“TCEB”ชิงไมซ์บิ๊กไซซ์ทั่วโลกหอบเงินจัดในไทยเพียบ ก.ย.-ธ.ค.65 ชงศบค.ก.ย.นี้ปลดล็อกครั้งใหญ่ภาษีงานINTER ARTโกยเศรษฐีโลก
“TCEB”ชิงไมซ์บิ๊กไซซ์ทั่วโลกหอบเงินจัดในไทยเพียบ ก.ย.-ธ.ค.65
ชงศบค.ก.ย.นี้ปลดล็อกครั้งใหญ่ภาษีงานINTER ARTโกยเศรษฐีโลก
เร่งอัดฉีดงบในประเทศต.ค.65เพิ่มเอ็กซิบิชั่นกระจายจัด10ไมซ์ซิตี้
ไมซ์ไทยแรงไม่หยุด “TCEB” เปิดแนวรุกเต็มรูปแบบ เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ทะลักเข้าไทย ก.ย.-ธ.ค.นี้ 8 งาน ทั้งงานอาวุธ สุขภาพ อาหาร เดินหน้าลุย “ศบค.” ก.ย.65 ชงปลดล็อก “ภาษีไมซ์ระหว่างประเทศ” ทำฟรีโซน International Art Exhibition & Trade Fair เพิ่มฐานตลาดไฮเอนด์ ดึงศิลปิน นักสะสมศิลปะโลก ใช้เงินมหาศาลกว่า 20 %ของเอ็กซิบิชั่น ส่วนในประเทศลั่นกลองบุกประชุมเมืองไทย พร้อมหางานเอ็กซิบิชั่นกระจายจัดเพิ่มใน 10 ไมซ์ ซิตี้
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ระหว่างเดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 มีงานต่างประเทศเข้ามาเพิ่มเป็นจำนวนมากหลังรัฐบาลยกเลิกมาตรการ Test & Go ไม่ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทำให้ตลาดคอนเว็นชั่นการประชุมระดับโลกเริ่มเข้าไทย ส่วนงานแสดงสินค้านานาชาติหรือ Exhibition มีต่อเนื่องมาตลอด ล่าสุดเพิ่งจะเปิดโครงการ “Thailand MICE BACK” ต้องการสื่อสารกับทุกคนถึงว่าไมซ์ของประเทศไทยกลับมาแล้วทั้งตลาดในและต่างประเทศทั่วโลก ตัวอย่างงานใหญ่
งานแรก Defense & Security 2022 มีคนเข้าร่วม 12,800 คน จัดระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม – 1 กันยายน 2565 ที่ศูนย์ประชุมอิมแพค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ
งานที่ 2 Healthy Living and Innovation Expo 2022 มีคนเข้าร่วม 10,000 คน จัดระหว่างวันที่ 8-11 กันยายน 2565 ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี อำเภอหาดใหญ่ อยู่ในความมหาวิทยาลัยจังหวัดสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา
งานที่ 3 korat FooDEx ลักษณะคล้ายไทยฟู้ด มีคนเข้าร่วม 40,500 คน จัดระหว่างวันที่ 14-18 กันยายน 2565 ที่จังหวัดนครราชสีมา
งานที่ 4 Food Ingredients Asia 2022 มีคนเข้าร่วม 12,865 คน จัดระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคม 2565 ที่กรุงเทพฯ
งานที่ 5 “The International Conference on Family Planning 2022 :ICFP 2022
ระหว่างวันที่ 14-17 พฤศจิกายน 2565 เลือกจัดที่ศูนย์ประชุม
PEACH โรงแรมรอยัลคลิฟฟ์ พัทยา จังหวัดชลบุรี
จะมีผู้เข้าร่วมจากทั่วโลกกว่า 5,000 คน คาดจะสร้างรายได้ 315 ล้านบาท เป็นงานประชุมวิชาการวางแผนครอบครัวนานาชาติ
เพื่อหารือด้านสุขภาพอนามัย การเจริญพันธุ์เพื่อคุณภาพชีวิตของประชากรโลก
งานที่ 6 The Bangkok Art Biennale มีคนเข้าร่วม 1,000,000 คน จัดระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม 2565 -23 กุมภาพันธ์ 2566 ที่กรุงเทพฯ
งานที่ 7 Travel Blog Asia 2022 :TBEX Asia 2022 มีคนเข้าร่วม 400 คน จัดระหว่างวันที่ 15-18 พฤศจิกายน 2565 ที่จังหวัดภูเก็ต
