ท่องเที่ยวปี62รับอานิสง2ล้านล้านบาท รับเลือกตั้งใหม่-ไปเที่ยวราชบุรีดี๊ดีจริง

จับตาก่อนเลือกตั้งท่องเที่ยวรับอานิสง2ล้านล้าน
5กระทรวงหลักกอดคอใช้งบแจ้งเกิด55เมืองรอง
คิงเพาเวอร์ทุ่มแจกใหญ่งานDelightฉลอง29ปี
ททท.ชวนปั่นรอบเมืองอุทัยปลุกเที่ยวเชิงสุขภาพ
บางจากแจกไม่ยั้งแพกเกจสุขภาพ-อินเตอร์เน็ต
ทอท.ลั่นปี62ผุดการลงทุนสุวรรณภูมิ3โปรเจ็กต์
เที่ยวเมืองอาร์ตราชบุรีมุมใหม่-ตลาดน้ำเลื่องชื่อ
แนะวิธีใช้ชีวิตในยุคโซเชียลแรงอย่างมีความสุข
บางกอกแอร์ใจป้ำเทโปรไฮซีซันบินสมุย2,750บ.
แอร์เอเชียบินอินเดีย2เมืองใหม่ตั๋วแค่1,990บาท
วิทยุการบินยันเรดาห์จราจรการบินยึดICAOเป๊ะ
ธัญญ์ผู้นำผลิตภัณฑ์สปาเปิดเพิ่มสาขาเชียงใหม่

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen    และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97

ช่วงที่ 1 ฟังวิเคราะห์เจาะลึกกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ผู้ดำเนินรายการ จะผ่าให้เห็นถึง “อานิสงส์อุตสาหกรรมท่องเที่ยว” ก่อนการเลือกตั้ง ที่ได้รับเม็ดเงินลงทุนเกือบ 2 ล้านล้านบาท ของรัฐบาลเทลงสู่การท่องเที่ยวทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่าน 5 กระทรวงเสาหลัก คมนาคม-มหาดไทย-ท่องเที่ยว-ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม-วัฒนธรรม ทันทีที่เปิดปีงบประมาณใช้จ่าย 2562 เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 เป็นต้นไป การประกาศเดินหน้าใช้เงินใน 3 เมกะโปรเจ็กต์ใหญ่ และนับพันโครงการย่อยก็ทยอยออกมาอย่างไม่ขาดสาย เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น ชุมชนฐานราก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

ทันทีที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลั่นกลองเตรียมเปิดการเลือกตั้งตามระบอประชาธิปไตยภายในปี 2562 ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วประเทศได้อานิสงแบบเต็ม ๆ จากการประกาศใช้เงินครั้งใหญ่ใน 55 เมืองรอง 22 เมืองหลัก ซึ่งรวมแล้วอาจจะมากกว่า 2 ล้านล้านบาท โดยมี 3 เมกกะโปรเจกต์ไฮไลต์ผุดขึ้นมารองรับ ประกอบด้วย 

1.ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เชื่อมกันเป็นวงแหวนอุตสาหกรรมเส้นใหญ่สายใหม่พันรอบพัทยา ชลบุรี ระยอง ตราด จันทบุรี ส้มหล่นมาถึง ปราจีนบุรี นครนายก

2.ไทยแลนด์ ริเวียร่า เลียบชายฝั่งทะเลอ่าวไทย จากเพชรบุรี-หัวหิน (ประจวบคีรีขันธ์)-ชุมพร-ระนอง และกำลังจะเปิดการลงทุนสร้างถนนไว้รอรับริเวียร่า เฟส 2 เชื่อมต่อทางฝั่งเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ยาวไปถึงสงขลา

3.การเปิดพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้แห่งใหม่ (South Economic Corridor :SEC)

ทั้ง EEC, SEC และไทยแลนด์ริเวียร่า มีเป้าหมายหลักคือ รัฐบาลมุ่งผลักดันการขายเรื่องท่องเที่ยวเป็นไฮไลต์หลักรวมอยู่ด้วย เพื่อปลุกกระแสเศรษฐกิจกระจายรายได้เพิ่มเข้าสู่ชุมชนท้องถิ่นจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชื่อมทรัพยากรสองฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามันเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดมูลค่ามากกว่าปัจจุบัน

การเทเม็ดเงินก่อนการเลือกตั้งเพื่อปูพรมลงสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยผ่านโครงการของ 5 กระทรวงเสาหลัก ได้แก่ 1.กระทรวงคมนาคม ในฐานะเจ้าของโครงการโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน 2.กระทรวงมหาดไทย 3.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าของแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติทั้งบนบกและในน้ำ ทางทะเล กว่า 70 % ของแหล่งท่องเที่ยวทั้งหมด 4.กระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะเจ้าของแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานต่าง ๆ และ 5.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเจ้าภาพดูแลภาพรวมทางด้านการพัฒนาแหล่ง และกำกับดูแลการตลาดท่องเที่ยวของประเทศ

“กระทรวงคมนาคม” จะเป็นหัวหอกในการใช้เงินลงทุนมากที่สุดเพื่อวางโครงข่ายโลจิสติกส์ และระบบโครงสร้างพื้นฐาน ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ นอกจากเมกะโปรเจ็กต์รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง ซึ่งเป็นผลพลอยได้เชื่อมโยงกันระหว่างการพัฒนาระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก แล้วยังจะมีการก่อสร้างสนามบินใหม่ 2 องค์กร คือ

“บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)” ได้รับไฟเขียวให้เดินหน้าแผนขยายสนามบินนานาชาติทั่วประเทศเต็มรูปแบบภายใน 10 ปีข้างหน้า ซึ่งอาจจะใช้เงินกว่ารวม 3 แสนล้านบาท โดยเฉพาะ “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” แห่งเดียวอาจใช้เงินลงทุนเกือบ 2 แสนล้านบาท พัฒนาเฟส 2-5 อีกทั้งยังเตรียมสร้างท่าอากาศยานแห่งที่ 2 อีก 2 สนามบิน ได้แก่ สนามบินภูเก็ตแห่งที่ 2 จะสร้างที่ตำบลโคกกลอย อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา กับ สนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 จะสร้างที่อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน คู่ขนานกับการขยายสนามบิน เชียงใหม่ แม่ฟ้าหลวงเชียงราย หาดใหญ่

ทางด้าน “กรมท่าอากาศยาน” (ทย.) กระจายตามต่างจังหวัดอีกหลายแห่ง อย่างสนามบินเบตง ยะลา เตรียมเปิดบริการปี 2562 ส่วนสนามบินสตูลได้รับอนุมัติงบ8 ล้านบาท เดินหน้าศึกษาก่อนลงมือก่อสร้างเพื่อเปิดใช้งานปี 2564

แล้วยังมีการขยายท่าอากาศยานอู่ตะเภา ซึ่งจะทยอยใช้เงินหลักหมื่นล้านบาท ยกระดับเป็นสนามบินกรุงเทพแห่งที่ 3 เชื่อมโยงกับ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง

ภายในพื้นที่ได้เร่งให้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เนรมิตศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) ขนาดใหญ่สุดในเอเชีย โดยจับมือลงทุนกับยักษ์ใหญ่ค่ายแอร์บัส ผู้นำผลิตเครื่องบินพาณิชย์ 1 ใน 2 ของโลก

ขณะที่ “กระทรวงมหาดไทย”  ได้ให้ “กรมการพัฒนาชุมชน” ถือธงนำชิมลางใช้งบประมาณรายจ่ายกลางปี 2561 ผุดเมกะโปรเจ็กต์ “ท่องเที่ยวนวัตวิถี” ด้วยเงินกว่า 8,324 ล้านบาท นำร่องยกระดับท่องเที่ยวชุมชน 3,273 หมู่บ้าน 64,570 โปรดักซ์ ใช้เงินและปิดโครงการไปเสร็จเรียบร้อยแล้วภายในเวลา 5 เดือน ระหว่าง พฤษภาคม-กันยายน 2561

ปีงบประมาณ 2562 จากโอท็อปท่องเที่ยวนวัตวิถี จะแปรเปลี่ยนเข้าสู่การใช้งบประมาณเต็มระบบตามนโยบาย “ไทยนิยม” เป็นเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐบาลประกาศจะใช้โครงการดังกล่าวลดความเหลื่อมล้ำให้หมู่บ้านทั่วประเทศได้อยู่ดีกินดี มั่งคั่ง ยั่งยืน

ทางด้าน “กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” ปี 2562 ได้รับอนุมัติให้ใช้งบประมาณราว 12,108 ล้านบาท จัดทำทั้งหมด 442 โครงการ นำไปพัฒนา บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติทั่วประเทศ ซึ่งเกี่ยวข้องทางตรงและทางอ้อมกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 15,590 ล้านบาท ซึ่งจะนำเงินมาใช้ในส่วนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรวมประมาณเพียง 7,000 ล้านบาท  ส่วนใหญ่ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ใช้จัดทำโครงการกิจกรรมทางการตลาดทั้งในประเทศและทั่วโลก ปีละไม่เกิน 5,000 กว่าล้านบาทเท่านั้น ส่วนที่เหลือนำไปใช้ทางด้านการบริหารจัดการภารกิจของกระทรวง

ระหว่างปี่กลองการเลือกตั้งเริ่มคึกคัก ท่ามกลางสีสันของการจัดตั้งประกาศรายชื่อพรรคการเมือง ก็มีข่าวฮือฮาขึ้นมาเมื่อ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ไปตรวจเยี่ยมกระทรวงคมนาคม  โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม ออกมายืนยันชัดเจนว่าเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 เพื่อเร่งเดินหน้าใช้เงินสร้างเมกะโปรเจ็กต์ 1.1 ล้านล้านบาท ก่อนเลือกตั้ง

ด้วยการจัดสรรตัวเลขการใช้เงินแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกนำเข้า ครม.เพื่อขออนุมัติใช้งบ 6 แสนล้านบาท ส่วนที่สอง เปิดประมูล 5 แสนล้านบาท เพื่อลงมือดำเนินการระหว่างเดือนตุลาคม 2561-มกราคม 2562

ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งแผนลงทุนเมกะโปรเจ็กส์ตามยุทธศาสตร์ชาติเพื่อเปิดประมูลและลงนามสัญญาโครงการขนาดใหญ่ให้ได้ช่วงไตรมาส 1 ปี 2562 หรือภายในเดือนมีนาคม 2562 เป็นต้นไป  เรื่องแรกที่จะต้องทำคือปลดล็อกเริ่มให้เอกชนเข้าร่วมทุนตามแบบ Public Private Partnership : PPP) โดยให้นำร่องเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในสิ้นปีนี้ 3 โปรเจ็กต์หลัก วงเงิน 2.8 แสนล้านบาท 1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ 1.4 แสนล้านบาท 2.โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ 1.01 แสนล้านบาท และ3.โครงการรถไฟฟ้ารางเบา(แทรม) จ.ภูเก็ต วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท แล้วเร่งเปิดประมูลภายในมกราคม-กุมภาพันธ์ ปีหน้า  ลงนามสัญญาให้ทันมีนาคม

จากนั้นก็เดินหน้าลุยทำระบบรถแทรมใน 2 จังหวัด วงเงินอีกกว่า 1 แสนล้านบาท ในเชียงใหม่ และนครราชสีมา เพื่อสนับสนุนแผนการท่องเที่ยวเมืองรองแจ้งเกิดให้ได้ ควบคู่กับการแก้ปัญหาจราจรรถติดตามหัวเมืองใหญ่

ส่วนบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ดร.สมคิดย้ำให้นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่  เร่งมือทำแผนซื้อฝูงบินใหม่ให้เสร็จภายใน 30 วัน แล้วนำไปเสนอคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) อีกรอบ

เป็นคำสั่งผ่านสาธารณะของ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจรัฐบาล คสช.

ในขณะที่ทุกกระทรวงเศรษฐกิจต่างขานรับ โดยเฉพาะ “กระทรวงคมนาคม” เตรียมโครงการที่จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อเนื่องภายใน 4 เดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2561 และมกราคม 2562 ดังนี้

เดือนตุลาคมมีทั้งหมด 5 โครงการ ได้แก่ 

1.โครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 วงเงิน 1.1 แสนล้านบาท คาดจะลงนามสัญญาได้ในเดือนมีนาคม 2562

2. ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) สนามบินอู่ตะเภา วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท คาดว่าบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และแอร์บัส จะลงนามสัญญาได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562
3. โครงการทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) นครปฐม-ชะอำ วงเงิน 8 หมื่นล้านบาท
4. โครงการศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม วงเงิน 1 พันล้านบาท และ
5. ศูนย์เปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้า เชียงของ จ.เชียงราย วงเงิน 2.3 พันล้านบาท

เดือนพฤศจิกายน 2561 เตรียมเสนอโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงส่วนต่อขยาย 2 โครงการ มูลค่ารวม 2.4 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย 1.รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนส่วนต่อขยาย ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช และช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา และ 2. ส่วนต่อขยายสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

เดือนธันวาคม 2561 มี 5 โครงการ ได้แก่ 1. รถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี มูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาท 2.รถไฟทางคู่ ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ มูลค่า 8 พันล้านบาท 3. รถไฟทางคู่ ช่วงบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม มูลค่า 6 หมื่นล้านบาท 4. รถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย มูลค่า 2.6 หมื่นล้านบาท 5.โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ในสนามบินสุวรรณภูมิ 4.2 หมื่นล้านบาทและ 6.โครงการก่อสร้างทางวิ่ง (Runway) แห่งที่ 3 ในสนามบินสุวรรณภูมิ 2 หมื่นล้านบาท

เดือนมกราคม 2562 ประกอบด้วย 5 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย 5.6 หมื่นล้านบาท 2. รถไฟทางคู่ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี มูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท 3. รถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา มูลค่า 5.7 หมื่นล้านบาท 4. รถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่มูลค่า 6 หมื่นล้านบาท 5. โครงการจัดหาฝูงบินใหม่วงเงินราว 1 แสนล้านบาท ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

ขณะเดียวกันมีโครงการที่อยู่ระหว่างเตรียมประกวดราคา 5 โครงการ ได้แก่ 

1. โครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (Missing Link) สีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 25.9 กิโลเมตร วงเงิน 4.4 หมื่นล้านบาท คาดว่าประกวดราคาได้ในเดือน มกราคม-มีนาคม 2562

2. โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) หรือรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ วงเงิน 1 แสนล้านบาท คาดว่าประกวดราคาเดือนธันวาคม 2561

3. โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน พร้อมพัฒนาที่ดิน 2.2 แสนล้านบาท จะประกวดราคาในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2561 และลงนามสัญญาในเดือนกุมภาพันธ์ 2562

4. รถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงินรวม 8.5 หมื่นล้านบาท ประกวดราคาเดือนมีนาคม 2562 และ 5) ทางพิเศษ(ทางด่วน) พระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ วงเงิน 3.1 หมื่นล้านบาท ประกวดราคาพฤศจิกายน 2561-กุมภาพันธ์ 2562

นายอาคม กล่าวอีกว่า กระทรวงคมนาคมจะเร่งเสนอโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ และโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร และการเดินรถไฟฟ้าสายสีส้มตลอดเส้นทาง ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี วงเงินรวม 1.43 แสนล้านบาท ให้คณะกรรมการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการพีพีพี) โดยเร็ว

ทุกการขับเคลื่อนของรัฐบาลในการลงทุนทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกระทรวงอื่น ๆ ขณะนี้แม่น้ำทุกสายไหลเข้ามารวมกันในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว นับเป็นอานิสงครั้งประวัติศาสตร์ที่ “ภาครัฐ-ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว-ประชาชนคนไทย” จะต้องรวมพลังเป็นหนึ่งเดียว ทำให้การท่องเที่ยวเป็นพลังสร้างชาติ สร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำให้ได้จริงจัง ก้าวเข้าสู่ประเทศผู้นำอุตสาหกรรมบริการแห่งอาเซียนและเอเชีย

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวแรก “คิงเพาเวอร์จัดแจกใหญ่Delight19-21ตค.”

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดยิ่งใหญ่งาน Delights & Surprises ฉลองครบรอบ 29 ปี และการก้าวสู่ปีที่ 30 ของคิง เพาเวอร์ หนึ่งปีจัดเพียงครั้งเดียวทั้งลดมโหฬารและแจกเยอะมาก

ตลอดเดือนตุลาคม 2561 หนึ่งปีมีครั้งเดียว ลดจัดใหญ่ แจกเยอะมาก เมื่อช้อปครบ 5,000 รับคูปองลุ้นเยอะ ลุ้นรับ 1.ทริปเที่ยวดีสนีย์ เซี่ยงไฮ้ 2.Gift Voucher สูงสุด 30,000 บาท 3.แบรนด์เนมมากมายจาก คิง เพาเวอร์

เมื่อช้อปต่อครบ 50,000 ลุ้นรับ Carat Reward สูงสุด หนึ่งล้านกะรัต เอากลับมาช้อปต่อฟรีๆที่คิง เพาเวอร์ได้อีก

จากนั้นก็ลุ้นแล้วแจกต่อทันที ช้อปครบทุกๆ 15,000 รับทันที Gift voucher หนึ่งพัน ช้อปกันยาวไป รับคืนกันสูงสุด 20,000 บาทต่อวัน

ไฮไลต์จัดใหญ่ระหว่างวันที่ 18-21 ตุลาคมนี้ พิเศษ ! กับการช้อปดิวตี้ฟรีทุกสาขาในเมือง ทั้งรางน้า,ศรีวารี, พัทยา, ภูเก็ต ลดเยอะมาก สูงสุด 30% สำหรับ 500 คนแรกช้อปถึง 35,000 บินไปเที่ยวพม่า one day trip ฟรีๆไม่ต้องลุ้น

สำหรับสายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ก็จัดเต็มในวันที่ 18-21 ตุลาคมนี้ เฉพาะที่ คิง เพาเวอร์ รางน้า ให้สนุกไปกับ Highlight Show สุดอลังการในรูปแบบมิวสิคัล นาแสดงโดย ญาญ่า ญิ๋ง และเหล่านักแสดงอีกมากมาย เสริมทัพความสุขด้วยมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ทอม Room 39, กัน กันณภัทร, แกงส้ม, ริท, และอ๊อฟ ปองศักดิ์ 

รีบสมัครเป็นสมาชิกได้ที่คิง เพาเวอร์ทุกสาขา โทร.สอบถามเพิ่มได้ที่ 1631

ข่าวที่ 2 “ททท.ชวนปั่นเที่ยวเมืองอุทัยธานี 9 ธ.ค.นี้”

         นายภฤศ พุทธนบ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุทัยธานี กล่าวว่า ร่วมกับ เทศบาลเมืองอุทัยธานีและชมรมจักรยานจังหวัดอุทัยธานี จัดกิจกรรมปั่นชมเมืองพระชนกจักรี ครั้งที่ 4 “แผ่นดินธรรม สู่แผ่นดินทอง” วันที่ 9 ธันวาคม 2561 ณ บริเวณสวนน้ำเฉลิมพระเกียรติบึงพระชนก จังหวัดอุทัยธานี แบ่งเส้นทางปั่น 2 เส้นทาง สาย A ระยะทาง 80 กม. (ปล่อยตัวเวลา 08.05 น.) และสาย B ระยะทาง 30 กม. 

กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและรักษาสิ่งแวดล้อม กระตุ้นให้คนมาท่องเที่ยวอุทัยธานี สร้างรายได้สู่ชุมชน และช่วยเหลือชุมชน อีกทั้งยังได้นำเงินจากค่าสมัครร่วมสมทบทุนจัดซื้อเครื่องมือตัดถ่างมอบให้มูลนิธิกู้ภัยอุทัยธานี นำไปใช้ประโยชน์เพื่อส่วนรวม ปี 2561 จะนำไปช่วยซื้อเครื่องมือทางการแพทย์มอบให้กับโรงพยาบาลอุทัยธานี

อย่างไรก็ตามเส้นทางปั่นจักรยานท่องเที่ยวในอุทัยธานี เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ที่จะทำให้ได้สัมผัสกับวิถีชีวิตชุมชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำสะแกกัง รวมถึงมีแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ได้แก่ การล่องเรืองชมวิถีแพแพสะแกกรัง เที่ยวชมวัดอุโบสถาราม (วัดโบสถ์)  ชมวิหารแก้ว และปราสาททองคำ ณ วัดท่าซุง  หุบป่าตาด แหล่งท่องเที่ยว unseen in Thailand ของอุทัยธานี น้ำพุร้อนสมอทอง  ต้นไม้ยักษ์ และ วัดถ้ำเขาวง และอื่น ๆ

ข่าวที่ 3 “บางจากแจกสิทธิ์สมาชิกรับทั้งสุขภาพ-เน็ตฟรี”

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า พร้อมให้สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรบางจาก รับส่วนลด 50% สำหรับทุกบริการ Treatment และ Laser ที่ ของขวัญ คลินิก ระหว่างวันนี้ – 31 ธันวาคม 2561 วิธีรับสิทธิ์ : แสดงบัตรสมาชิกบางจากแก๊สโซฮอล์คลับ หรือ ดีเซลคลับ ก่อนรับสิทธิ์ 

ขณะเดียวกันสมาชิกยังมีสิทธิ์ แลกรับ! แพ็คเกจอินเทอร์เน็ต ได้จากค่ายมือถือทั้ง 2 รายใหญ่ ได้แก่ แพกเกจจาก AIS และ DTAC 500MB 1 วัน เพียงแค่ สมาชิกบัตรบางจาก ใช้ 49 คะแนน แลกรับ! แพ็คเกจอินเทอร์เน็ต DTAC 500MB 1 วัน กดรับสิทธิ์ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2561 

วิธีรับสิทธิ์ 1. กด รับสิทธิ์ ผ่าน Bangchak REWARDS ทาง Mobile Application หรือ เว็บไซต์ 2. หลังจากยืนยันการรับสิทธิ์ กรอกหมายเลขโทรศัพท์มือถือ 10 หลักในระบบ AIS ที่ต้องการใช้สิทธิพิเศษนี้ โดยต้องกรอกหมายเลขที่ถูกต้องและครบถ้วน

ข่าวที่ 4 “ทอท.ลั่นชงสภาพัฒน์ผุด3โปรเจ็กต์สุวรรณภูมิปี’62”

นายเอนก ธีรวิวัฒน์ชัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรม และการก่อสร้าง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า ภายในเดือนธันวาคม 2561 พร้อมเสนอแผนการลงทุนให้คณะกรรมการบอร์ดสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พิจารณาการเดินหน้าแผนของสนามบินสุวรรณภูมิ  3 โครงการ  7.26 หมื่นล้านบาท 

1.โครงการก่อสร้างทางวิ่ง (รันเวย์) ที่ 3 วงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท 2.ส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 ฝั่งตะวันตก วงเงิน 6,600 ล้านบาท 3.อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 วงเงิน 4.2 หมื่นล้านบาท

เมื่อเสร็จสิ้นจากสภาพัฒน์แล้ว จึงส่งให้กระทรวงคมนาคมนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ได้ประมาณต้นปี 2562  ซึ่งจะนำร่องประมูลส่วนต่อขยายฝั่งตะวันตกให้ได้ก่อนช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ เพื่อเริ่มก่อสร้างให้ทันเมษายน ใช้เวลาสร้างประมาณกว่า 1 ปี แล้วจะเปิดให้บริการได้ราวกลางปี 2563 เมื่อขยายขีดความสามารถสุวรรณแล้วแล้วสนามบินจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 90 ล้านคน ลดความแออัดในปัจจุบันลงได้เป็นอย่างดี สอดคล้องกับการท่องเที่ยวซึ่งเติบโตเป็นเสาหลักเศรษฐกิจของประเทศ

ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยในเมืองรอง ที่กำลังรอต้อนรับทุกคนอยู่คือ “เมืองอาร์ตราชบุรี” มีทั้งแหล่งรวมศิลปะ และการปีนเขาชมความงดงามทางธรรมชาติแปลกตาไปอีกแบบ ส่วนการใช้ชีวิตปัจจุบันอยู่กับโลกโซเชียลให้มีความสุข ต้องรู้เท่าทันกับ 3 ข้อหลัก แล้วสุขภาพจะดีงาม สำหรับข่าว “บางกอกแอร์เวย์ส” สร้างความฮือฮาเปิดขายตั๋วจากทั่วประเทศบินเข้าสมุยช่วงไฮซีซันด้วยราคาเริ่มต้นแค่ 2,750 บาท “แอร์เอเชีย” บินตรงอินเดีย 2 เมืองใหม่ ก็ขายตั๋วโปรโมชั่นเพียงเที่ยวละ 1,990 บาท “วิทยุการบิน” ออกมาเคลียร์ปมเรด้าห์คุมจราจรทางอากาศยังทำงานได้ดีเป็นไปตามกฎ ICAO ส่วน THANN ผลิตภัณฑ์สุขภาพแบรนด์ดังของไทยทุ่มทุนเปิดอีกสาขาที่เชียงใหม่

@เที่ยวเมืองอาร์ตราชบุรีริมฝั่งแม่กลองสวยในมุมใหม่

ออกไปสำรวจชุมชนใกล้ ๆ กรุงในถิ่นที่ได้ชื่อว่า “เมืองอาร์ต จังหวัดราชบุรี” อยู่บริเวณริมฝั่งน้ำแม่กลอง นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีศิลปะหลากหลายรวมศูนย์อยู่ ไม่ว่าจะเป็น หนังใหญ่-วัดขนอน อำเภอโพธาราม “เถ้า ฮง ไถ่” โรงงานเซรามิกปั้นโอ่งดินลายมังกรสุดคลาสสิกอยู่คู่เมืองไทยมายาวยาน หรือจะเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ แต่ละสถานที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งศิลป์อันงดงาม

เริ่มจาก “หนังใหญ่ วัดขนอน” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จัดให้มีทั้งการแกะสลักหนังแล้วนำมาเล่าเรื่องผ่านการแสดงมรดกทางวัฒนธรรมล้ำค่า ด้วยการรวมความประนีตของการแกะสลักหนังมาร้อยเรื่องราว จัดการแสดง ประกอบเข้ากับดนตรีไทยโบราณ โดยถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ลูกหลานเยาวชนท้องถิ่นช่วยกันดูแลคนละไม้ละมือ เป็นทั้งนักแสดงและฑูตวัฒนธรรมท้องถิ่นคอยให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว

ส่วนที่โรงงานเซรามิก “เถ้า ฮง ไถ่” ตอนนี้ก็ผ่านมาเกินกว่า 7 ทศวรรษ ทายาทรุ่นลูกได้ปรับให้รับเทรนด์สมัยใหม่ในการปั้นโอ่งลายมังกร ซึ่งโด่งดังคนไทยทั้งประเทศรู้จักเป็นอย่างดี ตอนนี้ก้าวข้ามอีกขั้นจนกลายเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการศิลปะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

“พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี” เป็นแก่นประจำถิ่นของคนเมืองอาร์ต ซึ่งเคยใช้อาคารพิพิธภัณฑ์เป็นศาลากลางจังหวัด แล้วตอนนี้ก็นำมาจัดนิทรรศการแสดงถาวร เล่าเรื่องราวท้องถิ่น เกี่ยวกับชาติพันธุ์วิทยา ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน และลักษณะทางธรณีวิทยาโบราณ ประวัติศาสตร์ ที่มีสืบต่อกันมา

“ตลาดน้ำดำเนินสะดวก” อายุนับร้อยปีที่คนไทยและต่างชาติ เมื่อมาถึงราชบุรีแล้วไม่เคยพลาด โดยมีแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ อาหารถิ่นให้เลือกซื้อละลานตา ทั้งของกิน ของฝาก ของที่ระลึก งานหัตถรรม มากมาย

“ตลาดโคยกี๊” เป็นอีกหนึ่งตลาดเก่าแก่ขยายสินค้าสไตล์ราชบุรีแท้ ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นของกิน ของใช้ ของฝาก และงานอาร์ตที่ผูกพันกับวิถีคนริมน้ำ ส่วนเสาร์-อาทิตย์ ก็จัดให้มีถนนคนเดินเพลิน ๆ กันไป

“วัดหนองหอย” มีรูปหล่อพระโพธิสัตว์กวนอิมขนาใหญ่ ตั้งอยู่ในวิหารบนยอดเขาแร้ง แนะนำให้ปีนขึ้นไปสักการะช่วงเช้ากับเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกดิน บรรยากาศงดงามมาก ก่อนลงก็เข้าไปนมัสการหลวงพ่อใหญ่หรือ “พระพุทธรูปรัตนโกสินทร์มหามุณี” สีขาวนวลองค์ใหญ่ที่ประดิษฐาน

@แนะการใช้โซเชียลมีเดียอย่างปลอดภัยต่อสุขภาพ

นับตั้งแต่อินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันมากขึ้น ทำให้คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตร่วมกับโซเชียลมีเดียราวกับว่ามันคือ ส่วนหนึ่งของชีวิต และนั่นเป็นที่มาของการฉกฉวยโอกาสต่างๆ ในพื้นที่โลกออนไลน์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้สื่อจะต้องรู้เท่าทันสื่อและไม่ตกเป็นเหยื่อออนไลน์

สถาบันสื่อเด็กและเยาวชน (สสย.) สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ขับเคลื่อนส่งเสริมทักษะการรู้เท่าทันสื่อพร้อมกับพัฒนาศักยภาพ "ผู้ใช้สื่อ" สู่การเป็น "พลเมืองตื่นรู้และนักสื่อสารสุขภาวะ ที่สมบูรณ์" โดยใช้กลไกทักษะ 4 ด้าน คือ 1.การรู้เท่าทันสื่อ สารสนเทศ และดิจิทัล (MIDL - Media, Information and Digital Literacy) 2. การสื่อสารและการสร้างความร่วมมือ 3.การเป็นผู้นำเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง 4.การตระหนักรู้เท่าทันและการสะท้อนความคิด เพื่อให้ประชาชนเข้าใจตระหนัก ผ่านกลไกทั้ง 4 ด้าน ทั้งการเรียนรู้สื่อ การรับรู้ การฟัง การตื่นรู้ และมีภูมิคุ้มกันเกี่ยวกับสื่อในยุคปัจจุบัน

ข้อที่ 1 การใช้โซเชียลมีเดียติดต่อกันวันละ 2-3 ชั่วโมง มีแนวโน้มจะทำให้มีปัญหาการเกิดโรคทางสายตา มีอาการปวดศรีษะ อ่อนเพลีย หากทำแบบนี้บ่อย ๆอาจจะเกิดลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดดำบริเวณขา ระบบเลือดไหลเวียนในร่างกายไม่ปกติ ปวดหลังและไหล่เรื้อรัง เพราะร่างกายไม่ได้เคลื่อนไหว นอกจากนี้อาจทำให้กลายเป็นโรคอ้วนในอนาคต ความเคยชินต่อความเร็วของเครือข่ายสังคมออนไลน์ ก็จะทำให้บางคนกลายเป็นโรคสมาธิสั้น

                นอกจากผลกระทบเรื่องสุขภาพ และความสัมพันธ์กับคนรอบข้างแล้ว สิ่งที่ต้องระมัดระวังมากในการใช้โซเชียลมีเดียคือ การถูกเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว หรือการถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้แอบอ้างทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย เช่น ถูกนำรูปถ่ายที่โพสในเฟชบุ๊กไปใช้เพื่อขายบริการทางเพศ

            ข้อ 2 วิธีใช้โซเชียลอย่างสนุกและปลอดภัย สามารถทำได้ดังนี้

1.อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น หมายเลขบัตรประชาชน รหัสผ่านเข้าโปรแกรมหรือเครือข่ายใช้งานทางอินเทอร์เน็ต รหัสลับสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน สภาพที่อยู่อาศัย เพื่อป้องกันการปลอมแปลง การล้วงข้อมูล การฉ้อโกง การบุกรุก หรือก่อกวนความเป็นส่วนตัว

2.อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า ข้อมูลของคนที่เรารู้จักผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ อาจไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด หากถูกชักชวนนัดเจอ ควรระมัดระวัง หรือต้องมีคนอื่นรับรู้ และติดตามไปด้วย เพราะมิจฉาชีพอาจจะใช้ช่องทางดังกล่าวในการล่อลวง

                ข้อ 3 สิ่งที่ควรปฏิบัติทันทีเมื่อถูกกระทำรุนแรงผ่านสื่อสังคมออนไลน์

1.หยุดไม่ตอบโต้ หรือหยุดส่งต่อข้อมูลข้อความเหล่านั้น และเลิกใช้สื่อสังคมออนไลน์

2.เก็บหลักฐาน เพื่อใช้ประกอบในกรณีที่ต้องการรายงาน หรือแจ้งความโดยการสำเนา ถ่ายรูป เก็บเอกสาร ข้อความ ข้อมูลนั้นไว้ และบันทึกวัน เวลา ที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นเพื่อกันลืม

3.บล็อค (block) หรือ เลิกเป็นเพื่อน (unfriend) บุคคลนั้น

4.แจ้งหรือรายงาน (report) ให้ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ นั้นๆ ทราบ ผ่านช่องทางที่ผู้ให้บริการให้ไว้ เช่น เว็บไซต์ อีเมล

5.แจ้งความ ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินคดี

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “บางกอกแอร์ใจป้ำขายตั๋วสมุยช่วงไฮแค่2,750บาท”

สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส จัดโปรโมชั่น “Let's go Samui” เสน อบัตรโดยสารเส้นทางบินภายในประเทศเข้าและออกจากเกาะสมุยในราคาพิเศษเริ่มต้น 2,750 บาทต่อเที่ยว(รวมทุกอย่างแล้ว) โดยเส้นทางบินที่ร่วมในโปรโมชั่นเป็นเส้นทางบินภายในประเทศที่เข้าและออกจากเกาะสมุย อาทิ  กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)-สมุย  เชียงใหม่-สมุย กระบี่-สมุย ภูเก็ต-สมุย และพัทยา(อู่ตะเภา)-สมุย สำรองที่นั่งได้ตั้งแต่15 ตุลาคม – 30 พฤศจิกายน 2561 และเดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 1 - 30 พฤศจิกายน 2561

ผู้โดยสารจองได้ทาง www.bangkokair.com หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า โทร 1771

ข่าวที่สอง “แอร์เอเชียบินอินเดีย2เมืองใหม่ตั๋วโปร1,990บาท”

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า พร้อมเปิดเส้นทางบินใหม่สู่อินเดียอีก 2 เมือง โดยจัดเที่ยวบินตรง  ไป-กลับ “กรุงเทพฯ-วิชาคาปัทนัม” เริ่มบิน 7 ธันวาคม2561 สัปดาห์ละ 4 เที่ยว ออกจากสนามบินดอนเมืองทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์   และ “กรุงเทพฯ- ภูวเนศวร” เริ่มบิน 6 ธันวาคม 2561 สัปดาห์ละ 3 เที่ยว ออกจากดอนเมืองทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และเสาร์) 

ระหว่างวันนี้-21 ตุลาคม 2561 ได้ขายตั๋วโปรโมชั่นสุดคุ้ม เที่ยวบินไปยังเมือง วิชาคาปัทนัม เริ่มที่เที่ยวละ 1,990 บาท และภูวเนศวร ราคาเที่ยวละ 1,890 บาท ใช้เดินทางตั้งแต่ 6และ 7 ธันวาคม 2561- 30 มีนาคม 2562

ข่าวที่สาม “วิทยุการบินเคลียร์ปมเรดาห์ยึดหลักICAOเป๊ะ”

นายสมนึก รงค์ทอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า หลังเหตุการณ์เครื่องการบินไทยไถลออกนอกรันเวย์เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2561 แล้วมีการพาดพิงถึงเรื่องเรดาห์ตรวจสภาพอากาศในการควบคุมจราจรทางอากาศไม่มีประสิทธิภาพนั้น  ขอยืนยัน บวท. ใช้ข้อมูลสภาพอากาศ จากเรดาร์ตรวจจับกลุ่มเมฆฝน (Weather Radar) ในการให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา (มีมากกว่า 20 สถานี ติดตั้งอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ) โดยมีรัศมีทำการ 120 และ 240 กิโลเมตร จากสถานีเรดาร์ แสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของกลุ่มเมฆแบบภาพ ต่อเนื่อง (Loop)  เพื่อแสดงอัตราการเปลี่ยนแปลงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน (Update rate) ทุกๆ 10-15 นาที

ทั้งนี้ บวท. จะแจ้งข้อมูลสภาพอากาศแก่นักบินเพื่อประกอบการตัดสินใจในการทำการบิน ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศจะใช้ข้อมูลดังกล่าว เพื่อวางแผนบริหารจัดการจราจรทางอากาศ ในภาพรวม ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับสภาพอากาศทั้งหมดในปัจจุบันที่ได้รับ เป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)

ข่าวที่สี่ “THANNรุกเปิดเพิ่มอีกแห่งในเชียงใหม่"

นายฐิติพัฒน์ ศุภภัทรานนท์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ธัญ (Thann) และกรรมการผู้จัดการ บริษัทธัญ-ออริซ่า จำกัด กล่าวว่า แบรนด์ ‘ธัญ’ [Thann] ผลิตภัณฑ์สปาและสุขภาพที่มีชื่อเสียงในตลาดโลก ได้ลงทุนเปิดสาขาล่าสุในเชียงใหม่ บนถนนพระปกเกล้าถือเป็นสาขาที่ 2 ของเชียงใหม่และยังเป็นแฟล็กชิพสโตร์ของแบรนด์ที่เชียงใหม่ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ใจกลางเมืองเชียงใหม่ บนเนื้อที่กว่า 285 ตารางเมตร ด้านหน้าร้านตกแต่งอย่างสไตล์ร่วมสมัย

ภายในประกอบไปด้วยร้านรีเทลโก้ที่รวมเอาคอลเล็กชั่นเด่นทั้ง 6 คอลเล็กชั่นของแบรนด์ธัญ เสื้อผ้าและเครื่องประดับเอาไว้อย่างครบครัน ชั้น 2 เปิดเป็นอาร์ตแกลเลอรี ประกอบไปด้วย ภาพวาด ของตกแต่งชิ้นเก๋และเครื่องประดับหรูไว้สำหรับให้ลูกค้าได้เลือกชม เลือกช้อปกันอย่างจุใจ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึงเวลา 22.00 น.

ติดตามฟังรายการได้เป็นประจำ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น. ทาง สวท.FM97.0