ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ผ่ารายได้ท่องเที่ยว5เดือน1.22 ล้านล้าน เชียงราย/นครศรี/สตูล รุ่ง-เที่ยวตะกั่วป่าสวยแปลก

ผ่ารายได้ท่องเที่ยว5เดือนแรก1.22ล้านล้าน
10ชาติใช้เงินกระจุกเมืองหลัก-3 เมืองรอง
ลุ้นรัฐเก็บภาษีขยะพลาสติกก่อนล้นแหล่งเที่ยว
สมาชิกคิงเพาเวอร์ซื้อทัวร์บาหลี4วันแค่1.3หมื่น
ททท.นำ5ภาคเล่นใหญ่อาหารถิ่นที่แหลมแท่น
บางจากเปิดร้านSPAR-ปั๊มให้ดูฟรีรับบอลโลก
ทอท.เร่งประมูลระบบAPMดอนเมืองทันปี’62
เที่ยวตะกั่วป่าพังงาเมืองชิโนน่ารักริมอันดามัน
เลี่ยงลดความเครียดป้องกันสารพัดโรครุ้มเร้า
เอกนิตินั่งประธานบอร์ดนำปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ
ชวนเที่ยวเมืองผีตาโขนด่านซ้าย 6-8 ก.ค.นี้
ปตท.เปิดแน่บัดเจ็ตโฮเต็ลในปั๊ม5ปี50โรงแรม

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen    และบล็อกเกอร์ #gurutourza

ช่วงที่ 1 ติดตามฟังวิเคราะห์ การผ่าโครงสร้างรายได้ท่องเที่ยวของประเทศ 5 เดือนแรก จาก “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ผู้ดำเนินการนำเสนอเม็ดเงิน 1.22 ล้านล้านบาท ที่หลั่งไหลเข้ามาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ประเทศที่กุมชะตาเศรษฐกิจไทย และคนในประเทศเที่ยวไทย กระจุกหรือกระจายไปยังเมืองหลัก 3 พื้นที่มากที่สุด ในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต ส่วนเมืองรองมีดาวรุ่งแจ้งเกิดแล้ว 3 จังหวัด คือ เชียงราย นครศรีธรรมราช สตูล ขณะเดียวกันจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจึงทำให้เกิดความท้าทายเรื่องใหญ่ที่จะต้องป้องกันโดยด่วนนั่นคือ “ปัญหาขยะล้นแหล่งท่องเที่ยว” ตอนนี้เจ้าภาพนำร่อง 2 กระทรวง คือ การท่องเที่ยวและกีฬา กับ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องลุกขึ้นมาจัดเตรียมมาตรการไล่ล่าขยะเจ้าปัญหาเริ่มจาก 5 มาตรการ และอาจจะนำไปสู่การจัดเก็บภาษีการใช้ขยะพลาสติกและอื่น ๆ รวมไปถึงเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์ท่องเที่ยวและนักวิเคราะห์เศรษฐกิจท่องเที่ยว


ภายในเวลา 5 เดือน ปี 2561 การกระจาย “รายได้” ของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวลงสู่ “เมืองหลัก” 22 จังหวัด และ “เมืองรอง” 55 จังหวัด ท่ามกลางความตื่นตัวกับคลื่นปัญหาใหม่เรื่อง “ขยะล้นแหล่งท่องเที่ยว” จากจำนวนรายได้ที่หลั่งไหลเข้าประเทศรวม 1.224 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.76 %  มาจากตลาดต่างประเทศ ระหว่างมกราคม-พฤษภาคม รวม 8.67 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.11 % และตลาดในประเทศ ระหว่างมกราคม-เมษายน 3.57 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.78 %



ที่น่าสนใจคือสถิติที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานำเสนอเรื่อง “การกระจายตัวของรายได้” ตัวอย่างในการประเมินสถานการณ์เฉพาะพฤษภาคมปีนี้เพียงเดือนเดียว พบว่า ส่วนแบ่งของเม็ดเงินเกินกว่า 70 % มาจากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ประเทศเท่านั้น ขณะที่ส่วนแบ่งรายได้จากนักท่องเที่ยวในประเทศกว่า 80 % ก็กระจายอยู่ในเมืองหลัก 3 จังหวัด โดยกรุงเทพฯ กวาดไปมากสุดเกินกว่าแสนล้านบาท ตามมาด้วยเชียงใหม่ ภูเก็ต



เริ่มจาก “ตลาดในประเทศ” ช่วง 4 เดือนแรก ระหว่างมกราคม - เมษายน 2561 ทำรายได้รวม 356,705 ล้านบาท เม็ดเงินกระจุกอยู่เมืองหลักมากถึง 275,350 ล้านบาท โดยอยู่ในกรุงเทพฯ เกือบครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดคือ 116,524 ล้านบาท ตามมาด้วย เชียงใหม่ 24,049 ล้านบาท และภูเก็ต 22,080 ล้านบาท ขณะที่ “เมืองรอง” 55 จังหวัด มีเม็ดเงินไหลเข้าไปเพียง 81,355 ล้านบาท มีดาวรุ่ง 3 จังหวัด ที่โกยรายเงินไปได้มากที่สุดเรียงตามลำดับ คือ เชียงราย 7,628 ล้านบาท นครศรีธรรมราช 5,562 ล้านบาท สตูล 4,904 ล้านบาท



