ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ผู้นำททท.เร่งจัดทัพใหญ่โกยท่องเที่ยวโลกเข้าไทยปลายปี’65 ชู2วีซ่าเพิ่มวันพัก100ประเทศ+ระดมแอร์ไลน์เพิ่มที่นั่งบิน50% รุกตลาดคุณภาพปั้นไทยเมดิคัลฮับเจ้าภาพ4เฮลท์เวลเนสโลก

 ผู้นำททท.เร่งจัดทัพใหญ่โกยท่องเที่ยวโลกเข้าไทยปลายปี’65

ชู2วีซ่าเพิ่มวันพัก100ประเทศ+ระดมแอร์ไลน์เพิ่มที่นั่งบิน50%

รุกตลาดคุณภาพปั้นไทยเมดิคัลฮับเจ้าภาพ4เฮลท์เวลเนสโลก

คิงเพาเวอร์ชวนช้อแบรนด์ไทยที่รางน้ำและไทยเฮิร์บรับเอเปค

คิง เพาเวอร์นำCSRคว้า2รางวัลโลกปี65Excellence+Global

ช้อปออนไลน์+แอพKing PowerแคมเปญBEAUTY DUOลด35%

ททท+เกรทวอลล์มอเตอร์บูมขับรถEVเที่ยวทั่วไทยลดคาร์บอน

TCEB”ผุดThailand MICE Backบุกปลายปีโกยเงิน2.8หมื่นล้าน

บางจากชู6เทรนด์ปั๊มน้ำมันวันสต็อปเซอร์วิสรับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่

“พังงา”ชวนเช็คอินจุดใหม่บ้านบ่อแสนอ.ทับปุดวัด-น้ำตก-ชุมชน

แพทย์แนะ"เดินจงกลม"สมาธิแถมช่วยฟื้นสุขภาพพิชิตโรคเรื้อรัง

การบินไทยQ2ปี65รายได้โต282%น้ำมันแพงทำขาดทุนพุ่ง39%

เวียตเจ็ทเทโปรบินไทเป3,499 บาท+ขายSIMโทรทั่วโลก399บาท

 


 วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #เที่ยวบ่อแสนทับปุดพังงา

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...https://www.facebook.com/QFMQualityNewsStation/videos/508550734292222/

 


ช่วงที่ 1 เจาะลึก “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำทัพท่องเที่ยวโกยเงินหลัง ศบค.ขยายวีซ่า 2 ประเภท Free Visa +VOA รับไฮซีซันเที่ยวไทยมีตลาดได้ประโยชน์กว่า 100 ประเทศ เริ่ม ต.ค.65 เล็งกวาดตลาดทวีปไกลจ่ายค่าตั๋วแพง ที่นั่งน้อย ทำวีซ่าพักยาวหอบเงินเที่ยวไทยยาว ๆ  กระตุ้น ททท.ทั่วโลก 29 แห่ง ถกแอร์ไลน์สเพิ่มที่นั่งเข้าไทยกลับมาให้ได้ตามเป้า 50 % ข่าวดี!! โคเรียนแอร์ อีว่าแอร์ การบินไทย ขานรับแล้ว รุกเจรจาต่อเช่าเหมาลำจากยุโรปตอกย้ำท่องเที่ยวโตจริง ลุย“เมดิคัลฮับ” 4 บิ๊กโปรเจ็กต์ Andaman Wellness Corridor-Expo2028-เมืองคู่ Red Sea Project ซาอุดิอาระเบีย- Global Wellness Summit จับตาขยับงบ Booster Shot ช่วยเอกชน

 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การวางกลยุทธ์เพิ่มรายได้ท่องเที่ยวปี 2566 ด้วยการนำเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ขยายวีซ่าให้นักเดินทางต่างประเทศ 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 วีซ่า  ผ.30 (Free Visa ) เป็น ผ.45 สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องตรวจลงตราและสามารถพำนักอยู่ในไทยได้ไม่เกิน 45 วัน ส่วนที่ 2 VOA : Visa on Arrival จาก 15 เป็น 30 วัน เพื่อแก้ปัญหากระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบจากราคาตั๋วโดยสารเครื่องบินระหว่างประเทศราคาแพง เนื่องจากจำนวนที่นั่งเที่ยวบินยังไม่ได้กลับสู่ปกติ ประกอบกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวระยะไกลต้องการพำนักอยู่ในไทยนานวันขึ้น

 

ททท.ได้ตอบสนองความต้องการของภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2565 โดยมีข้อเสนอนำโดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำเสนอที่ประชุม ศบค.วันที่ 19 สิงหาคม 2565 พิจารณาเรื่องขยายเวลาวีซ่าทั้ง 2 ประเภทให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566

เป็นอีกช่องทางที่จะช่วยดึงดูดจูงใจนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลข้ามทวีปซึ่งต้องการเดินทางมาพักผ่อนในเมืองไทย “นานวัน” ขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เกิด “การใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น” ด้วย

ส่วนขั้นตอนเมื่อ ศบค.พิจารณาเห็นชอบแล้ว ทางกระทรวงมหาดไทยก็จะต้องออกประกาศใช้มาตรการดังกล่าว อาจจะเริ่มในเดือนกันยายนหรือตุลาคม 2565 หากประเทศไทยขยายเวลาวีซ่าให้พำนักอยู่ได้นานวันขึ้นก็จะมีนักเดินทางที่ได้ประโยชน์จากโครงการนี้ทั่วโลกเกือบ 100 ประเทศ


 

หากพิจารณาจากพฤติกรรมนักท่องเที่ยวระยะไกลข้ามทวีปซึ่งต้องการเดินทางมาพักผ่อนในเมืองไทยนานวันขึ้น ซึ่งใช้เวลาเดินทางกว่าจะมาถึงเกือบ 24 ชั่วโมง ผนวกกับต้องจ่ายค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินราคาแพง จึงต้องการจะอยู่พักผ่อนให้คุ้มค่า ททท.จึงมองเป้าหมายตลาดระยะไกลทั้งจาก ยุโรป อเมริกา ละตินอเมริกา

 

ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม 2565 เป็นต้นไป ต่อเนื่องจากการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ททท.เห็นสัญญาณตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศดีขึ้นตามลำดับ นอกจากตลาดข้ามทวีประยะไกลแล้ว ที่กำลังเพิ่มขึ้นคือประเทศในเอเชียทั้งอินเดีย หรือประเทศเพื่อนบ้านจาก สิงคโปร์ มาเลเซีย และ สปป.ลาว ตอนนี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยติดท็อป ไฟฟ์ หรือติด 1 ใน 5 แล้ว รวมทั้งนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน

ดังนั้นการวางกลยุทธ์เพิ่ม “ที่นั่งเที่ยวบินระหว่างประเทศ” ให้มากขึ้นนั้น ททท.ยังคงเดินหน้าเชิงรุก ตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย รายงานความถี่และจำนวนที่นั่งเที่ยวบินจะมีประมาณ 30.9 % ของปี 2562 ระหว่างนี้ ททท.สำนักงานทั่วโลก 29 แห่ง ด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ยุโรป อเมริกา ได้หารือกับทุกสายการบินเพื่อหาช่องทางเพิ่มความถี่ (frequency)และจำนวนที่นั่ง (seat capacity) หรือเคลียร์ slot การบินช่วงตารางบินฤดูหนาว (Winter Program)

