ททท.บูมขายเทรนด์8มงคลสถานดันเที่ยวไทยคึกคัก
จัดกระหึ่มแปดริ้วฟู้ดเฟสต์-MoreFunสมุทรปราการ
อรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานฉะเชิงเทรา |
ล้วงลึก “อรรถพล วรรณกิจ” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) สำนักงานฉะเชิงเทรา จัดแถวการท่องเที่ยวปีหนูทอง
ชวนกันไปเส้นทางแห่งความสุข ทัวร์บุญแดนพุทธและพราหมณ์ “8 มงคลสถาน” เที่ยวแปดริ้ว พลิ้วไปตามสายน้ำ กับ More
Fun สมุทรปราการ
อุดหนุนเศรษฐกิจท่องเที่ยว 2 จังหวัดริมแม่น้ำบางปะกงคึกคักต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี
เตรียมพบกับมหกรรม “แปดริ้ว ฟู้ด เฟสต์ 2020” 1-3 พฤษภาคม นี้
สายกินล้างท้องรอไปเที่ยวเส้นทางอาหาร ตอนนี้กว่า 200 ร้านจะมาประชันกันปรุงเมนูเด็ดตลอดงาน
ส่วนชุมชนเกาะรักษ์เปิดบ้านรอให้ทุกองค์กรชวนกันไปทัวร์ซีเอสอาร์สร้างคอนโดปู
บ้านปลา ให้สัตว์น้ำได้ขยายพันธุ์
นายอรรถพล
วรรณกิจ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานฉะเชิงเทรา
เปิดเผยว่า ดูแลพื้นที่เพื่อส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยว 2 จังหวัด ในปี 2563 วางตำแหน่งฉะเชิงเทราธีม “เที่ยวแปดริ้ว
พลิ้วตามสายน้ำ” ส่วนสมุทรปราการชูธีม More Fun สมุทรปราการ
ในห้วงเวลาที่การท่องเที่ยวประสบปัญหาที่ไม่สามารถควบคุมได้ทั้งจากโรคระบาดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่
หรือเศรษฐกิจภายในประเทศ
ดังนั้นการจัดทำโครงการท่องเที่ยวมีส่วนสำคัญที่จะสร้างบรรยากาศให้คนออกเดินทางใช้เงินท่องเที่ยว
สถิติปี
2562 ทางสำนักงาน
ททท.ฉะเชิงเทรา ได้ดำเนินการส่งเสริมการตลาดมีนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่กว่า 4
ล้านคน เพิ่มราว 30 % สร้างรายได้เข้าพื้นที่รวมกว่า 5,800 ล้านบาท เพิ่มกว่า 30 % เช่นกัน เป็นผลงานของผู้อำนวยคนก่อนทำไว้
จึงเป็นอีกความท้าทายที่จะต้องรักษาฐานนี้ไว้ ประกอบกับโจทย์ปีนี้จะต้องเพิ่มตามเป้าหมายใหม่ทั้งจำนวนและรายได้อีกไม่ต่ำ
ตามแผนงานจะต้องต่อยอดขยายผลการดำเนินงาน
ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งก็เห็นโอกาสนำจุดแข็งมาจูงใจนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่ม
โดยเฉพาะจุดเด่นของ “ฉะเชิงเทรา” เป็นเมืองพุทธศาสนามีหลวงพ่อโสธรช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดโสธรวรวิหารจำนวนมาก
แล้วด้วยความศรัทธาเชื่อถือยังเดินทางต่อไปถึงไหว้พระพิฆเนศ “วัดสมาน”
ดังนั้นจึงเห็นโอกาสในวิกฤตด้วยแรงศรัทธาของผู้คน
ทาง ททท.ฉะเชิงเทรา เตรียมนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวไหว้พระ
ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วใช้ชื่อว่า “8 มงคลสถาน 8 ริ้ว”
รวบรวมทั้งสายวัดและพาหมเข้าด้วยกัน เพื่อสะสมความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเอง
ด้วยการขับรถท่องเที่ยวได้แบบสะดวกง่าย ๆ
วัดโสธรวรารามวิหาร นักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้หลวงพ่อโสธร |
พระพิฆเนศ วัดสมานรัตนาราม องค์สีชมพูขนาดใหญ่สุดในเมืองไทย สถานที่ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เชื่อกันว่าขอแล้วได้สมปรารถนาทุกเรื่อง |
มงคลที่ 1 “วัดโสธรวรารามวิหาร” กราบสักการะหลวงพ่อโสธร
มงคลที่
2 “วัดโพรงอากาศ”
มีพระพิฆเนศปางประธานพรองค์ใหญ่สวยงามมาก
มงคลที่
