ททท.เล่นใหญ่การตลาดเมืองรองจันทบุรีปี62-เปิดจุดรับโชคเพิ่มพลังแห่งแรกเมิองไทย-เที่ยผาดั้ง ชมทะเลหมอก ลชีวิตชาวเขา

ททท.เล่นใหญ่ท่องเที่ยวเมืองรองจันทบุรีปี’62

 เปิดPOWER SPOTจุดรับโชคเพิ่มพลังแห่งแรก 

คิงเพาเวอร์มอบห้องน้ำหนองคายรับทัวร์5ปีหน้า

 ช้อปคิงเพาเวอร์ภูเก็ตรับทันทีลด2ต่อถึง15มี.ค. 

ททท.ผนึกแกร็บแท็กซี่รุกสมาร์ตดาต้าดิจิทัลทัวร์ 

บางจากจัดบรึ๊นแรงเติมไฮดีเซลรับคะแนน2เท่า 

มูลนิธิปิดทอง9ปีก้าวหน้าปั๊มรายได้9จังหวัดโต 

MORE FUNชุมชนเนินฆ้อทัวร์CSRครบทุกรส 

5อย่างบนฉลากอาหารรู้แล้วปลอดภัยไร้กังวล 

แอร์เอเชียโหม3เส้นทางเวียดนามตั๋วแค่พันบาท 

บินไทยอัดโปรตั๋วเด็กทั่วเอเชียเริ่มแค่5,815บาท 

ทอท.ชงครม.ผุดรันเวย์3สุวรรณภูมิ2.2หมื่นล้าน 

แอคคอร์งัดโปรดักซ์เขย่าโลกเทรนด์ใหม่โรงแรม 

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าว #เที่ยวกับกู๋ #วันธรรมดาน่าเที่ยว #MoreFunตะวันออก #ชุมชนประมงเนินฆ้อ

 ช่วงที่ 1 ททท.เปิดเมืองรอง “จันทบุรี” โหม More Fun ตลอดเม.ย.นี้กับ “เที่ยวจันทบุรีราคาเดียวรับฤดูผลไม้-สงกรานต์แจ้งเกิดชุมชนใหม่เพียบ” และจังหวัดแรกที่พบ “POWER SPOT-จุดรับโชคเพิ่มพลังความสุข” ที่วัดพลับ อัฐิทหารกล้าพระเจ้าตาก และตลุยกินของอร่อย แหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ จำนวนมโหฬาร เทเงินช้อป ชิม กระจายตามหมู่บ้าน 

ปราณี จั่นนพรัตน์ ผู้อำนวยการ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจันทบุรี

นางปราณี จั่นนพรัตน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจันทบุรี เปิดเผยว่าวางกลยุทธ์เชิงรุกการทำตลาดท่องเที่ยวในประเทศของพื้นที่เมืองรอง โดยพุ่งเป้าจัดมหกรรมต้อนรับฤดูท่องเที่ยวสวนผลไม้ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2562 เป็นต้นไป ขณะนี้แต่ละสวนมีความโดดเด่นหลากหลายแตกต่างกันได้เตรียมความพร้อม เปิดสวนทุเรียน ควบคู่การจัดกิจกรรมเชิญชวนมารับประทานผลไม้คุณภาพดี ซึ่งปีนี้เริ่มทยอยออกบ้างแล้วและจะมีปริมาณมากสุดช่วงปลายเดือนเมษายน นอกจากทุเรียนยังมี มังคุด เงาะ โดยเฉพาะสละมีผลผลิตออกทั้งปี

 ขณะนี้ทางชมรมสวนผลไม้จันทบุรี เดินหน้าสำรวจแต่ละสวนเพื่อรวบรวมสิทธิพิเศษเป็นแพกเกจบุฟเฟต์อร่อยทุกไร่ชิมไปทุกสวน ปี 2562 มีความหลากหลายมากกว่าทุกครั้ง โดยบางสวนจัดบุฟเฟต์ จัดแพกเกจท่องเที่ยว และมีความเด็ด ๆ มากมาย อาทิ วิสาหกิจชุมชนเขาบายศรี สวนรักษ์ไทย เป็นออร์แกนิกเลี้ยงผึ้งชันโรงด้วย สนนราคาทุเรียนเมืองจันทบุรี ช่วงแรกต้นเดือนมีนาคมนี้ กิโลกรัมละ 130 บาท อีกทั้งยังมีสวนทุเรียนและผลไม้นอกเมืองเป็นจำนวนมากซึ่งเป็นการรวมกลุ่มกันของชาวสวนเพื่อให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมตลอดฤดูกาลอย่างคึกคัก

ผอ.ปราณีกล่าวว่า ขอแนะนำการท่องเที่ยวชุมชนในจันทบุรี ไฮไลต์หลัก ๆ ได้แก่ ชุมชนกลุ่มแรก บางสระเกล้า ชุมชนหลังวัด ชุมชนท่าเรือจ้างเพิ่งเกิดใหม่ บริเวณนี้เป็นถิ่นอาหารอร่อย เมนูสุดอยอดอย่าง ก๋วยเตี๋ยวหมูเรียง ข้าวคลุกพริกเกลือ กลุ่มสอง ชุมชนตะปอนน้อย ตะปอนใหญ่ มีชื่อเสียงโด่งดังด้านการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ตะปอน อำเภอขลุง มีมายาวนานเป็นอัตลักษณ์ ชุมชนจะเข็นเกวียน มีวัฒนธรรมการชักเย่อเกวียนพระบาท อันเป็นประเพณีดั้งเดิมกำลังกลายเป็นกิจกรรมงานยอดนิยม

 อีกทั้ง ททท.ยังได้ร่วมกับทางผู้ประกอบการ ชวนคนเข้ามาท่องเที่ยว “จันทบุรีราคาเดียว” ในช่วงเทศกาลสงกรานตะปอน ช่วงเมษายน นี้ จัดทำเป็น 2 แพกเกจ ได้แก่ แพกเกจท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน และ 3 วัน 2 คืน เพียงแค่มีเงินในกระเป๋าหลักพันบาทก็ท่องเที่ยวได้แล้ว โดยมีที่พักหลัก 1001-1,000 บาท/คืน ให้เลือกตามกำลังซื้อของแต่ละคน แล้วยังเตรียมโปรโมตการท่องเที่ยว “ชุมชนบางสระเกล้า” โดดเด่นทางการเกษตรใน 5 หมู่บ้าน มีความน่าสนใจต่างกัน เช่น หมู่ 1 ทอเสื่อกก หมู่ 2 พาชมนกอินทรีย์ล่องเรือไปในทะเลชมนกอินทรีย์ หมู่ 3 ทำการจักสาน โดยใช้รถซาเล้งในหมู่บ้านพาตลุยท่องเที่ยวตามหมู่ต่างๆ แวะสวนผลไม้ได้ตลอดทาง และสามารถท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปถึงโบสถ์คริสต์ริมแม่น้ำจันทบูรได้ด้วย

ไฮไลต์ใหม่ที่กำลังมาแรงในจันทบุรีนับได้ว่าเป็นจังหวัดแรกที่จะเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวซึ่งเป็นจุดขายประจำปี 2562 คือ “POWER SPOT-จุดรับโชคเติมพลัง” ตามนโยบายของ ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. ซึ่งพบแล้วในจันทบุรีบริเวณศาลพระเจ้าตากสินผู้กอบกู้เอกราชชาติไทย ตรง “วัดพลับ” เป็นจุดรวมพลคนกู้ชาติ พร้อมทั้งมีเจดีย์โบราณเก็บอัฐินักรบผู้เก่งกล้าสามารถ มีพลังมากมายรวมอยู่ ณ เจดย์ วัดพลับ เมื่อนักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสประสบการณ์ตรงก็จะได้รับพลังดี ๆ เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน มีทั้งศาลพระเจ้าตาก พระยอดธงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้สร้างไว้ ศาลทรงไทยสร้างด้วยไม้ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เรือแข่งสมัยโบราณ พร้อมโบราณสถานและวัตถุเปิดให้นักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้สักการะ

ผอ.ปราณีกล่าวว่า ททท.จันทบุรี มีแนวทางเพิ่มรายได้กระจายสู่ชุมชนทั่วจังหวัด โดยการเพิ่มจุดขายใหม่ ๆ ซึ่งเป็นของดีของเด่น ทั้งอาหาร ของที่ระลึก ผลิตภัณฑ์สินค้าเครื่องใช้มากมายเตรียมไว้นักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมทำกิจกรรมและช้อปปิ้ง สร้างเงินสร้างความภูมิใจให้ชาวบ้านในทุกชุมชน การท่องเที่ยวจันทบุรีในฤดูยอดฮิต ลุยทัวร์สวนผลไม้ กินบุฟเฟต์ทุเรียน เงาะ มังคุด อาหารถิ่น และงานประเพณีตลอดเดือนเมษายนปีนี้ นับเป็นอีกหนึ่ง More Fun ภาคตะวันออกที่มีสีสันครบทุกอรรถรส สุขทุกวันที่จันทบุรีอย่างแน่นอน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง 

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์มอบห้องน้ำวัดโพธิ์ชัยหนองคายรับทัวร์รถไฟ5ปีหน้า” 

อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ พร้อมด้วย ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผนึกร่วมมือขับเคลื่อนโครงการคืนประโยชน์สู่สังคม “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย สุขาสุขใจ” รุกส่งเสริมภาพลักษณ์แหล่งท่องที่ยวเมืองรองโดยจัดทำโครงการส่งมอบสุขา สุขใจ ณ วัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) จ.หนองคาย เพื่อยกระดับคุณภาพสาธารณูปโภค สร้างมาตรฐานด้านความสะอาดของห้องน้ำในแหล่งท่องเที่ยวตามจังหวัดต่าง ๆ เป็นระบบสากล ‘Universal Design’ สำหรับชาย หญิง และผู้พิการ เพื่อให้เป็นห้องน้ำของทุกคน ที่สะอาด สะดวก ปลอดภัย ได้เอกลักษณ์และยั่งยืน ใช้งานได้สำหรับทุกคน เพื่ออำนวยความสะดวก สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยว และคนในชุมชน

ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ปี 2562 ไทยยังคงเป็นจุดมุ่งหมายการท่องเที่ยวหลักของคนทั่วโลก ตามเป้าหมายปีนี้ตั้งเป้าจะมีต่างชาติมาท่องเที่ยวเมืองไทยมากถึง 41 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.5 % ผนวกกับรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง มุ่งเพิ่มการกระจายรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ การมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างสมบูรณ์แบบ ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีตามสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งในชุมชน

อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา
ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ 

 อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า บริษัทเป็นเอกชนที่ขานรับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมส่งเสริมภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวตามพื้นที่เมืองหลัก เมืองรอง ให้มีสาธารณูปโภคที่ดีไว้บริการนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ โครงการลงทุนสร้างห้องน้ำตามแหล่งท่องเที่ยวเมื่อส่งมอบแล้วก็ให้ชุมชนเป็นผู้ดูแล เป็นการบูรณาการทำงานร่วมกัน สร้างสรรค์ประโยชน์ต่อส่วนรวมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะห้องน้ำตามมาตรฐานยูนิแซลดีไซน์นั้นได้ออกแบบเป็นแบบประตูบานเลื่อน สร้างความสะดวกแก่เด็ก คนสูงวัย และผู้พิการ เข้ามาใช้ได้อย่างเท่าเทียมกัน

 โดยก่อนหน้านี้ได้สร้างห้องน้ำพร้อมส่งมอบตามเมืองท่องเที่ยวไปแล้ว 3 แห่ง สุขา สุขใจ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่, สุขา สุขใจ สวนสาธารณะทุ่งศรีเมือง จ. อุบลราชธานี และสุขา สุขใจ สวนสาธารณะศรีเมือง จ.น่าน ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ทางด้าน

นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า วัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) เก่าแก่และสำคัญกับชาวหนองคาย แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติจำนวนมากมาสักการะหลวงพ่อพระใสสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสีสุก มีลักษณะงดงาม หากได้มีห้องน้ำออกแบบตามมาตรฐานสากลของคิง เพาเวอร์ จะยิ่งช่วยเติมเต็มความสะดวกสบาย สร้างความประทับใจ และความสุขให้แก่นักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ สร้างภาพลักษณ์ดี ๆ ให้คนกลับมาท่องเที่ยวอีกเป็นจำนวนมากได้

ข่าวที่ 2 “ช้อปที่คิงเพาเวอร์ภูเก็ตรับส่วนลดแรง2ต่อถึง26 พ.ค.” 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนช้อปอย่างสนุกสนานสินค้าดิสนีย์ ในร้านดิวตี้ฟรี คิง เพาเวอร์ภูเก็ต ระหว่างวันนี้ – 26 พฤษภาคม 2562 รับส่วนลดทันทีถึง 2 ต่อ

ต่อที่ 1 -ลดทันที 10% เมื่อช้อปสินค้าดิสนีย์ครบ 500 บาทขึ้นไป (สุทธิ)
ต่อที่ 2 - รับฟรี! พวงกุญแจ Disney’s Mickey Limited Editionเมื่อช้อปสินค้าดิสนีย์ครบ 1,500 บาทขึ้นไป (สุทธิ) *สินค้ามีจำนวนจำกัด

โดยมีกติกาง่าย ๆ เลือกช้อปเฉพาะสินค้าที่เข้ารายการส่งเสริมการขายส่วนลด10% เมื่อซื้อครบตามยอดที่กำหนดรับไปเลยพวงกุญแจ Disney’s Mickey Limited Edition จำกัด 1 สิทธิ์/คน/วัน ซึ่งสินค้ามีจำนวนจำกัด การช้อปในร้านของคิง เพาเวอร์ แต่ละครั้งสามารถใช้สิทธิ์ในบัตรเครดิตของไทยพาณิชย์และกสิกรไทยที่เข้าร่วมรายการทยอยจ่ายแบบ 0 % ได้

ข่าวที่ 3 “ททท.ผนึกแกร็บแท็กซี่รุกสมาร์ตดาต้าบูมดิจิทัลท่องเที่ยว” 

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.) ททท. จับมือกับ บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามข้อตกลงความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการพัฒนาและจัดทำระบบจัดเก็บ ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อขับเคลื่อนระบบบริหารจัดการข้อมูลอัจฉริยะด้านการท่องเที่ยวของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้โครงการ ‘Tourism Smart Data, The Time is Now’ โดยการนำเทคโนโลยีและข้อมูลของทั้งภาครัฐและเอกชนมาใช้ประโยชน์เพื่อขับเคลื่อนประเทศ พร้อมสร้างนวัตกรรมที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพด้านการเดินทางและท่องเที่ยวในระดับท้องถิ่น พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน

โดยก่อนหน้านี้ได้นำร่องทำโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันอย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่ปลายปี 2561 ทำแคมเปญ ‘แกร็บสิ’ เมื่อ 22-27 มกราคม 2562 แกร็บได้เข้ามาร่วมในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2562 ดึงดูดความนิยมจากนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติได้เป็นจำนวนมาก

ข่าวที่ 4 “บางจากจัดบรึ๊นแรงเติมไฮดีเซลรับเบิ้ลคะแนน2เท่า” 

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ได้จัดแคมเปญ “บรึ๊นแรง เบิ้ลคะแนน” ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 62 สมาชิกบัตรบางจากเติมน้ำมันบางจาก ไฮ-ดีเซล S รับคะแนนสะสมคูณ 2(มูลค่าส่วนลดสูงสุด 10 สต./ลิตร) ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้

1.สมาชิกบัตรบางจาก เติมน้ำมันบางจากไฮดีเซลเอส รับคะแนนสะสมคูณ2 จากคะแนนสะสมที่ได้รับปกติ (ปกติเติมน้ำมันดีเซล 4 ลิตร รับคะแนนสะสม 1 คะแนน ผลลัพท์ที่ได้เศษปัดทิ้ง)

2. ตัวอย่างการคิดคะแนนสะสมเมื่อคูณ 2 เช่น ตัวอย่าง เติมน้ำมัน 30 ลิตร คะแนนสะสมที่ได้เท่ากับ (30 หาร 4 เศษปัดทิ้ง) นำมาคูณ 2 ดังนั้นคะแนนที่ได้รับในครั้งนี้ 14 คะแนน

3.บัตรสมาชิก 1 ใบ สะสมคะแนนเติมน้ำมันสูงสุดได้ไม่เกิน 300 ลิตร/ครั้ง (สูงสุด 2 ครั้ง/วัน) และสูงสุดไม่เกิน 2,000 ลิตร/เดือน

4.ดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.bcpgreenmiles.com

ข่าวที่ 4 “มูลนิธิปิดทองเผย9ปีก้าวหน้า9โปรเจ็กต์ปั๊มรายได้ชุมชน” 

ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานกรรมการ
สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ

มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ นำเสนอผลงาน 9 ปี ส่งเสริมชาวบ้านในพื้นที่ต้นแบบ 9 จังหวัด รายได้เพิ่มขึ้น 2,308 ล้านบาท เฉลี่ยครัวเรือนละ 508,818 บาท หรือผลตอบแทน 2.4 เท่าของการลงทุน เตรียมขยายงานชายแดนทั้งภาคใต้และภาคเหนือนำแนวพระราชดำริไปช่วยแก้ปัญหาความมั่นคง

ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ได้เปิดพื้นที่บริเวณสยามสมาคม นำเสนอผลงาน “9 ปี ก้าวหน้า” การนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงเข้าไปบุกเบิกพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพื้นที่ต้นแบบ 9 แห่ง ในอุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ อุทัยธานี เพชรบุรี และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งทำให้เกิดรายได้รวมสูงถึง 2,308.13 ล้านบาท

โดยได้รายงานประเมินผลการทำงานด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย 1.ด้านแหล่งน้ำ - มีประชาชนได้รับน้ำ 79,022 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ 275,107 ไร่ 2.ด้านอาชีพ - มีประชาชนเข้าร่วมโครงการพัฒนาอาชีพ 4,536 ครัวเรือน ตลอด 9 ปี ทางปิดทองหลังพระฯ ได้ใช้งบประมาณด้านระบบน้ำและส่งเสริมอาชีพรวม 961.6 ล้านบาท ทำให้เกิดรายได้ทางตรง 2,308 ล้านบาท คิดเป็น 2.4 เท่าของเงินลงทุน และเท่ากับเฉลี่ยครัวเรือนละ 508,818 บาท แต่ละจังหวัดสามารถสร้างรายได้ ดังนี้

จังหวัดน่าน 1,505.69 ล้านบาท อุดรธานี 442.62 ล้านบาท กาฬสินธุ์ 145.64 ล้านบาท ขอนแก่น 80.33 ล้านบาท เพชรบุรี 9.38 ล้านบาท อุทัยธานี 89.47 ล้านบาท และสามจังหวัดชายแดนใต้รวม 34.98 ล้านบาท

นอกจากนี้ปิดทองหลังพระฯยังให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนในการพัฒนา โดยมีการส่งเสริมให้ประชาชนทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มให้เกิดความเข้มแข็ง ซึ่งในปัจจุบันทุกพื้นที่เกิดกองทุน วิสาหกิจชุมชนและสหกรณ์รวม 70 กลุ่ม มีเงินทุนหมุนเวียน ทรัพย์สินรวมมูลค่า 15.78 ล้านบาท

ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระฯ กล่าวต่อไปว่า ผลจากการส่งเสริมความรู้ ทำให้เกิดอาชีพทางการเกษตรใหม่ๆ และประชาชนจำนวนมากสามารถต่อยอด พัฒนาการทำเกษตร ไปเป็นพืชและสัตว์เศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงได้ เช่น ทุเรียนคุณภาพและแพะพันธุ์พระราชทานในสามจังหวัดชายแดนใต้ ผักปลอดภัยในจังหวัดกาฬสินธุ์ การแปรรูปผลผลิต ภายใต้ตราสินค้า “ภูธารา” ที่จังหวัดอุดรธานี เป็นต้น

ขณะที่มีพื้นที่พัฒนาไปสู่การท่องเที่ยวชุมชนเชิงวัฒนธรรมแล้ว เช่น เพชรบุรีและอุทัยธานี ม.ร.ว.ดิศนัดดา กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดี ที่ผลการศึกษาการรับรู้และความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ต้นแบบ 5 จังหวัด โดยคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่าค่าเฉลี่ยความพึงพอใจต่อผลที่เกิดขึ้นในระดับสูงมากทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และการทำงานของปิดทองหลังพระฯ ประกอบด้วย จังหวัดน่าน (2.24) อุดรธานี (2.53) เพชรบุรี (2.39) กาฬสินธุ์ (2.62) และอุทัยธานี (2.39) จากคะแนนเต็ม 3

ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานมูลนิธิ ปิดทองหลังพระ 
นำทีมฉลองความสำเร็จจัดยิ่งใหญ่ "เก้าปีก้าวหน้า" ณ สยามสมาคม กรุงเทพ

“จุดเด่นที่สำคัญในปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับช่วงต้นๆ คือ ตอนเริ่มต้นเราทำงานใกล้ชิดกับส่วนราชการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำและผลผลิต แต่ปีที่ผ่านมาเกิดกระแสการร่วมงานกับเอกชนที่ชัดเจน มีภาคธุรกิจแสดงความสนใจเข้ามาร่วมกับปิดทองหลังพระฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับแนวพระราโชบาย สืบสาน รักษา ต่อยอด เป็นอย่างยิ่ง”

 สำหรับการดำเนินงานครึ่งแรกปีงบประมาณ 2561 ปิดทองหลังพระฯ ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งสถาบัน การศึกษา ภาครัฐและภาคเอกชน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้นแบบปิดทองหลังพระฯ ทั้ง 7 พื้นที่ 9 จังหวัด มีรายได้เพิ่มขึ้นรวม 113.7 ล้านบาท ม.ร.ว.ดิศนัดดา กล่าวว่า แนวทางอนาคตจะเพิ่มบทบาทนำแนวพระราชดำริไปพัฒนาชีวิตประชาชนในพื้นที่ซึ่งมีปัญหาความมั่นคง เช่น 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่มีความรุนแรงและจังหวัดชายแดนเหนือที่เป็นแหล่งผ่านยาเสพติดเข้าสู่ประเทศ รวมทั้งกำลังพิจารณาแผนการจัดตั้งศูนย์จัดการและส่งเสริมองค์ความรู้การพัฒนาตามแนวพระราชดำริอีกด้วย 

ช่วงที่ 2 กลับมาสนุกสุด ๆ กับ MORE FUN ใน “ชุมชนประมงเนินฆ้อ” จังหวัดระยอง ดินแดนขึ้นชื่อ 3 น้ำ สัมผัสมุมใหม่กับการเที่ยวไปได้ทำกิจกรรมคืนประโยชน์สู่สังคมหรือ “CSR TOUR” กันแบบเต็มอิ่มใน 4 เรื่องมันส์ ๆ และฟังข้อมูลดี ๆ “5สิ่งบนฉลากอาหารรู้แล้วปลอดภัย” และข่าวเด่น ๆ “แอร์เอเชียเพิ่มเที่ยวบินสู่เวียดนาม” สร้างความคึกคักตั้งแต่ต้นปี “การบินไทยโหมโปรแรงตั๋วเด็ก” ขณะที่ “ทอท.” จ่อชงคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบ 2.2 หมื่นล้านบาท สร้างรันเวย์ที่ 3 สนามบินสุวรรณภูมิ และ “แอคอร์” เชนโรงแรมแถวหน้าของโลกเปิดตัวโปรดักซ์ใหม่“ALL-Accor Live Limitless” หวังกวาดลูกค้าทั้งโลก 

@MORE FUN ชุมชนประมงเนินฆ้อทัวร์ซีเอสอาร์สนุก4เรื่อง 

วันนี้จะชวนไปเที่ยวชุมชนประมง 3 น้ำแบบเก๋ ๆ ที่ “เนินฆ้อ” จังหวัดระยอง ซึ่งได้รับการกล่าวขานถึงความมหัศจรรย์ที่จัดเตรียมไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว

น้ำแรก “พื้นที่น้ำจืด” ใช้ทำอาชีพบนบกทำเกษตรกรรมการปลูกข้าว ทำสวนผลไม้ตามฤดูกาลแบบครบวงจร

น้ำสอง “พื้นที่น้ำเค็ม” เป็นแหล่งเลี้ยงชีพทางน้ำของชาวประมงพื้นบ้านได้อาศัยสัตว์น้ำอันเกิดจากธรรมชาติ ได้แก่ ปลา กุ้ง หอย ปู

น้ำสาม “พื้นที่น้ำกร่อย” บริเวณป่าชายเลน อันอุดมสมบูรณ์ไปด้วยหอยนางรม และการเพาะเลี้ยงกุ้งกุลาดำ ปลากะพง

เมื่อปี 2558 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เข้าไปช่วยพัฒนาพื้นที่การประมง อาชีพดั้งเดิมของคนในพื้นที่ 9 หมู่บ้าน 4,000 กว่าคน ให้กลายเป็น “จุดท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ” อีกแห่งในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยใช้ศักยภาพทางทะเลเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบตามแนวทางวิถีธรรมชาติมาจนถึงขณะนี้ ก่อเกิดเป็นรายได้จาก 4 แนวทาง คือ กิน ชม ช้อป พัก ซึ่งจัดแบ่งสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมสำคัญออกเป็น 4 แห่งสำคัญ เมื่อนักท่องเที่ยวเข้าไปถึงชุมชนประมงเนินฆ้อ ก็จะได้เพลิดเพลินกับ 4 ความสนุก

ความสนุกที่ 1 ได้เยี่ยมชม “โครงการอนุรักษ์เต่าทะเล เขตเกาะมันใน” ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันกับ ตำบลกำ ตำบลปากน้ำปะแส และตำบลเนินฆ้อ ตามรอยทางที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถให้ทรงอนุรักษ์ไว้ในกิจกรรมร่วมปล่อยเต่าคืนสู่ทะเล

ความสนุกที่ 2 ได้เยี่ยมชม “โครงการบ้านปลา ธนาคารปู” ชาวตำบลเนินฆ้อเป็นผู้นำร่องให้เกิดการขยายพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อนของประมงน้ำเค็ม และทำกิจกรรมซั้งเชือกเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยวางไข่เพาะพันธุ์สัตว์น้ำ ให้คนในพื้นที่นำขายหาเงินเลี้ยงชีพ รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไป

ความสนุกที่ 3 “ชมทิวทัศน์สองฝั่งประมงพื้นบ้าน” พร้อมดูฝูงเหยี่ยวแดงที่บินโฉบบนท้องฟ้าในยามเย็น

ความสนุกที่ 4 ได้เยี่ยมชม “สินค้าโอท็อปแปรรูปตำบลเนินฆ้อ” จากผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแห้ง และผลไม้ตามฤดูกาลครบวงจร ซึ่งเป็นอาหารคาว หวานที่โดดเด่นในการดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ปูแห้ง กุ้งแห้ง ปลาแห้ง หอยแมลงภู่แห้ง ปลาเค็ม ปลาหมึกอบเนย ปลาหมึกเค็ม ขนมใส่ไส้ ขนมบัวลอย ขนมฟักทองกวน ทุเรียนกวน

ส่วนเหตุการณ์พลิกชีวิตใหม่ชาวชุมชนประมงเนินฆ้อนั้น เกิดขึ้นเมื่อช่วงปี 2537 มีวิกฤตครั้งใหญ่ เพราะการทำประมงที่ไม่มีระบบ ถูกข่มเหงด้วยเครื่องมือประมงเชิงพาณิชย์ (เรือประมงใหญ่) โดยอวนลาก อวนลุน ลากพาสัตว์น้ำชายฝั่งทะเลสูญหายไปเป็นจำนวนมาก พร้อมกับเครื่องมือประมงพื้นบ้าน คือ อวนปู อวนปลา อวนกุ้ง สำหรับใช้อาศัยหากินตามแนวชายฝั่งก็สูญหายไปด้วยเช่นกัน อีกทั้งปัญหาลักเล็กขโมยน้อยเครื่องมือทำมาหากินก็มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

วิกฤตครั้งนั้นความเสียหายอันเกิดจากการเพาะเลี้ยงกุ้ง ที่ไม่มีระบบ โดยไม่มีการขึ้นทะเบียน บริหารจัดการการเพาะเลี้ยง โดยนายทุนรายใหญ่ได้บุกรุกเข้าไปยังพิ้นที่ป่าชายเลน แล้วนำมาใช้ทำเป็นบ่อเพาะเลี้ยง พร้อมกับมีการใช้เคมีในกระบวนการเลี้ยงที่ไม่ได้มาตรฐานในการชำระล้างฆ่าพาหะในบ่อให้ถูกสุขลักษณะ โดยไม่มีการพักน้ำที่มีสารเคมีในการชำระบ่อ แต่กลับปล่อยตรงลงคลองน้ำที่เกิดผลกระทบกับจำนวนทรัพยากรสัตว์น้ำวัยอ่อนที่อยู่ในป่าชายเลน เช่น กุ้งขาว กุ้งกุลาดำ หอยนานาชนิด รวมไปถึงหอยนางรม อันเป็นรายได้หลักชาวประมงพื้นบ้านลดน้อยถอยลงไป

อีกทั้งปัญหายังเป็นห่วงโซ่ให้เกิดปัญหาไปสู่การกู้หนี้ยืมสินกับครอบครัวชาวประมงเพื่อการมาลงทุน และค่าใช้จ่ายในครัวเรือนมากขึ้นในเวลาต่อมา กระทั่งทำให้ชุมชนต้องพลิกวิชีวิตใหม่ในปี 2545 รวมตัวตัดสินใจเดินหน้าทำงานร่วมกับหน่วยงานราชการ คือ กรมประมง กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบล วางแผนแก้ปัญหา ฟื้นฟู ให้กลับมาสู่ภาวะปกติ โดยได้กำหนดเขตพื้นที่ทำการประมง ต. เนินฆ้อ เป็นพื้นที่นำร่อง ในอาณาบริเวณ 1,500 เมตรจากชายฝั่ง ภายใต้กระบวนการที่สำคัญ 2 แนวทางขึ้นเมื่อปี 2558

ปัจจุบันกลายเป็น “กิจกรรม” เชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้าร่วมทำกันอย่างสนุกสนาน ท่องเที่ยวไปพร้อมกับสร้างประโยชน์คืนสู่ธรรมชาติ กับ 2 กิจกรรม คือ 1.การทำบ้านปลา (ปะการังเทียม) 2.การทำซังเชือก เพื่อใช้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำวัยอ่อนในเขตน้ำเค็ม สำหรับเพาะขยายพันธุ์สัตว์น้ำทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ปลา ปู กุ้ง หอยนานาชนิด หนึ่งในทางเลือกใหม่อันแสนสนุกสไตล์ MORE FUN ตะวันออก แถมยังได้ทำความดีคืนประโยชน์สู่สังคมอย่างเต็มเปี่ยม

ต้องชวนกันไปเที่ยวชุมชนประมงเนินฆ้อ ระยองฮิ กันมาก ๆ แล้วจะได้เห็นเมืองไทยในอีกมุมอันสวยงาม 

@5สิ่งบนฉลากอาหารรู้แล้วปลอดภัยต่อสุขภาพ 

ปัจจุบันบันมีอาหารเพื่อสุขภาพวางจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดมากมายหลายชนิด จึงควรทราบถึงคุณสมบัติของอาหารเพื่อสุขภาพได้จากการอ่านฉลากอาหารบนผลิตภัณฑ์ ว่าให้ประโยชน์และโทษต่อร่างกายอย่างไรบ้าง ต้องรู้ให้เคลียร์ 5 สิ่ง ดังนี้

1. Antioxidant สารต้านอนุมูลอิสระ -สารดังกล่าวจะช่วยปกป้องเซลล์ภายในร่างกายไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ (ได้แก่ มลพิษภายนอก อาหารการกิน การเผาผลาญอาหาร ในร่างกายหรือจากการรับประทานยา) สารต้านอนุมูลอิสระหารับประทานได้ง่ายจากผักและผลไม้หลากสี เช่น แครอท มะเขือเทศ แอปเปิล และผลไม้ตระกูลเบอร์รี ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามิน (วิตามินอีและวิตามินซี) ดังนั้น การรับประทานผักและผลไม้ให้มีความหลากหลายไม่จำเจก็จะทำให้ร่างกายเราได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน เกลือแร่และใยอาหารเป็นของแถมได้อย่างครบถ้วน

2. โอเมก้า 3 - เป็นกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ต้องรับประทานจากอาหารเท่านั้น อาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 เป็นอาหารจำพวกปลาทะเล, น้ำมันปลา, น้ำมันถั่วเหลือง และเมล็ดแฟล็ก เป็นต้น โอเมก้า 3 มีความจำเป็นต่อโครงสร้างเซลล์ทำให้ผนังเซลล์มีความยืดหยุ่น ลดภาวะการอักเสบของร่างกายและสามารถควบคุมระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้อีกด้วย ทั้งนี้การรับประทานอาหารเสริมโอเมก้า 3 ในผู้ป่วยควรอยู่ภายใต้คำแนะนําของแพทย์ เนื่องจากโอเมก้า 3 ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดทำให้เลือดแข็งตัวช้าอาจเกิดอันตรายต่อผู้ที่กำลังเข้ารับการผ่าตัดหรือผู้ที่ทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด

3. Probiotic โพรไบโอติก - นมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตที่เรากินกันเป็นประจำมีส่วนผสมของ Probiotic ซึ่งเป็นชื่อจริงของเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิตชนิดดี มีส่วนช่วยในระบบขับถ่ายของเรา รักษาสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้และเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ในบางครั้งที่เราเจ็บป่วยแล้วมักรับประทานยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น อาจทำให้แบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ถูกกำจัดไป และทำให้ร่างกายไม่สบายได้ การรับประทาน Probiotic จะสามารถช่วยเติมแบคทีเรียที่ดีให้กับร่างกายและทำให้ลำไส้กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง

4. Sugar Free ปราศจากน้ำตาล - หมายถึงผลิตภัณฑ์ที่ไม่เติมน้ำตาล หรือมีน้ำตาลน้อยกว่า 0.5 กรัมต่อหน่วยบริโภค โดยสามารถพบทั่วไปบนฉลากลูกอมหมากฝรั่งหรือน้ำอัดลม ผลิตภัณฑ์ ดังกล่าวอาจมีการเติมสารให้ความหวานแทนน้ำตาล เช่น Xylitol (ไซลิทอล), Aspatame(แอสปาแตม) สารเหล่านี้ให้พลังงานน้อยมาก มีงานวิจัยของสมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา (American Heart Association) เกี่ยวกับการดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวาน ทั้งในกลุ่มที่ใส่น้ำตาลและในกลุ่มที่ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล พบว่าเพิ่มโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดในสมอง และโรคความจำเสื่อมได้

 ดังนั้น การรับประทานแต่พอดีไม่หวาน และไม่บ่อยจนเกินไป อาจจะเป็นทางออกที่มีความสุขที่สุด

 5. Gluten กลูเตน - คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบได้ในธัญพืช (Cereal) บางชนิด เช่น ข้าวสาลี ข้าวไรย์ และข้าวบาร์เลย์ ผลิตมาในรูปแบบของขนมปัง เส้นพาสต้า ซีเรียล ที่จะทำให้เนื้อแป้งขนมปังมีการขึ้นฟู ดังนั้นการรับประทานกลูเตนจึงไม่ได้เกิดผลร้ายต่อผู้บริโภคทั่วไป แต่เราอาจเคยเห็นฉลากอาหาร Gluten-free ในที่นี้หมายถึงอาหารที่ปราศจากกลูเต็น สำหรับผู้ป่วยโรคแพ้กลูเตน (แพ้แป้งสาลี) เนื่องจากผู้ป่วยเหล่านี้เมื่อรับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อนของกลูเตนจะมีอาการท้องอืด เป็นผื่นตามข้อศอกและหัวเข่า รวมถึงลำไส้อักเสบได้

นอกจากการดูฉลากแล้ว สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงก็คือ ลักษณะอาหาร เช่น สี และร่องรอยการเสียจากจุลินทรีย์ สภาพภาชนะบรรจุซึ่งต้องมีสภาพสมบูรณ์ ไม่มีรอยฉีกขาด รั่วซึม บุบ บวม หรือบู้บี้ รวมถึงสภาวะการเก็บรักษาซึ่งต้องมีความเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “แอร์เอเชียชิงเปิด3จุดบินใหม่เวียดนามโกยเงินสงกรานต์ปี’62”

หลังจากมีข่าวฮือฮาว่า “ไทย แอร์ เอเชีย” เจ้าตลาดโลว์คอสต์แอร์ไลน์สนใจจะเข้าซื้อหุ้นของนกแอร์ที่กลุ่มจุฬางกูรถือครองอยู่กว่า 21 % แต่ในท้ายที่สุดได้ทำหนังสือชี้แจงไปยังตลาดหลักทรัพย์เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ระบุยังไม่ได้กระทำธุรกรรมใด ๆ แต่อย่างไรก็ตามประเด็นดังกล่าวยังคงถูกจับตามาจนถึงขณะนี้ถึงดีลการซื้อขายดังกล่าวในอนาคตอันใกล้นี้

 ขณะที่ นางสาวณัฏฐิณี ตะวันชุลี ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ ไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า เตรียมต้อนรับการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ โดยจะบินเพิ่มระหว่างไทย-เวียดนาม รวม 3 เส้นทางใหม่ ได้แก่ 1.เชียงใหม่-ดานัง เริ่มบินอย่างเป็นทางการ 12 เมษายน 2562 เป็นต้นไป ด้วยราคาตั๋วเที่ยวละ 1,090 บาท/ที่นั่ง เข้าไปซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ -10 มีนาคม 2562 ที่ www.airasia.com 2.กรุงเทพฯ-เกิ่นเทอ 3.กรุงเทพฯ-ญาจาง

แอร์เอเชียทำสถิติปี 2561 ให้บริการผู้โดยสารไทย-เวียดนาม เข้าออกรวม 7.6 แสนคน สร้างอัตราการขนผู้โดยสารเฉลี่ย 87% มีสัดส่วนผู้โดยสารมากถึง 19 % ของผู้โดยสารในกลุ่มประเทศกัมพูชา-สปป.ลาว-เมียนมา-เวียดนาม (CLMV) ยอดรวม 2.2 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 10% ของผู้โดยสารทั้งหมด

ทางด้านกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวเวียดนาม ระบุปี 2561 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าเวียดนาม15.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.9% เป็นชาวเอเชียมาสุด12.9 ล้านคน

ข่าวที่สอง “บินไทยงัดขายตั๋วเด็กบินทั่วเอเชียสุดฟินเริ่มที่5,815บาท” 

นายกรกฏ ชาตะสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย-ประเทศไทย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยได้ทำโปรโมชั่นแรง ๆ ตั๋วเด็กอายุระหว่าง 12-25 ปี Youth Fun Zone “Fly ให้สุดฟิน บินให้สุด Fun” ระหว่าง 3 มีนาคม-31 กรกฏาคม 2562 ราคาไป-กลับ แบบฟิน ๆ เริ่มเพียง 5,815 บาท

โดยมีเส้นทางบินยอดนิยม ไป-กลับ ให้เลือกอย่างหลากหลาย ได้แก่ กรุงเทพฯ-ฮ่องกง กรุงเทพฯ-ไทเป กรุงเทพฯ สู่ญี่ปุ่น 5 เมือง คือ โตเกียว โอซากา นาโกยา ฟุกุโอกะ และซัปโปโร ซึ่งผู้โดยสารจองและออกตั๋วได้ตั้งแต่วันนี้ -31 มีนาคม 2562 และใช้เดินทางได้ในวันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี ตั้งแต่ 3 มีนาคม-31 กรกฏาคม 2562 ราคาโปรโมชั่นตั๋วเด็ก ประกอบด้วย

1.Fly สุดฟิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ฮ่องกง ราคาต่อท่านเริ่มต้นเพียง 5,915 บาท
 2.บินสุด Fun ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ไทเป ราคาต่อท่านเริ่มต้นเพียง 5,815 บาท
3. Fly สุดฟิน บินสุด Fun เส้นทางกรุงเทพฯ สู่ โตเกียว/ โอซากา/ นาโกยา/ ฟุกุโอกะ/ ซัปโปโร ไป-กลับ ราคาเริ่มต้นเพียง 12,135 บาท
ดูรายละเอียดที่ thaiairways.com

ข่าวที่สาม “ทอท.ชงครม.สร้างรันเวย์3สุวรรณภูมิ2.2หมื่นล้าน” 

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้เร่งทบทวนโครงการก่อสร้างทางวิ่ง (runway) ที่ 3 สนามบินสุวรรณภูมิ ด้านทิศตะวันตกของสนามบินสุวรรณภูมิ ในวงเงิน 2.2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากงานก่อสร้างทางขับ หรือแท็กซี่เวย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 สนามบินสุวรรณภูมินั้น ต้องประกาศยกเลิกการประมูลการออกแบบ เพราะการเสนอแผนดำเนินงานยังไม่มีความชัดเจน ทอท. จึงขอตัดโครงการก่อสร้างแท็กซี่เวย์ออกไปก่อน พร้อมกับปรับลดงบก่อสร้างลงไปด้วย 100 ล้านบาท

 ส่วนโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 สนามบินสุวรรณภูมิ ที่ล้มการประมูลตามมติบอร์ด ทอท.นั้น โดยกระทรวงคมนาคมยินดีที่จะรับพิจารณาหาก ทอท. เสนอเรื่องกลับมาอีกครั้ง เพื่อเดินหน้าครั้งใหม่ก็ต้องชี้แจงและอธิบายถึงความจำเป็นรวมถึงหากไม่สร้างจะส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง

 ข่าวที่สี่ “แอคคอร์งัดโปรดักซ์ใหม่รุกกวาดตลาดโรงแรมทั่วโลก” 

แอคคอร์ เครือข่ายโรงแรมชั้นนำระดับสากล ลงทุน 225 ล้านยูโร เปิดโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ “ALL-Accor Live Limitless” โปรแกรมรอยัลตี้ที่จะตอบทุกไลฟ์สไตล์ในบริการของเครือข่ายแอคคอร์อย่างไม่รู้จบ จะเร่งทำให้แล้วเสร็จพร้อมใช้ภายในช่วงปลายปี 2019 เป็นต้นไป ด้วยการเชื่อมสิทธิประโยชน์ รางวัล บริการ รวมถึงประสบการณ์ประทับใจที่ตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์ใหม่ภายใต้ชื่อ all.accor.com ALL-Accor Live Limitless เปิดโอกาสให้สมาชิกสัมผัสกับแบรนด์โรงแรมในเครือข่ายกว่า 30 แบรนด์โรงแรม ร้านอาหาร บริการ ประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ และยังรองรับการทำงาน ทั้งบันทึกข้อมูลจดจำ ดูแล สื่อสารและให้รางวัลสมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้กลยุทธ์ต่างๆ ได้แก่

เปิดตัวสมาชิกระดับพรีเมี่ยม ด้วยสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจและเพิ่มคุณค่าแห่งบริการ พร้อมทั้งการเชื่อมต่อประสบการณ์เหนือระดับจากทั่วโลก สรรหาพันธมิตรชั้นนำที่จะร่วมมอบประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟ อาทิ ขยายความร่วมมือกับ AEG บริษัทชั้นนำของโลกด้านโปรแกรมกีฬาและการแสดงเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของอีเวนท์ดังของโลก

 และร่วมมือกับ IMG ในการเข้าร่วมเชฟมาสเตอร์คลาสและประชันฝีมือปรุงอาหารตั้งแต่ปี 2020 และเข้าร่วมเทศกาล Taste Festivals ที่ลอนดอน, ปารีส, เซาเปาโล, ฮ่องกง และโทรอนโต ร่วมกับสโมสรฟุตบอล Paris Saint-Germain Football Cub เพื่อเป็นพันธมิตรหลักและเป็นผู้สนับสนุนเสื้อเจอร์ซี่อย่างเป็นทางการของสโมสร เริ่มต้นจากฤดูกาล 2019/2020 เพื่อนำเสนอสิทธิประโยชน์ได้อย่างตรงใจผู้ชื่นชอบกีฬาต่อไป

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM97.0 MHz. 

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คิลัมนิสต์และผู้ดำเนินรายการ