ขณะนี้มีข่าวดีทางสายการบิน “โคเรียนท์ แอร์” กับ “การบินไทย” ยืนยันเตรียมเพิ่มความถี่เที่ยวบินและจำนวนที่นั่งบรรทุกผู้โดยสารเข้าเมืองไทยในช่วงตารางบินฤดูหนาวเดือนตุลาคม 2565 เป็นต้นไป ซึ่ง รัฐมนตรีพิพัฒน์ รัชกิจประการ ตั้งเป้าจะขอให้นำที่นั่งเที่ยวบินกลับมาให้ได้อย่างน้อย 50 % ททท.มั่นใจน่าจะทำได้ตามนโยบาย โดยจะพยายามทำให้เห็นถึงมีนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางเข้าไทยต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นใจให้สายการบินนำที่นั่งกลับมาบริการ หลังจากทุกสายการบินตอบรับเชิงบวก

 


แต่ก็จะต้องพิจารณาปัจจัยทางเทคนิคนั่นคือต้องมีผู้โดยสารทั้งขาเข้าและออกในปริมาณใกล้เคียงกัน เพราะการนำเครื่องกลับมาบินอีกครั้งจะต้องลงทุนซ่อมบำรุง และดูแลด้านมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งสายการบินต่าง ๆ แสดงความั่นใจจะกลับมาบินอีกครั้งสอดคล้องตามแผนงานของ ททท.

 

โดย ททท.จะนำกลยุทธ์เข้าไปผลักดันช่วยสายการบินต่าง ๆ นำที่นั่งกลับมาบริการในช่วงฤดูหนาวปลายปีนี้ 2 ช่องทาง

1.ช่วยทำการตลาดเพื่อให้สายการบินมีอัตราบรรทุกผู้โดยสารตามเป้าหมายในเส้นทางบินที่จะฟื้นกลับมาบริการ

2.สนับสนุนการทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (charter flight) ก่อนเพื่อปูพรมสร้างความมั่นใจด้านการตลาดผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวมีจำนวนมากเพียงพอกับการลงทุน ตลาดหลักน่าจะเป็นยุโรป โดยเฉพาะพื้นที่แรก “ทางด้านตะวันออกของรัสเซีย” จากไซบีเรียซึ่งประหยัดเวลาได้มากกว่า แทนการบินตรงจากมอสโก แต่ตอนนี้ยังติดปัญหาการหาเครื่องบินมาทำตลาดเช่าเหมาลำแต่ก็พยายามทำกันอย่างเต็มที่ หรือ พื้นที่ 2 สาธารณรัฐประชาชนจีนบางเมือง หรือจากอินเดีย

 

สำหรับทางเอเชีย เกาหลี ญี่ปุ่น มีศักยภาพทางการบินแบบประจำปกติ แต่บางเมืองก็ยังมีข้อจำกัดเรื่องจำนวนผู้โดยสารในเที่ยวบินกลับ ซึ่ง ททท.จะเข้าไปช่วยต่อไป โดยสรุปแล้วการทำเที่ยวบินเช่าเหมาจะทำกับตลาดระยะไกลข้ามทวีปมากกว่าระยะใกล้แถบเอเชีย

 

ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวต่อถึงกลยุทธ์การขยายฐาน “นักท่องเที่ยวตลาดคุณภาพกำลังการใช้จ่ายเงินสูง” ปี 2566 หนึ่งในตลาดสำคัญคือ “การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพองค์รวม” หรือ Health and Wellness ททท.ต้องทำงานด้านผลิตภัณฑ์สินค้าหรือ Supply site ร่วมกับผู้ประกอบการธุรกิจ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง มีหลายโครงการที่ ททท.กำลังผลักดันอย่างเต็มที่ ประกอบด้วย

 

โครงการที่ 1 Andaman Wellness Corridor ททท.จะทำร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ผลักดันสร้างจังหวัดในกลุ่มทะเลอันดามัน ภูเก็ต พังงา กระบี่ ให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก หรือ World Class Destination  

 

โครงการที่ 2 สนับสนุนการจัดงาน Specialised Expo 2028 Phuket Thailand เป็นการยกระดับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสู่เมืองต้นแบบ Medical Wellness Hub โดย ททท.ได้รับหน้าที่ทำประชาสัมพันธ์เพิ่มศักยภาพให้ประเทศไทย

 

โครงการที่ 3 ทำงานภายใต้สมุดปกขาว White Paper ทางรัฐบาลไทยกับซาอุดิอาระเบีย หลังจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปฟื้นความสัมพันธ์กับซาอุดิอาระเบียเมื่อต้นเดือนมกราคม 2565 ตกลงทำโครงการ Red Sea Project ใกล้เมือง Al-Ula พัฒนาหมู่เกาะริมชายฝั่งทะเลแดงในมณฑล Tabouk ในซาอุดิอาระเบียที่ไทยพยายามจะทำคู่ขนานกับเมืองสุขภาพของภูเก็ต ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือร่วมกัน

 

โครงการที่ 4 เตรียมร่วมผลักดันจัดงาน  Global Wellness Summit ของ Global Summit Institute เป็นเจ้าภาพ รวมคนที่เกี่ยวข้องกับเวลเนสทั้งโลก ททท.หวังมีความหวังจะจัดให้ได้ภายในปี 2566

 


กลยุทธ์ของ ททท.นำจุดขายประเทศศูนย์กลางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพองค์รวม Health and Wellness Tourism เข้ามาเป็นหัวหอกดึงรายได้จากตลาดคุณภาพนั้น ตั้งแต่ปี 2566 จะเน้นใช้กลยุทธ์บูรณาการทำงานร่วมกันกับทุกฝ่ายโดยเลือกปักหมุดพื้นที่นำร่องที่มีความพร้อมอย่างอันดามันซึ่งเป็นที่รู้จักของตลาดนานาชาติ โดยนำข้อมูลพฤติกรรมความต้องการใช้บริการของนักท่องเที่ยวมาปรับให้เข้ากับพื้นที่เป้าหมาย แต่บางครั้งก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นถึงบริการอย่างมีคุณภาพในเซ็กเมนต์ตลาดอย่างแท้จริง

 

ททท.ต้องการความต่อเนื่องเชิงนโยบายเข้าไปเปลี่ยนแปลงซัพพลายให้สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยวตลาดเฉพาะ ซึ่งจะต้องใช้เวลา ผนวกกับความตั้งใจ ประเทศไทยสามารถเดินหน้าได้ตามข้อมูลทั้ง 4 โครงการข้างต้น โอกาสที่จะเห็นการผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมในเร็วนี้

 

ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวเพิ่มถึงแผนขับเคลื่อนโครงการขออนุมัติงบประมาณ Booster Shot ที่จะอัดฉีดกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังโควิด-19 คลี่คลาย หลังจากรัฐมนตรีพิพัฒน์ รัชกิจประการ นำทีมเข้าพบนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2565 ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งเรื่องให้สภาพัฒน์พิจารณารายละเอียดโครงการในฐานะผู้ดูแลการอนุมัติใช้เงินกู้ของรัฐบาล

แต่อย่างไรก็ดีทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ย้ำว่าอาจจะไม่ต้องรองบประมาณดังกล่าว เพราะอาจจะไม่ทันสถานการณ์ เพราะความจริงแล้วเป้าหมายการทำบู๊สเตอร์ช็อตต้องการกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวช่วงปลายปี 2565 ตามขั้นตอนจะต้องรีบขายก่อนนักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวตามประเทศต่าง ๆ

 

