ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เปิดใจ"นิตินัย ศิริสมรรถการ" ทอท.ผ่าTORดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิปี'61-เที่ยวมุมใหม่ชายทะเลสัตหีบ

เปิดใจบิ๊กทอท.โชว์แผนใหม่6+4สนามบิน
ผ่าTORดิวตี้ฟรี/เชิงพาณิชย์สุวรรณภูมิ'61
3ทศวรรษคิงเพาเวอร์รักษาแชมป์ดิวตี้ฟรี
ททท.-UNWTOทำบิ๊กเชนจ์ท่องเที่ยวโลก
บางจากแจกส่วนลดใบเสร็จSPAR-อินทนิล
ทอท.เท2.5พันล้านซ่อมผิวทางสุวรรณภูมิ
เที่ยวสบายๆทั่วทุกมุมใหม่ชายทะเลสัตหีบ
ชวนผู้สูงวัยใช้ App Goldช่วยได้ทุกเรื่อง
บินไทยบริการครั้งแรกLIVE TV14มิ.ย.นี้
บางกอกแอร์โค้ดแชร์สปป.ลาว6เส้นทาง
เปิดแล้วทีโออาร์ชิงไฮสปีด3สนามบินEEC

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen    และบล็อกเกอร์ #gurutourza

ช่วงที่ 1 เกาะติดสถานการณ์กับ “ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท./AOT” เจ้าของ 6 สนามบินอินเตอร์ มือผ่าทางตันสู่ทางรอด ทั้งเรื่อง “ผู้โดยสารล้นสนามบินเมืองใหญ่” เชียงใหม่ ภูเก็ต กับการทุ่มใช้เงินเพิ่มอีก 1.2 แสนล้านบาท ขยายสนามบินแห่งที่ 2 ไปยังจังหวัดใกล้เคียงในลำพูน พังงา และภารกิจรับโอนเพิ่มเติมสนามบินภูมิภาคอีก 4 แห่ง จะนำมาใช้ประโยชน์อย่างไร ส่วนไฮไลต์เรื่องการออก TOR การประมูลพื้นที่ดิวตี้ฟรีและเชิงพาณิชย์ในสุวรรณภูมิ ถูกจับตาว่าหวยล็อตนี้จะออกมาแบบไหน เพราะเอกชนหลายค่ายกำลังจ้องกันตาเป็นมัน ภายในไตรมาส 3 ปี 2561 จะได้รู้คำตอบกัน


นิตินัย ศิริสมรรถการ
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) 

ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.-AOT” เปิดเผยว่า ตามแผนการลงทุนสนามบินปี 2561 มีส่วนเกี่ยวข้องกันระหว่าง 2 เรื่อง คือ 1.รับโอนสนามบินภูมิภาคจากกรมท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคม 4 สนามบิน กับ 2.การลงทุน 1.2 แสนล้านบาท ก่อสร้างสนามบินใหม่แห่งที่ 2 ในลำพูนและพังงา
เรื่องแรก การลงทุนสนามบินแห่งที่  2 ในเชียงใหม่และภูเก็ตตามมติบอร์ดล่าสุดเมื่อ 23 พฤษภาคม 2561 ให้ใช้เงิน 1.2 แสนล้านบาท ใน 5 ปีข้างหน้า สืบเนื่องจาก ทอท.ได้ทำการศึกษาแผนฉบับก่อนหน้านี้ไว้แล้วกระทั่งถึงปี 2558 สนามบินที่อยู่ในความดูแลทั้ง 6 แห่ง มีผู้โดยสารใช้บริการถึงปีละ 116 ล้านคน แต่ขีดความสามารถการรองรับมีเพียงปีละ 83.5 ล้านคน จำนวนผู้โดยสารเกินไปถึง 25 %  ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนทำแผนใหม่ระยะ 10 ปี วงเงิน 2.2 แสนล้านบาท เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้สนามบินทั้งหมดให้รองรับได้ถึงปีละ 185 ล้านคน และคาดการณ์ปัญหาผู้โดยสารล้นจะหมดลงช่วงประมาณปี 2561-62 แต่ผลปรากฏนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเห็นได้ชัดเจนจากท่าอากาศยานดอนเมืองกลับมาเปิดใช้เมื่อปี 2555 ปีแรกมีผู้โดยสารเพียง 3 ล้านคน จากนั้นอีก 3 ปีพอถึงปี 2558 เพิ่มเป็นปีละ 30 ล้านคน มากขึ้นหลายเท่าจนกลายเป็นสนามบินโลว์คอสต์อันดับ 1 ของโลก


จากจุดนี้จึงทำให้ ทอท.ต้องกลับมาทบทวนแผนใหม่ปี 2561-62 อีกครั้ง ผนวกกับสุวรรณภูมิเฟส 1-2 แล้วเสร็จช่วงนั้นคาดศักยภาพการรองรับผู้โดยสารน่าจะสมดุลแต่กลับไม่สมดุลเพราะการขยายตัวเกินประมาณการณ์ที่ตั้งไว้ จึงต้องปรับแผนอีกครั้งโดยพบว่าอีก 10 ปีข้างหน้า  2561-2570 ต่อให้เร่งขยายสนามบินแต่ก็จะไม่มีปีใดเลยที่ศักยภาพการรองรับจะเติบโตทันและเพียงพอต่อปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น และหาก ทอท.ยังปล่อยไปทั้ง 6 สนามบิน ที่มีผู้โดยสารใช้บริการรวม 86 % ของทั้งประเทศ จะมีบริการต่ำลงเรื่อย ๆ

ดังนั้นคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.จึงขอให้ทบทวนแนวทางการขยายสนามบินใหม่อีกครั้ง ในจังหวะที่รัฐบาลมีนโยบายให้เน้นส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเมืองรอง ทอท.กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากับกระทรวงคมนาคมจึงได้ทำ MOU กัน เพื่อรวมตัวส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรอง

จากนั้นเมื่อเดือนเมษายน 2561 บอร์ด ทอท.จึงอนุมัติให้ ทอท.รับสนามบินภูมิภาคจากกรมท่าอากาศยานเข้ามาดูแลเพิ่มเติมอีก 4 แห่ง ได้แก่ อุดรธานี สกลนคร ตาก ชุมพร ต่อมาในเดือนพฤษภาคมก็ใช้เวลาเตรียมเอกสาร เพื่อเสนอกระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคมนี้เพื่อให้ ทอท.บริหารจัดการสนามบินดังกล่าวภายในปี 2562

ต่อไปก็จะทำให้ ทอท.มีสนามบินเป็นศูนย์กลางครบทุกภาค ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน ภาคตะวันตก



ตามรูปแบบธุรกิจของ ทอท.ปัจจุบันมีสนามบินฮับกับเกตเวย์คู่กัน คือ ภาคเหนือ-เชียงใหม่ ส่วนเกตเวย์-เชียงราย ภาคใต้-ภูเก็ต เกตเวย์-หาดใหญ่  ต่อไปจะมีชุมพรเป็นสนามบินท่องเที่ยวเมืองรอง ทันทีที่รับโอนสนามบินภูมิภาคเข้ามาเพิ่มเติมก็จะวางรูปแบบเดียวกัน ในภาคอีสานจะเพิ่มฮับคือ สนามบินอุดรธานี เกตเวย์คือสกลนคร ส่วนตะวันตกคือตาก แต่ด้วยจำนวนปริมาณจราจรกับผู้โดยสารไม่มากก็ยังคงเป็นเพียงสนามบินเดี่ยว ๆ

จากการประเมินสถานการณ์รองรับผู้โดยสารขณะนี้ภาคเหนือกับใต้เต็มจนล้นแล้ว ได้แก่ เชียงใหม่รับได้เพียงปีละ 8.5 ล้านคน ปี 2560 มีผู้ใช้มากถึง 9.97 ล้านคน ส่วนภูเก็ตเดือนมิถุนายนนี้เฟส 2 กับอาคารผู้โดยสารหลังใหม่แล้วเสร็จรับได้เต็มที่ 12.5 ล้านคน แต่สถิติปี 2560 มีผู้ใช้ถึง 16 ล้านคน เกินขีดความสามารถทางการรองรับไปเรียบร้อยแล้ว

โดยสรุปสนามบิน ทอท.ทั้ง 6 แห่ง มีผู้โดยสารใช้เกินขีดความสามารถในการรองรับทั้งหมดและเกิน Altimate Fase การลงทุนที่ตั้งไว้ ทางเหนือกับใต้ขยายในจังหวัดนั้น ๆ ไม่ได้อีกแล้ว อย่างเชียงใหม่การทำ altimate fase จะขยายให้ได้ปีละ 20 ล้านคน แต่พอไปวิเคราะห์โครงสร้างเมืองไม่สามารถทำระบบรองรับด้านอื่น ๆ ได้ ทั้งระบบจราจรทางบก ห้องพักโรงแรม สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ การบำบัดน้ำเสีย สาธารณูปโภคไม่เพียงพอ เช่นเดียวกับภูเก็ตเป็นเมืองเกาะล้อมรอบด้วยน้ำไม่มีที่ราบให้ขยายสนามบินขณะที่ผู้โดยสารเกิน altimate fase ปีละ 18 ล้านคน ด้วยสภาพแวดล้อมต้องเลือกสร้างสนามบินใหม่บนแผ่นดินในจังหวัดพังงา



การขยายสนามบินนับจากนี้เป็นต้นไปต้องบูรณาการทำงานระหว่าง 2 กระทรวง คือ คมนาคมและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการลงทุนสนามบินเชียงใหม่แห่งที่  2 ในลำพูนรัศมีห่างออกไปอีก 20 กม.ส่วนภูเก็ตปักธงที่พังงา

ส่วนระยะเวลาการก่อสร้างสนามบินใหม่แห่งที่ 2 ทั้ง 2 จังหวัด เพื่อเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการถ้าทำตามขั้นตอนโดยไม่สะดุดน่าจะไม่เกินปี 2565 ทั้ง 2 แห่ง เริ่มนับตั้งแต่บอร์ด ทอท.อนุมัติเมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 ให้เดินหน้าขยายสนามบินวงเงิน 1.2 แสนล้านบาท ภายในกันยายนนี้เมื่อ ครม.เห็นชอบ ก็เข้าสู่ขั้นตอนทำเรื่องเอกสารให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ จากนั้นปี 2562 เดินหน้ารวบรวมที่ดินเพื่อก่อสร้างสนามบิน เบื้องต้นในเชียงใหม่มีโฉนดที่ดินรายย่อยต้องรวมจำนวนมาก จะต้องทำให้ทันเปิดใช้ได้ในปี 2565 เพราะแผนเดิมเฟสแรกจะรับได้ 8.5 ล้านคน ส่วนแผนใหม่จะรับได้ปีละ 25 ล้านคน จึงต้องมีความชัดเจนโดยเผื่อเวลาการก่อสร้างให้เสร็จภายใน 4 ปีหน้า เพราะตอนนี้เชียงใหม่แออัดมากเข้าขั้น Yellow zone ทางด้านภูเก็ตปี 2561 ประเมินจะมีผู้โดยสารใช้บริการมากถึง 18 ล้านคน ทั้งที่เมื่อเฟส 2 สร้างเสร็จกลางปีนี้ขีดความสามารถรองรับก็มีเพียง 12.5 ล้านคนเท่านั้น แออัดขั้น Red zone แล้ว

ส่วนการนำสนามบินเข้าไปช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจเมืองรองตามนโยบายรัฐบาลนั้น ทอท.ใช้แผนตามลักษณการให้บริการแบ่งเป็น 2 แบบ ได้แก่ 1.Gateway Airport เป็นแค่สนามบินทางผ่าน 2.สนามบินศูนย์กลางการบิน (airport Hub) ชุมทางตลาดการแลกเปลี่ยนผู้โดยสาร เมื่อมีเที่ยวบินมาลงแล้วต้องกระจายเชื่อมต่อการเดินทางไปยังจังหวัดต่าง ๆ ในประเทศและต่างประเทศทั่วเอเชียได้ทันที หรือทำเป็น Hub & Spok เมื่อมีเที่ยวบินมาถึงกรุงเทพฯ แล้วต้องส่งต่อผู้โดยสารกระจายไปยังจังหวัดต่าง ๆ ในประเทศ ให้มากที่สุด

สนามบินเกตเวย์มีข้อแตกต่างจากฮับคือต้องใช้ทรัพยากรภายในจังหวัดปลายทางมากสุด ทั้งโรงแรม คมนาคม สาธารณูปโภค จะไปอยู่ในพื้นที่นั้น ๆ ถ้าคิดแค่ขยายสนามบินเพื่อเพิ่มผู้โดยสารแต่องค์ประกอบอื่นไม่พร้อมก็จะเกิดปัญหาตามมาเหมือนเชียงใหม่กับภูเก็ต เพราะทุกวันนี้ประเทศไทยออกแบบสนามบินเป็น “ฮับเทียม” ตัวอย่าง “สุวรรณภูมิ” มีผู้โดยสารแวะพักและเปลี่ยนเครื่องบินเพียง 1.7 % หมายถึงมีเครื่องบินข้ามทวีปมาจากยุโรป อเมริกา บินมาลงกรุงเทพฯแต่แทบไม่ได้ใช้ทรัพยากรในกรุงเทพฯ เลย เพราะได้ถ่ายโอนผู้โดยสารเดินทางต่อไปยังเมืองหลักตามจังหวัดท่องเที่ยว ปัจจุบันนี้ผู้โดยสารล้นเกินพิกัดแล้วจนเมืองเหล่านั้นรองรับไม่ไหว รัฐจึงมีนโยบายหันไปขยายจุดหมายปลายทางไปสู่เมืองรองทำให้เป็นแก้มลิงรองรับนักท่องเที่ยว ในอนาคตก็จะทำให้เกิดสนามบินฮับแท้จริงเกิดขึ้นได้



สำหรับการรับโอนสนามบินภูมิภาคให้ ทอท.เข้าบริหารจัดการมีขั้นตอนดังนี้ 1.ปี 2561 เร่งทำเอกสาร 2.ส่งผ่าน เพราะสนามบินภูมิภาคตอนนี้กรมธนารักษ์เป็นเจ้าของ ทอท.จะต้องเข้าไปเช่าจากกรมธนารักษ์มาดูแล 3.ปี 2562 ทอท.จึงจะรับโอนมาบริหารอย่างสมบูรณ์

ดร.นิตินัยกล่าวว่าประเด็นไฮไลต์อีกเรื่องคือ โครงการเปิดเงื่อนไข TOR การประมูลพื้นที่ร้านค้าปลอดอากร (duty Free) และพื้นที่เชิงพาณิชย์ (commercial area) ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แนวโน้มจะเปิดได้ช่วงไตรมาส 2 หรือ 3 ปี 2561 เพื่อคัดเลือกเอกชนผู้ชนะไว้ล่วงหน้า 2 ปี สอดคล้องกับที่สัมปทานเก่าหมดอายุพอดีช่วงกันยายน 2563 ดังนั้น TOR ฉบับที่กำลังจะออกเร็ว ๆ นี้ จะรวมพื้นที่ตั้งร้านค้าทั้งในอาคารปัจจุบันและ Sattlelight Terminal ซึ่งจะแล้วเสร็จเดือนพฤศจิกายน 2562

ตามกำหนด ทอท.เตรียมออก TOR การประมูลพื้นที่ดิวตี้ฟรีและเชิงพาณิชย์สุวรรณภูมิไว้ภายในไตรมาส 1-2 แต่ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงการต้องทบทวนเปิดรับฟังรายละเอียดความเห็นจากทุกฝ่ายให้ครบทุกด้าน ทอท.ในฐานะแลนด์ลอร์ดเป็นเจ้าของสนามบินสุวรรณภูมิ ภายในพื้นที่ทุกวันนี้ไม่ได้มีสัญญาเพียงแค่ 1 ฉบับ ของดิวตี้ฟรีและพื้นที่เชิงพาณิชย์เท่านั้น ยังมีอีก 4-5 สัญญาใหญ่ อยู่ในบริเวณ Land Side เช่น สัญญารถเช่า ลีมูซีน พอเข้าไปสู่พื้นที่ Air Side  ก็มีสัญญาแยกให้บริการอยู่ภายในประเทศ อาทิ ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ส่วนดิวตี้ฟรีต้องแยกเป็นสัญญาอีกฉบับ ตามระเบียบเงื่อนไขกำหนดให้ลูกค้าซื้อสินค้าแล้วต้องนำออกนอกประเทศไปด้วย

การประกาศ TOR ฉบับใหม่ ทอท.ควรไตร่ตรองอย่างรอบคอบว่าในสนามบินแห่งเดียวกัน ควรมีสัญญาใหญ่หรือสัญญาแยกย่อยละเอียดยิบ เพราะมีทั้งร้านรีเทล ดิวตี้ฟรี ผสมผสานตามลักษณะของการใช้บริการ ระหว่างนี้อยู่ในช่วงทบทวนการออก TOR โดยเปิดรับฟังความเห็นทุกฝ่ายต่างก็มีข้อเสนอเข้ามาหลากหลายรูปแบบ เช่น เสนอให้ทำตามลักษณะพื้นที่ หรือ ทำตาม category หมวดหมู่สินค้า ซึ่งแต่ละรูปแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน

ตัวอย่าง หากแบ่งตามพื้นที่แล้วเอกชนผู้ชนะแต่ละรายได้พื้นที่จำหน่ายคนละฝั่งในสนามบินทางฝั่งตะวันตกกับตะวันออก แต่ Contract Gate หรือประตูเชื่อมผู้โดยสารขึ้นลงเครื่องบินกลับไม่เหมือนกัน บางประตูมีเครื่องขนาดใหญ่มาลง บางประตูมีเครื่องบินขนาดเล็กมาลง ถ้าวันนี้ทำ TOR ออกมาแล้ว พลวัตรทางการเดินทางภายในสนามบินเปลี่ยนไปวันข้างหน้าเอกชนที่ได้สัมปทานพื้นที่ก็จะเดือดร้อน อีกทั้งทุกฝ่ายก็ไม่สามารถคาดการณ์วันข้างหน้าได้ว่าสายการบินจะเลือกใช้เครื่องบินแบบไหนมาขึ้นลงในแต่ละฝั่งของสนามบิน หากผู้โดยสารเทไปใช้พื้นที่ข้างใดข้างหนึ่งมาก อีกข้างก็จะซบเซา หรือหากการจัดอีเวนต์ด้านหน้ากับด้านหลังแล้วคนเทไปรวมกันอยู่ต่างกัน ล้วนแล้วแต่มีผลทำให้ขายสินค้าได้และไม่ได้ด้วยเช่นกัน

หรือหากแบ่งตาม Category คือสินค้าแบรนด์เดียวกันแต่ผู้ซื้อต้องเดินไปในหลายร้าน เพราะใช้เกณฑ์แบ่งตามหมวดสินค้า กระเป๋า นาฬิกา แฟชั่น และอีกหลากหลายผลิตภัณฑ์ จะกระจัดกระจายทำให้ยุ่งยากทั้งกับผู้ซื้อและผู้ขาย

ในขณะที่ตอนนี้ข้อเรียกร้องต่าง ๆ พยายามจะให้ ทอท.ซอยสัญญาย่อยลงให้มากที่สุด แต่ก็ต้องพิจารณาโดยการชั่งน้ำหนักเหตุและผลอย่างเหมาะสมไม่ใช่จะทำจนกลายเป็นการผูกขาดทางธุรกิจลงไปจนถึงหมวดย่อยมากเกินจริง เพราะท้ายที่สุดแล้ว TOR ควรต้องทำให้เอกชนที่เข้ามาทำธุรกิจอยู่ได้และไม่กระทบกับการเทของผู้โดยสารซึ่งอยู่เหนือปัจจัยการควบคุมของ ทอท.

ทุกปัญหาล้วนมีทางออก ต้องอดใจรออีกไม่กี่เดือน ทุกอย่างก็จะมีคำตอบชัดเจนจาก ทอท.สู่สาธารณะ

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “กลุ่มคิงเพาเวอร์พร้อมประมูลดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ”



การดำเนินธุรกิจของ “กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์” ผู้บุกเบิกร้านค้าปลอดอากร (duty free) เมืองไทย และผู้นำร้านค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยวและการเดินทางที่ไม่มีวันสิ้นสุด ในปี 2561 ได้ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 3 ด้วยความมุ่งมั่นจะนำพาไทยผงาดเป็นประเทศที่มียอดขายดิวตี้ฟรีติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกภายใน 10 ปี พร้อม ๆ กับเดินหน้าทำโครงการคืนประโยชน์จากธุรกิจสู่สังคม (Corporate Social Responsibility : CSR) อย่างเข้มข้นด้วยธีม “KING POWER :THAI POWER : พลังคนไทย” 4 หมวดหลัก คือ ชุมชน การศึกษา/สุขภาพ กีฬา และดนตรี

 “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า ปีนี้จะต้องนำพาองค์กรรักษาตำแหน่ง “แชมป์สัมปทานดิวตี้ฟรีและพื้นที่เชิงพาณิชย์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ที่อยู่ในความดูแลของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” โดยรอดูเงื่อนไขTOR ฉบับใหม่ที่จะประกาศให้เอกชนเข้าร่วมแข่งขันงานประมูลพื้นที่ดังกล่าวหาผู้ชนะเข้าไปดำเนินธุรกิจในอีก 10 ปีข้างหน้า

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ พร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการพัฒนาพื้นที่ร้านค้าดิวตี้ฟรีและเชิงพาณิชย์ ตามเงื่อนไขกติกาของ ทอท.อย่างโปร่งใสมีธรรมาภิบาล ในฐานะผู้บุกเบิกธุรกิจมา 29 ปี ด้วยศักยภาพความสามารถจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาจนทำให้ดิวตี้ฟรีของไทยมีชื่อเสียงติด 1 ใน 10 ของโลก ภายในร้านค้าคิง เพาเวอร์ ทุกสาขาได้จัดพื้นที่คัดผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชนเปิดโอกาสให้แต่ละท้องถิ่นมาวางจำหน่ายกว่า 20 % ของสินค้าทั้งหมด สร้างรายได้รวมปีละกว่า 15,000-20,000 ล้านบาท ทั้งในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ และสาขาในเมือง กรุงเทพฯ มี 2 แห่ง ที่ซอยรางน้ำ ศรีวารี ต่างจังหวัดอีก 2 แห่ง ที่เมืองพัทยา (ชลบุรี) และภูเก็ต
ทำให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนวิถีไทยก้าวเข้าสู่ตลาดโลกมากว่า 2 ทศวรรษ ยิ่งการท่องเที่ยวเติบโตอย่างรวดเร็วสินค้าไทยในร้านดิวตี้ฟรีก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวจีนปีนี้มีแนวโน้มมาช้อปปิ้งในคิง เพาเวอร์ ประมาณ 8 ล้านคน
ล่าสุดกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ สร้างความฮือฮาในเวทีโลกด้วยโครงการ “Community Gold : พลังครามชุมชน” นำภูมิปัญญาการย้อมผ้าครามวิถีชีวิตท้องถิ่น “บ้านนาขาม ตำบลเชิงชุม อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร” ทุ่มเทจ้างนักออกแบบสร้างสรรค์ให้มีดีไซน์สมัยใหม่ต่อยอดทำเสื้อผ้าและคอลเลกชั่นแฟชั่นพิเศษ INDIGO โดยใส่จิตวิญญาณเรื่องราวที่มีชีวิตของวัฒนธรรมผ้าครามผลิตและจำหน่ายภายใต้แบรนด์ “เลสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอลคลับ” เพิ่มรายได้และสร้างอาชีพอย่างยั่งยืนคืนกลับไปสู่ชุมชนและทุกครัวเรือน

ข่าวที่ 2 “ไทย-UNWTOร่วมพลิกท่องเที่ยวอาหารในเวทีโลก”



นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ต้อนรับ Mr.Zurab Pololikashivili เลขาธิการองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) และ Mr.Joxe Mari Aizega ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร Basque Culinary Center ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ((ททท.) จัดสัมมนา “UNWTO World Forum on Gastronomy Tourism ครั้งที่ 4” ภายใต้แนวคิด “Harnessing the power of technology and new value propositions as drivers for a positive global impact ระหว่าง 30 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2561 ที่โรงแรม InterContinental ราชประสงค์ มีสมาชิกนานาชาติเข้าร่วมกว่า 560 ราย รวมพลังกันยกระดับประเทศไทยขึ้นเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารระดับนานาชาติของเอเชีย  โดยใช้อาหารสร้างแรงบันดาลใจกับทั้ง ผู้ชิม ผู้ผลิต ผู้เสิร์ฟ ทำให้อาหารและท่องเที่ยวเติบโตตามกันทั้งการมองเห็นและมีส่วนร่วม เพื่อเพิ่มรายได้ไปถึงผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ปลูก ลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งทางเลขาธิการโลกเห็นโอกาสเรื่องอาหารจะสามารถช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ในไทยและนานาประเทศได้



หลังเสร็จสิ้นงานนี้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ (Big Change) ผลักดันอุตสาหกรรมอาหารเพื่อการท่องเที่ยวก้าวไปเติบโตในตลาดโลก โดยการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม เข้าไปเสริมสร้างอาหารไทยในเชิงเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการณรงค์ให้ทุกฝ่ายเปลี่ยนโมเดลการผลิตอาหารหันมาให้ความสำคัญกับการลดขยะจากอาหารตั้งแต่ค้นทางจนถึงปลายทาง และสร้างห่วงโซ่การผลิตเพื่อส่งออกวัตถุดิบอาหารไทยเข้าสู่ตลาดโลกอย่างมีมูลค่าและคุณค่า เพื่อให้เกิดภาพจำเรื่องราวของอาหารแต่ละเมนูล้วนแล้วแต่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ผสมกลมกลืนอย่างลงตัวอยู่ในแต่ละจาน เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทยปีละ 35 -38 ล้านคน นำไปบอกต่อจนกลายเป็นวาระแหางโลก ที่ทำให้เกิดการบริโภคอาหารไทยสร้างรายได้เกินกว่าปีละ 350,000 ล้านบาท หรือประมาณ 20-25 %ของรายได้รวมจากการท่องเที่ยว


และจะใช้อาหารเพื่อการท่องเที่ยวเป็นอีกช่องทางในการกระตุ้นการท่องเที่ยวสู่เมืองรอง 55 จังหวัด กระจายรายได้ลดความเหลื่อมล้ำให้แก่ชุมชนเกษตรทั่วประเทศ



รวมทั้งได้นำเลขาธิการ UNWTO พบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนั่งเฮลิคอปเตอร์เดินทางไปชมเส้นทางที่รัฐบาลมีนโยบายพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์ “ไทยแลนด์ริเวียร่า” แหล่งท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลอ่าวไทย 4 จังหวัด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง เพื่อขอให้องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาตินำรูปแบบสากลเข้ามาช่วยไทยวางระบบเพื่อก้าวไปสู่การสร้างอนาคตอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (SDG) ในระยะยาว

ข่าวที่ 3 “บางจากชวนใช้ใบเสร็จมีค่าร้านSPAR-อินทนิล”



บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ใบเสร็จจากการซื้อสินค้าในร้านค้าปลีก SPAR และร้านกาแฟอินทนิล มีค่า ระหว่างวันนี้ - 9 มิ.ย.61 อย่าทิ้งใบเสร็จสพาร์ และ อินทนิลมีค่าเพียงนำมาแสดงมูลค่า 80 บาทขึ้นไป รับทันทีส่วนลด 5 บาท เมื่อเข้าไปซื้อสินค้าครั้งถัดไปที่ร้านสพาร์หรือร้านอินทนิล สาขาที่ระบุบนใบเสร็จเท่านั้น

ยกเว้นการซื้อสินค้าประเภทบัตรเติมเงิน,บุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) โดย รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขายหรือส่วนลดอื่นๆได้
ตรวจสอบสาขาสพาร์และอินทนิลที่เข้าร่วมรายการได้ที่ https://goo.gl/QPiQWu <<

ข่าวที่ 4 “สุวรรณภูมิเท2.5พันล้านซ่อมผิวทางเสร็จปี’63”



ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.ให้ใช้งบประมาณ 2,500 ล้านบาท จัดทำเงื่อนไขการจ้างเอกชนเข้ามาดำเนินการซ่อมผิวทางวิ่งทางขับในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเริ่มก่อสร้างให้ได้ภายในปี 2562  เนื่องจากที่ผ่านมาเกิดปัญหาน้ำใต้ดินของผิวทางสนามบินปัจจุบันใช้แอสฟัลท์หรือยางมะตอยชนิดพิเศษ ในการระบายน้ำใต้ดินออก 2 ด้าน แต่ระยะหลัง ๆ เมื่อเครื่องขึ้นลงจอดในช่วงฤดูฝน ประกอบกับแต่ละวันมีเที่ยวบินจำนวนมาก ส่งผลให้ผิวทางขับคืนตัวไม่ทันนั้น

ตลอดระยะเวลาที่เกิดปัญหา ทอท.ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานสากลโดยเข้าไปดูแลบริเวณซึ่งเป็นจุดวิกฤตอย่างใกล้ชิด บริเวณรอยต่อระหว่างทางขับ (Taxiway) เลี้ยวเข้าหลุมจอด ซึ่งมี 21 ได้ให้ช่างผู้ชำนาญการเข้าไปซ่อมขูดผิวยางมะตอยซึ่งมีอายุการใช้งาน 7 ปี ไปแล้วบางส่วน ขณะนี้การซ่อมสำเร็จคืบหน้าไปถึง 11 จัด และภายในเดือนสิงหาคม 2561 จะทำให้ครบทั้งหมด 21 จุด

อย่างไรก็ตามเพื่อให้การสร้างผิวจราจรในสุวรรณภูมิขนาดพื้นที่ 70,000 ตารางเมตร ต้องก่อสร้างผิวทางด้วยปูนซิเมนต์พอร์ตแลนด์จึงต้องจ้างก่อสร้างและซ่อมถาวรโดยจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี พร้อมกันนี้ก็จะประชาสัมพันธ์ให้องค์กรความปลอดภัยทางการบิน สมาคมนักบิน สามารถสอบถามและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับ ทอท.ได้ เพราะในปี 2563 มีแนวโน้มที่จะมีเที่ยวบินขึ้นลงเพิ่มขึ้น 5-8 %

ช่วงที่ 2 บุกจุกเสม็ดฐานทัพทหารเรือ “สัตหีบ” เต็มอิ่มกับแหล่งท่องเที่ยวมุมใหม่แบบชิค ชีล จากเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร ถึงวิหารเซียน ลัดเลาะหาดทรายชายทะเลในดินแดนทหาร ไปจนถึงการท่องเที่ยวธรรมชาติสวนพันธุ์ไม้ ไร่องุ่น สวนน้ำการ์ตูนดิสนีย์ มีหลายอารมณ์ให้ท่องเที่ยว ส่วนสุขภาพจะชวน “ผู้สูงวัยใช้ App Gold ช่วยได้สารพัดเรื่อง” ห้ามพลาดข่าวสำคัญ “การบินไทย” ผุดครั้งแรกบริการ LIVE TV ON BROAD ดูข่าวและกีฬาโลกแบบเรียลไทม์บนเครื่องรับฤดูกาลฟุตบอลเริ่ม 14 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป ส่วน “บางกอกแอร์เวย์ส” ทำโค้ดแชร์ขายตั๋วกับ “ลาวแอร์ไลน์” ยึดหัวหาดลูกค้า ไทย-สสป.ลาว 6 จุดบิน และ รฟท.เปิดแล้ว TOR ชิงงานประมูลทำรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน “ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา”

@เที่ยวสบาย ๆ หลายมุมใหม่ในสัตหีบ



นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเมืองชายฝั่งทะเลตะวันออก ในชลบุรี มีมากกว่าพัทยา ทริปนี้จะชวนไปสำรวจ “สัตหีบ” มีความแตกต่างมุมใหม่ให้ชวนครอบครัว เพื่อนฝูง ไปเที่ยว มุมแรก ตรงไปยังท่าเรือจุกเสม็ดฐานทัพเรือสัตหีบเพื่อชม “เรือรบหลวงจักรีนฤเบศร” ขนาด 11 ชั้น เป็นชื่อพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปริทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อันหมายถึงผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์จักรี มียุทโธปกรณ์ทันสมัย พร้อมระบบเรดาร์ตรวจอุปกรณ์ระยะไกล สมัยก่อนเรือถูกต่อขึ้นมาเรือธงคบคุมและบังคับบัญชากองเรือในทะเลทั้งหมดช่วงศึกสงคราม แต่ตอนนี้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญของนักท่องเที่ยว ตามปกติจะจอดอยู่คู่กับเรือสิมิลัน สามารถเข้าไปชมได้ทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น โทร. 038-439-9479 หรือ 038-47-7112



แล้วก็แวะไปดื่มด่ำกับความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมชั้นสูงของจีนที่ “อเนกกุศลศาลา หรือวิหารเซียน” อายุกว่า 31 ปี ภายในมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงศิลปวัตถุ พร้อมโบราณวัตถุล้ำค่า อย่าง เจ้าแม่กวนอิมหยกขาวองค์ใหญ่ รู้ปั้นทหารและม้าจากสุสานจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ รวมถึงแท่นบัลลังก์จักรพรรดิ ภาพเขียนเก่าแก่ เครื่องปั้นดินเผา ไปชมได้ทุกวันตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น จ่ายค่าบัตรเข้าชมคนละ 50 บาท โทร. 038-238-367, 038-235-250



จากนั้นก็ไปสัมผัสความยิ่งใหญ่ของ “พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์” งานแกะสลักด้วยแสงเลเซอร์บนหน้าเขาชีจรรย์เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ชื่อว่า “พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา” สูง 130 เมตร สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ภายในพระอุระบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เปิดทุกวันตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น



สำหรับช่วงครึ่งวันบ่าย ตลุยชมธรรมชาติตามใน 2 สวน คือ สวนแรก “สวนนงนุช” เป็นอาณาจักรของสวนไม้ดอกไม้ประดับพันธุ์หายากทั้งในและต่างประเทศ ไฮไลต์คือ กล้วยไม้ เฟิร์น สับปะรดสี ตะบองเพชร สวนหิน บริเวณด้านในมี สวนสัตว์ และโซนลานการแสดงให้นักท่องเที่ยวชมวันละ 3 รอบ 10.45 น. 15.00 น.และ 16.00 น. ชมได้ตามสบายทั้งการแสดง วัฒนธรรมร่วมสมัย การแสดงช้าง กีฬาพื้นบ้าน ศิลปะป้องกันตัว รวมทั้งสามารถทำกิจกรรมนั่งรถราง ปั่นจักรยาน ขี่ช้าง ได้ด้วย

บัตรเข้าชมจะแยกเป็น ชมสวน คนละ 100 บาท ชมสวนและการแสดง คนไทย 200 บาท

ในสวนนงนุชมีห้องพักค้างแรมบริการอยู่บริเวณติดทะเลสาบ 168 ห้อง ราคาคืนละ 1,100 บาท/ห้องขึ้นไป นักเรียนก็ไปกางเต็นต์เข้าค่ายได้เหมือนกัน รองรับได้ครั้งละ 180 คน โทร.038-709-358-62



สวนที่สอง “ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค” ตำบลนาจอมเทียน แหล่งปลูกองุ่นกว่า 400 ไร่ มีถึง 12 สายพันธุ์ ไปนั่งชิล ๆ ดื่มเครื่องดื่มหรือซื้อสารพัดผลิตภัณฑ์แปรรูปจากองุ่นได้ โดยมีมุมแชะแชร์รูปสวย ๆ เพียบ หรือจะนั่งรถ ATV รถม้า จักรยานเสือภูเขา เพื่อตะเวนชมให้ทั่วพื้นที่ได้ โทร.038-938-250



ส่วนครอบครัวที่ชื่นชอบสวนน้ำแนะนำไป “สวนน้ำการ์ตูนเน็ทเวิร์ค อเมโซน” ในพื้นที่ 15 ไร่ 10 โซน ออกแบบจำลองป่าอเมซอน พร้อมการ์ตูนฮีโร่ที่เด็ก ๆ ชื่นชอบ เช่น Ben 10, The Power Puff Girls , Johnny Bravo เปิดทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น

บัตรเข้าชมค่อนข้างจะสูงเล็กน้อย คนไทย 1,290 บาท เด็กกับผู้สูงอายุ 890 บาท ต่างชาติ 1,590 บาท เด็กกับผู้สูงอายุ 1,190 บาท โทร.038-237-707

ในสัตหีบยังมีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอีกหลายแห่ง อาทิ วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร อาณาจักรปลาการ์ตูน เพอคูล่า ฟาร์ม ขนาดใหญ่สุดในเมืองไทย อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม หมู่บ้านแสมสาร ไทยธานี (หมู่บ้านวัฒนธรรมและศิลปะ) บางเสร่ (หมู่บ้านประมง)
 หาดเตยงาม หาดทรายแก้ว อ่าวดงตาล หาดเทียนทะเล หาดนางรำ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย

@ ชวนผู้สูงวัยใช้App Goldช่วยได้ทุกเรื่อง

นางธนาภรณ์  พรมสุวรรณ  อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่าได้จัดทำโกลด์แอปพลิเคชั่น (Gold by DOP) ให้ผู้สูงอายุใช้สื่อสารเรื่องสิทธิของผู้สูงอายุ เช่น การเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฟรี ลดหย่อนค่าโดยสาร  สิทธิในการเดินทาง ด้วยสภาพแวดล้อมที่ออกแบบเพื่อคนทั้งมวลหรือยูนิเวอร์แซลลดีไซน์ สิทธิการได้รับการช่วยเหลือเมื่อถูกทอดทิ้ง  หรืออยู่ในภาวะยากลำบาก รวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนต่างๆ ข้อมูลสายด่วนของหน่วยงานช่วยเหลือต่างๆ  แอปนี้เป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้สูงอายุ  และลูกหลานสามารถโหลดไปใช้เพื่อดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุได้

เป็นช่องทางการประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ได้รับรู้  เช่น เชิญชวนให้ร่วมบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เชิญชวนให้ไปรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  สิทธิต่างๆ ที่ผู้สูงอายุพึงได้รับก็จะสื่อสารข้อมูลให้ทราบแต่ละช่วงเวลา รวมถึงการนำเสนอบทความดีที่เป็นประโยชน์ แก่ผู้สูงอายุ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ การออกกำลังกาย

แอปนี้ได้เชื่อมต่อกับเลข 13 หลักของทุกคน หากคีย์ข้อมูลเข้าไปก็จะทราบว่าผู้สูงอายุคนนั้นๆ กรณีที่ประสบปัญหาก็สามารถคีย์ข้อมูลประสานจัดส่งทีมนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปดูแลได้ทันที  ในอนาคตจะสามารถเชื่อมโยงกับกรมบัญชีกลางได้ ทำให้การช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ไม่ต้องจับต้องตัวเงินเพื่อความโปร่งใส  เพียงแค่คีย์ข้อมูลขอความช่วยเหลือก็เชื่อมโยงไปกรมบัญชีกลางเพื่ออนุมัติเงินสงเคราะห์ ช่วยเหลือทันที

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “การบินไทยชูบริการใหม่LIVE TVเริ่ม14มิ.ย.นี้”



นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าการบินไทยได้รับอนุญาตจากคณะกรรมกากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดบริการใหม่บนเครื่องบิน “LIVE TV on Board” ให้ผู้โดยสารสามารถชมรายการโทรทัศน์สดผ่านจอทีวีบนเครื่องบิน รายการข่าวทันเหตุการณ์ พร้อมแมทช์การแข่งขันกีฬาระดับโลก เริ่มบริการวันแรก 14 มิถุนายน นี้เป็นต้นไป ต้อนรับเปิดฤดูกาลฟุตบอลโลกแมทช์แรก

ระหว่างเดินทางบนเครื่องการบินไทย ผู้โดยสารจะได้ชมรายการโทรทัศน์สดบนเครื่องบินทั้งหมด 4 ช่อง ได้แก่ CNN BBC NHK และ Sport 24 ซึ่งจะลงทุนติดตั้งชุดอุปกรณ์รับส่งสัญญาณ LIVE TV ในห้องโดยสารไว้ในฝูงบินแอร์บัส A350-900 จำนวน 12 ลำ เส้นทางบิน ไป-กลับ อาทิ เชียงใหม่ สิงคโปร์ โซล โตเกียว โอซากา ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ โรม มิลาน และบรัสเซลส์ (เบลเยี่ยม) รวมทั้งในเครื่องโบอิ้ง 787-8 และโบอิ้ง 787-9 รวม 8 ลำ เส้นทางบิน อาทิ โตเกียว ไทเป ดูไบ เวียนนา บริสเบน โอ๊คแลนด์ และมะนิลา



นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า การให้บริการฟรี “LIVE TV On Board” จะเพิ่มจุดแข็งทางการตลาดและช่องทางการขายดึงดูดผู้โดยสารมาใช้การบินไทยมากขึ้น ควบคู่ไปกับแคมเปญ “สบายต่างกัน” แล้วยัง “ทันโลกต่างกัน” อีกด้วย รวมทั้งยังเป็นการตอกย้ำจุดยืนของ Premium Airline ในฐานะสายการบินแห่งชาติ ที่ได้นำเทคโนโลยี มาพัฒนา ปรับปรุงการบริการเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความเพลิดเพลินและประสบการณ์ใหม่ๆ เหนือระดับอยู่เสมอ เพื่อรับชมการถ่ายทอดสดทั้งรายการข่าว การแข่งขันกีฬาชั้นนำ ขณะที่บินอยู่บนอากาศ ซึ่งผู้โดยสารสามารถพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินทุกเที่ยวบิน

สำรองที่นั่งและออกตั๋วโดยสารได้ 4 ช่องทาง ที่  www.thaiairways.com  สำนักงานขายการบินไทย ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือ THAI Contact Center โทร 0-2356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่สอง “บางกอกแอร์โค้ดแชร์ตั๋วบินลาว6เส้นทาง"



นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวว่า ได้ลงนามข้อตกลงเที่ยวบินร่วมกับสายการบินลาวแอร์ไลน์ เพิ่มความสะดวกให้ผู้โดยสารนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวของ 2 สายการบินในการเดินทางเชื่อมต่อไปยังเมืองสำคัญในไทยและ สปป.ลาว  ใช้บริการอย่างรวดเร็วทั้งการซื้อตั๋วและนั่งเครื่อง เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ ของบางกอกแอร์เวย์ส สู่ปลายทางใน เวียงจันทน์ หลวงพระบาง ส่วนลาวแอร์ไลน์มี 4 เส้นทาง ได้แก่ ไป-กลับ เวียงจันทน์ หลวงพระบาง ปากเซ มายัง กรุงเทพฯ และหลวงพระบาง-เชียงใหม่

  สอบถามข้อมูลเพิ่ม หรือจองตั๋วได้ที่ www.laoairlines.com  หรือโทร +(856-21) 212051-54 หรือ 1626 และ www.bangkokair.com หรือ โทร 1771 ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่สาม “เปิดแล้วTORชิงงานไฮสปีดเชื่อม3สนามบิน”



นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ได้ออกประกาศเชิญชวนการคัดเลือกเอกชนการร่วมลงทุนกับเอกชนในกิจการของรัฐ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3สนามบิน บนเว็บไซต์เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2561

กำหนดคุณสมบัติทั่วไปของผู้ยื่นเสนอ จะเป็นนิติบุคคลรายเดียว หรือ นิติบุคคลหลายรายรวมกันเป็นกิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ หรือ นิติบุคคลหลายรายรวมกันก็ได้แต่ต้องมีนิติบุคคลไทยอย่างน้อย 1 ราย พร้อมมีสัดส่วนการลงทุนเกินกว่า 25% ของทั้งหมด  และคุณสมบัติทางการเงินตามมูลค่าสุทธิของกิจการ ผู้ยื่นจะต้องเป็นรายเดียวมีมูลค่าสุทธิของกิจการรายปี คิดเฉลี่ยในรอบระยะเวลา 3 ปี ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท และเป็นกิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนใหม่ หรือจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ สมาชิกแต่ละรายที่นำมาคำนวณคุณสมบัติด้านการเงินต้องมีมูลค่าสุทธิของกิจการรายปี เฉลี่ยในรอบ 3 ปีไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท รวมกันทั้งหมดต้องไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท

ติดตามฟังรายการเป็นประจำได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
ผู้ดำเนินการ และคอลัมนิสต์ท่องเที่ยว-การบิน


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai