“CEAเปิด MOU "ททท.-TCEB”ลุยโปรเจ็กต์SOFT POWER ขาย“เทศกาล+กิจกรรม”บูมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ชิงเค้ก1.51ล้านล้าน
“CEA”กอดคอ“ททท.-TCEB”เดินหน้าลุยโปรเจ็กต์SOFT POWER
ขาย“เทศกาล+กิจกรรม”บูมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ชิงเค้ก1.51ล้านล้าน
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #CEA #TAT #TCEB #SoftPower #เศรษฐกิจสร้างสรรค์
CEA ควง “ททท.-TCEB” เอ็มโอยูเดินหน้าลุย “โครงการส่งเสริมเทศกาลความคิดสร้างสรรค์และกิจกรรมย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์” สร้างพลัง Soft Power วัฒนธรรม งานเทศกาลย่านเมือง/ชุมชน ผงาดชิงเค้กรายได้ปี’65 มูลค่า 1.51 ล้านล้านบาท
นายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) : CEAเปิดเผยว่า CEA ร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ 2 องค์กร
คือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย : ททท. และ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เดินหน้า “โครงการส่งเสริมเทศกาลความคิดสร้างสรรค์และกิจกรรมย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์”
ตั้งเป้า ร่วมมือกัน 3 ภารกิจหลัก คือ
1.ยกระดับขีดความสามารถการจัดเทศกาลความคิดสร้างสรรค์ขนาดใหญ่ไปสู่ระดับมาตรฐานสากล
สามารถดึงดูดนักสร้างสรรค์และนักท่องเที่ยวจากในประเทศและต่างประเทศ
2.สนับสนุนการจัดกิจกรรมความคิดสร้างสรรค์รูปแบบต่าง ๆ
ของย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์หรือเมืองสร้างสรรค์ นำไปสู่การสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมให้มีความโดดเด่น
3.เพิ่มปริมาณการค้าและการท่องเที่ยวบนพื้นฐานการพัฒนาย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่พัฒนาต่อยอดจากทุนทางวัฒนธรรมท้องถิ่นทั้งในเมืองหลักและเมืองรอง
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ปี 2565 คาดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์จะมีมูลค่า 1.51 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.57% จากปี 2564 มีมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1.45 ล้านล้านบาท ครั้งนี้ CEA จึงร่วมมือ ททท.และทีเส็บทำโครงการดังกล่าว ฝ่าความท้าทายในสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านเทคโนโลยีที่ส่งผลถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงควรใช้พลัง Soft Power และความคิดสร้างสรรค์ เป็นกลไกที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างมีคุณภาพ รวมทั้ง CEA เป็นองค์กรหลักที่มีภารกิจหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาและยกระดับเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืนระยะยาวตามนโยบายรัฐบาล
รายละเอียดใน MOU ครั้งนี้ มีข้อตกลงร่วมกัน 4 ข้อ คือ
1. สนับสนุนการจัดเทศกาลงานออกแบบ (Design Week) หรือเทศกาลความคิดสร้างสรรค์ (Creative Festival)
2. สนับสนุนการจัดกิจกรรมความคิดสร้างสรรค์ในรูปแบบต่าง ๆ บนพื้นฐานการพัฒนาย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์
3.สนับสนุนการพัฒนาหรือการจัดหาช่องทางและเครื่องมือในการสร้างภาพลักษณ์ และการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เทศกาลหรือกิจกรรมความคิดสร้างสรรค์
4. สนับสนุนการประสานงานองค์กรภาคีเครือข่าย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ
ทั้งด้านการจัดกิจกรรม ด้านการเดินทางและที่พักและด้านกฎระเบียบและมาตรการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเทศกาลความคิดสร้างสรรค์ที่มีชีวิตชีวาและเป็นที่น่าสนใจ
โดย “โครงการส่งเสริมเทศกาลความคิดสร้างสรรค์และกิจกรรมย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์” ทำผ่านการจัดกิจกรรม “เทศกาลงานออกแบบ” (Design Week) หรือ เทศกาลความคิดสร้างสรรค์ (Design Festival) ซึ่งถูกจัดขึ้นตามเมืองใหญ่ทั่วโลกกว่า 150 เมือง ในประเทศไทย CEA จัดขึ้นครอบคลุมทั้ง 3 ภูมิภาค ได้แก่
1.เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ หรือ Chiang Mai
Design Week
2.งานเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ หรือ Isan Creative
Festival ณ จังหวัดขอนแก่น
3.เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ หรือ Bangkok Design
Week เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในประเทศ
พัฒนาย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อยกระดับให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยการออกแบบ และเป็นสิ่งสำคัญผลักดันระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นได้จริง
โดย CEA ได้งาน Bangkok Design Week จัดขึ้นระหว่าง 5-13
กุมภาพันธ์ 2565 ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
และกลุ่มนักออกแบบ ได้จัดงาน “เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ”
ภายใต้แนวคิด “Co With Creation คิด สร้าง
ทางรอด” โดยมีถึง200 โปรแกรม กระจายจัดพื้นที่
5 ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ได้แก่ ย่านเจริญกรุง-ตลาดน้อย ย่านสามย่าน ย่านอารีย์-ประดิพัทธ์ ย่านทองหล่อ-เอกมัย และย่านพระนคร
สถิติการจัดนำร่องจัดงาน เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ ครั้งแรกจัดเมื่อปี 2561 ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมีมูลค่ารวมถึง 750 ล้านบาท มีผู้เข้าชมกว่า 1.13 ล้านคน
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าปี 2565 ททท.ได้วางทิศทางการดำเนินงานตามแนวคิด“DASH” เพื่อร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจ ได้แก่ 1.D- Domestic Travel การส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ 2.A- Accelerate Demand การกระตุ้นอุปสงค์ 3.S – Shape Supply การสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีบนพื้นฐานความปลอดภัย ผ่านการส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจ สร้างความสมดุลทางด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม บนพื้นฐานของการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ และ 4.H - Healing the Economy ฟื้นประเทศด้วยการท่องเที่ยว
ควบคู่กับการปูพรมสร้างรากฐานสู่ “การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ” เน้นเรื่องคุณค่าและความยั่งยืน เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นและชุมชน สร้างความสมดุลระหว่างแหล่งท่องเที่ยว กับความต้องการของนักท่องเที่ยว ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและสารสนเทศ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกการเดินทางพัฒนาขีดความสามารถให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและเติบโตอย่างเข้มแข็ง พร้อมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันในระยะยาว
ททท.พร้อมจะร่วมกับ CEA และทีเส็บผลักดัน Soft Power เข้ามาเพิ่มปริมาณการค้าขาย และการท่องเที่ยวบนพื้นฐานการพัฒนาในย่านต่าง ๆ ในวงกว้าง ด้วยกลยุทธ์การส่งเสริมให้เกิดกิจกรรม เทศกาล อีเว้นต์ โดยใช้ทรัพยากรของแต่ละท้องถิ่น หรือทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ในประเทศไทย ก่อให้เกิดการพัฒนาย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์เติบโตไปข้างหน้าอย่างมีคุณภาพอย่างยั่งยืน
ขณะที่ นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” กล่าวว่า จะส่งเสริมและผลักดันอุตสาหกรรมไมซ์ให้เป็นเครื่องมือพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศด้วยนวัตกรรม เพื่อสร้างความเจริญ กระจายรายได้ไปสู่ทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน ทำให้ไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางด้านธุรกิจชั้นนำของเอเชีย Soft Power ถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
“โครงการส่งเสริมเทศกาลความคิดสร้างสรรค์และกิจกรรมย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์” นั้นสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ และเศรษฐกิจด้วย “งานเทศกาล-Festival Economy” ตามที่ได้ด้กำหนดเป้าหมายภายใน 5 ปีหน้าจะทำให้ไทยเกิด “หนึ่งเมือง หนึ่งงานเทศกาลนานาชาติ” เป็นช่องทางเพิ่มมูลค่า ยกระดับ และส่งออกงานเทศกาลอันเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละเมืองให้ทั่วโลกรู้จักเป็นอย่างดี
สำหรับ Festival
Economy ทางทีเส็บตั้งเป้าให้เป็นเครื่องมือดึงดูดกลุ่มนักเดินทางคุณภาพที่มีกำลังซื้อสูง
ซึ่งเป็นกลุ่มที่หลงใหลในวัฒนธรรมต่างถิ่นและชอบแสวงหาประสบการณ์รูปแบบใหม่
ให้เดินทางเข้ามาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจเมืองและชุมชนผ่านการจัดงานเทศกาลได้ รวมทั้งเป็นเครื่องมือสร้างเศรษฐกิจ
กระจายรายได้ กระจายความเจริญ ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพของเมือง
พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรภายในพื้นที่ เกิดการพัฒนาครบทั้ง 3 ด้าน
คือ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น