ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ลุยขายเที่ยวสายมู3จังหวัดไหว้ท้าวเวสสุวรรณปราจีน3วัดปัง-บูมเที่ยว5เทรนด์ “เสริมมงคล+แคมป์เลิฟเวอร์”นครนายก-สระแก้ว

ททท.ลุยขายเที่ยวสายมู3จังหวัด“นครนายก-ปราจีน-สระแก้ว”

ไหว้ท้าวเวสสุวรรณปราจีน3วัดปัง-บูมเที่ยวไทยไม่ตก5เทรนด์

“เสริมมงคล+ทัวร์มะยงชิด+แคมป์เลิฟเวอร์”นครนายก-สระแก้ว

คิงเพาเวอร์ชวนสมัครSCARLETรับ2ต่อ-นำ100กะรัตแลกที่พักหรู

คิงเพาเวอร์มหานครชูโปรบัตรสกายวอล์ค4แพกเกจเริ่ม299บาท

ททท.ผนึกองค์กรใหญ่แห่ซื้อWorkationThailandสะพัด2พันล้าน

บางจากลงทุนสตาร์ทอัพBlueHydrogen“Transitus”สู่NetZero

“แพร่”ชวนรวมพลคนปีขาลเที่ยวแก้ชงเสริมมงคลกิจกรรมเพียบ

5วิธีพักผ่อนให้สบายกาย-สบายใจ-สบายตา ทำให้มีควาสุขยาว

รมว.พิพัฒน์ชงศบค.ปลดล็อกTest&Go1มี.ค.-หลายชาติทำแล้ว

บางกอกแอร์!!กลับมาบินกรุงเทพฯ-กระบี่1เที่ยว/เริ่มวัน27มี.ค.65

สิงคโปร์แอร์ไลน์ส”ชูเที่ยวบินVTLดึงนักท่องเที่ยวภูเก็ตเข้าสิงคโปร์

วันดี เผื่อนอุดม 

ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครนายก

 วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #  # #

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้

ช่วงที่ 1 รวมพลนักท่องเที่ยวสายมูตามติด “นางสาววันดี เผื่อนอุดม" ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครนายก เปิดเส้นทางเที่ยวไทยไม่ตกเทรนด์ปีขาล 3 จังหวัดใกล้กรุง “นครนายก-ปราจีนบุรี-สระแก้ว” 5 เทรนด์ต้องลอง “นครนายก” ชมประติมากรรมพญานาคพันตน +3ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ พาสายกินตลุยสวนมะยงชิด เที่ยวบ้านโบราณกับตลาดน้ำดงละคร “ปราจีนบุรี” สักการะท้าวเวสสุวรรณ 3 วัดมาแรงปี65 เสริมโชคลาภความร่ำรวย “สระแก้ว” ชมทุ่งดอกไม้ ควงสายแคมป์กางเต็นท์นอนอุทยานและรีสอร์ตธรรมชาติ แวะมาดูได้ก่อนในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย สวนลุม” จากนั้นเดือนมี.ค.ก๊วนกอล์ฟรอรับโปรเด็ดราคาลดแบบจุก ๆ กับสายผจญภัยมีดีลดีซอฟท์แอดเวนเจอร์รออยู่เพียบ

 

นางสาววันดี เผื่อนอุดม ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครนายก เปิดเผยว่า ในการดูแลตลาดท่องเที่ยว 3 จังหวัด นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ปี 2565 มุ่งเน้นปีท่องเที่ยวไทย -Visit Thailand Year :Amazing New Chapter เน้นเพิ่มตลาด “นักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ” ชูขายเมนูพร้อมเสิร์ฟ “ประสบการณ์ท่องเที่ยวไทย” นำอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ไปสู่ “การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ” ด้วยการนำ “ดิจิทัล” เข้ามาเป็นเครื่องมือทำการตลาด รวมทั้งจะส่งเสริม “รายได้” ในรูปแบบ การเติบโตแบบกระจายอย่างทั่วถึง หรือ inclusive tourism

 

            ตอนนี้การโปรโมตจุดขายท่องเที่ยว “ท่องเที่ยวไทยไม่ตกเทรนด์” ของ ททท.สำนักงานนครนายก ประกอบด้วย

เทรนด์ที่ 1 เส้นทางท่องเที่ยวสายศรัทธา -ไหว้พระเสริมสิริมงคล” รวม 3 จังหวัด เริ่มจาก “จังหวัดนครนายก” จุดที่ 1 ชมประติมากรรมพญานาค1,000 ตน วัดมณีวงศ์ จุดที่ 2 ขอพรเทพเจ้าแห่งโชคลาภ “เทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี้ย-เทพเจ้าแห่งโชคลาภ” ปางมหาเศรษฐีชัมภล หรือที่เรียกว่า “ปางมหาราช”  แล้วก็เดินทางต่อไปที่ “จังหวัดปราจีนบุรี” จุดที่ 3 กราบสรีระสังขารหลวงปู่โสฬส เกจิบูรพา วัดโคกอู่ทอง และ “จังหวัดสระแก้ว” จุดที่ 4 กราบหลวงปู่บุดดา อายุกว่า 111 ปี มีความเกี่ยวข้องกับหลวงปู่โสฬสโดยดื่มนมจากมารดาเลี้ยงคนเดียวกัน ตอนนี้ท่านอยู่ที่วัดป่าใต้พัฒนาราม อำเภอวัฒนานคร  ท่านได้รับความเคารพยกย่องมีความจำเป็นเลิศในการสวดบทธรรมะได้ทุกบทเป็นอย่างดี

 


            เทรนด์ที่ 2 เส้นทางไหว้ท้าวเวสสุวรรณ เป็นกระแสมาแรง เพื่อโชคลาภ ความมั่งคั่ง ร่ำรวย ตามวัดที่กำลังได้รับความนิยม เริ่มจาก “จังหวัดปราจีนบุรี” จุดที่ 1 วัดจิกสูง ตำบลไม้เค็ด อำเภอเมือง  ชาวบ้านให้ความนับถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน รวมทั้งมีผู้คนมาขอโชคลาภแบบไม่ขาดสาย จุดที่ 2 วัดแจ้ง (เมืองเก่า อำเภอประจันตคาม มีท้าวเวสสุวรรณกลางแจ้งองค์ใหญ่ที่สุดในโลกสูงถึง 44 เมตร จุดที่ 3 วัดปทุมบูชา อำเภอศรีมหาโพธิ มีขนาดองค์ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก สูง 12 เมตร

 


            เทรนด์ที่ 3 เส้นทางลุยสวนกินมะยงชิด ท่องเที่ยวตามสวนต่าง ๆ ในจังหวัดนครนายก ชาวสวนได้นำผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยมเกรดส่งออกขายต่างประเทศ ตอนนี้มีสวนจำนวนมากเข้าร่วมกับ ททท.เชิญชวนคนแวะมาชิม ชม ช้อป ฟินกินอร่อย ได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป ไฮไลต์สวนในตำบลดงละคร อำเภอเมือง ก็จะมี สวนตาจรูญ สวนนพรัตน์ สวนภานุพงศ์ ตอนนี้ก็มีจุดแฮงเอาท์ใหม่เป็น “ตลาดน้ำดงละคร” อยู่ในวัดดงละคร บรรยากาศทุกเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ 10.00-16.00 น.จะมีอาหารอร่อย ๆ และผลิตภัณฑ์ชุมชน มาวางขายนักท่องเที่ยว

 

            





         เทรนด์ที่ 4 เที่ยวบ้านก๋งยี่โบราณ ริมแม่น้ำนครนายก อยู่ห่างจากอำเภอเมืองปรามาณ 10 กม. เหมาะกับสายชิมขนมหวานขึ้นชื่อ ขนมผิง บัวลอยไส้ลาวาสูตรดั้งเดิม ที่นี่จะเน้นบรรยากาศในบ้านโบราณสไตล์ยุโรปเก่า ร่มรื่น อาหารอร่อยริมน้ำ ที่ดูแลรักษาไว้ได้กว่า 100 ปี

 

            


             เทรนด์ที่
5 เส้นทางกางเต็นท์แคมปิ้ง ทั้งนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ตอนนี้อากาศยังเย็นสบาย รวมทั้งอาจจะมีฝนตกบ้างเล็กน้อย ทางรีสอร์ตต่าง ๆ ได้หันมาเปิดพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางมาได้กางเต็นท์ค้างแรม สามารถขับรถมาเที่ยวด้วยความถี่สูง อีกทั้งทางฝั่ง “ปราจีนบุรี” ยังเป็นจุดที่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวต่อยังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้ด้วย ใกล้ สะดวก ทางไม่คดเคี้ยวมาก

           


            ฝั่ง “สระแก้ว” ททท.ได้ไปทำ Lover Camper ไว้เมื่อพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ปลุกกระแสเหล่านักเดินทางสายแคมป์บอกต่อชวนกันมาเดินป่า สัมผัสธรรมชาติแบบดิบ ๆ ได้เลย จำนวนนักท่องเที่ยวยังมีไม่มาก

 

            ใน “นครนายก” มีแคมปิ้งให้เลือกมากกว่า 10 แห่ง ตอนนี้ที่กำลังได้รับความนิยมก็มี สวนวาโย สวนปรีชา และอีกหลากหลายสวนแถบอำเภอบ้านนา เช่น สวนใครวะ หรือ รีสอร์ตวังรี ได้ปรับมาเป็นสไตล์แคมปิ้ง รองรับได้ 50-60 แคมป์ ทุกแห่งพร้อมบริการ อย่างปลอดภัย

 

            ผอ.วันดี ย้ำว่านักท่องเที่ยวสายแคมป์ที่เดินทางไปพักผ่อนตามจุดต่าง ๆ 1.ต้องเน้นเรื่องการจัดการขยะ ต้องเก็บให้เรียบร้อย 2.การประกอบอาหาร ก็ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของสถานที่นั้น ๆ 3.การตั้งแคมป์พักแรมในพื้นที่อุทยานแต่ละแห่งควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ สามารถชิลกับบรรยากาศ ธรรมชาติร่วมกันได้ ตัวอย่าง เขาอีโต้ มีนักท่องเที่ยวไปกางเต็นท์เป็นจำนวนมากครั้งละกว่า 100 เต็นท์ สนนราคาหลังละ 20-40 บาท/คืน

 


            ส่วนการเตรียมความพร้อมนำสินค้าท่องเที่ยวมาขายในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2565” นำสินค้าท่องเที่ยวและเกี่ยวข้องมาปักหลักนำเสนอไว้ใน “หมู่บ้านภาคตะวันออก” ไฮไลต์คือ

 

ผลิตภัณฑ์แรก -“ผักปลอดสารพิษเกษตรอินทรีย์เขาไม้แก้ว” เป็นแหล่งผลิตส่งให้กับทาง “ร้านเลมอนฟาร์ม” หากได้มาซื้อในงานนี้จะได้ ผลิตภัณฑ์สดใหม่ ราคาสบายกระเป๋า เริ่ม 20 บาท รวมถึง “กุ้งแม่น้ำปราจีนบุรี” ชาวบ้านไปตกจากแม่น้ำ สนนราคาคุ้มมาก 200-1,000 บาท/กก. ต้องห้ามพลาดชิมเด็ดขาด ควรจะมาช่วงเช้า ๆ เพราะจำกัดจำนวนคนต่อพื้นที่

ผลิตภัณฑ์ที่ 2 -น้ำกัญซ่า กำลังนิยมมากเช่นกัน มีส่วนผสมของน้ำกัญชาผสมโซดา รสชาติอร่อย สไตล์คราฟแต่ปลอดแอลกอฮอล์ กับ น้ำมะยงชิดปั่น

            ผลิตภัณฑ์ที่ 3 – สินค้าชุมชนขึ้นชื่อ ได้แก่ เสื่อกกบ้านป้าพวง ป้าชุ่ม เครื่องจักรสานบ้านทับลาน ราคาย่อมเยา ตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป/ชิ้น ตัวอย่าง กระเป๋าน่ารัก เหมาะเป็นของฝาก

            ผลิตภัณฑ์ที่ 4 -ผลไม้สัญลักษณ์เมือง ได้แก่ มะยงชิด นครนายก ราคา 200 บาทขึ้นไป/กก.ถึงแม้ระหว่างเส้นทางไปนครนายกอาจจะมีขาย แต่ในงานนี้จะได้มะยงชิดจากสวนที่คัดมาเป็นพิเศษขายในราคาใกล้เคียงกัน หากไม่สามารถมางานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยครั้งนี้ได้ ก็ขับรถไปเที่ยวสวนตามที่แนะนำไว้ข้างต้น โดยเปิดสวนให้นักท่องเที่ยวตลุยซื้อได้เลยทุกวัน           

         ผอ.วันดี กล่าวว่า ปีนี้ได้ระดมผู้ประกอบการมาร่วมงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย พร้อมจัดบูธให้คำปรึกษาเส้นทางท่องเที่ยวเทรนด์ต่าง ๆ โดยเฉพาะ “Adventure-ท่องเที่ยวเชิงผจญภัย” พักตามโรงแรมที่มีมาตรฐาน SHA, SHA PLUS ชมเขื่อนขุนด่านปราการชล และน้ำตก จ.นครนายก หรือจะไปทำสปาที่ จ.ปราจีนบุรี บริเวณโรงพยาบาลอภัยภูเบศร์ นวดแผนไทย ที่เข้ากระแส นวดผ่อนคลายปลอดโควิด เป็นการนวดบำบัดจริง ๆ หรือ “เขาฉกรรจ์” จ.สระแก้ว ไปนั่งชมทุ่งดอกไม้ รอดูค้างคาวออกจากยอดเขา แต่จะต้องไปสักประมาณ 5 โมงเย็น แล้วก็พักตามโรงแรมมาตรฐาน SHA

 


            ขณะนี้มีแหล่งใหม่ “ตลาดเขาน้อยร้อยปี” รองรับนักท่องเที่ยวมาช้อปแถวโรงเกลือ แล้วไม่รู้จะไปไหนต่อ ก็แวะมาตลาดเขาน้อยร้อยปี สามารถมารับประทานอาหารเมนูพื้นเมืองชาวชาติพันธุ์ได้ แล้วก็แวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์วัดอนุบรรพต แต่ละจุดอยู่ใกล้ ๆ โรงเกลือรัศมีไม่เกิน 1 กม.

            นอกจากนี้หลังจบเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2565 แล้ว ททท.สำนักงานนครนายก เตรียมจับมือกับ ทำโปรโมชั่นให้นักท่องเที่ยวกลุ่มต่าง ๆ

1.จัดโปรโมชั่นราคาพิเศษ จับมือกับสนามกอล์ฟชั้นนำ กระตุ้นเหล่ากอล์ฟ เลิฟเวอร์ มาเล่นกอล์ฟอย่างถูกใจ เริ่มเดือนมีนาคม 2565 มอบส่วนลดกรีนฟีแบบจุก ๆ ไปเลย ใน 2 จังหวัด ได้แก่ “นครนายก” กับปราจีนบุรี เช่น รอยัลฮิลล์ คัสคาต้า

2.โปรโมชั่น Soft Adventure จะปล่อยออกสู่ตลาดเดือนพฤษภาคม 2565 ทั้งการขับรถ ATV ตลุยเที่ยว เล่นบีบีกัน ล่องแก่งหินเพลิง จะมีน้ำช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม ของทุกปี ระยะการล่องแก่งจะค่อนข้างสั้นนิดนึง แตกต่างจากที่นครนายกล่องแก่งได้ตลอดทั้งปีเพราะได้น้ำที่ปล่อยจากเขื่อนขุนด่านปราการชลมาให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุก

ขณะนี้ ททท.ยังเตรียมจับมือกับทางมหาวิทยาลัยราชภัฎธัญบุรี ทำอุปกรณ์ AR ท่องเที่ยวเสมือนจริงกับซอฟท์แอดเวนเจอร์ล่องแก่ง เมื่อสวมอุปกรณ์ AR แล้วนักท่องเที่ยวจะเสมือนได้สนุกกับการล่องแก่งและเมื่อเกิดเหตุการณ์เฉพาะหน้าก็จะบอกวิธีแก้ไข หรือแนะนำเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อนำไปใช้ตอนท่องเที่ยวล่องแก่งจริงได้

 

ทั้งหมดนี้เป็นการเปิดศักราช “เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย เที่ยวไทยไม่ตกเทรนด์” ในพื้นที่ใกล้กรุงเทพฯ ที่อยู่ในความดูแลของ ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก 3 จังหวัด นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ที่กำลังมาแรงตลอดปี 2565

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ชวนสมัครSCARLETรับ2ต่อ-นำ100กะรัตแลกที่พักหรู

 คิง เพาเวอร์ ชวนสมัคร สมาชิกใหม่บัตรประเภท “SCARLET” ดีลนี้มีแต่คุ้ม สมัครแล้วแล้วเติมเงินเข้าบัญชีสมาชิกฯ 6,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ -28 กุมภาพันธ์ 2565  เพื่อจะได้ช้อปอย่างเพลิดเพลินทั้งที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี  (เปิดเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์)  พัทยา และภูเก็ต  โดยห้ามพลาดรับคืน 2 ต่อ รวม 2,500 บาท

ต่อที่ 1  เติมเงินเข้าบัญชีสมาชิก SCARLET 6,000 บาท รับยอดเงินในบัญชีสมาชิกเพิ่มทันที 1,500 บาท

ต่อที่ 2  รับฟรี คูปองส่วนลด 1,000 บาท เมื่อช้อป 5,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ โดยจะต้องลงทะเบียนก่อนช้อป ให้เลย 1 สิทธิ์/คน/วัน โดยจะนับรวมสิทธิ์ทุกสาขาและช่องทางการช้อป แต่ไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขาย CASH CARD ได้

            ดูรายละเอียดเพิ่มเติมสิทธิสมาชิกใหม่ SCARLET ตามลิงค์นี้ : https://bit.ly/3mboLds


 

และ “สมาชิก คิง เพาเวอร์” ใช้สิทธิ์นำคะแนน 100 กะรัต แลกพักคืน 1 คืน เมื่อสำรองห้องพัก วันนี้-31 มีนาคม 2565 แล้วเข้าพักภายใน 30 มิถุนายน นี้ แค่เลือกจองห้องพักกับพันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการอย่างน้อย 2 คืน ได้แก่ อนันตรา เวเคชั่น คลับ ไม้ขาว ภูเก็ต และอนันตรา หัวหิน รีสอร์ท โทร.สอบถาม 076-337-255

 


ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์มหานครชูโปรบัตรสกายวอล์ค4แพกเกจเริ่ม299บาท

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัด 4 แพ็กเกจสุดคุ้ม เลือกได้ด้วยตัวเอง ที่คิง เพาเวอร์ มหานคร ชวนเปิดประสบการณ์ตื่นตาตื่นใจบนชั้น 74 เปิดให้บริการทุกวัน 10.00 – 24.00 น. บริเวณจุดชมวิวภายในอาคาร สถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี ทางออก 3 สนนแพกเกจชมความงดงามของกรุงเทพมหานคร ราคาเริ่มต้นเพียง  299 บาท ดังนี้

1.แพกเกจ 299 บาท รับบัตรเข้าชม มหานคร สกายวอล์ค 1 ใบ + Digital Photo 1 แผ่น หรือ เครื่องดื่ม Soft Drink 1 กระป๋อง

2.แพกเกจ 349 บาท  รับบัตรเข้าชม มหานคร สกายวอล์ค 1 ใบ + Digital Photo 1 แผ่น + เครื่องดื่ม Soft Drink 1 กระป๋อง

3.แพกเกจ  399 บาท  รับบัตรเข้าชม มหานคร สกายวอล์ค 1 ใบ + Photo Album 1 อัลบั้ม หรือ บัตรเงินสดรับประทานอาหารที่ Thai Taste Hub Mahanakhon CUBE มูลค่า 200 บาท

4.แพกเกจ 449 บาท รับ บัตรเข้าชม มหานคร สกายวอล์ค 1 ใบ + Photo Album 1 อัลบั้ม + เครื่องดื่ม Soft Drink 1 กระป๋อง

ซื้อล่วงหน้าแพกเกจบัตรขึ้นชมจุดชมวิวบนตึกมหานครชั้น 74 คลิกhttps://bit.ly/Book-SkyWalk-Tickets


ข่าวที่ ททท.ผนึกองค์กรใหญ่แห่ซื้อWorkationThailandสะพัด2พันล้าน

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และตนเอง ได้นำคณะผู้บริหารหน่วยงานและองค์กรถ่ายภาพกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อประชาสัมพันธ์ โครงการ “Workation Thailand ทํางานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ”

โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณและประกาศนียบัตรแก่หน่วยงานหรือองค์กรที่มียอดสะสมแต้ม ความอยู่รอดของผู้ประกอบการ (Survival Point) ซึ่งเป็นผู้มีคุโณปการต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่ใช้เงินซื้อห้องพักและการท่องเที่ยวในโครงการ “Workation Thailand ทำงานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ “ โดยมีผู้นำและผู้บริหารเป็นตัวแทนองค์กรที่มียอดซื้อสนับสนุนสูงสุดเข้ารับโล่รางวัลจากนายกรัฐมนตรี 11 อันดับแรก หรือระดับ Legendary และ Gold



สำหรับโครงการ “Workation Thailand ทำงานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ “ ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มอบนโยบายให้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ดำเนินตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้นำการบริหารประเทศ ซึ่งให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย  กระทั่งเกิดแนวคิดทำโครงการ “Working Outing & Meeting from Somewhere

โครงการดังกล่าวมุ่งเน้นเปลี่ยนทุกที่ในประเทศไทยให้กลายเป็นที่ทํางาน พบปะ พูดคุย สังสรรค์ จัดประชุม ได้ตามเทรนด์ใหม่ ท่ามกลางบรรยากาศแตกต่างไปจากเดิม เป็นกลยุทธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 เพิ่มจำนวนนักเดินทางและกระจายเม็ดเงินลงสู่พื้นที่ฟื้นเศรษฐกิจชาติเพิ่มมากขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

ขณะนี้มีสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการ Workation Thailand ของ ททท.แล้วมากถึง 885 ราย อีกทั้งโครงการ Workation Thailand มียอดขายห้องพักกระจายเม็ดเงินไปยังธุรกิจ ห้องพัก ท่องเที่ยวรวม 154.507 ล้านบาท สร้างผลประโยชน์ทางเศรษกิจได้กว่า 2,000 ล้านบาท

ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 มีผู้ประกอบการที่มียอดสะสมแต้มความอยู่รอดสูงสุด 11 อันดับ ระดับ Legendary และ Gold ที่ได้เข้ารับประกาศเกียรติคุณและประกาศนียบัตรจากนายกรัฐมนตรี ได้แก่

1. บริษัท ปตท.สํารวจและผลิตปิโตรเลียม จํากัด (มหาชน)

2. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

3. ธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน)

4.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

5.สํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

6.บริษัท ไทยออยล์ จํากัด (มหาชน)

7.บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน)

8. บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จํากัด (มหาชน)

9. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

10. บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จํากัด (มหาชน)

11. บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จํากัด

ข่าวที่ บางจากลงทุนสตาร์ทอัพBlueHydrogen“Transitus”สู่NetZero


นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทบางจากฯ เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ BCP Innovation Pte. Ltd. (BCPI) บริษัทในเครือได้ลงนามในข้อตกลงเบื้องต้นเพื่อลงทุนใน Transitus Energy ผู้ดำเนินธุรกิจพลังงานสะอาดแห่งอนาคตในสหราชอาณาจักร โดย BCPI เป็นผู้ลงทุนหลักของบริษัทดังกล่าวด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 40 % ก้าวสู่การเพิ่มสัดส่วนธุรกิจสีเขียว เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามเป้าหมายให้เป็นศูนย์หรือ Net Zero

 

บางจากฯ เร่งสานต่อนโยบายการลงทุนในธุรกิจเปลี่ยนโลกเช่นธุรกิจไฮโดรเจน และ Carbon Capture, Utilisation and Storage (CCUS - การดักจับการใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์) เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่จะช่วยให้โลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ได้ในอีกไม่กี่ทศวรรษหน้า

 

สำหรับ “ไฮโดรเจน” เป็นแหล่งพลังงานหลักในอนาคตที่ไม่ก่อมลภาวะ ส่วนก๊าซธรรมชาติเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกที่จะเชื่อมต่อการเปลี่ยนผ่าน โดยก่อนที่จะไปถึงไฮโดรเจน ในปัจจุบันก๊าซธรรมชาติคือไฮโดรคาร์บอน (หมายถึงมีไฮโดรเจนและคาร์บอน) ด้วยการทำ Blue Hydrogen ซึ่งเป็นกระบวนการแยกไฮโดรเจนออกจากคาร์บอนแล้วนำคาร์บอนที่แยกได้กลับไปฝังกลบในแหล่งหรือหลุมก๊าซธรรมชาติหรือน้ำมันที่ขุดขึ้นมา

 

กระบวนการดังกล่าวถือเป็นการยิงกระสุนนัดเดียวได้นก 2 ตัว เพราะนอกจากจะนำคาร์บอนกลับไปฝังกลบแล้ว ยังช่วยเพิ่มแรงดันในหลุมทำให้สามารถนำก๊าซธรรมชาติออกมามากขึ้นได้อีกด้วยเทคโนโลยี Blue Hydrogen จึงเป็นทั้งการผลิตไฮโดรเจนและ CCUS ในตัวเอง และเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญก่อนโลกเราจะเข้าสู่ยุคของ Green Hydrogen ที่จะแยกไฮโดรเจนจากน้ำ (H2O)

 

Mr. Jack Peck  ซีอีโอของ Transitus Energy กล่าวว่า “ไฮโดรเจนเป็นแนวทางดีที่สุดที่จะมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero เพราะสามารถจะกำจัดคาร์บอนในส่วนที่การใช้พลังงานไฟฟ้าไม่สามารถทำได้ ไฮโดรเจนมีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการทำความร้อนในภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรม การขนส่งทางไกล การผลิตระดับอุตสาหกรรม การขนส่ง การเดินทางทางอากาศ และการสร้างสมดุลทางพลังงาน

 

จุดมุ่งหมายของ Transitus Energy คือการนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์อันยาวนานของทีมงานจากธุรกิจพลังงานในทะเลเหนือ ซึ่งมีทักษะในการปฏิบัติงานทุกกระบวนการของอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ การกลั่น การดำเนินการธุรกิจไฮโดรเจนรวมถึงการจัดการด้านพัฒนาธุรกิจ การเงิน และสังคม มาดำเนินการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคพลังงานอย่างรวดเร็ว เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

 

ส่วนการลงทุนจากบริษัทอุตสาหกรรมพลังงานขนาดใหญ่อย่างบางจากวันนี้ แสดงให้เห็นถึงความทันท่วงทีของยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของเรา – ไฮโดรเจนคืออนาคต และอนาคตนั้นกำลังจะมาถึงในเร็ววัน
เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ BCPI ได้ร่วมเป็นผู้ลงทุนสำคัญของเรา และมีความยินดีที่ได้ร่วมงานกับองค์กรที่มีความมุ่งมั่นอย่างจริงจังในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปด้วยกัน
 

            ช่วงที่ 2 สร้างความแปลกใหม่กับทริป “ระดมพลคนปีขาล” เที่ยวเมืองแพร่ แก้ชง เสริมมงคล ปักหมุด “วัดพระธาตุช่อแฮ” มีกิจกรรมเพียบรอต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดปี นั่งรถรางชมรากวัฒนธรรมย้อนเสน่ห์วันวานอย่างเต็มอิ่ม แล้วดูแลสุขภาพด้วย “5วิธีพักผ่อนอย่างสบายใจ-สบายกาย-สบายตา” เติมข้อมูลด้วยข่าวสุดสัปดาห์ ข่าวแรก “บางกอกแอร์” กลับมาบินแน่ กรุงเทพฯ-กระบี่ เริ่ม 27 ก.พ.นี้ ข่าวสอง “สิงคโปร์แอร์ไลน์ส” สบโอกาสชิงเปิดเที่ยวบิน VTL ดึงนักท่องเที่ยวภูเก็ตเข้าสิงคโปร์



พาเที่ยว - “แพร่”ชวนรวมพลคนปีขาลเที่ยวแก้ชงเสริมมงคลกิจกรรมเพียบ

การเดินทางวิถีใหม่ พ.ศ.2565 เป็นปีที่บรรดานักเที่ยวสายมูปลุกกระแส ท่องเที่ยวเสริมสิริมงคล ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ ได้จังหวะชวนกันไปเที่ยว รวมพลคนปีขาล 2565 : Year of The Tiger 2022 ปลุกพุทธศาสนิกชนที่มีความเชื่อความศรัทธา “องค์พระธาตุช่อแฮ” พระธาตุประจำ ปีนักษัตร “ปีขาล” เชื่อมโยงสู่เรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยวตลอดทั้ง 12 เดือน

 

คนเกิดนักษัตร “ปีขาล” หรือปีเสือ และ “ปีชง” เตรียมตัวให้พร้อมกับการท่องเที่ยวเสริมบุญบารมี สะเดาะเคราะห์ต่อชะตาได้ตลอดปีขาลที่ “วัดพระธาตุช่อแฮ” พระอารามหลวง ในโอกาสเวียนครบรอบนักษัตรปีขาล นับเป็นโอกาสมงคลยิ่ง ในรอบ “12 ปี มีเพียงครั้งเดียว” ตามตำนานความเชื่อเรื่อง 12 นักษัตร

 

ภายในพระธาตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระศอกด้านซ้าย กับพระเกศาธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทางวัดพระธาตุช่อแฮ จัดกิจกรรมรวมพลคนปีขาลให้นักท่องเที่ยวมาได้ตลอดทั้งปีแบบออนไซต์ไปยังสถานที่จริงตามปกติได้ ส่วนที่พิเศษยิ่งกว่าคือ ปีนี้จัดแบบออนไลน์ด้วย

 

เตรียมตัวให้พร้อมมีไฮไลต์การท่องเที่ยวช่วงสำคัญระหว่าง 11-17 มีนาคม 2565 นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยว “วัดพระธาตุช่อแฮ” เพื่อร่วมงานประเพณี     ไหว้พระธาตุช่อแฮ เมืองแพร่แห่ตุง



ห้ามพลาด !! พิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชองค์พระธาตุช่อแฮ พิธีถวายผ้าห่มองค์พระธาตุช่อแฮพระราชทาน พิธีอัญเชิญตุงถวายบูชาพระธาตุช่อแฮเป็นพุทธบูชา ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระราชชนนีพันปี ทรงเจริญชนมายุครบ 90 พรรษา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระราชินีฯ พิธีสืบชะตาสะเดาะเคราะห์วันเสาร์ปฏิบัติธรรมอายุยืนยาววันอาทิตย์ พิธีทำบุญตักบาตร การปฏิบัติธรรม การแข่งขันตีกลองปูจาพญาขาล

ชมขบวนแห่เครื่องสักการะเพื่อบูชาองค์พระธาตุอย่างยิ่งใหญ่ตระการตาจาก 8 อำเภอของจังหวัดแพร่ ขบวนช้างเจ้าหลวงเมืองแพร่ และขบวนแห่ตุงหลวง 


กิจกรรม “รวมพลคนปีขาล 2565” หัวใจหลักของกิจกรรม คือ  “องค์พระธาตุช่อแฮ” เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีขาลจึงใช้รูป “เสือ” เป็นสื่อสัญลักษณ์การจัดงาน และ“ตุงไชย” เป็นส่วนเสริมที่เชื่อมโยงระหว่างชุมชน วัด และนักท่องเที่ยว ผู้ที่มีโอกาสไปเที่ยวแพร่ปีนี้ จะได้รับประสบการณ์ตั้งแต่

“การเตรียมเมือง” มีโลโก้ชวนร่วมกิจกรรมรวมพลคนปีขาล และการณรงค์ให้ทุกภาคส่วนดูแลความสะอาดบ้านเรือน  ถนนหนทาง สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ

“การแต่งเมือง” ทั้งเมืองได้ร่วมกันประดับตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ “ตุงไชย” ตามสถานที่ราชการ บริษัท ห้างร้าน บ้านพักอาศัย ตลอดจนริมถนนสายสำคัญทั่วเมืองแพร่ “ตุง” ถือเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องสักการะบูชาพระธาตุช่อแฮ

“การเปิดเมือง” สร้างการรับรู้วงกว้างด้วยการสร้างธีมปีขาล สร้างสีสันความน่าสนใจต่อเนื่องตลอดทั้งปี จูงใจชวนคนเดินทางเลือกแพร่เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวมากขึ้น


 

นักท่องเที่ยวจะได้เห็นเมืองแพร่เป็นเมืองแห่งตุง ในบรรยากาศย้อน “เสน่ห์วันวานเมืองเหนือดั้งเดิม” ที่ได้ร่วมบุญกุศลอันยิ่งใหญ่จากการถวายตุงแล้ว ซึ่งตุงแต่ละตัวมาจากฝีมือผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชน บรรจงถัก ทอ ตัด ตกแต่งลวดลายมงคลอย่างวิจิตรงดงาม ประดับประดาอวดสู่สายตาแขกบ้านแขกเมืองทั่วทุกวัดและแหล่งท่องเที่ยว

แล้ว ททท.ร่วมกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐาน SHA, SHA PLUS  55 แห่ง จัดแคมเปญ #เสือนอนกิน ต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนด้วยตั้งแต่วันนี้-มีนาคม 2565 มอบคูปองส่วนลดให้นักท่องเที่ยวคนละ 200 บาท ให้กับคนเกิดในนักษัตร “ปีขาล” และ “ปีชง” (ปีวอก ปีมะเส็ง ปีกุน)

 


พร้อมกับแนะนำให้ร่วมกิจกรรม “ผ่อบ้านแอ่วเวียงยามค่ำ : Phrae sightseeing Night Tour สันทนาการรูปแบบใหม่ ในการนั่งรถรางผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ กว่า 10 จุด ชมความงดงามเมืองแพร่ยามค่ำคืน สัมผัสวิถีวัฒนธรรม ฟังเรื่องเล่าถึงรากเหง้าทางประวัติศาสตร์เมืองแพร่ทุกมิติอย่างร่วมสมัยระหว่างเส้นทางนั่งรถรางเพลิดเพลินคีตศิลป์ท้องถิ่น ฟังซอ ฟ้อนรำ และคุณค่าแห่งมรดกวัฒนธรรมต่าง ๆ

 

ปิดท้ายด้วย แห่ครัวตานกิจกรรม “ลอดซุ้มประตูอธิษฐานขอพรที่ วิหารวัดมิ่งเมือง

 

ทริปเที่ยวแพร่ดี ๆ อย่างจะเข้าใจ เข้าถึง ประสบการณ์วิถีใหม่ทั้งกิจกรรม วัฒนธรรม และรากเหง้า ตลอดปีขาล สอบถามการเดินทางได้ที่โทร.092-262-8782

 


สุขภาพ - 5วิธีพักผ่อนให้สบายกาย-สบายใจ-สบายตา สุขยาว ๆ

การพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญของทุกคน ในแต่ละช่วงวัยจะมีความต้องการพักผ่อนแตกต่างกัน ซึ่งจะต้องพักผ่อนอย่างเต็มที่ ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องหมายถึงการนอนหลับเพียงอย่างเดียว เราสามารถใช้ช่วงเวลาดี ๆ ผ่อนคลาย ทำให้ร่างกายและจิดตใจรู้สึกสบายได้ ด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้

 

1.ปล่อยใจให้สบาย ทิ้งเรื่องงานไว้ที่ออฟฟิศ - การที่คุณจะพักผ่อนได้ ไม่ใช่การหอบพาร่างหายไปในที่สบายๆ แต่ต้องทิ้งเรื่องงาน เรื่องไม่สบายใจไว้ข้างหลังด้วย ปรับให้ร่างกายบวกกับจิตใจสบาย ไม่เครียด ถึงจะเรียกได้ว่าพักผ่อนอย่างแท้จริง

วิธีง่าย ๆ คือ เราอาจแบ่งเวลาที่แน่นอน หรือกำหนดกิจวัตรประจำวัน ประจำสัปดาห์ ประจำเดือนไว้ว่า จะต้องหาเวลาเพื่อพักผ่อนทั้งหมดกี่ครั้งใน 1 สัปดาห์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า อย่างน้อยจะมีโอกาสได้พักชาร์จพลังบ้างในรอบ 7 วัน ที่ทำงานมาอย่างหนักควรแบ่งเวลาพักเต็ม 1 วัน ให้รางวัลตัวเอง และให้ร่างกายกับสภาพจิตใจได้ฟื้นฟูบ้าง

2.พักผ่อนโดยการนอนหลับ - เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะทำให้สุขภาพดี ข้อมูลจาก “มูลนิธิการนอนหลับแห่งชาติ” ในสหรัฐอเมริกาเคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการนอนหลับที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยต่อวันไว้ ดังนี้

1.เด็กแรกเกิด อายุ 0-3 เดือน ควรนอน 14-17 ชั่วโมง 2.เด็กทารก อายุ 4-11เดือน) ควรนอน 12-15 ชั่วโมง 3.เด็ก อายุ 1-2 ปี ควรนอน 11-14 ชั่วโมง 4.วัยอนุบาล อายุ 3-5 ปี ควรนอน 10-13 ชั่วโมง 5.วัยประถม อายุ 6-13 ปี ควรนอน 9-11 ชั่วโมง

5.วัยมัธยม 14-17 ปี ควรนอน 8-10 ชั่วโมง 6.วัยรุ่น 18-25 ปี ควรนอน 7-9 ชั่วโมง 7.วัยทำงาน 26-64 ปี ควรนอน 7-9 ชั่วโมง  8.วัยชรา 65 ปีขึ้นไป ควรนอน 7-8 ชั่วโมง

ลองเช็คดูว่าเราได้นอนในที่ยังมีแสง เช่น เปิดไฟ เปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้หรือไม่ ถึงแม้จะรู้สึกว่าตัวเองหลับแล้วในขณะที่โทรทัศน์ยังเปิด แต่จริง ๆ แล้วสมองอาจยังไม่ได้พักผ่อนเลย เพราะมีการรบกวนจากแสงและเสียงจากโทรทัศน์นั่นเอง ดังนั้นต้องนอนในห้องมืดสนิท เงียบพอที่จะหลับสนิทได้จริงๆ

3.กินสารอาหารที่มีประโยชน์ ควรเลือกกินดีทุกมื้อ สารอาหารต้องเต็มทุกคำ - นอกจากการนอนแล้ว บางคนอาจรู้สึกว่าได้พักผ่อนเมื่อได้รับประทานอาหารที่ชอบ ของโปรดในวันพักผ่อนจะดีได้ถ้าเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย

4.พักผ่อนโดยการไปพักร้อน เน้นต้องควรถนอมสายตาด้วยการใส่แว่นกันแดด

5. ใช้ดวงตาหนักต้องพักให้เป็น – ในทุก ๆ วัน  ดวงตาของคนเราต้องทำงานหนักมาก ทั้งอ่านหนังสือ จ้องคอมพิวเตอร์ เล่นโซเชี่ยลผ่านอุปกรณ์สมาร์ทโฟน รวม ๆ แล้ว ดวงตาใช้งานวันละ 10 ชั่วโมงแน่นอน ดังนั้น พักร่างกาย พักใจแล้ว

ต้องพักสายตาด้วย มีวิธีง่าย ๆ ที่ไม่ใช่การนอนหลับเพียงอย่างเดียว มองไปพื้นที่สีเขียว เช่น ต้นไม้ สวน ทุ่งหญ้า จะช่วยให้ตาเกร็งน้อยลง รู้สึกสบายมากขึ้น หรือจะดูแลเป็นพิเศษขึ้นด้วยการใช้เจลประคบดวงตาที่มีความเย็นเล็กน้อย จะทำให้รู้สึกได้ถึงความสบายและผ่อนคลายนั่นเอง

 ฟังข่าวท้ายชั่วโมง



ข่าวแรก - รมว.พิพัฒน์ชงศบค.ปลดล็อกTest&Go1มี.ค.65-หลายประเทศทำแล้ว

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตามที่มีข้อเสนอจากสมาคมท่องเที่ยวเอกชนขอให้ปลดล็อกอุปสรรคต่าง ๆ แก่นักเดินทางต่างประเทศ ดังนั้นในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 จึงเตรียมเสนอที่ประชุมด่วนเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พิจารณาผ่อนคลายมาตรการเดินทางตามเกณฑ์ Test & Go ของชาวต่างชาติเข้าไทย  เพื่อจะได้ประกาศใช้ทันทีเริ่มตั้งแต่ 1 เริ่ม มีนาคม 2565 เป็นต้นไป  เพื่อเดินหน้าดำเนินการทันที 2 เรื่อง คือ

 

เรื่องที่ 1 ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2565 เสนอยกเลิก Test&Go การตรวจหาเชื้อโควิดของนักท่องเที่ยวต่างชาติครั้งที่ 2 ของเดินทางมาถึงไทยครบวันที่ 5  โดยขอให้คงการตรวจไว้เพียงครั้งเดียวคือวันแรกที่นักท่องเที่ยวมาถึงเมืองไทย

เรื่องที่ 2 เสนอยกเลิกการใช้ผลตรวจ RT-PCR ก่อนขึ้นเครื่อง แต่ให้ดูประวัติการวัคซีนเมื่อครบตามมาตรฐานสาธารณสุขก็ให้เดินทางเข้าไทยได้ทันที โดยยังคงไว้เรื่องการตรวจ RT-PCR วันแรกที่เดินทางมาถึงเมืองไทย แนวทางนี้จะเสนอประกาศใช้ในเดือนถัดไป

ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยืนยันว่า การพิจารณายกเลิกตรวจหาเชื้อโควิด-19 เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงไทยครั้งที่ 1 และ 2 จะต้องต้องรอประกาศเป็นทางการให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นก่อนจึงจะปลดล็อกเรื่องดังกล่าวได้

รวมทั้งมีการรายงานสถิตินักเดินทางต่างชาติเข้าไทยระหว่าง 1-13 กุมภาพันธ์ 2565 จำนวน 78,793 ราย มีการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ครั้งที่ 2 เมื่อเข้ามาไทยครบวันที่ 5 โดยกระจายอยู่ตามโรงแรมทั่วประเทศนั้นนักท่องเที่ยวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พบการติดเชื้ออยู่ในเกณฑ์ต่ำ หลัก ๆ ในภูเก็ตพบผู้ติดเชื้อจากนอกประเทศเพียง 2.84 % นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยสีเขียวทั้งหมด และในจำนวนนี้ 56 % กักตัวตามวิธี Hotel Room Isolation อีก 6 % กักตัวอยู่ในโฮสพิเทลหรือโรงพยาบาล ที่เหลือเดินทางออกนอกประเทศแล้ว

ตามที่สมาคมท่องเที่ยวภาคเอกชนไทย ประสานเป็นเสียงเดียวกันว่า รัฐบาลควรประกาศปลดล็อก Test & Go การตรวจ RT-PCR ซึ่งอุปสรรคสำคัญรวมทั้งเพื่อทำให้การท่องเที่ยวไทยสามารถแข่งขันกับนานาประเทศเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาใช้จ่ายเงินในไทยปี 2565 ให้ได้เร็วที่สุด

เนื่องจากหลายประเทศทั่วโลกตอนนี้ส่งสัญญาณเตรียมปลดล็อกเงื่อนไขทั้งหมด เพื่อเปิดรับชาวต่างชาติเข้าไปท่องเที่ยวได้ตามปกติ ประกอบด้วย

1.ทวีปยุโรปมีบางประเทศประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น พร้อมกับยกเลิกกักตัว และยกเลิกตรวจ RT-PCR แล้ว เช่น สวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์

2.เอเชียแปซิฟิก เริ่มทยอยปลดล็อกผลก่อนเดินทางเรื่องตรวจ RT-PCR แล้วขอดูเพียงหลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบตามมาตรฐาน เช่น ฟิลิปปินส์ กัมพูชา ใช้วิธีตรวจด้วย ATK เมื่อมาถึงสนามบิน ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วก็ต้องแสดงเอกสารการฉีดวัคชีนครบโดสและการตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง เวียดนาม กับญี่ปุ่น กำหนดจะประกาศยกเลิกมาตรการที่เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางของชาวต่างชาติตั้งแต่เมษายน 2565 เป็นต้นไป

3.โอเชเนีย ได้แก่ ออสเตรเลีย ได้ยกเลิกมาตรการการกักตัว เริ่ม 22 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป ผู้ฉีดรับวัคซีนครบสามารถเดินทางเข้าประเทศได้โดยแสดงเอกสารการตรวจRT-PCR เป็นลบ 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเท่านั้น


ข่าวที่สอง - บางกอกแอร์!!กลับมาบินแล้วกรุงเทพฯ-กระบี่เริ่ม27มี.ค.65

 

สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส รายงานว่า พร้อมกลับมาเปิดบริการบิน ไป-กลับ  กรุงเทพฯ-กระบี่ เริ่มวันที่ 27 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป  วันละ 1 เที่ยว ด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ 319 

เที่ยวบิน PG261 ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ 08.15 น. ถึงสนามบินกระบี่ 09.40 น.

 

เที่ยวบินที่ PG262 ออกจากสนามบินกระบี่ 10.40 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ 12.10 น. 

 

ตรวจสอบรายละเอียดเที่ยวบินเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bangkokair.com/flight/flightSchedule 

 

หรือติดต่อบางกอกแอร์เวย์สได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (Call Center) โทร 1771 หรือ 02-270-6699  ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น.  PG Live Chat:  https://bit.ly/PGLiveChatTH  อีเมล: reservation@bangkokair.com  เว็บไซต์ www.bangkokair.com

 


ข่าวที่สาม - “สิงคโปร์แอร์ไลน์ส”ชูเที่ยวบินVTLดึงนักท่องเที่ยวภูเก็ตเข้าสิงคโปร์

สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป จะให้บริการเที่ยวบินนักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว (Vaccinated Travel Lane หรือ VTL)  จากภูเก็ตไปยังสิงคโปร์ ภายใต้ แผน VTL ของผู้เดินทางที่ฉีดวัคซีนแล้ว ซึ่งมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์จะสามารถเดินทางเข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องกักตัว

ขณะนี้ สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส มีบริการบิน ไป-กลับ ภูเก็ต-สิงคโปร์ วันละ 2 เที่ยว หรือสัปดาห์ละ 14 เที่ยว จะกำหนดให้เป็นเที่ยวบิน VTL  ตามแผนตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2565 จะเพิ่มเที่ยวบินเป็นวันละ 3 เที่ยว หรือสัปดาห์ละ 21 เที่ยว จากนั้นเดือนเมษายน 2565 จะเพิ่มเป็นวันละ 4 เที่ยว หรือสัปดาห์ละ 28 เที่ยว

การเพิ่มเที่ยวบิน VTL ระหว่าง ภูเก็ตและสิงคโปร์ นั้น ทางสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ได้นำร่องมาก่อนแล้วเส้นทาง ระหว่าง กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ เริ่มเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นมา มีบริการบินวันละ  5 เที่ยว หรือสัปดาห์ละ 35 เที่ยว ในจำนวนนี้ทำเป็น VTL วันละ 3 เที่ยว

นายเบอเรน โพ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย สิงคโปร์  แอร์ไลน์ส กล่าวว่า หลังจากเปิดบริการเที่ยวบินเข้ามายังประเทศไทย ทั้งที่ ภูเก็ต และกรุงเทพฯ ขณะนี้ยังจะยังคงติดตามดูความต้องการอย่างใกล้ชิด และปรับเปลี่ยนเครือข่ายให้บริการบินได้ตรงกับความต้องการของผู้โดยสารต่อไป

            ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai