ททท.ภูเก็ตส่งสัญญาณบวกไฮซีซันปลายปี’65ธุรกิจฟื้นรับไทย-ต่างชาติ โรงแรมแสนห้องพร้อมบริการ+20แอร์ไลน์นำเข้าเฉียด7แสนคน/เดือน 5ชาติเฮเที่ยว“อินเดีย”แชมป์

ททท.ภูเก็ตส่งสัญญาณบวกไฮซีซันปลายปี’65ธุรกิจฟื้นรับไทย-ต่างชาติ

โรงแรมแสนห้องพร้อมบริการ+20แอร์ไลน์นำเข้าเฉียด7แสนคน/เดือน

5ชาติเฮเที่ยว“อินเดีย”แชมป์-ทัวร์คุณภาพทั่วโลกแห่ร่วมแข่งเรือใบ/เซิร์ฟ

คิง เพาเวอร์เสิร์ฟ35ร้านดังไทยเทสต์ฮับรางน้ำ+มหานครคิวอร่อยถึงบ้าน

สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์4สนามบินรับเลยคูปองลดดิวตี้ฟรี+ป้ายฟ้า30%

ททท.นำเอเปกชมความสำเร็จBCGโมเดลชุมชน”ตลาดน้อย-สวนสามพราน”

“TCEB”ชี้เป้าจัดไมซ์ไทย“พูลแมนขอนแก่น”อีสาน“คริสตัลสงขลา”ภาคใต้

บางจากเปิดวาร์ปเติมปั๊มบางจากจ่ายผ่านบัตรกรุงศรีรับเงินคืน6พันบาท

แอ่วลำปางเที่ยวกรีนๆเขียวสนุกทุกวันวัดรัตนคูหา-ย่านสบตุ๋ย-บ้านทุ่งฮี

6 สิ่งที่ควรทำ”ก่อนนอน”ตื่นเช้าวันใหม่“ถ่ายคล่อง”สุขภาพสดชื่นดีต่อใจ

SPAลุยร่วมทุนเอมาราเอเชียชิงผู้นำบุกธุรกิจกัญชาการแพทย์Q4ปี65

ดุสิตธานีQ2ปี65ฟื้นโรงแรม+การศึกษา+อาหารโต78%ดันครึ่งปีแรกฉลุย

 

 วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก # 

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/f1whSMcAfY/

ช่วงที่ 1 เปิดสัญญาณบวกธุรกิจท่องเที่ยว กับ “นางสาวนันทศิริ รณศิริ” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต ไฮซีซันนี้โรงแรมทั่วเกาะกว่า 1 แสนห้องฟื้นตัวรับตลาดโลก 5 ประเทศมาแรง “อินเดีย” นำโด่ง 25 ส.ค.นี้ได้เอเย่นต์เมืองใหญ่มาจับคู่ธรกิจถึงภูเก็ต ทางด้านตลาดอังกฤษเหนียวแน่นมากติดทอปไฟฟ์ตลอด ททท.ใส่เกียร์เร่งหนุนกว่า 20 แอร์ไลน์ส และชาเตอร์ไฟลต์ คาดไตรมาส 4 ปีนี้สดใส นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติทะลักภูเก็ตเดือนละเฉียด 6.7 แสนคน ทุกภาคขอบคุณคนไทยช่วยประคองท่องเที่ยวรอดวิกฤตโควิด ส่วนทัวร์คุณภาพต่างประเทศเริ่มคึกคัก ร่วมแข่งเรือใบ แข่งเซิร์ฟ ก.ย.นี้ มีคิวขายเทศกาลถือศีลกินผักจัด กระหึ่มทั้งเกาะ

 

นางสาวนันทศิริ รณศิริ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต เปิดเผยว่า สถานการณ์ภาพรวมของการท่องเที่ยวภูเก็ตทั้งตลาดคนไทยและต่างชาติตั้งแต่มกราคม-ปัจจุบัน 2565 มีจำนวน 2,996,277 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเกินกว่า 100 % แบ่งเป็น “ต่างชาติ” เรียงตามลำดับ 5 อันดับแรก ได้แก่ อินเดีย ออสเตรเลีย สิงคโปร์ อังกฤษ มาเลเซีย โดยเฉพาะอังกฤษเป็นตลาดคุณภาพสูงตั้งแต่เปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปัจจุบันติด 1 ใน 5 มาตลอด

 

ส่วนอัตราการเข้าพักมกราคม-กรกฎาคม ทำได้เฉลี่ย 35 % ช่วยพยุงธุรกิจทั่วทั้งจังหวัดได้เป็นอย่างดี รวมทั้งหลายธุรกิจก็เตรียมทยอยเปิดบริการต้อนรับฤดูการท่องเที่ยวปลายปีนี้

 

สำหรับจำนวนห้องพักของโรงแรมในภูเก็ตทั้งหมดมีอยู่ประมาณ 101,221 ห้อง ขณะนี้เปิดบริการแล้วกว่า 70,000 ห้อง หรือคิดเป็นเกินกว่า 70 % คาดเตรียมพร้อมจะเปิดปลายปีนี้ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ชิค ๆ เก๋ ทยอยปรับโฉมเปิดสัปดาห์ 1-2 แห่ง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม

 

ผอ.นันทศิริ กล่าวว่า ตลาดอินเดียเดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ตมากสุด เนื่องจากมีเที่ยวบินตรงจากหลายเมืองเข้ามายังภูเก็ต จากเดลี มุมไบ บังกะลอร์ นิยมเลือกพักโรงแรมชายหาดหลักป่าตอง และกระจายไปตามหาดอื่น ๆ บ้าง มีวันพักเฉลี่ยสั้น ๆ แต่มีความถี่ในการเดินทางเข้ามาบ่อย โดยมีกลุ่มตลาด “คู่แต่งงาน/ฮันนีมูน” เช่าเหมาลำ กับกลุ่มตลาดระดับบนไฮเอนด์ ทาง ททท.ส่วนกลาง สำนักงาน ททท.ในอินเดียทุกเมือง และ ททท.ภูเก็ต

เมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ได้ร่วมกับเอกชนท่องเที่ยวภูเก็ตเดินทางไปทำโรดโชว์ 3 เมือง เดลี มุมไบ บังกะลอร์ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก ตามแผนเอกชนจะไปเดินทางไปทำโรดโชว์และเทรดโชว์ต่อเนื่อง รวมทั้งทาง ททท.สำนักงานเดลี กับมุมไม ส่งเอเย่นต์ทัวร์เดินทางมาภูเก็ต วันที่ 25 สิงหาคม นี้ จะทำ Table top Sale จับคู่เจรจาซื้อขายการท่องเที่ยวกันอีกครั้ง พร้อมทั้งพาสำรวจโปรดักซ์ท่องเที่ยวในภูเก็ตควบคู่กันไปด้วย

 

ขณะเดียวกันผู้ประกอบการท่องเที่ยวในภูเก็ตเตรียมพร้อมปรับตัวเพื่อรองรับตลาดอินเดีย เรื่องหลัก คืออาหารสไตล์มังสะวิรัต ททท.กับเอกชน หารือกับโรงแรม ร้านอาหาร สปา และบริการอื่น ๆ โดยเฉพาะตลาดคู่แต่งงาน ธุรกิจร้านดอกไม้และเกี่ยวข้อง หรือจะเป็นผู้ประกอบการทัวร์เรือ เช่น บริการล่องเรือคาตามารานไปเที่ยวเกาะเฮ  หรือจัดโปรแกรมเที่ยวทะเลครึ่งวัน ช่วงบายและดินเนอร์บนเรือช่วงมื้อค่ำ แล้วยังนิยมมาเดินช้อปปิ้งซื้อสินค้าย่านเมืองเก่า เติมเต็มการกระจายเม็ดเงินให้ผู้ประกอบการได้อีกทาง ซึ่งโดยรวมแล้วนักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายเฉลี่ยยังไม่สูงมากนักแต่มีความถี่สูงในการเดินทางเข้ามาเที่ยวภูเก็ต

ผอ.นันทศิริ กล่าวว่า ตามนโยบายของ ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.ให้ ททท.แต่ละพื้นที่ปักหมุดให้ช่วยกันเพิ่ม “จำนวนที่นั่งเที่ยวบิน” จากต่างประเทศเข้ามายังจุดหมายปลายทางจังหวัดท่องเที่ยวนั้น มีปัจจัยบวกที่จะต้องทำให้ถึงเป้าหมาย ประกอบด้วย 1.การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกคลี่คลายกอปรกับผู้คนเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่กับโรคมีวิธีป้องกันตนเอง 2.ผู้ประกอบการในจังหวัดภูเก็ตหันมาร่วมโครงการใช้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA :Amazing Thailand Safety and Health Administration ยังคงใช้อย่างต่อเนื่อง 3.เศรษฐกิจทั่วโลกมีปัญหาแต่ ททท.เล็งเห็นถึงโอกาส เช่น กลุ่ม MASS Quality หรือนักท่องเที่ยวคุณภาพกลุ่มใหญ่ทั่วไป จะต้องมุ่งเจาะกลุ่มนี้ให้ได้ เชื่อมโยงเข้ากับการทำเที่ยวบินที่จะนำนักท่องเที่ยวเข้ามายังไทย

 

ททท.ภูเก็ตได้หารือกับทางผู้อำนวยการสนามบินนานาชาติภูเก็ต ขณะนี้พบว่ามีปริมาณความต้องการของเที่ยวบินและผู้โดยสารจากต่างประเทศสนใจเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ Charter Flight จากสแกนดิเนเวีย ยุโรปในพื้นที่ตะวันออกกลาง ยุโรปใต้จากอิตาลี เป็นประเทศกลุ่มไซบีเรีย แม้แต่ประเทศทิเบตก็จะมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำเข้ามาเริ่มพฤศจิกายน 2565 นี้

 

ปัจจุบันมีสายการบินบินตรงเข้าภูเก็ตไม่ต่ำกว่า 20 สายการบิน เดือนละ 1,598 เที่ยว ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวหรือเดือนสิงหาคมของทุกปีปกติจะเป็นช่วงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาน้อยที่สุด แต่ก็ยังมีเที่ยวบินจำนวนมาก จึงตอกย้ำความมั่นใจนโยบายของผู้ว่าการ ททท.เรื่องนโยบายการเพิ่มที่นั่งเที่ยวบินได้ตามเป้าอย่างแน่นอน

ผอ.นันทศิริกล่าวว่า “ตลาดในประเทศ” ตามสถิติก่อนเกิดโควิด-19 แพร่ระบาด ภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาปีละ 14 ล้านคน เป็นต่างชาติ 10 ล้านคน คนไทยกว่า 3.9  ล้านคน-ครั้ง ถือได้ว่าเป็นตลาดมีศักยภาพช่วยพยุงเศรษฐกิจภูเก็ตอยู่รอดได้ จากการศึกษาข้อมูลมีเที่ยวบินทั่วประเทศมีเฉลี่ยเดือนละประมาณ 21,000 เที่ยว ในภูเก็ตมีประมาณเดือนละ 3,200 เที่ยว สายการบินส่วนใหญ่ใช้ฝูงบินแอร์บัส A320 มีอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย 70-72 % จะมีนักท่องเที่ยวเข้าภูเก็ตเดือนละ 560,000 คน และไตรมาส 4 ปีนี้ หากสายการบินมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย 90 % จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามายังภูเก็ตเดือนละประมาณ 670,000 คน

โดยสรุปไตรมาส  4 ภูเก็ตจะเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ทั้งจากเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากทวีปยุโรป ควบคู่กับแนวโน้มสายการบินที่จะนำนักเดินทางในประเทศเข้ามาเที่ยว ซึ่งเป็นความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนพร้อมใจกันกระตุ้นตลาดให้ฟื้นกลับมาในเร็ววันนี้

 

สำหรับไฮไลต์การจัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและทั่วโลก เช่น เทศกาลแรก   Phuket Race Week จัดเมื่อต้นสิงหาคมที่ผ่านมา พอเปิดประเทศจัดแข่งขันเรือใบ มีผู้ร่วมแข่งขันจากทั่วโลกกว่า 200 ราย ทั้ง ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง ยุโรป แม้บางตลาดจะไม่มีเรือก็บินเข้ามาเช่าในภูเก็ต ซึ่งมีถึง 5 ท่าเรือ ตอกย้ำถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับบนที่มีกำลังซื้อสูง เทศกาลที่ 2 “กะตะ บีช ไลท์ เฟสติวัล 2022” จัดที่หาดกะตะ การแข่งขัน Surf นานาชาติ เป็นฤดูเหมาะเล่นกีฬาทางน้ำ กระแสตอบรับดี

เทศกาลที่ 3 เทศกาลกินผัก 25 กันยายน – 4 ตุลาคม นี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวสายศรัทธาตามความเชื่อที่จะมากินผัก อย่าง มาเลเซีย สิงคโปร์ ได้พูดคุยกับทาง ททท.กัวลาลัมเปอร์เตรีมเดินทางมาภูเก็ต จากนั้นปลายปีนี้จะทำต่อเนื่องต้อนรับฤดูท่องเที่ยวด้วยเทศกาลต่าง ๆ อีกเป็นจำนวนมาก

 

ปัจจุบันประเพณี “พ้อต่อ” ระหว่างวันที่ 16-26 สิงหาคม 2565 เป็นประเพณีของคนไทยเชื้อสายจีนในภูเก็ต มีพิธีไหว้บรรพบุรุษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยเครื่องบวงสรวงโดยมีขนมทำเป็นรูปเต่าขนาดใหญ่ จัดต่อเนื่องจากเทศกาลสารทจีน ตามความเชื่อเรื่องเต่ามีอายุยืนยาว นำโชคมายังครอบครัว  

 

ททท.และชาวภูเก็ตขอบคุณคนไทยที่เดินทางมาเที่ยวช่วงสถานการณ์โควิด-19 และวันหยุดยาวอย่างต่อเนื่อง มาช่วยเติมเต็มกระจายรายได้ ทำให้เกิดการช่วยเหลือกระตุ้นให้เกิดการเดินทางสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยเฉพาะตลาดคนไทยมาแรงเสมอ เห็นได้จาก “หลาดใหญ่-หรือถนนคนเดินย่านตลาดเมืองเก่า” มีนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนมาก หรือบริเวณแหลมพรหมเทพมีนักท่องเที่ยวไปชมพระอาทิตย์ตกเป็นจำนวนมาก

 

ดังนั้นภูเก็ตก็จะรักษาตลาดคนไทยไว้ด้วย แล้วก็จะสร้างภาพลักษณ์เรื่องภูเก็ตไม่ได้แพงอย่างที่คิด วิวหลักล้านราคาพักผ่อนเพียงหลักพันเท่านั้นเอง

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิง เพาเวอร์เสิร์ฟ35ร้านดังไทยเทสต์ฮับรางน้ำ+มหานครคิวอร่อยถึงบ้าน

 

คิง เพาเวอร์ นำเสนอทางเลือกเพิ่มความสุขเติมความอร่อยทุกวันได้ถึงบ้านด้วยบริการ Home Delivery จาก “ไทย เทสต์ ฮับ” ศูนย์รวมสตรีทฟู้ดดังแถวหน้าของเมืองไทยรวมกว่า 35 ร้าน ปักหมุดได้เลย 2 แห่ง ที่ 1.รางน้ำ 2.มหานคร คิวบ์ กับหลากหลายร้านเด็ดพร้อมเมนูเลิศรส โดยไม่ต้องต่อคิว ไม่ต้องตะเวนวนหาที่จอดรถ ทว่าตอบโจทย์สายกินผู้หลงใหลในรสชาติของสตรีตฟู้ด ได้รวบรวมสตรีตฟู้ดเจ้าดังระดับตำนาน พร้อมให้ทุกคนได้อิ่มอร่อยกันแบบหลากรสชาติในที่เดียว

เพียงเปิดแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง Robinhood, LINE MAN หรือ GrabFood แล้วค้นหาบนแอปพลิเคชันว่า Thai Taste Hub King Power Rangnam หรือ Thai Taste Hub Mahanakhon CUBE ไม่ว่าฟ้าฝนจะไม่เป็นใจ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ก็เตรียมรอรับความอร่อยได้ทุกวัน

ประกอบด้วย 16 ร้านดัง ได้แก่ 1.ทิพย์สมัย ผัดไทยประตูผี 2.ห่านท่าดินแดง 3.ข้าวขาหมูจุฬา สามย่าน, 4.นายอ้วนเย็นตาโฟ 5.ละมัย หอยทอดเยาวราช 6.สว่างบะหมี่ก้ามปู 7.เจ็กเม้งข้าวมันไก่สองสี 8.ก๋วยจั๊บฮ่องเต้ 9.รสดีเด็ด  10.ธีรชัยไก่ย่าง 11.กุ้งเผาอยุธยา และ 12.เชียงการีลา13.Thai Street Food by Asian Corner 14.เทพนคร 15.ลามูน 16.หมี่สะปำคุณยายเจียร

 

ตบท้ายด้วยของหวานอีก 5 ร้าน ได้แก่ 1.ฮอทฟรายด์ บาย ดิเอมเมอรัลด์ 1992 2.เอี๊ยงออเฮ่าชือ 3.ขนมครกประมวล มีศิลป์ 4.ออล โคโค และ 5.Amatissimo Caffè

 ไทย เทสต์ ฮับ รางน้ำ ยังมีโซน “ไทย เทสต์ ฮับ เอกซ์เพรส” ได้รวบรวมร้านอร่อยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาให้ได้ชิมอย่างจุใจ

            สำหรับผู้ที่อยู่ใกล้โซนสาทร-นราธิวาส-สีลม สั่งตรงได้จาก “ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์” มีให้เลือกอีก 14 ร้านดัง ได้แก่ 1.ผัดไทยไฟทะลุ 2.ก๋วยจั๊บนายเอ็ก 3.สุกี้เมาเวอริค 4.ยี่ สับ หลก 5.บุญเลิศ 6.เผ็ดเผ็ด เฮ่! 7. 9 แสนล้าน10.ผิน 11.ลิ้ม เหล่า ซา  12.ครวญ 13.ชุมพลปาท่องโก๋ และ 14.ป้าหงษ์ขนมไทย

ข่าวที่ 2 สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์4สนามบินรับคูปองลดดิวตี้ฟรี+ป้ายฟ้า30%

รับฟรี! คูปองส่วนลด 30% เพียงสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ ONYX และ SCARLET ระหว่างวันนี้- 30 ก.ย. 65 ที่ คิง เพาเวอร์​ ไดง่าย ๆ ใน 4 สนามบิน ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต  

1.สมัครและเติมเงินเข้าบัญชีสมาชิก ONYX 60,000 บาท รับคูปองส่วนลด 30%* 1 ใบ สำหรับช้อปสินค้า 1 ชิ้น  (สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ)

 

2.สมัครและเติมเงินเข้าบัญชีสมาชิก SCARLET 6,000 บาท รับคูปองส่วนลด 30%* 1 ใบ สำหรับช้อปสินค้าแผนกน้ำหอมและเครื่องสำอาง 1 ชิ้น

 

สมาชิกคิง เพาเวอร์ รับเพิ่มดีลพิเศษและสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิก คิง เพาเวอร์ จากร้านค้าที่ร่วมรายการมากมาย รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3yQe4T1

กติกาการใช้คูปองส่วนลด 30%    สมาชิก SCARLET สามารถใช้ซื้อสินค้า 1 ชิ้น ที่แผนกน้ำหอมและเครื่องสำอาง ทั้งสินค้าดิวตี้ ฟรี และสินค้าป้ายฟ้า ส่วนสมาชิกใหม่ ONYX สามารถใช้ซื้อสินค้า 1 ชิ้น ทุกแผนกที่ร่วมรายการ ได้ที่ คิง เพาเวอร์ ทั้ง 4 สนามบิน ให้วันละ 1 สิทธิ์ /ตลอดรายการ คูปองหมดอายุภายในวันที่สมัครดังกล่าว

 

ข่าวที่ 3 ททท.นำเอเปกชมความสำเร็จBCGโมเดลชุมชน”ตลาดน้อย-สวนสามพราน”

 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้ต้อนรับคณะผู้แทนเขตเศรษฐกิจ ที่เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมเอเปคด้านการท่องเที่ยวพ.ศ. 2565 จึงได้มีนโยบายให้หน่วยงานในกระทรวงการท่องเที่ยว จัดกิจกรรมนำคณะของเอเปคลงพื้นที่เยี่ยมโมเดลความสำเร็จ 2 แห่ง คือ ตลาดน้อย กรุงเทพมหานคร และ สามพรานโมเดล จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นต้นแบบโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ตามแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพหมุนเวียนสีเขียวหรือ BCG : Bio-Circular-Green Economy ตามที่ประเทศไทยได้ผลักดัน “Regenerative Tourism : การท่องเที่ยวฟื้นสร้างอย่างยั่งยืน” ฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมอยู่ในการประชุมครั้งนี้ด้วย

 

 

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2565 องค์กรจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้นำผู้แทนเขตเศรษฐกิจเอเปค ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชม  2 เส้นทาง คือ

เส้นทางแรก City Trip ที่ “ชุมชนตลาดน้อย ย่านเจริญกรุง” นำเสนอการท่องเที่ยวเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) และความหลากหลายทางวัฒนธรรมของชุมชนท้องถิ่น ด้วยสถาปัตยกรรมงดงามแบบไทย จีน และชาติตะวันตก โดยได้แวะตรอกศาลเจ้าโรงเกือก ศาลเจ้าโจวชือกง โบสถ์กาลหว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาแรกของประเทศไทย รวมถึงการเดินชมสตรีทอาร์ทตามตรอกซอกซอยของตลาดน้อยชุมชนที่มีเสน่ห์ที่จะสร้างประทับใจกับนักท่องเที่ยวทั่วโลก

พร้อมกับเพิ่มประสบการณ์ให้คณะเอเปคด้วยบริการ Thai Bus Food Tour นั่งรถชมทัศนียภาพรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ควบคู่กับการท่องเที่ยวเชิงอาหาร มื้อกลางวันได้เสิร์ฟเมนูระดับมิชลิน และส่งท้ายวันแรกด้วยการเข้าร่วมเรียนรู้ภูมิปัญญาการนวดแผนไทยวัดโพธิ์หรือวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ที่มีชื่อเสียงโด่งดังดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาใช้บริการ

เส้นทาง 2 Local Trip “สวนสามพราน-ศาลายา” จังหวัดนครปฐม นำผู้เข้าร่วมประชุมชุดนี้ลงพื้นที่สัมผัสวิถีชุมชนเกษตรอินทรีย์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น สำรวจฐานการเรียนรู้สวนเกษตรอินทรีย์ สร้างความเข้าใจแนวคิดการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ชุมชนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมสอดคล้องกับแนวคิด Regenerative Tourism รวมทั้งยังเชิญชวนให้ทดลองลงมือทำกิจกรรมสอนปรุงอาหารไทยจากวัตถุดิบออร์แกนิกสดจากฟาร์ม  ประดิษฐ์ของที่ระลึกจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ และ ถุงผ้าตอกลายดอกไม้ ที่ได้รับความสนใจจากคณะเอเปคเป็นอย่างดี

ก่อนจะเดินทางต่อไปยังอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา เพื่อเรียนรู้กระบวนการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ส่งเสริมการเดินทางลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์หรือ Low Carbon อย่างเป็นรูปธรรม

นายพิพัฒน์กล่าวว่า ระหว่างการเป็นเจ้าภาพงานประชุมเอเปคด้านการท่องเที่ยว พ.ศ.2565 ประเทศไทยยังได้จัดคู่ขนานกันไปด้วยอีกหลายกิจกรรม โดยเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565  จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการสำหรับคณะทำงานเอเปคด้านการท่องเที่ยว ครั้งที่ 60 ภายใต้หัวข้อ “Creative Placemaking : Regenerative Approach, Better Lives Through Better Places”   ณ ‘GalileOasis’ ในบรรยากาศอาคารอายุ 40 ปี ขนาดเล็กบนถนนบรรทัดทองที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ให้กลายเป็นร้านกาแฟ โรงละคร แกลเลอรี่ และโรงแรม จนเป็นพื้นที่ชุมชนที่มีความสวยงาม ผ่อนคลาย และใกล้ชิดธรรมชาติ

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อนำเสนอและสร้างความเข้าใจต่อแนวคิดตอกย้ำให้เห็นถึงผลสำเร็จด้านการท่องเที่ยวของไทย ที่ได้จัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเปคให้มีอนาคตที่ดีกว่าเดิม หรือการท่องเที่ยวฟื้นสร้างอย่างยั่งยืน : APEC Policy Recommendations for Tourism of the Future: Regenerative Tourism นำอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไปสู่ความยั่งยืน และทำให้ทุกภาคส่วนมีความเป็นอยู่ที่ดี

โดยจัดการท่องเที่ยวภายใต้การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ใช้ผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อแสดงความสร้างสรรค์ ถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น สะท้อนแนวคิด BCG และกระจายรายได้การท่องเที่ยวสู่ระบบเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังได้ระดมสมองคณะทำงานด้านการท่องเที่ยวเอเปคทำกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อออกแบบและนำเสนอเกี่ยวกับความหมายของการท่องเที่ยวฟื้นสร้างอย่างยั่งยืนร่วมกัน

ทั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้จัดประชุมเอเปคด้านการท่องเที่ยว พ.ศ. 2565 ที่โรงแรมพูลแมน คิง พาวเวอร์ กรุงเทพมหานคร ตลอดการประชุมครั้งนี้ได้นำเสนอเอกลักษณ์ วัฒนธรรม ผลิตภัณฑ์ และภูมิปัญญาเฉพาะพื้นที่ ในรูปแบบนิทรรศการที่มีชีวิต (live exhibition) 3 หัวข้อ ได้แก่

 

หัวข้อที่ 1 “สมุนไพรทรงคุณค่า” สาธิตการทำลูกประคบ/ ยาดมสมุนไพร และการนวดประคบสมุนไพร รวมถึงการนำเสนออาหารและเครื่องดื่มที่มีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบสำคัญช่วยให้สมุนไพรไทยอุดมไปด้วยคุณค่าด้านสุขภาพ

 

หัวข้อที่ 2 “มหัศจรรย์มะพร้าว” นำเสนอวิถีชีวิตและความคิดสร้างสรรค์การนำวัตถุดิบพื้นถิ่นอย่าง มะพร้าว มาประกอบอาหาร สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าท่องเที่ยว เช่น กาแฟสดน้ำกะทิ ขนมหวาน และ ผ้ามัดย้อมจากสีกาบมะพร้าว

 

หัวข้อที่ 3  “อรรถประโยชน์แห่งบัว” นำเสนอ เมี่ยงคำกลีบบัว และเครื่องดื่มจากบัว รวมทั้งการนำเสนอศิลปหัตถกรรมไทย ผ่านของที่ระลึกให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์กระเป๋าจากเสื่อกก ต.เหล่าพัฒนา อ.นาหว้า จ.นครพนม ที่ได้ออกแบบลวดลายร่วมสมัยสีสันสวยงาม

 

ทั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานำประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปคด้านการท่องเที่ยว พ.ศ. 2565 ตลอดการจัดงานสามารถตอกย้ำแนวคิดพร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าและมีความหมาย (Meaningful Travel) สู่สมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในอนาคตก้าวสู่ความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง

 

ข่าวที่ 4 “TCEB”ชี้เป้าจัดไมซ์ไทยพูลแมนขอนแก่นอีสานคริสตัลสงขลาภาคใต้

 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” แนะนำ 2 สถานที่จัดงานในไมซ์ซิตี้ ที่ได้รับมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย (Thailand MICE Venue Standard -TMVS) ที่สามารถรองรับการจัดงานระดับนานาชาติได้ 

แห่งที่ 1  พาไปม่วนกันที่ภาคอีสาน กับ “โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด” จ. ขอนแก่น นำเสนอทำเลใจกลางเมือง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง พร้อมห้องประชุมสามารถเปลี่ยนได้อย่างเหมาะสมตามความต้องการ ทั้งจัดประชุม สัมมนา นิทรรศการ อีเวนต์ รองรับผู้เข้าร่วมงานได้มากถึง 1,800 คน https://www.facebook.com/PullmanKhonKaenRajaOrchid/

หลังการประชุม แวะทำกิจกรรมเสริมทักษะศิลปะ ฝึกสมาธิ ที่ “Din-Cave Studio“ สถานที่เรียนรู้เครื่องปั้นดินเผาที่สร้างสรรค์จากฮูปแต้มและลวดลายผ้าซึ่งเป็นวัฒนธรรมสำคัญของอีสาน ร่วมเวิร์คช้อปกิจกรรมสอนปั้นดินเหนียว และทำเซรามิกแบบรากุอัน https://www.facebook.com/Khonkaen.clay.works/

แห่งที่  2 ลงใต้ต้องลองใช้ “โรงแรมคริสตัล หาดใหญ่” จ. สงขลา ระดับ4 ดาวมีคอนเวนชันดีไซน์อย่างประณีตผสมผสานกลิ่นอายท้องถิ่น ลงตัวกับสไตล์หรูหราแบบยุโรปสามารถรังสรรค์จัดไมซ์ได้ทุกรูปแบบ ประชุม ทำอีเวนต์ต่างhttps://business.facebook.com/pg/crystalhotelhatyai/posts/

 

ส่วนผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม (Fascinating History and Culture) ต้องชอบ “238 Inspiration House” พิพิธภัณฑ์ผ้าภาคใต้แห่งเดียวในเมืองไทย ได้รวบรวมผืนผ้าโบราณหายากจากทั่วประเทศและต่างประเทศไว้มากมาย ผ้าแต่ละผืนมีประวัติที่น่าสนใจ เปิดให้ชมฟรีโดยแจ้งก่อนล่วงหน้าที่ 094-598-1299 https://www.facebook.com/pages/238%20Inspiration/1510294925955283

 

ข่าวที่ 5 บางจากเปิดวาร์ปเติมปั๊มบางจากจ่ายผ่านบัตรกรุงศรีรับเงินคืน6พัน

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้จับมือกับพันธมิตรบัตรเครดิตธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิด CASHBACK4ALL วาร์ป! ไปเที่ยวเลี้ยวเติมบางจาก ได้คืนทุกบิล ได้ฟินทุกเดือน วันนี้- 30 กันยายน 2565 รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 6,000 บาท โดยไม่ต้องใช้พอยต์แลกเพียงสะสมยอดใช้จ่ายเติมน้ำมันบางจาก หรือ ซื้อสินค้าและบริการในเครือบางจาก และสินค้าเข้าร่วมรายการกว่า 20 หมวดสะสมง่าย ได้ทุกที่ ไม่มีขั้นต่ำต่อสลิป รับคืนไว ได้ทุกเดือน

โดยเปิดปั๊มบางจากทั่วประเทศให้นักเดินทางขับรถมาเติมน้ำมัน แล้วจ่ายเงินผ่านบัตรของธนาคารกรุงศรีอยุธยา รับเงินคืนตามสิทธิ์ทันทีตามเงื่อนไขที่กำหนด เพียงแค่ทำตามขั้นตอน ก่อนเติมน้ำมันบางจากก็เข้าไปลงทะเบียนผ่านแอป UCHOOSE ภายในวันที่ทำรายการครั้งเดียวรับสิทธิ์ตลอด หรือ ติดต่อศูนย์บริการบัตรเครดิต โทร  02-646-3555

            ช่วงที่ 2 เที่ยวไทย “แอ่วลำปาง” เที่ยวหน้าฝนแบบกรีน ๆ สวยสนุกอีกแนว ได้ที่ “วัดรัตนคูหา” อ.แม่เมาะ เดินชมย่านไชน่าทาวน์ “ย่านสบตุ๋ย@ลำปาง” และไปชมวิถีและช้อปผลิตภัณฑ์ฝ้ายจากครั่งที่ “ชุมชนบ้านทุ่งฮี” ส่วนเรื่องสุขภาพ “6ควรทำก่อนนอนตื่นเช้าถ่ายคล่อง” และข่าวเด่นท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “SPAผนึเอมาราเอเชีย” ชิงผู้นำธุรกิจสปากัญชาเริ่มไตรมาส4ปี65 ข่าวที่สอง “ดุสิตธานี”โชว์ไตรมาส2ทำรายได้3ธุรกิจ โรงแรม อาหาร และการศึกษา โต 78 %

 

ท่องเที่ยว – แอ่วลำปางเที่ยวกรีนๆที่วัดรัตนคูหา-ย่านสบตุ๋ย-บ้านทุ่งฮี

            เมืองไทย ยิ่งเที่ยว ยิ่งได้ โอกาสสร้างได้ไม่ต้อง เที่ยวแบบใช่ในสไตล์ที่ชอบ ทริปนี้แนะนำไป “แอ่วลำปาง” หน้าฝนแบบกรีน ๆ 3 แห่ง

 

แห่งที่ 1วัดรัตนคูหา หรือ “วัดถ้ำผากล้วย  ลัดเลาะเนินเขาเตี้ยฝ่าความเขียวในป่าแม่เมาะแบบเบา ๆ ร่มรื่น เงียบสงบ ขึ้นไปยืนสูดอากาศบริสุทธิ์ชมวิวมุมสูงอำเภอแม่เมาะได้ 360 องศา พร้อมกับดื่มด่ำความงดงามรอบวัดรัตนคูหารายล้อมด้วยรูปปั้นพญานาค เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ที่พญานาคจะมารอรับบุญจากนักท่องเที่ยวหรือผู้คนที่ไปรับเยี่ยมชมทุกวัน วัดแห่งนี้มีเส้นทางเดินเชื่อมต่อกับถ้ำต่างๆ ได้ทั่วแม่เมาะได้ด้วย

            นักท่องเที่ยวที่มีพลังศรัทธาเต็มเปี่ยม แนะนำให้ปีนขึ้นบันไดพญานาค 108 ขั้น เพิ่มประสบการณ์แห่งศรัทธากันตั้งแต่เริ่มก้าวแรกตรงเชิงบันไดทั้งสองฝั่งจะมีเศียรพญานาค 9 เศียร ยาวขึ้นไปจนถึงอุโบสถสูงสุดบนยอดเขาจะมีพญานาค 5 เศียร และ 7 เศียร

ส่วนในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระประธาน “พระไภษัทชยคุรุเขลางค์ “หรือพระกริ่งเขลางค์) เนื้อทองแดง หน้าตักกว้างประมาณ 50 นิ้ว  ห้ามพลาดสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตรงเนินเขา ขอพรพระเจ้าทันใจ หรือองค์พระพุทธชยันตี เมตตา ทันใจโลกนาถ มองชมวิว กฟผ.แม่เมาะ  

 

จุดที่ 2 เช็คอินย่านสบตุ๋ย @นครลำปาง ถนนคนเดินตรงบริเวณถนนประสานไมตรีใกล้กับสถานีรถไฟทางเทศบาลนครลำปางได้ปรับปรุงถนนกับทางเท้าเปิดโคมไฟลวดลายจีน ตั้งแต่สี่แยกดอนปาน ถึงบ้านเลขที่ 39 สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ในบรรยากาศที่แตกต่างกันระหว่างกลางวันและกลางคืนมาให้ได้ชมกันเจ้า ตลอดสองข้างทางประดับด้วยโคมไฟที่ออกแบบด้วยลวดลายจีนสวยงามที่เป็น

“กลางวัน” จะได้สัมผัสย่านสบตุ๋ย ซึ่งเป็นชุมชนชาวจีนเก่าแก่เมืองลำปาง พัฒนาเป็น “ไชน่าทาวน์ สตรี” อบอวลด้วยกลิ่นวัฒนธรรมจีน อนาคตช่วงเทศกาลสำคัญจะจัดกิจกรรมดึงคนเข้ามาเที่ยว พร้อมกับชิมของอร่อยกินและช้อปของฝากได้ทุกวัน

“กลางคืน” ตลอดสองข้างทางประดับด้วยโคมไฟที่ออกแบบด้วยลวดลายจีนสวยงาม ให้อารมณ์ความรู้สึกเสมือนเดินอยู่ในไนท์ไลฟ์กลางไชน่าทาวน์

จุดที่ 3 ชุมชนบ้านทุ่งฮี อ.วังเหนือ หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยววิสาหกิจเส้นทาง “ชุมชนผ้าย้อมครั่งลำปาง”  สืบสานการตัดเย็บผ้าพื้นเมืองไว้ครบทุกขั้นตอน ตั้งแต่ปลูกเลี้ยงฝ้าย เลี้ยงครั่ง นำมาปั่น ย้อม แล้วถักทอเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อด้วยสีเฉพาะท้องถิ่น คือ “สีชมพู จากครั่ง” มีโรงงานผลิตและส่งออกสินค้าครั่งมากที่สุดในไทย

อีกทั้งมี “ผ้าย้อมสีธรรมชาติ” ปักด้วยลวดลายทันสมัย ชาวชุมชนปักทุกชิ้นด้วยมือ สร้างมูลค่าให้ชุมชนได้เป็นอย่างดี เช่น ปักลายดอกไม้สีสรรค์ ต่างๆ ลายตราไก่ และอื่น ๆ สนใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้าย โทร.สอบถาม 089-951-0312

 

รวมทั้งมีสินค้าพื้นเมืองขึ้นชื่อขอแนะนำ อย่างเครื่องดนตรีพื้นบ้านทำจากไม้สัก สะล้อ ซอ ซึง ผลิตโดยสล่าไม้ของชุมชน 

            ไปแอ่วลำปางในช่วงหน้าฝนแบบกรีน ๆ ทั้ง 3 แห่ง สนุกครบ จบแบบมีความสุขทุกครั้ง

 

สุขภาพ-6 สิ่งที่ควรทำก่อนนอนตื่นเช้าถ่ายคล่องสุขภาพสดชื่นดีต่อใจ

 

การดูแลเรื่องการกิน ควรทำอย่างสม่ำเสมอ จากการเลือกกินเย็น ต่อเนื่องถึงเรื่องการขับถ่ายตอนเช้า ถ้าจะให้สบายท้อง แนะนำให้ปฏิบัติเป็นนิสัยทุกวันด้วย 6 สิ่งดังนี้

1.กินอาหารมื้อเย็นที่มีกากใยอาหารสูง แนะนำควรจะต้อง ผัดผัก สุกี้ สลัดรวม กิน 20-30 กรัม เพื่อให้อาหารเคลื่อนตัวไปตามลำไส้

2.เดินเล่นหลังมื้อเย็น ทำให้ลำไส้ปรับสภาพได้ดี เช่น เคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ กระตุ้นลำไส้

3.ดื่มน้ำหลังอาหารมื้อเย็นให้เพียงพอ โดยเฉพาะเวลาหลังมื้อเย็นสำคัญมาก ถ้าหากลืมเติมน้ำเข้าสู่ร่างกาย จะส่งผลให้การขับถ่ายตอนเช้าทำได้ยากกว่าปกติ เคลื่อนตัวของกากอาหารเคลื่อนตัวได้ดีขึ้น แต่ต้องระวังใกล้นอนต้องไม่ดื่มมากเกินไป

4.กินลูกพรุน ช่วยขับถ่ายและอาการท้องผูก น้ำลูกพรุน หรือพรุนอบแห้ง ยกเว้น คนป่วยโรคไต ถ่ายเหลว ห้ามรับประทาน เนื่องจากพรุนมีปริมาณโปรแตสเซี่ยมสูง อาจส่งผลต่อหัวใจ หรือกล้ามเนื้อ

5.ดื่มชามะขามแขก มีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่ ช่วยแก้ปัญหาท้องผูกได้เป็นอย่างดี จะออกฤทธิ์หลังจากดื่มไปแล้ว 6-12 ชั่วโมง ไม่ควรดื่มติดต่อกันนาน 1 สัปดาห์ เพราะจะทำให้สูญเสียแร่ธาตุบางอย่างได้

6.กินอาหารเสริมโปรไบโอติกส์ กับ พรีไบโอติก ถ้าใช้ 5 วิธีแรกแล้วไม่ได้ผล แนะนำให้ลองกินก่อนเข้านอน 1-2 ชั่วโมง โดย “โปรไบโอติก” เป็นจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ส่วน “พรีไบโอติก” เป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ เมื่อกินทั้งสองอย่างเข้าลำไส้ทำให้จุลินทรีย์ในลำไส้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก - SPAลุยร่วมทุนเอมาราเอเชียชิงผู้นำบุกธุรกิจกัญชาการแพทย์Q4ปี65

 

นายวิบูลย์ อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) “SPA “ ผู้นำธุรกิจบริการเวลเนสสปาหรือการดูแลสุขภาพองค์รวมภายใต้ 2 แบรนด์ ระรินจินดาระดับ 5 ดาว และ Let’s Relax ระดับ 3-4 ดาว เปิดเผยว่า ได้จัดตั้งบริษัทร่วมลงทุนใหม่ชื่อ บริษัท สยามเวลเนส เอมารา จำกัด (SWA) ด้วยทุนจดทะเบียน 1  ล้านบาท โดยมี บริษัท สยามเวลเนส แล็บ (SWL) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าถือหุ้น 51 %  ร่วมกับ บริษัท เอมารา เอเชีย จำกัด ถือหุ้น 49 % เพื่อดำเนินกิจการกิจการเกี่ยวกับการบำบัดและรักษา อาการนอนไม่หลับด้วยยาหรือสารสกัดทำมาจากกัญชาและกัญชง รวมถึงการขายสินค้าและผลิตภัณฑ์ทำจากกัญชาและกัญชง 

บริษัท สยามเวลเนส เอมารา จำกัด มีแผนพัฒนาธุรกิจจะเริ่มเปิดคลินิกและจำหน่ายสินค้าได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2565 เป็นต้นไป เดินหน้าบริการ 3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย

เรื่องที่ 1 คลินิกบริการรักษาอาการนอนไม่หลับหรือทำให้หลับได้ดีขึ้น โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาและจ่ายยาหรือสารสกัดทำจากกัญชาระดับ Medical Grade พร้อมบริการเทเลเมดิซีน เพื่อเข้าถึงคนไข้ที่มีอาการนอนไม่หลับทั่วประเทศ ด้วยเวชภัณฑ์กัญชาคุณภาพพรีเมี่ยม วิจัยโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เจาะกลุ่มลูกค้าคนไทยระดับกลาง-บน

เรื่องที่ 2  ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากสารสกัดจากกัญชา และกัญชง รับรองโดยสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ เจาะกลุ่มลูกค้าคนไทยระดับกลาง-บน

เรื่องที่ 3 ปลูกกัญชาระดับ Medical Grade สายพันธ์เฉพาะทางเพื่อช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับ เพื่อใช้ในการให้บริการในคลินิกและผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ

 

            นายวิบูลย์ กล่าวว่า วางแผนหาแหล่งทุนจากเงินหมุนเวียนในบริษัท ซึ่งทางคณะกรรมการบริหารความเห็นถึงการลงทุนในการจัดตั้งบริษัทใหม่ ร่วมกับ บริษัท เอมารา เอเชีย จำกัด  ว่าเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำใน ด้านการปลูกและสกัดกัญชาคุณภาพสูงเพื่อใช้ในทางการแพทย์  โดยใช้เทคโนโลยีวิธีการแยกสกัดแบบไร้สารตกค้าง Solvent Free ได้ ทำให้ได้สารตั้งต้นที่ใช้ในทางการแพทย์อย่างมีคุณภาพ โดยมีความเชี่ยวชาญและมีองค์ความรู้เฉพาะด้าน เป็นการทำรายการที่มีความเหมาะสมและก่อให้เกิดประโยชน์แก่บริษัทในอนาคตด้วย

 

ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ขับเคลื่อนนโยบายกัญชาทางการแพทย์ให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างปลอดภัยและถูกกฎหมาย ทั้งการคัดเลือก สายพันธุ์ที่เหมาะสม ส่งเสริมการปลูก เก็บเกี่ยว การสกัดสารสำคัญ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทางการแพทย์ พร้อมทั้งผลักดัน พ.ร.บ.ยาเสพติด ให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 เพื่อให้นำสารสกัดกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และศึกษาวิจัยได้

 

โดยมีหลักฐานทางวิชาการชัดเจนถึงการนำกัญชากัญชงมาประโยชน์ในการรักษา ด้วยการเน้นนโยบายส่งเสริมพัฒนาสมุนไพรภูมิปัญญาไทย ให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ รายได้ และประชาชนได้เข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ที่เป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษากับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นจะต้องใช้เพื่อการแพทย์อย่างแท้จริง

 

ข่าวที่สอง “ดุสิตธานี”Q2ปี65ฟื้นโรงแรม+การศึกษา+อาหารโต78%

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี เปิดเผยว่า บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT มีผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2565 ระหว่างเมษายน-มิถุนายน สร้างรายได้ 1,048 ล้านบาท เพิ่มขึ้นช่วงจากเดียวกันกับปีก่อน 78.5% โดยมีปัจจัยสนับสนุนดีขึ้นตามลำดับจาก 3 ธุรกิจ ได้แก่ โรงแรม การศึกษา และอาหาร หลังประเทศผ่อานคลายล็อกดาวน์ ทำให้มีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA)  54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 99 ล้านบาท แต่ยังคงผลขาดทุนสุทธิ 258 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 118 ล้านบาท

 

โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมได้ปัจจัยสนับสนุนจากบริษัทเร่งปรับปรุงประสบการณ์การเข้าพักตอบโจทย์ลูกค้าบวกกับนักท่องเที่ยวออกเดินทางมากขึ้น โรงแรมจึงได้ปรับปรุงห้องพัก พื้นที่ส่วนกลาง กิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ เปิดห้องอาหารริมทะเล Nómada และโรงแรมดุสิตธานีหัวหินเปิดบริการเวลเนสเซนเตอร์

 

อีกทั้งกลุ่มดุสิตธานีเดินหน้าขยายพอร์ตทรัพย์สินธุรกิจโรงแรมและที่พักเพิ่มวิลล่าซึ่งเป็นจุดหมายหลักของนักท่องเที่ยว  4 ประเทศหลัก ได้แก่ อินเดีย บาหลี ญี่ปุ่น และไทย ตลอดไตรมาส 2 ปี 2565 จึงมีโรงแรมภายใต้การบริหารจัดการรวม 332 แห่ง แบ่งเป็น โรงแรม 47 แห่ง วิลล่า 285 แห่ง รวมจำนวนห้องพัก 12,063 ห้อง และการลงทุนใน DREIT

 

สำหรับผลกำไรสุทธิครึ่งปีแรก 25665 เติบโตสูงขึ้นถึง 396% จากโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ อานิสงค่าเงินบาทอ่อนตัวลง ซึ่งแสดงศักยภาพของโรงแรมกลุ่มดุสิตานีในการลงทุนผ่านกองทรัสต์ สามารถจ่ายปันผลครึ่งปีแรก 0.175 บาท/หน่วยทรัสต์ให้กับผู้ถือทรัสต์

 

ขณะที่ “ธุรกิจอาหาร”  ภายใต้การบริหารของ บริษัท ดุสิตฟู้ดส์ จำกัด ได้เข้าลงทุน 55% ในบริษัทบองชู เบเกอรี่ เอเชีย จำกัด เพื่อเข้าซื้อโรงงานผลิตเบเกอรี่ และแฟรนไชส์ขนมอบ “บองชู”  ทั้งในไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนเพราะมองเห็นโอกาสและศักยภาพธุรกิจอาหารเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังโควิด-19 คลี่คลายบวกกับเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น จากนี้ไปบริษัทยังคงมุ่งมองหาโอกาสใหม่ๆ ต่อยอด สร้างผลตอบแทนและสร้างโอกาสเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

 

นางศุภจี กล่าวว่า วางกลยุทธ์ครึ่งหลังปี 2565  ต้อนรับการฟื้นตัวชัดเจนทำให้ธุรกิจหลักดีขึ้น จากการคลายล็อคดาวน์และการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงพร้อมลุยขยายการเติบโตธุรกิจโรงแรม โรงเรียน โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารจะเน้นสร้างโอกาสการเติบโตให้มากขึ้นตามแผนกลยุทธ์เรื่องกระจายการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตและสมดุล ทั้งในส่วนรายได้และอัตรา EBITDA เพื่อให้บริษัทฯ มีรายได้ที่สม่ำเสมอขึ้น (Recurring Income) ลดผลกระทบจากความผันผวนในธุรกิจโรงแรมซึ่งจะเน้นขยายตัวจากการขายแบบธุรกิจสู่ธุรกิจแบบ Business 2 Business มากขึ้น

 

นางศุภจีกล่าวตอนนท้ายว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2565 ในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนครั้งที่ 1/2565 จำนวน 1,500 ล้านบาท ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่หรือ High Net Worth ตอบรับดีด้วยการจองซื้อเต็มจำนวน นอกจากจะสะท้อนถึงความมั่นใจของผู้ลงทุนถึงแนวโน้มและโอกาสการเติบโตของกลุ่มดุสิตธานีแล้ว

 

ความสำเร็จจากการระดมทุนดังกล่าวยังเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างเงินทุน (Capital Structure) ของบริษัท และเพิ่มความยืดหยุ่นการบริหารจัดการทางการเงินมากขึ้น จะทำให้บริษัทพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจเตรียมตัวต้อนรับนักท่องเที่ยวตามแผนงานที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยประเทศฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งในอนาคตได้

 

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.