ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ผ่าแผนเจาะสิงคโปร์ปี62โกยเงิน5.5หมื่นล้าน-ดึงอีลิตการ์ดแจก1ล้านคนที่ล้าน

ททท.สิงคโปร์ผ่าตลาดเทรนด์แรงปี’62โกยเงิน5.5หมื่นล้าน
ลุย“กอล์ฟ-สูงวัย-เจนM”อีลิตจ่อแจกล้านบาทคนที่ล้านธ.ค.
คิงเพาเวอร์ต้อนรับวินเตอร์ระดมน้ำหอมให้ช้อป6แบรนด์โลก
ททท.ผุดHell Tasteนำร่อง10เส้นทางทัวร์อาหาร 6จังหวัด
บางจากชวนปั่นพิชิตแก่นมะกรูด/จ.อุทัยร่วมสร้างสุข11พ.ย.
ทอท.เท 400 ล้านตั้งบริษัทใหม่บริการภาคพื้นทุกสนามบิน
ออกไปเที่ยวล้านนามุมใหม่สัมผัสความต่าง5ชุมชน4จังหวัด
เคล็ดลับดูแลสุขภาพจากภายในอย่างไรไม่ต้องพึ่งมีดหมอ
แควนตัสบูมแคมเปญสุขภาพ  Fly Pink ระดมเงินแก้มะเร็ง
โรงแรมแชงกรี-ล่ากรุงเทพฯคว้าบริการเยี่ยมอันดับ6 โลก
สุขสมในเมกะโปรเจ็กต์ไอคอนสยามลั่นดึงเที่ยว22ล้านคน
อควาบาร์ อนันตราสยามจัดเต็มปาร์ตี้ฮาโลวีน 31 ต.ค.นี้

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen    และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97


ช่วงที่ 1 เกาะติดนักบริหารท่องเที่ยวมืออาชีพ “ขจรเดชขจรเดช อภิชาติตรากุล” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสิงคโปร์และฟิลิปปินส์ จะมา “ผ่าแผนการตลาดปี 2562” นำนักท่องเที่ยวคุณภาพสิงคโปร์ ที่มีเงิน มีงาน มีความรู้ 3 กลุ่มใหม่มาแรง “นักกอล์ฟ-ผู้สูงวัย-เจน M” เข้ามาปิดช่องว่างได้ทั้ง 5 ด้าน “นักท่องเที่ยวคุณภาพ-เพิ่มรายได้และวันพัก-ขยายฐานเที่ยวชุมชน/เมืองรอง-ท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสังคม-สร้างการท่องเที่ยวยั่งยืน” เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเกรดเอจากสิงคโปร์เข้าปีละกว่า 1 ล้านคน นำเม็ดเงินกว่า 55,000 ล้านบาท หลั่งไหลเข้ามาสร้างความมั่งคั่ง ยั่งยืน ในชุมชน เมืองรอง ทั่วประเทศ เดือนธันวาคม 2561 เตรียมฉลองด้วยการแจกบัตรอีลิตการ์ด มูลค่า 1 ล้านบาท ให้กับนักท่องเที่ยวสิงคโปร์คนที่ 1 ล้าน สิ่งที่ให้ต่อไปการท่องเที่ยวไทยจะยิ่งได้เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าทวีคูณ

ขจรเดช อภิชาติตรากุล
ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
สำนักงานสิงคโปร์และฟิลิปปินส์


นายขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสิงคโปร์และฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ปี 2562 วางกลยุทธ์เชิงรุกแผนเจาะตลาดสิงคโปร์ซึ่งเป็นลูกค้าเก่าแก่ชื่นชอบเดินทางท่องเที่ยว ขณะนี้นำรายได้เข้าไปกระจายตามเมืองท่องเที่ยวปีละไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท ใช้จ่ายเฉลี่ย 42,000 บาท/คน/ทริป ไม่รวมกับกลุ่มนักกอล์ฟและผู้สูงวัยซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังขยายฐานเพิ่มปีหน้าพร้อมใช้จ่ายเงินมากกว่าตลาดปกติ 2 เท่า ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่ปีต่อไปรายได้จะไปถึง 55,000 ล้านบาท รวมถึงจะเป็นประโยชน์กับสถานที่ท่องเที่ยวชุมชน เมืองรอง และการสร้างประสบการณ์ตามแคมเปญ Go Local อีกทั้งยังเป็นกลุ่มสำคัญขับเคลื่อนซีเอสอาร์ พร้อมทั้งการให้สิ่งที่เป็นประโยชน์ ทั้งการมอบอุปกรณ์กีฬา การศึกษา และทำด้านจิตอาสา นำไปสู่การพัฒนาตลาดท่องเที่ยวที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

ระหว่างวันที่ 17-19 ตุลาคม 2562 ททท.ได้นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้าร่วมมหกรรมขายการท่องเที่ยวรายการใหญ่ระดับโลก ITB ASIA 2018 ณ มารีน่า เบย์ แซนด์ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีตัวแทนผู้ซื้อการท่องเที่ยวจากทั่วโลกสนใจจับคู่เจรจาธุรกิจกับไทย โดยเฉพาะสิงคโปร์ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานครั้งนี้