ดังนั้นการทำบู๊สเตอร์ช็อตจึงอาจจะต้องมองหาเงินจากช่องทางอื่นเข้ามาใช้ก่อน เช่น การปรับงบประมาณปี 2566 ททท.จะได้ใช้ในเดือนตุลาคม 2565 นี้แล้ว เร่งรัดเงินที่วางแผนจะใช้ไตรมาส 2 หรือ 3 ก็จะขยับนำมาใช้เร็วขึ้นเป็นอีกทางเลือกที่ ททท.กำลังเตรียมการอยู่เหมือนกัน

 


สำหรับตัวเลขเงินบู๊สเตอร์ ช็อต เดิมเสนอไว้กว่า 1,000 ล้านบาท ก็อาจจะต้องพิจารณาตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ รอสักระยะงบประมาณปี 2566 ก็จะเข้ามาแล้ว ด้วยความตั้งใจของ ททท.ต้องการที่จะทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจได้เร็วที่สุดตามนโยบายรัฐบาล รวมทั้งจะวางรากฐานทำให้ปี 2566 มีรายได้ไม่น้อยกว่า 80 % ของปี 2562

 

ส่วนบทบาทในการช่วยธุรกิจท่องเที่ยวฟื้นกลับมาหากไม่มีงบประมาณเข้ามา หากเป็นเรื่องการหาสภาพคล่อง  หรือปรับปรุงการลงทุนทางด้านซัพพลายไซซ์ ททท.มีข้อจำกัดเพราะไม่ใช่ภารกิจหรือหน้าที่โดยตรงของ ททท. สิ่งที่ทำได้อย่างเต็มที่ทั้งเรื่องการส่งเสริมตลาด การประชาสัมพันธ์  และการสร้างภาพลักษณ์ให้ไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในความประทับใจติดอันดับโลกเพื่อให้คนจดจำแล้วเลือกเดินทางมาใช้เงิน

 

ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวตอนท้ายว่า ขณะนี้ไทยกำลังเข้าสู่ฤดูที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจจะเดินทางมาท่องเที่ยวมาก เช่น ญี่ปุ่น นอกจากฮาวายแล้วไทยก็เป็นทางเลือกอันดับ 1 ดังนั้นจะต้องร่วมมือกันตอบความคาดหวังของนักท่องเที่ยวด้วยมาตรฐานบริการอย่างมีคุณภาพ เพิ่มประสบการณ์เชิงบวกที่จะเกิดขึ้น ซึ่งคนไทยทำได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะพลัง Soft Power ที่มีไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร เทศกาลงานกิจกรรมต่าง ๆ จะต้องสร้างสรรค์หาวิธีทำให้นักท่องเที่ยวมาแล้วกลับมาประเทศซ้ำ ๆ อีกครั้ง

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 


ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ชวนช้อแบรนด์ไทยที่รางน้ำและไทยเฮิร์บรับเอเปค

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดเทศกาลช้อปของขวัญสุดพิเศษ เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ไทยกับสินค้าแฮนด์คราฟต์หรือทำมือหลากหลาย 8 เเบรนด์หลัก ทั้ง N2, PINTO, BANGKOK TREASURES, THONGSIRI, DOITUNG, BOONYARAT และ LARINN พร้อมให้ช้อปแล้วที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ โดยเฉพาะแบรนด์ N2 THONGSIRI DOITUNG สามารถชมสินค้าเพิ่มเติมและช้อปออนไลน์ ทางแอพลิเคชั่น ด้วยบริการส่งตรงถึงบ้าน ที่ https://bit.ly/3ArXNpC สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ณ.จุดขาย  และที่ King Power Contact Centre 1631

 

และชวนมาช้อป! “King Power Harmony of Thai Herbs and Wellness” ได้ตั้งแต่วันนี้– 26 สิงหาคม 2565 เวลา 10.00 – 20.00 น.บริเวณฮอลเวย์ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พบกับงานแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ สมุนไพรไทย และผลิตภัณฑ์ OTOP เพื่อร่วมสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค (APEC) ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทย

 

DOITUNG - หลากหลายผลิตภัณฑ์ทำมือที่มีจุดเริ่มต้นจากความตั้งใจที่จะสร้างอาชีพสุจริตและรายได้ให้สตรีไม่จำกัดวัยบนดอยตุง ต่อยอดจากทักษะและภูมิปัญญาดั้งเดิมในการทอผ้า ปักผ้า เย็บผ้า ด้วยกระบวนการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การย้อมสีธรรมชาติ ออกแบบตัดเย็บให้เหลือเศษผ้าน้อยที่สุดตามแนวคิด Zero Waste เป็นผ้าทอมือคุณภาพสูง และคงอัตลักษณ์ของชนเผ่าอันน่าภาคภูมิใจ

 

THONGSIRI - เรื่องราวในอดีตของชนเผ่าไทโย้ยอพยพมาจากเมืองฮ่อม สปป.ลาว ตั้งแต่ปี 2396 มาตั้งถิ่นฐานบ้านอากาศในปัจจุบัน ทำทอผ้าด้วยกี่ทอมือ ย้อมครามแบบโบราณจากจิตวิญญาณของบรรพบุรุษตั้งแต่คุณทวด คุณยาย จนถึงคุณแม่ทองสิริ ปุกแก้ว สืบทอดมาจนถึงขณะนี้ยกย่องเป็นครูช่างหัตถศิลป์ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน และ 5 ดาว จากกรมพัฒนาชุมชนอันเป็นที่มาของแบรนด์ “ทองสิริ ผ้าคราม”

 

N2 - ด้วยเอกลักษณ์ผ้าย้อมครามธรรมชาติ ลวดลายแปลกใหม่ มีทั้งตุ๊กตา ปลอกหมอน พวงกุญแจ กระเป๋า และดีไซน์ร่วมสมัย โดยเฉพาะคอลเลคชั่น “TUITOY” แรงบันดาลใจจากชาวนาและควาย สื่อถึงความเป็นอยู่ในแบบวิถีไทยดั้งเดิมได้เป็นอย่างดี เหมาะจะเป็นของขวัญของที่ระลึกเพื่อส่งต่อประสบการณ์สุดพิเศษและความประทับใจที่มีต่อดินแดนแห่งรอยยิ้มผืนนี้

 

รวมทั้งยังเชิญชวนชมเลือกช้อปสินค้าแบรนด์ไทยได้ทุกวัน ที่บริเวณโซนสินค้าไทย ชั้น 3 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มีอีกหลากหลายอย่าง BANGKOK TREASURES, PINTO, BOONYARAT, LARINN และอื่นๆ อีกมากมาย

 


ข่าวที่ 2 คิง เพาเวอร์”นำCSRคว้า2รางวัลโลกปี65Excellence+Global

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ภายใต้โครงการกิจกรรมเพื่อสังคม “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” รายงานว่า ล่าสุดคว้ารางวัลอันทรงเกียรติจากเวทีระดับโลก The International CSR Excellence Awards 2022 และ Global Good Governance (3G) Awards 2022 ด้านโครงการเพื่ออสังคมยอดเยี่ยม และการดําเนิน ธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคม ตอกย้ำจุดยืนบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมในเวทีระดับโลก ด้วยความ มุ่งมั่นสนับสนุนศักยภาพคนไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลก และเสริมสร้างสังคมเข้มแข็งอย่างยั่งยืนด้วยพลังคนไทย

 

