ทอท.เปิดสัมปทานดิวตี้ฟรีสัญญาเดียว4สนามบิน
ลั่นกติกาเป็นธรรมคัดมืออาชีพไทยแข่งระดับโลก
เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน : บล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #AOT #ดิวตี้ฟรี
ติดตามอ่านได้ในมติชนออนไลน์ https://www.matichon.co.th/?p=1403838
ทอท.เคาะแล้วทีโออาร์ดิวตี้ฟรีปี’62 “เปิดสัญญาเดียว 4 สนามบิน” สุวรรณภูมิ-ภูเก็ต-เชียงใหม่-หาดใหญ่ ให้เวลาเอกชน 5 เดือน ยื่นข้อเสนอดีสุดชิงงานประมูลตั้งแต่วันนี้-10 พ.ค.62 ยันพร้อมใช้ความเป็นธรรมสร้างประโยชน์สูงสุดประเทศ พุ่งเป้าเลือก “ผู้ประกอบการมืออาชีพแข่งระดับโลกได้” ย้ำกุญแจดอกใหญ่อยู่ที่ “ข้อเสนอรายได้ขั้นต่ำคืนรัฐ” ดัชนีชี้ชะตาทุกรายในสนามแข่งครั้งนี้ ส่วน Pick Up Counter อดใจรอเปิดแน่ มิ.ย.นี้
ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2562 ทอท.ได้ประกาศเปิดขอบเขตการประมูล (TOR) เข้าดำเนินธุรกิจร้านค้าปลอดอากรท่าอากาศยานนานาชาติ (Airport duty free) โดยกำหนดรูปแบบเป็น สัญญาเดียว หรือ Master Concessionaire พร้อมทั้งรวมพื้นที่ภายในท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแลไว้ในสัญญาเดียวกันทั้ง 4 แห่ง ประกอบด้วย สุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 อนุมัติให้ดำเนินการตามข้อเสนอของฝ่ายบริหารด้วยรูปแบบวิธีการดังกล่าว
หลังจากการเปิดรับฟังพร้อมทั้งได้รวบรวมความเห็นจากหลายองค์กรมาประมวลผลเรียบร้อยแล้ว โดยมีบางความเห็นเสนอขอให้ ทอท.พิจารณาเลือกใช้วิธีเปิดประมูลพื้นที่ขายแบบแยกตามหมวดสินค้า (catergory consesions) ก็ตาม แต่เมื่อนำมาเปรียบเทียบถึงประโยชน์สูงสุดที่จะเกิดขึ้นกับภาพรวมทั้งทางด้านศักยภาพของประเทศในการแข่งขันระดับเวทีโลก การยกระดับยอดขายเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ผลตอบแทนที่รัฐจะได้รับในระยะยาวอย่างเหมาะสม รวมถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการถึงความไม่แน่นอนของปริมาณผู้โดยสารผ่านเข้าออกพื้นที่แต่ละโซนในอนาคตของแต่ละสนามบิน เนื่องจากสายการบินเปลี่ยนแปลงขนาดเครื่องบินบรรทุกผู้โดยสารและการเข้าจอดซึ่งปรับตามความเหมาะสม
การกำหนดทีโออาร์เปิดประมูลดิวตี้ฟรีสนามบินของ ทอท.ปี 2562 โดยเลือกแบบสัญญาเดียวจึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายในระยะยาว ส่วนเหตุปัจจัยในการนำพื้นที่ทั้ง 4 สนามบิน ได้แก่ สุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ มารวมไว้ในสัญญาเดียว เพราะโจทก์ใหญ่ ทอท.ต้องการผู้ประกอบการที่มีความแข็งแกร่งสามารถก้าวไปแข่งขันในระดับนานาชาติได้ จึงต้องคำนึงถึงการทำยอดขายแต่ละสนามบินและทำให้เอกชนผู้ชนะการประมูลใช้สิทธิ์ในการต่อรองกับเจ้าของสินค้าแบรนด์เนมระดับโลก เพื่อกระจายพื้นที่วางขายแบรนด์เนมอย่างทั่วถึง เนื่องจากปัจจุบันมีเพียงสนามบินสุวรรณภูมิเท่านั้นทำยอดขายร้านค้าดิวตี้ฟรีได้สูงสุดปีละกว่า 82 % ของทั้งหมด ส่วนภูเก็ตทำได้เพียงปีละ 12 % เฉลี่ยเดือนละประมาณ 10 ล้านบาท เชียงใหม่ทำได้ 6 % หาดใหญ่มียอดขายน้อยที่สุดปีละ 0.04 %
ดร.นิตินัยกล่าวว่า กลไกสำคัญของผู้ประกอบการซึ่งสนใจยื่นประมูลทำธุรกิจดิวตี้ฟรีสนามบินตามทีโออาร์ปี 2562 นั้น เชื่อมั่นผู้ประกอบการทุกรายมีศักยภาพความสามารถทัดเทียมกัน ทอท.จึงขอติดกระดุมเม็ดแรกด้วยการใช้วิธีคัดเลือกอย่างเป็นธรรมเพื่อทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นธรรมด้วย เพียงแต่เอกชนแต่ละรายต้องมั่นใจขีดความสามารถของตนเอง ระหว่างการยื่นแข่งขันประมูลช่วงเสนอรายได้ผลตอบแทนรัฐขั้นต่ำการประกอบธุรกิจ หรือ minimum guarantee นั้น ควรคำนวณให้สอดคล้องตามสถานการณ์ที่ประเทศควรได้รับอย่างสมศักดิ์ศรี เพราะตัวเลขดังกล่าวเป็นดัชนีชี้วัดความสามารถของผู้ประกอบการรายนั้น ๆ เอง หากเอกชนมั่นใจในฝีมือและความสามารถการพัฒนาดิวตี้ฟรีในสนามบินของประเทศ และพร้อมจะสร้างการเติบโตนำพาไทยแข่งขันกับทั่วโลกได้ ทอท.ในฐานะผู้รับผิดชอบพื้นที่ก็พร้อมสนับสนุนตามเงื่อนไขกติกาอย่างเต็มที่ทุกรายเช่นกัน
สำหรับกรอบเวลาให้ยื่นข้อเสนอเพื่อร่วมชิงการประมูลพื้นที่ดำเนินธุรกิจร้านค้าดิวตี้ฟรีในสนามบิน ทอท.ทั้ง 4 แห่ง เริ่มประกาศทีโออาร์ให้เอกชนผู้สนใจซื้อซองได้ภายในระยะเวลา 50 วัน ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม -10 พฤษภาคม 2562 จากนั้นจะประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลให้แล้วเสร็จภายในปี 2562 สอดรับกับสัญญาสัมปทานปัจจุบันทั้ง 4 สนามบิน จะสิ้นสุดพร้อมกันในปี 2563
ดร.นิตินัยกล่าวถึงการเปิดประมูลสัญญาสัมปทาน “จุดส่งมอบสินค้าดิวตี้ฟรี : Pick Up Counter สนามบิน” ปลดล็อกให้ผู้ประกอบการร้านค้าดิวตี้ฟรีเสรีในเมือง (Downtown duty free) เป็นอิสระในการค้าขายและส่งมอบสินค้าอย่างสะดวกนั้น เตรียมประกาศทีโออาร์ภายในเดือนมิถุนายน 2562 หลังจากประกาศผลผู้ชนะการประมูลดิวตี้ฟรีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะกำหนดเงื่อนไขกติกาจุดส่งมอบสินค้าดิวตี้ฟรีแบบเปิดกว้างมากที่สุด เป็นการปลดล็อกเรื่องการผูกขาดหรือใช้บริการได้เพียงรายเดียวคือผู้ชนะการประมูลเท่านั้น ต่อไปผู้ประกอบการรายอื่นก็ต้องใช้พื้นที่ดังกล่าวได้ด้วย
ทั้งนี้ ทอท.มีพัฒนาการปรับปรุงทีโออาร์เกี่ยวกับจุดส่งมอบสินค้าดิวตี้ฟรีสนามบิน มาตั้งแต่ปี 2555 นำร่องที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ทำระบบให้สัมปทานพื้นที่บริการร่วมหรือ Common use เข้ามาใช้อำนวยความสะดวกผู้ประกอบการร้านค้าดิวตี้ฟรีในเมืองซึ่งต้องการส่งสินค้าผ่านสนามบินให้แก่ผู้ซื้อที่เดินทางต่างประเทศทุกคน
ลั่นกติกาเป็นธรรมคัดมืออาชีพไทยแข่งระดับโลก
เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน : บล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #AOT #ดิวตี้ฟรี
ติดตามอ่านได้ในมติชนออนไลน์ https://www.matichon.co.th/?p=1403838
ทอท.เคาะแล้วทีโออาร์ดิวตี้ฟรีปี’62 “เปิดสัญญาเดียว 4 สนามบิน” สุวรรณภูมิ-ภูเก็ต-เชียงใหม่-หาดใหญ่ ให้เวลาเอกชน 5 เดือน ยื่นข้อเสนอดีสุดชิงงานประมูลตั้งแต่วันนี้-10 พ.ค.62 ยันพร้อมใช้ความเป็นธรรมสร้างประโยชน์สูงสุดประเทศ พุ่งเป้าเลือก “ผู้ประกอบการมืออาชีพแข่งระดับโลกได้” ย้ำกุญแจดอกใหญ่อยู่ที่ “ข้อเสนอรายได้ขั้นต่ำคืนรัฐ” ดัชนีชี้ชะตาทุกรายในสนามแข่งครั้งนี้ ส่วน Pick Up Counter อดใจรอเปิดแน่ มิ.ย.นี้
ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) |
ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2562 ทอท.ได้ประกาศเปิดขอบเขตการประมูล (TOR) เข้าดำเนินธุรกิจร้านค้าปลอดอากรท่าอากาศยานนานาชาติ (Airport duty free) โดยกำหนดรูปแบบเป็น สัญญาเดียว หรือ Master Concessionaire พร้อมทั้งรวมพื้นที่ภายในท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแลไว้ในสัญญาเดียวกันทั้ง 4 แห่ง ประกอบด้วย สุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 อนุมัติให้ดำเนินการตามข้อเสนอของฝ่ายบริหารด้วยรูปแบบวิธีการดังกล่าว
หลังจากการเปิดรับฟังพร้อมทั้งได้รวบรวมความเห็นจากหลายองค์กรมาประมวลผลเรียบร้อยแล้ว โดยมีบางความเห็นเสนอขอให้ ทอท.พิจารณาเลือกใช้วิธีเปิดประมูลพื้นที่ขายแบบแยกตามหมวดสินค้า (catergory consesions) ก็ตาม แต่เมื่อนำมาเปรียบเทียบถึงประโยชน์สูงสุดที่จะเกิดขึ้นกับภาพรวมทั้งทางด้านศักยภาพของประเทศในการแข่งขันระดับเวทีโลก การยกระดับยอดขายเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ผลตอบแทนที่รัฐจะได้รับในระยะยาวอย่างเหมาะสม รวมถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการถึงความไม่แน่นอนของปริมาณผู้โดยสารผ่านเข้าออกพื้นที่แต่ละโซนในอนาคตของแต่ละสนามบิน เนื่องจากสายการบินเปลี่ยนแปลงขนาดเครื่องบินบรรทุกผู้โดยสารและการเข้าจอดซึ่งปรับตามความเหมาะสม
การกำหนดทีโออาร์เปิดประมูลดิวตี้ฟรีสนามบินของ ทอท.ปี 2562 โดยเลือกแบบสัญญาเดียวจึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายในระยะยาว ส่วนเหตุปัจจัยในการนำพื้นที่ทั้ง 4 สนามบิน ได้แก่ สุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ มารวมไว้ในสัญญาเดียว เพราะโจทก์ใหญ่ ทอท.ต้องการผู้ประกอบการที่มีความแข็งแกร่งสามารถก้าวไปแข่งขันในระดับนานาชาติได้ จึงต้องคำนึงถึงการทำยอดขายแต่ละสนามบินและทำให้เอกชนผู้ชนะการประมูลใช้สิทธิ์ในการต่อรองกับเจ้าของสินค้าแบรนด์เนมระดับโลก เพื่อกระจายพื้นที่วางขายแบรนด์เนมอย่างทั่วถึง เนื่องจากปัจจุบันมีเพียงสนามบินสุวรรณภูมิเท่านั้นทำยอดขายร้านค้าดิวตี้ฟรีได้สูงสุดปีละกว่า 82 % ของทั้งหมด ส่วนภูเก็ตทำได้เพียงปีละ 12 % เฉลี่ยเดือนละประมาณ 10 ล้านบาท เชียงใหม่ทำได้ 6 % หาดใหญ่มียอดขายน้อยที่สุดปีละ 0.04 %
ดร.นิตินัยกล่าวว่า กลไกสำคัญของผู้ประกอบการซึ่งสนใจยื่นประมูลทำธุรกิจดิวตี้ฟรีสนามบินตามทีโออาร์ปี 2562 นั้น เชื่อมั่นผู้ประกอบการทุกรายมีศักยภาพความสามารถทัดเทียมกัน ทอท.จึงขอติดกระดุมเม็ดแรกด้วยการใช้วิธีคัดเลือกอย่างเป็นธรรมเพื่อทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นธรรมด้วย เพียงแต่เอกชนแต่ละรายต้องมั่นใจขีดความสามารถของตนเอง ระหว่างการยื่นแข่งขันประมูลช่วงเสนอรายได้ผลตอบแทนรัฐขั้นต่ำการประกอบธุรกิจ หรือ minimum guarantee นั้น ควรคำนวณให้สอดคล้องตามสถานการณ์ที่ประเทศควรได้รับอย่างสมศักดิ์ศรี เพราะตัวเลขดังกล่าวเป็นดัชนีชี้วัดความสามารถของผู้ประกอบการรายนั้น ๆ เอง หากเอกชนมั่นใจในฝีมือและความสามารถการพัฒนาดิวตี้ฟรีในสนามบินของประเทศ และพร้อมจะสร้างการเติบโตนำพาไทยแข่งขันกับทั่วโลกได้ ทอท.ในฐานะผู้รับผิดชอบพื้นที่ก็พร้อมสนับสนุนตามเงื่อนไขกติกาอย่างเต็มที่ทุกรายเช่นกัน
สำหรับกรอบเวลาให้ยื่นข้อเสนอเพื่อร่วมชิงการประมูลพื้นที่ดำเนินธุรกิจร้านค้าดิวตี้ฟรีในสนามบิน ทอท.ทั้ง 4 แห่ง เริ่มประกาศทีโออาร์ให้เอกชนผู้สนใจซื้อซองได้ภายในระยะเวลา 50 วัน ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม -10 พฤษภาคม 2562 จากนั้นจะประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลให้แล้วเสร็จภายในปี 2562 สอดรับกับสัญญาสัมปทานปัจจุบันทั้ง 4 สนามบิน จะสิ้นสุดพร้อมกันในปี 2563
ดร.นิตินัยกล่าวถึงการเปิดประมูลสัญญาสัมปทาน “จุดส่งมอบสินค้าดิวตี้ฟรี : Pick Up Counter สนามบิน” ปลดล็อกให้ผู้ประกอบการร้านค้าดิวตี้ฟรีเสรีในเมือง (Downtown duty free) เป็นอิสระในการค้าขายและส่งมอบสินค้าอย่างสะดวกนั้น เตรียมประกาศทีโออาร์ภายในเดือนมิถุนายน 2562 หลังจากประกาศผลผู้ชนะการประมูลดิวตี้ฟรีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะกำหนดเงื่อนไขกติกาจุดส่งมอบสินค้าดิวตี้ฟรีแบบเปิดกว้างมากที่สุด เป็นการปลดล็อกเรื่องการผูกขาดหรือใช้บริการได้เพียงรายเดียวคือผู้ชนะการประมูลเท่านั้น ต่อไปผู้ประกอบการรายอื่นก็ต้องใช้พื้นที่ดังกล่าวได้ด้วย
ทั้งนี้ ทอท.มีพัฒนาการปรับปรุงทีโออาร์เกี่ยวกับจุดส่งมอบสินค้าดิวตี้ฟรีสนามบิน มาตั้งแต่ปี 2555 นำร่องที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ทำระบบให้สัมปทานพื้นที่บริการร่วมหรือ Common use เข้ามาใช้อำนวยความสะดวกผู้ประกอบการร้านค้าดิวตี้ฟรีในเมืองซึ่งต้องการส่งสินค้าผ่านสนามบินให้แก่ผู้ซื้อที่เดินทางต่างประเทศทุกคน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น