TCEBงัดเทรนด์ข้อมูลอัจฉริยะเร่งรายได้ไมซ์ไทยโต3เท
ชุQuickWin-ลดเหลื่อมล้ำธุรกิจทุกไซซ์ของบผ่านเว็บ
คิงเพาเวอร์ทุกสาขางัดช้อปเทรนด์แบรนด์โลก4ยุคบิวตี้
ททท.บุกคิวชูลุยเพิ่มทัวร์ญี่ปุ่นพันธุ์ใหม่โกยเงิน7หมื่นล.
บางจากชวนแวะร้านSPAซื้อน้ำส้มถูกสุดถึง15มี.ค.62
ห้ามพลาดปีนผาขึ้นดอยดูวิถีชาวเขาบนผาตั้ง เชียงราย
เคล็ดลับ4ข้อกับวิธีเลือกอาหารว่างปลอดภัยต่อสุขภาพ
บิ๊กกทม.จัดกระหึ่มสงกรานต์สวนลุมพินี11-14 เม.ย.นี้
ดุสิตฯศรีนครินทร์ดึงคู่รักร่วมWeddingShow9-10มี.ค.
เครือดุสิตฯปี61ทำกำไร290ล้าน-ปี62รุกต่อยอดเพียบ
ไทยบูมHopOnHopOffรถทัวร์กรุงเรือล่องเจ้าพระยา
ช่วงที่ 1 TCEBเปิดแนวรุกใหม่งัดใช้ข้อมูลอัจฉริยะผนึกนวัตกรรมไฮเทค จัดเต็ม 16 โปรเจ็กต์ ภายใน 3 ปี ติดอาวุธการตลาดครบ “AI-Intelligence Center-Chat BoT-Market Place” ดันรายได้อุตฯไมซ์โต 3 เท่าทะยานเพิ่มปีละไม่ต่ำกว่า 20 % เปิดให้รายเล็ก-กลาง-ใหญ่ ใช้สิทธิ์เท่าเทียมขอเงินสนับสนุนจัดงานผ่านออนไลน์แบบ Quick Win
นางจารุวรรณ สุวรรณศาสน์ ผู้อำนวยการฝ่าย MICE Intelligent และนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” |
นางจารุวรรณ สุวรรณศาสน์ ผู้อำนวยการฝ่าย MICE Intelligent และนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า พร้อมเดินหน้านำฝ่ายใหม่ที่ทีเส็บจัดตั้งขึ้นมาขานรับนโยบายรัฐบาลโดยมุ่ง 3 เป้าหมายหลัก ได้แก่ 1.การสร้างรายได้ 2.พัฒนาประเทศด้วยนวัตกรรม 3.ใช้เทคโนโลยีกระจายสู่ท้องถิ่น โดยก่อนหน้านี้ได้ทำการศึกษาพฤติกรรมของนักเดินทางและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมในลักษณะ Design Thinking เพื่อค้นหาคำตอบกับข้อสรุปในการกำจัดหรือปิดจุดอ่อนต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด
กำหนดออกมาเป็นไฮไลต์ 16 โครงการ ทำให้ได้ภายใน 3 ปีข้างหน้า ระหว่าง 2562-2564 เพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศขณะนี้มีความพร้อมหรือไม่พร้อมในส่วนใดบ้าง เพราะไม่สามารถทำได้ในคราวเดียวกันทั้งหมด
ดังนั้นปีแรก จะทำโครงการ Quick Win ทำออกมาแล้วเอกชนสามารถนำไปใช้ได้เลย ตัวอย่าง การทำ bizconnect Application การจัดงานให้ผู้จัดนำแอพลิเคชั่นไปใช้โดยการงานมาใส่ไว้ในแอพลิเคชั่นดังกล่าว ถึงรายละเอียดประเภทงานที่ต้องการจัดไม่ว่าจะเป็น การแสดงสินค้า ประชุม สถานที่จัด แผนที่นำทาง เพื่อให้คนเข้ามาลงทะเบียนได้ด้วย ทำให้เห็นถึงข้อมูลทั้งหมดแบบครบวงจร ไปถึงขึ้นทำการจับคู่ธุรกิจภายในงานกันเอง เมื่อจบงานแล้วสามารถถามตอบกับ Speaker หรือโหลดไฟล์ เพาเวอร์พอยต์ สไลด์ รายละเอียดทั้งหมดของงานดังกล่าวได้ ซึ่งเป็นบริการที่ทีเส็บจัดทำให้ผู้จัดงาน 2.การพัฒนาดิจิตอลให้เอกชน ตามที่ทีเส็บมีโครงการสนับสนุนงบประมาณแก่เอกชนนำงานมาจัดในไทย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเอกชนสามารถยื่นของบสนับสนุนผ่านทางออนไลน์ได้ พร้อมทั้งติดตามขั้นตอนความเคลื่อนไหว ติดต่อกันได้ 24 ชั่วโมง เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในช่องทางโดยมีโซลูชั่นสามารถช่วยได้โดยเข้าถึงด่วน ๆ
ในปี 2562 ทีเส็บจะต้องสร้าง foundation ที่มีความจำเป็นคือต้องเร่งเปิดตัว MICE Intelligence Center เพราะคำนึงถึงการแข่งขันยุคปัจจุบันจะต้องนำข้อมูลมาใช้ประกอบการแข่งขันดึงข้อมูลต่างๆ จากศูนย์ดังกล่าว เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจและการตัดสินใจ อีกทั้งยังลดความเหลื่อมล้ำไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ก็สามารถเข้ามาเลือกใช้ข้อมูลจากศูนย์ได้อย่างเท่าเทียมกัน ใน MICE Intelligence Center จะมีข้อมูลประกอบด้วย การให้ข้อมูลผ่านออนไลน์ มี 3 ส่วน คือ
