ททท.ลุยแล้ว!!ดึงอาเซียน-อินเดียแทนตลาดจีน แท็กทีมแอร์ไลน์-บัตรเครดิตอัดโปรแรงแจกแถม

ททท.ลุยแล้ว!!ดึงอาเซียน-อินเดียแทนตลาดจีน

แท็กทีมแอร์ไลน์-บัตรเครดิตอัดโปรแรงแจกแถม

วาเลนไทน์ช้อปลดกระจายที่คิงเพาเวอร์ออนไลน์

คิงเพาเวอร์มหานครเสิร์ฟเมนูรักวาเลนไทน์14ก.พ.

ททท.เชียงใหม่งัดสารพัดแผนฟื้นเป้าทัวร์10ล้าน

ททท.บูมจัดหัวหินโยคะเฟสติวัลปลุกท่องเที่ยวคึก

สมัครบัตรบางจากรับ100แต้มแลกส่วนลดทุกร้าน

ปิดทองฯชู5ปีนำแนวพระราชดำริทำเหนือ/ใต้ยั่งยืน

More Food&Fun!!ชุมชนผลไม้เขาบายศรี จันทบุรี

บินไทยเร่งอัดโปรตั๋วบินคู่ทั่วโลกถูกสุดๆถึงมี.ค.นี้

ตั๋วบินเที่ยวไทยลดกระหน่ำ10เมืองวันนี้-15มี.ค.

โนโวเทลเปิดรูฟท็อปบาร์บูม4แพกเกจวาเลนไทน์

ต้อนรับสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #วาเลนไทน์คิงเพาเวอร์  #ทททแท็กทีมแอร์ไลน์ 

นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์
ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้และแปซิฟิกใต้
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 

            ช่วงที่ 1 เกาะติดแผนปฎิบัติการรุกเพิ่มตลาดทดแทนจีนกับ “กฤษฎา รัตนพฤกษ์” ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กอดคอแอร์ไลน์ส บัตรเครดิตอินเตอร์ ทำกลยุทธ์ “สร้างเชื่อมั่น-ทำราคาพิเศษ-แจกสิทธิ์” ตลาดอาเซียน 9 ชาติ ไฮไลต์ “มาเลเซีย” กับ “อินเดีย” ตัวแทนเอเชียใต้ พากันเที่ยวไทยแบบไม่ยั้ง ดันยอดบรรทุกผู้โดยสารช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ นี้ ทะยานสูง 70-80 %

นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ปรับแผนตามนโยบายในการหาตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศใหม่เข้ามาแทนที่จีนหายไปช่วงไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยได้เตรียมให้เหมาะสมช่วงระยะสั้นสอดคล้องกับสถานการณ์ไตรมาสแรกปี 2563 คือตลาดอาเซียน ซึ่งวิเคราะห์แล้วพบมีปัจจัยหลายอย่างเติบโตตามปกติทั้งทางด้านอัตราบรรทุกเฉลี่ยของสายการบินภูมิภาคอาเซียนจาก 9 ประเทศเข้าไทย เฉลี่ย 70 % หรือทางอินเดีย สายการบินไทยและสัญชาติอินเดียมีอัตราบรรทุกเฉลี่ยสูงถึง 80 % ถึงแม้จะมีการยกเลิกของคณะเดินทางกลุ่มขนาดใหญ่อยู่บ้าง แต่กลุ่มขนาดเล็กยังเดินทางต่อเนื่องอยู่ตลอด

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ททท.ได้หารือกันเพื่อวางแผนรับมือตลาดเชิงรุกช่วงตั้งแต่มีนาคม 2563 ทั้งการปลุกกำลังซื้อตลาดอาเซียนและเอเชียใต้ โดยหารือกันวางแผนใช้งบประมาณที่รัฐบาลมอบให้ ควบคู่กับแผนปฏิบัติการตลาดทั้ง 2 ภูมิภาค พูดคุยกับพันธมิตรกลุ่มหลักคือ สายการบินทั้งของไทย อินเดีย และสายการบินแถบอาเซียน กำหนดทิศทางไว้แล้วว่าจะเดินหน้าอย่างไร เพื่อรอเวลาที่เหมาะสม โดยเฉพาะช่องทางการโปรโมตผ่านโซเชียลมีเดีย

แผนปฏิบัติการเกาะติดสถานการณ์ท่องเที่ยว เพื่อทำการตลาดเชิงรุกนั้น ททท.ได้จัดลำดับตามความสำคัญ ลำดับแรก จับมือกับสายการบิน และเจ้าของบัตรเครดิต เพื่อใช้ฐานข้อมูลสมาชิกเป็นลูกค้าหลักที่จะเข้าเติมการเติบโต โดย ททท.จะอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวในหลากหลายมิติด้วยกัน ทั้งราคา แพกเกจท่องเที่ยว เป็นลักษณะการตลาดสไตล์นี้จะเพิ่มค่าใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นได้กลุ่มอาเซียน

พื้นที่ตลาดเป้าหมายที่ ททท.วางแผนจะทำ ก็มี สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมา ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย โดยเฉพาะมาเลเซียมีแนวโน้มที่ดีไม่ได้ตื่นตระหนกกับสถานการณ์มากนัก จึงยังคงเดินทางขับรถเข้ามาท่องเที่ยวปกติ เพราะเชื่อมั่นซึ่งกันและกันที่จะเดินทางระหว่างกันต่อไป ส่วน “อินเดีย” ถึงจะมีการยกเลิกอยู่บ้างอย่างกลุ่มจัดแต่งงาน ดังนั้นการสร้างความเชื่อมั่นเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ ผนวกกับการทำราคาจูงใจ ซึ่งจะจับมือกับ Indigo Airlines และ Go Air ล้วนแล้วแต่มีอิทธิพลต่อการเพิ่มยอดผู้โดยสารเอเชียใต้เข้าเมืองไทย

ส่วนการบินไทยได้เตรียมสร้างแรงจูงใจ เรื่องการให้น้ำหนักขนสัมภาระกระเป๋าฟรีเป็นพิเศษเพิ่มอีก 5 กิโลกรัม/คน/ครั้ง เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวใช้เงินช้อปปิ้งสินค้าในไทยกลับประเทศ

ผอ.กฤษฎากล่าวว่า การนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่จะขายในตลาดอาเซียนและอินเดีย จะเน้นแหล่งท่องเที่ยวฝั่งทะเลอันดามันแถบภาคใต้ตอนล่าง ภูเก็ต พังงา กระบี่ สมุย(สุราษฎร์ธานี) เพื่อกระจายรายได้ไปยังผู้ประกอบการซึ่งมีจำนวนมากในบริเวณนี้ และฝั่งทะเลอ่าวไทยในภาคตะวันออก พัทยา(ชลบุรี) ระยอง ตราด ช่วงเวลาเดียวกันประมาณเมษายน-พฤษภาคม นี้ จะมีการท่องเที่ยวสวนผลไม้ผนวกขายได้ด้วย

กิจกรรมให้นักท่องเที่ยวใช้เงินเพิ่มจะชูเรื่องช้อปปิ้งร่วมกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำของประเทศ สร้างวงจรการซื้อแล้วให้น้ำหนักสัมภาระกระเป๋าสัมภาระขนกลับประเทศได้ฟรี เป้าหมายการทำให้รายได้ตลาดอินเดียใช้เงินที่ผ่านมาเติบโตกว่า 20 % ปี 2563 จะเร่งเพิ่มการใช้จ่ายจากฐานเดิมอีก 5 % ส่วนอาเซียนเพิ่มได้ประมาณกว่า 4 % โดยพยายามเสนอขายสินค้าที่มี “มูลค่าสูง” เพราะกลยุทธ์ “การเพิ่มวันพัก” ทำได้ค่อนข้างลำบากเพราะมีเที่ยวบินให้เลือกมากสะดวกในการเดินทางเข้าออกได้ตลอดเวลา

ปี 2563 กำลังพิจารณาปรับเป้าหมายตัวเลขจำนวนและรายได้ตลาดอาเซียน และเอเชียใต้ ใหม่อีกครั้งหลังเกิดเหตุการณ์ไวรัสปอดอักเสบโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ระบาด ภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ จึงจะมีข้อมูลสรุปอย่างชัดเจน

ผอ.กฤษฎากล่าวว่า ททท.ภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้และแปซิฟิกใต้ ทุกสำนักงานในต่างประเทศ ยังคงเดินหน้ารักษาการทำเทรดโชว์และโร้ดโชว์ทั้งรายการใหญ่และรายการย่อยไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะการเจรจาจะต้องเพิ่มความถี่มากขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้ประกอบการ ร่วมกันหารายได้เพิ่มเข้ามาทดแทนในส่วนที่หายไปเมื่อช่วงต้นปีนี้

สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวที่จะกลับมา ตอนนี้ในฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์เมื่อการเดินทางเข้าสู่ภาวะปกติในอนาคตต่อไป

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “วาเลนไทน์ช้อปกระจายที่คิงเพาเวอร์ออนไลน์”

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดมหกรรมช้อปโอกาสพิเศษฉลองเทศกาลวาเลนไทน์ วันนี้-15 กุมภาพันธ์ 2563 เมื่อลงทะเบียนเข้าร่วมรายการ Top Spender ลุ้นรับมากมาย

1.The Greatest Gift of Love รับฟรี ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ-โอซาก้า จากสายการบินนกแอร์ (คำนวนยอดซื้อจากวันที่ 7-14 กุมภาพันธ์ นี้) ประกาศรายชื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ นี้

2.Valentine’s Memory เมื่อช้อปครบ 8,000 บาทสุทธิ์ ลดเพิ่มทันที 5 % และช้อป 10,000 บาทลดสูงสุด 20 %

3.Best Selected for Her and Him ลดสูงสุดถึง 30 % เมื่อข้อปออนไลน์โดยเข้าไปกดรับรหัสส่วนลด

4.Buddy Deal ซื้อคู่สุดคุ้ม สำหรับสินค้าเครื่องไฟฟ้า ลด 40 % ซื้อเครื่องกีฬาและการท่องเที่ยว ลดทันที 30 %

5.The Great Duty Free Sale พิเศษ สมาชิกบัตร คิง เพาเวอร์ ลดสูงสุด 20 % ตามหน้าบัตร เพียงแค่ผูกบัตรออนไลน์แล้วใช้การคลิกก่อนชำระสินค้า

ข่าวที่ 2“คิงเพาเวอร์มหานครเสิร์ฟเมนูรักวาเลนไทน์14ก.พ.”

คิง เพาเวอร์ มหานคร เปิด มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ ชวนทุกคู่รักจูงมือคนรู้ใจมาร่วมสร้างความทรงจำสุดพิเศษต้อนรับเทศกาลความรักวันวาเลนไทน์ กับดินเนอร์เมนู “Be My Valentine” รสเลิศ 3 คอร์ส ที่มาคู่กับกุหลาบแดงและขนมมาการอง ราคาเพียง 3,900++ บาท/คู่* ในบรรยากาศสุดโรแมนติกบนชั้น 76 คิง เพาเวอร์ มหานคร เป็นเมนูที่มีเฉพาะวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 ระหว่าง 17:00-00:00 น. เท่านั้น

เชฟ Joshua Cameron ได้รังสรรเมนู “Be My Valentine” ให้คู่รักประทับใจมีทั้ง เทอร์รีนฟัวกราส์เสิร์ฟพร้อมสตรอเบอรร์รี่และกลีบกุหลาบ ล็อบสเตอร์ลวกเนยสด ปิดท้ายด้วยขนมทีรามิสุ และทุกคู่รักที่เลือกแพ็คเกจนี้รับทันทีดอกกุหลาบแดง พร้อมขนมมาการองในกล่องดีไซน์สุดหรูที่ออกแบบเฉพาะค่ำคืนพิเศษติดมือกลับบ้าน

ส่วนที่ มหานคร สกายวอล์ค จุดชมวิวชั้นดาดฟ้าและรูฟท๊อปบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ณ ชั้น 78 คิง เพาเวอร์ มหานคร มีโปรโมชั่นพิเศษ “Love at First Height” บัตรชมมหานคร สกายวอล์ค 2 ใบ รวมอัลบัมภาพถ่าย พวงกุญแจ ไปรษณียบัตรที่ระลึก เครื่องดื่มม็อคเทล 2 แก้ว และของทานเล่น พร้อมสนุกกับการเก็บภาพบันทึกความทรงจำพิเศษของคุณและคนรัก ชั้น 74 ที่ประดับประดาไปด้วยแสงไฟและลูกโป่งสุดอลังการ ราคาสุดพิเศษเพียง 2,200 บาท/คู่ (สุทธิ) ใช้บริการได้ระหว่าง 8-16 กุมภาพันธ์ 2563

สำรองที่นั่งห้องอาหารมหานคร แบงค็อก สกายบาร์ ล่วงหน้าในวันวาเลนไทน์มื้อค่ำได้ที่ http://bit.ly/Be-My-Valentine-2020

ข่าวที่ 3 “ททท.เชียงใหม่งัดสารพัดแผนฟื้นเป้าท่องเที่ยว10ล้านคน”

ภัคนันท์ วินิจชัย
ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่

นางภัคนันท์ วินิจชัย ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ผลการสำรวจก่อนและหลังตรุษจีน นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาพักเฉลี่ยด้วยสถิติที่ดีเกินกว่า 82 % ผนวกกับมหาวิทยาลัยเชียใหม่รับปริญญาทำให้มีตลาดในประเทศเข้ามาเสริมรายได้ ส่วนเที่ยวบินตรง ไป-กลับ เชียงใหม่-อู่ฮั่น 3 เที่ยว/สัปดาห์ แต่พอรัฐบาลจีนประกาศห้ามคนออกนอกประเทศระหว่าง 24 ม.ค.-ก.พ.2563 ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไปจากเชียงใหม่เฉพาะเที่ยวบินตรงสัปดาห์ละไม่ต่ำกว่า 900 คน รวมทั้งจำนวนกรุ๊ปทัวร์หายไป ยกเว้นนักเดินทางอิสระมีบ้างปะปราย โดยบางโรงแรมยกเลิกไปถึงจนเดือนมีนาคม นี้

ล่าสุดนายนพดล ภาคพรต ลงพื้นที่ประชุม ททท.ภาคเหนือ 11 สำนักงาน เพื่ออัพเดทสถานการณ์และกำหนดทิศทางปรับแผนตลาดใหม่ จัดกิจกรรมกระตุ้นตลาดคนไทยเดินทางในประเทศ รวมทั้งจะเดินทางไปประชุมทุกแห่ง โดยมีนโยบายให้ททท.ในประเทศเดินหน้า 1.กระตุ้นท่องเที่ยวข้าม 5 ภูมิภาค  2.จัดอีเวนต์ให้มีขนาดใหญ่ 3.เพิ่มอีเวนต์ใหม่ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการเสนอพิจารณา มีอีเวนต์ช่วงกุมภาพันธ์-เมษายน นี้ จะมีกิจกรรมประเพณีในพื้นที่สามารถทำให้ใหญ่ขึ้นมา ได้แก่ สงกรานต์ โดยมีแม่เหล็กดึงดูดด้วยการชวนสายการบิน โรงแรม เข้ามาร่วม เพราะผู้ประกอบการได้รับผลกระทบมาก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนไปพลางๆ 

แต่ยังคงติดเรื่องงบประมาณ สิ่งที่ทำเร่งด่วนคือคุยกับผู้ประกอบการดูแลนักท่องเที่ยวจีนให้ดี ๆ  พร้อมกับทำสเตทเมนท์ We Touch We Care เผยแพร่ตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อป้องกัน คัดกรอง ผู้ติดเชื้อ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากปรับตัวเร็วแจกหน้ากาก บอกระเบียบปฏิบัติ เพราะที่ผ่านมาไทยเจอวิกฤตโรคระบาดมาหลายครั้ง

               

ขณะนี้ ททท.เชียงใหม่เน้นทำความร่วมมือกับ ททท.ต่างประเทศ จะแจ้งไปยังพื้นที่กลุ่มเป้าหมาย จัดแฟมทริปเข้ามาเพื่อนำสินค้าไปขาย หรือภาคเอกชนเชียงใหม่ก็รวมตัวกันไปทำโร้ดโชว์ แนวโน้มสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ยาว จึงต้องหาทางเร่งขยายตลาดในประเทศ โดยขอให้ทาง ททท.ส่วนกลางเข้ามาช่วยสนับสนุนงบประมาณ หาพันธมิตรรายใหญ่ และจัดทริปเข้ามา เรื่อยไปจนถึงการปลดล็อกองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หากเลิกมาตรการนี้จะช่วยทำให้ตลาดไมซ์คึกคักเพิ่มขึ้น เพราะตอนนี้ อปท.ทั่วประเทศเป็นแหล่งเดียวที่ได้รับเงินจัดประชุม สัมมนา

                สถิติปี 2561 เชียงใหม่มีนักท่องเที่ย;ตลอดปีมี 10 ล้านคน ประกอบด้วย คนไทย 70 % ต่างชาติ 30 % อันดับ 1 จีน ตามมาด้วย อเมริกา ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ตามแผนเน้นร่วมมือกับ ททท.สำนักงานต่างประเทศ คือ เสนอสินค้าใหม่ ๆ ประสานให้ผู้ประกอบการพื้นที่ไปทำโร้ดโชว์ เพราะโจทย์หลักตามซึ่งเป็นตัวชี้วัดผลงาน (KPI) นั่นคือต้องเพิ่มการเดินทางภายในประเทศตามเป้าต้องกว่า 5 %

               

ปี 2563 ได้ไฮไลต์การขาย “60 เส้นทางความสุข” จัดทำโครงการ Hello Winter, Summer, Rainny นำแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแต่ละฤดูกาลมาโปรโมตทางตรงเพราะปัจจุบันคนไทยเดินทางเที่ยวเองในเชียงใหม่ 70 % และผ่านบริษัทนำเที่ยวเพียง 30 % จึงต้องเร่งสร้างการรับรู้ว่าเชียงใหม่มีเส้นทางท่องเที่ยวจุดใดบ้าง

                ควบคู่กับการร่วมมือกันหันหาตลาดทดแทนรุกไปเจาะนักท่องเที่ยวที่ห้ามเดินทางไปจีนอย่าง เกาหลี ญี่ปุ่น หรือยุโรป แต่ก็มีอุปสรรคเรื่องเศรษฐกิจ ค่าเงินบาท สภาพตอนนี้ห้างสรรพสินค้าในเชียงใหม่ยืนยันคนไทยหายไป เป็นผลมาจากกลัวโรคระบาดด้วยเช่นกัน

               

นางภัคนันท์ กล่าวว่ากรณีที่เชียงใหม่ได้รับการโหวตให้เป็นเมืองแชมป์โลกในฐานะเมือง Digital Nomad ที่ผู้คนทั่วโลกนิยมมาเที่ยวแล้วทำงานไปด้วยได้ จำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เข้ามาอยู่ในเชียงใหม่มากถึง 30,000 คน เพียงแต่ยังมีประเด็นเรื่องวีซ่านักท่องเที่ยวต้องอยู่ไม่เกิน 90 วัน เพราะจากการพูดคุยกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก็ยังต้องยึดหลักปฏิบัติด้านความมั่นคง ยกเว้นจะมีนโยบายรัฐบาลประกาศให้ยกเว้นได้ ส่วนใหญ่ตลาดกลุ่มนี้จะเลือกสถานที่พัก ในคอนโดมิเนียมกับเกสต์เฮาส์ เพราะต้องพักระยะยาว

               

ขณะเดียวกันการทำแคมเปญกระตุ้นตลาดในประเทศ พุ่งเป้าจะกระตุ้นตลาดเป้าหมาย 1.เจนวาย นักท่องเที่ยวอิสระเดินทางด้วยตนเอง ค้นหาประสบการณ์แปลกใหม่ 2.Silver Age และ 3.คอร์ปอเรต เพื่อเพิ่มวันพักให้เข้ามาท่องเที่ยววันธรรมดา

                ตลอดเดือนกุมภาพันธ์นี้ในเชียงใหม่มีงานท่องเที่ยวดอกไม้ “เชียงใหม่ บลูม ชื่อเดิม งานไม้ดอกประดับ ครั้งที่ 44” เปิดให้ทำกิจกรรม D.I.Y.ตามแหล่งต่าง ๆ โดยมีนักท่องเที่ยวที่มาเชียงใหม่อันดับต้น ๆ เป็นกลุ่มเจนวาย ครอบครัว คอร์ปอเรต อินเซ็นทีฟ กลุ่มสตรี ประชุมสัมมนาค่อนข้างใหญ่ และในเดือนมีนาคมนี้จะมีงาน Route ASIA 2020 มาจัดที่เชียงใหม่ เป็นงานเกี่ยวกับการประชุมและเจรจาธุรกิจการบินของภูมิภาคเอเชียทั้งหมด น่าจะสร้างความคึกคักได้เช่นกัน

ข่าวที่ 4 “ททท.บูมจัดหัวหินโยคะเฟสติวัลปลุกท่องเที่ยวคึก”

นางสาวโศรยา หอมชื่น ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ทางสำนักงานจับมือกับชัคติ โยคะ/Shakti Yoga และพันธมิตรต่างๆ ในพื้นที่จัดมหกรรม “Hua Hin Yoga Festival 2020” ครั้งที่ 2 ระหว่าง 21-23 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 17.00 – 18.00 น.ณ ชายหาดหัวหิน ซอย 75-75/1 อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ Health and Wellness Tourism รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์หัวหินเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับนานาชาติ

ปี 2563 ได้ชูธีมการตลาดภายใต้โครงการ “Sports Fun มันส์ประจวบฯ” เพิ่มความถี่การเดินทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มไลฟ์สไตล์ด้วยการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬารูปแบบต่างๆ ผนวกจุดขายด้าน ศิลปวัฒนธรรม อาหารถิ่น และพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ดังนั้นในการจัดงาน “Hua Hin Yoga Festival 2020” ได้แบ่งกิจกรรมออกเป็น 2 ส่วน คือ

1.การสอนโยคะฟรีริมชายหาด (Yoga On The Beach) ระหว่าง 21-23 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 17.00 – 18.00 น. ณ ชายหาดหัวหิน ซอย 75-75/1 เปิดฟรีให้นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรม มีทั้งหมด 3 เวที

2. กิจกรรมคอร์สเรียนโยคะ (Yoga Courses) ระหว่าง 22-23 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 08.00 น.  – 16.00 น. ณ ห้องประชุมโรงแรมจี หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ มอลล์ นำโดยครูโยคะชื่อดังอย่าง ครูจิมมี่   ครูเมย์ ครูเอ  เรื่อยไปจนถึงครูชาวต่างชาติ อย่าง ครู Martin Elianto  ครู Jonas ครู Joy & ครู Ricardo

ภายในงานนักท่องเที่ยวจะได้ชมการแสดงดนตรีโยคะ จัดที่แรกในหัวหินแห่งเดียวในเมืองไทย บูธจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ การแสดงดนตรีอะคูสติกริมชายหาด

ลงทะเบียนร่วมงาน https://eform.tourismthailand.org/public/hua-hin-yoga-festival-2020

ข่าวที่ 5 “สมัครบัตรบางจากรับ100แต้มแลกส่วนลดทุกร้าน”

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เชิญชวน สมัครฟรี!! บัตรสมาชิกบางจาก สมัครบัตรใหม่ เมื่อนำไปรูดสะสมคะแนนครั้งแรก วันนี้– 30 มิ.ย. 63 รับทันที 100 คะแนน มูลค่า 20 บาท รูดสะสมและใช้แลกส่วนลดที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก ร้านกาแฟอินทนิล ร้านค้าปลีกสพาร์ และศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องฟิวริโอแคร์

            กติกาง่าย ๆ  1.สมาชิกใหม่รับบัตรที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก ต้องลงทะเบียนทางออนไลน์ (ก่อนการใช้งานบัตรครั้งแรก) 2.สมาชิกที่สมัครบัตรทางออนไลน์ รอรับบัตรทางไปรษณีย์ 15 วันทำการ

3.คะแนนสะสม 100 คะแนน เข้าสู่ระบบบัตรสมาชิกอัตโนมัติทันที เมื่อมีการรูดสะสมคะแนนครั้งแรก (ที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก ,อินทนิล ,สพาร์ และศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องฟิวริโอแคร์) 4. จำกัด 1 หมายเลขบัตรสมาชิก / 1 ครั้ง ในการรับคะแนนพิเศษ 5.เบอร์โทรศัพท์ลงทะเบียนได้ 1 หมายเลขบัตรสมาชิกเท่านั้น

ตรวจสอบวิธีคำนวณคะแนนและรายละเอียดเพิ่มที่ http://www.bcpgreenmiles.com/

ข่าวที่ 6 “ปิดทองฯชู5ปีนำแนวพระราชดำริช่วยชายแดนเหนือ-ใต้”

ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ เปิดเผยว่า ได้ร่วมหารือกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อกำหนดทิศทางการทำงานในอนาคตให้ตอบความต้องการของประเทศ  เข้าสู่ระยะที่สาม ระหว่างปี 2564-2568 ตามที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการของสถาบัน เห็นชอบให้นำแนวพระราชดำริไปช่วยแก้ไขปัญหาความมั่นคง ประกอบด้วยชายแดนภาคเหนือด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อแก้ปัญหายาเสพติด และชายแดนภาคใต้ด้านการพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืน

โดยการทำงานที่ผ่านมาในภาคเหนือและภาคใต้ พบว่าประชาชนตอบรับดี เมื่อปิดทองหลังพระฯ ร่วมกับชุมชนวิเคราะห์ปัญหา วางแนวทางแก้ไขและพัฒนา จนนำมาสู่การทำเกษตรแนวใหม่ ส่งเสริมการท่องเที่ยว การพัฒนางานหัตถกรรม ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นตามลำดับ  ตัวอย่าง ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีปัญหาสินค้าเกษตรราคาต่ำ พื้นที่แห้งแล้ง ชาวบ้านขาดแคลน จึงนำความรู้เข้าไปช่วยแก้ไขและการบริหารจัดการ ชักชวนกันสร้างฝาย ทำให้มีน้ำมาทำเกษตรได้อย่างพอเพียง หรือทุเรียนต้นเก่า พอชักชวนไปฝึกอบรมทางภาคตะวันออก ก็สามารถทำให้คุณภาพทุเรียนดีขึ้น จากที่เคยขาย 60 บาท/กิโลกรัม พอคัดเกรดดีสุดขายราคาสูงขึ้นได้เฉลี่ย 90 บาท/กิโลกรัม

