สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB”
TCEBเปิดแนวรุกใหม่ปี’68ตลาดเมกะอีเวนต์-เฟสติวัลนานาชาติ
ดันไทยผงาด World Festival-จัดชุดใหญ่ซอฟท์พาวเวอร์ 5 เรื่อง
ชูSPATAN โมเดลนำร่องคลัสเตอร์สปอร์ตอีเวนต์ทั่วไทย
4 พื้นที่
กินเฮงตรุษจีนคิงเพาเวอร์รางน้ำ+อีทเทอรี่โฉมใหม่มหานครคิวบ์
คิงเพาเวอร์แลนดิ้งสโตรว์-แผ่นทองมงคล-ช้อปออนไลน์ลด35%
ททท.-ครองประทีป-โฟร์เอสบูมเสน่ห์ไทยรำวงFestival15พื้นที่
บางจากแนะปรับวิถีชีวิตแก้วิกฤตโลกร้อน5แนวทางลด5 ด้าน
เที่ยวสุราษฎร์“เขื่อน-เขานา-เกาะแรต-หลวงปู่ทวด-ฟาร์มหอย”
8 เรื่องหลังตื่นเช้าแนะนำให้ทุกคนทำเพื่อสุขภาพดีอายุยืนยาว
AOT-ตำรวจท่องเที่ยวรับตรุษจีน6สนามบินปี’68เข้ม 5 บริการ
รร.ชาเทรียมกรุงเทพจัดบุฟเฟต์พิเศษริเวอร์บาร์จมื้อเที่ยง-ค่ำ
วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #ปาริฉัตรเศวตเศรนี
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/1Vhi9zC2MN/
ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์
!! นางสาวปาริฉัตร
เศวตเศรนี ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการจัดงานเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติ
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดแผนใหญ่
“ดึงงาน” เมกะอีเวนต์กับเทศกาลนานาชาติ ผลักดันไทยสู่ “ศูนย์กลางจัดงานเทศกาลโลก :World Festival”
รุกทำอีเวนต์กีฬาโลก Mass
Sport Participation “SPATAN Model”
ปีนี้นำร่อง 4 พื้นที่ต้นแบบสร้างคลัสเตอร์เศรษฐกิจ
จัดเต็มอีเวนต์ “ซอฟท์ พาวเวอร์” ลุยทำ 5 เรื่อง
“ปั้นนักจัดเทศกาลไทย-ดันโครงการอวดเมือง” ใช้กลยุทธ์ทำงานเชิงบูรณาการดึงทุกกลุ่มผนึกสร้างพลังนำงานหลั่งไหลเข้าประเทศสร้างเศรษฐกิจและรายได้เติบโต
นางสาวปาริฉัตร เศวตเศรนี ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการจัดงานเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่าแผนงานขับเคลื่อนเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติปี 2568 เป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะขับเคลื่อนให้ไทยเป็น World Festival ดังนั้นก็จะเน้น 2 ส่วน ได้แก่
ส่วนที่ 1 การดึงงานอีเวนต์รายการใหญ่ระดับนานาชาติมาจัดในไทย รวมทั้งรัฐบาลไทยประกาศปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sport Year 2025 ก็จะผนวกอีเวนต์ทางด้านกีฬา มิวสิคเฟสติวัลและอีเวนต์ งาน World PRIDE ขานรับนโยบายภาพใหญ่ของรัฐบาลประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม เริ่ม 23 มกราคม 2568 เป็นต้นไป โดยจะมุ่งดึงงานทั้งแบบรายอุตสาหกรรม งานนโยบาย และงานพื้นที่ของจังหวัด ซึ่งจะก่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างเศรษฐกิจ ตลอดปีนี้จะเน้นหนัก สาขาหลัก ๆ ดังนี้
สาขาที่ 1 ศิลปะและวัฒนธรรม : Art & Culture หรืองานเทศกาลแสงไฟอย่าง Awakening Bangkok ย่านต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ เทศกาลภาพถ่าย ละครหุ่น และศิลปะอีกหลากหลายงาน
สาขาที่ 2 งานความคิดสร้างสรรค์และไลฟ์สไตล์ :Creative& Lifestyle เป็นงานการออกแบบอย่าง แฟชั่น ดีไซน์ วีค งานบางกอก อีลาสเตเตอร์ เกี่ยวกับการวาดภาพต่าง ๆ และงานเอนเตอร์เมนท์ทั้ง ดนตรี และดิจิทัล รวมทั้งมีงานจากต่างประเทศทยอยเข้ามาจัดในไทยจำนวนมากทั้งงานนวัตกรรม และเทคโนโลยี โดยเฉพาะ “อี-สปอร์ต” เสนอมาจัดในไทย โดยจะต้องดูเรื่องฐานแฟนคลับซึ่งในเมืองไทยมีจำนวนสูงมาก
แล้วทีเส็บยังได้ต่อยอดทำเรื่องการมีส่วนร่วมกับมหกรรมกีฬาที่มีคนเข้าร่วมแข่งขันจำนวนมาก (Mass Sport participation) เช่น วิ่งวิบาก วิ่งถนน เทรล ครอสฟิกซ์ ปี 2568 มีงานใหญ่อย่าง SPATAN RACE Thailand จะกระจายจัด 4 พื้นที่ ได้แก่ เพชรบุรี หัวหิน/ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ เขาใหญ่/นครราชสีมา พัทยา/ชลบุรี สามารถส่งเสริมตลาดแบบคลัสเตอร์ได้ เช่น เดือนพฤษภาคม 2568 จะจัดงานวิ่ง SPATAN ที่เพชรบุรี-หัวหิน ร่วมมือกันจัดงานนี้ หารือกันถึงการขาย CITY Package แล้วดึงโรงแรมเข้ามามีส่วนร่วมเป็นผู้สนับสนุนห้องพักหลัก หรือการนำเสนอการนวดผ่อนคลายให้นักกีฬา
ส่วนที่ 2 ทำการศึกษาความเป็นไปได้ หรือ Feasibility Study ก่อนการดึงงานแต่ละครั้งจะศึกษาถึงความคุ้มค่าการดึงแต่ละงานเข้ามาในไทย ทั้งเรื่องไลเซ่น การลงทุนด้านต่าง ๆ โครงสร้างพื้นฐาน โดยคำนวณ “ผลเชิงเศรษฐกิจที่จะได้รับ” (Economic impack) เช่น อุตสาหกรรม Mass Sport participation ตัวอย่างงานวิ่ง SPATAN 4 พื้นที่ น่าจะสร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจรวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท จำนวนผู้แข่งขันและติดตามผู้เข้าร่วมกว่า 100,000 คน กระจายไปในแต่ละจังหวัด 250 ล้านบาท จำนวนกว่า 25,000 คน รวมทั้งได้คำนวณคนไทยจะมีประมาณ 60 % ต่างชาติ 40 %
สำหรับกลยุทธ์การมีส่วนร่วมผลักดันอีเวนต์
“Soft Power” เพื่อดึงงานระดับโลกตามรายอุตสาหกรรม
ขณะนี้มี 14
อุตสาหกรรมแล้ว ก็พร้อมจะขับเคลื่อนอย่างเข้มแข็ง 5 เรื่อง คือ
เรื่องที่ 1 ทีเส็บได้ศึกษาแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ กับแผนพัฒนาระดับจังหวัด เพื่อคัดโครงการเด่น ๆ เพื่อไปจับคู่ดึงงานต่างๆ เข้าพื้นที่ ทางทีเส็บจะทำหน้าที่เป็น “ผู้ประมูลสิทธิ หรือ Bidder” เช่น สาขาดนตรี จะต้องจับมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในพื้นที่ เอกชนในสาขา แล้วก็มาพิจารณาจังหวัดที่มีความพร้อม เพื่อให้ดึงงานได้ตรงกับ Soft Power ทีเส็บจะโฟกัสงานแต่ละปีเพื่อล้อไปด้วยกันได้
เรื่องที่ 2 เพิ่มขีดความสามารถนักจัดเทศกาลไทย ด้วยการอบรม การดูฐานข้อมูลงานอีเวนต์และเทศกาล การเรียนรู้วิธีต่าง ๆ ในการจัดงาน ปัจจุบันไทยยังมีกลุ่มนักจัดเทศกาลจำนวนไม่มากนัก จึงจะต้องเร่งสร้างบุคลากรรองรับงานเพิ่มขึ้น
เรื่องที่ 3 พัฒนาออนไลน์ คอมมิวนิตี้ รวบรวมฐานข้อมูลเมกะอีเวนต์และงานเทศกาลนานาชาติ แพลตฟอร์มเพื่อรวบรวมผู้จัดการในประเทศไทย แล้วมาร่วมมือกันอบรมวิธีจัดงานตั้งแต่ขั้นเริ่มต้นไปจนถึงระดับสากล
เรื่องที่ 4 จัดทำโครงการต้นแบบการจัดเทศกาล เรียกว่า “อวดเมือง” ของแต่ละจังหวัด เพื่อดึง DNA และแฟลกชิพอีเวนต์ของจังหวัดนั้น ๆ ขึ้นมาให้เด่นชัด เพื่อสร้างเครือข่าย โอกาสทางธุรกิจ และการแบ่งปันแชร์ความรู้ มีพื้นที่นำไมซ์เข้าไปอยู่ในเฟสติวัล มีทั้งอีเวนต์ สัมมนา เพื่อให้งานมีขนาดใหญ่และเป็นตัวอย่างให้ผู้ประกอบการเห็นวิธีการแล้วนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง
สำหรับโครงการ “อวดเมือง” จะเริ่มต้นจากเมืองไมซ์ กับเฟสติวัล แล้วจับคู่งานเทศกาลที่เหมาะสมนำเข้าไปจัดได้ ด้วยโมเดลบูรณาการทำงานร่วมกันแล้วก็ดึง YEC (Young Enterpreneur chamber of commerce) นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่รวมกลุ่มกันพัฒนาเครือข่ายสมาชิก มานำเสนอแนวคิดที่ดี ๆ เพื่อให้การจัดอีเวนต์และเทศกาลสำเร็จตามเป้าหมาย
เรื่องที่ 5 สร้างเครือข่ายไทย ร่วมกับสถานฑูตไทย ควบคู่กับจัดทำปฏิทินงานเทศกาลในประเทศไทย โปรโมทไปยังต่างประเทศ ผ่านช่องทาง ร้านอาหารไทย มีไทยเฟสติวัลของกระทรวงการต่างประเทศที่มีอยู่แล้ว เปิดช่องให้ Soft Power เข้าไปอยู่ด้วยได้ และร่วมกับ ททท.สำนักงานต่างประเทศทั่วโลก
ผอ.ปาริฉัตร กล่าวว่า ทีเส็บขานรับนโยบายรัฐบาลที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจัดงานเทศกาลนานาชาติ โดยจะเน้นใช้เครื่องมือโดยพัฒนาผู้ประกอบการ ผู้จัดงาน/ออร์กาไนเซอร์ ส่วนเมืองไมซ์ จะต้องดูซิตี้ แพกเกจ ต่าง ๆ สามารถสู้กับต่างประเทศอื่น ๆ ได้ ทั้งด้านจุดเด่น ความพร้อม รวมทั้งสถานที่จัดงาน Venue จะต้องพัฒนาตามรูปแบบสากล อย่าง สิงคโปร์ ฮ่องกง มีสถานที่จัดงานแบบ Multi Function จัดได้หลายอย่างพร้อมกันทั้งในและนอกอาคาร รองรับได้เกินกว่าครั้งละ 35,000 คน และการพัฒนาระบบนิเวศน์ Eco System
ทีเส็บต้องขอขอบคุณทุกคน ทุกหน่วยงาน
ที่ร่วมมือกันทำงาน “เชิงบูรณาการ” ระดับเมือง ระดับประเทศ
โดยมีคณะทำงานสามารถไปร่วมประมูลสิทธิ์งานด้วยกันได้
เพราะการทำงานแต่ละครั้งจำเป็นจะต้องหาโมเดลร่วมกัน
จะต้องมีคณะกรรมการเป็นตัวแทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน เข้ามาร่วมแสดงความเห็นเพื่อทำให้ไทยดึงระดับนานาชาติสำเร็จได้ทุกครั้ง
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-กินเฮงตรุษจีนคิงเพาเวอร์รางน้ำ+อีทเทอรี่โฉมใหม่มหานครคิวบ์
คิง
เพาเวอร์ เปิดให้ “เช็คอินกินเฮง” ที่ได้ทั้งที่ ไทย เทสต์ ฮับ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และ อีทเทอรี่
มหานคร คิวบ์ คิง เพาเวอร์ มหานคร
แห่งที่
1 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เปิด Lucky
Market ในบริเวณโซน “ไทย เทสต์ ฮับ” ชั้น 3 อร่อยเด็ดกับร้านดังในตำนานการกินได้ถึง
17 ร้านดัง เช่น เฮงหอยทอด อลิซ คาเฟ่ ลิตเติ้ล ไฮด์เอาท์ สุกี้พรศิริ เผ็ดมาร์ค
และอีกหลากหลายร้าน
แห่งที่
2 มหานครอีทเทอรี่ คิงเพาเวอร์ มหานคร อีกหนึ่งจุดหมายใจกลางเมืองย่านสาทร-สีลม
ที่มหานคร คิวบ์ ตอบโจทย์ชาวออฟฟิศวัยทำงาน นักท่องเที่ยวที่มาชมมหานคร
สกายวอล์ค
ปี 2568 อีทเทอรี่ได้ดีไซน์ร้านเพิ่มบรรยากาศพิเศษสไตล์ใหม่ไม่เหมือนใคร
ชั้น G มหานคร คิวบ์
ปรับโฉมใหม่ 7 ร้านอาหารดัง เปิด7.00 –
22.00 น. ได้แก่
•
ร้านที่ 1 คิง เพาเวอร์ ซีเล็คชั่น คาเฟ่
สไตล์ฟิวชั่นแห่งใหม่นำเสนอขนมไทยแบบดั้งเดิมมุมมองใหม่
ผสมผสานรสชาติเอกลักษณ์ความเป็นไทย และเลือกใช้วัตถุดิบชั้นเลิศจากจังหวัดชื่อดังในเมืองไทย
พร้อมเครื่องดื่มซิกเนเจอร์อย่าง Sparkling
Yuzu Coffee, Crispy Roll Latte, Crunchy Coconut Latte และ Refreshing
Yuzu Butterfly Pea
เมนูไฮไลท์
- สลันชี่ชาไทย
ทองพับไอศกรีม และทองม้วนนิ่มไส้ฝอยทองครีมมะพร้าว
•
ร้านที่ 2 เก็ตเฟรช /Getfresh เปิด 8.00 – 22.00
น.ชวนสัมผัสกับ “Fresh Life”
นำวัตถุดิบออร์แกนิกมารังสรรค์เมนูอร่อยและดีต่อสุขภาพมีข้อมูลโภชนาการครบถ้วน
เมนูไฮไลท์
–
ซีซาร์สลัดไก่ย่าง ออสเตรเลียนโรสท์บีฟบนนมปังซาวโดวจ์ ซีซาร์สลัดปลาแซลม่อนย่าง
•
ร้านที่ 3 เทสตี้ เดลี่ /Tasty Daily เปิด 8.00 –
22.00 น.
บริการขนมหวานโฮมเมดสดใหม่ทำจากวัตถุดิบคุณภาพดีเพื่อสุขภาพ สดใหม่ทุกวัน
มีตัวชูโรงคือ “เค้กทอฟฟี่หนานุ่ม”
เมนูไฮไลท์
– เค้กทอฟฟี่
เค้กช็อกโกแลตลาวา บาสก์ชีสเค้ก เค้กมะพร้าวอ่อนเนื้อนุ่ม
•
ร้านที่ 4 เบบี้ ชิโน่ /Babyccino เปิด 10.00 – 22.00 น.
เน้นเสิร์อาหารฟิวชั่นมื้อสายสไตล์เอเชียนเปิดตลอดทั้งวัน มีเมนูซิกเนเจอร์รสชาติจัดจ้านผสมผสานวัตถุดิบดั้งเดิม
เสิร์ฟแบบจานเดียว และเซ็ตเมนูให้ครอบครัว พร้อมชมโชว์ครัวเปิดเพิ่มความตื่นตาตื่นใจ
เมนูไฮไลท์
–
อาหารเช้าแบบคลาสิก พิซซ่าหน้าเนื้อ และเห็ดทรัฟเฟิลแชมปิญอง สปาเก็ตตี้ผัดกระเทียมน้ำมันมะกอก
ไก่ทอดรสดั้งเดิม และรสสไปซี่ และ เฟรนช์โทสต์วานิลลา
•
ร้านที่ 5 เกรย์ฮาวด์ ซีเล็คเต็ด /Greyhound Selected เปิด 11.00 –
22.00 น. เป็นไอคอนแห่งวงการอาหารในกรุงเทพฯ
ด้วยแนวคิดกล้าลองและแตกต่าง เกรย์ฮาวด์ คาเฟ่ ขยายจากแบรนด์แฟชั่นเป็นไลฟ์สไตล์ล้ำสมัย
ตอนนี้ได้นำเสนออาหารแฟชั่นและวัฒนธรรมที่อีทเทอรี่
เมนูไฮไลท์– ต้มยำกุ้งลายเสือน้ำข้น ผัดไทยกุ้งสด
ก๋วยเตี๋ยวห่อหมูสับ และ แซลมอนแช่พริก
•
ร้านที่ 6 โฮชิ / Hoshi เปิด 11.00 – 22.00 น.
ชื่อร้านในภาษาญี่ปุ่นหมายถึง "ดวงดาว"
พร้อมมอบประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเหมาะกับทุกคนในครอบครัว มีให้เลือกกว่า
100 เมนู
เมนูไฮไลท์– มันปูย่างเตาถ่าน อินานิวะออนเซ็น
และแซลมอนลาวาโรล
•
ร้านที่ 7 เดอะ เซลลาร์ แอท มหานคร /The Cellar at Mahanakhon เปิด11.00 –
22.00 น.เหมาะกัผู้ที่หลงใหลไวน์ในบรรยากาศผ่อนคลายเป็นกันเอง
เสิร์ฟไวน์คุณภาพเยี่ยมจากทั่วโลก ดูแลโดยซอมเมอลิเยร์ผู้เชี่ยวชาญ
ตกแต่งในสไตล์โรงบ่มไวน์ฝรั่งเศสแบบวินเทจ และยังมีห้องเก็บไวน์ชั้นเลิศด้วย
ชวนกันมาเฉลิมฉลองความสุข
แบบ ครบวงจร ได้ที่ “คิง เพาเวอร์” ในเครือทุกแห่ง ตั้งแต่ 22 มกราคม-10 กุมภาพันธ์ 2568
ข่าวที่ 2 -คิงเพาเวอร์แลนดิ้งสโตรว์-แผ่นทองมงคล-ช้อปออนไลน์ลด35%
KING POWER LANDING STORE ร้านรวมของฝากแบบครบครัน ไม่ว่าจะมีไฟลต์หรือไม่มีไฟลต์ ก็ช้อปได้
พร้อมบริการพิเศษ *ส่งฟรีถึงบ้าน เมื่อซื้อเครื่องดื่มตั้งแต่ 15,000 บาท
ขึ้นไปทั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง
สนามบินสุวรรณภูมิอาคารผู้โดยสาร
ชั้น 2ตรงข้ามประตูทางออก 3 และ ประตูทางออก 10
สนามบินดอนเมืองอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
อาคาร 1 ชั้น 1ประตูทางออก 7
ตรุษจีนนี้!! รับสิทธิพิเศษ ฟรี
แผ่นทองมงคล เรียกทรัพย์ "รวย" จาก ซินแส เป็นหนึ่ง วันนี้- 31 มกราคม 2568
ช้อปก่อนรับทันที 500 ออร์เดอร์แรกเท่านั้น
ส่วน “คิง เพาเวอร์ ออนไลน์”
มีโปรโมชั่นสุดพิเศษมากมาย วันนี้ -9 กุมภาพันธ์ นี้ พร้อมของขวัญสุดเซอร์ไพรส์! ต้องรีบจัดด่วน
คัดมาแล้วสินค้าขายดี สินค้าใหม่ตัวเด็ด ช้อปวันนี้รับของง่ายมาก ๆ
ได้ที่สนามบินขาออกนอกประเทศ
ลดทันที 1,000 บาท เมื่อช้อปครบ 5,000
บาท ด้วยรหัสส่วนลด 1CNY25
ลดทันที 2,000 บาท เมื่อช้อปครบ 8,000
บาท รหัสส่วนลด 2CNY25
ลดสูงสุด 30% เมื่อช้อปครบ 12,000
บาทรหัสส่วนลด 3CNY25
ข่าวที่ 3-ททท.-ครองประทีป-โฟร์เอสบูมเสน่ห์ไทยรำวงFestival15
พื้นที่
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ว่า ททท. จับมือกับ บริษัท ครองประทีป จำกัด และ บริษัท โฟร์เอส (ไทยแลนด์) จำกัด
จัดบิ๊กอีเวนต์งาน “Amazing Thailand รำวง Festival” ตามวัดหลัก ๆ ใน 15 พื้นที่
มุ่งรวมพลังกันผลักดันส่งเสริม “เสน่ห์ไทย” กลายเป็นสินค้าส่งออกด้านวัฒนธรรม
สามารถช่วยเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ Creative Economy ให้ประเทศ นำร่องจัดไปแล้ว 2 พื้นที่ ระหว่างวันที่ 1
กุมภาพันธ์ -20 เมษายน 2568 เตรียมจัดอีก 13 พื้นที่
ททท.เล็งเห็นถึงความสำคัญเรื่องส่งเสริมศิลปะการแสดงของไทย
โดยเฉพาะ “รำวงชาวบ้าน” เป็นการแสดงที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน เป็น 1 ใน Must See เสน่ห์ไทย สำคัญตามคอนเซ็ปต์ 5
Must Do in Thailand
จึงเดินหน้าส่งเสริมการจัดบิ๊กอีเวนต์
“Amazing Thailand รำวง Festival” 15
พื้นที่เพื่อร่วมอนุรักษ์ ส่งเสริมอัตลักษณ์วัฒนธรรมไทย สามารถช่วยเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์
เดินหน้ากระตุ้นและส่งเสริมนักท่องเที่ยวออกเดินไปยังพื้นที่ต่าง ๆ กระจายรายได้เข้าสู่สถานประกอบการท่องเที่ยวในท้องถิ่นในหลายจังหวัด
ภายในงานจะได้พบกับความสนุกสนานจากเหล่าศิลปินมากมายขวัญใจคนไทย
นำโดย แจ็ค ธนพล, เสนา, ม้อส, เบนซ์, เกวลี, กลอฟ์, นมสด และ เอิร์ธ
เบื้องต้นการจัดงาน
“Amazing Thailand รำวง Festival” นำร่องดำเนินงานจัดไปแล้ว
2 พื้นที นักท่องเที่ยวมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี
รวมทั้งมีผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานจำนวนมาก จึงได้ขยายจัดต่อเนื่องอีก 13 พื้นที่ ช่วง 1 กุมภาพันธ์ -20 เมษายน 2568
นักท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางไปร่วม
ร้อง เล่น เต้น รำ ในจังหวะ “สามซ่า” แบบเร้าใจ กระจายจัดตามวัดต่าง ๆ
ในจังหวัดภาคกลาง และภาคตะวันออก 13 พื้นที่ ดังนี้
• พื้นที่
1 วันที่ 31 มกราคม 2568 ที่วัดเลาขวัญ อ.เลาขวัญ
จ.กาญจนบุรี
• พื้นที่
2 วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ที่วัดสว่างอารมณ์ อ.เสนา
จ.อยุธยา
• พื้นที่
3 วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 ที่วัดหนองกระดูก อ.ลาดยาว
จ.นครสวรรค์
• พื้นที่
4 วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ที่วัดใหม่ผดุงเขต
จ.นนทบุรี
• พื้นที่ 5 วันที่ 22 กุมภาพันธ์
2568 ที่วัดสวนแตง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุร
• พื้นที่
6 วันที่ 11 มีนาคม 2568 ที่วัดจินดาราม อ.สามพราน
จ.นครปฐม
• พื้นที่
7 วันที่ 20 มีนาคม 2568 ที่วัดราษฎร์ศรัทธา อ.เมือง
จ.ชลบุรี
• พื้นที่
8 วันที่ 7 เมษายน 2568 ที่วัดพังม่วง อ.ศรีประจันต์
จ.สุพรรณบุรี
• พื้นที่
9 วันที่ 9 เมษายน 2568 ที่วัดมหาโพธิ์เหนือ
อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์
• พื้นที่
10 วันที่ 11 เมษายน 2568 ที่วัดไร่ขิง อ.สามพราน
จ.นครปฐม
• พื้นที่
11 วันที่ 13 เมษายน 2568 ที่วัดบางคล้า อ.บางไทย
จ.อยุธยา
• พื้นที่
12 วันที่ 14 เมษายน 2568 ที่วัดใหม่คลองเจริญ
อ.แม่เปิน จ.นครสวรรค์
• พื้นที่
13 วันที่ 20 เมษายน 2568 ที่วัดหนองใหญ่ อ.หนองปรือ
จ.ชลบุรี
ข่าวที่ 4-บางจากแนะปรับวิถีชีวิตแก้วิกฤตโลกร้อน5แนวทางลด5ด้าน
บริษัท
บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีข้อแนะนำเรื่อง “Climate
Change Adaptation” ซึ่งเป็นเรื่องการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต
ระบบเศรษฐกิจ และสังคม เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมถึง #ภาวะโลกร้อน
หากปัญหาสภาพภูมิอากาศยังไม่ได้รับการแก้ไข
มนุษย์เราย่อมต้องเผชิญกับผลกระทบในด้านต่าง ๆ ข้างต้น อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จึงอาจกล่าวได้ว่า #ClimateChangeAdaptation เป็นหนึ่งในวิธี
‘จำเป็นเร่งด่วน’ เพื่อให้เราสามารถ #รับมือ และ #ลด สร้างภาระให้สิ่งแวดล้อม โดยเริ่มจาก 5 แนวทาง ดังนี้
• แนวทางที่
1 ภาคเกษตร พัฒนาพืชพันธุ์
ทนแล้ง-น้ำท่วม
• แนวทางที่
2 เมืองและชุมชน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
ทนต่อสภาพอากาศสุดขั้ว
• แนวทางที่
3 ทรัพยากรน้ำ จัดการน้ำอย่างยั่งยืน
กักเก็บ-กระจายน้ำให้เพียงพอ
• แนวทางที่
4 สุขภาพ
เฝ้าระวังโรคอุบัติใหม่จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
• แนวทางที่
5 พลังงาน ใช้พลังงานหมุนเวียน
ลดการพึ่งพาฟอสซิล
บางจาก
ขอเชิญชวนคนไทยทั้งประเทศมาร่วมกันเริ่มต้นปรับพฤติกรรมได้ตั้งแต่วันนี้
เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาสิ่งแวดล้อมซึ่งอาจรุนแรงขึ้นอีกในอนาคต
เนื่องจากปัญหา
#ClimateChange กับ #ผลกระทบชัดเจน
5 ด้าน ได้แก่
ด้านที่
1 สิ่งแวดล้อม: สภาพอากาศแปรปรวน เกิดพายุรุนแรง
ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และภัยแล้งที่ยาวนาน
ด้านที่
2 ความปลอดภัย: เหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น
พายุเฮอริเคน คลื่นความร้อน และไฟป่า จะเกิดขึ้นถี่ขึ้น
และสร้างความเสียหายหนักกว่าเดิม ส่งผลต่อความเป็นอยู่และความปลอดภัยของมนุษย์
ด้านที่
3 ความมั่นคงทางอาหารและน้ำ:
ภัยธรรมชาติส่งผลต่อปริมาณผลผลิตทางการเกษตร
ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอาหารและราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น
ด้านที่
4 เศรษฐกิจและสังคม: ธุรกิจที่ต้องพึ่งพาสภาพภูมิอากาศ
เช่น การท่องเที่ยวและการเกษตร อาจได้รับผลกระทบหนักถ้าไม่มีแผนปรับตัว
ด้านที่
5 สุขภาพ: จะเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับความร้อน เช่น
โรคระบบทางเดินหายใจ
ช่วงที่ 2 ออกไปเที่ยวเมืองไทย
ชวนกันทัวร์ภาคใต้ “สุราษฎร์ธานี” สุขทันทีที่เที่ยว 5 พิกัด
เขื่อนรัชประภา เขานาธรรมในหลวง เกาะแรต วัดปู่ทวดดอนสัก และสินมานะฟาร์ม
แล้วฟังให้ชัด “8 เรื่องควรทำหลังตื่นเช้า”
กับข่าวที่น่าสนใจ ข่าวแรก “AOT-ตำรวจท่องเที่ยว”
เปิดแผนรับมือตรุษจีน 6สนามบิน เข้ม 5 บริการ
ข่าวที่สอง “โรงแรมชาเทรียมริเวอร์ไซด์” จัดบุฟเฟต์ตรุษจีนพิเศษมื้อเที่ยว 1,290บาท มื้อค่ำ 1,690 บาท
ท่องเที่ยว –เที่ยวสุราษฎร์“เขื่อน-เขานา-เกาะแรต-หลวงปู่ทวด-ฟาร์มหอย”
เที่ยวเมืองไทย วงปฏิทินเตรียมตัวเที่ยวภาคใต้ในวันสบาย ๆ
มีหลากหลายโมเมนท์ เพิ่มประสบการณ์สุขทันทีที่เที่ยว “สุราษฎร์ธานี” 5 พิกัด เขื่อนรัชประภา อุทยานธรรมเขานาในหลวง เกาะแรต หลวงปู่ทวดวัดดอนสัก
และสินมานะฟาร์ม
พิกัดที่ 1 เขื่อนรัชชประภา
ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ล่องเรือไปชมทะเลสาบเชี่ยวหลาน
ชมเทือกเขาหินปูนเรียงรายสลับซับซ้อนกับผืนน้ำสีเขียวมรกต ท้องฟ้าสีคราม
บางฤดูมีสายหมอกลอยปกคลุมยอดเขา มีกิจกรรมการท่องเที่ยวในทะเลสาบ
นั่งเรือชมทัศนียภาพ พักแพลอยน้ำ พายคายัค ส่องสัตว์
พิกัดที่ 2 อุทยานธรรมเขานาในหลวง 1 ใน 25 Unseen
New Chapter อยู่ที่ตำบลต้นยวน อำเภอพนม จังหวัด สุราษฎร์ธานี
ด้วยพลังศรัทธาบวกกับความสามัคคีในการสร้าง “องค์เจดีย์” บนภูผาหลวง
สถาปัตยกรรมต่างกันไป 7 องค์ โดยพระอาจารย์ไพร
กับชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างองค์เจดีย์ไว้บนยอดเขาหินปูน
รอบพื้นที่มีธรรมชาติร่มรื่น ช่วงเช้าจะเห็นปรากฏทะเลหมอกรอบ
เสมือนได้ชมเจดีย์ลอยฟ้า
พิกัดที่ 3 เกาะแรต มี “ชุมชนบ้านเกาะแรต”
ตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆ หมู่ที่ 3 ตำบลดอนสัก อำเภอดอนสัก ห่างจากฝั่งประมาณ 500
เมตร เป็นชุมชนประมงไทยเชื้อสายจีนไหหลำมาตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่เกือบ 200 ปี
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมเกาะต่าง ๆ โลมา
พร้อมจองพักโฮมสเตย์ทำกิจกรรมกับชุมชนได้ รอบเกาะแรตมีทางเดินได้เล่น
และสามารถมองเห็นเกาะต่าง ๆ มากมาย ทั้งเกาะสมุย เกาะนกเภา เกาะพะลวย เกาะหลัก
เจดีย์วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ (วัดพ่อหลวงจ้อย)
เป็นจุดชมดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ขึ้นและตกงดงามสุด ๆ
พิกัดที่ 4 หลวงปูทวดวัดดอนสัก (สิงขร) ที่อำเภอดอนสัก
องค์ใหญ่สุด ไฮไลต์คือฐานสูง 10 เมตร แบ่งเป็นห้องต่าง ๆ ไว้ใช้ประกอบพิธีต่าง ๆ
ของวัด
เปิดให้นักท่องเที่ยวได้แวะสักการะขอพรก่อนจะเดินทางไปท่องเที่ยวตามเกาะต่าง ๆ
ในสุราษฎร์ธานี
พิกัดที่
5 สินมานะฟาร์ม อ่าวบ้านดอน
พื้นที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงหอยนางรมที่มีชื่อเสียงของสุราษฎร์ธานี
“มีเนื้อขาวนวล อ้วน สะอาด เพราะน้ำมีทะเลแถบนี้แร่ธาตุและสารอาหารอุดมสมบูรณ์
เหมาะเป็นที่อยู่ของหอยนางรมและหอยอื่น ๆ
ชาวบ้านทำอาชีพเลี้ยงหอยจะสร้างขนำไว้บริเวณฟาร์มเพื่อไว้เฝ้าดูแล
นำมาสู่การท่องเที่ยวและเรียนรู้วิถีคนเลี้ยงหอย มีบรรยายการเลี้ยงหอยชนิดต่าง ๆ
บนขนำกลางทะเลที่สร้างขึ้นใหม่ รองรับได้ครั้งละ 100 คน
ฟังบรรยายเสร็จก็รับประทานหอยนางรมสด พร้อมอาหารทะเล นั่งรับลมทะเล จิบกาแฟ โทร.
08 1597 5757
สุขภาพ
–8 เรื่องหลังตื่นเช้าแนะนำให้ทุกคนเพื่อสุขภาพดีอายุยืนยาว
คนเราควรจะตื่นตอนเช้า
ซึ่งมีข้อดีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น การรับแสงแดดอ่อน ๆ มีวิตามินดี
สร้างภูมิคุ้มกันโรค ลดความเครียด มีเวลานั่งกินข้าวชิล ๆ โดยมีข้อแนะนำให้จากนักโภชนาการ “8 เรื่องควรทำยามเช้า” เพื่อสุขภาพ และชีวิตดีดี คือ
1. นั่งสมาธิในยามเช้าเพื่อสมองและสุขภาพจิตแจ่มใส อันดับแรก ตื่นนอนปุ๊ปทำสมาธิก่อน 5-10 นาที จะยิ่งทำให้จิตใจปลอดโปร่ง โล่งสบาย
สามารถจัดการกับราวต่าง ๆ ระหว่างวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ดื่มน้ำสะอาดสัก 2 แก้ว เพิ่มความสดชื่น ขับไล่ของเสียออกจากร่างกาย เพราะหลังขณะนอนหลับนานหลายชั่วโมง
ร่างกายจะขาดน้ำ พอตื่นขึ้นมาก็ควรดื่มน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องสัก 2 แก้ว เติมร่างกายสดชื่น กระตุ้นอวัยวะภายใน
ขับไล่ของเสียออกจากร่างกาย
3.ขยับเส้นสาย ยืดร่างกายตอนเช้า ๆ เพื่อบรรเทาอาการปวดหลัง
เพิ่มการไหลเวียนโลหิตในร่างกาย ด้วยการประสานมือทั้ง 2 เอาไว้ แล้วยืดแขนไปให้สุด
หรือจะเอามือไปแตะปลายเท้าโดยไม่งอขา หรือทำโยคะก็ได้ ท่ายืดร่างกายมีหลายท่า
4. ขับถ่ายยามเช้าให้เป็นนิสัยทุกวัน
เพื่อสุขภาพองค์รวมที่ดี ช่วง 05.00
– 07.00 น.
เป็นเวลาของลำไส้ใหญ่ขับกากอาหาร และของเสียออกจากร่างกาย ทำให้ดีต่อสุขภาพ
ควรฝึกเป็นประจำ ร่างกายก็จะขับถ่ายได้ง่ายช่วงเวลาเดิม การขับถ่ายที่ดี
จะช่วยให้สุขภาพองค์รวมแข็งแรงได้แน่นอน
5. ฟิต&เฟิร์ม ออกกำลังกายเบา ๆ ในยามเช้า เพียง 10
นาที เช่น การวิดพื้น ทำสควอท ซิทอัพ โยคะ
หรือจะวิ่งเหยาะ ๆ 10 นาที
จะช่วยกระตุ้นหลายระบบของร่างกายพร้อม ๆ กัน เช่น สมอง, กล้ามเนื้อ, ต่อมหมวกไต
6. ออกไปรับวิตามินดีในยามเช้า
เสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง จะช่วยให้ร่างกายเราแข็งแรง
อย่างกระดูกป้องกันโรคกระดูกพรุน เสริมภูมิคุ้มกันโรคได้อีกด้วย เมื่อตื่นเช้าให้เปิดหน้าต่าง
เปิดผ้าม่าน รับแสงแดดได้สัมผัสกับผิวของเราสักหน่อย หรือจะออกไปเดินเล่น วิ่งจ็อกกิ้งช่วง
06.00-08.00 น.
ให้ผิวได้รับแสงแดด สัก 15 นาที
7. รับฟังแต่สิ่งดีดียามเช้า อย่าเพิ่งหยิบมือถือมาเล่นโซเชียล เพราะ
อาจไปเจอฟีดทำให้อารมณ์เสียแต่เช้าได้ แต่ควรทำคือฟังธรรมะ มีข้อคิดนำไปดำเนินชีวิตประจำวันได้
คิดเชิงบวก หรือฟังเพลงฟังสบาย ๆ สร้างความสุข
8. ตื่นเช้าทั้งที ก็ต้องกินอาหารเช้าเพื่อสุขภาพ ควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น สลัดผัก
แซลมอน ปลาทูน่า ไข่ไก่ ผลไม้ โยเกิร์ต
เมนูอาหารสุขภาพจะช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานเพียงพอ แล้วยังช่วยลดความอยากอาหารระหว่างวัน
และเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง สุขภาพที่ดีด้วย
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก –AOT-ตำรวจท่องเที่ยวรับตรุษจีน6สนามบินเข้ม5บริการ
ดร.กีรติ
กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” เปิดเผยว่า ร่วมกับ พลตำรวจโท ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ
ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แถลง
“มาตรการดูแลความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลตรุษจีน”
ในพื้นที่รับผิดชอบของ AOT 6 ท่าอากาศยาน ได้แก่ สุวรรณภูมิ
(ทสภ.) ดอนเมือง (ทดม.) เชียงใหม่ (ทชม.) แม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ภูเก็ต
(ทภก.) และหาดใหญ่ (ทหญ.) โดยมี นายกิตติพงศ์ กิตติขจร
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมรับฟังและสนับสนุนข้อมูล
แผนงานเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและการบริการให้ผู้โดยสารในทั้ง
6 สนามบิน โดยเฉพาะ “สุวรรณภูมิ” และสนามบินอื่น เพื่อความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว และปลอดภัย
ครอบคลุม 5 บริการหลัก ๆ ดังนี้
• บริการที่
1 นำเทคโนโลยีอุปกรณ์เช็คอิน ตรวจเอกสาร และอื่น ๆ
เข้ามาช่วยผู้โดยสารลดเวลาการรอเคาน์เตอร์บริการ
• บริการที่
2 จัดเจ้าหน้าที่ Airport
Help คอยให้คำแนะนำ
• บริการที่
3 จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ประจำให้จุดต่างๆ
ล่ามภาษาจีน ประสานผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร
จัดทำข้อความภาษาจีนบริการผู้โดยสารชาวจีน
• บริการที่
4 เพิ่มความถี่ในการดูแลความสะอาดของสถานที่และห้องสุขา
• บริการที่
5 จัดพื้นที่สำหรับพักคอยและพักผ่อนหย่อนใจ
เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศความสุข ความผ่อนคลาย และสร้างความประทับใจให้แก่ผู้โดยสาร
(Enhance the Airport Experience) ก่อนออกเดินทาง
AOT กับกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว
จับมือกันสร้างความปลอดภัยและการดูแลนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล โดยได้เพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวทำงานในท่าอากาศยานหลักทั่วประเทศ
เพิ่มความถี่การตรวจสอบความปลอดภัยภายในพื้นที่ เสริมเจ้าหน้าที่ให้ตอบสนองได้ทันท่วงทีกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินทุกครั้ง
ดร.กีรติ กล่าวว่า
ช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2568 AOT ได้ประมาณการปริมาณจราจรทางอากาศทั้ง
6 สนามบิน ระหว่าง 24 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกับปีก่อน ปีนี้มีผู้โดยสาร
4.03 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10.4% เป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ
2.63 ล้านคน เพิ่มขึ้น 15.2% มีเที่ยวบิน
24,599 เที่ยว เพิ่มขึ้น 16.7% เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ
14,941 เที่ยว เพิ่มขึ้น 22.1%
“สุวรรณภูมิ” จะมีผู้โดยสาร 1.91 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.3% ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 1.59 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9.5% และมี “เที่ยวบิน” 11,238 เที่ยว เพิ่มขึ้น 15.4% เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ
8,760 เที่ยว เพิ่มขึ้น 18.6%
“ดอนเมือง” จะมีผู้โดยสาร 989,584 คน เพิ่มขึ้น 15.1% เป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 467,154 คน เพิ่มขึ้น 29.7%
AOT ขอความร่วมมือนักเดินทางเผื่อเวลาล่วงหน้า
2 – 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันพลาดเที่ยวบิน ผู้โดยสารสอบถามเพิ่มตลอด
24 ชั่วโมงได้ที่ AOT Contact Center โทร.
1722
ข่าวที่สอง
–รร.ชาเทรียมกรุงเทพจัดบุฟเฟต์พิเศษริเวอร์บาร์จมื้อเที่ยง-ค่ำ
โรงแรม
ชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ ชวนมารับประทานมื้อพิเศษฉลองตรุษจีนอย่างยิ่งใหญ่ที่
“ห้องอาหาร ริเวอร์ บาร์จ” ต้อนรับปีใหม่จีนด้วยประสบการณ์อิ่มอร่อยวันที่ 29 มกราคม 2568 ในบรรยากาศตรุษจีนผสานทั้ง “ความอร่อย” จากอาหารนานาชาติ
และซีฟู้ด “ประเพณี” ที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน และ “ความอบอุ่น”
จากทีมงานมืออาชีพพร้อมการต้อนรับทุกคน
ชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ จัดเมนูรับโชคดีปีงูทองมงคล
ด้วย “บุฟเฟต์” สุดอลังการ เสิร์ฟอาหารจานพิเศษเมนูซีฟู้ด และอีกมากมาย รวมถึง “หยี่ซัง” สลัดแห่งความรุ่งเรือง มอบให้ทุกโต๊ะ
และทุกครอบครัว ได้จดจำรสชาติอาหารแห่งความสุข
“เติมความสนุกสนาน” ช่วงเที่ยงวัน 29 มกราคม จัดให้ได้ชม “การแสดงเชิดสิงโตแบบดั้งเดิม”
สัญลักษณ์แห่งความโชคดีและความเจริญรุ่งเรืองรับปีใหม่
รับ “ของขวัญพิเศษ” อั่งเปา เมื่อจองโต๊ะแล้วมียอดใช้จ่ายขั้นต่ำ
5,000 บาท เป็นการแบ่งปันความสุขด้วยเพลิดเพลินกับมื้ออาหารสุดแสนประทับใจ
ย้ำอีกครั้งดังนี้
- อิ่มอร่อยฉลองตรุษจีน
: 29 มกราคม 2568
- สถานที่ : ห้องอาหาร
ริเวอร์ บาร์จ โรงแรม ชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ
- บุฟเฟต์มื้อกลางวัน
: 12:00 น. – 15:00
น. ผู้ใหญ่คนละ 1,290 บาท
- บุฟเฟต์มื้อค่ำ: 18:00 น. – 22:00
น. ผู้ใหญ่ คนละ 1,690 บาท
- ส่วนลดของเด็ก: เด็กอายุ 6-11 ปี ลด 50%
ชวนครอบครัวมาฉลองความสุขตรุษจีนวิวแม่น้ำเจ้าพระยา
ได้ที่ “โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ” เปิดให้สำรองที่นั่งตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
โทร.+66 (0) 2307
8888 อีเมล info.chrb@chatrium.com
เว็บไซต์: https://www.chatrium.com/dining/chinesenewyear-2025
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น