งานที่ 8 L’Etape Phitsanulok by Tour de France 2022 มีคนเข้าร่วม 1,500 คน จัดระหว่างวันที่ 2-4 ธันวาคม 2565 ที่จังหวัดพิษณุโลก
นายจิรุตถ์กล่าวว่าขณะนี้ทีเส็บให้น้ำหนักความสำคัญด้าน “มาตรการภาษี” ที่รัฐบาลให้การสนับสนุนผู้ประกอบการไทยจัดงานไมซ์อย่างเต็มที่
ประกอบด้วย
มาตรการที่
1 การลดหย่อนภาษี โดยผู้ประกอบการ หรือจัดงานไมซ์
สามารถนำค่าใช้จ่ายมาขอคืนภาษีปี 2565 ได้ ตามมติคณะรัฐมนตรี
(ครม.) อนุมัติให้ตั้งแต่ 15 กรกฎาคม -31 ธันวาคม 2565 ประกอบด้วย
ส่วนแรก
การจัดประชุม/สัมมนา ภายในประเทศ ของ บริษัท ห้างร้าน การจัดกิจกรรมประชุม
งานกลางแจ้ง รวมงานวิชาการ ค่าเดินทาง ขนส่ง ตั๋วโดยสารเครื่องบิน ห้องพักโรงแรม
อาหาร และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยจะได้ลดภาษีดังนี้หากเลือกจัดในเมืองหลักลดได้ 1.5 เท่า จัดในเมืองรอง 55 จังหวัด
ลดได้ 2 เท่า
ส่วนที่สอง จัดงานแสดงนิทรรศการสินค้าหรือเอ็กซิบิชั่นในประเทศ สามารถนำค่าเช่าพื้นที่เปิดบูธ จัดงานเลี้ยงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานทั้งหมด นำมาแสดงเพื่อขอลดภาษีได้ 2 เท่า
มาตรการที่ 2 เสนอปลดล็อกภาษีการจัดงานระหว่างประเทศ” ทั้ง การจัดนิทรรศการและแสดงสินค้า :International Exhibition และการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Incentive) ขณะนี้ทีเส็บเตรียมเสนอที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และรัฐบาล ภายในเดือนกันยายน 2565 เพื่อพิจารณาภาษีการจัดงานเอ็กซิบิชั่นซึ่งเกี่ยวข้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เน้นงานเกี่ยวข้องโดยตรงกับไมซ์ โดยเฉพาะงานแสดงศิลปะและการซื้อขายหรือ International Art Exhibition and Trade Fair รายการสำคัญของโลกที่มีหน่วยงานรับรองอย่างเป็นทางการ เพื่อนำเข้ามาจัดในประเทศไทย ซึ่งมีมูลค่าตลาดจำนวนการจัดงานมากกว่า 20 % ของเมกะอีเวนต์ และอีก 20 % เป็นงานศิลปะของเหล่าแฟนเบสต์ทั่วโลก
ตัวอย่าง
การจัดงานแสดงศิลปะหรือ Soft Power ทีเส็บกำลังทำเรื่องเสนอ
ศบค.ยกเลิกเก็บภาษีงาน Art Fair เพราะปัจจุบันคนไทยมีฝีมือด้านการศิลปะ
หรือศิลปินจากทั่วโลกที่สนใจจะเข้ามาซื้องานในไทย
ตามกฎหมายขณะนี้ต้องเสียภาษีสูงถึง 30 % เพื่อประโยชน์ที่จะสร้างรายได้เข้าประเทศมากกว่าภาษี
หากนำงานนิทรรศการศิลปะนานาชาติมาจัดในไทย
พร้อมกับเปิดโดยแต่ละงานกำหนดให้เกิดการซื้อขายสินค้าได้โดยไม่ต้องจ่ายภาษีดังกล่าว
ก็จะทำให้มีเม็ดเงินหลั่งไหลเข้าประเทศได้มหาศาล
องค์ประกอบหลักตามกฎหมายไทยปัจจุบัน
คือหากมีการซื้อขายงานทางด้านศิลปะขึ้นในไทยจะต้องจ่ายภาษีสูงถึง 30 % อุปสรรคเรื่องภาษีส่งผลทำให้ที่ผ่านมาจึงไม่มีผู้สนใจนำงานแฟร์ศิลปะมาในเมืองไทย
การเสนอปลดล็อกครั้งนี้ไม่ได้หมายรวมถึงการยกเว้นภาษีงานศิลปะทั้งหมด
แต่จะขอยกเว้นเฉพาะงาน Art Fair รายการสำคัญ ๆ เท่านั้น
ตอนนี้รัฐบาลไทยสนับสนุนอยู่แล้วคือ
งานที่นำศิลปะมาโชว์ตามอาคาร สถานที่ หรือศูนย์ประชุมนานาชาติ สามารถใช้ A.T.A.
