ททท.บูมดาวรุ่งเมืองรองชุมพร-ระนอง2มหาสมุทร
ดำน้ำทะเลสะอาดของโลกดึงไทย-ฝรั่งQแรก4พันล.
วีระศักดิ์นำคิงเพาเวอร์มอบห้องน้ำ10ล้านเชียงใหม่
ททท.ดึงดาราผุดหนังโฆษณาเพลงอะเมซิ่งไทยเท่2
บางจากแจกยิ่งเติมยิ่งคุ้มผลิตภัณฑ์น้ำมันไฮดีเซลS
ทอท.ปลื้มร่วมบอร์ดACI-รับรางวัลคาร์บอนเครดิต
เที่ยวทะเลแสมสารไปปลูกป่าโกงกางแหลมฉบัง
วิธีออกกำลังกายอย่างปลอดภัยในช่วงหน้าร้อน
คนไทยนับแสนเฮUKเปิดแอพทำวีซ่าในกรุงเทพฯ
มีเลียอินเตอร์ผุดโรงแรมเจ๋งหาดไม้ขาวบูมปี’64
แอร์เอเชียบินเพิมอุดร/พิษโลกโปรใหญ่456บาท
สวัสดีวันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza
ช่วงที่ 1 “วิริยา แก่นแก้ว” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชุมพร หญิงแกร่งอีกคนที่ดูแลพื้นที่ตลาดการท่องเที่ยวเมืองรอง จะมาให้ล้วงลึกถึงเรื่องราวทุกช็อตของพื้นที่ดาวรุ่งในชุมพร และระนอง เป็นเมือง 2 ฝั่งมหาสมุทรที่มีฤดูเที่ยวต่างกันโดยสิ้นเชิง “ชุมพร” ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทะเลสะอาดสุดในโลก แหล่งดำน้ำสวยงามสุดแห่งหนึ่งของท้องทะเลไทย ส่วน “ระนอง” เป็นถิ่นน้ำแร่ของคนรักการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ขณะเดียวกันทั้งสองเมืองก็มีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ เฉพาะไตรแรกปีนี้ดึงเม็ดเงินท่องเที่ยวทะลักเข้าสู่พื้นที่แล้วเกือบ 4,000 ล้านบาท และตั้งแต่พฤษภาคม-กรกฎาคม 2561 ห้ามพลาด วันธรรมดาน่าเที่ยว และมหกรรมโปรโมชั่นแพกเกจดำน้ำที่จะยกกันมาปักหลักขายที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ รวมถึงกิจกรรมเที่ยววิถีวัฒนธรรมพื้นถิ่น งานวิ่งแหวกเดือนมิถุนายน และวิสาขะโลกเดือนกรกฎาคม นี้
“วิริยา แก่นแก้ว” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชุมพร (ดูแลพื้นที่ตลาดการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร และระนอง) เปิดเผยว่า ปี 2561 พื้นที่สองจังหวัดดาวรุ่งเมืองรองของประเทศไทย ในช่วงต้นปีออกตัวแรงสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวทำสถิติ 3 เดือนแรก มกราคม - มีนาคม 2561 รวมเกือบ 4,000 ล้านบาท เริ่มจาก “จังหวัดระนอง” ทั้งจำนวนและรายได้เพิ่มขึ้น เพราะได้รับอานิสงส์จากสายการบินเปิดบินตรงทั้งนกแอร์ และไทย แอร์เอเชีย รวมทั้งรัฐบาลทำถนนในระนองซึ่งเป็นเมืองภูเขาสามารถลดจำนวนคดเคี้ยวลดโค้งกว่า 490 ได้เหลือโค้งอยู่จำนวนไม่มาก ทำให้นักท่องเที่ยเดินทางสะดวก จึงดึงดูดรายได้เข้าพื้นที่ตลอดไตรมาสแรกปีนี้ราว 1,132 ล้านบาท เติบโต 24 % ถึงแม้ฐานจะไม่มากด้วยภูมิศาสตร์ของระนองเป็นผืนป่า เป็นชีวมวลโลกที่รักษาป่าไว้ได้มากที่สุด
ส่วนจังหวัดชุมพรมีรายได้ 2,836 ล้านบาท เพิ่ม 19 % มีผู้มาเยี่ยมเยือนราว 710,000 คน นับได้ว่าสูงพอสมควรจากเมืองที่เคยเป็นแค่เมืองผ่านของทั้งคนไทยและนานาชาติ
สำหรับจุดขายทางท่องเที่ยวของชุมพร ระนอง ปีนี้จะหันมาเน้นความยั่งยืน โดยตั้งเป้ารายได้ปี 2561 เติบโตประมาณ 10 % แต่ก็ยังโชคดีช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2561 แม้จะจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น 9 % ทว่ารายได้จากการใช้จ่ายสูงถึง 32 % เติบโตมากกว่าจำนวนถึง 4 เท่า
ผอ.วิริยากล่าวว่า ตลอดการท่องเที่ยว 2 เมืองรองช่วงครึ่งปีหลัง 2561 วางแผนนำเสนอการท่องเที่ยวทั้ง 2 จังหวัด ซึ่งมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงใน 2 มหาสมุทร เริ่มจาก “ระนอง” ช่วงท่องเที่ยวฤดูฝนในฐานะจังหวัดในกลุ่มจังหวัดอันดามัน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ปลายตุลาคม ของทุกปี ฝนจะตกต่อเนื่องแล้วทำให้การท่องเที่ยวเขียวขจีสดชื่น สามารถท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในเมืองน้ำแร่ระนอง รวมทั้งมีวิถีชีวิตชาวชุมชนดั้งเดิมแบบ ปารานากัน ผสมผสานกับบรรยากาศวินเทจ เมืองน่าอยู่สำหรับผู้สูงอายุที่เป็นโรคเกี่ยวกับไขข้อ กระดูก สามารถเดินทางมาพักผ่อนพร้อมรักษาได้ดีมากระนองจึงเหมาะกับวัยเก๋ามาก ๆ รวมทั้งยังมีประวัติศาสตร์น่าสนใจเชื่อมโยงตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เหมาะกับ “วัยรุ่น” พระองค์ท่านทรงเมตตาสามารถถ่ายทอดการท่องเที่ยวระนองได้ครบผ่าน พระราชวังรัตนรังสรรค์ กับถนน 10 สาย ที่พระองค์ท่านพระราชทานนาม รวมถึงชาวพารานากันมีเสน่ห์ทั้งชุดแต่งกายสวมชุดพารานากัน ชิมอาหารถิ่นที่ทรงคุณค่าโดยเฉพาะเรื่องปลาหลุมพุก(ปลาชิงชัง) ซึ่งมีวิธีการปรุงละเมียดละไมเสริมคอลลาเจนได้มากแก่นักท่องเที่ยวทุกวัย
ไฮไลต์การท่องเที่ยวระนอง มีทั้งวิถีชุมชน สามารถล่องแพเปียกไปชมกระชังปลา ดูการเลี้ยงหอยแมลงภู่ และหอยต่าง ๆ พร้อมชิมอาหารทะเลแบบอิ่มหนำสำราญ
ขณะที่ “จังหวัดชุมพร” เป็นเมืองรองอีกแห่งที่โดดเด่นด้านการเที่ยวทะเลฤดูการเดินทางจะตรงกันข้ามกับระนอง ททท.ได้สร้างมุมใหม่ในชื่อว่าเป็น “ทะเลเพื่อชีวิตผืนสุดท้ายของอ่าวไทย” เหตุเพราะเมื่อเดือนมกราคม 2561 ทางอธิบดีกรมควบคุมมลพิษได้ประกาศให้ชุมพรเป็นทะเลที่มีความสะอาดมากสุดอันดับ 1 ที่อ่าวสะพีและหาดทุ่งวัวแล่น โดยมีที่มาในชื่อหาดทรายสวย 400 ลี้ ที่ผ่านมา ททท.โปรโมตให้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ รวมทั้งมี “สวนดอกไม้ใต้ทะเลผืนใหญ่สุดในอ่าวไทย” และมีฉลามวาฬปรากฎตัวให้เห็นทุกวัน สะท้อนถึงความสมบูรณ์ของทะเล จากตัวชี้วัดอีกอย่างคือ “ม้าน้ำ” ซึ่งมีชุมชนม้าน้ำอยู่กันมา 400 ปี นักท่องเที่ยวสามารถมาร่วมกิจกรรมไปช่วยกันเลี้ยงม้าน้ำ สร้างบ้านปลา จากอำเภอปะทิวเรื่อยไปจนถึงอำเภอละแม นักท่องเที่ยวสามารถไปสัมผัสวิถีชุมชนประมงชายฝั่ง ซึ่งพวกเขาได้ร่วมกันสร้างบ้านปลารักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลไว้เป็นอย่างดี
การท่องเที่ยวในชุมพรมีกิจกรรมหลากหลาย ไฮไลต์คือการไปดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก ดูดอกไม้ทะเล และยังได้พบเห็นฝูงปลามหึมาชนิดต่าง ๆ ที่นำมาเป็นอาหารของนักท่องเที่ยว ทั้งปลาทู ปลาจะระเม็ด และอื่น ๆ อีกทั้งยังสามารถดื่มด่ำกับท่องเที่ยวใต้น้ำ ส่วนใหญ่บริษัทขายแพกเกจท่องเที่ยวดำน้ำจะขายควบคู่กับกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเล จะมีกิจกรรมหลัก ๆ จะอยู่ในช่วงพฤษภาคม-ตุลาคม นี้
สำหรับกิจกรรมการท่องเที่ยวไฮไลต์แต่ละเดือนในจังหวัดชุมพร
เดือนพฤษภาคม 2561 เตรียมจัดงาน “กรมหลวงชุมพร” ซึ่งเป็นที่เคารพของทหารเรือและยังประโยชน์ทางการแพทย์จนได้ชื่อว่าหมอพร จะจัดวันที่ 19 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์ท่าน ทางจังหวัดชุมพรร่วมกับกองทัพเรือกำหนดจะปรับปรุงพัฒนา “เรือรบหลวงชุมพร” ซึ่งเป็นเรือตอปิโดลำสุดท้ายของโลกที่เหลืออยู่ โดยจะมีพิธีบวงสรวงและวัตถุมงคล นำรายได้มาสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ ต่อไปจะได้ให้เยาวชนได้มาเรียนรู้พร้อมกับเทิดพระเกียรติกรมหลวงชุมพรด้วย
เดือนมิถุนายนนี้มีกิจกรรม “วิ่งแหวกทะเล” มีนักท่องเที่ยวนับพันคนเข้ามาร่วมงาน โดยจะต้องดูว่าช่วงวันที่น้ำทะเลลงต่ำสุด ก็จะประกาศให้นักวิ่งมารวมตัวกันวิ่งตั้งแต่เกาะพิทักษ์ อำเภอหลังสวน แล้วจะแจ้งนักท่องเที่ยวในช่วงก่อนเริ่มงาน
เดือนกรกฎาคม จะจัดกิจกรรม “วันวิสาขะโลก” ชุมพรเป็น 1 ใน 4 พระธาตุแดนใต้อยู่ที่อำเภอสวี ปีนี้จะมีพิธีเขียนผ้าพระบทพร้อมกับแห่ผ้าขึ้นธาตุ ระหว่าง 27-28 กรกฎาคม 2561
ผอ. วิริยากล่าวว่า ด้วยความหลากหลายของแหล่งและกิจกรรมการท่องเที่ยว จึงได้คัดสรรแม่เหล็กหลัก คือ “แหล่งท่องเที่ยวทะเล” โดยไม่ทิ้ง “แหล่งท่องเที่ยวรอง” ขณะนี้ได้สร้างการรับรู้เนื่องจากคนส่วนใหญ่เห็นว่าชุมพร ระนองเป็นเมืองผ่าน ดังนั้นจึงใช้วิธีนำสื่อบล็อกเกอร์ชั้นนำ 10 เพจ เข้าไปรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว และนำเสนอมุมมองแปลกแหวกแนว จุดดำน้ำสวยงาม วิถีชุมชน อาหารถิ่น เช่น ชุมพรมีไข่แมงดานำมาทำเป็นขนมหวาน จุดแข็งดังกล่าวหลายฝ่ายจึงต้องการทำเป็น Gastronomy กระแสตอบรับดีมาก วัดและประเมินได้จากช่วงเทศกาลสงกรานต์นักท่องเที่ยวยืนยันดูข้อมูลจากเพจของบล็อกเกอร์ต่าง ๆ
อีกทั้งยังได้ทำ MOU กับ 4 สมาคมท่องเที่ยวในประเทศ ควบคู่กับเดินทางไปโร้ดโชว์นำโดยผู้อำนวยการภุมิภาคภาคใต้ คัดสรรสินค้าไปนำเสนอผ่าน Sale Call บุกเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวในภาคอีสาน ตอนนี้เริ่มจากนำผู้ประกอบการมาสำรวจพื้นที่ท่องเที่ยวทางทะเล โดยหลายเอเย่นต์ทั้งทางอีสานและกรุงเทพฯ ประทับใจ ทยอยส่งนักท่องเที่ยวเข้าชุมพรและระนองยาวไปจนถึงเดือนกันยายนนี้เรียบร้อยแล้ว
สำหรับในงาน “วันธรรมดา น่าเที่ยว” ระหว่าง 10-13 พฤษภาคม 2561 ที่จะจัดในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชุมพรมีไฮไลต์จะใช้เวทีนี้สร้างการรับรู้ “กิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำลึก” ในฐานะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทะเลสวยงามสุด ๆ พร้อมกับรณรงค์ให้ช่วยเก็บขยะใต้น้ำ จึงได้นำผู้ประกอบการดำน้ำทั้งหมดมาขายในงานนี้ โดยมีโปรโมชั่นแพกเกจดำน้ำลึกและน้ำตื้น ลด 15-30 % โดยจะประเมินสถานการณ์การขายของภาคอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย
ตลอด 2 ปีนี้ ชุมพร ทำรายได้เติบโตดีมากแล้วจากงาน Diving ที่จัดควบคู่กับงาน วันธรรมดา น่าเที่ยว ปีนี้ตั้งเป้าจะมียอดขายเพิ่ม 20 % พร้อมทั้งเตรียมแจกหมอนตุ๊กตาปลาผีเสื้อเหลืองชุมพรเป็นสัญลักษณ์ความรักของโลก (ปีที่แล้วแจกตุ๊กตาฉลามวาฬ) เพื่อให้กลุ่มผู้ซื้อแพกเกจดำน้ำลึกประทับใจ รวมทั้งโปรโมตร้านอาหารที่เข้าร่วมกิจกรรม จะดึงจุดสนใจได้พอสมควร เพราะนักดำน้ำส่วนใหญ่ชอบของหายากกลับบ้านเป็นที่ระลึก
ภายในงาน “วันธรรมดา น่าเที่ยว” ททท.จะเน้นขายการท่องเที่ยว ชุมพร ระนอง เรื่องความสด สงบ ไม่วุ่นวาย สำคัญสุดคือจุดขายทะเลชุมพรสะอาดที่สุด จูงใจให้คนที่อยากเรียนดำน้ำจะมาเที่ยว ความแตกต่างคือแค่นั่งเรือเพียง 30 นาที ก็พบแหล่งดำน้ำแล้ว แตกต่างจากดำน้ำในทะเลจังหวัดอื่นจะต้องใช้เวลานั่งเรือ 1-2 ชั่วโมง
ททท.สำนักงานชุมพร ได้ทุ่มเทสร้างสรรค์การท่องเที่ยวเมืองรอง “ชุมพร-ระนอง” ใน 2 ฝั่งมหาสมุทรให้กลายเป็นสวรรค์แห่งใหม่ในการท่องเที่ยวทางทะเลอันสวยงามทั้งน้ำตื้น น้ำลึก และเมืองสุขภาพชั้นนำของประเทศ เพื่อที่จะเป็นแม่เหล็กขั้วใหม่ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวคนไทยและนานาชาติเข้าไปกระจายเม็ดเงินสู่ชุมชนท้องถิ่นให้ได้มากที่สุด
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “วีระศักดิ์นำคิงเพาเวอร์นำร่องมอบห้องน้ำ10ล้านเชียงใหม่”
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ล่าสุดลงพื้นที่กับนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ พร้อมทีมผู้บริหาร จัดทำกิจกรรมโครงการส่งมอบและเปิดห้องน้ำสาธารณะที่สวนพฤกษศาสตร์ เชียงใหม่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำร่องแห่งแรก 10 ล้านบาท โดยทั้งสองฝ่ายได้ออกแบบร่วมกันเพื่อการท่องเที่ยวสำหรับคนทั้งมวลหรือ Tourism for All ทั้งผู้บกพร่องทางร่างกาย/คนพิการ เด็ก ครอบครัว และผู้สูงวัย สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างสะดวก ปลอดภัย พร้อมทั้งเลือกทำเลห้องน้ำสร้างห้องน้ำไว้ติดลานจอดรถ ใกล้อาคารบริการเครื่องดื่ม และทางเดินชมยอดไม้หรือcanopy walk อันสวยงาม
โดยมีผู้อำนวยการองค์การสวนพฤษศาสตร์ มารับมอบโครงการเพื่อรับไปดูแลรักษาต่อในระยะยาว เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในบางช่วงบางวันมากถึง วันละ 4,000 คน ไฮไลต์ของสถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติตั้งอยู่บนเขาห่างจากอำเภอเมืองเชียงใหม่ราว 35 นาที
“เพื่อความมั่นใจผมลองนั่งรถวีลแชร์เข้าห้องน้ำ พร้อมกับสำรวจทางลาด วงกบ ราวจับ สายกริ่งเรียกความช่วยเหลือ บานเลื่อน ป้ายบอก แสงส่องสว่าง สายล้างชำระ การทำพื้นเทลาดเพื่อให้น้ำไม่นองง่าย ๆ หลังเสร็จภารกิจส่งมอบโครงการห้องน้ำสาธารณะในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเรียบร้อย ทุกคนก็ช่วยกันทาสีเก้าอี้ชมสวน ปลูกต้นไม้ร่วมกันเพิ่มเติม” นายวีระศักดิ์กล่าว
ข่าวที่ 2 “ททท.ผุดหนังโฆษณา-เพลงดันอะเมซิ่งไทยเท่ภาค2”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า ได้ เปิดตัว แคมเปญ “amazing ไทยเท่” ภาคสองโดยเน้นการผลิตภาพยนต์โฆษณาโดยใช้กลยุทธ์ดนตรีสื่อสารการตลาดหรือ Music Marketing ภายใต้แนวคิด “เมืองไทย สวยทุกที่ เท่ทุกเวลา สามารถชวนคนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวในมิติร่วมสมัย และชูความเป็นไทยในภาพลักษณ์ที่ “เท่” ทันสมัย มีสไตล์ ผ่าน “ไทยเท่ Music Story” โดยได้นำ “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” มาร่วมร้องเพลงใหม่และสร้างแรงบันดาลใจปลุกกระแสไทยเที่ยวไทย และ หนึ่ง ETC ร่วมถ่ายทอดบทเพลงยามรัก
แคมเปญ อะเมซิ่ง ไทยเท่ คือหนึ่งในการสร้างแคมเปญสื่อสารการตลาดในประเทศ ตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับตลาดในประเทศ ปี 2561 พร้อมกับนำเสนอภาพลักษณ์วิถีไทย “เท่” ในมิติที่ร่วมสมัย ให้เกิดการรับรู้และสร้างมุมมองใหม่ต่อการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนและเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองรอง นำเสนอความ “เท่” และ “มุมมอง” ของการเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทยในมิติร่วมสมัย ชูความเป็นไทยในภาพลักษณ์ที่เท่ ทันสมัย มีสไตล์ เข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำเสนอมุมมองใหม่จากการเดินทางท่องเที่ยวทำให้ทุกการเดินทางมีแต่เรื่องมหัศจรรย์
โดยจะช่วยสร้างแรงบันดาลและประสบการณ์ที่ดีในการเดินทางท่องเที่ยวผ่าน “ไทยเท่ Music Story” ด้วยวิธีใช้ดนตรีเล่าความเท่ของแหล่งท่องเที่ยวในเมืองไทย ซึ่งมีบทเพลง “ยามรัก” ที่ นายอภิวัฒน์ พงษ์วาท หรือ หนึ่ง วง ETC ถ่ายทอดความรู้สึก แล้วนำเสนอผ่านพรีเซ็นเตอร์ “นายอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ดารานักแสดงมาดเซอร์ที่สามารถสะท้อนมุมมองด้านการท่องเที่ยวได้อย่างลงตัวควบคู่กับภาพยนตร์โฆษณาชุด “มุมมอง” จำนวน 2 เรื่อง เพื่อนำเสนอมุมมองและเรื่องราว “เท่” ของเมืองไทย เชิญชวนให้ทุกคนออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อพบความมหัศจรรย์ที่ไม่รู้จบของเมืองไทย โดยใช้ช่องทางทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ ผ่านการนำเสนอผลงานโฆษณาในรูปแบบต่างๆ และกิจกรรมทางด้านการสื่อสารการตลาด เพื่อสร้างกระแสและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเกิดความต้องการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ททท. ได้ดำเนินต่อยอดการสื่อสารจากแคมเปญหลักส่งเสริมการท่องเที่ยว 55 เมืองรอง สนับสนุนให้เกิดความยั่งยืน สื่อสารคุณค่า “วิถีไทย” ผ่านประสบการณ์เอกลักษณ์เฉพาะท้องถิ่น เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเห็นคุณประโยชน์จากการเดินทางและสามารถสัมผัสได้ถึงคุณค่าในเชิงมุมมองใหม่ ปลุกกระแสด้วยการจัดทำสกู๊ปพิเศษ ผ่านกลยุทธ์ Celebrity Endorsement ได้แก่ เจ้านาย-จิณเจษฎ์ วรรธนะสิน, ฌอน-จินดาโชติ, สิงโต นำโชค, ป้าตือ-สมบัษร ถิระสาโรช และไบร์ท-พิชญทัฬน์ จันทร์พุฒ เพื่อให้สามารถสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ
ในช่วงปลายปี 2561 ททท.เตรียมกิจกรรมไฮไลท์ การแสดงดนตรี “รวมพลคนเท่” โดยศิลปินชั้นนำเพื่อตอกย้ำช่วงสิ้นสุดแคมเปญ
ติดตามเข้าร่วมกิจกรรม Amazing ไทยเท่ ได้ที่ www.facebook.com/อะเมซิ่งไทยเท่ หรือ เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย 1672
ข่าวที่ 3 “บางจากจัดใหญ่ยิ่งเติมยิ่งคุ้มไฮดีเซลS”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชวนสมาชิกเข้าร่วมมหกรรมแคมเปญในการใช้น้ำมัน กับแคมเปญ “ยิ่งเติม..ยิ่งคุ้ม” สำหรับสมาชิกบัตรบางจากดีเซลคลับ วันนี้ - 31 ธ.ค. 61 เมื่อเติมน้ำมันบางจาก ไฮ-ดีเซลS รับคะแนนสะสมคูณ 2 (มูลค่าส่วนลดสูงสุด10 สต./ลิตร)
ด้วยวิธีง่าย ๆ ในการรับสิทธิประโยชน์จากสถานีบริการและผลิตภัณฑ์สินค้าของ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
1.เติมน้ำมันบางจาก ไฮดีเซลs รับคะแนนสะสมคูณ2 จากคะแนนสะสมที่ได้รับปกติ
(ปกติเติมน้ำมันดีเซล 4 ลิตร รับคะแนนสะสม 1 คะแนน)
2.การคิดคะแนนสะสมเมื่อเติมไฮดีเซลs : จำนวนการเติมน้ำมัน หาร 4(ผลลัพท์ที่ได้เศษปัดทิ้ง) คูณ 2 ตัวอย่าง เติมน้ำมัน 31 ลิตร คะแนนสะสมที่ได้เท่ากับ (31 หาร 4) คูณ 2
คะแนนที่ได้รับ 14 คะแนน
3.สามารถสะสมคะแนนจากการเติมน้ำมันดีเซลสูงสุดไม่เกิน 300 ลิตร/ครั้ง และไม่เกิน 2,000 ลิตร/เดือน
4.บัตรสมาชิก 1 ใบ สะสมได้ไม่เกิน 2 ครั้งต่อวัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.1651 กด 4
ข่าวที่ 4 “ทอท.ปลื้มACIดึงเป็นบอร์ดอินเตอร์ถึงปี’64”
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากสภาท่าอากาศยานระหว่างประเทศ (Airport Council International : ACI) แต่งตั้งให้ นางสาวศศิศุภา สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานยุทธศาสตร์) เข้ารับหน้าที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ ACI World Governing Board เริ่มตั้งแต่ 24 เมษายน 2561 – 23 เมษายน 2564
สำหรับบอร์ดชุดนี้มี 28 คน ได้รับการแต่งตั้งจาก ACI และ Immediate Past Chair ซึ่งจำนวนของคณะกรรมการของแต่ละภูมิภาคจะขึ้นอยู่กับปริมาณผู้โดยสารและจำนวนสินค้าและไปรษณียภัณฑ์เข้า - ออก มีวาระการทำหน้าที่ ACI World Governing Board คราวละ 3 ปี และต่อเนื่องได้ไม่เกิน 2 วาระ
นายนิตินัย กล่าวว่าการเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ ACI World Governing Board จะเพิ่มโอกาสให้ ทอท.เข้าไปมีบทบาทและส่วนร่วมเชิงรุกด้านการกำหนดนโยบายที่เกี่ยวกับการบริหารท่าอากาศยาน รวมทั้งโอกาสพบปะและสร้างความสัมพันธ์กับองค์กรและท่าอากาศยานต่างๆ ทั่วโลกนอกเหนือจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้เชิงลึกระหว่างกัน และเป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มช่องทางการตลาด หรือทำธุรกิจร่วมกันกับพันธมิตรจากท่าอากาศยานอื่นๆ ในอนาคตได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ทอท.ยังถือเป็นตัวแทนประเทศไทยที่มีบทบาทในองค์กรระดับโลก สร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีให้ประเทศด้วย เพราะทันที่มี ทอท.ได้เข้าเป็นสมาชิก ของ ACI ก็ได้ร่วมประชุมและกิจกรรมต่างๆ ที่ ACI จัดขึ้นในวันที่ 20 มีนาคม 2561 หลังจากนั้นในการประชุม ACI ประกาศรับรองให้ผู้บริหาร ทอท.เข้าตำแหน่งกรรมการอย่างเป็นทางการในงานประชุม ACI World Special Meeting of Members เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2561 โดยได้ให้เข้าร่วมประชุม 13th ACI Asia - Pacific Regional Meeting Assembly, Conference & Exhibition ณ จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น
ในงานดังกล่าว นางสาวศศิศุภา สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานยุทธศาสตร์) ทอท. ยังได้เป็นตัวแทนองค์กรขึ้นรับมอบประกาศนียบัตร Airport Carbon Accreditation ด้วยเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2561 ในโอกาสที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้รับการรับรอง Airport Carbon Accreditation ระดับที่ 3 “Optimisation” จากการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี มุ่งมั่นในการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในเวทีการประชุม 13th ACI Asia Pacific Regional Assembly, Conference and Exhibition ณ Tokyo Bay Makuhari Hall จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น
ช่วงที่ 2 จะชวนไปเที่ยวสร้างประโยชน์คืนสู่ท้องทะเลไทยกับทริป “ล่องทะเลช่องแสมสาร” อำเภอสัตหีบ ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ในระบบปิดที่ Percula ศูนย์เพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนในแสมสาร จังหวัดชลบุรี หลังจากนั้นก็ร่วมกับกองทัพเรือมุ่งหน้าสู่แหลมฉบังนำต้นกล้าโกงกางไปปลูกป่าให้สัตว์น้ำ ชีวิตดีดี๊เมื่อได้เที่ยวอย่างรู้คุณค่าของการคืนประโยชน์สู่ธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ละเลยเรื่องสุขภาพ “
@เที่ยวทะเลแสมสารไปปลูกป่าโกงกางแหลมฉบัง
วันนี้ขอเปิดฟ้าในฝั่งทะเลอ่าวไทย บริเวณแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เพื่อท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติเรียนรู้ระบบนิเวศน์ในระบบปิดและธรรมชาติกันที่ “Percula-ศูนย์เพาะพันธุ์ปลาการ์ตูน” ในพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะทะเลไทย หมู่บ้านช่องแสมสาร อำเภอสัตหีบ เพื่อการเรียนรู้ศึกษาทุกเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตของทะเลอ่าวไทย ก่อนจะมุ่งลงหน้าลงน้ำ นำกล้าโกงกาง ไปปลูกกันอย่างสนุกสนาน ร่วมกิจกรรมปักฉบับ ๆ แบบเป็นทีมได้เลย สนุกไปอีกแบบ
เริ่มต้นการเดินทางท่องเที่ยวครึ่งวันแรกช่วงเช้าเดินเข้าไปยัง “Percula-ศูนย์เพาะพันธุ์ปลาการ์ตูน” ทำความรู้จักกับทะเลไทยให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตทั้งสัตว์และพืชใต้ทะเลเขาอยู่กันอย่างไร พอตกบ่ายก็ขึ้นเรือมุ่งหน้าสู่ “เกาะแสมสาร” แล้วปั่นจักรยานวัดกำลังขา ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นกันพอหอมปากหอมคอ ยามค่ำคืนลองก่อกองไฟทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทำความรู้จักกับเพื่อน ๆ ให้มากขึ้น เพราะเช้าวันถัดไปจะต้องกอดคอกันไปช่วยทหารเรือนำต้นกล้าไปร่วมปลูกป่าโกงกางคืนชีวิตให้ธรรมชาติงดงามอยู่ต่อไป
เข้าสู่วันที่สองนั่งเรือไปยัง “ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล” แล้วจะต้องทึ่งกับสัตว์ดึกดำบรรพ์อายุกว่าร้อยปี ถึงเต่าทะเลจะต้วมเตี้ยมแต่ก็ยังประโยชน์ต่อโลกมากมายที่ฉายให้เห็นภาพการพึ่งพาซึ่งกันและกันในวิถีธรรมชาติแห่งท้องทะเลอ่าวไทย
จากนั้นได้เวลานำกล้าไม้โกงกางไปยัง “แหลมฉบัง” เพื่อร่วมปลูกป่าแบบสร้างกันสรรค์กันแล้ว วิธีการสร้าง “ชุมชนใต้ท้องทะเล” นอกจากปลูกป่าโกงกางแล้ว ยังสามารถเตรียมท่อพีวีซีเพื่อใช้ยึดปะการังไว้ในบริเวณที่เหมาะสมระหว่างพื้นดินกับป่าชายเลนที่เราเลือกช่วยกันปลูกกล้าโกงกางลงไป เพื่อคืนความสมบูรณ์สู่ธรรมชาติอีกครั้ง
ต่อด้วยกันเก็บขยะในป่าชายเลนขึ้นมาเพื่อลดปริมาณขยะ ทำให้ป่าชายเลนเป็นบ้านที่สมบูรณ์ของสัตว์น้ำ
ก่อนกลับอย่าลืมอุดหนุนผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน ซึ่งมีอาหารทะเลแห้งและแปรรูปให้เลือกมาฝากคนทางบ้าน
สนใจจะท่องเที่ยวเพื่อคืนประโยชน์สู่สังคมด้วยการปลูกกล้าป่าโกงกางในแหลมฉบัง สอบถามได้ที่ โรงเรียนวัดแหลมฉบัง โทร.038-494-4702
@วิธีออกกำลังกายอย่างปลอดภัยในหน้าร้อน
ช่วงอากาศร้อนหลายๆคนมักเลี่ยงไม่ออกกำลังกาย หรือไม่ทำกิจกรรมต่าง ๆ นอกบ้าน แต่เลือกจะอยู่ในห้องปรับอากาศที่บ้าน หรือห้างสรรพสินค้า แต่จริงๆ แล้วการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรทางกาย เช่น ทำสวน ล้างรถ ฯลฯ สามารถที่จะทำได้ในช่วงที่มีอากาศร้อน โดยต้องระวังเรื่องของอากาศที่ร้อนการเสียเหงื่อที่มากจนเกินไป ซึ่งร่างกายจึงต้องพยายามขับเหงื่อออกมาให้มากกว่าปกติ ส่งผลให้ระบบของร่างกายทำงานหนักขึ้นและยังทำให้ร่างกายสูญเสียแร่ธาตุต่างๆ อีกด้วย
สิ่งที่ควรทำถ้าต้องออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมทางกายในช่วงที่มีอากาศร้อน คือ
1.จิบน้ำบ่อยๆ ทุกๆ 15 – 30 นาที ในขณะที่ออกกำลังกาย (ใช้จิบ ไม่ควรดื่มทีเดียวหมดขวด)
2.พยายามใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
3.นำผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัว (จะช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ดียิ่งขึ้น)
ในกรณีที่ต้องอยู่ในสภาวะที่มีอากาศร้อนเป็นระยะเวลานานๆ อาจจะต้องดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่เพื่อชดเชยกับแร่ธาตุที่ร่างกายสูญเสียไปจากการขับเหงื่อ การดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ที่มีความเข้มข้นของน้ำตาลสูงเกินกว่า 10-20% จะขัดขวางการดูดซึมของกระเพาะอาหาร ทำให้ท้องอืด จุกเสียดได้ ส่วนการดื่มน้ำอัดลมที่มีความเข้มข้นสูง ไม่ควรทำ เพราะนอกจากจะทำให้ความเข้มข้นของน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นแล้ว ยังมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิดขึ้นอีก กระเพาะอาหารขยายตัวมากขึ้นขัดขวางการหดตัวของกล้ามเนื้อกระบังลม
เราควรสังเกตว่า ร่างกายเราเสียเหงื่อมากเกินไปหรือไม่ ให้ดูจากอาการเหล่านี้
1.รู้สึกเพลีย 2.ไม่มีแรง 3.ปากแห้ง 4.กระหายน้ำ
อาการที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมทางกายในสภาวะที่มีอากาศร้อน ได้แก่
1.ตะคริว (Heat Cramps) เกิดจากความไม่สมดุลของแร่ธาตุในร่างกายจากการสูญเสียเหงื่อ ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อหดตัวเกร็งอย่างรุนแรง รู้สึกเจ็บปวดมาก บริเวณที่พบเห็นบ่อยๆ คือ ต้นขา และน่อง วิธีแก้ไขให้พยายามยืดเหยียดกล้ามเนื้อในส่วนที่มีการหดเกร็ง
2.เพลียแดด (Heat Exhaustion) เกิดจากการที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงแต่ไม่เกิน 40 องศา หรือในกรณีบางคนที่ไม่เคยออกกำลังกายในสภาพอากาศที่ร้อน ทำให้เกิดอาการเพลีย อ่อนแรง กระหายน้ำ ปวดหัว อาจจะมีอาการผิดปกติอื่นๆร่วมด้วย วิธีแก้ไข ให้พยายามหลบเข้าที่ร่ม หาที่ที่มีอากาศถ่ายเท หรืออาจจะนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัว เพื่อให้ร่างกายระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น
3.ลมแดด (Heat Stroke) เกิดจากการออกกำลังกายในสภาพอากาศที่ร้อนเป็นระยะเวลานาน ทำให้อุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้นมากกว่า 40 องศา จะมีอาการในช่วงแรก คือ กระหายน้ำ ตัวร้อน หายใจหอบสั้นถี่ ปากคอแห้งผาก ถ้าไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง อาจจะมีอาการเวียนศีรษะ ตาพร่า ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายและสติสัมปชัญญะได้น้อยลง เกิดคลื่นไส้ อาเจียน อาการก่อนที่จะเป็นลมแดด คือ ผิวหนังแห้ง เหงื่อไม่ออก และอาจถึงขั้นหมดสติซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “คนไทยนับแสนเฮUKเปิดให้ขอวีซ่าผ่านApp”
Jiten Vyas ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติภาคพื้นของ VFS Global เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เปิดตัวศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าผ่านแอพพลิเคชั่นวีซ่ามือถือในประเทศไทยซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับคนไทยที่จะขอวีซ่าไปยังประเทศในกลุ่มสหราชอาณาจักร (United Kingdom : UK) โดยทำศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าเคลื่อนที่ หรือ Mobile Visa Application Center-MVAC โดยผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือสามารถโหลดแอพลิเคชั่น ที่ติดตั้งเทคโนโลยี end-to-end เพื่อลงทะเบียนรับข้อมูลและรับใบสมัครวีซ่าทั้งส่งแบบบุคคลหรือกลุ่ม ที่จะเปิดบริการในกรุงเทพฯ 2 แห่ง คือ ลาดพร้าวและ สวนหลวง มีตึกทำการตั้งอยู่ที่ คริสตัลดีไซน์เซ็นเตอร์ (CDC) 1420/1 ถ. ประดิษฐ์มนูธรรมแขวงลาดพร้าวเขตปทุมวันกรุงเทพฯ(วันจันทร์ 09:30 - 15:00 น.) และ ธัญญาปาร์ค 735,735 / 1-8 ถนนศรีนครินทร์สวนหลวงกรุงเทพฯ (วันอังคาร 09.30 น. - 15.00 น.) มีค่าธรรมเนียม 3800 บาทต่อใบและต้องชำระผ่านบัตรเครดิตออนไลน์
"การเปิดแอพลิเคชั่นให้เขียนคำร้องขอวีซ่าถือเป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมของนวัตกรรมที่ทันสมัยและเป็นผู้นำตลาดของ VFS Global ในประเทศไทยและแสดงให้ UKVI และ VFS Global สามารถทำงานร่วมกันเพื่อให้บริการลูกค้าของเราในประเทศไทยและทั่วโลก" นายนิคเคร้าช์ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคของวีซ่าสหราชอาณาจักรกล่าว และการเข้าเมืองในเอเชียใต้และตะวันออกเฉียงใต้ "
MVAC นำเสนอหลักการที่สำคัญในวิธีการทำงาน 2 ประการ คือ 1.การใช้เทคโนโลยีที่ดีขึ้นและ 2.การให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้าในขั้นตอนการขอวีซ่ามากขึ้น ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่และเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแล้ว VFS Global สามารถเสนอข้อเสนอที่ยืดหยุ่นและสร้างสรรค์ขึ้น เพื่อให้ชาวไทยที่ยื่นขอวีซ่าประเทศอังกฤษแต่ละปีมีจำนวนประมาณ 80,000 คน สามารถทำได้ในรูปแบบที่ทันสมัยและสะดวกสบายมากขึ้น "
โดยผู้ใช้บริการจะต้องเลือกกรุงเทพมหานครเป็นสถานที่และเลือก "Mobile VAC - Crystal Design Center" หรือ "Mobile VAC - Thanya Park" ในหมวดที่ได้รับการแต่งตั้ง ผู้สมัครยังสามารถกรอกใบสมัครออนไลน์และจองนัดหมายสำหรับที่อยู่ที่ระบุไว้ ทางออนไลน์ได้
ข่าวที่สอง “มีเลียผุดโรงแรมใหม่ภูเก็ตไม้ขาวดูดทั่วโลกเพิ่มปี’64”
นายเมธาพงษ์ อุปัติสิงห์ กรรมการผู้จัดการโรงแรม ภูเก็ต วิลล่า กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับ Melia Hotels International หนึ่งในบริษัทชั้นนำของโรงแรมรีสอร์ทใหญ่ที่สุดในโลกลงทุนเปิดโครงการ Phuket Villa Group เพื่อขยายกลุ่มโรงแรมในไทย พัฒนาบริการโรงแรมมีเลีย ภูเก็ต ไม้ขาวพร้อมเปิดให้บริการเป็นแห่งที่ 5 ในไทยภายในปี 2564 เป็นต้นไป เพื่อดึงกำลังซื้อตลาดท่องเที่ยวที่เฟื่องฟูจากทั่วโลกที่หลั่งไหลเข้าสู่จังหวัดภูเก็ต
สำหรับ Melia Phuket Mai Khao ประกอบด้วย พูลวิลล่าส่วนตัว 101 หลัง 2 สระว่ายน้ำปา ห้องอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลาย ทำเลที่ตั้งของรีสอร์ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินนานาชาติภูเก็ต มีสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียงทั้ง อุทยานแห่งชาติสิรินาถ รอยัลภูเก็ตมารีน่าและท่าเรือแหลมหิน
ข่าวที่สาม “ไทยแอร์เอเชียเพิ่มบินตรงอุดร-พิษณุโลกตั๋วโปร456บาท”
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ไทยแอร์เอเชียพร้อมบุกตลาดในประเทศ โดยเตรียมเพิ่มความถี่เที่ยวบิน ไป-กลับ 2 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ-อุดรธานี จากวันละ 5 เป็น 6 เที่ยว กรุงเทพฯ-พิษณุโลก จากวันละ 2 เป็น 3 เที่ยว ซึ่งการเพิ่มเที่ยวบินดังกล่าวจะสร้างความสะดวกสบายในการเดินทางให้ผู้โดยสารที่สามารถเลือกเวลาบินได้ตามความต้องการ อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายการบินภายใประเทศที่เข้มแข็ง
อีกทั้งแอร์เอเชียได้จัดทำโปรโมชั่นพิเศษราคาเริ่มต้นที่เที่ยวละ 456 บาท เริ่มจองราคาพิเศษได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 6 พฤษภาคม 2561 และสามารถเดินทางได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2561 จองได้ทาง www.airasia.com และทุกช่องทางจำหน่าย ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
“แอร์เอเชียเพิ่มความถี่เที่ยวบินในหลากหลายเส้นทางบิน เพื่อรองรับความต้องการบินภายในประเทศ โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และในปีนี้เราเน้นการขยายการเติบโตของตลาดในประเทศ สร้างเส้นทางบินให้ครอบคลุม และเพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางต่างๆ ให้ผู้โดยสารเลือกเดินทางได้ตามเวลาที่ต้องการ” นายสันติสุข กล่าว
ติดตามฟังรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.
ดำน้ำทะเลสะอาดของโลกดึงไทย-ฝรั่งQแรก4พันล.
วีระศักดิ์นำคิงเพาเวอร์มอบห้องน้ำ10ล้านเชียงใหม่
ททท.ดึงดาราผุดหนังโฆษณาเพลงอะเมซิ่งไทยเท่2
บางจากแจกยิ่งเติมยิ่งคุ้มผลิตภัณฑ์น้ำมันไฮดีเซลS
ทอท.ปลื้มร่วมบอร์ดACI-รับรางวัลคาร์บอนเครดิต
เที่ยวทะเลแสมสารไปปลูกป่าโกงกางแหลมฉบัง
วิธีออกกำลังกายอย่างปลอดภัยในช่วงหน้าร้อน
คนไทยนับแสนเฮUKเปิดแอพทำวีซ่าในกรุงเทพฯ
มีเลียอินเตอร์ผุดโรงแรมเจ๋งหาดไม้ขาวบูมปี’64
แอร์เอเชียบินเพิมอุดร/พิษโลกโปรใหญ่456บาท
สวัสดีวันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza
ช่วงที่ 1 “วิริยา แก่นแก้ว” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชุมพร หญิงแกร่งอีกคนที่ดูแลพื้นที่ตลาดการท่องเที่ยวเมืองรอง จะมาให้ล้วงลึกถึงเรื่องราวทุกช็อตของพื้นที่ดาวรุ่งในชุมพร และระนอง เป็นเมือง 2 ฝั่งมหาสมุทรที่มีฤดูเที่ยวต่างกันโดยสิ้นเชิง “ชุมพร” ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทะเลสะอาดสุดในโลก แหล่งดำน้ำสวยงามสุดแห่งหนึ่งของท้องทะเลไทย ส่วน “ระนอง” เป็นถิ่นน้ำแร่ของคนรักการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ขณะเดียวกันทั้งสองเมืองก็มีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ เฉพาะไตรแรกปีนี้ดึงเม็ดเงินท่องเที่ยวทะลักเข้าสู่พื้นที่แล้วเกือบ 4,000 ล้านบาท และตั้งแต่พฤษภาคม-กรกฎาคม 2561 ห้ามพลาด วันธรรมดาน่าเที่ยว และมหกรรมโปรโมชั่นแพกเกจดำน้ำที่จะยกกันมาปักหลักขายที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ รวมถึงกิจกรรมเที่ยววิถีวัฒนธรรมพื้นถิ่น งานวิ่งแหวกเดือนมิถุนายน และวิสาขะโลกเดือนกรกฎาคม นี้
“วิริยา แก่นแก้ว” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชุมพร (ดูแลพื้นที่ตลาดการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร และระนอง) เปิดเผยว่า ปี 2561 พื้นที่สองจังหวัดดาวรุ่งเมืองรองของประเทศไทย ในช่วงต้นปีออกตัวแรงสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวทำสถิติ 3 เดือนแรก มกราคม - มีนาคม 2561 รวมเกือบ 4,000 ล้านบาท เริ่มจาก “จังหวัดระนอง” ทั้งจำนวนและรายได้เพิ่มขึ้น เพราะได้รับอานิสงส์จากสายการบินเปิดบินตรงทั้งนกแอร์ และไทย แอร์เอเชีย รวมทั้งรัฐบาลทำถนนในระนองซึ่งเป็นเมืองภูเขาสามารถลดจำนวนคดเคี้ยวลดโค้งกว่า 490 ได้เหลือโค้งอยู่จำนวนไม่มาก ทำให้นักท่องเที่ยเดินทางสะดวก จึงดึงดูดรายได้เข้าพื้นที่ตลอดไตรมาสแรกปีนี้ราว 1,132 ล้านบาท เติบโต 24 % ถึงแม้ฐานจะไม่มากด้วยภูมิศาสตร์ของระนองเป็นผืนป่า เป็นชีวมวลโลกที่รักษาป่าไว้ได้มากที่สุด
ส่วนจังหวัดชุมพรมีรายได้ 2,836 ล้านบาท เพิ่ม 19 % มีผู้มาเยี่ยมเยือนราว 710,000 คน นับได้ว่าสูงพอสมควรจากเมืองที่เคยเป็นแค่เมืองผ่านของทั้งคนไทยและนานาชาติ
สำหรับจุดขายทางท่องเที่ยวของชุมพร ระนอง ปีนี้จะหันมาเน้นความยั่งยืน โดยตั้งเป้ารายได้ปี 2561 เติบโตประมาณ 10 % แต่ก็ยังโชคดีช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2561 แม้จะจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น 9 % ทว่ารายได้จากการใช้จ่ายสูงถึง 32 % เติบโตมากกว่าจำนวนถึง 4 เท่า
ผอ.วิริยากล่าวว่า ตลอดการท่องเที่ยว 2 เมืองรองช่วงครึ่งปีหลัง 2561 วางแผนนำเสนอการท่องเที่ยวทั้ง 2 จังหวัด ซึ่งมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงใน 2 มหาสมุทร เริ่มจาก “ระนอง” ช่วงท่องเที่ยวฤดูฝนในฐานะจังหวัดในกลุ่มจังหวัดอันดามัน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ปลายตุลาคม ของทุกปี ฝนจะตกต่อเนื่องแล้วทำให้การท่องเที่ยวเขียวขจีสดชื่น สามารถท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในเมืองน้ำแร่ระนอง รวมทั้งมีวิถีชีวิตชาวชุมชนดั้งเดิมแบบ ปารานากัน ผสมผสานกับบรรยากาศวินเทจ เมืองน่าอยู่สำหรับผู้สูงอายุที่เป็นโรคเกี่ยวกับไขข้อ กระดูก สามารถเดินทางมาพักผ่อนพร้อมรักษาได้ดีมากระนองจึงเหมาะกับวัยเก๋ามาก ๆ รวมทั้งยังมีประวัติศาสตร์น่าสนใจเชื่อมโยงตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เหมาะกับ “วัยรุ่น” พระองค์ท่านทรงเมตตาสามารถถ่ายทอดการท่องเที่ยวระนองได้ครบผ่าน พระราชวังรัตนรังสรรค์ กับถนน 10 สาย ที่พระองค์ท่านพระราชทานนาม รวมถึงชาวพารานากันมีเสน่ห์ทั้งชุดแต่งกายสวมชุดพารานากัน ชิมอาหารถิ่นที่ทรงคุณค่าโดยเฉพาะเรื่องปลาหลุมพุก(ปลาชิงชัง) ซึ่งมีวิธีการปรุงละเมียดละไมเสริมคอลลาเจนได้มากแก่นักท่องเที่ยวทุกวัย
ไฮไลต์การท่องเที่ยวระนอง มีทั้งวิถีชุมชน สามารถล่องแพเปียกไปชมกระชังปลา ดูการเลี้ยงหอยแมลงภู่ และหอยต่าง ๆ พร้อมชิมอาหารทะเลแบบอิ่มหนำสำราญ
ขณะที่ “จังหวัดชุมพร” เป็นเมืองรองอีกแห่งที่โดดเด่นด้านการเที่ยวทะเลฤดูการเดินทางจะตรงกันข้ามกับระนอง ททท.ได้สร้างมุมใหม่ในชื่อว่าเป็น “ทะเลเพื่อชีวิตผืนสุดท้ายของอ่าวไทย” เหตุเพราะเมื่อเดือนมกราคม 2561 ทางอธิบดีกรมควบคุมมลพิษได้ประกาศให้ชุมพรเป็นทะเลที่มีความสะอาดมากสุดอันดับ 1 ที่อ่าวสะพีและหาดทุ่งวัวแล่น โดยมีที่มาในชื่อหาดทรายสวย 400 ลี้ ที่ผ่านมา ททท.โปรโมตให้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ รวมทั้งมี “สวนดอกไม้ใต้ทะเลผืนใหญ่สุดในอ่าวไทย” และมีฉลามวาฬปรากฎตัวให้เห็นทุกวัน สะท้อนถึงความสมบูรณ์ของทะเล จากตัวชี้วัดอีกอย่างคือ “ม้าน้ำ” ซึ่งมีชุมชนม้าน้ำอยู่กันมา 400 ปี นักท่องเที่ยวสามารถมาร่วมกิจกรรมไปช่วยกันเลี้ยงม้าน้ำ สร้างบ้านปลา จากอำเภอปะทิวเรื่อยไปจนถึงอำเภอละแม นักท่องเที่ยวสามารถไปสัมผัสวิถีชุมชนประมงชายฝั่ง ซึ่งพวกเขาได้ร่วมกันสร้างบ้านปลารักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลไว้เป็นอย่างดี
การท่องเที่ยวในชุมพรมีกิจกรรมหลากหลาย ไฮไลต์คือการไปดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก ดูดอกไม้ทะเล และยังได้พบเห็นฝูงปลามหึมาชนิดต่าง ๆ ที่นำมาเป็นอาหารของนักท่องเที่ยว ทั้งปลาทู ปลาจะระเม็ด และอื่น ๆ อีกทั้งยังสามารถดื่มด่ำกับท่องเที่ยวใต้น้ำ ส่วนใหญ่บริษัทขายแพกเกจท่องเที่ยวดำน้ำจะขายควบคู่กับกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเล จะมีกิจกรรมหลัก ๆ จะอยู่ในช่วงพฤษภาคม-ตุลาคม นี้
สำหรับกิจกรรมการท่องเที่ยวไฮไลต์แต่ละเดือนในจังหวัดชุมพร
เดือนพฤษภาคม 2561 เตรียมจัดงาน “กรมหลวงชุมพร” ซึ่งเป็นที่เคารพของทหารเรือและยังประโยชน์ทางการแพทย์จนได้ชื่อว่าหมอพร จะจัดวันที่ 19 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์ท่าน ทางจังหวัดชุมพรร่วมกับกองทัพเรือกำหนดจะปรับปรุงพัฒนา “เรือรบหลวงชุมพร” ซึ่งเป็นเรือตอปิโดลำสุดท้ายของโลกที่เหลืออยู่ โดยจะมีพิธีบวงสรวงและวัตถุมงคล นำรายได้มาสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ ต่อไปจะได้ให้เยาวชนได้มาเรียนรู้พร้อมกับเทิดพระเกียรติกรมหลวงชุมพรด้วย
เดือนมิถุนายนนี้มีกิจกรรม “วิ่งแหวกทะเล” มีนักท่องเที่ยวนับพันคนเข้ามาร่วมงาน โดยจะต้องดูว่าช่วงวันที่น้ำทะเลลงต่ำสุด ก็จะประกาศให้นักวิ่งมารวมตัวกันวิ่งตั้งแต่เกาะพิทักษ์ อำเภอหลังสวน แล้วจะแจ้งนักท่องเที่ยวในช่วงก่อนเริ่มงาน
เดือนกรกฎาคม จะจัดกิจกรรม “วันวิสาขะโลก” ชุมพรเป็น 1 ใน 4 พระธาตุแดนใต้อยู่ที่อำเภอสวี ปีนี้จะมีพิธีเขียนผ้าพระบทพร้อมกับแห่ผ้าขึ้นธาตุ ระหว่าง 27-28 กรกฎาคม 2561
ผอ. วิริยากล่าวว่า ด้วยความหลากหลายของแหล่งและกิจกรรมการท่องเที่ยว จึงได้คัดสรรแม่เหล็กหลัก คือ “แหล่งท่องเที่ยวทะเล” โดยไม่ทิ้ง “แหล่งท่องเที่ยวรอง” ขณะนี้ได้สร้างการรับรู้เนื่องจากคนส่วนใหญ่เห็นว่าชุมพร ระนองเป็นเมืองผ่าน ดังนั้นจึงใช้วิธีนำสื่อบล็อกเกอร์ชั้นนำ 10 เพจ เข้าไปรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว และนำเสนอมุมมองแปลกแหวกแนว จุดดำน้ำสวยงาม วิถีชุมชน อาหารถิ่น เช่น ชุมพรมีไข่แมงดานำมาทำเป็นขนมหวาน จุดแข็งดังกล่าวหลายฝ่ายจึงต้องการทำเป็น Gastronomy กระแสตอบรับดีมาก วัดและประเมินได้จากช่วงเทศกาลสงกรานต์นักท่องเที่ยวยืนยันดูข้อมูลจากเพจของบล็อกเกอร์ต่าง ๆ
อีกทั้งยังได้ทำ MOU กับ 4 สมาคมท่องเที่ยวในประเทศ ควบคู่กับเดินทางไปโร้ดโชว์นำโดยผู้อำนวยการภุมิภาคภาคใต้ คัดสรรสินค้าไปนำเสนอผ่าน Sale Call บุกเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวในภาคอีสาน ตอนนี้เริ่มจากนำผู้ประกอบการมาสำรวจพื้นที่ท่องเที่ยวทางทะเล โดยหลายเอเย่นต์ทั้งทางอีสานและกรุงเทพฯ ประทับใจ ทยอยส่งนักท่องเที่ยวเข้าชุมพรและระนองยาวไปจนถึงเดือนกันยายนนี้เรียบร้อยแล้ว
สำหรับในงาน “วันธรรมดา น่าเที่ยว” ระหว่าง 10-13 พฤษภาคม 2561 ที่จะจัดในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชุมพรมีไฮไลต์จะใช้เวทีนี้สร้างการรับรู้ “กิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำลึก” ในฐานะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทะเลสวยงามสุด ๆ พร้อมกับรณรงค์ให้ช่วยเก็บขยะใต้น้ำ จึงได้นำผู้ประกอบการดำน้ำทั้งหมดมาขายในงานนี้ โดยมีโปรโมชั่นแพกเกจดำน้ำลึกและน้ำตื้น ลด 15-30 % โดยจะประเมินสถานการณ์การขายของภาคอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย
ตลอด 2 ปีนี้ ชุมพร ทำรายได้เติบโตดีมากแล้วจากงาน Diving ที่จัดควบคู่กับงาน วันธรรมดา น่าเที่ยว ปีนี้ตั้งเป้าจะมียอดขายเพิ่ม 20 % พร้อมทั้งเตรียมแจกหมอนตุ๊กตาปลาผีเสื้อเหลืองชุมพรเป็นสัญลักษณ์ความรักของโลก (ปีที่แล้วแจกตุ๊กตาฉลามวาฬ) เพื่อให้กลุ่มผู้ซื้อแพกเกจดำน้ำลึกประทับใจ รวมทั้งโปรโมตร้านอาหารที่เข้าร่วมกิจกรรม จะดึงจุดสนใจได้พอสมควร เพราะนักดำน้ำส่วนใหญ่ชอบของหายากกลับบ้านเป็นที่ระลึก
ภายในงาน “วันธรรมดา น่าเที่ยว” ททท.จะเน้นขายการท่องเที่ยว ชุมพร ระนอง เรื่องความสด สงบ ไม่วุ่นวาย สำคัญสุดคือจุดขายทะเลชุมพรสะอาดที่สุด จูงใจให้คนที่อยากเรียนดำน้ำจะมาเที่ยว ความแตกต่างคือแค่นั่งเรือเพียง 30 นาที ก็พบแหล่งดำน้ำแล้ว แตกต่างจากดำน้ำในทะเลจังหวัดอื่นจะต้องใช้เวลานั่งเรือ 1-2 ชั่วโมง
ททท.สำนักงานชุมพร ได้ทุ่มเทสร้างสรรค์การท่องเที่ยวเมืองรอง “ชุมพร-ระนอง” ใน 2 ฝั่งมหาสมุทรให้กลายเป็นสวรรค์แห่งใหม่ในการท่องเที่ยวทางทะเลอันสวยงามทั้งน้ำตื้น น้ำลึก และเมืองสุขภาพชั้นนำของประเทศ เพื่อที่จะเป็นแม่เหล็กขั้วใหม่ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวคนไทยและนานาชาติเข้าไปกระจายเม็ดเงินสู่ชุมชนท้องถิ่นให้ได้มากที่สุด
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “วีระศักดิ์นำคิงเพาเวอร์นำร่องมอบห้องน้ำ10ล้านเชียงใหม่”
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ล่าสุดลงพื้นที่กับนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ พร้อมทีมผู้บริหาร จัดทำกิจกรรมโครงการส่งมอบและเปิดห้องน้ำสาธารณะที่สวนพฤกษศาสตร์ เชียงใหม่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำร่องแห่งแรก 10 ล้านบาท โดยทั้งสองฝ่ายได้ออกแบบร่วมกันเพื่อการท่องเที่ยวสำหรับคนทั้งมวลหรือ Tourism for All ทั้งผู้บกพร่องทางร่างกาย/คนพิการ เด็ก ครอบครัว และผู้สูงวัย สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างสะดวก ปลอดภัย พร้อมทั้งเลือกทำเลห้องน้ำสร้างห้องน้ำไว้ติดลานจอดรถ ใกล้อาคารบริการเครื่องดื่ม และทางเดินชมยอดไม้หรือcanopy walk อันสวยงาม
โดยมีผู้อำนวยการองค์การสวนพฤษศาสตร์ มารับมอบโครงการเพื่อรับไปดูแลรักษาต่อในระยะยาว เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในบางช่วงบางวันมากถึง วันละ 4,000 คน ไฮไลต์ของสถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติตั้งอยู่บนเขาห่างจากอำเภอเมืองเชียงใหม่ราว 35 นาที
“เพื่อความมั่นใจผมลองนั่งรถวีลแชร์เข้าห้องน้ำ พร้อมกับสำรวจทางลาด วงกบ ราวจับ สายกริ่งเรียกความช่วยเหลือ บานเลื่อน ป้ายบอก แสงส่องสว่าง สายล้างชำระ การทำพื้นเทลาดเพื่อให้น้ำไม่นองง่าย ๆ หลังเสร็จภารกิจส่งมอบโครงการห้องน้ำสาธารณะในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเรียบร้อย ทุกคนก็ช่วยกันทาสีเก้าอี้ชมสวน ปลูกต้นไม้ร่วมกันเพิ่มเติม” นายวีระศักดิ์กล่าว
ข่าวที่ 2 “ททท.ผุดหนังโฆษณา-เพลงดันอะเมซิ่งไทยเท่ภาค2”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า ได้ เปิดตัว แคมเปญ “amazing ไทยเท่” ภาคสองโดยเน้นการผลิตภาพยนต์โฆษณาโดยใช้กลยุทธ์ดนตรีสื่อสารการตลาดหรือ Music Marketing ภายใต้แนวคิด “เมืองไทย สวยทุกที่ เท่ทุกเวลา สามารถชวนคนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวในมิติร่วมสมัย และชูความเป็นไทยในภาพลักษณ์ที่ “เท่” ทันสมัย มีสไตล์ ผ่าน “ไทยเท่ Music Story” โดยได้นำ “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” มาร่วมร้องเพลงใหม่และสร้างแรงบันดาลใจปลุกกระแสไทยเที่ยวไทย และ หนึ่ง ETC ร่วมถ่ายทอดบทเพลงยามรัก
แคมเปญ อะเมซิ่ง ไทยเท่ คือหนึ่งในการสร้างแคมเปญสื่อสารการตลาดในประเทศ ตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับตลาดในประเทศ ปี 2561 พร้อมกับนำเสนอภาพลักษณ์วิถีไทย “เท่” ในมิติที่ร่วมสมัย ให้เกิดการรับรู้และสร้างมุมมองใหม่ต่อการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนและเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองรอง นำเสนอความ “เท่” และ “มุมมอง” ของการเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทยในมิติร่วมสมัย ชูความเป็นไทยในภาพลักษณ์ที่เท่ ทันสมัย มีสไตล์ เข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำเสนอมุมมองใหม่จากการเดินทางท่องเที่ยวทำให้ทุกการเดินทางมีแต่เรื่องมหัศจรรย์
โดยจะช่วยสร้างแรงบันดาลและประสบการณ์ที่ดีในการเดินทางท่องเที่ยวผ่าน “ไทยเท่ Music Story” ด้วยวิธีใช้ดนตรีเล่าความเท่ของแหล่งท่องเที่ยวในเมืองไทย ซึ่งมีบทเพลง “ยามรัก” ที่ นายอภิวัฒน์ พงษ์วาท หรือ หนึ่ง วง ETC ถ่ายทอดความรู้สึก แล้วนำเสนอผ่านพรีเซ็นเตอร์ “นายอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ดารานักแสดงมาดเซอร์ที่สามารถสะท้อนมุมมองด้านการท่องเที่ยวได้อย่างลงตัวควบคู่กับภาพยนตร์โฆษณาชุด “มุมมอง” จำนวน 2 เรื่อง เพื่อนำเสนอมุมมองและเรื่องราว “เท่” ของเมืองไทย เชิญชวนให้ทุกคนออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อพบความมหัศจรรย์ที่ไม่รู้จบของเมืองไทย โดยใช้ช่องทางทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ ผ่านการนำเสนอผลงานโฆษณาในรูปแบบต่างๆ และกิจกรรมทางด้านการสื่อสารการตลาด เพื่อสร้างกระแสและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเกิดความต้องการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ททท. ได้ดำเนินต่อยอดการสื่อสารจากแคมเปญหลักส่งเสริมการท่องเที่ยว 55 เมืองรอง สนับสนุนให้เกิดความยั่งยืน สื่อสารคุณค่า “วิถีไทย” ผ่านประสบการณ์เอกลักษณ์เฉพาะท้องถิ่น เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเห็นคุณประโยชน์จากการเดินทางและสามารถสัมผัสได้ถึงคุณค่าในเชิงมุมมองใหม่ ปลุกกระแสด้วยการจัดทำสกู๊ปพิเศษ ผ่านกลยุทธ์ Celebrity Endorsement ได้แก่ เจ้านาย-จิณเจษฎ์ วรรธนะสิน, ฌอน-จินดาโชติ, สิงโต นำโชค, ป้าตือ-สมบัษร ถิระสาโรช และไบร์ท-พิชญทัฬน์ จันทร์พุฒ เพื่อให้สามารถสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ
ในช่วงปลายปี 2561 ททท.เตรียมกิจกรรมไฮไลท์ การแสดงดนตรี “รวมพลคนเท่” โดยศิลปินชั้นนำเพื่อตอกย้ำช่วงสิ้นสุดแคมเปญ
ติดตามเข้าร่วมกิจกรรม Amazing ไทยเท่ ได้ที่ www.facebook.com/อะเมซิ่งไทยเท่ หรือ เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย 1672
ข่าวที่ 3 “บางจากจัดใหญ่ยิ่งเติมยิ่งคุ้มไฮดีเซลS”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชวนสมาชิกเข้าร่วมมหกรรมแคมเปญในการใช้น้ำมัน กับแคมเปญ “ยิ่งเติม..ยิ่งคุ้ม” สำหรับสมาชิกบัตรบางจากดีเซลคลับ วันนี้ - 31 ธ.ค. 61 เมื่อเติมน้ำมันบางจาก ไฮ-ดีเซลS รับคะแนนสะสมคูณ 2 (มูลค่าส่วนลดสูงสุด10 สต./ลิตร)
ด้วยวิธีง่าย ๆ ในการรับสิทธิประโยชน์จากสถานีบริการและผลิตภัณฑ์สินค้าของ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
1.เติมน้ำมันบางจาก ไฮดีเซลs รับคะแนนสะสมคูณ2 จากคะแนนสะสมที่ได้รับปกติ
(ปกติเติมน้ำมันดีเซล 4 ลิตร รับคะแนนสะสม 1 คะแนน)
2.การคิดคะแนนสะสมเมื่อเติมไฮดีเซลs : จำนวนการเติมน้ำมัน หาร 4(ผลลัพท์ที่ได้เศษปัดทิ้ง) คูณ 2 ตัวอย่าง เติมน้ำมัน 31 ลิตร คะแนนสะสมที่ได้เท่ากับ (31 หาร 4) คูณ 2
คะแนนที่ได้รับ 14 คะแนน
3.สามารถสะสมคะแนนจากการเติมน้ำมันดีเซลสูงสุดไม่เกิน 300 ลิตร/ครั้ง และไม่เกิน 2,000 ลิตร/เดือน
4.บัตรสมาชิก 1 ใบ สะสมได้ไม่เกิน 2 ครั้งต่อวัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.1651 กด 4
ข่าวที่ 4 “ทอท.ปลื้มACIดึงเป็นบอร์ดอินเตอร์ถึงปี’64”
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากสภาท่าอากาศยานระหว่างประเทศ (Airport Council International : ACI) แต่งตั้งให้ นางสาวศศิศุภา สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานยุทธศาสตร์) เข้ารับหน้าที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ ACI World Governing Board เริ่มตั้งแต่ 24 เมษายน 2561 – 23 เมษายน 2564
สำหรับบอร์ดชุดนี้มี 28 คน ได้รับการแต่งตั้งจาก ACI และ Immediate Past Chair ซึ่งจำนวนของคณะกรรมการของแต่ละภูมิภาคจะขึ้นอยู่กับปริมาณผู้โดยสารและจำนวนสินค้าและไปรษณียภัณฑ์เข้า - ออก มีวาระการทำหน้าที่ ACI World Governing Board คราวละ 3 ปี และต่อเนื่องได้ไม่เกิน 2 วาระ
นายนิตินัย กล่าวว่าการเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ ACI World Governing Board จะเพิ่มโอกาสให้ ทอท.เข้าไปมีบทบาทและส่วนร่วมเชิงรุกด้านการกำหนดนโยบายที่เกี่ยวกับการบริหารท่าอากาศยาน รวมทั้งโอกาสพบปะและสร้างความสัมพันธ์กับองค์กรและท่าอากาศยานต่างๆ ทั่วโลกนอกเหนือจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้เชิงลึกระหว่างกัน และเป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มช่องทางการตลาด หรือทำธุรกิจร่วมกันกับพันธมิตรจากท่าอากาศยานอื่นๆ ในอนาคตได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ทอท.ยังถือเป็นตัวแทนประเทศไทยที่มีบทบาทในองค์กรระดับโลก สร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีให้ประเทศด้วย เพราะทันที่มี ทอท.ได้เข้าเป็นสมาชิก ของ ACI ก็ได้ร่วมประชุมและกิจกรรมต่างๆ ที่ ACI จัดขึ้นในวันที่ 20 มีนาคม 2561 หลังจากนั้นในการประชุม ACI ประกาศรับรองให้ผู้บริหาร ทอท.เข้าตำแหน่งกรรมการอย่างเป็นทางการในงานประชุม ACI World Special Meeting of Members เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2561 โดยได้ให้เข้าร่วมประชุม 13th ACI Asia - Pacific Regional Meeting Assembly, Conference & Exhibition ณ จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น
ในงานดังกล่าว นางสาวศศิศุภา สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานยุทธศาสตร์) ทอท. ยังได้เป็นตัวแทนองค์กรขึ้นรับมอบประกาศนียบัตร Airport Carbon Accreditation ด้วยเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2561 ในโอกาสที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้รับการรับรอง Airport Carbon Accreditation ระดับที่ 3 “Optimisation” จากการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี มุ่งมั่นในการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในเวทีการประชุม 13th ACI Asia Pacific Regional Assembly, Conference and Exhibition ณ Tokyo Bay Makuhari Hall จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น
ช่วงที่ 2 จะชวนไปเที่ยวสร้างประโยชน์คืนสู่ท้องทะเลไทยกับทริป “ล่องทะเลช่องแสมสาร” อำเภอสัตหีบ ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ในระบบปิดที่ Percula ศูนย์เพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนในแสมสาร จังหวัดชลบุรี หลังจากนั้นก็ร่วมกับกองทัพเรือมุ่งหน้าสู่แหลมฉบังนำต้นกล้าโกงกางไปปลูกป่าให้สัตว์น้ำ ชีวิตดีดี๊เมื่อได้เที่ยวอย่างรู้คุณค่าของการคืนประโยชน์สู่ธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ละเลยเรื่องสุขภาพ “
@เที่ยวทะเลแสมสารไปปลูกป่าโกงกางแหลมฉบัง
วันนี้ขอเปิดฟ้าในฝั่งทะเลอ่าวไทย บริเวณแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เพื่อท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติเรียนรู้ระบบนิเวศน์ในระบบปิดและธรรมชาติกันที่ “Percula-ศูนย์เพาะพันธุ์ปลาการ์ตูน” ในพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะทะเลไทย หมู่บ้านช่องแสมสาร อำเภอสัตหีบ เพื่อการเรียนรู้ศึกษาทุกเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตของทะเลอ่าวไทย ก่อนจะมุ่งลงหน้าลงน้ำ นำกล้าโกงกาง ไปปลูกกันอย่างสนุกสนาน ร่วมกิจกรรมปักฉบับ ๆ แบบเป็นทีมได้เลย สนุกไปอีกแบบ
เริ่มต้นการเดินทางท่องเที่ยวครึ่งวันแรกช่วงเช้าเดินเข้าไปยัง “Percula-ศูนย์เพาะพันธุ์ปลาการ์ตูน” ทำความรู้จักกับทะเลไทยให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตทั้งสัตว์และพืชใต้ทะเลเขาอยู่กันอย่างไร พอตกบ่ายก็ขึ้นเรือมุ่งหน้าสู่ “เกาะแสมสาร” แล้วปั่นจักรยานวัดกำลังขา ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นกันพอหอมปากหอมคอ ยามค่ำคืนลองก่อกองไฟทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทำความรู้จักกับเพื่อน ๆ ให้มากขึ้น เพราะเช้าวันถัดไปจะต้องกอดคอกันไปช่วยทหารเรือนำต้นกล้าไปร่วมปลูกป่าโกงกางคืนชีวิตให้ธรรมชาติงดงามอยู่ต่อไป
เข้าสู่วันที่สองนั่งเรือไปยัง “ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล” แล้วจะต้องทึ่งกับสัตว์ดึกดำบรรพ์อายุกว่าร้อยปี ถึงเต่าทะเลจะต้วมเตี้ยมแต่ก็ยังประโยชน์ต่อโลกมากมายที่ฉายให้เห็นภาพการพึ่งพาซึ่งกันและกันในวิถีธรรมชาติแห่งท้องทะเลอ่าวไทย
จากนั้นได้เวลานำกล้าไม้โกงกางไปยัง “แหลมฉบัง” เพื่อร่วมปลูกป่าแบบสร้างกันสรรค์กันแล้ว วิธีการสร้าง “ชุมชนใต้ท้องทะเล” นอกจากปลูกป่าโกงกางแล้ว ยังสามารถเตรียมท่อพีวีซีเพื่อใช้ยึดปะการังไว้ในบริเวณที่เหมาะสมระหว่างพื้นดินกับป่าชายเลนที่เราเลือกช่วยกันปลูกกล้าโกงกางลงไป เพื่อคืนความสมบูรณ์สู่ธรรมชาติอีกครั้ง
ต่อด้วยกันเก็บขยะในป่าชายเลนขึ้นมาเพื่อลดปริมาณขยะ ทำให้ป่าชายเลนเป็นบ้านที่สมบูรณ์ของสัตว์น้ำ
ก่อนกลับอย่าลืมอุดหนุนผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน ซึ่งมีอาหารทะเลแห้งและแปรรูปให้เลือกมาฝากคนทางบ้าน
สนใจจะท่องเที่ยวเพื่อคืนประโยชน์สู่สังคมด้วยการปลูกกล้าป่าโกงกางในแหลมฉบัง สอบถามได้ที่ โรงเรียนวัดแหลมฉบัง โทร.038-494-4702
@วิธีออกกำลังกายอย่างปลอดภัยในหน้าร้อน
ช่วงอากาศร้อนหลายๆคนมักเลี่ยงไม่ออกกำลังกาย หรือไม่ทำกิจกรรมต่าง ๆ นอกบ้าน แต่เลือกจะอยู่ในห้องปรับอากาศที่บ้าน หรือห้างสรรพสินค้า แต่จริงๆ แล้วการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรทางกาย เช่น ทำสวน ล้างรถ ฯลฯ สามารถที่จะทำได้ในช่วงที่มีอากาศร้อน โดยต้องระวังเรื่องของอากาศที่ร้อนการเสียเหงื่อที่มากจนเกินไป ซึ่งร่างกายจึงต้องพยายามขับเหงื่อออกมาให้มากกว่าปกติ ส่งผลให้ระบบของร่างกายทำงานหนักขึ้นและยังทำให้ร่างกายสูญเสียแร่ธาตุต่างๆ อีกด้วย
สิ่งที่ควรทำถ้าต้องออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมทางกายในช่วงที่มีอากาศร้อน คือ
1.จิบน้ำบ่อยๆ ทุกๆ 15 – 30 นาที ในขณะที่ออกกำลังกาย (ใช้จิบ ไม่ควรดื่มทีเดียวหมดขวด)
2.พยายามใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
3.นำผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัว (จะช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ดียิ่งขึ้น)
ในกรณีที่ต้องอยู่ในสภาวะที่มีอากาศร้อนเป็นระยะเวลานานๆ อาจจะต้องดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่เพื่อชดเชยกับแร่ธาตุที่ร่างกายสูญเสียไปจากการขับเหงื่อ การดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ที่มีความเข้มข้นของน้ำตาลสูงเกินกว่า 10-20% จะขัดขวางการดูดซึมของกระเพาะอาหาร ทำให้ท้องอืด จุกเสียดได้ ส่วนการดื่มน้ำอัดลมที่มีความเข้มข้นสูง ไม่ควรทำ เพราะนอกจากจะทำให้ความเข้มข้นของน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นแล้ว ยังมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิดขึ้นอีก กระเพาะอาหารขยายตัวมากขึ้นขัดขวางการหดตัวของกล้ามเนื้อกระบังลม
เราควรสังเกตว่า ร่างกายเราเสียเหงื่อมากเกินไปหรือไม่ ให้ดูจากอาการเหล่านี้
1.รู้สึกเพลีย 2.ไม่มีแรง 3.ปากแห้ง 4.กระหายน้ำ
อาการที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมทางกายในสภาวะที่มีอากาศร้อน ได้แก่
1.ตะคริว (Heat Cramps) เกิดจากความไม่สมดุลของแร่ธาตุในร่างกายจากการสูญเสียเหงื่อ ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อหดตัวเกร็งอย่างรุนแรง รู้สึกเจ็บปวดมาก บริเวณที่พบเห็นบ่อยๆ คือ ต้นขา และน่อง วิธีแก้ไขให้พยายามยืดเหยียดกล้ามเนื้อในส่วนที่มีการหดเกร็ง
2.เพลียแดด (Heat Exhaustion) เกิดจากการที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงแต่ไม่เกิน 40 องศา หรือในกรณีบางคนที่ไม่เคยออกกำลังกายในสภาพอากาศที่ร้อน ทำให้เกิดอาการเพลีย อ่อนแรง กระหายน้ำ ปวดหัว อาจจะมีอาการผิดปกติอื่นๆร่วมด้วย วิธีแก้ไข ให้พยายามหลบเข้าที่ร่ม หาที่ที่มีอากาศถ่ายเท หรืออาจจะนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัว เพื่อให้ร่างกายระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น
3.ลมแดด (Heat Stroke) เกิดจากการออกกำลังกายในสภาพอากาศที่ร้อนเป็นระยะเวลานาน ทำให้อุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้นมากกว่า 40 องศา จะมีอาการในช่วงแรก คือ กระหายน้ำ ตัวร้อน หายใจหอบสั้นถี่ ปากคอแห้งผาก ถ้าไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง อาจจะมีอาการเวียนศีรษะ ตาพร่า ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายและสติสัมปชัญญะได้น้อยลง เกิดคลื่นไส้ อาเจียน อาการก่อนที่จะเป็นลมแดด คือ ผิวหนังแห้ง เหงื่อไม่ออก และอาจถึงขั้นหมดสติซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “คนไทยนับแสนเฮUKเปิดให้ขอวีซ่าผ่านApp”
Jiten Vyas ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติภาคพื้นของ VFS Global เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เปิดตัวศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าผ่านแอพพลิเคชั่นวีซ่ามือถือในประเทศไทยซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับคนไทยที่จะขอวีซ่าไปยังประเทศในกลุ่มสหราชอาณาจักร (United Kingdom : UK) โดยทำศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าเคลื่อนที่ หรือ Mobile Visa Application Center-MVAC โดยผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือสามารถโหลดแอพลิเคชั่น ที่ติดตั้งเทคโนโลยี end-to-end เพื่อลงทะเบียนรับข้อมูลและรับใบสมัครวีซ่าทั้งส่งแบบบุคคลหรือกลุ่ม ที่จะเปิดบริการในกรุงเทพฯ 2 แห่ง คือ ลาดพร้าวและ สวนหลวง มีตึกทำการตั้งอยู่ที่ คริสตัลดีไซน์เซ็นเตอร์ (CDC) 1420/1 ถ. ประดิษฐ์มนูธรรมแขวงลาดพร้าวเขตปทุมวันกรุงเทพฯ(วันจันทร์ 09:30 - 15:00 น.) และ ธัญญาปาร์ค 735,735 / 1-8 ถนนศรีนครินทร์สวนหลวงกรุงเทพฯ (วันอังคาร 09.30 น. - 15.00 น.) มีค่าธรรมเนียม 3800 บาทต่อใบและต้องชำระผ่านบัตรเครดิตออนไลน์
"การเปิดแอพลิเคชั่นให้เขียนคำร้องขอวีซ่าถือเป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมของนวัตกรรมที่ทันสมัยและเป็นผู้นำตลาดของ VFS Global ในประเทศไทยและแสดงให้ UKVI และ VFS Global สามารถทำงานร่วมกันเพื่อให้บริการลูกค้าของเราในประเทศไทยและทั่วโลก" นายนิคเคร้าช์ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคของวีซ่าสหราชอาณาจักรกล่าว และการเข้าเมืองในเอเชียใต้และตะวันออกเฉียงใต้ "
MVAC นำเสนอหลักการที่สำคัญในวิธีการทำงาน 2 ประการ คือ 1.การใช้เทคโนโลยีที่ดีขึ้นและ 2.การให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้าในขั้นตอนการขอวีซ่ามากขึ้น ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่และเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแล้ว VFS Global สามารถเสนอข้อเสนอที่ยืดหยุ่นและสร้างสรรค์ขึ้น เพื่อให้ชาวไทยที่ยื่นขอวีซ่าประเทศอังกฤษแต่ละปีมีจำนวนประมาณ 80,000 คน สามารถทำได้ในรูปแบบที่ทันสมัยและสะดวกสบายมากขึ้น "
โดยผู้ใช้บริการจะต้องเลือกกรุงเทพมหานครเป็นสถานที่และเลือก "Mobile VAC - Crystal Design Center" หรือ "Mobile VAC - Thanya Park" ในหมวดที่ได้รับการแต่งตั้ง ผู้สมัครยังสามารถกรอกใบสมัครออนไลน์และจองนัดหมายสำหรับที่อยู่ที่ระบุไว้ ทางออนไลน์ได้
ข่าวที่สอง “มีเลียผุดโรงแรมใหม่ภูเก็ตไม้ขาวดูดทั่วโลกเพิ่มปี’64”
นายเมธาพงษ์ อุปัติสิงห์ กรรมการผู้จัดการโรงแรม ภูเก็ต วิลล่า กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับ Melia Hotels International หนึ่งในบริษัทชั้นนำของโรงแรมรีสอร์ทใหญ่ที่สุดในโลกลงทุนเปิดโครงการ Phuket Villa Group เพื่อขยายกลุ่มโรงแรมในไทย พัฒนาบริการโรงแรมมีเลีย ภูเก็ต ไม้ขาวพร้อมเปิดให้บริการเป็นแห่งที่ 5 ในไทยภายในปี 2564 เป็นต้นไป เพื่อดึงกำลังซื้อตลาดท่องเที่ยวที่เฟื่องฟูจากทั่วโลกที่หลั่งไหลเข้าสู่จังหวัดภูเก็ต
สำหรับ Melia Phuket Mai Khao ประกอบด้วย พูลวิลล่าส่วนตัว 101 หลัง 2 สระว่ายน้ำปา ห้องอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลาย ทำเลที่ตั้งของรีสอร์ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินนานาชาติภูเก็ต มีสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียงทั้ง อุทยานแห่งชาติสิรินาถ รอยัลภูเก็ตมารีน่าและท่าเรือแหลมหิน
ข่าวที่สาม “ไทยแอร์เอเชียเพิ่มบินตรงอุดร-พิษณุโลกตั๋วโปร456บาท”
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ไทยแอร์เอเชียพร้อมบุกตลาดในประเทศ โดยเตรียมเพิ่มความถี่เที่ยวบิน ไป-กลับ 2 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ-อุดรธานี จากวันละ 5 เป็น 6 เที่ยว กรุงเทพฯ-พิษณุโลก จากวันละ 2 เป็น 3 เที่ยว ซึ่งการเพิ่มเที่ยวบินดังกล่าวจะสร้างความสะดวกสบายในการเดินทางให้ผู้โดยสารที่สามารถเลือกเวลาบินได้ตามความต้องการ อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายการบินภายใประเทศที่เข้มแข็ง
อีกทั้งแอร์เอเชียได้จัดทำโปรโมชั่นพิเศษราคาเริ่มต้นที่เที่ยวละ 456 บาท เริ่มจองราคาพิเศษได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 6 พฤษภาคม 2561 และสามารถเดินทางได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2561 จองได้ทาง www.airasia.com และทุกช่องทางจำหน่าย ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
“แอร์เอเชียเพิ่มความถี่เที่ยวบินในหลากหลายเส้นทางบิน เพื่อรองรับความต้องการบินภายในประเทศ โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และในปีนี้เราเน้นการขยายการเติบโตของตลาดในประเทศ สร้างเส้นทางบินให้ครอบคลุม และเพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางต่างๆ ให้ผู้โดยสารเลือกเดินทางได้ตามเวลาที่ต้องการ” นายสันติสุข กล่าว
ติดตามฟังรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น