ส่วนรายได้จาก “ตลาดต่างประเทศ”   867,460.77 ล้านบาท เฉพาะเดือนพฤษภาคม 2561 ทำได้ 136,710.26 ล้านบาท แต่เม็ดเงินกระจุกตัวอยู่ใน 3 หมวดหลัก ได้แก่ หมวดที่ 1 โรงแรมห้องพัก 39,068 ล้านบาท คิดเป็น 28.6 %  หมวดที่ 2 ช้อปปิ้ง 34,007 ล้านบาท คิดเป็น 24.9 % หมวดที่ 3 อาหารและเครื่องดื่ม 28,007 ล้านบาท คิดเป็น 20.5 %

เฉพาะพฤษภาคม 2561 เพียงเดือนเดียว มีรายงานว่า “รายได้ตลาดต่างประเทศ” ทำไว้ 97,260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.68 % นั้น 71.1 % ของรายได้ทั้งหมด (สูงกว่าปีที่ผ่านมาทำไว้ 70.1 %)มาจากนักท่องเที่ยว 10 ประเทศ คือ จีน 46,610 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.08 % รองลงมาคือ มาเลเซีย 7,950 ล้านบาท ลดลง 3.50 % อินเดีย 7,460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.10 % สหรัฐอเมริกา 6,130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.80 % เกาหลี 5,630 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.67 % รัสเซีย 5,190 ล้านบาท ลดลง 9.52 % สหราชอาณาจักร 5,170 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.57 % ออสเตรเลีย 4,830 ล้านบาท ลดลง 1.61 % ญี่ปุ่น 4,730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.03 % ฮ่องกง 3,550 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.72 %

ขณะเดียวกันพฤษภาคมเดือนเดียวมีนักท่องเที่ยว 10 ประเทศแรก รวม 2.024 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.33 % มีสัดส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่มากสุดถึง 73.5 % ของทั้งหมด (สูงกว่าปีที่ผ่านมาทำไว้ 72.2 %) โดยมีจีนครองแชมป์เดินทางเข้ามาแล้ว 8.69 แสนคน เพิ่มขึ้น 14.05 % รองลงมาคือ มาเลเซีย 2.85 แสนคน ลดลง 7.33 % อินเดีย 1.56 แสนคน เพิ่มขึ้น 12.13 % สปป.ลาว 1.41 แสนคน เพิ่มขึ้น 8.36 % เกาหลี 1.23 แสนคน เพิ่มขึ้น 9.22 % ญี่ปุ่น 1.09 แสนคน เพิ่มขึ้น 0.73 % เวียดนาม 9.2 หมื่นคน เพิ่มขึ้น 9.58 % สิงคโปร์ 8.5 หมื่นคน เพิ่มขึ้น 2.98 % ฮ่องกง 8.3 หมื่นคน เพิ่มขึ้น 25.6 % สหรัฐอเมริกา 8.1 หมื่นคน เพิ่ม 6.11 %




สำหรับข้อมูลสรุปสถานการณ์ท่องเที่ยวตลอด 5 เดือนแรก ระหว่างมกราคม-พฤษภาคม 2561

สถานการณ์นักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทย

“ตลาดต่างประเทศ”  สามารถสร้าง “รายได้” มูลค่ารวมทั้งสิ้น 867,460.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.11 % แยกเป็น เดือนมกราคม 188,890.60 ล้านบาท เพิ่ม 11.59 % กุมภาพันธ์ 195,262.94 ล้านบาท เพิ่มสูงสุด 23.78 % มีนาคม 189,158.64 ล้านบาท เพิ่ม 22.28 % เมษายน 157,438.33 ล้านบาท เพิ่ม 12.52 %  เฉพาะพฤษภาคมเดือนเดียวมีรายได้ 136,710.26 ล้านบาท เพิ่ม 9 % เป็นรายได้หลักมาจากกลุ่มตลาดท็อปเท็น 10ประเทศ มูลค่ารวมถึง 97,260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.68 % จีนยังคงครองแชมป์ใช้จ่ายเงินมากสุด 46,610 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.38 % อินเดีย 7,460 ล้านบาท เพิ่ม 11.10 % อเมริกา 6,130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.80 % เกาหลี 5,190 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.57 % ส่วนมาเลเซีย ถึงแม้จะใช้เงินมากติดอันดับ 2 มูลค่า 7,950 ล้านบาท ลดลง 3.50 %

ส่วนการกระจายรายได้ในเดือนพฤษภาคม 2561 จำนวน 136,710.26 ล้านบาท อยู่ใน 3 หมวดหลัก ได้แก่ หมวดที่ 1 โรงแรมห้องพัก 39,068 ล้านบาท คิดเป็น 28.6 %  หมวดที่ 2 ช้อปปิ้ง 34,007 ล้านบาท คิดเป็น 24.9 % หมวดที่ 3 อาหารและเครื่องดื่ม 28,007 ล้านบาท คิดเป็น 20.5 %



ทางด้าน “จำนวน” นักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้าไทย 16,456,470 คน เพิ่มขึ้น 12.62% แยกเป็นเดือน มกราคม 3,566,528 คน เพิ่ม 10.87 % กุมภาพันธ์ 3,566,898 คน เพิ่มสูงสุด 19.33 % มีนาคม 3,497,260 คน เพิ่ม 16.27 % เมษายน 3,092,725 คน เพิ่ม 9.38 % เฉพาะพฤษภาคมเดือนเดียวมีจำนวน 2,755,05 คน เพิ่ม 6.35 % เติบโตมากสุดคือ เอเชียตะวันออก 2,048,830 คน  เพิ่มขึ้น 8.44 % ในจำนวนนี้เป็นจีน 869,000 คน เพิ่มขึ้น 4.5 % ส่วนเอเชียใต้ 1.81 แสนคน เพิ่มขึ้น 9.72 %  ตลาดภูมิภาคอื่น ๆ ลดลงทั้งยุโรป  ตะวันออกกลาง โอเชียเนีย แอฟริกา

ขณะที่สถานการณ์คนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ สถิติ 4 เดือนแรก ระหว่างมกราคม – เมษายน 2561

ในจังหวัดหลักและเมืองรองทั่วประเทศสร้าง “รายได้” มูลค่ารวม 356,705.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.78 % ประกอบด้วย มกราคม 91,445.47 ล้านบาท เพิ่ม 8.10 % กุมภาพันธ์ 89,289.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.82 %  มีนาคม 86,691.31 ล้านบาท เพิ่ม 9.77 %  เมษายน 89,279.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.77 %

โดยมี “จำนวน” นักท่องเที่ยวรวมทั้งหมด 48.56 ล้านคน-ครั้ง เพิ่ม 5.49 % ประกอบด้วย เดือนมกราคม 11,875,530 ล้านคน-ครั้ง เพิ่ม 3.11 %  กุมภาพันธ์ 11,220,527 ล้านคน-ครั้ง เพิ่ม 9.33 % มีนาคม 11,056,077 ล้านคน-ครั้ง เพิ่ม 4.52 % เมษายน 14,413,990 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มเพียง 5.34 %

สถิติ 4 เดือนแรก รายได้ในเมืองท่องเที่ยวรอง ขยายตัว 9.29 % สูงกว่าแนวโน้มปกติ 3 % จากข้อมูลรายได้ย้อนหลังเปรียบเทียบกับ 3 ปีที่ผ่านมา ขยายตัวเพียง 6.30 % ส่วนจำนวนผู้ไปเยือนขยายตัว 5.16 % ใกล้เคียงกับเมืองท่องเที่ยวหลักเพิ่มเฉลี่ย 5.70% ตามรายละเอียดดังนี้

สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยว “เมืองหลัก” ระหว่างมกราคม-เมษายน 2561



จังหวัดท่องเที่ยวหลักสร้างมูลค่า “รายได้” รวม 275,350.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.22 % แยกเป็น เดือนมกราคม 69,795.85 ล้านบาท เพิ่ม 7.83 % กุมภาพันธ์ 69,685.31 ล้านบาท เพิ่มสูงสุด 17.27 % มีนาคม 66,859.02 ล้านบาท เพิ่ม 10.10 % เมษายน 69,010.07 ล้านบาท เพิ่ม 10.09 %

รายได้ดังกล่าวกระจายอยู่ใน 3 พื้นที่หลัก คือ กรุงเทพฯ 116,524 ล้านบาท เชียงใหม่ 24,049 ล้านบาท ภูเก็ต 22,080 ล้านบาท ขยายตัวสูงสุดในนครราชสีมา 16.91 % ชลบุรี 15.82 % พระนครศรีอยุธยา 14.50 %

ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศตลอด 4 เดือนรวม 46.43 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 5.70 % แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 12,772,753 คน นครราชสีมา 3,403,314 คน ชลบุรี 2,774,000 คน และพื้นที่ขยายตัวสูงสุด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา 11.63 % ชลบุรี 10.29 % พังงา 8.59 %

สถานการณ์ “ท่องเที่ยวเมืองรอง” ระหว่างมกราคม - เมษายน 2561



สร้าง “รายได้” มูลค่ารวม 81,355.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.29 % ประกอบด้วย เดือนมกราคม 21,649.62 ล้านบาท เพิ่ม 8.95 % กุมภาพันธ์ 19,603.93 ล้านบาท เพิ่มสูงสุด 10.91 % มีนาคม 19,832.29 ล้านบาท เพิ่ม 8.69 % เมษายน 20,269.81 ล้านบาท เพิ่ม 8.71 %

โดยกระจายอยู่ใน 3 พื้นที่ คือ เชียงราย 7,628 ล้านบาท นครศรีธรรมราช 5,562 ล้านบาท สตูล 4,904 ล้านบาท และขยายตัวมากที่สุด 3 พื้นที่ คือ ราชบุรี 14.49 % บุรีรัมย์ 14.34 % จันทบุรี 14.05 %



