TCEBเดินหน้าไมซ์ปี’65แจกงบต่อ2โปรเจ็กต์”ประชุมเมืองไทย-ธุรกิจSMEsเอ็กบิชั่น-หวังโกยAPEC2022-ไมซ์โต6%5ปีหน้า’71รายได้ไมซ์อู้ฟู่5แสนล้านดอลล์

ผู้นำTCEBกางงานวิจัยอุตสาหกรรมไมซ์แจงปัจจัยอินเตอร์-ในชาติปี’65

แจกเพิ่มต่องบอุดหนุน2โปรเจ็กต์”ประชุมเมืองไทย-ธุรกิจSMEsเอ็กบิชั่น

หวังโกยAPEC2022-ไมซ์โต6%5ปีหน้า’71รายได้ไมซ์อู้ฟู่5แสนล้านดอลล์

ช้อปเลย!ที่คิงเพาเวอร์ฉลองตรุษจีนมั่งคั่งได้อื้ออั่งเปา4คุ้มวันนี้-6ก.พ.65

พูลแมนคิงเพาเวอร์บูมแพกเกจ่าย2,222บาท/คนฟรีเพียบห้องพัก+7สิทธิ์

ททท.พัทยา+3ค่ายชูโปรแรงเจาะผู้หญิงล่องยอร์ช“Amazing onYacht”

บางจากนำWinnonie+2ค่ายใหญ่ระดมทุนซีรีย์A80ล้านรุกพลังงานกรีน

นครนายกเช็คอินใหม่“เมืองดอกไม้-ตลาดดงละคร-Station45@องครักษ์

ตื่นเถิด!!คนไทยหันมาปรับกินพืชผักผลไม้เพื่อสุขภาพให้ได้วันละครึ่งกิโล

ททท.ชูงาน”GastronomyAmazing-มากินกัญ”ทัวร์กัญชาในกทม.-23ม.ค.

-“AWC”ระดมศูนย์การค้าใจกลางกรุง6แห่งฉลองตรุษจีนยิ่งใหญ่-6ก.พ.

 

 วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #ช้อปตรุษจีนคิงเพาเวอร์รับอั่งเป่า4คุ้ม  #TCEB #เที่ยวนครนายก #หมู่บ้านดอกไม้คลอง15องครักษ์ #หมู่บ้านดอกไม้บ้านดงบัง

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้  https://fb.watch/aIALotBOFd/

ช่วงที่ 1 จับตาอุตสาหกรรมไมซ์ กับ “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” กางคู่มือวิจัยส่องตัวแปรระดับอินเตอร์จากปัจจัยภายนอก “ไมซ์เอเชีย” ประคองตัว 5ปีรอผงาดปี’71 คาดเงินสะพัด 5 แสนล้านเหรียญ ส่วน “ไมซ์ไทย” ได้แรงหนุน 3 ปัจจัยในประเทศ “การลงทุนใหม่-จัดการวัคซีนกับแซนด์บ็อกซ์ได้ดี-ปลายปีเจ้าภาพจัดAPEC 2022” หลังก.พ.65 เดินหน้า2 โปรเจ็กต์เด็ด 1.ลุยนำเงินกู้ 60 ล้านบาทแจก “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า เฟส 3” หวังสร้างรายได้หมุนเวียน 300 ล้านบาท ช่วงเม.ย.-ก.ย.นี้ 2.แจกใหญ่ผู้ประกอบการรายย่อยเปิดบูธงานเอ็กซิบิชั่นหลังซบยาวมากว่า 2 ปี เล็งปรับแผนสื่อสารปลุกความเชื่อมั่นไมซ์ยังจัดได้ท่ามกลางสถานการณ์โควิดปีเสือ

 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ปี 2565 ทีเส็บได้วิเคราะห์สถานการณ์ของตลาดไมซ์ในและต่างประเทศ โดยได้วางแผนตามปีงบประมาณเริ่มมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 มาจนถึงปัจจุบัน ภาพใหญ่อุตสาหกรรมไมซ์ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีรายละเอียดที่ฝ่ายอินเทเลเจนท์ได้ทำวิจัยวิเคราะห์ไมซ์ที่มีตัวแปรหลัก ประกอบด้วย

 

“ปัจจัยภายนอก” ในระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ที่จะส่งผลถึงไมซ์ระดับนานาชาติ ได้แก่

 

ภูมิภาค “เอเชียแปซิฟิก” อัตราการเติบโตตั้งแต่ตอนนี้เฉลี่ยปีละ 6 % แนวโน้มปี 2571 คาดขนาดรายได้รวมกว่า 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากยังคงเดินหน้าก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมโครงสร้างพื้นฐาน ผนวกกับภาพการส่งออก และการลงทุน ก็ยังเดินหน้าที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมไมซ์

สำหรับ “ประเทศไทย” มีตัวชี้วัดที่เห็นชัดเจนส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมไมซ์ คือ

 

เรื่องที่ 1 “การลงทุนก่อสร้างศูนย์ประชุมและบริการ” ในอนาคต ได้แก่ 1.เตรียมเปิดโฉมใหม่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ช่วงกลางปี 2.การลงทุน เดอะ วัน แบงค็อก ตรงบริเวณมักกะสัน 3.โรงแรมดุสิต มิกยูส 4.ศูนย์ประชุมภูเก็ตที่เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซโป 2028 และ 5.การก่อสร้างศูนย์ประชุมตามจังหวัดต่าง ๆ

 

“การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่โลจิสติกส์” ไฮไลต์โครงการขยายสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา จ.ชลบุรี อีก 3 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับผู้โดยสารปีละ 50-60 ล้านคน

 

เรื่องที่ 2 “โรคโควิด-19” กำลังจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นในเร็ววันนี้ เป็นเรื่องที่ทีเส็บได้รับจากการผลวิจัยฉบับล่าสุด แม้โรคโควิดจะไม่หายไป แต่ก็จะมีข้อเสนอแนะวิธีที่จะอยู่กับโรคดังกล่าวให้ได้

 

ดังนั้นสถานการณ์หลังโควิด-19 ตลาดไมซ์จะแข่งขันกันอย่างหนักขึ้น ประการสำคัญสุดคือจะต้องรอความเคลื่อนไหวของ “สาธารณรัฐประชาชนจีน” ซึ่งเป็นตลาดผู้เล่นรายใหญ่หลักของเอเชียด้วย

ขณะที่ “ปัจจัยภายใน” ก็มีตัวแปรจาก ปัจจัยที่ 1 ประเทศไทยได้การยอมรับเรื่องมาตรการบริหารจัดการความปลอดภัยด้านสาธารณสุข ซึ่งทั้งเอเชีย ยุโรป และทั่วโลก ตอบรับเป็นอย่างดี ในช่วงเวลาตุลาคม 2564 ก่อนจะเกิดการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน มีกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ยืนยันจะมาจัดงานในลักษณะ corporate meeting แต่พอเกิดการระบาดอีกครั้งบางส่วนก็ยกเลิกไป ดังนั้นทีเส็บจึงเตรียมจัด Fam Trip อีกครั้งช่วงมีนาคม เพื่อรองรับการกลับมาจัดไมซ์อีกครั้งตั้งแต่กลางปี 2565 เป็นต้นไป

ปัจจัยที่ 2 ทีเส็บยังคงใช้ศักยภาพของตัวแทนการตลาดในต่างประเทศ Marketing Representative ในเอเชีย ยุโรป อเมริกา ตอกย้ำให้ไมซ์นานาชาติเดินทางเข้ามา

ปัจจัยที่ 3 ประเทศไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงาน APEC 2022 ตอนนี้ทีเส็บพยายามที่จะเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ที่จะเดินทางเข้ามาจัดงานไมซ์ในไทยอย่างเต็มที่

นายจิรุตถ์กล่าวว่า การจัดทำ Sandbox ของไทยเป็นโมเดลให้เอเชีย ยุโรป และอีกหลายทวีป เชื่อมั่น ผนวกกับทีเส็บจะพยายามสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจเรื่องราวการดำเนินงานภายในประเทศ เรื่องการจัดการไมซ์อย่างดี เปรียบเทียบกันแล้ว หลังจากทีเส็บได้ไปดูงานในลาสเวกัสเรื่องการจัดไมซ์ นำมาเปรียบเทียบศึกษา พบว่าการจัด “เอ็กซิบิชั่นในไทย” มีมาตรฐานการดูแลด้านสุขอนามัยตลอดการจัดงานเอ็กซิบิชั่นสูงมาก ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การใช้เจลแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่าง ค่อนข้างเข้มงวด การเกิดติดเชื้อหรือกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่จัดเอ็กซิบิชั่นจนถึงขณะนี้ยังไม่มีเลย จึงถือว่าได้มาตรฐาน

แต่ก็ยังกังวลอยู่บ้างเมื่อลูกค้าขอยกเลิกการจัดเอ็กซิบิชั่น ตั้งแต่เกิดการระบาดของโอมิครอน ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นถึงแนวโน้มจะมีลูกค้ากลับมาจัดงานเอ็กซิบิชั่นในประเทศอีกครั้งช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2565 เป็นต้นไป ตอนนี้ทางศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ไม่ได้ห้ามจึงมีการจัดงานอยู่บ้างแล้ว รวมทั้งยังต้องรอผลประกาศกลับมาอนุญาตให้ต่างชาติเดินทางตามรูปแบบ Test & Go ครั้งใหม่ และตัวเลขติดเชื้อจากการจัดงานไมซ์ยังไม่พบด้วยเช่นกัน เพราะทีเส็บได้ยึดมาตรฐานให้ทุกงานยึดมาตรฐาน 2 H คือ Hygien กับ Hybrid และ มาตรฐาน DMHTT ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งสามารถป้องกันความปลอดภัยด้านสุขอนามัยได้หลายส่วน

 

นายจิรุตถ์กล่าวว่า ปี 2565 จะมีโครงการสำคัญเป็นพลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ช่วยให้เอกชนทำธุรกิจต่อได้ ประกอบด้วย

โครงการที่ 1 ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า เฟส 3 จะเริ่มได้ประมาณเดือนเมษายน 2565 เป็นต้นไป ทั่วประเทศสามารถจัดไมซ์ได้ โดยสนับสนุนเงินจัดงานครั้งละ 15,000-30,000 บาท/งาน เฟสล่าสุดใช้งบอุดหนุนเอกชนไปประมาณ 30 ล้านบาท ได้ผลลัพธ์ทางตรงประมาณ 157 ล้านบาท กระจายไปยังโรงแรม สถานที่จัดประชุม เอเย่นต์

สำหรับการขอเพิ่มงบประมาณปี 2565 ทำโครงการ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า เฟส 3” เตรียมเสนอหลังประชุมบอร์ดทีเส็บ เสนอรัฐบาลขอใหม่จากเงินกู้เพิ่มอีก 60 ล้านบาท นำมาใช้สนับสนุนการจัดไมซ์ในประเทศตามปีงบประมาณระหว่างเมษายน-ตุลาคม 2565 ตั้งเป้าหวังผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในอุตสาหกรรมไมซ์ทั่วประเทศอีกกว่า 300 ล้านบาท

 

แต่ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ได้รับงบประมาณเพิ่ม และการกระจายงบให้เอกชนเท่านั้น แต่ยังเป็นการรักษาอาชีพการจ้างงาน ควบคู่กับการอัดฉีดหรืออาจจะให้งบมากกว่านั้นก็ได้หากสถานการณ์เศรษฐกิจบางช่วงที่แย่ลงมาก ๆ ก็อาจนำไปเป็นจุดเริ่มต้นการจัดประชุม แล้วกระจายไปทั่วประเทศ เพราะการจัดประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า เฟส 2 ที่ผ่านมา ภาคเหนือ ภาคใต้ จัดได้จำนวนมาก กรุ๊ปละ 100-200 คน/ครั้ง/งาน

                โครงการที่ 2 การสื่อสารที่จะให้เอกชนจัดงานได้ การกระตุ้นจะเริ่มตั้งแต่มีนาคมนี้เป็นต้นไป โดยมีสถานที่ต่าง ๆ ในการจัดงานต้องได้ตราสัญลักษณ์ SHA , SHA PLUS เพิ่มมาตรฐานของทีเส็บอีก 2 H higien กับ hybrid และเพิ่มมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขคือ DMHTT สามารถติดต่อกับทีเส็บได้โดยตรง มีมาตรฐานการจัดงานแบบข้นข้นทั้งรูปแบบของการจัดงานและการเสริมทักษะบุคลากร

 

สำหรับ M-I-C-E ที่จะกระตุ้นให้เกิดการจัดไมซ์ตอนนี้ทำเรื่อง “E-Exhibition จัดงานแสดงสินค้า” ทีเส็บเสนอเรื่องไปยัง สำนักงานคณะกรรมการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแล้ว งบประมาณล็อตนี้เสนอร่วมกับสมาคมการแสดงสินค้าไทย (TEA) จะเป็น “งบประมาณให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม SMEs” ที่เป็นรายย่อยจัดบูธแสดงสินค้า งานไลฟ์สไตล์ สามารถที่จะของบดังกล่าวได้เลย เป็นงบประมาณที่รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ขั้นตอนขณะนี้ผ่านการพิจารณาของสภาพัฒน์แล้ว รอเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อช่วยเรื่องการเช่าพื้นที่จัดแสดงสินค้า เนื่องจากตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเอ็กซิบิชั่นปิดยาว ดังนั้นต้องช่วยให้ออร์กาไนเซอร์สามารถจัดงานแต่งบจะลงไปโดยตรงยังผู้ประกอบการ SMEs ได้

ส่วน M-I-C มีแผนชัดเจนที่จะสนับสนุนการจัดแข่งขันกีฬาที่สามารถจัดได้ หรือเทศกาลงาน Chaing Mai Bloom ที่เชียงใหม่ หรืองาน World Halal 2022 ยังยืนยันจัดปลายปีนี้ที่สงขลา หรือ FDI ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพิ่งจะเลื่อนไปตามมติของคณะกรรมการจัดงาน หากจัดได้ทีเส็บก็พร้อมสนับสนุน หรือ “เมกะอีเวนต์” ทุกงานทางทีเส็บพร้อมสนับสนุนทุกงาน

นายจิรุตถ์กล่าวว่า การขอความร่วมมือจากเอกชน รัฐ หรือผู้จัดงาน ตอนนี้ยังค่อนข้างกังวล Test & Go ทางทีเส็บจึงต้องสื่อสารเน้นหนักเรื่อง  “สร้างความมั่นใจจัดงานไมซ์ได้” เพราะผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่ทางด้านธุรกิจ เอ็กซิบิชั่น ทุกคนให้ความร่วมมือป้องกันขั้นสูงสุด มีอุปกรณ์ตรวจทำ RT-PCR แต่ทางออร์กาไนเซอร์ยังคงพูดถึงเรื่องที่คนยังไม่มั่นใจจะกลับมาจัดงาน

ดังนั้นทีเส็บจึงต้องการประชาสัมพันธ์ให้เชื่อมั่นว่ายังสามารถจัดงานได้ เพราะตอนนี้รูปแบบการจัดงานไม่จำเป็นจะต้องมีคนเข้ามาร่วมอย่างแออัด ฉนั้นทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ต้องหันมาร่วมมือกันสร้างความมั่นใจจัดงานได้แบบ New Normal เพราะหลังเดือนมีนาคม 2565 มั่นใจการจัดงานไมซ์ทุกประเภทสามารถจัดได้ตามวิถีปกติใหม่อย่างแน่นอน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 ช้อปเลย!ที่คิงเพาเวอร์ฉลองตรุษจีนมั่งคั่งได้อื้ออั่งเปา4คุ้มวันนี้-6ก.พ.65

เริ่มแล้ววันนี้! ที่คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา รีบออกมาช้อปบอกต่อวิธีช้อปเฮง รับคุ้มมั่งคั่งรับเทศกาลตรุษจีน ได้ที่สาขา รางน้ำ  พัทยา  และภูเก็ต  ระหว่างวันนี้ - 6 กุมภาพันธ์ 2565  และ ที่   คิง เพาเวอร์ ศรีวารี 22- 23, 29 – 30 ม.ค. 65 เเละ 5 – 6 ก.พ.  65 รับไปเลย 4 คุ้ม

คุ้มที่ 1 : ยังไม่เป็นสมาชิกต้องรีบสมัครเลย ยิ่งสมัคร ยิ่งมั่งคั่ง! สมัครสมาชิก ONYX รับโชคทองคำ 1 สลึง* เพียงสมัครสมาชิกประเภท ONYX, เติมเงิน 60,000 บาท และ ช้อปครบ 60,000 บาท ภายในวันที่สมัคร

สมัครสมาชิก SCARLET รับอั่งเปาส่วนลดเพิ่ม 2 ใบ ส่วนลด 800 บาท X 2 ใบ* (อั่งเปา 1 ใบ สำหรับช้อป 3,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ) สามารถใช้ร่วมกับอั่งเปาส่วนลด 3 ใบที่ได้รับจากการลงทะเบียน รวมมูลค่าส่วนลด 4,000 บาท  เพื่อใช้ช้อป 14,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ

 

คุ้มที่ 2 : แจกฟรี! อั่งเปาส่วนลด 800 บาท X 3 ใบ*  วิธีช้อปรับเฮง! ช้อปครบ 3,000 บาทขึ้นไป รับอั่งเปาส่วนลด 800 บาท*  จ่ายจริง! 2,200 บาท (เมื่อช้อปสินค้ามูลค่า 3,000 บาท / ใบเสร็จเท่านั้น)

พิเศษ! ช้อปจัดหนัก รับคุ้มเกินคาด สามารถรวมอั่งเปาส่วนลด 3 ใบ มูลค่า 2,400 บาท ใช้ช้อป 8,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ (จากปกติช้อปครบ 9,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ) เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ จำกัด 1 สิทธิ์ / ท่าน / วัน โดยนับสิทธิ์รวมทุกสาขาและทุกช่องทางการช้อป

คุ้มที่ 3 : เสริมเฮงตลอดปี! ช้อปจัดเต็มให้ครบ 8,000 บาท (สุทธิ) ลุ้นรับทริปมงคลเสริมโชคลาภกับ อาจารย์ช้าง ทศพร ศรีตุลา” จำนวน 10 รางวัล

คุ้มที่ 4 : จัดหนักกับโปรฯ CASH CARD สุดเฮง! ซื้อ CASH CARD 10,000 บาท รับฟรี! GIFT CARD 3,000 บาท* ซื้อ CASH CARD 25,000 บาท รับฟรี! GIFT CARD 10,000 บาท แต่ไม่สามารถใช้ร่วมกับอั่งเปาส่วนลดได้

 

ข่าวที่ 2 พูลแมนคิงเพาเวอร์บูมแพกเกจ่าย2,222บาท/คนฟรีเพียบห้องพัก+7สิทธิ์

โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ในเครือ คิง เพาเวอร์ มีแพกเกจจองออนไลน์ ให้มาเพลิดเพลินกับวันพักผ่อนในใจกลางกรุงเทพฯ ราคา 2,222 บาทสุทธิ/ห้อง/คืน ตั้งแต่วันนี้จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2565 ห้องพักกับอาหารเช้าฟรี ที่ห้องอาหารของโรงแรม ฟรีบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi)  ทำให้วันหยุดสดใสและได้รับประทานของอร่อยพิเศษกว่าทุก ๆ วัน   

“แพ็กเกจ” ห้องพักกรุงเทพฯ ได้รวมสิทธิประโยชน์ไว้มากมายคุ้มค่าเงินสุด ๆ ถึง 7 อย่าง

1. ห้องซูพีเรียราคา 2,222 บาทสุทธิ/ห้อง/คืน 2. ฟรีอาหารเช้าทุกวัน ที่ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก

3. ฟรีชุดน้ำชายามบ่ายสำหรับ 2 คน ที่ The Junction 4. ฟรี อินเทอร์เน็ตทั่วทั้งโรงแรม 5. รับส่วนลด 50% สำหรับอัพเกรดห้องพักไปดีลักซ์ เอ็กเซคคิวทีฟ หรือสวีท 6.  รับส่วนลด 20% สำหรับเมนูรูมเซอร์วิส 7. รับส่วนลดสูงสุด 40% กับร้านอาหารและบาร์ภายในโรงแรม

 

ข่าวที่ 3 ททท.พัทยา+3ค่ายชูโปรแรงเจาะผู้หญิงล่องยอร์ช“Amazing onYacht”

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ททท.สำนักพัทยา จับมือกับ 3 บริษัทตัวแทนจัดนำเที่ยวสนับสนุนการจัดแพกเกจการขาย “Amazing Chonburi Premium on Yacht” จัดโปรโมชั่น ระหว่างวันนี้ -30 มิถุนายน 2565 ลุยเจาะตลาดคุณภาพเชิงรุกกลุ่มเฉพาะนักท่องเที่ยวผู้หญิง เพราะ “ผู้หญิงทุกคน คือ คนพิเศษ” สามารถชวนกันไปล่องเรือยอร์ช พักผ่อน สบาย ๆ โดยมีโปรโมชั่นสุดคุ้มและมี On top สิทธิพิเศษ เพื่อให้สตรีที่ชื่นชอบล่องเรือยอร์ชร่วมสนุกกับกิจกรรมล่องเรือยอร์ช ลุ้นรับฟรีห้องพักพูล วิลล่า  พรีเมี่ยม

 

บริษัทแรก “โอเชียน มารีน่า ยอร์ช คลับ พัทยา” จัดแพกเกจ “Privillage for All Ladies on Yacht @ Chonburi” ผ่านบริการ โอเชี่ยน มารีนน่า ยอร์ช ชาเตอร์ เป็นแพกเกจเช่าเหมาลำเรือยอร์ชครึ่งวัน  ลำละ 10 คน ราคา23,600 บาท/ลำ พร้อมทั้งให้สิทธิ์พิเศษบริการท่าเรือฟรี 1,000 คนแรก สอบถามได้ที่ โทร. 02-389-5018 หรือเข้าดูรายละเอียดทาง  FB : https://www.facebook.com/oceanmarinayachtclub

 

                 บริษัทที่สอง “Ocean Escape” นำเสนอแพกเกจ เช่าเหมาลำเรือยอร์ชครึ่งวัน เริ่มต้นลำละ 10 คน ราคา 38,000 บาท สำหรับ 200 คนแรก คิดราคาพิเศษเริ่มต้นเพียงลำละ 10 คน รวม 28,000 บาท/ลำ และกลุ่มผู้หญิงที่จองใช้บริการเช่าเหมาลำยอร์ช 60 แรก  จะได้รับฟรีบัตรบริการใช้สปาที่ โอเอซิส สปา โทร : 081 771 0899

FB : https://www.facebook.com/oceanescapecharter  

 

                บริษัทที่สาม “Blue Voyage Thailand (Pattaya)” จัดแพกเกจเช่าเหมาลำเรือยอร์ชครึ่งวัน ลำละ 10 คน ราคาเริ่มต้น 29,000 บาท/ลำ มอบสิทธิพิเศษ สำหรับ 200 คนแรก ชวนกัน 10 คน เหมาจ่าย 19,900 บาท/ลำ และผู้หญิงกลุ่มแรกที่เช่าเหมาลำยอร์ช 60 คนแรก รับฟรีบัตรใช้บริการสปาที่ โอเอซิสสปา โทร : 086 424 4245 หรืออัพเดทรายละเอียดได้ทาง FB : https://www.facebook.com/bluevoyagethailand

 

ข่าวที่ 4 บางจากนำWinnonie+2ค่ายใหญ่ระดมทุน80ล้านลุยพลังงานกรีนปี65-68

นายรวี  บุญสินสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจนวัตกรรม กลุ่มงานวางแผนยุทธศาสตร์และพัฒนาธุรกิจองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และกรรมการ บริษัท วินโนหนี้ จำกัด กล่าวว่า ในฐานะ Winnonie สตาร์ทอัพรายแรกของประเทศไทยที่บุกเบิกให้บริการแพลตฟอร์มรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าพร้อมเครือข่ายสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติ ขณะนี้ได้ระดมทุนระดับซีรี่ส์ A สำเร็จ รวมมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท หรือ      ราว 2.7 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 2 กลุ่มผู้ลงทุน ยิบอินซอย และ กลุ่มไอ-มอเตอร์ และปีนี้เล็งระดมทุนรอบถัดไปอีกครั้ง

เพื่อขยายธุรกิจอย่างก้าวกระโดด รองรับความต้องการของกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์และไรเดอร์หัวใจสีเขียว ช่วยลดทั้งค่าใช้จ่าย ลดหนี้ และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มระดับคุณภาพชีวิตรองรับความต้องการขับขี่ที่ “ดีต่อเราและต่อโลก”

ภายในปี 2565 ตั้งเป้าให้บริการแก่ผู้ใช้ 2,000 - 3,000 ราย ก่อนขยายกลุ่มเป้าหมายสู่ผู้สนใจทั่วไปที่ชื่นชอบการขับขี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานสะอาดกว่า 20,000 ราย เพื่อทำให้ปี 2568 เป็นปีแห่งหนุนยานยนต์สองล้อพลังงานสะอาดอย่างเต็มกำลัง เป้าหมายขยายสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติให้ครอบคลุมพื้นที่ 50% ในกรุงเทพฯ

ภายในปี 2568 จะเพิ่มจำนวนสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติกว่า 600 สถานี รองรับการขยายจำนวนผู้ใช้กว่า 20,000 ราย ขยายกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมบุคคลทั่วไปที่ชื่นชอบในจักรยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานสะอาดและความคุ้มค่าต่อการขับขี่ ส่งเสริมการสร้างสังคมสีเขียวที่ปลอดภัยไร้มลพิษ และสนับสนุนการยกระดับคุณภาพชีวิตและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน      ผ่านประสบการณ์การขับขี่ที่ “ดีต่อเราและต่อโลก”

นายรวี  ย้ำว่าการประสานกำลังร่วมกันระหว่างวินโนหนี้ ยิบอินซอย และไอ-มอเตอร์ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ     ในการพัฒนาแพลตฟอร์ม Winnonie อย่างรอบด้าน ทั้งผลิตภัณฑ์ บริการ และเทคโนโลยี โดยอาศัย Data เป็นหัวใจของการพัฒนาธุรกิจเพื่อวิเคราะห์ ออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการ และสร้างกลยุทธ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการและ   พร้อมต่อยอดสู่ธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องในอนาคต

สำหรับ “Winnonie-วินโนนี่” คือนวัตกรรมธุรกิจพลังงานสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคมเป็นสตาร์ทอัพที่บางจากฯ ให้การสนับสนุนผ่านสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจมาตั้งแต่แรกเริ่ม จากความคิดสร้างสรรค์ของพนักงานที่เกิดจากการประยุกต์แนวคิดทางธุรกิจเข้ากับหลักการ Design Thinking ภายใต้วัตถุประสงค์เบื้องต้นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ ลดภาระหนี้สิน และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการประกอบอาชีพ พัฒนาเป็นสตาร์ทอัพรายแรกของประเทศไทยที่บุกเบิกบริการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมเครือข่ายสถานีบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่

กระทั่งวันนี้กลายมาเป็นธุรกิจ “แพลตฟอร์มให้บริการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมสถานีบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติ ตลอด 24 ชั่วโมง” ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย 

                ช่วงที่ 2 เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย เที่ยวปลอดภัย ไปด่วน ๆ “นครนายก” มี 3 จุดเช็คอินใหม่มาชวนไปลุยประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ “2 หมู่บ้านเมืองดอกไม้” คลอง 15 องครักษ์ กับ “บ้านไม้ประดับดงบัง” ปราจีนบุรี หรือจะไป “ตลาดน้ำดงละคร” แห่งใหม่ใกล้วัดดงละคร เปิดทุกเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และ “Station45@องครักษ์” วิวสวย อิ่มอร่อยกับของกิน เมนูเครื่องดื่มเก๋ ๆ พลาดถือว่าตกเทรนด์เที่ยวไทย ส่วนใครที่ยังไม่กินผัก ฟังทางนี้ “ต้องหันมากินให้ได้วันละครึ่งกิโล” เพราะองค์การอนามัยโลกและสถาบันวิจัยสุขภาพ บอกสถิติมาแล้วว่าสามารถป้องกัน 4 โรคอันตรายได้ ข่าวส่งท้ายสัปดาห์ ข่าวแรก “ททท.ปลุกเที่ยวงานกัญชา - GastronomyAmazing-มากินกัญ” ตรงอุทยาน 100 ปีใน กทม. ข่าวที่สอง “AWC ขาใหญ่อสังหา” ระดมนำห้างที่มีทั่วกรุง 6 แห่ง ร่วมฉลองช้อป ชิม ตรุษจีน อย่างยิ่งใหญ่ วันนี้-6 ก.พ.65

 

พาเที่ยว -นครนายกเช็คอินใหม่“เมืองดอกไม้-ตลาดดงละคร-Station45@องครักษ์

ตั้งแต่มกราคม นี้เป็นต้นไป เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย เที่ยวอย่างปลอดภัย “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) สำนักงานนครนายก ชวนไปเช็คอินรับศักราชใหม่เที่ยวไทยไม่ตกเทรนด์ปีเสือ 3 จุดเช็คอิน มาแรง

 

เช็คอินจุดแรก “เมืองแห่งดอกไม้ประดับและพันธุ์ไม้นานาชนิด” ขับรถยาว ๆ ต่อเนื่องไปได้ทุกวัน 2 จังหวัด นครนายก และ ปราจีนบุรี มีชื่อเสียงติดอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยว่าเป็นเมืองแห่งต้นไม้ ที่มีทั้งศูนย์รวมไม้ดอก แวะไปชมความสวย ๆ งาม ๆ ได้ ที่ 2 หมู่บ้านดอกไม้

 

หมู่บ้านแรก “เมืองดอกไม้ประดับคลอง 15” อ.องครักษ์ จ. นครนายก “หมู่บ้านที่ 2 เมืองดอกไม้ประดับบ้านดงบัง”  อำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ศูนย์รวมร้านไม้ดอกไม้ประดับ ร้านไม้ผล ร้านไม้ล้อม ร้านอุปกรณ์ต้นไม้ นับพันรายไว้ให้เลือกซื้อเลือกชม

 

เช็คอินจุดที่ 2 “ตลาดน้ำดงละคร” ตลาดชุมชนแห่งใหม่บริเวณวัดดงละคร อ.เมือง จ.นครนายกเที่ยวไป กินไป ช้อปไป สนุกอย่าบอกใคร ทางวัดกับหน่วยงานด้านการเกษตรในพื้นที่ ร่วมสนับสนุนท้องถิ่นเปิดบริการเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยน้อง ๆ เยาวชนคนเก่ง จากวิทยาลัยอาชีวะศึกษาสิรวัฒนะ เป็นทำหน้าที่สาธิตกิจกรรมดี  ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุก

ทุกครั้งเมื่อมาถึงตลาดน้ำดงละคร ต้องห้ามพลาด ชิมอาหารพื้นบ้าน ซื้อผัก ซื้อปลา อาหารแปรรูปชุมชน เยี่ยมชมโคกหนองนา  เจ้าอาวาสวัดดงละครกับชาวบ้านในชุมชน ตั้งใจทำขึ้นเพราะต้องการให้มีแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ และแหล่งจำหน่ายสินค้า อาหารจากทางชุมชน มีจุดให้ความรู้ทางการเกษตร โคกหนองนา  ควบคู่กันไปด้วย

            เช็คอินจุดที่ 3 Station 45 @องครักษ์ ขับรถจากกรุงเทพไม่เกิน 1 ชั่วโมง ได้สูดโอโซนพักผ่อนได้ทุกวันในพื้นที่ 25ไร่ เป็นแลนด์มาร์กใหม่ใกล้กรุงเทพฯ เพิ่งเปิดไปหมาด ๆ เมื่อวันที่ 17  มกราคม 2565 เส้นทางเชื่อมต่อไปเขาใหญ่ได้ แวะจิบกาแฟ บรรยากาศสงบ วิวดอกไม้ ให้อาหารปลา วิ่งเล่นได้ทั้งวัน 

ชิค&ชิลล์ ได้ครบ! จบในที่เดียว   มีทั้งคาเฟ่และทุ่งดอกไม้สวย ๆ อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมอาหารหลากหลายในที่เดียว มีร้านมากมายกว่า 100 ร้านค้า  และหอนิทรรศการศิลปะ เตรียมพร๊อพมาให้พร้อม ดอกไม้จะบานสะพรั่งสวยงามต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงมกราคมนี้แล้ว  

เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย “องครักษ์” นครนายก พร้อมแล้ว มาเช็คอินวิถีปกติใหม่ได้ทั้ง 3 แห่ง สนุกได้โดยไม่ตกเทรนด์เที่ยวเมืองไทย

 

สุขภาพ - ตื่นเถิด!!คนไทยหันมากินพืชผักเพื่อสุขภาพให้ได้วันละครึ่งกิโล

ทุกวันนี้มีข้อมูลบ่งบอกถึงว่า “คนไทย” กินผักน้อยเกินไป มีเพียงแค่ 37.5%  หรือประมาณ 4 ใน 10 เท่านั้นที่กินผักผลไม้เพียงพอตรงตามเกณฑ์แนะนำต่อวัน

หากอ้างอิงจากคำแนะนำของ องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้คนเราควรกินผักให้ได้อย่างน้อยวันละ 400 กรัม หรือประมาณ 4-6 ทัพพี  แต่ถ้าเป็นผักสุกก็จะต้องมากกว่านี้เป็น 2 เท่า จึงจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง หรือ NCDs ได้

อีกทั้งองค์การอนามัยโลกเผยแพร่จำนวน “ผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง” จากทั่วโลกมีกว่า 5.2 ล้านคน เป็นผลจากการกินผักและผลไม้ไม่เพียงพอนั่นเอง

ประโยชน์ของ “การกินผัก” ยังส่งต่อโรคเรื้อรังอื่นๆ อีกหลายโรคด้วยกัน ตามที่ Imperial College London ทำการศึกษาผลการวิจัย ที่เกี่ยวกับการกินผักและผลไม้กว่า 95 ฉบับ ก่อนจะสรุปออกมาได้ว่า การกินผักอย่างเพียงพอนั้นจะช่วยลดการเกิดได้ใน 4 โรคอันตราย ได้แก่

1.ลดโอกาสในการเกิดโรคหัวใจได้ถึง 24%  

2.ลดโอกาสโรคหลอดเลือดสมอง 33%

3.ลดการเกิดมะเร็ง 13%

4.ลดการตายก่อนวัยอันควรได้ถึง 31%

วันนี้ลองสำรวจตัวเองกันดูว่า “กินผัก” เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายหรือยัง ถ้าหากอยากมีอายุยืนยาวมากขึ้นก็ให้รีบปรับพฤติกรรมหันมาเพิ่มการกินผักให้มากขึ้น เพื่อประโยชน์ของสุขภาพตัวเราเอง

 

ข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –ททท.ชูงาน”Gastronomy Amazing-มากินกัญ”ทัวร์กัญชาในกทม.ถึง23ม.ค.

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. เดินหน้าจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวและช่วยเศรษฐกิจฐานรากในโครงการ Gastronomy Amazing ยิ่งกว่าเดิม ด้วยกิจกรรม “มากินกัญ” เทศกาลอาหารสุขภาพเพื่อการท่องเที่ยวสายเขียว!! เทรนด์กัญชา-กัญชง ภายใต้มาตรการทางสาธารณสุขในรูปแบบ Covid Free-Setting อย่างเคร่งครัดตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 21-23 มกราคม 2565 เวลา 15.00-21.00 น. ณ อุทยาน 100 ปี ถนนบรรทัดทอง กรุงเทพฯ

เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในประเทศและก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนในทุกระดับ โครงการ Gastronomy Amazing ยิ่งกว่าเดิม เป็นเรื่องของการใช้อาหารเป็นเครื่องมือสำคัญในการนำเสนออัตลักษณ์ของชุมชนให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสรสชาติอาหารและเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาค

พร้อมทั้งนำเสนอ Gastronomic Trend กระแสธุรกิจมาแรงที่สุดช่วงนี้คือ เทรนด์กัญชา-กัญชง พืชสมุนไพรที่ได้รับอนุญาตตามข้อบัญญัติของกฎหมาย สามารถนำเสนอในรูปแบบเมนูของคนรักสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ Health & Wellness และการท่องเที่ยวเส้นทางผลิตภัณฑ์กัญชา-กัญชง รวมถึงพืชผักสมุนไพรท้องถิ่นที่มีความเชื่อมโยงกับชุมชน สะท้อนวิถีชีวิตและภูมิปัญญาไทย สอดคล้องกับแนวคิด Bio-Circular-Green Economy Model หรือ BCG Economy Model ซึ่งจะเป็นการผลักดันและยกระดับสินค้าการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้มีคุณภาพเทียบเท่าระดับมาตรฐานนานาชาติ

งาน “มากินกัญ” ระหว่าง 21-23  มกราคม 2565 จัดต่อเนื่องทุกวัน15.00-21.00 น. ณ อุทยาน 100 ปี ถนนบรรทัดทอง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ จำนวน 6 โซน ได้แก่ 

 

1.โซน From Local to Royal พบกับร้านอาหารชื่อดังที่จะมารังสรรค์เมนูอาหารไทยที่ได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ได้แก่ วังหิ่งห้อย CHIM by SIAM WISDOM ครัวการบินไทยChocolate Ville บ้านยี่สาร ร้านเสน่ห์จันทน์ ฯลฯ ในบรรยากาศสไตล์ Modern Thainess  

 

2. โซน Ganja Omagase การสาธิตและให้ความรู้ในแต่ละเมนูอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชาและวัตถุดิบที่ดีจาก 2 เชฟชื่อดัง เชฟหนุ่ม-ธนินทร จันทรวรรณ เชฟกระทะเหล็กแห่งร้าน CHIM by SIAM WISDOM และเชฟแบล็ค-ภานุภน บุลสุวรรณ แห่งร้าน Blackitch Artisan Kitchen เชฟเทเบิ้ลจากจ.เชียงใหม่

 

3. โซน Cannabis Café นำเสนอเมนูอาหารจานเด็ดจากร้านอาหาร เครื่องดื่ม ขนมหวาน ที่มีส่วนผสมของกัญชา รวมถึงคาเฟ่กัญชาสุดชิค อาทิ ร้านกาแฟกัญญาคาเฟ่ ทอดมันกัญ ปังกัญ สวัสดีกัญชายายชา ลูกชิ้นบุรีรัมย์ กัญชาท่าบุญมี และอื่น ๆ

 

4. โซน Ganchong-Ganja Market เพลิดเพลินกับตลาดนัดผลิตภัณฑ์จากกัญชา-กัญชง เสื้อผ้า อาหารแปรูป ยา เวชสำอาง งานหัตถกรรม งานศิลปะ และอื่นๆ ภายใต้หลัก BCG Model จากร้าน K’aHemp ก๊ะใยกัญชง Mirrakech กัญชาสด-แห้ง มูลนิธิข้าวขวัญ วิสาหกิจชุมชนเฮิร์บชุมพรวิสาหกิจชุมชนไพรภูพาน

 

5. โซน Health & Wellness พบกับเมนูอาหารสุขภาพจากกัญชาและสปากัญชาไทย จากร้านต่างๆ ได้แก่ อภัยภูเบศร์ เดย์ สปา, Green Wellness Clinic, แทนคุณ Organic Farm, Herbalista Wellness Café, เข้ากัญ Organic Product 

6. โซน Travel Agent เลือกซื้อแพ็กเกจทัวร์ท่องเที่ยวเส้นทางผลิตภัณฑ์กัญชา-กัญชงและแพ็กเกจทัวร์ต่างๆ จากบริษัทนำเที่ยวและผู้ประกอบการในรูปแบบออนไลน์

ทั้งนี้ มีบริการพิเศษ ‘มากินกัญที่นี่ไม่ได้ ก็สั่งมากินกัญที่บ้านได้’ กับ 50 เมนูเด็ดจาก 40 ร้านอาหารดังภายในงานนี้ ผ่าน LINEMAN, foodpanda และ Robinhood ตลอด 3 วันนี้เท่านั้น

ชมการแสดงดนตรีเปิดหมวกและกิจกรรมบนเวที ได้แก่ การเสวนาเรื่อง “พื้นฐานความเข้าใจเรื่องกัญชา” โดย ดร.ภก.อนันต์ชัย อัศวเมฆิน (21 ม.ค.) และ “เรื่องกิน เรื่องเที่ยว เรื่องเดียวกัญ” โดยดร.ภก.ณัฐพศุตม์ ภัทธิราสินสิริ และเชฟแบล็ค (22, 23 ม.ค.) พร้อมการแสดงดนตรีจากศิลปินต่างๆ อาทิ Getsunova, น้อย วงพรู Three Man Down, The Mousses, Whal & Dolph, แป้งโกะ ตี๋ เดอะวอยซ์

ข่าวที่สอง -“AWC”ระดมศูนย์การค้าใจกลางกรุง6แห่งฉลองตรุษจีนยิ่งใหญ่ถึง6ก.พ.65

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร ฉลองเทศกาลตรุษจีน 2565 กับกิจกรรมพิเศษ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Chinese New Year 2022 Lucky เฮง เฮง เฮง” ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม – 6 กุมภาพันธ์ 2565 รวมระยะเวลา 18 วัน ตาม 6 ศูนย์การค้าใหญ่ในเครือ AWC ใจกลางกรุงเทพมหานคร ได้แก่

1.เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ 2.เกทเวย์ เอกมัย  3.เกทเวย์ แอท บางซื่อ4.พันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน 5.ลาซาล อเวนิว และ 6.ตะวันนา บางกะปิ 

นายภีม ลิ่วลม หัวหน้าคณะกลุ่มรีเทลล์ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2565 ศูนย์การค้าในเครือ AWC ทั่วกรุงเทพฯ ทั้ง 6 แห่ง มีแผนจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องต้อนรับปีเสือทอง ล่าสุดเตรียมจัดยิ่งใหญ่ “เทศกาลตรุษจีน” กับกิจกรรม “Chinese New Year 2022 Lucky เฮง เฮง เฮง”  ส่งมอบความสุขให้พันธมิตร และลูกค้าทุกคน  โดยได้เนรมิตจุดถ่ายรูปเช็กอินทั้ง 6 ศูนย์การค้าฯ  ตลอดจนโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษต่าง ๆ ประกอบด้วย

Lucky ที่ 1 ส่วนลด และสิทธิพิเศษจากร้านค้าภายในศูนย์การค้าแต่ละแห่ง

Lucky ที่ 2 รับฟรีแผ่นทองมงคลปีเสือ และของมงคลเสริมดวง ที่ได้ผ่านพิธีเสริมโชคลาภจากวัดเล่งเน่ยยี่ 2 เมื่อช้อปปิ้งครบตามเงื่อนไขของศูนย์การค้าแต่ละแห่ง

Lucky ที่ 3 รับฟรีกระเป๋าถือปีขาลนำโชค มูลค่า 650 บาท เมื่อช้อปตามเงื่อนไขของศูนย์การค้าแต่ละแห่ง พร้อมมอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิต KTC เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ที่โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์, ศูนย์การค้าเกทเวย์ เอกมัย, ศูนย์การค้าเกทเวย์ แอท บางซื่อ, ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน และศูนย์การค้าลาซาล อเวนิว รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 12 % (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด)

Lucky ที่ 4 ชมการเชิดสิงโต 9 สี 9 มงคล และมังกรทอง ยาว 30 เมตรสุดอลังการ เอาฤกษ์เอาชัยและเพื่อความเป็นสิริมงคล ให้มีโชคลาภ และความเจริญรุ่งเรืองแก่พันธมิตรคู่ค้า และลูกค้าทุกคน สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่จุดประชาสัมพันธ์ของศูนย์การค้า

Lucky ที่ 5 จุดเช็กอินถ่ายภาพโคมไฟทั่วศูนย์การค้า พิเศษสำหรับโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ และศูนย์การค้าลาซาล อเวนิว พบกับ Lucky Tree ต้นไม้นำโชค ร่วมเขียนคำขอพร โดยมีความเชื่อที่ว่า ถ้าหากกระดาษที่เราเขียนคำขอพรลงไปได้แขวนอยู่บนกิ่งของต้นไม้ ยิ่งสูงเท่าไหร่ คำอธิษฐานนั้นจะเป็นความจริง (ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่จุดประชาสัมพันธ์ของศูนย์การค้าฯ)

 

“ศูนย์การค้าทุกแห่งของ AWC ให้บริการด้วยมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยสูงสุด และพร้อมสร้างความมั่นใจในการมาช้อปปิ้งให้กับลูกค้าทุก ภายใต้แคมเปญ ‘AS WE CARE เพราะเราห่วงใย’ เพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 โดยเน้นวินัย ลดการแออัด และรักษาระยะห่างแบบ New Normal อย่างเต็มที่” นายภีม กล่าวปิดท้าย

 

ดูโปรโมชั่นและกิจกรรมต่าง ๆ ของ 6 ศูนย์การค้าเครือ AWC ทาง Facebook ประกอบด้วย

1.เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ www.facebook.com/Asiatique.Thailand, เกทเวย์

            2.เอกมัย www.facebook.com/gatewayekamai

            3.เกทเวย์ แอท บางซื่อ www.facebook.com/GatewayatBangsue

            4.พันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน www.facebook.com/pantipplaza.ngamwongwan 

            5.ลาซาล อเวนิว www.facebook.com/LasallesAvenue 

           6.ตะวันนา บางกะปิ www.facebook.com/TawannaBangkapi.twn

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.