จับตา!!ซูเปอร์วิกฤต“ฟื้นการบินไทย”ระลอกใหม่พ.ค.นี้2กระทรวงซัดกันนัว วัดใจ“นายกฯพลเอกประยุทธ์”เดินหน้าผ่ากับดัก“ลับ-ลวง-เลิกอุ้ม”รัฐวิสาหกิจ
จับตา!!ซูเปอร์วิกฤต“ฟื้นการบินไทย”ระลอกใหม่พ.ค.นี้2กระทรวงซัดกันนัว
วัดใจ“นายกฯพลเอกประยุทธ์”เดินหน้าผ่ากับดัก“ลับ-ลวง-เลิกอุ้ม”รัฐวิสาหกิจ
“คิงเพาเวอร์”ชี้เป้าช้อปออนไลน์ใช้รหัสSV CODEคลิก6ขั้นตอนลดทันที5%
คิงเพาเวอร์นำนาฬิกาผู้หญิงดีไซน์สุดเก๋มาเสนอช้อป5แบรนด์หรูแห่งปี64
ททท.เปิดเทศกาลกินกระท้อนปุยฝ้ายลพบุรีผ่านFacebookLiveครัวเชฟบุ๊ค
TCEBภาคเหนือเล็งยกระดับจัดNew North EXPO 2021ช่วง21-25ต.ค.64
เลือกแหล่งเที่ยวเตรียมไว้รอหลังโควิดจางหายไปเที่ยวป่า-เที่ยวเขื่อนกัน
สปสช.เชิญชวนประชารับบริการรับยาที่ร้านยาร่วมลดแออัดช่วงโควิด-19
แอคคอร์รุกเปิดโรงแรมพูลแมนรีสอร์ตเขาหลักแห่งใหม่สวนกระแสโควิด
“คาเธย์แปซิฟิก”ยันใช้แล้วแทรเวลบับเบิลเที่ยวได้ไม่กักตัวฮ่องกง-สิงคโปร์
ฟังLive สด
รายการจากลิงค์นี้ https://www.facebook.com/watch/?v=818174129101062
ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ #การบินไทย #KingPower #ททท #เชฟบุ๊คชวนกินกระท้อนพันธุ์ปุยฝ้ายลพบุรี #TravelBubleฮ่องกงสิงคโปร์เริ่ม26พค64
ช่วงที่ 1 ถอดรหัส!! สถานการณ์ร้อนการบินไทยกับ
“เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” คอลัมนิสต์และผู้ดำเนินรายการ วิเคราะห์
สายการบินแห่งชาติเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการครบ 1 ปี กำลังเจอ
“ซูเปอร์วิกฤต” หรือ “พฤษภาเดือด” หรือไม่
เมื่อ “คลัง-คมนาคม” ปะทะเดือดวัดใจ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี
เลือกทางออกแบบไหนอุ้มกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจ ดึงหนี้ 4
แสนล้านมาให้ประชาชนแบก หรือปล่อยให้แก้ตามเกมลับ-ลวง เปิดข้อมูล 12 ปี ก่อนโควิดระบาด บินไทยโชว์งบขาดทุนเละเป็นโจ๊กมาก่อนแล้ว
รอบนี้คมนาคมชี้เป้าเห็นจุดอ่อนเพียบ 7 เรื่อง ขณะที่ 5 แบงก์ใหญ่นำทัพเจ้าหนี้ 36 กลุ่ม ถก 12 พ.ค.64 ผนึกกำลังทวงคืนหนี้ 1.8 แสนล้าน
สถานการณ์ “ประเทศไทย” ปี 2564 ท่ามกลาง “วิกฤต” สู่ “ซูเปอร์วิกฤต” ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำลังถูกจับตาจากทุกฝ่ายว่ายังสามารถ “บริหารจัดการ” ฝ่าวงล้อมคลื่นปัญหาขนาดใหญ่หลังคนในรัฐบาลเปิดประเด็นซัดกันนัวในที่ประชุม “การหาทางแก้ปัญหาทางออก” บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)” สายการบินแห่งชาติ ครบ 1 ปี
พฤษภาคม
2564 นี้ “สายการบินแห่งชาติ” ครบ
1 ปี หลังรัฐบาลตัดสินใจให้การบินไทยพ้นสภาพรัฐวิสาหกิจและต้องเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง
แต่ในอนาคตปลายเดือนตุลาคม 2564 นี้
ประเทศไทยก็ต้องพึ่งพาสายการบินแห่งชาติ ซึ่งเคยเป็นเครื่องมือทำมาหากินนำลูกค้ามหาเศรษฐีจากทั่วโลก
ทั้งนักท่องเที่ยว นักเดินทาง นักธุรกิจ หอบเงินเข้ามาใช้จ่ายอย่างราชา
เครื่องมือสำคัญที่จะช่วยฟื้นความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของประเทศไทยกลับมาอู้ฟู่อีกครั้งได้
หลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 จางลง
จุดเปลี่ยนของ
“การบินไทย” หลังจากปีก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
มีมติให้พ้นสภาพรัฐวิสาหกิจเมื่อ 19 พฤษภาคม 2563 พอเข้าสู่พฤษภาคม 2564 ก็มีกลิ่นใหม่จะกลับลำให้
“การบินไทยหวนคืนรัฐวิสาหกิจ” อีกครั้งหรือไม่ ?
หลังเกิดฝุ่นตลบกลางที่ประชุมคณะกรรมการหาทางออกฟื้นฟูการบินไทย เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2564 ที่เกิดปรากฏการณ์ “ซัดกันนัว” ระหว่างกระทรวงการคลังกับกระทรวงคมนาคม ก่อนจะนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม.อีกครั้งช่วงวันที่ 10 หรือ 14 พฤษภาคม 2564 ที่จะให้คลังต้องใส่เงิน 50,000 ล้านบาท หรือจะช่วยค้ำประกันภาระการชำระหนี้อนาคตได้หรือไม่
ภายใต้การนำของ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” คนเดิม เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2563 ตอนการบินไทย “พ้นสภาพจากรัฐวิสาหกิจ” (มีผลเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 โดยคลังลดสัดส่วนหุ้นเหลือต่ำกว่า 50 % ทำให้หนี้สาธารณะของรัฐบาลลดลงกว่า 200,000 ล้านบาท) เป็นการซัดกันระหว่าง “นายอุตมะ สวนายน” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับ “นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีนายอนุทิน ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจ ช่วยสนับสนุน
พล.อ.ประยุทธ์ แถลงมติที่ประชุม ครม.ให้ “การบินไทย” พ้นสภาพ “รัฐวิสาหกิจ” ว่านี่คือการตัดสินใจของผม และเป็นทิศทางที่รัฐบาลจะยึดมั่นและปฏิบัติตามกับกรณีของการบินไทย ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะเป็นไปตามที่ศาลกำหนด และจะแจ้งให้ทราบลำดับถัดไป ภายหลังกระทรวงที่รับผิดชอบทำการศึกษาข้อมูลแล้วเสร็จ โดยหวังว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะทำให้เกิดการปรับโครงสร้างภายในของการบินไทยเช่นกัน
ครั้งนั้นพลเอกประยุทธ์ยังย้ำเพิ่มว่าการบินไทยนับเป็นทูตทางวัฒนธรรมที่ดีของประเทศไทยมาตลอด 60 ปี ผ่านการทุ่มเททำงานของพนักงานและผู้บริหารทุกระดับ และการตัดสินใจครั้งดังกล่าวนี้ จะทำให้การบินไทยกลับมาเป็นสายการบินที่มีความแข็งแกร่งได้อีกครั้ง
จับตา!! เดือนพฤษภาคม 2564 ว่ามติ ครม.จะเดินเกมตามข้อเสนอของที่ประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือไม่ เวทีการประชุมรอบนี้กระทรวงการคลังกับกระทรวงคมนาคม ยังคงแลกหมัดกันเหมือนเดิม เพียงแค่เปลี่ยนตัวละครฝั่ง “กระทรวงการคลัง” เป็น “นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงการคลัง ซัดกับตัวละครเดิมฝั่งคมนาคม คือ “นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กับนายอนุทิน ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
แต่รอบนี้ฝ่ายคลังดัน “การบินไทยหวนกลับคืนสู่รัฐวิสาหกิจ” อีกครั้ง โดยมี 2 สัญญาณใหม่เกิดขึ้น คือ
สัญญาณที่ 1 บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ซึ่งกระทรวงการคลังถือหุ้น 100 % ประกาศผ่านเว็บออนไลน์เรียกประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 พร้อมกับขออนุมัติแก้ไขระเบียบเรื่องเพิ่มวัตถุประสงค์ของบริษัทในหนังสือบริคณห์สนธิข้อที่ 3 จึงเกิดการตั้งข้อสังเกตุเกิดขึ้นว่าอาจจะเป็นการเปิดช่องให้สามารถลงทุน/ถือหุ้น ด้วยวิธีเป็นตัวแทนเข้าซื้อหุ้นการบินไทยรอบใหม่จากกองทุนวายุภักดิ์ สัดส่วน 2.15 % ขึ้นไป หรือไม่
สัญญาณที่ 2 บมจ.การบินไทย ได้รายงานไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุ กองทุนวายุภักดิ์ มีการขายหุ้น เกิดขึ้น ในจังหวะ เวลา ใกล้เคียงกันกับที่ ธพส.จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 โดยมีวาระขอแก้ไขเพิ่มวัตถุประสงค์ของบริษัทเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2564
การเดินหน้าเชิงรุกของกระทรวงการคลังทั้ง 2 สัญญาณ ทำให้เกิดความเข้าใจและตีความในทำนอง คลังมีเป้าหมายให้บริษัทในเครือของคลังเป็นตัวแทนเข้ามาถือหุ้นการบินไทยเกิน 50 % แล้วนำ “การบินไทยกลับมาเป็นรัฐวิสากิจ” อีกครั้ง จากปัจจุบันคลังถือหุ้นอยู่ 47.86 % (ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2563 ประกาศให้พ้นสภาพรัฐวิสาหกิจเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการตามคำสั่งศาลล้มละลายกลาง)
ขณะที่ปัญหาสั่งสมของ บมจ.การบินไทย ในวัย 61 ปี นับจาก “ยุครุ่งเรือง” สู่ “ยุคร่อแร่” หลังจากต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางตั้งแต่พฤษภาคม 2563 ด้วยหนี้สินพอกพูนอยู่ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิดแล้วมูลค่ารวมหลักแสนล้านบาท ตามที่ได้แสดงผลการดำเนินการสถิติย้อนหลังก่อนเกิดโควิด 12 ปี มีดังนี้
เริ่มปี 2551 ขาดทุน 21,314 ล้านบาท ปี 2554 ขาดทุน 10,162 ล้านบาท ปี 2555 ขาดทุน 6,510 ล้านบาท ปี 2556 ขาดทุน 10,955 ล้านบาท ปี 2557 ขาดทุน 15,572 ล้านบาท ปี 2558 ขาดทุน 8,338 ล้านบาท ปี 2560 ขาดทุน 1,555 ล้านบาท ปี 2561 ขาดทุน 11,569 ล้านบาท ปี 2562 ขาดทุน 12,016 ล้านบาท
ระหว่างการประชุมการหาแนวทางแก้ปัญหา
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2564 ทั้งนายอนุทิน
ชาญวีระกุล นายศักดิ์ ชิดชอบ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ
และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ยังโชว์เอกสารวิเคราะห์สภาพของการบินไทยก่อนจะพ้นสภาพการเป็นรัฐวิสากิจ ตอกย้ำถึงความล้มเหลวทางธุรกิจเกิดขึ้นจาก 7
ข้อ ประกอบด้วย
1.การบินไทยมีหนี้สินล้นพ้นตัวกว่า
200,000 ล้าน
2.การบินไทยขาดสภาพคล่องในการดำเนินกิจการ
3.จำนวนบุคลากรมากเกินความจำเป็น
4.ชนิดของเครื่องบินหลากหลายทำให้ค่าดำเนินการและบำรุงรักษาแพง
5.จำนวนเครื่องบินมากเกินความจำเป็น
6.มีบริษัทลูกที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการบิน
ทำให้ไม่สามารถควบคุมการบริหารงานได้อย่างเหมาะสม ทำให้เกิดการขาดทุนสะสม
7.แผนฟื้นฟูการบินไทยที่เสนอเข้ามายังรัฐบาลขณะนั้น
ไม่มีความน่าเชื่อถือว่าจะสามารถทำให้สำเร็จได้
อดีตของ “สายการบินแห่งชาติ”
ก่อนหน้านั้นมีโอกาสยืนสภาพเป็น “รัฐวิสาหกิจ”
เคยได้ “แก้ไขเปลี่ยนแปลง” ตัวเองหรือไม่ ?
ผนวกกับหลังเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง
โดยศาลรับคำร้องเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 การบินไทย
ได้ทยอย “ขายสินทรัพย์” ล็อตใหญ่ “ผู้ซื้อ” ตัวจริงคือใครบ้าง
ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ
ขณะเดียวกัน “เจ้าหนี้ 36 กลุ่ม”
ทันทีที่รับรู้ความเคลื่อนไหวของการบินไทย ได้กำหนดนัดประชุมกันทันที ประชุมวันที่
12 พฤษภาคม 2564 เพื่อยื่นขอรับชำระหนี้จากแผนฟื้นฟูการบินไทย
ตามระเบียบปฏิบัติจะเปิดให้เจ้าหนี้ที่ไม่เห็นชอบกับแผนฯดังกล่าว
ยื่นขอแก้ไขแผนได้ภายในวันที่ 7 พฤษภาคม 2564
เป็นไปตามแผนฟื้นฟูกิจการที่การบินไทยยื่นต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไว้
(เมื่อ 2 มีนาคม 2564) ระบุต้องปรับโครงสร้างหนี้รวม 410,140.78 ล้านบาท
ทางด้าน “นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ช่วงเข้าร่วมประชุมหาแนวทางแก้ปัญหาการบินไทย ที่ทำเนียบรัฐบาลกับพลเอกประยุทธ์ และผู้เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2564ได้เสนอให้คลังเพิ่มทุน และ/หรือค้ำประกันเงินกู้ให้การบินไทยเพิ่ม 25,000 ล้านบาท แต่ก็มีคำท้วงติงว่า ตามระเบียบกฎหมายแล้วจะใช้วิธีดังกล่าวได้ การบินไทยจะต้องมีสถานะเป็น “รัฐวิสาหกิจ” เท่านั้น
ตอนนี้ “รัฐบาล” จึงแทบจะไม่มีช่องให้เข้าไปเป็น “เจ้ามือหรือถือหุ้นใหญ่ผ่านคลัง” เพื่อโอบอุ้มการบินไทย ต่อไปได้ เพราะ
1.การบินไทยไม่ได้เป็นรัฐวิสาหกิจ 2.การเข้าค้ำประกันหนี้ต้องมีกฎหมายรองรับ 3.ความสามารถในการชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ 36 กลุ่ม มูลค่ารวม 180,000 ล้านบาท ต้องมีความสามารถทำกำไรหรือ EBIDA ให้ได้ปีละไม่ต่ำกว่า 15 % แต่สภาพตอนนี้ทำได้ไม่ถึง 5 % 4.ความพยายามหาทุนมาใส่เพิ่มอีก 3 ปีข้างหน้า ปีละ 50,000 ล้านบาท ก็ยังไม่สามารถจ่ายหนี้คืนได้ตามเป้าหมาย
ทั้งนี้การบินไทยมีเจ้าหนี้ซึ่งแนวโน้มอาจต้องยืดชำระออกไปนานถึง 13 ปี คือเจ้าหนี้กลุ่มธนาคาร 5 รายใหญ่ ได้แก่ 1.ธนาคารกรุงเทพ 9,344 ล้านบาท 2.ธนาคารกรุงไทย 6,966 ล้านบาท 3.ธนาคารออมสิน 3,826 ล้านบาท 4.ธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์ 2,149 ล้านบาท 5.ธนาคารอิสลามแห่งระเทศไทย 2,658 ล้านบาท
นับจากนี้ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และประธาน ครม.คำถามและคำตอบ คำโตที่จะกล้าการันตีหรือกล้าประกาศยอมรับผลที่จะตามมาต่อประชาชนได้หรือไม่ กรณี “การตัดสินใจครั้งใหม่” กับทางออกที่กำลังซัดกันนัวเพื่อหาทางออกให้การบินไทย
เนื่องจากเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2563 นายกรัฐมนตรี เคยประกาศเสียงดังได้ยินกันทั้งประเทศไปแล้วว่า “เป็นการตัดสินใจของผมเอง” ให้การบินไทย “พ้นสภาพรัฐวิสาหกิจ” และ/หรือ เดือนพฤษภาคม 2564 จะกลับมาประกาศใหม่ให้ “การบินไทยคืนสภาพเป็นรัฐวิสาหกิจ” พร้อมกับหอบหนี้สินกลับมาเพิ่มในกองหนี้สาธารณะให้ประชาชนต้องร่วมรับผิดชอบอีกไม่ต่ำกว่า 200,000 แสนล้านบาท นั้น
จับตา !! ผู้นำประเทศเลือกทางออกแบบไหน ? และ/หรือ เป็นเพียงแค่ “ลับ-ล่อ-ลวง” ระหว่างเดินเกมการเมืองภายใต้ “การบริหารจัดการวิถีใหม่” ในยุคโควิดกลายพันธุ์ คำตอบครั้งนี้อาจนำไปสู่ “จุดเปลี่ยนใหม่ประเทศไทย” ที่อาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์”ชี้เป้าช้อปออนไลน์ใช้รหัสSV CODEคลิก6ขั้นตอนลดทันที5%
ส่องวิธีช้อปออนไลน์ที่ คิง เพาเวอร์ อย่างไรให้คุ้มผ่านรหัส (ไม่ลับ) “SV Code” ลดเพิ่ม 5% เมื่อช้อปครบ 1,200 บาท วันนี้ - 30 มิ.ย. 64 lสำหรับสินค้าที่เข้าร่วมรายการ ช้อปง่ายที่บ้านได้ด้วย6 ขั้นตอน ดังนี้
1.คลิกเข้ามาช้อปที่ www.kingpower.com หรือดาวโหลดแอพลิเคชั่น King Power 2.ลงชื่อเข้าใช้หรือสมาชิกใหม่ 3.เลือกสินค้าใส่ตะกร้า 4.กรอบรหัสส่วนลด SV CODE ที่ได้รับจากพนักงาน คิง เพาเวอร์ เพื่อรับส่วนลด 5 % เมื่อช้อปครบ 1,200 บาท 5.ระบบจะคำนวณส่วนลดพิเศษให้ทันที 6.กดชำระสินค้าแล้วเลือกช่องทางการชำระเงิน
ย้ำกันอีกครั้ง! รหัสส่วนลด SV Code คุณสามารถถามหาได้จากพนักงาน คิง เพาเวอร์ ทุกคน แล้วอย่าลืมกรอกรหัสฯ ก่อนการชำระเงิน เพื่อรับส่วนลดราคาพิเศษกว่านักช้อปคนอื่น ๆ แบบสบาย ๆ
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ นำผลิตภัณฑ์แฟชั่น “นาฬิกาสุภาพสตรี 5 แบรนด์หรู :Best Luxury Watches For Women” ที่พร้อมจะบ่งบอกสไตล์
รสนิยมของผู้สวมใส่ ด้วยดีไซน์หรูหรา มาพร้อมคุณภาพงานฝีมือและเทคโนโลยีโดดเด่น
เลือกชมรุ่นหรือซื้อได้ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี มหานคร พัทยา ภูเก็ต หรือทางเว็บไซต์
www.kingpower.com ได้แก่
แบรนด์ที่ 1 IWC Portofino Automatic Day & Night 37 ขับเน้นข้อมือให้เรียวสวยด้วยความสมบูรณ์แบบสไตล์เจ็ตเซ็ต
โดดเด่นที่ตัวเรือนสแตนเลสสีเรดโกลด์ ขนาด 37
มิลลิเมตร หรูหราด้วยกรอบหน้าปัดประดับเพชร 66 เม็ด และหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาวประดับเพชร 12 เม็ด
เข้ากันได้อย่างลงตัวกับสายหนังจระเข้สีดำ มาพร้อมคุณสมบัติสำรองพลังงาน 40
ชั่วโมง ขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติ กันน้ำที่ระดับ 3 บาร์
แบรนด์ที่ 2 Audemars Piguet Royal Oak Quartz เรียบหรูด้วยสไตล์การออกแบบที่เฉียบคมและซับซ้อน
ของตัวเรือนไทเทเนียมขนาด 33 มิลลิเมตร
ล้อมด้วยกรอบทองคำขาวขัดเงาประดับเพชรเจียระไนเหลี่ยมเกสร 40 เม็ด หน้าปัดสีเงินแบบ Grande Tapisserie เคลื่อนไหวแบบควอตซ์
กันน้ำที่ระดับ 5 บาร์
แบรนด์ที่ 3 Vacheron Constantin Traditionelle Diamonds Small Model หรูหราและสง่างามอย่างน่าทึ่ง
ด้วยตัวเรือนทองคำขาว 18K ขนาด 30
มิลลิเมตร เช่นเดียวกับหน้าปัดและสาย
ให้ความพิเศษและโดดเด่นด้วยดีไซน์สุดเก๋ประดับเพชร 1,475 เม็ด
มาพร้อมการออกแบบที่ซับซ้อนน่าประทับใจ เคลื่อนไหวแบบควอตซ์
กันน้ำที่ระดับ 3 บาร์
แบรนด์ที่ 4 Patek Philippe Nautilus 7010/1R-011 สวยหรูงามสง่าพร้อมจะอวดคนทั้งโลก ด้วยตัวเรือนโรสโกลด์ขนาด 32 มิลลิเมตร กรอบหน้าปัดประดับเพชร 46 เม็ด หน้าปัดสีโอปอลเหลือบเงิน ขีดแสดงหลักชั่วโมงเคลือบทองและสารเรืองแสง เคลื่อนไหวด้วยระบบควอตซ์ กันน้ำที่ระดับ 6 บาร์
แบรนด์ที่ 5 Rolex Pearlmaster 34 Goldust Dream Roman Diamonds นาฬิกาอันเป็นเครื่องประดับยอดนิยมของ Rolex รุ่นนี้
มาในตัวเรือนโรสโกลด์ 18k ขนาด 34 มิลลิเมตร
โดดเด่นด้วยกรอบตัวเรือนประดับเพชรอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมหน้าปัดสีทองประกายมุก
เข็มนาฬิกาโรสโกลด์ และตัวเลขโรมันประดับเพชร เคลื่อนไหวด้วยกลไกอัตโนมัติ
กันน้ำที่ระดับ 10 บาร์
นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ ผู้อำนวยการ
ภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชิญชวน “เปิดประสบการณ์ อาหารถิ่น
กินที่บ้าน” ผ่านโซเชียลมีเดีย กับ “เชฟบุ๊ค-บุญสมิทธิ์ พุกกะณะสุต” ช่วงที่ทุกคนร่วมมือกัน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ
เพื่อชาติ” สามารถชมไลฟ์ลดความ“คิดถึง” การท่องเที่ยวจังหวัดต่างๆ
ผ่านการทำอาหารกินที่บ้านได้ โดยใช้วัตถุดิบ GI จากจังหวัดลพบุรี กับผลไม้ฤดูร้อนกับ
”กระท้อนพันธุ์ปุยฝ้าย” ของดีขึ้นชื่อจังหวัดลพบุรี หอม นุ่ม
ตามที่เชฟบุ๊คได้ถ่ายทอดประสบการณ์
เมื่อมีโอกาสได้สัมผัส “กระท้อน” เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดลพบุรี ปลูกง่าย
ทนแล้งได้ดียิ่งเป็นกระท้อนพันธุ์ปุยฝ้าย ยิ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภค
เพราะผลกระท้อนเนื้อมีรสหวาน เปลือกนิ่ม เม็ดกระท้อนปุยฟูเหมือนปุยฝ้าย
สีของผลกระท้อนจะมีเหลืองนวลสวย ผลกลมแป้น และยังได้รับการรับรอง GI ของจังหวัดลพบุรีด้วย
กระท้อนใช้ทำอาหารคาวหวานได้หลายเมนู
อาทิ อาหารคาว เช่น แกงฮังเล แกงคั่ว ผัด ตำกระท้อน ส่วนอาหารหวาน เช่น
กระท้อนทรงเครื่อง กระท้อนลอยแก้ว กระท้อนดอง กระท้อนสามรส กระท้อนอบหยี
กระท้อนกวน แยม และเยลลี่ เป็นต้นครับ หรือทานเป็นผลไม้สดก็ชื่นใจ นุ่มลิ้น
อร่อยในอีกรูปแบบ ต้อนรับฤดูกระท้อนลพบุรีปี 2564
สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติม ได้ที่ ททท.สำนักงานลพบุรี โทร.036-770096-7
ข่าวที่ 4 TCEBภาคเหนือเล็งยกระดับจัดNew North EXPO 2021ช่วง21-25ต.ค.64
นางจุฑา
ธาราไชย ผู้อำนวยการฝ่ายสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคเหนือ เปิดเผยว่า
ล่าสุดจัดประชุมผ่านระบบออนไลน์ร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องโดยเพื่อจัดเตรียมความพร้อมโดยร่วมปรึกษาสนับสนุนงาน
New North EXPO 2021 Food & Lifestyle ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าระดับภูมิภาค
จัดแสดงสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอาหารแปรรูป ที่มีสินค้าใหม่
นวัตกรรมใหม่ๆ ในการผลิตสินค้าอาหารแปรรูป
และอุตสาหกรรมของขวัญของที่ระลึก
กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์
โดยได้ประชุมร่วมกับ
นางสาวสุรัชสานุ์ ทองมี ผู้อำนวยการ ฝ่ายสำนักฯภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กับคณะทำงาน และกาญจนา ประสงค์
ที่ปรึกษาโครงการงานแสดงสินค้าภายในประเทศ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่
งาน New
North EXPO 2021 Food & Lifestyle เตรียมจัดระหว่าง 21-25 ตุลาคม 2564 ณ เชียงใหม่ฮอล์ เซ็นทรัลพลาซา
เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ภายใต้โครงการ Empower
Thailand Exhibition โดยมีวัตถุประสงค์ของการจัดงานเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดและขยายช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน
ได้แก่เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน
ส่งเสริมผู้ประกอบการที่กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ก้าวสูาระดับสากล พร้อมช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยงของจ.เชียงใหม่และภาคเหนือโดยรวม
ช่วงที่
2 ห้ามพลาด !! ข้อมูล สถานที่เที่ยว “อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิมไ หลังโควิด-19 ชวนกันไปผ่อนคลาย
เว้นระยะห่างทางสังคมกลางธรรมชาติ “เที่ยวป่า-เที่ยวเขื่อน” จากป่าบงเปียง
จ.เชียงใหม่ ไปหินสามวาฬ ภูสิงห์ จ.บึงกาฬ หรือจะเป็นเขื่อน “ขุนด่านปราการชล”
นครนายก และ “เขื่อนลำคอง” อันซีนไทยแลนด์นครราชสีมา แล้วตาม
สปสช.ไปชวนคนไทยร่วมลดแออัดหันไป “บริการรับยาตามโรงพยาบาลกับร้านยาใกล้บ้าน”
แทนโรงพยาบาลที่เคยใช้บริการประจำ ข่าวเด็ดเผ็ดร้อนท้ายชั่วโมง “แอคคอร์”
เชนลงทุนและบริหารโรงแรมระดับโลก เดินหน้าเปิด “พูลแมน เขาหลัก รีสอร์ต”
สวนกระแสโควิดที่มีโรงแรมแห่ปิดตัว ทางด้าน “คาเธย์ แปซิฟิก” สายการบินแห่งชาติฮ่องกง
เปิดแนวรุก “แทรเวล บับเบิ้ล” เริ่ม 26 พ.ค.64 เป็นต้นไป บินท่องเที่ยวข้ามประเทศได้แบบไม่ต้องกักตัว 14 วัน
ไป-กลับ ฮ่องกง สู่ สิงคโปร์
เลือกแหล่งเที่ยวเตรียมไว้หลังโควิดจางหายไปเที่ยวป่า-เที่ยวเขื่อนกัน
ตอนนี้คนไทยต้องร่วมมือกันอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อทำให้ทุกอย่างจบโดยเร็ว ส่วนแหล่งท่องเที่ยวที่จะนำมาเสนอ หลังจากรัฐบาลปลดล็อกให้กลับมาเที่ยวตามปกติได้ เที่ยวอันซีน “ป่าเขา” กับ “เขื่อนสวย ๆ” เป็นจุดหมายปลายทางที่สามารถ รักษาระยะห่าง และดูแลความปลอดภัยด้านสุขอนามัยได้แบบไม่ต้องกังวล
เปิดมุมเที่ยวป่า เช็คอินจุดแรก “ป่าบงเปียง” เชียงใหม่ ช่วงฤดูฝนนักท่องเที่ยวนาจะได้ตื่นตากับ “นาขั้นบันได” เขียวสบายตาบนเนินเขาลาดสูง
ปลูกอย่างเป็นระเบียบงดงาม
ชวนให้นั่งทอดอารมณ์ปลดปล่อยความรู้สึกอัดอั้นที่ต้องอยู่กับบ้านมานาน
จุดที่สอง
“ภูสิงห์” บึงกาฬ ปีนขึ้นไปยืนสัมผัสขอบฟ้าส่งเสียงตะโกนก้องได้บริเวณจุดชมวิว
“หินสามวาฬ” ทอดสายตา ส่งเสียงลงมา ให้ป่าเขียวขจี ด้านล่างรับรู้
“เที่ยวเขื่อน”
สูดโอโซนบริเวณพื้นที่โล่งกว้าง ทอดสายตาชมสายน้ำไหลริน
สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ด้วยกิจกรรมเดิน ปั่น ชีล ๆ
เขื่อนแรก
“เขื่อนขุนด่านปราการชล” นครนายก ช่วงหน้าฝนมีกิจกรรมสนุก ๆ
ทำได้หลากหลายตามวัยและความชอบทั้ง เดินชีล ๆ ปั่นจักรยาน ล่องแก่ง หรือเช่าเรือพายชมธรรมชาติแวะน้ำตก
3 แห่ง น้ำตกผางามงอน น้ำตกคลองคราม และโดยเฉพาะตรงบริเวณ
“น้ำตกช่องลม” นักท่องเที่ยวชอบแวะถ่ายรูปแชร์ความสวยงาม
กระตุ้นต่อมให้นักท่องเที่ยวอื่น ๆ อยากมาเที่ยวและมีรูปแบบนี้เก็บไว้อวดบ้าง
เขื่อนที่สอง “เขื่อนลำตะคอง”
นครราชสีมา ตรงบริเวณเขายายเที่ยง ถือเป็นอันซีนไทยแลนด์ได้อีกแห่ง ภาพกังหันลมบริเวณอ่างพักน้ำตอนบน
โรงไฟฟ้าลำตะคองให้อารมณ์ความรู้สึกเสมือนได้ยืนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติต่างประเทศที่ใดสักแห่ง
ที่นี่มีบริการเช่าจักรยาน คันละ 40 บาท เพื่อปั่นท่องเที่ยวรอบอ่างเก็บน้ำ
แนะนำช่วงเช้ากับช่วงเย็น อากาศดี สุดแสนจะชีล
ห้ามพลาด !! หลังโควิด-19 จางหาย
เรามีนัดออกมาเช็คอินท่องเที่ยว ป่าเขาและเขื่อน ค้นหาเมืองไทย อะเมซิ่ง
ยิ่งกว่าเดิม
สปสช.ชวนประชารับบริการรับยาที่ร้านยาลดแออัดช่วงโควิด-19
จากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่เกิดการแพร่กระจายเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายน 2564 จนถึงปัจจุบัน
สาเหตุส่วนหนึ่ง มาจากสถานที่เสี่ยงที่มีความแออัดของการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก
โรงพยาบาลก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่เสี่ยงสูง
เนื่องจากเป็นจุดรองรับการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงและรักษาผู้ติดเชื้อ รวมถึงผู้ป่วยทั่วไปยังต้องเดินทางเข้ารับบริการ
พบแพทย์หรือรับยา มีความเสี่ยงได้รับเชื้อ
ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
มีโครงการบริการสุขภาพวิถีใหม่ (New
normal) ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นำร่องพื้นที่กรุงเทพฯ
ปริมณฑล และต่างจังหวัด ในส่วนของบริการเจาะเลือดและเก็บสิ่งส่งตรวจนอกหน่วยบริการ
และบริการระบบสาธารณสุขทางไกล หรือ Telemedicine รวมถึงโครงการรับยาใกล้บ้านและทางไปรษณีย์
เพื่อลดความเสี่ยง และลดความแออัดในสถานพยาบาล
“กรุงเทพมหานคร” จึงให้บริการ 3 โครงการ
ในโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร 9 แห่ง ได้แก่ รพ.กลาง
รพ.ตากสิน รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ฯ รพ.เวชการุณย์รัศมิ์
รพ.ลาดกระบังฯ รพ.ราชพิพัฒน์ รพ.สิรินธร และ รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน
อีกทั้ง สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
(สวรส.) ได้เสนอผลการวิจัย ประเมินผลโครงการนำร่องให้ ผู้ป่วยรับยาที่ร้านยาเพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาลระยะที่
2 โดยได้ทำการศึกษากลุ่มผู้ป่วย 4 กลุ่มโรค ได้แก่
เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคทางจิตเวช และหอบหืด
หรือโรคเรื้อรังที่ไม่มีความซับซ้อนในการดูแล
ซึ่งได้มีการขยายผลนำไปใช้ประโยชน์ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อของผู้ป่วย
ปี 2563
ได้รณรงค์เข้าร่วมโครงการนำร่องดังกล่าว ประกอบด้วย 1.โรงพยาบาล 141 แห่ง 2.ร้านยา1,081
แห่ง เกินกว่าเป้าหมาย-v’ สปสช. กำหนดไว้
จากการเก็บข้อมูลใน 15 โรงพยาบาล จาก 13 เขตสุขภาพ รวมถึงร้านยาที่เป็นเครือข่าย พบ;jkโครงการมีประโยชน์ต่อผู้รับบริการและผู้ให้บริการ
ผู้ป่วยใช้เวลารอรับยาที่ร้านยาไม่นาน การเดินทางสะดวก
ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและสามารถนัดหมายเวลาไปรับยาได้ เภสัชกรมีเวลาอธิบายการใช้ยาให้ผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ลดความเสี่ยงการติดโรคระบาดได้
โดยเฉพาะช่วงโควิด-19
แอคคอร์รุกเปิดโรงแรมพูลแมนรีสอร์ตเขาหลักแห่งใหม่สวนกระแสโควิด
นายการ์ธ ซิมมอนส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอคคอร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า เมื่อปลายเดือนเมษายน 2564 ได้เปิดโรงแรมใหม่ พูลแมน เขาหลัก รีสอร์ท (Pullman Khao Lak Resort) ตั้งอยู่บนหาดบางม่วงทางตอนเหนือของจังหวัดพังงา เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาสถานที่ที่ช่วยเพิ่มพลังและสร้างแรงบันดาลใจ เปิดให้บริการแล้ววันนี้ ขนาด 253 ห้อง พร้อมให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนและทำงานอย่างเต็มที่บนชายฝั่งอันดามัน
รีสอร์ทที่ทันสมัยแห่งนี้เต็มไปด้วยวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีชีวิตชีวา โดยได้รับแรงบัลดาลใจจากเมืองเก่าตะกั่วป่าและการออกแบบสไตล์ชิโนโปรตุกีส นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับงานศิลปะและงานฝีมือจากท้องถิ่นได้
รีสอร์ทขนาด 253 ห้อง ได้รับการออกแบบในสไตล์ร่วมสมัยที่นำเอาสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น มีตัวเลือกที่ห้องพักกว่า 14 ประเภท โดยทุกห้องจะมีระเบียงส่วนตัว พื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง และห้องน้ำคอนเซปต์แบบเปิดพร้อมฝักบัวเรนชาวเวอร์ เริ่มตั้งแต่ห้องดีลักซ์ขนาด 44 ตารางเมตร ไปจนถึงห้องแฟมิลี่สวีทขนาด 62 ตารางเมตร และ ห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทวิวทะเลขนาด 88 ตารางเมตร รีสอร์ทยังมีพูลวิลล่าสองห้องนอนที่เหมาะสำหรับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน
พูลแมนเขาหลักรีสอร์ทร่วมมือกับเชฟและซัพพลายเออร์ท้องถิ่นสร้างสรรค์ประสบการณ์อาหารมากมายที่ห้องอาหารและบาร์ของรีสอร์ท ไม่ว่าจะเป็นอาหารค่ำแบบ 3 คอร์ส ค็อกเทลสำหรับยามพระอาทิตย์ตก กาแฟสดสำหรับเริ่มต้นวันใหม่ หรือตัวเลือกอาหารที่ทานสะดวก ห้องอาหารปลาย (Plai Dining Room) เปิดให้บริการตลอดทั้งวัน ให้บริการอาหารเช้าแบบ Active Breakfast อันเป็นเอกลักษณ์เพื่อเริ่มต้นวันใหม่อย่างมีชีวิตชีวา
รวมทั้งนำเสนออาหารท้องถิ่นและอาหารนานาชาติที่หลากหลายสำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำ
สีน้ำเงินอันสดใสของทะเลอันดามันสร้างสวรรค์สุดฮิปที่ ครามบีชคลับ (Kram
Beach Club) ซึ่งแขกจะได้เติมพลังด้วยของว่างเบา
ๆ อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารทะเลสดๆ และอาหารเมดิเตอร์เรเนียน เดอะ จังก์ชั่น (The
Junction) คือประสบการณ์ใหม่ในล็อบบี้
มอบพื้นที่อันมีชีวิตชีวา เหมาะสำหรับการทำงาน การสร้างสรรค์ และการเชื่อมต่อ
ในขณะที่เพลิดเพลินกับเครื่องดื่ม ขนมอบสดใหม่และแซนวิชแร็พเพื่อสุขภาพ ในขณะที่
เดอะ ฮับ พูลบาร์ (The Hub Pool Bar) ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะกับการพบปะสังสรรค์
การจัดอีเวนต์และกิจกรรมต่างๆ ทั้งกลางวันและกลางคืน
ข่าวที่สอง “คาเธย์แปซิฟิก”ยันใช้Air Travel Bubbleบินเที่ยวไม่กักตัวฮ่องกง-สิงคโปร์
สายการบินคาเธย์ แปซิฟิก
รายงานว่า ขณะนี้ได้จัดทำแผน Ready, Bubble, Fly เส้นทางบินบริการตามข้อตกลงการจับคู่ประเทศ “Air Travel Bubble ไป-กลับ ระหว่าง ฮ่องกงกับสิงคโปร์
จะเริ่มได้ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป ตามเงื่อนไขผู้โดยสารกับนักท่องเที่ยวทั้ง
2 ประเทศ จะสามารถผ่านเข้าออกเมืองโดยไม่ไม่ต้องถูกกักตัวแต่อย่างใด
เมื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขแทรเวล บับเบิ้ล ซึ่งทางรัฐบาลฮ่องกงกับสิงคโปร์ทำข้อตกลงดังกล่าวไว้ตั้งแต่พฤศจิกายน 2563 ซึ่งเลื่อนมาใช้ได้ตั้งแต่ 26 พฤษภาคม 2564 นี้เป็นต้นไป
กติกาหลัก ๆ คือ 1.นักท่องเที่ยวฮ่องกงจะต้องฉีดวัคซีนล่วงหน้า 2 สัปดาห์ ก่อนเดินทางเข้าสิงคโปร์ ส่วนข้อบังคับนี้ไม่ได้ระบุจะต้องใช้กับนักท่องเที่ยวจากสิงคโปร์ที่จะเดินทางเข้าฮ่องกง กำหนดแค่ไม่ต้องกักตัว แต่จะต้องใช้เวลาอยู่ในแต่ละเมือง 14 วันก่อนเดินทางกลับเท่านั้น
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น