มีจำนวนนักท่องเที่ยวเมืองรองตลอด 4 เดือน รวมทั้งสิ้น 28.74 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5.16 % ประกอบด้วย เดือนมกราคม 7,609,301 คน-ครั้ง เพิ่ม 3.99 % กุมภาพันธ์ 7,001,384 คน-ครั้ง เพิ่ม 7.85 % มีนาคม 6,964,641 คน-ครั้ง เพิ่ม 4.14 % เมษายน 7,172,627 คน-ครั้ง เพิ่ม 4.85 %

นักท่องเที่ยวกระจายตัวอยู่ในเมืองดาวรุ่ง 3 จังหวัด คือ นครศรีธรรมราช 1,416,350 คน พิษณุโลก 1,257,283 คน เชียงราย 1,154,235 คน และขยายตัวสูงสุดใน 3 จังหวัด คือ ลพบุรี 9.09 % บุรีรัมย์ 8.39 % ชุมพร 8.12 %

ในทางกลับกันเมื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศเติบโตเร็ว ขณะนี้ประเทศไทยและโลกก็กำลังเผชิญปัญหาใหญ่เรื่อง “ปริมาณขยะล้นแหล่งท่องเที่ยว” ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องไปถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และวิถีความเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิตมากมาย ที่มีมูลค่าความสูญเสีย อาจจะมากกว่าสิ่งเม็ดเงินที่ได้จากการท่องเที่ยวหรือไม่

ทำให้รัฐบาลและหน่วยงานเกี่ยวข้องในไทยต้องความพยายามเร่งมืออย่างหนักทั้ง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่จะเร่งผลักดันนโยบาย “กระจายจำนวนและรายได้ท่องเที่ยว” ไปสู่ “เมืองรอง 55 จังหวัด” ควบคู่กับการหามาตรการทางลัดที่จะลดปัญหาขยะพลาสติกลงอย่างรวดเร็ว เรื่อยไปจนถึงปลุกกระแสการละและเลิกใช้ให้ได้ในอนาคตข้างหน้า

วันนี้จึงเป็นโจทก์เรื่อง “การจัดการขยะล้นแหล่งท่องเที่ยว” จึงเป็นความท้าทายคนไทยทั้งประเทศ หลังจากไทยถูกประกาศว่าเป็นประเทศที่ผลิตขยะพลาสติกติดอันดับ 6 ของโลก โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยวในเกาะทางทะเลอันดามันและอ่าวไทย เกาะพีพี เกาะสมุย อ่าวมาหยา และพื้นที่อื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก นอกจากจะไม่สามารถจัดการปัญหาขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังมีต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่ที่สั่งสมอย่างเรื่องระบบการบำบัดน้ำเสีย สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลาย



ล่าสุดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการคลัง ผู้ประกอบการภาคเอกชนท่องเที่ยว ต้องระดมแนวคิดเพื่อเสนอให้รัฐบาลประกาศแนวทางรับมือกับปัญหาดังกล่าวอย่างชัดเจน เรื่องแรกที่กำลังเร่งมือทำ คือ

1.นโยบายกระจายปริมาณนักท่องเที่ยวที่กระจุกตัวอยู่ในเมืองหลัก หันไปเลือกเที่ยวเมืองรองเพิ่มขึ้น 55 จังหวัด เพื่อลดความแออัดและการใช้ทรัพยากรมากเกินไป อีกทั้งยังมีผลพลอยได้ในการกระจายเม็ดเงินสู่ท้องถิ่นอื่น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ในชุมชนด้วยอีกทาง

2.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินหน้าประกาศใช้ 5 มาตรการ เลิกการใช้ขยะพลาสติก 1.ในอุทยานแห่งชาติซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ 150 แห่ง 2.แหล่งท่องเที่ยวตามสวนสัตว์ที่อยู่ในความดูแลของกระทรวง 3.ลดการใช้พลาสติกในหน่วยงานต่าง ๆ โดยร่วมมือกับองค์กรอื่น เช่น ห้างสรรพสินค้า ใช้มาตรการจูงใจเพื่อให้คนเปลี่ยนพฤติกรรม ตัวอย่างในตลาด อตก.ขณะนี้สามารถลดการใช้พลาสติกลงได้แล้ว 20 % 3.รณรงค์ให้ใช้นวัตกรรมใหม่ ภาชนะจากชานอ้อยหรือแกลบ เพื่อบรรจุอาหารและอื่น ๆ 4.กำจัดขยะให้ถูกวิธี 5.ควบคุมนำเข้าขยะผิดกฎหมายทุกประเภท

ส่วนมาตรการขั้นต่อไปที่หลายฝ่ายพยายามผลักดันให้ทางคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่มีพลเอกประวิทย์ วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งล่าสุดได้ตั้งคณะอนุกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ รับพิจารณาความเป็นไปได้ในการแก้ปัญหาขยะล้นประเทศอย่างเร่งด่วน คือ 1.ให้กระทรวงการคลังพิจารณาออกมาตรการจัดเก็บภาษีการใช้พลาสติก ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมของประเทศในระยาว เช่นเดียวกับในยุโรปหลายประเทศ เช่น เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2561 นิวซีแลนด์ ประกาศเก็บภาษี Tourist Tax Infrastructure เพื่อนำเงินที่ได้ไปดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติตามแหล่งท่องเที่ยวนั้น ๆ 2.ภาคเอกชนไทยเสนอให้รัฐนำมาตรการอินเซนทีฟทางภาษีมาสนับสนุนผู้ประกอบการที่ลดเลิกการใช้ขยะพลาสติก 3.เสนอปฏิรูปวิธีการจัดเก็บขยะของหน่วยงานกรุงเทพมหานคร และเทศบาลทั่วประเทศ ให้หันมาจัดเก็บแบบแยกชนิดของขยะอย่างจริงจัง

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “สมาชิกคิงเพาเวอร์ซื้อทัวร์บาหลี4วันจ่ายแค่1.3หมื่น”



กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมมือกับ ROYAL BRUNEI AIRLINES มอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกผู้ถือบัตรคิง เพาเวอร์ ซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวบาหลี พร้อมที่พักและบัตรโดยสาร 4 วัน 3 คืน เริ่มต้น 13,075 บาท / คน ได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2561 และเดินทางได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561

แพกเกจนี้นักท่องเที่ยวหรือสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ จะต้องเดินทางพร้อมกันอย่างน้อย 2 คน โดยเข้าพักโรงแรมหรู Nusa Dua Beach Hotel & Spa – Bali พร้อมอาหารเช้า บัตรโดยสารชั้นประหยัด ไป-กลับ  กรุงเทพฯ-บาหลี น้ำหนักกระเป๋า 30 กิโลกรัม (ไม่รวมสัมภาระถือขึ้นเครื่อง)พร้อมบริการอาหาร เครื่องดื่มบนเครื่อง รถรับ-ส่งระหว่างสนามบิน-โรงแรม  ส่วนเงื่อนไขอื่น ๆ เป็นไปตามที่สายการบินกำหนด

สอบถามเพิ่มได้ที่โทร. 0 2638 3050 หรือ bkkres@rba.com.bn

ข่าวที่ 2 “ยกอาหารถิ่น5ภาคมาไว้แหลมแท่น29มิ.ย.-1ก.ค.”


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า เชิญเที่ยว กิน ในงาน “เทศกาลอาหารถิ่น กินตามตำนาน” (Thai – Eat – Art – Gastronomy) ระหว่างวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน ถึง วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม 2561 เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณลานอเนกประสงค์แหลมแท่น ชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยใช้อาหารไทยที่มีเอกลักษณ์ของแต่ละภาคกระตุ้นการใช้จ่ายเงินของนักท่องเที่ยวลงสู่ชุมชนเพิ่มมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

ตลอดการจัดงานจะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสัมผัสในโซน ต่าง ๆ ดังนี้

1. โซนชวนชิมอาหารถิ่น 5 ภูมิภาค โดยมีร้านแถวหน้าของเมืองไทย 50 ร้าน นำสุดยอดอาหารถิ่นและอาหารขึ้นชื่อของแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศให้นักท่องเที่ยวลิ้มชิมรสกันอย่างจุใจ

2. โซนอาหารถิ่นและของกินเมืองชลบุรี รวบรวมร้านอาหารชื่อดังของชลบุรี มาให้ได้รับประทานกันภายในที่นี่ที่เดียวมากถึง 60 ร้าน

3. โซนนิทรรศการ “Thai – Eat – Art – Gastronomy” พร้อมทั้งสาธิตและพูดคุยให้ความรู้ความเป็นมาของวัตถุดิบของอาหารถิ่น รวมถึง 10 เส้นทางสายกิน อาหารถิ่นในตำนาน

4. โซนกิจกรรม D.I.Y. เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองทำอาหารถิ่นแบบง่ายๆ หมุนเวียนกันไปหลากหลายเมนูโดยมีเพียง 600 ชุด เท่านั้น

5. โซนเวทีการแสดงและกิจกรรม จะพบกับศิลปินที่มีชื่อเสียง และการแสดงต่างๆมากมาย เริ่มตั้งแต่ วันที่ 29 มิถุนายน ชมมินิคอนเสิร์ตศิลปิน ไอซ์ ศรัณยู และ ว่าน ธนกฤต วันที่ 30 มิถุนายน ชมมินิคอนเสิร์ตศิลปิน The Mousses และ Klear วันที่ 1 กรกฎาคม ชมมินิคอนเสิร์ตศิลปิน Season Five และ บอย พีซเมคเกอร์

สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย 1672

ข่าวที่ 3 “บางจากเปิดร้านSPAR-ปั๊มน้ำมันชมฟรีบอลโลก”



นายสมชัย เตชะวณิช  ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายวิบูลย์ วงสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ร่วมกันจัดกิจกรรมต้อนรับฤดูกาลถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 โดยเปิดแฟนบอลชมและเชียร์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ร้าน SPAR fresh & easy food market 11 สาขา ตลอดการแข่งขัน มีรายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ในเว็บไซต์ www.sparthailand.com)
รวมทั้งที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก สาขา ถ.ศรีนครินทร์ จะเปิดปั๊มให้ชมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดรองชนะเลิศและนัดชิงชนะเลิศ รอบ 21.00 น. และ 22.00 น.) นอกจากนั้นยังร่วมกับทีมสโมสรฟุตบอลชั้นนำเชิญโค้ชและนักฟุตบอลชื่อดังมาแนะนำเทคนิคและแผนการเล่นฟุตบอลแก่เยาวชนและชุมชนรอบโรงกลั่นบางจาก เพื่อเพิ่มความรู้และพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตบอลอีกด้วย

ข่าวที่ 4 “ทอท.เร่งประมูลลงทุนระบบAPMดอนเมืองปี’62”



นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งการดำเนินโครงการระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 เพื่อให้ทันเปิดใช้บริการ โดยกำลังเร่งจัดทำร่างรายละเอียดเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี2561 และสามารถเปิดประมูลได้ในต้นปี 2562  ด้วยรูปแบบ PPP ให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนในวงเงินกว่า 5,000 ล้านบาท

ปี 2561 ผลการดำเนินงานของสนามบินดอนเมืองจะมีรายได้สูงกว่าปี 2560 จาก 2 ปัจจัยหลัก 1.รับรู้รายได้ 9 เดือนของกิจกรรมพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในสนามบินของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ 2.ปริมาณผู้โดยสารต่างชาติยังเติบโตต่อเนื่องหลังจากประเทศไทยได้รับการปลดธงแดงจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ส่งผลถึงตลอดปีนี้แนวโน้มการรับรู้รายได้จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 20% ตามจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น จาก 6 เดือนแรกปีนี้มีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 20% โดยเฉพาะช่วงฤดูเดินทางท่องเที่ยวมีผู้โดยสารวันละ 160,000 คน คาดตลอดปีงบประมาณ 2561 สนามบินดอนเมืองจะมีผู้โดยสารใช้บริการสูงสุดถึง 40 ล้านคน


@ตะกั่วป่า พังงา เมืองน่าเที่ยวริมอันดามัน



ลงใต้ไปสูดโอโซนเมืองเก่าชายฝั่งทะเลอันดามันกันที่ “ตะกั่วป่า” จังหวัดพังงา ย้อนวิถีชีวิตอดีตอันรุ่งเรื่องเมื่อครั้งเคยเป็นเมืองท่าการค้าขายทางทะเล พอคนจีนเข้ามาอาศัยจำนวนมากขึ้น ผนวกกับอาชีพทำเหมืองสมัยนั้นเฟื่องฟู รูปแบบการสร้างบ้านพักอาศัยก็แปรเปลี่ยนเป็นสถาปัตยกรรมชิโนโปตุกีสมากขึ้น บ้านหลังแรก ๆ ที่ยังสมบูรณ์แบบต้องแวะชม “บ้านขุนอินทรีย์” ของแท้ดั้งเดิม

เมื่อนักท่องเที่ยวเดินชมเมืองผ่าน “ตลาดเก่า” บริเวณสามแยกในเมืองตรงหัวมุม “ถนนอุดมธารา” ตัดกับ “ถนนศรีตะกั่วป่า” เป็นเสมือนภาพฉายย้อนไปยังอดีตที่มีชาวจีนมาจุดธูปไหว้ฟ้าดินเป็นกิจวัตรประจำวัน



การเดินเลียบตลาดไปผสมกลมกลืนของคนท้องถิ่นที่มักจะมานั่งจับกลุ่มกันเปิด “สภากาแฟ” ทุกเช้า ภาพเหล่านี้ถือเป็นวิถีชีวิตชาวตะกั่วป่าที่ยังพบเห็นได้ ฟังเรื่องเล่ายามเช้าของชาวพื้นเมืองพอหอมปากหอมคอเสร็จแล้ว เดินท่องเที่ยวไปตาม “ถนนศรีตะกั่วป่า” เรื่อยไปจนถึง “วัดเสนานุชรังสรรค์” มีตึกเก่าหลายแห่งที่สวยงาม รอบบริเวณมีร้านกาแฟให้นั่งชีล ๆ ด้วย ผู้ที่ชื่นชอบค้นหาวิถีชีวิตจากบ้านเรือนอาศัยหาชมได้ตลอด “ถนนอุดมธารา” จะเป็นบ้านชั้นเดียวหลังคาแบบจีนโบราณ บางจุดมีภาพเขียนบนแนวกำแพงดูคลาสสิกไปอีกแบบ



ความแปลกตาในการท่องเที่ยว “เมืองตะกั่วป่า พังงา” ที่เหนือกว่าทะเลคือ มีวัดกลางเมืองสำคัญ ๆ ให้ศึกษาเรียนรู้ อย่าง “วัดเสนานุชรังสรรค์” มีพระอุโบสถสีขาวแบบเดียวกับกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น “วัดพระธาตุคีรีเขต” นักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตากับพระอุโบสถสถาปัตยกรรมปูนปั้นซึ่งมีหน้าบรรณสวยงามไม่เหมือนวัดใดในเมืองไทย



เมืองเล็ก ๆ ที่น่ารักริมทะเลอันดามันยังเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณท้องถิ่นแสนงดงาม ลองแวะไปพักผ่อนได้ที่เมืองตะกั่วป่า แห่งนี้มีครบทั้งทะเลสวย วิถีชีวิตสดใส และวัดแสนงาม เป็นหลากหลายความสุขที่มีอยู่อย่างครบครัน

