TCEBชงครม.16ส.ค.65จัดทัพชิงSpecial Expo 2028ซีซั่น 2ตั้งทูตหาเสียงสมาชิกโหวตให้ไทยก่อนมิ.ย.66 ปลาย65แจกงบกระตุ้นไมซ์-ดันไทยฮับเอ็กซิบิชั่น
TCEBชงครม.16ส.ค.65ดันไทยจัดทัพชิงSpecial Expo 2028ซีซั่น 2
รองนายกฯอนุทินตั้งทูตหาเสียงสมาชิกโหวตให้ไทยก่อนมิ.ย.66
ปลาย65-ปี’66แจกงบกระตุ้นไมซ์ในประเทศ-ไทยผงาดฮับเอ็กซิบิชั่น
คิงเพาเวอร์จัดปังวันแม่ช้อปแบรนด์ดังกินอร่อยทำสปาผ่อนคลาย
รับ2โปรจุใจที่คิงเพาเวอร์LimitlessShoppingWeekendCodeลด35%
ซื้อแคชการ์ดคิงเพาเวอร์ก่อนช้อปรับเพิ่มฟรีกิฟท์การ์ดหมื่นบาท
ททท.ผนึกหัวเหว่ยใช้5Gคลาวนด์รับจีนชิมรางจัดแคมป์เด็ก20ส.ค.
“TCEB”ปลื้มนำกรุงเทพฯผงาดคว้าอันดับ1แชมป์ไมซ์เอเชียแปซิฟิก
กลุ่มบางจากโชว์ผลงานครึ่งปีแรก’65ตุนรายได้พุ่งกว่า1.52แสนล้าน
เที่ยวเลย!หน้าฝนทึ่งศิลปะนาข้าววัดโพธิ์ชัยทะเลภูทอก&ภูหัวฮ่อม
ดูแลตาด้วยบัญญัติสุขภาพ10ข้อการดูแลป้องกันรักษาการมองชัด
แอร์เอเชียดัน“AAV”Q2โกย2.7พันล้านครึ่งปีแรกขาดทุน7พันล้าน
อบจ.ภูเก็ตบุกโร้ดโชว์อินเดียว3เมืองส.ค.-ธ.ค.นี้โกย7.5พันล้าน
วันเสาร์ที่
13 สิงหาคม 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.
ฟังทางFacebookLive QFM97.0 อ่าน www.facebook.com/penroongyaisamsaen
บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #TCEB #บางจาก #เที่ยวเมืองเลยหน้าฝน
ฟัง Live
สดจากลิงค์นี้...
ช่วงที่
1 นำไมซ์ไทยบุกโลกกับ
“นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB”
เปิดเกมใหม่รอบชิง Special
Expo 2028 รองนายกฯ อนุทินชง ครม.16 ส.ค.พร้อมตั้งกรรมการ
Thailand
Candidature Committee 23
ส.ค.บุกขอเสียงโหวตทั่วโลกก่อน มิ.ย.66 เปิดแผนตลาดอินเตอร์ปลายปีนี้
“Meeging-Incentive”
อินเดียฮ็อตสุด ๆ พร้อมดันไทยขึ้นนำศูนย์กลาง Exhibitionเอเชีย
ด้านในประเทศ ต่อยอดหนุนงบ“ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า”
ซีรีย์ต่อเนื่องอีก 2 แคมเปญ
ส่งเสริมบริษัทบริหารจัดการงานประชุมสัมมนาหรือการจัดการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล
DMC : Destination
Management Company
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
“TCEB”
เปิดเผยว่า การเตรียมความพร้อมนำเสนอการประมูลรอบที่สอง เดือนพฤศจิกายน 2565
เพื่อชิงงาน Special Expo
2028 เข้ามาจัดในจังหวัดภูเก็ต
หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนของคณะกรรมการ BIE : Bureau International des Expositions เดินทางมาตรวจสถานที่รองรับการจัดงานจริงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ตัวแทนของประเทศไทยทุกฝ่ายได้ใช้เวลาถึง 16 ชั่วโมง อธิบายรายละเอียดตามเกณฑ์ 14 ข้อ
ครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับความพร้อม แผนงานอนาคต
ผมมีโอกาสได้คุยกับทางประธานและเลขาธิการ BIE มีสัญญาณดีประเทศไทยน่าจะผ่านเกณฑ์การเสนองานรอบแรกเรื่องความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าว
ในการเสนอแผนรอบที่
2 ทีเส็บและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องเตรียมทุกอย่างตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป
โดยมีขั้นตอนสำคัญเรื่องการโหวตประเทศที่ลงแข่งขันทั้งหมด 5 ประเทศ
ได้แก่ เซอร์เบีย อาร์เจนตินา สเปน สหรัฐอเมริกา และไทย โดยจะต้องขอเสียงโหวตถึง 4 ครั้ง
เพื่อให้เหลือผู้ชนะเพียงประเทศเดียว
ส่วนขั้นตอนวันที่
16
สิงหาคม 2565 นายอนุทิน
ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรี จะได้เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ให้เห็นถึงผลสรุปความสำเร็จ และแผนงานขั้นตอนไปที่ทุกฝ่ายจะต้องดำเนินงาน
โดยมีกระทรวง ทบวง กรม เกี่ยวข้องเข้ามาทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะ ฯพณฯ
นายกรัฐมนตรีให้การสนับสนุนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Special Expo 2028
อย่างเต็มที่ การนำเข้า ครม.จะทำให้ภารกิจเดินหน้าต่อไปอย่างเข้มข้นและแข็งแกร่ง
เนื่องจากทางเอกชน
ภาคประชาสังคม และหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้แสดงพลังเข้ามาร่วมระหว่างคณะกรรมการ
BIE เดินทางมาตรวจเยี่ยมสถานที่จัดงานจริงในจังหวัดภูเก็ต
เช่น นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ นายกสมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย นายสนั่น
อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทย นายกฤษณะ ละไล นายกสมาคมอารยะสถาปัตย์
ทางด้านเอ็นจีโอ ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง
เข้ามาช่วยสนับสนุนเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับธีมเอ็กซโปที่ไทยเสนอ Future of Life ตอกย้ำให้คณะกรรมการ
BIE เกิดความมั่นใจการเตรียมความพร้อมของประเทศไทย
ขั้นตอนต่อเนื่องคือ
“การโหวต” เป็นเรื่องสำคัญดังนั้นในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 นายอนุทิน
ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
จะเป็นประธานการประชุมเพื่อจัดตั้งคณะกรรมการ Thailand Candidature Committee โดยมีกระทรวงหลัก
ๆ เข้าร่วม ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ในฐานะสมาชิก BIE กระทรวงสาธารณสุข
พร้อมกับแต่งตั้งผู้แทนพิเศษเป็นฑูต (influencer)
ของประเทศไทยเดินสายไปตามประเทศต่าง ๆ จะต้องช่วยกันหาเสียง หลัก ๆ
ได้แก่ทวีปแอฟริกา ตะวันออกกลาง และสาธารณรัฐประชาชนจีน
หลังจากนั้นไทยจะต้องส่งเอกสารการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน
Special Expo 2028 เพื่อขอเสียงสนับสนุนจากสมาชิกประเทศต่าง
ๆ ในปี 2566 ขณะนี้
“การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.)
ได้รับแต่งตั้งให้รับผิดชอบด้านประชาสัมพันธ์โดยได้รับงบประมาณแล้ว
รวมทั้งสถานเอกอัครราชฑูต สถานกงศุลไทย ทั่วโลก
ร่วมมือกันประชาสัมพันธ์ด้วยอีกช่องทาง
ไฮไลต์ที่ประเทศไทยต้องวางแผนจัดควบคู่กันไปในระหว่างนี้ได้แก่
กิจกรรมที่ 1 จัดประชุมสัมมนา
“Future of Life Series”
เพื่อสร้างการตระหนักรู้
พร้อมทั้งบรรยายเนื้อหาและธีมงานที่แต่ละประเทศจะเข้ามาร่วมจัดในภูเก็ต ประเทศไทย
ปี 2571 กิจกรรมที่ 2 เชิญคณะฑูต
ภาคเอกชนและผู้นำทางความคิดต่างชาติที่ประจำอยู่ประเทศไทยเข้าร่วมแสดงความคิด
ทางทีเส็บได้จัดเตรียมงบประมาณไว้แล้วที่จะจัดกิจกรรมดังกล่าวต่อเนื่องปี 2565-2566 ปีละ 2 ครั้ง
เพื่อยืนยันความมั่นใจเรื่องความเป็นเจ้าภาพจัดงาน
โดยมีความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน
ระบบคมนาคมโลจิสติกส์ แผนการเดินทาง ซึ่งตอนนี้จังหวัดภูเก็ตต้องลงทุนสร้างรถไฟฟ้ารางเบา
กระเช้าตามสถานที่หลัก สนามบินนานาชาติ
เพื่อสนับสนุนการเดินทางได้ง่ายขึ้นในการเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงาน Special Expo 2028
ไทม์ไลน์ก่อนเดือนพฤศจิกายน
2565 จะต้องเชิญคณะฑูตจากประเทศที่มีเสียงค่อนข้างสูงเป็นหลักที่จะช่วยโหวตให้ประเทศไทยมาพบปะพูดคุยกัน
ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขก็ได้เตรียมดำเนินการในส่วนการดูแลทางโรงพยบาลวชิระภูเก็ตอย่างเต็มพื้นที่
ซึ่งจะต้องเดินหน้าโครงการเมดิคัล ฮับ โดยมีรองนายกฯ อนุทิน ประธานคณะกรรมการ
ควบคู่กับ Thailand
Candidature Committee ขณะนี้รัฐบาลได้สนับสนุนให้งบประมาณเพื่อนำมาใช้ในปี
2566-2567 จัดวางไว้เรียบร้อยแล้ว
เพื่อดำเนินการให้แล้วเสร็จช่วงการเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซโปแล้วหลังจบงานก็จะได้วางแผนบริหารจัดการให้เป็นระบบอย่างยั่งยืนต่อไปด้วย
นายจิรุตถ์กล่าวต่อถึงแผนงานกระตุ้นตลาดไมซ์ก่อนสิ้นปีงบประมาณภายใน
30
กันยายน 2565
ขณะนี้ลุยกระตุ้น “ไมซ์ตลาดในประเทศ” โดยได้ผลิตคลิปโฆษณาประชาสัมพันธ์
“ประชุมเมืองไทย มนต์เสน่ห์แห่งความสำเร็จ”
ออกสู่สาธารณะระหว่างสิงหาคม-กันยายน-ต้นตุลาคม นี้
โดยมีแนวคิดระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน นี้
โดยจะมีหน่วยงานราชการจะจัดประชุมจำนวนมากขึ้น เนื่องจากจะต้องเตรียมแผนปีงบประมาณใหม่
2566
และภาคเอกชนจะต้องเตรียมแผนการตลาดปีหน้าด้วยเช่นกัน
ทีเส็บจึงได้ใช้จังหวะนี้นำเสนอสถานที่จัดประชุมนอกห้องซึ่งมีให้เลือกจัดกลางแจ้งตามสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติอีกหลายหลายมิติกระจายอยู่ทั่วประเทศ
ตอนนี้ตลาดประชุมสัมมนาค่อนข้างคึกคักมาก มีทั้งหน่วยราชการ บริษัท ห้างร้าน
องค์กร ออกเดินทางไปจัดกิจกรรมนอกสถานที่เพื่อพัฒนางานตนเอง และจิตใจบุคลากร
ทำทีมบิลดิ้งต่าง ๆ
เมื่อเข้าสู่ปีงบประมาณ
2566 เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม
2565
เป็นต้นไป ทีเส็บจะเริ่มเดินหน้าแคมเปญต่อเนื่อง “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า”
เป็นซีรีย์ต่อเนื่องอีก 2
แคมเปญ
ส่งเสริมบริษัทบริหารจัดการงานประชุมสัมมนาหรือการจัดการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล
DMC : Destination
Management Company
สำหรับการวางแผนกระตุ้น
“ตลาดต่างประเทศ” ทีเส็บเพิ่งจัดงานประชุมแบบไฮบริด Meeting & Incentive มีผู้สนใจเข้าร่วมเพื่อส่งเสริมแลกเปลี่ยนแนวคิด
สินค้าใหม่ อัพเดทตลาด
ผลจากการพูดคุยกับผู้ประกอบการได้รับการยืนยันสถานการณ์ตลาดไมซ์ดีขึ้นมาก
บางส่วนมาจากทวีปไกล ยุโรป สหรัฐอเมริกา แต่ลักษณะกรุ๊ปจะเปลี่ยนแปลงไป คือ
1.ขนาดของกรุ๊ปจัดงานจะเล็กลงมีประมาณ 30-50 และไม่เกิน 100 คน/กรุ๊ป/ครั้ง
2.การเลือกใช้เงินสูงกว่าปกติมาก
โดยเลือกจองพักวิลลาหรูแทนการจองห้องพักโรงแรมทั่วไป
3.การเดินทางเลือกซื้อตั๋วโดยสารชั้นธุรกิจ
(business class)
เป็นหลัก
4.การจองกับทาง DMC จะเน้นเดินทางมาเป็นซีรีย์
มาด้วยความถี่บ่อยมีจำนวนครั้งการเดินทางเข้ามาเมืองไทยมากขึ้น
เพียงแต่จำนวนคนแต่ละครั้งจะน้อยลง
หมายถึงแต่ละบริษัทซึ่งเดิมในสถานการณ์ก่อนโควิดเคยมาพร้อมกันครั้งละ 300-400 คน
หลังสถานการณ์โควิดจะมาเป็นกลุ่มของผู้บริหารหรือเอ็กเซ็กคลูทีฟครั้งละ 30,50, 100 คน/ครั้ง
นายจิรุตถ์กล่าวว่า
ทางทีเส็บกับผู้ประกอบการจึงต้องปรับกลยุทธ์ใหม่เรื่องบริการรับรองไมซ์ต่างประเทศที่เปลี่ยนพฤติกรรมไป
เรื่องที่ 1 ปรับวิธีอำนวยความสะดวกต้อนรับการเดินทางเข้าประเทศ
เช่น เปิด MICE LANE ในสนามบินนานาชาติหลักอย่าง
สุวรรณภูมิ ภูเก็ต เรื่องที่ 2 เพิ่มเรื่องการนำเข้าสิ่งของนำเข้ามาจัดแสดงในงานต่าง
ๆ เรื่องที่ 3 การจัดรถนำขบวนเพื่อความรวดเร็ว
เป็นทริปเอ็กซ์คลูซีฟมากขึ้น
เรื่องที่
4 ส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมไมซ์อย่างยั่งยืนหรือ
Sustainsibity เพราะหลังโควิดบริษัทส่วนใหญ่ต้องการนำเสนอการลดคาร์บอนไดออกไซด์และการชดเชยการปล่อยคาร์บอนออกไซด์
(carbon offset)
จะต้องรักษาสิ่งแวดล้อม ในการจัดแต่ละอีเวนต์ตามสถานที่ต่าง ๆ
จะต้องคำนึงถึงไม่ทำลายธรรมชาติ เช่น การเลือกใช้วัสดุ
ของจัดเลี้ยงจะต้องใช้จากภายในท้องถิ่น ทีเส็บจึงใช้โอกาสที่ดีนำเสนอ 7 Theme MICE แนะนำให้สินค้าในพื้นที่
เช่น
จัดงานที่พัทยาก็เลือกใช้วัตถุดิบอาหารงานเลี้ยงเป็นหมวดอาหารทะเลในพื้นที่และชุมชนนั้น
ๆ ก็จะทำให้ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้
กลยุทธ์ดังกล่าวทีเส็บสามารถโชว์ศักยภาพให้เห็นถึงการจัดงานไมซ์ซึ่งสามารถอุดหนุนสินค้าชุมชน
กระจายรายได้จากการใช้วัตถุดิบท้องถิ่น สามารถลดหรือชดเชยการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
ประการสำคัญยังช่วยโลกสร้างความยั่งยืนได้อย่างชัดเจน
อันเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรขนาดใหญ่ (corporate)
จากการศึกษาพบว่าบริษัทเกินกว่า 70 % ที่เดินทางเข้ามาจัดไมซ์ในเมืองไทยเรียกร้องต้องการให้มีสูตรคำนวณการลดหรือชดเชยคาร์บอนแต่ละงาน
ถือเป็นสินค้าสำคัญในอนาคตการดูแลลูกค้าแบบเอ็กซ์คลูซีฟควบคู่กับการทำงานอินคลูซีฟใกล้ชิดกับธรรมชาติสิ่งแวดล้อม
ต้องเน้นส่งเสริมอย่างยั่งยืนต่อไป
ส่วนกระแสตลาดไมซ์มาแรงปี
2565
ต่อเนื่องปี 2566 การจัดประชุมหรือ
M :Meeting กับ การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล I : Incentive
ตลาดที่เดินทางเข้าเมืองไทยมากที่สุดขณะนี้คือ อินเดีย และ ตะวันออกกลาง
ทางทีเส็บรุกทำตลาดอย่างเข้มข้น
สำหรับตลาด
จัดนิทรรศการแสดง หรือ E
: Exhibition ส่อเค้ามาแรงตั้งแต่ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 เอ็กซิบิชั่นหลั่งไหลเข้าเมืองไทยมากกว่า
50 % ของไมซ์ทั้งหมด
เนื่องจากสาธารณรัฐประชาชนจีนยังไม่เปิดประเทศ และเมื่อ 2 ปีก่อนฮ่องกงเปิดปัญหาการเมืองภายใน
ส่งผลทำให้บริษัทผู้จัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ ออร์กาไนเซอร์อินเตอร์เนชั่นแนลทั้งหลาย
“ย้ายฐาน” เข้ามาอยู่ในเมืองจำนวนมากพอสมควร แล้วก็ “ดึงงานเอ็กซิบิชั่น” พร้อมกับ
“สร้างงานใหม่” ที่เกี่ยวข้องกับอาหาร พลังงาน และอุตสาหกรรมต่าง ๆ
เข้ามาจัดในเมืองไทย
ล่าสุดทีเส็บกับสมาคมการแสดงสินค้า
(ไทย) หรือ TEA :Trade of
Exhibition Association คือการจัดงานโครงการ EO Pro LEAGUE :Journey to Business
Success โดยมีมืออาชีพซึ่งเป็นบริษัทออร์กาไนเซอร์แถวหน้าของเมืองไทยมาร่วมกันกว่า
20 ราย
มาจากเมืองใหญ่ กรุงเทพฯ ขอนแก่น ภูเก็ต และจังหวัดในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
(EEC)
เป็นการสร้างออร์กาไนเซอร์ท้องถิ่นได้เข้าร่วมอบรมถึงเทคนิควิธีการทำอย่างไรรู้ทันต่างชาติ
ทั้งทางด้านระเบียบกฎหมาย การทำตลาด
มีโอกาสขยายผลสู่ความสำเร็จทั้งทางด้านธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในเวทีระดับชาติได้
โดยเฉพาะการนำเสนอแนวทางพัฒนาศักยภาพ ทักษะ การจัดการทางกฎหมาย
เป็นกลยุทธ์การสร้างออร์กาไนเซอร์ระดับท้องถิ่นเพื่อไปจับคู่กับคู่ค้าไมซ์ในเวทีระดับนานาชาติ
แทนที่ให้เฉพาะชาวต่างชาติเข้ามาทำได้เพียงอย่างเดียว
หลังจากนี้เป็นต้นไปคนไทยก็สามารถทำได้ “ EO Pro LEAGUE ถือเป็นโครงการที่ดีทางทีเส็บจะเดินหน้าผลักดันอย่างเต็มที่ต่อไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1
คิงเพาเวอร์จัดวันแม่ช้อปแบรนด์ดังกินอร่อยทำสปาผ่อนคลาย
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มอบความสุข “วันแม่” ด้วยของขวัญสุดพิเศษ ทั้งช้อป ชิม
ชีล ดูแลสุขภาพ พักผ่อน ในเดือนสิงหาคม 2565
โดยเปิดให้ใช้บริการทุกช่องทางทั้งออนกราวนด์หน้าร้านทุกสาขาในเมือง
สนามบินนานาชาติของไทย ออนไลน์ แอพลิเคชั่น รวมทั้งที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ร้านอาหาร และโรงแรมใหม่ล่าสุด
เดอะ สแตนดาร์ด แบ็งคอก คิง เพาเวอร์ มหานคร
เลือกช้อป คิง เพาเวอร์
ออนไลน์และหน้าร้านแต่ละสาขา ได้จัดเตรียมของขวัญไว้เลือกช้อป เพื่อเซอร์ไพรส์คุณแม่ด้วย
“กระเป๋าแบรนด์ดัง” ทั้งแบบคล้องไหล่ กระเป๋าถือใบเล็ก กระเป๋าพกพาง่าย
ในสไตล์ครอสบอดี้และแฮนด์แบ็ก หรือจะซื้อสะพายเป็นกระเป๋าคู่แม่ลูกก็ได้เช่นกัน
เลือกได้จุดขายทุกแห่ง หรือโทรสอบถามก่อนได้ที่ คิง เพาเวอร์ คอนแทร็กต์
เซ็นเตอร์ 1631
ช้อป “คิง เพาเวอร์”
ทุกสาขาทั้งรางน้ำ ศรีวารี ภูเก็ต พัทยา รับคูปองส่วนลดสูงสุดทันที 3,000 บาท คนละ 1
สิทธิ์/ใบเสร็จ/วัน ได้ดังนี้ 1.ช้อปครบ 10,000
บาทสุทธิ ส่วนลด 10,000 บาท 2.ช้อปครบ 20,000 บาทสุทธิ - รับคูปองส่วนลด
2,000 บาท เพื่อนำไปช้อป 4,000 บาทขึ้นไป
/ ใบเสร็จ
แล้วยังได้สิทธิพิเศษอิ่มอร่อยกับสตรีทฟูดร้านดังที่ THAI TASTE HUB เมื่อมียอดช้อป 5,000 บาท
ขึ้นไป / ใบเสร็จ ที่ รางน้ำ และศรีวารี รับคูปองรับประทานอาหารฟรี 200 บาท วันนี้– 31 สิงหาคม 2565
ขณะที่
“โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์”
จัดเต็มไว้ต้อนรับแม่และทุกครอบครัวที่เลือกใช้บริการแบบครบวงจรทั้งห้องอาหาร สปา
“เท็นชิโนะ” ห้องอาหารญี่ปุ่น คัดสรรและปรุงด้วยวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมส่งตรงจากญี่ปุ่น
ตั้งแต่วันนี้-30 กันยายน 2565 ทุกคนจะได้ค้นพบสิ่งใหม่และการสร้างสรรค์รสชาติดั้งเดิมของสดส่งตรงจากทะเลเสิร์ฟให้เหล่าสากได้ดื่มด่ำกับประสบการณ์ควรค่าแก่การลิ้มลองและจดจำได้เป็นอย่างดีเสมอ
ทั้งชุดเริ่มต้นราคา 1,800 บาทสุทธิ กับชุดปาร์ตี้ ราคา 2,100
บาทสุทธิ
ที่ห้องอาหาร
“เท็นชิโนะ” โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์
พร้อมเสมอกับการนำเสนอประสบการณ์สุดคลาสสิคมาให้ลิ้มลองความอร่อยสดใหม่โดยได้คัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพ
Taste of the sea ด้วยคุณภาพเป็นเอกลักษณ์ให้บรรดาเลิฟเวอร์
ซาซิทั้งหลายได้ดื่มด่ำรสชาติ อาโอิริกะ ปลาหมึกหอมญี่ปุ่น หอยนางรม กุ้งโบตันเอบิ อิกุระ และ มากุโระ
พาคุณแม่มาผ่อนคลายสุขภาพได้ที่
“เลอ สปา” ชั้น 4 โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์
จัดเตรียมโปรแกรมสุขภาพไว้ให้คุณแม่ทุกคนตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2565 ทุกวัน10.OO น.
– 22.00 น. ลูก ๆ
ควงแขนคุณแม่มานวดผ่อนคลายด้วยน้ำมันสกัดจากดอกมะลิ ต้อนรับวันแม่แห่งชาติ
กับโปรโมชั่นสปา “วันแม่” ตลอดเดือนสิงหาคม 2565
สร้างสรรค์บรรยากาศสงบเป็นส่วนตัว ด้วยโปรโมชั่นนวดสปามือและเท้า
นวดผ่อนคลายด้วยน้ำมันมะลิ สไฮไลต์นวดมือหรือนวดเท้า 60 นาที
ราคาเพียงคนละ 1,200 บาทสุทธิ และ 2 คนจ่ายในราคาเพียง
2,200 บาทสุทธิ
พิเศษที่
“โรงแรมเดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร” พิเศษยิ่งขึ้น !
ชวนฉลองเทศกาลวันแม่ด้วยโปรดี และกิจกรรมมากมาย เมื่อจองห้องพักระหว่างวันที่ 12 –
14 สิงหาคม 2565 รับฟรีเซ็ตอาหารกลางวันที่
The Parlor และอาหารเช้าของโรงแรมห้องละ 2 คน รวมการเข้าร่วมกิจกรรมวันแม่ต่าง
ๆ
สำหรับเซ็ตอาหารกลางวันสุดพิเศษสำหรับ
2 คน ที่ห้องอาหาร The Parlor หรือที่
The Standard Grill คุณแม่รับฟรีทันที
ขนมหวานและเครื่องดื่มแสนอ และเปิดโอกาสให้คุณแม่เข้าร่วมกิจกรรมดี ๆอย่าง
เวิร์คช็อปเพนต์ดอกไม้ การเขียน Calligraphy Writing Station รวมทั้งทำโฟโต้บูธถ่ายรูปคู่กับคุณแม่ฟรี
ข่าวที่
2 แจก2โปรจุใจที่คิงเพาเวอร์LIMITLESS SHOPPIINGWeekendCodeลด35%
คิง
เพาเวอร์ เริ่มแล้ว! LIMITLESS SHOPPING DEAL เติมพลังช้อปไม่สิ้นสุด ช้อปออนไลน์กับ คิง เพาเวอร์
ต้อนรับโปรแรงกลางเดือนตั้งแต่วันนี้ – 18 ส.ค. 65 นำทัพสินค้าแบรนด์ดังมากมายโดนใจคมาลดสูงสุด
35% เมื่อช้อปครบ 3,000 บาท รหัสส่วนลด LSD35 ช้อปเลยที่ - https://bit.ly/3p1BWif เตรียมพบกับ! 2
โปรโมชั่น
1.POWER DEAL- ดีลสุดคุ้มราคาพิเศษ เตรียมช้อปสินค้าแบรนด์เนม
ได้ที่ - https://bit.ly/3JJAiLF
2.WEEKEND
SPECIAL CODE - ลดเพิ่มทันที 5% ติดตามส่วนลดได้ที่หน้าเว็บไซต์ เตรียมช้อปได้ที่
- https://bit.ly/3p1BWif
รับสิทธิ์
ส่งฟรี! ทั่วประเทศ เมื่อช้อปครบ 699.- (สุทธิ) แบ่งชำระ 0%* นานสูงสุดถึง 10
เดือน รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000 บาท ฟรี!
ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดังช้อปก่อนรับก่อนได้ทันที รับเลย! ส่วนลด 200 บาท เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์
และรับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาทสุทธิ
ข่าวที่
3 ซื้อแคชการ์ดคิงเพาเวอร์ก่อนช้อปรับเพิ่มฟรีกิฟท์การ์ดหมื่นบาท
มีไฟลต์บินก็ช้อปไอเทมโปรดที่
“คิง เพาเวอร์” อย่างคุ้มค่า วันนี้ – 31 สิงหาคม 2565 เมื่อช้อปกระเป๋า แว่นตา น้ำหอม หรือผลิตภัณฑ์ผิวหรือสกินแคร์ ห้ามพลาดก่อนช้อปซื้อ
CASH CARD 30,000 บาท* รับฟรี! GIFT CARD 10,000 บาท พร้อมปลดล็อกความกังวลของเหล่านักช้อปกับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ผ่อนสบาย
0 % นานสูงสุด 10
เดือน ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา
ภูเก็ต และคิง เพาเวอร์ ศรีวารี ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
สิทธิ์ใช้ฟรีกิฟการ์ดเมื่อซื้อแคชการ์ด 1.สินค้าที่ร่วมรายการ ตรวจสอบเพิ่มเติมบริเวณจุดขาย 2.ใช้ซื้อสินค้าดิวตี้ ฟรี เป็นหลัก 3.สามารถผ่อนชำระ 0% ได้ 4.ลูกค้าใหม่ที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก คิง
เพาเวอร์รับสถานะ SCARLET ใช้สิทธิ์ได้ตามเงื่อนไขสมาชิกปกติ
ข่าวที่ 4 ททท.ผนึกหัวเหว่ยใช้5Gคลาวนด์รับจีนชิมรางจัดแคมป์เด็ก20ส.ค.นี้
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ลงนามความร่วมมือระหว่าง ททท. กับ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วย “DIGITAL
TRANSFORMATION AND INNOVATION DEVELOPMENT FOR SMART TOURISM” ภายใต้ชื่อ “โทรมาเมื่อไหร่ amazing THAILAND เมื่อนั้น” เป็นเวลา
1 ปี อันจะส่งผลดีเรื่องการเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวตลาดใหญ่จากสาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยมี นายนภินทร
ศรีสรรพางค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานพิธี ส่วนทาง บริษัท
หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับเกียรติจาก นายอาเบล
เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร และนายจุน จาง รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย
ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เป็นตัวแทนลงนามครั้งนี้
ทั้งสององค์กรพร้อมผนึกกำลังกันส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย
ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงจากหัวเว่ย ผ่านระบบ 5G คลาวด์ AI และ AR/VR พัฒนาแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวดิจิทัลอัจฉริยะ และอีโคซิสเต็ม
(Ecosystem) ด้านการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ประยุกต์ใช้แอปพลิเคชัน มัลติมีเดีย กับบริการแนวใหม่ในเครือข่ายความเร็วสูงแห่งอนาคต
เสริมความแข็งแกร่งควบคู่กับการช่วยขยายฐานตลาดการท่องเที่ยว
ตั้งเป้าหมายจะร่วมกันสร้างประโยชน์หลัก ได้แก่ 1.นำเครือข่ายพันธมิตรดิจิทัลแลกเปลี่ยนทักษะความเชี่ยวชาญการทำงานเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการท่องเที่ยว
2.สนับสนุนการพัฒนาและยกระดับเทคโนโลยี อาทิ 5G คลาวด์ AI และ AR/VR
ที่จะนำมาใช้กับการท่องเที่ยวได้
ผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย
โดย ททท. จะจัดทำ Video Ring back Tone วิดีโอรอสายฉายภาพความสวยงามแหล่งท่องเที่ยวไทย
วัฒนธรรม อาหารไทย และประเพณีไทย เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยสู่สายตาชาวโลก
ผ่านผู้ใช้บริการ 5G ของHUAWEI ในไทย
และเครือข่ายพันธมิตร HUAWEI สามารถดาวน์โหลดวิดีโอภาพได้ฟรี
ขณะเดียวกัน ททท.ยังเป็นเจ้าภาพพาเยาวชนผู้เข้าแข่งขันโครงการ
Seeds for the Future ของหัวเว่ย จำนวน
120 ราย เดินทางทัศนศึกษาวัดพระศรีรัตนศาสดารามและวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
ในวันที่ 20 สิงหาคม 2565 โครงการดังกล่าวถือเป็นงานอีเวนท์ Seeds for the
Future ระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุด ได้รวบรวมนักเรียนระดับหัวกะทิในเอเชีย
แปซิฟิก 144 คน จาก 15 ประเทศ มาเข้าค่ายดิจิทัลในประเทศไทย 9
วัน เริ่ม 19 -27 สิงหาคม
2565
สำหรับโครงการ Seeds For the Future ไทยเริ่มครั้งแรกปี 2551 ปัจจุบันขยายไปทั่วโลก 150 ประเทศโสาเปิดโอกาสนักเรียน
นักศึกษา เข้าถึงแล้วได้กว่า 12,000 คน จากมหาวิทยาลัย 500
สถาบัน
ททท. ตั้งเป้าปี 2565 จะใช้โครงการ Seeds for the Future ส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่มีความหมายและน่าจดจำขยายเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้นทำให้เกิดการตื่นตัวของกลุ่มนักท่องเที่ยวเยาวชนที่จะเป็นฐานตลาดสำคัญของประเทศในอนาคตต่อไป
โครงการความร่วมมือดังกล่าวสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ ททท. 5 ปี ระหว่าง 2566-2570 จะเดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยสร้างประสบการณ์ทรงคุณค่าและมุ่งสู่ความยั่งยืน
มุ่งส่งเสริมการเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพด้านนวัตกรรมในการขับเคลื่อนระบบนิเวศด้านการท่องเที่ยว
(Tourism Ecosystem) พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพอย่างยั่งยืน
พร้อมกับต่อยอดพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน (Shape supply) และขับเคลื่อน Thrive for Excellence : ยกระดับองค์กรสู่องค์กรสมรรถนะสูง
มุ่งสู่การเป็น Data Driven Organization
ทางด้าน นายอาเบล
เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังพลิกโฉมโลกใบนี้นำไปสู่ยุคทองแห่งการเปลี่ยนผ่านเรียบร้อยแล้ว
อนาคตจากนี้เป็นต้นไปหัวเว่ยจะมุ่งมั่นใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูงยกระดับให้
ททท. ก้าวขึ้นเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์ด้านการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นจุดมุ่งหมายด้านการท่องเที่ยวระดับโลก
ซึ่งทั้ง หัวเหว่ย และททท.2 องค์กรจะนำเทคโนโลยี 5G เข้ามาสร้างนวัตกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยผ่านการถ่ายทอดสด หรือ Live
Broadcasting สร้างบรรยากาศจุดชมวิวอันโดดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวไทยแบบเรียลไทม์บนเครือข่ายหัวเหว่ย
5G และผ่านสื่อออนไลน์ ททท. มีทั้ง Youtube : Amazing
Thailand แอปพลิเคชัน Amazing Thailand และออนไลน์ของพันธมิตรรายต่างๆ
ข่าวที่ 5 “TCEB”ปลื้มนำกรุงเทพฯคว้าอันดับ1แชมป์ไมซ์เอเชียแปซิฟิก
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ล่าสุดทางบริษัทที่ปรึกษาระหว่างประเทศด้านการจัดประชุม
GainingEdge เปิดรายงานวิจัยประจำปี “Leveraging Intellectual
Capital” ระบุ “กรุงเทพมหานคร”
ของประเทศไทย มีบุคลากรได้รับเลือกเข้าเป็นกรรมการบริหารสมาคมระหว่างประเทศ 194
สมาคม มีความสามารถดึงงานประชุมเข้าประเทศได้มากถึง 123 งาน
คิดเป็นอัตราการใช้ประโยชน์ (Harnessing Ratio) สูงถึง 63.4% ส่งผลทำให้กรุงเทพฯ ติดอันดับ 1 แห่งเอเชียแปซิฟิก ส่วนอันดับรองลงไปก็มี เซี่ยงไฮ้ 51.7% สิงคโปร์ 50.8% ไทเป 45.9% กัวลาลัมเปอร์ 44.3%
รวมทั้งกรุงเทพมหานคร
ยังครองอันดับ 6 ของโลก เมืองจุดหมายปลายทางไมซ์ รองจากกรุงปราก 95% ดับลิน 81.9%
ลิสบอน 81.8% มอนทรีออล 77.2%
และเบอร์ลิน 64.7%
นายจิรุตถ์ กล่าวว่า GainingEdge
ได้แนะนำให้เมืองต่าง ๆ ใช้กลยุทธ์การประมูลสิทธิหรือดึงงานด้วยการเชิญชวนผู้นำองค์ความรู้
หรือผู้เชี่ยวชาญวิชาชีพที่มีชื่อเสียงเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนการดึงงานต่าง ๆ
เข้ามาจัดในประเทศของตนเอง สอดรับกับแนวทางของทีเส็บได้ริเริ่มโครงการ
Thailand Convention Ambassador Programme
หรือผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดประชุมนานาชาติของประเทศไทย ปัจจุบันได้แต่งตั้งเรียบร้อยแล้ว
2 คน คนแรก ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง สมศรี เผ่าสวัสดิ์
เป็นผู้ทรงคุณวุฒิกิตติมศักดิ์ด้านการจัดประชุมนานาชาติในด้านการแพทย์ (Honorary Convention
Ambassador – Medical) คนที่ 2 รองศาสตราจารย์ ดร. ชิต เหล่าวัฒนา
เป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิทยาการหุ่นยนต์ (Convention Ambassador – Robotics)
ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งทั้ง 2 คน เป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดประชุมนานาชาติของประเทศไทย หรือ Thailand Convention Ambassador และยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังผลักดันผู้เชี่ยวชาญวิชาชีพในอุตสาหกรรมการแพทย์
และวิทยาการหุ่นยนต์ของไทยให้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารของสมาคมวิชาชีพระหว่างประเทศด้วย
“Convention Ambassador” มีบทบาทสำคัญ ในการเป็นผู้เชี่ยวชาญวิชาชีพที่จะโน้มน้าวให้เกิดการสนับสนุนและนำเสนอประเทศไทย
สร้างความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญของการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุม
และสนับสนุนเพื่อช่วยผลักดันให้สมาคมของประเทศไทยในอุตสาหกรรมนั้น ๆ
ร่วมประมูลสิทธิงานประชุมนานาชาติเข้ามาจัดในประเทศไทย
ในอนาคตอันใกล้นี้ทีเส็บเตรียมขยายโครงการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดประชุมนานาชาติให้ครอบคลุมอุตสาหกรรมสำคัญอื่น
ๆ ของประเทศ อาทิ อาหาร และการเกษตร ภายใต้โมเดลการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG Economy Model (Bio-Circular-Green Economy Model) และไทยแลนด์ 4.0
ข่าวที่ 6
กลุ่มบางจากโชว์ผลงานครึ่งปีแรก’65ตุนรายได้กว่า1.52แสนล้าน
นายชัยวัฒน์
โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทบางจาก
เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทบางจากและบริษัทย่อยช่วงครึ่งปีแรก 2565
มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 152,852 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 80 %
เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ทำกำไรก่อนหักภาษีหรือ EBITDA 26,286 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 192 % ผลการดำเนินงานเป็นไปตามอุปสงค์หรือความต้องการใช้น้ำมันฟื้นตัวท่ามกลางอุปทานยังคงตึงตัว รวมทั้งสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน
ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 9,633
ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 6.91 บาท ช่วงครึ่งปีหลังวางแผนเดินหน้าสร้างสมดุลระหว่างการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดเพื่อขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำ
และพร้อมรับมือภาวะเงินเฟ้อและแรงกดดันเศรษฐกิจโลกด้วย
ช่วงครึ่งปีแรกรายได้และ
EBIDA เพิ่มขึ้นเพราะส่วนหนึ่งได้เปลี่ยนวิธีบันทึกเงินลงทุนใน
OKEA เป็นบริษัทย่อยตั้งแต่ไตรมาส 3/2564 เป็นต้นมา
ปรับเพิ่มจากกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบและราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เนื่องจาก
“อุปสงค์” ฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเดินทางฟื้นตัว ส่วน “อุปทาน”น้ำมันยังมีความตึงตัวจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ
โดยกลุ่มโอเปกพลัสไม่สามารถเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
โดยราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยครึ่งแรกปี 2565 อยู่ที่ 102.17 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกปี 2564 จำนวน 38.55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือ 61 %
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ มี Inventory Gain 8,451 ล้านบาท จากเหตุผลดังกล่าวทำให้ธุรกิจในเครือขยับดังนี้
กลุ่มที่
1 ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน มี EBITDA
รวม 11,527 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 163 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีค่าการกลั่นพื้นฐาน
(Operating GRM) ปรับเพิ่มขึ้น ส่วนโรงกลั่นบางจากฯ
ยังคงกำลังการผลิตเฉลี่ยสูงในระดับ 122.3 พันบาร์เรลต่อวัน
หรือ คิดเป็น 102 % ของกำลังการผลิตรวมของโรงกลั่น
ทางด้านธุรกิจการค้าน้ำมัน โดย BCPT ปรับตัวดีขึ้นจากกำไรต่อหน่วยของการซื้อขายผลิตภัณฑ์กลุ่มแก๊สโซลีน
/ แนฟทาปรับสูงขึ้น
พร้อมรับรู้กำไรจากการเข้าทำสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันล่วงหน้า
กลุ่มที่
2 ธุรกิจการตลาด มี EBITDA
รวม 2,585 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้รับปัจจัยบวกจากปริมาณการจำหน่ายปรับเพิ่มขึ้น
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
คลี่คลายลง ค่าการตลาดรวมสุทธิต่อหน่วยปรับลดลงเล็กน้อย ภายใต้ภาวะราคาน้ำมันสูง
บริษัทฯ ได้จัดทำโครงการ “ลิตรละบาท”
มอบคูปองส่วนลดการเติมน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดทางหนังสือพิมพ์เดลินิวส์เพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชนอีกทาง
กลุ่มที่
3 ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า มี EBITDA
รวม 4,187 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
รับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้น โดยหลักมาจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์
(COD) ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น 3 โครงการ ได้แก่ ยาบุกิ กำลังการผลิตตามสัญญา 20
เมกะวัตต์ โคมากาเนะ กำลังการผลิตตามสัญญา 25 เมกะวัตต์
และชิบะ 1 กำลังการผลิตตามสัญญา 20
เมกะวัตต์ และรับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนทั้งหมดในบริษัท Star Energy
Group Holdings Pte. Ltd. (“SEGHPL”) 2,031 ล้านบาท
กลุ่มที่
4 ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ มี EBITDA
รวม 437 ล้านบาท ลดลง 39
% เมื่อเทียบกับ
ช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่รายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 3 %
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากราคาขายไบโอดีเซล (B100)
ปรับเพิ่มสูงขึ้นตามราคาน้ำมันปาล์มดิบ ส่วนกำไรขั้นต้นปรับลดลง
โดยหลักมาจากธุรกิจไบโอดีเซลและธุรกิจเอทานอลมีปริมาณการจำหน่ายที่ปรับลดลง
กลุ่มที่
5 ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและพัฒนาธุรกิจใหม่ มี EBITDA
รวม 7,792 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 1,000 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ได้รับปัจจัยบวกจากราคาพลังงานปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก
โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับเพิ่มขึ้นถึง 192 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หากพิจารณาเฉพาะผลการดำเนินงานของ OKEA
รอบครึ่งปีที่ผ่านมามี EBITDA เพิ่มขึ้น 288 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าโดยมีปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันดิบและก๊าซปรับตัวเพิ่มขึ้นตามภาวะตลาดโลก
อีกทั้งปริมาณจำหน่ายปรับเพิ่มขึ้น 11 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหลักมาจากแหล่ง Gjøa และ
Yme
ช่วงที่
2 เที่ยวเมืองไทยไป
“เมืองเลย” สัมผัสธรรมชาติหน้าฝนสุดทึ่งกับ ศิลปะท้องนา “วัดโพธิ์ชัย บ้านแสงภา”
ปีนไปหยิบหยอกทะเลหมอกที่ “ภูหัวฮ่อมกับภูทอก” สุดแสนประทับใจ แล้วฟังหมอแนะ
“ดูแลดวงตาบัญญัติ 10ข้อ”
ดีแน่ ๆ เกาะติดข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “แอร์เอเชียสู้ยิบตา” AAV
ไตรมาส 2 ทำรายได้
2.7
พันล้านครึ่งปีแรกขาดทุน 7
พันล้าน ส่วน “ภูเก็ต” สดใสบุกโร้ดโชว์อินเดีย3เมืองโกยเพียบ
7,500 ล้านบาท
ท่องเที่ยว -เที่ยวเลย!!หน้าฝนทึ่งศิลปะนาข้าววัดโพธิ์ชัยทะเลภูทอก&ภูหัวฮ่อม
จังหวัดเลยชวนเที่ยวหน้าฝนแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสวยเทียชั้นหน้าหนาว
ตื่นตาน่าน่าทึ่งกับศิลปะนาข้าวเขียวขจีด้านหลัง “วัดศรีโพธิ์ชัย” ชุมชนบ้านแสงภา อ.นาแห้ว
วัดนี้มีอายุเก่าแก่กว่า 400 ปี ก่อสร้างขึ้นพร้อมกับชุมชน
เมื่อนักท่องเที่ยวเดินเข้าไปชมภายในวัด จะพบสถาปัตยกรรมของ “อุโบสถกลางลานโล่ง” ขอโดดเด่นให้ความรู้สึกคล้ายเมืองหลวงพระบาง
สปป.ลาว
จากนั้นลองทำตัวให้กลมกลืนกับธรรมชาติที่ “ภูหัวฮ่อม” อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย
อ.นาแห้ว กิจกรรมไฮไลต์ต้องทำคือตื่นแต่เช้าตู่ปีนขึ้นไปยัง
“จุดชมวิวทะเลหมอก” พร้อม ๆ กับชมพระอาทิตย์ขึ้น งดงามดั่งภาพวาดเป็นอีกแห่งสวยสุด
ๆ ในเมืองไทย
แล้วห้ามพลาดแวะไป “น้ำตกตาดเหือง”
หรือน้ำตกมิตรภาพไทยลาว เป็นน้ำตกสวยขนาดใหญ่เกิดจากแม่น้ำเหืองซึ่งเป็นแม่น้ำกั้นพรมแดนไทยลาว
มีน้ำตลอดทั้งปีสูงประมาณ 30 เมตร กว้าง 40
เมตร มีน้ำตลอดปี ช่วงหน้าฝนทางอุทยานแนะนำให้ตรวจสภาพอากาศหรือปีนอย่างระมัดระวังเพราะน้ำบางช่วงอาจจะแรงนั่นเอง
อีกภูต้องไปสักครั้ง
“ภูทอก” ในตำบลและอำเภอเชียงคาน ปรากฎการณ์ชมทะเลหมอก จะเป็นช่วงประมาณตี
5 ครึ่ง ไปจนถึงไม่เกิน 8 แปดโมง
หากนักท่องเที่ยวไปสายก็สามารถชมวิวสวย ๆ การเดินทางหากชำนาญพื้นที่ก็ขับรถขึ้นไปเองได้
แต่จะให้ดีก็อุดหนุนชาวบ้านใช้บริการรถกระบะของค่ารถเพียงแค่คนละ 25 บาท รอให้เต็ม10
คนกับเพื่อนร่วมทางรถจะพาขึ้นภูไปชมความงดงามได้ตลอดทั้งวัน
เที่ยวหน้าฝนเมืองเลยปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
สำนักงานเลย พร้อมให้คำแนะนำดี ๆ ทางเพจ ททท.สำนักงานเลย หรือโทรสอบถามได้ที่ 0 4281 2812
สุขภาพ -ดูแลตาด้วยบัญญัติสุขภาพ10ข้อการดูแลป้องกันรักษาการมองชัด
ศ.นพ.ศักดิ์ชัย
วงศกิตติรักษ์
ประธานวิชาการราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยและหัวหน้าศูนย์ตาธรรมศาสตร์ แนะนำ“บัญญัติ 10 ประการเพื่อสุขภาพตาที่ดี”
ดังนี้
1.ใช้อุปกรณ์กันแดดเพื่อป้องกันอันตรายจากแสง
UV.เช่นร่ม หมวกมีปีก แว่นกันแดด
2.ห้ามขยี้ตาเพราะดวงตาบอบบางและฝุ่นอาจฝังลงในเนื้อกระจกตาเป็นอันตราย
3.ไม่ซื้อยาหยอดใช้เอง
เพราะอาจเป็นอันตราย เช่น ต้อหินจากยาสเตียรอยด์
4.ในเด็กควรมีกิจกรรมกลางแจ้งมากกว่าการใช้มือถือ
หรือแทบเล็ท เพราะอาจทำให้สายตาสั้นเร็วขึ้น
5.สังเกตพฤติกรรมการมองของเด็กหากผิดปกติเช่นชอบดูทีวีใกล้ๆ
มองกระดานไม่เห็น หยีตามองหรือเอียงคอมองควรพาไปพบแพทย์
6.เมื่อมีการใช้สายตามองใกล้
เช่น มือถือหรือคอมพิวเตอร์ทุก 20 นาทีควรหยุดพักสายตา 20
วินาทีด้วยการมองระยะไกลอย่างน้อย 20ฟุต
7.ควรใช้คอนแทคเลนส์เฉพาะกรณีจำเป็นอย่างถูกวิธีและดูแลความสะอาด
8.หลีกเลี่ยงการรักษาลูกตาด้วยวิธีไม่ได้มาตรฐาน
เช่น การนวดกดตา, การใช้อาหารเสริมมารักษาโรค
หรือการใช้น้ำยาสกปรกหยอดตา
9.ยาหยอดตาควรเก็บในตู้เย็น
ไม่ใช้ปะปนกัน รักษาความสะอาดขณะหยอดยาและใช้ตามคำแนะนำที่เหมาะสม
10.ควรตรวจสุขภาพตาอย่างน้อยปีละ
1 ครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อายุ 40ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีโรคตากรรมพันธ์ในครอบครัว
เช่น ต้อหิน คนเป็นโรคประจำตัวที่อาจเป็นอันตรายต่อตาเช่นโรคเบาหวาน
รับประทานยาทีอาจมีผลข้างเคียงต่อตา เช่น สเตียรอยด์ ยากดภูมิคุ้มกัน ทั้งหมดต้องระวังและตรวจทุกปี
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก-แอร์เอเชียสู้ยิบตา“AAV”Q2โกย2.7พันล้านครึ่งปีแรกขาดทุน7พันล้าน
นายสันติสุข
คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) “AAV” และ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด
“TAA” เปิดเผยว่า
ผลการดำเนินงานของ AAV ไตรมาส 2 ปี 2565 มีรายได้รวม 2,774 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน
157 % ได้แรงหนุนจาก 2 ปัจจัยบวก คือ
ปัจจัยที่ 1 การท่องเที่ยวภาพรวมฟื้นตัวส่งผลดีต่อจำนวนที่นั่งเครื่องบินกลับมาได้ถึง
33 % ปัจจัยที่ 2 ตลาดการเดินทางในประเทศ
เเละเที่ยวบินระหว่างประเทศเริ่มสามารถเพิ่มความถี่และเส้นทางได้มากขึ้น ตลาดตอบรับที่ดีทั้งอินเดีย
มาเลเซีย และสิงคโปร์
แต่ก็ยังมีปัจจัยลบส่งผลให้ไตรมาส
2
ทำให้ AAV ขาดทุน 4,724 ล้านบาท จาก 1.ราคาน้ำมันเครื่องบินซึ่งเป็นต้นทุนหลักเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อนกว่า
2 เท่า มีผลจากการใช้น้ำมันหรืออุปสงค์ที่เร่งสูงกว่าอุปทานในตลาดโลกตึงตัว
2.ค่าบำรุงรักษาเครื่องบินขยับขึ้น 3.ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเหรียญสหรัฐฯ
ภาพรวม AAV ครึ่งปีแรก 2565 มีรายได้รวม 4,628 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90 % ขาดทุน 7,094 ล้านบาท จากราคาน้ำมัน
ค่าบำรุงรักษาเครื่องบิน เงินบาทอ่อนค่าลง ทำอัตราขนส่งผู้โดยสารรวมได้ 3.14
ล้านคน เพิ่มขึ้นช่วงเดียวกันกับปีก่อน 84 %
ทำให้มีอัตราขนส่งผู้โดยสาร 74 %
ดังนั้นช่วงครึ่งปีหลัง
2565 ทาง AAV เตรียมเร่งทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น เที่ยวระหว่างประเทศมากขึ้น
โดยพึ่งพาการขยายเส้นทางเพิ่มของ TAA ตั้งเป้าเปิดบินครั้งแรกสู่ญี่ปุ่น ไป-กลับ กรุงเทพฯ ปลายเมืองฟุกุโอกะ และเปิดบินตลาดใหม่ที่มีศักยภาพอย่าง
เนปาลเเละบังคลาเทศ
ขณะนี้ TAA กลับมาบิน ไป-กลับ
ระหว่างประเทศแล้ว 19 เส้นทาง สู่ 8 ประเทศ
ได้แก่ อินเดีย มัลดีฟส์ กัมพูชา เวียดนาม ลาว สิงคโปร์ มาเลเชีย และอินโดนีเซีย
ภาพรวมของ “บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด-TAA” ไตรมาส 2 ปี 2565 สามารถขนส่งผู้โดยสารรวม 1.68 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 133 % ทำอัตราขนส่งผู้โดยสารได้
75 % เพิ่มขึ้น 14 จุด อีกทั้ง
ราคาค่าโดยสารเฉลี่ยขยายตัว 17 % ขยับเป็น 1,317 บาท จากท่องเที่ยวตกคงค้างมาตั้งแต่ปีก่อนต้องการเดินทางเพิ่มขึ้น บวกกับค่าธรรมเนียมน้ำมันเชื้อเพลิงเที่ยวบินระหว่างประเทศสูงขึ้น
รายได้บริการเสริมต่อผู้โดยสารเพิ่มขึ้น
21 % ทำได้ 285 บาท จากค่าบริการขนสัมภาระใต้ท้องเครื่องและค่าธรรมเนียมการชำระเงินเพิ่มขึ้น
ส่วนความตรงต่อเวลาทำได้ถึง
96 % และฝูงบินบินปฏิบัติการเฉลี่ยเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนมี
24 ลำ จากเดิมมีเพียง 15 ลำ
สามารถบริหารจัดการใช้งานเครื่องบินได้ 8.0 ชั่วโมง/วัน
เพิ่มขึ้นจากเดิม 6.1 ชั่วโมงต่อวัน
แผนของ TAA 6เดือนหลังปี 2565 จะเดินหน้าทำแคมเปญ “ขอใส่ใจให้หายคิดถึง”
ตอกย้ำคุณภาพแบรนด์ต่างจากคู่เเข่งด้วยมาตรฐานความปลอดภัยความตรงต่อเวลา ควบคู่กับการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจจากสินค้าบริการที่หลากหลายของ
airasia Super App จับมือพันธมิตรภาครัฐ ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส
4 ส่วนขยาย ปลุกกระแสการท่องเที่ยวภายในประเทศให้คึกคักมากขึ้นกว่าเดิม
ตั้งเป้าจะให้บริการผู้โดยสารให้ได้ถึง 10 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเกิน
3 เท่า จากเดิมทำได้เพียง 2.93 ล้านคน
โดยยังคงจุดแข็งการเป็น “ผู้นำสายการบินราคาประหยัด” ของนักเดินทางคนไทยและต่างชาติต่อไป
ข่าวที่สอง-อบจ.ภูเก็ตบุกโร้ดโชว์อินเดียว3เมืองส.ค.-ธ.ค.นี้โกย7.5พันล้าน
นายเรวัติ อารีรอบ นายกองค์การบริการส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.)
เปิดเผยว่า มอบหมาย นายอานุภาพ เวชวนิชสนอง รองนายก อบจ.
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวภูเก็ตกว่า 40 ราย
เดินทางไปทำโร้ดโชว์รุกจับคู่ขายการท่องเที่ยวกับบริษัทท่องเที่ยวคู่ค้าในอินเดีย 3 เมืองใหญ่ในกรุงนิวเดลี มุมไบ และ
บังกาลอร์ ให้ความสนใจเข้าร่วมกว่า 300 ราย เมื่อช่วงวันที่ 1-6
สิงหาคม 2565
โดยมีผลตอบรับเชิงบวกที่จะเพิ่มจำนวนและรายได้นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายจากอินเดียหลั่งไหลเข้ามายังภูเก็ตเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป
นายอานุภาพ เวชวนิชสนอง รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต
กล่าวเสริมว่า จากการประเมินสถานการณ์ในภาพรวมทางผู้ประกอบการท่องเที่ยวอินเดียแต่ละเมืองแสดงความสนใจจะขายแพกเกจและโปรแกรมท่องเที่ยวเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตเป็นจำนวนมาก
ตั้งเป้าช่วงเดือนสิงหาคม-ธันวาคม 2565 จะมีนักท่องเที่ยวอินเดียหลั่งไหลมาเที่ยวภูเก็ตรวมกว่า
150,000 คน จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกกว่า 7,500 ล้านบาท
อันเป็นผลมาจากหลังรัฐบาลไทยประกาศเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ
และท่ามกลางสถานการณ์ที่ไวรัสโควิด-19 ยังอยู่นั้น นักท่องเที่ยวจากอินเดียกลายเป็นตลาดอันดับ
1 ที่เดินทางเข้ามาเที่ยวจังหวัดภูเก็ต
ต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2565 จำนวนรวมแล้วกว่า 83,000 คน
โดยได้รับความสะดวกสบายมีสายการบินนานาชาติบินตรงเข้า-ออก กว่า 40 เที่ยว/สัปดาห์
อีกทั้งเดือนสิงหาคม 2565 ยังมีสัญญาณบวกด้วยเพราะถือเป็นเดือนพิเศษในโอกาสวันครบรอบ
75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ไทย-อินเดีย
จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวอินเดียเข้าภูเก็ตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับการเดินทางไปทำโร้ดโชว์ของผู้ประกอบการท่องเที่ยว
ที่ทาง อบจ.ภูเก็ต เป็นเจ้าภาพนั้น ได้รับการสนับสนุนจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยนายธเนศ
เพ็ชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. พร้อมด้วย นางสาวภัทรัตน์
หงษ์ทอง เอกอัครราชฑูตไทย ประจำกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ให้เกียรติต้อนรับผู้ประกอบการจากภูเก็ตที่เดินทางจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในอินเดียหลังสถานการณ์โควิด-19
เป็นคณะแรกจากประเทศไทย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง
สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น