแบกต้นทุนอ่วม”ค่าจ้าง+ค่าไฟ”45%ฝากรัฐบาลใหม่แก้ด่วน

ช้อปคิงเพาเวอร์ง่ายเป็นไปได้คลิกKingPower.com/Firster.com

สมาชิกบัตรคิงเพาเวอร์รับส่วนลด3หมวด“ที่พัก/กิน/สปา”10-20%

ททท.เปิดเว็บใหม่ขาย365วันเที่ยวได้ทุกวัน5ภาคแจกใหญ่4.2ล้าน

“บางจาก”ชวนสมาชิกกรีนไมลส์แปลงแต้มเป็นเงินหนุน18องค์กร

TCEBแนะ5ไอเดียโชว์คั่นเบรกสัมมนาดึงงานคึกคักและประทับใจ

เที่ยวอำเภอสวีชุมพร5พิกัดชวนกันไปติดเกาะคลายร้อนปีเถาะ66

กินไข่วันละ1-3ฟองมีผลพิสูจน์แล้วดีต่อร่างกายครบเกือบทุกด้าน

BCPGลุยเปิดโครงการก่อสร้างพลังงานลมมอนซูนในสปป.ลาว

วว.ผนึกกรมการท่องเที่ยวอบรมฟรี13มาตรฐานทัวร์16พ.ค.66

ดูไบดึงทั่วโลกร่วมATM 2023ตีปีกรุกขายทัวร์จีน6ล้านคน/เดือน

 

วันอาทิตย์ที่  30 เมษายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #สมาคมโรงแรมไทย  #เที่ยวทะเลสวีชุมพร5พิกัด #เกาะกุลา #แหลมคอกวาง

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/kdG0G8ukj1/

ช่วงที่ 1 ผ่าความจริงกับ “มาริสา สุโกศล หนุนภักดี” นายกสมาคมโรงแรมไทย สถานการณ์ธุรกิจห้องพักทั้งประเทศปี’66 ครึ่งปีหลังรายได้คึกคักกว่าครึ่งปีแรก ลุ้นทำอัตราเข้าพักทั่วไทยฝ่าปัจจัยลบได้เกิน 70 % ของปี’62 เร่งแก้ 2 ตัวแปรพิเศษ “มลพิษ PM2.5” กับ “ค่าไฟ” ทำใหม่พุ่งแตะ 10 % โอดต้นทุนค่าจ้างกับค่าพลังงานอ่วม 45 % จับเข่าคุยหอการค้าไทย กกร.หาวิธีช่วยฝาก “รัฐบาลใหม่” เร่งยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมเปิดแผนผนึก 2 พันธมิตร “booking.com ผู้นำตลาด OTAและTour Link ยุโรป” ผลักดันโรงแรมไทยก้าวข้ามยุทธศาสตร์โลว์คาร์บอนไปสู่ความยั่งยืน

 

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) เปิดเผยว่า ปี 2566 ทางสมาคมโรงแรมไทยได้ประเมินสถานการณ์ธุรกิจครึ่งปีหลังจะมีนักท่องเที่ยวจองพักห้องพักโรงแรมทำให้ผลประกอบการรายได้เติบโตดีกว่าครึ่งปีแรกโดยเฉพาะช่วงสงกรานต์คนไทยเที่ยวต่างประเทศปริมาณสูงขึ้น แต่ปลายปีจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนและรายได้แต่โดยรวมจะได้ประมาณ 70 % ของปีปกติ 2562 สถิติ 4 เดือนปีนี้ทำอัตราการเข้าพักเฉลี่ยได้แล้วกว่า 65 %

 

ส่วนการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวหลัก เริ่มจาก “กรุงเทพฯ” รายได้และการเข้าพักค่อนข้างดี “ภาคเหนือ” โรงแรมระดับ 3-4 ดาว มีรายได้ดีกว่าระดับ 5 ดาว ส่วนตัวแปรเรื่องมลพิษฝุ่น PM 2.5 ส่วน “ภาคใต้” หัวหิน กับภูเก็ต ตลอดเดือนท่องเที่ยวสงกรานต์ยอดจองที่พักหนาแน่นมาก แต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไปอาจลดลงเพราะชาวต่างชาติทยอยเดินทางกลับประเทศกันแล้ว

 

สำหรับตัวแปรพิเศษ 2 เรื่องใหญ่ เรื่องที่ 1 มลพิษฝุ่น PM 2.5 ทางเมื่อปีทีผ่านมาทางสมาคมเคยเข้าพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ แล้วก็คงต้องให้เป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566

 

เรื่องที่ 2 ค่าพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่สุดของธุรกิจโรงแรม เนื่องจากสถิติปี 2565 ต้นทุนค่าไฟฟ้าของโรงแรมทั่วประเทศเพิ่มสูงขึ้นกว่า 20 % ผู้ประกอบการพยายามแก้ไขด้วยการ “ลงทุนเครื่องจักร” เช่น แอร์ปรับอากาศหันมาใช้พลังงานหมุนเวียน ประหยัดไฟฟ้า แต่ศักยภาพการเข้าถึง “แหล่งเงินทุน” ไม่เท่ากัน ตอนนี้ทางธนาคารเปิดโครงการ Green Loan ปล่อยสินเชื่อการลงทุนกับผู้ที่ต้องการจะลงทุนทำธุรกิจอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมปัจจุบันและอนาคต

 

ขณะนี้โรงแรมได้รับผลกระทบจากต้นทุนสูงขึ้นรอบด้าน ไม่เฉพาะค่าไฟฟ้า ตอนนี้ยังมีค่าก๊าซหุงต้ม ด้วย ตามปกติค่าไฟของแต่ละโรงแรมเคยบริหารจัดการให้อยู่ในสัดส่วนต้นทุนประมาณ 4 % แต่ตอนนี้ขยับขึ้นมาแตะ 10 % แล้ว และยังมีค่าใช้จ่ายการจ้างบุคลากรบริการทั้งเงินเดือนบวกกับสวัสดิการประมาณ 35 % ค่าต้นทุนโรงแรมเฉพาะ 2 ส่วน เฉลี่ยประมาณ 45 % ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว

 

นางมาริสากล่าวว่า ขณะนี้ทางสมาคมโรงแรมไทย ช่วงแรก ๆ ใช้ความพยายามทำจดหมายถึงคณะกรรมการพลังงานที่ดูแลด้านค่าไฟฟ้า เนื่องจากเป็นธุรกิจที่อยู่ในหมวด 5 ที่ผ่านมาก็ได้รับการยกเว้นค่า Minimum Charge บ้าง แต่จะไม่ได้รับการพิจารณาพิเศษ เพราะรัฐยกเว้นให้เหมือนกันทั้งภาคธุรกิจและประชาชน

 

ล่าสุดจึงเปลี่ยนไปใช้ช่องทางใหม่หันไปพึงสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กับคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน ธุรกิจก็ได้รับการลดหย่อนบางส่วนประมาณ 5-6 เดือน รวมทั้งได้รับการยืนยันประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเป็นข้อเปรียบเทียบระหว่างไทยสูงกว่าเวียดนามมาก มีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนด้วย เป็นโจทย์ของรัฐบาลชุดหน้าที่จะนำมาใช้ในการหาเสียง และอาจเป็น Top Agenda ด้วยเช่นกัน

 

นางมาริสากล่าวว่าเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการที่จะตอบโจทย์เทรนด์ตลาดโลกเรื่องการลดคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ตามเป้าหมายของนานาชาติ ทางสมาคมโรงแรมไทยได้ใช้ “มูลนิธิใบไม้เขียว” ขณะนี้ได้ร่วมกับ 3 พันธมิตร ประกอบด้วย 1.จับมือทาง booking.com ซึ่งกำลังทำโครงการ “โรงแรมสีเขียว” บนแพลตฟอร์ม เพื่อให้ความรู้กับโรงแรมต่าง ๆ เพื่อทำแผนงานเชิงลึก ทั้ง ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 2.ร่วมกับ Tour Link โครงการของสหภาพยุโรปทำแบบครบวงจรกับ Supply Chain Green Tourism ทั้งหมด ไม่ว่าโรงแรมที่พัก มัคคุเทศก์ บริษัทจัดนำเที่ยว รถท่องเที่ยว และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง มีทั้งการให้องค์ความรู้ มาตรฐานธุรกิจสีเขียว การฝึกอบรมบุคลากร

 

จากประสบการณ์ส่วนตัวเคยทำโครงการด้านสิ่งแวดล้อมให้สมาคมโรงแรมไทยมานาน ตอนนี้จึงได้เห็นช่องทางการขายที่พักเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่จะทำให้ผู้ใช้บริการหาพบแล้ว โดยมี OTA : Online Tourism Agent ซึ่งเป็นเครือข่ายออนไลน์จองห้องพักและนำเที่ยวต่าง ๆ เข้ามาเป็นตัวเชื่อมการขายในระบบ รวมทั้งมีเทรนด์และกระแสเนื่องจากบริษัทจัดนำเที่ยว กับบริษัทจัดงานไมซ์ซึ่งมีความเข้มแข็งมากเรื่องการจัดงานให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้นสมาคมโรงแรมไทยจึงก้าวข้ามจากการ Low Carbon ซึ่งเป็นเพียงลดการปล่อยคาร์บอน ลดการใช้พลังงาน แต่ตอนนี้มองข้ามช็อตไปถึงการสร้างธุรกิจโรงแรมสู่ “ความยั่งยืน -Sustainable” เพราะมีเครือข่ายชุมชนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

 

นางมาริสากล่าวว่าขณะนี้สมาชิกโรงแรมในไทยมีเพียง 600-700 โรงแรม ที่ได้การรับรองจากมูลนิธิใบไม้เขียว Green Hotels , Green Leaf แต่ก็ยังต้องเดินหน้ารณรงค์ให้เข้ามาร่วมปฏิบัติตามมมาตรฐานโรงแรมสีเขียว ปีนี้ได้ผนวกเพิ่มใช้ตัวชี้วัดค่าการคำนวณปล่อยคาร์บอนตามมาตรฐานไทยด้วย โดยไม่นับโรงแรมเชนซึ่งจะมีรายละเอียดแยกออกไป ซึ่งมีมาตรฐานของเชนเฉพาะอยู่แล้ว

 

ขณะเดียวกันทางโรงแรมไทยได้ร่วมกับทางสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (TOCA) แนวทางปฏิบัติของแล้วจะร่วมกับพันธมิตรต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายเกษตรกรผู้ผลิตวัตถุดิบอินทรีย์ด้านอาหารและอื่น ๆ โดยเริ่มจากการซื้อข้าวอินทรีย์จากสามพราน โมเดล กับ TOCA ตอนนี้มีงานแฟร์เกิดขึ้นทำให้โรงแรมมีช่องทางเข้าถึงวัตถุดิบดังกล่าวได้มากขึ้น แต่ยังคงเป็นความท้าทายของภาคธุรกิจที่จะสร้างมาตรฐานธุรกิจสีเขียวให้ครบทั้งวงจร

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 ช้อปคิงเพาเวอร์ง่ายเป็นไปได้คลิกKingPower.com/Firster.com

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ แนะนำทุกคนช้อปง่าย ๆ “เป็นไปได้” ทุกการเดินทาง ที่ KingPower.com ให้คุณช้อปแบบคลิกเดียวจบ! แค่มีไฟลต์บิน ก็ช้อปดิวตี้ ฟรี ออนไลน์ได้ง่าย ๆ แล้วรับของได้ที่สนามบิน วันไหนมีไฟลต์ต้องช้อปเลย ด้วย 3 Step ดังนี้

 

Step 1 เข้าไปที่เว็บไซต์ www.kingpower.com  หรือ King Power Application สามารถซื้อสินค้าล่วงหน้าได้ 60 วัน จนถึงสนามบินก่อนเดินทางขึ้นเครื่อง 2 ชั่วโมง

 

Step 2 ช้อปสะดวกและชำระเงินเลือกรับสินค้าที่บริเวณจุดรับได้ทั้งขาเข้า (Arrival) หรือขาออก (Departures)

Step 3 รับสินค้าได้ที่จุด Collection Pointภายในแต่ละสนามบินที่เดินทางแต่ละทริป

 

นักช้อปมืออาชีพทำให้ทุกการเลือกซื้อสินค้า คิง เพาเวอร์ เป็นไปได้อย่างสะดวก ทุกวันนี้ คือ

 

1.วันที่ไม่ไปไหนคลิก FIRSTER BY KING POWER ช้อปได้ทุกวัน ให้ชีวิตเป็นไปได้อีกเยอะ

เลือกช้อปไอเทมชิกกับสินค้าแบรนด์ดังกว่า 90,000 รายการ พร้อมบริการส่งถึงบ้านและโรงแรม สะดวกสบาย มีเวลาช้อปได้อีกเยอะ

 

2. วันที่มีทริปเดินทางคลิก KING POWER  ให้คุณช้อปง่าย เป็นไปได้ทุกการเดินทาง

ช้อปสินค้า ดิวตี้ ฟรี ออนไลน์ รับของง่ายที่สนามบินทั้งขาเข้า เเละขาออก

 

