“สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย”ตะโกนขอให้รัฐช่วย3เรื่องฝ่าโควิด รวมศูนย์บริการฉีดวัคซีน-กระจายวัคซีนทั่วถึง-ทำรพ.สนามผู้ป่วยพิเศษ
“สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย”
รวมศูนย์บริการฉีดวัคซีน-
“คิงเพาเวอร์”ต้อนรับพาเลตเอดิ
“คิงเพาเวอร์หนุนกระเป๋าแบรนด์
ททท.-ม.ศิลปากรชูออนไลน์
ททท.ภาคเหนือชวนร่วมม่วนใจ๋เที่
TCEBเดินหน้าไมซ์ถกร่างดีไซน์
เตรียมปรับพฤติกรรมทัวร์ RTเที่ยวอย่างรับผิดชอบทั่
เพจPobPadแนะใส่หน้ากากอนามั
โรงแรมเจซีสาทรปิ๊งขายแคมเปญห้
บางกอกแอร์ลุยเปิดบินไป-กลับทั่
เลขานุการสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย
ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่
ช่วงที่ 1 เปิดเบื้องหลังผู้พิการฝ่าฟันโควิดกับ “นายภัทรพันธุ์ กฤษณา” เลขานุการสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย รณรงค์กว่า2ล้านชีวิตสร้าง “โมเดลป้องกัน” หยุดทุกกิจกรรม เลี่ยงพื้นที่เสี่ยง พึ่งกรมส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงพัฒนาสังคม เปิดสายด่วนฮ็อตไลน์ 1479 และ 1300 วอนรัฐบาลช่วยด่วน ๆ 3 เรื่อง 1.ฉีดวัคซีนเชิงรุก 2.จัดโรงพยาบาลสนามพร้อมอุปกรณ์เฉพาะ รองรับตามสภาพความแตกต่างของผู้พิการต้องมีคนดูแลใกล้ชิด 3.เร่งเปิดศูนย์รับฉีดยกกลุ่มทั่วไทย กำหนดวัน-เวลา-สถานที่ให้ชัดๆ ลุ้น 26 พ.ค.นี้ รัฐอนุมัติใช้อาคารสิรินธร เนคเทค คลอง 6 นำร่องทำฮอสพิเทลแห่งแรกให้คนพิการติดโควิดได้ใช้บริการ
นายภัทรพันธุ์ กฤษณา เลขานุการสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ผู้พิการในไทยซึ่งมีบัตรประจำตัวจำนวนรวมกว่า 2 ล้านคน ต้องดูแลช่วยเหลือตัวเอง โดยทางสมาคมแนะนำให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดด้านมาตรการป้องกัน 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องแรก ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจขั้นตอนการดูแลตัวเองผ่านเครือข่ายให้ดูแลสมาชิกอย่างเต็มที่ กักตัว หยุดทำกิจกรรมชั่วคราว เรื่องที่ 2 รณรงค์ให้ทุกคนอย่าไปอยู่ในสถานที่เสี่ยง ลดภาวะเสี่ยงโดยอยู่บ้าน ด้วยสภาพผู้พิการมีหลายประเภท อย่างตัวผมเองเป็นกลุ่มพิการด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว หากติดเชื้อโควิดขึ้นมาจะมีโอกาสเสียชีวิตสูง เพราะระบบการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายบกพร่องมากว่าคนปกติโดยเฉพาะปอด รวมถึงการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ไม่สามารถทำได้เหมือนคนปกติทั่วไป
ส่วน
“การรักษา” มีกรณีศึกษาล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม นี้
มีผู้พิการด้านร่างกายและความเคลื่อนไหวอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี
น้ำหนักตัว 150 กก.เป็นอัมพาตครึ่งซีก
มีโรคประจำตัวโรคปอด ความดันโลหิตสูง
อีกทั้งภายในบ้านมีคนปกติติดเชื้อโควิดแต่สามารถเดินทางไปโรงพยาบาลเองได้
ยกเว้นผู้พิการคนดังกล่าว
ประสานมาทางสมาคมจึงต้องใช้ช่องทางให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนไปยัง
“กรมส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ” (พก.) กระทรวงพัฒนาสังคม
เปิดสายด่วนขึ้นมาเพื่อดูแลให้บริการรับแจ้งร้องทุกข์จากคนพิการติดเชื้อโควิดขึ้นมาพิเศษ
เบอร์ฮ็อตไลน์ 1479 กับเบอร์ของกระทรวงพัฒนาสังคมอีกเบอร์คือ 1300 สามารถใช้ได้ทั้งสองช่องทาง
ทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพ
นายภัทรพันธุ์กล่าวย้ำว่า ปัจจัยเร่งด่วนที่ต้องการเสนอรัฐบาลให้เข้ามาช่วยเหลือดูแลคนพิการในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดต่อเนื่องของไวรัสโควิด เรื่องแรก คือการฉีดวัคซีนเชิงรุก เพื่อลดปัญหาการเสียชีวิตและความเสี่ยง เรื่องที่ 2 การหาสถานที่เพื่อให้คนพิการที่รวมกลุ่มกันได้ไปฉีดวัคซีน ตามวัน-เวลา-สถานที่ ทำเหมือนลำปาง โมเดล ซึ่งสามารถทำได้ พื้นที่อื่น ๆ ในประเทศไทยก็น่าจะทำได้ เรื่องที่ 3 การรักษาพยาบาลให้ผู้พิการรุนแรงจำเป็นต้องมีคนดูแลหรือต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษ ขอให้รัฐช่วยจัดหาเตียงให้พร้อม
สำหรับกรณีตัวอย่างที่คนพิการนนทบุรีติดเชื้อโควิด ก็ได้ความช่วยเหลือจากทางทีมงานกระทรวงพัฒนาสังคม เมื่อรับแจ้งเรื่องผ่านฮอตไลน์สายด่วน ได้รีบดำเนินการทันที ประสานกับทางสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี (สสจ.) บันทึกข้อมูลผู้ป่วยอย่างรายละเอียด ส่งรถมารับผู้ป่วยที่บ้าน ประสานโรงพยาบาลนำส่งไปรักษา แต่ทางคนที่ดูแลผู้ป่วยจะต้องแจ้งข้อมูลให้ละเอียดทุกเรื่อง เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่เตรียมอุปกรณ์ตั้งแต่รถรับส่งไปจนถึงเตียงรับคนที่มีน้ำหนักมากซึ่งพิการและภาวะเสี่ยงสูง
แต่หัวใจสำคัญคือ “คนพิการที่ติดโควิด” จะต้องมี “คนดูแลเฉพาะ” เนื่องจากสภาพร่างกายไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือช่วยเหลือตัวเองได้ขณะที่พักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ลักษณะของการดูแลจึงต้องมีความพิเศษทางการแพทย์เป็นเครื่องมือให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากคนพิการแต่ละกลุ่มมีความบกพร่องไม่เหมือนกัน เช่น เด็กออติสติก จะหาวิธีอย่างไรให้เด็กสื่อสารเพื่อขอให้รักษาได้ หรือคนพิการทางร่างกายและความเคลื่อนไหว แล้วก็ยังมีคนพิการอีกหลากหลายรูปแบบ ก็ต้องการความช่วยเหลือเหมือน ๆ กัน
ขณะนี้ทางสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ซึ่งสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย เป็น 1 ใน 7 สมาชิกหลัก ได้ทำเรื่องนำเสนอขอให้รัฐบาลพิจารณา “สร้างโรงพยาบาลสนามเพื่อรักษาผู้ป่วยพิการที่ติดเชื้อโควิด” ล่าสุดได้ลงพื้นที่ร่วมกันสำรวจสถานที่สร้างโรงพยาบาลสนามแล้ว จะใช้พื้นที่ภายในบริเวณศูนย์เน็คเทค คลอง 6 ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอจะรองรับได้ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลหลักคือธรรมศาสตร์รังสิต แต่ยังต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อถึงเวลาใช้งานจริง ระบบขนย้ายผู้ป่วยพิการไปยังโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือพร้อมจะทำได้ดีขนาดไหน
กรณีตัวอย่างของผู้ป่วยข้างต้นคนพิการ
ในจังหวัดนนทบุรี เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลขนาดเล็ก 1.การขนย้ายอาจจะทำได้ง่ายเพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ 2.ได้รับยา “ฟาวิพีราเวียร์” ยับยั้งหรือต้านการกระจายตัวของไวรัสโควิด
ซึ่งถือว่าได้รับบริการตามมาตรฐาน แต่ยังมีคนพิการทั่วประเทศ ซึ่งอยู่ห่างไกล
ที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะได้รับการดูแลเช่นนี้หรือเปล่า
สำหรับ “โรงพยาบาลสนามของคนพิการ” ที่เป็นผู้ป่วยโควิดนับจากนี้ไปเมื่อเลือกใช้ “พื้นที่เน็คเทคคลอง 6” เพื่อก่อสร้าง ก็ต้องมาดูเรื่องการออกแบบจะต้องเน้นพิเศษให้เหมาะกับคนพิการแต่ละกลุ่มที่จะใช้งานได้จริง 1.ในพื้นที่มีห้องพัก แต่ 2.ไม่มีห้องน้ำ ก็จะต้องหาทีมออกแบบไปทำห้องน้ำสนามสำหรับวีลแชร์ของคนพิการ แต่ต้องคิดระบบป้องกันไว้ด้วยเพราะเป็นลักษณะการใช้ร่วมกัน
โครงการ “โรงพยาบาลสนามรองรับคนพิการติดเชื้อโควิด-19” ทางสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพหารือประชุมร่วมกันตลอด โดยหาหลายสถานที่ หรือขอไปหลายแห่ง แต่ไม่ได้รับการยืนยัน เพราะความไม่พร้อม กระทั่งพบสถานที่ของเน็คเทค คลอง 6 ซึ่งจะต้องรีบสร้างให้คนพิการเข้าไปพักรักษาตัวให้เร็วที่สุด
เนื่องจากคลัสเตอร์ “คลองเตย” มีคนพิการอาศัยอยู่ในชุมชนรวมนับหมื่นคน ซึ่งทางสมาคมไม่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการว่ามีผู้ติดเชื้อหรือไม่ วิธีการต้องอาศัยชมรมเครือข่ายคนพิการช่วยกันแจ้งข่าว แล้วกำชับให้คนพิการที่รู้ตัวเองว่าติดเชื้อโควิดรีบย้ายตัวเองไปกักตัวนอกพื้นที่ ทางสมาคมก็พยายามประสานอยู่ตลอด
ความเป็นไปได้ในการเปิดโรงพยาบาลจะต้องสรุปให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2564 จากเวทีของคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการชุดดังกล่าว มีมติเบื้องต้นจะให้สร้างโรงพยาบาลสนามในลักษณะ Hospitel รองรับคนพิการรักษาโควิด โดยใช้ “อาคารบ้านวิทยาศาสตร์ สิรินธร ปทุมธานี” โดยสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ จะดำเนินการจัดทำ “ต้นแบบ” พร้อมลงตรวจพื้นที่อีกครั้งในวันที่ 26 พฤษภาคม 2564
ส่วนการเข้าถึง “การฉีดวัคซีน” ของคนพิการนั้น โชคดีที่รัฐจัดลำดับให้อยู่ในกลุ่มแรก ๆ ที่จะได้รับการฉีด แต่อุปสรรคคือความยากลำบากในการลงทะเบียนผ่านแอพลิเคชั่น “หมอพร้อม” ทางออกคือ “ต้องรวมกลุ่มแล้วกำหนดสถานที่นัดวันฉีด” อีกปัจจัยคือ คนพิการกลัวผลกระทบที่จะกิดอันตรายหลังฉีดวัคซีนที่เป็นปัญหาวงกว้าง เพราะคนพิการร่างกายอ่อนแอมากกว่าคนทั่วไป แม้แต่นักกีฬาทีมชาติหลายคนยังปฏิเสธ จึงต้องพยายามรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้เข้าใจความจริงที่ถูกต้อง เพราะถึงอย่างไรนักกีฬาคนพิการหลายสมาคมก็ต้องเดินทางไปแข่งขันระดับนานาชาติในต่างประเทศ หากไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดก็จะไม่สามารถเดินทางไปแข่งขันได้
ขณะที่เรื่องแจ้งประชาสัมพันธ์ให้คนพิการการเข้าถึงการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ขณะนี้มีความสะดวกพอสมควร ทั้งรถตรวจพระราชทานเข้าถึงหลายสถานที่ มีหน่วยงานดูแล พาไปโรงพยาบาล จุดนี้ผ่านมาตรฐานไปเรียบร้อยแล้ว คงมี 3 เรื่องเร่งด่วนข้างต้นที่จะต้องขอจากรัฐบาลรีบดำเนินการทันที
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
คิง เพาเวอร์ เปิดบ้านต้อนรับสินค้าใหม่มาให้เลือกช้อปทั้งหน้าร้าน ออนไลน์ และแอพลิเคชั่น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สินค้าแรก “พาเลตสุดฮอต” ในเกาหลี! Blooming Edition Garden Of Light Palette แพคเกจที่ออกแบบอย่างสวยงามด้วยสี Pink Gold ทำให้สาว ๆ หลงไหล และเพลิดเพลินด้วย อายแชโดว์ ชิมเมอร์ และกลิตเตอร์ที่ระยิบระยับ มีให้เลือกถึง 9 เฉดสีในตลับเดียว ราคาเซตละ 1,850 บาท ช้อปได้แล้วทาง www.kingpower.com เท่านั้น
ขณะเดียวกันคิง เพาเวอร์ ยังได้ต้อนรับน้องใหม่เข้าสู่บ้าน คิง เพาเวอร์ “Replica” ไลน์น้ำหอมหรูจาก “Maison Margiela” แบรนด์แฟชั่นจากประเทศฝรั่งเศส วางจำหน่ายแล้วในราคาดิวตี้ฟรี ที่ ชั้น 2 โซน บิวตี้ คลับ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
สำหรับ แรพลิคา#Replica น้ำหอมที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพจำลองเหตุการณ์หรือสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันตั้งแต่การตั้งชื่อน้ำหอม ไม่ว่าจะเป็น Lazy Sunday Morning ซึ่งเป็นกลิ่นยอดนิยม ตามด้วยกลิ่น Bubble Bath, Beach Walk, Flower Market, Coffee Break, Jazz Club
การออกแบบของรูปทรงขวดน้ำหอมไร้ฝาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากโหลใส่ยาและติดด้วยผ้า Cotton และพิมพ์ด้วยหมึกเช่นเดียวกับ Tag ติดเสื้อผ้าของ #MaisonMargiela นั่นเอง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ณ จุดขาย ของคิง เพาเวอร์ ได้ทุกสาขา
ข่าวที่ 2 “คิงเพาเวอร์หนุนกระเป๋าแบรนด์COACHเพิ่มความผูกพันวันแม่สากล
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมแนะนำแคมเปญกระเป๋า COACH ดีไซน์ต้อนรับ “วันแม่สากล” ที่หลายประเทศถือสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมแต่ละปี เป็นวันแม่สากล ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ อิตาลี ตุรกี ออสเตรเลีย เม็กซิโก แคนาดา จีน ญี่ปุ่น เบลเยี่ยม ซึ่งทางแบรนด์ COACH จึงถือโอกาสนี้ เดินหน้าส่งต่อพลังด้านบวก เปิดตัวแคมเปญวันแม่ “Mother’s Day” ด้วยคอนเซ็ปต์ที่เน้นถึงผลกระทบในแง่บวกของแม่ที่มีต่อชีวิตของเรา และเป็นการระลึกถึงความสำคัญของแม่ในชีวิตประจำวัน
ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ร่วมแคมเปญครั้งนี้
COACH นำเสนอกระเป๋ารุ่นใหม่ อย่าง Willis และ Ergo ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากกระเป๋ารุ่นที่ผ่านมา
และอีกหนึ่งรุ่นคือ Field Tote ผลิตจากผ้าพิมพ์ลายอันเป็นซิกเนเจอร์ประจำแบรนด์
และยังขนขบวนกระเป๋ามาให้ยลโฉมกันอีกหลากหลายรุ่นยอดนิยม
จะสวยปังถูกใจเหล่าสาวกแค่ไหน ติดตามกันได้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร ศรีวารี
พัทยา และภูเก็ต
ทั้งนี้ที่
คิง เพาเวอร์ ศรีวารี เปิดให้บริการวันเสาร์ – อาทิตย์ ตลอดเดือนพฤษภาคม 2564
สำหรับภาพถ่ายและหนังสั้น ของ COACH ต้อนรับวันแม่สากลนั้น เน้นถ่ายทอดเรื่องราวผ่านเหล่านักแสดง เพื่อนพ้องคนสนิท ครอบครัวและสมาชิกของ Coach Family ซึ่งหนังสั้นนี้จะเน้นความสำคัญของความผูกพันระหว่าง “แม่” กับ “ลูก” เป็นซีรีส์ช่วยกระตุ้นให้คอมมูนิตี้ของ Coach ออกมาส่งต่อข้อความต่าง ๆ อาทิ ข้อความขอบคุณคุณแม่ เพื่อให้ผู้ชมได้ซาบซึ้งก่อเกิดความรู้สึกอยากส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้แก่กัน
ข่าวที่ 3 ททท.-ม.ศิลปากรชูออนไลน์ชวนประกวดท่องเที่ยวสร้างสรรค์ขานรับBCGModel
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับทาง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร เปิดตัวโครงการผลิตเนื้อหาสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย หรือ Creative Content Creation for Thailand Tourism Promotion เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบที่หลากหลายด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาต่อยอด เพื่อตอบสนองพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป สร้างคุณค่าและกระจายการเดินทางท่องเที่ยวเชิงพื้นที่และช่วงเวลา ก่อเกิดรายได้จากการท่องเที่ยวบนพื้นฐานของการรักษาสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางเศรษฐกิจชีวภาพ Bio Economy Circular Green หรือ BCG Model
โดยทำกิจกรรมเชิญชวนประกวดเนื้อหาการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์แบ่งเป็น
2 ส่วน
ประกอบด้วย
ส่วนที่ 1 “เนื้อหา” Content) ต้องนำทรัพยากรทางวิชาการของมหาวิทยาลัยศิลปากร มาสร้างสรรค์คุณค่าและองค์ความรู้เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย สนองการตลาดแบบรู้ใจ (Personalize Tourism) ตามประเภทสินค้าทางการท่องเที่ยวยอดนิยม 6 หมวด ได้แก่ พื้นที่วัฒนธรรม ทัศนศิลป์ สถาปัตยกรรม ผลิตภัณฑ์ แฟชั่น และอาหาร
สามารถส่งผลงานเข้าประกวดทั้ง 3
หัวข้อแหล่งท่องเที่ยว ได้แก่ แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม
แหล่งท่องเที่ยวโครงการพระราชดำริ และแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและการผจญภัย
โดยการตัดสินแบ่งออกเป็น 2 ประเภทรางวัล คือ
1. รางวัลยอดนิยม (Popular
Awards) 3 รางวัล จากผลงานที่ส่งเข้าประกวดทั้ง 3
หัวข้อ โดยการโหวตคะแนนมหาชนผ่านสื่อออนไลน์ Facebook
2. รางวัลยอดเยี่ยม (Excellent
Awards) ประกอบด้วยรางวัลชนะเลิศ รองอันดับ 1 และ 2 ของผลงานที่ส่งเข้าประกวดแต่ละหัวข้อแหล่งท่องเที่ยว
ซึ่งตัดสินจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ผลงานที่ได้ชนะการตัดสินแต่ละประเภทจะได้รับเงินรางวัล
บัตรกำนัลที่พัก และของที่ระลึกจาก ททท.
ผู้สนใจสามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 15 มิถุนายน
2564 ติดตามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tourismthailand.org/travelcontentcontest
หรือ โทร. 1672 เพื่อนร่วมทาง
ส่วนที่ 2 จัดประกวดเนื้อหาสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย โดยเชิญชวนให้ภาคประชาชนส่งผลงาน ”ภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอ” จากการท่องเที่ยวในประเทศ ทั้งปัจจุบันหรือช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงประชาชนแต่ละท้องถิ่นบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ จังหวัด และภูมิภาค ประกอบการจัดทำ Content แหล่งท่องเที่ยว 3 หัวข้อ ได้แก่ แหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยวโครงการพระราชดำริ และแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและการผจญภัย ด้วยรูปแบบการท่องเที่ยวออนไลน์ในการบอกเล่าและแบ่งปันประสบการณ์ พร้อมกับเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ Facebook ของแต่ละคน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า มีความยินดีในความร่วมมือกับ ททท. ซึ่งโครงการนี้จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาคการท่องเที่ยว โดยมหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นแหล่งรวบรวมความรู้ที่สำคัญของประเทศไทย ทั้งงานวิจัย องค์ความรู้ กิจกรรมสร้างสรรค์ของนักศึกษา คณะครูอาจารย์ และบุคลากรของมหาวิทยาลัย ถือเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเนื้อหาสร้างสรรค์ Content ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย สนองการตลาดแบบรู้ใจ (Personalize Tourism) โดยคำนึงถึงภาพลักษณ์และคุณค่าทางมรดกวัฒนธรรม ศิลปะ การออกแบบ และการบริการ เพื่อความยั่งยืนทางการท่องเที่ยว
สำหรับการประกวดเพื่อสรรหา Content
ท่องเที่ยวจากภาคประชาชนจะถูกรวบรวมเป็นคลังข้อมูลออนไลน์ หรือ Crowdsourcing
เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมทางการตลาดยุคปัจจุบันที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เชื่อถือได้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดมากที่สุดอีกด้วย
ข่าวที่ 4 ททท.ภาคเหนือชวนร่วมแปะไว้ม่วนใจ๋เที่ยวทิพย์แอ่วเหนือลุ้นรับ100รางวัล
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ภูมิภาคภาคเหนือ ชวนร่วมสนุกกับกิจกรรม “แปะไว้ให้ม่วนใจ๋
เที่ยวทิพย์ไปแอ่วเหนือ”ลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษ
“ตุ๊กตาหมอนผ้าห่มลายน้องล้านนา” น่ารักน่ากอด จำนวน 100 รางวัล ระหว่างวันนี้-30 พ.ค.2564 ด้วยกติการ่วมสนุก 3 ข้อง่ายๆ
1. เลือกแชร์ลิงค์ที่คุณชื่นชอบ 1 บทความ เลือกได้จากบทความดังนี้ เชียงใหม่ https://bit.ly/3xDSLTnเชียงราย https://bit.ly/3vzsWlv แม่ฮ่องสอน https://bit.ly/335mjLN และแท็กชวนเพื่อนเที่ยวอย่างน้อย 1 คน
2.ติดแฮชแท็ก #เที่ยวภาคเหนือAmazingยิ่งกว่าเดิม #เที่ยวทิพย์ไปแอ่วเหนือ ห้ามลืม ! ตั้งค่าโพสต์ของคุณให้เป็นสาธารณะ
3. ร่วมทำแบบสอบถามตาม link นี้ https://forms.gle/bcaBfpVJb5kPCjbZA
ปฏิบัติตามกติกาครบทั้ง 3 ข้อ มีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัล “ตุ๊กตาหมอนผ้าห่มน้องล้านนา” จาก GoNorthThailand จากททท. ภูมิภาคภาคเหนือ ได้ทันที
การตัดสินผู้ชนะเพื่อรับรางวัล 1.ทางคณะกรรมการของ GoNorthThailand ภูมิภาคภาคเหนือ จะตัดสินที่ตึกการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สำนักงานใหญ่) 2.จะประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัลทางเพจ Facebook GoNorthThailand ในวันที่ 3 มิถุนายน 2564 โดยใช้ชื่อบัญชีเฟซบุ๊คของผู้เข้าร่วมกิจกรรมในการประกาศ และเก็บข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ สำหรับจัดส่งของรางวัล 4.การเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ถือว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
การรับรางวัล 1.ผู้โชคดี9hv’ยืนยันสิทธิ์ผ่าน Facebook INBOX GoNorthThailand พร้อมแจ้งชื่อ - นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทร อีเมล์ ภายในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 หากผู้โชคดีไม่ได้ยืนยันสิทธิ์ภายในวันและเวลาที่กำหนด ทาง GoNorththailand จะถือว่าท่านสละสิทธิ์และขอมอบสิทธิ์ให้กับผู้ได้รับเลือกในลำดับถัดไป 2.ผู้ที่ได้รับรางวัล 1 รายมีสิทธิ์รับ1 รางวัลเท่านั้น หากปรากฏชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลซ้ำ ทาง GoNorthThailand ขอสงวนสิทธิในการจับสลากใหม่ เพื่อมอบรางวัลให้แก่ผู้มีสิทธิท่านอื่นต่อไป และคำตัดสินของกรรมการจะถือเป็นที่สุด
ข่าวที่ 5 TCEBเดินหน้าไมซ์ถกร่างดีไซน์2เทศกาลDiamondSalt- HuahinFest
นางหริสุดา บุญยวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการจัดงานเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 11-12 พฤษภาคม 2564 ได้ร่วมกันประชุมออนไลน์ผ่านแอพลิเคชั่น Zoom เพื่อระดมความเห็นจัดทำร่างการออกแบบการจัดเทศกาลที่ทีเส็บให้การสนับสนุนเพื่อยกระดับเฟสติวัลสำคัญ ๆ ตามรูปแบบ Festival Economy โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเศรษฐกิจเมืองด้วยงานเทศกาลที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของพื้นที่ และสามารถพัฒนาต่อยอดเป็น 1 City 1 License ได้ เบื้องต้นได้หารือกันถึงการจัดทำร่างการออกแบบ 2 งาน ได้แก่
1.งานเทศกาล Diamond of the Salt โดยมีนางสาวเอกรัตน์
นาคาคง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ให้เกียรติเป็นประธาน เพื่อรับฟังแนวทางการออกแบบงานเทศกาลดังกล่าว
ซึ่งถือเป็นความร่วมมือกัน 3 ฝ่าย ระหว่างทีเส็บ
จังหวัดเพชรบุรี และสมาคมการค้าส่งเสริมการจัดมหกรรมและเทศกาลนานาชาติไทย (TIEFA)
2.งาน Huahin Hop Festival 2021 ของอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นายประยงค์ จันทเต็ง นายอำเภอหัวหิน ให้เกียรติเป็นประธาน
สำหรับการประชุมหารือผ่าน Zoom ของทีเส็บทั้ง 2 เทศกาล มีตัวแทนเข้าร่วมอย่างคับคั่ง จากทั้งทางทีเส็บ นำโดยนายสราญโรจน์ สุทัศน์ชูโต ผู้อำนวยการฝ่ายสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคกลางและภาคตะวันออก นายบุญเพิ่ม อินทนปสาธน์ นายกสมาคม TIEFA และกรรมการสมาคม ผู้แทนจากภาครัฐภาคเอกชนในจังหวัดเพชรบุรี ทำให้การขับเคลื่อนเป็นไปอย่างราบรื่น เพื่อผลักดันให้งานเทศกาลเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์จัดได้อย่างมีประสิทธิภาพในปี 2564
ช่วงที่ 2 เตรียมตัวปรับพฤติกรรมในการออกเดินทางท่องเที่ยววิถีใหม่ “เที่ยวอย่างรับผิดชอบ RT -Responsible Tourism” แหล่งท่องเที่ยวคุณภาพ 5 จุดหมายปลายทาง กำลังรอรับทุก ๆ คน ไปเติมพลังความสุขหลังทุกอย่างสงบลง “เพจPobpad” แนะการสวมหน้ากากอนามัยออกกำลังกายแบบหนัก ๆ อย่างวิ่ง เล่นเวท ต้องระวังอาจเกิดอันตรายได้ เสิร์ฟข่าวฮ็อตแห่งสัปดาห์ “โรงแรมเจซีสาทร กรุงเทพฯ” หันมาทำแคมเปญ COVID Supper Save เริ่มต้นจ่ายคืนละแค่ 3,000 บาท ส่วน “บางกอกแอร์” เปิดแล้วเที่ยวบินทั่วไทย ไป-กลับ ครบ 5 เส้นทาง ตั้งแต่ 1 มิ.ย.64 เป็นต้นไป
เที่ยววิถีใหม่ RTทั่วไทยต้องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ‘Responsible Tourism’
การแพร่ระบาดของโควิดเป็นทั้งวิกฤตและโอกาส ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เมื่อโควิดหยุดโลก หยุดคนออกเดินทาง ระหว่างนี้ก็ขอให้ทุกคนหันมาเตรียมตัวออกเดินทางกันอีกครั้ง เมื่อทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติ
นั่นก็คือ “ท่องเที่ยววิถีใหม่” ในรูปแบบ RT :ท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ‘Responsible Tourism’ หลังจากธรรมชาติฟื้นคืนชีพ สายลม แสงแดด ท้องทะเล ป่าเขา ลำเนาไพร อากาศและทุกอย่าง สวยใสเหมือนใหม่ตามคอนเซ็ปต์ของ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) ที่ว่า “เมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม”
ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนจะหันมาให้ความใส่ใจปรับพฤติกรรม
เมื่อมีโอกาสกลับมาออกเดินทางท่องเที่ยวได้อีกครั้ง ก็ห้ามพลาด
เลือกจุดหมายปลายทางเที่ยว RT ใน 5 จุดหมายปลายทาง
จุดหมายแรก -ท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติและระบบนิเวศน์
กับแหล่งท่องเที่ยวที่ปรับเปลี่ยนไว้ต้อนรับ อย่าง ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง ปตท.
กรุงเทพฯ คุ้งบางกระเจ้า จ.สมุทรปราการ ศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนคลองโคน
จ.สมุทรสงคราม ชุมชนบ้านแหลมกลัด จ.ตราด และอีกหลากหลาย
จุดหมายที่ 2 - ท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้
และพัฒนาอย่างยั่งยืน เช่น ตลาดสุขใจ สวนสามพราน
ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย-นาเฮียใช้ จ.สุพรรณบุรี ไร่รื่นรมย์
จ.เชียงราย บ้านจำรุง จ.ระยอง แชรย์อทิตยา กับ แซตอม ออร์แกนิก ฟาร์ม จ.สุรินทร์
ชุมชนท่องเที่ยวทะเลน้อยและตลาดป่าไผ่สร้างสุข จ.พัทลุง
จุดหมายที่ 3 -การท่องเที่ยวเพื่อเป็นอาสาสมัครพัฒนาชุมชนและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม เช่น เกาะล้าน จ.ชลบุรี
เกาะทะลุ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ชุมชนบ้านท้องตมใหญ่ จ.ชุมพร
แบมบูสกูล จ.กาญจนบุรี ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตป่าเขาน้ำพุ จ.กาญจนบุรี
จุดหมายที่ 4 -
การท่องเที่ยวชุมชนเพื่อเรียนรู้วิถีและอัตรลักษณ์ท้องถิ่น ได้แก่ บ้านทองเอน จ.สิงห์บุรี
ชุมชนห้วยหินลาดใน จ.เชียราย ชุมชนทุ่งหยีเพ็ง จ.กรี่ ชุมชนพรหมโลก
จ.นครศรีธรรมราช ตลาดไทยย้อนยุคบ้านบางระจัน กับบ้านทองเอน จ.สิงห์บุรี บ้านเมืองแพม กับ บ้านเมืองปอน จ.แม่ฮ่องสอน
จุดหมายที่ 5 -การท่องเที่ยวที่มีส่วนร่วมสืบสานศิลปะและวัฒนธรรม
อย่าง เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี เกาะรัตนโกสินทร์ กรุงเทพฯ เมืองมรดกโลก
จ.สุโขทัย กาดวิถีชุมชนคูบัว จ.ราชบุรี ย่านเมืองเก่า จ.ภูเก็ต จ.ปัตตานี จ.สงขลา
และนครศรีธรรมราช
เตรียมตัวปรับพฤติกรรมหันมาท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ดูแล รักษา ธรรมชาติ
ที่กลับมา อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม ให้อยู่กับโลก
เพื่อให้โลกช่วยมอบความสุขแก่เราต่อไปนาน ๆ
เพจPobPadแนะใส่หน้ากากอนามัยออกกำลังกายวิ่ง/เวทระวังเกิดอันตราย
เพจเฟซบุ๊ค PobPad ให้ความรู้เรื่อง
“การสวมหน้ากากอนามัยหรือแมส” ระหว่างออกกำลังกาย
อย่างการวิ่งในสวนสาธารณะติดต่อกันนานก็อาจทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้
เพราะการออกกำลังกายจะทำให้เราหายใจหนักขึ้น แต่แมสก์จะจำกัดการได้รับออกซิเจน จึงทำให้ออกซิเจนในเลือดต่ำส่งผลให้เหนื่อยง่าย หายใจหอบ เวียนหัว หน้ามืด และเป็นลม ซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุได้ แต่ความรุนแรงก็อาจขึ้นอยู่กับความหนักของการออกกำลังกาย ความหนาและชนิดของแมสก์ที่สวมใส่ด้วย
คนที่ออกกำลังกายไม่หนักมากหรือหนักปานกลาง อย่างการเดิน การยกเวท และบอดี้เวท การสวมแมสก์อาจส่งผลให้เหนื่อยและหายใจลำบากขึ้นเท่านั้น ส่วนคนที่ออกกำลังกายหนักและต่อเนื่อง เช่น การวิ่ง การปั่นจักรยาน การเล่นกีฬา และคาร์ดิโอรูปแบบอื่น ไม่ควรสวมแมสก์ขณะออกกำลังกาย เพราะอาจเสี่ยงต่อภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ และหน้ามืดเป็นลมได้มากขึ้น
หากพบอาการเหนื่อยหอบ หายใจไม่ทัน หรือเวียนหัว ควรหยุดการออกกำลังกายทันทีและหาที่นั่งพัก หากเป็นไปได้ ในช่วงนี้ควรเปลี่ยนมาออกกำลังกายในที่พัก หากเลี่ยงไม่ได้ ควรลดความหนักในการออกกำลังกาย หรือเปลี่ยนไปออกกำลังกายในช่วงที่คนน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับคนอื่น
สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกายนอกบ้านแล้วต้องเผชิญกับฝุ่นควันที่ทำให้เกิดอาการคันคอ ระคายคอ เจ็บคอ ควรพักจิบน้ำเป็นระยะ และอาจเลือกใช้สเปรย์คาโมไมล์หรือสเปรย์ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรที่ช่วยให้ชุ่มคอและบรรเทาอาการระคายคอ อย่างเปปเปอร์มิ้นท์และยูคาลิปตัส หากใครมีอาการไอร่วมกับมีเสมหะที่ทำให้เหนียวคอและหายใจลำบากสามารถใช้ยาละลายเสมหะ อย่าง NAC (N-Acetylcysteine) หรือยาละลายเสมหะตัวอื่นในรูปแบบต่าง ๆ อย่างยาเม็ดฟู่ที่เพียงใส่ในน้ำดื่ม รอจนละลายและดื่มได้ทันที ออกฤทธิ์ ใช้ง่าย พกพาสะดวก ติดตัวไปได้ทุกที่ ต่างจากยาเม็ดและยาน้ำแบบเดิม ๆ
ข่าวท้ายชั่วโมง
นายณพวีร์ เตชะอุบล ผู้บริหารโรงแรม เจซี เควิน สาทร กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 บริษัทได้ปรับการให้บริการโรงแรมเจซี เควิน สาทร กรุงเทพฯ ทำแคมเปญห้องพัก "COVID-19 Super Safe Hotel" เพื่อให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับผู้ที่ต้องการสถานที่พักผ่อนแบบส่วนตัว ภายใต้มาตรการควบคุมและดูแลด้านสุขอนามัยตามแนวทางของกรมควบคุมโรค และได้รับการรับรองจาก Amazing Thailand Safety & Health Administration (SHA) แคมเปญนี้สามารถเลือก ห้องพักแบบ Premier Room, One Bedroom Suite และ Two Bedroom Suite ในราคาเริ่มต้นเพียงคืนละ 3,036 บาทสุทธิ
ผู้สนใจ สามารถสำรอง และจองแพ็คเกจได้ตั้งแต่วันนี้ - 30 มิถุนายน 2564 นี้ สอบถามข้อมูลของ "COVID-19 Super Safe Hotel" โทร 02 210 9000 หรืออีเมล์ jcksathornhotel@jckevin.com
ก่อนลงทะเบียนเข้าพัก
ผู้เข้ารับบริการจะต้องผ่านจุดคัดกรอง และเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19
(RT-PCR) โดยห้องปฏิบัติการ (Lab) จากโรงพยาบาลพันธมิตรที่ได้รับการรับรอง
เพื่อความปลอดของแขกผู้เข้าพักทุกท่าน ซึ่งระหว่างรอผลของการตรวจเชื้อไวรัส
ตลอดการเข้าพัก แขกที่เข้ารับบริการ จะได้รับความสะดวกสบาย
การบริการครบวงจรภายใต้มาตรฐานโรงแรมระดับ 5 ดาว ในแพ็คเกจ
"COVID-19 Super Safe Hotel"
ในระหว่างการเข้าพัก แขกสามารถเพลิดเพลินกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ทางโรงแรมได้จัดเตรียมไว้ ไม่ว่าจะเป็นมื้ออาหารบุฟเฟต์แบบพรีเมี่ยมทั้ง 3 มื้อ จากเชฟใหญ่ผู้มากประสบการณ์ และรางวัล ที่คุณสามารถสั่งได้ไม่อั้นในแต่ละมื้อ จิบชายามบ่ายแบบส่วนตัวในห้องพักของคุณ และชมพระอาทิตย์ตกดิน พร้อมดื่มม็อคเทลแก้วโปรดของคุณที่ ZOOM Sky Bar & Restaurant ที่ดาดฟ้าชั้น 40 ของโรงแรม
ข่าวที่สอง บางกอกแอร์ลุยเปิดบินไป-กลับทั่วไทยครบ5เส้นทางภายใน1 มิ.ย.64
บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส แจ้งกลับมาเปิดให้บริการเที่ยวบินในเส้นทาง ไป-กลับ 1.เริ่ม
15
พฤษภาคม นี้เป็นต้นไป กรุงเทพฯ –
เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ - ภูเก็ต 2.ตั้งแต่วันที่
1 มิถุนายน 2564
เป็นต้นไป กรุงเทพฯ – สุโขทัย และกรุงเทพฯ – ลำปาง
ส่งผลให้เดือนมิถุนายน 2564 บางกอกแอร์เวย์สมีเที่ยวบินให้บริการ ไป-กลับ รวม 5 เส้นทาง ดังนี้
1. เส้นทางกรุงเทพฯ–สมุย ให้บริการทุกวัน
2. เส้นทางกรุงเทพฯ
– เชียงใหม่ วันที่ 15-31 พฤษภาคม 2564 รวม
3 เที่ยว/สัปดาห์ และตั้งแต่ 1
มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ให้บริการทุกวัน 1
เที่ยว/วัน
3. เส้นทางกรุงเทพฯ
- ภูเก็ต (ไป-กลับ) ให้บริการทุกวัน 1 เที่ยว/วัน
4. เส้นทางกรุงเทพฯ
– สุโขทัย สัปดาห์ละ 4 เที่ยว/สัปดาห์ ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์
อาทิตย์
5. เส้นทางกรุงเทพฯ - ลำปาง สัปดาห์ละ 5 เที่ยว/สัปดาห์ ทุกวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์
ผู้โดยสารสามารถตรวจสอบเที่ยวบินเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bangkokair.com/flight/flightSchedule
แต่สายการบินฯ ยังคงมีความจำเป็นต้องงดให้บริหารอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน
และปิดให้บริการห้องรับรองผู้โดยสารชั่วคราวต่อเนื่องไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
รวมทั้งปิดให้บริการสำนักงานออกบัตรโดยสารไปจนถึง 31
พฤษภาคม นี้
โดยยังคงสามารถติดต่อสายการบินได้ตามช่องทางต่างๆ ดังนี้ 1.ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (Call Center) โทร 1771 หรือ 02-270-6699 ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. 2. PG Live Chat: https://bit.ly/PGLiveChatTH และ 3. อีเมล: reservation@bangkokair.com
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น