ททท.พลิกครั้งใหญ่ท่องเที่ยวกาฬสินธุ์ครีเอทีฟซิตี้-สงกรานต์จัดเต็ม5เมือง จันทบุรี-สิงห์บุรี-กำแพงเพชร-นครศรีธรรมราช-กาฬสินธุ์
ททท.พลิกครั้งใหญ่ท่องเที่ยวกาฬสินธุ์
ทุ่มสร้างเมืองเทรนด์ใหม่ครีเอทีฟซิตี้
ช้อปคิงเพาเวอร์ลุ้นตั๋วดูคอนเสิร์ตโลก
จุดพลุเทคอะเบรกเที่ยวไทย20เมือง
BCPGผนึก5กลุ่มลุยพลังงานอนาคต
บินเช่าเหมาสงกรานต์ล้นสุวรรณภูมิ
เที่ยวสงกรานต์5เมืองรองมุมใหม่เก๋ๆ
เดินถูก5วิธีร่างกายแข็งแรงปลอดชรา
โรงแรมอัมราขายห้องพักลดซ้อนลด
เชฟโลกยึดวีกรุงเทพเสิร์ฟ25-28เมย.
เฮบางกอกแอร์เพิ่มมัณฑะเลย์11เที่ยว
ไทยจัดอาเซียนบิวตี้ชิงตลาดแสนล้าน
สวัสดีวันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน 2561 เวลา 11.00-12.00 น.ต้อนรับเข้าสู่รายการ ““รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen กับบล็อกเกอร์ #gurutourza
ช่วงที่ 1 เกาะติด “ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะพลิก “กาฬสินธุ์ ถิ่นสร้างสรรค์” ตอนนี้อัดฉีดเงินโฆษณาผลิตสื่อเทรนด์ใหม่ไปแล้ว 15-17 ล้านบาท ไฮไลต์ด้วยสีสันวงดนตรีเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่นำเพลง “แพรวาจีจี้” กับหนังออนไลน์มาสร้างความแรง ควบคู่กับเฟ้นจุดแข็ง 4 เรื่อง ที่จะหนุนนำก้าวไปสู่เส้นทางสายใหม่ “ครีเอทีฟ ซิตี้” บอกเล่าผ่านเรื่องราวการพัฒนาเมืองของลูกหลานชาวกาฬสินธุ์เจนวายที่แปลงโฉมตลาดโรงสี ร้านคาแฟที่พักเก๋ ๆ ผสมผสานไปกับธรรมชาติในเขื่อนลำปาว วิถีชีวิตแห่งเมืองโบราณคดีที่มีคุณค่าทางจิตใจ
“ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า แผนกลยุทธ์การผลักดันกาฬสินธุ์เป็นพื้นที่การท่องเที่ยวดาวรุ่งตามโจทก์ของรัฐบาลซึ่งต้องการลดความเหลื่อมล้ำกระจายรายได้จังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวค่อนข้างต่ำอยู่อันดับที่ 3 จากท้ายทั้งหมด 77 จังหวัด หลังจากคณะรัฐมนตรีสัญจรไปประชุมยังกาฬสินธุ์ นายกรัฐมนตรีมีดำริให้ทุกฝ่ายช่วยกัน แล้วผมก็ได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมกับวางแนวทางยกระดับกาฬสินธุ์ในภาพจำใหม่ให้เป็น “กาฬสินธุ์ถิ่นสร้างสรรค์” เพราะความเข้าใจเดิม ๆ ของคนส่วนใหญ่มองเป็นพื้นที่แห้งแล้ง สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งห้องพักโรงแรม คมนาคม ก็ไม่โดดเด่น ทว่าปัจจุบันมีสายการบินโลว์คอสต์แอร์ไลน์จำนวนมากให้บริการเดินทางไปลงขอนแก่น ร้อยเอ็ด แล้วสามารถนั่งรถต่อไปกาฬสินธุ์ได้ภายในเพียงชั่วโมงเดียว ถนนดีมากบรรยากาศสองข้างทางเป็นทุ่งนาเขียวขจี
ดังนั้น ททท.จึงต้องเร่งพัฒนากาฬสินธุ์ตลอดปี 2561 ตั้งเป้าจะเชิญชวนให้คนไทยเข้าไปท่องเที่ยวให้ถึง 600,000 คน เพิ่มขึ้น 10-15 % และรายได้ก็เติบโตเชิงบวก 8-10 % สูงกว่าปี 2560 มีคนไทยเที่ยวกาฬสินธุ์กว่า 500,000 คน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมษายนนี้เลือกให้กาฬสินธุ์เป็น 1 ใน 5 เมือง จัดสงกรานต์อย่างมีสีสัน ช่วงเดือนพฤษภาคมนี้เตรียมทำ“DINO ศิลป์”
ส่วนการพลิกจุดขายใหม่ “กาฬสินธุ์ถิ่นสร้างสรรค์” เบื้องต้น ททท.ใช้งบประมาณราว 15-17 ล้านบาท ผลิตสื่อรูปแบบต่าง ๆ ด้วย 3 On onair-online-onground นำภาพสถานที่ท่องเที่ยวเผยแพร่ทุกช่องทาง ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ ออนไลน์ ขณะนี้สนับสนุนศิลปินเยาวชนพื้นบ้านแนวใหม่มาแรงวง “แพรวาจีจี-Girl Group 18” และภาพยนตร์สั้นออนไลน์เรื่อง “กาลศิลป์” ทั้งหมดจะรวมอยู่ในแคมเปญการตลาดของ ททท.ที่จะผลักดันให้กาฬสินธุ์เป็นเมืองสร้างสรร หรือ Creative City เป็นแบรนดิ้งสร้างภาพจำใหม่ให้คนไทยและนานาชาติรู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น E-Greet , E-Poster ซึ่งถ่ายทำโดยช่างภาพ ททท.นำออกเผยแพร่กระจายไปทั่วประเทศแล้ว เพราะกาฬสินธุ์มีองค์ความรู้หลากหลายและปัจจัยส่งเสริมที่เข้มแข็งหลัก ๆ 4 เรื่อง ได้แก่
1.โบราณคดี พิพิธภัณฑ์สิรินธร ของกรมทรัพยากรธรณี พบซากไดโนเสาร์ขนาดใหญ่สมบูรณ์มีจำนวนชิ้นมากที่สุดในเอเชีย ภายในพิพิธภัณฑ์มีนักวิทยาศาสตร์คอยวิเคราะห์วิจัยอยู่ด้วย รวมถึงการก่อสร้างออกแบบถูกต้องตามหลักทางธรณี วิธีนำเสนอผ่านมัลติมีเดียด้วยองค์ความรู้ทำได้ชัดเจน สะดวกสบาย มีลานจอดรถ และร้านขายของที่ระลึก ขณะนี้กลุ่มครอบครัวสนใจเข้าไปท่องเที่ยวจำนวนมาก
2.เป็นจังหวัดที่มีระบบการกักเก็บน้ำเพื่อไว้ใช้ในหน้าแล้งที่สมบูรณ์ โดยนำน้ำมาเก็บไว้ “เขื่อนลำปาว” ซึ่งบริเวณเขื่อนมี “สะพานเทพสุดา” กลางอ่างเก็บน้ำความยาวเกือบ 2 กิโลเมตร แล้วยังใช้เป็นแหล่งเลี้ยงกุ้งซึ่งนำมาทำเมนูอาหารถิ่นรสชาติอร่อยและขึ้นชื่อมาก และมีพื้นที่สุดชีลเป็นจุดแฮงเอาท์แหล่งรวมร้านอาหารชั้นนำมีชื่อเสียของภาคอีสานและเมืองกาฬสินธุ์นำโรงสีมาทำเป็นตลาด ออกแบบสไตล์บูติก ฟู้ดคอร์ด มีลานกิจกรรมและดนตรีฟัง ทุกวันศุกร์นักท่องเที่ยวและคนกาฬสินธุ์มาพบปะกันมากหน้าหลายตาทั้งวัยรุ่น พนักงานออฟฟิศ ครอบครัว
3.เป็นแหล่งผลิตผ้าพื้นเมืองขึ้นชื่อคือ “ผ้าแพรวา” มีอัตลักษณ์เฉพาะที่ได้รับความนิยมจากคนไทยและต่างชาติ
4.คนรุ่นใหม่รวมใจกันผลักดันกาฬสินธุ์เป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งใหม่ โดยสนับสนุนกลุ่มนักเรียนนาฎศิลป์ รวมตัวกันตั้งวง”แพรวาจีจี-Girl Group 18” สื่อถึงกาฬสินธุ์มี 18 อำเภอ นำผ้าพื้นเมืองแพรวามาออกแบบชุดเก๋ทันสมัยในการเต้นรำ ตอนนี้ผลิต MV เพลง “รักไม่ง้อเวลา” เผยแพร่กระหึ่มโซเชียลมีเดีย และสนับสนุน “อ๊อด-บัณฑิต” ผู้กำกับภาพยนตร์แถวหน้าของเมืองไทยผลิตภาพยนตร์ออนไลน์ขึ้นมา 1 ชุด ชื่อเรื่อง “กาลศิลป์” นำเสนอเรื่องกาลเวลากับเมืองศิลปะมีความงดงามซ่อนเร้นอยู่ เรื่องราวเป็นความพยายามของคู่รักหนุ่มสาว คนหนึ่งต้องการไปสร้างชื่อเสียงในกรุงเทพฯ ส่วนอีกคนมุ่งสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ โดยมีนักแต่งเพลงพื้นบ้านแต่งให้คู่รักสองคนไปออดิชั่นตามที่ต่าง ๆ เป็นหนังสั้นน่ารัก ๆ สะท้อนภาพคนกาฬสินธุ์รุ่นใหม่มีความคิดกว้างไปไกล ทำให้จังหวัดมีความทันสมัย
นายธเนศวร์กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปกาฬสินธุ์จะได้สัมผัสวิถีถิ่นทั้งการเล่นน้ำกับไดโนเสาร์ ฟังเพลงจากวงแพรวาจีจี ซึ่งจะมีภาพฉากประกอบเคลื่อนไหวเป็นแหล่งท่องเที่ยวกาฬสินธุ์ หรือจะไปนั่งชีลสบาย ๆ ที่ตลาดโรงสี ช้อปปิ้งผ้าแพรวา ผ้าไหม ผ้าฝ้ายทอมือลายกาฬสินธุ์ กระจายรายได้สู่ชุมชนโดยตรง แนวโน้มขณะนี้ ททท.หวังเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มครอบครัวที่พาลูก ๆ เที่ยวมุมใหม่ในบ้านเมืองตนเอง ได้ชมงานศิลปะ รับประทานอาหารท้องถิ่นรสชาติอร่อย และชมเมืองที่สะอาดมากทางเทศบาลเมืองสามารถจัดการขยะจนได้รับรางวัล รอบบริเวณเมืองก็มีประติมากรรมไดโนเสาร์ นักท่องเที่ยวทั่วไปก็จะได้สัมผัสครบทั้งศิลปะ ธรรมชาติ อาหารถิ่น องค์ความรู้ สร้างภาพจำใหม่ให้เป็นเมืองอาร์ตอย่างเต็มรูปแบบ
ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกปัจจุบันมีโรงแรมคุณภาพดีอย่าง “คาเฟ เดอ สุภัค กาฬสินธุ์” ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสไตล์ทรงยุโรป ทายาทการลงทุนรุ่นลูกออกแบบให้มีความทันสมัยแปลกตา บริเวณชั้นล่างของโรงแรมมีร้านกาแฟออกแบบเก๋ไก๋ Loft Style เสิร์ฟกาแฟ เครื่องดื่ม เค้ก ภายในเมืองก็มียังโรงแรมสะอาด คุณภาพ ให้บริการอีกหลายแห่งด้วยเช่นกัน
ททท.มุ่งหวังกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวเดินทางจากขอนแก่นต่อเข้าไปยังกาฬสินธุ์ ททท.ประทับใจทางจังหวัดกับเทศบาลให้ความร่วมมือดีมากสนับสนุนให้การท่องเที่ยวเพื่อร่วมมือกันทำตามข้อตกลง 3 S คือ 1.Spark โดยททท.เป็นผู้จุดประกายแหล่งเพื่อการท่องเที่ยว 2.Spin-ทางจังหวัดจะต้องขับเคลื่อนเดินหน้าต่อในทุก ๆ ด้าน และ 3.Sustainable-สร้างความยั่งยืนในวิถีท่องเที่ยวชุมชนอย่างเข้มแข็งสำเร็จในระยะยาว
สำหรับการบริหารจัดการเพื่อเตรียมความพร้อมแหล่งท่องเที่ยว ตอนนี้เห็นการเปลี่ยนของทุกพื้นที่ตื่นตัว ทั้งเรื่อง สะอาด สะดวก สบาย ปลอดภัย ไม่เฉพาะกาฬสินธุ์เท่านั้นยังมีเมืองท่องเที่ยวรองจำนวนมากเดินหน้ามากแล้ว ททท.ต้องการให้คนเข้าไปท่องเที่ยวตามขีดความสามารถทางการรองรับในพื้นที่ด้วย โดยเฉพาะเมืองรองควรจะมีโรงแรมตามขนาดพื้นที่ละประมาณไม่เกิน 500-3,000 ห้อง การทำตลาดยุคนี้ต้องระมัดระวังไม่ให้นักท่องเที่ยวไหลบ่าเข้าไปยังพื้นที่มากเกินขีดความสามารถของพื้นที่เพราะจะไปกระทบความไม่ยั่งยืนหรือสร้างปัญหาอื่นตามมา
ททท.ได้เร่งเครื่องทำแผนสื่อสารการตลาดเชิงรุกส่งเสริมการท่องเที่ยวกาฬสินธุ์และเมืองรองเต็มรูปแบบ เพื่อทำให้จังหวัดที่มีรายได้น้อยนำการท่องเที่ยวเป็นอาชีพเสริมหันมาเฟ้นหาจุดแข็งของท้องถิ่นตนเองแปลงให้เป็นคุณค่านำเสนอแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและนานาชาติต่อไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์บูมสงกรานต์ช้อปปลุ้นตั๋วดนตรีระดับโลก”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนไปเที่ยว “สงกรานต์ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ นครา” ระหว่างวันที่ 10-15 เมษายน 2561 ใน 5 โซน คือ โซนวัด โซนบ้าน โซนทุ่ง โซนตลาด และโซนสวน 1.ตลาดน้ำ ใจกลางกรุงเทพพร้อมอิ่มอร่อยไปกับอาหารไทยจากร้านอาหารชื่อดังระดับตำนาน ในบรรยากาศตลาดบก-ตลาดน้ำโบราณ 2.สรงน้ำพระพุทธรูปปางสมาธิประจำวัดอภัยทายารามที่มีอายุร่วมกว่าสองร้อยปี 3.ตื่นตาตื่นใจไปกับขบวนพาเหรดนางสงกรานต์ “มโหธรเทวี” อันยิ่งใหญ่ กับเหล่านางเอกแถวหน้าเมืองไทย ตลอด 6 วัน 4.สนุกสนานไปกับการแสดงทางวัฒนธรรม และ 5.เสียงเพลงจากศิลปินชื่อดังตัวแทนทุกภาคทั่วไทย บันเทิงกันแบบต็มอิ่มทุกวัน
แล้วคิง เพาเวอร์ ยังได้จัดพิเศษสุดตั้งแต่วันนี้ – 31 พ.ค. 2561 พบกับแคมเปญ KING POWER THE INFINITY CONCERT จาก Endless Happiness ความสนุก ความสุข ไม่มีที่สิ้นสุด ช้อปที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และศรีวารี รับสิทธิ์พบศิลปินชั้นนำกับคอนเสิร์ตสุดพิเศษแห่งปี 18.08.18 ณ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี
เพียงช็อปตามเงื่อนไขรับทันที เมื่อช้อปครบทุก 20,000 บาท (สุทธิ) รับบัตรชมคอนเสิร์ต 1 ที่นั่ง (บัตรที่นั่งโซนสีม่วง) ครบทุก 40,000 บาท (สุทธิ) รับบัตรชมคอนเสิร์ต 1 ที่นั่ง (บัตรที่นั่งโซนสีส้ม) แลกรับสูงสุดไม่เกินวันละ 2 ที่นั่งต่อคน
ข่าวที่ 2 “ททท.ดึง7ธุรกิจทำเทคอะเบรก20อาชีพลุยเที่ยว”
นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้ร่วมกับ 7 พันธมิตร การบินไทย รอยัลออร์คิดพลัส, สายการบินไทยสมายล์, นกแอร์, บัดเจ็ท คาร์, ทราเวลไอโกดอทคอม, เลิฟอันดามัน, ทรูยู ร่วมกันเปิดแคมเปญท่องเที่ยวเพื่อมนุษย์ทำงาน "Take a Break" (เทค อะ เบรค) หยุดพักจากงาน แล้วไปเที่ยวกัน
แคมเปญ Take a Break ปลุกมนุษย์ทำงานสุดเครียดทุกคน ด้วยการสร้างแรงบันดาลใจกระตุ้นคนออกมาท่องเที่ยวใน 20 เมือง สร้างรายได้ให้กลุ่มเมืองรองขั้นต่ำกว่า 200 ล้านบาท โดยเข้าไปจองซื้อที่ www.TakeabreakThailand.com ระหว่างวันนี้ถึง เดือนกันยายน
หลังจากที่ ททท. ทำสำรวจออนไลน์คนทำงานโหวตเลือกเมืองที่อยากไป Take a Break มากตามลำดับ 20 เมือง ได้แก่ อันดับ 1 เชียงราย อันดับ 2 แม่ฮ่องสอน อันดับ 3 น่าน อันดับ 4 ระนอง อันดับ 5 ชุมพร อันดับ 6 ตรัง อันดับ 7 เพชรบูรณ์ อันดับ 8 สตูล อันดับ 9 ตราด อันดับ 10 จันทบุรี อันดับ 11 ราชบุรี อันดับ 12 นครศรีธรรมราช อันดับ 13 อุบลราชธานี อันดับ 14 อุดรธานี อันดับ 15 นครนายก อันดับ 16 ปราจีนบุรี อันดับ 17 สมุทรสงคราม อันดับ 18 อุทัยธานี อันดับ 19 สุโขทัย อันดับ 20 พิษณุโลก
โดยได้มอบส่วนลดพิเศษ ให้มนุษย์ทำงานเดินทางไปยัง 20 Cities for Take a Break ดังนี้
1. ตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ จากการบินไทย ไทยสมายล์ และนกแอร์
2. ทราเวลไอโก ดอทคอม จัดดีลโรงแรมราคาพิเศษที่สุดกว่า 200 โรงแรม
3. บัดเจ็ท คาร์ ให้มนุษย์ทำงานได้ขับรถท่องเที่ยวเปิดประสบการณ์ไปขับรถเที่ยวเดือนละครั้ง ด้วยราคาพิเศษเช่นกัน
4. Love Andaman จัดแพ็คเก็จเที่ยวเกาะราคาสุดพิเศษ ไปเกาะช้างเผือก ระนอง มหานครแห่งปะการัง ซึ่งสมบูรณ์ที่สุด ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้ เบรคจากงานแล้วเทคตัวเองพร้อมโพสต์ท่าถ่ายรูป Jumping on the beach (จัมพ์ปิ้ง ออน เดอะ บีช) ส่งเข้าประกวด ชิงรางวัล 5 หมื่นบาท กับ Love Andaman
5. ทรูยู ชวนไปเช็ค อินราคาพิเศ นั่งจิบกาแฟ ชมวิวสวยๆ ในร้านสุดฮิป สุดเก๋ 45 ร้าน จาก 20 เมือง
นายนพดล กล่าวว่า "ททท. และพันธมิตร ยังได้จัดกิจกรรมพิเศษ You need to take a break ให้มนุษย์ทำงาน 20 ทีม 20 อาชีพ ประกอบไปด้วย 1. ทีมหมอ 2. ทีมพยาบาล 3. ทีมครู 4. ทีมตำรวจ 5. ทีมทหาร 6. ทีมแอร์โฮสเตส 7. ทีมนักบัญชี/นักการเงิน 8. ทีมพีอาร์ 9. ทีมอีเว้นท์ ออแกไนเซอร์ 10. ทีมเอเจนซี่ โฆษณา 11. ทีมนักข่าว 12. ทีมนักกฎหมาย 13. ทีมไอที 14. ทีมพนักงานต้อนรับโรงแรม 15. ทีมกราฟิก ดีไซน์เนอร์ 16. ทีมนักเขียน 17. ทีมนักตัดต่อวีดีโอ 18. ทีมโปรดิวเซอร์ 19. ทีมสถาปนิก 20. ทีมวิศวกร
โดยให้ทั้ง 20 ทีม 20 อาชีพ ร่วมทำกิจกรรมโปรโมท 20 เมือง 20 Cities for Take a Break ทุกทีมได้พักเบรคจากเดิมๆ ในสายอาชีพของตัวเองแล้วเปลี่ยนบทบาทใหม่เป็นนักรีวิว นักเดินทาง สำรวจที่กิน ที่เที่ยว ที่ดื่มกาแฟ เช็ค อินใน 20 เมือง สุดฮิป เพื่อพิสูจน์ว่าอาชีพไหน รีวิวเก่ง ถ่ายรูปและทำคลิปสวยส่งให้ ททท. ลุ้นรับรางวัลกว่า 3 แสนบาท
ข่าวที่ 3 “BPCGดึง5พันธมิตรร่วมรุกพลังงานยั่งยืน”
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) พร้อมผู้แทนจาก 5 องค์กรภาครัฐ และเอกชน ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และบริษัท พาวเวอร์ เล็ดเจอร์ ผู้นำด้านเทคโนโลยี Blockchain ระดับโลกจากออสเตรเลีย ร่วมเสวนาในหัวข้อ “Energy for Everyone” เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐ
เพื่อร่วมหาแนวทางให้การบริหารจัดการและการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเกิดประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ
อีกทั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) รับมอบรางวัล World Finance Awards 2018 สาขาองค์กรดีเด่นด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Best Corporate Governance 2018, Thailand) ซึ่งจัดโดยนิตยสารเวิร์ล ไฟแนนซ์ ของอังกฤษ ณ ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยบีซีพีจีเป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยที่ได้รับรางวัลนี้ในปีนี้
ข่าวที่ 4 “ชาเตอร์แห่บินสงกรานต์สุวรรณภูมิ-จอดรถฟรี”
นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.”เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์ระหว่าง11 -17 เมษายน 2561คาดจะมีผู้โดยสารใช้บริการสุวรรณภูมิรวม 1.35 ล้านคน เฉลี่ยวันละ 193,400 คน เพิ่มขึ้น 10.4 % ปริมาณเที่ยวบินรวม 7,310 เที่ยว เฉลี่ยวันละ 1,040 เที่ยวบิน เพิ่ม 11.2 %
โดยจะมีสายการบินประจำและสายการบินเช่าเหมาลำ (charter flight) ขอเพิ่มเที่ยวบินพิเศษรวม 74 เที่ยว แบ่งเป็น ระหว่างประเทศ 72 เที่ยว และภายในประเทศ 2 เที่ยว
เพื่อความสะดวกรวดเร็วท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ “จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกรองรับการให้บริการผู้โดยสาร ทสภ. (Airport Operation Center : AOPC)” ทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานด้านการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ แก่ผู้โดยสารและประชาชนที่มาใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ระหว่าง 6 - 20 เมษายน 2561 ณ ห้อง CIP 5 บริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสาร โทร. 0 2132 9950
นายศิโรตม์ กล่าวว่า เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการใช้สุวรรณภูมิในช่วงที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก จึงขอแนะนำให้ผู้โดยสารใช้บริการระบบอัตโนมัติที่จัดไว้ให้ ได้แก่ 1.เครื่องเช็คอินอัตโนมัติด้วยตนเอง (Common Use Self Service: CUSS) ของ 16 สายการบิน อาทิ การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ส ลุฟฮันซ่า จะได้ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวที่เคาน์เตอร์เช็คอิน แล้วเมื่อได้รับบัตรผ่านขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) แล้ว 2.นำสัมภาระไปโหลดได้ที่เคาน์เตอร์สายการบินได้ทันที แล้วเมื่อผ่านกระบวนการจุดตรวจค้นแล้ว 3.ใช้เครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Auto Gate) ให้บริการผู้โดยสารสัญชาติไทยและสิงคโปร์ พร้อมเจ้าหน้าที่คอยแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนบริการลานจอดรถสุวรรณภูมิมีพื้นที่รองรับรถยนต์รวมทั้งสิ้น 7,897 คัน ได้แก่ พื้นที่บริเวณอาคารและลานจอดรถยนต์ 1- 4 รองรับรถยนต์ได้ 5,392 คัน ลานจอดรถยนต์โซน 5 บริเวณด้านข้างโรงแรมโนโวเทล รองรับได้ 455 คัน และลานจอดรถโซน 6 , 7 บริเวณฝั่งตรงข้ามด้านหน้าโรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิ รองรับรถยนต์ได้ 782 คัน และลานจอดรถยนต์ระยะยาว (Long Term Parking) บริเวณโซน A และ C อยู่ใกล้กับศูนย์การขนส่งสาธารณะ (Bus Terminal) จอดได้ 1,268 คัน
รวมทั้งยังได้ยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ที่นำรถมาจอดที่ลานจอดรถระยะยาว (Long Term Parking) โซน C รับได้ 718 คัน จะเริ่มยกเว้นค่าจอดรถตั้งแต่ 08.00 น. ของวันที่ 5 เมษายน 2561 ไปจนถึงเวลา 17.00 น. ของวันที่ 9 เมษายน 2561 และเวลา 08.00 น. ของวันที่ 11 เมษายน 2561 ถึงเวลา 17.00 น. ของวันที่ 17 เมษายน 2561
โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้จัดรถชัตเติลบัสคอยอำนวยความสะดวกรับ - ส่ง ผู้โดยสารระหว่างลานจอดรถยนต์ระยะยาวกับอาคารผู้โดยสารชั้น 4 ประตู 5 โดยให้บริการทุกๆ 15 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง
ช่วงที่ 2 แต่งไทยไปสงกรานต์ในเมือง 5 รอง ที่พร้อมโชว์อัตลักษณ์วิถีวัฒนธรรมประจำถิ่นรักสามัคคี กับ “ชาวบ้านบางระจัน” สิงห์บุรี สุขภาพดีมีโชคที่ “ชุมชนตะปอน” อำเภอขลุง จันทบุรี “ก่อพระเจดีย์ทราย” กำแพงเพชร เล่นสาดน้ำกับ “น้องดิโน่-แพรวา” ถิ่นไดโนเสาร์ กาฬสินธุ์ และ “แห่นางดานเมืองคอน” นครศรีธรรมราช เลือกได้เลยจะไปสงกรานต์ที่ไหนดี และ “วิธีเดินอย่างถูกวิธีร่างกายแข็งแรง” แน่นอนตามลักษณะการเดิน 5 วิธีด้วยกัน ส่วนข่าวท้ายชั่วโมง แฟนพันธุ์แท้ห้องพักและอาหารอร่อยห้ามพลาด โรงแรมอัมรา กรุงเทพฯ จัดโปรห้องพักลดแล้วลดอีกเฉพาะเมษายนนี้ ส่วนโรงแรมวี กรุงเทพฯ ได้เชฟมิชลินระดับโลกบินมาปรุงเมนูพิเศษให้ชิมแค่ 4 วันเท่านั้น 25-28 เมษายน และทัวร์เมียนมาได้เฮกับบางกอกแอร์เวย์ส เตรียมเพิ่มเที่ยวบินเป็นสัปดาห์ละ 11 เที่ยว เริ่ม 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ขณะที่มหกรรม ASEANbeauty 2018” ระหว่าง 3-5 พฤษภาคม 2561 ธุรกิจคนไทยในกลุ่มความงามจะลงสนามแข่งชิงตลาดแสนล้าน
@สงกรานต์เอกลักษณ์5เมืองรองสนุกทุกมุม
ออกไปสัมผัส “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” กับ “Amazing Songkran 2018” ใน 5 เมืองรอง
เมืองแรก “Amazing Songkran 2018 @ Singburi” จังหวัดสิงห์บุรี ระหว่าง 12-15 เมษายน 2561 ทางวัดโพธิ์เก้าต้นชวนร่วมพิธีสรงน้ำพระอาจารย์ธรรมโชติ รดน้ำดำหัวพ่อปู่แม่ย่าบ้านระจัน กิจกรรมก่อเจดีย์ทราย ขวนแห่สงกรานต์ การแสดงดนตรีจากศิลปินที่มีชื่อเสียง การแสดงทางวัฒนธรรม ซุ้มสาธิตศิลปวัฒนธรรม อาทิ การสักยันต์ เครื่องหอม
ชมประเพณีแบบไทยโบราณสมัยบ้านระจัน ซึ่งใช้บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นตัวขับเคลื่อนกิจกรรม เรียกว่า “บ่อน้ำพิพย์” ใช้บวงสรวงน้ำหลวงพ่อโตโคตะมะ และหลวงปู่ธรรมโชติ และน้ำทิพย์ อีกแหล่ง คือ น้ำในคลองบ้านระจัน นำมาใช้ปะพรมสรงน้ำพระ อาบน้ำประธานในพิธีจากแต่ละอำเภอ
สำหรับการปลุกเสกน้ำทิพย์ก่อนเริ่มงานสงกรานต์ เป็นอัตลักษณ์ของบ้านระจันอีกทั้งให้ความสำคัญกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ โดยจะพร้อมใจกันแต่งกายแบบบ้านระจัน ภาษาพูด และกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทยอันดีงาม มีกิจกรรมต่าง ๆ สอดแทรกเรื่องความสามัคคี ความรักชาติ ควบคู่กันไป
เมืองที่ 2 “มหาสงกรานต์ตะปอน ตำนานแห่เกวียนผ้าพระบาท” จังหวัดจันทบุรี ระหว่าง 13 - 17 เมษายน 2561 ชาวบ้านวัดตะปอนน้อย วัดเกวียนหัก วัดตะปอนใหญ่ ชวนร่วม 6 พิธีแห่งวิถีชาวชุมชน คือ 1. พิธีบวงสรวงพระบาทผ้า 2. ขบวนเกวียนแห่ผ้าพระบาท 3. การแสดงแสง เสียง ตามรอยทัพพระเจ้าตาก 4. ถนนโบราณสงกรานต์บ้านตะปอน การละเล่นพื้นบ้าน และกิจกรรมการแสดงบนเวที 5. กิจกรรมตลาดย้อนยุค จำหน่ายอาหาร สินค้า และผลิตภัณ์ท้องถิ่น 6. จัดแสดงพระเจดีย์ทรายแห่งศรัทธา
เป็นการสืบสานประเพณีที่อยู่คู่ชุมชนชาวตะปอนมายาวนานกว่า 460 ปี ของอำเภอขลุง จันทบุรี ด้วยความเชื่อและศรัทธาในรอยพระพุทธบาทผ้าที่เชื่อว่าหากได้กราบบูชา จะได้บุญและหายจากเคราะห์ร้ายโรคภัย เป็นการนำอัตลักษณ์ของชุมชนและวิถีท้องถิ่นบนเส้นทางโบราณก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยามาถ่ายทอดบอกเล่าประวัติศาสตร์ในรูปแบบของการย้อนยุค สอบถาม ททท. สำนักงานระยอง โทร. 0 3865 5420-1
เมืองที่ 3 “สงกรานต์มงคล ก่อพระทรายน้ำไหล ยิ่งใหญ่พวงมโหตร” จังหวัดกำแพงเพชร ระหว่าง 11-17 เมษายน 2561 บริเวณถนนริมแม่น้ำปิงเชื่อมโยงถึงเกาะกลางแม่น้ำปิงอำเภอเมือง ชมความยิ่งใหญ่ 1. การจัดขบวนแห่ผ้าห่ม ห่มพระธาตุตามประเพณีโบราณ 2. การจัดขบวนแห่เครื่องสักการะและเครื่องสรงน้ำศาลเจ้าพ่อหลักเมืองและศาลพระอิศวร 3. ซุ้มน้ำมนต์ 4. กิจกรรมสงกรานต์ย้อนยุค การละเล่นพื้นบ้าน และอาหารถิ่นห้ามพลาด 5. การก่อเจดีย์ทราย
เพื่อร่วมกันส่งเสริมการสืบสารอนุรักษ์ประเพณีท้องถิ่นอันดีงามจาก 27 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองกำแพงเพชร มาร่วมส่งเสริมอนุรักษณ์ขนบธรรมเนียมสงกรานต์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวกำแพงเพชร พบกับประสบการณ์ใหม่ๆ ภูมิภาคภาคเหนือที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ให้คงอยู่ สอบถามได้ที่ ททท. สำนักงานสุโขทัย โทร. 0 5561 6228-9
เมืองที่ 4 “สงกรานต์ดีโนสินธุ์ ถิ่นคนน่ารัก” จังหวัดกาฬสินธุ์ ระหว่าง 13 - 15 เมษายน 2561 ณ ลานวัฒนธรรม วัดสว่างคงคา อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ มีกิจกรรมให้ร่วมกับท้องถิ่นหลากหลาย ได้แก่ 1.สรงน้ำหลวงพ่อองค์ดำ 2.เล่นน้ำกับไดโนเสาร์ น้องดิโน่ และ น้องแพรวา 3. ขบวนแห่ทางวัฒนธรรม 4. การแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดัง และการแสดงจากวงแพรวาจีจี้ 5. การออกร้านขายอาหารพื้นถิ่นและอาหารชื่อเด่นดังที่เป็นที่รู้จักในพื้นที่
เป็นการตอกย้ำการสร้างภาพลักษณ์ตามที่จังหวัดกำหนดใช้ไดโนเสาร์เป็นแบรนด์ของจังหวัด คือ น้องดิโน่ และ น้องแพรวา ซึ่งการสร้างกิจกรรมงานเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์จะสามารถเพิ่มการรับรู้และสร้างทางเลือกในการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มเติมนอกเหนือจากกิจกรรมสงกรานต์บริเวณถนน ข้าวเหนียว จังหวัดขอนแก่น สอบถามได้ที่ ททท. สำนักงานขอนแก่น โทร. 0 4322 7717
เมืองที่ 5 “เทศกาลมหาสงกรานต์แห่นางดานเมืองนครศรีธรรมราช” จังหวัดนครศรีธรรมราช 11 - 15 เมษายน 2561 บริเวณถนนราชดำเนินในอำเภอเมือง ชมความตระการตาได้แก่ 1. การแสดง แสง สี เสียง ในพิธีโล้ชิงช้า และการจัดขบวนแห่นางดานเข้าสู่บริเวณพิธีจัดงาน 2. พิธีบวงสรวงแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าศรีธรรมโศกราช ดำเนินการโดยจังหวัดนครศรีธรรมราช 3. การแสดงพื้นบ้าน อาทิ รำวงเวียนครก 4. การจำหน่ายอาหารถิ่นห้ามพลาด
ประเพณีแห่นางดานเป็นที่รู้จักและคงไว้ซึ่งประเพณีเก่าแก่ของเมืองนครศรีธรรมราชและเป็นประเพณีที่กำเนิดขึ้นเป็นแห่งแรกของประเทศ และมีการโล้ชิงช้านอกเขตเมืองหลวงเพียงแห่งเดียวของไทยโดยกิจกรรมที่สำคัญที่เป็นหัวใจหลักของานประเพณีแห่นางดานมี 3 อย่าง คือ พิธีบวงสรวงพระอิศวร การแสดงอัญเชิญพระอิศวรเพื่อประกอบพิธีโล้ชิงช้า และการรำเสนง (สะ-เหนง) สอบถามได้ที่ ททท. สำนักงานนครศรีธรรมราช โทร. 0 7534 6515-6
แต่งไทยไปท่องเที่ยวสงกรานต์ 5 เมืองรอง เติมความสุขให้คนไทยด้วยกันและร่วมอนุรักษ์ประเพณีอันดีงามไว้ให้ยั่งยืนต่อไป
@วิธีเดินอย่างถูกวิธีเพื่อความแข็งแรง
การเดินแม้จะไม่ได้เผาผลาญพลังงานได้มาก แต่หากออกกำลังกายด้วยการเดินอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี ร่างกายก็จะแข็งแรงขึ้นอย่างแน่นอน จึงขอนำลักษณะการเดินที่ถูกวิธีมาบอกกันดังนี้
1. ขณะเดินตามองตรงไปข้างหน้า ศีรษะและลำตัวตั้งตรง ไหล่สองข้างอยู่ในระดับตรง
2. แกว่งแขนซ้ายขวาสลับหน้าหลังขนานลำตัว มือทั้งสองข้างกำหลวมๆ โดยมือที่แกว่งสูงระดับอก ในลักษณะผ่อนคลาย งอศอกเล็กน้อย ทำมุมราว 90 องศาระหว่างแขนท่อนบน-ล่าง
3. จังหวะความเร็วในการก้าวเท้าสม่ำเสมอตลอดระยะทางที่เดิน ไม่เดินทอดน่องหรือเดินตามสบาย
4. เวลาเดิน ส้นเท้าสัมผัสพื้น รับน้ำหนักตัวก่อนปลายเท้า ก้าวเท้าออกไปประมาณครึ่งก้าว ให้ส้นเท้าแตะพื้น แล้วถ่ายน้ำหนักตัวไปที่ฝ่าเท้า เหยียบพื้นให้เต็มฝ่าเท้า ส่วนขาอีกข้างเมื่อกำลังจะเคลื่อนย้าย ให้ยกส้นเท้าขึ้นถ่ายน้ำหนักตัวลงที่ปลายเท้าซึ่งกดพื้นไว้ ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ตลอดเวลาที่เดินจะช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าแข้ง เป็นการเดินเพื่อสุขภาพที่ถูกต้องและส่งเสริมบุคลิกภาพด้วย
5. ความยาวของช่วงก้าวขึ้นอยู่กับความเร็วในการเดิน ที่สำคัญต้องไม่ก้าวยาวมากเกินไป เพราะทำให้เมื่อยล้ากล้ามเนื้อต้นขาและสะโพกเร็วกว่าปกติ ส่วนถ้าเดินขึ้นเนิน ควรเดินให้ช้าลง เอนตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย แกว่งแขนให้มากขึ้นเล็กน้อย แล้วเมื่อเดินลงเนิน พยายามควบคุมความเร็วไว้ ก้าวสั้นๆ และวางเท้าเบาๆ
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “อัมรากรุงเทพฯจัดโปรฮ็อตห้องพักวันนี้-ต.ค.”
โรงแรมอัมรา กรุงเทพฯ จัดโปรโมชั่นจองห้องพักล่วงหน้าระหว่าง 17 เมษายน – 31 ตุลาคม 2561 ด้วยส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมจากโปรโมชั่นที่ได้รับเดิมเพิ่มอีกถึง 12%
นักท่องเที่ยวสามารถจองห้องเพื่อเข้าพักระหว่างวันที่ 17 เมษายน – 31 ตุลาคม 2561 โรงแรมอัมรา กรุงเทพฯจะมอบส่วนลดเพิ่มเติมจากโปรโมชั่นใดก็ได้ที่ได้รับอยู่แล้วอีกถึง 12% เมื่อจองวันนี้ – 20 เมษายน 2561 โดยใช้รหัสโปรโมชั่น ‘SUMSA’ จองเท่านั้น สำรองห้องพักผ่านทางออนไลน์ที่ www.bangkok.amarahotels.com หรือโทร 02 021 8888
ข่าวที่สอง “พบสุดยอดมิชลินโลกที่โรงแรมวี25-28เม.ย.”
โรงแรม “วี กรุงเทพฯ เอ็มแกลเลอรี บาย โซฟิเทล” ได้เชฟชั้นนำของโลกเจ้าของรางวัลมิชลิน “เชฟเซบาสเตียน” ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Maitre Cuisinier de France มาออกแบบเมนูซิกเนเจอร์สุดพิเศษเพื่อความสมบูรณ์แบบในมื้อสำคัญที่ ห้องอาหาร ลาวี – ครีเอทีฟ เฟรนช์ คูซีน ชั้น 11 ระหว่างวันที่ 25 – 28 เมษายนนี้ เพียงแค่ 4 วันเท่านั้น
โดยมีเมนูที่ปรุงด้วยวัตถุดิบเป็นเอกลักษณ์พิเศษ มื้อกลางวัน ราคา 3,000 บาท สุทธิ แบบเซต 4 คอร์ส
ราคา 4,500 บาท สุทธิ แบบเซต 4 คอร์สจับคู่กับไวน์ชั้นเลิศ เริ่มเสิร์ฟตั้งแต่ 12.00 น.เป็นต้นไป
มื้อค่ำ ราคา 6,000 บาท สุทธิ แบบเซต 6 คอร์ส ราคา 8,000 บาท สุทธิ แบบเซต 6 คอร์สจับคู่กับไวน์ชั้นเลิศ เริ่มเสิร์ฟเวลา 19:00 น. เป็นต้นไป
สอบถามได้ที่ 083-8204224, อีเมล์: afbm@viehotelbangkok.com
ข่าวที่สาม “ทัวร์เมียนมาเฮบางกอกแอร์บินเพิ่ม11เที่ยว/สัปดาห์”
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส รายงานว่า จะเพิ่มเที่ยวบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) – มัณฑะเลย์ (เมียนมาร์) จากสัปดาห์ละ 7 เป็น 11 เที่ยว เริ่ม 1 กรกฎาคม 2561 เป็นต้นไป เพื่อรองรับความต้องการในการเดินทางที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ320 ขนาด 162 ที่นั่งทุกวัน
โดยเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นคือ PG713 ออกจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) เวลา 17:00 น. ถึงมัณฑะเลย์ (เมียนมาร์) เวลา 18:25 น. เที่ยวบิน PG714 ออกจากมัณฑะเลย์ (เมียนมาร์) เวลา 19:10 น. ถึงกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) เวลา 21:35 น. ให้บริการทุก วันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ และวันอาทิตย์
สอบถามเพิ่มได้ที่ www.bangkokair.com หรือ Call Center โทร 1771 ตลอด 24 ชั่วโมง ค่าบริการครั้งละ 3 บาททั่วไทย เช็คอิน 24 ชั่วโมงล่วงหน้าก่อนการเดินทางด้วยตัวเองที่ www.bangkokair.com/web-check-in หรือบางกอกแอร์เวย์สโมบายแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนทุกเครือข่ายทั้งระบบ iOS และ Android
ข่าวที่สี่ “ASEANbeautyปลุกตลาดแสนล้านคึกคัก”
นายเอ็ม กันดิ กรรมการผู้จัดการกลุ่ม (ธุรกิจอาเซียน) บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จํากัด และรองประธาน บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ไทยเตรียมจัดแสดงสินค้าความงาม และสุขภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาค “ASEANbeauty 2018” ระหว่าง 3-5 พฤษภาคม 2561 ณ ไบเทค บางนา ให้ผู้ประกอบการธุรกิจไทยที่เกี่ยวข้อง ได้แสดงศักยภาพนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ด้านความงามและสุขภาพ ได้ร่วมวงชิงส่วนแบ่งตลาดความงามอาเซียนที่มูลค่า 5 แสนล้านบาท โดยไทยยังครองแชมป์ส่งออกอันดับ 1 มูลค่า ตลอดงาน ASEANbeauty 2018 ปีนี้หวังจะมีเงินเดินสะพัดกว่า 1,000 ล้านบาท
ปี 2560 มูลค่าตลาดรวมเครื่องสำอางของไทยมีประมาณ 3 แสนล้านบาท เติบโต 8 % แบ่งเป็นส่งออกต่างประเทศ 1.21 แสนล้าน และขายในประเทศ 1.81 แสนล้านบาท และจากสถิติ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ทางกระทรวงพาณิชย์รายงานยอดส่งออกประมาณ 2,466 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 88,684 ล้านบาท (35.0949) โดยส่งออกเครื่องสำอาง คือ ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม 30.49%, ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว 15.78%, และอื่นๆ 53.73% อีกทั้งในปี 2560 dkiซื้อขายในประเทศมีประมาณ 4,700 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 168,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ปี 2560 ตลาดสินค้าด้านความงามในอาเซียนมีประมาณ 5 แสนล้านบาท โดยมีคู่แข่งหลักซึ่งครองส่วนแบ่งตามลำดับคือ ญี่ปุ่น 21% อินโดนีเซีย 9% ฟิลิปปินส์ และมาเลเซียเท่ากัน 8% ออสเตรเลีย 6% กัมพูชา 5% จีน อังกฤษและเมียนมาร์เท่ากัน 4% เท่ากัน และสหรัฐอเมริกา และยุโรปรวมกันได้ 26%
ติดตามฟังรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.
ทุ่มสร้างเมืองเทรนด์ใหม่ครีเอทีฟซิตี้
ช้อปคิงเพาเวอร์ลุ้นตั๋วดูคอนเสิร์ตโลก
จุดพลุเทคอะเบรกเที่ยวไทย20เมือง
BCPGผนึก5กลุ่มลุยพลังงานอนาคต
บินเช่าเหมาสงกรานต์ล้นสุวรรณภูมิ
เที่ยวสงกรานต์5เมืองรองมุมใหม่เก๋ๆ
เดินถูก5วิธีร่างกายแข็งแรงปลอดชรา
โรงแรมอัมราขายห้องพักลดซ้อนลด
เชฟโลกยึดวีกรุงเทพเสิร์ฟ25-28เมย.
เฮบางกอกแอร์เพิ่มมัณฑะเลย์11เที่ยว
ไทยจัดอาเซียนบิวตี้ชิงตลาดแสนล้าน
สวัสดีวันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน 2561 เวลา 11.00-12.00 น.ต้อนรับเข้าสู่รายการ ““รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen กับบล็อกเกอร์ #gurutourza
ช่วงที่ 1 เกาะติด “ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะพลิก “กาฬสินธุ์ ถิ่นสร้างสรรค์” ตอนนี้อัดฉีดเงินโฆษณาผลิตสื่อเทรนด์ใหม่ไปแล้ว 15-17 ล้านบาท ไฮไลต์ด้วยสีสันวงดนตรีเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่นำเพลง “แพรวาจีจี้” กับหนังออนไลน์มาสร้างความแรง ควบคู่กับเฟ้นจุดแข็ง 4 เรื่อง ที่จะหนุนนำก้าวไปสู่เส้นทางสายใหม่ “ครีเอทีฟ ซิตี้” บอกเล่าผ่านเรื่องราวการพัฒนาเมืองของลูกหลานชาวกาฬสินธุ์เจนวายที่แปลงโฉมตลาดโรงสี ร้านคาแฟที่พักเก๋ ๆ ผสมผสานไปกับธรรมชาติในเขื่อนลำปาว วิถีชีวิตแห่งเมืองโบราณคดีที่มีคุณค่าทางจิตใจ
 |
| ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย |
“ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า แผนกลยุทธ์การผลักดันกาฬสินธุ์เป็นพื้นที่การท่องเที่ยวดาวรุ่งตามโจทก์ของรัฐบาลซึ่งต้องการลดความเหลื่อมล้ำกระจายรายได้จังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวค่อนข้างต่ำอยู่อันดับที่ 3 จากท้ายทั้งหมด 77 จังหวัด หลังจากคณะรัฐมนตรีสัญจรไปประชุมยังกาฬสินธุ์ นายกรัฐมนตรีมีดำริให้ทุกฝ่ายช่วยกัน แล้วผมก็ได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมกับวางแนวทางยกระดับกาฬสินธุ์ในภาพจำใหม่ให้เป็น “กาฬสินธุ์ถิ่นสร้างสรรค์” เพราะความเข้าใจเดิม ๆ ของคนส่วนใหญ่มองเป็นพื้นที่แห้งแล้ง สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งห้องพักโรงแรม คมนาคม ก็ไม่โดดเด่น ทว่าปัจจุบันมีสายการบินโลว์คอสต์แอร์ไลน์จำนวนมากให้บริการเดินทางไปลงขอนแก่น ร้อยเอ็ด แล้วสามารถนั่งรถต่อไปกาฬสินธุ์ได้ภายในเพียงชั่วโมงเดียว ถนนดีมากบรรยากาศสองข้างทางเป็นทุ่งนาเขียวขจี
ดังนั้น ททท.จึงต้องเร่งพัฒนากาฬสินธุ์ตลอดปี 2561 ตั้งเป้าจะเชิญชวนให้คนไทยเข้าไปท่องเที่ยวให้ถึง 600,000 คน เพิ่มขึ้น 10-15 % และรายได้ก็เติบโตเชิงบวก 8-10 % สูงกว่าปี 2560 มีคนไทยเที่ยวกาฬสินธุ์กว่า 500,000 คน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมษายนนี้เลือกให้กาฬสินธุ์เป็น 1 ใน 5 เมือง จัดสงกรานต์อย่างมีสีสัน ช่วงเดือนพฤษภาคมนี้เตรียมทำ“DINO ศิลป์”
ส่วนการพลิกจุดขายใหม่ “กาฬสินธุ์ถิ่นสร้างสรรค์” เบื้องต้น ททท.ใช้งบประมาณราว 15-17 ล้านบาท ผลิตสื่อรูปแบบต่าง ๆ ด้วย 3 On onair-online-onground นำภาพสถานที่ท่องเที่ยวเผยแพร่ทุกช่องทาง ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ ออนไลน์ ขณะนี้สนับสนุนศิลปินเยาวชนพื้นบ้านแนวใหม่มาแรงวง “แพรวาจีจี-Girl Group 18” และภาพยนตร์สั้นออนไลน์เรื่อง “กาลศิลป์” ทั้งหมดจะรวมอยู่ในแคมเปญการตลาดของ ททท.ที่จะผลักดันให้กาฬสินธุ์เป็นเมืองสร้างสรร หรือ Creative City เป็นแบรนดิ้งสร้างภาพจำใหม่ให้คนไทยและนานาชาติรู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น E-Greet , E-Poster ซึ่งถ่ายทำโดยช่างภาพ ททท.นำออกเผยแพร่กระจายไปทั่วประเทศแล้ว เพราะกาฬสินธุ์มีองค์ความรู้หลากหลายและปัจจัยส่งเสริมที่เข้มแข็งหลัก ๆ 4 เรื่อง ได้แก่
1.โบราณคดี พิพิธภัณฑ์สิรินธร ของกรมทรัพยากรธรณี พบซากไดโนเสาร์ขนาดใหญ่สมบูรณ์มีจำนวนชิ้นมากที่สุดในเอเชีย ภายในพิพิธภัณฑ์มีนักวิทยาศาสตร์คอยวิเคราะห์วิจัยอยู่ด้วย รวมถึงการก่อสร้างออกแบบถูกต้องตามหลักทางธรณี วิธีนำเสนอผ่านมัลติมีเดียด้วยองค์ความรู้ทำได้ชัดเจน สะดวกสบาย มีลานจอดรถ และร้านขายของที่ระลึก ขณะนี้กลุ่มครอบครัวสนใจเข้าไปท่องเที่ยวจำนวนมาก
2.เป็นจังหวัดที่มีระบบการกักเก็บน้ำเพื่อไว้ใช้ในหน้าแล้งที่สมบูรณ์ โดยนำน้ำมาเก็บไว้ “เขื่อนลำปาว” ซึ่งบริเวณเขื่อนมี “สะพานเทพสุดา” กลางอ่างเก็บน้ำความยาวเกือบ 2 กิโลเมตร แล้วยังใช้เป็นแหล่งเลี้ยงกุ้งซึ่งนำมาทำเมนูอาหารถิ่นรสชาติอร่อยและขึ้นชื่อมาก และมีพื้นที่สุดชีลเป็นจุดแฮงเอาท์แหล่งรวมร้านอาหารชั้นนำมีชื่อเสียของภาคอีสานและเมืองกาฬสินธุ์นำโรงสีมาทำเป็นตลาด ออกแบบสไตล์บูติก ฟู้ดคอร์ด มีลานกิจกรรมและดนตรีฟัง ทุกวันศุกร์นักท่องเที่ยวและคนกาฬสินธุ์มาพบปะกันมากหน้าหลายตาทั้งวัยรุ่น พนักงานออฟฟิศ ครอบครัว
3.เป็นแหล่งผลิตผ้าพื้นเมืองขึ้นชื่อคือ “ผ้าแพรวา” มีอัตลักษณ์เฉพาะที่ได้รับความนิยมจากคนไทยและต่างชาติ
4.คนรุ่นใหม่รวมใจกันผลักดันกาฬสินธุ์เป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งใหม่ โดยสนับสนุนกลุ่มนักเรียนนาฎศิลป์ รวมตัวกันตั้งวง”แพรวาจีจี-Girl Group 18” สื่อถึงกาฬสินธุ์มี 18 อำเภอ นำผ้าพื้นเมืองแพรวามาออกแบบชุดเก๋ทันสมัยในการเต้นรำ ตอนนี้ผลิต MV เพลง “รักไม่ง้อเวลา” เผยแพร่กระหึ่มโซเชียลมีเดีย และสนับสนุน “อ๊อด-บัณฑิต” ผู้กำกับภาพยนตร์แถวหน้าของเมืองไทยผลิตภาพยนตร์ออนไลน์ขึ้นมา 1 ชุด ชื่อเรื่อง “กาลศิลป์” นำเสนอเรื่องกาลเวลากับเมืองศิลปะมีความงดงามซ่อนเร้นอยู่ เรื่องราวเป็นความพยายามของคู่รักหนุ่มสาว คนหนึ่งต้องการไปสร้างชื่อเสียงในกรุงเทพฯ ส่วนอีกคนมุ่งสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ โดยมีนักแต่งเพลงพื้นบ้านแต่งให้คู่รักสองคนไปออดิชั่นตามที่ต่าง ๆ เป็นหนังสั้นน่ารัก ๆ สะท้อนภาพคนกาฬสินธุ์รุ่นใหม่มีความคิดกว้างไปไกล ทำให้จังหวัดมีความทันสมัย
นายธเนศวร์กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปกาฬสินธุ์จะได้สัมผัสวิถีถิ่นทั้งการเล่นน้ำกับไดโนเสาร์ ฟังเพลงจากวงแพรวาจีจี ซึ่งจะมีภาพฉากประกอบเคลื่อนไหวเป็นแหล่งท่องเที่ยวกาฬสินธุ์ หรือจะไปนั่งชีลสบาย ๆ ที่ตลาดโรงสี ช้อปปิ้งผ้าแพรวา ผ้าไหม ผ้าฝ้ายทอมือลายกาฬสินธุ์ กระจายรายได้สู่ชุมชนโดยตรง แนวโน้มขณะนี้ ททท.หวังเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มครอบครัวที่พาลูก ๆ เที่ยวมุมใหม่ในบ้านเมืองตนเอง ได้ชมงานศิลปะ รับประทานอาหารท้องถิ่นรสชาติอร่อย และชมเมืองที่สะอาดมากทางเทศบาลเมืองสามารถจัดการขยะจนได้รับรางวัล รอบบริเวณเมืองก็มีประติมากรรมไดโนเสาร์ นักท่องเที่ยวทั่วไปก็จะได้สัมผัสครบทั้งศิลปะ ธรรมชาติ อาหารถิ่น องค์ความรู้ สร้างภาพจำใหม่ให้เป็นเมืองอาร์ตอย่างเต็มรูปแบบ
ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกปัจจุบันมีโรงแรมคุณภาพดีอย่าง “คาเฟ เดอ สุภัค กาฬสินธุ์” ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสไตล์ทรงยุโรป ทายาทการลงทุนรุ่นลูกออกแบบให้มีความทันสมัยแปลกตา บริเวณชั้นล่างของโรงแรมมีร้านกาแฟออกแบบเก๋ไก๋ Loft Style เสิร์ฟกาแฟ เครื่องดื่ม เค้ก ภายในเมืองก็มียังโรงแรมสะอาด คุณภาพ ให้บริการอีกหลายแห่งด้วยเช่นกัน
ททท.มุ่งหวังกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวเดินทางจากขอนแก่นต่อเข้าไปยังกาฬสินธุ์ ททท.ประทับใจทางจังหวัดกับเทศบาลให้ความร่วมมือดีมากสนับสนุนให้การท่องเที่ยวเพื่อร่วมมือกันทำตามข้อตกลง 3 S คือ 1.Spark โดยททท.เป็นผู้จุดประกายแหล่งเพื่อการท่องเที่ยว 2.Spin-ทางจังหวัดจะต้องขับเคลื่อนเดินหน้าต่อในทุก ๆ ด้าน และ 3.Sustainable-สร้างความยั่งยืนในวิถีท่องเที่ยวชุมชนอย่างเข้มแข็งสำเร็จในระยะยาว
สำหรับการบริหารจัดการเพื่อเตรียมความพร้อมแหล่งท่องเที่ยว ตอนนี้เห็นการเปลี่ยนของทุกพื้นที่ตื่นตัว ทั้งเรื่อง สะอาด สะดวก สบาย ปลอดภัย ไม่เฉพาะกาฬสินธุ์เท่านั้นยังมีเมืองท่องเที่ยวรองจำนวนมากเดินหน้ามากแล้ว ททท.ต้องการให้คนเข้าไปท่องเที่ยวตามขีดความสามารถทางการรองรับในพื้นที่ด้วย โดยเฉพาะเมืองรองควรจะมีโรงแรมตามขนาดพื้นที่ละประมาณไม่เกิน 500-3,000 ห้อง การทำตลาดยุคนี้ต้องระมัดระวังไม่ให้นักท่องเที่ยวไหลบ่าเข้าไปยังพื้นที่มากเกินขีดความสามารถของพื้นที่เพราะจะไปกระทบความไม่ยั่งยืนหรือสร้างปัญหาอื่นตามมา
ททท.ได้เร่งเครื่องทำแผนสื่อสารการตลาดเชิงรุกส่งเสริมการท่องเที่ยวกาฬสินธุ์และเมืองรองเต็มรูปแบบ เพื่อทำให้จังหวัดที่มีรายได้น้อยนำการท่องเที่ยวเป็นอาชีพเสริมหันมาเฟ้นหาจุดแข็งของท้องถิ่นตนเองแปลงให้เป็นคุณค่านำเสนอแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและนานาชาติต่อไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์บูมสงกรานต์ช้อปปลุ้นตั๋วดนตรีระดับโลก”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนไปเที่ยว “สงกรานต์ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ นครา” ระหว่างวันที่ 10-15 เมษายน 2561 ใน 5 โซน คือ โซนวัด โซนบ้าน โซนทุ่ง โซนตลาด และโซนสวน 1.ตลาดน้ำ ใจกลางกรุงเทพพร้อมอิ่มอร่อยไปกับอาหารไทยจากร้านอาหารชื่อดังระดับตำนาน ในบรรยากาศตลาดบก-ตลาดน้ำโบราณ 2.สรงน้ำพระพุทธรูปปางสมาธิประจำวัดอภัยทายารามที่มีอายุร่วมกว่าสองร้อยปี 3.ตื่นตาตื่นใจไปกับขบวนพาเหรดนางสงกรานต์ “มโหธรเทวี” อันยิ่งใหญ่ กับเหล่านางเอกแถวหน้าเมืองไทย ตลอด 6 วัน 4.สนุกสนานไปกับการแสดงทางวัฒนธรรม และ 5.เสียงเพลงจากศิลปินชื่อดังตัวแทนทุกภาคทั่วไทย บันเทิงกันแบบต็มอิ่มทุกวัน
แล้วคิง เพาเวอร์ ยังได้จัดพิเศษสุดตั้งแต่วันนี้ – 31 พ.ค. 2561 พบกับแคมเปญ KING POWER THE INFINITY CONCERT จาก Endless Happiness ความสนุก ความสุข ไม่มีที่สิ้นสุด ช้อปที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และศรีวารี รับสิทธิ์พบศิลปินชั้นนำกับคอนเสิร์ตสุดพิเศษแห่งปี 18.08.18 ณ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี
เพียงช็อปตามเงื่อนไขรับทันที เมื่อช้อปครบทุก 20,000 บาท (สุทธิ) รับบัตรชมคอนเสิร์ต 1 ที่นั่ง (บัตรที่นั่งโซนสีม่วง) ครบทุก 40,000 บาท (สุทธิ) รับบัตรชมคอนเสิร์ต 1 ที่นั่ง (บัตรที่นั่งโซนสีส้ม) แลกรับสูงสุดไม่เกินวันละ 2 ที่นั่งต่อคน
ข่าวที่ 2 “ททท.ดึง7ธุรกิจทำเทคอะเบรก20อาชีพลุยเที่ยว”
นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้ร่วมกับ 7 พันธมิตร การบินไทย รอยัลออร์คิดพลัส, สายการบินไทยสมายล์, นกแอร์, บัดเจ็ท คาร์, ทราเวลไอโกดอทคอม, เลิฟอันดามัน, ทรูยู ร่วมกันเปิดแคมเปญท่องเที่ยวเพื่อมนุษย์ทำงาน "Take a Break" (เทค อะ เบรค) หยุดพักจากงาน แล้วไปเที่ยวกัน
แคมเปญ Take a Break ปลุกมนุษย์ทำงานสุดเครียดทุกคน ด้วยการสร้างแรงบันดาลใจกระตุ้นคนออกมาท่องเที่ยวใน 20 เมือง สร้างรายได้ให้กลุ่มเมืองรองขั้นต่ำกว่า 200 ล้านบาท โดยเข้าไปจองซื้อที่ www.TakeabreakThailand.com ระหว่างวันนี้ถึง เดือนกันยายน
หลังจากที่ ททท. ทำสำรวจออนไลน์คนทำงานโหวตเลือกเมืองที่อยากไป Take a Break มากตามลำดับ 20 เมือง ได้แก่ อันดับ 1 เชียงราย อันดับ 2 แม่ฮ่องสอน อันดับ 3 น่าน อันดับ 4 ระนอง อันดับ 5 ชุมพร อันดับ 6 ตรัง อันดับ 7 เพชรบูรณ์ อันดับ 8 สตูล อันดับ 9 ตราด อันดับ 10 จันทบุรี อันดับ 11 ราชบุรี อันดับ 12 นครศรีธรรมราช อันดับ 13 อุบลราชธานี อันดับ 14 อุดรธานี อันดับ 15 นครนายก อันดับ 16 ปราจีนบุรี อันดับ 17 สมุทรสงคราม อันดับ 18 อุทัยธานี อันดับ 19 สุโขทัย อันดับ 20 พิษณุโลก
โดยได้มอบส่วนลดพิเศษ ให้มนุษย์ทำงานเดินทางไปยัง 20 Cities for Take a Break ดังนี้
1. ตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ จากการบินไทย ไทยสมายล์ และนกแอร์
2. ทราเวลไอโก ดอทคอม จัดดีลโรงแรมราคาพิเศษที่สุดกว่า 200 โรงแรม
3. บัดเจ็ท คาร์ ให้มนุษย์ทำงานได้ขับรถท่องเที่ยวเปิดประสบการณ์ไปขับรถเที่ยวเดือนละครั้ง ด้วยราคาพิเศษเช่นกัน
4. Love Andaman จัดแพ็คเก็จเที่ยวเกาะราคาสุดพิเศษ ไปเกาะช้างเผือก ระนอง มหานครแห่งปะการัง ซึ่งสมบูรณ์ที่สุด ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้ เบรคจากงานแล้วเทคตัวเองพร้อมโพสต์ท่าถ่ายรูป Jumping on the beach (จัมพ์ปิ้ง ออน เดอะ บีช) ส่งเข้าประกวด ชิงรางวัล 5 หมื่นบาท กับ Love Andaman
5. ทรูยู ชวนไปเช็ค อินราคาพิเศ นั่งจิบกาแฟ ชมวิวสวยๆ ในร้านสุดฮิป สุดเก๋ 45 ร้าน จาก 20 เมือง
นายนพดล กล่าวว่า "ททท. และพันธมิตร ยังได้จัดกิจกรรมพิเศษ You need to take a break ให้มนุษย์ทำงาน 20 ทีม 20 อาชีพ ประกอบไปด้วย 1. ทีมหมอ 2. ทีมพยาบาล 3. ทีมครู 4. ทีมตำรวจ 5. ทีมทหาร 6. ทีมแอร์โฮสเตส 7. ทีมนักบัญชี/นักการเงิน 8. ทีมพีอาร์ 9. ทีมอีเว้นท์ ออแกไนเซอร์ 10. ทีมเอเจนซี่ โฆษณา 11. ทีมนักข่าว 12. ทีมนักกฎหมาย 13. ทีมไอที 14. ทีมพนักงานต้อนรับโรงแรม 15. ทีมกราฟิก ดีไซน์เนอร์ 16. ทีมนักเขียน 17. ทีมนักตัดต่อวีดีโอ 18. ทีมโปรดิวเซอร์ 19. ทีมสถาปนิก 20. ทีมวิศวกร
โดยให้ทั้ง 20 ทีม 20 อาชีพ ร่วมทำกิจกรรมโปรโมท 20 เมือง 20 Cities for Take a Break ทุกทีมได้พักเบรคจากเดิมๆ ในสายอาชีพของตัวเองแล้วเปลี่ยนบทบาทใหม่เป็นนักรีวิว นักเดินทาง สำรวจที่กิน ที่เที่ยว ที่ดื่มกาแฟ เช็ค อินใน 20 เมือง สุดฮิป เพื่อพิสูจน์ว่าอาชีพไหน รีวิวเก่ง ถ่ายรูปและทำคลิปสวยส่งให้ ททท. ลุ้นรับรางวัลกว่า 3 แสนบาท
ข่าวที่ 3 “BPCGดึง5พันธมิตรร่วมรุกพลังงานยั่งยืน”
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) พร้อมผู้แทนจาก 5 องค์กรภาครัฐ และเอกชน ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และบริษัท พาวเวอร์ เล็ดเจอร์ ผู้นำด้านเทคโนโลยี Blockchain ระดับโลกจากออสเตรเลีย ร่วมเสวนาในหัวข้อ “Energy for Everyone” เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐ
เพื่อร่วมหาแนวทางให้การบริหารจัดการและการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเกิดประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ
อีกทั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) รับมอบรางวัล World Finance Awards 2018 สาขาองค์กรดีเด่นด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Best Corporate Governance 2018, Thailand) ซึ่งจัดโดยนิตยสารเวิร์ล ไฟแนนซ์ ของอังกฤษ ณ ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยบีซีพีจีเป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยที่ได้รับรางวัลนี้ในปีนี้
ข่าวที่ 4 “ชาเตอร์แห่บินสงกรานต์สุวรรณภูมิ-จอดรถฟรี”
นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.”เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์ระหว่าง11 -17 เมษายน 2561คาดจะมีผู้โดยสารใช้บริการสุวรรณภูมิรวม 1.35 ล้านคน เฉลี่ยวันละ 193,400 คน เพิ่มขึ้น 10.4 % ปริมาณเที่ยวบินรวม 7,310 เที่ยว เฉลี่ยวันละ 1,040 เที่ยวบิน เพิ่ม 11.2 %
โดยจะมีสายการบินประจำและสายการบินเช่าเหมาลำ (charter flight) ขอเพิ่มเที่ยวบินพิเศษรวม 74 เที่ยว แบ่งเป็น ระหว่างประเทศ 72 เที่ยว และภายในประเทศ 2 เที่ยว
เพื่อความสะดวกรวดเร็วท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ “จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกรองรับการให้บริการผู้โดยสาร ทสภ. (Airport Operation Center : AOPC)” ทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานด้านการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ แก่ผู้โดยสารและประชาชนที่มาใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ระหว่าง 6 - 20 เมษายน 2561 ณ ห้อง CIP 5 บริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสาร โทร. 0 2132 9950
นายศิโรตม์ กล่าวว่า เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการใช้สุวรรณภูมิในช่วงที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก จึงขอแนะนำให้ผู้โดยสารใช้บริการระบบอัตโนมัติที่จัดไว้ให้ ได้แก่ 1.เครื่องเช็คอินอัตโนมัติด้วยตนเอง (Common Use Self Service: CUSS) ของ 16 สายการบิน อาทิ การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ส ลุฟฮันซ่า จะได้ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวที่เคาน์เตอร์เช็คอิน แล้วเมื่อได้รับบัตรผ่านขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) แล้ว 2.นำสัมภาระไปโหลดได้ที่เคาน์เตอร์สายการบินได้ทันที แล้วเมื่อผ่านกระบวนการจุดตรวจค้นแล้ว 3.ใช้เครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Auto Gate) ให้บริการผู้โดยสารสัญชาติไทยและสิงคโปร์ พร้อมเจ้าหน้าที่คอยแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนบริการลานจอดรถสุวรรณภูมิมีพื้นที่รองรับรถยนต์รวมทั้งสิ้น 7,897 คัน ได้แก่ พื้นที่บริเวณอาคารและลานจอดรถยนต์ 1- 4 รองรับรถยนต์ได้ 5,392 คัน ลานจอดรถยนต์โซน 5 บริเวณด้านข้างโรงแรมโนโวเทล รองรับได้ 455 คัน และลานจอดรถโซน 6 , 7 บริเวณฝั่งตรงข้ามด้านหน้าโรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิ รองรับรถยนต์ได้ 782 คัน และลานจอดรถยนต์ระยะยาว (Long Term Parking) บริเวณโซน A และ C อยู่ใกล้กับศูนย์การขนส่งสาธารณะ (Bus Terminal) จอดได้ 1,268 คัน
รวมทั้งยังได้ยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ที่นำรถมาจอดที่ลานจอดรถระยะยาว (Long Term Parking) โซน C รับได้ 718 คัน จะเริ่มยกเว้นค่าจอดรถตั้งแต่ 08.00 น. ของวันที่ 5 เมษายน 2561 ไปจนถึงเวลา 17.00 น. ของวันที่ 9 เมษายน 2561 และเวลา 08.00 น. ของวันที่ 11 เมษายน 2561 ถึงเวลา 17.00 น. ของวันที่ 17 เมษายน 2561
โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้จัดรถชัตเติลบัสคอยอำนวยความสะดวกรับ - ส่ง ผู้โดยสารระหว่างลานจอดรถยนต์ระยะยาวกับอาคารผู้โดยสารชั้น 4 ประตู 5 โดยให้บริการทุกๆ 15 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง
ช่วงที่ 2 แต่งไทยไปสงกรานต์ในเมือง 5 รอง ที่พร้อมโชว์อัตลักษณ์วิถีวัฒนธรรมประจำถิ่นรักสามัคคี กับ “ชาวบ้านบางระจัน” สิงห์บุรี สุขภาพดีมีโชคที่ “ชุมชนตะปอน” อำเภอขลุง จันทบุรี “ก่อพระเจดีย์ทราย” กำแพงเพชร เล่นสาดน้ำกับ “น้องดิโน่-แพรวา” ถิ่นไดโนเสาร์ กาฬสินธุ์ และ “แห่นางดานเมืองคอน” นครศรีธรรมราช เลือกได้เลยจะไปสงกรานต์ที่ไหนดี และ “วิธีเดินอย่างถูกวิธีร่างกายแข็งแรง” แน่นอนตามลักษณะการเดิน 5 วิธีด้วยกัน ส่วนข่าวท้ายชั่วโมง แฟนพันธุ์แท้ห้องพักและอาหารอร่อยห้ามพลาด โรงแรมอัมรา กรุงเทพฯ จัดโปรห้องพักลดแล้วลดอีกเฉพาะเมษายนนี้ ส่วนโรงแรมวี กรุงเทพฯ ได้เชฟมิชลินระดับโลกบินมาปรุงเมนูพิเศษให้ชิมแค่ 4 วันเท่านั้น 25-28 เมษายน และทัวร์เมียนมาได้เฮกับบางกอกแอร์เวย์ส เตรียมเพิ่มเที่ยวบินเป็นสัปดาห์ละ 11 เที่ยว เริ่ม 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ขณะที่มหกรรม ASEANbeauty 2018” ระหว่าง 3-5 พฤษภาคม 2561 ธุรกิจคนไทยในกลุ่มความงามจะลงสนามแข่งชิงตลาดแสนล้าน
@สงกรานต์เอกลักษณ์5เมืองรองสนุกทุกมุม
ออกไปสัมผัส “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” กับ “Amazing Songkran 2018” ใน 5 เมืองรอง
เมืองแรก “Amazing Songkran 2018 @ Singburi” จังหวัดสิงห์บุรี ระหว่าง 12-15 เมษายน 2561 ทางวัดโพธิ์เก้าต้นชวนร่วมพิธีสรงน้ำพระอาจารย์ธรรมโชติ รดน้ำดำหัวพ่อปู่แม่ย่าบ้านระจัน กิจกรรมก่อเจดีย์ทราย ขวนแห่สงกรานต์ การแสดงดนตรีจากศิลปินที่มีชื่อเสียง การแสดงทางวัฒนธรรม ซุ้มสาธิตศิลปวัฒนธรรม อาทิ การสักยันต์ เครื่องหอม
ชมประเพณีแบบไทยโบราณสมัยบ้านระจัน ซึ่งใช้บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นตัวขับเคลื่อนกิจกรรม เรียกว่า “บ่อน้ำพิพย์” ใช้บวงสรวงน้ำหลวงพ่อโตโคตะมะ และหลวงปู่ธรรมโชติ และน้ำทิพย์ อีกแหล่ง คือ น้ำในคลองบ้านระจัน นำมาใช้ปะพรมสรงน้ำพระ อาบน้ำประธานในพิธีจากแต่ละอำเภอ
สำหรับการปลุกเสกน้ำทิพย์ก่อนเริ่มงานสงกรานต์ เป็นอัตลักษณ์ของบ้านระจันอีกทั้งให้ความสำคัญกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ โดยจะพร้อมใจกันแต่งกายแบบบ้านระจัน ภาษาพูด และกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทยอันดีงาม มีกิจกรรมต่าง ๆ สอดแทรกเรื่องความสามัคคี ความรักชาติ ควบคู่กันไป
เมืองที่ 2 “มหาสงกรานต์ตะปอน ตำนานแห่เกวียนผ้าพระบาท” จังหวัดจันทบุรี ระหว่าง 13 - 17 เมษายน 2561 ชาวบ้านวัดตะปอนน้อย วัดเกวียนหัก วัดตะปอนใหญ่ ชวนร่วม 6 พิธีแห่งวิถีชาวชุมชน คือ 1. พิธีบวงสรวงพระบาทผ้า 2. ขบวนเกวียนแห่ผ้าพระบาท 3. การแสดงแสง เสียง ตามรอยทัพพระเจ้าตาก 4. ถนนโบราณสงกรานต์บ้านตะปอน การละเล่นพื้นบ้าน และกิจกรรมการแสดงบนเวที 5. กิจกรรมตลาดย้อนยุค จำหน่ายอาหาร สินค้า และผลิตภัณ์ท้องถิ่น 6. จัดแสดงพระเจดีย์ทรายแห่งศรัทธา
เป็นการสืบสานประเพณีที่อยู่คู่ชุมชนชาวตะปอนมายาวนานกว่า 460 ปี ของอำเภอขลุง จันทบุรี ด้วยความเชื่อและศรัทธาในรอยพระพุทธบาทผ้าที่เชื่อว่าหากได้กราบบูชา จะได้บุญและหายจากเคราะห์ร้ายโรคภัย เป็นการนำอัตลักษณ์ของชุมชนและวิถีท้องถิ่นบนเส้นทางโบราณก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยามาถ่ายทอดบอกเล่าประวัติศาสตร์ในรูปแบบของการย้อนยุค สอบถาม ททท. สำนักงานระยอง โทร. 0 3865 5420-1
เมืองที่ 3 “สงกรานต์มงคล ก่อพระทรายน้ำไหล ยิ่งใหญ่พวงมโหตร” จังหวัดกำแพงเพชร ระหว่าง 11-17 เมษายน 2561 บริเวณถนนริมแม่น้ำปิงเชื่อมโยงถึงเกาะกลางแม่น้ำปิงอำเภอเมือง ชมความยิ่งใหญ่ 1. การจัดขบวนแห่ผ้าห่ม ห่มพระธาตุตามประเพณีโบราณ 2. การจัดขบวนแห่เครื่องสักการะและเครื่องสรงน้ำศาลเจ้าพ่อหลักเมืองและศาลพระอิศวร 3. ซุ้มน้ำมนต์ 4. กิจกรรมสงกรานต์ย้อนยุค การละเล่นพื้นบ้าน และอาหารถิ่นห้ามพลาด 5. การก่อเจดีย์ทราย
เพื่อร่วมกันส่งเสริมการสืบสารอนุรักษ์ประเพณีท้องถิ่นอันดีงามจาก 27 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองกำแพงเพชร มาร่วมส่งเสริมอนุรักษณ์ขนบธรรมเนียมสงกรานต์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวกำแพงเพชร พบกับประสบการณ์ใหม่ๆ ภูมิภาคภาคเหนือที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ให้คงอยู่ สอบถามได้ที่ ททท. สำนักงานสุโขทัย โทร. 0 5561 6228-9
เมืองที่ 4 “สงกรานต์ดีโนสินธุ์ ถิ่นคนน่ารัก” จังหวัดกาฬสินธุ์ ระหว่าง 13 - 15 เมษายน 2561 ณ ลานวัฒนธรรม วัดสว่างคงคา อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ มีกิจกรรมให้ร่วมกับท้องถิ่นหลากหลาย ได้แก่ 1.สรงน้ำหลวงพ่อองค์ดำ 2.เล่นน้ำกับไดโนเสาร์ น้องดิโน่ และ น้องแพรวา 3. ขบวนแห่ทางวัฒนธรรม 4. การแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดัง และการแสดงจากวงแพรวาจีจี้ 5. การออกร้านขายอาหารพื้นถิ่นและอาหารชื่อเด่นดังที่เป็นที่รู้จักในพื้นที่
เป็นการตอกย้ำการสร้างภาพลักษณ์ตามที่จังหวัดกำหนดใช้ไดโนเสาร์เป็นแบรนด์ของจังหวัด คือ น้องดิโน่ และ น้องแพรวา ซึ่งการสร้างกิจกรรมงานเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์จะสามารถเพิ่มการรับรู้และสร้างทางเลือกในการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มเติมนอกเหนือจากกิจกรรมสงกรานต์บริเวณถนน ข้าวเหนียว จังหวัดขอนแก่น สอบถามได้ที่ ททท. สำนักงานขอนแก่น โทร. 0 4322 7717
เมืองที่ 5 “เทศกาลมหาสงกรานต์แห่นางดานเมืองนครศรีธรรมราช” จังหวัดนครศรีธรรมราช 11 - 15 เมษายน 2561 บริเวณถนนราชดำเนินในอำเภอเมือง ชมความตระการตาได้แก่ 1. การแสดง แสง สี เสียง ในพิธีโล้ชิงช้า และการจัดขบวนแห่นางดานเข้าสู่บริเวณพิธีจัดงาน 2. พิธีบวงสรวงแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าศรีธรรมโศกราช ดำเนินการโดยจังหวัดนครศรีธรรมราช 3. การแสดงพื้นบ้าน อาทิ รำวงเวียนครก 4. การจำหน่ายอาหารถิ่นห้ามพลาด
ประเพณีแห่นางดานเป็นที่รู้จักและคงไว้ซึ่งประเพณีเก่าแก่ของเมืองนครศรีธรรมราชและเป็นประเพณีที่กำเนิดขึ้นเป็นแห่งแรกของประเทศ และมีการโล้ชิงช้านอกเขตเมืองหลวงเพียงแห่งเดียวของไทยโดยกิจกรรมที่สำคัญที่เป็นหัวใจหลักของานประเพณีแห่นางดานมี 3 อย่าง คือ พิธีบวงสรวงพระอิศวร การแสดงอัญเชิญพระอิศวรเพื่อประกอบพิธีโล้ชิงช้า และการรำเสนง (สะ-เหนง) สอบถามได้ที่ ททท. สำนักงานนครศรีธรรมราช โทร. 0 7534 6515-6
แต่งไทยไปท่องเที่ยวสงกรานต์ 5 เมืองรอง เติมความสุขให้คนไทยด้วยกันและร่วมอนุรักษ์ประเพณีอันดีงามไว้ให้ยั่งยืนต่อไป
@วิธีเดินอย่างถูกวิธีเพื่อความแข็งแรง
การเดินแม้จะไม่ได้เผาผลาญพลังงานได้มาก แต่หากออกกำลังกายด้วยการเดินอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี ร่างกายก็จะแข็งแรงขึ้นอย่างแน่นอน จึงขอนำลักษณะการเดินที่ถูกวิธีมาบอกกันดังนี้
1. ขณะเดินตามองตรงไปข้างหน้า ศีรษะและลำตัวตั้งตรง ไหล่สองข้างอยู่ในระดับตรง
2. แกว่งแขนซ้ายขวาสลับหน้าหลังขนานลำตัว มือทั้งสองข้างกำหลวมๆ โดยมือที่แกว่งสูงระดับอก ในลักษณะผ่อนคลาย งอศอกเล็กน้อย ทำมุมราว 90 องศาระหว่างแขนท่อนบน-ล่าง
3. จังหวะความเร็วในการก้าวเท้าสม่ำเสมอตลอดระยะทางที่เดิน ไม่เดินทอดน่องหรือเดินตามสบาย
4. เวลาเดิน ส้นเท้าสัมผัสพื้น รับน้ำหนักตัวก่อนปลายเท้า ก้าวเท้าออกไปประมาณครึ่งก้าว ให้ส้นเท้าแตะพื้น แล้วถ่ายน้ำหนักตัวไปที่ฝ่าเท้า เหยียบพื้นให้เต็มฝ่าเท้า ส่วนขาอีกข้างเมื่อกำลังจะเคลื่อนย้าย ให้ยกส้นเท้าขึ้นถ่ายน้ำหนักตัวลงที่ปลายเท้าซึ่งกดพื้นไว้ ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ตลอดเวลาที่เดินจะช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าแข้ง เป็นการเดินเพื่อสุขภาพที่ถูกต้องและส่งเสริมบุคลิกภาพด้วย
5. ความยาวของช่วงก้าวขึ้นอยู่กับความเร็วในการเดิน ที่สำคัญต้องไม่ก้าวยาวมากเกินไป เพราะทำให้เมื่อยล้ากล้ามเนื้อต้นขาและสะโพกเร็วกว่าปกติ ส่วนถ้าเดินขึ้นเนิน ควรเดินให้ช้าลง เอนตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย แกว่งแขนให้มากขึ้นเล็กน้อย แล้วเมื่อเดินลงเนิน พยายามควบคุมความเร็วไว้ ก้าวสั้นๆ และวางเท้าเบาๆ
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “อัมรากรุงเทพฯจัดโปรฮ็อตห้องพักวันนี้-ต.ค.”
โรงแรมอัมรา กรุงเทพฯ จัดโปรโมชั่นจองห้องพักล่วงหน้าระหว่าง 17 เมษายน – 31 ตุลาคม 2561 ด้วยส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมจากโปรโมชั่นที่ได้รับเดิมเพิ่มอีกถึง 12%
นักท่องเที่ยวสามารถจองห้องเพื่อเข้าพักระหว่างวันที่ 17 เมษายน – 31 ตุลาคม 2561 โรงแรมอัมรา กรุงเทพฯจะมอบส่วนลดเพิ่มเติมจากโปรโมชั่นใดก็ได้ที่ได้รับอยู่แล้วอีกถึง 12% เมื่อจองวันนี้ – 20 เมษายน 2561 โดยใช้รหัสโปรโมชั่น ‘SUMSA’ จองเท่านั้น สำรองห้องพักผ่านทางออนไลน์ที่ www.bangkok.amarahotels.com หรือโทร 02 021 8888
ข่าวที่สอง “พบสุดยอดมิชลินโลกที่โรงแรมวี25-28เม.ย.”
โรงแรม “วี กรุงเทพฯ เอ็มแกลเลอรี บาย โซฟิเทล” ได้เชฟชั้นนำของโลกเจ้าของรางวัลมิชลิน “เชฟเซบาสเตียน” ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Maitre Cuisinier de France มาออกแบบเมนูซิกเนเจอร์สุดพิเศษเพื่อความสมบูรณ์แบบในมื้อสำคัญที่ ห้องอาหาร ลาวี – ครีเอทีฟ เฟรนช์ คูซีน ชั้น 11 ระหว่างวันที่ 25 – 28 เมษายนนี้ เพียงแค่ 4 วันเท่านั้น
โดยมีเมนูที่ปรุงด้วยวัตถุดิบเป็นเอกลักษณ์พิเศษ มื้อกลางวัน ราคา 3,000 บาท สุทธิ แบบเซต 4 คอร์ส
ราคา 4,500 บาท สุทธิ แบบเซต 4 คอร์สจับคู่กับไวน์ชั้นเลิศ เริ่มเสิร์ฟตั้งแต่ 12.00 น.เป็นต้นไป
มื้อค่ำ ราคา 6,000 บาท สุทธิ แบบเซต 6 คอร์ส ราคา 8,000 บาท สุทธิ แบบเซต 6 คอร์สจับคู่กับไวน์ชั้นเลิศ เริ่มเสิร์ฟเวลา 19:00 น. เป็นต้นไป
สอบถามได้ที่ 083-8204224, อีเมล์: afbm@viehotelbangkok.com
ข่าวที่สาม “ทัวร์เมียนมาเฮบางกอกแอร์บินเพิ่ม11เที่ยว/สัปดาห์”
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส รายงานว่า จะเพิ่มเที่ยวบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) – มัณฑะเลย์ (เมียนมาร์) จากสัปดาห์ละ 7 เป็น 11 เที่ยว เริ่ม 1 กรกฎาคม 2561 เป็นต้นไป เพื่อรองรับความต้องการในการเดินทางที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ320 ขนาด 162 ที่นั่งทุกวัน
โดยเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นคือ PG713 ออกจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) เวลา 17:00 น. ถึงมัณฑะเลย์ (เมียนมาร์) เวลา 18:25 น. เที่ยวบิน PG714 ออกจากมัณฑะเลย์ (เมียนมาร์) เวลา 19:10 น. ถึงกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) เวลา 21:35 น. ให้บริการทุก วันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ และวันอาทิตย์
สอบถามเพิ่มได้ที่ www.bangkokair.com หรือ Call Center โทร 1771 ตลอด 24 ชั่วโมง ค่าบริการครั้งละ 3 บาททั่วไทย เช็คอิน 24 ชั่วโมงล่วงหน้าก่อนการเดินทางด้วยตัวเองที่ www.bangkokair.com/web-check-in หรือบางกอกแอร์เวย์สโมบายแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนทุกเครือข่ายทั้งระบบ iOS และ Android
ข่าวที่สี่ “ASEANbeautyปลุกตลาดแสนล้านคึกคัก”
นายเอ็ม กันดิ กรรมการผู้จัดการกลุ่ม (ธุรกิจอาเซียน) บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จํากัด และรองประธาน บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ไทยเตรียมจัดแสดงสินค้าความงาม และสุขภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาค “ASEANbeauty 2018” ระหว่าง 3-5 พฤษภาคม 2561 ณ ไบเทค บางนา ให้ผู้ประกอบการธุรกิจไทยที่เกี่ยวข้อง ได้แสดงศักยภาพนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ด้านความงามและสุขภาพ ได้ร่วมวงชิงส่วนแบ่งตลาดความงามอาเซียนที่มูลค่า 5 แสนล้านบาท โดยไทยยังครองแชมป์ส่งออกอันดับ 1 มูลค่า ตลอดงาน ASEANbeauty 2018 ปีนี้หวังจะมีเงินเดินสะพัดกว่า 1,000 ล้านบาท
ปี 2560 มูลค่าตลาดรวมเครื่องสำอางของไทยมีประมาณ 3 แสนล้านบาท เติบโต 8 % แบ่งเป็นส่งออกต่างประเทศ 1.21 แสนล้าน และขายในประเทศ 1.81 แสนล้านบาท และจากสถิติ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ทางกระทรวงพาณิชย์รายงานยอดส่งออกประมาณ 2,466 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 88,684 ล้านบาท (35.0949) โดยส่งออกเครื่องสำอาง คือ ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม 30.49%, ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว 15.78%, และอื่นๆ 53.73% อีกทั้งในปี 2560 dkiซื้อขายในประเทศมีประมาณ 4,700 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 168,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ปี 2560 ตลาดสินค้าด้านความงามในอาเซียนมีประมาณ 5 แสนล้านบาท โดยมีคู่แข่งหลักซึ่งครองส่วนแบ่งตามลำดับคือ ญี่ปุ่น 21% อินโดนีเซีย 9% ฟิลิปปินส์ และมาเลเซียเท่ากัน 8% ออสเตรเลีย 6% กัมพูชา 5% จีน อังกฤษและเมียนมาร์เท่ากัน 4% เท่ากัน และสหรัฐอเมริกา และยุโรปรวมกันได้ 26%
ติดตามฟังรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.
 |
| เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน ผู้ดำเนินรายการและบล็อกเกอร์ |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น