วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2568

ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร นำททท.ปี68พลิกโฉมITB2025รับมือเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

 


ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร

รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ททท.

ททท.ชู4กลยุทธ์ปี’68เพิ่ม“ยุโรป-อเมริกา-ตะวันออกกลาง”

AirlineFocusต่อยอด 3 เรื่อง-ลงทุนโฉมใหม่งาน ITB 2025

กระตุ้นขายกรีนรับมือเศรษฐโลกชะลอตัว-ความขัดแย้งโลก

คิงเพาเวอร์ออนไลน์แจกTOP25รับส่วนลดตั๋วบางกอกแอร์

คิงเพาเวอร์มหานครจัด“วันเด็ก”ของเล่นโลกถึง13 ม.ค.68

สมาชิกคิงเพาเวอร์ใช้กะรัตแลกกระเป๋าผ้าสินค้าสุดคิวต์

นายกอิ๊งค์-ททท.ดันภูเก็ตสู่“พรีเมี่ยม-CityFest-ฮับยอชต์

บางจากจัดเต็ม“วันเด็ก”ชูความรู้คู่ความสนุกโลกSTEM

5 ผลไม้ที่ควรกินตอนเช้าเริ่มกินด่วนตอนนี้ดีต่อสุขภาพ

ยกครัวเที่ยววันเด็กในนอกกรุง/ทั่วไทย-สวนสัตว์ดัง4ภาค

ข่าวดี!!ปี68พังงาดำน้ำตื้นดู“กระเบนนก”หมู่เกาะสุรินทร์

ด่วน!นกแอร์ปี68โดนตลท.เพิกถอน/ปี68กัดฟันสู้บินต่อ

วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก #TCEB  #วันเด็ก

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/12EJRBCNC7Q/

สัมภาษณ์ !! ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปี 68 เร่งเครื่องตลาดระยะไกล Longhaul 4 กลยุทธ์ ต่อยอด “Airlines Focus” ใหม่ 3 เรื่อง “ขยายตารางบิน-เพิ่มความถี่-บินตรงสู่เมืองท่องเที่ยว” พลิกโฉมเทรดโชว์ ITB เบอร์ลิน 2025 ลงทุน 2 โครงการ “ไทยแลนด์ พาวิลเลี่ยน” 1,854 ตรม.และพื้นที่ โปรดักซ์ โชว์เคส คัดคลัสเตอร์ตัวแทน55 เมืองน่าเที่ยวลงสนามใหญ่ เปิดเกมรุกขานรับพฤติกรรมโลกใหม่ยุค Green เน้นขายความจริง และพร้อมรับมือ 2 ความท้าทาย “เศรษฐกิจโลกถดถอย-ความขัดแย้งทางการเมืองของนานาประเทศ”


นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ปี 2568 ททท.จะขยายความร่วมมือกลยุทธ์ Airlines Focus ต้อนรับศักราชใหม่โดยต่อยอดเดินหน้าทำ 3 เรื่องแรก คือ เรื่องที่ 1 ร่วมมือกับสายการบินนานาชาติทั่วโลกที่เปิดบินเข้าสู่เมืองไทยยืดระยะเวลาการบินต่อเนื่อง แทนที่จะบินเฉพาะช่วงตารางบินฤดูหนาว เรื่องที่ 2 เพิ่มความถี่เที่ยวบินจากปัจจุบัน 1-2-3-4 เที่ยว/สัปดาห์ ปรับใหม่บินมาไทยทุกวัน 7 เที่ยว/สัปดาห์  เรื่องที่ 3 เพิ่มจุดบินตรงใหม่กระจายไปยังจังหวัดท่องเที่ยวหลัก ๆ นอกเหนือจากศูนย์กลางเฉพาะกรุงเทพมหานคร

 

ปี 2568 ททท.พร้อมจะเดินหน้าส่งเสริมการตลาดกระตุ้นการท่องเที่ยวตลาดระยะไกล โดยเร่งทำด้วย 4  กลยุทธ์ ประกอบด้วย

กลยุทธ์ที่ 1 Airlines Focus สร้างความสำเร็จต่อเนื่องมา 3 ปี โดยเฉพาะตลอดปีที่ผ่านมา 2567 สามารถสร้างประวัติศาสตร์ทำนิวไฮท์นำนักท่องเที่ยวทั้ง  4 ทวีปมาไทยกว่า 9.79 ล้านคน แซงสถานการณ์ปกติปี 2562 ไปเรียบร้อยแล้วที่เคยทำไว้ 9.1 ล้านคน

ปี 2568 มี “สายการบินดาวรุ่ง” เด่น ๆ ได้แก่ สายการบินแรก “ซาอุเดียแอร์ไลน์” ของซาอุดิอาระเบีย เปิดบินตรง ไป-กลับ เจดดาห์-ภูเก็ต แล้วยังมีความเป็นไปได้จากอีกหลายสายการบินนานาชาติพร้อมจะบินตรงไปยัง อู่ตะเภา กระบี่ เชียงใหม่ และสนามบินในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม สายการบินที่ 2 LOT capital Airlines ของโปแลนด์ จัดทำตารางบินตามฤดู หรือเช่าเหมาลำ

กลยุทธ์ที่ 2 การเข้าร่วมเทรดโชว์ระดับโลก กำลังเตรียมนำเอกชนและองค์กรเกี่ยวข้องเข้าร่วมเจรจาธุรกิจการท่องเที่ยวงาน ITB 2025 : Internationale Tourismus Borse กรุงเบอร์ลิน เยอรมัน ช่วงต้นเดือนมีนาคม 2568 ก็จะใช้เวทีดังกล่าว ทำ 3 ไฮไลต์ ได้แก่

 


ไฮไลต์ที่ 1 เพิ่มพันธมิตรสายการบินใหม่ ๆ เปิดบินเข้ามายังเมืองไทย ตลอดปี 2567 มีสายการบินหลักให้บริการ ได้แก่ ลุฟท์ฮันซ่า การบินไทย ตอนนี้มีน้องใหม่ขนาดใหญ่อย่าง “Condor Air” บินตรง ไป-กลับ จากแฟรงค์เฟิร์ต (เยอรมัน) เข้าสู่กรุงเทพฯ และภูเก็ต จะเจรจาขอให้ขยายไปยังเชียงใหม่ และจังหวัดที่มีความพร้อม

โดยมีตัวอย่างตอนงาน WTM 2024 ที่สหราชอาณาจักร เมื่อพฤศจิกายน 2567 ททท.จับมือกับสายการบินบริติช แอร์เวย์ส กลับมาเปิดบินประจำ ไป-กลับ อังกฤษ-ไทย อีกครั้ง หลังจากห่างหายกันไปนาน 3-4 ปี

ไฮไลต์ที่ 2 ลงทุนขยายพื้นที่ไทยแลนด์ พาวิลเลี่ยน เป็นขนาด 1,820 ตารางเมตร จากเดิมมีเพียง 540 ตารางเมตร เป็นความพิเศษสุด ๆ ตามนโยบายรัฐบาลไทยขอให้เน้นให้ไทยอยู่รวมในพื้นที่เดียวกัน แตกต่างจากก่อนหน้านี้มีสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว และบางจังหวัดแยกพื้นที่ออกจาก ททท.ปี 2568 จะเป็นครั้งแรกที่กลับมาอยู่รวมกันอีกครั้ง ขานรับปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sport Year 2025



จะสร้างจุดขายให้ความรู้สึกประทับใจกับคู่ค้าท่องเที่ยวในงาน ITB 2025 เมื่อได้เห็นไทยแลนด์ พาวิลเลี่ยนแล้ว เสมือนได้เดินเข้ามาในราชอาณาจักรไทย สัมผัสเสน่ห์ไทย บรรยากาศอันอบอุ่น วิถีวัฒนธรรม กลิ่นอายความเป็นไทย

 

ไฮไลต์ที่ 3 การสร้างโอกาส และนำเสนอมุมมองท่องเที่ยวไทยในมิติใหม่ ๆ ตามปกติในงานจะมี โรงแรม/รีสอร์ต บริษัทตัวแทนจัดการท่องเที่ยว (DMC) แหล่งท่องเที่ยว ไปเปิดบูธ ปี 2568 จะเพิ่ม “พื้นที่ Product Showcase โชว์สินค้าใหม่กระตุ้นการขายอย่าง 5 Must Do in Thailand พร้อมกับให้จังหวัดต่างๆ  นำเสนอโปรดักซ์เด่น ๆ ของตนเอง และจะเป็นแรกที่จะคัดเลือก “55 เมืองน่าเที่ยว” ธุรกิจรายเล็ก SMEs เป็นตัวแทนเข้าร่วมเจรจาซื้อขายในงานระดับโลกด้วย

 

ตามแผนงานเมื่อคัดเลือกธุรกิจรายเล็กตัวแทนซึ่งเป็นคลัสเตอร์จาก 55 เมืองน่าเที่ยวได้แล้ว ก่อนการเดินทางเข้าร่วมงานจะสอนเทคนิคการเข้าร่วมงาน นำเสนอขายสินค้า และขั้นตอนต่าง ๆ แล้วก็จะเชิญตัวแทนผู้ซื้อ (buyer) เข้ามาพูดคุยธุรกิจด้วย เมื่อกลับจากงาน ITB เบอร์ลิน ผู้ประกอบการที่ได้สิทธิ์ไปร่วมงานครั้งนี้ก็จะต้องมาสรุปผลตอบรับต่าง ๆ ให้ ททท.ฟัง เพื่อนำ “ข้อมูล/DATA”มาเป็นฐานเพื่อนำไปประมวลผลพัฒนาการตลาดในอนาคตต่อไป

 


กลยุทธ์ที่ 3 การปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวยุคใหม่ ซึ่งหันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ททท.จะร่วมกระตุ้นผู้ประกอบการไทยอย่างกลุ่มธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก ในเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ให้หันมาดูแลมาตรฐานการพัฒนาสู่สีเขียวท่องเที่ยวยั่งยืน จัดทำระบบน้ำเสีย เลือกใช้วัตถุดิบทำอาหารในท้องถิ่นลดขั้นตอนการขนส่งช่วยลดมลภาวะและคาร์บอนรวมถึงการนำเสนอ “การเดินทางแบบเชื่อมโยง” ในแต่ละจังหวัดระหว่างเมืองหลักกับเมืองรอง

กลยุทธ์ที่ 4 การเพิ่มรายได้จากนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกล (Longhaul) ททท.ได้รับฟังเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการไทยหลังสถานการณ์โควิด-19 นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยจะเน้นการใช้โดยเน้น “ความคุ้มค่าเงิน” ดังนั้น ททท.จะร่วมกับเอกชนขับเคลื่อนนำเสนอขาย 1.การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ตอบโจทย์ความคุ้มค่าเงิน 2.การท่องเที่ยวเชิงอาหาร ต้องค้นหาจุดขายเด่น ๆ ซึ่ง  ททท.ในประเทศ 49 แห่ง และต่างประเทศอีก 29 แห่ง พร้อมจะขยายผลด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการตลาดกระจายในหลายกลุ่มตลาดกับนักท่องเที่ยวทุกเซกเมนท์

นายศิริปกรณ์ กล่าวว่า ปี 2568 การท่องเที่ยวตลาดระยะไกลยังคงมีความท้าทายจากสถานการณ์โลกที่จะต้องรับมือ 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 เศรษฐกิจโลก มีบางประเทศเกิดภาวะถดถอย แล้วก็มีบางประเทศยังเติบโตต่อเนื่อง ททท.จะใช้จังหวะนี้นำเสนออีกครั้งคือ “ความคุ้มค่าเงิน :Value for Money” ได้ในสิ่งที่เหนือกว่าความคาดหวัง เรื่องที่ 2 ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ สงครามยืดเยื้อ จะนำเสนอจุดยืนของประเทศไทยที่มีความเข้มแข็งด้านความเป็นกลางสูงมาก เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะเกิดเรื่องใดเมืองไทยก็พร้อมจะดูแลนักท่องเที่ยวทุกประเทศที่เดินทางเข้ามาพักผ่อน เพื่อหลีกหนีความขัดแย้งต่าง ๆ