ปัจจุบัน ปิดทองหลังพระฯ มีโครงการและกิจกรรมใน 3 จังหวัดชายแดนใต้รวม 7 หมู่บ้าน ครอบคลุมทั้งด้านแหล่งน้ำ การเกษตร และหัตถกรรม

ส่วนชายแดนภาคเหนือ มุ่งเน้นอบรมผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามแนวชายแดน เพื่อส่งเสริมให้พัฒนาพื้นที่ตามแนวพระราชดำริ โดยมีการอบรมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปแล้ว 83 แห่ง

นอกเหนือจากการพัฒนาพื้นที่ชายแดนเหนือและใต้แล้ว คณะกรรมการปิดทองหลังพระฯ ยังมีนโยบายให้ส่งเสริมพื้นที่ต้นแบบปัจจุบัน 6 จังหวัด ได้แก่ น่าน อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ อุทัยธานี และเพชรบุรี ก้าวสู่ความยั่งยืน พึ่งพาตนเองได้ตามแนวพระราชดำริ ตลอดจนเผยแพร่ประสบการณ์ทำงานเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้อย่างกว้างขวาง สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมั่นคงในระยะยาว

                ช่วงที่ 2

@More Food&Fun ชุมชนผลไม้เขาบายศรี จันทบุรี

อีกไม่กี่เดือนผลไม้ตามสวนต่าง ๆ ก็จะออกอีกแล้ว เตรียมไป More Food & Fun กับวิถีชีวิต “ชุมชนเขาบายศรี” ตลุยท่องเที่ยวเกษตร พักโฮมสเตย์กลางในตำบลเขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี

“เขาบายศรี” เป็นชุมชนสงบเงียบที่กำลังมาแรงด้านการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของภาคตะวันออกอีกแห่ง ชาวบ้านแถบนี้ ปลูกผลไม้จากรุ่นสู่รุ่นไว้ทั้งกินและขาย เรียกได้ว่าเมื่อไปถึงแล้ว นักท่องเที่ยวจะต้อง More Food & Fun  ยิ่งตอนเดินเข้าไปยืนท่ามกลางสวนผสมรายล้อมด้วยผลไม้นานาชนิด ซึ่งเกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน สามารถรักษาไม้ผลโบราณอายุนับ 100 ปี ให้อยู่มาจนถึงทุกวันนี้

“ต้นทุเรียน ต้นมังคุด โบราณ” ทั้งสูงและขนาดลำต้นใหญ่มาก แถมออกผลคงรสชาติอร่อยไว้ จึงเป็นเรื่องที่นักท่องเที่ยวทึ่งมาก

การท่องเที่ยวชุมชนเขาบายศรี กิจกรรมหลัก ๆ ก็มี ฟังบรรยายปูพื้นก่อนถึงผลไม้แต่ละชนิดจะให้ผลผลิตช่วงไหนจึงจะมีรสชาติอร่อย ซึ่งมีเทคนิควิธีเลือกตามแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน จากนั้นก็เดินไปชมสวน ดูสาธิตการเก็บผลไม้ หรือจะร่วมสนุกเก็บเองก็ได้ บางสวนมีบริการนั่งรถอีแต็กพาทัวร์ พร้อมมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นคอยแนะนำ  

ตามปกติสวนแถบนี้จะปลูกแบบผสมผสาน มีทั้งทุเรียน มังคุด เงาะ สละ ระกำ ลางสาด ลองกอง กล้วยไข่ ความพิเศษของเขาบายศรีจะมี “อุโมงค์เก็บน้ำใต้ดิน” อันเป็นภูมิปัญญาเหนือชั้นจริง ๆ ในการเก็บน้ำไว้ใช้ทางการเกษตรได้ตลอดทั้งปี

ดูเสร็จก็ถึงเวลา “กินผลไม้” เลือกกินได้ตามชอบใจ ปี 2563 แต่ละส่วนจะขายโดยชั่งกิโลคิดราคาตลาดของผลไม้แต่ละชนิด ต่างจากเดิม ๆ ซึ่งเคยทำเป็นบุฟเฟต์ผลไม้ กินเสร็จก็ซื้อหิ้วติดมือกลับอีกสักอย่างละชุด นำมาฝากคนทางบ้านได้กินผลไม้อร่อย ๆ จากสวน

ชุมชนเขาบายศรี มีบริการ “โฮมสเตย์” การท่องเที่ยวสวนผลไม้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างคืน ทั้งแบบเดี่ยว ๆ หรือเป็นหมู่คณะที่จะมาจัดประชุม อบรม สัมมมนา จัดเตรียมที่พักพร้อมอาหารเช้าไว้ต้อนรับทุกกลุ่ม

ส่วนร้านขายของที่ระลึกที่ชาวบ้านเลือกให้เป็นศูนย์กลางคือ “ร้านป้าแกลบ” จะมีผลไม้สด แปรรูป หลากหลาย ของชาวบ้านนำมาฝากขายนักท่องเที่ยว

ต้องการท่องเที่ยว “ชุมชนรักษ์เขาบายศรี” สามารถติดต่อได้ที่ โทร.086-834-9604, 098-283-3102

ปีนี้ช่วงเทศกาลผลไม้ที่จะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน-ต้นเดือนสิงหาคม 2563 ห้ามพลาดชวนกันไปอุดหนุน “ชุมชนเขาบายศรี” อำเภอบ้านใหม่ จ.จันทบุรี กันให้ได้นะพี่น้องชาวไทย  

@ถึงเวลาลดโซเดี้ยมลดการกินเค็มลดได้สารพัดโรค

                ยุคนี้ต้องหันมามีวินัยเลือกกินอาหารอย่างมีคุณภาพ ด้วยการลดโซเดี้ยม ลดการกินรสเค็ม เพื่อจะได้ลดสารพัดโรคลงให้ได้ ตามข้อแนะนำดังนี้

1.หากปรุงอาหารเอง ควรลดปริมาณเครื่องปรุงรสในอาหาร เช่น น้ำปลา ซอสปรุงรส ซีอิ๊ว น้ำมันหอย ผงชูรส และควรตวงก่อนปรุงรสทุกครั้ง

2.หากกินข้าวนอกบ้าน ควรหลีกเลี่ยงการปรุงรสเพิ่ม หลีกเลี่ยงการเติมพริกน้ำปลา ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ และไม่ควรซดน้ำแกงหรือน้ำซุปจนหมด เพราะโซเดียมจากเครื่องปรุงรสต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะละลายอยู่ในน้ำแกงหรือซุป ซึ่งหากเป็นไปได้ควรประกอบอาหารกินเองแทนการกินข้าวนอกบ้าน

3.ถ้าต้องกินอาหารนอกบ้าน ก็ควรชิมอาหารก่อนเติมเครื่องปรุงทุกครั้ง และควรปรับพฤติกรรมการกิน โดยปรุงน้อย ๆ ไม่เติมน้ำปลาหรือซอสต่าง ๆ ตามชอบใจ รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการเติมน้ำจิ้มในอาหารต่าง ๆ และไม่ควรกินอาหารจำเจอย่างเดียว

4.หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสจัด อาหารหมักดอง แช่อิ่ม อาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว หรือเลือกกินอาหารธรรมชาติ แต่ถ้าจำเป็นต้องกิน ควรอ่านฉลากโภชนาการทุกครั้ง แล้วเลือกอาหารที่มีโซเดียมน้อยที่สุด

5.ควรลดการกินขนมหวานที่มีโซเดียม เช่น กล้วยบวชชี และอาหารที่มีโซเดียมแฝง ขนมอบทุกชนิดที่ใส่ผงฟู เช่น ขนมปัง เค้ก คุ้กกี้ โดนัท พาย ซาลาเปา เป็นต้น

ทั้งนี้การกินโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้มากกว่าที่คิด ได้แก่ ลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้ 10% ลดปัญหาหลอดเลือดอุดตันลง 13% ยืดอายุไตและไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง และโรคร้ายอื่น ๆ

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “บินไทยเร่งอัดโปรตั๋วบินคู่ทั่วโลกถูกสุดๆถึงมี.ค.นี้”

นายกรกฏ ชาตะสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย-ประเทศไทย บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการต้อนรับเทศกาลวันแห่งความรัก การบินไทยจัดโปรโมชั่น “HAPPY IN LOVE for 2” ขายตั๋วโดยสารราคาพิเศษ ชั้นประหยัดและชั้นธุรกิจ ในเส้นทางระหว่างประเทศ เมื่อเดินทางตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และชำระด้วยบัตรเครดิตซิตี้ที่ www.thaiairways.com ตั้งแต่วันนี้-13 มีนาคม 2563 และเริ่มเดินทางได้ทันทีตั้งแต่วันนี้-31 กรกฎาคม 2563 เส้นทาง ไป-กลับ

1.กรุงเทพฯ-ฟุกุโอกะ/เซนได ชั้นประหยัด เริ่มที่ 15,425 บาท/คน     ชั้นธุรกิจ 52,005 บาท/คน

2.กรุงเทพฯ-โตเกียว/โอซากา/นาโกยา ชั้นประหยัดเริ่มที่ 16,325 บาท/คน ชั้นธุรกิจ 53,945 บาท/คน

3.กรุงเทพฯ-ซัปโปโร ชั้นประหยัด เริ่มต้นที่ 18,440 บาท/คน     ชั้นธุรกิจเริ่ม55,450 บาท/คน

4.กรุงเทพฯ-ไทเป/เกาสง     ชั้นประหยัดเริ่มที่ 10,320 บาท/คน     ชั้นธุรกิจ 23,640 บาท/คน

5.กรุงเทพฯ-เดนปาซาร์ ชั้นประหยัดเริ่มที่ 10,875 บาท/คน ชั้นธุรกิจ 29,865 บาท/คน

6.กรุงเทพฯ-สิงคโปร์     ชั้นประหยัดเริ่มที่ 6,930 บาท/คน ชั้นธุรกิจ 20,020 บาท/คน

7.กรุงเทพฯ-นิวเดลี     ชั้นประหยัดเริ่มที่ 10,095 บาท/คน     ชั้นธุรกิจ 31,365 บาท/คน 8.กรุงเทพฯ-ชัยปุระ ชั้นประหยัด เริ่มที่ 12,210 บาท/คน

            ในยุโรป กรุงเทพฯ-เวียนนา ชั้นประหยัด เริ่มต้นที่ 23,185 บาท/คน ชั้นธุรกิจ 95,835 บาท/คนกรุงเทพฯ-โรม ชั้นประหยัด เริ่มต้นที่ 23,040 บาท/คน ชั้นธุรกิจ 94,830 บาท/คน กรุงเทพฯ-มอสโก ชั้นประหยัด เริ่มต้นที่ 21,990 บาท/คน     ชั้นธุรกิจ 89,190 บาท/คน

สอบถามเพิ่มได้ที่ THAI Contact Center 0-2356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่สอง “ตั๋วบินเที่ยวไทยลดกระหน่ำ10เส้นทางวันนี้-15มี.ค.”

นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่า ร่วมฉลอง 60 ปีกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยจัดแคมเปญพิเศษเที่ยวเมืองไทย “60 เส้นทางความสุข @ เมืองไทย เดอะ ซีรีส์” โดยจัดขายตั๋วโดยสารราคาพิเศษ ภายใต้ 3 ธีม 3 ฤดูกาล

ฤดูหนาว : Hello Winter Theme “Winter Sweet” บินในประเทศจากกรุงเทพฯ สู่ 10 เส้นทาง ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น สุราษฏร์ธานี กระบี่ ภูเก็ต หาดใหญ่ นราธิวาส ราคาบิน 2 คน เริ่มต้นที่ 2,600 บาท/คน และราคา 4 คน เริ่ม 2,300 บาท/คน จ่ายค่าตั๋วผ่านบัตร ซิตี้แบงก์ เคทีซี บัตรเครดิตในเครือธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้ตั้งแต่วันนี้-15 มี.ค. 63 พร้อมกันนี้ ททท.ให้สิทธิ์ลุ้นรับรางวัลเพียบ เช่น ตั๋วโดยสารฟรี บัตรกำนัลโรงแรม แพ็กเกจท่องเที่ยว ของพรีเมียมอื่นๆ กว่า 100 รางวัล

 ส่วนทัวร์เอื้องหลวงของการบินไทยจัดแพ็กเกจ “Coffee & Tea Lover” บินลัดฟ้าไปสัมผัสอรรถรสของชาและกาแฟจากแหล่งชุมชนชาวอาข่า จังหวัดเชียงราย และร่วมกิจกรรมต่างๆ อาทิ เรียนรู้การแปรรูป การคั่ว การชงกาแฟ การผลิตกาแฟดริป เยี่ยมชมวัดร่องเสือเต้น และไร่ชาฉุยฟง เดินทางระหว่างวันที่ 21-23 ก.พ. 63 ในราคาแพ็กเกจเดินทางสุดคุ้มเพียง 18,860 บาทต่อท่าน ผู้ที่สนใจสามารถสำรองที่นั่งได้ตั้งแต่วันนี้ที่ทัวร์เอื้องหลวง โทร. 0-2356-2888 (จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00 น.-18.00 น.)

อีก 2 แคมเปญ ฤดูร้อนภายใต้ธีม “Summer Zap” และฤดูฝนภายใต้ธีม “Mom & Me in the rain” การบินไทยกับ ททท.พร้อมจัดเต็มในโอกาสต่อไปติดตามให้ได้เร็ว ๆ นี้

ข่าวที่สาม“โนโวเทลฯเปิดรูฟท็อปบาร์บูม4แพกเกจวาเลนไทน์”

โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สุขุมวิท 20 นำสกายออน 20 รูฟท็อปบาร์ ให้คู่รักควงกันมาดินเนอร์ กับ 4 โรแมนติกวันวาเลนไทน์สุดหวานทั้ง 4 แบบ ได้แก่

1.แพ็คเกจ Valentine in the Sky ราคา 2,000 บาท สำหรับ 2 คน รวมสปาร์คกลิ้งไวน์ Chandon        1 ขวด และค็อกเทลต้อนรับ 2 แก้ว

2.แพ็คเกจ Be Mine ราคา 5,000 บาท สำหรับ 2 คน ประกอบไปด้วย  ค็อกเทลต้อนรับ 2 แก้ว Chandon Brut or Rose 1 ขวด ดอกกุหลาบ คานาเป้และของหวาน

3.แพ็คเกจ Be Yours ราคา 10,000 บาท สำหรับ 2 คน ประกอบไปด้วย โต๊ะส่วนตัวด้านหน้าพร้อมเห็นวิวพาโนรามาของกรุงเทพยามค่ำคืน ค็อกเทลต้อนรับ 2 แก้ว Moet & Chandon Rose Champagne 1 ขวด ช่อดอกไม้ ทาปาส ของหวาน และห้องพักแบบซูพีเรียร์ 1 คืนรวมอาหารเช้า 2 คน

4.แพ็คเกจ Seafood Lovers ราคา 15,000 บาท สำหรับ 2 คน ประกอบด้วย โซฟาส่วนตัวด้านหน้าพร้อมเห็นวิวพาโนรามาของกรุงเทพยามค่ำคืน ค็อกเทลต้อนรับ 2 แก้ว ช่อดอกไม้ Champagne Moet & Chandon Rose Champagne 1 ขวด  และอาหาร cold plate 1 ชุด อาหารทะเล จานหลัก ของหวาน และห้องพักแบบสวีท 1 คืนรวมอาหารเช้า 2 คน

สำรองที่นั่งโทร 02-009-4999

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.