ททท.ปักกิ่งพลิกตลาดทัวร์จีนพันธุ์ใหม่ปี61-62
ปลุกคนรวยเมืองหลักรองหอบเงินแสนเที่ยวไทย
คิงเพาเวอร์ให้สมาชิกบัตรซื้อตั๋วเอทิฮัดลด 30%
ไทยเทสต์เฟสต์จัดกระหึ่มสยามสแควร์8-10มิ.ย.
บีซีพีจีเครือบางจากผนึกมช.ลุยSmartEnergy
ทอท.คุมเข้มมาตรการเข้าออกเขตปลอดอากร
ปั่นสองล้อชมเกาะรัตนโกสินทร์8ไฮไลต์ในกรุง
ห้ามพลาดเทคนิคการดื่มน้ำอย่างถูกวิธีชีวิตดี๊ดี
“วีระศักดิ์-เลขาUNWTO”ดันไทยทำ10เรื่องโลก
“สนธยา”เคลื่อนทัพท่องเที่ยวเมืองชลเชื่อมEEC
โรงแรมอัมรางัดแพกเกจปาร์ตี้ชิงตลาดรุ่นใหม่
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza
ช่วงที่ 1 เกาะติดประเด็นเข้ม ๆ ที่ทำให้ผู้ประกอบการไทยจะต้องฉีกตำราการตลาดแบบเดิมได้จาก “อัญชลี คุ้มวงษ์” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน จะมาตีแผ่กระแสจีนยุคใหม่ในพื้นที่ใหญ่สุด “มหานครปักกิ่ง” และแถบภาคเหนือของจีนทั้งหมดซึ่งมีประชากรรวมกันกว่า 400 ล้านคน และเขตเศรษฐกิจเมืองรอง “เศรษฐีกับกลุ่มคนรวยจริง” กำลังไหลบ่าเข้ามาเที่ยวเมืองไทยมากถึง 1 ใน 3 พร้อมจะใช้เงินซื้อความสุขทางการท่องเที่ยวแรง ๆ 3 โปรดักซ์ คือ “ทัวร์สุขภาพเฮลท์/เวลเนส-ทัวร์กีฬา กอล์ฟ/มาราธอน/ปั่นจักรยาน-ทัวร์ฮันนีมูน/ลักชัวรี่” พร้อมควักจ่ายแพกเกจราคาเบาะ ๆ เฉียดวันละหมื่นบาท แล้ววันนี้ต้องตั้งคำถามว่า คนไทยพร้อมรวมพลังกันเพื่อสร้างจุดเปลี่ยนไปสู่ตลาดคุณภาพที่ยั่งยืนหรือยัง
อัญชลี คุ้มวงษ์ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน |
“อัญชลี คุ้มวงษ์” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดเผยว่า ได้ดูแลพื้นที่การตลาดภาคเหนือของจีน ปักกิ่ง เทียนจิน และ 6 มณฑล 1 เขตปกครองพิเศษ และประเทศมองโกเลีย ซึ่งมีประชากรรวมกันทั้งหมดราว 400 ล้านคน ประมาณ 26 % ของจีน เดินทางเที่ยวต่างประเทศ 20 ล้านคน เลือกมาไทย 3 ล้านคน
ปี 2560 สถานการณ์โดยภาพนักท่องเที่ยวจีนทั้งประเทศเดินทางออกต่างประเทศ (outbound) ประมาณ 130 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7 % แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ประเทศไทยมาอันดับ 1 จำนวน 9.8 ล้านคน ตามด้วยญี่ปุ่น 7.3 ล้านคน เกาหลีใต้ 4.1 ล้านคน ลดไปเกือบ 40 % เวียดนาม 4 ล้านคน อินโดนีเซีย 2 ล้านคน ทวีปไกลที่จีนเดินทางไปมากสุดเรียงตามลำดับคือ อเมริกา ออสเตรเลีย
พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาไทยได้ตลอดทุกเดือนดังนั้นจะใช้กลยุทธ์กระตุ้นด้วยโครงการพุ่งเป้าเน้นการเจาะกลุ่มหลักระดับกลางถึงบน เป็นคนวัยทำงานและผู้บริหารหรือ White Collar กลุ่มสนใจท่องเที่ยวเฉพาะ3กลุ่มใหญ่ ได้แก่ ท่องเที่ยวเชิงกีฬา ฮันนีมูน ลักชัวรี่ ซึ่งเป็นกลุ่มกลางบนที่เดินทางออกนอกประเทศจำนวนมากสุดมีกำลังซื้อสูง เดินทางได้ตลอดโดยไม่จำกัดเวลา แตกต่างจากจีนทั่วไปจะเดินทางเฉพาะช่วงวันหยุดเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเทรนด์คนรุ่นใหม่สามารถทำงานกับเดินทางไปได้ในทุกสถานที่ โดยใช้จ่ายเงินเฉลี่ย 8,000-9,000 บาทต่อคนต่อวัน สูงกว่านักท่องเที่ยวจีนปกติจะใช้จ่ายเฉลี่ยเพียงคนละ 6,000 บาทต่อคนต่อวัน รวมถึงสนใจแหล่งท่องเที่ยวพิเศษในเทรนด์ชิค ๆ เก๋ ๆ โด่งดัง ค่าใช้จ่ายสูงตามเทรนด์ที่วัยรุ่นชอบไปอย่าง ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ซึ่งเป็นกระแสของคนรุ่นใหม่
สำหรับการท่องเที่ยวเชิงกีฬา นักท่องเที่ยวจากปักกิ่งนิยมมาเล่นกอล์ฟในไทย โดยใช้เงินซื้อแพกเกจแบบพิเศษด้วยการให้บริษัทนำเที่ยวออกแบบตามความต้องการของแต่ละบุคคล เลือกโรงแรมที่พัก สนามเล่นกอล์ฟ รถหรู มีไกด์และคนให้บริการ ขายแต่ละแพกเกจ 12,000 หยวนต่อคน หรือเฉลี่ย 60,000 บาท ไม่รวมค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินลูกค้าจะจองซื้อจ่ายเงินเพิ่มเอง นอกจากนั้นก็จะนิยมมาวิ่งมาราธอน ปั่นจักรยาน ดำน้ำ ล้างภาพลักษณ์เดิม ๆ ของนักท่องเที่ยวจีนที่มาในเชิงปริมาณจำนวนมากหรือ mass tourism ลงไปได้ อีกทั้ง ททท.เลือกให้การสนับสนุนกิจกรรมหรือตัวแทนที่นำเสนอขาย “แพกเกจคุณภาพ” ตัดช้อปปิ้งหรือกลุ่มที่เดินทางมาเป็นหมู่คณะ
กลยุทธ์การรุกตลาดทางสำนักงาน ททท.ส่วนกลาง จะทำงานเทรดต้นแบบ เช่น เมดิคอล โชว์เคส เป็นผู้ประสานงานกลางนำผู้ขายจากไทยเดินทางไปจับคู่เจรจากับบริษัทตัวแทนผู้ซื้อการท่องเที่ยวในจีน รวมถึงจัด “ไทยแลนด์ กอล์ฟ แทรเวล มาร์ต” ปลายเดือนกรกฎาคม 2561 เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวกีฬาของจีนซึ่งเป็นตลาดสำคัญอันดับต้น ๆ กิจกรรม “Lady Month” เพราะจีนมีนักท่องเที่ยวผู้หญิงเดินทางถึง 60 % มากกว่าผู้ชายมีเพียง 40 % จะจัดมหกรรมท่องเที่ยวสำหรับผู้หญิงช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้
ผอ.อัญชลี กล่าวว่าการวางแผนการตลาดประจำปี 2562 ที่จะนำเสนอในการประชุมระหว่างวันที่ 2-5 กรกฎาคม 2561 หลังจากปูพรมเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับกลางถึงบนแล้วเห็นผลชัดเจนถึงรายได้เพิ่มขึ้น ดังนั้นปี 2562 จะต่อยอดกิจกรรมตลาดการขายโดยไม่เน้นจำนวนแต่จะหันไปเพิ่มกำลังซื้อคุณภาพเป็นหลัก ในมณฑลปักกิ่งจะเร่งการขายโปรดักซ์ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Health & Wellness ซึ่งมีความแตกต่างจากประเทศอื่น ๆ เพราะตามกฎหมายบริษัทผู้ประกอบการจีนที่จะต้องได้รับใบอนุญาตหรือไลเซ่นจากรัฐบาลเท่านั้นถึงจะทำแพกเกจเที่ยวเชิงสุขภาพขายในตลาดได้ เรื่องการเดินทางมารักษาพยาบาล ดูแลตรวจสุขภาพ ดังนั้น ททท.จะใช้วิธีจับมือกับกลุ่มผู้ประกอบการที่มีไลเซ่นซึ่งกลุ่มเหล่านี้จะมีเครือข่ายพันธมิตรคือ สถาบันการเงิน ฟิตเนสเซ็นเตอร์ สมาคมสุขภาพต่าง ๆ เป็นช่องทางการสร้างเครือข่ายเจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แนวโน้มอัตราการเติบโตตามนโยบายของ ททท.ตลอดปี 2562 จะเน้นสร้างรายได้เป็นหลักเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 10 % จึงเป็นภารกิจท้าทายอย่างมาก โดยศักยภาพของจีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากสุดในโลก 1,400 ล้านคน ในจำนวนนี้มีชาวจีนถือพาสปอร์ตสามารถเดินทางออกต่างประเทศเพียง 140 ล้านคน เพราะฉนั้นคนที่มีกำลังซื้อในจังหวะที่เศรษฐกิจภายในประเทศเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทำให้ประชากรในพื้นที่เขตเศรษฐกิจเมืองรองของจีนจะเป็นแรงขับเคลื่อนนักท่องเที่ยวจีนออกต่างประเทศสูงขึ้น เพราะจีดีพี การจ้างงานสูง คนอยู่ดีกินดีมีฐานะ มีกำลังเที่ยวต่างประเทศ
จุดแข็งของไทยในตลาดจีนคือ ระยะทางบินใกล้ การเดินทางสะดวก เป็นอันดับต้น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผนวกกับไทยมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ราคาสมคุณภาพ การเข้าถึงง่าย การเดินทางเชื่อมโยงจากปักกิ่งเข้าไทยได้รับแรงสนับสนุนเที่ยวบินตรง ไป-กลับ จาก 11 มณฑล จำนวนมากถึง 15 สายการบิน เข้ากรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ กระบี่
ดังนั้น ททท.สำนักงานปักกิ่งรุกเข้าไปเจาะตลาดเขตเศรษฐกิจเมืองรองจากจีน 2 มณฑลหลัก คือ เทียนจิน เจิ้งโจว (มณฑลเหอหนาน) มีประชากรเกือบ 100 ล้านคน และกำลังเพิ่มเที่ยวบินเข้าไทย และเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง เป็นเมืองอุตสาหกรรมชั้นนำมีต่างชาติลงทุนจำนวนมาก เช่น บีเอ็มดับเบิ้ลยูเข้ามาตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ถึง 2 แห่ง และยังเป็นแหล่งอุตสาหกรรมถลุงเหล็ก ผลิตอุปกรณ์เครื่องยนต์ รถยนต์ จึงมีการจ้างงานทำให้คนในเมืองนี้มีรายได้สูง
ขณะเดียวกัน ททท.ก็จะนำเสนอเมืองรองของไทยเข้าไปยังตลาดจีน จะเพิ่มเส้นทาง “เชียงใหม่” มีไชน่า แอร์ไลน์ บินตรงไป-กลับ สัปดาห์ละ 10 เที่ยว นำเสนอการท่องเที่ยวเชิงลึกการร่วมทำกิจกรรมกับชุมชน เช่น วาดร่ม ทอผ้า ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของนักท่องเที่ยวยุคใหม่หันมาสนใจท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์และอยากศึกษาวิถีชีวิตท้องถิ่น วัฒนธรรมที่แตกต่างมากขึ้น และยังสามารถกระจายนักท่องเที่ยวจีนไปยังจังหวัดใกล้เคียงได้ในเชียงราย ลำปาง ส่วนกรุงเทพฯ คนจีนกำลังนิยมมาทำกิจกรรม Walk Tour และ Gastronomy Route โดยต่อยอดเส้นทางท่องเที่ยวไปยังจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อดูตลาดน้ำ และวัฒนธรรมการกินการอยู่ ทางด้านเมืองริมทะเลก็จะไปภูเก็ต เชื่อมโยงสู่ชุมชนหลีเป๊ะ สตูล และอีกหลายจังหวัดเมืองรองเริ่มแรงขึ้นตามลำดับ
ผอ.อัญชลี ย้ำว่ากระแสทัวร์จีนที่ไหลบ่าเข้าสู่ประเทศไทย จะต้องขอความร่วมมือจากคนในประเทศทำความเข้าใจวัฒนธรรมจีน โดยเฉพาะไกด์จะต้องเป็นตัวกลางสื่อให้จีนเข้าใจการปฏิบัติตนให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมไทย โดยททท.ปักกิ่ง ได้นำร่องทำ
1.ผลิตคู่มือข้อควรปฏิบัติเผยแพร่ในจีนถึงการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวตามอุทยานประวัติศาสตร์ เมืองชายทะเล วิธีการดำน้ำ ขี่ช้าง และอื่น ๆ หลากหลายกิจกรรม โดยได้ส่งคู่มือไปยังบริษัทนำเที่ยว พร้อมทั้งร่วมมือกับกลุ่ม บริษัท คิง เพาเวอร์ ทำคู่มือท่องเที่ยวกรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต เป็นภาษาจีน โครงการนี้ ททท.เข้าร่วมด้วยโดยใส่คำเตือน Do & Don’t ข้อควรระวัง คำเตือน เพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนทำความเข้าใจก่อนจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทย
2.วิธีที่ผู้ประกอบการไทยจะรองรับนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเปลี่ยนพฤติกรรมไปสู่การใช้ทุกอย่างผ่านเครื่องมือดิจิตอล ทั้งการจองตั๋วโดยสาร ห้องพัก จ่ายเงิน ผ่านระบบออนไลน์เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการไทยจะต้องสื่อสารโดยใช้ภาษาจีน พร้อมรายละเอียดในบริการอย่างชัดเจน รวมถึงต้องเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกการจ่ายเงินในระบบใหม่ เพราะเมื่อนักท่องเที่ยวจีนมาถึงเมืองไทยตอนนี้จะไม่ใช่บัตรเครดิตแต่จะจ่ายผ่านแอพลิเคชั่น เช่น WeChat Alipay, Union Pay แทน เพราะถ้าช่องทางการจ่ายสะดวกก็จะทำให้นักท่องเที่ยวจีนใช้เงินเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ
ผอ.อัญชลีกล่าวว่า นับจากนี้เป็นต้นไป ททท.ทุกสำนักงานในจีนพยายามเร่งปรับโครงสร้างฐานลูกค้าใหม่จากระดับล่างขยับขึ้นเป็นระดับกลางถึงบน จึงต้องขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการไทยรักษามาตรฐานบริการให้เหมาะสมกับนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพเหล่านี้ ถึงแม้จะไม่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วแต่ก็ต้องช่วยกันอย่างเต็มที่ เพื่อความสำเร็จในอนาคตอันใกล้ และเพื่อสร้างตลาดให้มีความยั่งยืนตลอดไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ให้สมาชิกซื้อตั๋วเอทิฮัดได้ลดถึง30%”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่า ได้ร่วมสนับสนุนสายการบินเอทิฮัด สายการบินแห่งชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อให้สมาชิกผู้ถือบัตรคิง เพาเวอร์ รับส่วนลดในการซื้อตั๋วโดยสารบินระหว่างประเทศ ไป-กลับ ระหว่างกรุงเทพฯ สู่ปลายทางทั่วยุโรป อเมริกา รับทันทีตั๋วชั้นประหยัด ลด 15% ตั๋วชั้นธุรกิจและเฟิร์สคลาสลด 30%
พิเศษ ! ส่วนลดดังกล่าวที่สายการบินเอทิฮัด ให้บริการหลัก ๆ ในเส้นทางยุโรป ได้แก่ บรัสเซลส์ แมนเชสเตอร์ โรม แฟรงค์เฟิร์ต เจนีวา ลอนดอน มิลาน มิวนิค ปารีส และซูริค และเส้นทางอเมริกา ใน 2 มหานครใหญ่ ลอสแอนเจลิส และนิวยอร์ก
ทั้งนี้ เอทิฮัด ได้รับการจัดอันดับจากสกายแทร็กให้เป็นสายการบินระดับ 5 ดาว โดยบริการผู้โดยสารจากกรุงเทพฯ ภูเก็ต สู่ฮับเมืองอาบูดาบี และจุดหมายปลายทางทั่วโลกกว่า 100 แห่ง ทั้งในยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชีย
สมาชิกผู้ถือบัตรคิง เพาเวอร์ สนใจรับสิทธิส่วนลดพิเศษในการซื้อตั๋วสอบถามเพิ่มได้ที่ Amber Air Travels โทร. 0 2168 7300-9 วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 8.30-17.00 น.) หรือ www.amber.co.th
ค
ข่าวที่ 2 “ททท.จัดหนักไทยเทสต์8-10มิ.ย.ที่สยามสแควร์”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า เตรียมจัด Amazing Thai Taste Festival ระดมอาหารถิ่นจากทั่วทุกภาคของประเทศกว่า 134 แห่ง พาเหรดกันคัดสรรเมนูเด็ด ระหว่าง 8 - 10 มิถุนายน 2561 ตั้งแต่เวลา 12.00 - 20.00 น. ณ สยามสแควร์ นักท่องเที่ยวจะได้พบและลิ้มรสสุดยอดร้านอาหารอร่อยในกรุงเทพฯ และทั้ง 5 ภูมิภาค ภายใต้แนวคิด EAT THAI FOOD, FEELING GOOD เพื่อใช้อาหารสื่อสารถึงวิถีชีวิต วัฒนธรรมความเป็นอยู่ กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว โดยคาดจะมีผู้มาร่วมงานไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นคน สร้างรายได้หมุนเวียนตลอดงานกว่า 40 ล้านบาท
ภายในงานพบกับอาหารร้านดังหาทานยากจาก 5 ภูมิภาค ร้านสตรีทฟู้ดจากทั่วกรุงเทพ ร้านเครือข่ายประชารัฐ รวมกว่า 134 ร้าน มาให้บริการอย่างเต็มอิ่ม 8 โซนหลัก ประกอบด้วย
โซน 1 Good Reputation พบกับนิทรรศการข้าวไทย เรียนรู้วิธีทำอาหารจากสถาบันอาหารชื่อดัง พร้อมปรุงเมนูอาหารไทยที่มีชื่อเสียงในระดับโลก อาทิ ต้มย ากุ้ง มัสมั่น ผัดไท แกงเขียวหวาน ต้มข่าไก่ เสิร์ฟพร้อม “ข้าวหอมอุบล” ข้าวไทยราคาสูงถึงตันละ 3 แสนบาท
โซน 2 Good Local ชมเอกลักษณ์อาหาร 5 ภูมิภาค ชิมอาหารจากวัตถุดิบพื้นบ้านจากฝีมือการปรุงของเชฟท้องถิ่นรุ่นใหม่ และรวมร้านเด่นร้านดังมาไว้ในงาน อาทิ “ภาคเหนือ” ได้แก่ ร้านไส้อั่วเผาเตาหลวงล่าปาง ร้านแหนม สุณี ร้านแม่สมควร “ภาคใต้” ได้แก่ ขนมลาป้าพิณ น้ำพริกกุ้งเสียบ ครัวบ้านแม่ หมูย่างบ้านบัวบก “ภาคอีสาน” ได้แก่ ร้านหน่อยต่าซั่ว ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือนายเกรียง มทส.ประตู4 ร้านลูกกระเทียม “ภาคตะวันออก” ไอยรา ซีฟู้ด แกงหมูใบชะมวงลุงด่า ขนมไทยป้าหนอม ต่านานป่า “ภาคกลาง” ได้แก่ ร้านข้าวแช่ช้อนทองเสวย ครัวม่อนไข่ ผัดหมี่ไทยญวณ ป้าแวม บังหมัด โรตีสายไหม ทรงนิมิต ขนมเกสรล่าเจียก
โซน 3 Good Organic ร่วมกิจกรรมสินค้าสุขภาพและเกษตรอินทรีย์ 100% จากไร่สู่จานพร้อมเสิร์ฟ เลือกซื้อสินค้าจากเกษตรกรตัวจริง พร้อมกิจกรรมเวิร์คชอปมากมายสำหรับผู้รักสุขภาพ
โซน 4 Good Fruit พบกับครั้งแรกของเมนู ข้าวต้มมัดไส้ทุเรียนกะทิลาวา และไส้มะม่วงกะทิลาวา เลือกซื้อผลไม้สดจากสวนน้ำผลไม้ปั่นสดและอาหารเมนูทุเรียน และไฮไลท์พิเศษสุดบุฟเฟต์ผลไม้สดจากสวนสู่กลางสยามสแควร์
โซน 5 Good Taste อิ่มอร่อยกับร้านอาหารและสตรีทฟู้ดจากทุกซอกทุกมุมของกรุงเทพฯ นำโดยร้านอาหารคุณภาพระดับมิชลิน อาทิ บ้านใหญ่ผัดไทย ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่สวนมะลิ เจ๊โอว บ้านใน และ ร้านโซล ฟู้ด มหานคร
โซน 6 Good Idea แฟนคลับคนอาร์ต มาพบกับตัวจริงเสียงจริงกับร้านอาหารดีไซน์เก๋ ๆ ร้ านจำหน่ายสิ นค้าทำมือชิ้นเดียวในโล ก ทั้งของแ ต่งบ้าน เสื้ อผ้า งานศิลปะ และกิจกรรมเวิร์คช้อปสุดชิค อาทิ ย้อมผ้า จัดดอกไม้ ปั้นจิ๋ว
โซน 7 Good Power ยกร้านค้าเครือข่ายประชารัฐและพันธมิตรกว่า 30 ร้าน ทั้งอาหาร ของฝาก และธุรกิจบริการ อาทิ สมาคมภัตตาคารไทย ร้านเสวย ตลาด อ.ต.ก. มาไว้ในโซนนี้
โซน 8 Good Enjoy สุดมันกับดนตรีและศิลปินที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น แก้ม วิชญณี ว่าน -ธนกฤต พานิชวิท ย์ เดอะ พ ากิน สัน และห้ามพลาดกิจกรรมสาธิต เวิร์คช้อปทำอาหารจากเชฟรุ่นใหม่แถวหน้าของเมืองไทย อย่าง เชฟนิค ณัฏฐพล ภวไพบูลย์ เชฟอิ๊ก-บรรณ บริบูรณ์ และ พล ตัณฑเสถียร
ข่าวที่ 3 “บีซีพีจีผนึกมช.ลุยสมาร์ทเอนเนอร์ยีครบวงจร”
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ในเครือ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น เปิหดเผยว่า บีซีพีจีได้รับเลือกจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) เป็นผู้ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์บนพื้นที่หลังคารวม 12 เมกะวัตต์ ในเขตฝั่งสวนสัก สวนดอก และแม่เหียะ เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่มหาวิทยาลัย 20 ปี พร้อมทำระบบจัดการโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะเชื่อมต่อการทำงานและรับส่งข้อมูลกับศูนย์บริหารจัดการเมืองอัจฉริยะ (Smart Campus Management Center) ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศกลางปัจจุบันที่มหาวิทยาลัยมีอยู่
ตามแผนแม่บทของมหาวิทยาลัยทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมกันพัฒนาเป็น smart and clean campus โดยบีซีพีซีจะนำ peer to peer energy trading platform (แพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างผู้บริโภคกันเอง) ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ของพาวเวอร์ เล็ดเจอร์ พันธมิตรด้าน Digital Energy ของบริษัทฯ มาศึกษาพฤติกรรมการใช้พลังงานของผู้บริโภคในมหาวิทยาลัย และจะติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้าเพื่อเป็นตัวอย่างการศึกษาพฤติกรรมการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในมหาวิทยาลัย และจะนำข้อมูลจากโครงการทั้งสองไปใช้เป็นข้อมูลสนับสนุนพัฒนาโครงการ smart campus ด้วย
เรื่อยไปจนถึงสนับสนุนโครงการของนักศึกษาที่มีศักยภาพ เพื่อต่อยอดธุรกิจสตาร์ทอัพผ่านสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (Bangchak Initiative and Innovation Center หรือ BiiC) ของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อีกทั้งเปิดรับนักศึกษาเข้าร่วมฝึกงานกับบีซีพีจีและบริษัทในเครือบางจากฯ
ข่าวที่ 4 “ทอท.ลั่นคุมเข้มมาตรการเข้า-ออกเขตปลอดอากร”
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ได้ให้ความสำคัญเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ต้องตรวจสอบบุคคลผ่านเข้า - ออกในพื้นที่หวงห้ามอย่างเข้มงวด รวมทั้งกำกับดูแลพื้นที่ และผู้ปฏิบัติงานให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของท่าอากาศยานเต็มรูปแบบทุกเรื่อง โดยเฉพาะการเข้าพื้นที่หวงห้ามรับ-ส่งสินค้าภายในเขตปลอดอากรในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
หลังเหตุการณ์ล่าสุดในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีผู้ใช้ Facebook นามว่า Num Fuso โพสต์คลิปเหตุการณ์ทำงานกลางดึกขณะกำลังถอยรถเพื่อส่งสินค้า แต่รถสายตรวจวิ่งมาพอดี จึงบีบแตรเพื่อให้จอดรถ และเกิดการโต้เถียงกันพร้อมขอดูบัตรประชาชนนั้น ทาง ทอท.ชี้แจงว่าเหตุเกิดเมื่อ 29 พ.ค.61 เวลา 04.00 น. เจ้าหน้าที่ส่วนปฏิบัติการคลังสินค้า ฝ่ายบริหารการขนส่งสินค้าทางอากาศ ร่วมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริษัท ASM ที่ได้รับการจัดจ้างดูแลรักษาความปลอดภัยตระเวนตรวจตามวงรอบพื้นที่รับผิดชอบภายในเขตปลอดอากร พบรถบรรทุก (หมายเลขทะเบียน 72 / 8785 ผู้ขับขี่ชื่อนายประสิทธิ์ ปิงยศ) จอดกีดขวางเส้นทางจราจรบริเวณหน้าคลังสินค้าการบินไทย และได้เคลื่อนถอยหลังระยะกระชั้นชิดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่จึงกล่าวตักเตือน
เมื่อรถบรรทุกคันดังกล่าวผ่านช่องทางออก Checking Post (CP) เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริษัท ASM ขอตรวจสอบบัตรอนุญาตบุคคลเข้าพื้นที่เขตปลอดอากร ทสภ. เพื่อยืนยันตัวตนพบว่านายประสิทธิ์ ปิงยศ ใช้บัตรอนุญาตบุคคลชนิดชั่วคราวแบบรายวัน ซึ่งไม่มีภาพถ่าย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริษัท ASM จึงจำเป็นต้องตรวจสอบคู่กับบัตรประชาชนของผู้ขับรถบรรทุก
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวเป็นขั้นตอนการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยท่าอากาศยาน เพื่อป้องกันการนำบัตรอนุญาตไม่ตรงตามบุคคลที่ได้รับอนุญาตมาใช้เข้าพื้นที่เขตปลอดอากร ทสภ. ที่เป็นพื้นที่ควบคุมภายใต้กฎหมายศุลกากรและมาตรการด้านความปลอดภัย ทสภ. แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากคนขับรถบรรทุกคันดังกล่าว จึงเกิดการโต้เถียงกัน ดังนั้น ทอท.ได้แจ้งบริษัท ASM กำชับให้พนักงานทุกคนปฏิบัติงานตามระเบียบข้อบังคับของท่าอากาศยานอย่างเคร่งครัด ด้วยความสุภาพและมีความอดทน อดกลั้นในการแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าอย่างที่สุด เพราะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้ความสำคัญในการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เขตปลอดอากร ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับผู้พบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือประสบเหตุด่วน เหตุร้าย สามารถแจ้งศูนย์รักษาความปลอดภัย พื้นที่เขตปลอดอากร ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โทร.0 2134 1619 - 21
ช่วงที่ 2 ออกมาปั่นสองล้อชมความงามในเมือง “รอบเกาะรัตนโกสินทร์” จากวันนี้ย้อนสู่อดีตตามเส้นทางจาก เสาชิงช้า ลัดเลาะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามวัดดังทั้ง วัดสุทัศน์ วัดโพธิ์ วัดพระแก้ว วัดสระเกศ พระบรมมหาราชวัง ศาลหลักเมือง ชมป้อมพระสุเมร แวะเข้า พิพิธภัณฑ์บางลำพู และนิทรรศการรัตนโกสินทร์ แต่ละแห่งล้วนมีไฮไลต์เรื่องราวร้อยเรียงให้เห็นถึงคุณค่าความเป็นไทยมาหลายร้อยปี ปิดท้ายด้วยการตะเวนหาของอร่อยกิน ส่วนการดูแลสุขภาพก็ต้องใส่ใจ “เทคนิคการดื่มน้ำอย่างถูกวิธีชีวิตดี๊ดี” และฟังข่าวเจาะลึก 10 เรื่องใหม่ที่ รมว.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ กับเลขาธิการ UNWTO จะกอดคอกันดันท่องเที่ยวไทยสู่อนาคตที่ยิ่งใหญ่ ต่อด้วย “บิ๊กเมืองชลสนธยา คุณปลื้ม คัมแบ็กลุยกสร้างแม่เหล็กท่องเที่ยว EEC และโรงแรมอัมรา กรุงเทพฯ งัดไม้เด็ดขายแพกเกจปาร์ตี้กลางกรุงแบบมันมันส์
@ปั่นสองล้อชมเกาะรัตนโกสินทร์ 8 ไฮไลต์
การท่องเที่ยวไทยในกรุง “รอบเกาะรัตนโกสินทร์” โดยปั่นจักรยานชมเมือง ยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งช่วงวันธรรมดาและเสาร์-อาทิตย์ แวะได้เลยแต่ละจุดที่มีให้เลือกถึง 8 ไฮไลต์
จุดแรก “เสาชิงช้า – วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร” ตำนานแห่งสถานที่ประกอบพิธีโล้ชิงช้าในพระราชพิธี ตรียัมปรายตรีปวาย ตามหลักศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ใกล้กันมี “พระศรีศากยมุนี” วัดสุทัศน์ให้สักการะ ในพระวิหารหลวงมีจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องไตรภูมิโลกสัณฐานพุทธประวัติ
จุดที่ 2 วัดพระเชตพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร แวะกราบพระพุทธไสยาสน์ศักดิ์สิทธิ์ในพระอารามหลวงชั้นเอกประจำรัชกาลที่ 1 ทุกวันนี้ยังเป็นศูนย์รวมสรรพวิชาการแพทย์แผนโบราณ รวมทั้งมีตำราฤาษีดัดตนต้นตำรับวิชานวดแผนโบราณที่ทั่วโลกรู้จักเป็นอย่างดี
จุดที่ 3 “พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว” ปั่นชมมรดกศิลป์สุดเลอค่า และกราบพระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากรณ์ ในพระอุโบสถ พร้อมกับเดินชมจิตรกรรมฝาผนังรอบระเบียงคดเล่าเรื่องรามเกียรติ์ยาวสุดในโลก
จุดที่ 4 ศาลหลักเมือง เข้าไปสักการะได้ตั้งแต่ตี 5 จนถึง 1 ทุ่มครึ่ง ที่ฝังไว้ตามพระราชพิธีโบราณ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมือง เชื่อกันว่าหากได้ไหว้ศาลหลักเมืองจะเป็นมงคลแก่ชีวิต ก้าวหน้าในการงาน แคล้วคลาดปลอดภัยจากสิ่งร้าย ๆ ทั้งปวง
จุดที่ 5 ป้อมพระสุเมร ทรงแปดเหลี่ยมสร้างในรัชกาลที่ 1 เพื่อป้องกันพระนครด้านเหนือ ภายในเปิดให้ชมห้องอาวุธยุทโธปกรณ์ และข้าวของเครื่องใช้โบราณ
จุดที่ 6 พิพิธภัณฑ์บางลำพู เปิดวันอังคาร – อาทิตย์ 10 โมง ถึง 6 โมงเย็น มาร่วมย้อนอดีตไปกับห้องต่าง ๆ ที่พาเข้าสู่วิถีชีวิตย้อนยุคของคนหลายเชื้อชาติ ที่มีสีสันของย่านการค้าอันเฟื่องฟู มีแหล่งบันเทิงยามราตรี โรงลิเก มหรสพ รวมถึงฉายภาพของชุมชนปักชุดโขน ทำเครื่องถม และอื่น ๆ เข้าไปแล้วเสมือนอยู่ในสถานที่จริงนั่นเอง
จุดที่ 7 วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ซึ่งมี “บรมบรรพตหรือเจดีย์ภูเขาทอง” เป็นสถาปัตยกรรมความโดดเด่นด้วยสีทองอร่าม เดินขึ้นไปบนยอดเพื่อกราบพระบรมสารีริกธาตุ แล้วมองลงมาชมวิวพานรามาเกาะรัตนโกสินทร์
จุดที่ 8 นิทรรศการรัตนโกสินทร์ ตรงถนนราชดำเนิน เปิดให้ชมตอน 10 โมง ถึง 1 ทุ่ม ภายในมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่ครั้งเริ่มสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เล่าผ่านมัลติมีเดียล้ำสมัย พร้อมกับเกร็ดความรู้ชีวิตในวัง พระราชพิธีสำคัญ และความอลังการของพระบรมมหาราชวัง หรือจะทดลองเชิดหุ่นกระบอกเล่นเองก็ได้
แต่ถ้าหิวแนะนำให้แวะไปย่าน “ถนนพระอาทิตย์” มีของอร่อย ๆ เพียบ ทั้ง โรตีมะตะบะ แถวป้อมพระสุเมร ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ร้านเด็ดดังในซอยวัดสังเวชฯ ก๋วยจั๊บญวน ใกล้วังมะลิวัลย์
เที่ยวเมืองไทยในกรุงรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ก็มีของดีที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนให้ชมอีกมาก
@ เทคนิคการดื่มน้ำเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน
เพราะน้ำเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของร่างกายถึง 60-70 % ของน้ำหนักตัว อยู่ในเลือด 100 ซีซี เป็นส่วนของน้ำเสีย 80 ซีซี ดังนั้นการดื่มน้ำจึงเป็นสิ่งจำเป็นต้องให้ความสำคัญด้วยการเรียนรู้เทคนิคการดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ
1.ปริมาณน้ำที่ต้องดื่มต่อวันคือ 2-3 ลิตร (ได้จากน้ำดื่ม 1.0-1.5 ลิตร จากอาหาร เช่น ข้าว ผัก ผลไม้ 1.0-1.5 ลิตร) จึงจะมีปริมาณพอเพียงต่อร่างกาย อากาศร้อนจัด ปริมาณน้ำที่ดื่มต้องเพิ่มจำนวนขึ้น คนมีอายุสูงขึ้น กลไกลการ กระหายน้ำเสื่อมลง ความรู้สึกกระหายน้ำลดลง ก็ควรสนใจการดื่ม น้ำให้เพียงพอ
2.กินผัก ผลไม้ให้มาก เพราะอุดมด้วยวิตามิน เกลือแร่ และมีส่วนประกอบของน้ำมากกว่าร้อยละ 90 (ผักมีส่วนประกอบของน้ำร้อยละ 95 ผลไม้มีส่วนประกอบของน้ำร้อยละ 90) ดังนั้น กินผักผลไม้ 500 กรัม เท่ากับดื่มน้ำ 400 ซีซี
3.การดื่มเครื่องดื่มดับกระหาย ต้องคำนึงถึงผลกระทบระยะยาวด้วย เครื่องดื่มทั่วไปมักใช้ดื่มเพื่อดับกระหาย จะสังเกตพบว่ายิ่งดื่มยิ่งกระหาย ถ้าเป็นเครื่องดื่มที่มีปริมาณไขมันและมีแคลอรีสูง การดื่มปริมาณมาก บ่อยๆ จะเกิดโทษ เช่น ทำให้เป็นเบาหวาน หรือไขมันในเลือดสูง เกิดพิษสะสมในร่างกาย
4.ถ้ามีการเสียน้ำมาก และกระหายน้ำมาก ควรใช้เกลือผสมเล็กน้อย เพื่อทำให้ช่วยดับกระหาย แต่ไม่ควรดื่มมากเกินไป
5.ไม่ควรดื่มน้ำเย็น หรือดื่มน้ำปริมาณมากหลังกินอาหาร เพราะจะไปเจือจางความเข้มข้นของน้ำย่อย ทำให้การย่อยอาหารไม่ดี เป็นโรคกระเพาะ
6.ไม่ปล่อยให้กระหายน้ำเต็มที่แล้วค่อยมาดื่มน้ำ มีความหมายเช่นเดียวกับปล่อยให้ดินแห้งแตกระแหงแล้วค่อยมารดน้ำซึ่งจะสายเกินแก้ เป็นอันตรายต่อร่างกาย การที่มีอาการกระหายน้ำแล้วแสดงว่า ร่างกายมีภาวะขาดน้ำ ถ้ากระหายน้ำเต็มที่แสดงว่าขาดน้ำของ ร่างกาย หรือเซลล์รุนแรง ทำให้มีของเสีย สารพิษตกค้างอยู่มาก ไม่สามารถระบายขับทิ้งได้ (ขาดน้ำไปละลายหรือนำพาสารพิษ) ทำให้ระบบร่างกายอ่อนแอของเสียตกค้าง สะสม โดยทั่วไปควรได้น้ำ 2.5 ลิตรต่อวัน (ประมาณ 8 แก้ว)
7. ไม่ควรดื่มน้ำอย่างรวดเร็วจนเกินไป บางคนพอกระหายน้ำ ก็รีบดื่มน้ำให้หมดทันทีทันใด จะมีผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจ ทำให้หัวใจอ่อนแรงในระยะยาว เพราะปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ไตควบคุมการขับน้ำไม่ได้ทันทีทันใด ก็จะมีปริมาณน้ำในหลอดเลือดมากแล้วก็ไปเพิ่มภาระการสูบฉีดของหัวใจด้วย
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ไทยกอดคอUNWTOดันท่องเที่ยว10เทรนด์บิ๊ก”
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ใช้จังหวะที่ Mr.Zurab Pololikashivili เลขาธิการองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) เดินทางนำสมาชิกจากทั่วโลกมาจัดสัมมนาในประเทศพร้อมกับผลักดันให้ไทยเป็นประเทศศูนย์กลางอุตสาหกรรมอาหารเพื่อการท่องเที่ยวของโลก และยังได้เข้าพบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมถึงนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปชมเมกะโปรเจ็กต์ริเวียร่าพื้นที่พัฒนาการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาลให้เดินหน้าสร้างใหม่อย่างเป็นรูปธรรมบริเวณเลียบชายฝั่งทะเลอ่าวไทยจากเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง ในอนาคตไทยจะได้พึ่งพา UNWTO นำหลักสากลเข้ามาช่วยแนะนำการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเป็นจุดขายสู่ตลาดโลกได้ในระยะยาว
ขณะเดียวกันทางเลขาธิการ UNWTO ยังได้ใช้เวลาหารือกับรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยแสดงเจตนารมย์พร้อมสนับสนุนไทยเดินหน้าเชิงโครงสร้างการท่องเที่ยวเพื่อสานความร่วมมือต่อเนื่องอีกถึง 10 เรื่องหลัก
1.การร่วมพัฒนาและสนับสนุนระบบ digital tourism เพื่อประโยชน์ของ SMEและการพัฒนารักษาแหล่งท่องเที่ยว
2.การทำยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวตามแนวการพัฒนาอย่างยั่งยืน SDG หรือsustainable development goal ของสหประชาชาติ
3.Education and skills training in Tourism ในภูมิภาคอาเซียนซึ่งไทยมีสถาบันการศึกษาด้านนี้จำนวนมากและกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ การคมนาคมสะดวก มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าออกเป็นจำนวนมาก
4. Innovation hub for start up in tourism ช่วยให้เกิดนวัตกรรมดีๆแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยมีสถาบันการเงินและการลงทุนที่ยินดีสนับสนุน เพราะยุคนี้เป็นยุคที่ภาคบริการต้องเติบโตและแหล่งเงินก็สนใจจะปล่อยเครดิต
5. Budhism tourism รองรับพื้นที่แห่งความรุ่งเรืองของพุทธศาสนามานานมาก
6.Community based & community benefited Tourism สร้างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและยังประโยชน์แก่ชุมชนอย่างมาก
7.Tourism facilitation for regional connectivity เพราะไทยมีบทบาทสำคัญในการเป็นจุดตัดของการคมนาคมของภูมิภาค
8. Tourism investment development ทาง UNWTO ยินดีชวนให้สำนักข่าว ไฟแนนเชียลไทมส์มาร่วมกิจกรรมนี้ในไทย
9. Sports innovation competition for tourism อาจทำกิจกรรมประกวดความคิดขึ้นในประเทศไทย และ
10.Culinary tourism and street food system design & development เพื่อต่อยอดจากการประชุมworld gastronomy tourism จัดในไทยเป็นครั้งแรกของเอเชีย
ข่าวที่สอง “บิ๊กเมืองชลดันจุดแข็งใหม่ท่องเที่ยวขานรับEEC”
นายสนธยา คุณปลื้ม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ปี 2561 ททท.คาดการณ์จังหวัดชลบุรีจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 5% สร้างรายได้กว่า 240,000 ล้านบาท จากต่างชาติ 60% และคนไทย 40% โดยไฮไลต์แหล่งท่องเที่ยวหลักเมืองพัทยา บางแสน สัตหีบ เป็นแม่เหล็กสำคัญ ล่าสุดในงานฉลองครบรอบ 2 ปี สวนน้ำรามายณะ นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวแมนเมดที่สามารถขยายฐานรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทยและนานาชาติเพิ่มขึ้น บวกกับนโยบายการกระตุ้นเชิงรุกของรัฐบาลเรื่องการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor) เชื่อมโยงการท่องเที่ยวต่อไปยัง ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง อย่างเป็นระบบ โดยใช้ชลบุรีเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนโครงข่ายคมนาคม การลงทุนขยายสนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินเชิงพาณิชย์แห่งที่ 3 ซึ่งขณะนี้มีสายการบินสนใจเปิดบริการเที่ยวบินปกติ และเช่าเหมาลำ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ สู่ปลายทาง เชียงใหม่ อุดรธานี ภูเก็ต หาดใหญ่ หนานหนิง หนานชาง ฮ่องกง สิงคโปร์ รัสเซีย
ส่วนสวนน้ำรามายณะ นับเป็นหนึ่งในไฮไลต์การท่องเที่ยวยุคใหม่ที่ใช้เงินลงทุนไปกว่า 1,500 ล้านบาท รับนักท่องเที่ยวได้วันละกว่า 7,500 คน ในอนาคตเตรียมลงทุนเพิ่มอุปกรณ์เครื่องเล่น กิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ ผลักดันพัทยาและจังหวัดชลบุรีให้ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นจากกลุ่มนักท่องเที่ยวครอบครัว และจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงกีฬาตามนโยบายของรัฐบาล
ทั้งนี้ TripAdvisor จัดให้สวนน้ำรามายณะเป็น Attraction Park แห่งแรกและแห่งเดียวในไทย เมื่อปี 2559 ได้รับรางวัลสวนน้ำอันดับ 1 ที่ดีที่สุดในประเทศไทย อันดับ 3 ในเอเชีย ปี 2561 ติดอันดับ 19 ในระดับโลก
ข่าวที่สาม “โรงแรมอัมรางัดขายแพกเกจปาร์ตี้กลางกรุง”
โรงแรมอัมรา กรุงเทพ นำเสนอแพ็กเกจใหม่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มีให้เลือกทั้งแพกเกจ จัดงานปาร์ตี้ งานอีเว้นท์ส่วนตัว งานเลี้ยงบริษัท งานฉลองของครอบครัว หรือพบปะสังสรรค์กับเพื่อนร่วมรุ่น โดยมีทีมงานมือาชีพช่วยวางแผนทำให้แต่ละงานสนุกและมีความแปลกใหม่อยู่ตลอด โดยชูจุดแข็งของที่ตั้งโรงแรมทำเลสถานที่จัดงานปาร์ตี้ใจกลางเมือง ตั้งอยู่บนถนนสุรวงศ์ อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสและรถใต้ดิน
สนนราคาเริ่มต้นตั้งแต่อีเวนต์ละ 7,200++ บาทต่อ 6 คน โดยเลือกสั่งอาหารและเครื่องดื่มจากเมนูปกติมูลค่า 6,000 บาท อุปกรณ์ตกแต่งตามธีมที่เลือกอีก 1,200 บาท เช่น ธีมอีสานโมเดิร์น ยูนิคอร์น เจ้าหญิง ไลน์เฟรนด์ส ฮิพฮอพ ซูเปอร์ฮีโร แกตสบี พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย และฟรีที่จอดรถ
จองแพ็กเกจได้ที่ โทร 02 021 8812 ดูเพิ่มเติมที่ https://bangkok.amarahotels.com/
ติดตามฟังข้อมูลดี ๆ จากทางรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น