TCEB”โชว์อาวุธเด็ดTHAIMICEOSS”ดาวรุ่งนำไมซ์ไทยตลาดอินเตอร์ แก้ลำกม.215ฉบับ-ดูดเอ็กซิบิชั่น-คอนเว็นชั่นต่างชาติแข่งสิงคโปร์/ฮ่องกง

“TCEB”โชว์อาวุธเด็ดTHAIMICEOSS”ดาวรุ่งนำไมซ์ไทยตลาดอินเตอร์

แก้ลำกม.215ฉบับ-ดูดเอ็กซิบิชั่น-คอนเว็นชั่นต่างชาติแข่งสิงคโปร์/ฮ่องกง

ช้อปคิงเพาเวอร์ไอเท็มสีโปรมงคล12ราศรีรับอั่งเปาสุดเฮงตลอดตรุษจีน

“คิงเพาเวอร์”พาเหรดเทรนด์ลิมิตเต็ดเอดดิชั่น4แบรนด์โลกให้ช้อปตรุษจีน

ททท.”มุมไบ-นิวเดลี”งัดThailand Specialistปลุกขายทัวร์ไทยในอินเดีย

“บางจาก”ให้สมาชิกมีเฮรีบแวะเติมน้ำมันเก็บแต้มแลกทองถึง31มี.ค.65

ตะลอนกินของอร่อยทั่วกทม.อยุธยากับร้านมิชลินบิบกูร์มองด์จานเด็ด

“6 สิ่ง”ส่งผลเสียต่อสุขภาพหากใช้โซเชียลหรือเทคโนโลยีอย่างไม่ระวัง

เอกชนหนุนเปิดSUPPER VISA10ปีให้นักลงทุน/แรงงานต่างชาติเข้าไทย

รร.อลอฟท์ชูโปรห้องยิ่งพักนานยิ่งคุ้ม5คืนจ่ายแค่คืนละ1,299 บาท++

“แอคคอร์”ลุยปี65เปิดโรงแรมใหม่ในไทย2แห่ง+300แห่งทั่วโลก/อาเซียน

 

 วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB #รับโชครับอั่งตรุษจีน #ตลุยกินร้านมิชลินบิบกูร์มองด์กับททท

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้

 

ช่วงที่ 1 พบนวัตกรรมไมซ์ปีเสือกับ “ศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” งัดโปรเจ็กต์พัฒนาแพลตฟอร์ม Thailandmiceoss เฟส 1 ปลดล็อกอุปสรรคกฎหมาย 215 ฉบับ นำเข้าฉลุย “สินค้า-คน-สิ่งของ” ดึงไมซ์นานาชาติกลุ่ม “E :เอ็กซิบิชั่น+C : คอนเวนชั่น” เฮจัดในไทย แข่งกับสิงคโปร์ ฮ่องกง ได้สบาย นำร่องใช้ในงาน RoboClubกับ APEC2022 คาดปี65 ตลาดกลับมาโต 30 % ปูทางใช้งบปี’66 ลุยต่อเฟส 2 ปั้น “คอลเซนเตอร์+ChatBot” ดันไทยผงาดศูนย์กลางเอ็กซิบิชั่นไมซ์เอเชียตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

 

นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ปี 2565 ได้จัดทำโครงการพระเอกแห่งปีคือ Thailandmiceoss.com  ลงทุนพัฒนาตามยุทธศาสตร์ไมซ์ทำแพลตฟอร์มอำนวยความสะดวกไมซ์บริการครบวงจรหรือ One Stop Service ให้ไมซ์ทั้งทางด้านการนำเข้า “สินค้า-คน-สิ่งของ” นำมาใช้แสดงสินค้า และอีเวนต์ ในเมืองไทย รวมถึงการสัตว์ด้วย เช่น แข่งขันม้า สุนัข ที่นำเข้าการจัดแสดง ดึงงานระดับนานาชาติทั้งประชุม แสดงสินค้า อีเวนต์ขนาดใหญ่ จะต้องเชิญนักธุรกิจต่างชาติ สินค้า/สิ่งของ เข้ามาแต่ที่ผ่านมาประสบปัญหาอย่างมาก

 

เปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง สิงคโปร์ ฮ่องกง เพียงแค่นำหลักฐานมาแสดงก็นำเข้าสิ่งต่าง ๆ เพื่อมาจัดงานไมซ์ได้แล้ว แต่ประเทศไทยจะต้องเกี่ยวข้องกับกฎหมายถึง 215 ฉบับ เช่น จุดอ่อนที่เกิดขึ้นการดึงงาน Opitcal หรืองานแว่นตา งานด้านการเกษตร การแพทย์ บางครั้งไม่เฉพาะต้องผ่านกรมศุลกากร องค์การอาหารและยา (อย.) เท่านั้น แต่ยังมีกระทรวงอื่น ๆ มาเกี่ยวข้องที่มีกฎหมายอนุญาต ตัวอย่าง ถ้าแว่นตาเกี่ยวข้องกับเลเซอร์ต้องไปขออนุญาตสำนักงานปรมาณู หรืออาหารก็ต้องไปขอ อย.หรือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องขอผ่านหลายหน่วยงาน

 

เมื่อปี 2559 ทีเส็บได้รวมรวมหน่วยงานเกี่ยวข้องให้ใบอนุญาตนำเข้า คน-สินค้า-สิ่งของ 14-15 หน่วยงาน เช่น กรมศุลกากรเกี่ยวข้องกับใบอนุญาตนำเข้าสิ่งของ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ดูแลแสตมป์หนังสือเดินทางและวีซ่า เป็นต้น แต่ตอนนี้สถานการณ์หลังโควิด-19 การจัดงานไมซ์ทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งการค้นหาใบอนุญาตแต่ละครั้งจาก google 20-30 หน่วยงานนั้นคงไม่สะดวกอีกต่อไป

 

ทีเส็บจึงได้จัดทำแพลตฟอร์ม thailandmiceoss.com รวมทุกอย่างไว้ในเว็บเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก ใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง สร้างความโปร่งใส เท่าเทียมกัน ตั้งแต่ระดับ SMEsไปจนถึงผู้ประกอบการขนาดใหญ่ เพราะบางรายอาจทำเองหรือบางรายอาจมีตัวแทน frieghtforwarder

 

ทีเส็บได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งหมด และตัวแทนผู้ประกอบการไมซ์ ผลักดันจนเกิดเป็นโครงการดังกล่าวขึ้น สำหรับการใช้บริการแพลตฟอร์ม thailandmiceoss แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

 

ส่วนที่ 1 เกี่ยวกับคนโดยเฉพาะ ขณะนี้ปรับมาตรการเข้าเมืองอยู่บ่อยครั้ง แพลตฟอร์มนี้จะเชื่อมโยงไปยังเรื่องข้อมูล Test & Go การเข้าประเทศไทยแบบไม่ต้องกักตัว หรือต่อเข้ากับการตรวจคนเข้าเมือง เรื่องการตรวจสอบหนังสือเดินทางและวีซ่า กับกรมศุลกากร อุปกรณ์นำเข้าต่าง ๆ ผู้ใช้สามารถเข้ามาดาวโหลดเอกสารใบอนุญาตที่จะต้องกรอกรายได้ละเอียดในเว็บไซต์ใหม่นี้แห่งเดียวได้

 

ส่วนที่ 2 เกี่ยวกับสิ่งของ ที่จะนำมาเสนอในงานอีเวนต์ แสดงสินค้า จากตัวแทนจัดงาน หรือตัวแทนต่างประเทศ ผ่านช่องทางสายการบิน หรือทางเรือ เจ้าของงานต้องไปออกสินค้าเพื่อนำมาใช้ แล้วดูว่าเกี่ยวข้องกับธุรกิจอะไรบ้าง คลิกเพื่อเสิร์ซค้นหาอุตสาหกรรมนั้น ๆ ได้

 

ส่วนที่ 3 โลจิสติกส์ ข้อมูลการเดินทาง และการเสียภาษีอากรให้กรมสรรพสามิต

ในแพลตฟอร์มเว็บไซต์นี้จะมีให้เลือก 2 ภาษา “ผู้ใช้บริการ” ก็สามารถเข้ามาค้นหาข้อมูล สถานที่จัดงาน ที่พัก การเดินทาง ต่าง ๆ ในไทยได้ ส่วน “ผู้ให้บริการ” ภาครัฐ กับเอกชน จะใส่รายละเอียดระบุมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็น ออร์กาไนเซอร์ เฟดฟอร์เวอร์ดเดอร์ โรงแรม ห้องประชุม สถานที่จัดงาน

 

สำหรับสถานการณ์การจัดงานไมซ์ปี 2565 ในส่วนของภาครัฐน่าจะเริ่มจัดงานได้ตั้งแต่ไตรมาส 3-4 นับตามปีงบประมาณ 2565 (ตุลาคม 2564) ระหว่างเดือนเมษายน-กันยายน 2565 แนวโน้มจะช่วยทำให้อุตสาหกรรมการจัดงานไมซ์ของไทยขยับการเติบโตเพิ่มได้ 25-30 % แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์สายการบินนานาชาติเข้ามาได้พร้อมการเปิดประเทศให้ต่างชาติเข้ามาได้ โดยไม่มีล็อกดาวน์ด้วย

 

          ตอนนี้มีข่าวความเคลื่อนไหวทางสาธารณรัฐประชาชนจีน เริ่มส่งสัญญาณ ที่จะเปิดให้คนจีนเดินทางออกต่างประเทศได้ช่วงปีนี้เช่นกัน

 

นางศุภวรรณ ยืนยันว่า “thailandmiceoss” จะเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทยกับประเทศคู่แข่งในตลาดไมซ์ได้อย่างมาก พันธกิจของทีเส็บมีหน้าที่ “สร้างตลาดไมซ์” ดึงงาน “ระดับโลก” มาจัดในเมืองไทย อย่าลืมว่าการจัดงานอีเวนต์ แสดงสินค้า จะดึงดูดคนจากทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามา สร้างเงิน สร้างรายได้

 

ประการสำคัญคือเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทีเส็บจะต้องยกระดับให้ “ไทยเป็นศูนย์กลางจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ” แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถแก้กฎหมาย แต่ได้ใช้การแพลตฟอร์มปูพรมสร้างช่องทางอำนวยความสะดวก (facilitate) ผ่านดิจิทัลบิสิเนส

 

วิธีการใช้แค่ผู้จัดงานคลิกเข้ามาเลือกตามความสนใจและความต้องการแต่ละหมวด เช่น เรื่องคน ก็คลิกที่ People Process หรือสิ่งของคลิกเข้ามาที่ Logistic Process ทั้งเรื่องภาษี และอื่น ๆ สามารถจ่อเข้าไปถึงเว็บไซต์ของผู้ให้บริการนั้น  ๆ เช่น กรมศุลกากร กระทรวงแรงงาน จะเกี่ยวกับการนำวิทยากร หรือผู้เชี่ยวชาญเข้ามาพร้อมจัดงานช่วงสั้น  ๆ

ขั้นตอนขณะนี้ของ thaimiceoss เป็นเฟสที่ 1 ซึ่งเป็นศูนย์อำนวยความสะดวกไมซ์ครบวงจร ที่ทีเส็บได้ทำแพลตฟอร์มเชื่อมต่อดิจิทัลเข้าถึงประตูของแต่ละหน่วยงานให้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ “ผู้ประกอบการไมซ์” จะต้อง 1.เข้าไป “ลงทะเบียน” ก่อนครั้งแรกกับเว็บไซต์ขององค์กรที่เกี่ยวข้องนั้น ๆ ง่ายและสะดวกกว่าเดิมที่ต้องค้นหรือเสิร์ซจาก google โดยเฉพาะงานนานาชาติที่จัดในไทย หรือเคยจัดอยู่แล้วไม่ได้ย้ายไปจัดที่ไหน ก็เข้ามาใช้งานได้เลย

 

“ผู้ใช้ที่จะได้ประโยชน์สูงสุด” จาก thailandmiceoss เป็น 2 กลุ่มหลัก E กับ C คือ E-Exhibition-จัดแสดงสินค้า กับ C-Convention-จัดประชุมนานาชาติขนาดใหญ่ หรือเมกะอีเวนต์ ที่ไม่ได้จัดมาแล้ว 2 ปี ตอนนี้มีคนสอบถามมาเป็นจำนวนมาก มีสัญญาณที่ดี ส่วน I-Incentive-ได้รับรางวัลเพื่อการเดินทาง กับ M-Corporate Meeting-กลุ่มประชุมองค์กร จะได้ในเรื่องของ คน กับการขอวีซ่า

 

ในปี 2565 มีงานที่พร้อมใช้เครื่องมือ thailandmiceoss คือ

1.งานแสดงสินค้านานาชาติที่เลื่อนจัดแต่พร้อมกลับมาจัดในไทยอีกครั้งงานช่วงพฤษภาคม-พฤศจิกายน 2565 ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จำเป็นจะต้องจัดแสดงสินค้าเป็นโชว์เคสเทคโนโลยี อุปกรณ์นวัตกรรม ผู้แสดงสินค้าต่างชาติก็จะใช้แพลตฟอร์มนี้ได้ทันที

 

2.งาน Robo Club นานาชาติ จัดในไทยช่วงกรกฎาคม นี้ ที่ศูนย์ไบเทค โดยทีเส็บ มหาวิทยาลัยมหิดล กระทรวงอุดมศึกษาและวิทยาศาสตร์ (อว.) ไปประมูลงานนี้มาได้ เป็นงานนำหุ่นยนต์ ทางผู้จัดการเชื่อว่า Robo Club จะสามารถนำหุ่นยนต์มาเตะฟุตบอลกับคนเล่นจริง ๆ ได้ จึงเปิดโอกาสให้สถาบันการศึกษาทั่วโลก กับผู้ประกอบการอาชีพหุ่นยนต์ มาประกวดแข่งขันกัน

 

ทีเส็บอำนวยความสะดวกเพราะการนำเข้าหุ่นยนต์นั้นมีระเบียบปฏิบัติของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กรมศุลกากร ไทยเคยจัดในลักษณะ Edition Asia Pacific มาแล้ว แต่ปี 2565 ประมูลงานระดับโลกเข้ามาได้ แต่สถานการณ์อาจจะยังไม่เอื้อให้นำคนเข้ามาจำนวนมาก ๆ ได้ เพียงแต่สามารถใช้ thailandmiceoss ค้นหาข้อมูลการเตรียมตัว การขอวีซ่า และการขอใบอนุญาตนำเข้าหุ่นยนต์จากแต่ละกระทรวง สถานที่พัก สถานที่จัดงานกระจายไปตามจุดต่าง ๆ

 

            สำหรับการจัดประชุมนานาชาติขนาดใหญ่ ปลายปี 2565 ถึงปี 2566 ไทยโชคดีได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุม APEC 2022 สมาคมต่าง ๆ พยายามดึงงานเกี่ยวข้องมาจัดใกล้งานAPECในปี 2566 ด้วย นอกจากนี้ยังมีงานเกี่ยวกับ เกษตรอาหาร กลุ่มงาน OEM กลุ่มงาน Food&Hotels Thailand กลุ่มงาน Future Energy ล้วนเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะดึงมาจัดในไทย ไม่ได้เปลี่ยนไปจัดประเทศอื่น

 

            รวมทั้งทีเส็บจะผลักดันการโชว์ศักยภาพของ “ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก : EEC-Eastern Economic-Corporation ที่พร้อมจัดงาน แอร์โชว์ อนาคตจะมีซีรีย์การนำเสนออุปกรณ์ ชิ้นส่วน อุตสาหกรรมการบิน อู่ตะเภา/พัทยา

 

            นางศุภวรรณ กล่าวว่า ทีเส็บวางแผนจะขยายผล thailandmiceoss เฟส 2 ในปีงบประมาณ 2566 ตั้งใจทำเป็น 1.คอล เซนเตอร์ 2.Chat Bot ใช้เสียงตอบคำถามกับผู้ใช้งานเว็บไซต์นี้ได้  หรือกดสอบถามจะมี AI ตอบ จากการเก็บข้อมูลในเฟส 1 ไว้ทั้งหมด พร้อมกับการทำ case study กรณีศึกษาการจัดงาน THAIFEX ที่จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จะนำมาเป็นต้นแบบตัวอย่าง หรืองาน MEDICAL งาน METALEX ไปทำเรื่องของการสนับสนุนอำนวยความสะดวกไว้เรียบร้อยแล้ว

 

            ปี 2566 ก็จะมีมาตรการใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรมไมซ์ที่จะอัพเดทไว้ใน Thailandmiceoss  เพื่ออำนวยความสะดวกครบวงจรตามเป้าหมายการพัฒนนวัตกรรมดังกล่าว

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 ช้อปคิงเพาเวอร์จัดเต็มโปรมงคล12ราศรีรับอั่งเปาสุดเฮงรับตรุษจีน

 

คิง เพาเวอร์ ชวนช้อปไอเทมสีมงคล 12 ราศีกับโปรโมชั่นตรุษจีนสุดเฮง ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา และภูเก็ต 21 ม.ค. 65 - 6 ก.พ. 65  และที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี 29 – 30 ม.ค. 65 เเละ 5 – 6 ก.พ. 65

 

ลงทะเบียนเลย! รับอั่งเปาฟรีส่วนลด 800 บาท X 3 ใบ มูลค่ารวม 2,400 บาท วิธีใช้อั่งเปา 1 ใบ นำไปช้อป 3,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ กับสินค้าที่ร่วมรายการ จำกัด 1 สิทธิ์ / คน / วัน โดยนับสิทธิ์รวมทุกสาขาและทุกช่องทางการช้อป

 

พิเศษ!

 

1.สามารถรวมอั่งเปาส่วนลด 3 ใบ มูลค่า 2,400 บาทใช้ช้อป 8,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ

 

2.ช้อปให้ครบลุ้นรับ! ทริปมงคลเสริมโชคลาภกับ อาจารย์ช้าง ทศพร ศรีตุลา” เมื่อช้อปครบทุก 8,000 บาท (สุทธิ) / 1 รางวัล สำหรับ 1 ท่าน จำนวน 10 รางวัล* (1 รางวัล สำหรับ 1 ท่าน)

 

3.ซื้อเลย CASH CARD รับฟรี! GIFT CARD แต่ไม่สามารถใช้ร่วมกับอั่งเปาส่วนลดได้

 

3.1 ซื้อ CASH CARD 10,000 บาท รับฟรี! GIFT CARD 3,000 บาท*

3.2 ซื้อ CASH CARD 25,000 บาท รับฟรี! GIFT CARD 10,000 บาท*

 

4.สมัครสมาชิกได้เลย หากยังไม่ได้สมัคร ยิ่งสมัคร ยิ่งเฮง! 1.สมัครสมาชิก ONYX รับโชคทองคำ 1 สลึง 2. สมัคร ONYX เติมเงิน 60,000 บาท และ ช้อปครบ 60,000 บาท ภายในวันที่สมัค 3.SCARLET รับอั่งเปาส่วนลดเพิ่ม 2 ใบ ส่วนลด 800 บาท X 2 ใบ อั่งเปา 1 ใบ

 

สามารถใช้ร่วมกับอั่งเปาส่วนลด 3 ใบ ที่ได้รับจากการลงทะเบียนรวมมูลค่าส่วนลด 4,000 บาท

เพื่อใช้ช้อป 14,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ

 

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์พาเหรดลิมิตเต็ดเอดดิชั่น”4แบรนด์โลก”ฉลองตรุษจีน

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ อัพเดตแฟชั่นแบรนด์อินเตอร์กับคอลเลคชั่นพิเศษต้อนรับตรุษจีน 2022 Limited Edition Collections That Celebrate Lunar New Year 2022 ห้ามพลาด! ช้อปมั่งคั่ง โชคมั่งมี สุขสันต์ปีขาล วันนี้ - 6 ก.พ. 65 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต ดูโปรโมชั่นได้ที่ https://bit.ly/3qRVUMK ห้ามพลาด 4 แบรนด์ดัง ต่อไปนี้

 

แบรนด์ที่ 1 Bottega Veneta แบรนด์เครื่องหนังสัญชาติอิตาลีที่เลือกที่จะใช้โทนสีเขียวและส้มแทนที่จะเป็นสีแดง แหวกแนวคิดเดิม ๆ เพื่อสื่อถึง “ส้ม” ผลไม้มงคล “ให้ส้ม = อวยพร” และยังเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคในภาษาจีนกลางอีกด้วย

 

แบรนด์ที่ 2 Saint Laurent คอลเลคชั่นพิเศษ นำลายพิมพ์เสือดูเป็นไอเทมคลาสสิก เซ็กซี่ และใส่ได้บ่อยตามสไตล์ Saint Laurent ทั้งเสื้อเชิ้ตลายเสือโคร่งทั้งตัว เสื้อตัวบนของผู้หญิงลายเสือดาว ส่วนเครื่องหนังและแอกเซสซอรีมีทั้งกระเป๋าสองรุ่นคลาสสิกอย่าง Manhattan และ Niki ที่มาในโทนสีธรรมชาติอย่างครีมและน้ำตาล

 

แบรนด์ที่ 3 GUCCI คอลเลคชั่นนี้มีชื่อตรงตัวง่าย ๆ สั้น ๆ ว่า Gucci Tiger ประกอบไปด้วยสินค้าทั้งของผู้หญิงและผู้ชาย ทาง Alessandro Michele ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของแบรนด์ได้กลับไปยังคลังลายพิมพ์เก่า ๆ แล้วดึงเอาลายเสือจากยุค 1960 ผลงานของ Vittorio Accornero ศิลปินนักวาดภาพประกอบเจ้าของลาย Flora มาไว้ในสินค้าในคอลเลคชั่นนี้อีกด้วย

 

แบรนด์ที่ 4 PRADA เริ่มต้นคอลเลคชั่นพิเศษสำหรับตรุษจีน 2022 ภายใต้แคมเปญ “Action in the Year of the Tiger” เพื่อปลุกจิตสำนึกให้กับเสือโคร่งที่ใกล้สูญพันธุ์ โดยได้ 2 นักแสดงและนักร้องคนรุ่นใหม่ชาวจีน Li Yi Feng นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากงาน 33th Hundred Flowers Awards และนักแสดงสาว Chun Xia ที่ได้รับรางวัล Hong Kong Film Awards มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ในครั้งนี้

 

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ณ จุดขาย หรือที่ King Power Contact Centre 1631

 

ข่าวที่ 3 “ททท.”มุมไบ-นิวเดลี”งัดThailand Specialistปลุกขายทัวร์ไทยในอินเดีย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในอินเดีย 2 เมืองหลักคือมุมไบกับนิวเดลีได้เปิดตัว 'Thailand Specialist Programme' หลักสูตรอบรมออนไลน์ให้กับกลุ่มที่ปรึกษาการเดินทางและผู้ประกอบการชาวอินเดียเพื่ออัพเดทแหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่และสถานที่ใหม่ ๆ เพื่อคัดเลือกแล้วนำไปเสนอขายในตลาดอินเดียอย่างเหมาะสมต่อไป

 

นางสาวชลดา สิทธิวรรณ ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานมุมไบ อินเดีย กล่าวว่า ได้ทำหลักสูตร เปิดตัว 'Thailand Specialist Programme' อบรมออนไลน์ เพิ่มแรงบันดาลใจ ความรู้ และความมั่นใจแก่ที่ปรึกษาเพื่อสร้างแผนการเดินทางที่ยากจะลืมพร้อมกับการเพิ่มยอดขายเข้ามายังประเทศไทย เมื่อโปรแกรมอบรมเสร็จสิ้นลงจะได้ทั้งการเพิ่มพูนความรู้และความเชี่ยวชาญของประเทศรวมถึงการค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เคยมีใครรู้จักมาก่อน แต่ยังจะได้รับข่าวสารล่าสุดและ ข้อมูลจาก ททท.อย่างต่อเนื่องด้วย

 

ตามที่ ททท.ได้ออกแบบโปรแกรมนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยผู้ประกอบการตื่นตัวทำส่งเสริมและขายแพ็คเกจท่องเที่ยวของไทยเข้าใจจุดหมายปลายทางได้ดีขึ้น ครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ ทั้งการท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ อาหาร วัฒนธรรมและกิจกรรมต่างๆ ครอบคลุมทั่วประเทศไทยทั้ง 8 โมดูล คือ

 

1.สิ่งที่ทำให้ประเทศไทยน่าทึ่ง 2.ภาคกลาง  3.ภาคเหนือและภาคอีสาน  4ภาคตะวันออก 5.ภาคใต้ : ทะเลอันดามัน 6.ภาคใต้ : อ่าวไทย 7. Discover Thailand: ชุมชน & ประสบการณ์ในท้องถิ่น 8. การจับคู่ความต้องการของลูกค้ากับผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม

 

สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมอบรมเสร็จสิ้นครบทั้ง 8 โมดูล ททท.ก็จะได้รับใบรับรองให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินทาง

 

ขณะที่ นายวชิรชัย ศิริสัมพันธ์ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานนิวเดลี กล่าวว่า การนำโปรแกรม 'Thailand Specialist Programme' เข้ามาใช้อบรมจะเป็นชุดเครื่องมือให้ตัวแทนท่องเที่ยวทั้งแถวหน้า สินค้า และทีมการตลาด ในการพัฒนาสถานการณ์ใหม่ในเมืองไทยให้แก่ตัวเอง ทั้งผลิตภัณฑ์ บริการยอดนิยมที่กำลังทยอยเข้าสู่ตลาดการท่องเที่ยว

 

ทั้งนี้ ททท.ในอินเดีย ทั้ง 2 สำนักงาน เปิดช่องทางให้ที่ปรึกษาการเดินทาง ผู้ประกอบการ และคู่ค้าสมัครเข้าร่วม 'Thailand Specialist Programme'ได้ผ่านช่องทางหลักwww.tourismthailand.in/thailand-specialist-programme/

 

ข่าวที่ 4 “บางจาก”ให้สมาชิกมีเฮเมื่อเติมน้ำมันเก็บแต้มแลกทองถึง31มี.ค.65

 

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้สิทธิพิเศษกับลูกค้าบัตรบางจาก สะสมแต้มแลกทอง ใช้แต้มน้อย แลกได้เร็ว แลกได้คุ้มกว่า เข้าร่วมได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 31 มีนาคม 2565 สมัครเข้าร่วมโครงการ แลกแต้ม แลกทอง โดยการใช้หลักฐานการสมัคร 1.สำเนาบัตรประชาชน / สำเนาใบอนุญาตขับรถยนต์ 2.บัตรสมาชิกบางจาก

 

คุณสมบัติผู้เข้าโครงการ "แลกแต้มแลกทอง" 1. เป็นสมาชิกบัตรบางจาก 2. เติมน้ำมันดีเซล / แก๊สโซฮอล์  มากกว่า 1,000ลิตร/เดือน (หรือ 25,000บาท/เดือน) 3. ไม่ได้เป็นลูกค้าที่ใช้บัตร Fleet Card  4. ไม่ได้เป็นลูกค้าที่ได้เทอมเครดิตจากทางสถานีบริการ ตามรายละเอียดการแลกคะแนนมีดังนี้

 

1.ลูกค้าที่เติมแก๊สโซฮอล์ แลก 45,000 คะแนน รับบัตรทองออโรร่า หรือ บัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 10,000 บาท

 

2.ลูกค้าที่เติมดีเซล

-แลก 12,000 คะแนน รับบัตรทองออโรร่า หรือ บัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 2,500 บาท

-แลก21,000 คะแนน รับบัตรทองออโรร่า หรือ บัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 5,000 บาท

-แลก 38,000 คะแนน รับบัตรทองออโรร่า หรือ บัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 10,000 บาท

-แลก 70,000 คะแนน รับบัตรทองออโรร่า หรือ บัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 20,000 บาท

 

ติดตมรายละเอียดโครงการ “แลกแต้มแลกทอง” คลิกสมัครที่ https://bit.ly/3rpH13s  พร้อมกับนำส่งเอกสารประกอบการสมัคร  มายัง Line ID bcp555  ดังนี้ 

1.รูปถ่ายบัตรประชาชน หรือ ใบขับขี่ 2.รูปถ่ายด้านหลังบัตรสมาชิกบางจาก ให้เห็นเลขที่บัตร 7896... อย่างชัดเจน

 

เมื่อ “สะสมคะแนนครบแล้ว” ต้องการแลกคะแนน คลิ๊ก https://bit.ly/3sC0PQW

สามารถแลกคะแนนโดยเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เลือกรับบัตรทอง Aurora เพื่อนำไปซื้อทองคำตามมูลค่าบัตร เลือกรับบัตรเติมน้ำมัน Cash Card เพื่อนำไปเติมน้ำมัน / ซื้อน้ำมันหล่อลื่นตามมูลค่าบัตรในแต่ละครั้ง

 

            ช่วงที่ 2 ออกไปตลุยหาร้านอาหารมิชลินกินเมนูอร่อยกันได้ช่วงเที่ยวตรุษจีน ในกรุงเทพฯ และจังหวัดท่องเที่ยวใกล้กรุงอย่าง “พระนครศรีอยุธยา” พร้อมเสิร์ฟจานเด็ดแล้ว เลือกได้เลยตามชอบ แล้วก็ฟังดี ๆ “6 สิ่งส่งผลดีต่อสุขภาพต้องใช้เทคโนโลยีอย่างระวัง” และข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “สภาอุตสาหกรรมหนุนเปิดSUPPER VISA”ให้ต่างชาติ 10 ปีฟื้นเศรษฐกิจไทย ข่าวที่สอง “โรงแรมอลอฟท์ สุขุมวิท” ชิงจัดโปรยิ่งพักนานยิ่งคุม จอง 5 คืน จ่ายแค่คืนละ 1,299บาท ข่าวที่สาม “แอคคอร์”ลุยลงทุนเปิดโรงแรมใหม่ปี65ในไทย 2 แห่ง ทั่วโลกและอาเซียน 300 แห่ง

 

พาเที่ยว -ตะลอนกินของอร่อยทั่วกทม.อยุธยากับร้านมิชลินบิบกูร์มองด์จานเด็ด

 

ทริปต้อนรับตรุษจีนปีเสือ กับการตะลอนตามร้านอาหาร “มิชลิน” ปี 2565 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมนำเสนอร้านอาหารและสตรีทฟู้ด ที่คัดสรรได้ตราสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ (Bib Gourmand) สด ๆ ร้อน ๆ รวมทั้งร้านที่เพิ่งจะได้เลื่อนระดับมาชวนไปกินเมนูอร่อย ๆ กัน

 

ก่อนอื่นมารู้จักกับร้านที่ได้ ‘บิบ กูร์มองด์’ -Bib Gourmand ก็คือ ร้านอาหารที่นำเสนออาหารคุณภาพดีซึ่งผ่านการจัดเตรียมอย่างพิถีพิถันราคาที่ย่อมเยาคุ้มค่าไม่เกิน 1,000 บาท มีอาหารเสิร์ฟ 3 คอร์ส ได้แก่ เริ่มจากจานแรกเรียกน้ำย่อย จานหลัก จบด้วยของหวาน แต่ไม่รวมเครื่องดื่ม ให้สังเกตุร้านที่มีตราสัญลักษณ์แสดงภาพ ‘บิเบนดัม’ หรือ ‘มิชลินแมน’ ทำท่าเลียริมฝีปาก นั่นแหละใช่เลย

 

ปักหมุดกินกันเถอะ “กรุงเทพฯ” ตอนนี้มีมากถึง 71 ร้าน และแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุง ขับรถไปเช้ากลับเย็นได้ในพระนครศรีอยุธยา มีร้านมิชลินให้เลือกทั้งประเภทสตรีทฟู้ด ภัตตาคาร แต่ละเมนูที่ได้รับเลือกเห็นแล้วชวนน้ำลายมาเต็มแล้ว เลือกได้ตามระยะทางใกล้บ้าน หรือที่ชอบได้

 

ในกรุงเทพฯ ร้านใหม่ที่ได้รับคัดเลือกประจำปีเสือ 2565 ไฮไลต์ที่จะชวนไปชิมเมนูเด็ด ๆ 6 ร้าน ได้แก่

 

ร้านแรก -แกงป่า (ลุงสง่า) ร้านอาหารป่ารสจัดจ้านที่คออาหารป่าไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะมีเมนูเนื้อสัตว์ป่าปรุงกลิ่นรสด้วยสารพัดสมุนไพรและเครื่องเทศเมนูเด็ดคือเนื้อกวางผัดใบยี่หร่าและแกงป่าปลาสับนก

ร้านที่ 2 -กอชุนฮวด ร้านข้าวต้มรอบดึกเจ้าเก่าแก่กว่า 50 ปีในย่านฝั่งธนบุรี เมนูแนะนำคือหมูต้มที่นุ่มฉ่ำไม่มีกลิ่นคาวทานคู่กับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว และจับฉ่ายรสหวานกลมกล่อมลงตัวจากผักนานาชนิด

 

ร้านที่ 3 -เธียนดอง ร้านอาหารเวียดนามที่เสิร์ฟอาหารเวียดนามต้นตำรับปรุงจากวัตถุดิบคุณภาพด้วยฝีมืออันพิถีพิถัน จานเด็ดคือกุ้งพันอ้อยสีเหลืองทอง เนื้อเหนียวนุ่ม หอมและปรุงรสอย่างลงตัว กับแหนมเนืองรสเด็ดที่จัดแผ่นแป้งและผักกาดหอมมาเป็นคำ ๆ ให้ทานสะดวก

ร้านที่ 4 -เกตุโอชา ร้านสตรีทฟู้ดขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นที่โดดเด่นด้วยลูกชิ้นเนื้อทำเองสดใหม่และนุ่มเด้ง เนื้อสดลวกพอสุกไม่เหนียว น้ำซุปรสเด็ดกลมกล่อม หอมกลิ่นพริกไทยอ่อนๆ สำหรับผู้ที่ไม่ทานเนื้อ ร้านนี้ยังมีลูกชิ้นหมูให้เลือกลิ้มลองความอร่อยด้วย

แล้วปีนี้มีอีกร้านอาหารเลื่อนระดับจากปีก่อนมาร่วมวงด้วย 2 ร้าน คือ

ร้านที่ 5 -ป.โภชยา -ร้านสตรีทฟู้ดเก่าแก่ที่เปิดบริการมานานกว่า 30 ปี เสิร์ฟอาหารไทย-จีนคุณภาพ จานเด็ดหาทานยาก เมนูยอดนิยมต้องสั่งคืด เนื้อผัดใบยี่หร่า และไข่เจียวปู

 

ร้านที่  6 -ร้านศรีตราด -คัดสรรจานเด็ดประจำจังหวัดตราดซึ่งปรุงด้วยสูตรลับของครอบครัว จัดแต่งพิถีพิถันมานำเสนอถึงกรุงเทพฯ เมนูเด็ดคือ กุ้งลายเสือผัดพริกเกลือ กับปลากระพงต้มส้มระกำ

 

            “จังหวัดพระนครศรีอยุธยา” แหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุง ขับรถไปเช้ากลับเย็นได้สบาย ๆ มีร้านมิชลินให้เลือกหลากหลายด้วยเช่นกัน ได้แก่

 

ร้านที่ 1 -บ้านตะโกราย ร้านท้องถิ่นเสิร์ฟอาหารไทยพื้นบ้านปรุงจากวัตถุดิบในชุมชนและปลาน้ำจืดสด ๆ จานเด็ดคือ ทอดมันปลากรายเนื้อนุ่มเด้งหอมกลิ่นสมุนไพร ผัดคะน้าปลาเค็มที่ไม่เค็มจัดสุกกรอบสีสวย

 

ร้านที่ 2 – บ้านต้นไทร นำเสนอเมนูรสเด็ดถึงเครื่องอย่าง ต้มยำปลาม้ารสแซบ และหมูกรอบผัดพริกเกลือ

ร้านที่ 3 -หมูสะเต๊ะเฮียแกะ ร้านสะเต๊ะชื่อดังเข้มข้นด้วยเครื่องหมัก ย่างเตาถ่านร้อน ๆ หอมฉุย เนื้อหมูติดมันเล็กน้อยทานอร่อยกับน้ำจิ้มสะเต๊ะรสเด็ด

 

ร้านที่ 4 - โรตีสายไหมอาบีดีน-ประนอม แสงอรุณ ร้านโรตีสายไหมที่เปิดขายมานานกว่า 70 ปี และยังคงสืบทอดเทคนิคและรสชาติแบบดั้งเดิมเอาไว้ แป้งโรตีบางแต่เหนียวนุ่ม มีให้เลือกทั้งแบบธรรมดาและใบเตย ทานคู่กับสายไหมเนื้อฟูสวยหอมกลิ่นคาราเมล

            ทริปกินของอร่อยทั้งใน “กรุงเทพฯ” และ “พระนครศรีอยุธยา” ตลุยเลือกชิมเมนูมิชลิน บิบ-กูร์มองด์ อร่อยราคาไม่แค่หลักพันบาท พลาดได้ไง เที่ยวไทย เที่ยวง่าย ออกมาเที่ยวกันเถอะ

 

สุขภาพ - “6 สิ่ง”ส่งผลเสียต่อสุขภาพหากใช้โซเชียลหรือเทคโนโลยีอย่างไม่ระวัง

 

ต้องยอมรับทุกวันนี้เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทในชีวิต ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนเราในแทบทุกด้าน แต่รู้ไหมว่า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ ยังมาพร้อมกับอันตรายที่แอบซ่อนไว้ โดยมีข้อควรระวัง 6 สิ่งนี้ไว้ด้วย

 

1.อันตรายจากแสงสีฟ้า :   เป็นหนึ่งในแสงที่สามารถเข้าไปสู่จอประสาทตาได้ง่ายดาย ผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตที่คนเรานิยมใช้กันตลอดเวลา แสงสีฟ้านี้จะทำให้เกิดอาการภาวะตาล้า (Digital Eye Strain) และอาจจะทำให้เซลล์ในดวงตาตายได้ ถ้าเราไม่ดูแล รักษา ป้องกันดวงตาของเราให้ดี

 

2. หน้าจอมีเชื้อแบคทีเรียยิ่งกว่าโถชักโครก. : สถาบันวิจัยที่มีชื่อว่า Which จากอังกฤษยืนยันงานวิจัยล่าสุด พบว่าหน้าจอทัชสกรีนของแท็บเล็ต สมาร์ทโฟน และคีย์บอร์ดของคอมพิวเตอร์ มีเชื้อโรค แบคทีเรียมากกว่าโถชักโครกถึง 20 เท่า แบคทีเรียนี้มีชื่อว่า สตาฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) ที่ทำให้เกิดสารพิษและทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนและท้องร่วงได้

 

3. ส่งผลต่อการสนทนา :  Pew Research Center สถาบันวิจัยจากวอชิงตัน ดี.ซี.ได้ศึกษาข้อมูลของผู้ใช้สมาร์ทโฟน พบว่า 82% ของคนส่วนใหญ่มีปัญหาการสนทนาในชีวิตจริง เนื่องจากเลือกพิมพ์ข้อความสนทนากันมากขึ้นและใช้เวลากับการอ่านหนังสือน้อยลง ทำให้ประสิทธิภาพในการพูดคุยกันลดลงตามไปด้วย

 

4. สร้างจุดด่างดำบนใบหน้า :  ความร้อนที่สูงเกินไปจากการใช้สมาร์ทโฟนสนทนาอาจก่อให้เกิดปัญหาผิวโดยเฉพาะที่บริเวณหน้าส่วนที่ใช้สัมผัสกับหน้าจอสมาร์ทโฟนบ่อย ๆ โดยความร้อนเหล่านี้จะไปรบกวนการผลิตสารที่ชื่อว่าเมลานิน (Melanin) นำไปสู่การเกิดจุดด่างดำและสีผิวที่คล้ำลงได้ ดังนั้นหากคุณไม่อยากให้ผิวหน้าของคุณรับความเสียหายโดยไม่จำเป็น ก็ควรหยุดพักจากอุปกรณ์เทคโนโลยีบ้างและใช้อย่างเหมาะสม

แถมสารประกอบอย่างนิกเกิลและโครเมียมที่มีอยู่ในสมาร์ทโฟนยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังอักเสบได้อีกด้วย วิธีแก้ คือ การใช้ฟิล์มคลุมหน้าจอสมาร์ทโฟนเพื่อลดการซึมซับของสารทั้งสองประเภทบนผิวหน้า และคุณอาจต้องจำกัดการใช้งานโดยหลีกเลี่ยงการสนทนาที่ยาวนานบนสมาร์ทโฟน

 

5. ความจำไม่ดี  : การใช้งานสมาร์ทโฟนอย่างสม่ำเสมอ อาจทำให้สมองถูกทำลาย และส่งผลให้เราฉลาดน้อยลง นอกจากนี้ยังทำให้เรามีสมาธิลดลงอีกด้วย นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเท็กซัสค้นพบว่า คนส่วนใหญ่มีความสามารถในการจดจำข้อมูลได้ไม่ดีนัก หากมีสมาร์ทโฟนอยู่ใกล้ ๆ ตัว โดยการทดลองพบว่า การมีสมาร์ทโฟนอยู่บนโต๊ะทำงานหรือในกระเป๋ารบกวนผู้ใช้ ซึ่งจะส่งผลให้เราไม่มีสมาธิ เพราะต้องคอยหันไปมองหรือคำนึงถึงสมาร์ทโฟนอยู่เป็นประจำ

 

6. คลื่นแม่เหล็กเสี่ยงมะเร็ง :  การใช้สมาร์ทโฟนเป็นเวลานานกว่า 10 ปี จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งสมองถึง 2 เท่า เนื่องจากมีคลื่นแม่เหล็กจะถูกส่งเข้ามาที่อุปกรณ์สื่อสารโดยตรง โดยมะเร็งจะเกิดที่ศีรษะด้านเดียวกับด้านที่ใช้สมาร์ทโฟนนั้นเป็นประจำ งานวิจัยจากฮาร์วาร์ดที่ได้รับทุนจากบริษัทมือถือสรุปผลออกมาแล้วว่า การใช้โทรศัพท์มือถือส่งผลให้เซลล์มนุษย์เปลี่ยนแปลง อาจก่อให้เกิดมะเร็งหรือเนื้องอกในสมองได้ คำแนะนำที่ควรปฏิบัติตามคือ ให้กดรับโทรศัพท์ให้ห่างตัวก่อนพูดคุยตามปกติ 

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก เอกชนหนุนเปิดSUPPER VISA10ปีให้นักลงทุน/แรงงานต่างชาติฟื้นศก.ไทย

 

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลไทยได้ประกาศนโยบายอนุญาตให้ต่างชาติทำวีซ่า “SUPPER VISA” กับนักลงทุน และแรงงาน ต่างชาติได้ถึง 10 ปี เนื่องจากไทยต้องการเม็ดเงินลงทุน ซึ่งแต่ละปีมีประมาณ กว่า 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ แต่ที่ผ่านมาไทยไม่สามารถแยกเม็ดเงินได้ในอาเซียน 10 ประเทศ มีเพียงสิงคโปร์เท่านั้นที่แยกได้ไปเกินกว่า 50 % ตอนนี้เวียดนามเป็นคู่แข่งมาแรง ทั้งเรื่องสิทธิประโยชน์ is of ความง่ายในการลงทุน กับเวลา

 

ปัญหาอุปสรรค- ไทยไม่สะดวกเรื่องทำวีซ่า คนลงทุน แรงงาน และผู้เชี่ยวชาญ ต้องออกไปต่อวีซ่า เสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย ตอนนี้ไทยเปิดเป็น SUPPER VISA เป็นช่องทางดึงดูดนักลงทุนเข้ามาไทยได้มากขึ้น

 

จุดแข็ง- ตอนนี้ไทยมีอุตสาหกรรมใหม่ ๆ อย่าง S CURVE ใน EEC แต่ก็มีบางอุตสาหกรรมที่ไทยไม่เคยมีมาก่อน จำเป็นจะต้องดึงผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นมาจากต่างประเทศ โดยมีเรื่องความสะดวกเป็นแม่เหล็กสำคัญ

 

สำหรับการใช้ SUPPER VISA ดึงนักลงทุนจะส่งผลดีให้ EEC อย่างมาก ที่ผ่านมาเป็นแฟลกชิปเข้าสู่อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ S CURVE ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง กับผู้เชี่ยวชาญอย่างสูง เช่นอุตสาหกรรมอากาศยาน หุ่นยนต์ อุตเกม บุคลากรไทยสร้างไม่ทัน ไม่มีสถาบันการศึกษา Re-Up Skill เหล่านี้ EEC จะได้ประโยชน์

 

เมื่อไทยมอบสิทธิประโยชน์ โครงการ โครงสร้างพื้นฐาน ก็จะทำให้ “นักลงทุน” สนใจเข้ามามากยิ่งขึ้น เพราะ SUPPER VISA สามารถแก้จุดอ่อนตอบโจทย์ต่างชาติได้ เพื่อนำคนมีความรู้ความสามารถเข้ามาก่อตั้งช่วงเริ่มต้นก่อนได้

ช่วง 10 ปีก่อน ไทยผันตัวเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ นำผู้เชี่ยวชาญเข้ามาสอนถ่ายทอดเทคโนโลยี

 

                ตามความจริงอดีตมีวาระกรรมที่กล่าวว่า เป็น “การขายชาติหรือเปล่า” ในการให้สิทธิ์ต่างชาติ ขณะที่หลายประเทศอนุญาตให้ต่างชาติถือครองอสังหาริมทรัพย์ ซื้อที่ดินได้ เพื่อกระตุ้นให้อยากอยู่เมืองไทยมากขึ้น หากทำได้ไทยมีเสน่ห์เพียงลดจุดอ่อนทิ้งไป

 

ข่าวที่สอง รร.อลอฟท์ชูโปรห้องยิ่งพักนานยิ่งคุ้ม5คืนจ่ายแค่คืนละ1,299บาท++

 

โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพฯ จัโปรโมชั่นยิ่งพักนาน ยิ่งคุ้มค่ากับลองสเตย์ แพ็กเกจ Stay Longer Save More คุ้มค่ากับห้องพักราคาพิเศษลดกว่า 25% เมื่อจองอย่างน้อย 5 คืนขึ้นไป ระหว่างวันนี้ -ภายใน 30 เมษายน 2565

 

ราคาแพ็คเกจห้องพักเริ่มต้นที่ 1,299++ บาท/ห้องต่อ/คืน ในห้อง Chic ลูกค้าจะมีเวลาท่องเที่ยวในกรุงเทพได้นานยิ่งขึ้น พร้อมสิทธิประโยชน์ ฟรี WiFi ส่วนลดค่าอาหารและเครื่องดื่มและบริการซักรีด 20 % สมาชิกแมริออท บอนวอยรับคะแนนสะสมได้

 

เพียงเลือกใช้บริการห้องพักและห้องสวีทที่ได้รับแรงบันดาลใจจากห้องพักลอฟท์สไตล์เน้นความโปร่งโล่งสบายพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ อีกทั้งลูกค้ายังสามารถใช้บริการรถตุ๊กตุ๊กรับส่งของโรงแรมฟรีไปยังสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสนานา และรถไฟใต้ดินเอ็มอาร์ทีสุขุมวิท

           

พิเศษ สำหรับสมาชิกแมริออท บอนวอย ทุกคืนเข้าพักจะมีมูลค่าเพิ่มเป็น 2 เท่าให้คะแนนโบนัส 1,000 คะแนน และเอลีท ไนท์ เครดิต เพิ่มเติมทุกคืนที่สมาชิกเข้าพักและชำระเงิน ทำให้การเข้าพักแต่ละคืนมีมูลค่าเพิ่มเป็น 2 เท่าตลอดโปรโมชั่น 8 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 สมาชิกเพียงแค่ลงทะเบียนที่  https://www.marriott.com/loyalty/promotion.mi?promotion=EB22

 

 

โทรศัพท์ 02 207 7000 แชทผ่านไลน์ https://lin.ee/ZE9eT หรืออีเมล BKKALSales@marriott.com

 

ข่าวที่สาม “แอคคอร์”ลุยปี65เปิดโรงแรมใหม่ในไทย2แห่ง+300ทั่วโลก/อาเซียน

 

แอคคอร์ (Accor) เชนโรงแรมแถวนหน้าของโลกประกาศปี 2565 จะเปิดตัวโรงแรมใหม่ ๆ ในหลากหลายจุดหมายปลายทางทั่วโลก จำนวนรวมกว่า 300 แห่ง พร้อมให้แขกและนักเดินทางทั่วโลกเข้าพักและใช้บริการได้เร็ว ๆ นี้ จุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นอย่าง ลอนดอน โดฮา และมอสโก จะมีโรงแรมภายใต้เครือแอคคอร์เปิดใหม่หลายแห่งในปีนี้ นอกจากนี้แบรนด์ต่าง ๆ ของ แอคคอร์ ก็พร้อมเปิดตัวในจุดหมายปลายทางที่แปลกใหม่ น่าสนใจ และน่าค้นหา เช่น เมืองปังกาลันบุน ประเทศอินโดนีเซีย โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก และ ย่านเมืองเก่าคาสโคเวียโฮในปานามาซิตี้

 

ในประเทศไทย

1. โรงแรม Mercure Rayong Lomtalay จะเปิดให้บริการในต้นปีนี้ที่แหลมแม่พิมพ์อันสวยงามของจังหวัดระยอง และจะกลายเป็นหนึ่งในรีสอร์ทริมชายหาดที่ฮิปและทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ

 

2.โรงแรมดีไซน์เก๋อย่าง ibis Styles Bangkok Silom จะทำการเปิดตัวใจกลางย่านสีลม

 

“เวียดนาม” จะเปิด  Mövenpick Phan Thiet ที่มาพร้อมสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ รวมถึง Mercure Da Lat Resort ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่ท่ามกลางสวนเขียวชอุ่ม ตั้งอยู่ในพื้นที่ของสถานีรถไฟเก่าใจกลางเมือง

 

“สิงคโปร์”จะโรงแรมพูลแมน (Pullman) แห่งแรกในช่วงกลางปีใจกลางถนนออชาร์ดแหล่งชอปปิ้งชื่อดัง Pullman Singapore Orchard ประกอบไปด้วยห้องพักทั้งหมด 308 ห้องพร้อมคอนเซปต์อาหารและเครื่องดื่มอันน่าตื่นเต้น ฟิตเนสคลับและสระว่ายน้ำกลางแจ้งเพื่อชาร์ตพลัง

 

“ฟิลิปปินส์” เปิด The Admiral Hotel Manila – MGallery จะมาพร้อมเรื่องเล่าที่น่าสนใจ โดยแต่ละชั้นของโรงแรมจะมีธีมที่ต่างกัน สะท้อนถึงเรื่องราวท้องถิ่นเช่น เทศกาล วีรบุรุษ การเต้นรำแบบพื้นบ้าน แหล่งท่องเที่ยว ศิลปะพื้นเมือง และการละเล่นแบบดั้งเดิม Swissôtel Clark จะกลายเป็นโรงแรมที่สูงที่สุดในเขตเมโทรมะนิลาตอนบน นำเสนอแนวคิดด้านสุขภาพและอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสวิตเซอร์แลนด์

 

“อินโดนีเซีย”จะเปิดตัวโรงแรมที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย เช่น Grand Mercure Bali Legian Resort บนหาดทรายขาวละมุนของหาดเลเกียน และ Mercure Pangkalan Bun ในเมืองกาลิมันตันตอนกลาง Mercure Living Putrajaya จะเปิดตัวที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อมอบประสบการณ์การพักผ่อนในห้องสวีทที่กว้างขวาง เช่นเดียวกับ Mercure Miri City Centre  เกาะบอร์เนียว

 

“กัมพูชา” จะเปิด Novotel Phnom Penh Beung Keng Kong ในเมืองหลวงพนมเปญ โดยมีจุดหมายปลายทางแห่งไลฟ์สไตล์ที่น่าตื่นเต้นอย่าง TRIBE Phnom Penh Post Office Square และ Mondrian Singapore Duxton ที่จะกลายเป็นศูนย์กลางของการพบปะสังสรรค์ มอบประสบการณ์ด้านอาหารและความบันเทิงที่ไม่ซ้ำใคร รวมถึงคอนเซปต์การออกแบบที่โดดเด่น

 

ไฮไลท์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ Hotel Naru Seoul – MGallery ที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำฮันของกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.