Cenet ของศุลกากรของไทยอนุญาตให้นำเข้าหรือนำออกสินค้าที่มาสาธิตในงานนิทรรศการหรือแสดงสินค้า
จัดประชุม หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นเขตปลอดภาษีนั่นเอง
ส่วนทีเส็บต้องการนำเสนอกรณีหากเกิดการซื้อขายสินค้าที่นำมาจัดนิทรรศการแสดงได้รับการปลดล็อก
ก็จะเป็นแม่เหล็กดึงงานศิลปะขนาดใหญ่ของโลกซึ่งขณะนี้มีหลายงานต้องการมาจัดในเมืองไทย
หากทำได้ก็จะเกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจอย่างมาก 1.เพิ่มตลาดคุณภาพระดับไฮเอนด์ มีการใช้จ่ายเงินสูงจากต่างทั่วโลกเดินทางเข้ามาชมงานศิลปะ
ไม่ว่าจะเป็น ศิลปิน นักธุรกิจ นักสะสม 2.ทำให้ไทยพัฒนาเป็นศูนย์กลางธุรกิจ
Art and Trade Fair ได้อย่างมีศักยภาพ
ขณะนี้ในเอเชียหลายประเทศเปิดให้งานจัดแสดงนิทรรศการและการซื้อขายศิลปะนานาชาติเป็นงานปลอดภาษีหรือ
Free Zone อย่างในฮ่องกง เกาหลี และสาธารณรัฐประชาชนจีน
แต่ละปีมีเม็ดเงินหลั่งไหลเข้าไปเป็นจำนวนมาก
ในประเทศไทยก็เคยจัดงาน
Bangkok Art Biennale ซึ่งจัดต่อเนื่องระยะยาวหลายเดือน
มีผู้คนเข้าชมงานรวมหลักล้านคน หากไทยสามารถจัดนิทรรศการแล้วขายงานศิลปะได้ด้วย
ก็จะทำให้ศิลปินไทยผู้มีชื่อเสียงไม่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ
นายจิรุตถ์
กล่าวว่า ไทยยังมีโอกาสอีกหลายเรื่องที่จะเป็นศูนย์กลางจัดไมซ์รายการสำคัญระดับโลก
เช่น งานนิทรรรศการและจัดแสดงยอร์ช ผู้ร่วมงานส่วนใหญ่เป็นกลุ่มไฮเอนด์
นิยมเดินทางมาไทย หากจัดงานเหล่านี้ได้มากขึ้น
จะเป็นประโยชน์ภาพใหญ่ส่งเสริมและผลักดันให้ไทยเป็นประเทศศูนย์กลางการจัดงานเมกะอีเวนต์
สร้างโอกาสให้กับประเทศต่อไปในอนาคต
มาตรการที่ 3 ทีเส็บรุกสนับสนุนเงินจัดไมซ์ในประเทศ ต้อนรับการเริ่มต้นปีงบประมาณ 2565 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 จะเดินหน้าต่อยอดสนับสนุน
2 ส่วนหลัก ประกอบด้วย
ส่วนแรก ต่อยอดโครงการ
“ประชุมเมืองไทย”
โดยก่อนหน้านี้ใช้งบส่วนหนึ่งทำแล้วซีรีย์แรก “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า”
อุดหนุนผู้จัดการประชุม สัมมนา เต็มวัน 15,000 บาท/งาน จัดประชุม 2 วัน 1 คืน
อุดหนุนด 30,000 บาท/งาน
ได้เรียนรู้โมเดลดังกล่าวเพื่อแก้ไขอุปสรรคต่าง ๆ ใหม่ ได้ทำระบบเตรียมไว้แล้ว
เน้นถูกต้อง สะดวก ง่าย รวดเร็วมากขึ้น จะเริ่มหลังเดือนตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
ส่วนที่สอง กระจายการจัดงานเอ็กซิบิชั่นไปยังจังหวัดต่าง ๆ ใน 10 ไมซ์ ซิตี้ เช่น ขอนแก่น เชียงใหม่ จะต้องหางานไปเติมเต็มในพื้นที่ให้ได้
หรืออย่างการสนับสนุนศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ปรับโฉมใหม่ พื้นที่จัดงานรวม 300,000 ตารางเมตร ขนาดใหญ่กว่าเดิม 5 เท่า กำหนดจะเปิดอย่างเป็นทางการ 12 กันยายน
2565 เป็นต้นไป โดยเน้นการยกระดับเป็นศูนย์ประชุมยั่งยืน
ด้วยวิธีจัดงานโดยคำนวณ “คาร์บอน ฟุตปริ๊นท์”
ปริมาณการปล่อยและดูดกับก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยจากแต่ละการจัดงานไมซ์
ขณะนี้ทางศูนย์สิริกิติ์ยืนยันมียอดจัดงานค่อนข้างเต็ม
ทางทีเส็บร่วมมือด้วยทางด้านวิชาการและสถานที่จัดประชุม “สุดยอดผู้นำเอเปค 2022” ระหว่างวันที่ 13-18
พฤศจิกายน 2565
จุดขายใหม่พุ่งเป้าการรักษาสิ่งแวดล้อมขานรับเทรนด์โลกถือเป็นเรื่องดีต่ออุตสาหกรรมไมซ์ของไทย
ซึ่งทีเส็บพร้อมสนับสนุนศูนย์ประชุมทุกแห่งในเมืองไทยอย่างเท่าเทียมกัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น