ททท.พัทยา”แก้โจทย์หินเร่ง“อัดฉีดสินค้าพรีเมี่ยม-พลิกภาพลักษณ์” ชูพัทยาแซนด์บ็อกซ์ขอวัคซีนท่องเที่ยว9แสนโด๊สเปิดรับต่างชาติ1ต.ค.
“ททท.พัทยา”แก้โจทย์หินเร่ง“อัดฉีดสินค้าพรีเมี่ยม-พลิกภาพลักษณ์”
ชูพัทยาแซนด์บ็อกซ์ขอวัคซีนท่องเที่ยว9แสนโด๊สเปิดรับต่างชาติ1ต.ค.
คิงเพาเวอร์ปลุกสมาชิกบัตรช้อปเดือนเกิดรับเครดิตเงินคืน25%คูณ2
“แบรนด์มหานคร”บูม Skate Clubชูคอลเลคชั่นใหม่เสื้อ/หมวก/ถุงเท้า
ททท.ภาคเหนือรอเปิดเที่ยว“AMAZINGCAMPSITE 2021 ” 6 จังหวัด
ททท.ใต้แจงปิด5อุทยานเที่ยวทะเลอันดามันฟื้นธรรมชาติถึง15ต.ค.64
TCEBดึงผู้ประกอบการยกระดับสถานที่จัดไมซ์TMVSเพิ่มไฮยีน/ไฮบริด
เช็คอิน”มุกดาหาร”อีสานเขียวเที่ยวหน้าฝนริมโขงแก่งกะเบา-ภูผาเทิบ
ไขข้อข้องใจคนนอนไม่หลับชอบตื่นกลางดึก4สาเหตุที่รักษาแก้ไขได้
“ภูเก็ต”ประสานเสียงเปิดแซนด์บ็อกซ์1ก.ค.นี้ยุโรปแห่เที่ยวฟื้นQ 3-4
“แบงก์กสิกร”เท1.5หมื่นล้านปล่อยสินเชื่อท่องเที่ยว/รายย่อยหมื่นราย
ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #ทททพัทยา #
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้
ช่วงที่ 1 พิชิตโจทย์ท้าทายกับ “ขจรเดช อภิชาติตรากุล” ผู้อำนวยการ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา เมื่อพัทยายังไม่ได้กลับสู่พื้นที่สีเขียว ส่วนธุรกิจยังเปิดน้อยมาก
“โรงแรม 30%-แหล่งท่องเที่ยว 20%” ทางกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจห้องพักหรูยอมจัดโปรราคาโดนใจคนไทย-อัดฉีดสินค้าพรีเมี่ยม-ปรับภาพลักษณ์จากไนท์ไลฟ์หันพึ่งตลาดครอบครัว”
และปูพรมเตรียมความพร้อม “พัทยา แซนด์ บ็อกซ์” 1 ต.ค.นี้
เร่งเครื่องทำ 3 อย่าง
“ดึงคนกลับพร้อมปัดฝุ่นฝีมือเข้าสู่ภาคบริการ-เข้มมาตรฐานสาธารณสุข-ขอวัคซีน9แสนโด๊ส” กระจายฉีดทั้งจังหวัดชลบุรี
นายขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวโดยภาพรวมของพัทยา ชลบุรี ได้ผ่านความท้าทายโควิด-19 พอสมควร โดยเฉพาะรอบ 3 นี้ในพื้นที่ได้รับผลกระทบมีผู้ติดเชื้อสูง นักท่องเที่ยวจึงชะลอตัว ส่วน ททท.ก็ต้องผนึกกับภาครัฐ และเอกชน รับมือวิกฤตซ้ำซ้อน เพราะพัทยาเป็นจุดหมายปลายตลาดต่างประเทศเกินกว่า 80 % หายไปต้องหันมารุกตลาดคนไทยเข้ามาทดแทนเพิ่มขึ้น
ตามภารกิจพัทยา
ชลบุรี ต้องเดินหน้าเป็น 1 ใน 6 เมืองนำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามนโยบายรัฐบาล กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
เริ่ม 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป
จึงต้องใช้เวลาตลอดช่วงพฤษภาคม-กันยายน นี้
ฟื้นฟูสภาพของท่องเที่ยวโดยรวมกลับมาให้ได้มากที่สุด
ปัจจุบันพัทยาได้ปลดล็อกเงื่อนไขทั้งหมดแล้ว
เป็นจุดหมายปลายทางตอนนี้ใกล้จะเป็น “พื้นที่สีเขียว” แล้ว รวมถึงอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
รวมทั้งภาครัฐ และหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งแก้ไขได้ทันสถานการณ์
ทำให้การจัดการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดจบได้เร็ว
หลังจากก่อนหน้านี้ต้องล็อคดาวน์ และเพิ่มมาตรการเข้มงวดตั้งด่านตรวจ
แต่ตอนนี้ยกเลิกเงื่อนไขทั้งหมดแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าได้แล้ว
จากทุกพื้นที่จะไม่โดนกักตัวหรือขอเอกสารตรวจวัคซีน จึงเดินทางได้เสมือนภาวะปกติ
ทั้งนี้
ททท.พัทยาก็ยังต้องขอความร่วมมือจากทุกคนที่เดินทางเข้ามาพักผ่อน
ปฏิบัติตามการใช้ชีวิตวิถีใหม่ สวมหน้ากากอนามัย ใช้เจลล้างมือ
รักษาระยะห่างทางสังคม
สำหรับการให้บริการต่าง
ๆ ทางการท่องเที่ยว
ด้วยโครงสร้างของพัทยาเคยเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก
พอเกิดโควิด-19
ก็ส่งผลกระทบต่อสถานประกอบการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว และอื่น
ๆ หลายส่วนจึงต้องปิดชั่วคราว
ความเคลื่อนไหวของ
“พัทยา” ส่วนที่ 1
จำนวนห้องพักโรงแรม
มีธุรกิจที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายอยู่ประมาณ 75,000
ห้อง ราว 1,000 แห่ง
ในจำนวนนี้เคยรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 80 %
เมื่อเกิดโควิด-19
จนกระทั่งถึงตอนนี้มีต่างชาติเหลืออยู่ไม่ถึง 1 % ทางโรงแรมบางส่วนจึงปรับตัวเองหันมารับตลาดคนไทยแต่รายได้ก็ยังไม่สามารถเข้ามาทดแทนได้
จึงมีห้องพักเปิดบริการ 30 % ของทั้งหมด
ส่วนที่ 2 สถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งเป็นสมาชิกสมาคมท่องเที่ยวมีอยู่กว่า
60 แห่ง ขณะนี้สามารถเปิดบริการตามปกติได้เพียง 12 แห่ง คิดเป็น 20 % เท่านั้น อีก 80 % ขอดูสถานการณ์ให้ชัดเจนก่อนจะกลับมาเปิดอีกครั้ง
เมื่อมีสัญญาณที่ดีเริ่มเปิดประเทศรับตลาดต่างประเทศได้ แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ
ก็จะทยอยเปิดตามปกติต่อไป
ผอ.ขจรเดช
กล่าวว่า
การวางกลยุทธ์จัดทัพสินค้าท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์และปัจจัยรอบด้าน
ซึ่งถือเป็นสภาวะไม่ปกติ เพราะตลาดต่างประเทศหายไปจากที่เคยมีถึงปีละ 80 % อัตราเข้าพักเกือบเป็น 0 % จึงจำเป็นจะต้อง
“เพิ่มตลาดในประเทศ” ให้ได้มากที่สุด คือ
1.เพิ่มสินค้าท่องเที่ยวพรีเมี่ยมวางขาย นำโปรดักต์ยอดนิยมของต่างชาติมาขายคนไทย เช่น
โรงแรมห้องพักระดับไฮเอนด์ กลุ่มรีสอร์ตพูล วิลล่า มีชายหาดส่วนตัว
ปกติขายราคาสูงต่างชาติพร้อมจ่าย
ก็ตื่นตัวหันมาเสนอขายสอดคล้องกับความต้องการของคนไทยกลุ่มครอบครัว
เป็นมุมบวกตัวอย่างของการปรับตัว ททท.พัทยา จึงผลักดันให้ผู้ประกอบการนำ
“สินค้าพรีเมี่ยม” ขายคนไทยในราคารเข้าถึงได้
หรือการปรับกลยุทธ์
“จองห้องพักออนไลน์ได้รวดเร็วขึ้น” ง่ายและเข้าถึงเร็ว
เรื่องการจองแล้วสามารถเข้าพักได้ภายใน 24 ชั่วโมง จากเดิมจะทำโปรโมชั่นจองก่อนล่วงหน้ายาว
แต่ตอนนี้ลดระยะให้สั้นลงเพิ่มความรวดเร็ว เปิดช่องทางการขายผ่านทางโซเชียล มีเดีย
ใช้เครื่องมือทางการตลาดออนไลน์เต็มรูปแบบ
2.ปรับภาพลักษณ์สินค้าท่องเที่ยวพัทยา เป็นจุดหมายปลายทางตลาดครอบครัว แทนการเป็นเมืองแสงสีเสียงแหล่งท่องเที่ยวบันเทิงกลางคืน (Nightlight Entertainment) ธุรกิจประเภทบาร์เบียร์ ช่วงเกิดโควิด-19 ผู้ประกอบการพัทยาพร้อมปรับตัวเอง โดย ททท.เข้าไปหารือช่วยกันสร้างภาพลักษณ์เพื่อให้พัทยารองรับได้ทุกกลุ่ม ทั้ง เด็ก เยาวชน หนุ่มสาว ครอบครัว ผู้สูงอายุ ส่งผลให้หลายกิจการปรับตัวหันมารับกลุ่มครอบครัวได้ ทั้งร้านอาหาร หรือ ร้านกาแฟมีดีไซน์สไตล์ คาเฟ่ แอนด์ บริสโท ต่าง ๆ มีรูปแบบของตัวเอง ก็พากันสร้างจุดขายใหม่ขึ้นมา ทั้งจุดชมวิว พักผ่อนหย่อนใจ ทำให้ได้ต้อนรับสมาชิกกลุ่ม อินสตาแกรมเมอร์ ชอบโพสต์ ชอบถ่ายรูป เซลฟี่ ซึ่งเป็นกลุ่มใช้ออนไลน์กับโซเชียลเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ถือเป็นการปรับตัวที่ภาคธุรกิจ ควบคู่กับทางเมืองพัทยา องค์กรภาครัฐ ก็เข้ามาช่วยปรับโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้นักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่มเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวเมืองพัทยาได้อย่างสะดวกสบายด้วยเช่นกัน ททท.ได้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ Neo Pattaya ภายใต้ภาพลักษณ์ใหม่เที่ยวได้ทุกกลุ่ม ทุกวัย ออกสู่สาธารณะอย่างต่อเนื่องด้วย
เป้าหมายหลัก ททท.พัทยา ต้องนำองคาพยพท่องเที่ยวเมืองพัทยา ชลบุรี เดินหน้าต่อไปได้ด้วยการช่วยภาคธุรกิจขับเคลื่อนตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า พร้อม ๆ กับสร้างเข้มแข็งให้ภาคเอกชนโดยรวมทั้งหมด
ผอ.ขจรเดช กล่าวว่า การเตรียมปูพรมทำโครงการ “พัทยา แซนด์ บ็อกซ์” รับนักท่องเที่ยวต่างชาติช่งตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ต่อจากภูเก็ตที่จะนำร่องก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นั้น ต้องย้อนไปเมื่อปลายปี 2563 ก่อนเกิดโควิดรอบ 2 ทุกฝ่ายควรร่วมมือกันนำพัทยากลับมาเปิดรับต่างชาติซึ่งเป็นลูกค้าหลักให้เร็วที่สุด ทางรัฐบาลก็มีนโยบายเปิดประเทศรับต่างชาติ
ททท.พัทยากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จึงร่วมมือกัน ทำแผน พัทยา แซนด์ บ็อกซ์ ต่อจากโมเดลต้นแบบของภูเก็ต โดยจะปรับให้เหมาะกับเอกลักษณ์ของเมืองพัทยา และจังหวัดชลบุรี ซึ่งไม่ได้เป็นเกาะเหมือนภูเก็ต สมุย มีทางเข้าออกหลากหลาย และตอนนี้ยังมีตลาดคนไทยเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะการบินข้ามภาคมาลงสนามบินอู่ตะเภา
ดังนั้นการเปิดรับตลาดต่างประเทศกลับเข้ามาอีกครั้ง
ก็ไม่ได้ยาก เพราะสามารถจัดกลุ่มตามลำดับที่จะนำเข้ามาได้ แต่ต้องดำเนินการ
“เตรียมความพร้อมในพื้นที่” ให้เรียบร้อยแล้วก่อนลำดับแรก ๆ คือ
เรื่องที่ 1 การดึงพนักงาน/แรงงานกลับเข้าอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นพนักงานโรงแรม ร้านอาหาร สปา เชฟ(พ่อครัว) และอื่น ๆ เพราะก่อนหน้านี้แรงงานส่วนใหญ่หยุดชั่วคราวหรือกลับภูมิลำเนาไปแล้ว เมื่อจะฟื้นฟูให้คนกลับเข้าทำงานอีกครั้งโดยทิ้งช่วงยาวจากงานไปสักพัก จึงต้องปัดฝุ่นฝึกซ้อมบริการกันใหม่เพื่อให้ได้ตามมาตรฐานปกติ คล่องตัวเหมือนเดิม
เรื่องที่ 2 มาตรฐานสาธารณสุข พัทยาโชคดีไม่น่าห่วงเพราะช่วงโควิด หลายแห่งในพัทยาได้เข้าร่วมเป็นสถานกักตัวนักเดินทางทั้งแบบ ALQ และ ASQ อยู่แล้ว เพราะฉนั้นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขจึงเข้มข้นระดับสูงตามสากลตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างแน่นอน
เรื่องที่ 3 การฉีดวัคซีน ให้ประชาชนในพัทยา ชลบุรี ทั้งหมด ก่อนรับต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วด้วยเช่นกัน เนื่องจากพัทยาเป็นพื้นที่นำร่อง 1 ใน 6 ที่จะรับต่างชาติ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 พัทยาได้รับวัคซีนล็อตใหญ่ 50,000-60,000 โด๊ส ปูพรมฉีดบุคลากรด่านหน้า หมอ พยาบาล วงการแพทย์ สร้างความตื่นตัวให้คนในพื้นที่ รวมทั้งแผนงานหลักเพื่อเปิดพัทยารับต่างชาติ ก็ต้องคำนวณประชากรพื้นที่เชื่อมโยงเข้ามารวมด้วยอีก 2 อำเภอคือ สัตหีบ กับบางละมุง
รวมแล้วจะต้องใช้วัคซีนอย่างน้อย 900,000 โด๊ส กระจายฉีดให้คน 450,000 คน รวมถึงแรงงานต่างถิ่นด้วย เพื่อให้ครอบคลุม 70 % ของประชากรในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งจะต้องใช้เวลา 3 เดือน กรกฎาคม-กันยายน 2564 จากนั้นตุลาคม 2564 พัทยาก็เปิดรับนักท่องเที่ยวได้ตามนโยบายรัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่
1 คิงเพาเวอร์ปลุกสมาชิกบัตรช้อปเดือนเกิดรับเครดิตเงินคืน25%คูณ2
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มอบสิทธิให้สมาชิกบัตร คิง เพาเวอร์ ไม่ต้องมีไฟลต์ก็ช้อปคุ้มใน “เดือนเกิด” ได้แล้ววันนี้ รับสิทธิ์เครดิตเงินคืน 25 % คูณ 2
1.BIRTHDAY CELEBRATION รับสิทธิ์เครดิตเงินคืน 25% จำนวน 2 ชิ้น สิทธิ์ละ 1 ชิ้น โดย
1.1 สมาชิกสามารถแยกใช้สิทธิ์วันเกิด รับเครดิตเงินคืน เข้าบัญชีสมาชิก 25%ของมูลค่าสินค้า เมื่อซื้อสินค้าหนึ่งชิ้นในราคาปกติในเดือนเกิด ถึง 2 สิทธิ์ สำหรับใช้ซื้อสินค้าที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา
1.2 ใช้สิทธิ์ BIRTHDAY CELEBRATION ทั้ง 2 สิทธิ์ในการซื้อครั้งเดียว ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา
1.3 สามารถใช้กับสินค้าDuty Free, Duty Paid, Home Delivery ยกเว้นสินค้าแผนกเหล้าและบุหรี่ และสินค้าที่ไม่ร่วมรายการ
1.4 สิทธิ์ BIRTHDAY
CELEBRATION มีอายุ 3 เดือน
นับแต่เดือนเกิดของสมาชิก
และจะได้รับคืนในรูปเครดิตเงินคืนเข้าบัญชีสมาชิกเท่านั้น
2.CARAT Rewards มูลค่ากะรัต(Carat Redemption Rate) 1 กะรัต มีมูลค่าเทียบเท่ากับ 1 บาท ในการซื้อสินค้า ซึ่งสมาชิกจะได้รับกะรัตจากยอดซื้อทุก100 บาท ได้รับ 1 กะรัต
3.KP Lounge ได้สิทธิ์ใช้บริการ คิง เพาเวอร์ เลานจ์ จะนับจากการเข้าใช้บริการ คิง เพาเวอร์ เลานจ์ ทุกครั้ง ทุกสาขา โดยสงวนสิทธิ์การเข้าใช้บริการสำหรับสมาชิกทุกประเภท สูงสุดไม่เกิน1 สิทธิ์/ ครั้ง/ วัน และให้สิทธิ์แก่ผู้ติดตามเข้าใช้บริการ ครั้งละ ไม่เกิน 1 สิทธิ์/ ครั้ง/ วัน
4.อายุสมาชิก ประเภทสมาชิก อายุสมาชิก (ปี) มี 5 ประเภท ประกอบด้วย อายุบัตร 1 ปี ได้แก่ NAVY, SCARLET, ONYX, VEGA และ CROWN 2 ปี
ข่าวที่ 2 แบรนด์มหานครบูมSkate Clubชูคอลเลคชั่นใหม่เสื้อ/หมวก/ถุงเท้า
แบรนด์ “มหานคร” ผู้ผลิตสินค้าในเครือของ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดตัวแคปซูลคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด “Skate Club” ตอกย้ำการเป็นแบรนด์สตรีตแวร์ที่สะท้อนภาพลักษณ์ Subculture เข้มข้นที่เหล่าสาวกสเกตไม่ควรพลาด ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจรวมถึงแพสชันและความมุ่งมั่นในตัวของผู้เล่นสเกตที่ต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก แม้จะมีอุปสรรคกีดขวางให้ต้องล้มบ้าง เจ็บบ้าง แต่เพื่อความสนุกยามที่ได้อยู่บนบอร์ดนั้น ก็ไม่ได้ทำให้กลุ่มคนที่รักการเล่นสเกตน้อยลง
ปัจจุบันกลายเป็น Skate Culture ศูนย์รวมทั้งความสนุก เพื่อนใหม่ ๆ และวัฒนธรรมการแต่งตัวแนวสตรีตสไตล์ โดยมี “โจเซฟ–สิริณัฏฐ์ อภิจันทร์เดช” ยูทูเบอร์อารมณ์ดี มาร่วมถ่ายทอดบทบาทของโปรสเกตกับแพสชันและความมุ่งมั่นที่จะทดลองสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
แบรนด์มหานครจึงได้จัดทำคอลเลคชั่นล่าสุด ให้เห็นถึงคาแรคเตอร์สุดฮอตอย่าง Mr. Toss และ BKK Monkey Boy มาโลดแล่นบนไอเทมของแบรนด์ เพิ่มความสนุกสนาน ปนความกวน ขณะเดียวกันก็มีความจริงจังและทุ่มเทให้กิจกรรมที่ชื่นชอบอย่างการเล่นสเกต 3 ผลิตภัณฑ์
1.เสื้อยืดลายกราฟิกซิกเนเจอร์ประจำแบรนด์ - เหมาะใส่เล่นเซิร์ฟสเกตโชว์ลีลาความพลิ้วไหว มีให้เลือก 2 แบบ 2 ดีไซน์ ได้แก่ Mr. Toss และ BKK Monkey Boy ราคาตัวละ 690 บาท
2.หมวกแก๊ปปักลาย Skate Club
-มิกซ์แอนด์แมตช์เอาอยู่ในทุกสถานการณ์ มีให้เลือก 2 สี 2 สไตล์ ได้แก่
สีเบจและสีดำ ราคาใบละ 490 บาท
3.ถุงเท้าทอลาย Skate Club -ไอเทมใหม่ล่าสุดที่จะมาคอมพลีตลุคเท่ ๆ ของชาวมหานครให้มีสไตล์มากยิ่งขึ้น มีให้เลือก 2 สี 2 สไตล์ ได้แก่ สีดำและสีขาว ราคาคู่ละ 150 บาท
ติดตามแคปซูลคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด
“Skate Club” ของแบรนด์มหานครได้ทางช่องทางออนไลน์
และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook / Instagram / Line:
@mahanakhonshop_bkk
ข่าวที่ 3 ททท.ภาคเหนือรอเปิดเที่ยว“AMAZINGCAMPSITE 2021 ”6จังหวัด
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ภูมิภาคภาคเหนือ ให้นักเดินทางเตรียมความพร้อมที่จะเข้าร่วมงานใหญ่หลังโควิดคลี่คลายลงกับการท่องเที่ยวไลฟ์สไตล์ใหม่
“AMAZING NORTHERN CAMPSITE 2021 ” ใน 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ - อุตรดิตถ์ - ตาก - กำแพงเพชร -
ลำพูน - แม่ฮ่องสอน
เบื้องต้น ททท.ภูมิภาคภาคเหนือ ได้กำหนดปฏิทินการจัดงานแต่ละแห่งไว้ดังนี้
ครั้งที่ 1 เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายน 2564
ครั้งที่ 2 อุตรดิตถ์ ระหว่างวันที่ 3-4 กรกฎาคม 2564
ครั้งที่ 3 ตาก ระหว่างวันที่ 10-11 กรกฎาคม
2564
ครั้งที่ 4 กำแพงเพชร ระหว่างวันที่ 17-18 กรกฎาคม 2564
ครั้งที่ 5 ลำพูน ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม- 1
สิงหาคม 2564
ครั้งที่ 6 แม่ฮ่องสอน ระหว่างวันที่ 7-8 สิงหาคม 2564
ติดตามรายละเอียดการจำหน่ายบัตรและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Amazing Northern Campsite
ข่าวที่ 4 ททท.ภาคใต้แจง5อุทยานทะเลอันดามันปิดฟื้นธรรมชาติถึง15ต.ค.64
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคใต้ รายงานว่า ตั้งแต่วันนี้-15 ตุลาคม 2564 อุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามันหลัก ๆ 5 แห่ง ประกาศปิดฤดูกาลท่องเที่ยวประจำปีช่วงฤดูมรสุมและเพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัวพร้อมกลับมาต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไป ได้แก่
1.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา เกาะที่ปิด ได้แก่ เกาะบอน เกาะบางู เกาะสิมิลัน เกาะปายู เกาะห้า เกาะเมียง เกาะปาหยัน เกาะปายัง และเกาะหูยง
2.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา เกาะที่ปิด ได้แก่ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะสตอร์ค เกาะมังกร เกาะตอรินลา และกองหินริเชลิว
3.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ เกาะที่ปิด ได้แก่ บริเวณเกาะรอก เกาะห้า เกาะหินม่วง-แดง
4.อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล เกาะที่ปิด ได้แก่ บริเวณเกาะอาดัง เกาะราวี และเกาะหลีเป๊ะ
5.อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง เกาะที่ปิด ได้แก่ เกาะมุก เกาะกระดาน เกาะแหวน เกาะเชือก เกาะเมง เกาะปลิง และเกาะเจ้าไหม
ททท.ภูมิภาคภาคใต้แนะนำนักท่องเที่ยวก่อนการเดินทาง
ควรตรวจสอบหรือเช็คข้อมูลอีกครั้งกับทาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
เพื่ออัพเดทสถานการณ์ปัจจุบันทุกเดือน
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้เชิญชวนสถานประกอบการ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน TMVS :THAILAND MICE VENUE STANDARD ร่วมกันยกระดับศักยภาพสถานที่จัดงาน ด้วยมาตรการสุขอนามัยและนวัตกรรมการจัดงานเสมือนจริง รับสมัครตั้งแต่รวันนี้ - 30 กันยายน 2564 สามารถดูขั้นตอนการรับสมัครและเงื่อนไขได้ที่ https://bit.ly/33W9zYe สมัครก่อนมีสิทธิก่อน รับจำนวนจำกัดเท่านั้น!
ทีเส็บมุ่งใช้โอกาสช่วงระหว่างรอโควิดคลี่คลาย เดินหน้ายกระดับศักยภาพของสถานประกอบการไมซ์ ด้านการบริหารจัดการตามมาตรการสุขอนามัย (Hygiene) ผนวกกับการเสริมทักษะด้านการใช้นวัตกรรมการจัดงานเสมือนจริง (Hybrid) โดยหวังผลในการส่งเสริมบุคคลากรไมซ์ ให้เกิดความรู้ความเข้าใจตามมาตรฐาน เตรียมพร้อมให้ไทยเป็นจุดหมายการจัดงานไมซ์ที่มีศักยภาพ
หากโลกของไมซ์กลับมาขับเคลื่อนหลังโควิด-19 สงบลง ทีเส็บตั้งเป้าเชิญชวนสถานประกอบการ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน TMVS เข้าร่วมโครงการ “2HY” คือ Hygiene กับ Hybrid ยกระดับศักยภาพสถานที่จัดงานด้วยมาตรการสุขอนามัยและนวัตกรรมการจัดงานเสมือนจริงให้เดินหน้าอย่างเข้มแข็ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ ทีเส็บ โทร. 086-8902-862 Facebook : MICE Capabilities และ E-mail: 2hy@tceb.or.th
ช่วงที่ 2 อีกไม่นานเราจะได้เดินทางท่องเที่ยวกันช่วงหน้าฝน
รอชวนไปสัมผัสอีสานเขียว ปักหมุดเช็คอินที่ “มุกดาหาร” ริมฝั่งโขง
ดื่มด่ำประติมากรรมหินแก่งกะเบา สักการะพญานาค ปีน “ภูผาเทิบ” ในวันสบาย ๆ
แต่ตอนนี้ “ใครที่ชอบตื่นกลางดึก” จะไขข้อข้องใจ 4
สาเหตุแก้ไขรักษาได้
และ “เอกชนภูเก็ตประสานเสียง” 1 ก.ค.64
เปิดแน่
ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์ รับต่างชาติกลุ่มแรกยุโรปมาชัวร์ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไตรมาส 3-4 และ “แบงก์กสิกรไทย” ลั่นพร้อมเทเงิน 15,000
ล้านบาท
ปล่อยสินเชื่อภาคธุรกิจท่องเที่ยวกับรายย่อยได้ถึง 10,000 รายผ่าน
2 มาตรการของแบงก์ชาติ
เช็คอิน”มุกดาหาร”อีสานเขียวเที่ยวหน้าฝนริมโขงแก่งกะเบา-ภูผาเทิบ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นำเรื่องเล่าท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัดชวนเที่ยวทิพย์กันไปก่อน
ห้ามพลาดเก็บข้อมูลแต่ละแห่งไว้เมื่อโควิดจางหายเดินทางได้ตามปกติ
แวะไปเยี่ยมชมได้กับ “อีสานเขียวเที่ยวหน้าฝน :
COOL ISAN”
ปักหมุดเที่ยว “มุกดาหาร” มีทั้ง หอแก้วสูงเสียดฟ้า ภูผาเทิบ แก่งกะเบา แปดเผ่าชนพื้นเมือง ลือเลื่องมะขามหวาน กลองโบราญล้ำเลิศ ถิ่น กำเนิดลำผญา ตระการตาริมฝั่งโขง เชื่อมโยงเพื่อนบ้านกลุ่มประเทศอินโดจีน
1.“ภูผาเทิบ” อยู่ในอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ อำเภอเมือ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามมาก
มีกลุ่มหินลักษณะต่างๆ ดูแปลกตา ไฮไลท์คือ ประติมากรรมกลุ่มหินที่เกิดจากธรรมชาติ
แต่ละกลุ่มหินจะมีลักษณะต่างกันออกไป ซึ่งกลุ่มหินนี้เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ
สายลมและแสงแดด มาเป็นเวลาหลายล้านปี ทำให้กลุ่มหินมีลักษณะต่างกัน
วางซ้อนกันดูแปลกตา คล้ายกับรูปร่างต่าง ๆ ตามจินตนาการ จะเป็น มงกุฎ เครื่องบิน แมวน้ำ
จระเข้ ดอกเห็ด รอบเท้าบู้ท เก๋งจีน และอื่น ๆ
2.หอแก้วมุกดาหารเฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก ตั้งอยู่ที่
ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอเมืองมุกดาหาร เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น. ค่าเข้าชม :
เด็ก 10 บาท ,
ผู้ใหญ่ 30 บาท เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/หอแก้วมุกดาหารเฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก
สร้างขึ้นมาเพื่อเฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดมุกดาหาร โดยหอคอยจะเป็นรูปทรงกระบอก 7 ชั้น สูงกว่า 65.50 เมตร ส่วนฐานเป็นอาคาร 2 ชั้น ทรงเก้าเหลี่ยม อันหมายถึงรัชกาลที่ 9 เพราะตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติครองราชย์ครบ 50 ปี ในหลวงรัชกาลที่ 9
3.แก่งกะเบา แหล่งท่องเที่ยวสวยติดริมโขง ตั้งอยู่ใน
เขตบ้านนาแกน้อย ตำบลป่งขาม อำเภอหว้านใหญ่
ตรงข้ามแขวงไซยะบุรี สปป.ลาว มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชวนไปไหว้สักการะ “พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช”
เป็นองค์พญานาคประดับด้วยเกร็ดหินอ่อนสีขาวขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีสีขาวเปล่งประกายท่ามกลางแสงแดด
ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าริมฝั่งโขง
บริเวณแก่งกะเบา
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อว่า
หากใครได้มากราบไหว้สักการะและได้ลอดท้องพญานาคจะมีความสุขสมหวัง ดั่งคำอธิษฐาน วิธีสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล
จะมี 3 จุด มีพร 3 ประการ ดังนี้ จุดที่ 1 ความสำเร็จ จุดที่ 2 ร่ำรวย จุดที่ 3
แข็งแรง การไหว้สักการะเริ่มจากบริเวณหางก่อน มีป้ายสัญลักษณ์ให้เดินตามแต่ละจุด
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวริมโขง
เป็นแก่งหินยาวเหยียดตามลำน้ำโขง
บนฝั่งก็ยังมีลานหินกว้างใหญ่เป็นที่พักผ่อนได้อย่างดี
ในฤดูแล้งน้ำลดจนเห็นเกาะแก่งกลางน้ำ และหาดทรายสวยกว่าฤดูอื่น ๆ
นักท่องเที่ยวที่มาถึงแก่งกะเบา
แนะนำต้องลองชิมอาหารขึ้นชื่อคือ “หมูหัน” รสชาติอร่อยตามแบบฉบับสูตรเด็ดท้องถิ่น
อีสานเขียวเที่ยวหน้าฝน
ปีนี้ยังมีเวลาเที่ยวได้ไปจนถึงกันยายนนี้ อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม ที่มุกดาหาร
ไขข้อข้องใจคนนอนไม่หลับชอบตื่นกลางดึก4สาเหตุที่รักษาแก้ไขได้
การตื่นระหว่างคืนไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
หลายคนอาจเคยตื่นกลางดึกโดยไม่รู้ตัว
แต่หากเกิดขึ้นบ่อยก็อาจทำให้หงุดหงิดรำคาญใจได้
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ตื่นกลางดึกนั้นเกิดได้จากหลายอย่าง
โดยปกติแล้ว สมองของคนเราจะทำงานเป็นวงจรเมื่อเรานอนหลับ โดยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ เริ่มจากระยะหลับธรรมดา (Non-Rapid Rye Movement หรือ Non-REM) แล้วจึงค่อยเข้าสู่ระยะหลับฝัน (Rapid Eye Movement หรือ REM) หลังจากนอนหลับไปแล้วประมาณ 90 นาที จากนั้นจะวนกลับมายังระยะหลับฝันทุก ๆ 90 นาที จึงนับเป็นหนึ่งรอบของวงจรการนอนหลับ
สาเหตุและวิธีรับมือกับการตื่นกลางดึก
1.ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) เมื่อหยุดหายใจบ่อยครั้งจะทำให้ผู้ป่วยหลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดคืนและไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ รวมถึงยังทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดลงและหัวใจทำงานผิดปกติได้ อาการที่พบบ่อยในผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ได้แก่ กรนเสียงดังผิดปกติ ตื่นกลางดึกเนื่องจากหายใจไม่สะดวก รู้สึกเจ็บคอหรือปากแห้งเมื่อตื่นนอน หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา ผู้ป่วยที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง หรือภาวะหัวใจขาดเลือดที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต
“การรักษา” ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา มีวิธีที่นิยมนำมาใช้ในการวินิจฉัยคือการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) ซึ่งผู้ป่วยต้องพักค้างคืนในโรงพยาบาลเพื่อตรวจการทำงานของร่างกายขณะหลับ และอาจใช้วิธีการรักษาอื่น ๆ มาช่วยบรรเทาอาการ
รวมทั้งต้องปรับพฤติกรรม ได้แก่ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน หลีกเลี่ยงการนอนหงายโดยให้เปลี่ยนเป็นนอนตะแคง หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
2.โรคนอนไม่หลับ (Insomnia) เป็นความผิดปกติของการนอนที่พบได้บ่อย ส่งผลให้มีอาการนอนหลับยาก ง่วงยาก หรือนอนแล้วตื่นขึ้นมากลางดึกโดยหลับต่อได้ยาก ซึ่งการนอนไม่หลับอาจเกิดจากปัญหาสุขภาพ การใช้ยา หรือพฤติกรรมส่วนบุคคล เช่น ความเครียด การสูบบุหรี่ และการทำงานเป็นกะที่ทำให้นอนไม่เป็นเวลา
“การรักษา” ต้องเริ่มจากการปรับพฤติกรรมการนอน เช่น เข้านอนให้เป็นเวลา หลีกเลี่ยงการงีบระหว่างวัน และจัดการกับความเครียดอย่างเหมาะสมก่อนเข้านอน เป็นต้น หากใช้วิธีนี้แล้วไม่ได้ผล การรักษาอาจเป็นการใช้ยาหรือการบำบัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนี้ หากอาการนอนไม่หลับเกิดจากโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ก่อนแล้ว อย่างโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคพาร์กินสัน แพทย์อาจรักษาโรคประจำตัวควบคู่กันไป เพื่อประสิทธิภาพในการรักษาโรคนอนไม่หลับที่ดีขึ้น
3. ปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน (Nocturia) เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น พฤติกรรมก่อนนอน
อย่างการดื่มน้ำมากเกินไปหรือดื่มน้ำใกล้เวลานอน
ทำให้ร่างกายผลิตปัสสาวะปริมาณมากขึ้น
รวมทั้งพบในผู้ที่มีความเจ็บป่วยหรือภาวะต่าง ๆ เช่น ต่อมลูกหมากโต กระเพาะปัสสาวะหย่อนหรือบีบตัวไวเกิน เบาหวาน การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ รวมไปถึงการตั้งครรภ์ โดยพบว่าหญิงตั้งครรภ์กว่าร้อยละ 60 มีปัญหาด้านการนอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์ทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยขึ้น
“การรักษาและป้องกัน” ก่อนเข้านอนจึงควรเข้าห้องน้ำและลดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มต่าง
ๆ ก่อนนอน 2 ชั่วโมง
แต่ควรดื่มน้ำให้เพียงพอกับปริมาณที่ควรได้รับต่อวันด้วย
4.ความเครียดและวิตกกังวล โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคซึมเศร้า โรคไบโพลาร์ (Bipolar Disorder) และโรคสมาธิสั้น ในขณะเดียวกัน การนอนหลับไม่เพียงพอในแต่ละคืน อาจทำให้เกิดโรควิตกกังวลหรือทำให้อาการป่วยที่เป็นอยู่แย่ลงได้
“การรักษา” มักใช้วิธีการปรับพฤติกรรมควบคู่ไปกับการรักษาจากแพทย์ อย่างใช้ยาหรือการบำบัดด้วยวิธีปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioral Therapy) โดยผู้นอนไม่หลับที่มีสาเหตุจากความเครียดและวิตกกังวลสามารถดูแลตนเองด้วยวิธี ดังนี้
1.หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือการสูบบุหรี่ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ 2.อ่านหนังสือเบาสมอง ฟังเพลงเบา ๆ ทำสมาธิ หรือจดบันทึกสิ่งที่กังวลลงในกระดาษ เพื่อให้สมองได้ผ่อนคลายความ 3.จัดห้องนอนให้เอื้อต่อการนอนหลับ แสงไฟในห้องนอนไม่ควรสว่างเกินไป และไม่ควรมีสิ่งรบกวนขณะนอนหลับ เช่น โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ภูเก็ต”ประสานเสียงเปิดแซนด์บ็อกซ์1ก.ค.นี้ยุโรปแห่เที่ยวฟื้นQ3-4ปีนี้
นายภูมิกิตติ์
รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ชาวภูเก็ตหารือร่วมกันยืนยันวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 พร้อมใช้โมเดล “Phuket
Sand Box” เดินหน้ารับนักเดินทางจากต่างประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว
และเข้าพักอยู่ในภูเก็ตได้โดยไม่ต้องกักตัว ส่วนการฉีดวัคซีนให้คนในพื้นที่ก่อนเปิดเกาะอย่างปลอดภัย
กำลังเร่งทำให้ได้ถึง 70% ของจำนวนประชากรทั้งหมด
หากนับถอยหลังตอนนี้เหลือเพียง 6 สัปดาห์เท่านั้น ก็จะมีต่างชาติเข้ามาได้หลังจากเดินทางมาไม่ได้กว่า 15 เดือน
ระหว่างนี้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมุ่งมั่นเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งการปรับโครงสร้างพื้นฐาน การฝึกอบรมพนักงานใหม่ ใช้แนวทางใหม่มาตรฐาน SHA Plus เพื่อจัดการกับสุขภาพและความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ
นายเดวิด จอห์นสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดลิเวอร์ริ่ง เอเชีย คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด กล่าวว่าเตรียมแคมเปญเปิดใหม่เจาะยุโรปซึ่งจะเป็นกลุ่มแรกที่กลับมาเที่ยวภูเก็ต เรื่องสำคัญที่ต้องทำคือการตลาดและประชาสัมพันธ์ คือกุญแจหลักของโรงแรมและรีสอร์ทต่าง ๆ จำเป็นต้องสร้างการเล่าเรื่องใหม่โดยอิงจากธรรมชาติ วัฒนธรรม และจุดหมายปลายทาง ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและความต้องการที่เปลี่ยนไปของนักเดินทางยุควิถีใหม่
ทางด้าน “บิล บาร์เน็ต”
กรรมการผู้จัดการ ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ ที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการโรงแรมและรีสอร์ท
กล่าวว่า นักท่องเที่ยวยุโรปจะเป็นตลาดหลักหลั่งไหลเข้าภูเก็ตช่วงไตรมาส 3-4
ปี 2564 ตามผลสำรวจตลาดที่มีสัญญาณการเดินทางข้ามทวีปแบบดั้งเดิม
หรือ traditional long-haul European ได้แก่
สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี สแกนดิเนเวีย อย่างน้อย 35
– 40% ของยุโรปฝั่งเหนือตะวันออกและตะวันตก จะสร้างผลดีต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคตต่อไป
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) “K BANK” เปิดเผยว่า ทางกสิกรไทยเตรียมวงเงินสินเชื่อกว่า 15,000 ล้านบาท ไว้เพิ่มสภาพคล่อง ตามเป้าจะช่วยให้ได้กว่า 10,000 ราย เน้นภาคธุรกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยตรง เช่น ธุรกิจ ท่องเที่ยว และผู้ประกอบการรายย่อย
ในช่วงโควิดระบาดรอบ 3 ทางธนาคารกสิกรไทย พร้อมร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ช่วยเหลือภาคธุรกิจอย่างเต็มที่ทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่าน 2 มาตรการ ประกอบด้วย
1.มาตรการ สินเชื่อฟื้นฟู ด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เหมาะกับลูกค้าที่ยังดำเนินธุรกิจอยู่ แต่รายได้ลดลงและขาดสภาพคล่อง สามารถจะกู้ได้สูงสุด 30% ของวงเงินสินเชื่อธุรกิจที่มีอยู่กับกสิกรไทย ส่วนลูกค้าใหม่จะขอกู้ได้สูงสุด 20 ล้านบาท ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี พักชำระเงินต้นและจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย นานสูงสุด 24 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2 % ใน 2 ปีแรก เฉลี่ย 5 ปี อัตราดอกเบี้ยจะไม่เกิน 5% ฟรีดอกเบี้ย 6 เดือนแรก และฟรีค่าธรรมเนียมการจัดการให้กู้
2.มาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ หรือ Asset Warehousing จะรับโอนหลักประกันเพื่อชำระหนี้ธุรกิจ โดยลูกค้ายังมีสิทธิ์เช่าทรัพย์นั้นเพื่อทำธุรกิจต่อได้ และมีสิทธิ์ซื้อทรัพย์คืน มาตรการนี้จะช่วยลดภาระหนี้ เพิ่มสภาพคล่อง และรักษาการจ้างงานของธุรกิจ โดยลูกค้าธุรกิจที่เหมาะเข้าร่วมมาตรการนี้ คือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ขนส่ง ร้านอาหาร ที่มีลูกค้าหลักเป็นนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ธนาคารกสิกรไทยได้ออกมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิดต่อเนื่องมากว่า 1 ปี ทั้งการให้สินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง วงเงินรวม 93,500 ล้านบาท สามารถช่วยลูกค้าธุรกิจไปแล้ว 32,600 ราย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น