จะมีทริปหรือไม่มีทริป ก็ช้อปคลิกเดียวจบ กับ คิง เพาเวอร์ สัมผัสประสบการณ์การช้อปครั้งใหม่พร้อมกัน ตั้งเเต่เมษายน 2566 เป็นต้นไป

 

ข่าวที่ 2 สมาชิกบัตรคิงเพาเวอร์รับส่วนลด3หมวด“ที่พัก/กิน/สปา”10-20%

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ แจกสิทธิประโยชน์ให้สมาชิก คิง เพาเวอร์ 4 ประเภท VEGA, CROWN, ONYX และ SCARLET รับส่วนลดจากเครือข่ายพันธมิตร 3 หมวด คือ โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร และทำสปา ดังนี้

 

1.รับส่วนลด 10% เมื่อจองใช้ห้องพักทุกประเภท ที่โรงแรม The Salil Hotel Riverside – Bangkok

2.รับส่วนลด 15% ค่าอาหารเมนูตามสั่งหรือ A La Carte ที่ NAVA Restaurant

3.รับส่วนลด 20% เมื่อเข้าใช้บริการเวลเนสและสปาที่ หานเฮอริเทจ สปา ริเวอร์ไซด์ (HARNN Heritage Spa Riverside)

 

รับสิทธิ์ ได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2566 โดยไม่จำกัดสิทธิ์ในการจองตลอดรายการ เพียงแค่สมาชิกกดรับรหัสส่วนลดผ่านระบบ LINE Official Account : @kingpower หรือ kingpower.com และแจ้งรหัสส่วนลดกับเจ้าหน้าที่ของโรงแรม เพื่อทำการจองล่วงหน้า (กรุณาสอบถามข้อมูล ก่อนทำการกดรับสิทธิ์)

 

สมาชิกคิง เพาเวอร์ สามารถสำรองห้องพักและนัดหมายการเข้ารับบริการล่วงหน้าที่ โรงแรม The Salil Hotel Riverside-Bangkok ได้ที่ โทร. 02-844-8787 หรือเว็บไซต์ thesalilriverside.com

 

สมาชิกคิง เพาเวอร์ ต้องทำการจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน กรณีจองห้องพัก หากไม่แสดงตัวหรือไม่ทำการยกเลิกล่วงหน้าก่อนเข้าพัก 7 วัน ทางโรงแรมขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าเข้าพักเต็มจำนวนเงิน รวมทั้งต้องปฏิบัติกติกา

 

1.กดรหัสแล้ว ไม่ได้มาใช้สิทธิ์ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่ชดเชยทุกกรณี 2.สิทธิ์ที่แลกรับไม่สามารถเปลี่ยนหรือทอนเป็นเงินสดได้ 3.ไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้ สมาชิกต้องแสดงตัวตน 4.ขณะเช็กอินต้องแสดงสถานะสมาชิกผ่านระบบ LINE Official Account หรือ kingpower.com เพื่อยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับที่จองใช้บริการ

 

ข่าวที่ 3 ททท.เปิดเว็บใหม่ขาย365วันเที่ยวได้ทุกวัน5ภาคแจกใหญ่4.2ล้าน

 

นางสาวฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เปิดตัวแล้ว “โครงการ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” ลงทุนทำเว็บไซต์การท่องเที่ยวสุดทันสมัย นำเสนอปฏิทินรวบรวมเทศกาล กิจกรรม ประเพณี และระบบค้นหาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการท่องเที่ยว  พร้อมทั้งจับมือกับแพลตฟอร์ม KLOOK มอบส่วนลดและสิทธิพิเศษ ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกช้อปสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว ทำให้ทุกการเดินทางท่องเที่ยวไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม และคาดหวังโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นคนออกมาท่องเที่ยวมิติใหม่แตกต่างไปจากเดิมเพิ่มขึ้นช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว และร่วมขับเคลื่อนปีการท่องเที่ยวไทย 2566 กลับมาคึกครื้นอีกครั้ง

 

 

ขณะนี้ ททท.ได้ดีไซน์เนื้อหาบนเว็บไซต์ใหม่ amazingthailand365.tourismthailand.org ด้วยฟีเจอร์ล้ำสมัยพร้อมช่วยนักท่องเที่ยวเดินทางได้ง่าย สะดวกสบายมากขึ้น ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่

 

ส่วนที่ 1 ปฏิทิน 365 Wonder Calendar ที่รวบรวมเทศกาล กิจกรรม ประเพณี วัฒนธรรม ดนตรี กิจกรรม และแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศไทยทุกภูมิภาค

 

ส่วนที่ 2  จัดทำระบบแนะนำแหล่งท่องเที่ยวส่วนบุคคล ผ่านแอปพลิเคชั่น Line โดยจัดหมวดหมู่ตามความสนใจ แบ่งเป็น รายภูมิภาค รูปแบบการท่องเที่ยว ช่วงเวลาท่องเที่ยว ด้วยการประมวลผลแม่นยำและตรงใจนักท่องเที่ยวมากที่สุด เพื่อจะได้ค้นหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวตามที่ต้องการและอำนวยความสะดวกได้
อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

 

ส่วนที่ 3 ร่วมกับพันธมิตรมอบสิทธิพิเศษเป็นส่วนลดจากกลุ่มผู้ประกอบการทั่วไทย 200 รายการ  มีทั้งโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร และการเข้าชม แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ มีคุณค่าและความหมาย กระจายรายได้สู่ธุรกิจรายย่อยได้ด้วย

 

 

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า การเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ “365 วัน มหัศจรรย์เที่ยวเมืองไทย” ครั้งนี้ มีไฮไลต์กระตุ้นนักท่องเที่ยวโดยมีเงินรางวัลให้ลุ้นรวมกว่า 4.2 ล้านบาท กับ  2 กิจกรรม คือ กิจกรรมแรก  “ขุมทรัพย์ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย” เชิญชวนออกเดินทางตามหาน้องสุขใจตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั้ง 77 จังหวัด แล้วสแกนคิวอาร์โค้ดที่มาสคอตน้องสุขใจ ลุ้นรับของรางวัลกว่า 3 ล้านบาท เช่น แพ็กเกจที่พัก แพ็กเกจเสริมความงาม ส่วนลดร้านอาหาร และอื่น ๆ

 

กิจกรรมที่ 2 รับสมัคร “นักท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” เลือกเดินทางออกไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของเมืองไทยแล้วจัดทำเนื้อหาประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว พร้อมทั้งสมัครและส่งแฟ้มประวัติผลงานผ่านช่องทางเว็บไซต์ททท.โครงการนี้ ซึ่งจะคัดเลือกผู้ร่วมกิจกรรมที่นำเสนอคอนเทนต์เข้ามาไว้ 20 คน ผู้ผ่านการคัดเลือกจะเข้ารอบสัมภาษณ์กับคณะกรรมการเฟ้นหา 1 คน เป็น “นักท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” ซึ่งจะได้รับเงินรางวัลและโวเชอร์สนับสนุนการท่องเที่ยว นำไปใช้บริการสินค้าและกิจกรรมท่องเที่ยว มูลค่าตลอดโครงการนี้รวมกว่า 1.2 ล้านบาท

 

กติกาผู้ที่ได้รับคัดเลือกจะต้องออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์เกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวไทยตามปฏิทินท่องเที่ยวตลอดปี 2566 สมัครทาง www.tourismthailand.org/amazingthailand365 ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน - 14 พฤษภาคม 2566 จะประกาศผลภายใน 31 พฤษภาคม 2566

 

ทั้งนี้ ททท. ได้ร่วมมือกับเอเจนซี่การท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง KLOOK รวบรวมบริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ นำเสนอส่วนลด 365 วัน เที่ยวไทยได้สบายกระเป๋า ผ่านทางเว็บไซต์ www.klook.com

 

 

ข่าวที่ 4 “บางจาก”ชวนสมาชิกกรีนไมลส์แปลงแต้มเป็นเงินหนุน18องค์กร

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากฯ เริ่มเป็นสื่อกลางให้สมาชิกบางจากกรีนไมลส์ร่วม “บริจาคคะแนนสะสม” ให้กับองค์กรสาธารณประโยชน์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 17 โดยได้พัฒนาฟีเจอร์ “ตะกร้าบุญ” เพิ่มความสะดวกให้สมาชิกเลือกบริจาคคะแนนสะสมผ่าน Bangchak Mobile Application หรือ www.bcpgreenmiles.com สมาชิกบางจากกรีนไมลส์พร้อมใจกันมอบคะแนนสะสมที่ได้รับจากการเติมน้ำมันและซื้อสินค้าในเครือบางจากฯ ให้กับองค์กรสาธารณประโยชน์

 

ส่งผลให้ปี 2566 มียอดเงินจากการบริจาคคะแนนกรีนไมล์จากสมาชิก รวมกับส่วนที่บางจากฯ ร่วมสมทบเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 3,700,000 บาท นำไปมอบให้องค์กรสาธารณประโยชน์รวม 18 องค์กร ครอบคลุมทุกด้านของสังคม ทั้งเด็ก ผู้พิการ คนชรา ผู้ป่วย สัตว์  และสิ่งแวดล้อม

 

ล่าสุดได้นำทีมผู้บริหารบางจากฯ และตัวแทนสมาชิกบางจากกรีนไมลส์ มอบเงินบริจาคคะแนนสะสมที่สมาชิกได้รับจากการเติมน้ำมันและซื้อสินค้าในเครือบางจากฯ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,700,000 บาท โดยให้องค์กรสาธารณประโยชน์ 18 แห่ง เพื่อร่วมกันช่วยทำให้สังคมไทยน่าอยู่อย่างยั่งยืน ตามแนวคิด Greenovative Destination ของสถานีบริการน้ำมันบางจาก นอกเหนือจากการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคแล้ว ยังสร้างสรรค์ให้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนได้ทำสิ่งดี ๆ ร่วมกัน

 

อีกทั้งช่วยตอกย้ำการเป็นแบรนด์แรกในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันที่จัดทำระบบสมาชิกขึ้น เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค และต่อยอดการนำคะแนนสะสมที่ได้รับมาใช้เป็นส่วนลด ทำประโยชน์อื่น ๆ ได้ตรงกับไลฟ์สไตล์  

 

สำหรับองค์กรสาธารณะประโยชน์ที่บางจากบริจาค ทั้ง 18 แห่ง มีดังนี้ 1. มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ 2. มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) 3. มูลนิธิรามาธิบดี 4. สภากาชาดไทย 5. ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล 6. มูลนิธิบ้านบางแคในพระอุปถัมภ์ฯ 7. มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย 8. มูลนิธิสืบนาคะเสถียร 9. มูลนิธิแพทย์ชนบท 10. มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ 11. มูลนิธิธรรมรักษ์ (โรคเอดส์) 12. มูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก 13. มูลนิธิคุ้มครองเด็ก 14. มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี 15. มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ 16. สถานสงเคราะห์เด็กและเยาวชนมูลนิธิพระครูบาน้อยเขมปัญโญ (องค์กรสาธารณประโยชน์) 17. มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี และ 18. มูลนิธิใบไม้ปันสุข

 

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า บางจากฯ ได้ยกระดับสมาชิกบางจากกรีนไมลส์เป็นดิจิทัลการ์ดเต็มรูปแบบเพียงบอกหมายเลขโทรศัพท์ แลกคะแนนรับส่วนลดและสิทธิพิเศษต่างๆ ผ่าน
แอปพลิเคชันบางจาก และ Bangchak LINE Official ให้สมาชิกสะดวกง่ายยิ่งขึ้นไปอีกขั้น โดยไม่ต้องใช้บัตรอีกต่อไป

 

พร้อมกับเชิญชวนผู้ใช้รถใช้น้ำมัน สมัครเป็นสมาชิกบางจากกรีนไมลส์ จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแล้ว ยังช่วยเหลือสังคม ผู้ขาดโอกาส ทั้งเด็ก ผู้พิการ คนชรา ผู้ป่วย สัตว์  สิ่งแวดล้อม และอื่น ๆเพื่อทำให้สังคมไทยน่าอยู่อย่างยั่งยืนไปด้วยกัน  สมัครสมาชิกบางจากกรีนไมลส์ได้ที่ www.bcpgreenmiles.com

 

ทั้งนี้บางจากฯ เป็นแบรนด์แรกในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันที่จัดทำระบบสมาชิกขึ้น เพื่อรณรงค์การใช้พลังงานคุณภาพสูงที่สะอาดและดีต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค โดยมอบคะแนนสะสมทุกครั้งที่สมาชิกเติมน้ำมัน ซื้อสินค้าและบริการในเครือบางจาก แล้วนำคะแนนสะสมที่ได้รับมาใช้เป็นส่วนลดในการเติมน้ำมัน ซื้อสินค้าที่ร้านกาแฟอินทนิล ร้านใบจาก หรือซื้อน้ำมันหล่อลื่นที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก และ Furio Care และรับสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย

 

บางจากถือเป็นสถานีบริการน้ำมันแห่งเดียวที่พิเศษไม่เหมือนใครคือ รับส่วนต่างราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นคืนเป็นคะแนนพิเศษเพิ่ม เมื่อเติมน้ำมันในวันแรกที่ปรับขึ้นราคาได้ด้วย

 

ข่าวที่ 5 TCEBแนะ5ไอเดียโชว์คั่นเบรกสัมมนาดึงงานคึกคักคนร่วมประทับใจ

 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB”  แนะนำ การนำเสนอกิจกรรมระหว่างพักการจัดสัมมนาเพื่อทำให้ผู้เข้าร่วมงานเกิดความประทับใจมากที่สุด นอกจากจุดประสงค์หลักเกี่ยวกับหัวข้อสำคัญภายในงานแล้ว การเลือกนำเสนอกิจกรรมหรือการจัดแสดงดี ๆ ระหว่างพักเบรกก็ถือเป็นหนึ่งความพิเศษ กับการแสดง 5 ไอเดีย เพิ่มความประทับใจ

 

ไอเดียที่ 1 การแสดงดนตรีสด ที่ได้รับความนิยมพอสมควร ทั้งดนตรีแบบเต็มวง ดนตรีโฟล์คซอง หรือการร้องเพลงทั้งจากศิลปินที่มีชื่อเสียง หรือศิลปินทั่วไป ช่วยสร้างความสนุกสนาน ไม่รู้สึกน่าเบื่อ และยังช่วยกระตุ้นให้ทุกคนอยากอยู่จนจบงานอีกด้วย

 

ไอเดียที่ 2 การแสดงศิลปะพื้นถิ่น หากต้องจัดสัมมนาตามต่างจังหวัด การนำเอาศิลปะพื้นถิ่นมาแสดงจะช่วยสร้างความน่าสนใจให้ผู้เข้างานได้อีกช่องทาง แถมยังได้การเรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ ๆ หรือได้ชมการแสดงหาชมได้ยากมาก เช่น การแสดงจากชนเผ่า แสดงศิลปะประจำท้องถิ่น และอื่น  ๆ

 

ไอเดียที่ 3 การแสดงที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของงาน อาจมีความหมายกว้างสักเล็กน้อยขึ้นอยู่กับประเภทของงานจัดอบรม สัมมนา แต่ก็เป็นอีกทางเลือกช่วยดึงความสนใจคนเข้าร่วมงาน เช่น จัดอบรมเกี่ยวกับอาหาร ก็อาจมีโชว์ทำอาหารเมนูพิเศษสามารถนำไปลองทำตามได้เองแบบง่าย ๆ และอื่น ๆ

 

ไอเดียที่ 4  การแสดงแนวสร้างแรงบันดาลใจ ส่วนใหญ่มักเป็นงานจัดสัมมนาเกี่ยวข้องกับ การทำธุรกิจหรือแนวกระตุ้นแรงบันดาลใจ ซึ่งการแสดงประเภทอาจจะนำคนที่ประสบความสำเร็จมาพูดบรรยาย หรือทำวิดีโอ นำเสนอเพื่อกระตุ้นผู้เข้าร่วมงานให้อยากนำไปทดลองทำตาม เพื่อความสำเร็จด้วย

 

ไอเดียที่ 5 การแสดงแนวตลกขบขัน ระหว่างพักเบรกการแสดงดังกล่าวจะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศให้ผ่อนคลายลง อาจเลือกใช้การแสดงแนวตลกขบขัน เช่น เดี่ยวไมโครโฟน การแสดงตลกจากนักแสดง เข้ามาสร้างเสียงหัวเราะ ทำให้ทุกคนจะไม่รู้สึกน่าเบื่อ แถมมีความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานด้วย

 

            ช่วงที่ 2 ร้อนนี้ลงใต้ไป “อำเภอสวี” จังหวัดชุมพร เช็คอินคลายร้อนริมทะเล พักโฮมสเตย์ริมฝั่งในหมู่บ้านชาวประมงที่ เกาะกุลา แหลมคอกวาง หาดทรายรี อ่าวคราม อ่าวท้องตมใหญ่ แล้วฟังชัด ๆ “กินไข่ได้วันละ 1-3 ฟอง” ดีต่อสุขภาพครบเกือบทุกด้าน และข่าวฮ็อตส่งท้ายสัปดาห์ ข่าวแรก “BCPG” รุกเปิดโครงการก่อสร้างพลังงานลมมอนซูน สปป.ลาว ข่าวที่สอง “วว.จับมือกรมการท่องเที่ยว” อบรมฟรีทั่วไทย 16 พ.ค.นี้ ธุรกิจ 13 มาตรฐานทัวร์ และข่าวที่สาม “ดูไบทุ่มจัด ATM 2023 ทั่วโลกต้อนรับทัวร์จีนฟื้น” ออกเดินทางเดือนละ 6 ล้านคน

 

ท่องเที่ยว -เที่ยวอำเภอสวีชุมพร 5 พิกัด ชวนกันไปติดเกาะคลายร้อนปีเถาะ

 

เที่ยวไทย เที่ยวได้ 365 วัน ในโมเมนท์ที่ใช้ สร้างได้ไม่ต้องรอ ทริปนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนไปคลายร้อนที่อำเภอสวี จังหวัดชุมพร เที่ยวประตูสู่ภาคใต้ 5 พิกัด สุดชีล

 

พิกัดที่ 1  “เกาะกุลา” เป็นเกาะขนาดเล็ก อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร อยู่ไม่ห่างจากฝั่งมีหาดทรายขาวและน้ำทะลใสแจ๋วมาก นักท่องเที่ยวมองจากผิวน้ำก็เห็นปะการังและฝูงปลาแล้ว  หรือจะดำน้ำชมปะการังได้จากหน้าหาดเลยก็ได้

 

กิจกรรมสนุกที่สามารถทำได้ตลอด อย่าง พายเรือคายัค  ร่วมอนุบาลเต่าทะเล  ทุกปีจะมีเต่ามาวางไข่บนเกาะกุลาเป็นประจำ เจ้าหน้าที่อุทยานจึงจัดทำโครงการรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมอนุบาลเต่ากระและปล่อยลงสู่ทะเลเพื่อเป็นการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ไว้ให้ได้มากที่สุดได้

 

ปัจจุบันเกาะกุลามีบริการ “บ้านพัก” จัดทำไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบติดเกาะ นอนพักค้างคืนชมทะเลดาวบนเกาะ แสงเหนือจากเรือตกหมึก พร้อมฟังเสียงคลื่นกระทบชายหาด ในอ้อมกอดธรรมชาติใต้แสงจันทร์

หรือท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับก็ได้ สามารถขึ้นเรือจากฝั่งบริเวณที่สะดวกคือ “ท่าเรืออ่าวคราม”ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกัน  หรือ จะเหมาเรือนำเที่ยวจากอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรก็ ทั้งสองแบบได้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาที

จะไปเที่ยวเกาะกุลา ชุมพร โทรสอบถามก่อนได้ที่ 097 – 979 – 0996 / 083 – 074 – 2378

 

พิกัดที่ 2 “แหลมคอกวาง” หนึ่งเดียวในชุมพรที่มีแหลมยื่นลงทะเล รายล้อมรอบด้านด้วยทิวทัศน์ จากแต่ละด้าน คือ “ด้านซ้าย” เห็นอ่าวพนังตัก มองไกลได้ไปถึง เกาะเวียง ปะทิว “ด้านขวา” เป็นอ่าวปากมหาด มองเห็นทะลุถึงปากน้ำชุมพร เห็นหมู่เกาะเรียงรายสวยงาม ฝั่งนี้จะมีแนวปะการังใกล้ฝั่งน่าชม “ด้านนอกฝั่ง” ไกลออกไปมองเห็นหมู่เกาะง่าม จุดเด่นของแหลมนี้คือผู้คนไม่พลุกพล่านแถมลมพัดเย็นสบายดี

 

พิกัดที่ 3 หาดทรายรี ป็นหาดทรายสวยงามมีชายหาดขนาดใหญ่ทอดตัวขนานกับทิวมะพร้าวยืนต้นเรียงรายเป็นแนวยาว บรรยากาศเงียบสงบเหมาะจะพักผ่อน ไปพร้อม ๆ กับชมวิถีชีวิตชาวประมงสุดเรียบง่ายที่อยู่ไม่ไกลกันนัก แถมบริเวณหาดยังมีบ้านพักให้บริการพักค้างแรมได้ด้วย

 

พิกัดที่ 4 อ่าวคราม เป็นถิ่นอาศัยของชุมชนชาวประมงขนาดเล็ก  ตั้งอยู่ริมทะเลท่ามกลางธรรมชาติแสนสงบ มีโฮมสเตย์ริมทะเลลมพัดเย็นตลอดเปิดรับนักท่องเที่ยว ได้เรียนรู้วิถีชุมชนกับชาวบ้านส่วนใหญ่ทำอาชีพประมง หาปลา ปลาหมึก กุ้ง จึงมีอาหารทะเลสด ๆให้อิ่มอร่อย กิจกรรมยามค่ำคืน สนุกกับการยกยาม หรือยกอวนหมึกอันเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของวิถีบ้านอ่าวคราม 

 

พิกัดที่ 5 อ่าวท้องตมใหญ่ เป็นหมู่บ้านชายฝั่งทะเล ชาวบ้านยังคงวิถีชีวิตประมงร่วมโดยมีไฮไลต์คือ “ม้าน้ำ” สัตว์ตัวน้อยน่ารักใต้ทะเล บ่งชี้ความสมบูรณ์ของน้ำทะเลด้วย เล่ากันว่าตั้งแต่ 400 กว่าปี  โดยมีโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพักกับบ้านชาวประมงส่วนใหญ่ปลูกบ้านยื่นลงไปในทะเลตามเชิงเขา

 

ชาวประมงในชุมชนแห่งนี้ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมเยียนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับจัดกิจกรรมเชิงท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างสนุกท้าทาย มาได้ทุกเวลา

 

ชุมชนและแหล่งท่องเที่ยวติดทะเล ในอำเภอสวี เชิญชวนนักท่องเที่ยวเดินทางไปคลายร้อน 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน

 

 สุขภาพ –กินไข่วันละ1-3ฟองมีผลพิสูจน์แล้วดีต่อร่างกายครบเกือบทุกด้าน

        

            เมื่อเร็ว ๆ นี้ ในทาง “วิทยาศาสตร์” ถึงความเชื่อเรื่อง “ไข่มีคอเรสเตอโรลสูง” นั้น “ไม่เป็นความจริง” แถมไข่ยัง “มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก” แต่ยังมีผู้สงสัยอยู่อีกมากว่า “บริโภคไข่วันละกี่ฟอง” จึงจะดี และมีประโยชน์ต่อร่างกาย มาหาคำตอบกัน

 

เริ่มต้นด้วยผลการศึกษาเกี่ยวกับไข่แบบเบื้องต้น จาก 'การเปรียบเทียบระหว่างผู้ที่ทานไข่วันละ 1-3 ฟอง กับผู้ที่ “รับประทานอาหารที่มีสารทดแทนไข่ : egg substitutes” และได้คำตอบที่น่าสนใจหลายเรื่องที่พบว่า

 

1.ในกลุ่มตัวอย่าง มีค่าคอเรสเตอรอลชนิดดีหรือ HDL เพิ่มขึ้นเกือบทุกคน

2.ค่าโดยรวมกับและค่าคอเรสเตอรอล LDL ไม่เปลี่ยนแปลง แต่บางครั้งเพิ่มขึ้นบ้าง

3.ลดค่าไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง และลดเสี่ยงโรคอื่น ๆ เพราะไข่ที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3

4.ค่าของสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นบ้าง คือ : สารจำพวกแคโรทีนอยด์ เช่ลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin)

 

ตอกย้ำถึง “ไข่” ไม่มีผลกระทบต่อค่าโดยรวมหรือค่าคอเรสเตอรอล LDL ในกลุ่มทดลอง 70 % แต่อีก 30 % พบว่าค่าพวกนี้สูงขึ้นเล็กน้อย (เฉพาะกลุ่ม hyper responders)

 

ไข่สามารถเปลี่ยน small dense LDL particles หรือสิ่งมีส่วนทำให้ร่างกายไม่ตอบสนองต่อฤทธิ์อินซูลิน ให้กลายเป็น Large LDL ได้ ซึ่งมีส่วนช่วยให้มีความเสี่ยงน้อยที่จะป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบหัวใจ แล้วก็ไม่น่าห่วงถึงแม้ไข่จะเพิ่มค่าโดยรวม และระดับคอเลสเตอรอล LDL บ้าง

 

        สรุปแล้ว การรับประทานไข่วันละ 1-3 ฟอง ไม่สร้างอันตรายแก่ร่างกาย และไม่เพิ่มค่าของคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี แถมยังได้สารบางชนิดเพิ่มเติมด้วย เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ กรดไขมันโอเมก้า 3 และอื่น ๆ

 

“ผลลัพธ์ของไข่” ที่ได้รับจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล (เมื่อบริโภคทั้งฟอง) มีคำตอบเพิ่มคือ “ไข่ 1 ฟอง” มีสารอาหารอะไรบ้าง ให้ประโยชน์แก่ร่างกายด้านใด 

 

1.ไข่ 1 ฟองอัดแน่นไปด้วยสารอาหารมากกว่า 5 ชนิด

 

2. ไข่อุดมไปด้วยวิตามิน A, B6 and E, สารไธอามีน, ไรโบเฟลวิน, โฟเลท, ธาตุเหล็ก, ฟอสฟอรัส, ซีลีเนียม, ธาตุแม็กนีเซียม และสารอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย

 

 

3.ไข่ 1 ฟองมีคอเลสเตอรอล 180-186 มิลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่ทำอันตรายต่อร่างกายแน่นอน เนื่องจากตับของคนเราก็สามารถผลิตคอเลสเตอรอลแต่ละวันมากถึง 1000-2000 มิลลิกรัม

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก -BCPGรุกร่วมเปิดการก่อสร้างพลังงานลมมอนซูนในสปป.ลาว

 

นายภูวดล สุนทรวิภาต ผู้จัดการใหญ่  บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้นำทีมผู้บริหารเป็นผู้แทนเข้าร่วมพิธีเปิดอย่างเป็นทางการโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม “มอนซูน” ขนาด 600 เมกะวัตต์ ที่แขวงเซกอง กับแขวงอัตตะปือ ใน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (ปป. ลาว) ในฐานะที่บีซีพีจีเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท  มอนซูน วินด์ พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการโครงการ “มอนซูน” อันจะเป็นพลังงานทางเลือกในอนาคตเพื่อผลิตไฟฟ้าป้อนตลาดที่กำลังมีความต้องการใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

 

ในพิธีเปิดได้รับเกียรติจากบุคลสำคัญเข้าร่วมด้วย คือ นายสะเล็มไซ คมมะสิต รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว นายโพไซ ไซยะสอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ สปป.ลาว นายมรกต ศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำนครเวียง​จันทน์​ ​ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ โรงแรมแลนด์มาร์คแม่โขง ริเวอร์ไซด์ นครเวียงจันทร์  สปป.ลาว

 

ทาง บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) คือหนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในฐานะผู้ประกอบการและผู้ลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าครอบคลุมทุกมิติ ปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 1,200 เมกะวัตต์  ทั้งจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังน้ำ และก๊าซธรรมชาติ ในไทย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เวียดนาม ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา  

 

รวมทั้งบีซีพีจียังบุกเบิกทำการตลาดตรงถึงผู้บริโภครายย่อยมากขึ้น เน้นเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้ผู้บริโภคโดยตรง รวมถึงให้บริการการจัดการด้านพลังงานหรือ energy as a service พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีล้ำสมัยระดับโลกมาใช้ช่วยเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคมุ่งผลิตพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ด้วยตัวเอง และประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างเป็นรูปธรรม

 

ข่าวที่สอง-วว.ผนึกกรมการท่องเที่ยวอบรมฟรี13มาตรฐานทัวร์16พ.ค.นี้

 

 

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รายงานว่า ได้ร่วมกับ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดอบรมฟรี ให้แก่ผู้ประกอบการและสถานประกอบการ เพื่อจะได้นำไปใช้ในการตรวจประเมินมาตรฐานกิจกรรมเพื่อการท่องเที่ยว ประจำปี 2566 จะอบรมวันอังคารที่ 16 พฤษภาคม 2566 เวลา 8.30-12.00 น. ผ่านระบบ Zoom Online ในหัวข้อ "มารู้จักกับมาตรฐานกิจกรรมเพื่อการท่องเที่ยว 13 มาตรฐาน" ไฮไลต์หลัก ๆ ประกอบด้วย

 

1.มาตรฐานกิจกรรมเดินป่า ดูนก ดูผีเสื้อ ดูพรรณไม้ป่า ล่องแก่ง ปีนหน้าผา ดำน้ำ 2.การจัดกิจกรรมค่ายพักแรม (Camping) แคนู/คายัค (Canoe/Kayak) 3.มาตรฐานการจัดกิจกรรมปางช้างเพื่อการท่องเที่ยว 4.มาตรฐานการจัดกิจกรรม Eco Lodge เพื่อการท่องเที่ยว 5.มาตรฐานการจัดกิจกรรมเจ็ตสกี (Jet Ski) เพื่อการท่องเที่ยว 6.มาตรฐานการจัดกิจกรรมจักรยานเพื่อการท่องเที่ยว

 

โดยจะมีวิทยากรร่วมถ่ายทอดความรู้จากสำนักรับรองระบบคุณภาพ วว. ตามหัวข้อต่าง ๆ  ที่สำคัญ คือ การยกระดับมาตรฐานกิจกรรมท่องเที่ยวไทยให้ปลอดภัยและยั่งยืน การเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการเพื่อการรับรองมาตรฐาน และกิจกรรมเพื่อการท่องเที่ยวไทย 13 มาตรฐาน

 

ทางสำนักรับรองระบบคุณภาพ วว. เปิดให้ผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมอบรม คุณผาสุก จีระพันธ์ และคุณจิราวรรณ แก่นไทย โทร. 089 900 5308 หรือทาง https://forms.gle/9W3eezbke5gs5M6cA และสมัครเข้าร่วมการตรวจประเมินทาง https://forms.gle/AMjqrwphKXxJbBvHA

 

ข่าวที่สาม -ดูไบดึงทั่วโลกร่วมATM 2023เล็งขายทัวร์จีน6ล้านคน/เดือน

ดูไบโชว์ฝีมือจัด ATM :Arabian Travel Market 1-4 พ.ค.66 เปิด DWTC ดึงธุรกิจท่องเที่ยวทั่วโลกเข้าร่วมกว่า 2,000 ราย กว่า 150 ประเทศ คาดมีผู้ร่วมงาน 34,000 คน ใช้เวทีผลักดัน 4 ไฮไลต์ ตีปีกรับคู่ค้าจีนฟื้นเที่ยวนอกเดือนละ 6 ล้านคน ตามมาด้วยอินเดีย ซาอุดิอาระเบีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกาศความพร้อมจัดมหกรรมซื้อขายหรือเทรดโชว์งานท่องเที่ยวนานาชาติรายการ “ATM : Arabian Travel Market 2023” ระหว่างวันที่ 1-4 พฤษภาคม 2566 ที่ DWTC : Dubai World Trade Center กรุงดูไบ โดยทำสถิติดึงดูดธุรกิจทั่วโลกเข้าร่วมได้มากถึง 150 ประเทศ พร้อมมีผู้สนใจจัดการแสดงสินค้ากว่า 2,000 ราย ตั้งเป้าจะมีต่างชาติเข้าสู่ดูไบเพื่อร่วมงานไม่ต่ำกว่า 34,000 คน รวมทั้งมีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมนำเอกชนไทยเดินทางไปเจรจาธุรกิจในงานนี้ด้วย เนื่องจากเป็นศูนย์รวมตัวแทนบริษัทผู้ซื้อท่องเที่ยวจากตลาดตะวันออกกลางที่มีทั้งคุณภาพและศักยภาพนำนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยสูงติดท็อปเท็นเช่นกัน

ล่าสุดมีรายงานการจัด ATM 2023 สร้างความฮือฮาให้ทั่วโลกได้เห็นศักยภาพ 4 ไฮไลต์ ประกอบด้วย

ไฮไลต์ที่ 1 จัดทำผลสำรวจการท่องเที่ยว “Net Zero” จะผนึกกำลังกันนำท่องเที่ยวลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ สอดคล้องตามธีมจัดงาน Working Towards Net Zero ที่ผู้เข้าร่วมสามารถสร้างการเชื่อมต่อใหม่ แบ่งปันความรู้ แสดงนวัตกรรมที่มีศักยภาพเร่งการเดินทางทั่วโลกร่วมกันลดคาร์บอนให้ได้เร็วที่สุด

 

ไฮไลต์ที่ 2 นำร่องจัด Arabian Travel Week 2023 ได้แก่ เซสชั่น ATM, ILTM, GBTA และอีกมากมายหลากหลายเรื่องราวที่เป็นประโยชน์ต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเอเชีย

 

ไฮไลต์ที่ 3 ระดมวิทยากรซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมมาเปิดมุมมองใหม่ เช่น เซอร์ ทิม คลาร์ก แห่งสายการบินเอมิเรตส์  และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางนำเสนอเทรนด์การท่องเที่ยวโลกยุคใหม่ เพื่อพลิกโฉมอุตสาหกรรมไปด้วยกัน

 

ไฮไลต์ที่ 4  สร้างความยิ่งใหญ่จัด ATM 2023 โดยทำสถิติมีผู้แสดงสินค้าเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 27 % ทุกภาคส่วนเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ คือ ตะวันออกกลาง เพิ่ม 24% ยุโรป 17 % เอเชีย 15% แอฟริกา 8.5%และการขยายตัวของ กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี เพิ่มขึ้น 62 % กับการท่องเที่ยวและโรงแรมเติบโตเพิ่ม 37.5 %

 

รวมถึงผู้แสดงสินค้าท่องเที่ยวที่เข้าร่วมงานนนี้ยังเตรียมต้อนรับคู่ค้าจากจีนที่ตอบเข้าร่วมงาน ATM 2023 เพราะตามคาดการณ์ของ CNN ระบุหลังจีนเปิดประเทศตั้งแต่ฤดูร้อนปี 2566 เป็นต้นไป ตลาดจีนจะฟื้นตัวออกเดินทางเที่ยวต่างประเทศทั่วโลกเดือนละกว่ 6 ล้านคน ซึ่งเมื่อปี 2562 จีนเคยเที่ยวต่างประเทศมากอันดับหนึ่งปีละ 155 ล้านคน ใช้จ่ายเงินรวมกว่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ส่วนผู้แสดงสินค้าตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย ตลาดจะโดดเด่นมากเช่นกัน โดยเฉพาะอินเดียตามข้อมูลของธนาคารกลางอินเดีย (RBI) รายงาน 9 เดือนแรก ปี 2565 มีชาวอินเดียใช้จ่ายเงินเดินทางต่างประเทศสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบ 43% เมื่อเปรียบเทียบตัวเลขกับก่อนโควิด และภายในปี 2567 มีประมาณการณ์จากแหล่งอื่น ๆ ระบุจำนวนการเดินทางมากกว่า 27 ล้านครั้ง สร้างมูลค่าการใช้เงินรวมกว่า 42,000 ล้านดอลลาร์เหรียญสหรัฐ

 

ขณะที่ “ซาอุดีอาระเบีย” พบสถิติเดินทางเข้าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มากกว่าชาติอาหรับอื่น ๆ ช่วง 9 เดือนแรก ปี 2565 ได้ต้อนรับผู้มาเยือนมากกว่า 18 ล้านคน ใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวช่วงครึ่งแรกปี 2565 มากถึง 7,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

“Vasyl Zhygalo” กรรมการผู้จัดการของ RX Middle East และผู้อำนวยการพอร์ตโฟลิโอของ WTM, IBTM และ RX เปิดเผยว่า หลังประสบความสำเร็จอย่างมากในการจัดมหกรรมการขายท่องเที่ยวทั้ง WTM Africa และ WTM Latin America เมื่อช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา นับเป็นเรื่องดีที่เครือข่ายการท่องเที่ยวระหว่างประเทศได้มีส่วนร่วมกับตลาดการท่องเที่ยวในกลุ่มตะวันออกกลาง เห็นได้จากมีตัวแทนจัดแสดงสินค้าเติบโตทเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งน่าตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีนกลับมาเดินทางแว หลังคลายข้อจำกัดยกเลิกเงื่อนไขเรื่องโควิดออกไป

 

ขณะเดียวกันในเวทีจัดงาน ATM 2023 ยังได้เน้นการยกระดับท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเลือกจัดในธีม Working Towards Net Zero เชื่อมโยงทั้งกับงาน WTM และ IBTM โดยได้นำเสนอหัวข้อเพื่อทำสำรวจขอบเขตอันหลากหลายแนวโน้มและโอกาสทางธุรกิจที่เข้าร่วมงานครั้งนี้

 

ทางด้าน “แดเนียล เคอร์ติส” ผู้อำนวยการฝ่ายนิทรรศการ ME, Arabian Travel Market กล่าวว่า “ATM 2023 จะมีวิทยากรภาครัฐและเอกชนอย่างหลากหลาย พร้อมนำเสนอข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเทรนด์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบ และประเด็นสำคัญอื่นๆ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยมี Eleni Giokos ของ CNN เป็นผู้ดำเนินรายการ เพื่อจะเปิดเวทีให้ผู้กำหนดนโยบายเข้าร่วมอภิปรายในหัวข้อ ATM Global เป็นระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว” กับมุมมอง “จะสามารถจัดการกับวิกฤตสภาพอากาศได้อย่างไร”

นำโดย ฯพณฯ ของแต่ละประเทศ ได้แก่ Abdulla Bin Touq Al Marri รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ Makram Mustafa Abdul Karim Al-Qaisi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งวัฒนธรรมจอร์แดน   Walid Nassar รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวเลบานอน  และสุกิจ โมฮันตี หัวหน้า UNDRR สหรัฐอาหรับ มาร่วมกันนำเสนออุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่จะดำเนินการสู่ลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.