1.ไมซ์รีเสิร์ช รวมข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึก ตั้งแต่เรื่องเทรนด์ ที่ตรงกับความต้องการของตลาด ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการได้ในระยะยาว และการนำไปพัฒนากลยุทธ์เจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เช่น ตลาดจีนสนใจเข้าร่วมไมซ์ในไทยประเภทไหน หรือแต่ละไตรมาสควรรุกเจาะตลาดใดเข้ามาจัดในไทย ข้อมูลทั้งหมดจะครอบคลุมทั่วประเทศ อาเซียน ปัจจุบันได้นำข้อมูลของ Convention Bereau German ทำรีเสิร์ซเชิงลึกแนะนำถึงการจัดประชุมอนาคตจะเป็นแบบไหน และการทำธุรกิจอาจจะต้องทำในขนาดที่เล็กลง หรือผู้เข้าร่วมงาน (Attendy) ต้องการมีส่วนร่วมแลกเปลี่ยน (participate) กับวิทยากรโดยเข้าถึงกลุ่มต่าง ๆ ด้วย เทรนด์เหล่านี้เป็นความจำเป็นที่ผู้ประกอบการไมซ์จะต้องมีความรู้
2.Publication Center จะรวบรวมสื่อสิ่งพิมพ์ แมกกาซีน VDO เอกสาร อินโฟกราฟฟิก มารวมให้ดูได้แบบเร็วๆ ในมุมของอุตสาหกรรมเกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น Publication Center ตอนนี้มีส่วนที่เรียกว่า Intelligence Wide ได้นำ AI ทำหน้าที่กวาดข่าวเกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ามาในพื้นที่จัดเตรียมไว้ เมื่อผู้ประกอบการเข้ามาดูก็จะเห็นข่าวอัพเดทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตนเอง ซึ่งเป็นการนำนวัตกรรมมาช่วยหาเครื่องมือทางคอนเทนท์อย่างหลากหลายมากขึ้น
3.Business Tool เครื่องมือทางธุรกิจ เป็นซอฟท์แวร์บริหารจัดการงาน โดยมีองค์ประกอบอีก 3 ส่วนย่อ ได้แก่
3.1 Business Events Management ให้เข้ามาไปคีย์หาลักษณะการจัดอีเวนต์ประชุม จำนวนกี่คน ต้องการขายบัตรหรือไม่ การลงทุนจะเป็นเท่าไร เป็นการดูได้ทั้งเรื่อง ROI และ Performance การจัดงาน เป็นเครื่องมือง่ายๆ เหมาะกับผู้ประกอบการขนาดเล็ก และขนาดกลาง ซึ่งต้องการประมวลเครื่องมือสำเร็จรูป เพียงแค่กรอกข้อมูลรายละเอียดเข้าไปก็จะได้คำตอบออกมาใช้จัดงาน คล้ายกับ Spider Web เช่น ต้องการจัดงานวิ่งมาราธอน เปรียบเทียบระหว่างงานที่ต้องการจัดกับงานระดับมาตรฐาน
3.2 Biz Connect เป็นแอพลิเคชั่นช่วยให้ผู้จัดได้ประโยชน์ในการเข้าไปดูอนาคตอีก 3 เดือนก่อนจัดงาน มีคนลงทะเบียนเท่าไร แล้วสามารถนำมาวางแผนโหมโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่อในช่องทางใดได้อีกบ้าง และมีผู้สนใจร่วมหัวข้อไหนบ้าง ในช่วงวันงานยังสามารถใช้ลงทะเบียน ทำโพลิ่ง หลังเสร็จงานยังทำสรุปถึงจำนวนผู้เข้าร่วมงาน ความสนใจหัวข้อตามลำดับความสนใจห้องใดมากกว่ากัน เป็นการช่วยเรื่องเก็บรวบรวมข้อมูลไว้พัฒนาการจัดงานในครั้งต่อไปได้ด้วย
ผอ.จารุวรรณกล่าวว่า เครื่องมือข้อมูลอัฉจริยะและนวัตกรรมที่ทีเส็บนำเข้ามาใช้ตั้งแต่ปี 2562 จะเป็นแรงผลักดันให้ตลาดอุตสาหกรรมไมซ์เติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยการใช้ทั้งสองอย่างควบคู่กันไป ทำให้เกิดการขยายตัวทางรายได้แบบก้าวกระโดดจากเดิมทำได้เพียงปีละ 5 % ก็จะเพิ่มเป็นปีละ 20 % จากปัจจัยมีซัพพลายและดีมานต์การกระจายการจัดเพิ่มขึ้นได้ไปยังทั้งในเมืองรอง เมืองไมซ์ ซิตี้ มีความสะดวกเข้าถึงง่ายขึ้น ส่วนการใช้เครื่องมือดิจิตอลสามารถช่วยเข้าถึงได้ทุกคน เช่น ภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคอื่น ๆ ก็เข้าถึงข้อมูลได้เหมือนกัน และทีเส็บยังมีสำนักงาน Area Base ทำงานร่วมกับจังหวัด เป็นการเอื้อประโยชน์ในการทำงานคล่องตัวมาก
หรือในอนาคตจะนำ Chat BoT มาช่วยให้ข้อมูลในเว็บไซต์ทีเส็บ เมื่อมีผู้สนใจจัดงานแล้วคีย์ข้อมูลเข้ามาทาง Chat BoT จะเข้าไปตอบแนะนำสถานที่จัดอย่างเหมาะสมกับงานนั้น ๆ เครื่องมือเหล่านี้ช่วยแนะนำกระจายได้มากกว่าพื้นที่กรุงเทพฯ และกระจายไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศ โครงการไฮไลต์ที่จะทำต่อเนื่องคือ Market Place ตามแผนจะเปิดบริการได้ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป
โดยแบ่งเป็นการใช้งานของ ฝั่งซัพลลายไซซ์ คือ โรงแรม สถานที่จัดงานไมซ์ การท่องเที่ยวก่อนและหลังงาน และฝั่งดีมานต์ผู้จัดงานมารวมไว้ในแหล่งเดียวกัน แล้วใช้ข้อมูลหลังบ้าน AI ช่วยจับคู่ทำให้ผู้จัดกับผู้ร่วมงานพบเจอกันง่ายขึ้น เหมือนกับ Agoda ให้บริการโรงแรมที่เหมาะสมกับผู้จองซึ่งต้องการพักหลายแบบ Market Place ของทีเส็บก็มีลักษณะการให้บริการใกล้เคียงกัน เพื่อตอบโจทก์ความต้องการเบื้องต้นปรากฏเป็นลิสต์ขึ้นมาให้เห็น สร้างโอกาสให้เกิดการจับคู่ธุรกิจ โดยทีเส็บสร้างแพลทฟอร์มด่านหน้าให้คู่ค้า เป็นการช่วยเสริมทำให้การจัดงานได้ง่ายขึ้น ใช้เวลาน้อยลง และสามารถกระจายไปทุกภูมิภาคได้ ส่งเสริมการสร้างงาน และรายได้ เพิ่มขึ้น
สำหรับโครงการ Market Place ใช้เวลาเตรียมการณ์ถึง 3 ปี เพราะต้องรวบรวมฐานข้อมูลจากหน่วยเกี่ยวข้องที่สามารถทำให้ระบบ AI คุยภาษาเดียวกันรู้เรื่อง เนื่องจากปัจจุบันแต่ละองค์ในประเทศไทยจัดเก็บข้อมูลไว้ในรูปแบบที่แตกต่างกันมาก พอนำมาประมวลผลหลังบ้านจะทำให้คอมพิวเตอร์เกิดอาการงงได้ ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาโมดิฟายด์นาน ต้องใช้วิธีส่งทีมลงพื้นที่ทำงานร่วมกับแต่ละจังหวัดเพื่อเก็บข้อมูลมาวางไว้ใน Market Place เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้นในอนาคต
ผอ.จารุวรรณกล่าวว่า ไทยเป็นประเทศแรก ๆ ในอาเซียน ที่คิดดำเนินการลักษณะดังกล่าวโดยวางแพลทฟอร์มนำข้อมูลอัจฉริยะและนวัตกรรม โดยมีเป้าหมายสูงสุดในฐานะของฝ่ายที่อยู่ในสายงานพัฒนาและนวัตกรรม ด้วยการช่วยสนับสนุนสายงานธุรกิจภายในทีเส็บไป 1.ดึงข้อมูลเชิงลึก Critical information 2.เลือกเปิดตลาดที่สอดคล้องกับความต้องการแต่ละช่วงเวลา 3.สร้างโปรดักซ์และบริการที่เป็น Non Cash ในรูปแบบ Biz Connect , Market Place
ส่วนเป้าหมายสูงสุด (altimate Goal) ของฝ่ายข้อมูลอัจฉริยะและนวัตกรรมทีเส็บ ต้องทำงานเชิงนวัตกรรมร่วมกับพันธมิตรอย่างสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ NIA หรือ SEPA เป็นตัวอย่างการทำงานเชิงบูรณาการเพื่อตอบโจท์ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ยุคนี้ต้องมุ่งเน้นลดงบประมาณ ประหยัดเวล มุ่งปฎิบัติงานแบบได้ผลตอบรับกลับสู่ผู้ใช้ในอุตสาหกรรมไมซ์อย่างรวดเร็ว มีพันธมิตรที่มีความสามารถสูงที่พร้อมมาผนวกรวมเข้าด้วยกันเดินหน้าภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพสัมฤทธิ์ผลจริง
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ทุกสาขาชูช้อปเทรนด์สวยแบรนด์โลก4ยุค
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนไปช้อปผลิตภัณฑ์ความงามกับแบรนด์ระดับโลกในร้านค้าดิวตี้ฟรี คิง เพาเวอร์ สาขาต่าง ๆ ทั้งในเมืองทั่วประเทศ และสนามบินนานาชาติทั่วไทย ด้วยไอเดียดีๆ กับโลกแห่งสีสันนำเมกอัพลุคอดีตกลับมาปัดฝุ่นให้ดูทันสมัยและมีสไตล์ยิ่งขึ้นที่มาพร้อมเทรนด์ 4 ยุคยอดนิยม
เทรนด์แรก THE MILLENNIUM - ยุคมิลเลนเนียมในปัจจุบัน คือยุคแห่งความไร้กฎเกณฑ์และการคิดนอกกรอบ แนะนำให้เน้นที่สไตล์การแต่งตัว ส่วนเมกอัพเน้นผิวบางเบาเป็นธรรมชาติ เน้นอายแชโดว์และลิปในโทนสีนู้ด แต่อาจทำเซอร์ไพรส์ลุคนี้ในตอนท้ายด้วยอายไลเนอร์สีฟ้าเทอร์ควอยซ์ที่มุมหัวตาด้านใน จะได้ลุคที่ดูเซอร์ๆ ซนๆ นิดๆ