3 วัดสมานรัตนาราม อำเภอคลองเขื่อน มีพระพิฆเนศ สีชมพูองค์ใหญ่สุดในประเทศไทย สวยงามอีกองค์
มงคลที่
4 “วัดโจ้โล้”
อำเภอบางคล้า
มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับพระเจ้าตากสินทรงเคยยกทัพมาตั้งปักฐานอยู่บริเวณนี้
อีกทั้งมีโบสถ์สีทองอร่ามโดนใจนักท่องเที่ยวให้เกิดความ WOW ขึ้นมาได้
มงคลที่
5 “อุทยานพระพิฆเนศองค์ยืน”
ต้องถือเป็นองค์สัมฤทธิ์ขนาดใหญ่มาก
มงคลที่ 6 “วัดบางปงโฆษิตาราม” แนะนำเพราะมีประวัติศาสตร์เชื่อมโยงกับกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย โดยมีหลักฐานเป็นพระพุทธรูปงดงามบ่งบอกถึงความเป็นมาของเมืองแปดริ้วด้วย
มงคลที่
7 “วัดผาติการาม”
มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นหอธรรมะบารมี เข้าไปแล้วมีความร่มรื่นเป็นสายวิปัสนา
วันหยุดจะมีผู้คนมานั่งสมาธิจำนวนมาก และมีเรื่องราวความน่าสนใจทางด้านศิลปะ
สงบเงียบ สวยงาม
มงคลที่
8 “วัดหงษ์ทอง”
ตั้งอยู่กลางทะเลในอำเภอบางปะกง มีพระอู่ทองศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว
เป็น 8 มงคลสถานแปดริ้ว ที่นักท่องเที่ยวต้องห้ามพลาดที่จะเดินทางมาแสวงหาความสนุกสุขทางใจ ได้ตลอดทั้งปี
ผอ.อรรถพล กล่าวว่า เส้นทางดังกล่าวจะเน้นกลุ่มที่สามารถขับรถท่องเที่ยวแบบอิสระด้วยตนเอง ททท.ฉะเชิงเทรา มีข้อมูลพร้อมคำแนะนำบริการตลอด หรือกลุ่มที่ไม่ได้ขับรถก็เลือกเดินทางกับบริษัทนำเที่ยวเสนอขายเป็นช่องทาง ขณะเดียวกันก็ได้เสนอชื่อเข้าร่วมโครงการ 60 เส้นทางความสุข โดยมีท่องเที่ยวเส้นทางธรรมะรวมไว้ด้วย เป็น 8 มงคลสถาน เพราะเมืองไทยมีวัดสวยงาม มีเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียง จึงต้องให้ทาง ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกคัดเลือกอีกครั้ง 4 วัด ได้แก่ ในฉะเชิงเทราเสนอวัดหลวงพ่อโสธร วัดสมาน สมุทรปราการเสนอวัดบางพลีใหญ่-กลาง กับวัดอโศการาม เป็นทางเลือกที่จะนำไปบรรจุอยู่ในโปรแกรมรวมทั่วประเทศของ 60 เส้นทางความสุข เพื่อการท่องเที่ยวภายในภูมิภาคและเชื่อมโยงสู่ตะวันออกทั้งหมด
ส่วนการท่องเที่ยวบำเพ็ญประโยชน์คืนสู่สังคม
เตรียมพร้อมในฉะเชิงเทราซึ่งเป็นมีภาพของเมืองอุตสาหกรรม ตอนนี้หลายพื้นที่จึงตื่นตัวหันมามีส่วนร่วมทำกิจกรรมท่องเที่ยวเพื่อสังคม
ได้แก่ เกาะรักษ์ อำเภอบางปะกง สามารถทำซีเอสอาร์ “คอนโดปู”
นำกิ่งไม้มาสร้างเป็นฐานเพื่อให้ปูได้มาพักอาศัยอย่างปลอดภัย
ตอนนี้หลายบริษัทติดต่อทางวัดเพื่อสร้างคอนโดดังกล่าว และ “คอนโดปลา” นำกิ่งมะพร้าว
ต้นจาก ทำเป็นกระโจม ให้ปลามาวางไข่ เชิญชวนบริษัทต่าง ๆ
มาร่วมกันทำเพื่อรักษาอนุรักษ์สัตว์ทะเลบริเวณปากน้ำ
บริษัทหรือองค์กรที่สนใจจะมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน
ประสานงานกับทางวัด เพื่อขอพื้นที่สร้างคอนโดปูและคอนโดปลา ข้างต้นได้
เตรียมตัวให้พร้อม More Food&Fun กินอร่อยเที่ยวสนุกกับมหกรรมงาน "แปดริ้ว ฟู้ด เฟสต์" ครั้งที่ 3
ระหว่าง 1-3 พฤษภาคม 2563 ณ ถนนเมรุพงศ์ ริมแม่น้ำบางปะกง ฉะเชิงเทรา
|
ขณะที่ในช่วงครึ่งปีแรกยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวงานประเพณี
ได้แก่ 1.เทศกาลมะม่วงและของดีแปดริ้ว
ประมาณปลายเดือนมีนาคม กับงาน “ขนมหวานของดีแปดริ้ว” ช่วงต้นเดือนมีนาคม
และกิจกรรมที่ ททท.ฉะเชิงเทรา สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ชื่องาน
ตามยุทธศาสตร์และตำแหน่งการตลาดของภาคตะวันออกชู More Food & Fruit ปีนี้จะเพิ่มการจัดงาน “แปดริ้ว ฟู้ด เฟสต์”
ครั้งที่ 3 ระหว่าง 1-3
พฤษภาคม 2563 ปลุกกระแสมหกรรมอาหารอร่อยขึ้นที่แปดริ้ว
เป็นอีกกิจกรรมที่แนะนำต้องมาเที่ยวกันให้ได้
ภายในงาน “แปดริ้ว ฟู้ด เฟสต์” นักท่องเที่ยวจะได้พบกับร้านอาหารเด่นของทั้งจังหวัดมารวมอยู่ในงานเดียว 200-300 ร้าน บริเวณถนนมรุพงศ์ ริมแม่น้ำบางปะกง จะสร้างขึ้นมาเป็นโซนอาหารถิ่น โซนทรัคฟู้ด โซนสตรีทฟู้ด โซน D.I.Y.โดยใช้อาหารถิ่นแปดริ้วเป็นหลัก ถ้าได้มาเห็นงานแล้วจะรับรู้ได้ถึงความยิ่งใหญ่ เตรียมเชิญเชฟใหญ่ระดับประเทศมานำเสนอเมนูโดยใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเป็นตัวหลักในการปรุงแต่ละเมนูเพื่อเสิร์ฟผู้มีเกียรติภายในงาน
คาราวานอาหารจากร้านดังทั่วเมืองแปดริ้ว ฉะเชิงเทรา จะยกขบวนกันมาเสิร์ฟเมนูจานเด็ด ในมหกรรมอาหารอร่อยท่องเที่ยวสนุกงาน "แปดริ้ว ฟู้ด เฟสต์"ตลอดงาน 3 คืน 3 วัน 1-3 พฤษภาคม 2563 |
แต่ละวันสามารถรับนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานได้รวม
แต่สิ่งที่จะต้องจัดระเบียบคือพื้นที่การจราจร ซึ่งจะใช้ประสบการณ์ 2 ครั้งแรก
ในการแนะนำประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยวให้ไปจอดตามจุดจอดหน้าโรงพยาบาลโสธร
โรงเรียนอาชีวะศึกษา วัดปิตุราชา วัดปิตุราช รวมถึงศาลากลาง จอดแล้วเดินมางานได้
ในแปดริ้วมีโรงแรมบริการพักค้างคืน
โรงแรมขนาดห้องพัก 200-300 ห้อง/โครงการ
2-3 แห่ง
และโรงแรมขนาดกลางก็มีหลายแห่ง
เป้าหมายหลักต้องการให้งานนี้ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมากินแล้วพักค้างคืน
เพิ่มวันพักเฉลี่ยให้จังหวัด เกิดการใช้จ่าย เป็นตัวชี้วัดและเป้าหมายการทำโครงการ
แปดริ้ว ฟู้ด เฟสต์ ครั้งที่ 3 โดยเฉลี่ยจะมีนักท่องเที่ยวเข้างานจากพื้นที่อื่น
ๆ วันละ 1,000-2,000 คน
ส่วนคนในท้องถิ่นมีถึง 20,000-30,000 คน
กลยุทธ์การขายนอกจากการจัดงาน
“แปดริ้ว ฟู้ด เฟสต์” แล้ว
ททท.ร่วมกับเอกชนวางแผนจัดหาแม่เหล็กจูงใจให้คนสามารถทำกิจกรรมเพิ่มเติม
หรือแนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยง เพื่อให้คนพักค้างคืนมากขึ้น
และเป็นทางเลือกที่ดีแก่นักท่องเที่ยวในประเทศ
ที่จะเข้ามาใช้จ่ายเงินกระจายสู่ท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องด้วย
ข่าวต้นชั่วโมง
สมาชิก คิง เพาเวอร์ ยิ่งเติม ยิ่งได้
สนุกกับการช้อปสบาย ๆ กับกิจกรรม “เติมเงินในบัตรสมาชิก” ที่ คิง
เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต ระหว่างวันนี้– 29 กุมภาพันธ์ 2563 ช้อปปุ๊บรับปั๊บ GIFT VOUCHER มูลค่าสูงสุด 4,000
บาท เมื่อสมาชิก 1.เติมเงินเข้าบัตร 20,000
บาท รับฟรี GIFT VOUCHER 1,200 บาท 2.เติมเงินเข้าบัตร 50,000
บาท รับฟรี GIFT VOUCHER 4,000 บาท ส่วนผู้ที่ยังไม่เป็นสมาชิก
สมัครได้เลย! เพื่อรับสิทธิประโยชน์ลดสูงสุด 15% พร้อมสิทธิพิเศษอีกมากมาย
วิธีใช้
Gift
Voucher 1.Gift Voucher นี้ ไม่สามารถ ใช้ร่วมกับส่วนลดจากบัตรสมาชิก
คิง เพาเวอร์ 2. Gift Voucher นี้ สามารถ นำไปซื้อสินค้าได้เฉพาะแผนกที่ร่วมรายการ ยกเว้น แผนกน้ำหอม เครื่องสำอาง
อิเล็กทรอนิกส์ ทอง บุหรี่ เหล้า แก้วไวน์ ACCESSORY ตลอดจนสินค้าที่ไม่ร่วมรายการ และสินค้ายกเว้นการใช้ Gift Voucher ทุกประเภท
ข่าวที่ 2 “ช้อปคิงเพาเวอร์ซูเปอร์เซฟสุดคุ้มมากถึง4ต่อถึง29ก.พ.”
