ททท.สิงคโปร์รุกเทรนด์ใหม่3ตลาดมาแรงโกยเงินปี’62
ผนึกสิงคโปร์แอร์เพิ่มรายได้-ทัวร์คุณภาพ5.5หมื่นล้าน
อ่านได้ใน มติชนออนไลน์ https://www.matichon.co.th/publicize/news_1190880
ททท.สิงคโปร์ลุยปั๊มรายได้ปี’62 เข้าไทย 5.5 หมื่นล้านบาท พักเจาะ 3 กลุ่มมาแรง “กอล์ฟ-สูงวัย-เจน M” ชูโมเดลเพิ่มยอดใช้จ่าย ขยายวันพัก เที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน จ่อ MOU สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส กวาดลูกค้าทั่วโลกเที่ยวต่อในชุมชนทั่วไทย
นายขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสิงคโปร์และฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ปี 2562 วางกลยุทธ์เชิงรุกแผนเจาะตลาดสิงคโปร์ลูกค้าเก่าแก่ชอบเดินทางท่องเที่ยวไทยนำเงินเข้ามาใช้จ่ายกระจายตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศปีละกว่า 50,000 ล้านบาท ปีหน้าอาจจะทำรายได้ถึง 55,000 ล้านบาท โดยจะเร่งเดินหน้าเพิ่มความเข้มข้น 2 เรื่องหลัก คือ เพิ่มค่าใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวและเน้นเจาะตลาดกลุ่มคุณภาพสูง ประกอบด้วย 3 กลุ่มโดดเด่น คือ 1.นักกอล์ฟมีผู้เล่นกว่า 250,000 คน 2.ผู้สูงวัยทั้งกลุ่มเกษียนและมีรายได้สูง 3.กลุ่มนักศึกษา คนรุ่นใหม่ หรือ Millenials Generation เจน M เพื่อกระตุ้นให้มาเที่ยวไทยต่อเนื่องเกินปีละ 1 ล้านคนขึ้นไป ซึ่งขณะนี้มีเที่ยวบิน ไป-กลับ สิงคโปร์-ไทย กว่า -350 เที่ยว/สัปดาห์
ระหว่างงาน ITB ASIA 2018 เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2561 ยังได้ร่วมคณะกับนายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท.พบปะผู้บริหารสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เครือข่ายพันธมิตร เพื่อหารือเรื่องเตรียมลงนาม Memorandum of Understand : MOU ต่อครั้งที่ 2 ในการร่วมมือกันนำนักท่องเที่ยวนานาประเทศที่บินกับสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เดินทางเข้าไทยเพิ่มปี 2562-2563 โดยเมื่อปี 2561 ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. ได้ทำเอ็มโอยูครั้งแรกไปแล้ว
ประโยชน์ที่จะได้จากการร่วมมือกับสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ซึ่งมีสายการบินในเครืออีก 2 แอร์ไลน์ส ได้แก่ ซิลค์แอร์ และสกู๊ต มีเที่ยวบินจากสิงคโปร์ตรงเข้า 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ กระบี่ ภูเก็ต หาดใหญ่ (สงขลา) สมุย (สุราษฎร์ธานี) ททท.พยายามเลือกเส้นทางไม่ให้ทับการบินไทย ทุกฝ่ายจะได้วิน วิน โดยยังมีส่วนแบ่งการตลาดนานาชาติในสิงคโปร์อีกกว่า 20 % พร้อมบินต่อมาเที่ยวเชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย และพื้นที่ใหม่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายฝั่งทะเลตะวันออก ( Eastern Economic Corridor : EEC) กระจายรายได้สู่เมืองผลไม้ ระยอง จันทบุรี ตราด
สำหรับการหารือเบื้องต้นระหว่าง ททท.กับสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2561 มี 4 เรื่อง ดังนี้
เรื่องที่ 1 ทำกิจกรรมการตลาดนำผู้โดยสารจากตลาดทั่วโลกในเครือข่ายที่สิงคโปร์ แอร์ไลน์ ให้บริการทั้งจาก เอเชียใต้ในตลาดใหญ่อย่างอินเดีย และแปซิฟิกใต้ 2 ประเทศหลัก ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และกลุ่มตลาดศักยภาพอื่น ๆ
เรื่องที่ 2 ททท.สำนักงานสิงคโปร์ จะเร่งทบทวนแผนการตลาดให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ที่สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส พร้อมจะส่งต่อให้ไทย
ทั้ง 2 เรื่องแรกนี้ทางฝ่ายสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส กับ ททท.สิงคโปร์ จะนำกลับไประมวลรายละเอียด เพื่อวางแผนทำงานเชิงรุกในตลาดเป้าหมายให้สอดคล้องกัน จากนั้น ททท.ภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ จะสรุปแผนงานโครงการเสนอผู้บริหารให้แล้วเสร็จภายสิ้นปี 2561
เรื่องที่ 3 เสนอสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เปิดบินตรงเส้นทางใหม่ ไป-กลับ สิงคโปร์-อู่ตะเภา เพิ่มเที่ยวบินตรงสู่เชียงใหม่
เรื่องที่ 4 ททท.เตรียมจัดแฟมทริปนำตัวแทนของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ช่วงต้นปี 2562 ให้เข้ามาสำรวจแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงในภาคตะวันออกทั้งหมด
นายขจรเดชย้ำว่า ในภาพใหญ่ปี 2562 จะโปรโมตจุดขายแหล่งท่องเที่ยวไทยในสิงคโปร์ตามแคมเปญ Go Local สร้างประสบการณ์เดินทางกระจายสู่ชุมชน 55 เมืองรอง 22 เมืองหลัก พัฒนาตลาดเที่ยวเมืองไทยให้ครอบคลุมทั้ง 5 เรื่อง ได้แก่ 1.เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวคุณภาพ 2.เพิ่มรายได้และขยายวันพัก 3.ขยายพื้นที่ท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองรอง 4.ปลุกจิตสำนึกการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ : Responsibilty Tourism เนื่องจากพฤติกรรมของชาวสิงคโปร์นิยมท่องเที่ยวพร้อมกับนำอุปกรณ์ที่เป็นประโยชน์เข้ามาบริจาคช่วยเหลือดูแลชุมชนสังคมระหว่างเดินทางในไทย 5.สร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามกระแสโลกปัจจุบันและอนาคต
“สถิติปี 2561 ชาวสิงคโปร์เดินทางเที่ยวเมืองไทยทะลุ 1 ล้านคน คิดเป็น 1 ใน 3 ของประชากรทั้งสิงคโปร์ ซึ่งบนเกาะมีชาวสิงคโปร์ราว 2 ล้านคน กับกลุ่มผู้พำนักอาศัยอีก 1.2 ล้านคน การเจาะกลุ่มเป้าหมายตลาดนักกอล์ฟ ซึ่งมีรายได้และสามารถใช้จ่ายเงินมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป 2 เท่า โดยมีจำนวนนักกอล์ฟทั่วสิงคโปร์กว่า 2.5 แสนราย เลือกใช้สนามกอล์ฟทั่วไทยตามเมืองรองเล็ก ๆ ดึงดูดนักกอล์ฟหลายจังหวัดที่ยังไม่เคยเดินทางเข้าไป
ผลจากการโปรโมตท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟ ขณะนี้ทำให้มีนักกอล์ฟหญิงสิงคโปร์ กับครอบครัว และเยาวชน หันมาให้ความสนใจเล่นกอล์ฟด้วย จึงได้ตลาดครอบครัวพ่วงเข้ามาด้วย นับเป็นกระแสมาแรงในตลาดสิงคโปร์ต่อเนื่องปี 2561-2562 สามารถขายเมืองรองในไทยเพิ่มวันพักมากขึ้นได้ เช่น นครนายก ลพบุรี ฉะเชิงเทรา กาญจนบุรี มีสนามกอล์ฟที่ดีรองรับ เป็นทางเลือกใหม่ของนักกอล์ฟจะได้เล่นสนามดี ๆ ส่วนครอบครัวก็เลือกพักรีสอร์ตเก๋ ๆ ชมไร่ไวน์ สวนผลไม้ภาคตะวันออกได้”
นายขจรเดชกล่าวว่าปี 2561 นักท่องเที่ยวสิงคโปร์จะเดินทางเข้าไทยครบ 1 ล้านคน จึงได้ทำโครงการ “Dear Singaporien Thanks A Million” ซึ่งริเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2560 ปูพรมโหมกระแสการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ในสิงคโปร์เพิ่มความสัมพันธ์ 2 ประเทศให้แน่นแฟ้นมากขึ้น โดยเปิดตัวโครงการ Thanks A Million ต่อเนื่อง 4 เดือนระหว่างสิงหาคม-ธันวาคม 2561 ด้วยเป้าหมายสำคัญ คือ 1.ขอบคุณชาวสิงคโปร์ในการเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทย และช่วยประชาสัมพันธ์ไปยังครอบครัว 2.ช่วยขยายโปรดักซ์ใหม่ นอกเหนือจากกรุงเทพฯ ที่มาเป็นประจำทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ขณะนี้ได้ขยายพื้นที่ท่องเที่ยวไปยังชุมชน ประสบการณ์อาหารถิ่น ททท.สิงคโปร์ ทยอยนำเสนอเข้าไปยังกลุ่มต่าง ๆ ทั่วสิงคโปร์
3.สร้างเครือข่ายพันธมิตรและความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว อีกทั้งได้เชื่อมโยงเข้าไปยังสายการบินตอบรับเข้าโครงการดังกล่าว ที่ผ่านมามี 3 สายการบิน ได้แก่ การบินไทย บางกอก แอร์เวย์ส แอร์ เอเชีย สนับสนุนเทั้งของรางวัล ตั๋วเครื่องบิน มากมาย และกลุ่มเรือสำราญ ครุยส์ แคริเบียน เดินทางจากสิงคโปร์มาภูเก็ตก็เข้าร่วมด้วย
ส่วน ททท.สิงคโปร์ ได้สนับสนุนบัตร บีทีเอส คูปองซูเปอร์มาร์เก็ต พร้อมบัตรฟรีนวดแผนไทยตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นกลยุทธ์สร้าง CRM-Customer Relationship Management ช่วงสิงหาคม-ตุลาคม 2561 นักท่องเที่ยวได้รับสิทธิประโยชน์ ของรางวัล ของแถม เป็นการขอบคุณจากเมืองไทย
ไฮไลต์เดือนธันวาคม 2561 นักท่องเที่ยวสิงคโปร์เข้าไทยจะครบ 1 ล้านคน อีกครั้ง จึงได้หารือกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อใช้สุวรรณภูมิ ทำกิจกรรมฉลองและต้อนรับนักท่องเที่ยวสิงคโปร์คนที่ 1 ล้าน พร้อมมอบรางวัลตั๋วเครื่องบินกับสิทธิประโยชน์มากมาย และได้หารือกับผู้บริหารเพื่อมอบบัตรอีลิตการ์ดมูลค่า 1 ล้านบาท เพื่อกระชับความสัมพันธ์สร้างความประทับใจทำให้ชาวสิงคโปร์เดินทางเข้ามาใช้จ่ายเงินในไทยเพิ่มขึ้นในปีต่อ ๆ ไป
โครงการแจกบัตรอีลิตการ์ดกับนักท่องเที่ยวสิงคโปร์คนที่ 1 ล้านนั้น อยู่ในขั้นตอนการหารือจะสรุปได้ในเร็ว ๆ นี้ แต่ประโยชน์จะเกิดต่อเนื่องในอนาคตนั้นมีมหาศาลกับการเพิ่มรายได้จากตลาดสิงคโปร์
ขณะเดียวกันปี 2562 ททท.สิงคโปร์ จะเดินหน้าสร้างความสำเร็จทางการตลาดด้วยศักยภาพไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของสิงคโปร์ ดังนั้นจะเร่งเพิ่มจุดขายแหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง ควบคู่การหาลูกค้าใหม่ ๆ ภายใต้ 2 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย
กลยุทธ์แรก เจาะกลุ่มผู้สูงวัย Active Senior ซึ่งเคยเดินทางเข้าไทยคนละ 4-5 ครั้ง ต้องเสนอขายโปรดักซ์ท่องเที่ยวใหม่ ซึ่งมีกำลังซื้อสูง มีเวลาว่าง ไม่มีความกังวลเรื่องรายได้
กลยุทธ์ที่สอง กลุ่มเดินทางครั้งแรก First Visit เล็งกลุ่ม GEN M โดยเตรียมหารือแยกเป็น 2 ทาง ได้แก่
1.จับมือกับทางสถาบันการศึกษาในระบบ และกระทรวงการศึกษาของสิงคโปร์ เพื่อให้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ นำนักศึกษาเดินทางเข้ามาทำ Educational Trip รวมถึงการเรียนการสอนนอกมหาวิทยาลัย ซึ่งเมืองไทยมีความพร้อมสูง
2.กลุ่มการศึกษานอกระบบ กลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มคนมีเวลาว่างเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งติดเทรนด์ใหม่ ๆ ในกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีโปรดักซ์ใหม่เกิดอยู่ตลอดทั้งร้านอาหารบนเปิดโล่งบน Roof Top คาเฟ่ธีมแปลก ๆ อาหารเก๋ ๆ ร้านเค้ก ร้านกาแฟ ดึงดูดเจน M ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นกลุ่มส่งต่อข้อมูลให้เพื่อนฝูงและคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี
ททท.จะทำให้นักท่องเที่ยวสิงคโปร์เป็นโมเดลตลาดต้นแบบของทั่วโลกที่เดินทางเข้าเมืองไทยในปี 2562 พัฒนาตลาดท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพิ่มรายได้และวันพัก นำไปสู่การวางระบบเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
ผนึกสิงคโปร์แอร์เพิ่มรายได้-ทัวร์คุณภาพ5.5หมื่นล้าน
อ่านได้ใน มติชนออนไลน์ https://www.matichon.co.th/publicize/news_1190880
ททท.สิงคโปร์ลุยปั๊มรายได้ปี’62 เข้าไทย 5.5 หมื่นล้านบาท พักเจาะ 3 กลุ่มมาแรง “กอล์ฟ-สูงวัย-เจน M” ชูโมเดลเพิ่มยอดใช้จ่าย ขยายวันพัก เที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน จ่อ MOU สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส กวาดลูกค้าทั่วโลกเที่ยวต่อในชุมชนทั่วไทย
ขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสิงคโปร์และฟิลิปปินส์ |
นายขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสิงคโปร์และฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ปี 2562 วางกลยุทธ์เชิงรุกแผนเจาะตลาดสิงคโปร์ลูกค้าเก่าแก่ชอบเดินทางท่องเที่ยวไทยนำเงินเข้ามาใช้จ่ายกระจายตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศปีละกว่า 50,000 ล้านบาท ปีหน้าอาจจะทำรายได้ถึง 55,000 ล้านบาท โดยจะเร่งเดินหน้าเพิ่มความเข้มข้น 2 เรื่องหลัก คือ เพิ่มค่าใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวและเน้นเจาะตลาดกลุ่มคุณภาพสูง ประกอบด้วย 3 กลุ่มโดดเด่น คือ 1.นักกอล์ฟมีผู้เล่นกว่า 250,000 คน 2.ผู้สูงวัยทั้งกลุ่มเกษียนและมีรายได้สูง 3.กลุ่มนักศึกษา คนรุ่นใหม่ หรือ Millenials Generation เจน M เพื่อกระตุ้นให้มาเที่ยวไทยต่อเนื่องเกินปีละ 1 ล้านคนขึ้นไป ซึ่งขณะนี้มีเที่ยวบิน ไป-กลับ สิงคโปร์-ไทย กว่า -350 เที่ยว/สัปดาห์
ระหว่างงาน ITB ASIA 2018 เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2561 ยังได้ร่วมคณะกับนายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท.พบปะผู้บริหารสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เครือข่ายพันธมิตร เพื่อหารือเรื่องเตรียมลงนาม Memorandum of Understand : MOU ต่อครั้งที่ 2 ในการร่วมมือกันนำนักท่องเที่ยวนานาประเทศที่บินกับสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เดินทางเข้าไทยเพิ่มปี 2562-2563 โดยเมื่อปี 2561 ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. ได้ทำเอ็มโอยูครั้งแรกไปแล้ว
ประโยชน์ที่จะได้จากการร่วมมือกับสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ซึ่งมีสายการบินในเครืออีก 2 แอร์ไลน์ส ได้แก่ ซิลค์แอร์ และสกู๊ต มีเที่ยวบินจากสิงคโปร์ตรงเข้า 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ กระบี่ ภูเก็ต หาดใหญ่ (สงขลา) สมุย (สุราษฎร์ธานี) ททท.พยายามเลือกเส้นทางไม่ให้ทับการบินไทย ทุกฝ่ายจะได้วิน วิน โดยยังมีส่วนแบ่งการตลาดนานาชาติในสิงคโปร์อีกกว่า 20 % พร้อมบินต่อมาเที่ยวเชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย และพื้นที่ใหม่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายฝั่งทะเลตะวันออก ( Eastern Economic Corridor : EEC) กระจายรายได้สู่เมืองผลไม้ ระยอง จันทบุรี ตราด
สำหรับการหารือเบื้องต้นระหว่าง ททท.กับสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2561 มี 4 เรื่อง ดังนี้
เรื่องที่ 1 ทำกิจกรรมการตลาดนำผู้โดยสารจากตลาดทั่วโลกในเครือข่ายที่สิงคโปร์ แอร์ไลน์ ให้บริการทั้งจาก เอเชียใต้ในตลาดใหญ่อย่างอินเดีย และแปซิฟิกใต้ 2 ประเทศหลัก ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และกลุ่มตลาดศักยภาพอื่น ๆ
เรื่องที่ 2 ททท.สำนักงานสิงคโปร์ จะเร่งทบทวนแผนการตลาดให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ที่สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส พร้อมจะส่งต่อให้ไทย
ทั้ง 2 เรื่องแรกนี้ทางฝ่ายสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส กับ ททท.สิงคโปร์ จะนำกลับไประมวลรายละเอียด เพื่อวางแผนทำงานเชิงรุกในตลาดเป้าหมายให้สอดคล้องกัน จากนั้น ททท.ภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ จะสรุปแผนงานโครงการเสนอผู้บริหารให้แล้วเสร็จภายสิ้นปี 2561
เรื่องที่ 3 เสนอสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เปิดบินตรงเส้นทางใหม่ ไป-กลับ สิงคโปร์-อู่ตะเภา เพิ่มเที่ยวบินตรงสู่เชียงใหม่
เรื่องที่ 4 ททท.เตรียมจัดแฟมทริปนำตัวแทนของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ช่วงต้นปี 2562 ให้เข้ามาสำรวจแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงในภาคตะวันออกทั้งหมด
นายขจรเดชย้ำว่า ในภาพใหญ่ปี 2562 จะโปรโมตจุดขายแหล่งท่องเที่ยวไทยในสิงคโปร์ตามแคมเปญ Go Local สร้างประสบการณ์เดินทางกระจายสู่ชุมชน 55 เมืองรอง 22 เมืองหลัก พัฒนาตลาดเที่ยวเมืองไทยให้ครอบคลุมทั้ง 5 เรื่อง ได้แก่ 1.เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวคุณภาพ 2.เพิ่มรายได้และขยายวันพัก 3.ขยายพื้นที่ท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองรอง 4.ปลุกจิตสำนึกการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ : Responsibilty Tourism เนื่องจากพฤติกรรมของชาวสิงคโปร์นิยมท่องเที่ยวพร้อมกับนำอุปกรณ์ที่เป็นประโยชน์เข้ามาบริจาคช่วยเหลือดูแลชุมชนสังคมระหว่างเดินทางในไทย 5.สร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามกระแสโลกปัจจุบันและอนาคต
“สถิติปี 2561 ชาวสิงคโปร์เดินทางเที่ยวเมืองไทยทะลุ 1 ล้านคน คิดเป็น 1 ใน 3 ของประชากรทั้งสิงคโปร์ ซึ่งบนเกาะมีชาวสิงคโปร์ราว 2 ล้านคน กับกลุ่มผู้พำนักอาศัยอีก 1.2 ล้านคน การเจาะกลุ่มเป้าหมายตลาดนักกอล์ฟ ซึ่งมีรายได้และสามารถใช้จ่ายเงินมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป 2 เท่า โดยมีจำนวนนักกอล์ฟทั่วสิงคโปร์กว่า 2.5 แสนราย เลือกใช้สนามกอล์ฟทั่วไทยตามเมืองรองเล็ก ๆ ดึงดูดนักกอล์ฟหลายจังหวัดที่ยังไม่เคยเดินทางเข้าไป
ผลจากการโปรโมตท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟ ขณะนี้ทำให้มีนักกอล์ฟหญิงสิงคโปร์ กับครอบครัว และเยาวชน หันมาให้ความสนใจเล่นกอล์ฟด้วย จึงได้ตลาดครอบครัวพ่วงเข้ามาด้วย นับเป็นกระแสมาแรงในตลาดสิงคโปร์ต่อเนื่องปี 2561-2562 สามารถขายเมืองรองในไทยเพิ่มวันพักมากขึ้นได้ เช่น นครนายก ลพบุรี ฉะเชิงเทรา กาญจนบุรี มีสนามกอล์ฟที่ดีรองรับ เป็นทางเลือกใหม่ของนักกอล์ฟจะได้เล่นสนามดี ๆ ส่วนครอบครัวก็เลือกพักรีสอร์ตเก๋ ๆ ชมไร่ไวน์ สวนผลไม้ภาคตะวันออกได้”
นายขจรเดชกล่าวว่าปี 2561 นักท่องเที่ยวสิงคโปร์จะเดินทางเข้าไทยครบ 1 ล้านคน จึงได้ทำโครงการ “Dear Singaporien Thanks A Million” ซึ่งริเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2560 ปูพรมโหมกระแสการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ในสิงคโปร์เพิ่มความสัมพันธ์ 2 ประเทศให้แน่นแฟ้นมากขึ้น โดยเปิดตัวโครงการ Thanks A Million ต่อเนื่อง 4 เดือนระหว่างสิงหาคม-ธันวาคม 2561 ด้วยเป้าหมายสำคัญ คือ 1.ขอบคุณชาวสิงคโปร์ในการเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทย และช่วยประชาสัมพันธ์ไปยังครอบครัว 2.ช่วยขยายโปรดักซ์ใหม่ นอกเหนือจากกรุงเทพฯ ที่มาเป็นประจำทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ขณะนี้ได้ขยายพื้นที่ท่องเที่ยวไปยังชุมชน ประสบการณ์อาหารถิ่น ททท.สิงคโปร์ ทยอยนำเสนอเข้าไปยังกลุ่มต่าง ๆ ทั่วสิงคโปร์
3.สร้างเครือข่ายพันธมิตรและความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว อีกทั้งได้เชื่อมโยงเข้าไปยังสายการบินตอบรับเข้าโครงการดังกล่าว ที่ผ่านมามี 3 สายการบิน ได้แก่ การบินไทย บางกอก แอร์เวย์ส แอร์ เอเชีย สนับสนุนเทั้งของรางวัล ตั๋วเครื่องบิน มากมาย และกลุ่มเรือสำราญ ครุยส์ แคริเบียน เดินทางจากสิงคโปร์มาภูเก็ตก็เข้าร่วมด้วย
ส่วน ททท.สิงคโปร์ ได้สนับสนุนบัตร บีทีเอส คูปองซูเปอร์มาร์เก็ต พร้อมบัตรฟรีนวดแผนไทยตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นกลยุทธ์สร้าง CRM-Customer Relationship Management ช่วงสิงหาคม-ตุลาคม 2561 นักท่องเที่ยวได้รับสิทธิประโยชน์ ของรางวัล ของแถม เป็นการขอบคุณจากเมืองไทย
ไฮไลต์เดือนธันวาคม 2561 นักท่องเที่ยวสิงคโปร์เข้าไทยจะครบ 1 ล้านคน อีกครั้ง จึงได้หารือกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อใช้สุวรรณภูมิ ทำกิจกรรมฉลองและต้อนรับนักท่องเที่ยวสิงคโปร์คนที่ 1 ล้าน พร้อมมอบรางวัลตั๋วเครื่องบินกับสิทธิประโยชน์มากมาย และได้หารือกับผู้บริหารเพื่อมอบบัตรอีลิตการ์ดมูลค่า 1 ล้านบาท เพื่อกระชับความสัมพันธ์สร้างความประทับใจทำให้ชาวสิงคโปร์เดินทางเข้ามาใช้จ่ายเงินในไทยเพิ่มขึ้นในปีต่อ ๆ ไป
โครงการแจกบัตรอีลิตการ์ดกับนักท่องเที่ยวสิงคโปร์คนที่ 1 ล้านนั้น อยู่ในขั้นตอนการหารือจะสรุปได้ในเร็ว ๆ นี้ แต่ประโยชน์จะเกิดต่อเนื่องในอนาคตนั้นมีมหาศาลกับการเพิ่มรายได้จากตลาดสิงคโปร์
ขณะเดียวกันปี 2562 ททท.สิงคโปร์ จะเดินหน้าสร้างความสำเร็จทางการตลาดด้วยศักยภาพไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของสิงคโปร์ ดังนั้นจะเร่งเพิ่มจุดขายแหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง ควบคู่การหาลูกค้าใหม่ ๆ ภายใต้ 2 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย
กลยุทธ์แรก เจาะกลุ่มผู้สูงวัย Active Senior ซึ่งเคยเดินทางเข้าไทยคนละ 4-5 ครั้ง ต้องเสนอขายโปรดักซ์ท่องเที่ยวใหม่ ซึ่งมีกำลังซื้อสูง มีเวลาว่าง ไม่มีความกังวลเรื่องรายได้
กลยุทธ์ที่สอง กลุ่มเดินทางครั้งแรก First Visit เล็งกลุ่ม GEN M โดยเตรียมหารือแยกเป็น 2 ทาง ได้แก่
1.จับมือกับทางสถาบันการศึกษาในระบบ และกระทรวงการศึกษาของสิงคโปร์ เพื่อให้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ นำนักศึกษาเดินทางเข้ามาทำ Educational Trip รวมถึงการเรียนการสอนนอกมหาวิทยาลัย ซึ่งเมืองไทยมีความพร้อมสูง
2.กลุ่มการศึกษานอกระบบ กลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มคนมีเวลาว่างเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งติดเทรนด์ใหม่ ๆ ในกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีโปรดักซ์ใหม่เกิดอยู่ตลอดทั้งร้านอาหารบนเปิดโล่งบน Roof Top คาเฟ่ธีมแปลก ๆ อาหารเก๋ ๆ ร้านเค้ก ร้านกาแฟ ดึงดูดเจน M ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นกลุ่มส่งต่อข้อมูลให้เพื่อนฝูงและคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี
ททท.จะทำให้นักท่องเที่ยวสิงคโปร์เป็นโมเดลตลาดต้นแบบของทั่วโลกที่เดินทางเข้าเมืองไทยในปี 2562 พัฒนาตลาดท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพิ่มรายได้และวันพัก นำไปสู่การวางระบบเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน ผู้เขียนและคอลัมนิส์ท่องเที่ยว |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น