ปี 2568 ททท.มีแนะนำซัพพลายไซด์หรือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเมืองไทยให้ใส่เทคนิคพิเศษตามแนวโน้มของโลกซึ่งหันมาใส่ใจเรื่องการ “ฟอก :laundry” ทั้ง Green, Washing อันหมายถึงทุกวันนี้เราประกาศว่าได้ทำธุรกิจสีเขียว ดูแลสิ่งแวดล้อม แต่ในทางปฏิบัติแล้วเรายังไม่ได้ทำอะไรเลย จึงจะขอให้หันมาลงมือทำอย่างจริงจังใหม่อีกครั้งนั่นคือ “ขายความจริง” ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่บ้าง เพราะพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวปัจจุบันเดินทางด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ดีเพื่อเพิ่มประสบการณ์อย่างถูกต้องทุกการเดินทาง

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์ออนไลน์แจกTOP25รับส่วนลดตั๋วบางกอกแอร์

 

คิง เพาเวอร์ ต้อนรับปีใหม่ จัดใหญ่ต้นปี “2025 SHOPPING QUEST: TOP 25 SPENDERS” ภารกิจนักช้อป พิชิตของรางวัลสุดคุ้ม หนึ่งใน TOP SPENDERS อาจเป็นคุณ ทาง คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ เริ่มช้อปได้เลยตั้งแต่วันนี้ - 31 มกราคม 2568

 

สายช้อปห้ามพลาด คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ยิ่งช้อปเยอะยิ่งมีสิทธิ์ลุ้น ใครอยากฉลองชัยชนะในครั้งนี้ต้องรีบจัดด่วน ที่ คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ กดสินค้าลงตะกร้า แล้วรอรับของที่สนามบิน

  • Free! ส่วนลดตั๋วเครื่องบินมูลค่า 1,000 บาท จากบางกอกแอร์เวย์ส มอบให้ นักช้อปทำยอดสูงสุด หรือTop Spender 25 คนแรกรวม 25 รางวัล
  • สินค้า Duty-Free สุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย! รับสินค้าที่สนามบิน
  • แบ่งชำระ 0% นานสูงสุดถึง 6 เดือน
  • รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13,500 บาท
  • ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง ช้อปก่อนมีสิทธิ์ก่อน เพราะของแถมมีจำนวนจำกัด
  • รับเลย! ส่วนลด 800บาท เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์  และรับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท (สุทธิ)

 


 ข่าวที่ 2 -คิงเพาเวอร์มหานครจัด“วันเด็ก”ของเล่นโลกถึง13 ม.ค.68

คิง เพาเวอร์ มหานคร ชวนฉลองวันเด็กแห่งชาติปี68 สนุกกับ Playmobil ในงาน Heroes Academy เริ่ม 9-13 ม.ค.นี้ ที่มหานคร คิวบ์ ชั้น 74 มีกิจกรรมให้ทำเพียบ 

คิง เพาเวอร์ มหานคร เชิญชวนครอบครัวมาร่วมสนุกงานฉลอง “วันเด็กแห่งชาติ 2568” เริ่มก่อนเลยตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 9 – วันจันทร์ที่ 13 มกราคม 2568

ปี 2568 คิง เพาเวอร์ มหานคร จับมือกับ Playmobil เพลย์โมบิล แบรนด์ของเล่นยอดนิยมระดับโลก เปลี่ยนพื้นที่ให้กลายเป็น “Heroes Academy” ตื่นตากับฟิกเกอร์งานศิลปะขนาดยักษ์ละลานตา พร้อมกิจกรรมสนุก ๆ เพื่อเด็ก ๆ และทุกครอบครัว 

คิง เพาเวอร์ มหานคร จัดกิจกรรมไฮไลต์ ให้ฉลองวันเด็กแห่งชาติเต็มคาราเบล 2 พื้นที่

พื้นที่ 1 “มหานคร สแควร์” พบกับกิจกรรมไฮไลต์ ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 9 – วันจันทร์ที่ 13 มกราคม 2568 เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ใกล้ชิด ฟิกเกอร์ Playmobil ขนาดยักษ์ 45 ตัว สูงถึง 150 เซนติเมตร เพื่อให้ทุกคนได้สนุกสนานและถ่ายภาพสุดประทับใจ สร้างความทรงจำที่ดีไปตลอดอย่างยาวนาน

พื้นที่ 2 ชั้น 74 สนุกสุด ๆ ได้ที่จุดชมวิวภายในอาคาร วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568 ตั้งแต่ 10.00 – 18.00 น.ชวนเด็ก ๆ และครอบครัว มาเพลิดเพลินกับโลกแห่งจินตนาการของ Playmobil กับกิจกรรมสร้างสรรค์ไม่ต่ำกว่า 4 กิจกรรม ดังนี้

  • Play Table : สนุกกับการเล่นของเล่น Playmobil ให้เด็กๆได้สร้างสรรค์หลากหลายแบบ
  • ระบายสีฟิกเกอร์ Playmobil (Playmobil Colour Figure) : ปลุกความคิดสร้างสรรค์ด้วยการระบายสีตัวละคร Playmobil ที่ชื่นชอบ
  • สร้างฟิกเกอร์ Playmobil ส่วนตัว (Playmobil Custom Figure) : ออกแบบและสร้างตัวละคร Playmobil สุดพิเศษ ทำเสร็จแล้วสามารถนำกลับบ้านได้ด้วย
  • ทำพวงกุญแจ Playmobil (Playmobil DIY Keychain): ชวนคุณมาออกแบบและประดิษฐ์เป็นพวงกุญแจส่วนตัวเป็นที่ระลึก

พิเศษ !! โปรโมชั่นวันเด็กแห่งชาติ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าชม มหานคร สกายวอล์ก ฟรี เมื่อมากับผู้ปกครองที่ซื้อบัตรเข้าชมฯ วิวกรุงเทพฯ แบบ 360 องศา

“โปรโมชั่นที่มหานคร คิวบ์ ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 9 – วันจันทร์ที่ 13 มกราคม 2568 เวลา 11.00 – 19.00 น. เมื่อลูกค้ามียอดใช้จ่าย 1,000 บาทขึ้นไป ที่โซนอาหารคือ มหานคร อีทเทอรี่ และไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ รับฟรี ฟิกเกอร์ Playmobil 1 ตัว มาก่อนมีสิทธิ์ก่อน หมดแล้วหมดเลย

สนใจร่วมฉลองวันเด็กพร้อมทำกิจกรรมสนุก ผจญภัย อย่างสร้างสรรค์ ตลอดเทศกาลฉลองวันเด็กแห่งชาติที่ คิง เพาเวอร์ มหานครสอบถามข้อมูลเพิ่ม โทร 02 677 8721

 


ข่าวที่ 3-สมาชิกคิงเพาเวอร์ใช้กะรัตแลกกระเป๋าผ้าสินค้าสุดคิวต์

 

คิง เพาเวอร์ รวมกระเป๋าผ้าสุดคิวต์รับลมหนาวเดือนมกราคม 2568 เปิดให้ “สมาชิก คิง เพาเวอร์” รับทันที ส่วนลดสูงสุดถึง 300 บาท เพียงแลกกะรัต เริ่มต้นที่ 80 กะรัต แทนเงินสด 100 บาท 160 กะรัต แทนเงินสด 200 บาท และ 240 กะรัต แทนเงินสดได้ 300 บาท

 

แลกเสร็จก็ลุยช้อปแบบตัวมัม! จาก 8 แบรนด์ชั้นนำภายใต้ X8 มาทั้งกระเป๋าสุดผ้าคิวต์ กับสารพัดของกุ๊กกิ๊ก

“สิทธิพิเศษ” สมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY, SCARLET. ONYX, CROWN และ VEGA แลกรับและใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้- 31 มีนาคม 2568สามารถซื้อสินค้าโดยไม่มีขั้นต่ำ และไม่จำกัดสิทธิ์ต่อใบเสร็จ ตลอดรายการมีทั้งหมด 1,200 สิทธิ์

 

สมาชิก คิง เพาเวอร์ กดรับรหัสส่วนลดผ่านช่องทาง LINE Official Account : @KINGPOWER หรือwww.member.kingpower.com แล้วนำรหัสไปใช้สิทธิ์ที่ X8 LINE Official Account โดยแอด @265uiowf เพื่อสั่งซื้อสินค้ากับพนักงาน

 

กรณีกดรหัสแล้วไม่ได้นำมาใช้สิทธิ์ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ทางบริษัทต้องขอสงวนสิทธิ์ไม่ชดเชยสิทธิ์

 

ข่าวที่ 4-นายกอิ๊งค์-ททท.ดันภูเก็ตสู่“พรีเมี่ยม-CityFest-ฮับยอชต์

 

นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 “การประชุมบูรณาการการแก้ปัญหาพื้นที่ภูเก็ต เพื่อรองรับการท่องเที่ยว” โดยมีผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ ร่วมนำเสนอโครงการเตรียมความพร้อมด้านสาธารณูปโภคให้รองรับนักท่องเที่ยวได้ปีละ 18 ล้านคน

 

โดยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เสนอแนวทางเร่งผลักดันภูเก็ตก้าวขึ้นสู่จุดหมายปลายทางพรีเมี่ยมหรือ Premium Destination ร่วมมือกันยกระดับสินค้าและบริการ ทั้งดีมานต์ฝั่งการบริโภค และซัพพลายฝั่งผู้ประกอบการธุรกิจ ตั้งเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มคุณภาพเลือกมาท่องเที่ยวภูเก็ตเติบโตเพิ่มขึ้น

 

ตลอดปี 2567 ภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 12,898,898 คน สร้างรายได้ 481,377. 92 ล้านบาท คาดปี 2568 สถานการณ์ท่องเที่ยวมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยสนับสนุนหลายอย่าง

 

โดย ททท.วางกลยุทธ์เดินหน้าส่งเสริมภูเก็ตเป็น “พื้นที่จัดกิจกรรมเทศกาลนานาชาติ: City of Festival” กระตุ้นตลาดเป้าหมายกลุ่มสนใจท่องเที่ยวเฉพาะให้เข้ามาใช้จ่ายเงินสะพัดตลอดทั้งปี

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท.ร่วมเปิดงาน Thailand International Boat Show A Luxury Lifestyle Event 2025 ที่ ภูเก็ต ยอร์ช เฮเว่น มารีนา จัดเป็นปีที่ 3 ระหว่าง 9-12 มกราคม 2568  โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิด พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

 

@คาดรายได้งานภูเก็ตยอร์ช3วันทำเงิน 86 ล้านบาท

 

ภายในงานมีผู้ประกอบการเข้าร่วมจัดแสดงสินค้าและบริการกว่า 100 ราย คาดจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 6,000 คน สามารถสร้างรายได้สู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกว่า 86,130,000 บาท

 

ททท.ได้ร่วมเป็นพันธมิตรสนับสนุนการจัดงานดังกล่าวเพื่อร่วมผลักดันให้ภูเก็ตเป็น Maritime Hub และจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวคุณภาพสูง หรือ Premium Destination ตามนโยบายรัฐบาลต่อไป

 

สำหรับงานยอร์ชที่จัดในภูเก็ตต่อเนื่องเป็นปีที่ 3  มุ่งยกระดับท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยมทั้งในไทย อาเซียน และเอเชีย ส่งเสริมภูเก็ตเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยอชต์ (Yacht Tourism) สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ กระตุ้นให้เจ้าของเรือยอชต์เลือกมาตั้งฐานธุรกิจในไทย

 

ปี 2568 จัดกิจกรรม 4 รูปแบบ ได้แก่

  • จัดการแสดงเรือยอชต์และซูเปอร์ยอชต์มากกว่า 50 ลำ
  • จัดการแสดงสินค้าและบริการไลฟ์สไตล์หรูหรา เช่น เรือยอชต์เช่าเหมาลำ บริการทางทะเล เครื่องเล่นทางน้ำ รถคลาสสิค และรถซูเปอร์คาร์ เครื่องบินเจ็ต บริการรับรองและนำเที่ยวแบบหรูหรา นาฬิกาและอัญมณี
  • กิจกรรมความบันเทิง การแสดงดนตรี พร้อมจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มท้องถิ่น อาหารนานาชาติ กิจกรรมสาธิตจากชุมชน และงานเลี้ยงบนเรือยอชต์
  • การประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล และการแล่นเรือยอชต์

 

ข่าวที่ 5-บางจากจัดเต็มวันเด็ก11ม.ค.ความรู้คู่ความสนุกโลกSTEM

 

กลุ่มบริษัทบางจาก ชวนเที่ยวงานวันเด็กปี 2568 เปิดโลก STEM ส่งต่อความสุขไม่สิ้นสุด” จัดเต็มความรู้คู่ความสนุก โดยเปิดให้ เด็ก ๆ และผู้ปกครอง ร่วมงานฟรีวันเด็กบางจาก ประจำปี 2568 วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568 ตั้งแต่ 08.00 – 11.30 น. ที่โรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง สุขุมวิท 64 ภายใต้แนวคิด “เปิดโลก STEM ส่งต่อความสุขไม่สิ้นสุด” ชวนมาเรียนรู้และหาคำตอบกับทักษะ STEM (สะเต็ม) ด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย

 

S – Science ด้านวิทยาศาสตร์ T – Technology ด้านเทคโนโลยี E – Engineering ด้านวิศวกรรมศาสตร์ และ M – Mathematics ด้านคณิตศาสตร์ ผ่านการเล่นเกมและกิจกรรมสนุกสนาน

 

บางจากพร้อมเสริมประสบการณ์หลากหลายครบทั้ง 4 ด้าน ปลูกฝังวิถีแห่งการเรียนรู้ที่จะมาพัฒนาอนาคตของเด็กไทยรุ่นใหม่ให้เติบโตไปไกลยิ่งกว่าเดิม

 

พร้อมไฮไลท์สุดพิเศษ Giant Robot หุ่นยนต์ส่งต่อความสุข จัดเต็มของขวัญวันเด็กมากกว่า 5,000 ชิ้น ส่งต่อความสุขไม่สิ้นสุดให้กับเด็ก ๆ ที่มาร่วมงานวันเด็กบางจาก ประจำปี 2568 ทุกคน

 

สนุกกับการแสดงโชว์บนเวทีจาก รายการ Super 10 พบกับน้องอาชิ คิดเลขเร็ว และน้องกาย นักประดิษฐ์เครื่องร่อน การแสดง Mad Science Show โชว์ดนตรีจาก โปงลางอลงกรณ์ และจากเยาวชนในโครงการ Dek Show Ded และเต็มอิ่มกับอาหาร และเครื่องดื่มมากมาย

 

            ช่วงที่ 2 วันนี้ทุกครอบครัวพาเด็ก ๆ ออกไปสนุกกันฉลอง “วันเด็กแห่งชาติ” ในกทม. รอบปริมณฑล ทั่วประเทศ 8 พิกัดเด่น และทัวร์สวนสัตว์ 4 ภาค 6 แห่ง แล้วดูแลสุขภาพ “5อาหารกินตอนเช้า” ดีต่อสุขภาพ  ข่าวฮ็อต ๆ ข่าวแรก ข่าวดี!! ปี68 พังงาชวนดำน้ำตื้นดูกระเบนนกหายาก ข่าวที่สอง “นกแอร์” พ้นตลาดหลักทรัพย์กัดฟันสู้บินต่อปกติ

 

 

ท่องเที่ยว –ยกครัวเที่ยว“วันเด็ก”ในนอกกรุง/ทั่วไทย-สวนสัตว์ดัง4ภาค

 

ออกมาเที่ยว “วันเด็กแห่งชาติ” ได้ตลอดวันเสาร์ที่ 11 มกราคม นี้ ในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ทั่วประเทศ กับสวนสัตว์ยอดนิยม 4 ภาค มีกิจกรรมชวนเด็ก ๆ ร่วมสนุกทำตามความฝันกับคำขวัญ "ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง" 8 พิกัด เข้าฟรีสวนสัตว์ 4 ภาค 6 แห่ง

 

พิกัดที่ 1 กองทัพอากาศ เปิดพื้นที่ในกองทัพบริเวณฝูงบิน 601 กองบิน 6 พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ สนามบินเล็กทุ่งสีกัน รวมทั้งกองบินต่างจังหวัดทั่วประเทศให้เด็ก ๆ ได้มาชมการแสดงการบิน ยุทโธปกรณ์ทางการทหาร และกิจกรรมมากมาย สนุกกันได้ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้า 07.00 - 15.00 น.เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ

ดูเพิ่มที่ : https://www.facebook.com/rtafnews.mi.th

 

พิกัดที่ 2 ไทย พีบีเอส ติดถนนใหญ่วิภาวดีรังสิต เปิดพื้นที่สวนขนาดใหญ่ และในสตูดิโอจัดรายการ ให้เด็ก ๆ ลองสวมบทเป็นผู้ประกาศข่าว ยูทูบเบอร์ และยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกมากมายรออยู่ เปิดแต่เช้า  07.00 - 15.00 น. นั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงมาลงสถานีทุ่งสองห้องได้ 

ดูเพิ่มที่ : https://www.facebook.com/ThaiPBSKids

 

พิกัดที่ 3 พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพฯ แห่งที่ 1 ใกล้ ๆ  สวนจตุจักร มีกิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เรื่องราวอวกาศในธีม Into the Speaceship และร่วมลุ้นกับของขวัญสุดพิเศษ ตั้งแต่ 08:00 - 16:00 น.เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีหมอชิต หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงสถานีจตุจักร

ดูเพิ่มที่ : https://www.facebook.com/bkkchildrensmuseum

 

พิกัดที่ 4 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ชวนเด็ก ๆ มาทำกิจกรรมในธีม Hospital Tour ตื่นตากับเหล่ามาสคอตพาผจญภัยในดินแดนสุขภาพ พร้อมมีทีมแพทย์เฉพาะทางให้คำแนะเรื่องสุขภาพนำบนเวทีเสวนาในบริเวณ ห้องคอนเวนชั่น ฮอลล์ ชั้น 6 อาคารโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ มากันได้ตั้งแต่ 08.00 - 14.00 น.เดินทางรถไฟฟ้า สายสีแดง สถานีหลักสี่

ดูเพิ่มที่ : https://www.facebook.com/chulabhornhospital

 

พิกัดที่ 5 TK Park อุทยานการเรียนรู้ ในเซ็นทรัล  เวิลด์ ชั้น 8  นำเสนอคอนเซ็ปต์ Kids รอด ปลอดภัย พาเรียนรู้ถึงถ้าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จะสอนให้เด็ก ๆ นั้นรับมืออย่างไรให้ปลอดภัย ร่วมสนุกได้ตั้งแต่ 10.00 - 17.00 น.เดินทางง่ายรถไฟฟ้า BTS สถานีชิดลม ทางออก 6

ดูเพิ่มที่ : https://www.facebook.com/tkparkclub?locale=th_TH

 

พิกัดที่ 6 พระราชวังพญาไท เด็ก ๆ  ทุกคน แวะมาร่วมสนุกอย่างสร้างสรรค์กับการต่อเลโก้จิ๋ว ชื่นชมผลงานของตนเองกันได้ที่นี่ ตลอดงานยังเปิดให้ร่วมกิจกรรม ลุ้นของรางวัลมากมาย เริ่ม 09.00 - 12.00 น.เดินทางโดย BTS ลงสถานีอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

ดูเพิ่มที่ : https://www.facebook.com/PhyathaiPalace/?locale=th_TH

 

พิกัดที่ 7 คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดให้ท่องโลกสุขภาพ พร้อมกิจกรรมสนุก ๆ การแสดงโชว์จากพี่ๆ นักศึกษาแพทย์ ฟังดนตรี เรียนรู้เรื่องราวการแพทย์ที่เข้ายุคสมัยได้ที่เวทีเสวนาเวลา 08.30 - 12.00 น.

ดูเพิ่มที่ : https://www.facebook.com/ramathibodi

 

พิกัดที่ 8 ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์ โดยสถาบันปลูกป่าและระบบนิเวศ ปตท. แต่ละครอบครัวพาบุตรหลานมาในวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2568 เวลา 09.00 - 16.00 น. สนุกกับการเรียนรู้เรื่องราวทางชีวภาพ แล้วจับมือกันลองทำเวิร์คช้อป ระบายสีพัด หรือจะเดินชมนิทรรศการ 10 ปี และสำรวจสัตว์ต่าง ๆ

ดูเพิ่มที่ Facebook https://www.facebook.com/Wangchanforest

 

ไฮไลต์สวนสัตว์ทั่วประเทศ เปิดให้เข้าเด็ก ๆ เข้าชมฟรี 6 แห่ง ได้แก่

 

1.ภาคตะวันออก  “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ชลบุรี มีสัตว์กว่า 3,000 ตัว 300 ชนิด และ “น้องหมูเด้ง” ขวัญใจคนไทยและทั่วโลก

 

ค่าเข้า : “คนไทย” ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก (อายุ 3-12 ปี) 40 บาท “ต่างชาติ” ผู้ใหญ่ (Adult) 350 บาท เด็ก อายุ 3-12 ปี (Child) 120 บาท

 

เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี /ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป /คนพิการ /ผู้มีบัตรอนุณาตพิเศษ เข้าชมสวนสัตว์ ฟรี

ดูเพิ่มที่ : https://www.facebook.com/kkopenzoo  โทร : 038-318444 ต่อ 213

 

2.ภาคเหนือ “สวนสัตว์เชียงใหม่” แวะมาทักทาย “แพนด้าลิง” พร้อมให้อาหารสัตว์ ชมขบวนพาเหรดมาสคอต และหมอกบนดินถิ่นล้านนากันได้

 

ค่าเข้า : คนไทย ต่างชาติผู้ใหญ่ 130 บาท เด็ก 40 บาท เข้าฟรี เด็กอายุต่ำกว่า3ปี ผู้พิการ พระภิกษุสงฆ์ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป

 

ดูเพิ่มที่ : https://chiangmai.zoothailand.org/intro.php โทร : 053221179

 

3.ภาคใต้ “สวนสัตว์สงขลา” มีพระเอกนางเอกอย่าง “ฮิปโปซีดาม” กับ “สมเสร็จ-พลอยทอง” รอเด็ก ๆ มาให้อาหารเรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมสัตว์ในธรรมชาติ

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 130 บาท เด็ก 40 บาท เข้าฟรีเด็กอายุต่ำกว่า3ปี ผู้พิการ พระภิกษุสงฆ์ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป

ดูเพิ่มที่ : https://www.facebook.com/SongkhlaZooPage?locale=th_TH โทร : 086 498 1447

 

“ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” เปิดสวนสัตว์แถวหน้าของภาคที่มีสัตว์ต่าง ๆ  ขวัญใจเด็ก ให้ชมฟรี ถึง 3 แห่ง ได้แก่

 

4.สวนสัตว์อุบลราชธานี ตื่นตากับ “คากิ” ลูกฮิปโปแคระ และแม่พะโล้ กับ “กะปิ” คาปิบาร่า แสนรู้ พร้อมกิจกรรมสนุก ๆ เรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ต่าง ๆ อีกมากมาย

 

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 130 บาท เด็ก 40 บาท เข้าฟรี  เด็กอายุต่ำกว่า3ปี ผู้พิการ พระภิกษุสงฆ์ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป

 

ดูเพิ่มที่ : https://www.facebook.com/ubonzoo1217?locale=th_TH

โทร : 0933209369

 

5. สวนสัตว์ขอนแก่น เด็ก ๆ ต้องได้ชม “แก๊งกะปิ” คาปิบาร่าหน้านิ่ง กับฮิปโปแคระนำโดย หมูด้วงมะพร้าว ลูกสิงโต 4 ตัว ฝูงกวาง เตรียมชมกิจกรรมพิเศษเพียบ

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 130 บาทเด็ก 40 บาท เข้าฟรี เด็กอายุต่ำกว่า3ปี ผู้พิการ พระภิกษุสงฆ์ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป

ดูเพิ่มที่ : https://www.facebook.com/Khonkaenzoo/?locale=th_TH โทร : 086 459 4192

 

6.สวนสัตว์นครราชสีมา มีสัตว์หลายสายพันธุ์ กับ “สิงโตขาว” รอต้อนรับเด็ก ๆ อยู่ แล้วยังจะได้สัมผัสกับเจ้ายีราฟด้วย

 

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 130 บาท เด็ก 40 บาท เข้าฟรี เด็กอายุต่ำกว่า3ปี ผู้พิการ พระภิกษุสงฆ์ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป

ดูเพิ่มที่ : https://www.facebook.com/NakhonratchasimaZoo โทร : 083 372 0404

 

สุขภาพ –5 ผลไม้ที่ควรกินตอนเช้าเริ่มกินด่วนตอนนี้ดีต่อสุขภาพ

 

หลายคนมีคำถามว่า “กินผลไม้ตอนเช้า” ได้ไหม? คำตอบก็คือ ได้! โดยเฉพาะผลไม้ 5 ชนิดนี้ เต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย กินตอนเช้าดีต่อสุขภาพหลายเรื่อง ดังนี้

 

1.กล้วย -กินแล้วดีต่อสุขภาพทางเดินอาหาร อีกทั้งยังมีไฟโตนิวเทรียนท์ เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม วิตามินซี และไฟเบอร์ ที่กินแล้วดีในตอนเช้า นอกจากนั้นกล้วยก็ยังมีส่วนช่วยบำรุงหัวใจ ดีต่อกระดูกและผิวหนัง พร้อมช่วยควบคุมระบบย่อยอาหาร และช่วยแก้อาการท้องผูกได้

 

2. แอปเปิ้ล - อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังมีฟลาโวนอยด์ที่เรียกว่าเควอซิทิน ที่มีคุณสมบัติช่วยต้านไวรัสและแบคทีเรีย ดีต่อผู้เป็นภูมิแพ้ นอกจากนั้นแอปเปิ้ลยังมีส่วนช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน มีไฟเบอร์ช่วยให้อิ่มท้องนาน แถมยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน หัวใจ และมะเร็งได้ด้วย

 

3. บลูเบอร์รี่ -มีไฟเบอร์ วิตามินซี แมงกานีส โฟเลต และแอนโทไซยานินที่จัดอยู่ในกลุ่มโพลีฟีนอล ซึ่งมีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ดีต่อสุขภาพหัวใจ และยังช่วยลดโรคมะเร็งบางชนิดได้ อีกทั้งแอนโทไซยานินยังดีต่อสุขภาพสมองและสุขภาพจิตที่เกี่ยวข้องกับอายุอีกด้วย

 

4.ราสเบอร์รี่ -มีไฟเบอร์ วิตามินซี และแอลลาจิกแทนนิน (Ellagitannins) ที่มีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านมะเร็ง อีกทั้งยังมีแอนโทไซยานินที่มีส่วนช่วยลดการอักเสบและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ มะเร็งบางชนิด และยังดีต่อสุขภาพหัวใจและสุขภาพจิตที่เกี่ยวข้องกับอายุ เหมือนกับบลูเบอร์รี่

 

5. ส้ม - เป็นแหล่งของวิตามินซี ไฟเบอร์ โพแทสเซียม และไฟโตนิวเทรียนท์ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบ ล้างพิษ และยังดีต่อสุขภาพของหัวใจ อีกทั้งส้มยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินอื่นๆ ที่ดีต่อการทำงานของร่างกาย

 

 ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –ข่าวดี!!ปี68พังงาดำน้ำตื้นดู“กระเบนนก”หมู่เกาะสุรินทร์

 

            Guide Junior -วีย์ พนักงานบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวในจังหวัดพังงา รายงาน เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2567 นักดำน้ำตื้นบริเวณอ่าวแม่ยาย จังหวัดพังงา ได้พบ “กระเบนนก”ขนาดความกว้าง 80 เซนติเมตร ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลหายากในบัญชี IUCN

 

Guide Junior -วีย์ ก็สามารถบันทึกภาพได้ ในระดับใต้ทะเลความลึกประมาณ 4-5 เมตร สร้างความตื่นเต้นและความประทับใจให้นักท่องเที่ยวที่ร่วมกิจกรรมดำน้ำชมปะการังน้ำตื้น บริเวณอ่าวแม่ยาย เขตอุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะสุรินทร์ ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม ติดระดับโลก

 

            “กระเบนนก” ตัวดังกล่าว ได้ลอยตัวขึ้นบนผิวน้ำมาโชว์ให้นักท่องเที่ยวพบเห็นอยู่เป็นประจำ แล้วบริเวณจุดดำน้ำแถบนี้ยังพบกระเบนอีกหลายชนิดลอยตัวอยู่บนผิวน้ำด้วยเช่นกัน

 

ตามที่นักท่องเที่ยวสามารถบันทึกภาพกระเบนพันธุ์หายากได้ สร้างความตื่นตาตื่นใจในประสบการณ์ดำน้ำตื้นในพื้นที่หมู่เกาะสุรินทร์ ในช่วงเปิดฤดูท่องเที่ยวเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ปี 2568 แล้วนักท่องเที่ยวได้ชมธรรมชาติอันงดงาม เป็นภาพจำที่ดีซึ่งสามารถบอกต่อถึงความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลในภาคใต้ของไทย

 

@อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์มี2เกาะใหญ่ 3เกาะเล็ก

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ครอบคลุมพื้นที่ 5 เกาะ แบ่งเป็น เกาะขนาดใหญ่ 2 เกาะ วางตัวตามแนวทิศเหนือ-ใต้ คือ “เกาะสุรินทร์เหนือ” ขนาด 18.7 ตารางกิโลเมตร และ “เกาะสุรินทร์ใต้” ขนาด 11.6 ตารางกิโลเมตร โดยมีการคั่นด้วยช่องแคบขนาด 200 เมตร เมื่อน้ำลดลงต่ำสุดสามารถเดินถึงกันได้

 

มี “เกาะขนาดเล็ก เรียงรายกันอยู่อีก ๓ เกาะ คือ 1.เกาะรี (เกาะสตอร์คหรือเกาะไฟแว้บ) 2.เกาะไข่ (เกาะตอนลาหรือเกาะราบ) 3.เกาะกลาง (เกาะปาจุมบาหรือเกาะมังกร) และเกาะอื่น ๆ มีที่ราบเล็กน้อย

 

ส่วนรอบอ่าว มีหาดทรายแคบ ๆ และหุบเขา พื้นที่ชายฝั่งของหมู่เกาะสุรินทร์โดยทั่วไปจะเว้าแหว่งเป็นอ่าวขนาดเล็ก ขนาดใหญ่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป

 

ข่าวที่สอง –ด่วน!นกแอร์ปี68โดนตลท.เพิกถอน-ปี68กัดฟันสู้บินปกติ

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศดำเนินการ “เพิกถอนหุ้น” NOK ของบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK ออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)  จะมีผลวันที่ 9 มกราคม 2568 เป็นต้นไป

 

เมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ 8 มกราคม2568 ตลท.ย้ำว่าการซื้อขายหุ้น NOK จะสิ้นสุดเนื่องจากการเพิกถอนบริษัท ซึ่งมีฐานะการเงินไม่ดี และไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ได้

           

“นกแอร์” อายุการดำเนินธุรกิจ 21 ปี ก่อตั้งเมื่อปี 2547 โดย “การบินไทย” ร่วมกับพันธมิตรสถาบันการเงิน ธุรกิจเอกชนเข้าถือหุ้นตามสัดส่วนแตกต่างกัน แต่งตั้ง “พาที สารสิน” รับตำแหน่งซีอีโอคนแรกที่ใช้กลยุทธ์ CEO Marketing โชว์ลูกเล่นสร้างแบรนด์นกแอร์ติดตลาดอย่างรวดเร็ว

           

ระหว่างปี 2557 จนถึงปี 2560 นกแอร์ประสบปัญหาขาดทุนราว 1,854 ล้านบาท ทำให้ “พาที สารสิน” ตัดสินใจเมื่อเดือนกันยายน 2560 ขณะนี้ พาทียังประกาศเปิดสายการบินใหม่สไตล์สนุกสนาน Really Cool Airlines

 

“นกแอร์จดทะเบียนในตลาด” รวม 12 ปี เริ่มเข้าตลาดเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2556 -9 มกราคม 2568

 

@ความท้าทายของนกแอร์ 21 ปี ระหว่ง2547-2568

 

  • ปี 2547 เปิดบริการในจังหวะที่ประเทศไทยเกิดสึนามิ แผ่นดินไหวในทะเลครั้งใหญ่ของโลก
  • ปี 2551 กลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองปิดสนามบินสุวรรณภูมิ
  • ปี 2554 เกิดอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ ไม่สามารถให้บริการได้ ต้องแบกภาระต้นทุนตลอดวิกฤตน้ำท่วม
  • ปี 2558 ระบบไอทีนกแอร์ล่มครั้งใหญ่ทำให้มีผู้โดยสารตกค้างจำนวนมาก
  •  ปี 2559 นักบินนกแอร์ประท้วงส่งผลกระทบกับผู้ใช้บริการและภาพลักษณ์องค์กร
  • ทุกปียังมีตัวแปรหลักกระทบต้นทุนธุรกิจคือ แต่ละปีต้องรับมือกับ “ราคาน้ำมันเครื่องบิน” ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ตลอด

 

@3 CEO นกแอร์ จากยุคบุกเบิกสู่เจนต้องออกจากตลท.

 

คนที่ 1 พาที สารสิน ระหว่างปี 2547-2560 บริหารในสไตล์ CEO Marketing เน้นลูกเล่น สีสันการตลาด การสร้างแบรนด์ให้เกิดภาพจำกับลูกค้า

 

คนที่ 2 ปิยะ ยอดมณี ข้ามห้วยจากการบินไทยมากับพาทีในฐานะรองซีอีโอ จากนั้นเมื่อสิงหาคม 2561 ขึ้นนั่งเก้าอี้ “ซีอีโอ” แทน พาที สารสิน แต่ก็อยู่ในตำแหน่งได้เพียง 11 เดือน จึงตัดสินใจโบกมือลาไป

 

คนที่ 3 วุฒิภูมิ จุฬางกูร  ปี 2562 รับไม้ต่อตำแหน่งซีอีโอ จนถึงปัจจุบัน 2568 โชว์พลังนักธุรกิจรุ่นใหม่ตระกูลดัง “จุฬางกูร” ที่ร่ำรวยมาจากอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์แถวหน้าของเมืองไทยมีทรัพย์สินมูลค่าแสนล้านบาท

 

ตระกูล “จุฬางกูร” ทยอยซื้อหุ้นนกแอร์สะสมมานานจนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เมื่อแต่งตั้ง “วุฒิภูมิ” เข้ารับตำแหน่งซีอีโอ ไฟแรงประกาศทำแผนฟื้นฟูกิจการ 5 ปี ชูพันธกิจใหม่พลิกโฉม “นกแอร์” จากคอนเซ็ปต์ “โลว์คอสต์ แอร์ไลน์ส” สู่ “พรีเมี่ยม แอร์ไลน์” หรือ Full Service บริการผู้โดยสารเต็มรูปแบบทุกเส้นทางทั้งในและต่างประเทศ

 

 

ปลายปี 2562 “นกแอร์” เจอมหาวิกกฤตโลกจากสถานการณ์โรคอุบัติใหม่ โควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้ทั่วโลกประกาศปิดน่านฟ้าชั่วคราว การเดินทางของคนหยุดลงทุนที จนถึงปลายปี 2563

 

นกแอร์ แจ้งผลการดำเนินงาน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ขาดทุนมโหฬาร 7,991.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี2562 ขาดทุน 2,051.39 ล้านบาท

 

2 มีนาคม 2564 หุ้น NOK ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP พักการซื้อขาย ราคาปิดครั้งสุดท้าย 1.04 บาท มีผู้ถือหุ้นรายย่อย 7,158 ราย

 

9 กันยายน 2564 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศให้นกแอร์เข้าสู่สถานะต้องปรับปรุงฐานะการเงินต่อเนื่อง 3 ระยะ โดยได้ขึ้นเครื่องหมาย NC :Non-Compliance กันยายน 2564 เมื่อครบกำหนดระยะที่ 3 เมื่อกันยายน 2566 นกแอร์ยังคงติด NC เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาทางการเงินได้

 

6 มกราคม 2568 นกแอร์ต้อนรับปีใหม่จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศว่าวันที่ 8 มกราคม 2568  หุ้น NOK จะซื้อขายเป็นวันสุดท้ายก่อนเพิกถอนอย่างเป็นทางการ

           

ทั้งนี้ “นกแอร์” ยืนยันถึงแม้จะถูกเพิกถอนการซื้อขายหุ้น NOK ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ 9 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ทางสายการบินจะยังคงเดินหน้าให้ “บริการผู้โดยสาร” ตามปกติ โดยฝ่ายบริหารจะพยายามอย่างเต็มกำลังเพื่อแก้ปัญหาทางการเงินดูแลธุรกิจให้ดำรงอยู่ต่อไป

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ททท.เปิดAmazing Thailand Roman Monthปี68ปลุกตลาดไกล10.6ล้านคน

  ททท.นำร่องเปิด Amazing Thailand Roman Month ปี68ตั้งเป้าปลุกตลาดไกล 10.6 ล้านคน ททท.เปิด Roman Month ปลุกตลาดไกลเข้าเป้า 10.6 ล้านคน งัด...