ททท.รุกเที่ยวไทยปลาย65กระหึ่มประเทศ4โปรเจ็กต์ 8 แคมเปญอะเมซิ่งWorkation100เที่ยวได้งาน11เดือน11+12เดือน12 เร่งเทรนด์โลว์คาร์บอน+รถทัวร์ทั่วไทย+เที่ยว365วัน+55เมืองรอง

ททท.รุกเที่ยวไทยปลาย65กระหึ่มประเทศ4โปรเจ็กต์ 8 แคมเปญ

ทุ่มสร้างอะเมซิ่งWorkation100เที่ยวได้งาน11เดือน11+12เดือน12

เร่งเทรนด์โลว์คาร์บอน+รถทัวร์ทั่วไทย+เที่ยว365วัน+55เมืองรอง

คิงเพาเวอร์เริ่มแล้วTHE POWER BAND SEASON2ทั่วไทย5ภาค

คิงเพาเวอร์ปลุกช้อปClick&Collectเลือก8แบรนด์น้ำหอมแห่งปี65

ททท.ระดมธุรกิจกระตุ้นเที่ยวไทยอัดโปรStylecationลดสูงสุด60%

TCEBนำร่องเปิดMICE Laneสนามบินภูเก็ตรับไมซ์อินเดีย-โอเชเนีย

บีซีพีจีเครือบางจากครึ่งปีแรกขายไฟฟ้ากำไรพุ่ง1.693ล้านโต55.6%

พะเยาชวนสายกรีนสายมูสายกีฬาทัวร์กว๊านฤดูฝนสนุกทุกกิจกรรรม

แนะ7เทคนิคเตรียมตัวเดินทางเที่ยวหน้าฝนอย่างสนุกและปลอดภัย

ดุสิตธานีชูแบรนด์อีลิธเฮเวนส์เปิดวิลล่าหรู3แห่งชูนาใต้ดึงเงินเข้าไทย

TCEBดึงSPARTANเข้าไทยที่เชียงใหม่โกย300ล้านภูเก็ต26-27พ.ย.นี้

 

 วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #

 

ฟัง Liveสด... https://www.facebook.com/QFMQualityNewsStation/videos/1105140286763667/

 

ช่วงที่ 1 เจาะลึกทัพท่องเที่ยวไทย กับ “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สร้างสรรค์กลยุทธ์ปั๊มเศรษฐกิจชาติปูพรมส.ค.-ก.ย. ส่งไม้ต่อปีงบประมาณ 66 ต.ค.-ธ.ค.นี้จัดทัพบุกตลาดกระหึ่มประเทศ 4 โปรเจ็กต์ 8 แคมเปญ ไฮไลต์แคมเปญ Stylecation เที่ยวไทยในแบบที่ใช่สไตล์ที่ชอบ+เที่ยวไทยให้หายคิดถึง+ประสบการณ์ใหม่ เมืองรองไม่รู้ลืม 55 จังหวัด +Workation Amazing New Chapters : 100 เดียวเที่ยวได้งาน” จัดคิวรอได้เลย 11 เดือน11 กับ 12 เดือน 12 +“อะเมซิ่ไทยแลนด์ รถทัวร์ทั่วไทย +เที่ยวกับ Grab อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม+เที่ยวไทยโลว์คาร์บอน+365 เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้วางแผนตลาดท่องเที่ยวส่งท้ายปีงบประมาณ 2565 ส่งท้ายเดือนสิงหาคม-กันยายน ส่งต่อปีงบประมาณใหม่ 2566 เริ่ม 1 ตุลาคม นี้เป็นต้นไป ได้ปูพรมเรื่องภาพลักษณ์ไปก่อนเพื่อเริ่ม โครงการที่  แคมเปญกิจกรรม มุ่งเน้นสร้างการรับรู้บวกการผสมผสานการขายทั้งหมด ขณะนี้ ททท.ออกตัวทำแล้วคือแคมเปญแรก “Stylecation :ชวนเที่ยวไทย…แบบที่ใช่ สไตล์ที่ชอบ” ทั้ง 5 ภาค ปักหมุดให้ประเทศไทยเป็นสถานที่สไตล์เคชั่นที่ดีที่สุดของคนไทยและต่างชาติ โดยได้เปิดตัวบาริสต้า “พีพี-บิวกิ้น” ผู้นำทางความคิดมาเป็นเทรนด์ เซ็ตเตอร์ กิจกรรมการท่องเที่ยว

 

ต่อจากนี้ไปนักท่องเที่ยวจะได้เห็นกิจกรรม แคมเปญที่ 2 “เที่ยวไทย ให้หายคิดถึง” ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวหากคิดถึงสถานที่ใด ททท.พร้อมจัดให้ทันทีด้วยกิจกรรมส่วนลด ที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ควบคู่กับการทำแคมเปญออนไลน์ขายเป็นวงล้อให้หายคิดถึงเลือกปุ๊บได้ปั๊บเดินทางท่องเที่ยวได้ทันที

 

โครงการที่  2 กระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด ด้วย แคมเปญที่ 3 “เปิดประสบการณ์ใหม่เมืองรอง ไม่รู้ลืม” เน้นการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถหรือ Roadtrip จะต้องสร้างความประทับใจและตอบโจทย์ความคุ้มค่าหรือ Meaningful travel โดยผสมผสานคอนเทนท์เข้าไปด้วย ชูขายเรื่องทำงานเที่ยวได้ด้วยหรือ Workation ทำต่อเนื่องแล้วจะสร้างกระแสไปจนถึงปลายปีนี้ โดย ททท.ได้ทำแล้วคือ Workation Paradise throughout Thailand 5 ภาค

ตอนนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในเมืองไทยเริ่มปรับตัวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของ workation กันมากขึ้นแปลงโฉมสถานที่ทำงานกับแหล่งท่องเที่ยวให้เป็นแห่งเดียวกัน ทำงานที่ไหนก็ได้ทั่วประเทศไทย

 

ปลายปี 2565 ททท.เตรียมจัดใหญ่เปิดตัว แคมเปญที่ 4 “Workation Amazing New Chapters : 100 เดียวเที่ยวได้งาน”  นำเสนอแพกเกจราคาเพียง 100 บาท ก็สามารถทั้งเที่ยวและทำงานได้ จะเชิญชวนพันธมิตรเข้าร่วมขายสักประมาณ 10,000 แพ็ก ให้สิทธิ์เข้ามาจองซื้อได้ช่วง วันที่ 11 เดือน 11 (วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565) และวันที่ 12 เดือน 12 (วันที่ 12 ธันวาคม 2565) 

ขณะเดียวกันก็ยังเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวร่วมกันทำแคมเปญโปรโมชั่น Joint Promotion ซึ่งจะได้เห็นความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ขณะนี้ ททท.นำร่องทำร่วมกับนกแอร์เปิดเส้นทางบินเที่ยวเบตง จ.ยะลา ช่วง 3 เดือนแรก พฤษภาคม-กรกฎาคม 2565 เปิดบินตรงกรุงเทพฯ-เบตง จะขยายโปรโมชั่นเที่ยวเบตงต่อเนื่องช่วงสิงหาคม-กันยายน นี้ แล้วเพิ่มสิทธิ์ต่อไปในปีงบประมาณ 2566 ด้วย

ระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม นี้  จัด แคมเปญที่ 5 “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ รถทัวร์ทั่วไทย” เป็นโครงการนำร่องที่จะช่วยผู้ประกอบการรถทัวร์โดยเฉพาะเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเดินทางโดยรถทัวร์   จะทำโปรโมชั่นร่วมกันขายแพกเกจเที่ยว 2 วัน 1 คืน ในพื้นที่ต้องเป็นการท่องเที่ยวข้ามจังหวัดหรือข้ามภาคก็ได้ กระจายเดินทางเที่ยวตามธีม 5 ภาค 

 

ตั้งเป้านักท่องเที่ยวกลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มเพื่อน กลุ่มทำงานเที่ยวได้ (workation) กลุ่มผู้สูงวัย กลุ่มเกษียน กลุ่มครอบครัว กลุ่มนักศึกษา กลุ่มคนวัยทำงาน

 

ต่อด้วย แคมเปญที่ 6 “เที่ยวกับ Grab อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม” ไปกิน ไปเที่ยว ไปร้านกาแฟ ตามสถานที่ต่าง ๆ ถ้าเลือกใช้บริการ Grab จะได้รับส่วนลดพิเศษแตกต่างกันไป เช่น “ภาคเหนือ” จังหวัดเชียงราย คัดร้านดังเข้าร่วมกิจกรรม 10 ร้าน “ภาคอีสาน” จังหวัดขอนแก่น เดินสายเที่ยว 10 วัด “ภาคใต้” จังหวัดภูเก็ต เลือกเช็คอิน 10 สถานที่สวยงาม

โครงการที่ 3 กระตุ้นการท่องเที่ยวรักษาสิ่งแวดล้อม ททท.ร่วมกับพันธมิตร GWM : Great Wall Motor จัดทริปท่องเที่ยวด้วยรถระบบ EV และไฮบริด ทำเอ็มโอยูเรียกว่า “ธรรมาภิบาล คาร์บอน” จะตอบโจทย์ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว BCG และ Happy Model ด้วยการสร้างสรรค์เส้นทางกับ แคมเปญที่ 7  “ท่องเที่ยว โลว์คาร์บอน” ในจังหวัดต่าง ๆ เริ่มจากภาคกลาง Trendy C2 เที่ยวลพบุรี 2 วัน 1 คืน หรือจากกรุงเทพฯ ปลายทางสายกรีน Green Route ทั่วประเทศ

โครงการที่ 4 Thailand All Year in Around เที่ยวได้ทั้งปีต้อนรับปีงบประมาณ 2566 จะเปิดตัวช่วงพฤศจิกายน นี้เป็นต้นไป ผสมผสานตลาดในและต่างประเทศ ได้แก่ “ในประเทศ” นำเสนอ แคมเปญที่ 8 “365 เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” กำลังให้ ททท.สำนักงานทั่วประเทศ รวบรวมกิจกรรม แหล่งท่องเที่ยว สถานประกอบการ แหล่งดึงดูดความน่าสนใจ (Attraction) สถานบริการ ทุกหมวดสินค้าท่องเที่ยว ในแต่ละจังหวัดมีช่วงเวลาเหมาะสมช่วงวัน เวลาไหน เที่ยวอย่างไร มาแนะนำให้คนออกเดินทางไปได้ทุกวัน

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวเพิ่มว่า ปี 2566 จะให้ความสำคัญกับการนำยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวเชิงเศรษฐกิจชีวภาพหมุนเวียนสีเขียว BCG : Bio Circular Green และ Happy Model ของหอการค้าไทย นำไปสู่การท่องเที่ยวยั่งยืน เป็นพื้นฐานการเดินทางท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ด้วยกลยุทธ์การร่วมกับผู้ประกอบการทุกภาคให้สอดแทรกทั้งสองเรื่องเข้าไปด้วย แต่ละภาคจะเสนออัตลักษณ์ความโดดเด่นให้เกิดเป็นรูปธรรม ตัวอย่างเช่น

 

“ภาคใต้” จังหวัดภูเก็ต ดีไซน์เส้นทางการท่องเที่ยวเชิงอาหาร ทำโปรเจ็กต์ Island Coconut, BCG Trip การทำสปาทราย การเรียนรู้จับจักจั่นทะเลบวกวิถีชีวิตชุมชน “ภาคเหนือ” เน้นการขายเชื่อมโยงเมืองหลักกับเมืองรอง ผนวกกับ BCG เปิดการขายท่องเที่ยวทางรถ เน้นอาหารถิ่น เช่น เชียงใหม่ ท่องเที่ยวเชิงอาหารถิ่นหรู Local Luxury Gastronomy  ชวนไปกินอาหารเชฟเทเบิ้ล เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ทั้งหมดจะใช้หลักลดขยะเป็นศูนย์ หรือ Zero Waste food โดยนำเอกลักษณ์ชุมชนเข้าไปด้วย

 

“ภาคกลาง” สอดแทรกเส้นทางเชิงประวัติศาสตร์ อย่าง ท่องเที่ยวทวารวดี ละโว้ อยุธยา โชว์ความโดดเด่นเรื่องท่องเที่ยวสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนและสร้างพื้นที่สีเขียว

 

“ภาคตะวันออก” ธีม สบ๊าย สบาย ตะวันออก สอดคล้องกับ Happy Model ตอบโจทย์การรักธรรมชาติ เกาะหมาก เกาะกระดาด เป็นเกาะคาร์บอนต่ำและแหล่งอาหารออร์แกนิก

 

“ภาคอีสาน” ชูเที่ยวอีสาน  3 ธรรม “ธรรมะ-ธรรมชาติ-วัฒนธรรม” โดยเฉพาะ ธรรมชาติขายฤดูเดินทางอย่างหน้าฝนฤดูหมอก ส่วนธรรมะกระตุ้นสายศรัทธา สายมู และวัฒนธรรม ชวนเที่ยวงานประเพณี การกินอาหารถิ่นต่าง ๆ

 

สำหรับการท่องเที่ยวเมืองไทย มีหลากหลายมิติมาก จึงเชิญชวนให้มาช่วยกันค้นหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ที่ ททท.และทุกหน่วยงาน ทุกคน ทุกกรม ทุกกระทรวง ตอนนี้ทั้งประเทศร่วมด้วยกัน เปิดประสบการณ์ อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม แล้วเลือกในสิ่งที่ใช่ สไตล์ที่ชอบ แล้วออกไปตอบโจทย์ คือ “การเที่ยวเมืองไทย” พร้อมทั้งขอตอกย้ำมากเรื่องทรัพย์สินที่สำคัญทุกการเดินทางคือ รูปภาพ วิดีโอ แฮชแท็ก เมื่อมีประสบการณ์อันประทับใจ โปรดช่วยกันแชร์ลงบนโลกออนไลน์ ซึ่งทุกคนจะกลายเป็นผู้ที่ช่วยขายการท่องเที่ยวของประเทศทำให้คนทั่วโลกอยากเดินทางกลับเข้ามาเที่ยวเมืองไทยต่อไป

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์เริ่มแล้วTHE POWER BAND SEASON2ทั่วไทย5ภาค

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เริ่มขยับแล้วกิจกรรมเพื่อสังคมโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” ได้ร่วมกับ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และค่ายเพลงชั้นนำของไทย 5 แห่ง ได้แก่ ค่ายเพลง Muzik Move, Smallroom, LOVEiS Entertainment, What The Duck และ Warner Music Thailand เปิดออดิชั่นเฟ้นหานักดนตรีจากสถานศึกษาประเดิมสนามการแข่งขันแรกที่ศาลาเดิม มหาวิทยาลัยขอนแก่น

 

กระตุ้นต่อมนักดนตรีในโครงการ THE POWER BAND 2022 SEASON 2 ที่เข้าได้นำพลังมาโชว์ภายใต้คอนเซ็ปต์ DREAM IT, DO IT กล้าฝัน! กล้าทำ! ชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านบาท  เข้าร่วมประกวดในเวทีแห่งนี้ 2 รุ่น 2 คลาส ระดับมัธยมศึกษา หรือ Class A และระดับบุคคลทั่วไป หรือ Class B

 

โดยมีวงที่ผ่านเข้ารอบออดิชันต่างก็โชว์ความสามารถทางดนตรีอย่างเต็มที่ต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ คุณวิโรจน์ สถาปนาวัตร (J-Pap - วง Infinity) อาจารย์พิเศษ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล  สาขาดนตรีสมัยนิยม กฤษติกร พรสาธิต (ติ๊ก วง Playground) ผู้บริหารค่าย  Home Run Music ไพสิฐ คำกลั่น (Pae Sax) ศิลปินและ Producer ค่าย Melodic Corner ทุกวงดนตรีนำเสนอศักยภาพความสามารถอันหลากหลาย โดยมีกองเชียร์ร่วมส่งกำลังใจกันอย่างสุดมันส์ และผลการตัดสินมีทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป 4 วง ดังนี้

 

ระดับมัธยมศึกษา หรือ Class A ผ่านเข้ารอบ 3 วง คือ  วงที่ 1 HUUKI HUUDA โรงเรียนเลยพิทยาคม จังหวัดเลย มาพร้อมกับแฟชั่นเจร็อคแบบจัดเต็ม วงที่ 2  Little Wings โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย จังหวัดศรีสะเกษ โดดเด่นด้วยพลังเสียงที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวระหว่างนักร้องนำและคอรัสอย่างมีเอกลักษณ์  วงที่ 3 วงหน้าโรงเรียน โรงเรียนสตรีสิริเกศ จังหวัดศรีสะเกษ มาพร้อมกับความหนักแน่นในจังหวะดนตรี และความสามัคคีในการโชว์อย่างดีเยี่ยม

ระดับบุคคลทั่วไป (Class B) มี 1 วง คือ วงคากะจะ จากจังหวัดศรีสะเกษ ที่เกิดจากการรวมตัวกันของนักดนตรีมากประสบการณ์กับความมันในบทเพลง จงเรียกเธอว่านางฟ้า 

 

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์ปลุกช้อปClick&Collect 8 แบรนด์น้ำหอมแห่งปี65

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ แนะนำน้ำหอมใหม่แห่งปี 2565 ไม่มีไม่ได้แล้ว ช้อปเพลิดเพลิน สะดวกสบาย ไม่ต้องแบกให้ยุ่งยากกับบริการ click & collect ที่ คิง เพาเวอร์ เตรียมไว้สำหรับนักเดินทางคนพิเศษ  ช่วยให้ช้อปสินค้า ดิวตี้ ฟรี กับ คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ รับของง่ายขึ้นที่สนามบินทั้งขาเข้า-ขาออก พบน้ำหอมแห่งปีดังนี้

 

แบรนด์ที่ 1 MONTBLANC LEGEND RED EAU DE PARFUM ความหอมใหม่ล่าสุด! ในแพ็กเกจจิงสีแดงสดอันโดดเด่น มอบสัมผัสที่สดใสและกล้าหาญ ผสานความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ด้วยกลิ่นหอมจากเซจและความอบอุ่นของไม้มะฮอกกานี

 

แบรนด์ที่  2 DIPTYQUE L’OMBRE DANS L’EAU EAU DE TOILETTE น้ำหอมกลิ่นแนวฟลอรัลฟรุตตี้ ความหอมของดอกไม้ผสมผสานความสดชื่นจากกลิ่นของผลไม้ อย่างดอกกุหลาบ แบล็กเคอร์แรนต์ และเบอร์รีนานาพันธุ์ ให้คุณได้สัมผัสถึงความสดชื่น ผ่อนคลายร่างกาย ดื่มด่ำความสบายใจ และหลงใหลไปกับเสน่ห์ของธรรมชาติ

 

แบรนด์ที่ 3 YVES SAINT LAURENT LIBRE EAU DE PARFUM น้ำหอมที่เปิดตัวได้อย่างร้อนแรงที่สุดแห่งปี พร้อมประกาศอิสรภาพในการใช้ชีวิต ด้วยกลิ่นหอมตระกูลฟลอรัลจากดอกส้มและดอกลาเวนเดอร์ ผสานความเซ็กซี่ที่แสนระรื่นชื่นหัวใจ และกลิ่นอันร้อนแรงจากเมล็ดถั่วทองกาและอำพัน ในแพ็กเกจจิงคาดด้วยตัวอักษรสีทองเด่นสุดหรูหรา

 

แบรนด์ที่ 4 CHLOÉ NOMADE EAU DE PARFUM NATURELLE น้ำหอมสุภาพสตรี กลิ่นหอมจากดอกมะลิอียิปต์ ผสานกลิ่นวานิลลาและไม้จันทน์ ความหอมหวานที่แสนอบอุ่น เผยเสน่ห์และความสง่างาม ละเมียดละไม บรรจุในแพ็กเกจจิงที่ร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยวัสดุรีไซเคิล ซึ่งประกอบเป็นขวดแก้ว 15% และกล่องกระดาษแข็ง 40% พร้อมปรุงด้วยกลิ่นหอมจากธรรมชาติ 100% สาวกวงการวีแกนไม่ควรพลาด

 

แบรนด์ที่ 5 VALENTINO DONNA BORN IN ROMA EAU DE PARFUMน้ำหอมกลิ่นฟลอเรียนทัลสไตล์โอตกูตูร์สมัยใหม่ ที่รังสรรค์จากดอกจัสมินอันหรูหรา ผสานกลิ่นวานิลลาเบอร์เบินปิดท้ายกลิ่นวู้ดดี้ เผยกลิ่นของความลงตัวจากส่วนผสมทั้งสามแบบสมัยใหม่ที่พร้อมเปล่งประกาย

 

แบรนด์ที่  6 JO MALONE LONDON CRYSTAL CAMPION COLOGNE น้ำหอมตระกูลอะควาติก ฟลอรัล กลิ่นหอมสดชื่นของกุหลาบที่ผสานเข้าไว้กับไวโอเลตและแบล็กเคอร์แรนต์ ให้สัมผัสใสสะอาด บริสุทธิ์ราวกับคริสตัลในแหล่งน้ำธรรมชาติอันห่างไกล

 

แบรนด์ที่  7 JO MALONE LONDON FOREST MOSS COLOGNE กลิ่นหอมตระกูลฟูแจร์ วู้ดดี้ มอบสัมผัสอันน่ารื่นรมย์สุดสดชื่นของสนจูนิเปอร์ ดอกเจอเรเนียม และมอส คลอเคล้าความหอมกรุ่นอย่างอบอุ่นจากวู้ดดี้

 

แบรนด์ที่ 8 CHANEL N°1 DE CHANEL L’EAU ROUGE น้ำหอมที่ให้กลิ่นสดชื่น กระปรี้กระเปร่า สกัดจากดอกคามิลเลียซึ่งเป็นสัญลักษณ์อันโดนเด่นของแบรนด์ ผสานกลิ่นหอม แนวฟรุตตี้อย่างซิตรัสและเบอร์รีสีแดง ปิดท้ายด้วยมัสก์และไอริส ช่วยปลอบประโลมให้รู้สึกถึงความชุ่มชื่น สุดแสนจะสบาย  

 

ข่าวที่ 3  ททท.ระดมธุรกิจกระตุ้นเที่ยวไทยอัดโปรStylecationลดสูงสุด60%

 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สนับสนุนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เร่งทำกิจกรรมกระตุ้นตลาดเชิงรุกในประเทศหลังโควิด-19 คลี่คลาย ด้วยโครงการ​ “ชวนเที่ยวไทย”​ ปลุกกระแสการท่องเที่ยวในประเทศผ่านสื่อต่างๆ โดยใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มเป็นเครื่องมือประชาสัมพันธ์ควบคู่กับกิจกรรมส่งเสริมการขายทั่วไทย 5 เส้นทาง “ชวนเที่ยวไทย”​ แบบใหม่สไตล์ 5 ภูมิภาค มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยตลอดปีท่องเที่ยวไทย 2565-2566 หรือ “Visit Thailand Year 2022 – 2023 : Amazing New Chapters” ตอกย้ำการท่อเงที่ยวเพิ่มประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าประทับใจและแตกต่างกระจายนักท่องเที่ยวและเม็ดเงินสู่ฐานรากจากตลาดในประเทศได้ตามเป้าหมายปี 2565  สร้างรายได้ 656,000 ล้านบาท จากจำนวนไม่ต่ำกว่า 160 ล้านคน-ครั้ง  

 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.​ กล่าวว่า พร้อมส่งเสริมตลาดเชิงรุกด้วยการนำพลังซอฟท์เพาเวอร์สร้างกระแสท่องเที่ยวในประเทศด้วยแคมเปญ “Stylecation ชวนเที่ยวไทย..แบบที่ใช่สไตล์ที่ชอบ นำเสนอผ่านกลยุทธ์ “Celebrity Marketing” กับคู่ฮอต “พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร และบิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล”​ผู้นำสไตล์การท่องเที่ยวตัวแทนคนรุ่นใหม่มาชวนสร้างแรงบันดาลใจ และออกแบบการท่องเที่ยวในแบบฉบับของตัวเอง ตอบโจทย์ปัจจุบันที่นักเดินทางนิยมตามไลฟ์สไตล์ผสมผสานกิจกรรมที่ชอบ สร้างความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร

 

พร้อมทั้งได้จัดทำ Vlog Stylecation  ที่จะนำเสนอเรื่องราวการเดินทางของทั้งสองคนที่ต้องการออกไปค้นหาแรงบันดาลใจ พร้อมร่วมกันดูแลเมืองไทย ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมผ่านการเดินทาง 5 สไตล์ 5 ภูมิภาค เพื่อให้ได้สัมผัสกับประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ Amazing ยิ่งกว่าเดิม และเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ ทั้งสื่อโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ สื่อออนไลน์ โซเชียลมีเดีย รวมถึงอินฟลูเอ็นเซอร์ชั้นนำของเมืองไทย

 

โดยชวนคนไทยออกไปตามแหล่งท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองรองทั่วประเทศ ภายใต้ธีมเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน 5 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ : เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ - North Nostalgia ภาคกลาง : Trendy C2 ภาคกลาง (Create new Experience และ Charming of Central) - Chic Central ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน - Isan in Love ภาคใต้ : หรอยแรงแหล่งใต้ - Savory South และ ภาคตะวันออก : สบ๊าย สบาย ตะวันออก - East at Ease    

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ  ททท.​ กล่าวว่า วางแผนทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดโดยร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชน บริษัทนำเที่ยว โรงแรมที่พัก สายการบิน บริษัทประกันภัย โหมขายโครงการ“Stylecation Deal” มอบส่วนลดสูงสุด 60%  เปิดให้จองทางเว็บไซต์ www.stylecationthailand.com ได้ตั้งแต่วันนี้ -31 กันยายน 2565 เช่น KLOOK แพลตฟอร์มชั้นนำจองกิจกรรมและบริการด้านการท่องเที่ยว พร้อมมอบโปรโมชั่นส่วนลด 10-12 % สายการบินไทยสมายล์แจก Code ส่วนลด 200 บาท เดือนสิงหาคม  2565

 

รวมทั้งมีพันธมิตรโรงแรมที่พักเข้าร่วมมากมาย เช่น เครือศรีพันวาลดสูงสุดจากราคาปกติ 60% ได้แก่ แพกเกจ Sri Panwa Phuket Luxury Pool Villa Hotel ลด 52% หรือ หัวหิน มีแพกเกจ Baba Beach Club Hua Hin Luxury Pool Villa Hotel by Sri panwa  ลดสูงสุด 50% ส่วนพังงาลด 60 %   ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2565 ซื้อแล้วนำไปใช้พักได้ข้ามปี ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2566

 

ขณะที่โรงแรมเวเคชั่น วิลเลจ พระนางลันตา ลดพิเศษในราคาเริ่มต้นเพียง 1,260 บาท/ห้อง พร้อมรับสิทธิพิเศษจากทางโรงแรมเพียบ

 

นางสาวฐาปนีย์ย้ำว่า นักท่องเที่ยวทั่วไทยเตรียมพบกับโปรโมชันพิเศษยิ่งกว่า นั่นคือกิจกรรม Live Stylecation ผ่าน YouTube : Amazing Thailand ทุกวันอังคารเริ่มอังคารที่ 30 สิงหาคม - 20 กันยายน 2565 รับดีลสุดพิเศษจาก KLOOK ลดสูงสุด 50%  ทิพยประกันภัยมอบประกันการเดินทางฟรี  นำโดย “โอปอล์ ปาณิสรา อารยะสกุล” พร้อมด้วย ภูริ หิรัญพฤกษ์,เติ้ล กิตติภัค ทองอ่วม, ดีเจดาด้า วรินดา ดำรงผลและดีเจอ๋อง เขมรัชต์ สุนทรนนท์

 

อีกทั้ง ททท.เตรียมต่อยอดแคมเปญผ่านทาง FaceBook Fanpage: “AmazingThailand” เช่น กิจกรรม My Stylecation เพียงแค่โพสต์ภาพท่องเที่ยวในสไตล์ของตัวเอง แล้วเปิดเป็นสาธารณะพร้อมติดแฮทแท็ก #Stylecation เตรียมลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษได้เลยทั้งแพ็คเกจ Once in a life time ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชมวิวกรุงเทพฯ จิบน้ำชามื้อพิเศษที่โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ   1 รางวัล และอีก 50 รางวัล รวมการเดินทางสุดเอ็กซคลูซีฟ  5 เส้นทาง 5 ภูมิภาค เที่ยวทั่วไทย

 

ข่าวที่ 4 TCEBนำร่องเปิดMICE Laneสนามบินภูเก็ตรับไมซ์อินเดีย-โอเชเนีย

 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีเส็บผู้ประกอบการจึงต้องปรับกลยุทธ์ใหม่เรื่องบริการรับรองไมซ์ต่างประเทศที่เปลี่ยนพฤติกรรมไป โดยเฉพาะการทำเรื่องปรับวิธีอำนวยความสะดวกต้อนรับการเดินทางเข้าประเทศ เช่น เปิด MICE LANE ในสนามบินนานาชาติหลักทั้งที่สุวรรณภูมิและภูเก็ต

 

เมื่อ 3-8 สิงหาคม 2565 ทีเส็บได้เปิดบริการเฉพาะกิจ MICE Lane ที่สนามบินนานาชาติภูเก็ตพร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่ไมซ์เลนไปอำนวยความสะดวกให้นักเดินทางไมซ์บินตรงจากต่างประเทศเข้าภูเก็ต 2 กลุ่ม ได้แก่ อินเดียและโอเชียเนีย

 

เป็นครั้งแรกที่เปิด MICE Lane ในสนามบินภูเก็ตซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม เพื่อบริการตามนโยบายของรัฐบาล ทีเส็บร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของประเทศและการยกระดับภูเก็ตเป็นไมซ์ซิตี้ของไทยพร้อมรองรับงานทุกขนาดที่มีแนวโน้มจะเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมากในอนาคตอันใกล้นี้

 

ข่าวที่ 5 บีซีพีจีเครือบางจากครึ่งปีแรกขายไฟฟ้ากำไรพุ่ง1.693ล้านโต55.6%

 

          นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน)  ในเครือ บมจ.บางจากฯ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,693 ล้านบาท เติบโต 55.6 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งเคยมีกำไรสุทธิ 1,088 ล้านบาท กำไรเติบโตขึ้นจากการดำเนินงานปกติ รวมถึงการบันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัท Star Energy Group Holdings Pte Ltd. (SEGHPL) ไตรมาส 1/2565

 

            รวมทั้งได้รับปัจจัยหนุนจาก ปัจจัยที่ 1 การทยอยเปิดดำเนินการขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นรวม 65 เมกะวัตต์ ได้แก่ โครงการ ชิบะ 1 กำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ โครงการโคมากาเนะ กำลังการผลิต 25 เมกะวัตต์ และโครงการยาบูกิ กำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ ซึ่งทยอยเปิดตามลำดับเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564  เดือนมีนาคม 2565 และเดือนเมษายน 2565

 

            ปัจจัยที่ 2 รับรู้ผลการดำเนินงานโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ในไทยดีขึ้นจากการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพแผงโซลาร์ การเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดติดตั้งบนหลังคา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (CMU Project) และการปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft)

 

            ปัจจัยที่ 3 รับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ “Nam San 3A” และ “Nam San 3B” ใน สปป. ลาว เพิ่มขึ้นจากการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และจากการแข็งค่าของเงินสกุลเหรียญสหรัฐฯ

 

            ขณะที่ ไตรมาส 1 บมจ.บีพีซีจี มีรายได้รวม 1,437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32 % และมีกำไรสุทธิจากดำเนินงานปกติ 549 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.9 %

 

            ปัจจุบัน บมจ.บีพีซีจี มีกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด 1,109 เมกะวัตต์ เปิดขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เรียบร้อยแล้ว 391 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างพัฒนา 718 เมกะวัตต์ คาดอีก 3 ปีข้างหน้า ภายในปี 2568 จะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ทั้งหมด

 

                ช่วงที่ 2 หน้าฝนปีนี้หลายจังหวัดทั่วไทยมีแคมเปญดี  ๆ ชวนออกไปเที่ยว ทริปนี้ สายกรีน สายมู/ศรัทธา สายสปอร์ต ต้องห้ามพลาด!! “แอ่วพะเยา เบาเบา บันดาลใจ In Green Season” ตลอดสิงหาคม-กันยายนนี้ รับฟรีอี-คูปอง 100 บาท ส่วนลด 10-30 % สิทธิอีกมากมาย ก่อนเดินทางต้องรู้ “7เทคนิคเที่ยวฤดูฝนมีความสุขปลอดภัย” และข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “ดุสิตธานี”ดันแบรนด์อีลิธเฮเว่นส์เปิด3วิลล่าหรูทั่วเอเชียบูมนาใต้โกยเงินเข้าไทย ข่าวที่สอง “TCEBคว้าลิขสิทธิ์จัดSPARTAN THAILAND”เข้าไทยที่เชียงใหม่โกย300 ล้านบาท ภูเก็ตรอ 26-27 พ.ย.65

 

ท่องเที่ยว-พะเยาชวนสายกรีนสายมูสายกีฬาแอ่วกว๊านฤดูฝนนี้สนุกจริงๆ

เที่ยวเมืองไทยในโมเมนท์ที่ใช่ โอกาสสร้างได้ไม่ต้องรอ เดือน สิงหาคม-กันยายนนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย ดูแลพื้นที่การท่องเที่ยวจังหวัดพะเยา  ชวนสายธรรมชาติ สายมูเที่ยวไทยกับ “แอ่วพะเยา เบาเบา บันดาลใจ In Green Season” เปิดให้เช็คอินน์พักในโรงแรม 16 แห่ง รับอี-คูปอง100 บาท นำไปใช้เป็นส่วนลดตาม ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านของฝากของที่ระลึก กิจกรรมท่องเที่ยวอีกกว่า 50 แห่ง  

ททท. เชียงราย พร้อมใจกันกับทั่วทั้งจังหวัดทั้ง หอการค้าจังหวัดพะเยา สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดพะเยา  ชมรมอาหารและเครื่องดื่ม YEC ผู้ประกอบการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดพะเยาต่อเนื่องได้ตลอดเดือนสิงหาคม-กันยายน 2565 นอกจากอี-คูปองฟรีแล้ว ยังมอบส่วนลดสินค้าและบริการ 10-30% หรือ สิทธิพิเศษอื่น ๆ มากมาย

 

ชวนมาเติมความสุขกับการเที่ยววิถีธรรมชาติเขียวขจี ทุ่งนา ป่าเขา ที่ “กว๊านพะเยา”หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ที่มีฉากทิวเขาสลับซับซ้อนปกคลุมด้วยทะเลหมอกหลังฝน  ละลานตากับร้านอาหารเรียงรายรอบกว๊านพะเยา มาถึงแล้วสามารถนั่งชีล พักผ่อน นั่งเล่น ตักบาตรยามเช้า ไปสำรวจถนนคนเดินริมกว๊านแล้วลองลิ้มรสอาหารเช้าเมนูถิ่น

 

“สายมูสายศรัทธา” ต้องชอบแน่นอนที่จะได้นั่งเรือพายไปไหว้พระยัง “วัดติโลกอาราม” ตั้งอยู่กลางน้ำกว๊านพะเยา ในพะเยามีวัดศักดิ์สิทธิ์และศิลปะสายงามขึ้นชื่ออีกหลายแห่ง เช่น วัดอนาลโยทิพยาราม วัดนันตาราม วัดศรีโคมคำ วัดศรีชุม วัดห้วยผาเกี๋ยง

“สายสปอร์ต” ช่วงหน้าฝนมีกิจกรรมกลางแจ้งสนุกสุด ๆ รออยู่กับการ พายเรือซับบอร์ด  ล่องแก่ง เดดินท่องเที่ยวสำรวจป่า

“สายธรรมชาติ” ต้องไปหยิบหยอกทะเลหมอกหน้าฝนได้ที่ “ผาช้างน้อย ภูลังกา”  มีกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ในชุมชนอย่าง “ชุมชนบ้านสันแกลบดำ” เป็นแหล่งประมงพื้นบ้านแห่งสุดท้ายในพะเยา มาเรียนรู้วิถีประมงพื้นบ้าน การอนุรักษ์พันธุ์ปลานานาชนิด ชิมอาหารพื้นถิ่นเมนูปลาและกุ้ง ชมถนนศิลปะบอกเล่าเรื่องราวความผูกพันของชาวสันแกลบดำกับอาชีพประมงในกว๊านพะเยาไว้บนรั้วกำแพงกว่า 200 เมตร ยามเย็นไปนั่งชมพระอาทิตย์ตกดินแสนงดงาม

 

สนใจเที่ยว “แอ่วพะเยา เบาเบา บันดาลใจ In Green Season”  www.tourismchiangrai-phayao.com และ เพจเฟสบุ๊ค: ททท.สำนักงานเชียงราย-พะเยา  ได้ทุกเวลา เมืองไทย ยิ่งเที่ยว ยิ่งให้ ยิ่งได้ เที่ยวในโมเมนท์ที่ใช่ โอกาสสร้างได้ไม่ต้องรอ

 

สุขภาพ - แนะ7เทคนิคเตรียมตัวเดินทางเที่ยวหน้าฝนให้สนุกและปลอดภัย

ช่วงสิงหาคมปีนี้สภาพอากาศสลับไปมา เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนเท เดี๋ยวพายุเข้า แต่ก็ยังสามารถออกเดินทางไปพักผ่อน เที่ยวชมธรรมชาติสีเขียว ไปดูทะเลหมอก สูดอากาศดี ๆ สัมผัสอากาศเย็นสบาย เล่นน้ำตก ชมธรรมชาติ ได้อย่างปลอดภัยกับ 7 เทคนิค ดังนี้

           

1. เตรียมเสื้อผ้าให้เข้ากับสภาพอากาศ : ควรเลือกชุดที่ใส่สบาย ผ้าแห้งเร็ว ที่สำคัญต้องเลือกชุดให้เหมาะกับสถานที่จะไป สวมรองเท้าที่มีพื้นยางดี เกาะพื้นถนน พื้นดินหรือหินได้เป็นอย่างดี ต้องไม่บางจนเกินไป และต้องไม่สึกหรอง่าย เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุจากการลื่นล้มนั่นเอง

 

2. เตรียมร่างกายให้พร้อม : เมื่อออกเดินทางในแต่ละครั้ง ควรตรวจเช็คสภาพร่างกายและเตรียมร่างกายของตัวเองให้พร้อม เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้เจ็บป่วยระหว่างท่องเที่ยว  

 

3. พกยาประจำตัวหรือยาสามัญทั่วไป : ในบางสถานที่ที่เราเดินทางไปท่องเที่ยว อาจจะไม่สามารถหาซื้อยาได้ จึงควรพกยาและเครื่องปฐมพยาบาลเบื้องต้นติดไปด้วยทุกครั้ง โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัวห้ามลืมเด็ดขาด

 

4. เลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสม : การเลือกสถานที่ท่องเที่ยวควรเลือกเหมาะสมกับฤดูตามสถานที่นั้น ๆ ว่าเหมาะสมหรือไม่ และควรค้นหาข้อมูลเกี่ยวก่อนเดินทางไป ดูว่าที่ตั้งอยู่ตรงไหน และต้องเตรียมตัวเดินทางไปอย่างไรบ้าง 

 

5. พกอุปกรณ์กันฝน : ควรพกอุปกรณ์กันฝน เช่น ร่ม เสื้อกันฝน รองเท้าบู๊ทกันน้ำ รองเท้าแตะสำหรับลุยน้ำ ถุงหรือกระเป๋าที่สามารถกันฝนได้  เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งของเปียกหรือเกิดความเสียหาย

 

6. ตรวจสอบยานพาหนะให้พร้อมก่อนออกเดินทาง : สำหรับใครที่ขับรถส่วนตัวไปเที่ยวเอง ควรตรวจเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทางทุกครั้ง โดยเฉพาะการเที่ยวหน้าฝนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะถนนค่อนข้างลื่น อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย และไม่ควรขับรถเร็วขณะฝนตก หลีกเลี่ยงการขับรถตอนกลางคืน

 

7. หมั่นตรวจเช็คสภาพอากาศเป็นระยะ ๆ : ก่อนและระหว่างการออกเดินทาง ควรตรวจสอบสภาพอากาศเป็นระยะ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่า สามารถไปเที่ยวที่นั้น ๆ ได้อย่างปลอดภัย หรือไม่ เข้าไปค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต หรือโทรสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบในสถานที่นั้นโดยตรง

ทุกครั้งที่ออกท่องเที่ยวหน้าฝนทำให้ครบทั้ง 7 เทคนิค จะทำให้สบายใจเที่ยวปลอดภัยอย่างแน่นอน

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก -ดุสิตธานีชูแบรนด์อีลิธเฮเวนส์เปิดวิลล่าหรู3แห่งบูมนาใต้ในไทย

 

บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) รายงานว่า กลุ่มดุสิตธานีได้นำแบรนด์ “อีลิธ เฮเวนส์ :Elite Havens” ผู้นำธุรกิจรับบริหารและให้บริการเช่าวิลล่าหรูชั้นนำแห่งเอเชีย ตอบรับการท่องเที่ยวทั่วโลกฟื้นตัวด้วยการเดินหน้าเปิดตัววิลล่าสุดหรูใหม่ 3 แห่ง ในไทย อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น ต่อเนื่องจากปัจจุบันบริหารในเอเชียอยู่เกือบ 300 แห่ง

 

ในประเทศไทย เปิด “เวล่า นาใต้ เรสซิเดนเซส” ที่บริเวณหาดนาใต้ จังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้นำกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่คว้ารางวัลชนะเลิศวิลล่าสำหรับครอบครัว  ซึ่งก่อนหน้านี้แบรนด์ อีลิธ เฮเวนส์ ได้เปิดบริการวิลล่าหรูให้เช่าตรงหาดนาใต้ไว้รวม 20 หลัง จะเปิดเพิ่มขึ้นอีก 4 หลัง แต่ละหลังจะมีห้องนอน 3 ห้อง สิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีแบบดิจิทัล และการออกแบบแนวร่วมสมัย โดยมีรางวัลการันตีจาก The International Architecture Awards (IAA) 2020 โดย The Chicago Athenaeum: พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมและการออกแบบ ยืนยันถึงความสวยงาม

 

วางกลยุทธ์รองรับตลาดกลุ่มเพื่อน ๆ และครอบครัว ที่ชื่นชอบพักผ่อนในห้องพักหรูริมชายหาดที่สมบูรณ์แบบ ด้วยบริการไฮไลท์อีกอย่างคือมีเชฟส่วนตัวคอยทำอาหารแสนอร่อยเสิร์ฟวิลล่า พร้อมกับมีสระว่ายน้ำส่วนตัวสะดวกสบายอย่างมาก

 

ส่วนในอินโดนีเซีย สร้างใหม่ในชื่อ “วิลล่า นินี่ แอลลี่” อยู่ใจกลางย่านแคงกู ย่านรีสอร์ทริมชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาะบาหลี ให้บริการบ้านพักตากอากาศกลุ่มนักท่องเที่ยวครอบครัว เหมาะกับทุกวัยทั้งเด็กและผู้สูงอายุ ตกแต่งด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรู พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ที่ทอดยาวตลอดความกว้างของวิลล่า ซึ่งหนึ่งในจุดเด่นของที่พักแห่งนี้ คือ สิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะกับทุกช่วงอายุ ที่มีเพียงไม่กี่แห่งในบาหลี โดยวิลล่า นินี่ แอลลี่ มีห้องนอน 6 ห้องที่แบ่งเป็น 2 ชั้น จึงมีพื้นที่กว้างขวางสำหรับทุกคน และมีทางลาดเข้าถึงได้ทั่วทั้งระดับพื้นดิน ช่วยให้ผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวสามารถพักผ่อนร่วมกันกับครอบครัวได้อย่างอบอุ่น

ในญี่ปุ่นใช้ชื่อ “ซากุระ ลอดจ์” เป็นชาเล่ต์แบบ 3 ห้องนอน ท่ามกลางพื้นที่โล่งโปร่งแบบเล่นระดับ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านนิเซโกะและฮิราฟุ เกาะฮอกไกโด เปิดวิลล่าหรูให้เช่ารวม 27 หลัง ทาง ซากุระ ลอดจ์ เปิดรับจองตั้งแต่ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป โดยมีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางเหมาะกับครอบครัวที่ต้องการเล่นสกีช่วงฤดูสกี พร้อมรถรับส่งฟรีไปยังลิฟต์สกี ในหมู่บ้านนิเซโกะเป็นแหล่งท่องเที่ยววิวภูเขาสวยงามในฤดูร้อน และสามารถท่องเที่ยวตลอดทั้งปี

ข่าวที่สอง –TCEBดึงSPATANเข้าไทยที่เชียงใหม่โกย300ล้านภูเก็ต26-27พ.ย.นี้

 

 

นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  เปิดเผยว่า ทางสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ร่วมกับ 6 องค์กรรัฐร่วมกันดึงลิขสิทธิ์การแข่งขันวิ่งฝ่าด่านหฤโหดระดับโลกมาจัดในประเทศไทยรายการ “สปาร์ตันไทยแลนด์ 2022 เชียงใหม่” ระหว่างวันที่ 12-14 ส.ค. 2565 ที่อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ประเดิมอย่างเป็นทางการเป็นสนามแรกวันที่ 12 สิงหาคมนี้  เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาหรือ Sport Tourism

 

            โดยมีหน่วยงานพันธมิตร่วมกันสนับสนุนจัดการแข่งขัน 6 องค์กร ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่  กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก และสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย

               

การแข่งขันครั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่ยินดีอย่างมากที่มีโอกาสต้อนรับนักวิ่งทั้งไทยและต่างชาติจากทั่วโลก 30 ประเทศ รวมกว่า 3,000 คน ซึ่งผู้เข้าแข่งขันเดินทางมาพร้อมกับครอบครัว ผู้ติดตาม จะได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวธรรมชาติ สถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงได้ช่วยโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวรอบบริเวณห้วยตึงเฒ่าควบคู่กันไปด้วย

            ทางด้าน “จุฑา ธาราไชย” ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคเหนือ ทีเส็บ กล่าวว่า การได้ลิขสิทธิ์จัดการแข่งขันวิ่งวิบากระดับโลกมาจัดในประเทศไทย ซึ่งเป็นรายการ Spartan Race World Series โดยมีฐานแฟนคลับทั่วโลกกว่า 40 ประเทศ รวมกว่า 2 ล้านคน เป็นภารกิจที่ทีเส็บมุ่งต่อยอด และสร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท จะเป็นอีกโครงการที่จะช่วยกระตุ้น ฟื้นฟูส่งเสริมรายได้เข้าเชียงใหม่ โดยมีผู้สมัครแข่งขันคนไทยรวมกับต่างชาติราว 4,000 คน พร้อมผู้ติดตาม 12,000 คน  

            นายไมเคิล กู๊ดวิน กรรมการผู้จัดการ  Licensed Markets กล่าวว่าการแข่งขัน “สปาร์ตัน ไทยแลนด์ 2022 เชียงใหม่” ที่ห้วยตึงเฒ่า นับเป็นสนามแรกของเมืองไทยที่ได้จัการแข่งขันชิงแชมป์ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ SEA Regional Series ร่วมกับสนามแข่งที่มาเลเซีย ฟิลิปปปินส์ เวียดนาม ในประเทศไทยหลังจบจากสนามนี้เจ้าภาพสนามต่อไปคือจังหวัดภูเก็ต เตรียมจัด “PHUKET – Spartan Asia Pacific Championship” ในสนามใหม่ล่าสุดของโลกที่ “บูลทรี ภูเก็ต” ระหว่างวันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งจะตอกย้ำถึงศักยภาพของทั้ง 2 สนามแข่งทั้งเชียงใหม่และภูเก็ต จัดขึ้นภายใต้มาตรฐานระดับโลกนี้ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อน Fan Base ของ Spartan Race ที่มีอยู่ทั่วโลกกว่า 2 ล้านคน หันมาสนใจและพร้อมที่จะเดินทางมาแข่งขันในไทยเพิ่มอีกเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน

 

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00