ททท.จัดกระหึ่ม2เทศกาลใหญ่ภาคตะวันออก "ทัวร์ทุเรียนเลิฟเวอร์สงกรานต์ชุมชน270ปี More Fun ระยองสนุกทุกแหล่งใหม่คราดหอยทำซั้ง
ททท.ตะวันออกจัดกระหึ่มทัวร์ทุเรียนเลิฟเวอร์
ปลุกกระแสเที่ยวสงกรานต์ชุมชน270ปีจันทบุรี
คิงเพาเวอร์ชวนสมาชิกช้อปซัมเมอร์รับ500บ.
ททท.ฉลอง59ปี18มี.ค.ชวนบริจาคมูลนิธิสืบฯ
แอพUTUหนุน”อะเมซิ่งไทยเท่”แจกพิเศษอื้อ
เติมไฮดีเซลSบางจาก700บาทรับน้ำฟรี2ขวด
มูลนิธิปิดทองชูCSRชุมชนโคกล่าม-แสงอร่าม
MoreFunระยองสนุกใหญ่คราดหอยทำซั้ง
เลี่ยง4พฤติกรรมต้องห้ามที่จะทำให้หลังพัง
เชนโรงแรมไทย-อินเตอร์3ปีหน้าผุดแสนห้อง
ไทยสไมล์อัดโปรบินใหม่กัลกัตตา3,740บาท
เท90ล้านขยายสนามบินสกลรับ1.7ล้านคน
อนันตราสยามชวนลดโลกร้อนดับไฟ30มี.ค.
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าว #เที่ยวกับกู๋ #วันธรรมดาน่าเที่ยว #MoreFun #TATตะวันออก
ช่วงที่ 1 อะเมซิ่งกับ “วิบูลย์ นิมิตรวานิช” ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดกระหึ่มรับฤดูท่องเที่ยวแพ็คคู่ 2 เทศกาล งานแรก “ทุเรียนเลิฟเวอร์-ทัวร์สวนผลไม้” ปลุกเร้าสาวกทุเรียนออกไปสนุกสุดมันส์แสนฟินตลุยกินทุเรียนหลากสายพันธุ์ไล่จากทุเรียนนมสดปราจีนบุรี สระแก้ว ทุเรียนพันธุ์ใหม่จันทบุรี1-10 ทุเรียนดั้งเดิมระยอง ชะนีเกาะช้างตราด กินเสร็จ เที่ยวต่อ งานที่สอง “สงกรานต์ชุมชนตะปอน จันทบุรี” ชมและลองลงแข่งชักเย่อเกวียนพระบาทกับเหล่าคุณยาย ย่า ตา ปู่ ที่ยังคงอนุรักษ์ประเพณีเก่าแก่กว่า 400 ปี ให้คงอยู่ เที่ยวแต่ละทีได้ครบทั้งความรู้เรื่องกินอาหารถิ่นและสุขภาพ ความสนุกในกิจกรรมหลากหลาย และความสุขเมื่อได้ใช้เงินอย่างคุ้มค่ากระจายถึงมือชาวบ้านทุกชุมชน
วิบูลย์ นิมิตวานิช” ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เ |
ขณะที่ “จันทบุรี-ระยอง-ตราด” ปีนี้ผลผลิตจะออกเร็วกกว่าทุกปีตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป ปีนี้ชาวสวนทุเรียนตื่นตัวจัดมหกรรมท่องเที่ยว ปักหมุดแรกใน “ระยอง” เริ่มตั้งแต่สวนยายดา เรื่อยไปอีกกว่า 20 สวน มีทั้งสวนทุเรียนและผลไม้อื่น ๆ ผสมผสาน ต่อด้วย “จันทบุรี” เน้นทุเรียนที่มีความหลากหลายพันธุ์
โดยเฉพาะที่ “ศูนย์พัฒนาไม้ผลตามพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี” ตั้งอยู่ในอำเภอมะขาม นั้นนักท่องเที่ยวจะได้ชมและชิมทุเรียนสายพันธุ์ใหม่ขึ้นชื่อตั้งแต่จันทบุรี 1-10 เป็นศูนย์ศึกษาวิจัยนำพันธุ์ตั้งต้นคือทุเรียนชะนีมาผสมกับสายพันธุ์อื่นจนได้ทุเรียนพันธุ์จันทบุรีแต่ละชนิด สร้างรสชาติความอร่อยแตกต่างกันไป มีทั้งหอม หวาน มัน นุ่ม เช่น จันทบุรี 1 เป็นพันธุ์ผสมของชะนีกับหมอนทอง จันทบุรี 2 ชะนีกับพวงมณี จันทบุรี 3 ชะนีกับก้านยาว เป็นต้น
ภายในบริเวณ “สวนของพ่อ-ศูนย์พัฒนาไม้ผลตามพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี” มีพื้นที่ปลูกผลไม้รวมประมาณ 109 ไร่ เป็นแปลงทดลองเพาะปลูกผลไม้ภาคตะวันออกด้วยการบูรณาการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงาน สร้างสวนผสมผสานเปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้าไปชมและชิมได้ทุกช่วงฤดูสวนผลไม้ มีทั้งทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง ขนุน และอื่น ๆ รวมทั้งมีบ้านพักโฮมสเตย์ 5 หลัง นักท่องเที่ยวสามารถจองพักค้างคืนได้
ปี 2562 ในจันทบุรีได้จัดมหกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสวนผลไม้ โดยสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจันทบุรีระดมโรงแรมที่พักคุณภาพดี 27 โรงแรม ให้ราคาพิเศษพร้อมแจกคูปองส่วนลดที่ ททท.นำมามอบให้ใบละ 100 บาท เพื่อนำไปใช้ในการเข้าไปรับประทานผลไม้ตามสวนต่าง ๆ ซึ่งมีให้เลือกหลายรูปแบบตามปริมาณต้องการจากมากไปหาน้อย หรือซื้อกลับบ้านได้ด้วย ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 250-500 บาท
ช่วงเดือนเมษายน นี้ จะผนวก 2 เทศกาลใหญ่ปลุกกระแสการท่องเที่ยวจันทบุรี คือ เทศกาลแรก การท่องเที่ยวสวนผลไม้ และเทศกาลที่ 2 เที่ยวสงกรานต์ชุมชนตะปอน โดย ททท.ภาคตะวันออก ได้ร้อยเรียงการท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน
โดยเฉพาะไฮไลต์การท่องเที่ยวสงกรานต์ชุมชนตะปอนน้อย-ตะปอนใหญ่ นับเป็นกิจกรรมหนึ่งเดียวในเมืองไทยคือประเพณี “แห่ผ้าพระบาท-ชักเย่อเกวียนพระบาท” จะเริ่มตั้งแต่ 13-17 เมษายน 2562 ส่วนสงกรานต์ในจันทบุรีจะเล่นกันอย่างสนุกสนานได้ถึงสิ้นเดือนเมษายน นี้
ตามโปรแกรม “สงกรานต์ตะปอน” ในวันที่ 12 เมษายน นี้ จะเริ่มเล่นสงกรานต์กลางคืนบริเวณในตัวเมือง แล้วไล่เรียงต่อไปตามสถานที่ต่าง ๆ ตั้งแต่ 13 เมษายน ส่วน 15-16 เมษายน เข้ามายังอำเภอขลุง จากนั้นก็ขยายไปถึงจังหวัดตราด แล้วในภาคตะวันออกก็ยังมีสงกรานต์วันไหลที่พัทยา และอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จัดวันไหลจนถึง 30 เมษายน 2562 เป็นการท่องเที่ยว 2 เทศกาลอย่างคึกคักแห่งปี 2562 ท่องเที่ยวสวนผลไม้กับสงกรานต์ตอบโจทก์ธีมตลาดการขายท่องเที่ยวภาคตะวันออกสู่ MORE FUN
ผอ.วิบูลย์กล่าวว่า ททท.ตลอดการท่องเที่ยวเทศกาลผลไม้และสงกรานต์ตามจังหวัดต่าง ๆ ในภาคตะวันออก ยังมุ่งเน้นรณรงค์ให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวหันมาใช้ถุงผ้า ถือกระบอกน้ำติดตัวไว้เติมน้ำดื่มโดยไม่ต้องซื้อน้ำขวดพลาสติก รวมถึงสอนเรื่องการรับประทานผลไม้อย่างถูกวิธี ดีต่อสุขภาพ โดยได้สอดแซกองค์ความรู้ระหว่างนำนักท่องเที่ยวชมสวนผลไม้ เจ้าของสวนจะเล่าเรื่องอธิบายถึงสายพันธุ์ของทุเรียนและผลไม้แต่ละชนิดกว่าจะมาของอร่อยให้เราทุกคน และการดูลักษณะ การปอก ซึ่งการนำชมสวนแต่ละแห่งมีความโดดเด่นไม่เหมือนกัน
บางสวนปลูกทุเรียนอย่างเดียว บางสวนปลูกผลไม้แบบผสมผสาน เรื่อยไปจนถึงการได้ถ่ายรูปกับแต่ละช่วงของผลไม้ตั้งแต่เริ่มติดดอก มีขั้นตอนการพัฒนาหลายระยะก่อนจะเป็นผลต้องใช้เวลา 4-6 เดือน และวิธีการศึกษาผลไม้ดูได้อย่างไรว่าสุกหรือไม่ กระทั่งเก็บผลผลิตมารับประทาน ซึ่งเป็นการสอนให้ศึกษาเรียนรู้ถึงการใส่ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ผอ.วิบูลย์ อธิบายว่า ททท.ได้กำหนดจุดแจกคูปองมอบส่วนลดการเที่ยวสวนผลไม้ 100 บาท ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ 1.แจกในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2562 และ 2.โรงแรมในจันทบุรีที่เข้าร่วมโครงการ 27 โรงแรม เมื่อนักท่องเที่ยวเช็คอินเข้าพักตามโรงแรมดังกล่าวก็จะได้รับคูปองทันที เพื่อนำไปใช้ตามสวนผลไม้ที่เข้าร่วมโครงการ 19 สวน
ทั้งนี้คูปองส่วนลดของ ททท.จะเริ่มใช้ได้จริงในจันทบุรีเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป เพื่อรอให้ทุเรียนแต่ละสวนสุกพร้อมรับประทานได้อย่างจุใจ สำหรับ “ตราด” จะมีความน่ารัก “ชิมทุกไร่ กินไปทุกสวน” มีให้เลือกมากถึง 7 สวนด้วยกัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาชิม แนะนำว่าต้องห้ามพลาดการไปลองชิมทุเรียน “พันธุ์ชะนีเกาะช้าง” จะออกผลประมาณเดือนพฤษภาคมนี้ ทางสวนจะเปิดให้จองล่วงหน้าราคาขายกิโลกรัมละ 200 บาท แต่ถ้าไปซื้อหน้าสวนก็ได้แต่ขึ้นอยู่กับจะได้ของคุณภาพดีมากหรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับช่วงจังหวะอาจจะสุกไม่ทันตอนเดินทางไปเที่ยวก็ได้ นับเป็นความอร่อยของทุเรียนแต่ละสายพันธุ์ที่ดึงดูดให้คนรักทุเรียนแห่แหนกันเข้าไปท่องเที่ยวตลอด
ผอ.วิบูลย์ย้ำว่า ในการเดินทางท่องเที่ยวสวนผลไม้ภาคตะวันออก More Fun ไปกับมหกรรม “ทุเรียน เลิฟเวอร์” นั้น ตั้งเป้าหมายกระตุ้นกลุ่มกำลังซื้อหลัก คือ กลุ่มคอร์ปอเรต บริษัท ห้างร้าน องค์กร สามารถนำพนักงานประชุมสัมมนา ศึกษาดูงาน โดยวางโปรแกรมจัดตารางสัมมนาหรือทำกิจกรรมให้ตรงกับช่วงเทศกาลแล้วเลือกพักโรงแรมที่แจกคูปองก็จะได้ความคุ้มค่า
เสร็จจากสวนทุเรียน ก็สามารถเดินทางต่อไป “บ้านป้าแกลบ เขาบายศรี อำเภอท่าใหม่” ศูนย์รวมการทำกิจกรรม D.I.Y.มีทั้งให้ทดลองกวนทุเรียน ทำแพกเกจผลไม้แปรรูป โดยได้ช่วยชุมชนในเรื่องกระจายตัวจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้การท่องเที่ยวสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง
ในการเดินทางท่องเที่ยวภาคตะวันออก เน้นการนำเสนอ 2 สินค้าหลัก ได้แก่ 1.การท่องเที่ยวเทศกาลสวนผลไม้ แต่ละปีจะโดดเด่นมากตั้งแต่เมษายน-กรกฎาคม ของทุกปี และ 2.การท่องเที่ยวอาหาร(ถิ่น) ทะเล ซึ่งหารับประทานได้ตลอดทั้งปี แต่สิ่งสำคัญของการท่องเที่ยวแล้วสามารถอุดหนุนชุมชนได้ตลอดทุกวันคือ ซื้อผลไม้แปรรูป เช่น ทุเรียน ปัจจุบันแปรรูปหลายรูปแบบทั้งทอดกรอบ สแน็คเป็นแท่ง กวน และอื่น ๆ เช่นเดียวกับผลไม้อีกหลายชนิดก็แปรรูปได้ในหลายลักษณะ
ส่วนอาหารทะเลสามารถซื้อได้ทั้งแบบสดและแปรรูปมากมาย เป็นกลยุทธ์ส่งเสริมการกระจายรายได้ของนักท่องเที่ยวสู่ชุมชนภาคตะวันออกทั้งผลไม้และอาหารทะเล ทำให้เกิดความสนุกหรือ MORE FUN ครบวงจร ทั้ง “เที่ยวสนุก-กินสนุก-ช้อปสนุก” โดยมีความตื่นเต้น ท้าทาย อีกทั้งยังมีตลาดต่าง ๆ มากมาย
ตัวอย่างจันทบุรี แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมซึ่งสามารถเที่ยวได้ทุกวัน คือ ตลาดริมน้ำจันทบูร ชุมชนหลังวัดโบสถ์คริสต์ ตลาดตะปอนโบราณย้อนยุค 270 เปิดทุกวันเสาร์ ทางกลุ่มชาวบ้านจะนำผลผลิตตนเองมาแลกเปลี่ยนจำหน่ายกันเองและขายนักท่องเที่ยวด้วย หรือ “ชุมชนบางกะ” ก็เป็นเส้นทางพลอย ร่อนพลอยเหล็กเพชรให้นักท่องเที่ยวลงไปขุดมาร่อนจ่ายแค่เพียงคนละ 100 บาท จากนั้นก็เดินชม “ตลาดทุบหม้อ” และลองไปท่องเที่ยวตามเส้นทางใหม่ ในอำเภอท่าใหม่ แนะนำเรื่องการกิน ก๋วยเตี๋ยวมังกร ก๋วยเตี๋ยวหมูเรียง-เนื้อเรียง และชุมชนเขาบายศรี
แล้วก็แวะ “บ้านป้าแกลบ” เป็นศูนย์รวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลผลิตผลไม้ กิจกรรมทำ D.I.Y. เป็นเส้นทางแวะเช็คอิน ซื้อของท้องถิ่น ก่อนกลับกรุงเทพฯ
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ชวนสมาชิกช้อปรับทันทีคูปองลด500บาท”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนร่วมมหกรรมส่งเสริมการขาย Get Free 500 บาท ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต และมหานคร ระหว่างวันนี้ – 31 มีนาคม 2562 พิเศษ! เฉพาะสมาชิกคิง เพาเวอร์ ช้อปครบ 4,000 บาทขึ้นไป(สุทธิ) รับทันทีคูปองส่วนลด 500 บาท สำหรับช้อปสินค้าครบ 1,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จรับเงิน (จำกัด 1 สิทธิ์ / ท่าน / วัน)
มีกติกาง่าย ๆ ให้ร่วมช้อปดิวตี้ฟรีคิง เพาเวอร์ สาขาต่าง ๆ อย่างเพลิดเพลิน คือ 1.เลือกช้อปเฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ ตรวจสอบสินค้าร่วมรายการเพิ่มเติมที่จุดขาย 2.ยอดเงินในบัตรสมาชิกที่ได้รับจากการสมัครบัตรสมาชิก สามารถร่วมรายการได้ 3.เลือกจ่ายแบบผ่อนชำระ 0% 4.ช้อปเต็มที่ผ่านบัตรเครดิตร่วมคิง เพาเวอร์กับธนาคารไทยพาณิชย์ และกสิกรไทย 5.คูปองส่วนลด สามารถใช้ได้ที่คิง เพาเวอร์ (รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต มหานคร) ซึ่งหมดอายุภายในวันที่ทำการแลกรับคูปองดังกล่าว
สอบถามได้ที่ คอล เซ็นเตอร์ 1632 และดูเพิ่มที่ www.kingpower.com
ข่าวที่ 2 “ททท.ครบ 59 ปีชวนร่วมบริจาคมูลนิธิสืบนาคะเสถียร
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมนำผู้บริหารและแขกผู้มีเกียรติร่วมพิธีจัดงานวันคล้ายวันสถาปนา ททท. ครบรอบ 59 ปี ในวันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2562 ณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ โดยเชิญชวนร่วมบริจาคสมทบทุนมูลนิธิสืบนาคะเสถียร สามารถบริจาคเป็นเงินสดหรือเช็คสั่งจ่ายในนาม “มูลนิธิสืบนาคะเสถียร” แล้วนำใบเสร็จดังกล่าวไปลดหย่อนภาษีได้ รวมทั้งมีนโยบายงดรับกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดีในวันงานด้วย
โดยเป้าหมายปี 2562 ททท.ยังคงมุ่งนั้นเป็นองค์กรความเป็นเลิศด้านการตลาดท่องเที่ยว ที่จะนำรายได้จากนักท่องเที่ยวเข้าประเทศให้ได้ตามเป้า 3.4 ล้านล้านบาท จากตลาดเที่ยวในประเทศ 1.2 ล้านล้านบาท และต่างประเทศเที่ยวไทยอีก 2.2 ล้านล้านบาท
ส่วนกิจกรรมในวันสถาปนา ททท.ครบรอบ 59 ปี เริ่มช่วง 9.00 น. จัดให้มีพิธีบวงสรวงเจ้าแม่จามเทวี ณ ลานสนามเปตอง ด้านหลังอาคารจอดรถ 10.00 น.ร่วมสักการะ “พระพุทธชัยวัฒน์ ประทานพร ททท.” พร้อมสักการะรูปเหมือน จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ณ ห้องโถง ททท. ตามด้วยพิธีสงฆ์ ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 10 ททท. และเชิญผู้บริหาร พนักงาน พร้อมแขกผู้มีเกียรติ ร่วมรับประทานอาหารกลางวันด้วยกันบริเวณห้องอาหาร ททท.
ข่าวที่ 3 “ททท.ชูเที่ยวช้อปผ่านแอพUTUรับเพียบถึง19ก.ย.62”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า ได้ร่วมมือกับแอพลิเคชั่น UTU ปลุกกระแสท่องเที่ยวในโครงการ “Amazing ไทยเท่” ระวห่างวันนี้ -19 กันยายน 2562 พร้อมรับคะแนนสะสมพิเศษ UTU Points กว่า 15,000 คะแนน ในการชวนทุกเพศ ทุกวัย ออกมาเดินทางสร้างประสบการณ์ใหม่ในประเทศ 5 ภูมิภาค โดยเฉพาะการท่องเที่ยวชุมชน และเมืองท่องเที่ยวรอง ที่มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ด้วยการรับเลยสิทธิพิเศษเมื่อจองที่พัก เติมน้ำมัน จองตั๋วเครื่องบิน รถทัวร์ รถไฟ ค่าอาหารเครื่องดื่ม แคมเปญนี้ยังชวนนักท่องเที่ยวช้อปปิ้งเท่ ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน UTU
สนุกกับการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต และบัตรเดบิตได้ทุกยอดใช้จ่ายขั้นต่ำ 500 บาท รับ 100 UTU Points สามารถใช้สะสมคะแนนพิเศษ UTU Points เพื่อนำไปใช้กับร้านเครือข่ายพันธมิตรทั่วประเทศ ในการแลกรับสิทธิพิเศษ และ cash back ได้สูงสุดถึง 100% เมื่อมีคะแนนสะสมพิเศษ UTU Points 1,000 Points แลกรับแคชแบ็คมูลค่า 200 บาท ส่วนผู้ที่โหลดแอฟ UTU ลงทะเบียน และเพิ่มบัตรเครดิตใบแรก ตั้งแต่วันนี้ถึง 19 กันยายนนี้ รับคะแนนฟรี 100 UTU Points
ส่วนลูกค้าที่มีบัตรเครดิต ธนาคารออมสิน เพียงแค่เพิ่มบัตร รับฟรี Starbucks Card 100 บาท เข้าไปดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น UTU พร้อมลงทะเบียนได้ช่องทาง iOS : https://apple.co/2GHtoYP Android : http://bit.ly/2ti8HuD หรือติดตามที่ https://th.utu.global/amazing-thai-tae/ และwww.facebook.com/utuglobalth
ข่าวที่ 4 “เติมบางจากไฮพรีเมียมดีเซลSครบ700รับฟรีน้ำ2ขวด
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชวนนักขับเลือกเติมน้ำมันบางจาก ไฮพรีเมียมดีเซล S ครบทุก 700 บาท รับฟรีน้ำดื่มขนาด 1.5 ลิตร 2 ขวดมูลค่า 30 บาท ตั้งแต่วันนี้ - 30 เม.ย. 62 โดยมีปั๊มบางจากที่ร่วมรายการมากกว่า 227 ปั๊ม ดูรายชื่อปั๊มที่ร่วมรายการได้ที่ www.bangchak.co.th
พิเศษ! สมาชิกบัตรบางจาก เติมบางจากไฮพรีเมียมดีเซล S รับคะแนนสะสม คูณ 2 (มูลค่าส่วนลดสูงสุด 10 สต./ลิตร) ตั้งแต่ 1 พ.ย. 61 - 30 เม.ย. 62 ดูรายละเอียดได้ที่ www.bcpgreenmiles.com
ข่าวที่ 5 “มูลนิธิปิดทองชวนทำ3CSRในโคกล่าม-แสงอร่าม”
นายวรากร วงศ์สิทธิ์ หัวหน้างานพื้นที่โครงการปิดทองหลังพระ เปิดเผยว่า ในการดูแลรับผิดชอบพื้นที่โครงการต้นแบบ “บ้านโคกล่าม-แสงอร่าม” ตำบลกุดหมากไฟ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี มีกิจกรรมที่คอร์ปอเรต องค์กร หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถเข้ามาร่วมทำซีเอสอาร์ร่วมกับชุมชนและมูลนิธิฯ ได้ โดยมีกิจกรรมคืนประโยชน์สู่สังคมร่วมกับชุมชนต้นแบบ “บ้านโคกล่าม-แสงอร่าม” ได้แก่
1.การทำฝายอนุรักษ์พื้นที่ต้นน้ำ เพื่อยังประโยชน์ให้เกษตรกรบนที่สูงได้ใช้น้ำเพื่อประกอบอาชีพทางการเกษตร 2.การร่วมปลูกป่ากับชาวบ้านเพื่อทำให้พื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืนในระยะยาวในบริเวณตำบลกุดหมากไฟ 3.การเข้ามาร่วมศึกษาเรียนรู้วิถีเกษตรชุมชน ซึ่งได้เดินหน้าพัฒนาอาชีพเกษตรกลุ่มต่าง ๆ มีทั้งการแปรรูปโรงสีข้าว การทำฐานการเกษตรทฤษฎีใหม่ ทำให้เกิดความมั่นคง ยั่งยืน แก่เศรษฐกิจฐานราก อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังจะได้ช่วยอุดหนุนผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน กระจายรายได้ถึงมือชาวบ้านได้ด้วย
ช่วงที่ 2 แนะนำไป More Fun ที่ระยองกับแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ สนุกได้ทุกวัน 3 วัน 2 คืน กับการค้นหาวิถีประมง แหล่งทำกิจกรรมซีเอสอาร์ ดูการขึ้นอวนปู ปลา สด ๆ ใน 2 ชุมชน “ชุมชนประมงพื้นบ้านสวนสน” กับ “อ่าวมะขามป้อม” ปักหมุดตรงทุ่งโปรงทองล่องเรือเลาะป่าไปลุยเลนคราดหอยตลับ หรือจะปีนสะพานวัดใจตรงชุมชนรักษ์แสม ทำซั้งเชือกสร้างบ้านปู หอย ปลา และอีกมากมาย และขอเตือน “4 พฤติกรรมทำหลังพัง” ระวังต้องแก้โดยด่วน ส่วนข่าวต้องยกให้ “โรงแรมเชนไทย-อินเตอร์” แห่ลงทุนเพิ่ม 3 ปีหน้าอีกกว่า 1 แสนห้อง “ไทยสไมล์” อัดโปรตั๋วเส้นทางบินใหม่ กรุงเทพฯ – กัลกัตต้า (อินเดียตะวันออก) เหลือแค่เที่ยวละ 3,740 บาท เริ่มบิน 31 มี.ค.นี้ สัปดาห์ละ 5 เที่ยว “เท90 ล้านขยายสนามบินอุดร” กรมท่าอากาศยานหวังปี’63 รับผู้โดยสารเพิ่มได้ปีละ 1.7 ล้านคน และ “โรงแรมอนันตราสยาม” ชวนปิดไฟลดโลกร้อน คืนวันที่ 30 มี.ค.นี้ จากนั้นเปิด “แอควา บาร์” ให้กินของว่างอย่างเอร็ดอร่อย
@ More Funระยองท่องเที่ยวแหล่งใหม่ๆสนุกทุกวัน ออกสตาร์ตจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ระยอง โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 344 ท้องเริ่มหิวก็มองหามื้อกลางวันจุดแรก “ร้านโจโจ้” มีเมนูท้องถิ่นทะเลอร่อยให้เลือกตามชอบ เติมพลังให้เต็มที่ เพื่อจะไปลุยชมสวน “สละพิชัย” ลงมือเขี่ยดอกสละ ผสมเกสรต้นสละ พร้อมกับเดินชมกว้างใหญ่กว่า 80 ไร่ ดูกรรมวิธีแปรรูปสละแช่อิ่มอร่อยสุดในประเทศ การท่องเที่ยวเชิงเกษตร โทร. 087-686-0418
พอตกเย็นต้องแวะชมบรรยากาศขายอาหารทะเลสดของชาวบ้าน ปากน้ำระยอง บริเวณ “สะพานเฉลิมชัย” เรียกน้ำย่อยก่อนมุ่งหน้าไปดินเนอร์ที่ “ร้านแหลมเจริญ ซีฟู๊ด” ต้นตำรับปลากะพงเจ้าแรกของประเทศไทย วันที่สอง ไปชมวิถีชุมชนประมงกัน 2 จุด ซึ่งเป็นทั้งแหล่งนำของทะเลสดมาขึ้นอวนปู ปลา น่าสนุก แห่งแรก “ชุมชนประมงพื้นบ้านสวนสน” ตื่นไปเดินชมตลาดพื้นบ้านยามเช้า ชาวบ้านที่ออกเรือหาปลานำของสดจากทะเลระยองมาขายเป็นประจำทุกวัน จุดที่ 2 “อ่าวมะขามป้อม” เป็นชุมชนประมงอีกแห่งหนึ่งในอำเภอแกลงที่เป็นแหล่งซื้ออาหารทะเลสด ชมการขึ้นอวนปูม้าสดๆ ของชาวบ้าน รวมถึงการอนุรักษ์ปูม้า รวมกันสร้างธนาคารปูม้าหมุนเวียนวงจรชีวิตปูม้าและการขยายพันธุ์ด้วย
ช่วงเที่ยงแวะชิมอาหาร “ครัวสารภี บ้านทะเลน้อย” รับรองว่าต้องตื่นตาตื่นใจกับเมนูผักท้องถิ่นระยอง อย่าง “ผักกระชับ” ขึ้นชื่อหากินได้ที่ระยองเท่านั้น แนะนำให้ลองสั่ง แกงส้มผักกระชับ ยำผักกระชับ ผัดผักกระชับ พร้อม ๆ กับเรียนรู้การปลูกกว่าจะได้ผักกระชับมากินอร่อย ๆ ต้องใช้เวลาแรมปี ก่อนไปร้านติดต่อคุณสารภี ชุมชนบ้านทะเลน้อย ก่อน ที่โทร. 085-433-4651
เสร็จสรรพชวนกันปักหมุดทำกิจกรรมไฮไลต์ More Fun CSR ด้วยการลงมือทำการคืนบ้านให้ปู หอย ปลาและสัตว์ทะเล กันที่ “สะพานรักษ์แสม” สะพานแขวนแห่งเดียวของระยอง ชุมชนจะรวมตัวกันสอนนักท่องเที่ยวทำซั๊งเชือกสร้างบ้านปลา และกิจกรรมปล่อยปูลงสู่ธนาคารปู ก่อนจะไปควรแจ้งล่วงหน้าไปยัง สำนักงานเทศบาลตำบลเนินฆ้อ โทร. 038-037-611 เพื่อเตรียมอุปกรณ์และปูไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรมกันอย่างมีความสุข
จากนั้นก็เตรียมตัวให้พร้อมลุยลงไปในเลนสนุกอีกแบบกับการทำ “คราดหอยตลับ” ซึ่งเป็นวิถีประมงของชาวปากน้ำประแส ก่อนจะฝ่าดงเลนล่าหอย แนะนำให้ชม “ทุ่งโปรงทอง” สูดโอโซนบริสุทธิ์ก่อนท่ามกลางความงดงามยามเย็นในวิวพาโนรามาของต้นโปรงทองเขียวอมเหลืองอร่ามเต็มท้องทุ่ง แล้วจากนั้นก็ล่องเรือชมฟาร์มหอยนางรม และปูก้ามดาบ สองข้างทางโอบล้อมด้วยป่าชายเลน ชมแนวกันคลื่นไม้ไผ่ แล้วก็ถึงเวลาสนุกกับการคราดหอยตลับก่อนกลับขึ้นฝั่ง
มื้อเย็น แวะ “ครัวย่าฉิม” ร้านอาหารพื้นบ้าน จังหวัดระยอง แล้วเดินทางกลับเข้าตัวเมืองพักผ่อนแบบสบาย ๆ กันที่ ดีวารี ดีว่า เซ็นทรัล ระยอง
วันที่สาม ก่อนกลับกรุงเทพฯ ชวนแวะอีก 2 แห่ง แห่งแรก “สวนหม้อข้าวหม้อแกงลิง” ไปเรียนรู้เรื่องราวมากมายแห่งเดียวในระยองมีให้เลือกชมกว่า 500 สายพันธุ์ คุณประกิต เจ้าของ Rayong Smile Plants จะมาเป็นเจ้าบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยว โทร.099-154-2609 แห่งที่ 2 เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ “ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเรือนจำชั่วคราวเขาไม้แก้ว” ชมแหล่งท่องเที่ยวศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ มีฐานการเรียนรู้ที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การเลี้ยงไก่ไข่ การเลี้ยงเป็ด ปลาดุก เลี้ยงหมูหลุม การปลูกผักปลอดสารพิษ การดำนาในแปลงสาธิต เป็นต้น เรือนจำชั่วคราวเขาไม้แก้ว โทร. 038-637-715
ระยอง เป็นเมือง More Fun ที่มีเรื่องราวใหม่ ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ค้นหาเติมเต็มความสุขทุกวันทุกเวลา
@รักสุขภาพต้องเลิก4พฤติกรรมเสี่ยงหลังพัง
เมื่อก่อนเคยคิดว่าอาการปวดหลังเป็นได้เฉพาะกับสูงวัย แต่แท้จริงแล้ว ปวดหลังสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ไม่เกี่ยงสายอาชีพ โดยเฉพาะหนุ่มสาวออฟฟิศที่ปัจจุบันเป็นกันมาก จึงขอแนะนำเลิก 4 พฤติกรรมที่เสี่ยงทำให้หลังของเราพังได้ คือ
1.อย่าก้มยกของ - เพราะการยกของหนักจากพื้นจะทำให้น้ำหนักทั้งหมดไปลงกับกระดูกสันหลังที่กำลังโค้งโก่ง ส่งผลให้หลังรับน้ำหนักมากเกินไป ควรย่อตัวลง (เหมือนการสควอท) แล้วค่อย ๆ ยกของขึ้นจากพื้น วิธีนี้ทำให้ขาซึ่งเป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ช่วยออกแรงส่ง ไม่ถ่ายน้ำหนักไปที่หลังหมด เช่นเดียวกับเวลาวางของลงกับพื้น ควรย่อตัวลงแล้วค่อยปล่อยของ ไม่ใช่ก้มลงวางของ
2. อย่ายืนก้มนาน - หรือโน้มตัวมาทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นเวลานาน ๆ เช่น รีดผ้า แปรงฟัน ทำอาหารหน้าเตาตามความเคยชินทำให้หลังทำงานหนักเกินจำเป็น ลองวางขาหนึ่งข้างไว้บนกล่องเตี้ย ๆ สลับท่าบ่อย ๆ ปรับระดับความสูงของโต๊ะให้พอเหมาะโดยที่เราไม่ต้องก้มตัวลง หรือแทนที่จะก้มหน้าแปรงฟันให้เปลี่ยนมายืนตัวตรง มองตัวเองในกระจก แล้วค่อยก้มไปบ้วนปากทีเดียว
3.อย่านั่งหลังค่อมหน้าคอมพ์ -หรือแม้แต่การนั่งเอกเขนกจุ้มปุ๊กบนโซฟาที่เหมือนจะสบายแต่ทำให้หลังยิ่งปวดหนักขึ้น ลองเปลี่ยนความเคยชินด้วยการปรับความสูงของโต๊ะและหน้าจอให้อยู่ระดับพอดีกับสายตา หาที่วางขาเพื่อให้เข่าอยู่สูงกว่าสะโพก หรือม้วนผ้าขนหนูสอดไว้บริเวณเอวก่อนนั่งทับเพื่อปรับให้หลังของเราตรงโดยอัตโนมัติ
4. อย่านอนคว่ำ นอนขด นอนตะแคงข้าง - ล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อกระดูกสันหลังและทำให้ยิ่งปวดแม้จะรู้สึกว่านอนสบายดี ลองหาหมอนมารองไว้ใต้เข่าเพื่อรักษาความโค้งของกระดูกสันหลัง หรือนอนตะแคงข้าง โดยงอเข่าและใช้ขาหนีบหมอนไว้ตรงกลาง เพื่อลดแรงกดและคลายความตึงของสะโพกตอนหลับให้ดี มาดูแลหลังให้ถูก ทีหลังจะได้ไม่ปวดหลังเรื้อรังอีกต่อไป
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “โรงแรมเชนไทย-อินเตอร์แห่ลงทุนกว่าแสนห้อง”
ปี 2562 มีโรงแรมเชนขนาดใหญ่ของไทยและอินเตอร์ แข่งขันกันประกาศแผนลงทุนขยายห้องพักเพิ่มทั้งในและต่างประเทศ เริ่มจาก “เซ็นทารา” ของกลุ่มเซ็นทรัล ตั้งเป้าลงทุนโรงแรมในเครืออีก 3 ปีหน้าภายในปี 2565 เพิ่มเป็น 2 เท่าหรือประมาณ 134 แห่ง รวม ภายในปี 2565 ต่อเนื่องจากปัจจุบันนี้โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา มีโรงแรมและรีสอร์ททั่วโลกอยู่มากถึง 13,477 ห้อง จำนวน 68 แห่ง แบ่งเป็นในไทย 45 แห่ง และต่างประเทศ 23 แห่ง เปิดบริการแล้ว 39 โรงแรม อยู่ระหว่างก่อสร้าง 29 โรงแรม
ขณะที่ “แอคคอร์” รายงานการลงทุนเมื่อปี 2561 ได้เปิดโรงแรมทั่วโลกเกือบ 500 แห่ง รวมกว่า 100,000 ห้อง เป็นผลพวงจากการเข้าซื้อกิจการมากถึง 14 แบรนด์ใหม่ พุ่งเป้าเพิ่มทางเลือกที่ตอบสนองกำลังซื้อของตลาดกลุ่มไลฟ์สไตล์ซึ่งเป็นแรงหนุนการเติบโตผงาดขึ้นเป็นผู้นำตลาดโลก
Gaurav Bhushan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาโครงการของแอคคอร์ ผู้บริหารโรงแรมและที่พักในเครือแอคคอร์ เปิดเผยว่า ปี 2561 ได้ร่วมลงนามเข้าซื้อกิจกาและเปิดโรงแรมใหม่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์เกือบ 500 แห่ง รวมกว่า 100,000 ห้อง ทำให้บริษัทเติบโตรวดเร็วที่สุดในตลาด สามารถตอบสนองความคาดหวังทั้งของลูกค้าและเจ้าของกิจการครบวงจร
รวมถึงสามารถครอบครองส่วนแบ่งตลาดไลฟ์สไตล์ได้ช่วงเวลาอันสั้น ตอบสนองทุกตลาดเพิ่มสูงขึ้นได้ ตั้งแต่ลูกค้าที่ชื่นชอบความหรูหราไปจนถึงนักเดินทางแบบประหยัด
ข่าวที่สอง “ไทยสไมล์บินกัลกัตตาอัดตั๋วโปร3,740บาทเริ่มบิน31มี.ค.นี้”
สายการบินไทยสมายล์ รายงานว่า ได้เปิดเส้นทางใหม่ล่าสุด ไป-กลับ กรุงเทพฯ-กัลกัตตา (BKK-CCU) เมืองเศรษฐกิจของอินเดียตะวันออก โดยออกเดินทางจากสุวรรณภูมิ สู่สนามบินสุภาสจันทรโภส เมืองกัลกัตตา สัปดาห์ละ 5 เที่ยว ทุกวันอังคาร, พฤหัสบดี, ศุกร์, เสาร์ และอาทิตย์ ได้จัดทำโปรโมชั่น ราคาเริ่มต้นที่ 3,740 บาท/คน/เที่ยว รวมค่าใช้จ่ายทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. 2562 เป็นต้นไป
ไทยสไมล์ได้นำฝูงบินที่มีให้บริการ 2 ชั้น ได้แก่ สมายล์พลัส-ชั้นประหยัดพิเศษ กับสมายล์คลาส-ชั้นประหยัด เสิร์ฟอาหารบนเครื่อง เปิดจองตั๋วล่วงหน้า และบริการฟรีน้ำหนักกระเป๋าสูงสุด 40 กิโลกรัม ส่วนชั้นสมายล์พลัสรับคะแนนสะสม Royal Orchid ได้
ทั้งนี้ไทยสไมล์เตรียมจัดทำตารางการบินช่วงฤดูร้อน เริ่ม 31 มีนาคม 2562 นี้ โดยเปลี่ยนแปลงเส้นทางสู่อินเดียมีบริการ 3 เส้นทาง ได้แก่ ลัคเนา (LKO) 3 เที่ยว/สัปดาห์, มุมไบ (BOM) 7 เที่ยว/สัปดาห์ และกัลกัตตา (CCU) 5 เที่ยว/สัปดาห์ สำรองที่นั่งได้ที่ www.thaismileair.com ศูนย์บริการลูกค้า (Call Center) โทร. 1181 หรือ 0-2118-8888 ห้องขายตั๋วไทยสมายล์
ข่าวที่สาม “ทุ่มขยายสนามบินสกลนครรับปีละ1.7ล้านคน”
นางอัมพวันวรรณโก อธิบดีกรมท่าอากาศยาน(ทย.)เปิดเผยว่า ได้เดินหน้าใช้งบประมาณ 90 ล้านบาท ขยายสนามบินสกลนคร ปรับปรุงต่อเติมอาคารที่พักผู้โดยสารบริเวณห้องผู้โดยสารขาออก จะเริ่มก่อสร้างเดือนเม.ย.นี้ เพื่อให้แล้วเสร็จทันเดือนเม.ย.2563 จะช่วยความสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้นจากปัจจุบันรอปีละ 1.7 ล้านคน เฉลี่ย 300คนต่อชั่วโมง พร้อมทั้งจะรองรับเครื่องโบอิ้ง737 จากครั้งละ 2ลำ เป็น 4ลำ
ขณะนี้มีบริการขึ้น-ลงอยู่ 2สายการบิน คือนกแอร์และไทยแอร์เอเชีย ส่วนสกลนครมีผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สถิติปี 2561มีผู้โดยสารใช้บริการ 3.84แสนคน แนวโน้มปี 2562 คาดจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ข่าวที่สี่ “โรงแรมอนันตราสยามชวนดับไฟลดโลกร้อน30มี.ค.นี้”
โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ เชิญชวนคนไทยร่วมกันประหยัดพลังงานโดยปิดไฟพร้อมกัน 1 ชั่วโมง ในวันเสาร์ที่ 30 มีนาคม 2562 เวลา 20.30 – 21.30 น. ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรม Earth Hour เพื่อร่วมรณรงค์ลดโลกร้อน โดยได้ทำโครงการ Earth Hour ร่วมมือกับระดับนานาชาติ นำร่องโดยกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (World Wide Fund for Nature : WWF) รณรงค์และกระตุ้นให้ผู้คนทั่วโลกได้ตระหนักถึงปัญหาภาวะโลกร้อน
ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ปิดเพื่อโลก เปลี่ยนเพื่ออนาคต” โรงแรมขอเชิญชวนทุกคนออกมาร่วมสนุกกับหลากหลายกิจกรรม อาทิ การเขียนคำมั่นสัญญาในการร่วมลดโลกร้อน และ กิจกรรมการปั่นจักรยานซึ่งเป็นการออกกำลังกายไปพร้อมๆกับการปั่นถังซักผ้าโดยไม่ใช้พลังงานไฟฟ้า ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเราเพื่อเปลี่ยนอนาคต กับกิจกรรม Earth Hour
จากนั้นในช่วงค่ำคืนวันเสาร์ที่ 30 มีนาคม 2562 นี้ พร้อมรับประทานอาหารหรือของว่างและเครื่องดื่มพิเศษที่จัดเตรียมไว้ต้อนรับท่านในบรรยากาศใต้แสงเทียน พร้อมดนตรีอะคูสติกบรรเลงขับกล่อมในยามค่ำคืน ณ อควา บาร์ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ (BTS สถานีราชดำริ
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น