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ทั้ง 2 รางวัลความสำเร็จที่ได้รับครั้งนี้ เป็นของพนักงานทุกคนในกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ร่วมกันทําหน้าที่สานต่อเจตนารมณ์ช่วยเหลือสังคมตามวิสัยทัศน์ ของบริษัทฯ เพื่อส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งยั่งยืนครบทุกมิติ ผ่านกิจกรรม 3 ด้านหลัก คือ กีฬา ดนตรี และชุมชน โดยมุ่งหวังจะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทยอย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการคิง เพาเวอร์ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ที่เชื่อใน ‘พลังคนไทย’ และ‘พลังแห่งความเป็นไปได้’

นับเป็นครั้งแรก! ที่บริษัทในประเทศไทยได้รับรางวัลในเวทีระดับโลกอย่าง The International CSR Excellence Awards 2022 โดย The Green Organisation ประเทศสหราชอาณาจักร องค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อมระดับสากลที่ไม่ แสวงผลกําไร เริ่มดําเนินการมาตั้งแต่ปี 1994 เพื่อมอบรางวัลให้กับบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ สามารถคว้ารางวัลโครงการเพื่อสังคมยอดเยี่ยมในสาขา Community Commitment (การ อุทิศตนเพื่อชุมชน) จากโครงการคิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย

โครงการดังกล่าวทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้สนับสนุนศักยภาพของคนไทย โดยเน้นการเสริมสร้างความมั่นคงเข้มแข็งของรากฐานการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และ คุณภาพชีวิต ครอบคลุม 3 แกนหลัก คือ กีฬา ดนตรี และชุมชน เข้ามามีส่วนร่วมทั่วประเทศ

ปี 2565 มีผู้ได้รับรางวัลเพียง 31 โครงการ ใน 12 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย สาธารณรัฐเกาหลี ตุรเคีย อินเดีย สหราชอาณาจักร โปแลนด์ กาตาร์ มาเลเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา

นอกจาก คิง เพาเวอร์แล้ว ยังมีบริษัทชั้นนําอื่น ๆ ในต่างประเทศ ได้การยอมรับในฐานะองค์กรที่ให้ความสําคัญกับโครงการเพื่อสังคมเฉกเช่นเดียวกัน อาทิ โคคา-โคล่า, เชลล์, คาร์ลสเบิร์ก, ยูนิลีเวอร์ และเนสท์เล่ 

สำหรับรางวัล 3G Socially Responsible Business Award 2022 ในฐานะองค์กรที่ดําเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคม จากเวที Global Good Governance (3G) Awards 2022 จัดโดย Cambridge IFA International Financial Advisory บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินจากประเทศอังกฤษนั้น เป็นรางวัลเกียรติยศที่มอบให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน บริษัท หรือบุคคลในระดับนานาชาติ ที่ให้ความสําคัญด้านการกํากับดูแลกิจการที่ดี มีความมุ่งมั่นรับผิดชอบต่อสังคม มีนโยบาย และเป้าหมายส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง หรือริเริ่มโครงการต่างๆ ที่ยังประโยชน์ต่อส่วนรวมสอดคล้องกับความยั่งยืนในมิติต่าง ๆ โดยพิจารณาจากปัจจัย 5 แกนหลัก คือ ความโปร่งใส ความรับผิดชอบต่อสังคม ความยั่งยืน ผลที่ได้และด้านนวัตกรรม

 

ข่าวที่ 3 ช้อปออนไลน์+แอพKing Powerกับ BEAUTY DUOลด35%

 

ช้อปสนุกกับแคมเปญ BEAUTY DUO ของคิง เพาเวอร์ วันนี้-24 สิงหาคม 2565 เมื่อช้อปครบ 2 ชิ้นขึ้นไป ลดสูงสุด 35% โดยรับรหัสส่วนลดแล้วใช้ได้ที่ www.kingpower.com และ แอปพลิเคชัน KING POWER  สามารถช้อปครบ  โดยไม่ต้องมียอดขั้นต่ำในการสั่งซื้อ สั่งซื้อสินค้าที่ร่วมรายการในแคมเปญนี้เท่านั้น

 

ใช้สิทธิ์ร่วมดังนี้ 1.แบ่งชำระ 0% สูงสุด 10 เดือน เมื่อช้อปครบ 15,000 บาทสุทธิ 1ใบเสร็จ หรือนาน 6 เดือน เมื่อช้อปครบ 10,000 บาทสุทธิ/ใบเสร็จ ได้ถึง31 ธันวาคม 2565 หรือ 2.ลูกค้าต้องสมัครสมาชิกเว็บไซต์ kingpower.com และทำการล็อคอินก่อนการใช้รหัสส่วนลด 3.สมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ ทุกรายการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์สะสมคะแนนกะรัตได้

 

ข่าวที่ 4 ททท.+เกรทวอลล์มอเตอร์บูมขับรถพลังEVเที่ยวทั่วไทยลดคาร์บอน

 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ร่วมกับมร.หวาง ลี่ผิง อัครราชทูตพาณิชย์ประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เป็นประธาน การลงนามบันทึกข้อตกลง ระหว่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) “GWM” ทางด้านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partnership) ในการสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และยานยนต์พลังงานใหม่เพื่อการท่องเที่ยวในประเทศไทย เพิ่มความเชื่อมั่นการลงทุนและการขยายตลาดในไทยอย่างต่อเนื่อง และสะท้อนถึงการทำงานเชิงบูรณาการของภาครัฐกับเอกชนในที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาลและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

 

ประการสำคัญความร่วมมือครั้งนี้จะผลักดันไทยก้าวสู่การเป็นธรรมาภิบาลคาร์บอน ด้วยการจัดกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในการนำยานยนต์พลังงานใหม่มาใช้ประโยชน์ และต่อยอดทำประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ในภูมิภาคต่างๆ ตามโครงการ Unseen New Series ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นให้กับประเทศ  

 

 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.กล่าวว่า ททท.มีพันธมิตรทางด้านการส่งเสริมการตลาด ทำประชาสัมพันธ์ และการสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดการขยายฐานตลาดคุณภาพเพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่างยั่งยืนพร้อมทั้งผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวแบบสมดุล โดยเน้นเรื่องการลดละการสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ ที่เกิดจากกิจกรรมการท่องเที่ยว

 

สำหรับความร่วมมือกับทาง เกรท วอลล์ มอเตอร์ ครั้งนี้ เป็นโอกาสดีหลังการลงนามบันทึกข้อตกลง โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนให้คำปรึกษา วิเคราะห์ วางแผน และสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้วยยานยนต์พลังงานใหม่  โดยทั้งสองหน่วยงานพร้อมจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อขับเคลื่อนการเดินทางท่องเที่ยวสู่ธรรมาภิบาลคาร์บอนหรือการบริหารจัดการมลภาวะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้านการท่องเที่ยวได้อย่างสมบูรณ์ในอนาคตต่อไป  

 

สำหรับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้สนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือระดับและนวัตกรรมล้ำสมัยทั้ง All New HAVAL H6 Hybrid SUV และ All New HAVAL JOLION Hybrid SUV โครงการต่าง ๆ ของ ททท.อย่างต่อเนื่อง 4 ภาค เช่น  1. BCG Road Trip เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย สไตล์ภาคกลาง  2.YEC Green Road Trip เชื่อมความสัมพันธ์ภาคกลาง-ภาคตะวันออก 3.Green Road Trip ข้ามถิ่นแผ่นดินอีสาน 4.Green Road Trip ข้ามถิ่นหรอยแรงแหล่งใต้ 

 

รวมทั้ง  ททท.ยังได้ร่วมเป็นที่ปรึกษาในโครงการ “GWM Life Road Trooper ขับสนุกสุดใจเที่ยวไปให้สุดทาง ด้วย เพื่อสร้างการมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถยนต์พลังงานทางเลือกเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมพร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างแพร่หลายทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

 

ข่าวที่ 5 TCEB”ผุดThailand MICE Backบุกปลายปีโกยเงิน2.8หมื่นล้าน

 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEBเปิดเผยว่า ทีเส็บวางกลยุทธ์กระตุ้นตลาดด้วยโครงการ  “Thailand MICE Back” รุกสร้างความเชื่อมั่นนักเดินทางไมซ์ทั้งในและต่างประเทศ   ตามผลดำเนินงานไตรมาส 1-3 ระหว่างตุลาคม 2564 มิถุนายน 2565 ไมซ์ตลาดในและต่างประเทศสามารถสร้างรายได้แล้ว 16,344 ล้านบาท  จากจำนวนนักเดินทางรวมทั้งสิ้น 3,446,102 คน เส็บคาดการณ์ตลอดปีงบประมาณตั้งแต่ตุลาคม 2564 – กันยายน 2565 จะสร้างรายได้เป็นไปตามเป้าหมาย 28,400 ล้านบาท จำนวนนักเดินทางรวม 6,130,000 คน

 

ขณะนี้ได้เร่งบูรณาการความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เร่งกระตุ้นการจัดงานและกิจกรรมไมซ์ในประเทศ พร้อมกับดึงงานไมซ์ระดับโลกเข้ามาจัดในไทย ขับเคลื่อนแผนด้วย 4 กลยุทธ์ B-A-C-K  ประกอบด้วย

           

กลยุทธ์แรก เดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้อุตสาหกรรมไมซ์ เรียกว่ากลยุทธ์ B : Build Confidences & Trust เร่งส่งเสริมการสร้างมาตรฐานอุตสาหกรรมไมซ์ เจาะกลุ่มผู้ประกอบการไมซ์ ทั้งสถานที่จัดงานและผู้จัดงาน ได้แก่ มาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย (TMVS) มาตรฐานสถานที่จัดงานอาเซียน (AMVS) มาตรฐานการบริหารการจัดงานอย่างยั่งยืน (TSEMS) และการจัดงานไมซ์ที่ปลอดภัยด้วยแนวปฏิบัติด้านสุขอนามัยสำหรับอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE Hygiene Guidelines) แนวปฏิบัติการจัดประชุมและงานนิทรรศการที่เป็นมิตรกับมุสลิม (Practices for Muslim Friendly Meetings and Exhibitions)

 

และการพัฒนาด้านการใช้นวัตกรรมส่งเสริมธุรกิจไมซ์ ได้แก่ การใช้แอปพลิเคชัน BIZ Connect กับแพลตฟอร์มออนไลน์แบบครบวงจร 2 ช่องทางอย่าง Thai MICE Connect และ MICE Innovation Catalogue เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไมซ์นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้จัดงานอย่างมีประสิทธิภาพ

 

ล่าสุดทีเส็บในฐานะหน่วยงานหลักของรัฐที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ ได้รับการประกาศให้เป็น “องค์กรรับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ สาขาวิชาชีพการจัดประชุมนิทรรศการ” ด้วยการเพิ่มบทบาทเป็นศูนย์กลางการทดสอบฝีมือแรงงาน และให้การรับรองสมรรถนะการปฏิบัติงานตามมาตรฐานอาชีพของบุคลากรไมซ์ ซึ่งบุคลากรสามารถเข้ามาประเมินความรู้ ความเชี่ยวชาญ และทักษะด้านวิชาชีพไมซ์ตามหลักเกณฑ์การประเมิน โดยทีเส็บมีเป้าหมายยกระดับองค์กรสู่การเป็นหน่วยงานรับรองมาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพในระดับอาเซียนอีกด้วย

 

ขณะนี้ทีเส็บได้เตรียมแผนก้าวสู่การเป็นสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุม หรือ CVB- Convention and Visitors Bureau ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลในการรับรองสมรรถนะบุคคลในวิชาชีพ ISO 17024 รวมถึงการขับเคลื่อนด้านการพัฒนาและยกระดับความสามารถบุคคลากรไมซ์ในสายงานสาขาการจัดกิจกรรม (Event Professionals) เพื่อส่งเสริมสนับสนุน และเพิ่มความมั่นคงในอาชีพแก่บุคลากรด้านอีเวนต์ และบุคลากรด้านการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentive) ตามข้อตกลงร่วมว่าด้วยการยอมรับคุณสมบัติบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอาเซียน หรือ ASEAN Mutual Recognition Arrangement on Tourism Professionals: ASEAN MRA - TP

           

กลยุทธ์ที่ 2  แผนกระตุ้นการจัดงานไมซ์ในประเทศ หรือกลยุทธ์ A: Accelerate Dream MICE Activity) หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 2 เท่าของที่จ่ายจริง ซึ่งบริษัท องค์กร สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการจัดอบรมสัมมนา และการจัดนิทรรศการงานแสดงสินค้าภายในประเทศมาลดหย่อนภาษีได้ตามค่าใช้จ่ายจริงตั้งแต่ 15 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2565

 

ทีเส็บได้ใช้นโยบายดังกล่าวกระตุ้นให้บริษัทและองค์กรทั่วประเทศจัดไมซ์ในประเทศตลอดไตรมาสสุดท้ายปีนี้ โดยมีแพกเกจสนับสนุนงานทุกประเภท ได้แก่

 

1.แพกเกจจัดงานประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในประเทศ แพ็กเกจสำหรับงานประชุมวิชาการในประเทศ

 

2.แพ็กเกจจัดงานแสดงสินค้าภายในประเทศ ครอบคลุมทั้ง งานแสดงสินค้าใหม่ (New Show) งานแสดงสินค้าที่มีการยกระดับ (Upgrade Show) งานแสดงสินค้าระดับภูมิภาคโครงการ Empower Thailand Exhibition (EMTEX) งานแต่ละประเภทจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและเกณฑ์ที่กำหนดเพื่อใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า

 

กลยุทธ์ที่ 3 ส่งเสริมภาพลักษณ์และการสื่อสารอุตสาหกรรมไมซ์ หรือ กลยุทธ์ C: Communication and Inspire the World ตั้งเป้าสร้างการรับรู้อุตสาหกรรมไมซ์ผ่านแบรนด์ “THAILAND MICE” ทั้งการสื่อสารในและต่างประเทศ มุ่งเจาะตลาดจังหวัด 10 เมืองไมซ์ และภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลาง เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์อุตสาหกรรมไมซ์ไทยในเวทีโลก สอดรับกับแผนประชาสัมพันธ์แห่งชาติด้านต่างประเทศที่ขับเคลื่อนผ่านแนวคิด New Chapter of Thailand ก้าวใหม่ไทยในช่วงหลังโควิด

 

เปิดมิติใหม่ไมซ์ไทยในเวทีตลาดต่างประเทศภายใต้แบรนด์ “Thailand MICE: Meet the Magic” และสื่อสารในประเทศภายใต้แบรนด์ “ไมซ์ไทย มนต์เสน่ห์สู่ความสำเร็จ” การค้นพบมนต์เสน่ห์แห่งอุตสาหกรรมไมซ์ เน้นสื่อสารโอกาสทางธุรกิจใหม่ (New Opportunity) และนวัตกรรมใหม่ (New Innovation)  

 

การสื่อสารแบรนด์ไมซ์ของไทยทั้งหมดทีเส็บใช้วิธีบูรณาการสื่อทุกช่องทางแบบ 360 องศา มุ่งเน้นสื่อออนไลน์เข้าถึงพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายยุคนิวนอร์มัล และสื่อออฟไลน์ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อป้ายโฆษณากลางแจ้ง (Out of Home) รวมถึงผู้มีอิทธิพลทางความคิด หรือ KOLs (Key Opinion Leader) ร่วมสื่อสารถ่ายทอดประสบการณ์ไมซ์ เพื่อเข้าถึงจำนวนคนรับรู้ทั้งในและต่างประเทศ รวมกว่า 75 ล้านคน/ครั้ง

 

เดือนสิงหาคมนี้ทีเส็บเปิดตัวแล้วการสื่อสารไมซ์ในประเทศ “ไมซ์ไทย มนต์เสน่ห์สู่ความสำเร็จ” ผ่านภาพยนตร์โฆษณา  “Music Marketing” ภายใต้แนวคิด “วันนี้ห้องประชุมเปิดกว้างทั่วเมืองไทย” เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนร่วมออกมาจัดประชุม อบรม สัมมนาในที่ใหม่ ๆ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้พนักงานในองค์กร สร้างความสามัคคี นำพาองค์กรสู่ความสำเร็จ และเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมขับเคลื่อนและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยไปด้วยกัน มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายหลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน

 

กลยุทธ์ที่ 4  แผนดึงงานระดับโลกและการเพิ่มจำนวนงานไมซ์ต่างประเทศ หรือ กลยุทธ์ K : Kick off World Events Bidding นำประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการจัดงานระดับโลก เช่น งาน The International Conference on Family Planning 2022 (ICFP 2022) การประชุมวิชาการวางแผนครอบครัวนานาชาติ เพื่อหารือด้านสุขภาพอนามัย และการเจริญพันธุ์เพื่อคุณภาพชีวิตของประชากรโลก วันที่ 14 – 17 พฤศจิกายน 2565,  งาน 62nd ICCA Congress (ICCA Congress 2023) การประชุมสมาคมการประชุมนานาชาติ ครั้งที่ 62 วันที่ 12 – 15 พฤศจิกายน 2566, งาน Udon Thani International Horticultural Expo 2026 หรืองานมหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี  2569 วันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 – 14 มีนาคม 2570  งาน Thailand International Air Show จะประกาศตัวปี 2566 เพื่อเตรียมเปิดการจัดอย่างเป็นทางการปี 2568 แล้วจัดงานเต็มรูปแบบปี 2570

 

ไฮไลต์งานใหญ่ตอนนี้คือการประมูลสิทธิ์ ชิงเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โป 2028 ภูเก็ต ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 20 มีนาคม – 17 มิถุนายน 2571 และ งาน Nakhon Ratchasima International Horticultural Expo 2029 หรือ งานมหกรรมพืชสวนโลกนครราชสีมา พ.ศ. 2572 ระหว่าง 10 พฤศจิกายน 2572 – 28 กุมภาพันธ์ 2573

 

ข่าวที่ 6 บางจากชู6เทรนด์ปั๊มน้ำมันวันสต็อปเซอร์วิสรับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่

นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากได้ขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาสถานีบริการน้ำมันอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืนตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์หรือ Your Greenovative Destination for Intergeneration ปี 2565 วางแผนขยายทั่วประเทศ 80 สาขา  ด้วยจุดขายมีพื้นที่ขนาดใหญ่ ดีไซน์แปลกตา พร้อมกับนำนวัตกรรมมาผสมผสานให้ใช้งานได้สะดวกสบายได้อารมณ์การแวะเข้ามาพักผ่อนอย่างมีความสุขตามคอนเซ็ปต์ใหม่ Bangchak Unique Design แบ่งเป็น 6 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ 1  MODERN  ทันสมัย เรียบง่าย แต่พรีเมี่ยม เป็นวันสต็อปเซอร์วิส เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ แถบแหล่งที่พักอาศัย เน้นเลือกเปิดในทำเลเข้าถึงง่าย พื้นที่บริการครบเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งอาคารร้านค้า พื้นที่จอดรถ ห้องน้ำ และอื่น ๆ  

กลุ่มที่ 2 THAI INSPIRED ดีไซน์จากเอกลักษณ์ตามพื้นถิ่นแต่ละท้องที่ของแต่ละจังหวัด ถ่ายทอดผ่านรูปแบบสิ่งปลูกสร้างอย่างสวยงาม

กลุ่มที่ 3 WESTERN สถานีบริการน้ำมัแรงบันดาลใจดีไซน์แนวตะวันตก และแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังแถบยุโรปและอเมริกา โดยสร้างบรรยากาศให้ลูกค้ารู้สึกเสมือนได้เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ

กลุ่มที่ 4  EASTERN ได้นำรูปแบบอาคารประเทศแถบตะวันออกสวยงามที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรียบง่าย มาออกแบบโครงสร้างให้โดดเด่นโดนใจ

กลุ่มที่ 5  INNOVATION นำนวัตกรรมมาปรับใช้ออกแบบปั๊มน้ำมันย่านชุมชนเมืองใหญ่ จำเป็นต้องใช้พื้นที่และทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตอบโจทย์ทั้งเรื่องการใช้งานสะดวกสบาย คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง ซึ่งต้องการความสะดวก รวดเร็ว

กลุ่มที่ 6 FANTASY ได้สร้างสรรค์ความตื่นเต้น (Create Excitement) ด้วยการนำแนวคิดแบบเทพนิยายหรือ Futuristic มาใช้ออกแบบอาคารสร้างความแปลกใหม่ โดดเด่น สวยงาม ดึงดูดความสนใจทุกกลุ่มวัย อยากเข้ามาใช้บริการพักผ่อนควบคู่กันไปด้วย

ภายในปั๊มเทรนด์ Bangchak Unique Design ทั้ง 6 กลุ่ม จัดให้มีธุรกิจเสริมหรือ Nonoil Offering ตรงตามพฤติกรรมลูกค้ายุคใหม่ โดยจะมีทั้ง ร้านสะดวกซื้อ ร้านอินทนิล ร้านอาหารแบรนด์คาวหวาน เช่น Subway, Gateaux House, BBQ Plaza, Jone’s Salad ข้าวมันไก่ประตูน้ำ

และบริการคาร์แคร์ ส่งพัสดุ สถานีอัดประจุสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ซึ่งปัจจุบันบางจากมีเป็นสถานีบริการน้ำมันที่มี EV Quick Charging Station มากที่สุดในเมืองไทย

 

            ช่วงที่ 2 ชวนออกเดินทางเที่ยวใต้สบาย ๆ ปักหมุดจุดใหม่ที่ “บ้านบ่อแสน” อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา รอยต่อกระบี่ และมาเลเซีย สายมูชมประติมากรรม “วัดบางเหลียง” บนยอดเขา สายธรรมชาติ “เที่ยวน้ำตก” สายหวานตามไปเรียนรู้ “การทำลูกชด” พืชพื้นถิ่นออกลูกแค่ปีละครั้ง และสายศรัทธา รอเที่ยวเทศกาลถือศีลกินผัก เริ่ม 24 ก.ย.65 “แพทย์แนะเดินจงกลม” ช่วยสุขภาพแก้โรคเรื้อรังได้ และข่าวฮ็อต ข่าวแรก “การบินไทยไตรมาส2” รายได้โต282% แต่ค่าน้ำมันแพงทำขาดทุนเพิ่ม 39 % ข่าวที่สอง “ไทยเวียตเจ็ท” ปล่อยโปรบินปฐมฤกษ์ กรุงเทพฯ-ไทเป(ไต้หวัน) เหลือแค่ 3,499 บาท

 

ท่องเที่ยว-“พังงา”ชวนเช็คอินจุดใหม่บ้านบ่อแสนอ.ทับปุด“วัด-น้ำตก-ชุมชน

 

หรอยแรง แหล่งใต้ ชวนไปปักหมุดหยุดเที่ยวใต้ใหม่ ๆ ใน “อำเภอทับปุด” จังหวัดพังงา กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จากผืนป่าเขาว่างเปล่า ที่ผู้คนอพยพหนีสงครามมาตั้งถิ่นฐานโดยใช้ใบไม้มุงหลังคาตามภาษีพื้นเมืองเรียกว่าปุดซึ่งเป็นชื่อของที่ตั้งปัจจุบัน เป็นรอยต่อไปจังหวัดกระบี่ได้

 

ไฮไลต์แหล่งท่องเที่ยวที่จะชวนมาสัมผัสประสบการณ์ธรรมชาติ วิถีผู้คนอยู่ตรง “ตําบลบ่อแสน” อยู่มากว่า 200 ปี ครั้งอดีตผู้คนย้ายมาจากจังหวัดตรัง กับเมืองไทรบุรี มาเลเซีย เลือกปลูกสร้างบ้านเรือนติดชายฝั่งทะเล รอบบ่อน้ําที่หล่อเลี้ยงผู้คนนับแสนคนมาจนถึงทุกวันนี้

 สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำแบบโดน  ๆ ทั้งสายชีลชอบธรรมชาติกึ่งผจญภัย สายมูมีศรัทธาและความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และอยากใช้ชีวิตเรียบง่าย ลองเลือกปักหมุดเที่ยวตามนี้

           

เช็คอิน จุดที่ 1 “วัดบางเหรียง หรือวัดราษฎร์อุปถัมภ์” ตั้งอยู่บนยอดเขาล้าน ห่างจากที่ว่าการอำเภอทับปุดราว 11 กิโลเมตร ชวนกันไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ “พระมหาธาตุ เจดีย์พุทธธรรมบันลือ” เป็นรูประฆังคว่ำ ยอดพระเจดีย์หุ้มด้วยทองคำ  เป็นเหมือนอุทยานประติมากรรมกลางแจ้ง ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพุทธปฏิมากรรมขนาดใหญ่สวยงาม  

 

ภายในจะได้ชมจิตรกรรมฝาผนัง รอบนอก พระพุทธรูปปางสมาธิขนาดเล็กประดิษฐานอยู่โดยรอบ ทั้งสี่ทิศมีพระพุทธรูปประจำทิศ   โบสถ์และวิหารของวัดสร้างสวยงามแปลกตา โดดเด่นด้วยพระโพธิสัตว์กวนอิม พระร่วง 3 พี่น้องประทับยืนอยู่ที่ซุ้มเรือนแก้ว และพระพุทธอัฐิมงคลชัยนาคปรก สร้างไว้คุ้มภัยอันตราย แต่ละปีช่วงวันมาฆบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3  พุทศาสนิกชน.oพังงา และจังหวัดใกล้เคียจะมาทำบุญนำผ้ามาห่มพระมหาธาตุเจดีย์ อนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันนี้ของท้องถิ่นไว้อย่างเข้มแข็ง

 

เช็คอินจุดที่ 2   น้ำตกเต่าทอง  เที่ยวธรรมชาติห่างจากตัวเมืองพังงา 19-20 กม. ตัวน้ำตกไหลออกมาจากถ้ำภูเขาร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ มีสายธารน้ำกว้างและแก่งหินน้อยใหญ่ให้ลงเล่นน้ำได้  ถัดจากน้ำตกไปมีสะพานแขวนขนาดกลางพาดข้ามลำธารเป็นจุดชมวิวและถ่ายภาพสวย ๆ

 

เช็คอินจุดที่ 3 ศูนย์การเรียนรู้บ้านคลองบ่อแสน เป็นแหล่งแปรรูปทำสืบต่อกันมากว่า 25 ปีนำผลิตภัณฑ์พืชพื้นถิ่นลูกชกและน้ำตาลชกซึ่งออกปีละครั้งเดียวลูก คนในชุมชนอธิบายว่ามีชื่อเรียกว่าต้นเหนา ลูกเหนา หรือลูกชก ที่นำมาทำเป็นน้ำตาลเหนา หรือ น้ำตาลแว่น

 

เช็คอินจุดที่ 4 สายศรัทธา รอเที่ยว “เทศกาลถือศีลกินผัก” ปีนี้ ททท.พังงา เชิญชวนมาเที่ยวได้ตั้งแต่ 24 กันยายน - 3 ตุลาคม 2565 สามารถรับฟรี Gift Voucher มูลค่า 500 บาท นำไปใช้เป็นส่วนลดค่าห้องพักในพังงาที่เข้าร่วมโครงการ มาก่อนรับก่อนคูปองมีจำนวนจำกัด สอบถามได้ที่โทร. 089-6520680

 

            ก่อนเดินทางท่องเที่ยว เช็คข้อมูลให้ชัวร์ได้ที่ ททท.สนง.พังงา โทร. 076-413400

 

สุขภาพ -แพทย์แนะ"เดินจงกลม"สมาธิแถมช่วยฟื้นสุขภาพพิชิตโรคเรื้อรัง

           

วงการแพทย์เมืองไทยแนะนำให้คนหันมาใช้วิธีธรรมชาติบำบัด การ “เดินจงกลม” สามารถช่วยฟื้นฟูสุขภาพกาย ใจ พิชิตโรคเรื้อรังได้ดังนี้

 

1. ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะในบริเวณกล้ามเนื้อขา เข่า และสะโพก ทำให้เดินได้นานขึ้น อึดขึ้น มีพลังกายมากขึ้น

 

2.  ช่วยกระตุ้นระบบประสาทและการไหลเวียนโลหิต ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตลดลง และช่วยกระตุ้นอินซูลินเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด จึงส่งผลดีกับผู้ป่วยกลุ่มโรค NCDs เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ

 

3.  ช่วยฟื้นฟูระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย เพราะการเดินด้วยร่างกายที่ตั้งตรง จะช่วยกระตุ้นกลไกการบีบไล่อาหารและลำเลียงของเสีย ส่งผลให้ระบบการย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น

 

4.  ช่วยในการบำบัดรักษาและบรรเทาอาการของผู้ที่มีภาวะเสื่อมถอยของมวลกล้ามเนื้อ กระดูก หรือข้อต่อ เช่น อาการข้อเข่าเสื่อม พาร์กินสัน ภาวะกล้ามเนื้อลีบ กระดูกพรุน ฯลฯ

 

5.  ทำให้จิตใจสงบ มีสมาธิ แจ่มใส และมีพลังมากขึ้น ช่วยลดการหลั่งของฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) จึงช่วยบรรเทาความเครียด ภาวะวิตกกังวล และโรคซึมเศร้าได้

 

6.  ช่วยในการนอนหลับ โดยเฉพาะการเดินจงกรมก่อนเข้านอน จะช่วยให้กล้ามเนื้อและสมองเกิดความผ่อนคลายทำให้นอนหลับได้ง่ายและหลับสนิทยิ่งขึ้น

 

ผู้ที่อยู่บ้านชอบแล้วนั่งสมาธิหรือสวดมนต์เป็นประจำ ก็ลองสลับมาเดินจงกรมกันดูบ้า ช่วยให้จิตใจสงบเป็นสมาธิแล้ว ยังช่วยสุขภาพกายได้ด้วย เริ่มจากเดินวันละ 20-30 นาที แล้วค่อยๆ ปรับให้นานขึ้นก็ได้

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –การบินไทยQ2ปี65รายได้โต282%น้ำมันแพงทำขาดทุนพุ่ง39%

 

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า การดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2565 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวรวม 21,526 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 282 % จากปี 2564 ทำไว้ 5,635 ล้านบาท เป็นรายได้จากการขนส่ง 19,803 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 619.3% และมีปริมาณการผลิตและการขนส่งเพิ่มต่อเนื่อง แต่บริษัทฯ และบริษัทย่อยยังคงขาดทุนสุทธิ 3,213 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปีก่อนมีกำไรสุทธิ 23,326 ล้านบาท ไตรมาส 2 ปี 2564 ทำรายได้จากรายการเกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิ 27,100 ล้านบาท

 

ส่วน “ค่าใช้จ่าย” ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวรวม 22,825 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 126.3% จากค่าใช้จ่ายแปรผันตามปริมาณการผลิตและ/หรือปริมาณการขนส่งเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ 1.ค่าน้ำมันเครื่องบินราคาเพิ่มสูงขึ้นกว่าปีก่อน 104.1% รวม 8,946 ล้านบาท คิดเป็น 39.2%  และ 2.ค่าจ้างบุคลากรลดลงจากการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการและการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง

 

ทำให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยขาดทุนก่อนต้นทุนทางการเงินไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 1,299 ล้านบาท ซึ่งลดลงมากจากปีก่อนซึ่งขาดทุนถึง 4,449 ล้านบาท 

 

ขณะที่ มีกำไรหรือ EBIDA ก่อนหักต้นทุนทางการเงิน ภาษี และค่าเสื่อม หลังหักค่าเช่าเครื่องบิน มีกำไร 168 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ปี 2565 เปรียบเทียบกับปีก่อนขาดทุน 9,212 ล้านบาท ไตรมาสแรกหลังเข้าแผนฟื้นฟูมี EBITDA หลังหักค่าเช่าเป็นบวก

           

ไตรมาสที่ 2 ปี 2565 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีต้นทุนทางการเงิน 3,102 ล้านบาท มีรายได้สุทธิจากรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวรวม 1,982 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจาก 1.กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ 2.ปรับโครงสร้างองค์กร และโครงสร้างค่าตอบแทนบุคลากร 3.กำไรจากการขายเงินลงทุนและทรัพย์สิน ถึงแม้จะมีผลขาดทุนจากด้อยค่าของสินทรัพย์ และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

 

โดยภาพรวมอุตสาหกรรมการบินจากการทยอยผ่อนคลาย ยกเลิกมาตรการควบคุมและจำกัดการเดินทางของประเทศต่างๆ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปี 2564 เป็นต้นมาเป็นปัจจัยสำคัญให้รายได้จากกิจกรรมขนส่งของบริษัทฯ เติบโตต่อเนื่อง และผลดำเนินงานปรับตัวดีขึ้น  แล้วตลอดไตรมาสที่ 2 ปี 2565 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีผลดำเนินงานดังนี้

 

1.ปริมาณการผลิตผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้น 366.6% ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้นถึง 1,766.9%

 

2.อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 60.3% สูงกว่าปีก่อนเฉลี่ย 15.1%

 

3.จำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 2.01 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 570%

 

4.ปริมาณการผลิตด้านการขนส่งสินค้า หรือคาร์โก้และไปรษณียภัณฑ์ (ADTK) สูงกว่าปีก่อน 384.4% ปริมาณการขนส่งสินค้า (RFTK) สูงกว่าปีก่อน 241.5% อัตราส่วนการขนส่งสินค้า (Freight Load Factor) เฉลี่ย 69.0%

 

สถานการณ์เดือนกรกฎาคม 2565 จากแนวโน้มปริมาณการเดินทางและขนส่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลด้าน “การขนส่งผู้โดยสาร” อัตราบรรทุก (Cabin Factor) เฉลี่ยสูงขึ้นเป็น 77.7% ทำให้มีรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าของบริษัทฯ และบริษัทย่อยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 10,000 ล้านบาท โดยทำสถิติขนส่งผู้โดยสารกว่า 30% ของจำนวนคนเข้า-ออกไทยทั้งหมด

 

ส่งผลให้สิ้นสุดงวดครึ่งปีแรก 2565 บริษัทฯ และบริษัทย่อย เงินสดคงเหลือเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่13,474 ล้านบาท จากเมื่อปลายปี 2564 มีเพียง 5,515 ล้านบาท

 

ข่าวที่สอง -ไทยเวียตเจ็ทเทโปรบินไทเป3,499 บาท+ขายSIMโทรทั่วโลก399บาท

 

นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยเวียตเจ็ท เปิดเผยว่า ได้เปิดบินปฐมฤกษ์เส้นทางบินใหม่ระหว่างประเทศ ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ไทเป จาก สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ สู่สนามบินนานาชาติเถาหยวน  ระยะแรกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 1 เที่ยว/สัปดาห์ ทุกวันพฤหัสบดี ใช้เวลาบิน 3 ชั่วโมง 45 นาที ตอบโจทย์ตลาดการท่องเที่ยวฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว ไทยเวียตเจ็ทเร่งเดินหน้าขยายเครือข่ายบินเต็มที่ด้วยจุดหมายปลายทางทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก  ในราคาตั๋วโดยสารเข้าถึงได้ พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด

 

            สายการบินไทยเวียตเจ็ทฉลองเปิดเส้นทางบิน กรุงเทพฯ-ไทเป ด้วยโปรโมชั่นพิเศษ Deluxe Super Sale เปิดให้จองระหว่าง 25 - 31 สิงหาคม 2565 แล้วนำไปใช้เดินทางได้ตั้งแต่ 15 กันยายน 2565 - 25 มีนาคม 2566 เป้นตั๋วบินแบบดีลักซ์ ราคาเริ่มต้นเพียง 3,499 บาท (รวมภาษีและค่าธรรมเนียม) ฟรีรวมน้ำหนักสัมภาระ 20 กิโลกรัม สิทธิในการเลือกที่นั่งฟรี บริการเช็คอินช่องทางพิเศษ ฟรีสิทธิเปลี่ยนเที่ยวบินไม่จำกัดจำนวนครั้ง

 

พร้อมทั้งจับมือกับ AIS 5G ผู้นำด้าน Digital Life Service Provider ที่มีคลื่นความถี่ให้บริการมากที่สุด   มอบซิมการ์ด SIM2Fly 5G แพ็กเอเชียและออสเตรเลีย ซิมโรมมิ่งสัญญาณดีที่สุด มูลค่า 399 บาท แก่ผู้โดยสารบนเที่ยวบินปฐมฤกษ์ กรุงเทพฯ - ไทเป และซิมการ์ด SIM2Fly 5G แพ็กเอเชียและออสเตรเลีย สามารถใช้งาน 5G ครอบคลุม15 ประเทศ   สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้  6GB เป็นเวลา 10 วัน พร้อมทั้งสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตในไทย 500 MB ได้ด้วย

            ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai