ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
ทอท.จัดทัพ6สนามบินรับคลื่นสงกรานต์3ล้านคน
บิ๊กดอนเมืองผุดเครือข่ายแก้ทุกปัญหาเดินทาง
คิงเพาเวอร์เปิดให้ชุมชนของบทำห้องน้ำทั่วไทย
สมาชิกบัตรคิงเพาเวอร์รับส่วนลดฮ็อตดีลรางน้ำ
ททท.ใช้เบลล่าบูมสงกรานต์เมืองรองลดภาษี
BiiCบางจากทุ่ม300ล้านรุกสตาร์ตอัพพลังงาน
สุวรรณภูมินำลิ่วดูดรายได้สงกรานต์เข้าประเทศ
พร้อมแล้ว13เมืองหลักชวนเที่ยวสงกรานต์ปีจอ
ระวัง ! โรคอาหารเป็นพิษมีอันตรายถึงชีวิตได้
แนะเส้นทาง4ภาคกลับบ้านช่วงสงกรานต์รื่น
การบินไทยฉวยจังหวะทำ3เรื่องปีใหม่ไทย

สวัสดีวันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2561 เต้อนรับเข้าสู่รายการ  “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.กับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen    และบล็อกเกอร์ #gurutourza

ช่วงที่ 1 เกาะติด ทอท.จัดทัพ 6 สนามบิน รับมือคลื่นมหาชนแห่เที่ยวตลอดสงกรานต์กว่า 3 ล้านคน เปิดศูนย์จัดระเบียบคมนาคมปักหลักใน “ดอนเมือง” กางแผนระบาย “ผู้โดยสาร-เที่ยวบิน-ลานจอด-จราจรแออัด-แอร์ไลน์สบริการล่าช้า-รับแท็กซี่จดทะเบียนเพิ่ม-ขยายเส้นทางรถสาธารณะ ขสมก.-คุมราคาอาหารทุกจุด” ด้าน “สนามบินสุวรรณภูมิ” คึกคักทั้งคนและเที่ยวบินมากว่าดอนเมือง 2 เท่า แนะนักท่องเที่ยวยึดกฎเข้มขึ้นเครื่องช่วงเทศกาล


นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณรัตน์
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.

นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า ได้วางระบบบริหารจัดการประมาณจราจรผู้โดยสารและเที่ยวบิน โดยจัดตั้ง “ศูนย์อำนวยความสะดวกผู้โดยสารดอนเมืองทั้งอาคารภายในประเทศและระหว่างประเทศ” ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ของ ทอท.และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และทางคมนาคมเชื่อมโยงได้ประสานกับทาง สน.ดอนเมือง เขตดอนเมือง แขวงการทางพิเศษ สน.วิภาดี สำนักนโยบายขนส่ง (สนข.) เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ร่วมกัน กำหนดแผนจะต้องเคลียร์จราจรบริเวณถนนวิภาวดีให้ได้ภายใน 15-30 นาที  และจัดเตรียมรถขนส่งมวลชนเพิ่มเส้นทางละ 10 คัน จากเดิมมีบริการประจำอยู่แล้ว 4 สาย

 ทางด้าน “ลานจอดรถ” มีพื้นที่บริการฟรีบริเวณคลังสินค้าดอนเมือง อาคาร 3-4 จอดได้ประมาณ 750 คัน ระหว่าง 11-17 เมษายน 2561

“การเพิ่มจำนวนพนักงานช่วงเทศกาล” ทั้งของ ทอท.และพันธมิตรเกี่ยวข้องภายในสนามบินจะเพิ่มอัตรากำลังอีก 25 % เพื่อรองรับผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้น ประเมินแล้วตลอดสงกรานต์จะมีผู้โดยสารผ่านเข้า-ออก สนามบินดอนเมืองเฉลี่ยวันละ 122,000 คน โดยเฉพาะการเตรียมเริ่มหยุดวันแรกและวันเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ เริ่มจากการเดินทางมายังสนามบินควรจะเผื่อในประเทศ 1 ชั่วโมง ต่างประเทศอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ป้องกันเหตุการณ์เฉพาะหน้ากรณีการจราจรบนถนนวิภาวดีหน้าดอนเมืองหนาแน่นกว่าปกติ


ส่วนการเดินทางปกติแนะนำให้ใช้บริการขนส่งมวลชนหรือแท็กซี่ แก้ไขปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอ ซึ่งมีรถรับส่งจากลานจอดอาคารคลังสินค้ามายังอาคารผู้โดยสาร ส่วนรถขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ จะมีออกระหว่างดอนเมือง สาย A2, A3, A4 ไปยัง หมอชิต อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สีลม สนามหลวง จะออกทุก 20 นาที ขณะที่บริการ “รถแท็กซี่” ได้ประสานกับทางชมรมแท็กซี่เพื่อสำรองรถไว้ในช่วง 2 วันก่อนและหลังเทศกาล พร้อมทั้งเปิดให้รถแท็กซี่สาธารณะเข้าไปจดทะเบียนกับ ทอท.ดอนเมือง โดยมีเงื่อนไขต้องเป็นขับขี่ที่ปฏิบัติตามกฎการขนส่งกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด สภาพรถต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตอนนี้เปิดให้จดทะเบียนเพิ่มได้ทุกวัน บริเวณคลังสินค้า 2 ดอนเมือง



แนวทางการระบายผู้โดยสารและเที่ยวบินภายในพื้นที่ก่อนขึ้นเครื่องและในลานบินนั้น ด้วยปริมาณขีดความสามารถทางการรองรับของทางวิ่ง (runway) ทางขับ (taxiway) เพื่อให้บริการเที่ยวบินเชิงพาณิชย์แบบประจำตามปกติในสนามบินดอนเมืองทำได้เฉลี่ยชั่วโมงละ 40 เที่ยว กรณีที่หน่วยราชการมีเที่ยวบินน้อยกว่า 10 ชั่วโมง ทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จะจัดตารางเที่ยวบินเข้าไปเสริม โดยสนามบินดอนเมืองประเมินสถานการณ์เที่ยวบินช่วงสงกรานต์ปีนี้จะมีเฉลี่ยวันละ 832 เที่ยว ซึ่งจะทำให้ดอนเมืองพร้อมที่จะบริการได้อย่างไม่มีปัญหาเลยเฉลี่ยชั่วโมงละ 50 เที่ยว ส่วนที่จะปัจจัยต่อเที่ยวบินจริง ๆ คือ “สภาพอากาศ” ปลายทางอาจจะทำให้เที่ยวบินออกล่าช้า ทาง ทอท.ได้เตรียมรองรับหากล่าช้าเกินกว่า 2 ชั่วโมง แล้วมีผู้โดยสารขึ้นไปนั่งอยู่ในเครื่องบินแล้วก็จะขอความร่วมมือจากสายการบินให้นำผู้โดยสารลงมาแล้ว ทอท.จะจัดพื้นที่พักกับน้ำดื่มบริการมอบหมายทีมประชาสัมพันธ์ดูแลความเรียบร้อย

ส่วนการ “ควบคุมจราจรทางอากาศ” ดอนเมืองมีชื่อเสียงเป็นสนามบินตรงต่อเวลาติดอันดับ 4 ของโลก จึงขอให้ประชาชนและผู้ใช้บริการมั่นใจต่อบริการของดอนเมืองและ ทอท.

กรณีหากเกิดปัญหาผู้โดยสารในอาคารผู้โดยสารหนาแน่นจนกลายเป็นกระแสโพสต์กันในโซเชียล มีเดีย ส่วนใหญ่มาจากสภาพอากาศ หรือสายการบินทำขั้นตอนตรวจเช็คก่อนขึ้นเครื่องช้าก็จะต้องหารือถึงช่วงเวลาบางช่วงสายการบินต้องเร่งแก้ไขและแจ้งผู้ใช้บริการให้เร็วที่สุด ทาง ทอท.มาภารกิจคือช่วยประชาสัมพันธ์ดูแลน้ำดื่มในขณะเที่ยวบินล่าช้าดังกล่าว



สำหรับ “มาตรการดูแลราคาอาหารภายในสนามบินของ ทอท.” หลังจากผู้ตรวจการแผ่นดินลงพื้นที่มาตรวจเยี่ยมทุกฝ่ายก็ได้กำชับและตรวจตราราคาอย่างเข้มงวดมาตลอด โดยทุกสนามบินจะมีราคาอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกอย่างหลากหลายเริ่มจากอิ่มละ 30 บาท ในดอนเมืองจะอยู่บริเวณพื้นที่สำนักงานอาคารดอนเมือง ทางด้านทิศเหนือ ตอนนี้มีนักท่องเที่ยวจีนมาใช้บริการช่วงเช้าของทุกวัน และนักท่องเที่ยวเวียดนามใช้บริการช่วงเย็นด้วย ราคา 30-60 บาท/จาน บริเวณอาคารผู้โดยสารในประเทศ ตรงอาคารจอดรถ 7 ชั้น อยู่ชั้น 4

สำหรับการไปใช้บริการสนามบินทั้ง 6 แห่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมีผู้คนจำนวนมากปริมาณหนาแน่น ดังนั้น ทอท.จึงขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามกฎ เรื่องของเหลว น้ำดื่ม เจล ต้องโหลดกระเป๋า และหากใช้บริการโลว์คอสต์แอร์ไลน์สปกติผู้โดยสารจะไม่โหลดสัมภาระกระเป๋า ก็ต้องจัดเตรียมของเหลวห้ามเกินกว่าที่กำหนด หรือกระเป๋าหากต้องการโหลดน้ำหนักจะต้องไม่เกิน 7 กิโลกรัม หรือแม้แต่วัสดุที่คล้ายอาวุธ ไม่ว่าจะเป็นปืนฉีดน้ำ เครื่องโกนหนวด และควรเผื่อเวลาเช็คอินก่อนขึ้นเครื่องโลว์คอสต์แอร์ไลน์สจะปิดเคาน์เตอร์ 30 นาที ก่อนเวลาเครื่องออกจากสนามบิน

สำหรับสนามบินอื่น ๆ ที่สุวรรณภูมิ มีฟรีที่ longterm Parking กว่า 700 คัน หน้าอาคารผู้โดยสารหลัก จอดได้ 4,000 คัน พื้นราบรอบบริเวณอาคารผู้โดยสาร และโรงแรมสุวรรณภูมิ พื้นที่ดังกล่าวสามารถใช้บริการได้ทั้งหมด สำหรับผู้โดยสารจะมีเฉลี่ยวันละ 220,000 คน เที่ยวบินเฉลี่ยวันละ 1,200 เที่ยว มีปริมาณผู้โดยสารและเที่ยวบินมากกว่าดอนเมือง 2 เท่า

สนามบินภูเก็ตจะมีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละกว่า 60,000 คน ตั้งแต่เดือนเมษายน 2561 เป็นต้นไป จะรับมอบพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร ทำให้มีพื้นที่รองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น

ส่วนของ ทอท.ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร เพิ่มบุคลากรล่วงเวลาประจำเคาน์เตอร์มากขึ้น เพื่อให้บริการระบายคนให้เบาบางได้ภายในเวลารอบละ 45 นาที

สำหรับการติดต่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉินหรือขอคำแนะนำต่าง ๆ เพื่อใช้บริการสนามบินของ ทอท.ทั้ง 6 แห่ง คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงใหม่ เชียงราย ได้ที่ คอล เซ็นเตอร์ 1

ข่าวที่ 1 “คิง เพาเวอร์แจกงบทำห้องน้ำทั่วไทย-ส่วนลดกะรัต”



นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการโครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) นำร่องโครงการห้องน้ำชุมชนในแหล่งท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด KING POWER THAI POWER พลังคนไทย เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีในชื่อ ‘พลังคนไทย ห้องน้ำสุขใจ’ โดยได้สนับสนุนเงินลงทุนกว่า 10 ล้านบาท สร้างห้องน้ำมอบให้ชุมชนท่องเที่ยวทั่วประเทศกระจายตามพื้นที่กว่า 10 แห่ง นำร่อง 70 ห้อง แห่งแรกบริเวณศูย์พฤกษสศาสตร์  เชียงใหม่  และอื่น ๆ ซึ่งห้องน้ำทั้งมอบให้ชุมชนดูแล คาดจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในธันวาคม 2561 รวมทั้งหากมีโอกาสจะขยายการสร้างให้มากที่สุด

กลุ่ม บริษัท คิง  เพาเวอร์  สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการออกแบบและก่อสร้างห้องน้ำเป็นจำนวนทั้งสิ้น 70 ห้อง รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท สร้างตามมาตรฐสุขาในรูปแบบสากล ‘Universal Design’ สำหรับชาย หญิง และ ผู้พิการ เพื่อให้เป็นห้องน้ำของทุกคน

  รวมทั้งได้เปิดให้ทั่วประเทศขอรับเงินสนับสนุนการสร้างห้องน้ำในชุมชนท่องเที่ยว ตามกติกา 6 ข้อ ดังนี้

1. ชุมชนต้องมีพื้นที่ขนาด 5 เมตร X 10 เมตร เพื่อการก่อสร้างห้องน้ำ พลังคนไทย สุขาสุขใจ

2. ชุมชนที่มีสถานที่ท่องเที่ยวและมีนักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 500 – 1,000 คนต่อสัปดาห์

3. มีศักยภาพในการดูแล โดยมีการตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการดำเนินงานโครงการห้องน้ำชุมชนอย่างน้อย 5-7 คน

4. มีศักยภาพในการดูแลและรักษาความสะอาดได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายกับประชาชนผู้ใช้บริการ

5. ขอสงวนสิทธิ์เฉพาะชุมชนมีพื้นที่สาธารณะ เพื่อใช้ประโยชน์สำหรับบุคคลทั่วไป

6. เขียนแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของชุนชนตนเองเป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไปความยาวไม่เกินหน้ากระดาษ A4

สอบถามข้อมูลเพิ่มโทร. 02 677 8888 ต่อ 1513 และ1518

นอกจากนี้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยังได้ทำรายการส่งเสริมการขายระหว่างวันนี้ – 8 เมษายน 2561 ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ได้รายการส่งเสริมการขายรับส่วนลด On-Top 5% สำหรับสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ รับส่วนลด On-Top 5%  โดยให้สมาชิกบัตรช็อปสินค้าแผนกแฟชั่น  น้ำหอมและเครื่องสำอาง ครบ 5,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จรับเงิน  โดยใช้กะรัตสะสม 500 กะรัต แทนส่วนลด 800 บาท จากปกติ 500 บาท จำกัดการใช้กะรัต 500 กะรัต /  ใบเสร็จรับเงิน)  สอบถาม คอล เซ็นเตอร์ 1631

ข่าวที่ 2 “ททท.ชู5ธีมแต่งไทยทัวร์เมืองรองสงกรานต์รับ2หมื่นล้าน”



นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  เปิดเผยว่า ตลอดสงกรานต์ 2561ซึ่งเป็นเทศกาลทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ไทย ททท.ได้ร่วมสนับสนุนจัดแคมเปญ “สงกรานต์แต่งไทยไปเมืองรอง” โดยได้นางเอกสุดฮอตยุคนี้ “เบลล่า ราณี แคมเปน” มาร่วมรณรงค์โดยจัดทำยูทูบชวนแต่งชุดไทยไปเที่ยวเมืองรองสงกรานต์ในท้องถิ่นอย่างยิ่งใหญ่ใน 5 จังหวัดเมืองรอง พร้อมทั้งและให้นักท่องเที่ยวนำค่าใช้จ่ายเที่ยวเมืองรองไปลดหย่อนภาษีได้ตลอดปี 2561

สำหรับธีมการแต่งไทยไปท่องเที่ยว 5 เมืองรองช่วงสงกรานต์ปีนี้ ได้แก่

1.“นุ่งโจง ห่มสไบ เล่นน้ำแบบไทยๆ ณ สิงห์บุรี” ณ จังหวัดสิงห์บุรี

2. “มหาสงกรานต์ตะปอน ตำนานแห่เกวียนผ้าพระบาท” ณ จังหวัดจันทบุรี

3. “สงกรานต์มงคล ก่อพระทรายน้ำไหล ยิ่งใหญ่พวงมโหตร” จังหวัดกำแพงเพชร

4.“สงกรานต์ดีโน่สินธุ์ ถิ่นคนน่ารัก” จังหวัดกาฬสินธุ์

5.“เทศกาลมหาสงกรานต์แห่นางดานเมืองนครศรีธรรมราช” จังหวัดนครศรีธรรมราช

นอกจากนี้ ททท.ยังรณรงค์จัดงาน  “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์: Amazing Songkran 2018”ระหว่าง12-15 เมษายน 2561  ใน 13 พื้นที่หลัก และพื้นที่ศักยภาพเมืองรอง 5 จังหวัด รวมทั้งการเชิญชวนนักท่องเที่ยว “กลับบ้าน แต่งไทยไปเล่นสงกรานต์"โดยได้นำอัตลักษณ์วิถีไทยมาเสริมสร้างให้มีความโดดเด่น เพื่อส่งเสริมให้เป็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สามารถสร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำในเศรษฐกิจฐานรากได้

ททท. คาดการณ์ตลอดช่วงเทศกาลเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์นี้ 12 – 16 เมษายน 2561 จะมีรายได้สะพัดกระจายลงสู่ชุมชนทั่วประเทศรวม กว่า 19,378 ล้านบาท จากชาวไทยเดินทาง 3 ล้าน คน/ครั้ง เพิ่มขึ้น 12 % สร้างรายได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 15 % จาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1.การประกาศวันหยุดเพิ่มเติมของคณะรัฐมนตรี  12 เมษายน 2561 รวมวันหยุดต่อเนื่อง 5 วัน 2. มาตรการลดหย่อนภาษีสนับสนุนการท่องเที่ยว 55 เมืองรอง และ 3.ททท. กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวเมืองรองเต็มที่ 55 จังหวัด  และต่างชาติประมาณ 530,000 คน เพิ่มขึ้น 13 % สร้างรายได้กว่า 9,378 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21

ข่าวที่ 3 “บางจากทุ่ม300ล้านต่อยอดสตาร์ตอัพพลังงานใหม่”

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ Bangchak Initiative and Innovation Center หรือ BiiC ของบริษัทฯ ได้เข้าลงทุนในบริษัท Semtive และบริษัท Bonumose  Startup จากสหรัฐอเมริกา ปี 2561 เตรียมงบ 300 ล้านบาท ลงทุนธุรกิจ Startup ทั้งในไทยและต่างประเทศ เน้นต่อยอดธุรกิจด้านพลังงานสีเขียว ผลิตภัณฑ์ชีวภาพ และเทคโนโลยีดิจิทัล สนับสนุนนโยบาย Thailand 4.0 ในฐานะที่เป็นพันธมิตรรายแรกเมื่อปีที่ผ่านมาในกลุ่มเทคโนโลยีพลังงานและความยั่งยืน (Energy & Sustainability) ที่ Plug and Play Tech Center ซึ่งเป็น Startup Ecosystem ชั้นนำใน Silicon Valley สหรัฐอเมริกา บางจากฯ จึงมีโอกาสคัดเลือกและเสาะหา Startup ที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ สามารถนำมาต่อยอดให้กับธุรกิจของบริษัทได้

โดยสถาบัน BiiC ได้คัดเลือกและลงทุนในธุรกิจ Startup 2 ราย คือ บริษัท Semtive และบริษัท Bonumose จากสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วย 1. บริษัท Semtive ดำเนินธุรกิจด้านกังหันลมผลิตไฟฟ้ามีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ทั้งในส่วนของใบพัดกังหันขนาดเล็กที่ออกแบบพิเศษให้สามารถทำงานในระดับความเร็วลมต่ำซึ่งเหมาะสำหรับสภาพอากาศในไทย มีระบบไมโครอินเวอร์เตอร์เหมาะใช้งานตามบ้านเรือนและอาคารพาณิชย์ ทาง BiiC มองว่าเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถนำมาต่อยอดเข้ากับระบบ Blockchain เพื่อซื้อขายไฟฟ้ากันเองระหว่างบ้านสู่บ้านแบบ peer-to-peer ช่วยต่อยอดให้กับธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้าของบริษัท บางจากฯ ได้

2. Bonumose เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตน้ำตาลเพื่อสุขภาพจากวัตถุดิบที่เป็นพืชในกลุ่มแป้งและมีคุณสมบัติพิเศษ คือ เป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติ มีรสชาติเหมือนน้ำตาลทรายเมื่อรับประทานแล้ว ร่างกายจะดูดซึมพลังงานจากสารดังกล่าวน้อยกว่ากลูโคสที่มีในน้ำตาลทรายทั่วไป รวมถึงยังช่วยในการลดความดันโลหิตด้วย จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเบาหวานและผู้บริโภคที่รักสุขภาพหรือต้องการควบคุมน้ำหนัก ทาง BiiC เล็งเห็นว่าเป็นกลุ่มตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคตเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพ ช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตร สามารถต่อยอดธุรกิจชีวภาพของบริษัทและสอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 อีกด้วย

 สำหรับการลงทุนธุรกิจ Startup ทั้ง 2 รายนี้ ทางสถาบัน BiiC ลงทุนผ่าน BCP Innovation Pte. Ltd. (BCPI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบางจากฯ จัดอยู่ใน Series A สูงสุดรายละ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในปี 2561 สถาบัน BiiC ยังมีแผนในการเสาะหาเพื่อคัดสรรธุรกิจ Startup เพิ่มเติมทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น แบตเตอรี่ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการบริหารจัดการพลังงาน และกลุ่มผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้สินค้าเกษตรในไทยได้ เช่น เทคโนโลยีผลิตอาหารทางการแพทย์ ไบโอพลาสติกที่ย่อยสลายได้ ในส่วนไทยเน้นกลุ่มธุรกิจพลังงานสีเขียวและผลิตภัณฑ์ชีวภาพ และขยายขอบเขตครอบคลุมในด้าน Social Enterprise และ CSR ด้วยการ Promote Startup ในประเทศพร้อม Pitching ในกรุงเทพฯ

ข่าวที่ 4 “ทอท.คาดสงกรานต์6สนามบินทะลัก3ล้านคน ”


นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า ทอท.คาดการณ์ช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีผู้ใช้บริการรวมกว่า 3.01 ล้านคน ในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ (ทสภ.) ดอนเมือง (ทดม.) ภูเก็ต (ทภก.) เชียงใหม่ (ทชม.) หาดใหญ่ (ทหญ.) และแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.)

ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2561 จะมีเที่ยวบิน 17,550 เที่ยว เฉลี่ยวันละ 2,510 เที่ยว เพิ่มขึ้น 11.9 % มีผู้โดยสาร 3.01 ล้านคน เฉลี่ยวันละ  430,700 คน เพิ่มขึ้น 14.4 % สนามบินสุวรรณภูมิจะมีเที่ยวบินรวมมากสุด 7,310 เที่ยว เฉลี่ยวันละ 1,040 เที่ยว เพิ่มขึ้น 11.2 % มีผู้โดยสาร1.35 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละ193,400 คน เพิ่มขึ้น 10.4 % รองลงมาคือดอนเมืองมีเที่ยวบินรวม 5,530 เที่ยว เฉลี่ยวันละ 790 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 11.2 % มีผู้โดยสาร 911,500 คน เฉลี่ยวันละ 130,200 คน เพิ่มขึ้น 21.8 %

ขณะที่ภูเก็ตจะมีเที่ยวบิน 2,360 เที่ยว เฉลี่ยวันละ 340 เที่ยว เพิ่มขึ้น 30.0 % มีผู้โดยสาร 393,900 คน เฉลี่ยวันละ 56,300 คน เพิ่มขึ้น 16.8 % เชียงใหม่มีเที่ยวบินรวม 1,370 เที่ยว เฉลี่ยวันละ 200 เที่ยว เพิ่มขึ้น 0.5 % มีผู้โดยสาร 205,500 คน เฉลี่ยวันละ 29,300 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 10.5 % หาดใหญ่มีเที่ยวบิน 600 เที่ยว  เฉลี่ยวันละ 90 เที่ยว ลดลง 1.5 % มีผู้โดยสาร 91,000 คน เฉลี่ยวันละ13,000 คน เพิ่มขึ้น 3.0 % เชียงรายมีเที่ยวบินรวม 380 เที่ยว เฉลี่ยวันละ 50 เที่ยว เพิ่มขึ้น 8.0 % มีผู้โดยสาร 59,500 คน เฉลี่ยวันละ 8,500 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 23.2 %

ช่วงที่ 2 เตรียมตัวให้พร้อมกับการพักผ่อนตลอด “สงกรานต์วิถีไทย” ในกรุงเทพมหานคร และทั่วไทย 12 พื้นที่ ในเชียงใหม่ ลำปาง สุโขทัย ขอนแก่น นครพนม หนองคาย สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี สมุทรปราการ สงขลา (หาดใหญ่) และภูเก็ต ส่วนเรื่องสุขภาพให้ระวังโรคอาหารเป็นพิษอันตรายถึงชีวิต และข่าวห้ามพลาดช่วงสงกรานต์ กับข่าวกรมทางหลวงแนะเส้นทาง4 ภาคกลับบ้านคล่องปรื๋อ และการบินไทยชิงทำ 3 เรื่องรวด

@พร้อมเที่ยวสงกรานต์เมืองใหญ่ทั่วไทย13แห่ง



สงกรานต์ในกรุงเทพฯ  12 - 15 เมษายน 2561 ณ มณฑป สวนลุมพินี เขตปทุมวัน ชวนกันไปสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ จากพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร มาประดิษฐาน ณ มณฑป สวนลุมพินี เขตปทุมวัน เคลื่อนขบวนแห่ไปตาม ถ.ราชินี/ถ.พระอาทิตย์ แล้วร่วมกิจกรรม  ทำบุญตักบาตร รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ

พื้นที่ยอดนิยมในกรุงเทพฯ ยังงาน “ประเพณีสงกรานต์วิสุทธิกษัตริย์” ปีที่ 77 ระหว่าง 12-13 เมษายน 2561บริเวณถนนวิสุทธิกษัตริย์ ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งพระนคร กรุงเทพฯ ร่วมงานบุญโดยใช้วิถีธรรมชาติกับน้ำ อีกทั้งการรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ การล้างเท้าแม่  ถือเป็นการแสดงมุทิตาจิตต่อผู้สูงอายุ สร้างความรักความศรัทธาความสามัคคีปรองดองภายในครอบครัว ร่วมพิธีแห่ชักพระ ชมประกวดเทพีสงกรานต์ หนูน้อยสงกรานต์ ต้นแบบการอนุรักษ์และส่งเสริมความเป็นไทยมรดกอันล้ำค่าที่ดีงามของท้องถิ่น


งานประเพณีเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์สุโขทัย ประจำปี 2561 อลังการงานประเพณีแห่ช้างบวชนาคไทยพวน บ้านหาดเสี้ยว 7 เมษายน 2561 ที่วัดหาดเสี้ยว อำเภอศรีสัชนาลัย ชมขบวน “นั่งช้าง บวชนาค” ของชุมชนชาวไทพวนบ้านหาดเสี้ยวที่มีมายาวนานกว่า 150 ปี ตระการตากับช้างและนาคที่ได้รับการตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ ชมขบวนช้างข้ามแม่น้ำยม สนุกสนานกับขบวนแห่นาคของชุมชนชาวไทยพวน
   
งานประเพณีสรงน้ำโอยทาน สงกรานต์ศรีสัชนาลัย 8 – 12  เมษายน 2561 ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระยาลิไท และอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย  ร่วมประเพณีสรงน้ำโอยทาน สงกรานต์ศรีสัชนาลัย ที่ได้จัดขึ้นตามหลักฐานในศิลาจารึก    “คนสุโขทัยมักทรงศีล มักโอยทาน” ร่วมกิจกรรมการถวายสลากภัตรและพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์พระยาลิไท ณ อุทยานพระยาลิไท, เที่ยวงานเทศกาลอาหารและกิจกรรมการแสดงดนตรี, ชมขบวนแห่วัฒนธรรมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกว่า 10 ชุมชน

งานประเพณีสงกรานต์ และ เทศกาลอาหารเมืองสวรรคโลก 13 - 15 เมษายน  2561 บริเวณสวนสุขภาพอำเภอสวรรคโลก ไปสรงน้ำพระขอพรไหว้พระ 3 ฤทธิ์ หลวงพ่อพระพุทธเรืองฤทธิ์ วัดสว่างอารมณ์  หลวงพ่อลือฤทธิ์ วัดสวรรคาราม หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดคลองกระจง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองสวรรคโลก
   
งานย้อนอดีตมหาสงกรานต์กรุงสุโขทัย 12-14 เมษายน  2561 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อ.เมือง  ชมการแข่งขันการก่อเจดีย์ทราย การประกวดเทพีสงกรานต์ ขบวนแห่ล้อเกวียนโบราณจาก 12 ชุมชนเมืองเก่า และสนุกสนานกับการแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน การละเล่นพื้นเมือง ชิมอาหารถิ่นจากตลาดโบราณ

งานประเพณีสงกรานต์เสื้อลายดอก ถนนข้าวตอกสุโขทัย 12 - 15 เมษายน  2561 ณ บริเวณเมืองสุโขทัยและสวนสาธารณะสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ชมขบวนแห่รถบุปผาชาติ พร้อมด้วยนางสงกรานต์ร่วมสร้างสีสันและบรรยากาศให้กับงานสงกรานต์ในจังหวัดสุโขทัย ร่วมกิจรรมการก่อเจดีย์ทรายเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ณ วัดไทยชุมพล, ชมขบวนแห่สืบสานวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่สวยงามของตำนานนางสงกรานต์, ขบวนแห่รอบตัวเมืองเทศบาลสุโขทัย, ร่วมกิจกรรมสรงน้ำพระภิกษุสงฆ์และรูปหล่อพระแม่ย่าองค์จำลอง, ชมกิจกรรมประกวดเทพีสงกรานต์ หนูน้อยสงกรานต์และนางสาววันวาน จากชุมชนเมืองสุโขทัยธานี, สนุกสนานกับกิจกรรมรำวงย้อนยุค

มหาสงกรานต์ กรุงสุโขทัย ร้อยดวงใจ สรงน้ำพระอจนะ 13 - 16 เมษายน  2561 บริเวณวัดศรีชุม อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ร่วมพิธีสรงน้ำพระอจนะ วัดศรีชุม พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสุโขทัย เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตในวันขึ้นปีใหม่ไทย, ชมตลาดโบราณ
       
งานประเพณีแห่น้ำขึ้นโฮง สรงน้ำเจ้าหมื่นด้ง 17 - 19 เมษายน  2561บริเวณอนุสาวรีย์เจ้าหมื่นด้ง ตำบลบ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย ร่วมพิธีบวงสรวง พิธีสู่ขวัญช้าง และชมขบวนแห่ช้างถวายราชสักการะอนุสาวรีย์เจ้าหมื่นด้ง และขบวนวัฒนธรรมประเพณีของดีจาก 14 หมู่บ้าน

ประเพณีสุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูน-เสียงแคนและถนนข้าวเหนียว ขอนแก่น 8 - 15 เมษายน 2561บริเวณบึงแก่นนคร และถนนศรีจันทร์ (ถนนข้าวเหนียว) อำเภอเมือง กับไฮไลต์เล่น Human Wave คลื่นมนุษย์ไร้แอลกอฮอล์ พิธีสรงน้ำพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองขอนแก่น  การประกวดขบวนแห่สงกรานต์ และกิจกรรมวัฒนธรรมท้องถิ่น



งานประเพณีสุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูนเสียงแคน และถนนข้าวเหนียว “สนุก ปลอดภัยไร้แอลกอฮอล์” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการอนุรักษ์สืบสานขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรม ฟื้นฟู วิถีอีสาน อันเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นให้สืบทอดต่อไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวส่งเสริมอาชีพของประชาชนในท้องถิ่น ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างความรักความสามัคคี ผูกมิตรไมตรีระหว่างคนในชุมชน ซึ่งมีแนวคิด คือ เป็นการสร้างอัตลักษณ์ของเมืองสู่ฐานที่มั่นทางวัฒนธรรมร่วมสมัย โดยการนำเอกลักษณ์ของเมืองขอนแก่น คือ วัฒนธรรมเสียงแคน เหลืองอร่ามดอกคูนบาน มนต์เสน่ห์ความงดงามในวิถีชีวิตของคนขอนแก่น เชื่อมโยงกันด้วยสายน้ำที่ชุ่มเย็นผ่านการจัดงานสงกรานต์

งานสลุงหลวง กลองใหญ่ ปีใหม่เมือง ประจำปี 2561 จังหวัดลำปาง  9 – 13  เมษายน 2561 บริเวณข่วงนคร สวนสาธารณะเขลางค์นคร ถนนท่าคราวน้อย และหน้าร้านเยื้อนสยาม สามแยกเก๊าจาว ชมขบวนแห่พระเจ้าแก้วดอนเต้า และพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง อาทิ พระเจ้าทองทิพย์พระแสนแซ่ทองคำ พระเจ้าไม้แก่นจันทร์ พระเจ้าฝนแสนห่า ขบวนอัญเชิญพระเจ้าแก้วมรกตจากวัดพระธาตุลำปางหลวงแห่รอบเมืองให้ประชาชนได้สรงน้ำพิธีทางศาสนา เจริญพระพุทธมนต์เย็นและทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง  ชมประกวดขบวนแห่ปีใหม่เมือง การประกวดเทพบุตร – เทพธิดาสลุงหลวง การจำหน่ายสินค้าโอท็อป มหกรรมอาหารพื้นเมือง การประกวดปรุงอาหารพื้นเมืองและการแสดงนาฏศิลป์และมหรสพต่างๆ



ประเพณีแห่สลุงหลวงจังหวัดลำปาง" (สลุงหลวง แปลอีกความหมายว่าขันเงินใบใหญ่ ) พิธีการคือนำน้ำจากแหล่งน้ำสำคัญไปสรงพระเจ้าแก้วมรกตดอนเต้า วัดพระธาตุลำปางหลวง      ที่อัญเชิญมาให้ประชาชนได้ร่วมกันสรงน้ำในช่วงวันขึ้นปีใหม่ไทย การสรงน้ำพระที่ถูกต้องตามประเพณีไทย คือใช้วิธีตักน้ำจากสลุงเทสู่รางรินซึ่งเป็นทางให้  น้ำขมิ้น ส้มป่อย น้ำอบ น้ำหอม ไหลไปสรงองค์พระ อันถือว่าเป็นการสรงน้ำที่ถูกต้องตามประเพณี น้ำที่สรงองค์พระจะไหลไปสู่ภาชนะและถือเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวล้านนานำมาประพรมศีรษะ ร่างกายหรือที่อยู่อาศัยเพื่อความเป็นสิริมงคล ร่มเย็นเป็นสุขแก่ชีวิตและครอบครัวของตนสืบไป ชาวลำปางยึดถือประเพณีสรงน้ำองค์พระเจ้าแก้วดอนเต้าสืบมาตลอด การจัดขบวนแห่สลุงหลวงเพื่อรับน้ำขมิ้น ส้มป่อย น้ำอบ น้ำหอม ถือเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมแต่โบราณ


 งานประเพณีสงกรานต์ (ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่) ประจำปี 2561” 12 - 15 เมษายน 2561 บริเวณลานนุสาวรีย์สามกษัตริย์/ข่วงท่าแพ/วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร 1.ร่วมขบวนแห่และสรงน้ำ “พระพุทธสิหิงค์” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน รวมทั้งขบวนแห่ขนทรายเข้าวัด–ไม้ค้ำสะหลี (สะหลี หมายถึง ต้นโพธิ์) 2. การประกวดเทพี-เทพบุตรสงกรานต์ 3. การก่อเจดีย์ทราย 4. กาดหมั้ว / การสาธิตทำขนมพื้นเมือง อาทิ ขนมเทียน ข้ามต้มมัด ขนมปาด 5. รำวงล้านนาย้อนยุค

ประเพณีปี๋ใหม่เมือง หรือ ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง วันสงกรานต์ล้านนาในภาคเหนือ หรือที่เรียกว่า "ประเพณี  ปี๋ใหม่เมือง หรือ ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง" เริ่มโดยในวันที่ 13 เมษายน เรียกว่า "วันสังขานต์ล่อง" วันนี้ถือเป็นวันสิ้นสุดศักราชเก่าของชาวภาคเหนือซึ่งจะมีการจุดประทัดในช่วงเช้า เพราะมีความเชื่อแต่โบราณว่าเป็นการขับไล่สิ่งเลวร้ายในปีก่อนให้พ้นไป และในช่วงเย็นจะมีงานบุญขนาดใหญ่นั่นคือการแห่พระพุทธรูปสำคัญประจำเมืองด้วย ในช่วงนี้จะมี  ทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติมารวมตัวกันอย่างหนาแน่นเพื่อร่วมชม ซึ่งได้ทั้งบุญและความสนุกสนาน จากนั้นในวันที่ 14 เมษายน   ที่เรียกกันว่า "วันเนา"  หรือ "วันเน่า" จะเป็นวันที่ห้ามด่าทอ    ว่าร้ายผู้อื่นไม่เช่นนั้นจะทำให้โชคร้ายไปตลอดทั้งปี  ส่วนในวันที่ 15 เมษายน "วันพญาวัน" หรือ "วันเถลิงศก" เป็นวันที่ชาวบ้านไปทำบุญตักบาตรเข้าวัดฟังธรรม จากนั้นจะมีการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในช่วงบ่าย พอถึงวันที่วันที่ 16 เมษายน "วันปากปี"  ทุกคนก็จะพากันไปสรงน้ำเจ้าอาวาสตามวัดต่าง ๆ และรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่เพื่อขอขมา โดยในวันที่ 17 เมษายน "วันปากเดือน" ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ ชาวบ้านจะทำการปัดตัวเพื่อส่งเคราะห์ ออกไป อันเป็นประเพณีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะทางภาคเหนือหรือแผ่นดินล้านนาเท่านั้น

เทศกาลสงกรานต์นครพนม รื่นรมย์บุญปีใหม่ไทย-ลาว ปี 2561 จังหวัดนครพนม  13 - 15 เมษายน 2561 บริเวณลานพนมนาคา ถนนสุนทรวิจิตร อำเภอเมือง ของ 7 ชนเผ่า  ด้วยพิธีฮดสรง (สรงน้ำ) พระธาตุประจำวันเกิด พิธีตบปะทาย (ก่อจดีย์ทราย) กิจกรรมแสดงวิถีชีวิต วัฒนธรรม และการละเล่น ของ 7 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติผ่านกิจกรรมตลาดโบราณ “ตลาดโบราณอาหารแซ่บนัวเมืองนคร” ณ ริมแม่น้ำโขง อ.เมืองนครพนม

 กิจกรรมถนนข้าวปุ่น จ.นครพนม สนุกสนานกับการเล่นน้ำสงกรานต์ การออกร้านข้าวปุ้น (ขนมจีน) การประกวดซุ้มน้ำของชาวคุ้มต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม และการแสดงถนนวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวผู้ไทย อำเภอเรณูนคร สืบสานวัฒนธรรมการละเล่นสงกรานต์วิถีไทยของชาวผู้ไทย ขบวนแห่สงกรานต์ และการประกวดสาวงามเรณูนคร

สงกรานต์รื่นรมย์บุญปีใหม่ไทย-ลาว ตามแบบวัฒนธรรม 7 ชนเผ่าของชาวนครพนม ที่ยังคงหลงเหลือกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นการรักษารูปแบบของประเพณีที่แสดงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของชาวนครพนมร่วมตักบาตรข้าวเหนียววันปีใหม่ไทย กิจกรรมแข่งขันสะบ้าทอย พิธีตบปะทาย (ก่อเจดีย์ทราย) ไหว้พระธาตุประจำวันเกิด 7 วัน 8 พระธาตุ     อิ่มอร่อยกับตลาดโบราณย้อนยุค และเล่นน้ำสงกรานต์ 7 ชนเผ่า พร้อมชมการแสดงวัฒนธรรม นอกจากนี้ที่ อำเภอเรณูนคร จะมีการฟ้อนรำผู้ไทที่มีความอ่อนช้อยงดงาม และความมีมนต์ขลังของ พิธีบายศรีสู่ขวัญ ผูกข้อต่อแขนเพื่อต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยือน รวมทั้งขบวนแห่นางสงกรานต์ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างยิ่งใหญ่งดงาม

เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ สุพรรณบุรี 13-14 เมษายน 2561 ในอำเภอเมือง ขบวนแห่มหาสงกรานต์จาก 10 อำเภอ  ขบวนแห่หลวงพ่อโตทองคำ เพือให้ประชาชนได้สรงน้ำและสักการะบูชา (ปีละ 1 ครั้ง), การประกวดเทพีสงกรานต์, การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของจังหวัดสุพรรณบุรี, การแสดงดนตรีจากนักร้องศิลปินที่มีชื่อเสียง


สงกรานต์กรุงเก่า ปี 2561 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
  สงกรานต์กรุงเก่าเล่นน้ำกับช้าง 13 - 15 เมษายน 2561 ถนนศรีสรรเพชญ์ หน้าอาคารเรือนไทย สำนักงาน ททท.พระนครศรีอยุธยา  1. สรงน้ำพระพุทธรูป 2. การละเล่นน้ำสงกรานต์กับช้างจากวังช้างอยุธยาแลเพนียด 3. สนุกสนานกับรำวงย้อนยุค

            ประเพณีสงกรานต์ชาวรามัญวัดทองบ่อ “แห่หงส์ธงตะขาบ” ประจำปี 2561 ระหว่าง13 - 15 เมษายน 2561
  ที่วัดทองบ่อ  ตำบลบ้านกรด อำเภอบางปะอิน ชมประเพณีแห่หงส์ และธงตะขาบ ในช่วงเช้าของวันที่ 14 เมษายน 2561

 “สรงน้ำพระ อยุธยามหามงคล” จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13 - 15  เมษายน  2561 ที่ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค ร่วมสรงน้ำพระพระพุทธรูปสำคัญ จากพระเกจิชื่อดังของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (องค์จำลอง)
      “สงกรานต์กรุงศรีอยุธยา 2561” 13-15 เมษายน 2561 ณ ลานวัดพระราม หรือคุ้มขุนแผน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำบุญตักบาตร

งานประเพณีมหาสงกรานต์อีสานหนองคาย 13 - 15 เมษายน 2561 บริเวณถนนเจนจบ ลานน้ำพุพญานาค ถนนประจักษ์ศิลปาคม และวัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) อำเภอเมือง เป็นสงกรานต์ที่ยิ่งใหญ่ ที่ผู้ร่วมงานสามารถร่วมแรงศรัทธาสรงน้ำพระหลวงพ่อพระใส  พระคู่บ้านคู่เมืองชาวหนองคาย โดยขบวนแห่หลวงพ่อพระใสที่ยิ่งใหญ่และแห่ทั่วเมืองหนองคายนั้นจะปฏิบัติเพียงปีละหนึ่งครั้ง  เพื่อให้ประชาชนทั้งชาวไทย-ชาวลาว ได้ร่วมสรงน้ำพระเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองในเทศกาลสงกรานต์    

สงกรานต์พื้นที่จังหวัดภูเก็ต
    Songkran on the Beach 11-13 เมษายน 2561 บริเวณหาดป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต
  สงกรานต์โนแอล (Songkran No L) จังหวัดภูเก็ต 13 เมษายน 2561 ณ ศูนย์การค้าไลม์ไลท์อเวนิวภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

งานประเพณีสงกรานต์ และมิดไนท์สงกรานต์ จังหวัดสงขลา 12 - 15 เมษายน 2561 บริเวณถนนนิพัทธ์อุทิศ 3, ถนนเสน่หานุสรณ์ แยกธรรมนูญวิถี และวัดมหัตตมังคลาราม อำเภอหาดใหญ่ สนุกกับ  ขบวนแห่คาร์นิวัลมิดไนท์สงกรานต์ รดน้ำพระพุทธสิหิงค์และองค์หลวงปู่ทวด พิธีทำบุญตักบาตร รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ การประกวดนางสงกรานต์
 การแข่งขันมวยทะเล เป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ ให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวกระจายรายได้และเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจท้องถิ่น

สำหรับสงกรานต์พระประแดงและงานวันไหลเมืองพัทยา จะนำมาเสนอในช่วงปิดท้ายปลายเดือนเมษายนี้

@อันตรายจากโรคอาหารเป็นพิษ

โรคอาหารเป็นพิษ จะยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยต่อไปในอนาคต ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพอนามัย เพราะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่จากการถ่ายอุจจาระ บางรายที่เป็นมากอาจจะหมดสติถึงตายได้ เนื่องมาจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่นิยมรับประทานอาหารปรุงไม่สุก หรือพืชที่เก็บตามธรรมชาติ ได้แก่ เห็ด ซึ่งอาจเป็นเห็ดพิษ รวมทั้งเห็ดในธรรมชาติที่มีจำนวนมากและนิยมนำมาบริโภค  นอกจากนี้ยังพบได้ในอาหารกระป๋อง อาหารทะเล  และน้ำนมที่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อ

โรคอาหารเป็นพิษ มักเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้นภายหลังจากรับประทานอาหาร อาการของโรคจะเกิดขึ้นภายใน 1 ชั่วโมงจนถึง  8  วัน หลังการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ เบื่ออาหาร และอุจจาระร่วง

ข้อควรปฏิบัติป้องกันโรคอาหารเป็นพิษ มีดังนี้ ปรุงอาหารให้สุกอย่างทั่วถึง  ห้ามรับประทานอาหารดิบ หรือ ดิบ ๆ สุก ๆ โดยเฉพาะ อาหารประเภทเนื้อสัตว์ ควรรับประทานอาหารเมื่อปรุงเสร็จทันที หรือสุกใหม่ ๆ เก็บอาหารที่ปรุงสุกแล้วอย่างระมัดระวัง   หลีกเลี่ยงการปนเปื้อนระหว่างอาหารด้วยกัน เพื่อไม่ให้อาหารที่ปรุงสุกแล้ว ปนเปื้อนกับอาหารดิบ เช่น การใช้มีด เขียง ต้องแยกระหว่างอาหารดิบและอาหารสุก  เลือกอาหารที่มีขบวนการผลิตที่ปลอดภัย  กินอาหารร้อน สุก สะอาด ปราศจากสารพิษ และล้างมือเป็นนิจ ป้องกันโรคอาหารเป็นพิษ ชีวิตปลอดภัย

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “แนะเส้นทาง4ภาคกลับบ้านช่วงสงกรานต์”

นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ที่จะถึงนี้ระหว่างวันที่     11 – 18 เมษายน 2561 คาดว่าจะมีประชาชนใช้บริการทางหลวงสายหลักเป็นจำนวนมาก เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าว กรมทางหลวงจึงได้แนะนำเส้นทางเลือกในการเดินทางสู่จังหวัดทางภาคเหนือ          ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยได้บูรณาการร่วมกับ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม และตำรวจทางหลวงซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ“เดินทางอุ่นใจ ปลอดภัยไปกับกรมทางหลวง” และโครงการ “777 ยกกำลัง 3” ของกระทรวงคมนาคม ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้ทางได้รับความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัย รวมทั้ง เป็นข้อมูลในการศึกษาเส้นทางซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดและลดระยะเวลาในการเดินทาง กรมทางหลวงจึงได้จัดทำเส้นทางเลือกสำหรับผู้เดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์2561 ดังนี้

เส้นทางเลือกเทศกาลสงกรานต์ 2561
• กรุงเทพฯ – ภาคเหนือ

          เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯไป รังสิต (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – จ.อยุธยา – จ.อ่างทอง – จ.สิงห์บุรี (ทางหลวงหมายเลข 32 ถนนสายเอเชีย) –  อ.มโนรมย์ (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

          เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป จ.นนทบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง – สุพรรณฯ) –         จ.สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 สุพรรณฯ – ชัยนาท) – จ.ชัยนาท (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

          เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป รังสิต – อ.วังน้อย – จ.สระบุรี – จ.ลพบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1   ถนนพหลโยธิน) – อ.ตากฟ้า (ทางหลวงหมายเลข 11) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดพิษณุโลก

• กรุงเทพฯ – ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
          เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯไป จ.สระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – อ.ม่วงค่อม     (ทางหลวงหมายเลข 205) – อ.ท่าหลวง (ทางหลวงหมายเลข 2256) – อ.ด่านขุนทด (ทางหลวงหมายเลข 2148)                  – อ.ขามทะเลสอ (ทางหลวงหมายเลข 2068) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

          เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป อ.วังน้อย (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – จ.สระบุรี – อ.ปากช่อง – อ.สีคิ้ว (ทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

          เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป จ.นครนายก (ทางหลวงหมายเลข 305) – อ.บ้านนา (ทางหลวงหมายเลข 3051, 33) – อ.แก่งคอย (ทางหลวงหมายเลข 3222) – อ.ปากช่อง (ทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

          เส้นทางที่ 4 จากกรุงเทพฯไป จ.ฉะเชิงเทรา (ทางหลวงหมายเลข 314) – อ.พนมสารคาม – อ.กบินทร์บุรี – อ.วังน้ำเขียว – อ.ปักธงชัย (ทางหลวงหมายเลข 304) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

ผู้ที่จะเดินทางในเส้นทางที่จะผ่านต่างระดับบางประอิน คาดว่าจะมีปริมาณจราจรจำนวนมากผู้ใช้ทางที่จะเดินทางไปภาคเหนือและสามารถเลี่ยงไปใช้เส้นทางเลือกอื่นได้ดังนี้

จากกรุงเทพฯไปรังสิต – ต่างระดับคลองหลวง (ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – เชียงรากน้อย   (ใช้ทางหลวงหมายเลข 3214) – ใช้ทางหลวงหมายเลข 347 จากนั้นมุ่งหน้าสู่ทางหลวงหมายเลข32  เข้าสู่ภาคเหนือ
จากกรุงเทพฯไปวงแหวนตะวันออก (ใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9) – ต่างระดับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) – วังน้อย (ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) –  ถนนโรจนะ (ใช้ทางหลวงหมายเลข 309) จากนั้นมุ่งหน้าสู่ทางหลวงหมายเลข 32 เข้าสู่ภาคเหนือ

• กรุงเทพฯ – ภาคตะวันออก

          เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯไป จ.ชลบุรี (ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 หรือมอเตอร์เวย์)

          เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป อ.บางปะกง (ทางหลวงหมายเลข 34 ถนนบางนา-ตราด) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดชลบุรี โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ถนนสุขุมวิท
          เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป อ.พนัสนิคม – จ.ชลบุรี (ทางหลวงหมายเลข 304)

• กรุงเทพฯ – ภาคใต้

          เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯไป จ.สมุทรสาคร – จ.สมุทรสงคราม (ทางหลวงหมายเลข 35) – แยกวังมะนาว – จ.เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

          เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป อ.สามพราน – อ.นครชัยศรี – จ.นครปฐม – จ.ราชบุรี – แยกวังมะนาว  – จ.เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

          เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป ถนนบรมราชชนนี (ทางหลวงหมายเลข 338 ปิ่นเกล้า – นครชัยศรี) – อ.นครชัยศรี –จ.นครปฐม – จ.ราชบุรี – แยกวังมะนาว – จ.เพชรบุรี (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

   อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวต่อไปว่า กรมทางหลวงยังได้ติดตั้งป้ายเส้นทางเลี่ยง/เส้นทางแนะนำ ทุกเส้นทางเป็นระยะๆ รวมถึงการปรับปรุงเส้นทาง ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างบนทางหลวง และจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ตลอดจนเตรียมพร้อมด้านอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกปลอดภัยในการเดินทาง ทั้งขาไปและขากลับ นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มรถซ่อมบำรุงเคลื่อนที่จำนวน 24 คัน วิ่งตรวจการในเส้นทางสายหลักช่วยเหลือประชาชนในกรณีรถเสีย ปะยาง เปลี่ยนแบตเตอรี่ แก่ผู้เดินทางในกรณีรถเสีย และขอความร่วมมือผู้เดินทางดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Thailand Highway Traffic (ทางหลวงแผ่นดิน) M Traffic (มอเตอร์เวย์) ทั้งระบบ IOS และ Android เพื่อตรวจสอบสภาพการจราจร Online แบบ Real Time โดยสามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store และ Google Play Store ทั้งนี้ ขอให้ผู้เดินทางศึกษาเส้นทางก่อนเดินทางเตรียมความพร้อมทั้งคนและตรวจสอบสภาพรถ ปฏิบัติตามกฎจราจร ป้ายเตือน ป้ายแนะนำต่างๆของกรมทางหลวง และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด รวมทั้ง ขอความร่วมมือผู้ใช้ทางขับรถช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัด

สอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติมที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 ศูนย์บริการข้อมูลทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) 1586 กด 7  ตำรวจทางหลวง 1193 (ตลอด 24 ชั่วโมง)


ข่าวที่สอง “การบินไทยฉวยสงกรานต์ทำ3เรื่องรวด”

นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้นำเครื่องบินแอร์บัส เอ 380-800 ให้บริการผู้โดยสารเส้นทาง  ไป-กลับ กรุงเทพฯ-นาริตะ (ญี่ปุ่น) ระหว่าง 5-19 เมษายน 2561 ด้วยเที่ยวบินที่TG 676 และ 677 เพื่อรองรับปริมาณการเดินทางที่เพิ่มขึ้น พร้อมกับเพิ่มจำนวนเที่ยวบินไปยังญี่ปุ่น จากสัปดาห์ละ 75  เป็น  82  เที่ยว และเพิ่มบินเข้าเกาหลีจากสัปดาห์ละ  34  เป็น38  เที่ยว

ทางด้าน นางวรางคณา ลือโรจน์วงศ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายครัวการบินการบินไทย  กล่าวว่าได้นำอาหารไทยและขนมไทยจากฝีมือเชฟของครัวการบินไทย อาทิ น้ำพริกกุ้งสด กระทงทอง ฉู่ฉี่ปลากระพง ปั้นสิบ ช่อม่วง ตะโก้ 3 สี ข้าวเหนียวหน้าต่างๆ เป็นต้น ร่วมจำหน่ายในเทศกาล “Taste of Thai” ระหว่างวันนี้ – 10 เมษายน 2561 ที่ Central Food Hall ชั้น 7 เซ็นทรัลเวิล์ด และ Central Food Hall ชั้น 1 เซ็นทรัลชิดลม

3.
ส่วน ทัวร์เอื้องหลวง ได้จัดโปรแกรมท่องเที่ยวตามรอยละครดังบุพเพสันนิวาส ด้วยแพ็กเกจท่องเที่ยว “ย้อนรอยกรุงศรีฯ ไปบ้านพี่หมื่น” นำเที่ยวอยุธยา อาทิ ป้อมเพชร บ้านพี่หมื่นริมคลองใกล้วัดไชยวัฒนาราม วัดพุทไธศวรรย์ และรับประทานกุ้งแม่น้ำเผา เป็นต้น เพื่อร่วมสนับสนุนคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติในการผลักดันให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ติดอันดับเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก

ติดตามรายการได้ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.






ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai