เปิดโมเดล“ไร่สุขพ่วง”Earth Safeวิถีอินทรีย์เศรษฐกิจแกร่ง
ปี’64ต่อยอดศูนย์เรียนรู้ฝึกอาชีพปลุกชุมชนทั่วไทยเข้มแข็ง
คิงเพาเวอร์พาเหรดนาฬิกา5แบรนด์ดังมาชวนช้อปด่วน
ๆ
พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดเต็มเมนูญี่ปุ่น3สไตล์ที่ห้องเท็นชิโนะ
ททท.ผนึกวีซ่าดึงร้านค้า4แสนแห่งร่วมใช้ระบบเงินไร้สัมผัส
ททท.กอดคอ5พันธมิตรขายแพกเกจหรูดึงเศรษฐีเที่ยวไทย
“ตราด”ปลื้มหยุดยาวคนไทยแห่เที่ยว3เกาะเงินสะพัด300ล้าน
บางจากให้สมาชิกเติมผ่านบัตรซีไอเอ็มบีไทยรับแต้ม2เท่า
More Fun สนุกวิถีใหม่“ชุมชนพนัสฯ-หนองมน-ศูนย์ศึกษา”
แนะเคล็ดลับการกินโจ๊กคู่ปาท่องโก๋ต้องรู้วิธีจึงดีต่อสุขภาพ
ทอท.พร้อมขยายสัมปทานยืดค่าใช้จ่ายให้ลูกค้า6สนามบิน
โนโวเทลกรุงเทพฯจัดWeekend Escapeแค่1,445บาท/คืน
อภิวรรษ สุขพ่วง” เจ้าของไร่สุขพ่วง Earth Safe อินทรีย์วิถีไทย
ศูนย์เรียนรู้เกษตรพอเพียงในตำบลจอมบึง อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี
ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ #ไร่สุขพ่วงจอมบึงราชบุรี #ช้อปคิงเพาเวอร์ #MoreFunพนัสนิคมตลาดหนองมน
ช่วงที่ 1 เปิดมุมใหม่กับมูลนิธิปิดทองหลังพระ หนุน
“นายอภิวรรษ สุขพ่วง” เจ้าของไร่สุขพ่วง ตำบลจอมบึง อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี สร้างเครือข่ายวิถีเกษตรพอเพียง
“ศูนย์เรียนรู้ต้นแบบ : Earth Safe อินทรีย์วิถีไทย”
อาวุธสำคัญนำชุมชนก้าวข้ามความสำเร็จ สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
โดยนำทฤษฎีพอเพียงในหลวงรัชกาลที่ 9 วางแผนปลูกพืชผัก ทำปศุสัตย์
สร้างรายได้ขยายสู่การท่องเที่ยว เป็นโมเดลต้นแบบการศึกษาดูงาน ต้นปี’64 สร้างความฮือฮาเปิดโฮมสเตย์รองรับตลาดฝึกอบรม
นำร่อง 5 วัน 4 คืน แค่คนละ 3,500 บาทเท่านั้น
นายอภิวรรษ สุขพ่วง เจ้าของไร่สุขพ่วง เปิดเผยว่า
ได้ร่วมมือกับทางมูลนิธิปิดทองหลังพระ เผยแพร่และสร้างการรับรู้ ไร่สุขพ่วง พื้นที่ตัวอย่างศูนย์เรียนรู้ต้นแบบ
: Earth Safe อินทรีย์วิถีไทย
เพื่อให้สังคมได้นำไปใช้อย่างมีคุณค่า
ซึ่งสื่อถือเป็นอาวุธสำคัญที่จะทำให้เด็กเยาวชนที่จบการศึกษาแล้วยังไม่มีงานทำ
สามารถเข้าใจ เข้าถึง แล้วนำองค์ความรู้จากไร่ไปประยุกต์สร้างงาน สร้างอาชีพ
ต่อไปได้ เนื่องจากไร่สุขพ่วงก่อตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ให้ครอบครัวเราพึ่งพาตนเองได้โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายค่าอุปโภคบริโภค
แล้วศึกษาความชอบของคนจากนั้นก็ลงปลูกข้าว ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์
คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเสียสตางค์ไปจ่ายตลาด
ผมทำจนกระทั่งประสบความสำเร็จทางด้านการสร้างอาหารมั่นคงภายในพื้นที่มรดกไม่มากหรือน้อยจนเกินไปราว
25 ไร่
ด้วยการนำเกษตรทฤษฎีใหม่ของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาบริหารจัดการ ทำนาข้าว ปลูกผักสวนครัว
ทำปศุสัตว์ ประมง เลี้ยงปลา ตอบโจทย์ความต้องการในครัวเรือน พร้อม ๆ
กับการถ่ายทอดถึงวัฒนธรรมการปลูกพืชเกษตร ทำปศุสัตว์
ซึ่งใช้เวลาเพียงปีเดียวก็ประสบความสำเร็จ
จากการนำองค์ความรู้จากปู่ย่าตายายสอนให้ปลูกพืชตามฤดูกาล
ปลูกเดือนเก้าเก็บเกี่ยวเดือนสิบสอง ปีแรก ๆ ครอบครัวพ่อแม่แทบจะไม่ต้องซื้อเลย
ในพื้นที่ไร่สุขพ่วงขนาด
25 ไร่
สามารถปลูกเกือบ 100 ชนิด
แบ่งตามแนวเกษตรทฤษฎีใหม่ในการปลูกพืช 3 อย่าง
ได้แก่ 1.พืชกินได้ ข่า
ตะไคร้ 2.ป่าไม้ใช้สอย
ป่าโตเร็ว เช่น ไผ่ กระถิน นำมาเป็นพืชพลังงานได้ เครื่องจักรสาน ด้ามจอบเสียม
ค้างปลูกพืชผัก 3.ป่าไม้ในอนาคตพืชเศรษฐกิจ
เช่น ตะเคียน ยางนา มะค่า พยุง ทำให้เกิดความมหัศจรรย์ ความร่มเย็น มีเห็ด
มีสมุนไพร มีสัตว์อาศัยอยู่ ได้ประโยชน์ต่อเนื่องอย่างที่ 4 คือเป็นทั้งยารักษาโรค อาหาร
เป็นปัจจัยในการใช้ชีวิตได้
การปลูกพืชตามแบบพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่
9 สามารถตอบโจทย์ทั้งหมดในชีวิตเราได้
ตลอดระยะเวลา
10 ปี เริ่มต้นลงมือทำตั้งแต่อายุ 22
ปี มีพัฒนาการจากปลูกกินในครอบครัว
กลายเป็นสร้างรายได้เศรษฐกิจเลี้ยงชีพ มีอาชีพ มีวิชาชีพ เป็นของตนเอง
ต่อยอดไปสู่ชุมชน ท้องถิ่น โดยพัฒนาเป็น “โครงการตัวอย่างศูนย์เรียนรู้ Earth