แนะนำ - ถ้าผิวไม่มีปัญหา ลงแค่เบสปรับสีผิวแล้วตามด้วยทินต์มอยส์เจอไรเซอร์ก็พอ แต่ถ้ามีจุดที่ต้องการปกปิด ให้ใช้คอนซีลเลอร์แต้มเฉพาะจุด ด้วยผลิตภัณฑ์ 1.Giorgio Armani My Armani To Go Essence In Foundation Tone-Up Cushion ราคา2,255 บาท เลือกได้ใน 5 เฉด 2.Bobbi Brown Long-Wear Sparkle Stick สี Prosecco ราคา 1,105 บาท 3.Urban Decay Tonic Eyeshadow ราคา 725 บาท
เทรนด์ที่ 2 THE 1990s - แม้เมกอัพในยุค 1990s จะเน้นความมินิมอล และความเป็นธรรมชาติ แต่คุณสามารถทำให้ดูทันสมัยและมีสไตล์ขึ้นได้ด้วยการแต่งคิ้วให้ดูหนาและเข้มขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย แล้วทาลิปสติกสีสดๆ อย่างสีชมพูช็อกกิ้งพิงก์ เพื่อเพิ่มความโดดเด่นที่ริมฝีปาก
แนะนำ -แต่งผิวให้บางและดูเป็นธรรมชาติที่สุด ลองแต่งตาในโทนสีเดียวกับริมฝีปาก อย่างเช่น อายแชโดว์สีชมพูเนื้อชิมเมอร์ รับกับริมฝีปากสีชมพูสด จะได้ลุคที่ดูมีสไตล์ยิ่งขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์ 1.Giorgio Armani Rouge D’Armani Matte Lipstick No. 506 ราคา 1,190 บาท เลือกได้จาก 11 เฉด 2.Yves Saint Laurent Couture Palette #14 Rosy Contouring ราคา 2,465 บาท 3.Givenchy Prisme Libre Lunar New Year 2019 Loose Powder No. 1 ราคา 2,290 บาท
เทรนด์ที่ 3 THE 1980s - ยุคนี้เป็นยุคทองของสไตล์พังก์ร็อก ถ้าหากอยากนำลุคนี้มาชุบชีวิต แนะนำว่าควรไปให้สุดทาง ทั้งสีผมสุดโต่ง อายไลเนอร์ดุดันคมเข้มเกินขอบตาจริง และลิปไลเนอร์สีดำเน้นขอบปากก่อนเติมสีลิปจริงด้านใน แต่ขอให้เบรกไว้ด้วยชุดที่เรียบๆ เช่น เสื้อยืดและกางเกงยีนส์ ที่เอาแค่กลิ่นอายเบาๆ จากยุคนี้มาก็พอ
แนะนำ - สำหรับลุคที่การแต่งตามีรายละเอียดมากแบบนี้ แนะนำให้แต่งหน้าแบบย้อนศร คือแต่งตาให้เสร็จเรียบร้อยก่อน จากนั้นเช็ดเอาส่วนที่เลอะออกให้เรียบร้อยแล้วจึงค่อยแต่งผิว ด้วยผลิตภัณฑ์ 1.Laura Mercier Translucent Loose Setting Powder Glow ราคา 1,350 บาท 2.Givenchy Lips Couture Palette 2,370 บาท 3.Clinique Pretty Easy Liquid Eyelining Pen 835 บาท
เทรนด์ที่ 4 THE 1970s - ยุคนี้เน้นความโดดเด่นของเมกอัพรอบดวงตาด้วยอายแชโดว์สีสดใสและการติดขนตาปลอม ถ้าอยากปรับลุคให้ดูทันสมัย แนะนำให้ลองใช้อายแชโดว์สีนีออนระบายไปทั้งเปลือกตา เน้นช่วงรอยพับเปลือกตา แล้วใช้อายไลเนอร์แบบดินสอวาดเลียนแบบเส้นขนตาแทนการติดขนตาปลอม จะได้ลุคที่ดูสนุกและน่าสนใจขึ้น
แนะนำ - ลุคนี้รอบดวงตาโดดเด่นอยู่แล้ว ควรปัดแก้มให้อ่อนที่สุด ส่วนริมฝีปากเน้นเป็นลิปกลอสบางใส หรือทาแค่ลิปมันก็พอแล้ว ด้วยผลิตภัณฑ์ 1.M.A.C Eyeshadow สี New Crop 2.Bobbi Brown Perfectly Defined Gel Eyeliner 980 บาท 3.Guerlain Two-Tone Blush สี 02 Neutral Pink 1,790 บาท
ข่าวที่ 2 ททท.ลุยเจาะทัวร์ญี่ปุ่นรุ่นใหม่โกยเงินทะลุ7หมื่นล้าน
นางรุ่งทิพ ว่องปฏิการ คิมูระ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า วางกลยุทธ์เชิงรุกการทำตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางเข้าเมืองไทยเพื่อเพิ่มทั้งรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพตลาดญี่ปุ่น ล่าสุดได้ร่วมมือกับสายการบินไลออน แอร์ เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางครั้งแรก (First Visit) ในภูมิภาคคิวชู ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของญี่ปุ่นเดินทางเข้ามากับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ไป-กลับ ฟูกูโอกะ-ดอนเมือง โดยจะเป็นส่วนหนึ่งในการเดินหน้าขยายฐานนำญี่ปุ่นเข้ามาเที่ยวเมืองไทยภายในปี 2563 ให้ได้ปีละ2 ล้านคนขึ้นไป
โดยทางสายการบินไทย ไลออนแอร์ เตรียมทยอยเปิดเส้นทางบินใหม่ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 เป็นต้นไป จากต้นทางในเมืองอื่น ๆ ของญี่ปุ่น ได้แก่ นาโกย่า กับ โอซากา ต่อเนื่องจากเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 ได้เปิดบินตรง โตเกียว-ดอนเมือง รวมแล้วบริการบินทั้ง 4 เส้นทาง จะช่วยเพิ่มจำนวนที่นั่งรองรับการเดินทางได้สัปดาห์ละกว่า 6,000 ที่นั่ง
จึงเป็นโอกาสที่ ททท.จะเร่งประชาสัมพันธ์พร้อมสร้างประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยวเจาะตลาดกลุ่มรุ่นใหม่และเดินทางครั้งแรก จากคิวชูทางภาคใต้เข้ามาไทยได้อย่างเต็มที่ ขณะที่ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (Japan National Tourism Organization :JNTO) คาดการณ์ปี 2561 มีชาวญี่ปุ่นมาท่องเที่ยวเมืองไทย 1,656,100 คน เพิ่มขึ้นมากสุดในประวัติศาสตร์ 7.23 % โดยสร้างรายได้เกือบ 72,683.45 ล้านบาท เฉลี่ยการใช้จ่ายประมาณ 6,000 บาท/คน/วัน วันพำนักเฉลี่ย 8 วัน กระจายตามท่องเที่ยวยอดนิยม ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี พัทยา ภูเก็ต และ เชียงใหม่ รวมทั้งยังคาดการณ์ปี 2561 มีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยไปญี่ปุ่น 1,132,100 คน เพิ่มขึ้น 14.7 %
ข่าวที่ 3 “บางจากลุยโปรโมชั่นSPAซื้อได้ถูกกว่าถึง15มี.ค.62”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แนะนำโปรโมชั่นสุดคุ้มเมื่อเข้าไปใช้จ่ายเงินในร้านค้าปลีก SPAR ของบางจาก ระหว่างวันนี้ – 15 มีนาคม 2562 สามารถดื่มน้ำส้มคั้นสด ซื้อคู่ถูกกว่า จากปกติ 2 แก้ว / ขวด ราคา 70 บาท เหลือเพียง 60 บาท คลิ๊กเพื่อดูแผนที่ร้านสพาร์ : https://goo.gl/rA97v7
โดยมีสาขาที่เข้าร่วมรายการเพื่อให้ได้เลือกใช้บริการร้านค้าปลีก SPAR บางจาก ทั้งในกรุงเทพ รอบปริมณฑล และต่างจังหวัดทั่วประเทศกว่า 38 สาขา ประกอบด้วย สาขา พหลโยธิน 22, พหลโยธิน กม.57, พหลโยธิน กม.94, เอ็ม ทาวเวอร์, รามอินทรา 71 พระราม 2 กม.77, ศรีนครินทร์สนามบินสุวรรณภูมิ, ศรีนครินทร์ 41 , เทพารักษ์ กม.11, กม.141, SPAR กาญจนาภิเษก กม.41, บางนา กม.16, รามคำแหง 164 , ราชพฤกษ์ 2, กาญจนาภิเษก,กาญจนาภิเษก 2, บางบัวทอง , พระราม 2 กม.12 SPAR สาขาร่มเกล้า, และรวยมหาทรัพย์ ปิโตรเลียม
ช่วงที่ 2 ออกไปเที่ยวแบบมันส์ ๆ สรรสร้างความสุขในทริป ปีนผาขึ้นดอยดูวิถีชีวิตชาวเขาที่ “ดอยผาตั้ง” เชียงราย แล้วมาฟัง “เคล็บลับ4ข้อ” เลือกอาหารว่างปลอดภัยต่อสุขภาพ และข่าวแซบ ๆ “บิ๊ก กทม.”จัดกระหึ่มสงกรานต์สวนลุม 11-14 เม.ย.นี้ “คู่รักห้ามพลาด” ดุสิตปริ๊นเซส ศรีนครินทร์ เปิดโรงแรมจัด Wedding Showcase 9-10 มี.ค.นี้ “เครือดุสิตธานี” ปี61โกยกำไร 290 ล้านบาท ปี62 ลั่นต่อยอดการลงทุนเพียบ “ไทยงัดบริการ Hop On Hop Off” บัสทัวร์ทั่วกรุง ล่อเรือริเวอร์ไลน์เจ้าพระยา
@ปีนผาขึ้นดอยดูวิถีชาวเขาผาตั้ง เชียงราย
ได้เวลาออกไปเติมพลังให้ปอดกันแล้ว ทริปนี้จะชวนปีนผาขึ้นดอยชมวิถีชาวเขาที่ “ผาตั้ง” จังหวัดเชียงรายสัก 3 วัน โดยไปปักหลักยังศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
เริ่มสำรวจกันในเช้าวันวันแรก โดยนั่งเรือหางยาวแบบชีล ๆ ชมวิวแก่งผาได จุดที่แม่น้ำโขง ไหลออกจากเมืองไทยสู่ลาวเป็นจุดแรก จากนั้นก็ไปชมผาบ่อง ประตูรักแห่งขุนเขา ชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ จุดชมวิวเนิน 102 ดอยผาตั้ง
วันที่สอง “ช่วงเช้า” ตื่นขึ้นมาชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกที่ภูชี้ดาว โครงการหลวงผาตั้ง ท่ามกลางแปลงพืชผักเมืองหนาว พอบ่ายคล้อยก็ปั่นจักรยานชมเมืองเชียงของ ชมการทอผ้าทอไทลื้อแบบดั้งเดิมที่พิพิธภัณฑ์ลื้อลายคำ
วันที่สาม ช่วงเช้า เติมบุญก่อนกลับด้วยการตักบาตรรับอรุณริมโขงที่เชียงของ ลันเจีย ลอดจ์ เยี่ยมชมโฮมสเตย์ และทำกิจกรรมในชุมชน ชมการแสดงของชุมชน
กิจกรรมการท่องเที่ยวที่ต้องชมให้ครบทั้ง 3 วัน ในบริเวณศูนย์ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง มีให้เลือกครบทั้งแปลงทดสอบการปลูกผักและ ไม้เมืองหนาว ชมพืชผักเมืองเหนือ บนแปลงดินกว่า 16 ชนิด ศูนย์ส่งเสริมเกษตรที่สูง ดอยผาหม่น ชมดอกไม้เมืองหนาว อาทิ ทิวลิป และลิลลี่ ดอยผาตั้ง จุดชมวิวไทย-ลาว และจุดชมทะเลหมอก สูงจากระดับน้ำ ทะเล 1,800 เมตร เดินชมวิถีชีวิตชุมชนละแวกใกล้เคียงของชาวเขาเผ่าม้ง ชาวจีนยูนนาน และเย้า อุดหนุนผลิตผลจากโครงการและ งานหัตถกรรมชาวเขา
สำหรับศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เป็น " ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่เกษตรกรโดยเน้นการปลูกผักภายใต้โรงเรือนและลดการใช้สารเคมี พัฒนาการเกษตรอย่างถูกวิธี ช่วยเพิ่ม ความยั่งยืนและสร้างรากฐานอาชีพภายในชุมชนอย่าง มั่นคง วันนี้ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง ไม่เพียงเป็น แหล่งผลิตผลทางการเกษตรที่มีคุณภาพ ตลอดจนมีระบบ อนุรักษ์ดินและน้ำที่ดีเพียงเท่านั้น บ้านผาตั้งยังกลาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในบทบาทชุมชนอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติแหล่งสำคัญของจังหวัดเชียงราย
จากเดิมที่เคยเป็นหน่วยย่อยของศูนย์พัฒนา โครงการหลวงห้วยแล้ง ภายหลังได้รับถวายฎีกาการ พฒั นาปรับปรุงพื้นที่จากชาวบ้านหมู่บ้านผาตั้ง บ้านร่มฟ้า ผาหม่น และบ้านศิลาแดง หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี องค์ประทานมูลนิธิโครงการหลวง โปรดให้จัดตั้ง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้งขึ้น ในวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2550 เพื่อช่วยส่งเสริมและพัฒนาอาชีพแก่ชาวบ้าน ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง มีการปรับพื้นที่ ภายในศูนย์ฯ สำหรับวางแผนทดสอบและสาธิตวิธีการ ปลูกผักและไม้เมืองหนาว รวมถึงการเลี้ยงสัตว์ได้แก่ กระต่าย แพะ ไก่กระดูกดำ และหมู เพื่อหล่อเลี้ยงชุมชน ประกอบด้วย คนจีนคณะชาติ ม้ง เย้า มูเซอ อีก้อ ไทลื้อ และคนพื้นเมืองมากกว่า 600 ครัวเรือนอย่างทั่วถึง
สนใจท่องเที่ยว ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง โทร. 0-5316-3308
@เคล็ดลับ 4 ข้อเลือกอาหารว่างเพื่อสุขภาพ
อาหารว่าง อย่าง ขนมปัง เค้ก ชานมไข่มุก มักซ่อนไว้ซึ่งความเสี่ยงของโรคอ้วน ดังนั้น ต้องหยุด เพราะของว่างแบบนี้ในที่สุดก็จะนำไปสู่โรคภัยต่างๆ อย่างโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น มะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไขข้อ โรคประสาทอักเสบ โรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้นต้องเปลี่ยนนิสัยการรับประทานอาหารว่างเพื่อให้ห่างจากโรคเหล่านี้ เพียงทำให้ได้ทั้ง 4 ข้อดังนี้
1.รู้ว่าเมื่อไหร่ที่สมควรทานอาหารว่าง : ช่วงเวลาระหว่างมื้ออาหารและอาหารว่างจะต้องมีอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
2.ควบคุมปริมาณ : ปริมาณพลังงานของอาหารว่างต้องไม่เกิน 200 กิโลแคลลอรี่
3.เปลี่ยนตัวเลือกอาหารว่างของคุณ : ทดแทนของว่างปกติด้วยทางเลือกเพื่อสุขภาพ อย่างผลไม้และน้ำ โดยเปลี่ยนจาก เค้ก เป็นผลไม้ เปลี่ยนจากชา เป็นน้ำเปล่า
4.บริโภคน้ำตาลในระดับปานกลาง : สั่งหวานน้อย หรือ บริโภคน้ำตาลเพียง 4 กรัม หรือ 1 ช้อนชา เท่านั้น
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “กทม.จัดกระหึ่มสงกรานต์ในสวนลุม11-14เม.ย.”
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เตรียมเปิดสวนลุมพินีจัดงานสวนลุมพินี ระหว่าง 11 – 14 เมษายน 2562 ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์กรุงเทพมหานครสาดสุข เพื่อทุกคน รื่นรมย์วิถีไทย” เริ่ม 11 เมษายน ตั้งแต่ 08.00 น. โดยจะทำพิธีอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติมาประดิษฐานบนมณฑป บริเวณสวนลุมพินี เพื่อให้ประชาชนสักการบูชา ไปจนถึงวันที่ 14เมษายน ไม่เกิน 15.00 น.
โดยขบวนอัญเชิญจะจอดได้สรงน้ำ 5 จุด ได้แก่ 1.สวนสันติชัยปราการ 2.วัดชนะสงคราม 3.ปากคลองตลาด 4.วงเวียนใหญ่ 5.หน้าตึกสาทรสแควร์
ตลอดงานสงกรานต์ในสวนลุม เชิญชวนให้แต่งชุดไทยเข้าร่วมงาน c]h;โพสต์รูป ติดแฮชแท็ก #สงกรานต์กรุงเทพ2562 หรือ #SongkranBkk2019 โดยผู้มียอดกดไลค์มากสุดในแต่ละวัน รับไปเลยรับรางวัล 5,000 บาท วันละ 1 รางวัล
ภายในได้จำลองบรรยากาศงานวัดและเวทีรำวงย้อนยุค พร้อมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย เช่น การสรงน้ำพระพุทธรูปประจำวันเกิดลานก่อเจดีย์ทราย การละเล่นพื้นบ้าน ได้แก่ ชิงช้าสวรรค์ โยนห่วง ม้ากระเตงม้าหมุน ปาโป่ง ปาเป้า ยิงปืนบ้านลม รถไฟรางเด็ก พร้อมกับนำผลิตภัณฑ์บางกอกแบรนด์สินค้าโอทอป และของดี 50 เขตร้านอาหารอร่อย ตลาดโบราณ ในวันที่ 12 เมษายน เปิดเวทีประกวด “เทพีสงกรานต์กรุงเทพฯ” ภายใต้แนวคิดงามอย่างไทยในยุครัตนโกสินทร์จำนวน 3 รุ่น ประกอบด้วยหนูน้อยสงกรานต์ อายุระหว่าง 5 – 9 ขวบ เทพีสงกรานต์อายุระหว่าง 18 – 25 ปี และกรุงเทพนครานางฟ้าจำแลง (สาวประเภทสอง) อายุระหว่าง18 – 25 ปี
ข่าวที่สอง “ โรงแรมดุสิตปริ๊นเซส ศรีนครินทร์ กรุงเทพ
จัดงานเวดดิ้งโชว์เคส ที่นำเสนอ โปรโมชั่นสุดคุ้มสำหรับแพ็กเกจงานหมั้นและงานแต่งงาน ในวันที่ 9 - 10 มีนาคม 2562 เวลา 10:00 น. - 20:00 น. ณ ห้องศรีนครินทร์ฮอลล์ ในธีมของ Garden of love สำหรับทุกท่าน ที่มีฤกษ์แต่งงานภายในปี 2562-2563 ภายในงานพบกับร้านค้าและห้องชุดมากมายที่จะมาอัพเดตเทรนด์แฟชั่นล่าสุดพร้อมให้คำปรึกษา พร้อมกิจกรรมพิเศษ เสริมเสน่ห์ปลายจวัก สอนทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพ สำหรับคู่รัก โดยคุณแจ็ค แบล็คแจ็คมาคู่กับคุณ แต๊งกิ้ว กามิกาเซ่
อีกทั้งยังมีรางวัลและบัตรกำนัลต่างๆ ตลอดทั้งงาน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 0 2721 8400 หรืออีเมล ornprapha.sr@dusit.com
ข่าวที่สาม “กลุ่มดุสิตธานีปี61กำไร290ล้านปี’62ขยายธุรกิจเพียบ”
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัทดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC เปิดเผยว่า ผลประกอบการของกลุ่มดุสิตธานีปี 2561 สร้างรายได้รวม 5,565 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 290 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน267 ล้านบาท หรือ 8.6% ช่วงต้นปี 2562 ได้ทุบโรงแรมซึ่งเป็นเรือธงใหญ่คือดุสิตธานี กรุงเทพฯ แต่ก็ยังทำรายได้สำเร็จอย่างน่าพอใจ มาจากปัจจัยสนับสนุนสำคัญเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ธุรกิจทั้ง 3 ด้าน คือ 1.การขยายการเติบโต 2.การกระจายความเสี่ยง 3.สร้างสมดุล ในการสร้างความยั่งยืนระยะยาวให้กลุ่มดุสิตธานี
ปี 2561 กลุ่มดุสิตธานีแสวงหาโอกาสการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างเติบโตกระจายความเสี่ยง ครอบคลุมทั้งแบรนด์ดุสิตธานี ดุสิตดีทู ดุสิตปริ๊นเซส และดุสิตเดวารณา ขยายฐานรุกเจาะตลาดกลุ่มมิลเลนเนียมคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวเชิงท้องถิ่น เข้าถึงชุมชนอย่างใกล้ชิด รวมทั้งต่อยอดบุกเข้าตลาดลักชัวรี่ โดยลงทุนในกิจการแบรนด์ ‘อีลิธ เฮเวนส์’ ผู้นำในธุรกิจบริหารและให้เช่าวิลล่าหรูในเอเชีย แบบครบวงจร ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในไทย อินโดนีเซีย ศรีลังกา มัลดีฟส์ ญี่ปุ่น
ทางด้านธุรกิจอาหาร บริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด เข้าไปลงทุนใน บริษัท เอ็นอาร์ เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โพรดิวซ์ จำกัด หรือ NRIP ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน เครื่องปรุงรส ซอส เครื่องดื่มและน้ำผลไม้ ล่าสุดก็ลงทุนในบริษัท เอ็บเพอคิวร์ เคเทอริ่ง จำกัด (ECC) ผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มโรงเรียนนานาชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสร้างการเติบโตในธุรกิจอาหารและธุรกิจเคเทอริ่ง และช่วงก่อนหน้านี้ได้จัดตั้งบริษัท ดุสิต กูร์เมต์ ลุยต่อยอดทำการตลาดผลิตภัณฑ์อาหารภายใต้แบรนด์ดุสิตธานีด้วย
ข่าวที่สี่ “ไทยผุดHopOnHopOffรถทัวร์กรุงเรือล่องเจ้าพระยาปี62”
นายชาญวิทย์ กาญจนวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อะเมซิ่ง บัสทัวร์ จำกัด ผู้บริหารรถนำเที่ยว “ไจแอนท์ ซิตี้ ทัวร์” กล่าวว่า เส้นทางบริการนำเที่ยวของ Hop on Hop off เริ่มต้นตรง สยามพารากอน ผ่านหัวลำโพง เยาวราช พาหุรัด ทางเดินเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ มิวเซียมสยาม เสาชิงช้า สนามหลวง โรงละครแห่งชาติ บางลำพู ข้าวสาร วัดเบญจมบพิตร สนามมวยราชดำเนิน ภูเขาทอง สามย่าน พัฒน์พงศ์ สีลม โดยมีระบบบริการ 3 ภาษาคือ ไทย อังกฤษ และจีน ด้วยแคแร็กเตอร์แต่ละคันต่างกันไปของรถจากยักษ์ และลิงจากวรรณกรรมรามเกียรติ์ในอนาคตจะเพิ่มครอบคลุมทั้งภาษาอังกฤษ จีน เยอรมัน ฝรั่งเศส สเปน เกาหลี ญี่ปุ่น พร้อมมีแอปพลิเคชั่นที่มีฟังก์ชั่นพิเศษด้วย
และเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2562 บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด ยังได้ร่วมโครงการเรือท่องเที่ยว “Hop on Hop off Boat 4U” กับเจ้าพระยา รีเวอร์ ไลน์ ผู้ให้บริการเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาพัฒนาและยกระดับการให้บริการที่มีมาตรฐาน และความปลอดภัยสูงสุด ทั้งด้านตัวเรือ อุปกรณ์ และการนำเทคโนโลยีด้านการสื่อสารมาใช้ เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับมาตรฐานที่ออกแบบผลิตตัวเรือเป็นอลูมิเนียมแข็งแรงน้ำหนักเบารูปลักษณ์ทันสมัยปลอดภัย ติดตั้งเครื่องยนต์ควบคุมการเข้า-ออกเรือ อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ พร้อมจีพีเอสจอแสดงผลบอกเส้นทางเดินเรือ การออกตั๋วอิเลคทรอนิกส์ (Smart POS) เพิ่มทางเลือกในการท่องเที่ยวเจ้าพระยา
นำร่อง 2 ลำแรก พาท่องเที่ยวโดยแวะจอดตามแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ประวัติศาสตร์ 7 ท่าเรือ ได้แก่ พื้นที่เกาะกรุงรัตนโกสินทร์ แล้วภายในเดือนเมษายนจะเพิ่มเรือรุ่นใหม่ให้ครบทั้ง 4 ลำ โดยเปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 9.30น.-19.00 น. สามารถขึ้นได้ 7 ท่าเรือหลัก ได้แก่ สาทร ไอคอนสยาม ยอดพิมาน วัดอรุณฯ ท่าช้าง พรานนก และพระปิ่นเกล้า
ซื้อตั๋วเรือได้ทางเว็บไซต์ www.chaophrayariverline.co.th หรือโทร 02-401-0049 ราคาเลือกได้หลายแบบคือ 1.เที่ยวเดียว 60 บาท ขึ้นลงได้เพียงครั้งเดียว 2.ตั๋วประเภทชั่วโมง คือ 24 ชั่วโมง ราคา 200 บาท 48 ชั่วโมง ราคา 300 บาท และ 72 ชั่วโมง ราคา 400 บาท ขึ้นลงได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งและมีอายุการใช้งานตามชั่วโมงที่ซื้อ
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น