สมาชิก คิง เพาเวอร์ ช้อปครบทุก 5,000 บาท (สุทธิ)รับสิทธิ์สุดคุ้ม 4 ต่อ ระหว่างวันนี้ - 29 กุมภาพันธ์ 2563
คุ้มที่ 1
รับทันทีปี่เซียะมงคล เมื่อสมาชิกช้อปครบ
5,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับทันที! ปี่เซียะมงคล จำกัด 2,020 ท่านแรกตลอดรายการ(1
สิทธิ์/ท่าน/วัน) ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
คุ้มที่ 2 คูปองสำหรับลุ้นทริปล่องเรือไหว้พระเสริมมงคล กับ ซินแสเป็นหนึ่ง วงษ์ภูดร
จำนวน 1 สิทธิ์พิเศษ! สมาชิก CROWN, VEGA รับคูปองลุ้น 2 สิทธิ์ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร ศรีวารี
พัทยา และภูเก็ต
คุ้มที่ 3 ช้อปที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต ลุ้นจับคูปอง Lucky Mouse Family สะสมเพื่อรับคืน Gift Vouchers สูงสุด 10,000 บาท รับสิทธิ์ลุ้นรับคูปอง Lucky Mouse Family สะสมภาพครอบครัวหนู เพื่อแลกรับ Gift
Voucher คืนสูงสุด 10,000 บาท จำกัดยอดซื้อสินค้าสูงสุด 200,000 บาท/ คน/ วัน
คุ้มที่ 4 สมาชิก คิง เพาเวอร์ ผ่อน 0 % ตั้งแต่วันที่
1 มกราคม – 31 มีนาคม 2563 เมื่อช้อปที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต คิง
เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และศูนย์ปฏิบัติการ การบินไทย แบ่งชำระ 0% สูงสุด 10 เดือน เมื่อช้อปครบ 30,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / เซลล์สลิป และสูงสุด 6 เดือน
เมื่อช้อปครบ 20,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / เซลล์สลิป
เพียงแค่สมาชิกเข้าไปช้อปเสินค้าที่ร่วมรายการ สามารถตรวจสอบได้จุดขายทุกสาขาและสามารถส่วนลดจากบัตรสมาชิก
คิง เพาเวอร์ ผ่อนชำระ 0% สามารถร่วมรายการ จะจับรางวัล
และประกาศผลภายในวันที่ 20 มีนาคม 2563 สมาชิกที่ได้รับของรางวัลที่มีมูลค่า 1,000 บาทขึ้นไป
จะต้องชำระค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 5%
สอบถามรายได้ทั้งหมดเพิ่มเติมได้ที่ คอล เซ็นเตอร์ 1631
ข่าวที่ 3 “บิ๊กททท.งัดมาตรการเร่งด่วน-ระยะยาวพลิกวิกฤตโควิด”
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
วางแผนร่วมมือกับเอกชนและทุกภาคส่วนเพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินไวรัสโควิด-19 ที่กำลังส่งผลกระทบต่อท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศเป็นวงกว้าง
ลำดับแรกต้องวางระบบการสื่อสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องไวรัสในไทยส่งถึงทั้งในและต่างประเทศข้อความเดียวกันโดยอิงฐานหลักจากกระทรวงสาธารณสุข
รณรงค์ให้ทุกฝ่ายปฎิบัติตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค โดยจะทำควบคู่ไปกับการสร้างความเชื่อมั่นมุ่งเน้นกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดี
ขณะเดียวกันรัฐบาลได้มีมติคณะรัฐมนตรีทยอยประกาศใช้มาตรการแก้ปัญหายามวิกฤตมาตั้งแต่วันที่
4 กุมภาพันธ์
2563 ในระยะเร่งด่วน
เพื่อเร่งช่วยเหลือ เยียวยา เสริมสภาพคล่องทางการเงิน ทั้งด้านภาษี แหล่งเงินทุน
สินเชื่อ ลดอัตราดอกเบี้ย ลดเงื่อนไขการค้ำประกัน การปรับโครงสร้างหนี้ ส่วนระยะยาว
อาจจะต้องจัดตั้ง “คณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ห่วงโซ่อุปทาน
หรือ Ease of Traveling เดินหน้าทํางานเชิงบูรณาการร่วมกันกับทุกหน่วยงานให้บรรลุเป้าหมาย เนื่องจาก
ททท.ต้องปรับแผนหาตลาดใหม่อย่างการเพิ่มเที่ยวบินเช่าเหมาลำ จากรัสเซีย ยุโรปอื่น
ๆ และทำแคมเปญพิเศษเพิ่มนักท่องเที่ยวอินเดีย อาเซียน เข้ามาทดแทนนักท่องเที่ยวจีน
ซึ่งปีนี้แนวโน้มจะหายไปหลายล้านคนอีกทั้งยังไม่สามารถบอกได้ว่าสถานการณ์ไวรัสจะคลี่คลายลงเมื่อใด
รวมทั้งต้องทำมาตรการซ่อมสร้างยกระดับสู่ความยั่งยืน
ในการเพิ่มขีดความสามารถทางด้านสินค้าท่องเที่ยวด้านการเพิ่มและปรับปรุงทักษะให้บุคลากรกับผู้ประกอบการ
พัฒนาท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ปรับฐานโครงสร้างนักท่องเที่ยวแต่ละตลาดให้สมดุล
ป้องกันความเสี่ยงและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเช่นเดียวกับครั้งนี้
ข่าวที่ 4 “ททท.ชูBAB
IS BACKอีเวนต์ศิลปะยาว4เดือนดูดทัวร์ไทย-เทศ”
น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์
รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ได้ร่วมสนับสนุนเอกชนในการจัดงาน BAB IS BACK ระหว่างวันที่
13 กุมภาพันธ์ - 31 พฤษภาคม
2563 จัดแสดงบริเวณ BAB BOX ประตูทางออกหมายเลข
3 สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน
MRT ลุมพินี เป็นงานศิลปะร่วมสมัยระดับอินเตอร์
จะเป็นอีกช่องทางดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมชมความงดงามได้
ททท. มั่นใจงาน BAB IS BACK ซึ่งจัดต่อเนื่องถึง 4 เดือน สามารถเป็นแม่เหล็กดึงความสนใจนักท่องทั้งไทย
และต่างชาติเข้าชมงานเป็นจำนวนมาก และยังจะร้อยเรียงศิลปะกับเรื่องราวการท่องเที่ยวเมืองไทยเข้าด้วยกัน
ในการผสมผสานวัฒนธรรมที่ดี
สำหรับงาน BAB IS BACK จัดขึ้นก่อนเปิดตัวงาน BKK Art
Biennale ครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นอีกอีเวนต์ใหญ่ที่เตรียมจัดต่อเนื่องใน
เดือนตุลาคม 2563 –
กุมภาพันธ์ 2564
ส่วนการพิธีเปิดงานดังกล่าว
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์
ได้รับเกียรติจากหลายองค์กรทั้ง ศ.ดร. อภินันท์
ผู้อำนวยการศิลป์บางกอกอาร์ตเบียนนาเล่ นายพลภัทร สุวรรณศร
รองกรรมการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด มหาชน คณะผู้แทนจากสถานฑูต
ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงศิลปิน BAB ณ
หอศิลป์บางกอกอาร์ตเบียนนาเล่ (BAB BOX)
สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ เตรียมขยายผลโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
อ่างเก็บน้ำห้วยคล้ายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดอุดรธานี
ในโอกาสก้าวขึ้นปีที่ 10 จะต้องเข้าสู่ระยะการพัฒนาชุมชนโดยรอบสู่ความยั่งยืน
โดยอ่างเก็บน้ำแห่งนี้มีความจุในการกักเก็บน้ำไว้ให้เกษตรกรใช้ได้ปีละกว่า692,500
ลูกบาศก์เมตร เป็นตัวอย่างหนึ่งในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำรินับพันแห่ง ที่เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ กลับไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากไม่มีระบบส่งน้ำและการบริหารจัดการน้ำ
สามารถพลิกวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรในพื้นที่บ้านโคกล่าม หมู่ที่ 3 และบ้านแสงอร่าม หมู่ที่ 11 ตำบลกุดหมากไฟ อำเภอหนองวัวซอ รวม 258 ครัวเรือน 1,426 คน ซึ่งเคยขาดแคลนน้ำทำการเกษตรและอุปโภคบริโภค ก่อให้เกิดความเสียหายแก่การเพาะปลูกพืชเกษตร
และชาวบ้านมีหนี้สินจำนวนมาก
การสำรวจข้อมูลเศรษฐกิจสังคมพบชาวบ้านแสงอร่ามส่วนใหญ่ทำนา ปลูกมันสำปะหลังและยางพารา มีรายได้ รวมปีละเพียง 9.7
ล้านบาท เฉลี่ยหลังคาเรือนละ 100,702 บาท/ปี มีหนี้สินรวมประมาณ 6.2ล้านบาท ส่วนชาวบ้านโคกล่ามมีรายได้รวมปีละ 7.7 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหลังคาเรือนละ 7.7
หมื่นบาท/ปี มีหนี้สินรวม 11.21 ล้านบาท
ทางมูลนิธิชัยพัฒนาจึงเสนอให้ทางปิดทองหลังพระฯ เข้ามาแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎร ทำโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยคล้ายฯ โดยใช้ความสำเร็จจาก “น่านโมเดล”
ซึ่งทางคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ มีมติเมื่อ 22 ธันวาคม 2553 เห็นชอบการดำเนินงานในพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยคล้ายอันเนื่องมาจากพระราชดำริเป็นพื้นที่ต้นแบบปิดทองหลังพระฯ บูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานสืบสานแนวพระราชดำริ หน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบัน การศึกษา และภาคเอกชน ในรูปแบบใหม่ คือ ทำเล็ก ประหยัด ขยายผลเร็วในวงกว้างและได้ประโยชน์สูงสุด มุ่งเน้นการต่อยอดต้นทุนมนุษย์ หรือทุนสังคม และทุนสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ กระทั่งก้าวสู่ปีที่
10
ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเพื่อก้าวไปสู่พื้นที่ที่สามารถดูแลตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ข่าวที่ 6 “TCEBลุยตั้งอาเซียนไมซ์หนุนไทยฮับเอเชีย”
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “สสปน./TCEB” เปิดเผยว่า
ปี 2563 ทีเส็บวางกลยุทธ์เดินหน้ายกระดับประเทศไทยเป็น “สถาบันองค์ความรู้ไมซ์ในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
(ASEAN MICE Institute) ทำหน้าที่ให้องค์ความรู้ไมซ์แบบครบวงจรแก่อาเซียนและห่วงโซ่อุตสาหกรรมไมซ์ทั้งทางด้าน
การกำหนด รับรองมาตรฐานต่างๆ
ออกแบบหลักสูตรพัฒนาผู้ประกอบการไมซ์ทั้งบุคคลและองค์กร ให้มีศักยภาพแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ
มุ่งสร้างมาตรฐานให้อุตสาหกรรมไมซ์ไทยยั่งยืน
สร้างผู้ประกอบการทุกสาขาให้มีมาตรฐานสูง
เสริมความสามารถทางการแข่งขันของประเทศในระยะยาว
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ทีเส็บได้จัดงาน MICE Standards Day 2020 ขึ้น เพื่อขยายพันธกิจนอกเหนือจากเรื่องการดึงงาน
(WIN) การทำประชาสัมพันธ์ (PROMOTE) แล้วยังจะต้องเดินหน้าทำอีก 2 เรื่อง ได้แก่ 1.การพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ (DEVELOP) ยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยแข่งขันได้ในเวทีสากล
ตั้งเป้าให้ไทยเป็นประเทศศูนย์กลางการศึกษาไมซ์แห่งอาเซียน
และภูมิภาคเอเชียด้วยมาตรฐานสากล 2.เป็นผู้นำภูมิภาคเอเชียในการจัดงานอย่างยั่งยืน
ซึ่งจะขับเคลื่อนโดยการใช้ ASEAN MICE Institute เป็นหัวหอก
ขณะนี้ทีเส็บทำแผนพัฒนามาตรฐานไมซ์ระยะ 5 ปี
ไว้แล้ว ระหว่างปี 2563-2567 มุ่งสร้างผู้ประกอบการไมซ์ไทยให้มีความสามารถทางการแข่งขันระดับประเทศและอาเซียนได้
เริ่มจากปี 2563 จะนำร่องทำ 4 เรื่องหลัก ประกอบด้วย 1.สร้างแบรนด์การสื่อสารมาตรฐานร่วมกับพันธมิตรที่เป็นผู้ใช้บริการในการทำประชาสัมพันธ์ 2.สร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านกิจกรรมต่าง
ๆ 3.สำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการและสถานที่จัดงาน 4.สร้างผู้ประกอบการไมซ์
อาจารย์ นักเรียน นิสิต นักศึกษาให้ผ่านการรับรองมาตรฐานในหลักสูตรต่าง ๆ
เพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไมซ์ในอนาคตต่อไป
รวมทั้งได้กำหนดเป้าหมาย 7 มาตรฐานไมซ์ จากปัจจุบันไปจนถึงปีที่สิ้นสุดแผน 2567 ไว้ดังนี้
1.สถานที่จัดงานประเทศไทย (Thailand MICE Venue Standard: TMVS) จากปัจจุบัน 453 แห่ง / 1,083 ห้อง เป็น 1,500 แห่ง / 2,000 ห้อง แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.สถานที่จัดงานแสดงสินค้า 25 แห่ง 29 ฮอล์ล และ 2.สถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ 31 แห่ง
2.มาตรฐานสถานที่จัดงานอาเซียน (ASEAN MICE Venue Standard: AMVS) จากปัจจุบัน 53 เป็น 350 องค์กร
3.มาตรฐานการบริหารการจัดงานอย่างยั่งยืน (Thailand Sustainable Event Management Standard:
TSEMS ) จากปัจจุบัน 20 เป็น
300 องค์กร
4.ผู้เชี่ยวชาญด้านไมซ์อย่างมืออาชีพ (MICE Professionals) จากปัจจุบัน 941 เป็น 1,200 คน
5. MICE Coach (อาจารย์ด้านไมซ์) จากปัจจุบัน 900 เป็น 1,200 คน
6.มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ช่างไฟฟ้าไมซ์ จากปัจจุบัน 0 เป็น 500 คน
7.ชมรมเยาวชนไมซ์ (Student Chapter) จากปัจจุบัน 241 (จาก 17มหาวิทยาลัย) เป็น 550 คน
ล่าสุดทีเส็บร่วมกับ 2 พันธมิตร
ได้แก่ 1.สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก 2.องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
(องค์การมหาชน) หรือ อพท. นำสถานที่ที่ให้บริการจัดงาน
หรือชุมชนที่พร้อมจัดงานไมซ์ได้เข้าร่วมโครงการตรวจประเมินมาตรฐาน TMVS ประเภทสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ
(Special Event
Venue) เพิ่มโอกาสการจัดงานไมซ์กระจายไปทั่วประเทศ
และเพิ่มรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่
ช่วงที่
2 ชวนกันเที่ยวเมืองไทย
ไปปั่นเส้นทางทัวร์บุญเมืองพันสามร้อยปีที่ “ลำพูน” สำรวจวัฒนธรรมชุมชน ไหว้พระ 9 วัด รับพรดี ๆ ตุนไว้ตั้งแต่ต้นปี พร้อมกับดูแลสุขภาพ
“เสริมกล้ามเนื้อป้องกันกระดูกพรุน” เกาะติดข่าวร้อน “การบินไทย”
ใจป้ำแจกส่วนลดไมล์แลกตั๋วบิน 30 % มากถึง 34 เส้นทาง
“ไทย ไลออน แอร์” หันบินบาหลีแทนจีน “4สายการบิน”
ประกาศเลิกลดเที่ยวบินจากไทยไปเกาหลี