Safe :วิถีอินทรีย์ไทย
เพราะพอทำมาครบ 10 ปี
พบว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมดมีประโยชน์ต่อตัวเรา ต่อท้องถิ่นของตนเองในอำเภอจอมบึง
จังหวัดราชบุรี และต่อประเทศไทย จึงได้ตัดสินใจเปิดบ้านทำเป็นศูนย์เรียนรู้
โดยร่วมมือกับภาคประชาสังคม “มูลนิธิรักดินรักษ์น้ำ” หรือ Earth Safe
Foundation เข้ามาช่วยกันทำเป็น
“ศูนย์เผยแพร่เศรษฐกิจพอเพียง” รณรงค์ให้เกษตรกรลดละเลิกใช้สารเคมีอย่างยาฆ่าหญ้า
ฆ่าแมลง ผนวกกับนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 เข้ามาสอนชาวบ้านด้วย
วันนี้สามารถเปิดให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เข้ามาศึกษา เรียนรู้ได้ทุกวัน
นายอภิวรรษกล่าวว่า กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวหรือผู้สนใจจะเข้าไปเยี่ยมชมโดย สามารถพาครอบครัวแวะเข้าไปได้ทันทีทุกวัน เพราะต้องการให้เด็กเยาวชนมาเรียนรู้ดูพืชพรรณธัญญาอาหารที่รับประทาน ส่วนหน่วยงานต่าง ๆ ที่เห็นถึงประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสตรี กลุ่มแม่บ้าน และอื่น ๆ ในท้องที่ ก็มาเรียนรู้ได้เช่นกัน
นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยี่ยมชมเป็นครอบครัว
สามารถร่วมกิจกรรมเรียนรู้อย่างง่าย ๆ ทุกวันเริ่มเปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้า ไปจนถึง 3 โมงเย็น ประกอบด้วย 3 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมที่ 1 สอนปลูกผักในตะกร้า
เพราะส่วนใหญ่คนเมืองที่เข้ามาเรียนรู้จะไม่ค่อยมีที่ดินเป็นของตนเอง
ทางไร่สุขพ่วงจะสอนให้ประยุกต์นำภาชนะสานจากขวดพลาสติกลองให้เด็ก ๆ
ลองสานแล้วลงมือปลูกพืชแล้วนำไปแขวนตามคอนโดมิเนียม ดาดฟ้า ถนนหน้าบ้าน ทำได้ง่าย
ๆ หรือ กิจกรรมที่ 2 “เลี้ยงสัตว์”
บางคนพอมีที่ดินว่างบ้าง เราจะสอนการทำอาหารสัตว์ อาหารปลา เอง
แล้วยังจะได้ร่วมให้อาหารไก่ ปลา เก็บไข่ กิจกรรมที่ 3 “แปรรูป”
คุณพ่อแม่ผู้ปกครองอยากมีอาชีพเป็นของตนเอง ก็จะสอน การทำขนม อาหารเมนูต่าง ๆ
ทองม้วน ขนมกุยช่าย และอื่น ๆ
สำหรับค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรม
กลุ่มแรก “บุคคลทั่วไป” เมื่อวอล์คอิน แวะเข้าไปในไร่สุขพ่วง แล้วทำกิจกรรมได้ฟรี
ยกเว้นจะกรุณาบริจาคเงินบ้างก็ทำได้แล้วแต่ศรัทธา กลุ่มที่สอง
“หน่วยงานสัมมนาดูงาน” มีค่าใช้จ่ายหลัก ๆ รวมวันละ 6,000 บาท ต่อจำนวนกรุ๊ปละไม่เกิน 100 คน เพื่อนำไปเป็น ค่าจ้างวิทยากรคนละ 1,200
บาท ค่าอาหารจัดเลี้ยง
เป็นเมนูพื้นบ้าน คนละ 100-130 บาท
ค่าวัสดุการฝึกทำกิจกรรมสานตะกร้า อุปกรณ์ฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ
แต่ถ้าหน่วยงานใดไม่มีงบประมาณก็สามารถแจ้งมาที่ไร่ได้
สามารถให้ความรู้แบบไม่มีค่าใช้จ่ายได้เหมือนกัน
ทั้งนี้แต่ละกรุ๊ปไม่ควรจะมาพร้อม
ๆ กันเกิน 80 คน
เพราะพอถึงเวลาลงมือทำกิจกรรม ทางวิทยากรจะได้ช่วยดูแลอย่างทั่วถึง
สามารถนำไปใช้ประยุกต์ทำเองได้ในชีวิตประจำวัน
นายอภิวรรษกล่าวว่า
ช่วงต้นปี 2564 จะเป็นครั้งแรกในรอบ
10 ปี
ตามคำเรียกร้องของผู้เข้าดูงาน จึงเริ่มทำหลักสูตรกินนอนพักค้างคืน 5 วัน 4 คืน
มาตรฐาน “เกษตรอินทรีย์ วิถีไทย” ราคาคนละ 3,500 บาท/หลักสูตร จะสอนแบบครบวงจร
เริ่มตั้งแต่การปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ แปรรูป การตลาด ทำแบรนด์ การออกแบบรรจุภัณฑ์
นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ การสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ให้คนมาเรียนสามารถประกอบแผงพลังงานจากแสงอาทิตย์ใช้ในบ้านได้
สามารถเข้าไปดูรายละเอียด page facebook
ไร่สุขพ่วง ซึ่งจะเริ่มเปิดรับสมัครได้ช่วงปลายปี 2563 แล้วเข้าอบรมตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป
ขณะนี้กำลังก่อสร้าง
“ห้องพัก” เป็นเรือนนอนได้ห้องละ 3-6 คน รวม
10 ห้อง แต่ละครั้งจะรับผู้เข้าอบรมได้ประมาณครั้งละ 36 คน
เมื่อครบก็จะปิดรับสมัครอบรมเป็นรุ่น ๆ ไป
นายอภิวรรษกล่าวว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมา
10 ปี
องค์ความรู้จากตำราเป็นเรื่องรอง
ทางไร่สุขพ่วงต้องการจะถ่ายทอดให้ผู้มาศึกษาดูงานคือ “วิธีการคิด” ไม่ใช่
“วิธีการทำ” หมายถึงเมื่อเรียนรู้จากเราไปแล้วผู้เรียนสามารถไปดูทรัพยากรในท้องถิ่นของตนเองได้ว่า
มีพืชอย่าง กล้วย อ้อย ข้าว ผลไม้ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน
แล้วแต่ละคนนำแนวคิดตามทฤษฎีเกษตรพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปประยุกต์เป็นแนวคิด รู้จักการเพิ่มคุณค่า
การพึ่งพาตนเอง สิ่งเหล่านี้จะนำไปคิดต่อที่บ้านของตนเองได้
เพราะต้องถ่ายทอดให้เข้าใจ เข้าถึง ก่อนจะนำไปพัฒนาเป็นแนวคิดในบ้านเกิดของตนเอง
ตามหลักการเข้าใจ
เข้าถึง มีวิธีถ่ายทอดให้รู้ถึงแก่นโดยทางไร่สุขพ่วงจะพยายามสอนให้คนอบรมเข้าใจถึง
“ทุน” ซึ่งไม่ใช่เงินแต่เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีเป็นความรู้ในตัวเองตามหลัก
“ภูมิสังคม” 2 ส่วนสำคัญ คือ 1.สอนสำรวจภูมิศาสตร์ในบ้านตัวเองเป็นอย่างไร
เหมาะสมกับการปลูกพืชชนิดใด หรือเลี้ยงสัตว์ประเภทไหน 2.สอนสังคมศาสตร์ ในท้องถิ่นอาจจะมี ศิลปะ
ภูมิปัญญา วิถีชีวิต ชาติพันธุ์ ซึ่งเป็นต้นทุนทางความรู้ ต้องกลับไปค้นหา
เพราะบางครั้งคนเราอาจจะไม่รู้ เช่น บางพื้นที่มีน้ำพริกแจ่วบอง รสชาติอร่อยมาก
แต่ทำไม่ได้แบบนั้น
ดังนั้นจึงต้องให้ไปสืบค้นจากบรรพชนในท้องถิ่นแล้วนำสร้างเป็นพาชีพ
นายอภิวรรษกล่าวว่า การสร้างรายได้ให้ไร่และชุมชน จะทำตรงกันข้ามกับธุรกิจทั่วไป นั่นคือจะไม่ใช้ “ตลาดนำการผลิต” แต่จะใช้เรื่องของ “ทุน” หรือสิ่งที่ชุมชนมีมาทำการต่อยอด เช่น ไร่สุขพ่วงชุมชนโดยรอบปลูกอ้อยจำนวนมาก ถ้าหากผลิตเพียงเพื่อป้อนโรงงานอุตสาหกรรมเพียงอย่างเดียวก็จะถูกกดราคา เราจึงคิดวิธีนำอ้อยเคยปลูกเป็น 10-100 ไร่ ก็ลดเหลือครอบครัวละ 1 ไร่ แล้วนำอ้อยที่เคยหมักเป็นน้ำตาลรสหวาน ก็นำผสมเวเนก้ารสเปรี้ยวไปหมักทำเป็น “ซีอิ๊ว” หรือกลั่นหาค่าทำเป็น “แอลกอฮอล์เจล” และเวชสำอางค์ ต่าง ๆ
เราทำสิ่งที่เรียกว่า “ทำน้อยมีประโยชน์มาก” เจียระไนหามูลค่า จึงเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ไร่ของเราประสบความสำเร็จด้วยวิธี “เพิ่มมูลค่าด้วยภูมิปัญญาไทย”
ขณะนี้ได้พัฒนาเป็น “วิสาหกิจชุมชน” ทางไร่กับทางมูลนิธิรักษ์ดินรักษ์น้ำช่วยพัฒนาการคัดเลือกสายพันธุ์เพื่อนำมาปลูกโดยมีกฎให้ 1 ครัวเรือน ปลูกอ้อยได้แค่ 1 ไร่ แล้วทางศูนย์เรียนรู้ Earth Safe อินทรีย์วิถีไทย ก็จะสอนสูตรการแปรรูประดับชุมชน มีเตาเคี่ยวน้ำตาล ชาวบ้านสามารถแบกอ้อย ฟืน มาใช้สถานที่เคี่ยวแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ แล้วก็ทำเป็นมาตรฐานเดียวกัน พอเสร็จก็รวมปริมาณใส่บรรจุภัณฑ์ติดแบรนด์ “ไร่สุขพ่วง” วางขายเป็นแบรนด์ชุมชน
ไร่สุขพ่วงส่งเสริมให้ชุมชนทำเป็น
“รายได้เสริม” ปัจจุบันชาวบ้านมีรายได้เฉลี่ยจากอาชีพเสริมดังกล่าวประมาณ 8,000
บาท/ครัวเรือน
โดยให้ทางศูนย์เป็นแหล่งรวบรวมผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเรียกว่า
“ผักพื้นบ้านอาหารพื้นถิ่น” เกิดการเชื่อมโยงตลาดได้ถึง 3 ระดับ คือ
ชุมชน-โรงแรม/โรงพยาบาล/โรงเรียน-ห้างสรรพสินค้า อย่างซูเปอร์มาร์เก็ต
เปิดโอกาสให้ชาวบ้านแต่ละหลังคาเรือนที่มี ผักพื้นบ้าน อย่าง ผักเหลียง ผักติ้ว
ชะมวง และอื่น ๆ มาส่งที่ไร่สุขพ่วงสร้างรายได้เป็นรายวัน
เกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่
9 ถือเป็นคัมภีร์ความสุขแห่งวิถีชีวิตที่สร้างความมั่นคงทั้งทางอาหาร
อาชีพ และรายได้ อย่างเข้มแข็งได้ตลอดทุกยุคทุกสมัยนั่นเอง
ข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์พาเหรดนาฬิกา5แบรนด์ดังชวนมาช้อปด่วน ๆ
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ พาเหรด “นาฬิกาแบรนด์” ในสไตล์ SPORT SOUL มาให้แฟนคลับได้ช้อปกันแบบที่เข้าถึงจิตวิญญาณแห่งท้องฟ้าและผืนน้ำ
ช่วยให้คุณได้สัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างไม่ขัดเขิน
แบรนด์แรก IWC - นาฬิกาของนักบินที่สร้างชื่อมายาวนาน
ตอนนี้แนะนำรุ่นล่าสุด Pilot’s Watch Mark XVIII Edition
‘Antoine de Saint Exupéry’ ผลิตพิเศษเพื่อ Antoine de Saint
Exupéry นักบินและนักประพันธ์คนดังเจ้าของวรรณกรรม “เจ้าชายน้อย”
ยิ่งดึงดูดใจ
เผยความงามของพื้นหน้าปัดสีน้ำตาลปัดลายรัศมีในตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 40.0
มิลลิเมตร พร้อมตัวเรือนเหล็กอ่อนชั้นในที่ช่วยปกป้องกลไกอัตโนมัติจากผลกระทบของสนามแม่เหล็ก
แบรนด์ที่สาม
PANERAI -เพื่อภารกิจใต้น้ำ
Panerai ส่งรุ่นใหม่เวอร์ชั่นพิเศษ Submersible
Mike Horn Edition หรือ PAM00984
ที่ผลิตเพื่อเป็นเกียรติแก่ Mike Horn ผู้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์มานานกว่า
15 ปี ด้วยตัวเรือน EcoTitaniumTM ขนาด 47.0 มิลลิเมตร
ที่กันน้ำได้ 300 เมตร ฝาหลังสลักรูปโลมาพร้อมลายเซ็นของ Mike Horn ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติที่สำรองพลังงานได้นาน 3 วัน
มาพร้อมสายสังเคราะห์ที่รีไซเคิลมาจากขวด PET
แบรนด์ที่สี่ RADO -Captain Cook คือหนึ่งในตำนานนาฬิกาสปอร์ตของ
Rado จาก ปี ค.ศ. 1962 ซึ่งเมื่อ Rado นำกลับมาขึ้นไลน์ผลิตใหม่เมื่อ
2-3 ปีก่อนก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง ล่าสุดกับ Captain Cook Automatic
Bronze ความเท่ในตัวเรือนบรอนซ์สีเหลืองทองขนาด 42.0 มิลลิเมตร
พร้อมขอบตัวเรือนเซรามิกแบบหมุนได้ทิศทางเดียว และพื้นหน้าปัดสีเขียว
รวมถึงความสามารถในการกันน้ำได้ลึกถึง 300 เมตร
และกลไกอัตโนมัติที่สำรองพลังงานได้นาน 80 ชั่วโมง
แบรนด์ที่ห้า SEIKO-เปิดตัวโครงการ “Save the Ocean” โดยมีนักสำรวจและนักอนุรักษ์ทะเลระดับโลก Fabien Cousteau และพระเอกหนุ่ม อนันดา เอเวอริ่งแฮม ร่วมโครงการ และเปิดตัวนาฬิกาเรือนที่ระลึก Prospex ‘King Turtle’ Automatic Diver’s 200m Save the Ocean Special Edition ในตัวเรือนสเตนเลสสตีลทรงกระดองเต่าอันเป็นดีไซน์จากปี ค.ศ. 1975 ขนาด 45.0 มิลลิเมตร ที่กันน้ำได้ 200 เมตร ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ SHOP NOW
มาช้อปด่วน ๆ ได้เลยที่คิง เพาเวอร์ ที่รางน้ำ มหานคร และสาขาตามเมืองท่องเที่ยวที่เปิดให้บริการ
ข่าวที่ 2 พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดเซ็ตญี่ปุ่น 3
สไตล์ที่ห้องเท็นชิโนะ
ห้องอาหารเท็นชิโนะ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ด้วยมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยขั้นสูงสุดในทุกขั้นตอนของการปฏิบัติการ พร้อมข้อเสนอพิเศษ อาหารญี่ปุ่น 3 แบบ 3 สไตล์ ทั้งรับประทานที่ร้านและรับกลับบ้านมาพร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้ม ดังนี้
1. Tokushu 4-Course Set - เซ็ตอาหารญี่ปุ่นสำหรับมื้อค่ำ
4 คอร์ส ครบครันไปด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย ซุป
อาหารจานหลัก และของหวาน ในราคา 1,990 บาท (สุทธิต่อเซ็ต)
รังสรรค์โดยทีมเชฟมากประสบการณ์
ด้วยวัตถุดิบสดใหม่ที่นำเข้าโดยตรงจากประเทศญี่ปุ่นและฝรั่งเศส
เพื่อสร้างรสชาติสุดพิเศษให้คุณประทับใจตั้งแต่คำแรก
เปิดบริการทุกวันอังคาร – วันเสาร์ 18.00 น. – 23.00 น. พิเศษ รับส่วนลด 30% เมื่อทำการสำรองที่นั่งผ่านระบบออนไลน์ คลิก https://bit.ly/2A6Oijl
2. Tenshino 14-Course Degustation - เต็มอิ่มกับการรับประทานอาหารญี่ปุ่นที่ผสมผสานศิลปะของอาหารสไตล์ยุโรปไปกับคอร์สเมนูอาหารญี่ปุ่นเท็นชิโนะ 14 คอร์ส ในราคา 2,200 บาท (สุทธิต่อท่าน) โดยเชฟแพนและทีมได้เลือกเมนูอาหารจานเด่นและเป็นที่นิยมที่สุด ประกอบด้วย ซาชิมิ อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก เครื่องเคียง และของหวาน ทั้งหมด 14 เมนู มาให้ลิ้มลอง พร้อมสัมผัสกับบรรยากาศสบายๆ ด้วยพื้นที่พักผ่อนกว้างขวางและความเก๋ไก๋ในแบบโบฮีเมียน
เปิดบริการทุกวันอังคาร – วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. – 23.00 น. พิเศษ รับส่วนลด 10% เมื่อทำการสำรองที่นั่งผ่านระบบออนไลน์ คลิก https://bit.ly/2VzTO5E
3. Donburi Box - เพลิดเพลินไปกับข้าวสวยญี่ปุ่นแสนอร่อยที่เสิร์ฟพร้อมท็อปปิ้งที่คุณชื่นชอบทั้งเนื้อสัตว์ ซีฟู้ด และผักต่างๆ ในกล่อง สำหรับซื้อกลับบ้านหรือเดลิเวอรี่ ด้วยเมนูข้าวญี่ปุ่นหน้าหมูย่างมิโสะ ข้าวญี่ปุ่นหน้าแซลมอนย่างเกลือ ข้าวญี่ปุ่นหน้าปลาไหลย่าง ข้าวญี่ปุ่นหน้าหมูอิเบริโค และอีกมากมาย ในราคาเริ่มต้น 190 บาท (สุทธิ) เพียงสั่งรายการอาหารที่ต้องการทางออนไลน์ และเข้ามารับที่โรงแรมด้วยตนเอง หรือสามารถใช้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่เข้ามารับอาหารแทนก็ได้เช่นกัน
ห้องอาหารเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา
11.00 น. – 19.30 น.
ข่าวที่ 3 ททท.ผนึกวีซ่าไทยดึงร้านค้าทั่วไทย4แสนแห่งใช้ระบบเงินไร้สัมผัส
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว
(ททท) เปิดเผยว่า ไดร่วมกับ บริษัท วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้ความปลอดภัยด้านสุขอนามัย
โดยรณรงค์ให้ผู้บริโภคชำระค่าสินค้าและบริการแบบไร้การสัมผัสด้วยช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
(Digital Payment) สนับสนุนการท่องเที่ยวแบบวิถีใหม่ หรือ New
Normal
โดยทาง วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล
(ประเทศไทย) จะส่งเสริมให้ร้านค้าเพิ่มช่องทางการชำระเงินจากรูปแบบเดิมให้สามารถรองรับการชำระเงินแบบไร้การสัมผัส
(Contactless Payments) ทั้งในรูปแบบการชำระเงินผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์
สมาร์ทโฟน ช่วงแรกจะเริ่มต้นในพื้นที่ กรุงเทพฯ นำร่องจากร้านค้าย่านถนนสุขุมวิ ภายในปี 2563 จะขยายไปยังเมืองท่องเที่ยวหลัก 5
จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี(พัทยา) สุราษฎร์ธานี (สมุย)
และประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน)
โดยวางแผนผลักดันให้ร้านค้าพันธมิตรที่รับชำระเงินด้วยบัตรวีซ่าในไทยกว่า
400,000 ร้าน
สมัครเข้าร่วมรับการประเมินตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing
Thailand Safety & Health Administration (SHA) เพื่อให้ผ่านการประเมินตามมาตรฐานดังกล่าว
ขณะเดียวกัน
วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ยืนยันจะประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้รายชื่อร้านค้าที่ได้รับ
SHA ผ่าน www.tourismthailand.org/thailandsha
และช่องทางของวีซ่า สร้างความมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย
และมั่นใจเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ กระตุ้นการไทยเที่ยวไทยแบบครบวงจร
ข่าวที่ 4 ททท.กอดคอ5พันธมิตรบูมขายแพกเกจหรูเจาะตลาดเศรษฐีเที่ยวไทย
นายนพดล
ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
จับมือกับ 5 พันธมิตร กลุ่มโรงแรมหรู
30 แห่ง สายการบินไทยสมายล์ ธนาคารกสิกรไทย
ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม และ ดิ เอ็มควอเทียร์ เปิดตัวแคมเปญ Let’s
getaway นำเสนอทริปหรูหราทั่วเมืองไทย
9
แห่ง กระตุ้นกำลังซื้อไทยเที่ยวด้วยราคาสุดพิเศษ เริ่มจองได้ตั้งแต่วันนี้ -30 กันยายน
นี้
โดยมีไฮไลต์โรงแรมหรูหรามีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกอย่าง
อมันปุรี ภูเก็ต สุดหรูที่เคยต้อนรับ ราชวงศ์ ดาราฮอลลีวูด และอนันตรา สยาม เชียงราย
แคมป์ช้างแอนด์ รีสอร์ท เปิดตัวที่พักสุดหรูโดมใส จังเกิ้ล บับเบิ้ล ให้ชมท้องฟ้า
ดวงดาว 360 องศา เข้าร่วมโครงการ ยังมีสถานที่หรูหราใกล้กรุงอย่าง สปาสุดพรีเมี่ยมหนึ่งเดียวของอยุธยา
ธัญ เวลเนส เดสทิเนชั่น ให้ไปทดลองทำทรีตเมนต์สปา แช่ออนเซ็น ปั่นจักรยานน้ำ
ชมวิวทุ่งนาเขียว ๆ ในราคาสุดพิเศษสุดตลอดครึ่งปีหลัง 2563
นางชาริตา ลีลายุทธ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์ แอร์เวย์ จำกัด กล่าวว่า พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษสุดด้วยตั๋วเครื่องชินชั้นสมายล์พลัส
ท่องเที่ยวในประเทศ ลด 20% ราคาเริ่มต้นที่ 2,700
บาท สำรองที่นั่งได้ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2563 – วันที่
30 กันยายน 2563
และเดินทางได้ถึงวันที่ 24 ตุลาคม 2563
ทั้งนี้มีโรงแรมหรูหรานำเสนอราคาร่วมแคมเปญ
Let’s getaway 30 โรงแรม อาทิ “เชียงใหม่” ออนเซ็น แอท ม่อนแจ่ม ห้อง Grand
Terrace Suite ราคา 8,000
บาท “เชียงราย” โรงแรมอนันตรา สามเหลี่ยมทองคำ แคมป์ช้าง แอนด์ รีสอร์ท ห้อง Deluxe Three Country View
Suite 16,000
บาท “พระนครศรีอยุธยา” ธัญ เวลเนส
เดสทิเนชั่น ห้อง 1 Bedroom Pool Villa ราคา 44,000
บาท “เขาใหญ่” รุกข์ คีรี ห้อง Mountain
Villa ราคา 6,500
บาท “พัทยา” ครอสทู พัทยา โอเชียนเฟียร์
ห้อง 2 bedroom pool villa ราคา 9,599
บาท “หัวหิน” วาลา หัวหิน - นู แชปเตอร์
โฮเทล ห้อง Pool Villa ราคา 10,000
บาท “ภูเก็ต” ศรีพันวา ภูเก็ต ห้อง Pool Suite West Ocean View ราคา
9,999 บาท “กระบี่”
เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท ห้อง Ocean View Pool Villa ราคา
19,900 บาท “สมุย” โฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท เกาะสมุย ห้อง One