@เลี่ยงลดความเครียดต้นเหตุสารพัดโรค

ความเครียดอาจเป็นต้นเหตุของการบาดเจ็บได้โดยตรง เช่น เมื่อมีภาวะความเครียดเกิดขึ้น กล้ามเนื้อจะตึง เกร็ง ระบบประสาทจะตึงและความสามารถในการนำกระแสประสาทลดลง ทำให้ล้าได้ง่าย เมื่อกล้ามเนื้อมีความตึงมาก ย่อมส่งผลต่ออาการปวด เพราะกล้ามเนื้อทำงานคงค้างอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับคนที่ถือของค้างไว้ตลอดเวลา กล้ามเนื้อย่อมทำงานมากกว่าคนที่ถือแล้ววาง และเมื่อต้องทำงานชนิดเดียวกันในความหนักเท่าๆ กัน คนที่เครียดต้องใช้พลังงานมากขึ้นกว่าคนที่ไม่เครียด การเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของคนที่เครียดจึงมากกว่า จึงต้องสังเกตตัวเองจากอาการดังนี้ แล้วต้องเลี่ยงให้ได้

1. หากได้หยุดงานแล้วไปเที่ยวโดยใช้พลังมาก ๆ ทำให้อาการหายไปหรือดีขึ้นขณะเที่ยว แต่พอกลับจากเที่ยว อาการกลับมาอีกแสดงว่าอาการที่เป็นอยู่มีผลจากความเครียดค่อนข้างมาก

2. หากทำงานในรูปแบบเดียวกัน แม้จะเปลี่ยนสถานที่ไป จัดโต๊ะเก้าอี้จากเดิม แล้วอาการเปลี่ยนไปในทางที่ดีก็แสดงว่าอาการตอนแรกน่าจะมาจากความเครียด

3. หากจัดโต๊ะด้วยการวางดอกไม้ เลี้ยงปลา หรือเปิดวิทยุ ฟังเพลงเพื่อการผ่อนคลาย แล้วมีผลทำให้อาการดีขึ้น แสดงว่า อาการปวดนั้นมีผลมาจากความเครียด

4. หากทำงานในรูปแบบเดียวกัน สถานที่เดียวกัน แต่ทำให้กับแฟน หรือเพื่อน ด้วยความเต็มใจและไม่ต้องมีความรู้สึกถึงความรับผิดชอบต่องานนั้น แล้วพบว่าไม่ทำให้เกิดอาการปวดแม้ว่างานนั้นจะหนักก็ตาม แสดงว่า อาการปวดที่เป็นอยู่นั้นมาจากความเครียด

5. หากนั่งโต๊ะทำงานที่ไม่ได้เปลี่ยน งานยังหนักเท่าเดิม แต่วันนั้นเป็นวันจะมีงานเลี้ยง  หรือกิจกรรมที่ชอบรออยู่ แต่ความรู้สึกกลับไม่หนักเท่าวันก่อนๆ แสดงว่า อาการที่เป็นอยู่เป็นผลมาจากความเคียด

6. หากงานหนักคงเดิมตลอด แต่ปรับท่าทางการทำงาน หรือโต๊ะ เก้าอี้ แล้วส่งผลให้อาการดีขึ้น แสดงว่า อาการนั้นน่าจะมาจากปัญหาของ โต๊ะ เก้าอี้ หรือท่าทางการทำงานที่ไม่เหมาะสม หากสังเกตจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วพบว่า มีความไม่แน่นอนของอาการ เป็นไปได้ว่า ปัญหาอาจมาจากทั้งความเครียด โต๊ะ เก้าอี้ ไม่เหมาะสม หรือท่าทางการทำงานที่ไม่ถูกต้องก็ได้

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “สิงคโปร์ขายออนไลน์ไทยหนีเที่ยวอัดโปรเต็มเหนี่ยว”

การท่องเที่ยวสิงคโปร์ รายงานว่า ได้ร่วมมือ HITEVENT เปิดตัวงานแฟร์ท่องเที่ยวสิงคโปร์ครั้งแรกในรูปแบบออนไลน์ ภายใต้งาน “ไทยหนีเที่ยว” พร้อมอัดโปรโมชั่นและข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย ระหว่างวันนี้ – 29 มิถุนายน 2561 ทางเว็บไซต์ www.thaineetiew.com/Singapore

เป็นการจัดงานแฟร์ท่องเที่ยวสิงคโปร์ครั้งแรกในรูปแบบออนไลน์ เพื่อปลุกกระแสนักท่องเที่ยวในไทยไปเต็มทุกความชอบที่ใช่  ด้วยโปรโมชั่นครอบคลุมตั้งแต่ส่วนลดสุดคุ้มจากสายการบินชั้นนำไปจนถึงแพ็กเกจสุดประหยัดจากสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อในสิงคโปร์อย่าง  รีสอร์ทเวิลด์ เซ็นโตซ่า พร้อมรวบรวมข้อเสนอสุดร้อนแรงจากโรงแรมและทัวร์เอเจนท์มากมายมาให้ครบจบในที่เดียว

1.Sentosa Development Corporation เอาใจนักท่องเที่ยวสาย Explorer และ Action Seeker ลดถึง 50% ในกิจกรรมซิกเนเจอร์ อาทิ นั่งชมวิวเกาะสิงคโปร์จากที่สูงบน Singapore Cable Car (ไป-กลับ) ถ่ายรูปกับ Sentosa Merlion หรือ รับชมแสงสีสุดตื่นตาตื่นใจในการแสดงชุด Wings of Time นักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกซื้อแพ็กเกจ Happy 2 Joyrides ซึ่งเป็นแพ็กเกจที่สามารถจับคู่ Singapore Cable Car พ่วงกับอีก 2 กิจกรรม (สถานที่ท่องเที่ยว ดินเนอร์ หรือทัวร์ที่ร่วมรายการ)  และแพ็กเกจ Happy 4 Joyrides ที่จับคู่ Singapore Cable Car กับกิจกรรมอื่นๆ (สถานที่ท่องเที่ยว ดินเนอร์ หรือทัวร์ที่ร่วมรายการ) อีก 4 กิจกรรม ในราคาส่วนลดถึง 50% อีกด้วย

    2.แพกเกจชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในสิงคโปร์ราคาลด 30% ทั้งแพ็กเกจ Fly & Splash จับคู่  Singapore Cable Car กับ Adventure Cove Waterpark  แพ็กเกจ Fly & Play จับคู่ Singapore Cable Car กับ Universal Studios Singapore แพ็กเกจ Be a Star ให้นักท่องเที่ยวได้นั่ง Singapore Cable Car และท่องไปใน Madame Tussauds Singapore และแพ็กเกจ Triple Attractions ที่รวม Singapore Cable Car Universal Studios Singapore และ S.E.A Aquarium ไว้ด้วยกัน

3.ผู้ใช้จ่ายครบ 10,000 บาท* ในโซน Singapore จะได้รับของขวัญสุดพิเศษเป็นกระเป๋าเดินทางฟรีขนาด 16 x 16 นิ้ว มูลค่ากว่า 1,300 บาท และร่วมเฉลิมฉลองเทศกาล Great Singapore Sales รับฟรีบัตรกำนัลช้อปปิ้งร้าน Charles & Keith มูลค่า 20 สิงคโปร์ดอลลาร์ (ประมาณ 480 บาท) เมื่อใช้จ่ายในงานครบ 5,000 บาท**

อัพเดทต่าง ๆ ได้ที่ Facebook VisitSingaporeTH และ Line@ VisitSingaporeTH

ข่าวที่สอง “ชวนเที่ยวเมืองผีตาโขนด่านซ้าย6-8ก.ค.นี้”



การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเลย ชวนเที่ยวงานสืบสานประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน วัดโพธิ์ศรี บ้านนาเวียงใหญ่ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ระหว่างวันที่ 6 - 8 กรกฎาคม 2561 ไฮไลต์จะได้ชมการแสดงผีตาโขนยามค่ำคืน ซึ่งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวโดยชุมชน เพื่อสร้างตลาดและให้เกิดรายได้ให้กับชุมชน เพื่ออนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์อัตลักษณ์ที่เป็นรากเหง้าของท้องถิ่น

สอบถามเพิ่มได้ ที่ว่าการอำเภอด่านซ้าย โทร. 0-4289-1266 เทศบาลตำบลด่านซ้าย โทร. 0-4289-1231 และททท. สำนักงานเลย โทร. 0-4281-2812, 0-4281-1405 / Facebook : TAT Loei Office

ข่าวที่สาม “ปตท.ลุยเปิดธุรกิจบัดเจ็ตโฮเต็ลในปั๊ม5ปี50แห่ง”

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายในปี 2561 จะคัดเลือกผู้ร่วมทุนก่อสร้างโรงแรมในสถานีน้ำมันของ ปตท. ดำเนินการเอง โดยจะนำร่องเปิดบริการครั้งแรกภายในปี 2562 ประมาณ 3-5 แห่ง พร้อมทั้งวางแผนธุรกิจภายใน 5 ปี จะขยายโรงแรมในสถานีบริการน้ำมันครอบ 50 แห่ง ส่วนราคาค่าห้องพักเฉลี่ย 500 – 800 บาทต่อห้องต่อคืน

ซึ่งทาง ปตท.จะประเมินความคุ้มทุนเพื่อจะเดินหน้าขยายโรงแรมอย่างต่อเนื่อง เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นเจ้าของปั๊ม หรือผู้สนใจมีที่ดินติดปั๊มผู้ลงทุนเองก็ได้ เบื้องต้นจะต้องออกแบบให้อยู่ภายใต้มาตรฐานของ ปตท. และจะจับมือกับพันธมิตรมีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการด้านโรงแรมเพื่อให้ได้มาตรฐาน

ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ปตท. ครั้งล่าสุดได้อนุมัติให้เดินหน้าแผนพัฒนาคัดเลือกพันธมิตรเพื่อการลงทุนห้องพักในปั๊ม ปตท.เน้นรูปแบบการจัดทำเป็นโรงแรมแบบประหยัดหรือ Budget Hotels

ติดตามฟังรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai