วิสุทธิ์ สุขภัทราพิรมย์”หมอผู้ตกหลุมหลงรัก“ท้องทะเลอันดามัน” นำ“เจ้าหญิงน้อย”ซูเปอร์ยอร์ชแบ่งปันความรักนักเดินทางทุกวัย
“วิสุทธิ์ สุขภัทราพิรมย์”หมอผู้ตกหลุมหลงรัก“ท้องทะเลอันดามัน”
นำ“เจ้าหญิงน้อย”ซูเปอร์ยอร์ชแบ่งปันความรักนักเดินทางทุกวัย
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #ซูเปอร์ยอร์ชเจ้าหญิงน้อย #หลงรักทะเลอันดามัน #หลงรักสิมิลัน
เจ้าของซูเปอร์ยอร์ช “เจ้าหญิงน้อย” และประธาน บริษัท ADSGO DRUGS
“นายสัตวแพทย์วิศุทธิ์ สุขภัทราพิรมย์” คุณหมอเกษียณอารมณ์ดีวัย 66 ปี เจ้าของซูเปอร์ยอร์ช “เจ้าหญิงน้อย” และประธาน บริษัท ADSGO DRUGS ผู้ตกหลุมรักธรรมชาติเหนือผืนน้ำและโลกใต้ทะเลอันดามัน ได้ส่งเสียงบอกเล่าเรื่องราวผ่านโทรศัพท์ถึงการใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุขอยู่กับการได้ปล่อยพลังดำน้ำลึกหรือ Scuba dive ดิ่งลงสู่ใต้อันดามันวันละ 5 dive ทริปละ 3-4 คืน ต่อเนื่องกันตราบเท่าที่เกาะสิมิลันเปิดให้นักดำน้ำได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระในท้องทะเลอันมันเหนือและใต้
คุณหมอวิศุทธิ์
ย้ำหนักแน่นว่า “ชีวิตบั้นปลาย ควรใช้ชีวิตหาความสุข จะหาความทุกข์รึ?
จะไปหามาทำไม เงินที่หามาได้ พอตายบาทเดียวก็นำไปไม่ได้ แต่ตอนนี้มีชีวิตอยู๋ ก็ใช้ให้พออย่างมีความสุข”
แล้วคุณหมอก็เริ่มเล่าเรื่อง “เจ้าหญิงน้อย” ตอนนี้ได้ชื่อว่าเป็นซูเปอร์ยอร์ชบริการนักดำน้ำสวยสุดในอันดามันซูเปอร์ยอร์ช สวยที่สุดแห่งอันดามัน มีขนาด 15 ห้อง แบ่งเป็น ห้องพักธรรมดา 12 ห้อง ห้องพักสวีท 3 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกเทียบชั้นโรงแรม 5 ดาว
ซูเปอร์ยอร์ชลำนี้ลงทุนไปราว
90 ล้านบาท
ขนาด 500 ตันกร๊อส
สูง 6 ชั้น ต้องบริหารจัดการดูแลบำรุงรักษาสูงมาก
ด้วยความที่ผมอยากเที่ยว อยากล่องเรือ หลังจากแบ่งทรัพย์สินให้ครอบครัว ภรรยา ลูก แบ่งไว้รักษาชีวิต
ส่วนที่เหลือก็นำมาใช้เติมประสบการณ์ความสุขของชีวิตตัวเอง เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
นักเดินทางบนเรือลำนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มพิเศษขนาดเล็ก
ๆ ที่ชื่นชอบการดำน้ำลึกเป็นชีวิตจิตใจ บ้าพลัง รวมทั้งจะรู้จักมักคุ้นกัน มีทุกวัยทุกกลุ่ม
ทั้งผู้มีชื่อเสียง ศิลปิน ดารา และหลากหลายอาชีพ ประการสำคัญผู้ที่หลงรักเที่ยวซูเปอร์ยอร์ชนั้น
จะต้องเป็นคน “มีเงิน” ด้วย
ในเมืองไทยมีเรือซูเปอร์ยอร์ชที่นำมาบริการดำน้ำลึกราว
30-50 ลำ “เจ้าหญิงน้อย” เป็นหนึ่งในซูเปอร์ยอร์ชของกลุ่ม
“คนหลงรักการดำน้ำในอันดามัน” ซึ่งแต่ละคนมีใบอนุญาตดำน้ำลึก Scuba Dive
ที่มักจะปักหมุดดำน้ำลึก 2 เส้นทางความสุข
คือ
เส้นทางที่ 1 อันดามันเหนือ บริเวณอุทยานแห่งชาติเกาะสิมิลัน ซึ่งจะเปิดปีละเพียง 6 เดือนเท่านั้น เรือแต่ละที่จะนำนักท่องเที่ยวไปดำ จะต้องได้รับอนุญาตจากทางอุทยานแห่งชาติจึงจะเข้าไปดำน้ำตามเกาะแก่งเล็ก ๆ รอบสิมิลันได้
เส้นทางที่ 2 อันดามันใต้ ก็ลงไปถึงเกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล
“เจ้าหญิงน้อย”
ไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปใช้บริการ จะต้องเป็นกลุ่มเฉพาะ ก่อนจะมาใช้ชีวิตบนเรือจะต้องไปเรียนคอร์สดำน้ำลึกมาก่อน
รวมทั้งต้องมีใบอนุญาตอย่างเป็นทางการจากองค์กรมาตรฐานที่ได้การรับรองด้านการดำน้ำ
เช่น NAVY หรือ PADDY
เพราะคนปกติถ้าจะมาเที่ยวบนซูเปอร์ยอร์ชลอยเท้งเต้งอยู่กลางทะเลโดยไม่ชอบการดำน้ำ ก็ไม่รู้ว่าจะมากันทำไม
คนที่ยอมเสียเงินครั้งละหลายหมื่นบาท ต้องเป็น “คนที่หลงรักการดำน้ำ” จริง ๆ
ในแต่ละวันนักท่องเที่ยวของ
“เจ้าหญิงน้อย” กลุ่มบ้าพลังจะดำน้ำลึกวันละ 5 dive เริ่มตั้งแต่ตื่นขึ้นมาก่อนกินอาหารเช้า
1 Dive หลังอาหารเช้า
1 dive ระหว่างวันจนถึงเย็นอีก
2 dive ปิดท้ายกลางคืนอีก
1 nightdive
“ผมเป็นคนชอบทะเลมาก” สมัยก่อนมียอร์ช 7-8 ลำ แต่เมื่อ 5 ปีก่อน “เจ้าหญิงน้อย” ลำก่อนจมทะเลแถวเกาะตาชัย ส่วนผู้โดยสารรอดปลอดภัยทั้งหมด จากนั้นก็เลยมาสร้าง “เจ้าหญิงน้อย” ลำปัจจุบัน ตอนนี้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุด ใช้สีทอง สไตล์เรือใหม่ มี 3 เครื่องยนต์ เป็นซูเปอร์ยอร์ชที่ตั้งใจทำให้เป็นยอร์ชสมัยใหม่สามารถดำน้ำได้ บนเรือทุกห้องพักมีห้องน้ำในตัว ตกแต่งห้องแบบโรงแรม 5 ดาว
ปัจจุบันลูกน้องทำแพกเกจขายเพื่อเลี้ยงตัวไป
แต่ละทริปรวม ๆ ต้นทุนจะประมาณ 600,000-700,000 บาท/ลำ ก็ต้องไปขายรวม ๆ ทริปละ 5 วัน 4 คืน ให้ได้เพื่อทำกำไรบ้างเล็กน้อย
ทริปละ 100,000 บาทขึ้นไป
เนื่องจากทางทีมงานต้องดูแลนักท่องเที่ยวครบวงจร ตั้งแต่ อาหารทุกมื้อ การอัดออกซิเจนลงถังดำน้ำ
และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในเรือทั้งหมด ยกเว้น “พอลงใต้น้ำ”
นักท่องเที่ยวจะต้องมีครูหรือบัดดี้มาเอง เป็นไปตามกฎสากลในการดำน้ำลึก
สำหรับ “นักลงทุน” ที่คิดจะทำธุรกิจซูเปอร์ยอร์ช ต้องประเมินสถานการณ์ให้ดี ๆ เพราะธุรกิจนี้มีค่าใช้จ่ายสูงมาก โดยเฉพาะ “ค่าดูแลบำรุงรักษาเรือ” ทั้งบนบกและในน้ำ ค่าสีแพงมโหฬาร ถ้าไม่รัก ไม่ชอบจริงจัง อย่ามาลงทุน
“ผมเอง”
ลงทุนเพราะใจรักมากจริง ๆ โดยต้องหาวิธีบริหารจัดการต้นทุนการดูแลรักษา
บวกกับจะต้องหาช่องทางให้พนักงานผู้ดูแลมีงานทำสร้างรายได้ไปด้วยในตัว เพราะถึงอย่างไรก็ต้องจ้างคนมาดูแลแบบประจำอยู่แล้ว
หรือการออกทริป
เฉพาะค่าน้ำมันอย่างเดียวต้นทุนค่าใช้จ่ายก็ทริปละไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท แล้ว
ค่าอาหารอีก 100,000 บาท/ทริป
ค่าจอดเรือ ค่าจ้างพนักงาน และอื่น ๆ แถมอุทยานแห่งชาติในอันดามันก็เปิดให้เข้าไปได้แค่
6 เดือน
จะหาลูกค้ามาซื้อแพกเกจก็มีจำนวนไม่ได้มาก อย่างเก่ง “เจ้าหญิงน้อย” ทำได้ปีละ 24 ทริป เอาจริง
ๆ มีกำไรเบื้องต้นแต่จะเป็นกำไรสุทธิหรือเปล่าไม่แน่นอน อาศัยใจรักและชอบดำน้ำ
คุณหมอวิศุทธิ์
ฝากถึงคนที่คิดจะทำ “ธุรกิจเรือ” นั้น บอกได้เลยว่า
“การจะทำกำไร” นั้นยากจริง ๆ วงจรชีวิตซูเปอร์ยอร์ช ถ้าบำรุงรักษาดี ๆ อาจจะอยู่ได้
40 ปี
แต่ก็ต้องบอกว่า “ต้องใช้บำรุงรักษามหาศาล” ด้วยเช่นกัน
สำหรับ “นายแพทย์วิศุทธิ์
สุขภัทราพิรมย์” เป็นผู้บุกเบิกก่อตั้งธุรกิจอาหารเสริมยุคแรกของเมืองไทย ในนาม ADSGO เน้นทางด้าน
การพัฒนา ค้นคว้า วิจัย ประเมินผล (RD : Reserch Develment & Evaluation) แล้วรับจ้างผลิตให้กลุ่มเครือข่ายสมาชิก
สำหรับธุรกิจ “ซูเปอร์ยอร์ด-เจ้าหญิงน้อย” คุณหมอวิศุทธิ์ยืนยันว่าเป็นงานอดิเรก ทำเพราะรัก แล้วก็เพื่อให้คนที่มาใช้บริการท่องเที่ยว ได้มาแชร์ค่าใช้จ่ายแล้วได้รับประสบการณ์ดี ๆ ส่วนบุคลากรบริการบนเรือจะต้องฝึกอบรมดูแลลูกค้าทุกคนเป็นอย่างดี
แต่ละคนล้วนมี “ความรัก” แตกต่างกันไป “คุณหมอวิศุทธิ์ สุขภัทราพิรมย์” วัย 6 ทศวรรษครึ่ง นับเป็นอีกบุคคลที่สะท้อนประสบการณ์ “ความรัก” ด้วยการใช้ชีวิตบั้นปลายดำรงอยู่อย่างมีความสุข
เป็น “ความรัก”
แบบแบ่งปันให้กับเครือข่าย “ผู้หลงรัก” ซูเปอร์ยอร์ช “เจ้าหญิงน้อย” ที่เลือกท้องทะเลอันดามันเป็นเพื่อนแท้
ให้ธรรมชาติได้ทำหน้าที่ “มอบความรัก” อย่างจริงใจกับทุกคนโดยปราศจากเงื่อนไขใด ๆ มาร่วมกันดูแลรักษาความรักทะเลเมืองไทยให้ยั่งยืนไปด้วยกัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น