ส่วนสถิติปี 2561 ชาวสิงคโปร์เดินทางเที่ยวเมืองไทยจำนวนทะลุ 1 ล้านคน ต่อเนื่องมากตั้งแต่ปี 2560 จากประชากรบนเกาะซึ่งมีทั้งชาวสิงคโปร์กว่า 2 ล้านคน และกลุ่มผู้พำนักอยู่ 1.2 ล้านคน โดยปีหน้าสิงคโปร์เป็นตลาดที่มีความมั่นคงทางด้านการเติบโตอย่างโดดเด่นชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นคือค่าใช้จ่ายในการเที่ยวเมืองไทยค่อนข้างสูง จึงจะเร่งเดินหน้าทำเรื่องที่เป็นหัวใจหลักในการนำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์เข้าไทยด้วย 2 แนวทางหลัก ได้แก่ 1.เพิ่มค่าใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยว 2.เน้นตลาดคุณภาพสูง

แนวทางแรก เร่งเพิ่มค่าใช้จ่าย วางรากฐานเจาะกลุ่มเป้าหมายพอสมควรแล้ว จากตลาดนักกอล์ฟ ซึ่งมีรายได้และสามารถใช้จ่ายเงินมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป 2 เท่า โดยมีจำนวนนักกอล์ฟทั่วสิงคโปร์กว่า 2.5 แสนราย เตรียมเข้าถึงให้ได้มากสุดด้วยการใช้สนามกอล์ฟทั่วไทยตามเมืองรองเล็ก ๆ เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักกอล์ฟหลายจังหวัดที่ยังไม่เคยเดินทางเข้าไป

ผลพวงจากการโปรโมตการท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟ ขณะนี้ทำให้มีนักกอล์ฟหญิงสิงคโปร์ ครอบครัว เยาวชน หันมาให้ความสนใจเล่นกอล์ฟด้วย จึงได้ตลาด “ครอบครัว” พ่วงเข้ามาด้วย นับเป็นกระแสมาแรงในตลาดสิงคโปร์ต่อเนื่องปี 2561 และ 2562 ซึ่งจะเป็นตลาดคุณภาพกลุ่มนักกอล์ฟ ครอบครัว เชื่อมโยงในการขายเมืองรองของไทย ถึงจำนวนจะไม่มากแต่ก็มีบทบาทสำคัญไปยังการขยายวันพักเพิ่มขึ้นได้ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว Hidden Gems ของไทย อาทิ นครนายก ลพบุรี ฉะเชิงเทรา กาญจนบุรี ล้วนแล้วแต่มีสนามกอล์ฟซึ่งมีจุดขายที่ดี เดินทางเข้ามาทำการตลาดมากขึ้น เป็นทางเลือกใหม่ของกอล์ฟได้เล่นสนามดี ๆ ส่วนครอบครัวก็สามารถพักรีสอร์ตเก๋ ๆ ชมไร่ไวน์ สวนผลไม้ภาคตะวันออก โดยสรุปกอล์ฟจะเป็นแม่เหล็กนำกลุ่มกอล์ฟและครอบครัว หลั่งไหลเข้ามาในฐานะตลาดคุณภาพโดยได้ทั้งจำนวนคนและรายได้สูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป

นายขจรเดช กล่าวว่า ปี 2561 มีแนวโน้มนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จะเดินทางเข้าไทยครบ 1 ล้านคน จึงได้จัดทำโครงการ “Dear Singaporien Thanks A Million” เป็นโครงการของ ททท.สิงคโปร์ริเริ่มทำขึ้นตั้งแต่ปี 2560 เป็นกระแสประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ในสิงคโปร์ให้ทั้งสองประเทศกระชับความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมากขึ้น ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 ได้ทำ Thanks A Million ในระยะเวลา 4 เดือน สิงหาคม-ธันวาคม 2561 โดยมีหัวใจสำคัญ ๆ คือ



 1.ขอบคุณชาวสิงคโปร์ในการเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทย และช่วยประชาสัมพันธ์ไปยังครอบครัว

2.ช่วยขยายโปรดักซ์ใหม่ นอกเหนือจากกรุงเทพฯ ที่เดินทางมาเป็นประจำทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ขณะนี้ได้ขยายพื้นที่ท่องเที่ยวไปยังชุมชน ประสบการณ์อาหารถิ่น ททท.สิงคโปร์ ทยอยนำเสนอเข้าไปยังกลุ่มต่าง ๆ ทั่วสิงคโปร์


3.สร้างเครือข่ายพันธมิตรและความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว อีกทั้งได้เชื่อมโยงเข้าไปยังสายการบินตอบรับเข้าโครงการดังกล่าว ที่ผ่านมามี 3 สายการบิน ได้แก่ การบินไทย บางกอก แอร์เวย์ส แอร์ เอเชีย สนับสนุนเต็มที่ ทั้งของรางวัล ตั๋วเครื่องบิน มากมาย และกลุ่มเรือสำราญ ครุยส์ แคริเบียน เดินทางจากสิงคโปร์ ไปภูเก็ต ก็เข้าร่วมด้วย ลูกค้าก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการเดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทย

ขณะเดียวกัน ททท.สิงคโปร์ ได้สนับสนุนบัตร บีทีเอส คูปองซูเปอร์มาร์เก็ต พร้อมด้วยบัตรฟรีนวดแผนไทยตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นกลยุทธ์การสร้าง CRM-Customer Relationship Management ตั้งแต่สิงหาคม-ตุลาคม นี้ นักท่องเที่ยวได้รับสิทธิประโยชน์ ของรางวัล ของแถม เป็นการขอบคุณจากเมืองไทย

ส่วนเหตุการณ์สำคัญที่สุดในเดือนธันวาคม 2561 ตัวเลขนักท่องเที่ยวสิงคโปร์เข้าไทยจะครบ 1 ล้านคน อีกครั้ง ดังนั้น ททท.ได้หารือกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำกิจกรรมเฉลิมฉลองต้อนรับนักท่องเที่ยวสิงคโปร์คนที่ 1 ล้าน ก็จะได้รับรางวัล ตั๋วเครื่องบินพร้อมสิทธิประโยชน์ โดย ททท.กับพันธมิตรพร้อมให้ ที่ผ่านมาคุยกันที่จะมอบเป็น “อีลิตการ์ด” มูลค่า 1 ล้านบาท เพื่อกระชับความสัมพันธ์ความประทับใจที่จะทำให้ชาวสิงคโปร์เดินทางเข้ามาใช้จ่ายเงินในไทยเพิ่มขึ้นในปีต่อ ๆ ไป



สำหรับการแจกบัตรอีลิตการ์ดนั้น อยู่ในขั้นตอนการหารือจะสรุปได้ในเร็ว ๆ นี้ แต่ประโยชน์ที่จะเกิดต่อเนื่องในอนาคตนั้นมีมหาศาลกับการเพิ่มรายได้จากตลาดสิงคโปร์

ผอ.ททท.สิงคโปร์และฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ล่าสุดยังเตรียมเจรจากับสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ซึ่งพร้อมจะบินตรงไปยังเมืองท่องเที่ยวสำคัญในไทย ทั้งภูเก็ต เชียงใหม่ สมุย นอกเหนือจากกรุงเทพฯ โดยเมื่อปี 2561 ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. ได้ลงนามเอ็มโอยูกับทางสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ทำโปรโมชั่น มอบสิทธิพิเศษ กระตุ้นกำลังซื้อเข้าสู่ 4 จังหวัดหลัก จากนั้นปี 2562 จะขยายผลโครงการนี้ต่อเนื่องให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น หารือกันอย่างชัดเจนในการนำพื้นที่อื่น ๆ ทั้ง เอเชียอย่างอินเดีย และแปซิฟิกใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สนับสนุนนอกเหนือจากชาวสิงคโปร์


ขณะเดียวกันก็จะเดินหน้าสร้างความสำเร็จทางการตลาดปี 2562 ด้วยศักยภาพไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของสิงคโปร์ ดังนั้นจึงจะมุ่งเน้นเร่งขยาย 1.แหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง 2.การหาลูกค้าใหม่ ๆ ภายใต้ 2 กลยุทธ์หลัก กลยุทธ์แรก เจาะกลุ่มผู้สูงวัย Active Senior ซึ่งเคยเดินทางเข้าไทยคนละ 4-5 ครั้ง จึงต้องมุ่งนำเสนอโปรดักซ์ท่องเที่ยวใหม่ ซึ่งมีกำลังซื้อสูง มีเวลาว่าง ไม่มีความกังวลเรื่องรายได้ แล้วยังแอคทีพ กลยุทธ์ที่สอง กลุ่มเดินทางครั้งแรก First Visit เล็กกลุ่มวัยรุ่นหรือ millanial เรียกว่า GEN M ขณะนี้กำลังเตรียมหารือแยกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่



1.จะร่วมกับทางสถาบันการศึกษาในระบบ และกระทรวงการศึกษาของสิงคโปร์ เพื่อให้มหาวิทยาลัยต่างๆ นำนักศึกษาเดินทางเข้ามาทำ Educational Trip รวมถึงการเรียนการสอนนอกมหาวิทยาลัย ซึ่งในเมืองไทยมีความพร้อมสูง

2.กลุ่มการศึกษานอกระบบ วัยรุ่นและมีเวลาว่างเสาร์-อาทิตย์ พฤติกรรมติดกับเทรนด์ใหม่ ๆ ทางกรุงเทพฯ เป็นเมืองเทรนด์ที่มีความแปลกใหม่อยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่บน Roof Top หรือคาเฟ่ธีมแปลก ๆ อาหารเก๋ ๆ ร้านเค้ก ร้านกาแฟ แนวใหม่ จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดเจน M ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นกลุ่มส่งต่อข้อมูลให้เพื่อนฝูงและคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี

กลยุทธ์เชิงรุกทั้งหมดของ ททท.สิงคโปร์และฟิลิปปินส์ มีความโดดเด่นซึ่งสามารถปิดช่องว่างทำให้การท่องเที่ยวไทยได้รับประโยชน์ครบถ้วน ในด้านการเพิ่มทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวคุณภาพ เพิ่มรายได้ ขยายวันพัก ขยายพื้นที่เมืองหลักไปยังเมืองรอง ท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสังคม และท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ตลอดปี 2562


ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์นำน้ำหอมเทรนด์โลกให้ช้อปรับวินเตอร์6แบรนด์”




กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า เตรียมต้อนรับช้อปปิ้งในช่วงเปิดฤดู Winter Season ด้วยการคัดสรรน้ำหอมกลิ่นใหม่ล่าสุดจากหลากหลายชั้นนำระดับโลกมาให้เลือกถึง 6 แบรนด์ด้วยกัน ที่ได้นำนวัตกรรมดอกไม้ผลิตเป็นน้ำหอมให้ทุกคนเติมเต็มเสน่ห์ความหอมใหม่ให้เลือกกันอย่างจุใจ

แบรนด์แรก VALENTINO DONNA ROSA VERDE EDT ภายในขวดแก้วที่มีรูปทรงโดดเด่นอันเป็นสัญลักษณ์ของวาเลนติโน คือกรุ่นกลิ่นความหอมที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวของดอกกรีนโรส ชามาเต เบอร์กามอต ขิง และดอกแม็กโนเลีย (125ml 3,900 Baht)

แบรนด์ที่ 2 GUCCI BLOOM ACQUA DI FIORI EDT ความหอมใหม่ที่เป็นเสมือนตัวแทนแห่งความสุขและพลังของวัยเยาว์ กรุ่นกลิ่นหอมจากกัลบานัม ดอกเล็บมือนาง น้ำมันดอกซ่อนกลิ่น และสารสกัดจากดอกมะลิที่เบ่งบานเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น (50ml 2,925 Baht / 100ml 4,030 Baht)


แบรนด์ที่ 3 COACH FLORAL EDP  กลิ่นหอมสุดประทับใจจากมวลแมกไม้ที่เปิดตัวด้วยเอกลักษณ์ความสดชื่นของซิตรัสและซอร์เบต์สับปะรดหอมหวานชื่นใจ ตามด้วยกลิ่นอุ่นอวลของกลีบดอกกุหลาบ ปิดท้ายด้วยความเย้ายวน

แบรนด์ที่ UICY COUTURE - VIVA LA JUICY SOIRÉE EDP ความหอมที่จะช่วยเติมสีสันให้กับชีวิต ด้วยกลิ่นหอมสดชื่นจากผลไม้ ทั้งพิงค์กีวีและส้มแมนดาริน ผสมผสานด้วยดอกไม้ตระกูลมะลิและบัว ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นเย้ายวนจากอำพัน มัสก์ และไม้หอมนานา (50ml 2,700 Baht / 100ml 3,520 Baht)


แบรนด์ที่ 5 JO MALONE -NASHI BLOSSOM / SAKURA CHERRY BLOSSOM / PLUM BLOSSOM LIMITED EDITION COLOGNE กลิ่นหอมใหม่แบบลิมิเต็ด เอดิชั่น 3 แบบ 3 สไตล์ ที่มาในขวดดีไซน์เรียบหรู สะท้อนเอกลักษณ์ของโจ มาโลน (100ml 4,590 Baht)

แบรนด์ที่ 6 NARCISO RODRIGUEZ - FOR HIM BLEU NOIR EDP กลิ่นหอมที่ชวนให้ตราตรึง ความลงตัวของความทันสมัยและความสง่างาม ผสมผสานเบสโน้ตจากไม้หอมนานา กลิ่นกลางเป็นเสน่ห์จากมัสก์ และปิดท้ายด้วยความหอมจากจันทน์เทศและกระวาน (50ml 2,140 Baht / 100ml 2,855 Baht)

ข่าวที่ 2 “ททท.ชูHelloTasteนำร่อง10เส้นทางทัวร์อาหาร6จังหวัด”



นางฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  เปิดเผยว่าได้ดำเนินโครงการสร้างสรรค์สินค้าอาหารเพื่อการท่องเที่ยวภายใต้ธีม Hello Taste Thailand เพื่อนำเสนอการท่องเที่ยวเชิงอาหารรูปแบบ Gastronomic Tourism ซึ่งหมายถึงการท่องเที่ยวเชิงอาหารที่มุ่งเน้นประสบการณ์เกี่ยวกับมรดกของท้องถิ่นผ่านการเรียนรู้โดยใช้อาหารท้องถิ่นเป็นสื่อกลางเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการพัฒนาสินค้าและบริการการท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อมุ่งตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวที่มองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงอาหารที่แตกต่าง โดยเน้นความเป็นดั้งเดิม (Authentic)

ระหว่างการจัดมหกรรมท่องเที่ยวรายการระดับโลกงาน ITB ASIA 2018 ระหว่าง 17-19 ตุลาคม 2561 ณ มารีน่า เบย์ แซนด์ ประเทศสิงคโปร์ ททท.ได้นำคู่มือ Hello Taste Thailand ของฝ่ายสินค้าไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้คู่ค้าทั่วโลกได้รับรู้ถึงโปรดักซ์ใหม่ในเส้นทางการท่องเที่ยวอาหารสุดอลังการของไทย

ส่วนขั้นตอนการทำ Hello Taste Thailand ทาง ททท.ฝ่ายสินค้า ได้ระดมกลุ่มนักออกแบบประสบการณ์ และบริษัททัวร์ อาหาร มาร่วมสร้างสรรค์ 10 เส้นทางท่องเที่ยวเชิงอาหารรูปแบบ Gastronomic Tourism  6 จังหวัด ได้แก่กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ตสุราษฎร์ธานี จันทบุรีและพระนครศรีอยุธยา

หลังจากออกแบบเส้นทางเสร็จสิ้น ฝ่ายสินค้าได้เชิญบริษัททัวร์และตัวแทนการขายท่องเที่ยวที่มีการนำเสนอขายโปรแกรมท่องเที่ยวเชิงอาหารให้ร่วมเดินทางไปทดสอบสินค้าและเส้นทางเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ซึ่งได้นำมาปรับในรายละเอียดของโปรแกรมเพื่อให้ตอบโจทย์ตลาดมากขึ้น

โปรแกรมท่องเที่ยวเชิงอาหาร Hello Taste Thailand ทั้งหมด 10 เส้นทาง พร้อมเข้าสู่กระบวนการตลาดและการขายอย่างเป็นรูปธรรม ทางฝ่ายสินค้าได้จัดกิจกรรมโดยเชิญพันธมิตรการตลาดและตัวแทนการขายท่องเที่ยวบริษัททัวร์ต่าง ๆ ที่สนใจสินค้าท่องเที่ยวเชิงอาหาร ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) การบินไทยหนุ่มสาวทัวร์ และอื่น ๆ อีกกว่า 10 บริษัท มาร่วมเปิดประสบการณ์ พร้อมกับ เจ้าหน้า ที่ ททท ฝ่ายตลาด ทั้งใน และ ต่างประเทศ เป็นกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้จนกระทั่งได้ข้อสรุปออกมาเป็นการท่องเที่ยวเชิงอาหารครบทุกเส้นทาง ที่จะนำเสนอขายตั้งแต่ปีงบประมาณ 2562 เริ่มตุลาคมนี้เป็นต้นไป

ข่าวที่ 3 “บางจากชวนสมัครปั่นพิชิตแก่นมะกรูดจ.อุทัย11พ.ย.นี้”



บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชวนร่วมโครงการ “Bangchak Charity Bike Ride 2018 Experience Nature ปั่นพิชิตแก่นมะกรูด ดินแดนหนาวสุดกลางสยาม ในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลบานไร่ จังหวัดอุทัยธานี   สัมผัสวิถีชุมชน พร้อมร่วมกันมอบจักรยานให้กับสภาเด็กและเยาวชน โรงเรียนในพื้นที่แก่นมะกรูด เพื่อใช้ในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรชุมชน ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2561 โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนหน้างานได้วันที่ 10 พฤศจิกายน 2561 เวลา 13.00-19.00 น.

โดยแบ่งเป็นการปั่นใน 3 ระยะทาง 26 กม., 37 กม. และ 70 กม.ค่าสมัครราคาเดียวเพียงคนละ 300 บาท และรับสมัครเพียง 1,000 คนเท่านั้น จุด Start อยู่ตรงบริเวณองค์การบริหารส่วนตำบลบานไร่


สามารถเข้าไปลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมการแข่งขันเฉพาะทางออนไลน์ที่ event.thaimtb.com

สำหรับการจัดงานครั้งนี้ก็เพื่อ 1. สร้างสรรค์กิจกรรมการออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพ  2. ส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและกิจกรรมท่องเที่ยวเกษตรชุมชน 3. รณรงค์การใช้จักรยานในการเดินทาง ส่งเสริมกิจกรรมให้กับชุมชน สิ่งแวดล้อม และสังคม

ผู้เข้าร่วมการปั่นสามารถลุ้นรับ รางวัล/รางวัลพิเศษ ได้ดังนี้

1.ประเภท A ระยะทาง 70 km. ชาย-หญิง 3 ลำดับแรกที่ทำเวลาได้ดีที่สุดในช่วงการแข่งขันจะได้รับ โล่รางวัล

2.ประเภท B ระยะทาง 37 km. ชาย-หญิง 3 ลำดับแรกที่ทำเวลาได้ดีที่สุดในช่วงการแข่งขันจะได้รับ โล่รางวัล

3.ประเภท C ระยะทาง 26 km. ชาย-หญิง 3 ลำดับแรกที่ทำเวลาได้ดีที่สุดและเที่ยววิถีชุมชนทุกจุด ได้โล่รางวัล

4.นักปั่นอาวุโสสูงสุด (นับเวลาตามบัตรประชาชน) จะได้รับของที่ระลึกจากบางจาก

5.นักปั่นเยาวชนอายุน้อยที่สุด (นับเวลาตามบัตรประชาชน และต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง) จะได้รับของที่ระลึกจากบางจาก

6.จับสลากผู้โชคดีที่เข้าร่วมงาน รับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 1,000 บาท รวม 10 รางวัล โดยผู้โชคดีจากการจับรางวัลจะต้องอยู่ในบริเวณงาน ณ เวลาจับรางวัลเท่านั้น


ข่าวที่ 4 “ทอท.เท400ล้านผุดใหม่บริษัทบริการภาคพื้นสนามบิน”




บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” รายงานว่า ล่าสุดได้จัดทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงโครงการร่วมลงทุนระหว่าง ทอท.กับ บริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (SAL) เพื่อดำเนินการจัดตั้ง บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยาน จำกัด (AOT Ground Aviation Services Co.,Ltd.) โดยมีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท

สำหรับการจัดตั้งบริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยาน จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น (Ground Services Equipment) ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท. และได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทกับกระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2561


ทั้งนี้โครงสร้างของบริษัทใหม่จะมี AOT ถือหุ้นสามัญ 49 % ส่วน  SAL ถือหุ้น 51 % ประกอบด้วยหุ้นสามัญ 47 %และหุ้นบุริมสิทธิ 4 % โดยหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิเช่นเดียวกับหุ้นสามัญ ยกเว้นเรื่องการลงคะแนนเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้น มีสิทธิในสัดส่วน 10 หุ้นต่อ 1 เสียง  โดยได้เรียกชำระค่าหุ้นครั้งแรกจากผู้ถือหุ้นในอัตรา 25 % ของทุนจดทะเบียน


ช่วงที่ 2 พร้อมหรือยังกับการออกเดินทางไปสัมผัสวิถีล้านนา 4 จังหวัด 5 ชุมชน จากเชียงใหม่ ลำพูน น่าน สุโขทัย เสน่ห์แห่งความสุขแต่ละที่มีให้เลือกต่างกัน ส่วนสุขภาพต้องรู้แล้วว่า “เคล็ดลับจากภายในเลือกกินอาหารอย่างไร”ไม่ต้องพึ่งมีดหมอเสริมความงาม ส่วนข่าวแรง ๆ ต้องยกให้ “สายการบินแควนตัส” นำโดยกัปตันกับลูกเรือทั้งหมดพร้อมใจกันทำโปรเจ็กต์ดี ๆ “Fly pink” วันนี้-15 พฤศจิกายน 2561 รณรงค์หารายได้สมทบทุนช่วยคนป่วยโรคมะเร็ง ส่วน “โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ” มาพร้อมกับข่าวดีคว้าบริการยอดเยี่ยมอันดับ 6 ของโลก “มหัศจรรย์โครงการ-สุขสม” ในเมกะโปรเจ็กต์ไอคอนสยาม เตรียมเปิด 9 พฤศจิกายน นี้ หวังช่วยชาติดึงนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมปีละ 22 ล้านคน และผู้รักในมิติผี ๆ ต้องแต่งแฟนซีไปปาร์ตี้ที่ “อควา บาร์ โรงแรมอนันตรา สยาม “ ค่ำคืน 31 ตุลาคม นี้

@ตลุยเที่ยว5ชุมชนล้านนาเชียงใหม่-ลำพูน-น่าน-สุโขทัย

การเดินทางเที่ยวหน้าฝนในมุมต่างจากฤดูอื่น ๆ เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น และ “การท่องเที่ยวชุมชน” ก็ขยายตัวอย่างรวดเร็วจากกระแส ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋เก๋สไตล์ลึกซึ้ง

เส้นทาง “เหนือฝันล้านแรงบันดาลใจ” ในเมืองอารยธรรมล้านนา 2 จังหวัด เชียงใหม่กับลำพูน มีชุมชนท่องเที่ยวว้าว ๆ มาชวนไปชมได้ตลอดหน้าฝนเรื่อยไปจนถึงหน้าหนาวของทุกปี



ปักหลักกันที่ “เชียงใหม่” ชุมชนแรก ต้องไป “ชุมชนแม่กำปอง” ต.ห้วยแก้วกิ่ง อ.แม่ออน เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ อยู่ห่างจากตัวเมืองราว 50 กม.ตั้งรกรากอยู่กันมานานกว่า 100 ปี รอบหมู่บ้านตั้งอยู่กลางอ้อมกอดธรรมชาติหุบเขา ลำธาร อากาศเย็นสบายตลอดปี สมัยก่อนมีดอกไม้เล็ก ๆ สีแดงออกเหลือบานอยู่ริมลำธารชาวบ้านเรียกว่า “ดอกกำปอง” อันเป็นชื่อที่นำมาตั้งเป็นหมู่บ้าน ทุกวันนี้กำปองกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแบบสโลไลฟ์ที่ยังคงใช้วิถีวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม



ชุมชนที่ 2 “หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ปงห้วยลาน” ต.ออนใต้ อ.สันกำแพง อยู่ห่างจากเมืองเชียงใหม่เพียง 25 กม. หมู่บ้านแห่งนี้เป็นต้นแบบการอนุรักษ์ป่าที่ได้น้อมนำพระราชดำรัสพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 โดยแปรรูปยางรักเพื่อนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการทำ “เครื่องเขินล้านนา” แต่ละบ้านจะปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ พร้อมกับ ทอผ้าฝ่ายบ้านปง จักรสาน ทำลูกประคบ เก็บเห็ดธรรมชาติ หาปลาในห้วยลานมาเป็นอาหารยังชีพ ขณะนี้เปิดโฮมสเตย์ตามแบบวิถีชาวบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยว



จากเชียงใหม่ไปเที่ยวชุมชนแห่งที่ 3 ของชาวปะกากะยอที่ “ชุมชนพระบาทห้วยตุ้ม” ต.นาทราย อ.ลี้ จังหวัดลำพูน ทั้งหมู่บ้านชาวปะกากะยอจะได้รับการสอนสั่งจาก “ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา” ให้ทำบุญถือศีลปฎิบัติธรรมตามศรัทธา และสวมใส่เสื้อผ้าที่โดดเด่นเป็นเอลักษณ์เฉพาะโดยมีย่ามคู่กายพกติดตัวทุกคน

ถึงแม้ครูบาวงจะมรณภาพไปแล้ว ชุมชนแห่งนี้ก็ยังคงทำตามคำสอน และบริโภคอาหารมังสะวิรัตทุกมื้อ ทุกเช้าชาวบ้านจะเดินไปใส่บาตร กวาดลานวัด ทำสังฆทานผัก



หรือจะเลือกขึ้นพื้นที่สูงสู่ “เมืองน่าน” ถิ่นฐานของปู่ม่าน-ย่าม่าน แวะไปสัมผัสขนบธรรมเนียมประเพณีเก่าแก่ใน ชุมชนที่ 4  “ชุมชนหนองบัว (ชาวไทลื้อ)” ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา หมู่บ้านแห่งนี้มีชาวจีนเชื้อสายไท้ลื้อจากแคว้นสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งรกรากอยู่มานาน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเหมาะจะค้นหาเสน่ห์วิถีชีวิต การทอผ้าลายน้ำไหล ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้ชุมชน แล้วยังได้นำศิลปะการทอผ้าด้วยมือ แปรรูปเป็น กระเป๋า ผ้าคลุมไหล่ ผ้าม่าน ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อตามชอบกันทุกทริป



ต่อด้วยชุมชนที่ 5  “ชุมชนบ้านนาต้นจั่น” ต.บ้านตึก อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ดินแดนป่าไม้ธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์ ชาวบ้านส่วนใหญ่ยึดอาชีพ ทำนา ปลูกผลไม้ ทอผ้า จักสาน มีบริการโฮมสเตย์ พร้อมกิจกรรมบายศรีสู่ขวัญ โดยเฉพาะ “เมนูอาหารถิ่น” อย่าง “ข้าวเปิ๊บ” โดนใจนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ แถมชาวบ้านยังถ่ายทอดวิชาทำผ้าหมักโคลนกับพาเที่ยวชุมชน สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี

เที่ยวได้ทุกที่ ทั้ง 5 ชุมชน สอบถามเพิ่มที่ คอล เซนเตอร์  1672 หรือ ททท.สำนักงาน เชียงใหม่ โทร. 053-248-604-5, ททท.แพร่-น่าน โทร.054-521-127 ททท.สุโขทัย โทร.055-616-228-9

@เคล็ดลับสวยจากภายในอย่างถูกวิธีไม่ต้องพึ่งมีดหมอ

หากพึ่งพาแต่อาหารเสริมและเทคโนโลยีความงามต่างๆที่ช่วยให้ร่างกายภายนอกแลดูอ่อนวัย  แต่ในขณะเดียวกันกลับไม่ได้ใส่ใจดูแลความแข็งแรงของร่างกายภายในอย่างถูกวิธีอย่างแท้จริง อาจทำให้โรคภัยมาเยือนได้

 เคล็ดลับสวยจากภายในอย่างถูกวิธี


1.ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

2.เสริมเติมด้วยอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ

3.ออกกำลังกายเป็นประจำ

4.พักผ่อนให้เพียงพอ

5.หมั่นเติมความสดชื่นให้ร่างกาย

6.ทำจิตใจให้แจ่มใส

7.หมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำ ปีละ 1-2 ครั้ง


ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “แควนตัสชูฟลายอิ้งถึง15พ.ย.ระดมทุนช่วยโรคมะเร็ง”



สายการบิน แควนตัส รายงานว่า ได้จัดทำโครงการรณรงค์ด้านสุขภาพ โดยเหล่านักบินรวมทั้งเจ้าหน้าที่ประจำภาคพื้นสายการบินแควนตัส และแควนตัสลิ๊งค์ ร่วมมือกันทำผ่านแคม “เปญฟลายพิ้งค์ (FlyPink)” เรื่องมะเร็งเต้านม ด้วยการติดเข็มกลัด ริบบิ้น ที่มีอินทรธนูพิเศษ เป็นการระดุมทุนให้กับมูลนิธิมะเร็งเต้านมแห่งชาติ (National Breast Cancer Foundation) และมูลนิธิโมเว็มเบอร์ (Movember)

โดยพนักงานเครือแควนตัสกรุ๊ปได้ร่วมกันติดเข็มกลัดโครงการฟลายพิ้งค์ ไปจนถึง 15 พฤศจิกายน 2561 เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมาก ส่วนกัปตันได้เปลี่ยนจากการติดอินทรธนูปรกติมาเป็นอินทรธนูสีชมพู พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินติดเข็มกลัดสีชมพู และพนักงานต้อนรับภาคพื้นดินติดริบบิ้นสีชมพู

ผู้สนใจสามารถร่วมใส่เสื้อสีชมพูเพื่อแสดงความภูมิใจและรณรงค์กับแคมเปญนี้ หรือร่วมสนับสนุนได้ด้วยที่ flypink.net.”

ทั้งนี้เมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา กัปตันซูซาน แม็คฮาฟฟี่ย์ กัปตันของสายการบินแควนตัสลิ๊งค์ สายการบินในเครือแควนตัสกรุ๊ปได้ริเริ่มแคมเปญฟลายพิ้งค์ เพื่อระดมทุนให้งานวิจัยโรคมะเร็งเต้านม และนับตั้งแต่เปิดตัวแคมเปญเป็นต้นมาปรากฏว่าสามารถระดมทุนได้ 500,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย คิดเป็นประมาณ11,637,165 ล้านบาท และส่งอินทรธนูที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษไปยังผู้ประกอบการ 135 รายในกว่า 30 ประเทศ

 โดยปีนี้ แคมเปญฟลายพิ้งค์จะระดมทุนให้กับมูลนิธิโมเว็มเบอร์ (Movember) ที่ทำงานเกี่ยวกับมะเร็งต่อมลูกหมากโดยได้มีการดีไซน์เพิ่มหนวดเข้าไปด้วย

  นางราเชล คารร์ ผู้อำนวยการมูลนิธิโมเวมเบอร์ กล่าวว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เห็นสัญลักษณ์หนวดและริบบิ้นสีชมพูอยู่ด้วยกันเป็นครั้งแรกเพื่อร่วมระดมทุนเรื่องมะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมาก ความร่วมมือจากฟลายพิ้งค์ปีนี้จะเป็นพลังส่งเสริมแรงกล้า รวมทั้งน่ายินดีอย่างยิ่งที่กัปตันแม็คฮาฟฟี่ย์ช่วยส่งเสริมเรื่องสุขภาพให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

ศาสตราจาย์ซาราห์ ฮอสคิง ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิมะเร็งเต้านมแห่งชาติ กล่าวว่า ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนแควนตัสกรุ๊ปผ่านทางแคมเปญฟลายพิ้งค์ ซึ่งจัดติดต่อกันมาเป็นปีที่ 4 ช่วยให้สามารถสานต่อโครงการวิจัยด้านมะเร็งเต้านมเพื่อหยุดการเสียชีวิตจากผู้ป่วยโรคนี้ได้

ข่าวที่ 2 “แชงกรี-ลากรุงเทพฯปลื้มคว้าอันดับ6โรงแรมโลก”




มิส แคโรไลน์ เชีย ผู้จัดการใหญ่ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ กล่าวว่า “โรงแรมได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในโรงแรมที่ได้รับรางวัลโรงแรมชั้นนำอันดับ 6 ในกรุงเทพฯ ประจำปี ค.ศ. 2018-Top Hotels in Bangkoจากเวทีการประกาศรางวัล รีดเดอร์ส ช้อยส์ อวอร์ดส ประจำปี ค.ศ. 2018 (Condé Nast Traveler’s 2018 Readers Choice Award) ครั้งที่ 31 อันเป็นความภาคภูมิใจที่โรงแรมได้รับการโหวตจากผู้อ่านนิตยสารนิตยสาร คอนเด นาสต์ ทราเวลเลอร์ทั่วโลกจำนวนกว่าครึ่งล้าน

สะท้อนถึงมาตรฐานบริการของ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งมุ่งมั่นและรักษามาตรฐานการให้บริการอย่างอบอุ่นจากหัวใจที่เป็นวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคเอเชียในแบบฉบับของโรงแรม และการบริการแบบใส่ใจในทุกรายละเอียดและเหนือความคาดหมายที่พร้อมมอบให้กับแขกที่มาใช้บริการที่โรงแรมฯ อย่างสม่ำเสมอต่อไปในอนาคต

  สำหรับโรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ริมโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา รองรับตลาดได้ครอบคลุมทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ อยู่ใกล้กับศูนย์การค้า สถานที่ท่องเที่ยว ย่านธุรกิจชั้นนำ   มีห้องพักและห้องสวีททั้งหมด 802 ห้อง ภายในอาคารแชงกรี-ลา วิง และอาคารกรุงเทพ วิง ห้องพักทุกห้องสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำ หรือวิวทิวทัศน์ของเมืองหลวง พร้อมตกแต่งด้วยผ้าไหมเพื่อสื่อถึงเอกลักษณ์ในความเป็นไทย อีกทั้งสถานที่ตั้งยังติดกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสะพานตากสิน และ เดินทางโดยรถยนต์ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้ภายในเวลาเพียง 40 นาที

ข่าวที่สาม “สุขสยาม-ไอคอนสยามเปิด9พ.ย.หวังทัวร์22ล้านคน”



นายวรกิตติ์ นวสกุลเกียรติ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดธุรกิจท่องเที่ยว บริษัท กูร์เมต์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะเจ้าของโครงการ “สุขสยาม-SOOKSIAM”  ตั้งอยู่ในอาคารไอคอนสยาม เตรียมเปิดบริการอย่างเป็นทางการพร้อมกันในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561  พร้อมแล้วที่จะนำเสนอความมหัศจรรย์อัตลักษณ์ไทยครบวงจรภายใต้คอนเซ็ปต์ค้าปลีกรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “cocreation” โดยมีภาคีพันธมิตรผู้ประกอบการทั่วทุกภาคกว่า 3,000 ราย เข้ามาร่วมโครงการทั้ง อาหาร งานศิลปะ หัตถกรรม งานฝีมือ เวชศาสตร์ การแสดง การละเล่นพื้นบ้าน วัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นและผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อทั่วไทย 77 จังหวัด โดยตั้งเป้าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมปีละถึง 22 ล้านคน

โดยได้วางกลยุทธ์เดินสายโร้ดโชว์นำร่องเจาะกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวนานาชาติแถบเอเชียเป็นหลัก โดยได้รุกไปสร้างการรับรู้ยัง เมียนมา มาเลเซีย จีน อินโดนีเซีย ในอนาคตเตรียมบุกตลาดโซนยุโรป

สำหรับจุดขายที่โดดเด่นภายในบริเวณสุขภาพคือสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรม 4 ภาค การแสดงหมุนเวียน แบ่งเป็นวันธรรมดา 2 รอบ และวันหยุด 4 รอบ  โดยนำเอกลักษณ์ของแต่ละภาคมาไว้ให้นักท่องเที่ยวสัมผัส คือ “ภาคกลาง” ทำตลาดน้ำ เรือนหลังวัง ตลาดผลไม้ ตลาดดอกไม้ “ภาคเหนือ” สร้าง กาดมั่ว บ้านศิลปิน นอร์ธบาซาร์ “ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” โชว์วิถีชีวิต โรงสีข้าว ตลาดพื้นเมือง ผ้าไหม “ภาคใต้” เน้นความเด่นของ Old Town ตึกแบบชิโนโปรตุกีส โซนเมืองเก่า เรือกอ บีชคลับและบาร์ อาหารทะเล


  ทั้งนี้ โครงการสุขสยาม ใช้เงินลงทุนกว่า 700 ล้านบาท ตั้งอยู่ในบริเวณชั้น G พื้นที่ 15,000 ตารางเมตร บริเวณชั้น G เป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่าง บริษัท กูร์เมต์ เอเชีย จำกัด กับบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้ที่ได้รับสิทธิบริหารไอคอนสยาม

ข่าวที่สี่ “อนันตราเปิดอควาบาร์จัดปาร์ตี้ฮาโลวีน31ต.ค.นี้”



โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ  ชวนแต่งแฟนซี ไปปาร์ตี้ ฮาโลวีน ณ อควา บาร์ ในค่ำคืนวันพุธที่ 31 ตุลาคม 2561 สนุกสุดเหวี่ยงในช่วงตั้งแต่เวลา 18.00 – 23.30 น.

ปีนี้ อควา บาร์ จะตกแต่งให้บรรยากาศหลอกหลอนดั่งบ้านผีสิง สุดระทึกขวัญ ดื่มด่ำความสนุกสนานจากเสียงดนตรีและดีเจ พร้อมรับลมธรรมชาติของสวนปาริชาติ คอร์ท เลือกทานอาหารเมนูที่ท่านชื่นชอบและจิบเครื่องดื่มสูตรพิเศษสำหรับคืนวันปล่อยผี  อาทิ Black Dahlia, Insidious และ “Blood Omen

โทร.0 2126 8866   ต่อ 1210 หรือ  www.siam-bangkok.anantara.com

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์และผู้ดำเนินรายการ FM97.0


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง