ททท.ติดอาวุธใหม่ปีขาล4เทรนด์“คริปโต-โทเค่น-เหรียญNFT-Metaverse” ปี’65ปูพรมVirtual Influencerปี’66ททท.เปิดMetaverseTour

ททท.ติดอาวุธใหม่ปีขาล4เทรนด์“คริปโต-โทเค่น-เหรียญNFT-Metaverse”

ปี’65ปูพรมแจ้งเกิดผู้มีอิทธิพลสายพันธุ์ใหม่Virtual Influencerท่องเที่ยว

ปี’66ททท.นำร่องเปิดเส้นทางMetaverseTourโกยตลาดคนไทย-ต่างชาติ

คิงเพาเวอร์+สิงคโปร์แอร์แจกคูปองช้อป-ซื้อกิฟการ์ดรับกิฟการ์ดหมื่นบาท

ช้อปคิงเพาเวอร์ดีลคุ้มFASCINATING PAYDAYแบรนด์ดังลดสูงสุดถึง60 %

มหานครคิวบ์จัดโปรซื้อบัตรเงินสด200บาทที่ไทยเทสต์ฮับฟรีน้ำอัดลม2แก้ว

ทท.+ธุรกิจ50รายรุกขายไฮบริด“ช้อปแลกเที่ยว”ลด80%เริ่ม1มี.ค.-15เม.ย.65

บางจากลุยCSRมอบ“ปฏิทินเก่าเราขอ”ผลิตสื่อทำหนังสือเบรลล์คนตาบอด

เช็คอิน“สวนสัตว์ใหม่ธัญบุรี” มินิซูคลอง6เปิดแล้ว13มี.ค.65ลุยชม5โซนสนุก

กินด่วนอาหาร5สีบำรุง“สายตาคนยุคดิจิทัล”รักษาการมองเห็นให้อยู่ยาว ๆ

แอร์เอเชียแจงปี64ขาดทุนหมื่นล้าน-ซีอีโอCapitalAชูAsiaSuperAppฟื้นบิน

“ปิยะสวัสดิ์”เตรียมแถลงผลงานบินไทยปี’64-ชาญศิลป์ชิงโชว์รายได้ปี’65

 

 วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #เปิดโลกดิจิทัลท่องเที่ยว  #ช้อปคิงเพาเวอร์FASCINATINGPAYDAY #สวนสัตว์ใหม่ธัญบุรีMiniZooคลอง6

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้  https://fb.watch/bpo-8QU7YG/

ช่วงที่ 1 ททท.เกาะติด 4 เทรนด์โลก “Crypto-Token-NFT-Metaverse” ติดอาวุธท่องเที่ยวดิจิทัลชุดใหญ่ ปี’65 ปูพรมทั่วประเทศ เฟส 1 ปี’66 เปิดโมเดลชวนเที่ยวต้นแบบเส้นทาง “Metaverse” ประกาศสร้างผู้มีอิทธิพลสายพันธุ์ใหม่ “Virtual Influencer” ตัวแทนพีอาร์เที่ยวเมืองไทย เล็งตั้ง “หน่วยงานเฉพาะ” เดินหน้าเต็มรูปแบบปูพรมท่องเที่ยวรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านไฮเทคดิจิทัล ปลุก “ผู้ประกอบการท่องเที่ยว” ทุกสาขา รวมพลังศึกษา เรียนรู้ เร่งใช้เทคโนโลยี ขับเคลื่อนไทยก้าวสู่ “ประเทศ“ผู้นำท่องเที่ยวเมตาเวอร์สดิจิทัล” ชี้เป้าภาคธุรกิจเร่งเปลี่ยนแปลงตนเองก่อนถูกดิสครับชั่นจนไม่มีที่ยืนอีกต่อไป

 

นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัยและพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า แผนนำดิจิทัลมาเป็นอาวุธสำคัญของ ททท.เพื่อขับเคลื่อนตลาดท่องเที่ยวด้วยการจะสนับสนุกทุกฝ่ายครอบคลุมทั้งเรื่อง ข้อมูลเกี่ยวข้อง ทำนายพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว ช่องทางเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง เครื่องมือการตลาด หรือกิจกรรมขยายภารกิจสู่เทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยเฉพาะกระแสมาแรงตอนนี้ 4  เรื่อง ได้แก่

 

1.Crypto Currency สินทรัพย์ดิจิทัล 2.Token หน่วยที่นำมาใช้แลกแต้มหรือแลกบริการ 3.NFT :Non Funcgible Tokens ลักษณะเฉพาะตัวของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ 4.Metaverse โลกเสมือนจริงที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้คนได้มาร่วมทำกิจกรรมด้วยกัน

ททท.จะพัฒนาด้วยตนเองหรืออาจจะเข้าไปร่วมกับผู้สร้างแบรนด์ กำลังพัฒนาอยู่ด้วย เพื่อให้ครอบคลุมการใช้งาน เช่น 1.Crypto Currency จะดึงทั้งกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้เสนอเงินคริปโตหรือสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มมีศักยภาพสูงเข้ามาใช้จ่ายเงินเดินทางเที่ยวในเมืองไทย โดยจะต้องพยายามผลักดัน “สถานประกอบการต่าง  ๆ ในประเทศไทย” เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และอื่น ๆ เร่งสร้างระบบนิเวศน์หรือ Eco System ให้มีความพร้อมเพื่อเตรียมรองรับตลาดดังกล่าว ซึ่งจะผลักดันการพัฒนาลงถึงรากหญ้าเพื่อกระจายเม็ดเงินเข้าถึงทุกกลุ่ม

 

2.“NFT” หรือทรัพย์สินดิจิทัลอีกรูปแบบ ส่วนใหญ่จะเป็นงานศิลปะ ดนตรี รูปภาพ งานจิตรกรรม ต่าง ๆ เหล่านี้ ปัจจุบันมี Digital Artist อยู่เป็นจำนวนมากได้สร้างสรรค์งานศิลปะเพิ่มขึ้นมา ตอนนี้มีหลายแพลตฟอร์มเริ่มเปิดตัวไปแล้ว ทาง ททท.เข้าไปพูดคุยด้วยกับบางกลุ่ม เพื่อนำศิลปะเหล่านี้นำเสนอในชุมชนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจใหม่ในท้องถิ่นขึ้นมา ช่วยทำให้เกิดการพัฒนาอัตลักษณ์อันโดดเด่นของแต่ละชุมชน ขณะเดียวกันก็ยังสามารถเรียนรู้ช่องทางใหม่ ๆ ด้วยการนำเสนอสินค้าผ่านช่องทางใหม่ ๆ ใน NFT ด้วยก็ได้

 

ขณะเดียวกัน ททท.ก็มองว่า การเดินทางแต่ละคน เป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าแตกต่างกันไป จึงจะเข้าไป “กำหนดเส้นทาง” ที่มีเอกลักษณ์ตามโดดเด่น เพื่อตามรอยศิลปินเหล่านี้ ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไปทำกิจกรรมเช่นเดียวกันกับที่ศิลปินเหล่านี้ทำ แล้วเก็บสะสมไว้ในรูปแบบ NFT เพื่อนำไปแลกเป็น Token ต่าง ๆ แผนงานนี้ ททท.ได้คุยไว้กับระดับชุมชน หลายแพลตฟอร์ม หลายหน่วยงาน แล้ว

 

3.Token ททท.จะผลักดันเรื่อง Token Utility พร้อมใช้ เพื่อระดมทุนให้ผู้ประกอบการซึ่งกำลังต้องการฟื้นกิจการ ผนวกกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางตามรูปแบบใหม่ ๆ ซึ่งอยู่ในกระแสความสนใจต่อเนื่องมากขึ้น

 

4.Metaverse ททท.กำลังดูความเป็นไปได้ถึงการนำร่องสร้างขึ้นทดลองก่อนภายในหน่วยงาน เพื่อศึกษาเรียนรู้ เรื่องเทคโนโลยี การระดมเงินทุนต่าง ๆ ขณะเดียวกันหากมีหน่วยงานต่าง ๆ สร้าง Metaverse ขึ้นมาแล้ว ททท.อาจจะเข้าไปเช่าพื้นที่ เปิดสำนักงาน ททท.ให้ข้อมูลข่าวสาร แล้วก็โชว์ “ความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยว” ควบคู่กันไป

 

ตามแผน ททท.จะพัฒนาการสร้างควบคู่กับทั้ง 4 เรื่องไปด้วยกัน คือตั้งเป้าสร้าง “Virtual Influencer :ผู้มีอิทธิพลในโลกเสมือนจริง เป็นดิจิทัล” ตอบโจทก์เรื่องที่ปกติทำไม่ได้ จึงต้องตัวนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นตัวแทนคนไทย ไปชวนคนในโลกจักรวาลนฤมิต หรือ Metaverse มาเที่ยวโลกแห่งความเป็นจริงในเมืองไทยด้วย

 

ส่วนวิธีการสร้าง Virtual Influencer เปิดโอกาสให้คนไทยเข้ามาช่วยกันกำหนดรูปแบบ รูปร่าง หน้าตา ควรจะต้องเป็นอย่างไร หรือใครที่สนใจก็มาร่วมบันทึกรุปภาพ ใบหน้า ส่วนประกอบ แล้ว ททท.คัดเลือก รูปหน้า ดวงตา หรือบางส่วน นำมาเป็นส่วนหนึ่งในองค์ประกอบนี้ได้

 

นายนิธี กล่าวว่า การเดินหน้าใช้เทรนด์ทั้ง 4 เรื่องที่กล่าวข้างต้นมาขยายผลกับตลาดการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศนั้น ททท.กำลังศึกษาอย่างจริงจัง โดยจะตั้ง “หน่วยงานขึ้นมาโดยเฉพาะ” เพื่อขับเคลื่อนเรื่องนี้ ให้มีความคล่องตัว เกิดผลประโยชน์มหาศาล ที่จะได้ทั้งเรื่องข้อมูล หรือ DATA มากมาย ขณะเดียวกันก็จะทำให้คนไทยมีความพร้อมเข้าสู่โลกดิจิทัลมากขึ้น รวมทั้ง “ตลาดต่าง ๆ ในเซกเมนต์ดิจิทัล” เติบโตเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ดูจากการซื้อขายทรัพย์เหล่านี้ ซึ่งมีโอกาสที่ประเทศไทยจะก้าวไปเป็น Crypto Currency Destination หรือ Crypto Positive ทำให้คนถือคริปโตแล้วอยากเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทย

 

ส่วนการสร้าง “เส้นทางต้นแบบของการท่องเที่ยวในโลกเสมือนจริง” ผ่านระบบ Metaverse Tourism ขณะนี้กำลังรวบรวมเพื่อคัดเลือกแลนด์มาร์กหรืออัตลักษณ์ของแต่ละภูมิภาคมาสร้างสรรค์แล้วบรรจุไว้ใน Metaverse เพื่อให้คนได้เห็นถึงศักยภาพเมืองไทย ยืนยันว่าจะต้องทำอย่างแน่นอน แล้วเมื่อเกิดขึ้นก็ต้องทำให้เกิด “การซื้อขายจริง” หรือ Call to Action เพื่อจะให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง จึงต้องสร้างการเชื่อมต่อระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวโลกเสมือนกับโลกจริงเข้าด้วยกัน เมื่อเที่ยวโลกเสมือนจริงแล้ว สามารถจองโรงแรม จ่ายเงิน มาพักผ่อนจริงได้ ผ่านระบบ Metaverse

 

หรือ “การเรียนทำอาหารไทย” ผ่านโลกเสมือนจริง เมื่อเรียนแล้วสามารถสั่งวัตถุดิบอาหาร หรือ อยากจะมาชิมอาหารในไทยก็สามารถซื้อทัวร์มา ซึ่งเป็นความหลากหลายที่ไม่มีข้อจำกัด ทำได้จริง

 

นายนิธียืนยันว่า แผนงานดิจิทัลทั้งหมดจะเกิดเป็นรูปธรรมได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้ง 1.งบประมาณ 2.เทคโนโลยี 3.ความพร้อมของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งหมดจะต้องใช้เวลาช่วงปี 2565 ขับเคลื่อนร่วมกันตลอดทั้งปี ททท.ต้องเร่งทำอย่างเต็มที่

 

กล่าวโดยสรุปคือ ปี 2565 จะเป็นปีเตรียมการ ทดลองใช้งาน ปี 2566 เฟส 1 สามารถเริ่มให้เห็นผลก่อนได้ว่าความพร้อมการท่องเที่ยวเมืองไทยในโลก Metaverse เป็นอย่างไร

 

สำหรับการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการหรือสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เตรียมระบบนิเวศน์ หรือ Eco System นั้น ททท.ก็จะต้องเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ถึงเวลาต้องร่วมมือกัน“ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยก้าวสู่ ดิจิทัล อินดัสตรี” ต้องมี 1.การลงทุนทางดิจิทัล (digital investment) 2.นำนวัตกรรมหรือ Innovation เข้ามาใช้ 3.เข้าใจถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

 

ดังนั้นถ้าทุกคนพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อก้าวไปด้วยกันกับ ททท.ซึ่งจะต้องสร้างความรู้ ความเข้าใจ อบรม ให้ความรู้ ทำเวิร์คช้อปต่าง ๆ และทำโครงการร่วมกับผู้ประกอบการ การทำโครงการนำร่อง สาธิต ในโลกของ Metaverse ถึงการอยู่ร่วมกันต้องปฏิบัติอย่างไร ส่วนเทคนิคกลไกทางการตลาดอาจจะไม่ได้ต่างจากโลกจริงมากนัก แต่สิ่งสำคัญคือการจัดทำรายละเอียดเบื้องหลัง แบ็คอัพ ข้อมูล และอื่น ๆ ต้องมีความรู้ เข้าใจ ในระดับใกล้เคียงกัน เพื่อลดช่องทางของคนในอุตสาหกรรมให้ก้าวสู่โลกดิจิทัลอย่างสมบูรณ์

 

นายนิธี กล่าวถึงเรื่อง “การศึกษาความคุ้มค่าการนำดิจิทัลมาใช้ขยายผลในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว” ยอมรับช่วงเริ่มต้นลงทุนอาจจะมองว่าไม่คุ้มค่า แต่จะสร้างผลดีในระยะยาว จะทำให้มีความรู้ การพัฒนา ความเข้าใจ ทำการตลาดได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น สามารถทำแบรนด์ และขับเคลื่อนได้อย่างยั่งยืน ประการสำคัญยังสามารถทำให้เกิด “การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” โดยนำเทคโนโลยีหลายอย่างเข้ามาช่วย ซึ่งจะต้องมาดูถึงความคุ้มค่าในระยะยาวต่อไป

 

ส่วนแนวคิดพัฒนา “TAT COIN” ตอนนี้ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้เข้ามาดูแล้วพร้อมทั้งระบุว่าเป็น “ทรัพย์สินดิจิทัล” ที่ไม่ใช่เงินตรา คิดว่าในระบบนั้นทุกคนเริ่มเรียนรู้ มีความเข้าใจ ผู้ประกอบการได้ออกเหรียญหรือคอยน์ เป็นสัญญาณที่ดี ทาง ททท.หากปรับให้เกิดความเหมาะสมก็สามารถทำให้เกิดเหรียญใช้งานขึ้นได้

 

สุดท้ายอยากจะฝาก “ดิจิทัลกับการท่องเที่ยว” เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเทคโนโลยีได้ก่อให้เกิด Disruption หรือทำให้ธุรกิจหลายประเภทหยุดชะงักไปแล้ว ดังนั้นธุรกิจต่าง ๆ จึงต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้สอดคล้องกับ “พฤติกรรมของผู้บริโภค” ด้วย เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเรียนรู้ และทำความเข้าใจ เพราะไม่สามารถประมาทได้ว่าเทคโนโลยีที่เติบโตแบบก้าวกระโดดนั้นจะมาถึงตัวเราเมื่อไร ถ้าไม่มีความพร้อมก็จะถูกทิ้งไปและไม่สามารถปรับตัวได้อย่างแน่นอน จึงขอให้ทุกฝ่ายเริ่มปรับตัวและทำความเข้าใจกับเรื่องของดิจิทัลไว้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

คิงเพาเวอร์+สิงคโปร์แอร์แจกคูปองช้อป-ซื้อกิฟการ์ดรับกิฟการ์ดหมื่นบาท

 

คิง เพาเวอร์ มอบความพิเศษ! สิทธประโยชน์ลูกค้าที่จองตั๋วโดยสารสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส รับฟรี! คูปองส่วนลด 1,000 บาท เพื่อใช้ช้อป 5,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ  ตั้งแต่วันนี้- 30 มิถุนายน 2565  ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี (คิง เพาเวอร์ ศรีวารี เปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์) พัทยา ภูเก็ต และ คิง เพาเวอร์ สนามบินสุวรรณภูมิ และภูเก็ต  คลิกที่ : https://bit.ly/3AHlfh7

 

หรือจะเลือกซื้อแคชกการ์ด ภายใน 28 กุมภาพันธ์ 2565 แล้วช้อปสบาย คุ้มมากมายด้วย CASH CARD ซื้อ CASH CARD รับฟรี GIFT CARD สูงสุด 10,000 บาท

 

1.รับอั่งเปา GIFT CARD 3,000 บาท* เมื่อซื้อ CASH CARD มูลค่า 10,000 บาท

2.รับอั่งเปา GIFT CARD 10,000 บาท* เมื่อซื้อ CASH CARD มูลค่า 25,000 บาท

 

ปลดล็อกทุกความกังวลเหล่านักช้อป (1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2565 โดยผ่อน 0% x นานสูงสุด 10 เดือนรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3mboLds

 

ข่าวที่ 2 ช้อปคิงเพาเวอร์ FASCINATING PAYDAYแบรนด์ดังลดสูงสุดถึง60%

 

คิง เพาเวอร์ ชวนช้อปเลย! FASCINATING PAYDAY ช้อปสนุกทุกสิ้นเดือน พร้อมโปรโมชั่นพิเศษมากมาย สนุกdy[สินค้าแบรนด์ดัง เอาใจทุกสไตล์ ในราคาสุดคุ้มกว่าที่เคย ชิ้นนั้นก็ชอบ ชิ้นนี้ก็ใช่ เล็งอะไรไว้อย่ารอช้า!

 

1.ดีลสุดคุ้ม ราคาพิเศษ FASCINATING PAYDAY --- ลดสูงสุด 30% รหัสส่วนลด: FPFEBช้อปเลยที่ - https://bit.ly/3lqQOpX วันนี้  - 28 ก.พ.65

 

2.กดรับโค้ดจำนวนจำกัด! FASCINATING PAYDAY EXCLUSIVE CODE — ลดเพิ่มทันที 5% เมื่อช้อปครบ 5,000.- รหัสส่วนลด: FPFEB5 ติดตามได้ที่ - https://bit.ly/3f78Itr

 

ช้อป POWER DEAL ราคาพิเศษ เฉพาะ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ลดสูงสุด 60% ช้อปได้ทันทีไม่มีขั้นต่ำ และไม่ต้องใส่รหัสส่วนลดติดตามได้ที่ - https://bit.ly/3GlXGf6

 

โปรโมชั่น FASCINATING PAYDAY POWER DEAL ดีลสุดคุ้มราคาพิเศษ ให้คุณเลือกช้อปสินค้าแบรนด์เนมราคาพิเศษ SELECTED ITEMS มากมาย ทั้งน้ำหอม เครื่องสำอาง สินค้าแฟชั่น  ช้อปออนไลน์ได้ทุกวัน สะดวกง่ายแค่ปลายนิ้ว พร้อมรับสิทธิพิเศษอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

 

1.ลดเพิ่มอีก 5% เมื่อช้อปครบ 1,200 บาท เพียงใส่รหัสส่วนลด SV Code รับรหัสฯ ได้จากพนักงาน คิง เพาเวอร์ ทุกคน 2.ส่วนลดพิเศษ 200 บาท สำหรับลูกค้าใหม่ ที่สมัครสมาชิกออนไลน์ 3.แบ่งชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน

 

4.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000 บาท 5.พร้อมบริการ Home Delivery จัดส่งฟรีทั่วประเทศ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 699 บาทส่งฟรี! ทั่วประเทศ เมื่อช้อปครบ 699 บาทสุทธิ 7. แบ่งชำระ 0%* นานสูงสุดถึง 10 เดือน

 

ข่าวที่  3 มหานครคิวบ์จัดโปรซื้อบัตรเงินสด200บาทไทยเทสต์ฮับรับฟรีน้ำ2แก้ว

 

มหานคร คิวบ์ คิง เพาเวอร์ ชวนสนุกกับการถ่ายรูป Photobooth สุดชิค เมื่อซื้อบัตรเงินสดที่ ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ (𝗧𝗛𝗔𝗜 𝗧𝗔𝗦𝗧𝗘 𝗛𝗨𝗕 𝗠𝗔𝗛𝗔𝗡𝗔𝗞𝗛𝗢𝗡 𝗖𝗨𝗕𝗘) 200 บาท วันนี้- 28 กุมภาพันธ์ 2565 รับฟรีทันทีน้ำอัดลม 2 แก้ว

มหานคร คิวบ์ เปิดให้บริการทุกวัน  10:00 - 20:30 น.ชั้น 1 สถานีรถไฟฟ้า ช่องนนทรี ทางออก 3) โทร 02-677-8721

 

โปรโมชั่น Photobooth เป็นการซื้อบัตรเงินสดที่ไม่สามารถแลกคืนได้ ไม่สามารถใช้ร่วมกันส่วนลดอื่นๆ ได้ โดยให้ใช้สิทธิ์ในวันที่ถ่ายรูปและแลกบัตรเงินสดต้องเป็นวันเดียวกันเท่านั้น

 

ข่าวที่ 4 ททท.+ธุรกิจ50รายลุยขายไฮบริด“ช้อปแลกเที่ยว”ลด80%เริ่ม1มี.ค.-15เม.ย.65

 

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เตรียมจัดกิจกรรม “ช้อปแลกเที่ยว” ร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวกลุ่มไฮบริดช้อปปิง Super APP/ E-tailer/ E-Market Place จะจัดขึ้นตั้งแต่ 1 มีนาคม – 15 เมษายน 2565 ตามรูปแบบใหม่ไฮบริดช้อปปิ้ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการเดินทางในประเทศโดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

 

ททท.จะเชิญชวนผู้ประกอบการจากหลากหลายแบรนด์มอบส่วนลดให้ผู้บริโภคหรือนักท่องเที่ยวสูงสุดถึง 80% พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย ทั้ง 1.บัตรกำนัลแทนเงินสด (cash voucher) 2.ของขวัญ ทุกการซื้อสินค้าและบริการในโครงการจะสามารถนำใบเสร็จมาลุ้นแลกเที่ยวได้ผ่านช่องทาง LINE OA : @thailandgrandsale

 

ไฮไลต์โครงการนี้จะมีกิจกรรม Flash Sale ส่งท้ายลดครั้งใหญ่ ห้ามพลาด !!วันที่ 13 เมษายน 2565 เพื่อต้อนรับการเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์

 

นายอภิชัยกล่าวว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด – 19 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวปรับพฤติกรรมหันมาใช้ชีวิตด้วยดิจิทัลไลฟ์สไตล์อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ประเทศไทยมีคนกว่า 42 ล้านคน คิดเป็น 73 % ใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการผ่านระบบออนไลน์ ดังนี้น ททท. จึงใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนกิจกรรมทางการตลาดและประชาสัมพันธ์ กระตุ้นให้เกิดการออกเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

 

ททท.จึงได้จัดกิจกรรม “ช้อปแลกเที่ยว” ด้วยรูปแบบไฮบริดช้อปปิ้ง เปิดทางเลือกในการใช้จ่ายเงินออนไลน์กับออนไซต์ผสมผสานเข้าด้วยกันเพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป

 

มหกรรม “ช้อปแลกเที่ยว” นำร่องครั้งนี้ ททท. มุ่งกระตุ้นการใช้จ่ายและการเดินทางของนักท่องเที่ยว
โดยคัดเลือกสรรสินค้าและบริการให้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม ประกอบด้วยสินค้า 6 ประเภท ได้แก่

1.กลุ่มแฟชั่นและเสื้อผ้า 2.กลุ่มสุขภาพและความงาม 3.ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง 4.ของเล่นและผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก 5.ของตกแต่งและเครื่องใช้ในบ้าน สำนักงาน 6.อุปกรณ์ Gadget มือถือ

 

พร้อมกับบริการ 4 ประเภท ได้แก่ 1.ที่พัก 2.ยานพาหนะ 3.กิจกรรมท่องเที่ยว และ 4.บริการส่งอาหารถึงที่ หรือ Food delivery

 

สำหรับผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจ ติดตามข้อมูล  ได้ที่ Facebook : Amazing Thailand Grand
Sale หรือ IG : amazingthailandgrandsale หรือ www.amazingthailandgrandsale.com หรือ LINE OA : @ATGSMerchant (สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ)

ข่าวที่ 4 บางจากลุยCSRมอบ“ปฏิทินเก่าเราขอ”ผลิตสื่อทำหนังสือเบรลล์คนตาบอด

 

นางกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้นำทีมแทนพนักงานกลุ่มบางจากฯ ร่วมกันส่งมอบปฏิทินใช้แล้ว ภายใต้โครงการ “ปฏิทินเก่า...เราขอ” แก่มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์

 

ปฏิทินเก่าที่บริจาคครั้งนี้ได้รับมาจากพนักงานบางจากฯ และบริษัทในกลุ่มที่ร่วมปันน้ำใจนำมาบริจาค 1,300 ชิ้น เพื่อนำไปผลิตหนังสืออักษรเบรลล์สื่อการสอน แก่ผู้พิการทางสายตา สร้างโอกาสทางการเรียนรู้ และเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยนำวัสดุกลับมาใช้ซ้ำ ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy และลดการสร้างขยะ

 

โดยมี นางจรัสศรี ศรีมณี ผู้อำนวยการสำนักบริหาร มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นผู้รับมอบ โครงการนี้บริษัทบางจากฯ เริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

 

                ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยใกล้กรุง เตรียมตัวมาเช็คด่วน ๆ ที่ “สวนสัตว์ใหม่ธัญบุรี” ชม Mini Zoo คลอง 6 ปทุมธานี เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตั้งแต่ 13 มีนาคม 2565 เบาะ ๆ 5 โซน สนุก ๆ ขับรถมาได้เลยใกล้แค่นี้เอง เส้น รังสิต-องครักษ์ อยู่ระหว่างคลอง 6 กับ คลอง 7 ใกล้สนามกอล์ฟรอยัลเจมส์ จากนั้นดูแลสุขภาพกับ “อาหาร 5สีสุดยอดดูแลดวงตาคนยุคดิจิทัล” และข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “ไทยแอร์เอเชีย/AAV” ยอมรับปี’64 ขาดทุนอ่วม 1.17 หมื่นล้านบาท “โทนี่ เฟอร์นันเดส” ซีอีโอแคปิตัล เอ บริษัทแม่ลัดฟ้ามาเองเปิด “Airasia Supper App” อาวุธใหม่กู้ธุรกิจด้วยแพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์โลกออนไลน์ 4 บริการ ตั้งเป้าสำเร็จปี69 ได้ฐานลูกค้าถึง 104 ราย ข่าวที่สอง “การบินไทย” 28 ก.พ.65 ปิยะสวัสดิ์ อัมระนันทน์ นำแถลงผลงานปี64 ส่วนชาญศิลป์ ตรีนุชกร ชิงเผยข้อมูลปี 65 การบินไทยรายได้ลดหวังมี.ค.-เม.ย.นี้จะดีขึ้น

เช็คอิน “สวนสัตว์ใหม่ธัญบุรี” มินิซูคลอง6เปิดแล้ว13มี.ค.65ชม5โซนสนุก

ตั้งเข็มไมล์เตรียมเดินทางเช็คอิน แหล่งท่องเที่ยวใหม่ใกล้กรุง “สวนสัตว์ใหม่ธัญบุรี” Mini Zoo คลอง 6 ตำบลคลอง 6 อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ก่อสร้างบนที่ดินพระราชทานโดยในหลวงรัชกาลที่ 10 ขนาด 300 ไร่ มีอาณาบริเวณกว้างขวางกว่าสวนสัตว์เขาดินเดิมในกรุงเทพฯ เกือบสามเท่า ซึ่งเดิมมีที่ดินเพียง 118 ไร่เท่านั้น สถานที่แห่งใหม่เหมาะกับ เด็ก  ๆ ครอบครัว และคนเพศวัย ได้เข้าไปชมธรรมชาติ และสัตว์หาดูยาก ซึ่งดีไซน์ใหม่แบ่งโซนเป็นแต่ละทวีป การเลือกทำเลตั้งอยู่นอกเมือง บรรยากาศสงบอากาศดีกว่าเก่า ส่งผลดีต่อสัตว์จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

 

สวนสัตว์ดุสิต (เขาดิน) แห่งใหม่ ตั้งอยู่ระหว่าง คลอง 6 และ คลอง 7 ด้านฝั่งทิศใต้ของคลองรังสิต (อยู่ฝั่งถนนเลียบคลองรังสิต) ใกล้ ๆ สนามกอล์ฟรอยัลเจมส์ สามารถเดินทางเข้าถึงได้จากถนน รังสิต-นครนายก ไม่ยากเหมือนกับ กลุ่มอาคารพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ (ตึกลูกเต๋า) เช็คตำแหน่งที่ตั้งได้เลยที่ https://goo.gl/maps/ffvVDA8BGcrrDJ1v6

 

สวนสัตว์ Mini Zoo ธัญบุรี เปิดให้เข้าชม ฟรี!!! วันธรรมดา ตั้งแต่เวลา 9.30-16.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 8.30-17.30 น. และยังมีตลาดต้นไม้ ในวันเสาร์-อาทิตย์ ให้ช้อป ชิม ชิลล์ กันอีกด้วย

 

ขณะนี้ “องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เตรียมเปิดให้ประชาชนเข้าไปเที่ยว โดยมีโครงการ Mini Zoo ในสวนสัตว์แห่งใหม่ธัญบุรี เปิด “เข้าชมฟรี ในพื้นที่บริเวณ 14 ไร่ แบ่งเป็น 5 จุด

จุดที่ 1  พื้นที่ Mini Zoo 4 ไร่ เพลิดเพลินกับการชมโซน โดยจะจัดให้มีการแสดง 5 โซน ได้แก่

1.ทุ่งกระเรียนไทย 2.ส่วนแสดงสัตว์เลื้อยคลาน (เต่าซูลคาต้า, เต่าบึง) 3.ส่วนแสดงแรคคูน 4.ส่วนแสดงสัตว์ตระกูลลิง (ริงเทลลีเมอร์, ลิงกระรอก)  5.ส่วนแสดงหนูยักษ์คาปิบารา

รวมทั้งมี “ศาลาให้การเรียนรู้” ซึ่งได้แนวคิดในการดีไซน์มาจากจาก “ก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิต” แล้วจำลองมานำเสนอเป็นภาพแหล่งท่องเที่ยวสวยงามในสวนสัตว์แห่งใหม่ตั้งอยู่เหนือทุ่งกลางน้ำ

จุดที่ 2  โครงการตลาดต้นไม้ พื้นที่ 1 ไร่  เดินดูได้ตามบล็อกต่าง ๆ 10 บล็อก

จุดที่ 3  ร้านบริการอาหารเครื่องดื่ม  4 ร้าน

จุดที่ 4  โครงการตลาดนัดชุมชน จะนำเสนอสินค้าเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

 

จุดที่ 5 สิ่งอำนวยความสะดวกให้กับชุมชน เช่น ลานจอดรถ ได้ 220 คัน  ห้องน้ำ จุดคัดกรองตามมาตราการป้องกันโควิด-การเที่ยวชม

6. พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ สามารถจุคนได้ 200-500 คน

 

                สำหรับ “สวนสัตว์แห่งใหม่ธัญบุรี” ทยอยก่อสร้างโดยได้รับงบประมาณปี 2568 จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2570 เพื่อเนรมิตให้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ สัตว์ พืชพรรณ ธรรมชาติ แบบครบวงจร

               

ห้ามพลาด !! 13 มีนาคม 2565 ลองแวะมาชม Mini Zoo สวนสัตว์แห่งใหม่กันก่อนได้ เที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม

 

สุขภาพ -กินด่วนอาหาร5สีบำรุง“สายตาคนยุคดิจิทัล”รักษาการมองเห็นให้อยู่ยาว ๆ

 

สุขภาพร่างกายที่ดี นอกจากการออกกำลังกายแล้ว เรื่อง “การเลือกกินอาหารที่ดี” ก็เป็นปัจจัยหลักสำคัญที่ส่งผลต่อร่างกาย แต่หากพูดถึงอวัยวะที่สำคัญอย่างดวงตาแล้ว ในยุคดิจิทัล ผู้คนใช้ดวงตาหนักมากทั้ง จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ แชทไลน์ เล่นโซเชียล หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ  จึงขอนแนะนำสุดยอดอาหาร 5 สี ที่จะช่วยบำรุงสายตาของเราให้แข็งแรง สดใส อยู่กับเราไปนาน ๆ ดังนี้

 

1.อาหารสีแดง ช่วยบำรุงสายตา ชะลอจอประสาทตาเสื่อม เพราะอาหารสีแดงมีสารซีแซนทีน ทำหน้าที่ช่วยกรองหรือป้องกันรังสีจากแสงแดดที่เป็นอันตรายต่อดวงตา และช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลาย พบใน “ผลโกจิเบอร์รี่” ดังนั้นใครที่ชอบผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ แนะนำเลยทั้งรสชาติอร่อย ทั้งบำรุงสายตา

 

2. อาหารสีเหลือง ช่วยลดความเสี่ยงโรคต้อกระจก เพราะมีสารซีแซนทิน สารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยปกป้องดวงตาคุณ ซึ่งสารเหล่านี้ทำหน้าที่ดูดซับแสงส่วนเกินและป้องกันไม่ให้แสงทำลายเลนส์ตาของคุณ เช่น พริกหยวกเหลือง ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมสูง ซึ่งพริกหวานสีเหลืองจะมีวิตามินมากกว่าพริกหวานสีส้มถึง 4 เท่า กินแล้วดีต่อสายตาแน่นอน

 

3. อาหารสีเขียว ช่วยป้องกันต้อกระจก เพราะมีสารลูทีน พบมากในพวกผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า และสวิสชาร์ด ถ้าทราบกันแล้ว อย่าลืมทานผักกันเยอะๆ นะ รับรองไม่อ้วน แถมยังมีประโยชน์ต่อทุกส่วนในร่างกายอีกด้วย

 

4. อาหารสีม่วง ยับยั้งปัญหาตามวัยสำหรับผู้สูงอายุ เพราะมีสารแอนโทไซยานิน และสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งสารชนิดนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมของสารสีที่ทำให้ตาพล่ามัวในช่วงวัยสูงอายุ มักพบในเปลือกมะเขือม่วง ดอกอัญชัน และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

 

5. อาหารสีส้ม ป้องกันการเกิดโรคตาบอดตอนกลางคืน เพราะมีสารเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ และลูทีน พบได้ในผักสีส้มทุกชนิด เช่น “แครอท” ประโยชน์เยอะแบบนี้ สามารถเลือกมาทำอาหารเมนูต่าง ๆ รับประทานได้ทุกวัน

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก แอร์เอเชียแจงปี64ขาดทุน1.17หมื่นล้าน-ซีอีโอCapital AชูAsiaSuperAppฟื้นบิน

บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV รายงานผลประกอบการปี 2564 ไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ระบุขาดทุนจากกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม11,786 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ได้เริ่มปรับโครงสร้างด้วยวิธี 1.ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนและหุ้นกู้แปลงสภาพ 2.เพิ่มทุนใน บริษัทไทยแอร์เอเชีย จำกัด 3,900 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจาก 55.0 เป็น 69.2 % 

 

ปี 2564 บริษัท ไทยแอร์เอเชีย  จำกัด 1. มีค่าใช้จ่ายอื่น 3,900.0 ล้านบาท หลัก ๆ ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 3,654.4 ล้านบาท 2.พลิกจากกำไรสูงขึ้นจากปี 2563 รวม 545.6 ล้านบาท 3.มีรายได้อื่นรวม679.0 ล้านบาท  เป็นผลกำไรจากตราสารอนุพันธ์391.2 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 37.2 ล้านบาท

           

            ทั้งนี้ ใตรมาส 4 ปี 2564 บมจ. ไทยแอร์เอเชีย มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 4,211.6 ล้านบาท ลดลง 22 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 5.426.0 ล้านบาท

 

            นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น และ บจ. ไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ปี 2564 ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 ทำให้ช่วงไตรมาส 3 ที่จำเป็นต้องหยุดบินชั่วคราวทุกเส้นทางตามนโยบายรัฐบาล ส่งผลโดยตรงต่อสภาพคล่องเเละกระเเสเงินสด นำไปสู่การปรับตัวครั้งใหญ่ด้วยการลดขนาดองค์กรให้เหมาะสม ช่วงปลายปีจึงหาเงินทุนปรับโครงสร้างกิจการสำเร็จ

 

            รวมทั้งยังได้การขยายธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศหรือ Cargo ทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำ และปรับโฉมสร้างแบรนด์ “airasia Super App” ลุยขยายธุรกิจไลฟ์สไตล์ สร้างฐานลูกค้าขนาดใหญ่และครอบคลุมขึ้น ต่อยอดธุรกิจสายการบินได้มากขึ้น

 

ปี 2565 ไทยแอร์เอเชีย ตั้งเป้าเพิ่มบริการขนส่งผู้โดยสาร 12.3 ล้านคน อัตราขนส่งผู้โดยสาร 78 % โดยวางแผนคืนเครื่องบินหมดอายุตามสัญญาเช่าและหมุนเวียนเครื่องบินภายในกลุ่มแอร์เอเชีย จะมีฝูงบินตลอดปี53 ลำ

 

ส่วนกลยุทธ์จะเร่งฟื้นธุรกิจกลับมาโดยเร็วจาก 1.เพิ่มความถี่และเส้นทางบินภายในประเทศกลับมาให้ครบ 100 % พร้อมเปิดเส้นทางระหว่างประเทศได้ต่อเนื่องต่อไป 2.ใช้สนามบินสุวรรณภูมิฐานปฏิบัติการการบินในประเทศ สร้างโอกาสเปิดบินระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 3.พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพิ่มความสะดวกปลอดภัย ลดการสัมผัส ผ่านระบบจดจำใบหน้าในเร็ววันนี้

 

นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มแคปปิตอล เอ (Capital A)  บริษัทโฮลดิ้งด้านการลงทุนที่ประกอบไปด้วยกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของแอร์เอเชีย บินมาไทยพร้อมกับเปิดตัวโครงการใหม่ “airasia Super App” เป็นสุดยอดเเอปพลิเคชั่นไลฟ์สไตล์ในไทย ตลาดท่องเที่ยวเเละไลฟ์สไตล์อาเซียนขนาดที่ใหญ่เมีศักยภาพพร้อมเติบโตมากที่สุด ตั้งเป้า 5 ปี จะสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่ซึ่งไม่ได้มาจากสายการบินในสัดส่วน 50 % จากปัจจุบัน airasia Super App มีผู้เข้าเยี่ยมชมเดือนละกว่า 50 ล้านคน คาดการณ์อีก 4 ปีหน้า ปี 2569 ว่าจะมีผู้ใช้งานเดือนละกว่า 104 ล้านคน

 

 

โดยจะใช้ฐานลูกค้าของแอร์เอเชียซึ่งเป็นผู้นำในอาเซียน ต่อยอดกับเทคโนโลยีเเละนวัตกรรมขยับขึ้นเป็น ซูเปอร์แอป ที่จะเข้าถึงการใช้ชีวิตประจำวัน และเทรนด์ไลฟ์สไตล์ในอนาคต จากการคัดสรรค์สินค้าผลิตภัณฑ์เพร้อมบริการหลากหลายตอบสนองลูกค้าทุกเพศทุกวัย

 

นายวรุฒ วุฒิพงศาธร กรรมการผู้จัดการใหญ่ airasia Super App ประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่ใหญ่ มีโอกาสและการเติบโตสูง ไม่เฉพาะจุดเเข็งด้านการท่องเที่ยวชั้นนำในภูมิภาค แต่รวมไปถึงธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน ที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ ด้วย 4 บริการหลักดังนี้

1.บริการด้านการท่องเที่ยว :airasia Travel ภายในปี 2569 จะขยายพันธมิตรสายการบินภายในประเทศ เพื่อเพิ่มยอดจองเที่ยวบินเติบโต 20 เท่า และขยายจำนวนพันธมิตรโรงเเรม ลุยตลาดเเพคเกจเที่ยวบินพร้อมที่พักราคาพิเศษ เติบโต 40 เท่า  

                2.บริการอาหาร : airasia Food) ปี 2565 เดินหน้าขยายพื้นที่บริการทั่วเขตปริมณฑล และทุกภูมิภาคทั่วประเทศ มุ่งคัดสินค้าคุณภาพและส่งเสริมให้ร้านค้ารายย่อยที่มีคุณภาพมีช่องทางการขาย โดยเสียค่าบริการแพลตฟอร์มน้อยที่สุด

 

3.บริการขนส่ง : airasia Xpress ปี 2565 ตั้งเป้าให้บริการขนส่งแบบ door to door ภายในจังหวัด และขนส่งแบบข้ามจังหวัดในอนาคต โดยมุ่งหวังส่งเสริมการบริการการขนส่งด่วน ให้ลูกค้าได้รับความสะดวกและคุ้มค่าที่สุด

 

4.บริการซูเปอร์แอพ : airasia Super App ในประเทศไทย เพิ่มบริการใหม่กลุ่มไลฟ์สไตล์ อีคอมเมิร์ช และฟินเทค อย่างน้อยปีละ 1-2 บริการ

 

ข่าวที่สอง “ปิยะสวัสดิ์”เตรียมแถลงผลงานบินไทยปี’64-ชาญศิลป์ชิงโชว์ข้อมูลรายได้ปี’65

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เตรียมเปิดแถลงผลการดำเนินงานปี 2564 โดยมีนายปิยะสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทย

 

ขณะที่ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร หนึ่งในคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยก่อนหน้าการเปิดแถลงผลการดำเนินงานการบินไทยปี 2564 กล่าวถึงสถานการณ์รายได้ของการบินไทยปี 2565 ช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. 2565 การบินไทยมีรายได้รวมลดลงเล็กน้อย จากไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน พร้อมคาดการณ์ช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. 2565 จะปรับตัวดีขึ้นอีกครั้ง จนส่งผลให้บริษัทจะมีรายได้รวมตลอดทั้งปีมากถึง 50,000-60,000 ล้านบาท เฉลี่ยเดือนละ 4,000-5,000 ล้านบาท จากสถานการณ์ปกติเคยมีรายได้รวมปีละกว่า 1 แสนล้านบาท

 

พร้อมทั้งยืนยันอนาคตอีก 2-3 ปีหน้า รายได้จะกลับสู่ปกติได้ปีละ 1 แสนล้านบาท เนื่องจากจำกัดเครื่องบินใช้งานไว้เพียง 61 ลำเท่านั้น จากอดีตมีเครื่องใช้100 ลำ ขณะนี้การบินไทยพยายามปรับโครงสร้างรายได้ใหม่ระหว่างผู้โดยสารกับการขนส่งสินค้าเป็น 50 : 50 จากเดิมรายได้จากผู้โดยสารถึง 70%

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.