วันเสาร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2568

ภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าฯตลาดเอเชียนำปี68 ทำรายได้ 1.36ล้านล้านบาท


ภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่

รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิก ททท.

ภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียฯ ททท.

ปี’68นำอาเซียน-เอเชีย-แปซิฟิกใช้เงินเที่ยวไทย1.36ล้านล้าน

ชูขาย“5Grand-Two by Four-Shopper in Thailand-TTM2025

ถึงสนามบินสมัครเลย “สมาชิกคิงเพาเวอร์” โปรดีช้อปคุ้มกว่า

คิงเพาเวอร์ซิตี้บูทีกแจก5โปรปังสุด ๆส่งท้ายสุดพิเศษทุกโซน

จองด่วน!เท็นโกะ พูลแมนคิงเพเวอร์ชิมโอมากาเสะเชฟซาเอกิ

ททท.ภาคใต้บูมเที่ยวปีใหม่Go South Mutiverseวันนี้-31 มี.ค.68

บางจากปี68ขับเคลื่อนนวัตกรรมธุรกิจสู่ยั่งยืนด้วยกลยุทธ์ 4S

เที่ยว“อืมมมิลค์ฟาร์มโคราช”ขับรถชมทุ่งดอกไม้ฟาร์มสัตว์เลี้ยง

“อาบน้ำ” ความจริงแล้วจำเป็นต้องอาบทุกวันหรือไม่ กับ 4วิธี

เวียตเจ็ทไทยแลนด์จัดโปรปีใหม่ตั๋วบินไทย-ต่างชาติเริ่ม68บาท

รร.ม็อกซี่แบ็งคอกขายโปรฟรี4รายการMoxyBangkokTurnsOne!

วันเสาร์ที่ 4 มกราคม 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก #TCEB  #ภัทรอนงค์ณเชียงใหม่

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/1JrYJ5VPin/

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! ภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปี’68 นำตลาด “อาเซียน เอเชีย และแปซิฟิกใต้” ทำรายได้สูงสุด 1.36 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยว 28.3 ล้านคน เพิ่มจากปี’67 กว่า 5 ล้านคน รุกขาย 3 โปรเจกต์ “โปรกเจกต์แรก” 5 Grand Tourism “เชิญคนดังของโลก-ชวนฉลองโอกาสพิเศษ-จัดเทศกาลอินเตอร์-มอบแพกเกจเหนือใคร-เสนอเส้นทางใหม่ซูเปอร์ วี.ไอ.พี. “โปรเจกต์ 2 Two by Four : จัดพิเศษเดือน2 เที่ยวเป็นคู่ เดือน4 เที่ยวยกครัว เดือน 8 ทัวร์มัลติเจน “โปรเจกต์ 3 ASEAN-India Shopper In Thailand 2025 ปลุกต่างชาติใช้เงินช้อปไม่ยั้ง พ.ค.นี้ และจัดกระหึ่ม “Thailand Travel Mart 2025” อุทยานราชพฤกษ์ เชียงใหม่ โชว์เคสขายเชื่อมโยง 55 เมืองน่าเที่ยว

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ผลสรุปปี 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศมาไทยตามเป้าหมายเกิน 35 ล้านคน ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเดินทางอย่างชัดเจน ใน “ตลาด อาเซียน เอเชีย และแปซิฟิก” อันดับ 1 สาธารณรัฐประชาชนจีน 6,7171,990 คน (ปี 2562 จีนมาไทย 11 ล้านคน ) โดยมีนักเดินทางเจเนอเรชั่นใหม่ ๆ และกลุ่มเดินทางอิสระโดยลำพัง (F.I.T.) เข้ามาแทนที่จีนเดินทางเป็นหมู่คณะหรือกรุ๊ป (G.I.T.) อันดับ 2 มาเลเซีย 4,940,675 คน (ปี 2562 มาไทย 4.2 ล้านคน) เป้าหมาย 5 ล้านคน อันดับ 3 อินเดีย ทำลายสถิติเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์มาไทยมากถึง  2,123,456 คน อันดับ 4 เกาหลีใต้ 1,864,504 คน (ปี 2562 มาไทย 2 ล้านคน) อันดับ 5 รัสเซีย 1,736,703 คน และไต้หวัน เป็นปีแรกมาไทย 1 ล้านคน ญี่ปุ่น 1 ล้านคน (เคยทำสถิติปี 2562 ไว้ 1.8 ล้านคน) 

แนวโน้มปี 2568 ประเทศไทยจะสามารถนำนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยได้เทียบเท่าปี 2562 คือ 39-40 ล้านคน โดยมี “ตลาดเอเชีย แปซิฟิกใต้” ทำตามเป้าต้องได้ 28.3 ล้านคน คิดเป็น 72 % พร้อมรายได้ 1.36 ล้านล้านบาท คิดเป็น 62 % จากเป้าหมายรวมทั้งหมด 2.2 ล้านล้านบาท รวมทั้งจะต้องเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากปีก่อนเพิ่มอีก 5 ล้านคนขึ้นไป

ตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 จึงต้องเร่งทำกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ ซึ่งเป็นตลาดระยะใกล้ หรือ Shorthaul อีเวนต์ใหญ่ระหว่างวันนี้-ปลายเดือนมกราคม นี้ นำร่อง “จีน” ชูเที่ยวเทศกาลตรุษจีน กุมภาพันธ์ ไปเกาหลี ญี่ปุ่น จะเดินสายไปขอบคุณพันธมิตรการท่องเที่ยวในแต่ละตลาด มีนาคม ไป “ไต้หวัน” ตลาดมาแรง ททท.จัด Amazing Thailand Million Thanks

เดือนพฤษภาคม จัดมหกรรม “ASEAN-India Shopper In Thailand 2025” มอบสิทธิประโยชน์ให้นักท่องเที่ยว อินเดีย และอาเซียน เดินทางเข้ามาใช้เงินท่องเที่ยว ซื้อสินค้ามากมายในเมืองไทย เพราะเป็นกลุ่มชื่นชอบซื้อสินค้า อาหาร และอื่น ๆ

ส่วนการ “มอบของขวัญ” ต้อนรับศักราชใหม่ให้นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยว จะใช้แคมเปญ “Amazing Thailand Grand Tourism &Sport Year 2025” โดยใช้แคมเปญ 5 Grand ได้แก่

 


1.Grand Invitation-เชิญบุคคลระดับโลก เซเลบริตี้ KOL และอื่น ๆ มาสัมผัสเสน่ห์อัตลักษณ์ไทย 2.Grand Celebration : จัดงานเฉลิมฉลองเพื่อดึงดูดทั่วโลกมาเที่ยว 3.Grand 2Festivity : จัดกิจกรรมงานเทศกาลระดับนานาชาติ 4.Grand Privillage :มอบสิทธิพิเศษเหนือกว่าใคร ด้วยแพกเกจท่องเที่ยว ตั๋วเครื่องบิน ที่พักโรงแรม รวมช้อปปิ้ง และการใช้จ่ายแบบไร้เงินสด ททท.จะร่วมกับเอกชนเสนอแคมเปญ Two by Four Global Campiagn และ 5.Grand Moment นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวใหม่แบบซูเปอร์ วี.ไอ.พี.เดินทางมาช่วงเวลาพิเศษสร้างความประทับใจให้ไทยอยู่ในใจของทุกคน

ไฮไลต์ แคมเปญ Two by Four Global Campiagn ททท.กับเอกชนจะร่วมกันนำเสนอความพิเศษให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกปี 2568 เลือกโอกาสพิเศษ 3 ช่วงเดือน ได้แก่

ช่วงเดือน 2 : กุมภาพันธ์ มอบให้นักท่องเที่ยวเดินทางเป็นคู่ได้มาฉลองความสุข ทั้งคู่รัก คู่แต่งงาน ฮันนีมูน  และ LGBTQ ตอบโจทย์กฎหมายสมรสเท่าเทียมในไทยประกาศใช้เรียบร้อยแล้ว

ช่วงเดือน 4 : เมษายน จัดอะเมซิ่ง สงกรานต์ ชวนเที่ยวเทศกาลประเพณี เจาะตลาดเป้าหมาย กลุ่มครอบครัว ผนวกขายเมืองน่าเที่ยว และเมือง Hidden Gem

ช่วงเดือน 8 : สิงหาคม Amazing Sumer เพราะหลายประเทศปิดภาคเรียนจึงนิยมเดินทางมาพร้อมกันเป็นครอบครัวขนาดใหญ่แบบ Multi-Generation ลูก-หลาน-พ่อ-แม่-ปู่-ย่า-ตา-ยาย จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย

น.ส.ภัทรอนงค์ กล่าวว่า ปี 2568 จะขับเคลื่อนการขาย 55 เมืองน่าเที่ยว โดยได้ทดลองเมื่อเดือนธันวาคม 2567 จัดทำ Amazing Shorthaul Mega Fam โดยใช้ ททท.ตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ 18 สำนักงาน ในสาธารณรัฐประชาชนจีน 5 สำนักงาน ญี่ปุ่น 3 สำนักงาน อินเดีย 2 สำนักงาน ไต้หวัน เกาหลีใต้ ฮ่องกง และในอาเซียนอย่าง มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อีกประเทศละ 1 สำนักงาน ทุกสำนักงานเดินทางมายัง “เชียงใหม่” ภาคเหนือ เพื่อฟื้นฟูผู้ประกอบการท่องเที่ยวหลังน้ำท่วม พร้อมกับเปิดให้จับคู่เจรจาธุรกิจ ซึ่งได้รับความสนใจจากคู่ค้าให้ความสนใจจับคู่กับตัวแทนขายท่องเที่ยวใน จังหวัดน่าน เชียงราย ลำปาง ค่อนข้างมาก เพราะตลาดระยะใกล้มีความคุ้นเคยกับเมืองไทย ใช้เวลาบินเพียง 2-4 ชั่วโมง จึงสนใจเลือกเดินทางไปยังสถานที่ใหม่ ๆ

โดยมี ททท.ได้นำตัวแทนผู้ซื้อจากประเทศต้นทางเดินทางไปตามจังหวัดต่าง ๆ เช่น แพร่ น่าน ลำพูน เชียงราย แม่ฮ่องสอน ตอกย้ำถึงสินค้าท่องเที่ยวมีความสดใหม่อย่างมาก แต่ตัวแปรสำคัญคือ “เที่ยวบิน” ที่จะให้บริการเดินทางเข้าถึงพื้นที่เป้าหมาย ททท.จึงให้ความสำคัญกับจังหวัดที่มีเที่ยวบินตรงถึงกัน เช่น กัวลาลัมเปอร์-เชียงใหม่

ททท.ยังเตรียมจัดงาน Thailand Travel Mart Plus 2025 เดือนมิถุนายน 2568 ที่อุทยานราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ จะเชิญบริษัทนำเที่ยวตัวแทนบริษัทผู้ซื้อ (buyer) ทั่วโลกกว่า 400 ราย เข้ามาร่วมเจรจาธุรกิจกับตัวแทนผู้ขายของไทย โฟกัสเมืองน่าเที่ยว เช่น เชียงใหม่ บินไปอู่ตะเภา แล้วเชื่อมต่อการขายท่องเที่ยว ระยอง จันทบุรี ตราด หรือบินไปภูเก็ตแล้วไปต่อยัง กระบี่ พังงา สตูล ระนอง 

ก่อนถึงงาน TTM +2025 ททท.จะนำ KOL และอินฟลูเอนเซอร์ แต่ละประเทศ เดินทางมาสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่เป้าหมาย 55 เมืองน่าเที่ยว เพื่อจะได้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์สานต่อให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเดินทางจริงช่วงงานดังกล่าว โดยจะจัดทริปก่อนและหลังงาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น ทำสปา ทัวร์วัฒนธรรม และโลจิสติกส์เลือกวิธีเดินทางท่องเที่ยวรูปแบบต่าง ๆ

 


ปี 2568 จะขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการท่องเที่ยว ซึ่ง ททท.ได้รับการสนับสนุนด้วยดีเสมอมาในการทำงานเป็นทีม เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย “รายได้ท่องเที่ยว” 2.23 ล้านล้านบาท โดยจะส่งเสริมให้เกิดการกระจายตัวจากเมืองหลักไปยัง55 เมืองน่าเที่ยว และการยกระดับพัฒนาสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จะต้องปูพื้นฐาน CF-Hotel และการจัดประกวดรางวัลการท่องเที่ยว Thailand Tourism Awards ซึ่งจัดต่อเนื่องทุก 2 ปี ทำให้เกิดการท่องเที่ยวยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมตอบโจทย์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวทั่วโลกในอนาคตอันใกล้นี้

ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1-ถึงสนามบินสมัครเลย “สมาชิกคิงเพาเวอร์” โปรดีช้อปคุ้มกว่า

คิง เพาเวอร์ จัด มหกรรม Happy New Year 2025  ถึงสนามบินแล้วคุ้มขนาดนี้ต้องรีบสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์” โปรดีช้อปคุ้มกว่า สมัครได้จนถึงวันที่ 5 มกราคม 2568  ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต และอู่ตะเภา ดังนี้

1.สมัครฟรี สมาชิก NAVY จากปกติเติมเงิน 1,000 บาท พร้อมส่วนลดทันที! 10% ทุกการช้อปภายในวันเติมเงินไว้ช้อป ได้ส่วนลดสุดว้าว

2.สมัครสมาชิก SCARLET และเติมเงินไว้ใช้ช้อป 20,000 บาท  ได้ฟรีคูปองส่วนลด 25%(คูปองหมดอายุภายในวันสมัคร)

พิเศษ! เมื่อเติมเงินทุก 20,000 บาท (สามารถเติมเงินได้ที่จุดบริการสมาชิก)

รับเพิ่ม! คูปองส่วนลด 3,000 บาท* (คูปองหมดอายุภายในวันสมัคร)

เจอโปรคุ้มขนาดนี้ต้องรีบช้อปแบบจัดเต็ม จะมอบเป็นของขวัญให้ตัวเองหรือจะซื้อไปฝากคนพิเศษก่อนเครื่องออก ก็ต้องรีบไปช้อปได้ที่ คิง เพาเวอร์ สนามบินเลย

 


ข่าวที่ 2 -คิงเพาเวอร์ซิตี้บูทีกแจก5โปรปังสุดๆส่งท้ายสุดพิเศษทุกโซน

โอกาสสุดท้ายพิเศษสุดที่ คิง เพาเวอร์ ซิตี้ บูทีก โซน Parade ชั้น 1-2 เพลิดเพลินกับช่วงนาทีทองในสัปดาห์สุดท้าย วันนี้ -5 มกราคม 2568 จัดมาให้ช้อปอย่างจุใจ 5 โปรดี

โปรฯ ที่ 1  เทศกาลของขวัญ ลดทุกวัน สูงสุด 30% (เฉพาะสินค้าที่เข้าร่วมรายการ)

โปรฯ ที่ 2 Weekday Surprise! ทุกวันอังคาร-พุธ (เฉพาะลูกค้าคนไทย) พร้อมลดเพิ่ม 5% เมื่อช้อปน้ำหอมหรือเครื่องสำอาง (เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ) ที่โซน Beauty Boulevard

โปรฯ ที่ 3  Weekend Surprise! ทุกเสาร์-อาทิตย์ (เฉพาะลูกค้าคนไทย ) รับเพิ่ม Gift Voucher 500 บาท เมื่อช้อปครบ 20,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ/เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ)  ที่โซน Sunglasses Street

โปรฯ ที่ 4 สมัครสมาชิกใหม่  SCARLET + เติมเงิน 20,000 บาท รับฟรี! คูปองส่วนลด 3,000 บาท และกระเป๋า Exclusive ช้อปก่อนรับก่อนมีจำนวนจำกัด ฉพาะลูกค้าคนไทยและ EXPATหรือต่างชาติพำนักในไทย

โปรฯ ที่ 5 สมัครสมาชิกใหม่ NAVY + เติมเงิน 5,000 บาท รับฟรี! กระเป๋า Exclusive มีจำนวนจำกัด ให้เฉพาะลูกค้าคนไทย)

 


ข่าวที่ 3-จองด่วน!“เท็นโกะ/พูลแมนคิงเพเวอร์”ชิมโอมากาเสะเชฟซาเอกิ

 

โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ชวนแฟนคลับในไทย ไม่ต้องบินไปถึงญี่ปุ่น เพราะทางโรงแรมได้เชิญ “เชฟฮิโรชิ ซาเอกิ” บินตรงมาเสิร์ฟ “มื้อโอมากาเสะ” สุดพิเศษให้ทุกคนถึงในกรุงเทพฯ ที่ห้องอาหาร “เท็นโกะ” ราคาคนละ 15,900 บาทสุทธิ

 

พบกับ “เชฟฮิโรชิ ซาเอกิ” มื้อค่ำ วันที่ 8-11 มกราคม ทุกวันเวลา 18.00-20.30 น. นักปรุงมืออาชีพได้นำประสบการณ์และความชำนาญมารังสรรค์เป็น “โอมากาเสะ” มื้อพิเศษ 20 คอร์ส ให้ผู้ที่หลงไหลในรสชาติอาหารต้นตำรับญ่ปุ่นได้ลิ้มลอง “ทุกคำ” ประกอบด้วย วัตุดิบสุดพรีเมียมนำเข้าจากญี่ปุ่นและศิลปะการทำอาหารชั้นเลิศของเชฟผู้มากฝีมือได้ที่ห้องอาหาร เท็นโกะ สำรองที่นั่งได้เลยที่ bit.ly/BookChefSaekiTH

ตามโปรแกรมที่เตรียมไว้แล้ว ดังนี้

 

วันที่ 8 มกราคม 2568 | เวลา 20:30 น.

 

วันที่ 9 มกราคม 2568 | เวลา 18:00 น. และ 20:30 น.

 

วันที่ 10 มกราคม 2568 | เวลา 18:00 น. และ 20:30 น.

 

วันที่ 11 มกราคม 2568 | เวลา 18:00 น. และ 20:30 น.

            ห้องอาหารเท็นโกะเชิญชวนมาสัมผัสประสบการณ์และความเชี่ยวชาญการทำโอมากาเสะของเชฟฮิโรชิ ซาเอกิ ผู้มีชื่อเสียงระดับโลก จะมารังสรรค์เมนูโอมากาเสะสุดประณีต 20 คอร์ส ให้ได้รับประทานอาหารชั้นเลิศโดยเฉพาะ

 

“เชฟซาเอกิ” พร้อมนำเสนอมรดกทางศิลปะการทำซูชิเริ่มต้นจาก “ย่านคิตะชินจิ” ในโอซาก้า และมีชื่อเสียงโด่งดังใน “ย่านกินซ่า” กรุงโตเกียว เชฟได้สร้างสมดุลระหว่างความดั้งเดิมและนวัตกรรมใหม่อย่างลงตัว ใส่ใจในทุกรายละเอียดและความมุ่งมั่นความสมบูรณ์แบบ ทำให้กลายเชฟซูชิที่ได้การยอมรับมากที่สุดในญี่ปุ่น

 

ข่าวที่ 4-ททท.ภาคใต้บูมเที่ยวปีใหม่Go South Mutiverseวันนี้-31 มี.ค.68

 

นางสาววัจนันท์ ศิลปวรณ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า กองตลาดภาคใต้ได้นำ 11 สำนักงาน จัดต่อเนื่องต้อนรับปีใหม่ด้วยแคมเปญ “Go South Mutiverse เที่ยวใต้เสริมพลังบุญ หนุนพลังใจ รับปีใหม่ 2568“ ชวนเที่ยวใต้ 14 จังหวัด พร้อมรับของที่ระลึกสุดพิเศษ 11 แบบ เสริมสิริมงคลเริ่มต้นปีใหม่แบบสุดปัง เดินทางได้ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึง 31 มีนาคม 2568 โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้ร่วมกิจกรรม ดังนี้

 

เพียงนำใบเสร็จจากการใช้จ่ายในพื้นที่ มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท แลกรับของที่ระลึกสุดพิเศษ เสริมสิริมงคลจาก ททท.ภาคใต้ 11 สำนักงาน ไฮไลต์ 3 จังหวัด ได้แก่

 

“จังหวัดสุราษฎร์ธานี” รับชุดไหว้มงคล ศาลเจ้าโป๊ยเซียน  ขอให้อายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรง

 

“จังหวัดชุมพร” รับเหรียญ ‘เสด็จเตี่ย’ กรมหลวงชุมพรและรูปหลวงปู่ศุข แกะจากพญาไม้มงคล ปกป้อง คุ้มครอง ปลอดภัย

 

“จังหวัดนครศรีธรรมราช” รับเหรียญพ่อท่านคล้าย และพระอุเชนทร์ วัดสวนขัน  พลังแห่ง เมตตา มหานิยม

 

ข่าวที่ 5-บางจากปี68ขับเคลื่อนนวัตกรรมธุรกิจสู่ยั่งยืนด้วยกลยุทธ์ 4S

 

กลุ่มบริษัทบางจาก มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่สิ่งแวดล้อมและสังคม ด้วยกลยุทธ์องค์กร 4S

 

S1 - Security: สร้างความมั่นคงด้านพลังงานโดยให้ความสำคัญกับแหล่งต้นน้ำของพลังงาน เป็นกลุ่มธุรกิจหลัก (Core Businesses) มุ่งสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้ประเทศ ด้วยกลยุทธ์ทางธุรกิจร่วมกันระหว่างกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน กลุ่มธุรกิจการตลาด กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ รวมไปถึงธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพ เพื่อจัดหา ผลิต และจัดจำหน่ายน้ำมันและเชื้อเพลิงชีวภาพให้เพียงพอกับความต้องการใช้ของภาคธุรกิจและประชาชน ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มปริมาณความต้องการด้านพลังงานโดยรวม

 

ถึงแม้อนาคตรถยนต์พลังงาน ไฟฟ้าจะมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น แต่ปัจจุบันธุรกิจกลุ่มนี้ยังจำเป็นต่อความต้องการด้านพลังงานของประเทศและยังคงเติบโตต่อเนื่อง เมื่อกันยายน 2566 นำบริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) เข้ามาอยู่ในกลุ่มบริษัทบางจาก ส่งผลให้ได้ถือสิทธิ์โรงกลั่นน้ำมันบางจากศรีราชา มีกำลังการผลิตติดตั้ง 174,000 บาร์เรลต่อวัน รวมถึงมีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่ง กำลังการผลิตติดตั้ง 294,000 บาร์เรลต่อวัน ช่วยร้างความมั่นคงด้านพลังงาน

 

 

S2 -Synergy: สร้างความร่วมมือเพื่อพลิกโฉมและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ มุ่งเน้นดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับความเชี่ยวชาญของกลุ่มบริษัทฯ และสอดคล้องกับหน่วยธุรกิจหลัก (S1) เช่น ธุรกิจขนส่งน้ำมันและโลจิสติกส์ สาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน อาหารและเครื่องดื่ม และการทำเหมืองแร่ เพื่อเพิ่มรายได้และสร้างมูลค่าร่วมของพอร์ตโฟลิโอ

 

หลังจากปี 2565 ได้จัดตั้ง บริษัท กรุงเทพขนส่งเชื้อเพลิงทางท่อและโลจิสติกส์ จำกัด (BFPL) มีเป้าหมายและแผนขยายธุรกิจรองรับระบบขนส่งเชื้อเพลิงครบวงจร และปี 2566 เข้าซื้อหุ้นของบริษัทบางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) เป็นก้าวที่สำคัญในการยกระดับขีดความสามารถและศักยภาพธุรกิจ และได้จัดตั้ง บริษัท รีไฟเนอรี่ ออฟติไมซ์เซชั่น แอนด์ ชินเนอยี่ เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด จัดทำแผนและให้บริการบริหารงานธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่ง ให้เกิดประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และเกิดความคุ้มค่าทางเศษฐศาสตร์สูงสุด ผ่านการผสาน Synergy และพัฒนา Platform for Growth เพื่อความยั่งยืน การเข้าถึง สร้างความมั่นคงด้านพลังงานขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

 

S3 -Sustainability: พัฒนาธุรกิจและต่อยอด Core Business ให้เติบโตและยั่งยืน พัฒนาธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่ช่วยสนับสนุนหรือต่อยอดธุรกิจหลักเดิมให้เติบโตยั่งยืน เตรียมความพร้อมรองรับ เทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และรองรับความท้าทายการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก จึงเร่งขยายสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยเป้าหมาย Net Zero/Carbon Neutrality เน้นการลงทุนในธุรกิจสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

เช่น ธุรกิจแบตเตอรี่ ลิเทียม เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเติบโตในอนาคตของรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) และธุรกิจเกี่ยวเนื่องผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง (High Value Bio-Based) ผ่านการลงทุนในบริษัท Manus Bio Inc.ระดับโลกที่มีชื่อเสียงในฐานะผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูงด้วยเทคโนโลยีชีวนวัตกรรมจากกระบวนการหมักขั้นสูง (Advanced Bio-fermentation)

 

พร้อมกับอาศัยนวัตกรรมซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมผ่าน “สถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ : BiiC ซึ่งเน้นการเสาะหาการลงทุนในสตาร์ตอัพ และวิจัยพัฒนาร่วมกับหน่วยงานภายนอก เพื่อต่อยอดขยายธุรกิจพลังงานสีเขียวและธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

 

โดยได้จัดตั้ง บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด (BSGF) ซึ่งร่วมทุนกับ BBGI และ บริษัท ธนโชค ออยล์ไลท์ จำกัด ทำธุรกิจจัดหาวัตถุดิบ ผลิต และจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel.: SAF) จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว

 

เมื่อปี 2566 บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ได้เข้าซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ 4 CCGT ในสหรัฐอเมริกา ดำเนินการผลิตแล้ว 857 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย 1.โครงการ Carroll County Energy (CCE) ขนาด 341 เมกะวัตต์ 2.South Field Energy (SFE) ขนาด 90 เมกะวัตต์ 3.Liberty ขนาด 212 เมกะวัตต์ และ 4.Patriot ขนาด 214 เมกะวัตต์ ต่อยอดธุรกิจไฟฟ้าเติบโตอย่างยั่งยืน

 

S4 -Scalability : สร้างความยืดหยุ่นมุ่งแสวงหาโอกาสและผลักดันธุรกิจใหม่ในอนาคต (New S-curves) เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว มุ่งปฏิรูปกระแสรายได้ด้วยธุรกิจใหม่ในอนาคต (New S-curves) รองรับการเติบโตระยะยาว สามารถสร้างประโยชน์ในวงกว้างให้องค์กร รวมถึงเตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่ ตลอด จนความผันผวนของสภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจ

 

ปัจจุบัน บางจากฯ ได้ปรับปรุง และบูรณาการ วิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยม และยุทธศาสตร์ 4S มาใช้ในกลยุทธ์ของแต่ละหน่วยธุรกิจเพื่อรักษาผลประกอบการในระดับสูงและ สร้างความสมดุลกับการเติบโตของธุรกิจ นำไปสู่การสร้างความหลากหลาย ผนึกกำลังของพอร์ตโฟลิโอผ่าน 5 กลุ่มธุรกิจหลัก พร้อมเร่งสร้างพอร์ตโฟลิโอเศรษฐกิจสีเขียวใหม่ ให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี ค.ศ. 2030 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ในปี ค.ศ. 2050 สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน พร้อมสร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงทางพลังงาน มุ่งมั่นจะเป็นผู้นำสังคมคาร์บอนต่ำอย่างแท้จริง

 

 

ช่วงที่ 2 หลังปีใหม่ชวนไปเที่ยวต่อที่ “อืมมมิลค์ฟาร์มโชคชัย” นครราชสีมา ชวนลองของใหม่ขับรถหรือนั่งรถราง ยกครัวมาชมทุ่งดอกไม้ สลับกับฟาร์มสัตว์เลี้ยง มีกิจกรรมสนุกให้ทำเพียบ คนรักสุขภาพฟังชัด ๆ “อาบน้ำ” ความจริงแล้วจำเป็นต้องอาบทุกวันหรือไม่ กับ 4 วิธีควรรู้ และเกาะติดข่าวดี ๆ ข่าวแรก “เวียตเจ็ทไทยแลนด์” จัดโปรปีใหม่ 68 บาท ตั๋วบินทั่วไทยและเอเชีย ข่าวที่สอง “โรงแรมม็อกซี่ แบ็งคอก ราชประสงค์” แจกโปรฟรี 4 รายการ #MoxyBangkokTurnsOne!

 

ท่องเที่ยว –เที่ยว“อืมมมิลค์ฟาร์มโคราช”ขับรถชมทุ่งดอกไม้ฟาร์มสัตว์เลี้ยง

สุขทันทีที่เที่ยวเมืองไทย ต้อนรับศักราชใหม่ 2568 ชวนไปเปิดประสบการณ์เส้นทางใหม่ " #ขับรถตะลอนอืมมมิลค์ฟาร์ม ” จ.นครราชสีมา สัมผัสลมหนาวเดือนมกราคมนี้ สนุกสนานกับการชมสีสันความสวยงามละลานตา ในทุ่งดอกไม้งาม ฟาร์มสัตว์เลี้ยง สูดกลิ่นอายธรรมชาติหอมสดชื่น คุณกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่มาแล้วจะต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน ที่ “Umm milk Farm

 

พิกัดที่ 1 สัมผัสเส้นทางแห่งความอร่อยของ Umm milk Farm เปิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ด้วยจุด Unseen นานทีปีหนจะได้เห็นแบบเต็มตา แล้วเช็คมุมถ่ายรูปสวยๆ กับทุ่งดอกไม้หลากสีบานสะพรั่งทั่วท้องถิ่นกว้างใหญ่

พิกัดที่  2 ฟาร์มสัตว์เลี้ยงน้อยใหญ่ใน แอนิมอล ฟาร์ม แต่ละสายพันธุ์ที่นักท่องเที่ยวแต่ละวัยต่างก็ชื่นชอบต่างกันไป ชวนมาเปิดประสบการณ์ รีดนมวัวด้วยมือคุณเอง ป้อนอาหารสัตว์ แกะ กระต่าย หมูแคระ ลูกวัว เป็ดไก่ห่าน ตื่นตากับโชว์คาวบอยสุดมันส์

 

นักท่องเที่ยวสามารถแคปหน้าจอโพสต์ที่อยู่บน facebook ททท.สำนักงานนครราชสีมา เพื่อกิจกรรมสนุก ๆ #รับฟรี ทันที ชุดตะกร้าป้อนอาหารสัตว์ มูลค่า 100 บาท รับคูปองตรงด้านหน้าจุดขายตั๋วทางเข้าตะลอนฟาร์ม ได้ตั้งแต่วันนี้ - 12 มกราคม 2568

 

อืมมมิลด์ ฟาร์ม นครราชสีมา เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 น. - 17.00 น. ค่าเขัาขับรถตะลอนชมฟาร์มด้านใน ผู้ใหญ่ 120 บาท/คน เด็ก 70 บาท/คน  ความสูง 90-140 ซม.

 

นักท่องเที่ยวสามารถทุกประเภทสามารถเข้าได้ไม่มีค่าใช้จ่าย จำกัดความสูงรถไม่เกิน 2.6 เมตร

 

มีบริการซื้อบัตรเข้าฟาร์ม 3 จุด ได้แก่ 1.ซุ้มชำระค่าเข้าตะลอนฟาร์ม 2.ร้าน Umm milk หน้าแปลงป้อนแกะพิพิธภัณฑ์โชคชัย 3.วอล์คอินมาถึงฟาร์มแล้วซื้อบัตรได้เลยโดยไม่ต้องจองก็ได้

 

“นั่งรถรางแทร็กเตอร์” ชมฟาร์ม บริการพิเศษให้นักท่องเที่ยวที่ไม่อยากขับรถเอง เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันละ 4 รอบ คือ    11.00 / 12.00 / 13.00 / 14.00

 

ค่าบริการ ผู้ใหญ่ 140 บาท/คน เด็ก 100 บาท/คน ความสูง 90-140 ซม.

 

เที่ยว “อืมมมิลค์ ฟาร์ม โชคชัย” นครราชสีมา ได้ 4 ช่องทาง ดังนี้ Inbox : m.me/farmchokchai1957 Website: http://www.farmchokchai.com/ Line Official : https://lin.ee/osYNyeU และโทร. : 098-719-4464 , 092-431-9166

 

สุขภาพ –“อาบน้ำ” ความจริงแล้วจำเป็นต้องอาบทุกวันหรือไม่ กับ 4วิธี

 

ด้วยสภาพอากาศเมืองไทย ร้อนเป็นหลัก ทำให้เราต้องอาบน้ำกันทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ส่วนในต่างประเทศที่อากาศหนาวเย็นผู้คนอาจไม่ได้อาบน้ำเป็นปกติทุกวัน จากการรวบรวมสถิติในหลายประเทศพบว่า ประชากรในสหรัฐอเมริกากว่า 2 ใน 3 อาบน้ำทุกวัน ชาวออสเตรเลียกว่า 80% อาบน้ำทุกวันเช่นกัน แต่ชาวจีนกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศเฉลี่ยแล้วอาบน้ำเพียง 2 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น


เราจำเป็นต้องอาบน้ำทุกวันหรือไม่?

      เรามาดูสาเหตุที่ทำให้เราอยากอาบน้ำกันก่อน คือ กลิ่นตัว กลิ่นเหงื่อ อากาศร้อน อยากรู้สึกสะอาดสดชื่นอยากรู้สึกสดชื่นหลังตื่นนอน เป็นหนึ่งในกิจกรรมตอนเช้าที่ต้องทำ อาบน้ำหลังทำกิจกรรมใดๆ ที่ทำให้เหงื่อออกมาก เช่น ออกกำลังกาย

 

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำอย่างเป็นทางการว่าควรอาบน้ำบ่อยแค่ไหน และการหลีกเลี่ยงการทำลายผิวหนังระหว่างอาบน้ำได้ 4 วิธี ดังนี้

 

1.      อาบน้ำด้วยน้ำอุณหภูมิห้อง น้ำไม่ร้อน หรืออุ่นจัดจนเกินไปเป็นเวลานาน

2.      ใช้เวลาในการถูตัว 3-4 นาที โดยเน้นไปที่จุดที่ต้องการกำจัดกลิ่น หรือจุดที่มีความสกปรกที่สุด เช่น รักแร้ ซอกคอ แผ่นหลัง เท้า ข้อพับต่างๆ เป็นต้น

3.      ไม่ใช้ที่ขัดตัวที่มีความหยาบกระด้างมากเกินไป

4.      ไม่ใช่สบู่ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียบ่อยจนเกินไป

 

            จริงๆ แล้วไม่มีผลงานวิจัยอะไรที่จะยืนยันได้ว่า การไม่ได้อาบน้ำทุกวันส่งผลเสียอะไรต่อร่างกายมากน้อยแค่ไหน แต่การอาบน้ำ “บ่อยเกินไป” อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ดังนี้

1.ผิวอาจแห้งเกินไปจนทำให้รู้สึกคัน ระคายเคือง

 

2.ผิวที่แห้งแตกอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เชื้อโรค แบคทีเรียเข้ามาทำร้ายผิว ทำให้ผิวติดเชื้อ เป็นโรคผิวหนัง หรือทำให้เกิดอาการแพ้ได้

 

3.การใช้สบู่ หรือผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย อาจทำลายเชื้อจุลินทรีย์ที่ดีต่อผิวหนังบางส่วนออกไปด้วย

 

4.ผิวหนังของเรายังมีความจำเป็นที่จะต้องมีจุลินทรีย์ดี ที่ช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานโรคบางอย่างได้ การอาบน้ำบ่อยเกินไปจงอาจทำให้ร่างกายลดทอนการสร้างภูมิคุ้มกันโรคบางอย่างไปด้วยเช่นกัน

 

อาบน้ำบ่อยแค่ไหน ถึงจะเหมาะสม?

คำตอบไม่เฉพาะตายตัว ขึ้นอยู่กับว่าผิวหนังของคุณมีความสกปรกมากน้อยแค่ไหน ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น หากอยู่ในประเทศไทย เหงื่อออกตั้งแต่ก้าวแรกที่ออกนอกบ้าน คุณก็ควรอาบน้ำทุกวัน

โดยทั่วไปแล้วการอาบน้ำทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง ยังไม่ถือว่าบ่อยเกินไป แต่หากมากกว่า 3-4 ครั้งต่อวัน ถือว่าบ่อยครั้งเกินไป ยิ่งอาบด้วยน้ำอุ่นจัด จะทำลายผิวหนังให้แห้งกร้านได้เหมือนกันอาบน้ำวันละครั้งเดียว

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –เวียตเจ็ทไทยแลนด์จัดโปรปีใหม่ตั๋วบินไทย-ต่างชาติเริ่ม68บาท

 

เวียตเจ็ทไทยแลนด์ จัดโปรโมชั่นต้อนรับการเดินทางฉลองปีใหม่ด้วย “โปรฯ ดีต้อนรับปี 2568 (Happy New Year)” ขายตั๋วโดยสารราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 68 บาท (ไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียม) ได้ตั้งแต่วันนี้– 6 มกราคม 2568 เมื่อซื้อแล้วนำไปไว้ใช้เดินทางได้ช่วง 15 กุมภาพันธ์ – 25 ตุลาคม 2568 (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)

 

ตั๋วโดยสารราคาโปรโมชั่นดังกล่าว เมื่อซื้อแล้วจะสามารถนำไปใช้เดินทางได้ทุกเส้นทางตามเครือข่ายเส้นทางบินภายในประเทศของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ ได้แก่

 

1.เส้นทางบินตรง กรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) สู่ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่ หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี อุดรธานีขอนแก่นและอุบลราชธานี

 

2.เส้นทางบินข้ามภูมิภาคจาก ภูเก็ต สู่ เชียงใหม่ และเชียงราย

 

3.เส้นทางบินตรงระหว่างประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น พนมเปญ และไทเป

 

4.เส้นทางบินตรงจาก เชียงใหม่ สู่ โอซาก้า

 

5.เส้นทางบินใหม่จาก กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ โอกินาว่า และ ฮอกไกโด (ผ่านไทเป) และ มุมไบ (อินเดีย)

 

“ช่องทางซื้อตั๋วโดยสาร” โปรโมชั่นราคาพิเศษ “เวียตเจ็ทไทยแลนด์” ได้ที่เว็บไซต์www.vietjetair.com แอปพลิเคชัน “Vietjet Thailand” เฟซบุ๊ก www.facebook.com/VietJetThailand (คลิกที่แถบ “จองเลย”) ตัวแทนจำหน่ายหรือสำนักงานขายตั๋วโดยสาร แล้วสามารถชำระเงินด้วย “ทรูมันนี่ วอลเล็ท” และบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต ตามความสะดวกของผู้โดยสารแต่ละคน

 

 

เวียตเจ็ทไทยแลนด์ ยืนยัน ล่าสุดได้เปิดตัว “Double Seat Service หรือ “บริการเสริมสำรองที่นั่งเพิ่มเติม” เพื่อมอบความสะดวกสบายเหนือระดับแก่ผู้โดยสาร ด้วยพื้นที่ส่วนตัวเพิ่มขึ้นบนเที่ยวบิน ผู้โดยสารสำรองที่นั่งด้านข้างเพิ่มเติมเพื่อความเป็นส่วนตัว พื้นที่กว้างขวาง ความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

 

รวมทั้ง ยังสามารถคว้ารางวัล “สายการบินโลว์คอสต์ที่ดีที่สุดในไทยแห่งปี 2567” จากนิตยสารโกลบอลแบรนด์ สหราชอาณาจักร กับรางวัล “สายการบินที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเป็นมิตรมากที่สุดแห่งปี 2567” จากนิตยสาร International Finance

 

เวียตเจ็ทไทยแลนด์ยึดมั่นค่านิยมหลัก คือ ความสนุกสนานและเป็นมิตร ควบคู่กับ ความปลอดภัย-ความตรงต่อเวลา และราคาที่เข้าถึงได้

 

ปัจจุบันมีเครือข่ายเส้นทางบิน “ภายในประเทศ” 11 เส้นทาง ได้แก่ “เที่ยวบินตรง” จากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่ อุดรธานี หาดใหญ่ ขอนแก่น อุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี “เที่ยวบินข้ามภูมิภาค” จาก ภูเก็ต สู่ เชียงใหม่ และเชียงราย แล้วยังได้ขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศทั่วเอเชีย-แปซิฟิก เชื่อมต่อไทยกับ เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น กัมพูชา ไทเป มุมไบ และอีกหลายจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ ด้วยบริการที่มีคุณภาพ

 

ข่าวที่สอง –รร.ม็อกซี่แบ็งคอกขายโปรฟรี4รายการ #MoxyBangkokTurnsOne

 

โรงแรม “ม็อกซี่ แบ็งคอก ราชประสงค์” ฉลองครบรอบปีแรก พร้อมมอบสิทธิพิเศษสุดพิเศษให้ผู้เข้าพัก เปิดตัวโปรโมชั่นพิเศษ #MoxyBangkok Turns One! วันนี้ - 25 มีนาคม 2568 ให้ผู้เข้าพักสัมผัสพลังอันสนุกสนานและสดใสกับสิทธิพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อทำให้ทุกการเข้าพักสนุกสนานน่าจดจำด้วยสิทธิประโยชน์แบบจัดเต็มไฮไลต์  4 รายการ ดังนี้

 

       ฟรี อาหารเช้า – เริ่มต้นเช้าวันใหม่อย่างสดชื่นด้วยอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์แสนอร่อย

       ฟรี เช็คเอาท์สายได้ถึง 16.00 น. – เพลิดเพลินกับการออกเดินทางอย่างผ่อนคลายโดยไม่ต้องเร่งรีบ

       ฟรี คะแนนแมริออท บอนวอย 3,000 คะแนน – สะสมคะแนนสำหรับการเข้าพักและการผจญภัยได้อีกในอนาคต

       ฟรี เครื่องดื่มค็อกเทลหรือม็อกเทล 1 แก้วต่อคืน – ร่วมฉลองทริปที่น่าจดจำในสไตล์ม็อกซี่ ต้องแบบนี้

 

โปรโมชั่น #MoxyBangkok Turns One! จองและเข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้- 25 มีนาคม 2568 สอบถามเพิ่มที่ moxy.bkkox.rsvn@moxyhotels.com โทร 02 209 5999 LINE: @MoxyBangkok หรือ www.moxybangkokratchaprasong.com

มีบริการห้องพักออกแบบอย่างชาญฉลาด พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่มีชีวิตชีวา ตั้งอยู่ใกล้สถานที่สำคัญ เช่น ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ บิ๊กซี ราชดำริ ศูนย์การค้าแพลทินัม แฟชั่น มอลล์และพระพรหมเอราวัณหรือศาลท้าวมหาพรหม

@ม็อกซี่ราชประสงค์เทรนด์ใหม่สไตล์เก๋สนุกสนาน

โรงแรมม็อกซี่ แบงคอก ราชประสงค์ คือ จุดนัดพบของเก๋แบบใหม่ของวงการโรงแรมและความสนุกสนาน มอบประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดา ในฐานะโรงแรมแรกในไทยและใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก มีห้องพักทันสมัย504 ห้อง ยิมระดับพรีเมียมวิวเมือง และพื้นที่ส่วนกลางตกแต่งเก๋ไก๋ ผสานระหว่างการทำงานกับการพักผ่อนอย่างลงตัว ให้ได้เพลิดเพลินกับบาร์และร้านอาหารที่คึกคัก บรรยากาศเต็มไปด้วยชีวิตชีวา

ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS ชิดลมและสยาม เดินทางเชื่อมต่อไปยังแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร สถานที่สำคัญในกรุงเทพฯ สะดวกสบาย สามารถสมัครสมาชิกแมริออท บอนวอย เพื่อรับสิทธิพิเศษมากมาย

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ททท.เปิดAmazing Thailand Roman Monthปี68ปลุกตลาดไกล10.6ล้านคน

  ททท.นำร่องเปิด Amazing Thailand Roman Month ปี68ตั้งเป้าปลุกตลาดไกล 10.6 ล้านคน ททท.เปิด Roman Month ปลุกตลาดไกลเข้าเป้า 10.6 ล้านคน งัด...