Bedroom Pool Villa ราคา 19,500
บาท
สำหรับแพ็กเกจทัวร์ราคาพิเศษ ก็มี “บริษัท
NOBLE TRAVEL DESIGN” จัด แพ็กเกจพัก อมันปุรี ภูเก็ต 2
วัน 1 คืน ห้อง Exclusive Pavilion พร้อมทั้งเครดิตของเงินมูลค่า
3,000 บาท อาหารเช้า รถรับส่ง มินิบาร์
และ ชุดน้ำชา ของว่างยามบ่าย รวมตั๋วเครื่องบิน THAI Smile ไป
- กลับ (กรุงเทพฯ - ภูเก็ต) เริ่มต้น 15,000
บาท/คน “บริษัททัวร์ Trails of Asia” แพ็กเกจพักศรีพันวา
ภูเก็ต ห้อง Pool Suite West Ocean View 2 วัน 1
คืน บาท รวมตั๋วเครื่องบิน THAI Smile ไป - กลับ (กรุงเทพฯ – ภูเก็ต)
ราคาเริ่มที่ 9,500 บาท “บริษัท Merit Explorer” พักพิมาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปา ห้องพัก Hillside
Oceanview Pool Villa 1 Bedroom 4 วัน 3
คืน รวมตั๋วเครื่องบิน THAI Smile ไป - กลับ (กรุงเทพฯ - กระบี่)
ราคาเริ่มต้นที่ 26,280 บาท
ข่าวที่ 5 ตราดเฮวันหยุดยาวคนไทยแห่เที่ยว3เกาะสร้างรายได้กว่า300ล้าน
เกาะช้าง แหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนที่คนไทยแห่ไปใช้บริการช่วงวันหยุดยาว 25-28 กรกฎาคม 2563
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด
รายงานถึงสถานการณ์ท่องเที่ยววันหยุดยาวเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2563 นักท่องเที่ยวในประเทศแห่เดินทางเข้าไปพักผ่อนกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นใน 3
เกาะหลัก ได้แก่ เกาะช้าง เกาะหมาก เกาะกูด รวมกว่า 30,000 คน สร้างรายได้ทะลุ 300 ล้านบาท
โดยมีแม่เหล็กดึงดูดมาจาก 3 ปัจจัยหลัก ประกอบด้วย
1.การเดินทางเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวสะดวกสามารถขับรถไปเที่ยวได้
2.รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านแคมเปญ “เราเที่ยวด้วยกัน”
สนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านห้องพัก ค่าเข้าชม และค่าอาหาร 3.ตราดเป็นเมืองท่องเที่ยวปลอดภัยมีธรรมชาติสวยงามยังไม่มีรายงานการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ระหว่างวันที่ 25-28 กรกฎาคม 2563 ข้อมูลจากผลการสำรวจโรงแรม 66 แห่ง 1,360 ห้อง มีนักท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 36,500
คน พักค้าง 4 วัน 3 คืน ใช้จ่ายเฉลี่ย
3,000 บาท/คน/ทริป สร้างรายได้ 328.5ล้านบาท กระจายไปพักตามเกาะหลัก ๆ จังหวัดตราด คือ “เกาะหมาก” มี
นักท่องเที่ยวประมาณ 3,500 คน คน มีโรงแรมเปิดบริการ 43
แห่ง รวม 700 ห้อง “เกาะช้าง” มีนักท่องเที่ยวประมาณ
22,000 คน มีโรงแรมเปิดบริการ 276 แห่ง
มี 7,796 ห้อง
ข่าวที่ 6 บางจากให้สมาชิกจ่ายผ่านบัตรซีไอเอ็มบีไทยรับแต้ม2
เท่า
บริษัท
บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้สมาชิกรับคะแนนสะสมบัตรบางจาก
2 เท่า เมื่อใช้เบัตรเดบิต ชิลดี ธนาคาร ซีไอเอ็มบี
ไทย ชำระค่าน้ำมัน ร่วมกับบัตรสมาชิกบางจาก (ต้องลงทะเบียนก่อนการเติมน้ำมัน)
ระหว่างวันนี้- 30 กันยายน 2563 โดยสามารถรับคะแนนเป็น
2 ส่วน โดยสมาชิกจะต้องลงทะเบียนก่อนจ่ายเงิน
ตามรายละเอียดดังนี้
ส่วนที่ 1 : รับคะแนนสะสมทันที
ผ่านบัตรสมาชิกบางจาก ตามปริมาณที่สมาชิกเติมน้ำมัน
ส่วนที่ 2 : รับคะแนนสะสมส่วนเพิ่มอีก 1 เท่า ตามปริมาณที่สมาชิกเติมน้ำมัน โดยให้คะแนนผ่านระบบอัตโนมัติภายใน 60 วันทำการ นับจากวันที่ทำรายการชำระค่าบริการเติมน้ำมันที่ปั๊มบางจาก
โดยมีขั้นตอนลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์
ผ่าน Line official account “CIMB THAI Bank”
1.เพิ่มรายชื่อเพื่อนผ่าน Line :
@cimbthai 2.ค้นหาคำว่า
“บางจาก” หรือ เลือกเมนู “เงินฝาก” > “ลงทะเบียนบางจาก” 3.เลือกยอมรับ
“ข้อกำหนดและเงื่อนไขการร่วมรายการส่งเสริมการขาย” 4.กรอกข้อมูลเพื่อรับสิทธิ์ (ชื่อ-นามสกุล
/ เบอร์มือถือ / หมายเลขบัตรเดบิต ชิลดี ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย 16
หลัก / เลขบัตรสมาชิกบางจาก) 5.เลือกยอมรับ
“ยินยอมให้ธนาคารนำส่งข้อมูลการใช้บัตรเดบิตที่ปั๊มบางจาก เพื่อคำนวณคะแนนสะสม” 6.หลังจากนั้นให้รูดบัตรเดบิตชำระค่าน้ำมันและรูดบัตรสมาชิกบางจากเพื่อสะสมคะแนนปกติ
ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยได้ทุกเวลา วันนี้ชวนไป More Fun สนุกไปกับวิถีใหม่ “ชุมชนพนัสนิคม-ตลาดหนองมน-ศูนย์ศึกษาธรรมชาติ” แล้วต้องไม่ลืมดูแลสุขภาพ “เคล็บลับกินโจ๊กกับปาท่องโก๋” ให้ดีต่อสุขภาพ และเกาะติดข่าว “ทอท.แจงเปลี่ยนแปลงสัมปทานและค่าบริการเอกชน 6 สนามบิน” ส่วน “โนโวเทลกรุงเทพฯ” มีแพกเกจดี ๆ มาบอก ห้องพักรวมอาหารคืนละแค่ 1,445 บาทเท่านั้น
เที่ยวใกล้กรุงฟื้นวิถีMore Fun สนุกของจริง “พนัสนิคม-หนองมน”
ห่างหายมาหลายเดือน
คนส่วนใหญ่ก็ยังคงคิดถึงสถานที่ท่องเที่ยว วันนี้จะแนะนำ ขับรถท่องเที่ยว “ชลบุรี”
จากกรุงเทพฯ ไปยังชุมชน พนัสนิคม บ้านบึง และบางแสน
ปักหมุดแรก “ชุมชนพนัสนิคม” ท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยเรื่องการจักรสาน
สืบทอดจากรุ่นสุ่น
มีความคิดสร้างสรรค์ผสมผสานยุคสมัยบอกเล่าเรื่องราวผ่านชิ้นงานมากมาย
ลองแวะไปชมอุปกรณ์การจักรสานมากมายที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ตลอด
ปักหมุดที่สอง ”ตลาดหนองมน” ที่ทุกคนได้ยินได้ฟังมาตลอดถึงชื่อเสียงของ
“ข้าวหลามหนองมน” ที่รักษารสชาติเข้มข้นหวานมันชุ่มด้วยกระทิ
ตอนนี้มีหลายไส้ให้เลือก ในตลาดยังมีอาหารแปรรูปต่าง ๆ โดยเฉพาะอาหารท้องถิ่น
เมื่อไปถึงแล้วต้องห้ามพลาดซื้อกลับมารับประทานต่อพร้อมครอบครัวได้ที่บ้าน
นั่นก็คือ ทอดมัน ห่อหมก
ปักหมุดที่สาม
“ศูนย์ศึกษาธรรรมชาติและอนุรัก์ป่าชายเลนเพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ” ในพื้นที่อันอุดมไปด้วยธรรมชาติเขียวขจีของป่าชายเลน
โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถลองปลูกพืชทะเลชนิดต่าง ๆ เองได้ รวมถึงองค์กรหน่วยงานก็ชวนกันมาทำกิจกรรมคืนประโยชน์สู่สังคมหรือทำซีเอสอาร์ได้ด้วย
ตลอดเส้นทางจะมีป้ายอธิบายความรู้ที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ เป็นเส้นทางวิถีพอเพียง
ที่มาแล้วจะเติมเต็มความเพียงพอให้ทุกคนได้ทั้ง More Fun & Fin
เมืองไทยมีทุกเส้นทางความสุขที่พร้อมจะเติมเต็มให้นักท่องเที่ยว
ลองเที่ยวเมืองไทยสักครั้ง แล้วจะรู้ว่าไทยเที่ยวไทย เท่ทุกสไตล์ เที่ยวได้ทุกเวลา
แนะนำเคล็ดลับการกินโจ๊กคู่กับปาท่องโก๋
ให้ดีต่อสุขภาพ
วัฒนธรรมการกินโจ๊กตอนเช้าคู่กับปาท่องโก๋
นั้น ก็ต้องขอบอกว่าการกินปาท่องโก๋ร่วมกับโจ๊กหมูก็ดีกว่า
แม้เราจะได้รับพลังงานจากอาหารทั้งสองอย่างมากกว่า แต่เราก็จะได้รับทั้ง
โปรตีนจากหมู และไข่ (ถ้าหากเราใส่ไข่เพิ่ม)
ได้รับใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระจากขิง ผักชี ต้นหอม พริกไท ด้วย จึงขอแนะเคล็ดลับการกินโจ้กคู่กับปาท่องโก๋
ให้ดีต่อสุขภาพ ดังต่อไปนี้
คุมปริมาณปาท่องโก๋ -ปาท่องโก๋แต่ละร้านมีขนาดที่แตกต่างกันไป
ซึ่งขนาดที่แตกต่างกันก็ส่งผลให้ได้รับพลังงาน ปริมาณแป้ง
และไขมันที่แตกต่างกันไปด้วย โดยแนะนำว่าไม่ควรรับประทานเกิน 2 คู่ ต่อครั้ง (ขนาดปาท่องโก๋ตัวละ ยาว 10 เซนติเมตร หนา 2.5
เซนติเมตร จะมีน้ำหนักประมาณ 30 กรัมต่อคู่ จะได้รับพลังงานประมาณ 130 kcal
หากกิน 2 คู่ จะได้รับพลังงานประมาณ 260 kcal) หากกินร่วมกับโจ๊กหมูประมาณ 1 ถ้วย
จะได้รับพลังงานรวมไม่เกิน 500 kcal ซึ่งเป็น ปริมาณที่เหมาะสมพอดีต่ออาหาร
1 มื้อ
เลือกโจ๊กที่ครบเครื่อง - โจ๊กที่เราสั่งเพื่อกินร่วมกับปาท่องโก๋
แนะนำว่าควรมีทั้งหมู ไข่ และผักต่างๆ
เพื่อให้ได้สารอาหารที่ค่อนข้างครบถ้วน
แม้ว่าผักในโจ๊กจะไม่ได้มีจำนวนที่เยอะมากเมื่อเทียบกับอาหารเมนูอื่นๆ
แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีผักอยู่เลย หลังจากอาหารเช้ามื้อนั้น
เราก็สามารถเลือกรับประทานผลไม้เพิ่มเติมสัก 1 กำปั้นมือ
ก็ถือว่าได้สารอาหารและพลังงานพอดีและครบถ้วนแล้ว
ข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก ทอท.แจงขยายสัมปทานค่าใช้จ่ายให้ลูกค้า6สนามบิน
ดร.นิตินัย
ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย “ทอท./AOT” เปิดเผยว่า ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ได้ส่งผลโดยตรงต่ออุตสาหกรรมการบินทั้งประเทศ ซึ่ง ทอท.จะใช้เวลาฟื้นฟูธุรกิจสนามบินกลับสู่สถานการณ์ปกติได้เดือนตุลาคม
2565 ซึ่งตอนนี้ประเทศยังไม่เปิดน่านฟ้าระหว่างประเทศทำให้ผู้โดยสารรวมเหลือเพียง
25% จากยอดผู้โดยสารปกติ
ดูได้จากสถิติผู้โดยสารล่าสุดวันที่
29 กรกฎาคม 2563 สนามบินของ
ทอท.มีผู้โดยสารรวมเพียงวันละ82,000 คน จากช่วงปกติมีวันละ 400,000
คน แบ่งเป็น 1.สุวรรณภูมิ เหลือ 15,000 คน จากเดิม 187,000 คนลดลง 91.6% ดอนเมือง เหลือ 40,000 คน/วัน จากเดิม 114,000
คน/วัน ลดลง 65% ภูเก็ตลดลง 84% หาดใหญ่ลดลง 35% และแม่ฟ้าหลวงเชียงรายลดลง 40%
ทอท.คาดการณ์ผู้โดยสารตลอปี
2563 จะลดลงถึง 72% เหลือผู้โดยสารเพียง 38.81 ล้านคน ต่ำกว่าปี 2562
มีผู้โดยสาร 141 ล้านคน ส่วนปี 2564 คาดจะเริ่มฟื้นเพิ่มขึ้นอีก 14% มีจำนวนรวมตลอปี 55
ล้านคน ปี 2565 จึงเติบโต 132% ขยับเป็น 128 ล้านคน ปี 2566 จะเริ่มเติบโตตามปกติกอีกครั้งมีจำนวนผู้โดยสารปีละ
150 ล้านคนขึ้นไป
ดร.นิตินัยกล่าวว่าผลการดำเนินงานปี
2563 ทอท.ยังจะไม่ขาดทุน เพราะตุนรายได้ช่วงฤดูท่องเที่ยวท่องเที่ยวช่วงไตรมาสสุดท้าย
2562 ไว้แล้ว แต่ปี 2564 แนวโน้มผู้โดยสารจะตกต่ำมา
ผนวกกับปัจจุบันมีเงินสดหมุนเวียนอยู่ 50,000 ล้านบาท จึงสุ่มเสี่ยงต่อการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ที่ทำต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้
หากจำเป็นต้องกู้ก็เลือกกู้ในประเทศ 2 รูปแบบ คือ 1.กู้สถาบันการเงิน 2.ออกหุ้นกู้ (บอนด์)
เพื่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานจะต้องไม่มีการแพร่ระบาดโควิดระลอก
2 เกิดขึ้น
ทั้งนี้
ทอท.วางแผนรับมือสถานการณ์รายได้ตกต่ำปี 2563-64 ด้วยการจะเดินหน้าสร้างรายได้ใหม่จาก
4 ธุรกิจ ได้แก่ 1.ศูนย์รับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร
(Certify Hub) อยู่ระหว่างจดทะเบียนบริษัทแล้วเสร็จ สิงหาคมนี้
ก่อนเปิดบริการภายในธันวาคม 2563
2.เมืองการบินสุวรรณภูมิ
ตอนนี้ปรับสีผังเมืองเรียบร้อยแล้ว พร้อมเปิดให้เอกชนลงทุนช่วงกันยายนี้บวกการขยายสัญญาสัมปทานที่ดินแปลงบี
723 ไร่ จากปีเดิม 2575 เป็น 2595
3.เปิดให้บริษัทลูก
ทอท.เริ่มนำร่องแล้วคือธุรกิจบริการภาคพื้นในสนามบินดอนเมือง เตรียมจะขยายไปสนามบินภูเก็ตต่อไป
4.ต่อยอดแอปพลิเคชัน
AOT Airports ซึ่งตอนนี้ได้รับความนิยมมากมีผู้ดาวน์โหลดถึง 500,000
ครั้ง สูงกว่าสนามบินชั้นนำในต่างประเทศ
ทั้งนี้ ทอท. ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ถึงกรณีที่คณะกรรมการ (บอร์ด) มีมติอนุมัติขยายเวลาออกไปอีก 1 ปีให้ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ 1.เลื่อนเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร
(ดิวตี้ฟรี) สุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่ ซึ่งเดิมจะต้องเริ่มเข้าพัฒนาธุรกิจระหว่าง 28
ก.ย.63 - 31 มี.ค.65 และเลื่อนเวลาการเริ่มต้นและสิ้นสุดเดิมเป็น
1 เม.ย.2565-31 มี.ค.2575 เพราะผลกระทบโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนดไว้ 2.เปลี่ยนแปลงการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อผู้โดยสาร (Sharing
Per Head) และจำนวนผู้โดยสารตามจำนวนจริง 3.ขยายเวลาเลื่อนการชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทน
ค่าเช่าพื้นที่ ค่าบริการใช้พื้นที่ในอาคาร ค่าบริการสนามบิน
ให้ผู้ประกอบการและสายการบินต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน
ข่าวที่สอง
โนโวเทลกรุงเทพฯจัดWeekend Escapeเหลือคืนละ1,445บาท
โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สุขุมวิท 20 จัดแพกเจให้ไปสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่คุณคู่ควรกับโปรโมชั่น
Bangkok
Weekend Escape ห้องพักรวมอาหารเช้าทุกวัน
อาหารกลางวันริมสระน้ำ และจิบเครื่องดื่มแอลกอฮอร์สุดพิเศษบนรูฟท็อปบาร์ Sky
on 20
นั่งชิลล์ชมวิวกรุงเทพฯชมพระอาทิตย์อัสดง สำหรับ 2 ท่านที่จองเข้ามา 2 คืนต่อเนื่อง
ราคาเริ่มต้นเพียง 1,445++ /ห้อง/คืน
โนโวเทล กรุงเทพ สุขุมวิท 20
ตั้งอยู่ใจกลางย่านสุขุมวิท คุณสามารถจอดรถไว้ที่โรงแรมฯ
และเดินไปชอปปิ้งบริเวณห้างสรรพสินค้าใกล้เคียง
หรือเดินทางท่องเที่ยวกรุงเทพฯเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวมากมายสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้าเพียงไม่กี่นาทีจากโรงแรมฯถึง
BTS สถานีอโศก และ MRT สถานีสุขุมวิท
จองและเข้าพักโปรโมชั่น Weekend
Escape ได้แล้ววันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2563
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและจองโปรโมชั่นสุดพิเศษนี้ได้ที่โทร 02-009-4999 อีเมล์ H9343-RE@accor.com หรือเว็บไซต์ของเราที่ www.novotelbangkoksukhumvit20.com
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM
97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น