@ปั่นทัวร์เส้นทางบุญเมืองพันสามร้อยปีที่ลำพูน
เมืองเล็ก
ๆ ปฐมอารยนครแห่งล้านนาที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ราว 1,300 ปี “ลำพูน”
เต็มไปด้วยเรื่องราวเมืองพระเครื่องดัง พระรอด พระคง พระลือ พระลบ
ผสมผสานวิถีชีวิตชาวสวนลำไยขึ้นชื่อ มากฝีมือด้วยงานหัตถกรรม
การถักทอผ้าทั้งไหมและฝ้าย
ทุกครั้งที่ได้ไปเที่ยวลำพูน
ก็สัมผัสได้ถึงความสงบร่มเย็น แถมเป็นพื้นที่ปั่นจักรยานท่องเที่ยวแบบสบาย ๆ
ได้หลากหลาย ไฮไลต์ทริปนี้จะชวนไปปั่นตามเส้นทางถนนสายมรดกวัฒนธรรม
ระหว่างทางสามารถ “ปั่นทัวร์บุญไหว้พระ 9 วัด”
ตามชุมชนทอผ้าอย่างชุมชนยอง ได้ ปั่นลัดเลาะไปไหว้พระเสริมสิริมงคล ได้ตั้งแต่
วัดพระธาตุหริภุญชัย อนุสาวรีย์เจ้าแม่จามเทวี วัดจามเทวี วัดมหาวัน วัดพรคงฤาษี
วัดสันป่ายางหลวง กู่ช้างกู่ม้า วัดพระยืน ขัวมุง
เชื่อมโยงไปตามเส้นทางเขตเมืองเก่ากว่า
1,300 ปี
ที่มีวัดเรียงรายอยู่เต็มไปหมด อย่าง “วัดสี่มุมเมือง”
พระนางจามเทวีทรงสร้างไว้ตั้งแต่ปี 1223 เป็นวัดหลักทั้ง
4 ทิศ คือ
ทิศเหนือ-วัดพระคงฤาษี ทิศใต้-วัดประตูลี้ ทิศตะวันออก-วัดดอนแก้ว
ทิศตะวันตก-วัดมหาวัน แต่ละวัดล้วนเป็นสถานที่แตกกรุพระระดับเบญจภาคี
อันเป็นพุทธศิลป์ผสมผสานระหว่างทวารวดีกับศรีวิชัย
ส่วน
“วัดพระธาตุหริภุญชัย” นักท่องเที่ยวรู้จักกันเป็นอย่างดี
เป็นวัดประจำคนเกิดปีระกา และสถานที่ขอรับพรพระบรมธาตุเกศปกเกล้า
บ่งบอกถึงความรุ่งเรืองทางด้านพุทธศาสนามาตั้งแต่ยุคนั้น “วัดจามเทวี” ภายในบรรจุอัฐิของพระนางจามเทวีปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย
แต่ละด้านมีพระพุทธรูปยืนปางประทานพรให้สักการะได้ครบ
“ลำพูน”
เป็นดินแดนแห่งจิตวิญญาณการท่องเที่ยวสายบุญเที่ยวง่าย สบาย ๆ มาได้ตลอด
@เสริมกล้ามเนื้อ
สร้างความเเข็งเเรง ห่างไกลกระดูกพรุน
องค์การอนามัยโลกระบุข้อมูลเรื่องโรคกระดูกพรุนเป็นปัญหาสุขภาพอันดับ
2 รองจากโรคระบบหัวใจเเละหลอดเลือด ในปี 2549 มีคนไทยป่วยเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมราว
6 ล้านคน เเละมีเเนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ส่วนใครไม่อยากมีสถานะเป็นโรคกระดูกพรุน
ก็รีบออกกำลังกายตั้งเเต่ตอนนี้ เพราะมวลกล้ามเนื้อจะลดลงเรื่อย ๆ
เมื่อเราอายุมากขึ้น ตัวอย่างท่าออกกำลังกายเเบบเเรงต้านง่าย ๆ สักท่าให้ลองไปทำกันดู
ดังต่อไปนี้
1.
ยืนตรง กางเท้าทั้งสองกว้างประมาณหัวไหล่ ยกเเขนสองข้างไว้ด้านหน้าระดับหัวไหล่
เพื่อการทรงตัวที่ง่ายขึ้น
2.
ค่อย ๆ ย่อตัวลงโดยทิ้งสะโพกไปด้านหลัง งอเข่าลง
ย่อต่ำให้ต้นขาขนานพื้น(หรือลงเท่าที่ทำได้) ยืดอกหลังตรง
เกร็งหน้าท้องไม่ให้หลังเเอ่น รักษาหัวเข่าไม่ให้เกินปลายเท้า
ทิ้งน้ำหนักลงที่ส้นเท้า ฝ่าเท้าติดพื้นตลอด
3.ออกเเรงเหยียดขาขึั้น
ยืดตัวตรง กลับมาสู่ท่าเริ่มต้น
ข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “บินไทยใจป้ำROPเลือก34เส้นทางใช้ไมล์แลกตั๋วลด30%”
นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์
รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่า การบินไทยจัดแคมเปญลด 30% ให้สมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส (ROP) ใช้ไมล์สะสมแลกตั๋วโดยสารเลือกบินได้ถึง
34 เส้นทาง ครอบคลุมเส้นทางทั้งใน เอเชีย ยุโรป
ออสเตรเลีย โดยไมล์สะสมชั้นประหยัดเริ่มต้นเพียง 8,750
ไมล์/เที่ยว และชั้นธุรกิจ เริ่มต้นเพียง 14,000
ไมล์/เที่ยว สามารถแลกและจองที่นั่งได้ตั้งแต่วันนี้ - 29
กุมภาพันธ์ 2563 แล้วนำไปใช้เดินทางได้ 2
ช่วง คือ 1.ตั้งแต่วันนี้-
29 มีนาคม 2563
และ 2.ระหว่าง
30 เมษายน - 30 มิถุนายน 2563
ตัวอย่าง ตั๋วโดยสารไป-กลับ
ระหว่าง กรุงเทพฯ และพนมเปญ เสียมราฐ เวียงจันทน์
หลวงพระบาง กัวลาลัมเปอร์ ปีนัง ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ ฮานอย โฮจิมินห์ ฉางซา
เฉิงตู ฉงชิ่ง กวางโจว ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ เซี่ยเหมิน เกาสง ไทเป คุนหมิง โคลัมโบ
ธากา ปักกิ่ง เจิ้งโจว นาโกยา โซล ปูซาน ดูไบ เมลเบิร์น เพิร์ท โรม ออสโล
สตอกโฮล์ม มอสโก
ดูข้อมูลเพิ่มที่
www.thaiairways.com/rop หรือ THAI Contact Center โทร.
02-356-1111
ข่าวที่สอง
“ไทยไลออนแอร์หันบุกบินบาหลีทยอยลดไฟล์จีน”
นายอัศวิน ยังกีรติวร
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทย ไลอ้อน แอร์ เปิดเผยว่า ได้ปรับแผนบริการบินหลังเกิดไวรัสโควิด-19
ระบาด ทยอยลดจุดบิน ระหว่างไทย-จีน มีอยู่ 25 เส้นทาง คิดเป็น 30 %
ของทั้งหมด ตามปกติมีส่วนแบ่งเป็นผู้โดยสารจีนราว 30-40 % แต่ตอนนี้ที่ยังไม่ได้ยกเลิกมี 15 เส้นทาง
ขณะนี้จึงต้องเตรียมลดแล้วนำเครื่องไปบินจุดอื่นทั้งในและต่างประเทศที่คาดจะมีผู้โดยสารจำนวนมาก
เช่น บาหลี อินโดนีเซีย โดยจะใช้สิทธิประโยชน์จากมาตรการรัฐมาช่วยคลี่คลายวิกฤตค่าใช้จ่าย ทั้งการลดค่าบริการขึ้นลงอากาศยาน
(landing fee) และการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันลงมาเหลือ 0.20
บาท/ลิตร จะทำให้ต้นทุนน้ำมันลดลงอย่างน้อย 10 %
ทั้งนี้ ไทย ไลออน แอร์ มีเที่ยวบิน
ไป-กลับ ไทยสู่เมืองต่าง ๆ ในจีน เช่น เทียนจิน เจิ้งโจว
ซึ่งบางลดลงแล้วอย่างภูเก็ต หรือดอนเมืองเหลือ 1-2
เที่ยว/สัปดาห์
ข่าวที่สาม “4แอร์ไลน์สแห่ยกเลิกลดเที่ยวบินจากไทยเข้าเกาหลี”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงตั้งแต่วันที่
14 กุมภาพันธ์
2563 สายการบินนานาชาติประกาศลดเที่ยวบิน
ไป-กลับ ไทย-เกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น ทั้งการบินไทย อาเซียน่า แอร์ไลน์ส และโคเรียนท์
แอร์ ซึ่งเป็นผลมาจากโรคระบาดไวรัสโควิด-19
นายนนท์
กลินทะ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย บมจ.การบินไทย กล่าวว่า
ล่าสุดประกาศจำเป็นลดเที่ยวบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ-โซล จากปกติ 5 เหลือ
4 เที่ยว/วัน
ช่วงวันที่ 26 กุมภาพันธ์-28 มีนาคม
2563
ยกเลิกเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-ปูซาน วันที่ 27 กุมภาพันธ์ และวันที่ 5-6 มีนาคม
นี้ ลดเที่ยวบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ จาก 5 เหลือ 4 เที่ยว/วัน ช่วง 20 กุมภาพันธ์-27 มีนาคม
นี้
ส่วนอีก 3 สายการบินของเกาหลีเอง
ก็ประกาศยกเลิกเที่ยวบินออกจากไทยด้วยเช่นกัน คือ
1.Asiana Airlines ยกเลิกเที่ยวบินดังนี้ BKK-ICN เที่ยวบิน OZ744
ตั้งแต่ 19 กุมภาพันธ์-10 มีนาคม
ICN-BKK เที่ยวบิน
OZ743 ตั้งแต่ 18 ก.พ.-9 มี.ค. CNX-ICN
เที่ยวบิน OZ7485 ตั้งแต่ 3-15 มี.ค. ICN-CNX เที่ยวบิน
OZ7475 ตั้งแต่ 3-15 มี.ค.นี้
2.สายการบิน Korean Air ยกเลิกเที่ยวบิน
BKK-PUS เที่ยวบิน KE662
ตั้งแต่ 24 ก.พ.-22
มี.ค. PUS-BKK เที่ยวบิน
KE661 ตั้งแต่ 23 ก.พ.-21 มี.ค. CNX-ICN
เที่ยวบิน KE492 ตั้งแต่ 18,20-23,27 ก.พ.และ 1,3,5-8,12-15,17,19-22,24,26 -28 มี.ค.
ICN-CNX เที่ยวบิน KE491
ตั้งแต่ 18,20-23,27 ก.พ. และ
1,3,5-8,12-15,17,19-22,24,26-28 มี.ค.
3.สายการบิน Jeju Air ยกเลิกเที่ยวบิน
BKK-ICN เที่ยวบิน 7C2202
ตั้งแต่ 17 ก.พ.-15
มี.ค. 2020 และเที่ยวบิน7C2204
ตั้งแต่ 17 -29 มี.ค. ICN-BKK
เที่ยวบิน 7C2201 ตั้งแต่ 17 ก.พ.-15 ก.พ. เที่ยวบิน
7C2203 ตั้งแต่ 16-26 มี.ค.BKK-PUS เที่ยวบิน
7C2252 ตั้งแต่ 17 ก.พ.-15 มี.ค. PUS-BKK
เที่ยวบิน 7C2251 ตั้งแต่ 16 ก.พ.-14 มี.ค. BKK-MWX
เที่ยวบิน 7C2216 ตั้งแต่ 13 ก.พ.-27 มี.ค. MWX-BKK
เที่ยวบิน 7C2215 ตั้งแต่ 12 ก.พ.-26 มี.ค.
ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วต้องรีบติดต่อแหล่งที่ไปซื้อตั๋วมา
ทั้งเอเย่นต์ หรือ Online Travel Agent หรือเว็บไซต์
และผู้ที่ซื้อตั๋วตรงจากสายการบิน
ต้องเจรจาตามเงื่อนไขเพื่อขอเงินคืน หรือเปลี่ยนวันเดินทางตามเหมาะสม
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM
97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น